Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิเคราะห์สังคมไทยและสังคมโลก

วิเคราะห์สังคมไทยและสังคมโลก

Description: วิเคราะห์สังคมไทยและสังคมโลก

Search

Read the Text Version

วเิ คราะหส์ ังคมไทยและสังคมโลก

วเิ คราะหส์ ังคมไทยและสังคมโลก จัดทำ�โดย โครงการพัฒนาภาวะการนำ�ดว้ ยพทุ ธกระบวนทัศน์ มลู นธิ ิเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีป ๒๕๖๒ สนับสนนุ โดย สำ�นกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.)

สารบัญ ภาคประชาสงั คมในเอเชยี ใต้และตะวันออกเฉยี งใต้ 4 ภาคประชาสงั คมในเอเชียตะวนั ออก 1 อิสลามในสถานการณ์โลกปัจจุบนั 3 วเิ คราะหท์ นุ นิยม สงั คมนิยม และสงั คมนยิ มประชาธิปไตย 6 เสรีนยิ มใหม่ 7 แนวคิดต่อตา้ นทนุ นยิ ม 8 สังคมนิยมประชาธิปไตย(Social Democracy) 9 ขบวนการทางสงั คม 10 ระบบอาหาร 12 กระบวนการฝังตัวในจติ และกายของตลาดแบบเสรนี ยิ มใหม ่ 13 เงินและสถาบันการเงิน 13 การจดั ตั้งชุมชนส่กู ารเคลอ่ื นไหวทางสงั คม 17 แนวคิดทางเลอื ก 21 ทัศนะแนวพุทธของสลุ ักษณ์ ศิวรักษ์ 23 ทศั นะแนวขงจอ๊ื ใหม่ โดย ตู้ เวย่ หมงิ (Tu Wei-ming) 24 แนวคดิ แบบคานธแี นวใหม่ (Neo-Gandhian) 25 ความสขุ มวลรวมประชาชาต ิ 26

ภาคประชาสงั คมในเอเชยี ใต้และตะวนั ออกเฉียงใต้ อนิ เดยี การตอ่ สู้ของอินเดยี เรมิ่ มาต้ังแตข่ บวนการเคลื่อนไหวของคานธที ่ตี ่อสู้ จนไดอ้ ิสรภาพจากอังกฤษ หลังจากนนั้ ในทศวรรษที่ ๑๙๗๐ ขบวนการภาคประชาสังคมจึงเกิดขน้ึ เพอื่ เคล่ือนไหวเรือ่ งการเมอื ง วรรณะ เพศสภาพ สิง่ แวดล้อม สิทธิพลเมอื ง ฯลฯ กรณีท่ีประสบความสำ�เรจ็ อย่างมากคอื การต่อตา้ นปัญหาคอรปั ชัน่ ท่ีนำ�โดย อันนา ฮาซาเร่ (Anna Hazare) นักเคลอื่ นไหวสายคานธี อนั นาอดอาหารประทว้ งจนกดดนั ให้ รัฐบาลดินเดียยอมปรับปรุงร่างกฎหมายปราบปรามปญั หาคอรปั ชนั่ ให้เข้มขน้ ขน้ึ ใน พ.ศ. ๒๕๕๔ การต่อสู้ เติบโตเป็นขบวนการภาคประชาสังคม ทำ�ให้ปญั หาคอรัปช่นั ได้รบั ความสนใจทั้งทก่ี อ่ นหนา้ นคี้ นอนิ เดยี ไมเ่ คย กล่าวถงึ เลย อยา่ งไรก็ตาม ความท้าทายของภาคประชาสังคมยงั มอี กี มาก ปัญหาคอรัปช่นั ยงั คงอยู่ ความ เหล่ือมลำ�้ ระหวา่ งคนรวยกับคนจนมากขน้ึ เรอื่ ยๆ แม้เศรษฐกิจเติบโตอยา่ งรวดเรว็ แตจ่ ำ�นวนชาวนาไรท้ ดี่ นิ และคนวา่ งงานกลบั เพ่มิ มากขนึ้ สิงคโปร ์ คือประเทศทีย่ งั อยู่ในระบอบอำ�นาจนยิ มแมจ้ ะประสบความสำ�เร็จในด้านเศรษฐกจิ รฐั เข้มงวดมาก และอำ�นาจครอบง�ำ ประเทศยงั อยู่ในมอื ชนช้ันน�ำ ขบวนการภาคประชาสังคมยังไมเ่ ขม้ แขง็ นกั มาเลเซีย เปน็ อกี ประเทศหน่ึงในเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใตท้ ีมีปัญหาคอรปั ชัน่ ขดั แย้งทางเช้อื ชาติ เพราะคนใน ประเทศมีทง้ั คนมาเลย์ จนี และอินเดีย เศรษฐกจิ สว่ นใหญ่อย่ใู นมอื คนจนี แต่อำ�นาจทางการเมืองอยใู่ นมอื ชนช้นั น�ำ ที่มเี ช้อื สายมาเลย์ รฐั ค่อนขา้ งจ�ำ กัดบทบาทของภาคประชาสงั คม ฟิลิปปินส์ ยังอยใู่ ตร้ ะบอบอ�ำ นาจนิยมเชน่ กัน แตข่ บวนการประชาชนเข้มแข็ง สหภาพแรงงาน กลุ่มชาวนา นักศึกษา และโบสถ์ต่างๆ ร่วมมอื กนั ต่อสจู้ นสามารถโคน่ ล้มอดตี ประธานาธบิ ดเี ฟอร์ดินานด์ มารก์ อส ได้ ส�ำ เรจ็ 1

ลาว แม้ลาวปกครองด้วยระบอบสังคมนยิ มคอมมิวนสิ ตแ์ บบรวมอ�ำ นาจเขา้ สู่ศนู ยก์ ลาง (ลาวเรียกวา่ เป็นระบอบประชาธิปไตยประชาชน) แตใ่ นอดตี รฐั อยูใ่ นเขตเมอื งอยูห่ า่ งจากประชาชนท่ีอยใู่ นชนบทมาก บวก กบั ยงั ไมม่ ีเคร่ืองมือส่ือสารท่ีมปี ระสทิ ธทิ มี่ ปี ระสิทธภิ าพ อ�ำ นาจรัฐจงึ ยังไม่ครอบง�ำ ไปถึงท้องถ่ิน หมู่บา้ นต่างๆ ปกครองตนเองได้อย่างอิสระ ภาคประชาสังคมในลาวเนน้ ท่ีการท�ำ งานเพือ่ พัฒนาคุณภาพชีวิตและสง่ เสรมิ การศึกษา ไมไ่ ด้ ทา้ ทายรัฐบาล จนกระท่ังโลกาภิวัตน์เขา้ มาและลาวตัดสนิ ใจเดนิ ตามรปู แบบทุนนยิ มที่ควบคมุ โดยรัฐของจนี ลาวเรม่ิ หารายไดโ้ ดยขายทรพั ยากรธรรมชาติ อตุ สาหกรรมแปรรปู ผลผลติ การเกษตร และสัมปทานท่ดี นิ จาก นั้นการสง่ เสริมพลงั ชมุ ชนก็เริม่ เป็นปญั หาในสายตาชนชน้ั นำ�ของประเทศ งานเวทีภาคประชาชนเอเชีย-ยุโรป (Asia-Europe People’s Forum – APF) ท่กี รงุ เวยี งจนั ทน์ เมอื่ พ.ศ. ๒๕๕๕ องค์กรภาคประชาสงั คมจาก หลากหลายประเทศได้ร่วมพดู คุยถงึ ปญั หาทรพั ยากรส่ิงแวดล้อมและปญั หาการยอ้ื แยง่ ทีด่ ิน หลังการประชุม ครงั้ นน้ั สมบตั ิ สมพร ผู้ทำ�งานดา้ นการศกึ ษาและภาคประชาสงั คมในลาวถูกลกั พาตัวและยังไม่พบตัวจนถงึ ทกุ วนั นี้ นนั่ เองคือจดุ ทที่ �ำ ใหข้ บวนการภาคประชาสังคมในลาวหยุดน่ิง ไม่มใี ครกล้าเคลอ่ื นไหวในประเดน็ ที่ขดั แยง้ กบั รฐั นักกิจกรรมทางสังคมหันไปทำ�งานกับกลุ่มเอน็ จโี อต่างชาตแิ ละท�ำ งานบริการสงั คมเป็นหลัก ปัญหา คอรัปชั่นยงั รนุ แรง ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนยังกว้างมาก นอกจากนี้ ยังมีปญั หาท่มี าจากอทิ ธิพลของ จีน เมอ่ื จีนมนี โยบายสง่ เสรมิ ใหค้ รอบครวั มีบุตรคนเดียวและครอบครัวมักเลือกมลี กู ชายจนปญั หาความไม่ สมดลุ ของจ�ำ นวนประชากร เพศชายมีมากกวา่ เพศหญิง คนจีนจงึ หาผู้หญิงลาวไปแตง่ งานดว้ ย เมียนมาร์ เมยี นมารก์ ำ�ลงั อยูใ่ นช่วงเปลี่ยนผา่ นไปส่คู วามเปน็ ประชาธปิ ไตยมากขนึ้ แต่ความขัดแย้งทาง ชาตพิ ันธุ์ทเ่ี รอ้ื รงั มาตง้ั แต่ ๕๐-๖๐ ท่แี ล้วยังคงรุนแรงอยู่ กองทพั อ้างเรอ่ื งชาวโรงฮงิ ญาเพื่อเปน็ เหตุให้มีอ�ำ นาจ เหนอื พรรคสนั นิบาตแห่งชาติเพ่อื ประชาธิปไตย (National League for Democracy หรือ NLD) ท่ีเป็นพรรค รฐั บาล สรา้ งความชอบธรรมแก่บทบาทและอ�ำ นาจของทหาร ใช้อดุ มการณ์ “ชาตนิ ยิ ม” เป็นเคร่อื งมอื สร้าง การสนับสนนุ จากประชาชน รวมถงึ ผ่านกฎหมายคุ้มครองเช้ือชาตแิ ละศาสนา นอกจากนี้ ยังปล่อยใหค้ ณะ สงฆก์ ลุม่ “มะ บ๊ะ ตะ๊ (Ma Ba Tha) และขบวนการ ๙๖๙ กลมุ่ ชาวพทุ ธชาตนิ ิยมสดุ โตง่ ต่อต้านและท�ำ ร้าย ชาวโรฮิงญากับชาวมสุ ลิมกลมุ่ อน่ื ๆ สถานการณข์ องประเทศจึงราวกับกลับไปอยู่ในยุคขบวนการต่อตา้ น จักรวรรดนิ ิยมอีกครัง้ และดเู หมือนว่าทหารคอื ผู้อย่เู บ้ืองหลงั ขบวนการชาตินยิ มหัวรุนแรงเหล่านี้ 2

ส่วนงานเพอ่ื สังคม เอน็ จโี อสากล เอน็ จโี อท้องถ่นิ และขบวนการภาคประชาสังคมตา่ งมบี ทบาท สำ�คญั ในการชว่ ยเหลือคนในระดบั รากหญา้ ให้เข้าถึงความจ�ำ เป็นขน้ั พืน้ ฐาน เสริมสร้างความเช่ือมนั่ และ ปกป้องสทิ ธิตา่ งๆ อยา่ งไรกต็ าม รัฐยงั น�ำ วาทกรรมเร่ือง “การกอ่ การรา้ ย” และการปกป้องพุทธศาสนามาใช้ เปน็ ข้ออา้ งละเมิดสิทธมิ นุษยชนของประชาชนอยูเ่ สมอ ดังนน้ั งานสำ�คัญอกี ประการในเมยี นมารท์ ่ีจ�ำ เปน็ ต้องผลกั ดันคือ การให้การศกึ ษาทมี่ ีคุณภาพแกป่ ระชาชนพลเมอื ง เพื่อใหต้ ระหนกั ถึงความส�ำ คญั และสาเหตุ ของปัญหาเหล่าน้ี ภาคประชาสงั คมในเอเชียตะวันออก ไตห้ วนั บรหิ ารประเทศด้วยนโยบายประชานิยมมาตั้งแตท่ ศวรรษท่ี ๑๙๗๐ กอ่ นการเลือกต้งั แต่ละครง้ั มกั จะมปี ระเด็นเกยี่ วกบั อตั ลักษณท์ างเชอื้ ชาตขิ องผรู้ ับสมคั รเลอื กตง้ั เช่น เกิดท่ไี ตห้ วนั หรอื เกิดทแี่ ผนดิน ใหญ่ เหน็ ด้วยกบั การเป็นอิสระของไต้หวันหรือต้องการใหร้ วมกับจีนแผ่นดนิ ใหญ่ เปน็ ตน้ ผ้คู นมกั ถกกันดว้ ย ประเดน็ เหล่านีม้ ากกว่าประเด็นเชิงนโยบาย พรรคหลกั ๒ พรรคของประเทศ คอื พรรคประชาธิปไตยก้าวหนา้ (Democratic Progressive Party หรอื DPP) และพรรคชาตินิยมจนี หรอื พรรคกก๊ มินต๋งั (The nationalist Kuomintang หรือ KMT) เองกย็ งั ใชว้ ธิ กี ารแบบประชานิยมหาเสียงเชน่ กนั ภาคประชาสงั คมในไตห้ วันจงึ มัก ท�ำ งานเพอ่ื ตอ่ ตา้ นแนวคิดน้ี จีน ไมม่ อี งค์กรภาคประชาสงั คมมานานกวา่ ๒ ทศวรรษ จนกระทัง่ เปิดประเทศและปฏริ ูปเศรษฐกิจ ภายใตก้ ารนำ�ของเติง้ เสยี่ วผงิ ใน พ.ศ. ๒๕๒๒ นำ�มาสกู่ ารปฏิรูปทางการเมืองด้วยเพราะเติง้ เช่อื วา่ โครงสร้าง แบบอำ�นาจนยิ มจะท�ำ ใหก้ ารปฏิรูปเศรษฐกิจไมม่ ปี ระสทิ ธิภาพ จงึ กระจายอ�ำ นาจรฐั มากขึ้น ภาคประชา สงั คมเกิดขึ้นมาเมื่อกลางทศวรรษท่ี ๑๙๘๐ การปฏิรปู เศรษฐกจิ ท�ำ ให้เกิดชนช้นั กลางมากขึ้น แต่ก็ท�ำ ให้ช่อง วา่ งระหว่างคนรวยและคนจนกว้างมากขนึ้ ด้วย นักศกึ ษาและปัญญาชนทีไ่ มเ่ ห็นด้วยกบั รฐั เร่มิ รวมกลุม่ จนนำ� ไปสกู่ ารชมุ นมุ ทจ่ี ตั ุรสั เทียนอนั เหมินเพอื่ ตอ่ ตา้ นพรรคคอมมวิ นสิ ต์ เรียกร้องประชาธปิ ไตย ใน พ.ศ. ๒๕๓๒ และเกดิ เหตุการณน์ องเลอื ดขน้ึ 3

เหตุการณน์ ้ที �ำ ใหร้ ัฐละทง้ิ แนวทางปฏิรปู การเมอื งและหันกลับควบคุมประชาชนอยา่ งเข้มงวด ภาค ประชาสังคมหยุดชะงกั เอ็นจโี อสากลหลายกลมุ่ ยา้ ยออกจากประเทศ จนกระทัง่ จนี ตอ้ งการพัฒนาเศรษฐกิจ ไปอกี ขน้ั รัฐหันมาใช้ระบบเศรษฐกิจแบบตลาดและแปรรปู รฐั วสิ าหกจิ ต่างประเทศเขา้ มาลงทุนมากข้นึ จงึ ทำ�ให้เอน็ จีโอสากลกลับมาทำ�งานทจ่ี ีนอกี ครั้งหลัง พ.ศ. ๒๕๓๘ ขบวนการภาคประชาสงั คมกลบั มาฟืน้ ตัวอกี ครั้ง แต่อยู่ภายใตก้ ารควบคมุ อย่างใกลช้ ิดและมอี สิ ระนอ้ ยกวา่ เอน็ จีโอจากต่างประเทศ เอน็ จโี อ องค์กรภาค ประชาสงั คมในทอ้ งถน่ิ ต้องลงทะเบยี นกับรัฐซง่ึ มขี น้ั ตอนยุง่ ยาก องคก์ รเหลา่ นไ้ี ดร้ บั การตง้ั ชอื่ ว่า “GONGOs” (Government-Organised Non-Governmental Organisations หรอื องค์กรพฒั นาเอกชนทจ่ี ัดการโดยรฐั ) หลงั เกิดเหตุการณ์แผน่ ดินไหวครงั้ รนุ แรงทเี่ สฉวนเมอื่ พ.ศ. ๒๕๕๑ เอน็ จีโอมีบทบาทสำ�คัญในการช่วยเหลือ ผู้ประสบภัย รัฐจงึ เล็งเห็นว่าคนกลุม่ นส้ี ามารถชว่ ยงานไดใ้ นแงก่ ารบริการสงั คมและสงั คมสงเคราะห์ เอน็ จี โอท้องถน่ิ จึงจดทะเบียนได้ง่ายข้ึน อย่างไรก็ตาม หลงั เหตกุ ารณ์การลุกฮอื ของประชาชาชนในอาหรบั (Arab Spring) ทำ�ใหร้ ัฐจนี เกดิ กลวั ขน้ึ มาวา่ ภาคประชาสังคมอาจมพี ลงั อำ�นาจมากและเอ็นจโี อท่ีได้รับเงินสนบั สนนุ จากตะวนั ตกอาจรับแนวคดิ มาต่อสู้กบั รฐั บาล จีนจงึ หันมาควบคมุ โดยให้เงินสนบั สนุนองคก์ รสงั คมสงเคราะห์ และองคก์ รการกศุ ล เพือ่ จะได้ข้ึนกบั รฐั และไมต่ อ้ งรับแนวคิดมาจากตะวันตก รวมท้งั ควบคมุ เอน็ จโี อตา่ งชาติ มากข้นึ ปัจจบุ นั มแี นวโน้มใหมก่ ำ�ลงั เกดิ ขน้ึ ในจีน นั่นคือองคก์ รไม่แสวงหาก�ำ ไรเปล่ียนไปเปน็ ผูป้ ระกอบ การมากข้ึน คนกลุม่ น้ใี ช้แนวทางธรุ กิจมาจดั การกับปญั หาสังคม สว่ นหนงึ่ รับจ้างงานจากรัฐบาลมาท�ำ (outsource) กระแสทเ่ี กดิ ข้ึนใหมน่ ีเ้ รียกวา่ “กระบวนการท�ำ ใหง้ านเพอื่ สงั คมเข้าส่รู ะบบตลาด” เมือ่ พรรค คอมมิวนสิ ตจ์ นี อา้ งในหลักสังคมนิยม ภาคประชาสังคมทตี่ ่อสกู้ บั รัฐมักอา้ งอุดมการณท์ ี่ตรงกนั ขา้ มโดยปริยาย จงึ เกิดค�ำ ถามตามมาวา่ คนท�ำ งานเพอื่ สังคมกำ�ลงั ติดกับดกั และถูกหลอกใช้โดยอดุ มการณ์เสรีนยิ มใหมห่ รอื ไม่ ฮอ่ งกง อยู่ใตร้ ะบอบอำ�นาจนยิ ม รัฐควบคมุ กระบวนการทางประชาธปิ ไตยอยา่ งเขม้ งวด หลังอังกฤษสง่ มอบฮอ่ งกงใหจ้ ีนเม่อื พ.ศ. ๒๕๔๐ แม้จีนสญั ญาวา่ จะใหอ้ สิ ระในด้านเศรษฐกจิ และการเมอื ง แต่ระบบอำ�นาจ นิยมของจนี ยงั คงอยู่ ฮอ่ งกงจึงเสมอื นอยใู่ ตอ้ าณานิคมรูปแบบใหม่ จนี ครอบงำ�มากข้นึ เรอ่ื ยๆ จากอ�ำ นาจนยิ ม กลายเปน็ เผดจ็ การเบด็ เสรจ็ นยิ ม (Totalitarian) กล่าวคอื ไมเ่ พยี งแตแ่ ทรกแซงกิจกรรมทางการเมืองเท่านนั้ แต่ ยังควบคมุ ไปถึงกจิ กรรมทางเศรษฐกิจ สงั คม ไปจนถึงระดบั ชวี ติ ประจำ�วันของประชาชน ทง้ั ยงั ใช้อำ�นาจและ ความรนุ แรงกับขบวนการภาคประชาสงั คม สรา้ งความแตกแยกในสงั คม ละเมดิ สิทธิสว่ นบุคคลของประชาชน น�ำ ไปสูค่ วามส้นิ หวงั ของคนท�ำ งานเพอื่ สงั คมและคนร่นุ ใหม่ 4

เกาหลีใต้ ปัจจบุ นั เปน็ ประชาธิปไตยมากขน้ึ ประชาชนเขม้ แข็งและกล้าต่อส้กู ับรฐั นบั ต้ังแต่ขบวนการแชยา (Jaeya) ทีป่ ระกอบด้วยประชาชน นกั ศึกษา ปัญญาชน นักกิจกรรมทางสงั คม ส่ือมวลชน ฯลฯ ได้เรยี กรอ้ งจน รฐั ยอมแกไ้ ขรัฐธรรมนญู และปฏริ ปู การเมืองเม่อื พ.ศ. ๒๕๓๐ ประชาชนเกาหลใี ตก้ ็มีส่วนร่วมทางการเมอื ง มากขึ้นและมีอ�ำ นาจตรวจสอบการท�ำ งานของรัฐ ดังเหน็ ไดจ้ ากประชาชนสามารถนำ�อดีตประธานาธิบดีมา ลงโทษในข้อหาใช้อ�ำ นาจโดยมชิ อบ ปราบปรามประชาชน และคอรปั ชั่นได้ ไมใ่ ชแ่ คอ่ งค์กรภาคประชาสังคมเท่าน้นั ทีส่ ำ�คัญต่อการเปลย่ี นแปลงสงั คม การศกึ ษาคืออีกปัจจยั ทมี่ ีบทบาทมากเพราะเป็นเครอ่ื งมอื ทจี่ ะเปลีย่ นแนวคิดของประชาชนและบ่มเพาะคณุ ค่าความเชือ่ ท่ีดี การ ศึกษาจงึ ต้องสอนใหค้ นรู้จกั ตง้ั คำ�ถามโดยเฉพาะต่อกระบวนทศั น์เก่าๆ ท่เี กย่ี วกบั เศรษฐกจิ การเมือง และการ พัฒนาทมี่ อี ทิ ธิพลครอบงำ�โลกอยู่ทุกวันนี้ การน�ำ ทางใหค้ นรจู้ กั คดิ อย่างมวี ิจารณญาณคือวิธตี ่อสกู้ บั เบ็ดเสร็จ นิยมทคี่ รอบง�ำ ทงั้ ความคดิ และการกระทำ� การเคล่อื นไหวทางสังคมจะไม่ขน้ึ อยู่กับองค์กรอีก แต่จะมาจากการ เคลือ่ นไหวของประชาชนอยทู่ ีป่ ฏบิ ตั ิการตอ่ ตา้ นการครอบง�ำ ของระบบน้ี งานทางสังคมรูปแบบใหม่จึงควรเนน้ ทกี่ ารเปดิ พืน้ ทแ่ี ละสนบั สนุนให้ประชาชนเข้าไปมสี ่วนร่วมในการเมืองโดยตรง อิสลามในสถานการณ์โลกปจั จุบนั (ถอดความจากการบรรยายของ จันทรา มซุ าฟฟาร์) เมือ่ เอย่ ถึงค�ำ ว่ากอ่ การร้าย มกั มีอคติเกิดขึ้นวา่ เกดิ จากชาวมุสลมิ แตค่ วามจริงเหตกุ ารณ์รุนแรง ของโลกเกิดกบั คนทกุ เช้อื ชาติศาสนา แมแ้ ต่ในสงครามครเู สด ชาวคริสตก์ ็สงั หารชาวยวิ มากกว่าชาวมสุ ลิม เสียอกี รวมถึงเหตุการณท์ ร่ี ัฐกุจราตของอินเดยี หรือรัฐยะไข่ของเมยี นมารท์ ม่ี กี ารใชค้ วามรนุ แรงและสังหาร ชาวมสุ ลมิ จ�ำ นวนมาก แม้ปัจจุบนั มีหลายเหตุการณร์ นุ แรงทมี่ สุ ลมิ มีสว่ นเก่ยี วข้อง แตจ่ ากประวัตศิ าสตรท์ ่ีผา่ น มาชาวมสุ ลมิ เองกถ็ ูกสงั หารไปไมน่ อ้ ย สงครามระหวา่ งมุสลมิ และชาวครสิ ตย์ โุ รป ทม่ี าของปรากฏการณ์ความขดั แยง้ และการกอ่ การร้ายอธิบายได้ดว้ ยหลากหลายปัจจัยทงั้ ทีเ่ กดิ ในอดตี และปจั จบุ นั ประเด็นแรกคอื ในอดตี มุสลิมเคยครอบครองพ้ืนทใี่ นยโุ รปซง่ึ ไม่เคยปรากฏมากอ่ นใน อารยธรรมยุโรป สิง่ นี้จึงฝังลึกอยใู่ นความรู้สึกนกึ คดิ ของคนยุโรป ต่อมาชาวครสิ ต์ต้องการยดึ ครองดนิ แดน ศักดสิ์ ทิ ธ์ิในตะวนั ออกกลางจงึ เกิดสงครามครเู สดขน้ึ ระหว่างชาวครสิ ตจ์ ากยโุ รปและชาวมุสลิม อยา่ งไรก็ตาม ผ้ทู ี่ได้รับผลกระทบจากสงครามครง้ั นั้นไม่ใชเ่ พียงประชากรมสุ ลมิ แตย่ ังมยี วิ และชาวคริสต์นกิ ายออร์ธอดอกซ์ รวมอยูด่ ว้ ย สงครามนกี้ ินเวลายาวนานหลายศตวรรษจงึ ฝังลึกอยใู่ นจิตวญิ ญาณของชาวยุโรป และเมอ่ื เกดิ ลทั ธิล่าอาณานิคมข้ึน แนวคิดตอ่ ตา้ นตะวันตกก็เกดิ ขึ้นตามมาด้วยในหม่ชู นท่ีถูกรกุ ราน 5

การเกดิ ขึน้ ของประเทศอิสราเอล ในอดีตชาวยวิ เคยอย่ใู ต้กฎมสุ ลมิ อยา่ งสงบสุขในอนั ดาลูเซีย (หรืออลั อนั ดาลุส) อันเป็นที่ต้งั ของ สเปนและโปรตเุ กสปัจจุบัน ประวตั ศิ าสตร์อนั ดาลเู ซียสะทอ้ นใหเ้ หน็ การอยู่ร่วมกนั อย่างประนีประนอมของ ชาวมสุ ลมิ คริสเตยี น และยวิ เป็นเวลายาวนานตง้ั แต่ พ.ศ. ๑๒๕๔ – ๒๐๓๕ ใน พ.ศ. ๒๕๑๐ อิสราเอลใช้ เวลา ๖ วนั ท�ำ สงครามยดึ ครองดินแดนปาเลสไตนแ์ ละพ้นื ท่ีบางส่วนของอียิปต์ จอร์แดน และซีเรยี ไดส้ ำ�เรจ็ หลังจากน้ันกองกำ�ลังไซออนสิ ต์ (Zionist) ได้ท�ำ ลายลา้ งและขับไลช่ าวปาเลสไตนจ์ ำ�นวนมากออกจากประเทศ และกอ่ ตงั้ ประเทศอิสราเอลขึ้น กลุ่มประเทศอาหรบั จึงยน่ื มือเขา้ ช่วยปาเลสไตน์ กลายเป็นความขดั แยง้ ระหว่างอสิ ราเอลและชาตอิ าหรับมาตั้งแตบ่ ดั น้ัน ท้ังที่ชาวปาเลสไตนม์ จี ำ�นวนมากกวา่ แตก่ ลับได้รับการแบ่ง ปันท่ีดินเพียง ๓๐% ทีเ่ หลอื เปน็ ของชาวยวิ มสุ ลิมท่วั โลกจงึ มองว่าอิสราเอลละเมดิ สิทธขิ องชาวปาเลสไตน ์ รวมท้งั มองวา่ อเมริกาคือมหาอ�ำ นาจท่ีปกป้องอสิ ราเอล ซึง่ เปน็ ไปได้ว่าส่งิ ทีฝ่ ังอยู่ในความรู้สึกนกึ คิดของ อเมริกากไ็ มต่ า่ งจากชาวยุโรป เพราะอารยธรรมของยโุ รปกเ็ ปน็ ส่วนหนง่ึ ของอเมรกิ าเชน่ กัน น�ำ้ มัน น�ำ้ มันคอื สินค้าท่ีสำ�คญั ทีส่ ุดในโลกอตุ สาหกรรมแต่กลับอยูใ่ นกำ�มือของชาวมุสลิม ตะวันตก ตอ้ งการครอบครองน�้ำ มนั จงึ หมายความวา่ ต้องอยเู่ หนือประชากรมสุ ลมิ ด้วย วธิ ีการครอบครองน้ำ�มนั ของ ตะวนั ตกได้สรา้ งความรู้สึกเปน็ ปฏปิ ักษร์ ะหว่างทัง้ สองฝา่ ยข้นึ มา ตวั อย่างเชน่ เม่ือไมก่ ่เี ดอื นก่อนสนิ้ สุด สงครามโลกครั้งท่ี ๒ แฟรงกลิน ดี. โรสเวลต์ (Franklin Delano Roosevelt) ประธานาธิบดีคนที่ ๓๒ ของ อเมรกิ า ไดพ้ บกับกษัตรยิ ์อับดุล อาซซิ บนิ ซาอุดแห่งซาอุดิอาระเบีย โดยมขี ้อตกลงว่าซาอฯุ จะขายน�้ำ มนั ให้ อเมรกิ าในราคาทถี่ กู และอเมริกาจะตอ้ งปกปอ้ งราชวงศ์ซาอฯุ เปน็ การตอบแทน ทง้ั ทีร่ าชวงศน์ ้ีไม่ได้เป็นทน่ี ยิ ม ในหมชู่ าวมุสลมิ ดว้ ยกนั หรอื อเมริกาบกุ โจมตอี ริ กั เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยอ้างวา่ ต้องการปลดอาวธุ ร้ายแรงใน อริ กั แต่จดุ ประสงค์ซอ่ นเรน้ คือการครอบครองน�ำ้ มัน เพราะอาวุธรา้ ยนน้ั ท่ีอา้ งนั้นไม่มอี ยูจ่ รงิ การแทรกแซงทางการเมืองของอเมริกา อังกฤษ และยโุ รป นอกจากนี้ อเมรกิ าและองั กฤษยงั มสี ว่ นโค่นล้มรฐั บาลที่มาจากการเลือกตัง้ ในอิหรา่ นจนท�ำ ให้ เกิดปฏวิ ตั ใิ นอหิ ร่านเมอ่ื พ.ศ. ๒๕๒๒ เมื่อขบวนการฮามาสไดร้ ับการสนับสนนุ อย่างทว่ มทน้ ในการเลอื กต้งั ที่ ปาเลสไตน์ เม่ือ พ.ศ. ๒๕๔๙ แต่อเมรกิ าและประเทศอนื่ ๆ ในสหภาพยุโรปกลับไมย่ อมรบั การเลือกตงั้ 6

สงครามตัวแทนในซีเรยี เมอื่ พ.ศ. ๒๕๕๒ บชั ชาร อัสซาด (Bashar al-Assad) ประธานาธิบดีซเี รียปฏิเสธข้อเสนอเร่อื ง ทอ่ ส่งกา๊ ซกาตาร์ ตุรกี และซาอุฯ ท่จี ะส่งผ่านซีเรียไปยังยโุ รป (ทอ่ เหล่านี้ไดร้ ับการสนบั สนนุ จากอเมรกิ าและ ประเทศในสหภาพยุโรป) และใน พ.ศ. ๒๕๕๔ อัสซาดกห็ นั ไปตกลงรับท่อสง่ กา๊ ซจากอิหรา่ นแทน โดยไดร้ บั การสนบั สนนุ จากรสั เซีย หลงั จากน้นั รสั เซีย อิหรา่ น และฮซิ บุลลอฮ์ (Hezbollah) ซึง่ เป็นกลุ่มเคล่ือนไหวของญิ ฮาดชีอะหใ์ นเลบานอน ก็กลายเป็นผู้ช่วยซีเรยี ขบั ไล่กบฏและยดึ ครองเมอื งอเลปโปฝัง่ ตะวนั ออก สร้างความไม่ พอใจแก่กาตา้ ร์และซาอฯุ วิกฤตใิ นซีเรยี เร่มิ ข้ึนเม่อื มีการประทว้ งเพื่อเรยี กร้องเสรีภาพทางการเมือง ผู้ต่อต้านส่วนใหญเ่ ป็น มสุ ลมิ นิกายสุหน่ี และประชากร ๗๐% คอื ผนู้ บั ถอื นิกายนี้ แตช่ นชัน้ ปกครองของประเทศนับถือนกิ ายชีอะห์ อัสซาดเองกเ็ ปน็ ชอี ะห์ จึงมกี ารกล่าวหาวา่ อสั ซาดคกุ คามผู้นับถอื ต่างนกิ าย อย่างไรกต็ าม ภรรยาของอัสซาด เองกน็ ับถอื นกิ ายสุหน่ี เรื่องนี้จึงไมใ่ ช่สาเหตุของความขัดแยง้ ระหว่างมสุ ลมิ นิกายชีอะห์และสหุ นดี่ งั ที่คนเข้าใจ กัน แตม่ ีสาเหตุเบ้ืองหลงั ทซ่ี ับซอ้ น หลงั จากรฐั บาลปราบปรามด้วยความรุนแรง ส่วนกลุม่ ผู้ตอ่ ตา้ นจดั ตงั้ กอง กำ�ลังขึน้ มา และตอ่ สกู้ นั จนกลายเปน็ สงครามกลางเมือง หรอื ท่จี ริงคือสงครามตัวแทน เพราะฝา่ ยรฐั บาลซีเรีย มีรัสเซียและอหิ รา่ นเปน็ พนั ธมติ ร สว่ นกบฏกลมุ่ ตา่ งๆ และผู้กอ่ การรา้ ยได้รบั การสนบั สนุนจากอเมริกา ซาอุฯ และตุรกี เชน่ กลุม่ ก่อการรา้ ยไอซสิ มรี ายได้จากการขายนำ�้ มันเถอ่ื นแก่ตรุ กี และตรุ ีกข็ ายอาวุธใหแ้ ก่กลุ่มไอซิส ลัทธิล่าอาณานิคมรปู แบบใหม่ โลกจึงไม่สามารถแกป้ ัญหาการก่อการรา้ ยไดเ้ ลย หากไมก่ ำ�จัดอ�ำ นาจครอบงำ� (Hegemony) ของ ตะวนั ตก แม้ปจั จุบนั ตะวันตกเริม่ เสือ่ มถอยลงและถูกแทนทโ่ี ดยจนี แลว้ กต็ าม รากของการครอบง�ำ นีม้ าจาก ลทั ธลิ า่ อาณานคิ มและเปลี่ยนรูปแบบเปน็ ลทั ธิลา่ อาณานิคมรูปแบบใหม่ (Neo-Colonialism) ที่ปรากฏอย่ใู น ชวี ติ เราทกุ คน ไม่ว่าจะผา่ นทางส่อื โทรทัศน์ หนงั สอื พมิ พ์ อนิ เตอร์เนต็ ความบนั เทิงต่างๆ หรือแม้แต่การศึกษา แนวคดิ ของตะวนั ตกแทรกซมึ ผ่านสง่ิ เหล่านจ้ี นฝังตวั อยใู่ นจิตสำ�นึก สง่ ผลตอ่ ความรสู้ กึ นกึ คิด และทรงพลงั ยิ่ง กว่าการลา่ อาณานคิ มแบบเดิมเสยี อกี เพราะคนไม่รู้ตัวว่ากำ�ลงั อยูใ่ ตก้ ารครอบง�ำ

วิเคราะห์ทุนนิยม สังคมนยิ ม และสงั คมนิยมประชาธิปไตย (ถอดความจากการบรรยายของ โป เขิง่ ฮุ่ย จากฮอ่ งกง) แนวคิดทางการเมืองจากตะวันตก คอื ผลผลติ ของยุคแสวงสว่างแห่งปญั ญาท่ีสง่ ผลกระทบต่อทงั้ โลก ในอดตี ความเปน็ มนษุ ย์หมายถงึ การผสานกนั ระหว่างกาย จิต และวญิ ญาณ แต่เรเน่ เดสการต์ ส์ (Rene Descartes) คือนักคดิ คนสำ�คัญเจา้ ของประโยคที่วา่ \"ฉันคิด ฉันจึงมอี ยู\"่ ท�ำ ให้เกิดความคิดแบบทวภิ าคที่แยก กายและจติ ออกจากกัน มีนยั ยะว่าจะเป็นคนสมบรู ณ์ไดต้ อ้ งรจู้ ักคดิ การคดิ มอี ทิ ธิพลเหนอื ส่งิ อื่นๆ เหนือญาณ ทัศนะ เหนอื ความร้สู ึก อี.เอฟ. ชูมากเกอร์ (E.F. Schumacher) กล่าววา่ ความคดิ ทเ่ี กดิ ในยคุ แสงสว่างแห่ง ปัญญานเ่ี องทีเ่ ป็นบ่อเกิดของทนุ นิยมและสังคมนยิ ม ส�ำ หรบั ฮันนาห์ อาเรนดท์ (Hannah Arendt) ความคิดของเดสการต์ สม์ ชี อ่ งโหว่ท่ีไม่มองวา่ โลกนี้ คือโลกท่เี กิดจากประสบการณร์ ่วมของคน แตใ่ ห้ความส�ำ คัญแคก่ ระบวนการทางความคิดของปจั เจกบุคคล ท้งั ท่คี วามเปน็ มนุษยไ์ มไ่ ด้มคี วามหมายทีก่ ารคิดอย่างเดียว แตม่ าจากหลากหลายเหตปุ ัจจยั ทผ่ี สานเข้าด้วย กัน ฮนั นาห์กล่าวไว้ในหนังสือ The Human Conditions ว่า ความเป็นมนุษยอ์ าศยั เง่อื นไขพืน้ ฐาน ๓ ประการ ได้แก่ แรงงาน การงาน และการกระทำ� แรงงาน (labor) หมายถึงกิจกรรมท่ีช่วยในการยงั ชพี เชน่ ผลติ อาหาร สร้างบ้าน นค่ี ือลักษณะ ตามธรรมชาตขิ องมนษุ ย์ สว่ นการงาน (work) หมายถึงการประดษิ ฐค์ ดิ ค้นส่งิ ต่างๆ ในระดับท่ซี บั ซอ้ นขึน้ ตอ้ ง ออกแบบและวางแผน เพอ่ื ให้โลกน้ีสะดวกสบายและน่าอยู่ และสดุ ทา้ ย การกระท�ำ (action) คอื กจิ กรรมที่ เกดิ จากความเชอื่ มโยงสมั พันธก์ นั ของมนษุ ย์ ไม่ใชแ่ ค่พฤตกิ รรมในชีวติ ประจำ�วนั แตเ่ กดิ ในพน้ื ทสี่ าธารณะ และเกดิ ข้นึ ได้โดยอาศยั การมสี ่วนรว่ ม เชน่ การสรา้ งสรรคเ์ งอ่ื นไขทางประวัติศาสตร์ของสังคม การมสี ่วนร่วม ทางการเมอื ง การถกเถียง เปน็ ตน้ ทุกสงิ่ ท่ีมนุษยเ์ ขา้ ไปมสี ว่ นรว่ มสรา้ งจะส่งผลกลบั มาถงึ การด�ำ รงอย่ขู อง มนุษย์ด้วย ไมว่ า่ จะเป็นอาหาร บ้าน วตั ถสุ ่ิงของ หรอื กิจกรรมต่างๆ ในโลก ดงั นัน้ มนุษย์จึงเป็นผู้สรา้ งเง่ือนไข ในขณะเดยี วกนั เงื่อนไขต่างๆ ก็ส่งผลตอ่ มนุษย์ การจะนิยามวา่ มนษุ ย์คอื อะไรหรือคือใคร จงึ เปน็ สิ่งท่ีทำ�ไดย้ าก เพราะมนษุ ย์ไม่ได้สิ่งที่หยุดนิง่ ตายตวั แตเ่ ป็นผูก้ ระท�ำ การท่สี ร้างความเปลยี่ นแปลงได้ อย่างไรกต็ าม แมจ้ ะรู้วา่ ก�ำ ลงั ทำ�อะไร แตม่ นษุ ยไ์ ม่ อาจคาดเดาได้ว่าการกระท�ำ นน้ั จะสง่ ผลอย่างไร เช่นนี้เอง เราจงึ ตอ้ งให้ “ค�ำ สัญญา (promises)” แกก่ ันและ กนั เช่น สัญญาประชาคม แตใ่ ชว่ า่ มนุษยจ์ ะสามารถทำ�ส่งิ ทสี่ ัญญาตอ่ กนั ได้ท้ังหมด แม้แตค่ นที่มคี วามตงั้ ใจ ดีกอ็ าจพลาดไดเ้ ช่นกนั เราจงึ ตอ้ งมี “การให้อภยั (Forgiveness)” เม่ือมีคนผดิ สัญญาหรอื การกระท�ำ ของ เขาส่งผลกระทบดา้ นลบ เพือ่ ให้มนษุ ย์มีโอกาสเรมิ่ ตน้ ใหม่ ไมเ่ ช่นน้ันเราจะกลายเปน็ เหยือ่ ของการกระทำ�ไป ตลอดกาลโดยไมส่ ามารถฟื้นตวั เองได้เลย ทงั้ การสัญญาและใหอ้ ภัยเปน็ สิ่งทีไ่ ม่อาจท�ำ ได้โดยลำ�พัง แต่ต้อง มีผู้รว่ มรับรู้ในพืน้ ท่ีสาธารณะ ไม่มใี ครใหอ้ ภยั ตนเองได้และขณะเดยี วกนั ค�ำ สญั ญาทีใ่ หแ้ กต่ นเองคนเดยี วก็ ไมม่ คี วามหมาย นอกจากน้ี ฮนั นาหย์ งั ตีความเช่ือมโยงกบั แนวคดิ ชีวติ นริ ันดร์หลงั ความตายของคริสตศาสนา โดยเห็นการลงมอื กระทำ�ของมนุษยไ์ ด้ท้ิงรอ่ งรอยบางอยา่ งไวใ้ นโลก แมว้ า่ มนษุ ยผ์ ู้นนั้ อาจตายไปแลว้ ชวี ติ นิ รนั ดร์ของเราจะเปน็ อย่างไร จงึ ข้นึ อยกู่ บั สงิ่ ทเี่ ราทำ�วนั นี้

ทง้ั สังคมนยิ มและทนุ นยิ ม คืออดุ มการณท์ ี่มาจากตะวนั ตก แนวคิดหลกั ของสังคมนยิ มคือระบบ เศรษฐกจิ แบบวางแผน (Planned Economy) หมายถึงรฐั เขา้ ไปแทรกแซงควบคุมกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ เพือ่ ความยุติธรรม รฐั มกี รรมสทิ ธิ์เหนอื ปจั จัยการผลติ และชุมชนเปน็ เจา้ ของร่วมกัน ส่วนทุนนิยมมีแนวคดิ หลกั คอื ระบบเศรษฐกิจแบบตลาด หมายถงึ ใหก้ ลไกตลาดเป็นตัวกำ�หนด การแปรรปู รฐั วสิ าหกิจใหเ้ อกชน เป็นเจ้าของปัจจัยการผลิต (privatisation) ไม่วา่ จะอย่างไร ระบอบเหล่านี้กเ็ นน้ อยู่ทกี่ ำ�ไรและอำ�นาจ ทัง้ ท่ใี น ชเศีวรติ ษมฐนกษุ จิ ยเพ์ไมอื่ ไ่กดาม้ รยแี คังช่สพี อทงม่ไี มิต่เินอี้า\"คเปวราียมบจธรรงิ รแมทช้\" า(Aตuิ มthิตeดิ nา้ tiนcจitิตy)วแิญลญะคาวณามคเวปาน็ มอสงัมคพ์รวันมธค์ระือหสว่ิงา่สงำ�มคนัญษุ ยไม์ สวง่ิ่าเจหะลเ่าปนน็ ี้ ไมไ่ ด้กลา่ วถึงเลยทั้งในสังคมนิยมและทุนนยิ เสรนี ยิ มใหม่ กเวลน้ า่ แวม คแ้ ือตไมป่ เ่มรสะีครเวนีทายิศมมสหังใมหคามมยส่นตายิ ามมยาแตรลถวั ะตฝอีคา่�ำ วยนาไามหจไนนดกยิ ้หส็มลาาเมชกา่นหรลถจานนี ยำ�ทม่ีปหารรตับอื ีคเเรสวียรากนีมวยิส่ามร“า้ใสหงัญคมวก่ญาับมะรชทะอ่วีบบ่าบงธเเศรปรรลมษา่ ใฐ”หก(้ตeจิ นmขเออpงงtyปไดรsะท้igเ้งั ทnสศif้นิ ieไrม) ่ เสรีนยิ มใหม่คือรปู แบบใหม่ของทุนนยิ ม เสรนี ิยมใหมม่ แี นวคิดหลักดังนี้ ๑. การค้าเสรี (Free Trade) ๒. ผ่อนคลายและลดเลิกกฎระเบยี บของรัฐ (Deregulation) และสร้างกฎระเบียบใหม่ (re-regulation) ๓. แปรรูปบริการของรฐั เปน็ ของเอกชน แปตระค่ กว อามบจกรามงิรแรอาลงย้วผยผวิ ่อู้มเผยีทินจนุ อึงมาไามจกส่เหมาน็ ีอมว�ำา่านรเถาสสจรผูไ้ีนดกูิย ้ ขม นาใอดหกเมพจ่ทรา�ำากใะนหส้ี้คนานมามยารทโี อถนุ กผยาลังสิตมเสีอทนิ�ำา่ คนเท้าาียไจดมกม้กดาันดกเนั พแรลรฐั าะใะขหมาอ้ ีเยอสไกรดภีก้ใาฎนพรระาในเคบกายี ถาบรกู แทกขเี่วอ่งา่ ขื้อผนั ู้ ป จเรทแกฐัรลรราิงอะัพะหพโอกยยลบ กาาชใีกวรกตนส่าฎร้์แรรฯทรัฐกา้เละาสใง่ตเฯงนบกรนธีนทป�ำยีรไยิไัง้ดรรบรตมมะ้ทสเ้งัชใทงูเี่ หกอาสศำ�มต้อื ุดพแอ่ิตฯพัฒใา้อ่ ลนงงปนฯขภถราณึงาสะหคษว่โะลยวนีทตาาชกีป่ยม้ังนาเรแสต์รงะหแ�ำือ่นชค่งปนากไัญรไชมลขรนข่วูปกบั า่ทอบาคจงี่เรรวหนะลิกบลเโงปายคือทร็นบุมขขุนกอากอฯฎยงางลปตทรรคฯฐัรลีเ่ อะเ้าาใปอ้ืเเนดทส็นตขเียศขสอ่ ณเตอรกอีแอ้งะางลเเงรอดเเะยชสกยีกึดน่ยีชวาคปนกอรรกลันรเอมะอ็ดงบโรากทยกิรจฎีด่ชรานษเนินกำ�อ์ชัทณไโงั นดปแกฑพลยสฤะจก์ื้นูก่ษนะาาเมตฝรารคผือยอ้ร่งั้างกูทงเจขุนศกแา่ากตาสยดรก็่คญคขผดวา่อลาป่ีดสงามันนุ่เินญอเใปคกห็น้าช้ น และบรกิ ารพื้นฐานในราคาทแี่ พงมากข้ึน

แนวคดิ ต่อตา้ นทนุ นยิ ม แฟรน์ อง โบรเดล (Fernand Braudel) นิยามค�ำ วา่ \"ทนุ นยิ ม\" ว่าเปน็ ระบบเศรษฐกิจและสงั คม ทีค่ นสว่ นนอ้ ยกีดกันคนส่วนใหญท่ ีเ่ ป็นแรงงานไมใ่ หเ้ ป็นเจ้าของและไม่ได้รับผลประโยชน์จากทุน ในทัศนะ ของโบรแดล ชวี ติ ทางเศรษฐกิจสังคมประกอบดว้ ย ๓ ช้ันทีว่ างซ้อนกัน สว่ นทเ่ี ปน็ ฐานคอื การยังชีพ (material life) หมายถึงเศรษฐกิจพืน้ ฐาน เศรษฐกิจนอกระบบ การแลกเปลย่ี นสนิ ค้าและบรกิ ารในพืน้ ที่เล็กๆ ในระดับ ชวี ิตประจำ�วนั ขอ้ มลู ส่วนนจี้ ะไม่ได้รับการบันทกึ อยา่ งเป็นทางการ ชัน้ ที่สองคอื \"ระบบเศรษฐกจิ ตลาด\" (mar- ket economy) หมายถงึ พน้ื ทแี่ ลกเปลย่ี นสนิ คา้ และบริการทมี่ กี ารแขง่ ขนั อยา่ งเสรี กจิ กรรมข้นั นเี้ ป็นไปอย่าง โปร่งใส ไม่ซบั ซ้อน ผคู้ นแบง่ งานกนั ท�ำ มีบนั ทกึ ข้อมูลเปน็ ทางการ สว่ นชัน้ บนสุดคอื \"ทุนนยิ ม\" (capitalism) หมายถงึ พ้ืนทีข่ องนกั อุตสาหกรรม นายทุน นกั การเงนิ คนเหลา่ น้มี ุ่งแสวงหากำ�ไรสงู สดุ ผ้ซู ้ือและผูข้ ายอยไู่ กล กันมาก อาศัยระบบการผลติ ขนาดใหญ่ มกี ารเก็งก�ำ ไร มีระบบธนาคาร มตี ลาดหลกั ทรพั ย์ ฯลฯ กล่าวคือเป็น ชัน้ ทมี่ ีกจิ การขนาดใหญ่แบบบรรษทั ขา้ มชาติ และมีการผกู ขาด กิจกรรมซบั ซอ้ นและไม่ชดั เจน กฎทใี่ ช้ในช้ัน นค้ี อื กฎแหง่ ป่า อ�ำ นาจและอภิสทิ ธสิ์ ำ�คัญตอ่ การอยูร่ อดย่ิงกว่าประสิทธิภาพการท�ำ งานและการแข่งขันอย่าง เป็นธรรม ชัน้ ทุนนยิ มมเี จตนาสวนทางกบั ชน้ั เศรษฐกิจแบบตลาด เพราะทุนนยิ มตอ่ ตา้ นระแบบแบ่งงานกนั ทำ�และตอ่ ตา้ นตลาด เพราะผ้ทู �ำ กิจกรรมในช้ันนใ้ี นระยะยาวไมไ่ ด้ตอ้ งการจ�ำ กดั ตนเองอยใู่ นกจิ การใดกจิ การ หนึ่ง เพราะสงิ่ ส�ำ คัญคือการเคล่ือนยา้ ยทุนเพ่อื ใหไ้ ดก้ ำ�ไรสูงสดุ ในทกุ ท่ที ีท่ ุนเคลอ่ื นไป ไมว่ ่าจะเคล่อื นจาก ภาคเกษตรไปยังภาคอตุ สาหกรรม แล้วไปภาคการเงนิ และอน่ื ๆ นอกจากนี้ ยังมอี ภิสทิ ธ์ิดา้ นการเมอื งและ เศรษฐกิจท่ีชว่ ยใหต้ ่อรองหรอื หลกี เลย่ี งกฎเกณฑ์ตลาดได้ ชีวิตทางเศรษฐกจิ สังคม ๓ ช้ัน ตามแนวคิดของแฟรน์ อง โบรเดล

ท้ังสามชนั้ ไม่ได้แยกส่วนกันโดยเดด็ ขาด ก�ำ ไรจากส่วนทนุ นยิ มถกู นำ�ไปใช้เพื่อเอาเปรยี บอกี สอง ช้ันทเี่ หลือ ในขณะท่ีชนั้ ทห่ี น่งึ และสองกเ็ ป็นแหล่งที่มาของแรงบนั ดาลใจและนวตั กรรมใหม่ๆ ท่ชี ั้นทุนนิยม สามารถนำ�ไปใช้ตอ่ ยอดเพอ่ื สรา้ งกำ�ไรใหต้ นเองได้ บางงานท่ีไม่อยากทำ�เอง ชัน้ ทุนนยิ มกจ็ ้างบรษิ ัทขนาดเลก็ ท�ำ ต่อ การผลิตในชน้ั แรกกับการแข่งขนั ของตลาดในชนั้ ท่ีสองกช็ ว่ ยใหช้ น้ั ทุนนิยมลดต้นทุนการผลิตไดม้ ากขนึ้ ในแง่นี้ มมุ มองของโบรแดลจงึ ท�ำ ใหเ้ หน็ ชัดเจนวา่ \"ทนุ นยิ ม\" กับ \"เศรษฐกจิ แบบตลาด\" ต่างกันอยา่ งไร สว่ นระบบสังคมนยิ มแมจ้ ะเนน้ ทค่ี วามยุตธิ รรมทางสงั คม แต่การผกู ขาดไวท้ ีร่ ัฐท�ำ ให้ไม่คลอ่ งตัว รัฐไม่เข้าใจ และไม่สามารถตอบสนองความฝันความตอ้ งการของประชาชนได้ และทา้ ยท่สี ุด ระบอบนมี้ ักนำ�ไปสอู่ �ำ นาจ นิยม ทย่ี ังใชอ้ ยู่ทกุ วนั นีก้ ไ็ ม่ได้มคี วามหมายอยา่ งทคี่ าร์ล มาร์กซ์กล่าวไว้ และไม่ใช่ระบบทีต่ ่อตา้ นทนุ นยิ มอกี ต่อไปแล้ว ในความหมายเดมิ สงั คมนยิ มคอื ระบบทีร่ ัฐเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิต แตป่ จั จบุ ัน แมแ้ ต่ประเทศท่ี เรียกตนเองว่าสังคมนยิ มก็ยังรบั เอาลัทธเิ สรีนยิ มใหม่มาใช้ แมแ้ ต่จีนกป็ ลอ่ ยเสรที างการค้าและการเงิน มกี าร แปรรูปรัฐวิสาหกจิ และใหภ้ าคเอกชนเข้ามามีบทบาทและเป็นเจา้ ของปจั จัยการผลติ มากขึ้น ระบบเศรษฐกจิ เหลา่ น้ีตา่ งผสมผสานกนั ไมม่ เี สรีนิยมบริสทุ ธแิ์ ละไม่มีสงั คมนยิ มบรสิ ทุ ธ์ิ สงั คมนยิ มประชาธปิ ไตย(Social Democracy) ประเทศเยอรมนั เผชญิ ภาวะวิกฤติสงครามโลกคร้ังทส่ี องและแนวทางเศรษฐกจิ แบบเดิมไม่ว่า แบบสังคมนยิ มหรอื เศรษฐกิจเสรนี ยิ มกไ็ มอ่ าจแก้ปัญหาของเยอรมนั ในตอนน้ันได้ อัลเฟรด มูเลอร์ อารม์ ัค (Alfred Müller Armack) จึงคน้ หาแนวทางท่ี ๓ (Third Way) ข้นึ มา โดยผสมผสานระหวา่ งสงั คมนิยมและ เสรีนยิ ม โดยใชร้ ะบบทุนนยิ มแตส่ นบั สนุนการแทรกแซงของรฐั เพอ่ื ความยตุ ธิ รรมทางสงั คม มีการกระจาย รายได้ ควบคุมเศรษฐกิจเพื่อประโยชน์สว่ นรวม กล่าวคือ สรา้ งเงื่อนไขใหร้ ะบบทุนนยิ มนำ�ไปส่ผู ลลัพธ์ทเี่ ปน็ ความเท่าเทยี ม ลดความเหล่อื มล�้ำ รวมถึงสนับสนนุ รฐั สวสั ดิการใหป้ ระชาชนเข้าถงึ ได้อยา่ งเท่าเทียม เชน่ การ ศึกษา การดูแลผูส้ ูงอายุ ฯลฯ

ขบวนการทางสังคม (ถอดความจากการบรรยายของ อวยพร เขอ่ื นแกว้ ) ถงึ เวลาแลว้ ทีโ่ ลกจ�ำ เป็นต้องเปลีย่ นจากการหวงั ให้บุคคลใดบคุ คลหนงึ่ มีอำ�เหนอื บคุ คลอืน่ ไปสู่ ภาวะการน�ำ รว่ มและใช้อำ�นาจรว่ ม Riane Eisler กล่าวถงึ พลงั ของการรว่ มมอื ไว้ว่า เราอยใู่ นความสัมพันธ์ ตลอดเวลา ไมใ่ ช่แค่ครอบครัว ไม่ใชแ่ คเ่ พ่อื นรว่ มงาน เราล้วนได้รบั ผลจากเครือข่ายความสัมพนั ธ์ทีห่ มุนอยู่ รอบตัวในทุกแง่มมุ ของชีวติ ความปลอดภัยของเราขนึ้ อยกู่ บั ผอู้ ่ืน ถา้ ต้องการอย่อู ยา่ งมนั่ คงในโลกนี้ แค่ดูแล ตัวเองและครอบครัวยังไม่พอ Eisler เห็นวา่ ผนู้ �ำ ทางจติ วญิ ญาณคือกุญแจส�ำ คญั ทีจ่ ะชว่ ยให้เกิดการเปลยี่ น ผ่านได้ ผนู้ ำ�เหลา่ น้จี ะตอ้ งส่งเสรมิ คณุ คา่ ของความซอื่ สัตย์ ความรกั ความห่วงใย สันติวิธี ฯลฯ ไว้ในวฒั นธรรม รวมทั้งรอ้ื ถอนโครงสร้างอำ�นาจแบบล�ำ ดับชนั้ เพราะจิตวญิ ญาณทแี่ ทจ้ ริงจะไมเ่ ห็นวา่ ใครมีอ�ำ นาจเหนอื ใคร ไม่วา่ จะผู้ใหญม่ อี �ำ นาจเหนือเดก็ หรือชายมีอ�ำ นาจเหนือหญิง สตาร์ฮอวก์ (Starhawk) นกั เขียนแนวสตรีนยิ มชาวอเมริกันทเี่ คลื่อนไหวเพอื่ สนั ติภาพ กลา่ วไว้ว่ามี อ�ำ นาจ ๓ ประเภท ได้แก่ อ�ำ นาจเหนือ (power over) อำ�นาจภายใน (power within) และอ�ำ นาจร่วม (power with) การใช้ “อำ�นาจเหนอื ” คอื สิง่ ทปี่ รากฏอยู่ในสงั คมชายเป็นใหญท่ กุ แหง่ ชนชัน้ นำ�เพศชายมกั ใชอ้ �ำ นาจ เหนอื เพศหญงิ เหนอื ชนชั้นทอ่ี ยู่ต�ำ่ กวา่ รวมถึงเหนือสง่ิ แวดลอ้ ม ยง่ิ ฝ่ายหนึง่ มอี ำ�นาจมากเทา่ ใด อีกฝา่ ยก็ยง่ิ มี อ�ำ นาจน้อยเทา่ นัน้ ตรงกนั ขา้ มกับ “อำ�นาจภายใน” ท่มี นษุ ยส์ ลัดทิง้ การควบคมุ ผูอ้ ืน่ และหนั มาทบทวนความ อ่อนแอท่อี ยู่ภายในตนเอง พร้อมทง้ั พยายามบ่มเพาะอำ�นาจจากความกรุณาและความดีงาม ส่วน “อำ�นาจ รว่ ม” คือการยอมรบั และเสรมิ พลงั อ�ำ นาจแกก่ ันและกัน ผา่ นความรว่ มมอื และเปดิ โอกาสใหผ้ มู้ อี ำ�นาจนอ้ ย กวา่ ได้ตดั สินใจด้วย การฟงั อยา่ งลกึ ซ้ึงคือเครือ่ งมอื หนึง่ ที่จะนำ�ไปสอู่ �ำ นาจร่วม เมอ่ื เราฟงั คนท่ถี ูกกดจนอยู่ ต่�ำ สุดในสังคม ไม่วา่ จะเป็นผหู้ ญิงชาวเขาท่มี เี ช้ือเอชไอวหี รือผูห้ ญงิ ผวิ สีในหมู่บ้านเล็กๆ ทต่ี ้งั ครรภ์โดยไม่ พร้อม คนเหล่าน้ีไม่เพียงเป็นเพศหญงิ แต่ท้ังยังไมไ่ ดเ้ รยี นหนงั สือสงู มาจากชนบท และมีภาวะอน่ื ๆ ทีส่ งั คมไม่ ต้องการติดตวั มาด้วย หากฟงั คนเหล่าน้มี ากพอ เช่อื วา่ เขาเปลีย่ นแปลงได้ ใหพ้ นื้ ทเ่ี ขาไดพ้ ูดสง่ิ ทเ่ี กบ็ ไวข้ ้างใน ไมว่ า่ จะเปน็ ความรสู้ ึกด้านบวกหรือดา้ นลบ คนเหล่าน้ีจะสามารถบม่ เพาะอ�ำ นาจภายในข้ึนมาได้และกลา้ ลุก ขน้ึ มาเผชิญหนา้ กบั ปัญหาในชวี ิต กระบวนการผลกั ดนั คนชายขอบนีเ่ องท่จี ะทำ�ใหส้ ังคมเกิดการเปล่ียนแปลง ไดอ้ ย่างแทจ้ รงิ สง่ิ สำ�คญั ท่จี ะน�ำ ไปสกู่ ารสร้างอำ�นาจร่วมได้คือ หนั กลบั ไปฟงั ชนชน้ั ล่างและสง่ เสริมภาวะผนู้ ำ�แก่ คนที่อย่ใู ต้การกดข่มี ายาวนาน เพื่อให้เสียงของคนเหล่านีด้ ังข้นึ และท�ำ ให้เขากลา้ เผชิญหน้ากับการกดข่ีดว้ ย ตนเอง การฟังอยา่ งลึกซง้ึ คอื เครอ่ื งมอื เสริมพลังอ�ำ นาจแกป่ ระชาชน แต่คนทำ�งานทางสังคมจ�ำ นวนมากกลับ ขาดคณุ สมบตั ิข้อนี้ ทั้งยงั ใชอ้ �ำ นาจเหนือประชาชนและเป็นสว่ นหน่ึงของการกดขโ่ี ดยไม่รู้ตัว คนทำ�งานทาง สังคมจึงจำ�เปน็ ตอ้ งเปลย่ี นแปลงตนเองให้ออ่ นโยนและมีเมตตา เปลี่ยนแปลงทกุ ระดับท้ังภายในและภายนอก

กลา่ วคือ เข้าใจการกดขีใ่ นสังคม โครงสร้างรุนแรง ขณะเดียวกนั ก็มองยอ้ นกลับมาในตนเองดว้ ย รจู้ ักและ ยอมรบั ตนเองอยา่ งถ่องแท้ วา่ เราเป็นใคร มอี ภสิ ิทธ์อิ ะไร มีขอ้ จ�ำ กดั อย่างไร มคี วามกลัวความโกรธอยา่ งไร ฯลฯ สิ่งส�ำ คัญคอื รเู้ ทา่ ทันตนเอง คนท�ำ งานทใ่ี ชอ้ ัตตาตนเองเพือ่ เปล่ียนแปลงคนอืน่ กเ็ ปน็ เพยี งอำ�นาจนยิ มอีก รปู แบบหนึง่ การจะเปล่ยี นแปลงสังคม จงึ ต้องเปลีย่ นทง้ั โครงสร้างภายนอกและภายในตวั เอง และมองแบบเปน็ องค์รวม โดยมองสขุ ภาวะทุกด้านของประชาชน ได้แก่ ความคดิ อารมณ์ ร่างกาย เพศ ความสัมพันธ์ และจิต วญิ ญาณ กล่าวคอื มนษุ ย์มีสิทธท์ิ จี่ ะคิดอย่างชัดเจนและสร้างสรรค์ มสี ิทธ์ิแสดงออกดา้ นอารมณ์ไม่ว่าจะดา้ น บวกหรอื ดา้ นลบ มีสทิ ธท์ิ ี่จะไดร้ ับความปลอดภยั ไมว่ ่าจะอยเู่ ป็นเพศชาย เพศหญงิ หรือเพศอ่ืนๆ และสง่ิ ทจ่ี ะ ช่วยใหเ้ รารับมือกับทกุ สถานการณไ์ ดโ้ ดยไมต่ ้องโกรธแค้นสังคมคือ การเติบโตดา้ นจติ วญิ ญาณ สังคมจะเปลย่ี นแปลงไดเ้ มื่อพลเมอื งมีพลังอำ�นาจและลงมอื กระท�ำ เพือ่ แกไ้ ขปัญหาของตวั เองและสงั คม อันเปน็ สิง่ ท่แี ตกต่างจากผบู้ ริโภคในระบอบทนุ นิยมและบริโภคนยิ มท่ีเนน้ พลงั อำ�นาจเพียงในการเลอื กเสพ อย่างไรกต็ าม ไมใ่ ช่ทกุ คนที่จะก้าวผ่านกระบวนการนไ้ี ปได้ คนจ�ำ นวนมากจึงกลายเป็นเหย่อื ขบวนการทาง สังคมท่ัวโลกก�ำ ลงั เผชญิ กับความท้าทายมากมาย ท้งั บรโิ ภคนยิ มและทนุ นิยมที่เติบโตขน้ึ เร่ือยๆ คนทำ�งาน ทางสงั คมก็ทอ้ ถอยและหมดไฟเพราะไมส่ ามารถเปล่ยี นแปลงอะไรได้ เมือ่ พจิ ารณาค�ำ ว่า \"ขบวนการทางสังคม\" จะเหน็ ได้วา่ มี \"ขบวนการ\" หรือกิจกรรมตา่ งๆ หลาก หลายรูปแบบเกดิ ข้ึนท่ัวโลก แต่เมือ่ มองคำ�ว่า \"ทางสงั คม\" เปน็ ไปไดว้ า่ ทข่ี บวนการเคลือ่ นไหวสรา้ งผลกระ ทบไดค้ ่อนข้างจ�ำ กัดมาจากจุดนี้ เพราะคนทำ�งานเนน้ ทก่ี ารแบ่งปัน ความกรุณา ความเรยี บง่าย โดยลมื มอง สง่ิ ทอี่ ยตู่ รงข้าม ไมว่ ่าจะเปน็ การแขง่ ขัน ความสะดวกสบาย ความรักตวั เอง ความสนกุ ความโลภ เหล่าน้ี คอื ธรรมชาติของมนษุ ย์ทท่ี นุ นิยมน�ำ มาใช้และประสบความสำ�เรจ็ มาก แมแ้ ตภ่ าษาของขบวนการทางสงั คม อย่างค�ำ ว่าออร์แกนิก เรียบงา่ ย หรือแม้กระทงั่ ภาษาของศาสนาอย่างคำ�ว่า นพิ พานและปัจจบุ ันขณะ ทนุ นยิ ม ก็นำ�ไปใช้เพือ่ เพม่ิ มูลคา่ สนิ คา้ และบริการ คนท�ำ งานทางสังคมจงึ ต้องรจู้ กั ปรบั ตัวเองและทำ�งานโดยเข้าใจ ธรรมชาตขิ องมนษุ ยใ์ หม้ ากขึ้น ดึงความรักสบาย ความรักในการแขง่ ขันมาใช้ โดยไมใ่ หม้ นั กดขม่ คุณคา่ ดีๆ ดา้ นอนื่

ระบบอาหาร (ถอดความจากการบรรยายของ ก่งิ กร นรนิ ทรกลุ ณ อยธุ ยา) อาหารคืออกี ตวั อย่างของสิ่งทไ่ี ดร้ ับอิทธพิ ลจากทุนนิยม ยกตวั อยา่ ง บรรษัทขา้ มชาตบิ รษิ ัทเดยี ว ผกู ขาดเมลด็ พันธพุ์ ชื ในโลกถงึ ร้อยละ ๘๐ ส่วนในไทยบริษทั ซีพีผกู ขาดการผลิตอาหารในประเทศไทยร้อยละ ๙๐ และควบรวมกิจการกับผผู้ ลติ อาหารอย่างตอ่ เนื่องเพ่ือยดึ ครองกระบวนการตงั้ แต่ตน้ น�ำ้ เช่น จ�ำ หนา่ ย เมล็ดพันธ์พุ ืชและพนั ธ์สุ ตั ว์ ใชร้ ะบบเกษตรพนั ธสญั ญา ไปจนถงึ การคา้ ปลกี และคา้ ส่งทเ่ี ปน็ ปลายนำ้� การ ผกู ขาดเชน่ นจ้ี นส่งผลกระทบต่อเกษตรกรรายยอ่ ยและผปู้ ระกอบการรายยอ่ ยท่ไี มส่ ามารถแข่งขนั ได้เพราะ ทนุ นอ้ ยกว่า เมอื่ บรษิ ทั มีอ�ำ นาจควบคมุ ตลาดไดย้ ่อมกระทบต่อสิทธิในการเขา้ ถงึ อาหารและเลอื กซื้ออาหารที่ หลากหลายและราคายตุ ธิ รรมของผู้บริโภค นอกจากนี้ กระบวนการผลิตของอตุ สาหกรรมขนาดใหญย่ งั ส่งผลก ระทบตอ่ ส่งิ แวดลอ้ มดว้ ย ระบบอาหารมี ๔ กระบวนการ ได้แก่ การผลติ อาหาร การกระจายอาหาร การบริโภค และขยะ จาก ขา้ งต้นจะเห็นวา่ อุตสาหกรรมผลิตอาหารขนาดใหญเ่ ขา้ มามีสว่ นตอ่ ทง้ั ๔ กระบวนการตง้ั แตผ่ ลติ ไปจนถงึ บริโภค และบรรจุภณั ฑ์ต่างๆ ทใ่ี ช้กับอาหารกเ็ กดิ เปน็ ขยะมหาศาล จงึ กลา่ วไดว้ า่ วถิ กี ารกนิ ในฐานะผู้บรโิ ภค ของเราสมั พันธ์กับวกิ ฤตด้านเศรษฐกิจ สังคม และส่ิงแวดล้อมอย่างแยกไมอ่ อก ปัจจุบันผู้บรโิ ภคเลือกซือ้ อาหารนอกบ้านและอาหารส�ำ เร็จรูป โดยไม่ร้เู ลยวา่ อาหารทซี่ อ้ื น้ันมาจากแหล่งใด และมีกระบวนการผลติ อยา่ งไร แม้อาหารในทอ้ งตลาดจะมีหลากหลายและหาซ้อื ได้สะดวก แต่ความจรงิ แลว้ ผ้บู รโิ ภคแทบไมม่ ีทางเลอื กในการบรโิ ภคเลย นอกจากต้องซ้อื จากผ้ผู ลิตเจ้าเดมิ ทีม่ เี พยี งไมก่ ่ีรายแลว้ ยงั ตอ้ ง เส่ียงกบั สารเคมีปนเปื้อน อาหารทม่ี าจากพืชพรรณจีเอ็มโอ ฯลฯ สทิ ธิทจ่ี ะเข้าถงึ อาหารทหี่ ลากหลายและ คณุ ภาพดลี ดลง นอกจากคนทม่ี ีกำ�ลงั ซื้อมากกว่า การเขา้ ถงึ อาหารจึงเป็นอีกตวั ช้ีวดั ที่บอกถึงความไม่เทา่ เทยี มในสงั คม อกี ทั้งกระบวนการเหลา่ นีย้ งั เปล่ยี นความคดิ ความเช่อื ของคนโดยไมร่ ตู้ วั เรามองว่าอาหารแช่ แขง็ คอื เร่อื งธรรมดา ซ้ือจากรา้ นสะดวกซอ้ื ทุกวนั ดว้ ยความเคยชนิ และทิ้งขยะโดยไมส่ นใจวา่ มนั จะถกู ส่งตอ่ ไปทีใ่ ด วิถกี ารผลติ ไมไ่ ดแ้ คส่ ่งผลตอ่ อาหาร มันกระทบแมแ้ ต่อากาศที่เราหายใจ มนั เปน็ สงิ่ ทไ่ี มอ่ าจหนพี น้ เราอาจหนั มากนิ อาหารอินทรยี ์ อาหารเพือ่ สุขภาพ แตเ่ รากย็ งั อยูภ่ ายใต้ระบบน้ี ฉะนน้ั เราจงึ จำ�เป็นต้องสนใจ ประเดน็ นี้อย่างจริงจังและเผยแพรค่ วามรูค้ วามเข้าใจแก่คนในสังคม เปลี่ยนแปลงตนเองในระดับชีวิตประจำ� วนั ชวี ิตจะเปน็ อยา่ งไร ขึน้ อยู่กบั วิถกี ารกินอยขู่ องเรา สร้างระบบใหมแ่ ละวฒั นธรรมใหม่ เราปฏวิ ัติได้ในพืน้ ท่ีเล็กๆ ไม่จ�ำ เปน็ ต้องรอการปฏิวัติทง้ั ระบบ เร่มิ จากสิง่ ทเ่ี ราท�ำ ได้ กา้ วไปอย่างชา้ ๆ ให้ ระบบเล็กๆ ของเราแข็งแรงและมน่ั คง น่ีคอื ทางเลอื กใหม่ แนวคิดสังคมนยิ มมารก์ ซสิ ตแ์ บบหลังสมยั ใหม่ (Post-modern Marxism) เชือ่ วา่ การปฏิวัตเิ กิดขน้ึ ไดท้ กุ วัน เราประกาศความเชือ่ ในวัฒนธรรมทางเลือกผา่ น วิถีชวี ิตของเราได้

กระบวนการฝงั ตวั ในจิตและกายของตลาดแบบเสรนี ยิ มใหม่ • ความตอ้ งการการเติบโตดา้ นเศรษฐกิจสรา้ งความชอบธรรมใหต้ ลาด ผนวกกบั การเกิดข้นึ ของ ชนชนั้ กลางในฐานะผสู้ นับสนุนระบอบเสรีนิยมใหม่ ระบบเศรษฐกจิ เข้ามามีอิทธิพลกับทุกสว่ นของชวี ติ • ความลม้ เหลวของระบอบมาร์กซสิ ตท์ ำ�ให้คนคิดวา่ ไมม่ ีทางเลอื กอ่นื ใดอีกแลว้ นอกจากทนุ นิยมและ เสรีนยิ ม แมแ้ ตพ่ รรคคอมมวิ นิสตจ์ ีนก็ปรับแนวทางใหม่ • การควบคุมสินคา้ เชน่ การก�ำ หนดโควต้าการนำ�เข้าสินคา้ บางชนิดเพื่อไมใหก้ ระทบต่อผู้ผลติ ใน ทอ้ งถน่ิ แตป่ ัญหาคือ เมือ่ ประเทศนี้ก�ำ หนดโควตา้ ประเทศคู่ค้าก็กำ�หนดบา้ ง ผผู้ ลิตจงึ สง่ ออกไดน้ ้อยลง ใน ขณะเดียวกันผบู้ รโิ ภคของทุกประเทศต้องรบั ภาระกับราคาสนิ ค้าท่สี ูงขนึ้ นอกจากน้ี กระบวนการและขัน้ ตอน ก็ซบั ซ้อน ยากทจ่ี ะวัดโดยแม่นย�ำ ว่าควรก�ำ หนดมากแค่ไหน ด้วยระบบทฝ่ี ังลึกเช่นนี้ เราจงึ ต้องปฏิรปู โครงสรา้ งของความรู้ หันมาศกึ ษาค้นควา้ เก่ยี วกับอาหาร และประเด็นท่เี กยี่ วขอ้ ง เพือ่ จะไดพ้ บความจริงทีแ่ ตกตา่ งออกไปและเกิดการเปล่ยี นแปลงดา้ นทศั นคติ จากนั้น คือการลงมอื ปฏิบัตใิ นชวี ิตประจำ�วนั และสง่ ต่อสิ่งท่ีร้แู ก่ผอู้ ่ืน พร้อมท้ังรเิ ร่มิ สร้างสรรคส์ ่ิงใหม่ หนั มาผลติ เอง ปลกู เอง ทำ�อาหารเอง และถ้าตอ้ งซ้ือใหเ้ ลือกจากแหลง่ ทีเ่ รารู้จกั ผผู้ ลติ สนับสนนุ เกษตรกรรายย่อย และผลัก ดนั กฎหมายเก่ียวกับอาหาร เพื่อให้เกดิ การเปลยี่ นแปลงทั้งในระดับปัจเจกบคุ คลและระดับโครงสรา้ ง เงินและสถาบันการเงิน เงนิ และหนา้ ทข่ี องเงนิ เงนิ หมายถงึ อะไร โดยท่วั ไปคนเขา้ ใจวา่ เงินคอื ส่งิ ของ ไมว่ ่าจะเป็นเงนิ ในรูปของธนบัตร เหรียญ เชค็ บตั รเครดิต ฯลฯ แตเ่ มื่อเราไปติดเกาะร้างทีไ่ หนสักแห่ง เราจะพบว่ามดี ยังคงใช้ประโยชนบ์ นเกาะนั้นได้ ในฐานะมีด แตเ่ งินหรอื เชค็ ทเี่ ราพกติดตวั ไปจะกลายเป็นของไรค้ า่ ทนั ที มนั จะไม่ใชเ่ งินอกี ตอ่ ไป เพราะสิง่ ทท่ี �ำ หน้าทีเ่ ป็น “เงิน” จ�ำ เป็นต้องมกี ารรองรบั จากชุมชนวา่ มันท�ำ หน้าท่ีในการแลกเปลย่ี นได้ เงินจึงหมายถงึ สิ่งท่ี เปน็ “ข้อตกลง” รว่ มกนั ภายในชุมชน ว่าจะใช้ส่งิ นเี้ ปน็ สอื่ กลางในการแลกของ มนั เกดิ จากกระบวนการสรา้ ง ข้ึนของสงั คมเหมอื นการแตง่ งานหรอื ท�ำ สญั ญาเชา่ จะเป็นจรงิ ไดก้ ็ตอ่ เมื่อผูค้ นรบั ร้แู ละยอมรับมัน หน้าที่ในระดับปฐมภมู ขิ องเงนิ คอื เป็นสื่อกลางในการแลกเปลีย่ นเมือ่ ประชาชนท�ำ ธรุ กรรมทางเศรษฐกจิ ส่วน หนา้ ที่ในระดบั ทุตยิ ภูมคิ อื หน่วยวดั มูลคา่ สงิ่ ของและบริการ เก็บสะสมคา่ (เชน่ การออมเงิน) และเปน็ เคร่อื ง มือในการเกง็ กำ�ไร อยา่ งไรกต็ าม เงินไมไ่ ด้ทำ�หนา้ ท่รี ะดบั ทตุ ิยภูมิไดส้ มบรู ณเ์ สมอไป เช่น คา่ เงนิ อาจผันผวน เปน็ ต้น

เงนิ เครดิต (Credit Money) เงินที่ออกโดยธนาคารเกดิ ข้นึ คร้ังแรกในอังกฤษโดยเริม่ จากชา่ งทอง เม่อื คนฝากเงินและทองไว้กบั ช่าง ชา่ งจะออกตว๋ั ทีน่ �ำ กลับมาแลกทองคนื เมื่อใดกไ็ ดห้ รอื โอนให้ผูอ้ นื่ ได้ ต่อมา ช่างทองเหน็ โอกาสทำ�กำ�ไร จึงไม่ได้ออกแค่ตว๋ั แก่ผู้ทนี่ �ำ โลหะมาฝากเทา่ น้นั แตย่ งั ออกให้ผู้มาขอกู้ยมื เพ่อื เกบ็ ดอกเบยี้ ด้วย ตอ่ มาเหน็ รายไดด้ ีจึงใหด้ อกเบ้ยี ตอบแทนแกผ่ นู้ �ำ เงนิ หรือทองมาฝากดว้ ยเพือ่ เป็นแรงจงู ใจ แต่ ตัว๋ สองประเภทนตี้ า่ งกัน ผู้ทีฝ่ ากทองจะได้ตั๋วท่ีมีโลหะติดอยู่ดา้ นหลัง แตผ่ ทู้ มี่ ากยู้ ืมจะไดต้ ๋ัวท่ีไมม่ โี ลหะ คน ส่วนมากไม่รู้วา่ ความแตกต่างนแี้ ละไม่รเู้ ลยวา่ ตัว๋ ประเภทหลงั ไมส่ ามารถน�ำ ไปแลกทองจากธนาคารได้จริง นีเ่ องคอื จดุ เริม่ ต้นของเงนิ เครดติ ในแง่นีเ้ งินคอื หน้ีสนิ นน่ั เอง ระยะแรกเงนิ ทอี่ อกโดยธนาคารจงึ มีปญั หามากเพราะเงนิ ท้งั สองรปู แบบตา่ งหมุนเวยี นอยใู่ นกระแส และนำ�ไปแลกทองไดท้ ้ังคู่ ทองท่ีมใี นธนาคารจงึ ไม่พอท่จี ะแลกกับธนบตั รได้ท้งั หมด จงึ มรี ะบบใหธ้ นาคารเกบ็ เงินสดสำ�รองบางสว่ น (fractional reserve) ข้นึ มา ในท่สี ดุ ระบบตัว๋ ฝากทองกล็ ม้ เลกิ ไปถือเปน็ การสนิ้ สุดเงิน สญั ลักษณ์ ปัจจบุ ันเงินทัง้ หมดในระบบคอื เงนิ เครดิต ส่วนใหญ่อยใู่ นรูปเงินฝากธนาคาร สว่ นเงินธนบตั รและ เหรียญมีเพยี งเล็กนอ้ ย กล่าวได้วา่ เงินท่ีใช้ทกุ วันนไ้ี มใ่ ช่สอ่ื กลางท่ีจะน�ำ ไปถอนทองคำ�หรอื เงนิ คืนได้อกี ตอ่ ไป แล้ว ไม่มีสิ่งใดคำ้�ประกนั มูลคา่ มนั เป็นเพียงเงินทม่ี ีค่าเพราะรัฐบาลรับรองเท่าน้ัน การสรา้ งเงิน ปัจจุบันเงนิ ท่ีมาจากธนาคารคอื เงนิ หน้ี และเงินสดทเี่ ราใชอ้ ยู่กเ็ ป็นเพยี งสญั ลกั ษณ์เงินหนจ้ี าก ธนาคารเท่านัน้ เอง ธนาคารสรา้ งเงินข้นึ มาจาก ๒ วิธี ดังต่อไปน้ี ๑.การสร้างเงินจากกฎเงนิ สดส�ำ รองบางสว่ น เม่อื นาย ก ฝากเงินทธี่ นาคาร ๑,๐๐๐ บาท ธนาคาร น�ำ เงินน้ันไปปลอ่ ยกเู้ พื่อคดิ ดอกเบีย้ แตม่ ีกฎวา่ ธนาคารต้องเก็บเงนิ สดสำ�รองรอ้ ยละ ๑๐ จากเงนิ ทน่ี าย ก ฝาก ธนาคารจึงให้นาย ข กู้ยืม ๙๐๐ บาท แตเ่ งนิ ในบัญชีของนาย ก ยังมี ๑,๐๐๐ บาทเทา่ เดิม ตอนนม้ี ีตัวเลข ใน บัญชีของ

นาย ก ยงั มี ๑,๐๐๐ บาทเทา่ เดมิ ตอนน้มี ีตวั เลขในระบบ ๑,๙๐๐ บาทแล้ว เงินส่วนนี้ยงั งอกเงยตอ่ ไปไดอ้ กี เมื่อนาย ข นำ�เงนิ ทีไ่ ดม้ าไปฝากธนาคาร ๙๐๐ บาท ธนาคารกส็ ามารถนำ�เงินร้อยละ ๙๐ ของนาย ข ไปปลอ่ ย กใู้ หน้ าย ค อีก ๘๑๐ บาท เมอ่ื นาย ค น�ำ เงนิ มาฝากในธนาคาร ธนาคารกป็ ลอ่ ยกู้ให้นาย ง อกี ๗๒๙ บาท เชน่ นีต้ ่อไปเรื่อยๆ ธนาคารสามารถสรา้ งเงนิ เพมิ่ ข้ึนจากเงินต้ังต้นได้ถึง ๑๐ เทา่ จากเงินฝากของนาย ก ธนาคาร จะสรา้ งเงนิ ข้นึ มาได้ ๑๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ย จากสถานการณด์ ังกล่าว เงินในโลกท้ังหมดทุกวันนจ้ี งึ เป็น \"หน้ี\" น่ันเอง องั กฤษมีเงินสดเพียงร้อย ละ ๓ จากเงนิ ในระบบท้ังหมด ส่วนอเมริกามีร้อยละ ๑๐ จากเงินในระบบท้งั หมด การสร้างเงินจากกฎเงินสดส�ำ รองบางส่วน ๒ การสรา้ งเงนิ ของธนาคารกลางของอเมรกิ า เมอื่ ประชาชนถอนเงิน เราตอ้ งแนใ่ จว่ามเี งินในบัญชี มากพอสำ�หรับจ�ำ นวนที่ถอน แต่เมื่อธนาคารกลางถอนเงนิ กลบั ไม่มเี งินฝากใดๆ เลย ดังนนั้ การถอนเงินของ ธนาคารก็คือการสรา้ งเงินข้นึ มานัน่ เอง กระทรวงการคลงั กเู้ งินจากประชาชน โดยออกพันธบัตรหรอื ตราสารหนีเ้ พอื่ เปน็ สญั ญาว่าจะคนื เงิน เมอื่ ธนาคารพาณิชย์ซื้อพนั ธบัตรแลว้ ก็จะนำ�ไปแลกเงินกับธนาคารกลาง แล้วธนาคารกลางก็พมิ พธ์ นบัตร ให้แก่ธนาคารพาณชิ ย์ เพราะพนั ธบัตรสามารถใช้เป็นสินทรัพยเ์ พอื่ หนนุ การผลิตเงิน ส่วนรฐั ก็น�ำ เงินจาก การขายพนั ธบตั รไปใชจ้ า่ ย เช่น จา้ งงาน จ่ายคา่ สวสั ดิการ ฯลฯ เมื่อประชาชนได้รบั เงนิ น้จี ากรฐั ก็นำ�ไปฝาก ธนาคารต่อ กระบวนการฝากและกูก้ ว็ นเวียนไปมาเช่นเดิม เมอื รฐั ก้เู งนิ มาแล้ว ถึงเวลาชำ�ระคืนแต่ยงั ไมม่ เี งนิ พอ รฐั ก็ต้องเพิ่มเพดานหนีต้ ่อไปเรื่อยๆ เพื่อไปกู้ยมื เงินใหม่มาใช้หน้ี ระบบดังกล่าวนี้จงึ ไม่มีเสถยี รภาพเลย เงินทีใ่ ชอ้ ยู่ในโลกทกุ วันน้ีกเ็ ปน็ เพยี งกระดาษ ถา้ วันใดวนั หน่ึง รัฐไม่รบั รอง เงินก็จะไม่มลู ค่าอกี ต่อไป ดังเห็นไดจ้ ากกรณขี องอินเดีย ทร่ี ัฐเรียกคนื ธนบตั รใบละ ๕๐๐ และ ๑,๐๐๐ ถ้าใครแลกไม่ทันภายในวันท่ี ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ กไ็ ม่สามารถน�ำ ธนบตั รดังกลา่ วไปแลกซื้อ สนิ คา้ ใดๆ ได้อีก

เงนิ ตราทางเลือก สกุลเงนิ เสริม (Complementary Currencies) คือข้อตกลงในชุมชนหนึง่ ๆ ว่าจะใชส้ งิ่ ใดสิง่ หนงึ่ เปน็ ส่ือกลางแลกเปลี่ยนซอ้ื ขายแทนสกุลเงนิ ของประเทศ เรยี กอีกอย่างวา่ ระบบเงนิ ตราชมุ ชน แต่ไมใ่ ช่วา่ เงิน เสริมจะใช้ในเฉพาะทอ้ งถนิ่ เสมอไป โดยทว่ั ไปใชไ้ ดเ้ ฉพาะในชมุ ชนทสี่ ร้างมนั ข้นึ มาเท่าน้นั บางกรณีสกุลเงิน เหล่านถ้ี กู สรา้ งข้นึ มาเพ่อื ชว่ ยเสรมิ เงินสกลุ หลกั ของประเทศ การสร้างระบบเงนิ ข้นึ มาใช้ในท้องถนิ่ คือส่วนหนง่ึ ของการกา้ วเข้าส่ยู ุคหลังอตุ สาหกรรม ระบบเงนิ ตราชมุ ชนแบ่งได้ ๔ ประเภท ได้แก่ ๔ รปู แบบคอื ระบบบญั ชีซอ้ื ขายในท้องถ่ิน (LETS) ระบบธนบัตรท้องถ่ินหรอื คูปอง (HOURS) ธนาคารเวลาชุมชน (Time Bank) และแบบผสมระว่างระบบ LETS และ Hours ระบบบญั ชซี ื้อขายในทอ้ งถิน่ (Local Exchange Trading System หรือ LETS) สมาชกิ จะเสนอไว้ กับส่วนกลางวา่ ตนมีสินคา้ และบริการอะไรบา้ งท่ตี ้องการซ้อื ขาย ผู้ทคี่ วามตอ้ งการตรงกันกจ็ ะนัดพบและแลก เปล่ียนกนั ธนบตั รหรือคปู อง (HOURS) สมาชกิ ต้องกรอกขอ้ มลู สว่ นตวั และรายละเอียดสินคา้ หรือบริการ ท่ีตอ้ งการซอ้ื ขาย ขอ้ มูลนีจ้ ะบนั ทกึ ไว้ในส่วนกลาง ส่วนกลางจะส่งเงินของระบบไปใหส้ มาชกิ ตามจ�ำ นวนที่ ตกลงกัน ธนาคารเวลาชุมชน (Time Bank) แนวคิดของระบบน้ีคือ การจา่ ยคา่ จา้ งแรงงานในรปู แบบเวลา ของการใช้แรงงาน เชน่ เงนิ มูลคา่ ๑ ดอลลารเ์ วลา มคี า่ เทา่ กบั ๑ ชวั่ โมงการท�ำ งาน คนท่ีซื้อเวลาท�ำ งานจากผู้ อืน่ ไว้ ๑ ดอลลาร์ ก็ต้องใชค้ นื ในภายหลงั ๑ ดอลลาร์ ระบบผสม โดยใช้ระบบสมาชกิ เมอื่ สมาชิกซื้อของ มลู คา่ ในบัญชีจะถูกหักเพอ่ื ไปเพม่ิ เครดติ สว่ น กลาง แตผ่ ู้ท่ีไม่ใชส่ มาชิกกส็ ามารถใชร้ ะบบนไ้ี ด้ หรอื ใชค้ ปู องโดยไม่ลงบัญชีกับส่วนกลางกไ็ ด้ เพราะสดุ ทา้ ย คปู องจะหมนุ เวยี นมาถึงมอื สมาชกิ ทต่ี อ้ งฝากเงนิ เข้าบัญชใี นระบบอยดู่ ี ตัวอยา่ งเงนิ ตราชมุ ชนในบราซิล ปญั หาหลกั ในเมอื งควิ รทิ บิ า ประเทศบราซิล คอื ขยะ ประชากรจ�ำ นวนมากอาศยั อยใู่ นชมุ ชน แออดั ที่คบั แคบและแน่นมาก รถขยะไม่สามารถเข้าไปได้ ขยะจึงพอกพูดข้ึนเรอื่ ยๆ ทำ�ให้เกดิ โรคระบาดตาม มา นายกเทศมนตรีของเมืองไมม่ งี บประมาณจะมาจัดการเรือ่ งน้ี แต่เมืองนี้มีจดุ แข็งตรงทส่ี ามารถผลติ อาหาร ได้เองเพราะดนิ และสภาพอากาศเหมาะสม มีระบบรถประจำ�ทางแต่คนในสลมั ยากจนเกนิ กวา่ จะใชบ้ รกิ าร นายกเทศมนตรจี งึ นำ�ปจั จยั เหล่านม้ี าช่วยแก้ปญั หา

โดยนำ�ถังขยะไปวางรอบๆ พืน้ ที่ชมุ ชน คนท่ีนำ�ถงุ ขยะแบบยังไมแ่ ยกมาวางจะไดเ้ หรียญขึ้นรถเมล์ คนที่แยกกระดาษและพลาสติกมาจะไดผ้ กั และผลไม้สด นอกจากนี้ยังมีโครงการในโรงเรียน เด็กสามารถน�ำ ขยะมาแลกอปุ กรณ์การเรยี นได้ ส่วนเมือง Palmeiras ในบราซิล มีกลมุ่ เอน็ จโี อและชาวเมอื งรว่ มกนั ตั้งธนาคารสินเชอ่ื ชมุ ชนขึน้ มา เพ่ือฟื้นฟเู ศรษฐกิจในท้องถนิ่ งานอย่างหน่งึ ของธนาคารคอื สรา้ งเงินตราชุมชนท่ีเรยี กว่า Palma เพอื่ สง่ เสริม การค้าในทอ้ งถนิ่ เงินนี้จะหมนุ เวียนอยใู่ นเขตเมือง Palmeira และเพราะเงนิ นไี้ ม่สามารถใชจ้ ่ายนอกเมอื งได้ คนจงึ พยายามซื้อขายสนิ คา้ ในทอ้ งถน่ิ ใหม้ ากทส่ี ดุ เงินตราจงึ ไมร่ ่ัวไหล เศรษฐกิจชมุ ชนเข้มแขง็ ข้ึน การจดั ตัง้ ชมุ ชนสกู่ ารเคลือ่ นไหวทางสงั คม (ถอดความจากการบรรยายของ ปรดี า คงแปน้ ) การจัดระบบชมุ ชน (Community Organizing) เปน็ ทั้งศาสตรแ์ ละศิลป์ คนท�ำ งานจะใช้ปัญหาหรือ จดุ ท่ีชุมชนต้องการพฒั นาเป็นเงือ่ นไขแรกในการท�ำ งาน แล้วคอยท�ำ หนา้ ท่ีกระตุน้ ประสาน เชอ่ื มโยง และต้งั คำ�ถามให้ชาวบ้านคดิ และเคล่ือนเอง ไม่ท�ำ แทน ถา้ จ�ำ เปน็ อาจแทรกแซงบ้างแต่อยา่ งสร้างสรรค์ ไมใ่ ชค่ รอบงำ� ชมุ ชนในพน้ื ที่สึนามิ : พลกิ วกิ ฤตเป็นโอกาส พ.ศ. ๒๕๔๗ เกดิ ภยั สนึ ามิขนึ้ ใน ๖ จังหวดั ชายฝ่งั อนั ดามันของประเทศไทย จากท้งั หมด ๔๐๗ หมบู่ ้าน ๑๒,๔๘๐ ครอบครัว ๖,๘๒๔ หลังคาเรอื นท่ไี ดร้ บั ผลกระทบ มี ๔๗ หมบู่ ้าน ๕,๔๔๘ ครอบครวั ทไ่ี ดร้ บั ความเสยี หายอย่างหนัก นักจดั ระบบชุมชนใช้สึนามเิ ป็นเง่ือนไขในการท�ำ งานเพอื่ สร้างความเข้มแขง็ แก่ชมุ ชน และเครือขา่ ย กล่าวคอื ไม่ไดเ้ ข้าไปช่วยชาวบา้ นแบบสงั คมสงเคราะห์ทเี่ อาขา้ วของไปแจก แตล่ งไปผลักดนั ให้ ชาวบา้ นได้ร่วมคดิ รว่ มท�ำ และบรหิ ารจดั การตนเอง จนนำ�ไปสกู่ ารร่วมมือกับองคก์ รอื่นๆ จากชุมชนผ้ปู ระสบ ภยั พฒั นาขึ้นเปน็ ชุมชนป้องกนั ภยั สามารถชว่ ยเหลือผเู้ ดอื ดร้อนกลุ่มอน่ื ๆ และยกระดับจิตสำ�นกึ สาธารณะ โดยมีกระบวนการท�ำ งานดังนี้ ๑. บรรเทาทกุ ขเ์ บอื้ งตน้ ภยั พบิ ตั คิ รัง้ นี้เสียหายรุนแรงมาก ความชว่ ยเหลอื จงึ หลง่ั ไหลมาจากหลาย ส่วนทั้งจากรฐั และเอกชน แบ่งไดค้ ร่าวๆ ๓ ส่วน ได้แก่ งานช่วยผบู้ าดเจ็บและคน้ หาศพผู้เสียชีวติ งานบริจาค สิ่งของเพ่ือชว่ ยเหลือ และงานชว่ ยเหลือผูร้ อดชวี ติ ใหอ้ ยูต่ อ่ ไป ๒. ส่งเสรมิ การท�ำ งานอย่างมีส่วนร่วม ความชว่ ยเหลือเขา้ มามาก ปัญหาก็ตามมามากเช่นกนั เชน่ การจัดสรรของบริจาคที่ไมท่ ่วั ถงึ หน่วยงานรฐั ทำ�งานช้า เปน็ ตน้ ผูป้ ระสบภยั จงึ ต้องลุกขนึ้ มาชว่ ยงานและแก้ ปัญหาดว้ ยตนเอง นักจัดระบบชมุ ชนสง่ เสรมิ ให้ชาวบา้ นมีสว่ นรว่ ม โดยแบ่งเป็นกลุ่มดแู ลเรอื่ งรับของบริจาค ดแู ลผูอ้ อ่ นแอ สรา้ งท่ีอย่อู าศยั หุงหาอาหาร ฯลฯ นอกจากน้ี ยังประชมุ ปรึกษาหารอื กนั อยา่ งสม่�ำ เสมอเพอื่ ปรับปรงุ แกไ้ ขและตดิ ตามงาน ชาวบ้านจงึ ไดเ้ รียนร้ไู ปด้วยในระหวา่ งวิกฤต

๓. พัฒนาอาชพี ฟืน้ ฟจู ิตใจ และเสริมสร้างรายได้ การแบง่ งานกันท�ำ คอื สว่ นหนง่ึ ของการฟื้นฟูและ เยียวยาจิตใจ อยา่ งน้อยช่วยให้ชาวบ้านไดเ้ คลอ่ื นไหวและคิดถงึ วันข้างหนา้ เพื่อให้ซมึ เศรา้ กบั ความสญู เสยี น้อยลง นอกจากน้ยี ังมีกระบวนการสรา้ งสรรคอ์ ืน่ ๆ ทน่ี อกจากเยียวยาจิตใจแล้วยงั ชว่ ยใหเ้ กิดรายได้ด้วย เช่น ทำ�ผา้ บาติก สานแห ตดั เย็บเสื้อผา้ ฯลฯ บรรยากาศ อีกท้ังยังมกี ารดูแลจากแพทย์จากหลายองคก์ ร ผนู้ ำ�ทาง ศาสนาและจิตวิญญาณรว่ มด้วย ๔. รว่ มมอื ออกแบบบา้ นและชุมชน หลงั จากช่วยเหลอื เฉพาะหน้าในระยะส้ันแล้ว นักจดั ระบบ ชุมชนไดช้ ว่ ยเหลือชาวบ้านท�ำ งานในระยะยาวเรอ่ื งการสรา้ งบา้ นและชมุ ชนใหมเ่ พราะบ้านเก่าเสียหายหมด แล้ว รัฐมกั แก้ปัญหาโดยออกแบบและสรา้ งบา้ นแบบสำ�เรจ็ รูปแล้วให้ชาวบา้ นย้ายเข้าไปอยู่เลย ปญั หามกั เกิด ตามมาเพราะผอู้ อกแบบไมใ่ ชค่ นในพื้นที่จึงไมเ่ ขา้ ใจสภาพอากาศและการใชส้ อยของชาวบ้าน นกั จดั ระบบ ชุมชนทำ�งานโดยปรกึ ษาหารอื กบั ชาวบา้ น มีสถาปนิกมาช่วยออกแบบผงั ชุมชนและบ้านโดยชาวบ้านออก ความคดิ เหน็ บา้ นจงึ ตรงกบั ความตอ้ งการ สอดคล้องกับวถิ ชี ีวิตอยา่ งแท้จริง เม่อื ลงมือสร้างทกุ คนไมว่ ่าเดก็ หรอื ผู้ใหญ่ ผูห้ ญิงหรือผู้ชายต่างร่วมลงแรงด้วย เป็นขั้นตอนสำ�คัญของการหลอมรวมใจชาวบ้าน ๕. ซอ่ มและสร้างเรือหาปลา เรือคือวถิ ีชวี ติ ของชาวบ้านทีน่ ี่ เหตุการณส์ ึนามทิ ำ�ลายเคร่อื งมอื ท�ำ มา หากนิ เกอื บท้ังหมด การซอ่ มและสร้างเรือคือสัญลกั ษณ์ของการเริม่ ต้นชีวติ ใหม่ ๖. ตง้ั กลุ่มออมทรพั ย์ นักจัดระบบชุมชนชวนชาวบา้ นมาออมเงนิ รว่ มกนั โดยใช้เงินบรจิ าคเป็นเงนิ ต้ังตน้ ปัจจุบนั หมบู่ า้ นน้�ำ เคม็ มีทุนหมุนเวยี น ๑๐ ล้านบาทมาใชใ้ นการพฒั นาและท�ำ กิจกรรมต่างๆ ๗. พัฒนาแกนนำ� ประชมุ สรุปบทเรียน และแลกเปลย่ี นเรียนร้งู าน เพื่อให้ชาวบ้านไดร้ ะดมความ คิดเหน็ ทบทวนจดุ ออ่ นจุดแขง็ ของตนเองอย่างตอ่ เนือ่ ง สำ�หรับนักจดั ระบบชุมชน ประสบการณท์ กุ อย่างมคี ่า แมแ้ ตค่ วามล้มเหลวกเ็ ปน็ ประโยชน์ในแง่การเรียนรู้ วิเคราะห์ และพฒั นาตนเองตอ่ ไปในอนาคต ๘. ฟืน้ ฟูประเพณี วัฒนธรรม ศาสนา และภมู ิปญั ญาทอ้ งถนิ่ เพ่ือเยียวยาความทกุ ขแ์ ละสรา้ งขวัญ ก�ำ ลังใจใหช้ าวบา้ นมชี วี ิตต่อไป รวมท้ังสนบั สนุนให้เกดิ ลานวฒั นธรรมและพิพิธภณั ฑ์ทอ้ งถ่นิ ของชาวเล เหล่า นน้ี อกจากสรา้ งความเชื่อมัน่ ใหช้ าวบา้ นแลว้ ยงั เป็นกระบวนการหลอมรวมคน และเปน็ เครอ่ื งมือบอกเลา่ เร่ือง ราวแก่คนภายนอก เหลา่ นีค้ อื สงิ่ ที่ช่วยให้ชาวบา้ นเขม้ แขง็ และยนื หยดั ต่อสู้กับความอยุติธรรมได้ในระยะยาว ๙. จัดต้ังเครอื ข่ายผ้ปู ระสบภยั สนึ ามิ มกี ารประกาศตง้ั เครอื ข่ายตง้ั แต่ ๓ เดือนแรกหลงั เกดิ สนึ า มิ แกนน�ำ ของแตล่ ะชุมชนจะไดพ้ บปะแลกเปลยี่ นกนั อย่างสม�่ำ เสมอ และขยายขอบเขตงานไปไกลกวา่ เร่ือง สึนามิ เชน่ ตอ่ สู้เร่ืองสิทธทิ ดี่ นิ เป็นต้น แรกเร่มิ มี ๓๐ ชมุ ชน ต่อมาเพมิ่ เป็นรอ้ ยกวา่ ชมุ ชน ในวาระร�ำ ลึกครบ รอบหน่ึงปีของผู้ประสบภยั สึนามิมผี ู้เข้าร่วม กวา่ ๑,๕๐๐ คน เพือ่ หาทางฟ้นื ฟูชมุ ชนอย่างย่งั ยนื รว่ มกัน นีค่ อื ตวั อย่างของการสร้างมวลชนโดยใช้ปัญหาเปน็ เง่อื นไข

๑๐. ผลักดันปญั หาเขา้ สวู่ าระแห่งชาติ การจดั ระบบชมุ ชนจะตอ้ งทำ�งานแกไ้ ขปัญหาระดับชมุ ชน ควบคไู่ ปกับการเคลอ่ื นไหวเชงิ โครงสรา้ งและนโยบาย หลังเหตุการณ์สึนามิได้พบวา่ มีชมุ ชนจ�ำ นวนมากที่ไม่ สามารถเข้าถึงสทิ ธิพื้นฐาน เชน่ บัตรประชาชน การศึกษา ความม่นั คงในทอ่ี ยู่อาศยั ฯลฯ อย่างชาวมอแกลนที่ อยู่บริเวณชายฝ่ังทะเลมาสามรอ้ ยกว่าปี แต่กลบั ไม่มเี อกสารสทิ ธิท์ ่ดี ิน ปัญหาท่ตี ามมาหลงั สึนามคิ อื นายทนุ และนักการเมอื งอ้างสทิ ธิ์เหนือทดี่ ินท่ชี าวบ้านเคยอยู่หรอื พืน้ ท่ีทำ�กนิ ของชุมชน วิธีแกไ้ ขปัญหาเฉพาะหนา้ อย่างหนึง่ คอื ชาวบ้านต้องเร่งสร้างชมุ ชนใหมบ่ นทด่ี นิ เดิมแมว้ ่านกั การเมอื งหรือนายทนุ มาอ้างสทิ ธเ์ิ หนอื ท่ี บริเวณนน้ั เพราะเมือ่ ชาวบา้ นไดป้ ักหลักอย่างม่ันคงแลว้ อำ�นาจตอ่ รองจะมีมากข้ึน จึงรวบรวมปัญหาจาก ชมุ ชนตา่ งๆ และเสนอต่อรัฐบาล พรอ้ มทัง้ เผยแพร่ผ่านส่ือมวลชน สง่ ผลให้รัฐตั้งคณะกรรมการมาแก้ไขปญั หา ทีด่ นิ อย่างเรง่ ด่วน ชาวบา้ นได้กลบั ไปอยทู่ ี่ดินเดิมและได้เอกสารสิทธอ์ิ ย่างถูกตอ้ ง แน่นอนวา่ ยงั มจี �ำ นวนมาก ทต่ี อ้ งเสียท่ดี นิ ใหแ้ ก่ผ้มู ีอ�ำ นาจ โดยสรปุ นักจดั ระบบชมุ ชนได้พลิกวกิ ฤตเปน็ โอกาส ผูป้ ระสบภยั สนึ ามิได้รวมตวั กนั เป็นเครอื ขา่ ย เพอ่ื แก้ไขปญั หาเฉพาะหนา้ รวมตัวกันต้ังกองทุนและทำ�กจิ กรรมตา่ งๆ รวมถงึ แกไ้ ขปญั หาที่ดนิ และปญั หา ดา้ นสิทธิอื่นๆ ชาวบา้ นไมเ่ พียงดแู ลชมุ ชนตนเอง แตย่ ังยกระดับจิตส�ำ นกึ เคล่ือนไหวเพ่ือช่วยชุมชนอ่ืนๆ ทั้งยัง ได้ผลกั ดันจนเกดิ การเปล่ียนแปลงเชิงนโยบาย กล่มุ ปัญหาทด่ี ินและทรัพยากร นอกเหนอื จากปญั หาทีเ่ กดิ ขึ้นหลงั สึนามิเทา่ น้ัน แต่การพฒั นาและการท่องเที่ยวเองกส็ ่งผลกระทบ ตอ่ วิถชี วี ิตชาวเลและชนพ้นื เมอื งทีอ่ าศัยอยบู่ รเิ วณชายทะเลอย่างรนุ แรง มีทั้งกรณที ่รี ฐั ประกาศเขตอุทยาน ทบั ทช่ี าวบา้ น รฐั ใหส้ ัมปทานเหมืองแร่ และนายทนุ ยดึ ครองทีด่ นิ เพอ่ื สรา้ งรสี อร์ทและโรงแรม เช่น กรณีชาวเล บนเกาะหลเี ป๊ะ ทอ่ี าศยั อยบู่ นเกาะมานานหลายรอ้ ยปี นอกจากถูกรัฐประกาศเขตอุทยานทับทแ่ี ล้วยงั มีเอกชน มาไลท่ ่ดี ้วย นักจดั ระบบชุมชนตอ้ งชว่ ยผลักดันใหม้ ีกฎหมายแก้ไขปญั หาทีด่ นิ และสง่ เสรมิ ใหช้ มุ ชนมสี ว่ นรว่ ม จัดการทรัพยากร กลุม่ คนไทยพลดั ถิ่น คนไทยไรส้ ญั ชาติ นักจัดระบบชุมชนสังเกตเหน็ ปญั หาอยา่ งหนง่ึ ที่เกดิ ขึน้ ขณะชว่ ยเหลือผู้ประสบภยั สึนามิ นัน่ คอื หน่วยงานรัฐมักเลอื กช่วยเหลอื เฉพาะผมู้ ีบตั ร ผเู้ ดือดร้อนจำ�นวนมากจำ�นวนมากที่ไม่มสี ัญชาตจิ งึ ไมไ่ ดร้ ับ ความชว่ ยเหลืออย่างเท่าเทียม นกั จดั ระบบชมุ ชนจึงไดล้ งไปศึกษาและท�ำ งานกบั ปัญหานอี้ ยา่ งจริงจงั พบวา่ ในกลุ่มผู้ไม่มีบตั รน้แี ท้จรงิ คอื คนไทยท่ีไร้สัญชาตหิ รอื คนไทยพลดั ถน่ิ แตเ่ ดมิ เขตมะริด ทวาย ตะนาวศรี ฯลฯ และบางส่วนของประเทศกมั พชู า เคยเปน็ ของไทย แตเ่ มอื่ องั กฤษแบ่งเขตประเทศไทยและเพือ่ นบ้านใหมเ่ มอื่ พ.ศ. ๒๔๑๑ ดนิ แดนเหล่านีก้ ต็ กไปอยู่ในเขตของประเทศเพือ่ นบ้าน เมือ่ เกดิ สงครามจงึ หลบภัยเข้ามาอยูใ่ น ไทยกระจายไปตามระนอง ประจวบ ชุมพร ตราด และตาก มีจ�ำ นวนประมาณ ๕๐,๐๐๐ คน และต้องกลาย เป็นคนสญั ชาติพร่ามัว “อยเู่ มียนมาร์เขาว่าเปน็ คนไทย อยไู่ ทยเขาวา่ เป็นเมียนมาร”์

ปัญหาของคนไทยพลัดถิน่ ประการแรกคือ ไมม่ ีสิทธิขัน้ พืน้ ฐาน ไมส่ ามารถเขา้ ถึงบรกิ ารด้าน สขุ ภาพ การศึกษา สิทธิของผูส้ งู อายุและคนพกิ าร ไมม่ สี ิทธ์เิ ดนิ ทางออกนอกพื้นที่ ไมส่ ามารถท�ำ ธุรกกรรมทาง กฎหมาย ไม่ว่าจะเปน็ การจดทะเบยี นสมรสหรือจดทะเบียนสิทธ์คิ รอบครองอสังหาริมทรพั ย์ เม่อื ถูกเอารัดเอา เปรียบก็ไมส่ ามารถเขา้ ถงึ กระบวนการยุตธิ รรมได้ บางคร้งั จึงเจ้าหนา้ ทรี่ ฐั ขดู รดี เพ่ือแลกกบั การไดอ้ ย่ไู ทย หรอื ถูกเอาเปรยี บโกงคา่ แรง เพราะนายจ้างเห็นว่าคนเหลาน้แี จ้งความเอาเรื่องตนไมไ่ ด้ คนไทยพลัดถิ่นตอ้ งกลายเป็นผู้ไรส้ ิทธิ์ทั้งในรฐั ไทยและเมยี นมาร์ ถกู กระทำ�ให้อยใู่ นสภาวะท่ไี มไ่ ด้เป็นมนษุ ย์ เตม็ ตัว ไมส่ ามารถแม้แตจ่ ะเรียกร้องขอมีสทิ ธิ์ เม่ือไม่มบี ัตรกไ็ มม่ สี ิทธิเ์ ป็นเจา้ ของบ้าน ต้องอาศยั สรา้ งบ้านใน ที่ต่างๆ และถูกไลท่ ี่บอ่ ยครั้ง คนไทยพลดั ถิน่ ท่ีได้รบั ผลกระทบจากสนึ ามิก็ไมไ่ ด้รบั เงินชว่ ยเหลอื มาซ่อมแซม บ้าน ต้องซอ่ มแซมกนั เองอย่างง่ายๆ เดก็ ไทยพลัดถ่นิ แมจ้ ะไดเ้ ข้าโรงเรียนแตไ่ ม่ชดั เจนเรือ่ งวฒุ กิ ารศกึ ษา โรงเรียนมกั คอยทวงถามใบสตู ิบตั รหรือทะเบยี นบา้ น เดก็ จงึ อับอายไม่อยากไปเรียน หลายคนจงึ ตดั สนิ ใจลา ออกจากโรงเรียน นกั จัดระบบชมุ ชนภายใตม้ ูลนิธิชุมชนไทยจึงค้นควา้ ข้อมูลเร่ืองนี้ และพยายามหาชอ่ งทางนำ�เสนอ ผ่านส่อื สาธารณะ รวมถึงเขา้ หาหน่วยงานรัฐท่ีมีส่วนเก่ียวขอ้ งเพือ่ ผลกั ดันใหเ้ กดิ การชว่ ยเหลอื หวั ใจอยา่ งหนึ่ง ของการจัดระบบชุมชนคือรวมพลังคนเป็นเครอื ข่าย คนไทยพลัดถนิ่ จงึ เข้ารว่ มกบั กลุม่ เครือข่ายผ้ปู ระสบภยั สึ นามิและกลมุ่ ประสบปญั หาทดี่ นิ เพอื่ หาทางออกร่วมกัน นอกจากน้ี ยงั รวมใจกนั ผ่านกจิ กรรมทางวฒั นธรรม ต่างๆ เชน่ แสดงหนงั ตะลงุ ลเิ กปา่ ฯลฯ ศิลปวัฒนธรรมเหลา่ น้ีไม่เพียงชบุ ชูจิตใจให้ทุกคนส้กู บั ปัญหาตงึ เครยี ด ได้ แต่ยงั เชอ่ื มรอ้ ยคนเข้าด้วยกนั และท�ำ ให้อัตลกั ษณ์ของกลุ่มเข้มขน้ ขน้ึ มกี ารจดั เวทีรบั ฟังความคดิ เหน็ ๔๗ เวที ก่อนรา่ งกฎหมายและเสนอกฎหมายวา่ ด้วยการคืนสัญชาติไทยใหค้ นไทยพลดั ถน่ิ แตต่ ดิ คา้ งอยใู่ นสภา เป็นเวลานานกวา่ ๑ ปี ในวนั ที่ ๑๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๗ คนไทยพลัดถิ่นได้เดินเท้ามาจากจงั หวัดประจวบครี ีขนั ธไ์ ป ยังหน้ารัฐสภาพในวนั เปิดสมัยประชมุ วนั แรก เพื่อเรียกร้องให้รัฐออกกฎหมายสัญชาตใิ ห้คนพลดั ถ่นิ ได้อยใู่ น ฐานะคนไทย ในระหวา่ งเดินทาง คนไทยพลัดถ่นิ ไดส้ ่ือสารให้ชาวบ้านทีไ่ ดพ้ บเจอระหว่างทางใหเ้ ข้าใจวา่ ตน ก�ำ ลังขอ \"คนื สัญชาติ คนื ศักด์ศิ รี คืนมาตภุ มู \"ิ ได้รับการสนบั สนุนจากสอื่ มวลชนและภาคีหลายฝาย เงินท่ีใช้ ในกิจกรรมนมี้ าจากการสะสมเงินในกระปุกออมสินของชาวบา้ นและจากการสนบั สนนุ ของเครอื ขา่ ย เมอื่ ถึง สภาพตัวแทนคนไทยพลดั ถน่ิ นกั วชิ าการ และนักจัดระบบชมุ ชนได้เข้าพบกับนายกรัฐมนตรเี พือ่ หารือเรือ่ งน�ำ กฎหมายเข้าสภาฯ แลว้ ในท่ีสดุ วันท่ี ๒๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ พระราชบัญญตั สิ ญั ชาติฉบบั ที่ ๕ ก็ผ่านการ พิจารณาและประกาศใชใ้ นราชกจิ จานุเบกษา รวมระยะเวลาขบั เคลื่อน ๑๐ ปี อย่างไรกต็ าม ปญั หายงั ไมจ่ บแค่น้นั เพราะระบบราชการมีขนั้ ตอนและรายละเอยี ดมาก จาก จำ�นวน ๕๐,๐๐๐ กวา่ คน ผ่านไป ๓ ปี มีคนไทยพลดั ถ่ินได้รบั การรบั รองเพียงประมาณ ๓,๐๐๐ คน จงึ ต้องมี การตดิ ตามและผลักดนั งานต่อไปเพอ่ื ให้คนไทยพลัดถิน่ ได้อยู่ในไทยในฐานะพลเมืองไทย สำ�หรบั นกั จัดระบบ ชุมชนแค่ได้สญั ชาตยิ ังไมพ่ อ แตย่ งั มีเปา้ หมายว่าจะผลักดันให้เกิดการทำ�งานเปน็ เครือขา่ ยทีเ่ ข้มแข็ง ชาวบ้าน มีท่ีอยูท่ ่อี าศยั อย่างม่นั คง และฟน้ื ฟคู ุณภาพชีวติ ของตนเองได้

ยงั มชี มุ ชนจำ�นวนมากทปี่ ระสบปัญหาและไมไ่ ด้รบั สิทธขิ ั้นพืน้ ฐาน การเข้าไปช่วยแกไ้ ขปญั หาเฉพาะหนา้ ของ ชาวบ้านคือจุดเร่ิมตน้ ที่จะเข้าไปทำ�งานในระดับทีล่ กึ กกว่า ทง้ั เสรมิ สร้างความเข้มแขง็ แกช่ ุมชนและผลักดันให้ เกิดการเปลยี่ นแปลงเชงิ นโยบาย แม้วา่ จะบรรลุเปา้ หมาย ชาวบ้านได้รับความช่วยเหลือและรัฐยอมรบั ฟงั แต่ งานของนกั จัดระบบชุมชนจะยังท�ำ งานตอ่ ไป ผลกั ดันให้ชมุ ชนรากหญา้ และชายขอบทั้งหลายรวมตวั กันและ ฟ้นื ฟตู นเองอยา่ งเข้มแข็ง จนสามารถมีพลังอำ�นาจต่อรองกับรฐั และผู้มอี �ำ นาจได้ เพื่อนำ�ไปสเู่ ปา้ หมายสงู สดุ คอื การสร้างสังคมที่เปน็ ธรรมและเท่าเทยี ม แนวคิดทางเลอื ก พรรคเขียว (Green Party) เกดิ ขึน้ จากความตอ้ งการการน�ำ อุดมการณน์ เิ วศนยิ มเข้าส่โู ครงสรา้ งทางการเมอื ง แมโ้ ดยรวม พรรคเขยี วจะยังไม่ประสบความสำ�เรจ็ มากนัก แต่เหน็ ได้วา่ ผลการเลอื กตั้งในหลายประเทศ ของยุโรป พรรคน้ี เติมโตอยา่ งสม่�ำ เสมอตลอดเวลา นิเวศนิยม (Ecologism) คือการศกึ ษาความสมั พันธ์ระหวา่ งสิ่งมีชวี ิตและสิ่งแวดลอ้ ม ให้คุณค่าแก่การรกั ษา เครอื ขา่ ยความสัมพนั ธเ์ พื่อความย่ังยืนของทุกชวี ติ คุณคา่ หลกั ของนเิ วศนิยมไดแ้ ก่ นเิ วศวทิ ยา ความเป็นองค์ รวม ความย่งั ยืน จรยิ ธรรมต่อส่ิงแวดล้อม และเปลี่ยนจากการ \"มี\" เปน็ การ \"เป็นมนุษย\"์ • นเิ วศวทิ ยา หรอื ความรทู้ ่วี ่าดว้ ยระบบธรรมชาติทปี่ ระกอบด้วยสิ่งมีชวี ิตและสิ่งไมม่ ีชวี ติ สมดุลของ ธรรมชาตสิ �ำ คญั ตอ่ ความอยู่รอดของมนุษย์ มนุษย์เปน็ เพยี งสว่ นหน่งึ ของระบบนิเวศ ไมใ่ ช่ศูนยก์ ลาง • ความเปน็ องค์รวม คอื ความเช่อื ทวี่ ่าองค์รวมทั้งหมดส�ำ คัญกว่าสว่ นใดส่วนหนึ่ง ความสมดุลของ ธรรมชาตโิ ดยรวมสำ�คัญกว่าการตอบสนองความตอ้ งการของมนุษย์ • ความยั่งยนื คอื ศกั ยภาพของระบบทจ่ี ะอยูต่ อ่ ไปไดอ้ ย่างสมดุลในระยะยาว ไม่ใชแ่ คใ่ นชีวิตของคน ปจั จบุ ัน แต่ย่ังยนื ไปจนถงึ คนในอนาคต การทีม่ นุษย์ทำ�ลายส่ิงแวดล้อมในวันน้ี จึงหมายถงึ การละเมิดสทิ ธทิ ี่ จะมีชวี ติ อย่างปลอดภัยของคนรุ่นต่อไป • จรยิ ธรรมต่อส่งิ แวดลอ้ ม หมายถึง เราจะต้องใช้มาตรฐานทางจรยิ ธรรมและคุณคา่ ท่ใี ช้กบั มนุษย์ ไปปรับใช้กบั สง่ิ มชี ีวิตอนื่ ๆ และสงิ่ แวดลอ้ มดว้ ย เชน่ เดยี วกับการรณรงคเ์ ร่อื งสทิ ธิของสัตว์ เพราะส่ิงมีชวี ิตอืน่ ๆ ก็รู้สึกเจบ็ ปวดไดไ้ มต่ า่ งจากมนษุ ย์ ธรรมชาติมีคณุ คา่ ในตัวเอง ไม่ได้เกิดมาเพ่อื ตอบสนองความต้องการของ มนษุ ย์ • เปลี่ยนจากการมสี กู่ ารเป็นมนุษย์ โดยนิยามค�ำ วา่ “ความสขุ ” และ “ความอยู่ดมี สี ขุ ” ของมนุษย์ ใหม่ โดยไมข่ ึ้นอยกู่ ับวตั ถุและการบริโภค บรโิ ภคนิยมเปน็ ปรากฏการณ์ทม่ี ีอทิ ธิพลตอ่ วัฒนธรรมและจิตส�ำ นึก ของผ้คู น ความสุขของมนษุ ย์ผูกตดิ อยู่กบั การครอบครองวัตถุ หรอื ทเี่ รียกว่า “การม”ี ความสขุ ในมมุ มอง ของนเิ วศนยิ มคอื การเปน็ มนษุ ย์ท่ีหาความพงึ พอใจด้วยการแบง่ ปนั การเติบโต และการตระหนกั ร้ทู างจิต วญิ ญาณ เหลา่ นี้คือคุณลกั ษณะที่จะชว่ ยใหม้ นษุ ยพ์ ัฒนาตนเองจนกลายเป็นหนงึ่ เดียวกับส่งิ มชี ีวติ อนื่ ๆ และ จกั รวาล

ทฤษฎกี ารเมืองสเี ขยี ว (Green Political Theory) คอื แนวคิดและทฤษฎีตา่ งๆ ด้านการเมืองทว่ี า่ ด้วยความสัมพันธร์ ะหว่างโลกของมนษุ ย์และสงิ่ ท่ี ไม่ใช่มนษุ ย์ และการจัดการกบั ปัญหาร่วมสมัยดว้ ยเคร่อื งมือทางเศรษฐศาสตร์และการเมือง เชน่ การบรโิ ภค มากเกนิ ไป การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ การผลาญทรัพยากรธรรมชาติ เปน็ ต้น แนวคิดนต้ี ้องการไป ให้ไกลกว่าทฤษฎสี ง่ิ แวดล้อมที่สนใจแต่มนุษยแ์ ละธรรมชาติ โดยมองข้ามสง่ิ ท่ี \"ไม่ใชธ่ รรมชาติ\" และให้ความ สำ�คัญกบั การท�ำ งานเชิงโครงสรา้ งมากกว่าการการเปลยี่ นแปลงระดบั ปจั เจกบคุ คล ลกั ษณะของทฤษฎี การเมืองสเี ขียวมดี งั นี้ • ข้ามพน้ การแบ่งแยกมนษุ ยก์ บั ธรรมชาติและการรบั รผู้ ิดๆ ทวี่ า่ มนษุ ย์เหนือกวา่ ธรรมชาติ • มนษุ ยเ์ ปน็ เพียงส่งิ มชี ีวติ สายพันธ์หุ น่ึง ไมต่ ่างจากสตั วอ์ ืน่ ๆ • ความสมั พันธใ์ นสงั คมและในระบบสง่ิ แวดล้อมไมใ่ ชแ่ คส่ �ำ คญั แตค่ ือ \"สว่ นประกอบ\" หนึ่งของ สงั คมมนษุ ย์ ฉะนัน้ เราไมอ่ าจเสนอทฤษฎที างสงั คมโดยไมน่ ึกถึงการปฏิสัมพนั ธ์ระหวา่ งสงั คมและสิ่งแวดล้อม รวมถงึ แง่มุมดา้ นธรรมชาตทิ อี่ ยู่ในสังคมมนษุ ยไ์ ด้เลย • จรยิ ธรรมต่อสงิ่ แวดล้อม กล่าวคือ มนษุ ย์ควรขยายพน้ื ทขี่ องจรยิ ธรรม โดยคำ�นงึ ถงึ โลกของสง่ิ ที่ ไมใ่ ชม่ นุษย์และสิทธิของคนในอนาคตดว้ ย ทฤษฎีการเมืองสเี ขียวให้ความสำ�คญั แกช่ ุมชน เพราะเช่ือว่าองคก์ รและกฎระเบยี บตา่ งๆ ท่เี กี่ยว กบั เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการเมืองจะท�ำ งานไดด้ ีท่สี ุดเมือ่ อยู่ในรปู แบบชุมชนขนาดเล็ก ทัง้ รัฐและระบบ ตลาดจึงเปน็ เครอ่ื งมือท่สี ่งเสรมิ ใหเ้ กิดองคก์ รการเมืองและเศรษฐกิจในระดับชุมชน หนนุ เสรมิ วิถีชวี ติ ทอ้ งถน่ิ และป้องกันความไม่เท่าเทยี มทีจ่ ะเกดิ ข้นึ ในกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ สังคม เพราะความไมเ่ ทา่ เทยี มคืออุปสรรค ทีท่ �ำ ให้สังคมไมอ่ าจเปลี่ยนผ่านไปส่คู วามยั่งยืนได้ ทงั้ ยังเหน็ วา่ การทำ�งานเชิงโครงสรา้ งส�ำ คญั กว่าพฤตกิ รรม ของปจั เจกบคุ คล ทฤษฎกี ารเมอื งสเี ขียวเห็นวา่ การวิเคราะห์ \"ความไม่ยั่งยนื \" ทีเ่ กดิ ข้ึนบนโลกขณะน้สี �ำ คญั กวา่ การ มองหาหนทางใหม่ทจี่ ะน�ำ ไปสูค่ วามยั่งยืน เพราะสถานการณข์ องโลกขณะนี้ คอื ความอยตุ ธิ รรม เราจงึ ควร เริม่ จากตรงน้ี มองหารากของมนั ว่าปญั หาท่มี อี ยู่มาจากแรงขบั และสาเหตุใด จากน้ันให้หาทางลดสิ่งเหล่านี้ เพือ่ สรา้ งเงอ่ื นไขทีจ่ ะน�ำ ไปสูค่ วามยง่ั ยืนในอนาคต เพราะผู้ทีเ่ อาแต่มองหาทางออกท่ียั่งยนื ก็ยังใช้ชวี ติ ทเ่ี อา เปรยี บสิ่งแวดล้อมเชน่ เดิม หัวใจส�ำ คัญจึงอยูท่ ีก่ ารกลบั มาแกไ้ ขปจั จุบนั ผคู้ นมกั เห็นตรงกนั ว่าอะไรไมถ่ กู ตอ้ ง ในขณะที่มุมมองตอ่ ความถูกตอ้ งมหี ลากหลาย การระดมมวลชนจะเกิดขนึ้ ได้งา่ ยกวา่ ถ้าช้ใี หค้ นเห็นถงึ ปัญหา ทีม่ รี ่วมกัน

แนวคดิ การเมอื งสเี ขยี ว แนวคดิ นิเวศวทิ ยาการเมืองแตกตา่ งจากแนวคดิ สิ่งแวดลอ้ มทัว่ ไป ทฤษฎี สง่ิ แวดลอ้ มเช่อื ว่าสามารถแกป้ ญั หาไดโ้ ดยไมต่ อ้ งเปลย่ี นคา่ นิยมหรอื แบบแผนด้านการผลติ และการบริโภค ในขณะทีก่ ารเมอื งสเี ขยี วเชอื่ ในการเปลีย่ นแปลงวถิ ีชวี ติ ให้มีแบบแผนทีย่ ัง่ ยืนมากขน้ึ และมองเหน็ ความเช่อื ม โยงของมนษุ ย์และส่งิ ทไ่ี ม่ใชม่ นษุ ย์ และนำ�ความคิดความเช่อื นีม้ าปรับเข้ากับวถิ ีทางสงั คมการเมือง การเมือง สีเขียวมีแนวคดิ ส�ำ คัญดงั น้ี • การต่อสู้กบั กระบวนทัศน์ทางเศรษฐกิจและอตุ สาหกรรมท่ีครอบงำ�มนุษย์ • เปลี่ยนแปลงวถิ ีชวี ติ เพอ่ื จำ�กัดการบรโิ ภค ลดขนาดของสงั คมอตุ สาหกรรมเปน็ สังคมขนาดเล็กที่ ย่งั ยืน • แนวคิดการเมอื งสีเขียวไมใ่ ชท่ งั้ ฝ่ายซา้ ยและฝา่ ยขวา เพราะทั้งสองแนวคิดต่างเช่ือว่าประชาชนจะ พงึ พอใจเมอ่ื เศรษฐกิจเติบโตสงู สุด แตแ่ นวคิดสเี ขียวเชื่อในชีวติ ทีด่ ีและการบริโภคที่นอ้ ยลง • การเมอื งสเี ขียวต้องการเหน็ ภาพโลกยุคหลงั อตุ สาหกรรมและวสิ ัยทศั น์แนวนิเวศวิทยาแนวลกึ ต้องการแนวทางที่ใช้ได้จริงและจ�ำ กดั การเติบโตทางเศรษฐกิจ อตุ สาหกรรม และเทคโนโลยีของมนษุ ย์ รวมถงึ การเปล่ยี นแปลงพฤตกิ รรมทง้ั ในระดบั บุคคลและชมุ ชน ทศั นะแนวพุทธของสุลักษณ์ ศิวรกั ษ์ อาจารย์สุลักษณ์เห็นว่าทุกประเทศในเอเชยี ใชร้ ูปแบบการปกครองที่ลอกเลยี นมาจากตะวนั ตก แตส่ ่ิงท่เี หน็ คือรัฐตะวันตกเองกไ็ มส่ มารถท�ำ งานอย่างมปี ระสทิ ธิภาพได้อีกต่อไปแล้ว และในตอนน้รี ัฐชาติถูก ควบคมุ โดยบรรษัทขา้ มชาติ จึงท�ำ ใหเ้ ลวรา้ ยมากขึน้ ไปอกี เราจึงต้องหาทางเลือกใหม่ทอี่ อกจากรปู แบบเดิมๆ เหล่าน้ี ทางออกน้นั ไดแ้ ก่ • ลดอำ�นาจของสถาบนั ต่างๆ และกระจายอ�ำ นาจแก่ประชาชน สถาบันขนาดใหญน่ นั้ ล้าสมัยและ สนิ้ เปลอื ง ยิง่ มโี ครงสร้างใหญ่โตมากเทา่ ใด รัฐยง่ิ กดขม่ี ากขึ้นเทา่ นน้ั คำ�ว่า “รฐั ฐะ” ในสันสกฤตและบาลี หมายถงึ “ประชาชน” เราควรร้ือหรือสลายโครงสรา้ งองคก์ รขนาดใหญ่และกระจายอำ�นาจใหแ้ ก่ประชาชน ลด จำ�นวนคนทำ�งานให้มากทีส่ ุดเทา่ ที่จะทำ�ได้ รวมถงึ จ�ำ กัดสทิ ธ์ขิ องบรรษัทข้ามชาติด้วย • พัฒนารูปแบบการเมืองทางเลือกที่เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างมนษุ ย์กับธรรมชาติ ความแตก ต่างทางชนช้นั และเพศ กลับไปส่คู วามประสานกลมกลืนระหวา่ งหยินและหยาง ตอ้ งเปล่ยี นจากภายใน และ ประสานสมองกบั หวั ใจให้เป็นหน่ึงเดยี วกนั ด้วยเหตุนี้ ผมจงึ เหน็ วา่ เรายังจำ�เป็นต้องมบี างสง่ิ บางอย่างทีเ่ ปน็ แง่มมุ ทางจิตวิญญาณอยู่ • สรา้ งระบบการศกึ ษาทีใ่ หค้ นเผชญิ หน้ากับความทกุ ขแ์ ละเขา้ ใจคนยากคนจน ระบบการศึกษาทกุ วนั น้ี หลีกเล่ยี งความทุกข ์ ยิง่ มหาวิทยาลัยดเี ท่าไร บริเวณของมหาวทิ ยาลยั กย็ งิ่ สวยเทา่ นน้ั สง่ิ ท่คี ณุ เรยี นใน สถาบนั เหลา่ นไี้ มใ่ ช่ของจรงิ การศึกษาตอ้ งชว่ ยใหค้ นเขา้ ใจความรุนแรงเชิงโครงสร้างและรวู้ ่ามันสัมพนั ธ์กบั ตวั ตนภายในของคุณอย่างไร

• กลับไปหารากเดมิ ให้ความสำ�คัญตอ่ คนพ้ืนเมือง โลกสมยั ใหมส่ อนให้เราดถู กู คนเหล่านวี้ ่าล้าหลงั และไมม่ กี ารศึกษา แตแ่ ท้จรงิ รากด้งั เดมิ มีคณุ มากกวา่ โทษ ตัวอย่างเชน่ ชาวบ้านปากมูลทใ่ี ชช้ วี ติ ดว้ ยวถิ ีแบบ เดิมมาไม่นอ้ ยกวา่ แปดร้อยปโี ดยแทบไมม่ อี าชญากรรมเลย ชาวบา้ นอาจไมไ่ ด้นบั ถือศาสนาใดๆ ด้วยซ้�ำ แต่มี วิถีทพี่ ่งึ ตนเองได้และเคารพตอ่ ธรรมชาต ิ • การใช้ชีวิตอย่างเป็นองค์รวม กลา่ วคอื คนในชมุ ชนอย่รู ว่ มกันเปน็ พี่นอ้ ง ไมใ่ ช่แค่กับมนษุ ยด์ ้วยกนั แต่เป็นพ่ีน้องกบั ธรรมชาติด้วย • เปลย่ี นแปลงเชงิ โครงสรา้ ง เชน่ พฒั นาระบบขนสง่ มวลชนมากขน้ึ แทนการใชร้ ถยนต์สว่ นตัวมาก เกนิ ไป • ชมุ ชนตา่ งๆ ควรเช่ือมโยงกนั ดว้ ยความปรองดองและเสมอภาค ไมค่ วรมรี ฐั ชาติ ไม่มคี นรวยคนจน คนไทยควรเห็นว่าชาวเมยี นมารเ์ ปน็ พ่เี ป็นน้อง และเราต้องปกป้องความอยู่ดีมีสขุ ของคนเมยี นมาร์ใหเ้ หมอื น กับของเราเอง ทัศนะแนวขงจ๊ือใหม่ โดย ตู้ เว่ยหมิง (Tu Wei-ming) ขงจ๊ือคือจริยธรรมและคำ�สอนของนกั ปรชั ญาชาวจนี - ขงจ๊ือ หลกั การส�ำ คญั คอื มนุษย์ควรใชช้ วี ติ ใหส้ อดคล้องกบั กฎของสวรรคแ์ ละลำ�ดับขั้นทางสังคม (Social Order) มนุษยไ์ ม่สามารถอยู่ไดห้ ากไมม่ ีผู้อืน่ จึงควรอยอู่ ย่างพง่ึ พาอาศัยกนั และเคารพผทู้ ่อี ยู่สงู กวา่ เช่น ลกู เคารพพ่อแม่ ประชาชนเคารพผปู้ กครอง ตเู้ หว่ ยหมงิ ได้ปรับและตีความขงจือ๊ ใหเ้ หมาะกบั สงั คมสมยั ใหม่ไวด้ ังน้ี • หลกั การพง่ึ พาอาศัยกัน กล่าวคอื ไมท่ ำ�ในสง่ิ ทีเ่ ราไม่อยากให้ผูอ้ นื่ ทำ�กบั เรา แมข้ งจ๊ือจะสอนให้ ลกู ชายเคารพพอ่ แตห่ ากพอ่ ใชอ้ ำ�นาจรุนแรง ลูกชายก็ไมอ่ าจสยบยอมได้อกี ตอ่ ไป หลกั การนีจ้ ึงเป็นเรอ่ื งของ การตระหนักร้ขู องแตล่ ะบุคคล แม้ว่าสงิ่ สำ�คญั อยทู่ ี่ลูกชายควรเคารพเชอ่ื ฟงั พ่อ แตพ่ ่อในฐานะผู้อยู่เหนอื กว่า ตอ้ งคอยโอบอมุ้ และดแู ลลูกชาย • หลกั มนุษยธรรม เราตอ้ งชว่ ยใหผ้ ู้อน่ื พัฒนาตนเองได้ ประเทศหนึง่ ๆ ควรค�ำ นึงถงึ ผลประโยชน์ ท่ีเกนิ ขอบเขตของชาตติ นด้วย ในฐานะท่ีเราเป็นส่วนหนง่ึ ของประชาคมโลก เคร่อื งมือส�ำ หรับปฏิสัมพนั ธ์ ระหวา่ งประเทศคอื การเสวนา อย่างไรก็ตาม การเสวนาเป็นกระบวนการทซ่ี ับซ้อน ตอ้ งอาศัยความอดทน เรา ตอ้ งยอมอกี ฝา่ ย ยอมรับในคุณค่าท่ีเขาเชอ่ื หากเราเคารพความแตกต่างได้จึงจะเกดิ การเรยี นรรู้ ว่ มกนั • กระบวนการขงจือ๊ นนั้ จะต้องมาจากเบอื้ งล่างขึ้นส่เู บอ้ื งบนเสมอ ชนชั้นนำ�มีหน้าที่รับผดิ ชอบความ อยู่ดกี นิ ดขี องประชาชนและเพราะความส�ำ เรจ็ ของคนเหลา่ น้มี าจากประชาชน ถ้าประชาชนไม่สนับสนนุ เขาก็ ไม่อาจอยใู่ นตำ�แหน่งต่อไปได้ สิ่งที่สืบทอดกนั มาในประเพณขี องขงจอ๊ื คอื ประชาชนสำ�คญั ทีส่ ดุ รัฐสำ�คัญรอง ลงมา และจกั รพรรดิหรอื รัฐบาลสำ�คัญเปน็ อันดบั สาม ความชอบธรรมของเบ้ืองบนมาจากการสนับสนนุ ของ เบอื้ งลา่ ง

แนวคดิ แบบคานธีแนวใหม่ (Neo-Gandhian) • ทางเลอื กควรมีหลากหลายเพือ่ ตอบสนองต่อคนที่มีอยู่มากมายหลายล้านคนและมีวิถีชวี ติ แตก ต่างกันไป • โลกไม่ควรมรี ะบบมหาอำ�นาจทค่ี รอบงำ�หรอื กดขร่ี ะบบอน่ื รัฐควรลดบทบาทลง และสถาบนั ตา่ งๆ ควรทำ�หน้าทเี่ ปน็ ตัวกลางคอยควบคุมระเบยี บและตรวจสอบการใช้อ�ำ นาจในทางที่ผดิ เทา่ นน้ั • รัฐชาตเิ กิดมาจากแนวคดิ ของตะวันตก แต่ในหลายพน้ื ท่ีของเอเชยี และแอฟรกิ า ประชาชนไม่ได้ มองว่าตนเปน็ ส่วนหนงึ่ ของรัฐชาตใิ ดๆ แตม่ องว่าเป็นชุมชน สังคมเอเชยี แตกตา่ งจากตะวันตก ถึงเวลาจะตอ้ ง ขา้ มให้พน้ กระบวนทัศนแ์ บบเดมิ แล้ว • รัฐควรลดบทบาทของตนเอง ในอดีตบางรัฐยอมใหช้ ุมชนต่างๆ สวามิภักดิ์ในระดบั ท่ีแตกต่างกัน เชน่ จักรวรรดโิ มกลุ เคยปกครองอินเดียเกอื บส่รี อ้ ยปี นานกว่าท่อี ังกฤษปกครองอนิ เดียถงึ สองเทา่ รัฐโมกุล มอี ายุยนื ยาวขนาดนน้ั ไมใ่ ช่เพราะมองตนเองว่าเป็นรฐั ชาติ แต่เปน็ เพราะคำ�นงึ ถึงวัฒนธรรมและระบบอำ�นาจ ทีห่ ลากหลายของสงั คม รัฐไทยแบบดั้งเดมิ กเ็ ปน็ ตัวอย่างทดี่ ีของการที่ประชาชนและชมุ ชนท่แี ตกต่างกนั สามารถผสมกลมกลืนกนั ในระบบรฐั นอกแบบฉบับได ้ เราควรไดเ้ รียนรู้มากกว่านจ้ี ากระบบรัฐด้งั เดิม และ หลกี เล่ียงการรับเอาตำ�ราทีเ่ ป็นกลไกเก่ียวกับรัฐชาตนิ านาประเภทมาใช้ • ฟืน้ ฟชู มุ ชนและการเมอื งในระดับรากหญ้า ขบวนการทางสงั คมจะประสบความส�ำ เร็จไดเ้ ม่ือเข้าใจ ประชาชน ทั้งในแง่วฒั นธรรม ประเพณี ความคิดจติ ใจ • เราไมส่ ามารถแกป้ ญั หาทางด้านสังคม การเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและนเิ วศวิทยาของเราได้ โดยไม่พดู ถึงวกิ ฤตทิ างจิตวญิ ญาณท่เี ผชิญมนษุ ยชาติอยู่ ประชาชนถูกถอนรากถอนโคนจากประเพณที างจิต วิญญาณและทางศาสนาของตน เกิดวิกฤติของอตั ลักษณแ์ ละท�ำ ใหค้ นแยกออกจากศาสนาและจติ วญิ ญาณ มากขนึ้ เร่อื ยๆ

ความสขุ มวลรวมประชาชาติ ภฐู านต้ังอยู่บนเทอื กเขาหมิ าลยั ระหว่างจนี กับอินเดีย ทิศเหนอื และทศิ ตะวันตกเฉียงเหนือตดิ กบั ทิเบต ภูฐานเป็นประเทศเล็กๆ ทไี่ ม่เคยตกอยใู่ ตอ้ าณานิคมของชาตอิ น่ื มปี ระชากรราว ๗๕๐,๐๐๐ คน ศาสนาหลกั คือพทุ ธแบบธเิ บต รายไดส้ ว่ นใหญ่ของประเทศมาจากการส่งออกไฟฟา้ พลังน�ำ้ ใหแ้ กอ่ ินเดีย คำ�ว่า “ความสขุ มวลรวมประชาชาต”ิ เกิดข้นึ ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๕ โดยสมเดจ็ พระราชาธิบดจี ิก มี ซงิ เย วงั ชุก อดตี กษัตรยิ ์รชั กาลที่ ๔ ของภูฐาน ท่เี หน็ วา่ ความสขุ ส�ำ คัญกวา่ ผลติ ภณั ฑ์มวลรวมประชาชาติ (Gross Domestic Product หรอื GDP) หลงั จากจากประเทศเปลี่ยนเป็นระบอบประชาธิปไตยเมอื่ พ.ศ. ๒๕๕๑ จากวสิ ัยทศั นข์ องรชั กาลท่ี ๕ สมเดจ็ พระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วงั ชกุ เพราะเหน็ ว่า หากให้ กษตั รยิ ์ปกครองตอ่ ไป ไมม่ เี ครอ่ื งรับประกนั เลยว่ากษัตริย์จะดหี รอื ไม่ ประชาชาควรไดม้ สี ิทธเิ์ ลือกและเปลย่ี น ผนู้ �ำ ของตนเอง หลังจากเปลีย่ นระบอบการปกครอง ภฐู านก็พยายามพัฒนาแนวคิด GNH ใหช้ ดั เจนขึ้นและ นำ�มาใชเ้ ป็นนโยบายของประเทศ เนเตน็ กลา่ วว่าโดยหลักการของ GNH น้นั ดอี ยู่แลว้ แต่ขึน้ อยู่กบั วา่ การ นำ�นโยบายไปปฏิบตั วิ า่ จะท�ำ ได้จริงมากนอ้ ยแค่ไหน รฐั บาลเป็นเพยี งกลุ่มคนเลก็ ๆ ประชาชนต่างหากที่จะ สรา้ งการเปลย่ี นแปลงที่ย่ิงใหญ่ได้ ถา้ เพียงแต่ลงมือท�ำ ไมว่ ่าจะอยใู่ ตร้ ะบอบกษตั รยิ ห์ รอื ประชาธิปไตย หาก ประชาชนไม่ลงมือทำ�ก็ไมม่ คี วามหมาย ภูฐานตระหนกั วา่ จะนำ� GNH ไปปรบั ใชไ้ ดป้ ระชาชนต้องเข้าใจและเหน็ ความสำ�คัญ และสงิ่ ทจี่ ะ ช่วยไดค้ ือการศกึ ษา จากเสาหลัก ๔ ประการของ GNH อนั ไดแ้ ก่ ธรรมาภิบาล การพฒั นาเศรษฐกิจสงั คม อย่างยัง่ ยืน การอนุรักษ์วฒั นธรรม และการอนุรักษ์ส่งิ แวดล้อม ไดแ้ ตกออกไปเปน็ ๙ หมวดหมู่ ไดแ้ ก่ ธรรมาภิ บาล ความหลากหลายและยง่ั ยืนทางวัฒนธรรม การศกึ ษา การใช้เวลา สขุ ภาพกาย สขุ ภาพใจ คณุ ภาพชีวติ ความหลากหลายและความย่งั ยืนของการศึกษา และพลังชุมชน การศึกษาถอื เป็นเสาหลกั ของนโยบาย GNH เพราะเปน็ ส่งิ ที่จะช่วยเปล่ียนแปลงความรคู้ วาม เขา้ ใจของประชาชน ภฐู านจงึ เนน้ ในดา้ นการพัฒนาหลกั สูตรในมหาวทิ ยาลยั เพ่อื ใหค้ นที่จะจบไปเปน็ ครเู ข้าใจ แนวคิด GNH และนำ�ไปปรบั สอนได้ รวมถงึ พฒั นาหลกั สตู รการเรียนการสอนทั่วประเทศใหส้ อดคล้องกับ GNH เชน่ การปฏิบัตสิ มาธิภาวนา เกษตรปลอดสาร พุทธศาสนาในยุคสมัยใหม่ เปน็ ตน้ แม้ประเทศจะตระหนักถงึ ความเลวรา้ ยของการพฒั นาแบบเน้นวัตถุ แตภ่ ฐู านไมใ่ ชส่ วรรค์ ยังคง มปี ญั หาและเรือ่ งทา้ ทายเชน่ เดียวกบั ประเทศอ่นื ๆ ในโลกน้ี ไม่วา่ จะเปน็ ช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวย ปญั หาสุขภาพกายใจ หรอื แมก้ ระท่งั ปญั หาคนฆา่ ตัวตาย ปจั จบุ ัน กระแสบริโภคนยิ มก็เขา้ มาในประเทศมาก ขน้ึ มลี านจอดรถเพมิ่ ขน้ึ มผี บั บาร์ ๑๐๐ กวา่ แหง่ ประชาชนจงึ ต้องเขม้ แขง็ จากภายในจรงิ ๆ จึงจะสามารถ ต้านกระแสนไี้ ด้

ประชาชนสว่ นใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเพอ่ื ยงั ชีพ แต่ถงึ อยา่ งน้ันอาหารกย็ งั ไม่เพยี งพอตอ่ การบรโิ ภคภายในประเทศ ต้องนำ�เขา้ อาหารจากอินเดียประมาณรอ้ ยละ ๘๐ ในขณะท่คี นรนุ่ ใหมก่ ็เริม่ ย้าย ถน่ิ ฐานมาอยใู่ นเมอื งใหญ่ นจี่ งึ ยงั เปน็ ความท้าทายของภฐู านวา่ จะบ่มเพาะความพงึ พอใจในวัฒนธรรมของ ตนเองและความเชอ่ื ในเร่อื งการพฒั นาอยา่ งยั่งยืนใหค้ นในประเทศไดอ้ ยา่ งไร เนเตน็ กลา่ ววา่ สำ�คัญคอื การ สรา้ งความไว้วางใจและลบลา้ งความกลวั เพราะประชาธปิ ไตยยงั ใหมส่ �ำ หรับประเทศ และประชาชนยงั ไม่ เขา้ ใจอยา่ งถอ่ งแท้ นอกจากนี้ ภฐู านควรสง่ เสริมความเทา่ เทียมทางเพศมากขน้ึ ให้โอกาสผู้หญงิ ไดเ้ ข้ามามี บทบาท รวมถงึ ลดช่องว่างระหว่างชนช้นั น�ำ กับชนชั้นล่าง