หก ตอนที่ 6 เม่ือนางอั้วเค่ียมเสด็จเข้ามาในพระราชวังแล้ว พบพระมารดาประทับ นง่ั คอยนางอยู่ “คำ่ มดื ขนาดนี้ เจา้ ออกไปไหนมา” พระมารดาตรสั ถามก่อนทนี่ างอั้วเคย่ี มจะหลบพระพกั ตร์ “ว่าอย่างไรล่ะ เป็นสาวเป็นนางอย่างนี้ แอบหลบไปพลอดรักกับชาย หนุม่ คิดวา่ สมควรแลว้ หรอื ” นางอัว้ เค่ยี มทรงหันมาทันที แววพระเนตรปวดรา้ ว “แลว้ ทเี สด็จแม่ทรงยกลกู ใหข้ ุนลางโดยไม่ตรัสถามสกั คำน้ี สมควรหรือ เพคะ” “เจา้ ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรือ่ ง!” พระมารดาตรัสเสยี งดงั แลว้ ทรงกา้ วเขา้ มาหา “เจ้าแอบไปพบขูลูมาใช่ไหม ทำไมเจ้าถึงดื้อรั้นนัก แม่ไม่เห็นมันจะมี อะไรดกี วา่ ขุนลางสกั อย่าง”
52 ตำนานขลู กู ับนางอวั้ องค์หญิงทรงฟงั แล้วสรวลประชด “ขุนลางน่ะเหรอดี เสด็จแม่ระวังไว้เถิด เพราะเสด็จแม่ทรงมองคนผิด แผ่นดนิ กายนครจะนองเลอื ด!” พระมารดากรวิ้ จนรอ้ นเปน็ ไฟ “เจ้าบังอาจสั่งสอนแม่หรือ! ขุนลางเขามีแต่จะมาช่วยปกป้องเมืองเรา ความวุ่นวายจะเกิดข้ึนเพราะเจ้าเองทั้งนั้น ดีแล้ว แม่จะไม่ปล่อยให้เจ้ากล้า โตเ้ ถยี งอีก แมจ่ ะจดั งานอภิเษกสมรสใหเ้ จา้ กบั ขุนลางเสยี พรงุ่ นีเ้ ลย!” องค์หญงิ ตกพระทัย ไม่คิดวา่ พระมารดาจะตรัสเช่นน้ี พระมารดาแย้มพระสรวลเยาะที่กำราบให้องค์หญิงเงียบได้ จากน้ันจึง กลับเขา้ ห้องบรรทมไป นางอวั้ เค่ยี มนั่งลงกรรแสง หมดเรี่ยวแรงจะคดิ หาทางใด นางสรุ ีเหน็ พระราชนิ จี ากไปแลว้ จึงเข้ามาปลอบโยนองค์หญิง “องค์หญิง ใชส้ ตคิ อ่ ยๆคดิ หาทางนะเพคะ” นางอ้ัวเคี่ยมพยายามคิดหาหนทางต่างๆ แต่ก็จนปัญญา นางอยากจะ หลบหนีเสด็จแม่และขุนลางไปหาท้าวขูลู แต่เม่ือนึกถึงคำพูดของขุนลางก็ หวาดหว่ัน เพราะแม้เมืองกาสีจะมีกองทัพเข้มแข็งแต่คงไม่อาจสู้กองกำลังของ เมืองขนุ ลางซ่ึงมบี รรดาเมืองข้ึนมากมายเปน็ กองกำลังเสรมิ ได้ มิหนำซ้ำขณะนี้เสด็จพ่อทรงยกทัพออกไปต้ังรบกับเมืองท่ีบุกเข้ามา ใกล้กายนคร นางจึงหมดที่พึ่งพิงและย่ิงกลัวว่าหากขุนลางยกทัพมาตีกายนคร ด้วยจริง เสด็จพ่อจะต้องเผชิญกับศึกสองด้าน กำลังทหารของเสด็จพ่อคงไม่ อาจตา้ นทานไวไ้ ด้ ย่ิงองค์หญิงคิดถึงชีวิตชาวเมืองกายนครและกาสีที่จะต้องมาตายโดย ไมร่ อู้ โิ หนอ่ เิ หน่ดว้ ย ก็ยิ่งอบั จนหนทาง
ตอนที่ 6 53 แตไ่ ม่ว่าอย่างไร เรอื่ งจะใหน้ างอภเิ ษกสมรสกบั ขุนลางนั้นไมม่ ที าง! เวลาเหลือน้อยลงทุกที…หรือจากพรุ่งนี้ไปนางจะต้องทุกข์ทรมาน ช่ัวชีวิต องค์หญงิ คิดแลว้ ตดั สินใจกระทำส่ิงทีเ่ ป็นทางออกสุดท้าย… นางรอให้นางสุรีหลับไปแล้วจึงเสด็จออกจากพระราชวังในคืนที่ฟ้า มดื มดิ ไร้แสงจนั ทร ์ องค์หญิงเสด็จกลับท่ีปราสาทหินอีกคร้ังเพ่ือกราบพระปฏิมาเป็นครั้ง สดุ ทา้ ย คราวนนี้ างไมอ่ ธษิ ฐานขอสง่ิ ใดนอกจากขอใหพ้ ระปฏมิ าและสง่ิ ศกั ดสิ์ ทิ ธิ์ ทงั้ หลายอภยั ในสิง่ ท่ีนางจะกระทำ นางเดินมาใต้ต้นจวงท่ีเคยนั่งนับดาวเคียงข้างองค์ชาย เวลาที่สวยงาม อยา่ งนน้ั คงไม่กลบั มาอกี แลว้ นางรำพึงทั้งนำ้ ตา “ชวี ติ ทไ่ี มอ่ าจกำหนดเองไดเ้ หมอื นตายแลว้ ครงึ่ หนงึ่ ลมหายใจทไ่ี มอ่ าจ รับใชว้ ญิ ญาณจะมีคา่ ควรรกั ษาอนั ใด” กอ่ นจะจากโลกนไ้ี ป นางอ้ัวเค่ยี มรำพนั ถึงบญุ คณุ พระบิดามารดร “ลูกซาบซ้ึงในบุญคุณท่ีเสด็จพ่อ เสด็จแม่ได้เล้ียงลูกมา บัดนี้ลูกขอลา สงิ่ ทล่ี กู ทำผดิ ไปขอใหพ้ วกทา่ นอโหสกิ รรมให้ เวรกรรมตา่ งๆ ขอใหจ้ บไปในชาตนิ ้ี อย่าไดม้ บี าปตดิ ตามไปชาตอิ นื่ อกี เลย” ข้าขอ สมมาให ้ อาวอาแนวพอ่ อย่าได้ มบี าปตอ้ ง เถงิ ขา้ ต่อไป แดทอ่ น ข้าจัก สมมาให้ แนวนามเป็นแม ่ นมเจา้ หวานดั่งนำ้ อ้อย ตัวขอ้ ยจึงใหญ่มา แม่เอย อย่าได้ มีเวรข้อง เถงิ ตนหลายชาติ ขอให้ พน้ ชาติน้ี เวรขอ้ งขอดหนี แดทอ่ น ฯลฯ
54 ตำนานขูลกู บั นางอั้ว แล้วความทุกข์เศร้าของนางอ้ัวเค่ียมก็สูญสลายไปพร้อมกับท่ีกิ่งต้น จวงพลิว้ ไหวในสายลมเยน็ เยยี บ เช้าวันต่อมา นายทหารท่ีเฝ้าดูแลอุทยานว่ิงหน้าตาต่ืนเข้ามาในพระ- ราชวังเพื่อเข้าเฝ้าพระราชนิ ี “ถะ ถวายบังคมพ่ะยะ่ คะ่ ” นายทหารหอบเหน่อื ยท่าทางร้อนรน “องค์หญิงอ้ัวเค่ียม…ผูกพระศอกับต้นจวงในอุทยาน ทรงสิ้นพระชนม์ แลว้ พะ่ ยะ่ คะ่ ” พระราชินีฟงั แลว้ ตกพระทยั ยงิ่ รีบตามนายทหารน้นั ไปทอ่ี ทุ ยาน ครั้นพอไปถึง นางกแ็ ทบล้มหมดสติกบั ภาพท่ีเห็น ร่างของนางอ้วั เคี่ยมห้อยจากกิง่ ต้นจวง เถาวัลยพ์ ันรัดพระศอจนเขยี ว พระพกั ตร์ก้มต่ำ ซดี เผือด แต่กลับสงบไมร่ บั รคู้ วามทุกข์รอ้ นใด และไมม่ ีใครจะบังคบั ใหน้ างทำอะไรไดอ้ กี แล้ว พระมารดานางอ้ัวเคี่ยมนำพระศพเข้าวังเพ่ือทำพิธี แล้วส่งข่าวร้ายน้ี ไปถึงขุนลาง ขุนลางจึงออกเดินทางมาร่วมงานพิธีศพขององค์หญิงด้วยความ เศร้าโศก ระหว่างทางในป่า ขุนลางได้แต่ร้องไห้โทษตัวเองว่าเป็นต้นเหตุให ้ องค์หญิงสิ้นพระชนม์ หากเขาไม่พูดจารุนแรงกับองค์หญิงขนาดน้ัน เร่ืองคงไม่ เปน็ แบบน้ี “องค์หญิง ท่านชนะข้าแลว้ สดุ ท้ายข้าก็ไม่อาจบังคับใจท่านได”้ ทันใดนั้น ขุนลางก็เห็นร่างผู้หญิงคนหนึ่งซ่ึงคุ้นเคยยืนนิ่งอยู่บนทาง ด้านหน้าขบวน ขุนลางกระโดดลงจากเฉลียงวิ่งไปหาทันที แต่ร่างนั้นกลับถอย หา่ งและเร่ิมจางหาย
ตอนท่ี 6 55 “องค์หญงิ รอข้าดว้ ย ขา้ ขอโทษ คนทส่ี มควรตายไมใ่ ช่ทา่ นแตเ่ ป็นข้า!” ขุนลางจะวิ่งตามนาง แต่กลับขยับเขย้ือนขาทั้งสองไม่ได้ ย่ิงกว่านั้น ร่างของเขายังถูกพื้นดินสูบลงไปเรื่อยๆ แผ่นดินสั่นสะท้านหว่ันไหว ลมพัดแรง จนพัดทรายฟุ้งข้ึนเป็นควันทึบ ขบวนของขุนลางตื่นตระหนกถอยห่างออกไป จนครน้ั ทุกอยา่ งสงบลง รา่ งของขนุ ลางก็หายไป! ขบวนของขนุ ลางต่างอกสน่ั ขวญั หายและว่ิงหนกี ระจดั กระจาย สว่ นท้าวขูลู หลงั จากพบองคห์ ญงิ ในคืนนั้น วนั ตอ่ มากย็ กทัพจากเมอื ง กาสี มาถึงกายนครด้วยความโกรธแค้นขุนลาง ในพระหัตถ์ทรงถือพระขรรค์ และมพี ระทัยมุง่ มน่ั วา่ จะแยง่ ชิงนางมาใหไ้ ด้ “อีกไมน่ านเถิดน้องหญงิ เราจะได้อยดู่ ว้ ยกัน” แตเ่ มอ่ื ทา้ วขลู มู าถงึ กำแพงเมอื ง ไดท้ ราบเรอ่ื งนางอว้ั เคยี่ มสนิ้ พระชนม์ และขุนลางถกู ธรณสี ูบ พระองคก์ ็เขา่ ทรดุ เร่ืองที่เกิดขึน้ เกนิ ท่อี งคช์ ายจะรับไหว ทำให้องค์ชายโศกศลั ยค์ ลมุ้ คล่ัง องค์ชายวิ่งหนีจากทุกคนมาถึงหน้าปราสาทหิน พบเพียงแต่ความว่าง เปล่าเงียบเหงา จะเหลือก็เพียงเถาวัลย์ท่ีพันเลื้อยอยู่บนกิ่งต้นจวงแล้วห้อย ตกลงมา ลมพัดเถาวัลย์แกว่งไหว องค์ชายคดิ ถงึ องค์หญิงจบั ใจ “องค์หญงิ ทำไมถึงทำแบบน!้ี ” องค์ชายกรรแสงจนไร้เรยี่ วแรง “พใี่ หส้ ญั ญาแลว้ ตอ่ หนา้ องคพ์ ระวา่ เราจะอยดู่ ว้ ยกนั ไมว่ า่ อะไรจะเกดิ ขนึ้ บัดนี้ พจี่ ะรักษาสญั ญา” องค์ชายเงื้อพระขรรค์ข้ึนแล้วแทงพระองค์เอง ส้ินพระชนม์อยู่ท่ีใต้ ต้นจวง
56 ตำนานขลู ูกบั นางอัว้ กองทัพของท้าวขูลูรับพระศพกลับมาทำพิธีท่ีเมืองกาสี พระมารดา ท้าวขูลูและเจ้าเมืองกาสีเสียพระทัยมาก ต่อมาเมื่อพระมารดานางอ้ัวเคี่ยม ทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ของท้าวขูลูจึงเดินทางมาขออภัย ต่างฝ่ายต่างเสีย พระทัยที่สูญเสียพระโอรสและพระธิดา จึงเข้าใจกันและตกลงนำพระศพของ ท้าวขูลูกับนางอั้วเคี่ยมมาเผาเคียงคู่กัน สร้างพระธาตุบรรจุอัฐิทั้งสองไว้ที่ เดียวกนั ในวันน้ัน ท้าวขูลูและนางอั้วเค่ียมท่ีประทับเคียงคู่กันอยู่บนสวรรค์ พอพระทัยท่ีทั้งสองเมืองกลับมาสมัครสมานสามัคคี จึงแสดงอภินิหารให้ผู้คน ชาวเมืองได้เห็น และประทานพรให้เมืองกาสีและเมืองกายนครร่มเย็นเป็นสุข ตลอดไป
57
เจ็ด ตอนที่ 7 กำพร้าอ่านตำนานขูลูกับนางอั้วจบแล้ว เห็นเพื่อนบางคนซับน้ำตา บางคนยังอง้ึ ค้าง “โห จบเศรา้ หลาย” เพื่อนคนหนึง่ พูดข้ึน “แตย่ ังดีทสี่ ดุ ทา้ ยเมอื งทง้ั สองกลบั มาดีกัน” บักอ้วนวา่ “ใช่ แต่เป็นหยังคนเราสิต้องปล่อยให้สูญเสียแล้วค่อยยอมลดทิฐิ” เพอื่ นอกี คนพดู กำพรา้ ยังนง่ิ เงียบอยู่ กำลงั ครนุ่ คดิ ถงึ ผีนางอว้ั ทเี่ ขาพบ… เขาอ่านจนจบเรอื่ งแลว้ ยงั ไม่รเู้ ลยว่าใครจะช่วยเธอได้ “เอาเถอะ อย่างน้อยทา้ วขลู กู บั นางอั้วเค่ียมก็ไดข้ ึน้ สวรรค”์ ก้อยพูดข้นึ บ้าง “ใช่ ข้ึนสวรรคไ์ ปแลว้ ” กำพร้าพูดพลางคิดอะไรบางอย่าง ถ้านางอว้ั เคีย่ มข้นึ สวรรค์ไปแล้ว…เธอคนนั้นเปน็ ใครกันแน่
60 ตำนานขลู ูกับนางอวั้ กำพร้าเดินกลับวัดมาตอนพลบค่ำ ในใจยังเฝ้าสงสัยเรื่องเดิมอยู่ พอดี เห็นตน้ ยนื อยทู่ ี่ท่านำ้ กำพรา้ จงึ เดินเข้าไปหา “เฮากลับมาแล้ว อา้ ยตน้ ” กำพรา้ ทกั “โตมาก็ดีแล้ว พรุ่งนี้อ้ายจะกลับแล้วเด้อ โตจงรับใช้หลวงตา แล้วอย่า ลืมรดนำ้ ดอกนางอ้ัวแทนอา้ ยดว้ ย อย่าใหล้ ืมเชียวละ” กำพร้าเร่ิมเอะใจ “ไป กำพร้า ข้ึนกุฏกิ นั สิไปอาบน้ำอาบทา่ ” ต้นเดนิ นำหน้ากำพรา้ ไปกอ่ น กำพร้ายืนน่ิงอยมู่ องเห็นแต่หลังตน้ “เดี๋ยวสิ อา้ ยตน้ อา้ ยบอกวา่ ได้ดอกนางอวั้ นมี่ าจงั่ ได๋” กำพรา้ ถาม “เฮาก็เอามาจากบนอทุ ยาน บ่มีหยังดอก” พีต่ น้ หยุดเดนิ คร่หู นง่ึ แล้วกา้ วต่อ “เด๋ียวสิ ต้น” เขาได้ยินเสียงเรยี กอกี คร้ังแต่คราวนก้ี ลับเป็นเสยี งผหู้ ญงิ กำพรา้ ชะงัก อา้ ปากค้าง เห็นผีนางอว้ั ก้าวไปหาตน้ ต้นหันหลังกลับมาแล้วพูดกับผีตนนั้น ท่าทางไม่ตกอกตกใจอย่าง กำพรา้ “น้ำ อยู่ท่วี ัดนีก้ บั หลวงตานะ ต้นมาส่งน้ำไดเ้ ท่านลี้ ะ” กำพร้าตะลงึ กวา่ เก่า… ตกลงนพี่ ตี่ ้น… “น้ำรักต้น ยอมตายก็เพื่อต้น น้ำติดตามต้นมานานแล้ว ต้นไปอยู่กับ นำ้ เถอะ” ผีตนนน้ั พูดพลางรอ้ งไห ้ ย้อนไปเม่ือหน่ึงเดือนก่อน แม่ของน้ำไม่พอใจที่น้ำมาคบกับนักร้อง อดีตเด็กวัดต่างจังหวัดอย่างต้น จึงบอกให้ต้นไปหาเงินล้านมาสู่ขอแล้วจะยอม
ตอนที่ 7 61 ยกลูกสาวให้ ระหว่างนั้นชัย หนุ่มนักธุรกิจเศรษฐีมาสู่ขอน้ำ แม่ของน้ำจึงจัด งานแตง่ งานให้ ต้นตีต๋ัวรถไฟกลับบ้านเกิด เพื่อจะมาปรึกษาหลวงตาและผู้ใหญ ่ ในหมู่บ้านเรื่องหาเงินไปสู่ขอ แต่ไม่ทันท่ีเขาจะได้พบหลวงตา ก็ทราบข่าวน้ำ ผูกคอตายในคืนก่อนวันแต่งงาน เขาจึงหลบหน้าหายไปจากทุกคนที่รู้จัก ออก เดินทางข้ึนอทุ ยานภูหลวงไปคนเดยี ว ทีแรกเขารับไม่ได้ท่ีน้ำจากไป ตั้งใจจะกระโดดหน้าผาหลายครั้ง แต่ ธรรมชาตทิ ี่สงบรม่ รนื่ ทำใหเ้ ขาผ่อนคลายข้ึนมาก ระหว่างท่ีอยู่บนภูหลวง ต้นได้พบพืชพันธุ์แปลกๆ หายากมากมาย โดยเฉพาะดอกนางอั้ว เขาจึงตัดสินใจอาศัยอยู่ท่ีบ้านพักเจ้าหน้าที่ป่าไม้หลาย วันและติดตามเจ้าหน้าที่ไปสำรวจป่าหลายครั้ง ย่ิงเขาคิดถึงน้ำเท่าไหร่ เขาย่ิง ตงั้ ใจศึกษาพันธไ์ุ มม้ ากขึน้ ๆจนสุดทา้ ย เขากส็ มัครเปน็ เจา้ หนา้ ทใ่ี นอทุ ยาน จากน้ันมา ต้นได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาจากคณะเกษตรฯ จัดอบรมเรื่อง พันธ์ุไม้ให้กับเจ้าหน้าท่ีคนอื่นๆ และชาวบ้าน…ทุกครั้งท่ีได้ถ่ายทอดความร้ ู ให้ผอู้ ่ืน เขาร้สู ึกเหมือนไดท้ ำความฝันแทนนำ้ ทอ่ี ยากเปน็ อาจารย์ จนวันหนึ่ง ต้นตื่นเช้าขึ้นมาสูดอากาศ นั่งมองดงดอกนางอั้วที่หน้า บ้านพักแล้วพบเงาร่างผู้หญิงในสายหมอก เมื่อหมอกจางลง ต้นแทบไม่เช่ือ สายตาว่าเป็นน้ำ เขาหลบเข้าบ้านแอบมองเธอ จากนัน้ ทกุ เช้าเขาจะเหน็ เธออยู่ กลางดงดอกนางอั้ว และทุกคืนต้นกับคนอ่ืนๆ จะได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ โหยหวน เจ้าหน้าท่ีคนหนึ่งที่พักอยู่ด้วยกันจึงเล่าตำนานขูลูกับนางอ้ัวให้ต้นฟัง ต้นถึงเข้าใจว่าน้ำมีชะตากรรมเดียวกับนางอั้วเคี่ยมและมีความผูกพันกับดอก นางอว้ั
62 ตำนานขูลูกับนางอ้ัว แตว่ ่าต้นอยากใหน้ ้ำไดไ้ ปสูส่ ุคติ เขาจึงลางานสามสวี่ ันเพอ่ื พาน้ำพร้อม ดอกนางอว้ั มาท่ีวดั ของหลวงตา “ต้นไม่รกั นำ้ แล้วเหรอ ไมอ่ ยากอย่กู บั นำ้ แล้วเหรอ” น้ำยงั คร่ำครวญ “ถา้ ตน้ ไมไ่ ปกบั นำ้ นำ้ จะตามตน้ ไปทกุ ที่ แตต่ น้ นกึ วา่ …” ตน้ ตอบอกึ อกั “มนั ไมเ่ ก่ียวกับดอกนางอ้ัวหรอก นำ้ ตดิ ตามตัวตน้ เองต่างหาก” ตน้ เพิ่งรู้ว่าเข้าใจผิดไป ต้งั แต่บนอุทยานน้ัน มนั เป็นเร่ืองบังเอญิ ท่ีรอบ บ้านพักของต้นรายล้อมไปด้วยดอกนางอ้ัว ต้นจึงเห็นน้ำอยู่คู่กับดอกไม้น้ีเสมอ และเธอได้ตดิ ตามต้นมาถึงที่วัด กำพร้าเห็นท่าไม่ดี จึงว่ิงไปหาหลวงตา ย่ิงฝนเร่ิมสาดเทลงมา เขายิ่ง เป็นห่วงตน้ แต่กำพร้าตอ้ งแปลกใจ เพราะหลวงตากลับน่งิ เฉย พดู เพียงว่า “ปลอ่ ยใหเ้ ป็นตามเวรกรรมของเพิ่นเต๊อะ” ส่วนต้นนึกถึงคำพูดของหลวงตาท่ีสอนเขาระหว่างออกเดินบิณฑบาต เม่ือเชา้ “…ถ้าคึดฮอด กไ็ ปกรุงเทพฯ บา้ ง ไปไหว้ศพเพ่ินบ้าง…ต้นเอย๋ ทุกสง่ิ มีเกิดมีดับ เอ็งจงทำใจ ถึงชีวิตคนฮักเอ็งดับไปแล้ว แต่เอ็งยังอยู่ แต่สิอยู่จ่ังได๋ เอ็งต้องเลอื กเอง” ต้นเรยี กสตกิ ลับคืนมาแล้วพดู กับน้ำ “ตน้ ยังรักน้ำอยู่ และเพราะรกั …ตน้ ถึงตอ้ งมีชวี ิตตอ่ ไป” “น้ำไม่เข้าใจ!” เธอยิ่งโมโห ก้าวเข้ามาใกล้ต้นเรื่อยๆ ต้นก้าวถอยหลัง หนีจนมาสุดท่าน้ำ สายฝนเทกระหน่ำมากข้ึน ฟ้าผ่าลงเปรี้ยงปร้าง ลมแรงพัด ลำธารเปน็ คลน่ื
ตอนท่ี 7 63 “ถ้าต้นรักนำ้ จรงิ พิสูจน์ใหน้ ำ้ เห็นส!ิ ” เสียงนำ้ ขู่เข็ญนา่ กลวั “นำ้ …” ตน้ ไม่รจู้ ะหลบถอยอยา่ งไรอกี “ความรักของน้ำคืออะไร ต้องการใหต้ น้ ตายใชไ่ หม” เธอยังคงก้าวเข้าหาต้น ต้นถอยหลังไปแล้วพลาดตกน้ำ เขาด้ินรน แหวกวา่ ยในคลืน่ แรงใต้สายฝน ความรกั ของนำ้ คืออะไร… น้ำนึกถึงคืนวันดีๆ เก่าๆ ของเขากับเธอ รอยยิ้มที่เคยมีให้กัน ใบหน้า มีความสุขของตน้ ยามร้องเพลง และศึกษาพนั ธุไ์ ม้บนภหู ลวงซึ่งเธอแอบมองมาตลอด นาทีน้ี เธอกำลงั มองต้นกระเสอื กกระสนใกลจ้ มนำ้ และนึกถึงความเจ็บปวดทรมานของเธอยามใกล้ส้ินลมหายใจในคืน แตง่ งาน ร่างของต้นค่อยๆ จมลงใต้น้ำ เขาไร้เร่ียวแรงฝืนต้านอีกต่อไป ส่ิง สดุ ทา้ ยทเ่ี ห็นคือนำ้ ยืนมองเขาบนท่าน้ำ แล้วภาพทกุ อย่างก็ดับวบู มืดสนทิ รุ่งเช้า สายธารกลับมาสงบดั่งเดิม ฝูงนกส่งเสียงร้องสดใส แสงแดด อ่อนปลุกต้นใหต้ น่ื ขนึ้ เขาพบว่าตัวเองนอนอยู่บนทา่ นำ้ เนอ้ื ตัวเปยี กโชก “นำ้ !” ตน้ ผดุ ลุกขึน้ มองหาน้ำรอบทิศ…แต่เธอหายไปแลว้ “ขอบใจนะนำ้ ท่ีช่วยต้น หวงั ว่านำ้ คงเขา้ ใจต้นนะ” ต้นคดิ ถงึ น้ำแล้วย้มิ อยา่ งหมดหว่ ง เชา้ นจ้ี ึงเปน็ เช้าทีส่ ดใสทีส่ ดุ ในชวี ิตของต้น... เชา้ ที่เขาจะได้เรมิ่ ต้นอีกคร้งั หลงั จากพายฝุ นผ่านพ้นไป
64 ตำนานขลู ูกับนางอ้วั ตน้ เก็บกระเปา๋ เส้อื ผ้าแล้วไหว้ลาหลวงตา เขาเดนิ ออกจากวัดมาพร้อม กับกำพร้าท่ีมาส่งเขาท่ีท่ารถสองแถว ระหว่างรอรถ ต้นวางกระเป๋าแล้วก้มลง ลูบหวั กำพร้า “อ้ายไปกอ่ นเด้อ ขอบใจเอง็ หลาย” “เร่ืองหยังครับ อ้ายต้น” กำพร้านึกไปว่าคงเป็นเพราะตนติดตามเร่ือง ดอกนางอวั้ มาตลอด “ที่โตเก็บกำไลท่อี ้ายทำตกไว้ แล้วมอ้ื หลงั จะกลบั ยามใหม”่ วา่ แล้วพี่ตน้ กข็ ้ึนรถสองแถวที่ผา่ นมาพอดี กำพร้าถึงกบั ร้องอ้อ ตน้ ถงึ สถานรี ถไฟแลว้ ขนึ้ รถไฟขบวนทห่ี นั หนา้ ไปทศิ ตรงขา้ มกบั ภหู ลวง ต้นเลือกที่น่ังสบายๆ แล้วหยิบตั๋วรถไฟไปกรุงเทพฯ ใบเก่าท่ีเก็บไว้มาเทียบกับ ตัว๋ ไปกรงุ เทพฯ ทีเ่ พิง่ ซ้อื ใหม่ เขาน่ังมองทิวทัศน์ข้างทางไปเร่ือยๆ ด้วยใจท่ีสงบหมดความกังวลและ เริ่มตน้ แต่งเพลงให้น้ำ ด่งั เช่นท่เี คยทำในวนั วาน มวลไมจ้ ะเติบโตยนื ต้นอย่างไร หากขาดสายน้ำเยน็ ช่ืนใจหลอ่ เลีย้ ง เธอเป็นสายน้ำเล้ยี งหล่อใจเย็นช่ืน ให้ฉนั ยังหยดั ยืนอยูต่ อ่ ไป…
65
ภาคผนวก
68 อธิบายศัพท์ ก่วั กวา่ ขอ้ ย ฉนั คิดฮอด คิดถึง จอบ ซุม่ แอบดู ทำลบั ๆล่อๆ จกั หนอ่ ย ซะหน่อย จง๋ั ได ๋ ยงั ไง ซอย ช่วย ซมุ้ ประตโู คปรุ ะ ซมุ้ ประตทู างเขา้ ซง่ึ เปน็ องค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม ของปราสาทขอม เซ้า เชา้ โดน นาน เตอ๊ ะ เถอะ โต เธอ นาย (คำเรียกเพื่อน) นี่เด นี่ไง เบิง่ ดู ไผ ใคร พระชลนยั น์ น้ำตา พอ่ พบ เจอ เพิ่น ท่าน เธอ มว่ น สนุก ยา่ ง เดิน ยาม เยยี่ มเยียน ไส ไหน หยงั อะไร เหมดิ หมด
69 อา้ ย พี่ เอน้ิ เรยี ก ฮอด ถึง ฮกั รกั ฮ ู้ รู้ เฮด็ ทำ
70 เกร็ดนา่ รู้ อักษรตัวธรรมหรอื อักษรธรรมอสี าน เป็นอักษรท่ีใช้อยู่ในกลุ่มชนบริเวณลุ่มน้ำโขงตั้งแต่โบราณและแพร่ไป ยังกลุ่มไทยลื้อในสิบสองจุไทยด้วย จากศิลาจารึกในภาคอีสานและอาณาจักร ล้านช้างพบว่า อักษรตัวธรรมปรากฏในศิลาจารึกครั้งแรกในสมัยพระเจ้าราช- แสนไทย จารึกเกา่ ท่ีสุดทีเ่ ป็นอักษรตวั ธรรมลงไวเ้ ม่ือปีพ.ศ. 2003 คือจารึกฐาน พระพุทธรูป อยู่ท่ีวัดสีสะเกด เมืองเวียงจันทน์ ส่วนจารึกลงบนแผ่นศิลาท่ีเป็น อกั ษรตวั ธรรมเก่าท่สี ุดคือ จารึกวดั บา้ นสังคโลก ลงไว้เม่ือปีพ.ศ. 2070 อกั ษรตวั ธรรมนน้ี ำมาใชใ้ นอาณาจกั รลา้ นชา้ งอยา่ งแพรห่ ลาย ภายหลงั ได้เข้ามายังภาคอีสานของประเทศไทย จึงพบเอกสารใบลานต่างๆ มากมาย ในภาคอสี านยคุ กอ่ นทจี่ ดบนั ทกึ ดว้ ยอกั ษรตวั ธรรม โดยเฉพาะเอกสารดา้ นพทุ ธ- ศาสนา ไดแ้ ก่ พระคัมภีร์อรรถกถา ชาดก และตำราวชิ าการ ภาคอีสานและอาณาจักรล้านช้างได้ตกเป็นของไทยในสมัยกรุงธนบุรี เม่ือปีพ.ศ. 2322 ส่วนภาคอีสานนั้นได้รวมเข้าเป็นดินแดนประเทศไทยอย่าง จริงจังในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จากนั้น อกั ษรตวั ธรรมหรอื ตวั อกั ษรธรรมอสี านกเ็ สอื่ มความนยิ มลง เนอื่ งจากรชั กาลท่ี 5 ได้ให้ข้าราชการหัวเมืองอีสานเรียนภาษาไทยและตัวอักษรไทย อีกทั้งยังจัดต้ัง โรงเรียนสอนหนังสือไทยในทุกหัวเมือง โดยเฉพาะมณฑลลาวกลาง (นครราช- สมี า) มณฑลลาวพวน (อดุ รธานี) และมณฑลลาวกาว (อุบลราชธานี) และมีการ ประกาศใหใ้ ชภ้ าษาไทยเป็นภาษาราชการนบั แต่ปพี .ศ. 2464 เป็นตน้ มา ตวั เลขในอกั ษรธรรมอสี านมี 10 รูป ดังนี้ ๑๒๓๔๕๖๗๘๙๐ (เรียบเรยี งจากหนงั สอื วรรณกรรมอีสาน โดย ธวชั ปณุ โณทก และหนงั สือวรรณกรรมท้องถ่นิ ไทย โดย กตญั ญู ชชู นื่ )
71 เครอื่ งป้ันดินเผาบ้านเชยี ง ท่ีชมุ ชนบ้านเชียงเมื่อ 5,000 กว่าปที ่ีแล้ว เมอ่ื มีคนตาย ญาติพ่ีนอ้ งจะ นำเคร่ืองมือ เครื่องใช้และเครื่องประดับขนาดเล็กบรรจุลงในภาชนะดินเผา เขยี นสี หรอื บางคร้งั ก็เป็นภาชนะดินเผาเขียนสเี ปล่าๆ วางไว้กับศพ โดยวางไว้ บริเวณใดก็ได้ ท้ังเหนือหัวผู้ตาย ปลายเท้า หรือด้านข้าง แล้วแต่แบบแผน พธิ ีการของหมบู่ า้ นนัน้ ๆ พิธีการดังกล่าวเกิดจากคติความเชื่อเกี่ยวกับความตายของชุมชน บ้านเชียงที่ว่า ผู้ตายน้ันยังไม่ตายจริง หากเปลี่ยนสภาพไปสู่อีกสถานะท่ ี ศักดิ์สิทธิ์กว่า ดังน้ันญาติพ่ีน้องจึงต้องจัดเตรียมภาชนะ เครื่องใช้ต่างๆ ทั้งที่ เปน็ ของส่วนตวั ของผตู้ ายและส่วนทค่ี วรได้เพ่ิมขึน้ ติดตัวไปดว้ ย นอกจากนีย้ ังมี ความเชอื่ ทว่ี า่ ผตู้ ายยงั ไมต่ าย หากกลบั ฟน้ื คนื ชวี ติ ขนึ้ มาอกี ครงั้ จะไดม้ เี ครอ่ื งใช้ ไมส้ อยไว้ทำมาหากิน ลวดลายทป่ี รากฏอยบู่ นเครอ่ื งปน้ั ดนิ เผาเขยี นสี ของบ้านเชียง ได้แก่ ลายเส้นโค้ง ลายก้นขดและลาย กน้ หอย ลายเรขาคณติ ลายดอกไม้ ลายรปู สตั ว์ และลาย อน่ื ๆเช่น ลายเส้นขนาน ลายสามเหลยี่ มซ้อน เปน็ ตน้ (เรยี บเรยี งจากหนังสือบา้ นเชียง โดย สุจิตต์ วงษเ์ ทศ) ท่ีมาของปก การออกแบบหน้าปกของหนังสือชุดน้ีได้นำลวดลายการ เขียนสีบนภาชนะดินเผาของบ้านเชียงมาดัดแปลงและตัดทอน เพื่อให้เกิด ความสวยงามและเหมาะสมกบั ปกหนงั สือ
ประวัติยอ่ ผู้เขียน อริสา สมุ ามาลย ์ เกิดที่กรุงเทพฯ จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ และระดับ ปริญญาตรีจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เอกวิชาภาษาอิตาเลียน (เกียรตินิยม อนั ดบั หนึง่ เหรยี ญทอง) ปพี .ศ. 2549 อริสาเริ่มสนใจงานเขียน เม่ือได้เป็นสมาชิกชมรมวรรณศิลป์ จุฬาฯ จากที่เคยเขียนกลอน เล็ก ๆ น้อย ๆ เก็บไว้อ่านเองจึงได้เร่ิมเขียนบทความ สัมภาษณ์ เป็นบรรณาธิการจุลสาร และเป็น ประธานชมรมวรรณศิลป์ ปี 2548 ระหว่างนั้นอริสาได้สั่งสมประสบการณ์จากค่ายอบรมนักเขียนต่าง ๆ และทำงานเป็นอาสา สมัครทำงานรณรงค์ร่วมกับองค์กรแอคช่ันเอด ประเทศไทย โดยใช้ส่ืองานเขียนเป็นตัวสะท้อน เรื่องราวในสังคมผ่านมุมมองของตน ท้ังประเด็นความยากจน การเจรจาตกลงเขตการค้าเสรีของ ไทย FTA และกรณีไล่ร้ือชุมชนมหากาฬ ปัจจุบัน อริสาทำงานที่องค์การแพธ เป็นผู้ช่วยประสานงานโครงการด้านพัฒนาเยาวชนใน ประเด็นเพศศึกษา ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เมล็ดพันธ์ุแห่งความมุ่งมั่นที่จะทำดีตอบแทนสังคม ค่อย ๆ เติบโตขึ้นพร้อมกับมุมมองความคิดและทักษะการเขียน จนล่าสุดมีโอกาสเขียนนิยายเรื่อง “สินไช” และ “ตำนานขูลูกับนางอ้ัว” เป็นนิยายสองเร่ืองแรก ซ่ึงได้สอดแทรกความร่วมสมัยของ วรรณคดีพนื้ บา้ นอสี านกบั ชีวิตของผคู้ นในสงั คมปัจจบุ ัน
ประวัติย่อผู้วาดภาพประกอบ ชาตร ี แสงพฒุ การศกึ ษา • จบปรญิ ญาตรีจาก คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง • เป็นวิทยากรสอนการวาดภาพให้กบั เด็กๆในโครงการนทิ านเพื่อการพัฒนาเดก็ ผลงานที่ภูมิใจ • ผลงานการทำภาพประกอบหนังสอื นทิ านของเดก็ ๆในโครงการนทิ านเพ่ือการพฒั นาเด็ก ปัจจุบัน • เป็นเจ้าหน้าทป่ี ระสานงานกิจกรรมสง่ เสริมการอ่าน มลู นธิ ิหนงั สือเพือ่ เดก็ • เขียนภาพประกอบ หนา้ ปกหนงั สือ “เมอ่ื เด็กๆเขยี นนทิ านอ่านเอง” • ชอบวาดภาพและทำงานศลิ ปะทกุ ชนิด
เปิดโลกกว้างแหง่ การเรียนรู้ บนรากฐานภูมิปัญญาท้องถิน่ การจัดตั้งอุทยานการเรียนรู้ส่วนภูมิภาค เป็นภารกิจสำคัญประการหนึ่งของ สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (TK Park) เนน้ การถา่ ยทอดบทเรียนการจดั การการเรยี นรู้ ภายใต้บริบทวัฒนธรรมและความสนใจท่ีสอดคล้องกันของคนในท้องถ่ิน เพื่อกระจาย โอกาสให้เด็กและเยาวชนไทยสามารถเขา้ ถงึ การเรียนรู้ไดอ้ ย่างมคี วามสุข โครงการนิทานพื้นบ้าน 4 ภาค เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานเพื่อจัดต้ัง อุทยานการเรียนรู้ส่วนภูมิภาค โดยจัดทำเนื้อหาสาระในรูปแบบท่ีเด็กและเยาวชนสนใจ ซ่ึงสามารถส่ือให้เห็นความเป็นตัวของตัวเอง ได้รับรู้ถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม อนั ล้ำคา่ ในทอ้ งถ่ิน รวมทง้ั การรักษาและสบื ทอดมนตเ์ สนห่ แ์ ห่งนิทานพ้นื บ้าน หนังสือชุดนิทานพ้ืนบ้าน 4 ภาค ประกอบด้วยนิทานภาพสำหรับเด็กอายุ ไมเ่ กนิ 9 ปี และวรรณกรรมสำหรับเยาวชนอายุ 9 ปขี ึน้ ไป สำนักงานอทุ ยานการเรยี นรู้ ดำเนนิ การจดั พิมพ์แลว้ เสร็จ และกระจายเผยแพรท่ ัว่ ประเทศแลว้ ดังน ้ี นทิ านภาพภาคใต้ จำนวน 6 เรอ่ื ง จารอกตี อ เมอื งนา่ อยูท่ ีห่ นูรกั ไก่โกง มูสงั เปาะแซเดาะกับซามะ ไขน่ ยุ้ กับแพะน้อย ซีงอ : เจา้ ป่าผ้กู ล้าหาญ ในวันฮารรี ายอ
วรรณกรรมเยาวชนภาคใต้ จำนวน 6 เรือ่ ง ซาไก พระเศวตสุรคชาธาร รายอฆอแน จาโต : เล่หก์ ลบนกระดาน วดั ถ้ำคหู าภิมขุ แดนคนธรรพ์ นิทานภาพภาคเหนือ จำนวน 5 เรอ่ื ง ห้าสหายปราบยกั ษ์ เชยี งใหมเ่ มอื งบุญ เพลงละอ่อน พฉึ อ่ ไกผ่ ู้พชิ ิตพระอาทิตย ์ ดาววไี ก่นอ้ ย วรรณกรรมเยาวชนภาคเหนอื จำนวน 7 เรือ่ ง ผู้เฒา่ เล่าไว ้ กำพรา้ บัวทอง จนั ตะคาด สวุ รรณเมกฆะ นทิ านของอุ๊ย ออ้ มล้อมตอ่ มคำ ผีม้าบ้อง กับหมาขนคำ
นทิ านภาพภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ จำนวน 5 เร่อื ง ช้างดอ้ื อเี กงิ้ ...เดือนดาว เมอื งมหาสารคาม เส่ยี วฮกั เสยี่ วแพง ฮตี สิบสอง วรรณกรรมเยาวชนภาคตะวันออกเฉียงเหนอื จำนวน 7 เรื่อง ผีผบึ พ้มึ ผจญภัยเมอื งฟ้าแดด สินไช ตำนานขูลกู ับนางอ้วั อภนิ หิ ารบาดาลนคร เรื่องเลา่ เจ้ากำพร้า ท้าวขอ้ หลอ้
Search