Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักการปลูกพืชผัก

หลักการปลูกพืชผัก

Description: หลักการปลูกพืชผัก

Search

Read the Text Version

ธรรมศกั ด์ิ ทองเกตุ, Ph.D ภาควชิ าพชื สวน คณะเกษตร มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร ความหมาย พชื ผัก หมายถึง พืชที่มนุษยใชบริโภคเปนอาหารประจาํ วนั ท่ีคุณคาทางอาหารไดค รบถว น ให แปง (คารโ บไฮเดรท) และไขมัน ซ่ึงใหพลังงานและความอบอนุ แกร า งกาย ใหโปรตนี ทช่ี ว ยเสรมิ สรา ง การเจรญิ เตบิ โตของรา งกาย ใหวิตามินและเกลือแรที่ชวยทาํ ใหร า งกายแขง็ แรง มภี มู ติ า นทานตอ โรคภยั ไขเจ็บ สามารถดาํ รงชวี ติ ไดต ามปกติ ความสําคญั ผักเปนพืชอาหารที่มีความสาํ คญั ทางเศรษฐกิจของโลก ประเทศตา ง ๆ ในโลกนอ้ี าจมกี ารปลกู พืชตาง ๆ กนั เพอ่ื เปน อาหารหลกั บางประเทศปลกู ขา วเปน อาหาร แตบางประเทศปลกู ขาวโพด ขา ว สาลี หรอื มนั ฝรง่ั มนั สาํ ปะหลัง เพอ่ื เปน อาหาร แตพืชที่ทุก ๆ ประเทศตอ งปลกู เพอ่ื การบรโิ ภคเปน อาหาร อยา งขาดไมไ ดเ ลยคอื พืชผัก เพราะพืชผักมีความสาํ คญั ตอ การดํารงชวี ติ ของรา งกายใหด ํารงอยู ไดตามปกติ บางประเทศมีการปลูกผักในพื้นที่กวาง และเปนพืชเศรษฐกิจที่สําคญั สามารถทาํ รายได เขาสปู ระเทศอยา งมหาศาล ประเทศปลูกผักที่สําคัญของโลกไดแ ก อิสราเอล เนเธอรแ ลนด ฝรง่ั เศส สเปน ออสเตรเลยี นวิ ซแี ลนด ประเทศไทยก็เปนประเทศที่มีการปลูกผักเพื่อการบริโภค และมกี ารสง พืชผักบางชนิด อาทิเชน ขา วโพดฝก ออ น หนอ ไมฝ รง่ั เปน ตน การจําแนกพชื ผกั การจาํ แนกพชื ผกั ออกเปน กลมุ ตา ง ๆ นน้ั มีประโยชนในการใชเรียกหา เพ่ือใหเ ปน สากลท่ที กุ ประเทศยอมรบั เขา ใจกนั ในการตดิ ตอ สอ่ื สารกนั เพื่อใหทราบแหลงกําเนดิ ทม่ี า ทราบถึงลักษณะทาง พฤกษศาสตร ทราบอุปนสิ ยั การเจรญิ เตบิ โต สภาพแวดลอมที่เหมาะกับการเจริญเติบโต และทราบถึง สวนของลาํ ตน ทน่ี าํ ใชป ระโยชน เปน ตน การจําแนกพชื ผกั จงึ แยกไดห ลายลกั ษณะ ในทน่ี จ้ี ะแยกเพยี ง 2 ลกั ษณะ 1. การจําแนกพชื ผกั ตามอณุ หภมู ทิ เ่ี หมาะสมกบั การเจรญิ เตบิ โต การแบงกลุมพืชผักตาม อุณหภูมิที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตจะทาํ ใหเ ราสามารถเลอื กฤดกู าลปลกู หรือสถานท่ปี ลกู ท่ีเหมาะ สมในการปลกู ผกั แตล ะชนดิ ได

1.1 ชนิดพชื ผกั ทช่ี อบอากาศเยน็ เปนกลุมผักที่เจริญเติบโตไดดีที่อุณหภูมิเฉลี่ยของ อากาศอยูที่ 16-18 องศาเซลเซยี ส พชื ผกั ในกลมุ นจ้ี งึ เหมาะทจ่ี ะปลกู ในฤดหู นาว หรือพ้ืนท่ีสงู ท่ีมี อากาศเยน็ กวา พ้ืนท่ีราบ ทุก ๆ ระดบั ความสงู จากระดบั นา้ํ ทะเล 100 เมตร อณุ หภมู จิ ะลดลง 1 องศา เซลเซียส พืชผักกลุมนี้ไดแก บรอ คโคล่ี กะหลํ่าดอก กะหล่าํ ดาว กะหลํ่าปลี กะหลํ่าปม ผักกาดเขียวปลี ผักกาดหอม แครอท หนอ ไมฝ รง่ั คะนา กระเทยี ม คน่ื ฉา ย ผักกาดหัว หอมหวั ใหญ ปวยเลง ถว่ั ลนั เตา เทอรน พิ อองดฟิ พารสเลย  พารส นปิ ชาด เซลอร่ี เฟนเนล มนั ฝรง่ั ฯลฯ 1.2 ชนิดพชื ผกั ทต่ี อ งการอากาศอบอนุ เปนกลุมผักที่เจริญเติบโตไดดีที่อุณหภูมิ เฉลี่ยระหวาง 18-30 องศาเซลเซยี ส พืชผักในกลมุ นี้ไดแก แตงกวา แตงไทย มะเขอื เทศ มะเขอื ยาว พริก พริกยักษ ฟกทอง มะระ บวบ น้าํ เตา ฟกเขียว ถั่วเขียว ขา วโพดฝก ออ น 2. การแบงกลุมพืชผักตามสวนของการใชประโยชน 2.1 ราก ไดแก ผักกาดหัว แครอท หัวผักกาดแดง เทอรน พิ พารส นปิ มนั เทศ มนั สาํ ปะหลัง 2.2 ลาํ ตน ไดแก หนอ ไมฝ รง่ั หนอ ไมไ ผต ง กะหลํ่าปม มนั ฝรง่ั เผอื ก กลอย มันมอื เสอื ผักบุง 2.3 ใบ ไดแก คะนา กะหลํ่าปลี ผกั กาดขาวปลี ผกั กวางตงุ ผกั กาดเขยี วปลี ผักกาด หอม หอมหวั ใหญ กระเทียมหัว กระเทียมตน หอมแดง กุยชาย 2.4 ดอก ไดแก บรอ็ คโคล่ี กะหลํ่าดอก ดอกโสน ดอกแค 2.5 ผล ไดแก ถว่ั ลนั เตา ถั่วฝกยาว ถั่วแขก ถว่ั เหลอื งฝก สด ขา วโพดหวาน กระเจี๊ยบ แตงกวา แตงเทศ มะระ ฟกเขียว ฟกทอง พริก พริกหวาน มะเขอื เทศ มะเขอื ยาว ฯลฯ การจดั การดนิ และการเตรยี มแปลงปลกู พชื ผกั การจดั การดนิ ผักสวนใหญเ ปน พชื ลม ลกุ ทม่ี อี ายคุ อ นขา งสน้ั มอี ตั ราการเจรญิ เตบิ โตรวดเรว็ จึงตอ งการธาตุ อาหารอยา งมากจากดนิ ทป่ี ลกู การเตรยี มแปลงปลกู ผกั ในพื้นที่เปดใหม หรือที่ไมไดมีการทําการเกษตรมากอ น หรือ แมแตพื้นที่ที่ปลูกพืชมานาน จน โครงสรา งของดนิ แนน ทบึ ก็จําเปน ตอ งมกี ารไถพลกิ ดนิ ขน้ึ มาทาํ การยอ ยดนิ ใหร ว นโปรง ลักษณะของ แปลงปลูกผักที่เหมาะสมขึ้นกับสภาพพื้นที่ ในพื้นท่ีลุมเขตภาคกลางของประเทศ เชน นครปฐม นนทบุรี ปทมุ ธานี กรุงเทพมหานคร เพ่ือการระบายนา้ํ ที่ดี และความสะดวกในการใหน า้ํ นิยมยกรอ ง กวา งและลกึ แบบที่เรียกวา รอ งจนี การเพาะเมลด็ และเตรยี มกลา ผกั ในอดีตการปลกู ผกั นยิ มทง้ั วธิ กี ารหวา นเมลด็ ลงในแปลง และการเพาะเมลด็ ลงในแปลงเพาะ

กอ นทําการยา ยกลา แตในปจจุบันมีการผลิตพันธุพืชดีออกมาใช ซง่ึ เมลด็ มรี าคาแพงมาก แตมีคุณภาพ ดี ดังน้ันการปลกู จงึ ไดเ ปลย่ี นมาใชว ธิ กี ารเพาะกลา กอ น แลวจงึ ทาํ การยา ยกลา ทแ่ี ขง็ แรงดแี ลว นน้ั ลงสู แปลงปลกู อกี ที ซึ่งวิธีนี้ชวยประหยัดเมล็ดพันธุ และยังไดตนพืชที่แข็งแรง สมา่ํ เสมอกนั การดแู ลรกั ษาแปลงผกั การใหน า้ํ ผกั เปนพืชอวบนาํ้ จึงตอ งการนา้ํ มาก ถา ขาดนา้ํ ผักจะเหี่ยวเฉาอยางรวดเร็ว โดย เฉพาะวนั ทอ่ี ากาศรอ นและมลี มแรง ซึ่งชักนาํ ใหพ ชื ตอ งคายนา้ํ มากเปน พเิ ศษ ผักจะชะงักการเจริญเติบ โต ถาผักไดร ับน้ําไมเพียงพอ ผลผลติ จะลดลงอยา งมาก ในระยะแรกเมอ่ื ผกั ยงั เลก็ จะตอ งการนา้ํ ไมม าก นกั แปลงผกั ยกรอ งกวา งแบบรอ งจนี ในที่ราบลุมภาคกลาง การใหน ํ้ากระทาํ โดยวดิ นา้ํ จากทอง รองข้ึนมาราดบนสนั แปลงปลกู ผกั แปลงปลกู บนทด่ี อนแบบยกรอ ง การใหน า้ํ สามารถกระทาํ ไดโ ดยปลอ ยนา้ํ เขา ทว มรอ งแลว ให น้ําซึมเขา สดู า นขา งแปลงทง้ั สองดา น แปลงปลกู แบบไมย กรอ งบนทด่ี ิน กระทําได 2 วธิ คี อื 1. แบบฉดี พน ฝอยเหนอื หวั ที่เรียกวา สปรงิ เกอร ดวยการวางทอ นา้ํ เขา ไปในแปลงปลกู และ จะมที อ ตง้ั ขน้ึ มา ความสูงแลว แตข นาดความสงู ของผกั ท่ปี ลายสุดของทอจะเปน หัวจา ยนาํ้ ดวยแรงดัน ของน้ําที่พนออกมากระทบแผนกระจายนํ้า สายนา้ํ จะถูกทาํ ใหก ระจายตวั ออกเปน ฝอย พนออกครอบ คลุมพื้นที่สวนหนึ่ง ซึ่งข้ึนกับแรงดันนาํ้ และลกั ษณะของหัวจา ย 2. แบบนาํ้ หยด เปนการวางทอ นา้ํ เขา ไปในแปลงปลกู เชน เดยี วกนั แตทอ จะมขี นาดเลก็ กวา และวางชดิ กบั ตนพชื มากกวา เมื่อผานตนพืชแตละตนจะมีรูเปดเล็ก ๆ หรอื ทอ ยอ ยยน่ื ออกมายงั โคนตน พืช เพื่อปลอยนาํ้ ใหห ยดลงใกลก บั โคนตน ซง่ึ เปน บรเิ วณทอ่ี ยขู องราก วิธนี ป้ี ระหยดั นา้ํ มากท่สี ุด การใหป ยุ แกพ ชื ผกั ปุยท่ใี ชใ นการปลูกผัก แบง ออกไดเ ปน 2 กลมุ คอื 1. ปยุ อนิ ทรยี  ไดแก ปยุ คอก ปุยหมัก และปุยพืชสด ปุยอินทรยี จ ะมธี าตอุ าหารทพ่ี ชื ตอ งการ ครบถวน และมกั จะมอี ยใู นปรมิ าณคอ นขา งมาก 2. ปุยอนนิ ทรีย ไดแ ก ปยุ เคมชี นดิ ตา ง ๆ ปจจุบันดินปลกู ผกั มกั ขาดความอดุ มสมบรู ณล ง การ ใสปุยอนิ ทรยี อ ยา งเดยี วจะปลดปลอ ยธาตอุ าหารใหก บั ผกั ไมท นั ใช จึงตองมีการใสปุยเคมีเพิ่มใหกับผัก

การใหป ุยพชื ผักในโรงเรอื น ในตางประเทศทม่ี กี ารปลกู ผกั ในโรงเรอื นและมกี ารใหน า้ํ ไปตาม ทอ นา้ํ หยด จะมีระบบการผสมปยุ ทอ่ี ยใู นรปู สารละลาย ใหผ สมไปกบั น้ําในอตั ราทเ่ี หมาะกบั ระยะการ เจรญิ เตบิ โตของผกั ไปพรอ มๆ กัน ปุยดังกลาวจะถูกละลายนาํ้ เตรยี มไวใ นลกั ษณะทม่ี คี วามเขม ขน สงู และมักแยกเปนถงั อยา งนอ ย 2 ถัง เนอ่ื งจากธาตอุ าหารบางตวั เมอ่ื อยใู นรปู ทเ่ี ขม ขน จะทาํ จบั กนั ตกเปน ตะกอน จึงตองแยกออกจากกัน จากถังเกบ็ น้ําปยุ เขม ขน มที อ เชอ่ื มจากถงั มายงั ระบบใหน า้ํ และมปี ม ท่ี จะดูดปุยจากแตล ะถงั ในปรมิ าณทต่ี อ งการมาผสมกบั น้ําใหเ จอื จางลง และปลอ ยไปตามทอ น้ําไปหยดลง ที่ตนผักโดยตรง การตดั แตง กง่ิ ผักบางชนดิ ทม่ี ลี าํ ตน สงู และมอี ายยุ นื เชน พริก มะเขือเทศ โดยเฉพาะที่ปลูกใน โรงเรือน จะมกี ารตดั แตง กง่ิ บา งเพอ่ื ใหโ ปรง และตัดเอากง่ิ และใบทไ่ี มม ปี ระโยชนอ อกไป ซึ่งไดแก กิ่ง และใบดา นลา ง ซ่ึงมีอายมุ ากแลว การเกบ็ เกย่ี ว การเก็บเกี่ยวผักกินใบมักจะดูจากอายุ นับตง้ั แตป ลกู สวนผักกนิ ผลนน้ั ขน้ึ อยกู บั ชนดิ พริกและมะเขือ เทศ สามารถดไู ดจ ากสผี ล หรือดูการเรม่ิ เปลย่ี นแปลงของสี ซึ่งจะบอกถึงการสุกแกของผัก การปฏิบตั หิ ลงั การเกบ็ เกย่ี ว ผักเปนพืชที่อวบนํ้าจึง บอบบาง ไมทนทานตอแรงกระแทก การเก็บเกี่ยวและการ ปฏิบตั ใิ ดๆ หลังการเก็บเกี่ยว ควรกระทาํ อยา งระมดั ระวงั รวด เร็ว และมนี อ ยขน้ั ตอนทส่ี ดุ จึงจะชวยลดความเสียหายลงได กลบั ไปหนาแรก