ส่อื การเรียนรสู้ าระทอ้ งถนิ่ โดย
ช่ือ สำารวจเมอื งสมุทรฯ เรื่อง นริ มล มูนจินดา โครงการ สร้างสรรค์ส่อื การเรียนรสู้ าระท้องถิน่ เลขมาตรฐานประจาำ นัง ือ 978-616-235-074-0 คณะบรรณาธกิ ารอำานวยการ ทั นยั ง พ์ เิ กุล รุ พี นั ธ์ เป็งกา ทิ ธ์ิ บรรณาธกิ ารดำาเนนิ งาน ระพีพรรณ พฒั นาเ ช ภาพประกอบ ชิรา รรณ ทบั เ อื กฤ ณะ กาญจนาภา พมิ พค์ ร้งั แรก ๒๕๕๕ จาำ น น ๓,๐๐๐ เล่ม ง นลิข ิทธิ์ นิรมล มนู จนิ ดา, ชริ า รรณ ทบั เ ือ และ าำ นักงานอทุ ยานการเรยี นรู้ ำานักงานบริ ารและพัฒนาองค์ค ามรู้ (องคก์ ารม าชน) จดั พิมพโ์ ดย บริ ัท อมรนิ ทรพ์ ริ้นติ้งแอนดพ์ บั ลชิ ชิ่ง จำากัด (ม าชน) ๖๕/๑๐๑-๑๐๓ ถนนชยั พฤก ์ (บรมราชชนนี) ตล่งิ ชนั กรุงเทพฯ ๑๐๑๗๐ เจ้าของโครงการ ำานักงานอุทยานการเรียนรู้ ( อร.) ังกดั าำ นกั งานบริ ารและพฒั นาองคค์ ามรู้ (องคก์ ารม าชน) สว่ นบรกิ าร ูนยก์ ารค้าเซ็นทรัลเ ิลด์ ชน้ั ๘ Dazzle Zone โทร พั ท์ ๐๒ ๒๕๗ ๔๓๐๐ โทร าร ๐๒ ๒๕๗ ๔๓๓๒ สว่ นสำานกั งาน ๙๙๙/๙ อาคาร าำ นกั งานเซน็ ทรัลเ ิลด์ ชัน้ ๑๗ ถนนพระราม ๑ ปทุม ัน กรงุ เทพฯ ๑๐๓๓๐ โทร ัพท์ ๐๒ ๒๖๔ ๕๙๖๓-๖๕ โทร าร ๐๒ ๒๖๔ ๕๙๖๖ www.tkpark.or.th
ภารกิจ าำ คัญตอ่ ังคมประการ นง่ึ ของ สาำ นักงานอทุ ยานการเรยี นรู้ คอื การ ปลกู ฝังนิ ัยรักการอา่ น และการกระจายโอกา ในการเขา้ ถึงแ ลง่ เรยี นร้ทู ที่ ัน มยั และ อดคล้องกบั ความ นใจของเดก็ เยาวชน และประชาชน ในรปู แบบ ้อง มดุ มชี วี ิตท่ี ร้าง รรคบ์ นพ้ืนฐานการมี ่วนร่วมของภาค ่วนตา่ งๆ โดย าำ นักงานอุทยานการเรียนรู้ ไดร้ ว่ มกับองคก์ รปกครอง ว่ นท้องถ่ินในภมู ภิ าคตา่ งๆ เพ่อื ขยายผลการดาำ เนนิ งานดงั กล่าว การ รา้ ง รรค์ อ่ื การเรียนรู้ าระท้องถ่นิ ใ ้มีรูปแบบการนาำ เ นอท่ีทัน มัยและดึงดูด ความ นใจ เปน็ เครอื่ งมอื ท่ี าำ คญั อย่าง นง่ึ ซ่งึ ำานกั งานอทุ ยานการเรียนรู้เลง็ เ ็นวา่ มี ว่ นในการ รา้ งแรงบนั ดาลใจใ เ้ ดก็ และเยาวชน นใจการอา่ นและใฝ่ าความรอู้ ยา่ ง ตอ่ เนื่อง โดยนาำ เรอ่ื งราวภมู ิปญั ญา าระทอ้ งถน่ิ ใกล้ตวั ท่ี อดคล้องกับวัย การดาำ รงชวี ติ พร้อมกับ อดแทรกแนวคดิ ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม มาเป็นเนอ้ื าของ อ่ื การเรียนรู้ ำา รบั เยาวชนตามชว่ งวยั ต้ังแต่ ๐ – ๑๒ ปี สือ่ การเรียนร้สู าระท้องถ่ิน ภาคกลางและภาคตะวันออก ชุดน้ี าำ นกั งานอทุ ยาน การเรยี นรู้ไดร้ ่วมกัน ร้าง รรคก์ บั นกั วิชาการและนกั เขียนในท้องถนิ่ เพอ่ื ใ เ้ ด็กและ เยาวชน รวมทั้งประชาชนทว่ั ไปในภาคกลางและภาคตะวนั ออก ได้รับความรู้ และความ ภาคภมู ิใจในวฒั นธรรมและท้องถ่ินตน รวมท้งั กอ่ ใ เ้ กดิ ความเขา้ ใจและการยอมรับใน วิถีชวี ิตวัฒนธรรมท่ี ลาก ลายตามบรบิ ทพ้ืนทแ่ี ละ ภาพแวดลอ้ มท่แี ตกต่างกนั ออกไป สาำ นกั งานอุทยานการเรยี นรู้ มุง่ วังว่า นงั อื ชุดน้ีจะเป็น ื่อการเรยี นรู้อีกชุด นึ่ง ทจี่ ะ ง่ เ รมิ การอา่ นและการเรียนรูไ้ ด้อยา่ งมปี ระ ทิ ธภิ าพ ซ่งึ มายถงึ เป็น นงั อื ที่ ผอู้ า่ น อ่านอย่างมคี วาม ขุ นุกในการอา่ น และก่อใ ้เกดิ ความตระ นักในคณุ คา่ ของ ท้องถิน่ ตนเองได้อยา่ งแทจ้ รงิ สาำ นักงานอุทยานการเรียนรู้
เรอื่ ง นริ มล มนู จินดา ภาพ วชิราวรรณ ทบั เสือ
ไม่วา่ โตขึ้นเราอยากจะเปน็ อะไร อยากทำาอาชพี ไหน คิดตรกึ ตรอง ในหวั ใจ ทุกๆ คนล้วนเป็น ‘นกั ส�ำ รวจ’ ด้วยกนั ทั้งนนั้ เรยี นรู้ เพราะอยา่ งน้ี มนุษยเ์ ราจงึ ชอบเดนิ ทางไปทุกหนแห่ง เพอ่ื สาำ รวจสิ่งใหม่ๆ อย่างแจ่มใส แตน่ กั สำารวจไมไ่ ด้เดนิ ทางไปแตใ่ นท่ไี กลๆ ฟงั สรรพเสียง เสมอไป แม้ทใี่ กลๆ้ นักสาำ รวจ อยา่ งตั้งใจ กส็ ามารถมองเหน็ ความพเิ ศษได้ มองให้ทั่วๆ และยังมคี วามสขุ ทกุ ทที ีเ่ รยี นรู้ สงั เกตดๆี เรอ่ื งใหมๆ่ ไดเ้ สมอ โดยเฉพาะใน ‘สมุทรส�คร’ ได้กลน่ิ ทงั้ หลาย ถามสิง่ ที่สงสัย เปน็ ของดที มี่ ตี ดิ ตัง้ ไว้ จดบนั ทึก กับตัวเราอยู่แล้ว เพียงแต่ วาดภาพ ฯลฯ เดนิ อย่างระมดั ระวงั ใช้ให้คุ้มคา่ เท่านั้น ๖
กันแดด กนั หวิ นา้ำ สวมสบาย ไมต่ อ้ งซอื้ หา ไมก่ ัด ใช้จดและวาดภาพส่งิ ที่พบเห็น ใสอ่ ุปกรณ์อนื่ ๆ บันทึกภาพทีน่ ่าสนใจ ใชด้ เู สน้ ทาง ใชด้ ูนกและสง่ิ ทีอ่ ยู่ไกลๆ เคล็ดลับนกั สาำ รวจ นกั สาำ รวจที่เก่งกาจมกั เป็นนกั อ่าน ไม่ว่าจะเปน็ หนงั สอื ป้ายบอกทาง และปา้ ยข้อมลู ต่างๆ ๗
‘แผนท่ี’ เปน็ ของสำาคญั สำาหรบั นกั สำารวจ ก่อนออกเดินทาง เราควรรู้ก่อนวา่ จะไปทไ่ี หน ด้วยเสน้ ทางใด มีอะไรเป็นจดุ สงั เกต สมุทรสาครมรี ปู ร่างบนแผนที่เป็นส่ีเหล่ยี มผนื ผ้า แบ่งเปน็ ๓ อาำ เภอ คือ อำาเภอเมืองสมุทรสาคร อาำ เภอกระทุม่ แบน และอำาเภอบา้ นแพว้ มเี พือ่ นบา้ นทางเหนอื เป็นจังหวัดนครปฐม ทางตะวันออกเปน็ กรุงเทพฯ ทางตะวันตกเปน็ สมุทรสงคราม และราชบรุ ี ส่วนทางใตเ้ ปน็ อ่าวไทย มแี มน่ ำ้าทา่ จีนเปน็ เสน้ เลือด สาำ คญั ไหลผ่านเลี้ยงเมือง เป็นขอ้ มูลเบ้ืองต้นที่บอกบุคลิกลกั ษณะของจงั หวดั ไดด้ ี ‘เมืองประมง ดงโรงง�น ล�นเกษตร เขตประวตั ศิ �สตร์’ เป็นคาำ ขวัญท่ีพอจะบอกเราได้เบอ้ื งตน้ วา่ สมุทรสาครทำาอะไร มอี ะไรเป็นของดีประจาำ ถ่นิ เช่นเดียวกบั ตราจงั หวัด รูปเรอื สาำ เภาจนี ทก่ี าำ ลังแลน่ อย่ใู นน้ำา ดา้ นหลังมปี ล่องไฟ ก็ยอ่ มสอื่ ความหมายถึงคนจนี การคา้ ขาย และโรงงาน แตล่ ะอำาเภอในสมทุ รสาคร แบง่ ออกเปน็ ตาำ บล ชอ่ื ของสถานท่มี ักบอกถึงลักษณะบางอย่างเสมอ อาจเป็นสภาพของพ้นื ที่ พชื พรรณหรือ ชนิดของสัตวท์ ่พี บมากในบรเิ วณนน้ั หรอื นยั ทางประวตั ิศาสตรแ์ ละเหตกุ ารณ์สำาคัญทเ่ี กดิ ข้ึน เช่น ตำาบลทา่ จีน เคยเปน็ เมืองทา่ ทมี่ คี นจีนมาคา้ ขาย ตาำ บลนาดีอาจปลกู ข้าวได้ผลผลติ มาก หรือตาำ บลคลองมะเดอ่ื ก็มีตน้ มะเดื่ออย่มู ากด้วย ๘
อาำ เ อไห ีตำา ลอะไ แต่ละชอ่ื ่าจะ ีที่ าอ ่างไ ถึงเ าจะเค ได้ ิ กั จ คุ้ เค แตใ่ ค ู้จักท่ี าของตาำ ล ชอ่ื แ ลกๆ เหลา่ ้ี ้าง : ทา่ ฉลอ โก กก าก กาหลง างก ะเจา้ างโท ดั า้ แ ว้ เจด็ ิ้ว อาำ แ ง กก ะ ตั ก ะทุ่ และห องกกไข่ ลองถา ้เู ฒา่ แู้ ก่ท่ีอ ู่อาศั ใ ทอ้ งถิ่ า า จ ู้จักท่ี ากั ดีไห ถไ สา ้า แหล ( ่ังทา่ ฉลอ ) เชื่อ ถงึ แ ก่ ลอง จ.ส ทุ สงค า ค ก ุงเท ฯ และ หาชั ไ าหาสู่กั ได้ทุกวั ด้ว ถไ สา วงเวี ใหญ่ – หาชั ใ เวลา ๑ ช่วั โ ง หนงั สอื น่าสน นามเนือ่ งเมืองสาครบรุ ี รวบรวมโดย อาจารย์สมพงษ์ เชาวนแ์ หลม รวบรวมทม่ี าของช่ือบ้านนามเมอื งของตำาบลตา่ งๆ ในสมุทรสาคร หอ้ งสมุดของโรงเรียนเรามีไหม ๙
เ ราะสมุ รสาครโชค มี ี ‘ส�มน้ำ�’ คือ ำ้าจื (แม่ ้าำ ) ำ้าเคม็ ( ะเล) และ ้ำากรอ่ ย ( ำา้ จื เจอ า้ำ เคม็ ) อยู่ ว้ ยกั รรมชา ิจงึ กอ่ ร่างสรา้ งแ ่ ิ สมุ รสาครอย่าง ่าอัศจรรย์ ิ แ ่ีมแี ม่ ำา้ ไหล ่า มี ื ิ ่ีเกิ จาก โคล ะกอ แม่ ำ้า ั มเ ิ่ า แ มยังมรี อย อ่ ำ้าจื สม ำ้าเค็มอย่าง ้ี จงึ มีความอุ มสม รู จ์ ากแร่ า อุ าหารอยา่ งเหลอื เ อื เ ็ แหลง่ อาหารของ สั ว์ ะเล า าช ิ ูเ ิ ๆ อาจจะเหมอื ๆ กั แ ่ ื ิ ของสมุ รสาครไมไ่ ้ เ ็ ิ ช ิ เ ยี วกั ั้งหม อ ของจังหวั เ ็ ิ า ลูก ชื ัก ลไมข้ ้ึ งอกงาม ส่ว าง อ ลา่ ง เ ็ ิ เคม็ เ ราะอยู่ ิ ชาย งั่ เลี้ยง ลา ำ้ากร่อยกไ็ ้ าำ สว มะ รา้ วก็ ี ๑๐
ถ้าหากแ ่ ดิ เ ็ สง่ิ ีชวี ติ แ ่ า้ำ ทา่ จี ท่ีไหล า่ ส ุท สาค จากเห อื ลงใต้ ออกอ่าวไท าว ๗๐ กโิ ลเ ต ก็เ ็ เห ือ เส้ เลือดใหญท่ ่สี ่ง าำ้ และอาหา หล่อเล้ี ง อวั วะ อ ๆ โด ีลำาคลองอกี าว ๑๗๐ สา เ ็ เห ือ เส้ เลือด อ ลาำ เลี ง ำ้าสู่ไ ่ า ชา ั่งทะเลและ ิ แ ่ ำา้ แถว ากอ่าวไท ี า่ ไ ข้ ้ึ ห าแ ่ แ ้ า่ ไ ข้ องที่ ไ่ี เ่ ห อื า่ เู ขา ท่ี าคเห ือ แต่ ่าชา เล ของส ทุ สาค ทเ่ี ต็ ไ ดว้ ไ ห้ า้ ตาแ ลกๆ สำาคญั ต่อชวี ติ ุษ ์ และสตั ว์ตา่ งๆ ไ แ่ ้ ่าทอ่ี ่ื ใ โลกเล าง ุ ของเ ือง ัง ลอด ั อทสี่ ตั วเ์ ล็กๆ เช่ กเขาไ ไดอ้ าศั อ ่างอิส ะและไ ่ถกู กว ตน้ ไมแ้ ละสตั ว์ประจำาจังหวัด ต้นสตั บรรณ ไมม้ งคลของจงั หวดั เป็นไม้พน้ื บา้ นไทย ส่วนหอยพิมเปน็ หอยหายาก แต่พบมากในสมทุ รสาคร ๑๑
ถา้ ไดเ้ ดินเข้าไปแล้ว เราจะพบวา่ ปา่ ชายเลนเปน็ ป่ามหศั จรรย์ ร่มเย็น เขียวขนัด สงบเงียบ แต่มีความเคลอ่ื นไหว และมีเสยี งแปลกๆ! ปา่ ชายเลนเป็นท่ีอยขู่ องพชื และสตั ว์ท่ีปรับตัวเกง่ จะบกกไ็ ม่บก จะน้ำากไ็ ม่นา้ำ เดีย๋ วมีคลน่ื เดยี๋ วมีลม ดินก็เละ มอี อกซิเจนนอ้ ย แถมยังเคม็ ๆ อกี ตน้ ไม้และสตั ว์ที่อาศยั อยูท่ ่นี ีจ่ ึงตอ้ งปรบั ตวั ใหเ้ กง่ กาจ และบางที ก็มีหน้าตาแปลกประหลาดไม่ซ้าำ ใคร เพอ่ื ให้มชี ีวิตอยู่ได้ดี ตน้ ไม้ที่นีจ่ งึ มลี กั ษณะพเิ ศษ ถ้าไมม่ ีรากใหญแ่ ตกแขนงออกมา คา้ำ ยันอย่างต้นโกงกาง กม็ ีรากหายใจโผลข่ น้ึ จากดนิ มารับออกซิเจนอย่างแสม มใี บอวบๆ ไว้เกบ็ นำ้าจดื อยา่ งลาำ แพน ลาำ พู โกงกาง หรือไม่ก็มตี อ่ มขบั เกลอื อยา่ งเหงอื กปลาหมอ ป่าชายเลนเปน็ บ้านของสตั วห์ ลากหลาย เชน่ ลงิ แสม นาก คา้ งคาว งู กงิ้ กา่ เตา่ จระเข้ ผเี สอ้ื กลางคืน หงิ่ ห้อย ฯลฯ สว่ นลูกกุง้ หอยปูปลา วยั ออ่ นได้อาศัย หลบภัย ได้กนิ อาหาร และเตบิ โต อยา่ งปลอดภัยท่ีน่ดี ว้ ย ๑๒
เห็ ไดง้ า่ ย เห็ อ่ ยๆ ต้อง ลาตี ลาตี มหี ลายช ดิ างช ดิ มจี ุดสี ้า างช ิดมจี ดุ สเี หลอื ง หรือไม่กแ็ ถ ดาำ ขาว แตข่ ้ึ ช่อื ว่าเ ็ ลาตี อกจากจะว่าย ำา้ ได้แลว้ ก็ยงั ใชค้ รี ห ้า ยุงตัวเดิ ได้ กระโดดได้ า้ ง และ ี ต้ ไม้ไดด้ ว้ ย เสยี งแ ลกๆ ดังเ าะๆๆ หาที่มาไม่เจอ เ ็ เสยี งของกุ้งดดี ขั มู้ ีก้ามใหญ่ ิเศษ ๑ ข้าง ดีดดงั ๆ อกอาณาเขต า่ ชายเล เหมือ า่ อื่ ๆ ตรงท่ีเ ็ แหล่ง ลติ ออกซิเจ ใหเ้ ราหายใจ แต่ท่ี เิ ศษกว่ามากๆ กค็ ือเ ็ อ้ ม ราการ อ้ งกั ชาย ั่ง งั ทลาย อ้ งกั คล่ื ลม และ อก ำา้ สก รก ใหส้ ะอาด น่ไี มใ่ ช่เรือ่ งเล่นๆ ซะแล้ว! ก็ในปี ๒๕๑๘ สมุทรสาครยงั มีปา่ ชายเลนต้งั แสนกวา่ ไร่ ผ่านไปถงึ ปี ๒๕๓๖ ปา่ ลดเหลือแค่ ๑๐,๐๐๐ ไร่ นอ้ ยลงไปตงั้ ๑๐ เทา่ เพราะคนบุกรกุ ผา่ นไปเกือบ ๒๐ ปี ตอนน้ีจะเหลอื เทา่ ไหรก่ ัน ๑๓
ย้อนกลับไปสัก ๕๐๐ ปีก่อน ชาวโปรตเุ กสทเ่ี ขา้ มาใน แผน่ ดนิ สยามสมยั อยธุ ยาไดร้ ูจ้ กั ช่ือ ‘บ�้ นท่�จนี ’ เมอื งท่าแสนคึกคกั มีเรอื ชาวมลายู และเรือสาำ เภาใหญข่ องชาวจีนมาจอดเพอื่ คา้ ขาย ต่อมาเปลยี่ นชื่อเปน็ เมือง ‘ส�ครบรุ ’ี สมยั พระมหาจักรพรรดิ ถงึ รชั กาลที่ ๔ ก็เปลย่ี นเป็น ‘สมุทรส�คร’ หมายถงึ เมืองแห่งทะเลและแมน่ ำา้ แตถ่ า้ ย้อนกลบั ไปไกลแสนไกลถึง ๑๐,๐๐๐ ปีกอ่ น ท่ตี รงน้ียงั เปน็ ทอ้ งทะเลอ่าวไทย ธรรมชาติใช้เวลานานจริงๆ ถงึ จะถม กน้ ทะเลใหก้ ลายเป็นแผน่ ดนิ ได้อย่างท่ีเหน็ ในยคุ น้!ี เป็นชอื่ ท่เี รยี กติดปากแทนตัวเมอื งสมุทรสาคร มหาชัยเปน็ ชอื่ ตาำ บลหนง่ึ ในอาำ เภอเมือง ซึ่งเรยี กตามชือ่ ‘คลองมห�ชัย’ หรือ คลองโคกขามทถี่ ูกขุดในสมัยพระเจ้าเสือแห่งกรงุ ศรีอยธุ ยา ตาำ บลทา่ ฉลอมเป็นสุขาภิบาลแห่งแรกของประเทศไทย ในสมยั รัชกาลท่ี ๕ เปน็ ตวั อย่างการปรบั ปรุงเมอื ง ให้สะอาดและเปน็ ระเบียบเรยี บร้อย ๑๔
ตอ้ งขอ คณุ ความอุดมสม รู ณ์ของทรั ยใ์ ดิ สิ ใ ำา้ ูค้ จงึ ไดท้ าำ มาหากิ หลากหลาย สมุทรสาครจึงเ ็ จงั หวดั ท่ี คู้ มีรายได้ตอ่ หวั ต่อ ีสูงเ ็ อั ดั ๒ ของ ระเทศ รองจากระยอง ชาวตะวั ตกเ ็ ช ชาติชอ จด ั ทกึ และ วาดแ ที่ เ ื่อรู้จกั ดิ แด ทส่ี าำ รวจอยา่ ง ละเอยี ดถี่ถ้ว เ ็ ระโยช ์หลายทาง ค ไทยเองก็ไดเ้ รยี รู้จากเอกสารโ ราณ เหล่า ั้ วา่ ภูมิ ระเทศใ ยุค ้ั เ ็ อย่างไร ชาวต่างชาตมิ องเราอยา่ งไร แ ที่วาดโดยวิศวกร ชาว รงั่ เศส ี้มอี ายกุ วา่ ๒๕๐ ีแล้ว แสดงทต่ี ้ังของ ้า ทา่ จี (Taquin) ดว้ ย แwวาผwดนwโทด.ี่ยgCeAJoaRgcTrqaEupDehsUicNuCsicO.coUolaRmsS/BmDeUmlliMn5/EgNraApMhicDse/p0u00is0S0i0a0m1./LJu/Bsqanug’àkolak-bMeelrl.in-1749.jpg มหาชัย & แมก่ ลอง ใครๆ มักเปรยี บสมุทรสาคร (มหาชัย) เปน็ เมอื งพ่ีนอ้ งกับสมุทรสงคราม (แม่กลอง) เพราะท้งั สองจงั หวัดน้ีมพี ื้นทเ่ี ป็นเรือกสวนลุ่มนา้ํ เหมอื นกนั มแี ม่นํา้ สําคัญและคลองมากมายไหลผ่าน เหมอื นกัน มีปากอ่าวเปน็ หาดโคลนเชน่ เดยี วกัน และเคยมปี า่ ชายเลนอุดมสมบูรณ์เหมือนกัน ๑๕
ตง้ั แตโ่ บราณกาล เมือ่ คนไทยสร้างบ้านแปงเมอื งแลว้ จะยกเสาหลกั เมอื งขน้ึ เพอ่ื เปน็ รากฐานและสิรมิ งคล คู่บา้ นเมอื ง ประชาชนมีขวญั มีกำาลงั ใจดาำ เนินชีวิต และทาำ มาหากินด้วยจติ ใจอันมน่ั คง บ้านเมืองผาสกุ หลักเมืองและศาลเจ้าพ่อหลักเมอื งสมทุ รสาคร ตั้งอยู่บรเิ วณปอ้ มวิเชยี รโชฎก ริมแมน่ ำา้ ทา่ จนี สร้างจากไม้ชัยพฤกษ์ โดยไดไ้ ม้มาจาก อ.สงั ขละบรุ ี จ.กาญจนบรุ ี และ อ.น้าำ โสม จ.อุดรธานี มีเส้นผ่าศูนย์กลาง ๕๐ ซม. และสูง ๒.๘ เมตร รปู เจ้าพ่อหลักเมอื งหรือ ‘เจ�้ พ่อวเิ ชียรโชต’ิ แกะสลักบนไม้ตน้ โพธิ์ ต้ังอย่ภู ายในศาลเจ้าพ่อ หลกั เมือง เปน็ เครื่องยดึ เหนี่ยวจติ ใจของคน สมทุ รสาคร ทกุ ๆ ปีจึงมีการแห่เจา้ พอ่ หลกั เมือง ไปรอบเมืองมหาชัยทัง้ ทางนาำ้ และทางบก ๑๖
เป็นเกง๋ จีนสร้างใหมแ่ ทนศาลเดิมท่ีสร้างสมยั รชั กาลที่ ๓ ภายในมงี านแกะสลักและภาพวาดศิลปะจีนท่ีวิจิตรงดงามมาก โดยเฉพาะซุ้มไมร้ ปู ต้นไม้ มังกร หงส์ สงิ โต ชา้ ง และนก เสามงั กร และลายปูนปนั้ นูนตา่ำ รูปเซียนดา้ นหน้าศาล เปน็ หนงึ่ ในป้อมตามหัวเมืองที่มีทางออกสูท่ ะเล สรา้ งขึน้ ในสมัยรชั กาลท่ี ๓ โดยพระยาโชฎึก ราชเศรษฐี (ทองจนี ) มีปนื ใหญโ่ บราณ ตง้ั เรยี งราย แตล่ ะกระบอกมรี อยสลัก ปี ค.ศ. ที่น่าจะเป็นปีผลิตแตกตา่ งกนั ไป เจา้ เมอื ง สมยั กอ่ นเจ้าเมืองเปน็ ผูท้ พี่ ระมหากษตั รยิ ์ แต่งตง้ั ข้นึ เพ่ือดูแลทกุ ขส์ ุขและสร้างความ เป็นธรรมแก่ประชาชน สมัยรชั กาลที่ ๑ เจา้ เมืองท่าจีนไดบ้ รรดาศักด์ิเป็น ปัจจบุ ันเจา้ เมอื งกค็ อื ตาำ แหนง่ นั่นเอง ๑๗
คนตา่ งถนิ่ จะรูจ้ กั ถิน่ ทีต่ นไปเยอื นได้ไมน่ อ้ ยจากตลาดสด ตื่นเชา้ ๆ ไปดวู ่า ตลาดสดของเมอื งมีอะไรขายบ้าง ก็จะร้วู ่าทีน่ ี่มีข้าวปลาอาหาร อุดมสมบูรณ์ขนาดไหน มอี ะไรเปน็ สนิ คา้ หลัก บ้านเมืองร่าำ รวย หรือสมถะ คกึ คกั หรอื สงบเสง่ียม ตลาดท่ีอาจนับเปน็ ตวั แทนของมหาชยั ได้คงหนไี ม่พ้น ตลาดมหาชยั ต้ังอย่บู รเิ วณสถานีรถไฟตดิ ตอ่ กนั ไปจนถึง ตลาดแม่พ่วงและตลาดแมเ่ น้ย ขายอาหาร ผัก ผลไม้ คกึ คกั เหมือนตลาดทว่ั ไป แตท่ โี่ ดดเด่นก็คงเปน็ อาหาร ทะเลทัง้ สดและแหง้ ใต้ท้องทะเลมีสตั วอ์ ะไรอย่บู ้าง จึงเรียนรู้ไดจ้ ากท่นี ี่ ๑๘
อาหารทะเล เอกลกั ษณ์มหาชัย แช่แข็งเปน็ อาหาร ราคาแพงข้ึนทกุ ที เพราะถูกจับจนลดนอ้ ยลงเรอื่ ยๆ ปัจจบุ นั มีราคา ๖๐๐ บาทตอ่ ครึ่งกโิ ลฯ ปลาทหู น้างอคอหกั ของข้ึนชื่อของสมทุ รสงคราม ก็มมี าขายที่ตลาดมหาชัย สถานมี หาชยั สะอาดกว่าน้ไี ด้ไหมนะ ใครเคยไปคงไดเ้ ห็นกับตา คำาถามนี้มีไวใ้ ห้ลองคิดดู เผอ่ื ใครรู้วา่ จะต้องทำาอย่างไร ๑๙
สมุทรสาครไดช้ ื่อวา่ มีความเชีย่ วชาญทางการประมงมาก เป็นศนู ย์กลางการค้าอาหารทะเลและแปรรูปอาหารทะเล ของเมอื งไทย ทุกวันมีรถบรรทกุ หอ้ งเยน็ จากทวั่ ประเทศ วงิ่ เข้าออกเพ่ือซอ้ื ขายกุ้งหอยปปู ลา ทเี่ ป็นอยา่ งนั้นได้ นอกจากจะเป็นเพราะการเป็นเมือง อยูต่ ดิ ทะเลแล้ว ชาวสมทุ รสาครยงั ได้ชื่อวา่ เช่ยี วชาญดา้ นการ ต่อเรือและเดนิ เรอื อยา่ งหาตวั จับยาก นอกเหนอื จากตลาดต่างๆ ในมหาชัยแล้ว ยงั มี สะพานปลาอกี ๓ แห่ง ท่ีเปน็ แหลง่ ซอื้ ขายประมลู ปลาขนาดใหญ่ ได้แก่ สะพานปลาเทศบาล สะพานปลาสมทุ รสาคร และตลาดทะเลไทย ‘เรือมห�ชยั ’ นับเปน็ ภูมปิ ัญญาท้องถิน่ ที่ ถา่ ยทอดจากช่างฝมี ือชาวจีนจากรนุ่ สู่รุ่นนาน ร่วม ๑๐๐ ปี มลี ักษณะเฉพาะคอื เปน็ เรือไม้ ท่ีทาำ จากไมต้ ะเคยี นและไม้ประดดู่ ้วยฝมี อื ประณตี เดยี๋ วนีไ้ ม้ทใ่ี ชต้ อ่ เรือหายากขน้ึ ทกุ ที อู่ตอ่ เรือแบบดั้งเดิมในมหาชัยจึงเหลอื ไม่กี่แหง่ ๒๐
เรือประมง เม่ือใช้ไป ๑ - ๒ ปี กต็ ้องนาำ ข้นึ มา ตรวจสภาพและซ่อมแซม โดยถูกนาำ มา ‘ข้ึนค�น’ และอยูอ่ ยา่ งน้นั ไปจนกระท่งั ซอ่ มแซมเสร็จ และมี ‘ส�ล่ี’ มารับออกไปลงน้าำ ขึ้นคานยังใชเ้ ปรยี บเปรยถึงผู้หญิงที่ ไมแ่ ตง่ งานเหมือนเรืออยูบ่ นคาน เพราะในอา่ วไทยเหลอื ปลาน้อยลง จงึ ทำาให้เรือประมงจากมหาชัย ตอ้ งออกหาปลาไปไกลถึงทะเลอนั ดามนั มหาสมุทรอินเดยี เวยี ดนาม พมา่ กระท่ังถงึ แอฟรกิ า ลองคดิ ดู แม้การทำาประมงจะเป็นอาชพี สาำ คญั แตก่ ารทำา ประมงเกนิ ขนาดเช่นในทกุ วันนี้ กำาลงั ทาำ ใหป้ ลาและสตั ว์ทะเล หลายชนิดสูญพนั ธุ์ เม่อื เทยี บกับ ๑๐๐ ปีกอ่ น ทอ้ งทะเลท่วั โลกมปี ลาลดลง ไปถึง ๖ เทา่ ในขณะที่ประชากรโลกเพ่มิ ขนึ้ ๔ เท่า ๒๑
สง่ิ เหลา่ นพ้ี บเหน็ ไดท้ น่ี ่ี สมทุ รสาคร รไู้ หมว่าอะไรอยู่ไหนบ้าง ๒๒
๑. ศาลพนั ท้ายนรสิงห์ ต.โคกขาม อ.เมือง ๒. โรงงานกะปิหลังคามุงจาก ต.ทา่ ฉลอม ๓. ปล่องเหล่ียม เตาไฟโรงงานนา้ำ ตาลทรายโบราณ อ.กระทุ่มแบน ๔. ป้อมแสดงแผนท่ี มีทั่วไป โดยเฉพาะในเมอื งมหาชยั ๕. หอนาฬิกา ทา่ เรอื รบั ลม มหาชัย ๖. กระถางต้นไม้บนถนน ต.บางหญ้าแพรก ๗. เสาไฟนางเงือก วัดโกรกกราก ริมนาำ้ ทา่ จีน ๘. วงเวยี นน้าำ พุ หนา้ เทศบาลเมืองสมทุ รสาคร ๙. เสาไฟแบบตา่ งๆ ๙.๑ เสาเรือประมงบนถนน ต.บางหญา้ แพรก ๙.๒ เสาพันทา้ ยนรสงิ ห์ ต.โคกขาม ๙.๓ เสาสำาเภาทอง วดั ช่องลมและหน้าบ้านศลิ าสวุ รรณ ๑๐. ถนนเขียวขจีและคนข่ีจกั รยาน อ.บ้านแพว้ ๒๓
โดยท่ัวไ โ สถว์ ิหารท่เี รา เห็ มกั เ ็ โ สถก์ อ่ อิฐถือ ู แตท่ าำ ไมวัด างแหง่ ใ มหาชัยถึงมโี สถท์ ่ีสรา้ งจากไม้ ชา่ งโ ราณ สู้ ร้างโ สถใ์ เมืองทต่ี งั้ แถ ากอา่ วตดิ ทะเลอยา่ งสมทุ รสาคร สมุทรสงคราม หรือเ ชร รุ ีร้ดู ีว่า ดิ ริมแม่ ำ้าติด ากอ่าวแ ี้เ ็ ดิ เล เละเหลวๆ รั ำา้ ห ักอฐิ ู ไม่ไหว แถมสมยั ก่อ ยังไม่มีการตอกเสาเขม็ จึงหาทางออกด้วยการสรา้ งโ สถเ์ ็ ไม้ เ ราะไม้เ ากวา่ ท ลม และท ้ำาเค็ม ทีท่ ว่ มถงึ ได้ดอี ีกด้วย ตงั้ อยรู่ มิ แม่ า้ำ ท่าจี ใกล้ ากอา่ วไทย ตัวโ สถเ์ ็ ไมส้ กั ทรงไทย หลงั คามุงกระเ ้ืองและมเี สาไม้กลมรองรั มี ระตเู ขา้ ออกด้า ห ้าและด้า หลัง ังเ ็ า ะก ห า้ ั เรีย ช่องลม ระดั ลายไมฉ้ ลุงดงาม ๒๔
ทงั้ หลวงพ่อปู่ - พระประธานในโบสถ์ และรปู หลวงปกู่ รับ อดีตเจ้าอาวาสวดั โกรกกราก ในวิหารข้างโบสถต์ ่างใส่แวน่ ตาดำาทมี่ คี นมาถวาย ด้วยความศรัทธา เพราะเคยมคี นบนบานขอให้ อาการเจบ็ ป่วยท่ดี วงตาหายขาด จากน้ันจงึ มีผู้นิยม นาำ แว่นตามาถวายสืบมา วัดแหลมสุวรรณารามมีโบสถไ์ ม้สกั เก่าแกเ่ หมือนกนั แตม่ ลี ักษณะการ ก่อสร้างท่ตี ่างกนั ออกไป น่นั คือมลี าย ปนู ปัน้ ประดับทหี่ น้าต่าง ผนงั ด้านนอก มีปูนปน้ั พระพทุ ธรูป ปูนปนั้ นนู สูง โดยรอบ ทห่ี น้าบนั มปี นู ป้นั รูปพญานาคประดบั กระเบ้ือง ชา่ งสวยงามจริงๆ ทำาไมวดั น้ีถงึ ชอ่ื โกรกกราก สืบเสาะขอ้ มูล หนงั สือบางเล่มใหเ้ หตผุ ลวา่ เป็นเสียงของ การพดู คุยสอบถามกับพระสงฆห์ รอื เคร่อื งมอื ป่นั ดา้ ยเพื่อทาำ อวนจบั สัตวน์ าำ้ ในชุมชน ผูเ้ ฒ่าผแู้ กเ่ กี่ยวกบั ประวัตคิ วามเปน็ มา ชาวประมงในละแวกน้ัน แตท่ ี่ปา้ ยภายในโบสถ์ และชื่อของวดั จะทาำ ใหน้ ักสำารวจ กลบั บอกถงึ ท่มี าที่แตกต่างออกไป ไดข้ ้อมูลสนุกๆ เพม่ิ เตมิ มากขนึ้ อยากรู้ไหมว่าคอื อะไร ๒๕
ที่ ั โ ราณวัตถุและโ ราณสถา เ ็ ‘ของดี’ ก็เ ราะ อกจากจะงดงาม อกถึง ีไม้ลายมอื ของชา่ ง ้สู ร้างสรรคแ์ ลว้ ของดีเหล่า ี้ยงั เ ็ รอ่ งรอยเชื่อมโยงถงึ อดีต ให้ค จั จุ ั ไดเ้ ข้าใจถึง คู้ และ า้ เมอื ง ใ ยคุ กอ่ ดว้ ย สมทุ เรราสเคาคยไรปเปท็น่ีไหเมนือมงาทแี่มลีข้วอบง้าดงีอยู่ไม่น้อย ๒๖
เดาดเู ล่นๆ ๒๗ คนสมุทรสาครนบั ถอื ศาสนาไหนมากท่ีสุด เฉลย คนสมุทรสาครนบั ถือศาสนาพุทธมากทส่ี ุด รองลงมาเปน็ ศาสนาคริสต์ และอิสลาม ตามลำาดบั
แม้ช่ือจะคล้ายกนั ‘นกแอน่ ’ กบั ‘นกน�งแอน่ ’ กเ็ ป็นนกต่างชนดิ กนั และมีวิวฒั นาการแตกต่างกัน ‘นกแอน่ กนิ รัง’ ถกู ตั้งชื่อแบบนเ้ี พราะรังของมันกนิ ได้ พ่อแม่นกใชเ้ วลาสรา้ งรังนานกวา่ เดอื น เพ่ือวางไข่ และเลยี้ งลกู โดยทว่ั ไปนกชนิดนี้จะทาำ รัง ตามถำ้าในภาคใต้ ในวิหารหลวงป่แู ก้ว วดั สทุ ธวิ าตวราราม หรือวัดชอ่ งลม มนี กแอ่นกนิ รงั เปน็ พันๆ ตวั มาทาำ รังอยู่ นกฝูงนี้เรม่ิ ต้น มาอาศยั อยู่ทวี่ ดั ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๒ ในสมัยหลวงปแู่ ก้ว (พระเทพสาครมุน)ี เป็นเจา้ อาวาส ประกาศทมี่ ขี อ้ ความบอกวา่ ทางวดั ไม่เก็บรังนกไปขาย เวน้ แต่จะเปน็ รังเกา่ ที่ถูกแมน่ กท้งิ แลว้ ๒๘
ถูกปล่อยออกมาคร้งั แลว้ ครงั้ เล่าเพอื่ ทำาเปน็ รัง คน เช่อื วา่ รงั นกเป็นอาหารบำารงุ ชน้ั เลศิ จงึ เก็บรังของนกไปขาย พอรังถูกเกบ็ ไป พ่อแมน่ ก ตอ้ งสร้างรังใหม่อีกครงั้ แล้วครง้ั เล่า จากรงั สขี าวรุน่ แรกก็กลายเป็นสีแดงเพราะมเี ลือดปน เปน็ ตกึ แถวแปลกๆ ท่ไี ม่มีหนา้ ต่าง คนสร้างขึ้นและหลอกให้นกมาอยู่ ดว้ ยการเปิดเสียงนกท่บี ันทกึ ไว้ สำารวจเพมิ่ เตมิ อ่านเรื่องของนกแอน่ แหง่ วดั ชอ่ งลม แบบเตม็ ๆ ไดท้ ่ี www.chonglom.com ลองคิดดู ถา้ เราอยากแขง็ แรง เราจะเลอื กกินอาหารใหค้ รบ ๕ หมู่ ออกกำาลังกาย และนอนใหเ้ พยี งพอ แทนการกินรงั นกได้ไหม ๒๙
ความท่ีสมทุ รสาครเป็นเมอื งชายฝัง่ ทำาเลดี บ้านเมอื งสงบสขุ ท่ีนี่จึงเป็นดินแดนแหง่ ความหลากหลายเชื้อชาติ คนจีน มอญ และลาวโซ่งร่นุ ก่อนท่ีหนีภยั สงครามและความลาำ บาก ในบา้ นเกดิ เมืองนอนมาตั้งถ่ินฐานและขับเคลื่อน ประวตั ิศาสตรต์ ลอดมา คนจีนเปน็ คนต่างถนิ่ ท่ีบุกเบิก ‘บ้�นท่�จีน’ มีบนั ทึกในประวตั ิศาสตรม์ าตั้งแต่ ๕๐๐ ปกี ่อน จนถึงวนั นี้คนไทยเชื้อสายจีนยงั ทำามาค้าขาย ทำาประมง นาสวน ฯลฯ สืบมา ศาลเจ้าและโรงเจมใี ห้เห็นท่ัวไป ในตาำ บลทา่ ฉลอม ก่อสร้างและประดับ ตกแตง่ ด้วยศลิ ปะแบบจีน ๓๐
เปน็ เรือนขนมปังขงิ ไม้สักทองเก่าแกอ่ ายุ ๙๐ ปี ของตระกลู ศิลาสวุ รรณ ตน้ ตระกลู เป็นคหบดี ชาวจีนทาำ กจิ การโป๊ะและน้ำาปลา ตัง้ อย่บู น ถนนถวาย หน้าบ้านปอู ิฐแบบฟนั ปลา จำาลองจากถนนถวายในสมยั รชั กาลท่ี ๕ ประเพณไี มไ่ ดม้ แี ตค่ วามสนุกสนานหรือจรงิ จัง ผ่านทางประเพณี เชน่ กนิ เจ ไหว้เจา้ เช็งเมง้ แหเ่ จา้ พอ่ หลกั เมอื ง เราจงึ ไดเ้ ขา้ ใจถึงคณุ คา่ ทีช่ าวไทยเชือ้ สายจนี ใหค้ วามสำาคญั เชน่ ความกตญั ญู ความเมตตากรุณา ความเอ้อื เฟอื้ เผือ่ แผ่ และความสามัคคี ผสมผสานกลมกลนื ๓๑ แมจ้ ะเป็นโบสถ์ไทย แตช่ า่ งชาวจีนก็สามารถ ผสมผสานศิลปะจีนได้อยา่ งกลมกลนื สถาปัตยกรรมที่ได้รบั อทิ ธพิ ล จากศลิ ปะจนี มีให้เหน็ ไดท้ ั่วไป ในสมทุ รสาคร
แทบจะแยกไมอ่ อกเลยวา่ ใครเปน็ ไทย ใครเปน็ มอญ เพราะเรามีหนา้ ตาเหมอื นๆ กนั ลกู หลานมอญรูด้ ีวา่ ป่ยู ่าตาทวดชาวมอญเดินทางไกล มาอาศัยอย่ใู นสมทุ รสาครเม่อื เกือบ ๒๐๐ ปีกอ่ น และคอ่ ยๆ ทยอยอพยพเขา้ มาอกี หลายระลอก มอญมภี าษาพูด และอักษรเขียนเปน็ ของตนเอง ทั้งมอญและไทยอยูก่ ันไดอ้ ยา่ งกลมกลนื เพราะมวี ถิ ชี ีวิต อปุ นิสัย และประเพณีคล้ายคลงึ กัน ทส่ี าำ คัญชาวมอญเล่ือมใสศรทั ธา ในพุทธศาสนาเหมอื นคนไทย วัดมอญจึงมใี ห้เห็นอยู่ท่วั ไป ในสมทุ รสาครมวี ดั มอญประมาณ ๓๐ แหง่ เสาหงส์ วดั ไหนเป็นวัดมอญสงั เกตได้จาก : ( แธะ-หยา่ ง-บ่าบ) วัดมอญทกุ แหง่ มี เสาหงส์เป็นเอกลกั ษณ์ พระพทุ ธรูป ศาลชุมชน ธงตะขาบ ( กยา้ จก์-ตรวั ) ( ฮอ็ ย-ปา-โหนก) ( โหน่) เป็นท่สี ักการะของชาวบ้าน เอกลักษณค์ กู่ ับเสาหงส์ ศิลปะมอญ พระเจดยี ์ ( กยา้ จก์-เจ-ตอย) ทรงมอญปา้ นกวา่ เจดีย์ไทย ๓๒
ในขณะท่มี อญกับไทยมปี ระเพณหี ลายอย่างคล้ายกัน เชน่ สงกรานต์ เข้าพรรษา โกนจกุ แต่กม็ ีอกี หลายอยา่ งท่ี แตกต่างออกไปเป็นเอกลกั ษณ์ เชน่ ประเพณีลา้ งเท้าพระ ชว่ งออกพรรษา ตักบาตรนำา้ ผ้งึ สรา้ งเสาหงส์ และการรำาผี เปน็ ต้น หญิงชาวมอญจะเกลา้ มวย สวมเสอื้ แขนทรงกระบอก นุ่งผา้ นงุ่ ( แกะ-หนน่ิ ) และหม่ สไบ ( หยาด-โดด๊ ) อาหารยอดนยิ มของใครๆ เช่น ขนมจีน ข้าวแช่ ที่จรงิ แล้วเปน็ อาหารมอญ คนมอญกนิ ขา้ วกับแกงคล้ายคนไทย แต่แกงมอญด้ังเดมิ ไมใ่ สก่ ะทิ เช่น แกงเลยี ง แกงป่า แกงมะตาด ฯลฯ ไมเ่ ล่นตกุ๊ ตา เดก็ ๆ มอญไม่เลน่ ตุ๊กตา เพราะเช่อื กันว่า คนโบราณนิยมใชต้ กุ๊ ตาทาำ พิธเี สียกบาล จึงไมค่ วรนาำ ตุ๊กตามาเลน่ ๓๓
ไม่วา่ เราจะชอบหรอื ไม่ สมุทรสาครกเ็ ป็น ‘ดงโรงง�น’ จริงๆ อยา่ งท่ีคำาขวัญวา่ ไว้ เพราะมีโรงงานมากมายเกือบ ๕,๐๐๐ แหง่ พุ่งพรวดมากกวา่ เม่ือ ๑๐ ปกี อ่ นเกิน ๒ เท่า และมโี รงงาน เปิดใหมร่ าว ๒๐๐ แห่งทุกปี ทำาไมใครๆ ก็มาเปิดโรงงานทน่ี ลี่ ่ะ ความทส่ี มทุ รสาครเปน็ จงั หวัด ‘ปรมิ ณฑล’ อยตู่ ดิ กับกรงุ เทพฯ มเี สน้ ทางการขนส่งถนนหนทาง ทส่ี ะดวกสบาย และมเี หตผุ ลเหมาะสมอีกหลายอย่าง ทาำ ใหโ้ รงงานมาต้ังอย่ทู ี่นีม่ ากมาย ในปี ๒๕๕๒ อาำ เภอทม่ี ีโรงงานตั้งอยู่ มากท่สี ุดคือ มหาชัย (๒,๖๓๗ แห่ง) รองลงมาคอื กระทุ่มแบน (๑,๙๗๒ แหง่ ) และนอ้ ยท่สี ดุ คือ บ้านแพ้ว (๑๐๒ แห่ง) ๓๔
ส่วนใหญม่ ักเป็นโรงงานท่ผี ลิตสงิ่ ของ เชน่ ทอ่ โลหะ เหลก็ โครงสร้าง พลาสตกิ กระดาษ เสือ้ ผา้ สำาเร็จรูป เป็นต้น และเพราะสมทุ รสาครเป็น ‘เมืองประมง’ โรงงานท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั อาหารทะเล จึงมีมากมายเป็นพเิ ศษ ต้ังแต่การเกบ็ สตั ว์นำ้า หอ้ งเย็น โรงงานทำาปลาแชแ่ ขง็ ปลาป่น ทำาปลากระปอ๋ ง แปรรูปอาหาร ตลอดจนผลิตกระป๋องด้วย พนักงานในโรงงานมักแต่งตวั เหมอื นๆ กนั เดนิ เขา้ ออกจากโรงงานเป็นร้อยๆ คน แตเ่ ราไม่รู้วา่ เขาทาำ อะไร ส่งิ ท่พี อจะ บอกเราได้ครา่ วๆ วา่ โรงงานไหนทาำ อะไร กค็ อื ชอ่ื ของโรงงาน แคอ่ า่ นดปู า้ ย เราก็พอจะรวู้ า่ โรงงานน้ผี ลติ อะไร เช่น ช่ือโรงงานท่ีมีคาำ วา่ ‘ห้องเย็น’ หรอื ‘อ�ห�ร’ แตโ่ รงงานไม่น้อยมกั ใชช้ ื่อเป็นภาษาอังกฤษ เช่น การเ์ มนต์ (Garment) โฟรเซ่น (Frozen) แคน (Can) สตีล (Steel) ไวเนอรี่ (Vinery) พริ้นติง้ (Printing) จากร่องรอยทางภาษา เรารู้ไหมว่า โรงงานไหนทำาอะไร อยากรูเ้ พ่มิ เติม ตดิ ตามไดท้ ่ีน่ี เฉลยศัพทโ์ รงงาน www.samutsakhon.go.th ดทู ี่ การ์เมนต์ = เสอื้ ผ้า/ส่งิ ทอ โฟรเซน่ = แช่แข็ง/หอ้ งเยน็ แคน = กระปอ๋ ง/ทาำ อาหารกระป๋อง สตีล = โลหะ/เหลก็ ไวเนอรี่ = ทำาไวน์ พรนิ้ ต้งิ = ส่งิ พิมพ์ ๓๕
ความท่ีสมุทรสาครมงี านให้ทาำ มากมาย แต่ไม่คอ่ ยมี แรงงานไทยทาำ แรงงานต่างถน่ิ ท่ีมาจากประเทศเพอื่ นบ้าน เชน่ พมา่ ลาว กัมพูชา จึงนยิ มเข้ามาทำางานท่ีนี่ แตท่ ม่ี มี ากท่ีสุดคอื แรงงานจากประเทศพมา่ หรือเมียนมาร์ ท่ีหนีภัยสงคราม การกดขีข่ ม่ เหง และความยากจน ในประเทศ โดยหวังว่าจะมชี วี ติ ที่ดกี วา่ ไมน่ า่ เชื่อวา่ ผ้ใู ชแ้ รงงานทถ่ี กู เรียกว่า ‘พม่า’ กลับมีพม่าจรงิ ๆ อยู่ นอ้ ยมาก ส่วนใหญ่เปน็ ชาวมอญทอ่ี าศยั อยู่ใกล้เขตชายแดน ทีเ่ หลอื เปน็ ชนชาตกิ ะเหรี่ยง ไทยใหญ่ เป็นต้น เม่ือมีแรงงานต่างถ่ินเข้ามาอาศัยมาก ก็ไม่แปลกเลยทจ่ี ะต้องมีปา้ ยภาษาพมา่ ตดิ อยู่ตามรา้ นคา้ ตโู้ ทรศพั ท์ คลนิ กิ และทสี่ าธารณะทว่ั ไปเพือ่ คนตา่ งเมอื ง ๓๖
วดั ศรีบรู ณาวาสหรอื วดั โคก เป็นหน่ึง ในวัดมอญเกอื บ ๓๐ แหง่ ของสมทุ รสาคร เป็นแหลง่ รวมใจของคนไทยมอญ และแรงงานชาวมอญ โดยเฉพาะ ในเทศกาลสงกรานตแ์ ละเขา้ พรรษา ใชว่ ่าจะทำางานไดท้ กุ อยา่ ง แรงงานต่างถ่นิ ถกู จำากดั ให้ ีมควรอยสกั มามไี วหเ้ มตาอื ยนวใ่าจน‘ส้ี ู้’ ทำางานได้แค่ ๑๐ อาชพี นนั่ คือ ประมง กิจการต่อเน่อื งจาก ประมง (เช่น แพปลา ห้องเย็น ฯลฯ) เกษตร โรงสีข้าว โรงทาำ อิฐ ทำาน้าำ แขง็ ขนถา่ ยสนิ ค้าทางน้าำ กอ่ สรา้ ง เหมอื งแร่ และลกู จ้างในครวั เรอื น อยู่ไกลบ้านแตก่ าย ใจยังคิดถงึ อาหารและข่าวสาร จากบ้านเกิด รา้ นขายของชำาและรา้ นอาหารท่มี ีสินคา้ และกับข้าวทีค่ ุน้ เคย ทำาให้คนต่างถ่นิ ใช้ชวี ติ ทีค่ ุน้ เคย ไดต้ ามสมควร ข่าวสารจากบ้านเกิด ไมว่ ่าจะเปน็ ขา่ วนักรอ้ งยอดฮติ หรือข่าวผูน้ าำ ทางการเมือง ทวี ดี าวเทียมก็เชอ่ื มโยงคนหา่ งบ้าน ใหร้ ู้สกึ ใกล้ชดิ จากแผ่นดินเกดิ ไดด้ ที ้ังนัน้ ๓๗
ค เราอยู่ไมไ่ ้ า้ ขา เกลือ ความ ีเ่ กลอื เ ็ แร่ า ุห ึ่ง ใ ร่างกาย แ มยงั ึ่ง าเกลอื ใ กิจการ ่างๆ อีกมากมาย ้งั แ ่ รงุ รสชา แิ ละ อมอาหาร จ ึงกลั่ ำา้ มั และ ำา เ ยี ม แ ก่ ่อ ชาว าเกลอื สมุ รสาครหลายร้อยครอ ครัว เคย ลิ เกลอื สมุ รไ ้มากมาย งึ ร้อยละ ๗๐ ของ ่ี ลิ ง้ั ระเ ศ เ ี๋ยว ้ีเหลือเ ยี งไม่ก่ี ้า ี่ยังยื หยั ำา าเกลอื อยู่ แมเ้ กลือสมุ รจะมคี วาม รสิ ุ ิ์ไม่มากเ า่ เกลอื สิ เ าว์ ของภาคอีสา แ ก่ ลั มแี ร่ า สุ ำาคัญ อ่ ร่างกาย เ ็ สว่ ระกอ อยู่ ว้ ย โ ยเฉ าะไอโอ ี เ ีย๋ ว ห้ี าเกลือสมุ รไ ้ยากขึ้ ุก ี มีแ เ่ กลอื สิ เ าว์ (เ มิ ไอโอ ี ) ครอง ลา รู้ไหมวา่ เกลือใ ครัว และ โ ะ๊ อาหารของเราเ ็ เกลือช ิ ไห ๓๘
การ าำ าเกลือ ั้ ไม่ รรม าอย่าง ี่เห็ าเ ลา่ ้องอาศยั ความรู้ความเช่ยี วชาญของชาว าเกลอื ี่สื อ กั มา จงึ จะ ลิ เกลอื สมุ รไ ้ หลงั หม ฤ ู ชาว าเกลือ ้อง อั ื ิ ให้แ ่ ว้ ย ร ิ ลูกกล้ิง แลว้ จงึ ไข ำ้า ะเลเขา้ มา ากใ วงั ขัง ้ำา และ าชั้ ่างๆ งั้ แ ่ า ระเ ยี า าก ารองเชือ้ าเชือ้ และไ ้เมล็ เกลอื ่ี า ลง จาก ้ั จึงร้ือเกลือ ลอมเ ็ ลูก ้ิงใหส้ ะเ ็ ำ้า และข เขา้ ไ เก็ ใ ยงุ้ ฉาง เรียนรเู้ รอ่ื งนาเกลือ เปน็ แหลง่ เรยี นร้ทู ถี่ ่ายทอดภูมปิ ญั ญา การทำานาเกลอื จากคนรุ่นก่อน ใหค้ นรุ่นหลังไดเ้ รยี นรู้ และอยู่แบบโฮมสเตย์ ๓๙
นกอพยพ หายาก เมือ่ ใครสักคนเร่มิ ดนู ก เขากจ็ ะใสใ่ จความสขุ ของนก จนไมอ่ าจจบั นก ใส่กรงขังไวใ้ กลต้ ัวได้ และเพราะอยากให้นกท้ังหลายอยสู่ บายดี คนรักนกจึงสนใจ สภาพถ่ินอาศยั ของนก ท่ีไหนที่มอี าหารอดุ มสมบรู ณ์ มีที่อาศัย ปลอดภัย ทาำ รังและเลย้ี งลูกได้ ไมถ่ กู มนุษยล์ ่าหรอื รบกวน พวกนกกจ็ ะอยู่ได้อย่างมีความสขุ นกอพยพและนกอพยพผา่ น สมุทรสาครเปน็ บ้านของนกชายเลนใกลส้ ญู พันธ์ุ หายาก เช่น นกชายเลนปากช้อน (เหลอื ไม่ถึง ๔๐๐ ตัว ทวั่ โลก) และนกอกี หลายชนิด นกประจาำ ถิน่ และนกอพยพ พบบ่อย ๔๐
นกอพยพผ่าน หายาก นกอพยพ หายาก กเ็ พราะทน่ี ่มี ีอาหารมากมาย น้าำ ทะเลท่ถี กู ไขเข้ามาในนาเกลือ มีสตั วท์ ะเลตวั เล็กๆ และแรธ่ าตุ อุดมสมบรู ณ์ จนเปน็ ภัตตาคาร และโรงแรมชั้นดขี องหม่นู ก นกอพยพ หายากมาก ชมรมอนุรกั ษธ์ รรมชาติโคกขาม ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เป็นแหลง่ ดูนกและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับนกชายเลน โทร. ๐๘๗ ๐๘๒ ๘๔๘๑, ๐๘๗ ๐๘๒ ๘๔๘๖ ๔๑
้า แ ว้ ชา่ งเ ็ อาำ เภอ เ่ี ขียวขจี และเงยี สง เสียจริง เ ราะดิ ดีของ ้า แ ว้ ำาให้อำาเภอเลก็ ๆ แหง่ ้เี หมาะกั การ าำ าและ ลูก ืช ัก ลไม้ มะ ร้าว า้ำ หอม องุ่ มะ าว มะมว่ ง รงั่ ุ รา มะขามเ ศ แก้วมังกร สม้ เขียวหวา มังคดุ ละมดุ กลว้ ยหอม ลาำ ไย และชม ู่ ลว้ เ ็ ลไม้ข้ึ ชอ่ื ของจังหวดั ใ อดตี า้ แ ้วเคยเ ็ ่ารกชัฏ มสี ตั ว์อย่างเก้ง เสอื จระเข้ หมู ่า ค เ่ี ขา้ มาล่าสัตว์ใ า่ จึง าำ เสา งมี ้า กู ไว้ ี่ ลายเสา เรยี กว่า ‘แพว้ ’ เ ่อื ใหส้ งั เกตง่าย คลองดาำ เ ิ สะดวก ี่ ่า อำาเภอ า้ แ ว้ ยังเ ็ เส้ างสญั จร ่ี คู้ ิยมใชอ้ ยจู่ กุ วั ี้ แม้แต่ าคารและห ่วยงา ราชการ ยังหั ห า้ เข้าหาคลอง ๔๒
เฟอื่ งฟ้าและดอกไม้นานา เบ่งบานเต็มที่รมิ ทางเล็กๆ ทีท่ อดไปตามลำาคลองและเรือกสวน ช่ืนใจผ้ปู ลูกและผูช้ ม ตลาดเกา่ แก่บ้านแพ้ว มสี ินคา้ อปุ โภคบริโภค พร้อมพรง่ั ใหเ้ ลอื กซอื้ ใกล้บา้ น สะดวกสบายและเปน็ กนั เอง นอกจากผลไม้แลว้ บ้านแพว้ ยังข้นึ ช่ือเรอ่ื ง การปลกู กล้วยไมไ้ มแ่ พ้ อำาเภอกระทุม่ แบนทเี ดียว หลายเช้อื ชาติ บ้านแพ้วมคี นหลายเชอ้ื ชาติทง้ั ไทย จนี มอญ และลาว อาศยั อยู่ดว้ ยกัน และทำาสวนไร่นาเหมือนๆ กนั ๔๓
ยงั มใี ครคดิ ว่าวาฬกบั โลมาเป็นปลาอยบู่ า้ งไหมนะ ทง้ั สองเป็นสัตว์เลีย้ งลกู ดว้ ยนมเหมอื นพวกเรา แต่อยู่ในทะเล และออกลกู เปน็ ตัว การทอ่ี ่าวมหาชัยกม็ วี าฬและโลมา ซงึ่ เปน็ สตั ว์ทะเลหายากและใกลส้ ูญพนั ธ์อุ าศยั อยู่ แสดงว่าบริเวณน้ียงั มอี าหารให้พวกมนั กิน ที่ไหนที่มสี ัตวห์ ลายชนิดท้ังเล็กและใหญ่ อาศัยอยดู่ ้วยกัน ทนี่ ่ันยอ่ มอุดมสมบูรณ์ น่าดใี จทีอ่ ่าวมหาชยั มีวาฬและโลมาให้ชม วาฬท่ีเขา้ มาหากนิ อาหารในอ่าวไทยชว่ งเดอื น พฤศจิกายนถงึ กมุ ภาพันธค์ ือ วาฬบรูดา้ เม่ือโตเต็มที่ มีขนาด ๑๔ - ๑๕ เมตร ชอบกนิ แพลงก์ตอน ลกู กงุ้ ลูกปลา มกั เห็นนกทะเลอยา่ งนางนวลมารว่ มวงกินปลากบั เขาด้วย ส่วนโลมาท่ีพบมากแถบนคี้ ือ โลมาอริ ะวดี พบได้ตลอดปี ขนาด ๒ - ๒.๕ เมตร วา่ ยนำ้าชา้ และชอบโผลห่ ัวเหนอื นำา้ นอกจากทำานาเกลือและเป็นแหลง่ ดูนกแลว้ โคกขามยังเป็นแหล่งชมโลมาของสมทุ รสาครอีกด้วย ๔๔
ชว่ งหลงั มานีเ้ รามกั ไดย้ นิ ขา่ วโลมาตายบอ่ ยๆ อาจเปน็ เพราะน้ำาเสยี ทปี่ ล่อยลงอ่าวไทย มลพิษจากการ ขนส่งถา่ นหนิ ตดิ อวน หรอื ถูกเรือเฉีย่ วชน นอกจากน้ี ในอา่ วไทยยังมีการสำารวจหาน้ำามนั ปโิ ตรเลียม ด้วยการใช้ คลน่ื ไหวสะเทือน ซ่ึงเปน็ อันตรายต่อโลมาและวาฬ ถึงข้ันทำาให้ แก้วหูแตก และตายได้ โลมา เตา่ และสัตว์ทะเลจำานวนมาก ตอ้ งตายเพราะเผลอกนิ ถุงพลาสตกิ และขยะท่ีถกู ทิง้ หรอื พลดั ไปกบั นำา้ และลม กอ่ นตายมันตอ้ งทนทกุ ขท์ รมาน เพราะย่อยพลาสตกิ ไม่ได้ และขาดอาหารตายในทีส่ ุด เหลอื นอ้ ยแลว้ แมอ้ า่ วมหาชัยยังมีโลมาอยู่ แตก่ เ็ หลอื เพยี ง ๒๐ - ๓๐ ตัว เทา่ น้ัน โลมาจงึ นับเปน็ สตั ว์ เส่ียงต่อการสูญพนั ธ์ุที่ต้องช่วยกนั คมุ้ ครอง ๔๕
ท้องถิ่นแต่ละแห่งลว้ นมีคนสำาคญั ทท่ี าำ ประโยชน์ และสร้างแรงบนั ดาลใจแก่ผู้คนจำานวนมาก ผใู้ หญ่เหล่านี้ตา่ งก็เป็นคนสำาคญั ที่มาจากจงั หวัดสมุทรสาครทง้ั น้ัน น่าสงั เกตว่าสมุทรสาครเปน็ จังหวดั ที่มศี ิลปนิ นกั แต่งเพลง นักประพนั ธ์ อยหู่ ลายคนทเี ดยี ว เป็นเพราะอะไรนะ วา่ แต่เราพอจะร้จู ักใครในนีบ้ า้ งไหมละ่ ๔๖
เกรียงศกั ด์ิ ชมะนนั ท์ : ก�ำ พล วัชรพล : นายกรฐั มนตรีคนท่ี ๑๕ ผูก้ ่อตัง้ หนังสอื พิมพ์ไทยรฐั (พ.ศ. ๒๔๖๐ - พ.ศ. ๒๕๔๖) (พ.ศ. ๒๔๖๒ - พ.ศ. ๒๕๒๙) ชาวตำาบลมหาชัย ชาวตำาบลดอนไก่ดี อำาเภอเมอื งสมุทรสาคร อำาเภอกระทุ่มแบน ช�ลี อนิ ทรวจิ ิตร : ฉลอง ภ่สู ว�่ ง : ศิลปนิ นักแต่งเพลง ศลิ ปนิ นกั แตง่ เพลง (พ.ศ. ๒๔๖๖ - ) (พ.ศ. ๒๔๘๑ - ) ชาวตาำ บลท่าฉลอม ชาวตำาบลบางโทรดั อำาเภอเมอื งสมุทรสาคร อาำ เภอเมืองสมทุ รสาคร ธ�นินทร์ อินทรเทพ : ช�ติ กอบจิตติ : ศลิ ปนิ นักร้อง นักแสดง นกั เขยี นรางวัลซีไรต์ ชาวตาำ บลมหาชยั (พ.ศ. ๒๔๙๗ - ) อำาเภอเมืองสมุทรสาคร ชาวคลองสุนัขหอน ตำาบลบา้ นบ่อ อำาเภอเมอื งสมุทรสาคร ใครแตง่ นะเพลงน้ี “พี่อยไู่ กลถึงทา่ ฉลอม แต่พไี่ ม่ตรอมเพราะรกั พยอมยามยาก...” เพลงท่าฉลอม เปน็ เพลงดงั สมัยกอ่ นที่ไพเราะมาก และทาำ ให้คนทวั่ ประเทศได้รจู้ ักทา่ ฉลอมกับมหาชยั รู้ไหมว่าใครในหน้านท้ี เ่ี ป็นผปู้ ระพันธเ์ นื้อรอ้ ง (ตอบ = ชาลี อนิ ทรวิจิตร) ๔๗
๔๘
Search