Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การ์ตูนพื้นฐาน

Description: การ์ตูนพื้นฐาน

Search

Read the Text Version

36 9. พ่กู นั Brush ทีด่ คี วรมีลักษณะขนทอี่ อ่ นนุ่ม ทาจากขนสตั ว์ มีปลายแหลมขน หนา โคนพูก่ ันสามารถ อมุ้ นา้ อุม้ สีไดม้ าก มีการคืนตัวที่ดี มีแรงสปรงิ แรงดีดพอสมควร และมี หลายเบอรต์ ามความเหมาะสม สะดวกต่อนักวาดการต์ ูน อกี ท้งั สามารถเขียนเสน้ เล็กหรือหนาอ่อน ชอ้ ยสวยงามไดต้ ามความตอ้ งการ (ภาพที่ 2.16) ภาพท่ี 2.16 พู่กนั สีน้าหลากหลายเบอร์ 10. จานสี Palette ภาชนะแบนทม่ี แี อ่งสาหรบั ใช้ผสมสี อาจเป็นจานสพี เิ ศษ และแผน่ ถาดเรยี บๆ มีจาหนา่ ยตามร้านเครื่องเขียนทัว่ ไป บางชนดิ เปน็ กล่องมชี อ่ งสาหรับสอดหวั แม่

37 มือขณะระบายสี จานระบายสีควรมีสีขาว เพราะจะไดม้ องเห็นสีท่ีกาลงั ระบายชัดเจนขณะผสมสี ผู้ ทเ่ี รม่ิ ระบายสนี า้ อาจซ้ือถาดพลาสตกิ สขี าวทม่ี หี ลุมไม่ลกึ นัก มาใช้เป็นจานระบายสไี ด้ (นพดล เนตรดี , 2553. : 9) (ภาพที่ 2.18) ภาพที่ 2.17 จานระบายสีประเภทตา่ งๆ 11. ภาชนะใสน่ า้ Water container ในการวาดสีน้า ภาชนะสาหรับใส่นา้ ควรมี ขนาดบรรจุน้าไดอ้ ย่างนอ้ ย 1 ลิตร หรอื มที ่ีใส่นา้ 2 ช่อง อาจมหี ลายอันยง่ิ ดี คอื ชอ่ งหนึง่ สาหรบั ใส่นา้ ระบายสแี ละอีกชอ่ งหนง่ึ สาหรับล้างพกู่ นั และนา้ สาหรบั ใช้ผสมสกี ็มีความสาคญั มากควร ใช้นา้ สะอาด (นพดล เนตรดี , 2553. : 9) (ภาพที่ 2.18) ภาพที่ 2.18 ภาชนะใส่น้า

38 12. สไี ม้ Wood color เป็นลกั ษณะเหมือนกบั ดินสอดา แตไ่ ส้ดนิ สอจะมสี ีต่างๆ มากมาย สามารถวาดภาพลายเสน้ ใหอ้ อกมาเป็นภาพสี มหี ลายคุณภาพให้เลอื กใชม้ ากมาย การ วาดภาพสามารถทาแสงเงาให้กลมกลืนได้ตามความต้องการ (นพศร ณ นครพนม, ม.ป.ป. : 57) (ภาพท่ี 2.19) ภาพที่ 2.19 สีไม้ 14. กลอ่ งไฟ Light box เปน็ เคร่อื งมือสาหรบั การลอกลายเสน้ การต์ นู กล่องไฟ มแี ผน่ กระจกเป็นพื้นรองกระดาษ มหี ลอดไฟอย่ภู ายในกลอ่ งใหแ้ สงสวา่ งสามารถมองเหน็ ลายเส้น เพอื่ ทีจ่ ะลอกลายการ์ตูนทีผ่ วู้ าดรา่ งภาพไว้ สามารถพกพาเคลือ่ นยา้ ยไดส้ ะดวก (ภาพท่ี 2.20) ภาพที่ 2.20 กล่องไฟสาหรบั การลอกลายเสน้ การต์ ูน

39 15. คอมพิวเตอร์ Computer คอมพวิ เตอรถ์ อื เป็นอุปกรณช์ นดิ หน่งึ ในโลกปัจจบุ นั ที่เหลา่ นกั วาดการต์ ูนสมัยใหมจ่ ะต้องใชใ้ นการวาดและลงสี การใสเ่ ทคนิคพเิ ศษ (Effects) ใหผ้ ลงานมี ความทนั สมัยและสวยงาม ด้วยโปรแกรมสาเรจ็ รปู โปรแกรมทีร่ องรับผลงานวาดการ์ตูนทเ่ี ป็น พืน้ ฐานก็คือ Adobe Photoshop เพ่อื ทาการลงสีผลงานเหลา่ บรรดานักออกแบบกราฟิกนิยมมาก คณุ สมบตั ิของโปรแกรมสามารถตอบสนองความตอ้ งการของผลงานนกั วาดการ์ตูนได้เปน็ อย่างดี เพื่อ ผลงานออกมามีคุณภาพมากทส่ี ดุ การลงสดี ้วยโปรแกรม Adobe Photoshop มีข้อไดเ้ ปรียบมากกวา่ การลงสีน้าทัว่ ไปคือ การใชโ้ ปรแกรม สามารถกาหนดค่ารายละเอียดของสีได้มากตามที่ผูว้ าด กาหนด (ภาพท่ี 2.21) ภาพที่ 2.21 คอมพวิ เตอรส์ าหรบั ตกแต่งภาพ พรอ้ มโปรแกรม Adobe Photoshop

40 16. สแกนเนอร์ Scanner เป็นอปุ กรณ์ท่ีคู่กับคอมพวิ เตอร์ เพื่อนาภาพร่าง ลายเสน้ ทีน่ ักวาดการ์ตนู นาเขา้ มาในเครอ่ื งทาการลงสใี นข้นั ต่อไป (ภาพท่ี 2.22) ภาพท่ี 2.22 เครอ่ื งสแกนเนอร์ สาหรบั นาภาพร่างลายเส้นเขา้ สคู่ อมพวิ เตอร์ สรุป การวาดการ์ตูน มหี ลักการศกึ ษาความหมายแตล่ ะประเภทในการสรา้ งจนิ ตนาการโดย การแบง่ ประเภท ได้แก่ การ์ตูนลอ้ สังคม การต์ นู ลอ้ การเมอื ง การต์ ูนโฆษณา การ์ตูน ประชาสมั พันธ์ การ์ตนู ล้อเลยี น การ์ตนู เรอ่ื งยาว ภาพยนตรก์ าร์ตนู เป็นตน้ วสั ดุ อปุ กรณ์ สาหรบั การวาดการ์ตูน มมี ากมายหลายชนดิ ได้แก่ กระดาษท่มี ี ลักษณะเหมาะสมกับการวาดการ์ตนู ดนิ สอวาดมีขนาดของไสห้ ลายขนาด ยางลบชนดิ อ่อนน่มุ ทา ความสะอาดผลงานท่ีสกปรก ปากกาเขียนแบบหมึกซมึ สดี าสามารถกันน้ามีหลายขนาด ปากกาคอ แร้งชนิดปากแหลมวาดบนกระดาษอารต์ มนั สีหมึกอินเดียนอิงค์สีดากนั น้าได้ สีนา้ มหี ลายสี คณุ สมบตั โิ ปรง่ แสงละลายนา้ สกี ระดาษหรอื สแี สตมปเ์ ปน็ ผงเคลือบบนแผ่กระดาษ พูก่ ันสนี า้ ขน อ่อนนมุ่ อุ้มนา้ ได้มากมหี ลายขนาดตามความเหมาะสม จานระบายสีเปน็ แผน่ ถาดเรียบมีชอ่ งเปน็ หลมุ ไมล่ ึกมาก ภาชนะใสน่ ้าสาหรบั ใสน่ ้าระบายสี สีไม้มีหลายสีเอาไวเ้ ก็บราละเอยี ดของผลงาน กลอ่ ง ไฟหรือโต๊ะไฟสาหรับลอกลายเส้น คอมพวิ เตอร์ใชใ้ นการวาดและลงสีให้ผลงานมีความทนั สมัย เครอื่ งสแกนเนอร์เพื่อนาภาพรา่ งลายเสน้ เข้ามาในเครื่องคอมพวิ เตอร์ เป็นต้น

บทที่ 3 โครงสร้างลายเสน้ หลักการวาดทัศนียภาพและวาดการ์ตนู การวาดการ์ตนู ลายเส้นถอื ว่ามีบทบาทมากในการสรา้ งผลงาน ลายเส้นในการต์ ูนมี กลวิธีหลากหลาย เส้นรปู ร่าง รูปทรง เป็นลักษณะการวาดท่ีแสดงทิศทาง การเคล่ือนไหว ส่ือ อารมณ์ สรา้ งความรู้สกึ ถึงความหนกั แนน่ ความออ่ นหวาน นมุ่ นวล และจนิ ตนาการ มาใน รูปแบบของหลักการวาดการต์ นู ทผี่ วู้ าดกาหนดขอบเขตโครงลายเสน้ ในตัวการ์ตนู โครงสรา้ งลายเสน้ โครงสรา้ งลายเสน้ สาคญั มากในการวาดการต์ นู นักวาดภาพการ์ตูนควรต้องฝกึ หัด ลากเสน้ ในทิศทางต่างๆ ให้มีความมัน่ ใจและชานาญในการวาดเสน้ หลักจากนัน้ ควรศึกษางาน การต์ นู จากนกั วาดทา่ นอน่ื ๆ ระดบั อาชีพท้งั ในและต่างประเทศ เพอื่ เปน็ การเสริมประสบการณ์และ หาแนวทางในการวาดการต์ ูน เพ่อื คน้ หาวิธกี ารวาดที่เปน็ เอกลักษณเ์ ฉพาะตวั ในการใชเ้ คร่ืองมือแต่ ละชนิดในการวาดการต์ นู ย่อมใหล้ กั ษณะการต์ ูนท่แี ตกตา่ งกนั ออกไป เช่น ปากกาเขยี นแบบให้เส้นท่ี ราบเรียบเสมอกัน ปากกาคอแรง้ และพูก่ ันใหเ้ สน้ ท่มี นี ้าหนกั หนา บางตา่ งกนั เปน็ ต้น (ศกั ดิ์ชยั เกียรตนิ าคนิ ทร,์ 2534ก : 12) (ภาพท่ี 3.1-3.3) ภาพที่ 3.1 เส้นทเี่ กิดจากการลากดว้ ยปากกาเขียนแบบ ภาพท่ี 3.2 เส้นทเี่ กดิ จากการลากดว้ ยปากกาคอแร้ง

42 ภาพที่ 3.3 เสน้ ท่เี กิดจากการลากด้วยพู่กนั เมื่อทดลองฝึกในการลากเส้นดว้ ยวสั ดอุ ุปกรณใ์ นการวาดแล้วผู้วาดยงั ตอ้ งฝึกวาดเสน้ ท่ี เป็นโครงสร้างลายเสน้ ทเี่ ป็นพนื้ ฐานของนกั วาดการต์ ูน ดงั นี้ (ภาพท่ี 3.4-3.9) 1. เสน้ ตรง การลากเสน้ ตรงมีหลายทิศทาง มีทั้งเส้นหนา บาง เสน้ หนาปลายเล็ก ทงั้ ตวัดขึ้นลง ทแยงซ้ายขวา เสน้ ตง้ั เสน้ นอน นกั วาดการ์ตนู ควรต้องฝึกหดั วาดเส้นต่างๆ เหลา่ น้ี จนชานาญโดยไมต่ อ้ งหมนุ กระดาษ เสน้ ตรงนีจ้ ะเป็นการฝกึ ให้นักวาดชนิ กบั เครอ่ื งมือและเพ่ิมทักษะ ในการวาดดขี ้นึ ภาพท่ี 3.4 ฝึกวาดเส้นตรง 2. เส้นโค้ง การฝกึ หดั ลากเสน้ โคง้ ทาเช่นเดียวกบั เส้นตรง เพยี งแต่ควบคมุ ทศิ ทาง ใหโ้ คง้ ได้จงั หวะเสมอกันทกุ ครั้ง เสน้ โคง้ น้ีเป็นพ้นื ฐานในการเริ่มตน้ ในการวาดการต์ ูนตา่ งๆ ต่อไปอีก ด้วย ภาพที่ 3.5 ฝกึ วาดเสน้ โค้ง

43 3. เสน้ ตรงตดั กนั การฝึกเสน้ ตรงตัดกันเพือ่ ใชล้ งน้าหนักภายในภาพ เชน่ สว่ นท่ี เป็นเงาดา เงาน้าหนักกลาง เส้อื ผ้า กางเกง เพอื่ ให้ภาพการ์ตูนมคี วามสวยงามมากย่ิงขน้ึ ภาพที่ 3.6 ฝกึ วาดเสน้ ตรงตัดกนั 4. เสน้ โค้งตัดกนั ลักษณะเสน้ โค้งตดั กันใชส้ าหรบั วาดรปู ตน้ ไม้ พุ่มไม้ เสน้ ผมหรอื รูปทรงต่างๆ ทีม่ ีทศิ ทางของเส้นโค้งเป็นแกนนา ภาพที่ 3.7 ฝกึ วาดเส้นโคง้ ตัดกัน 5. เส้นหยกั ฟันปลา สามารถสร้างเป็นรปู ทรงต่างๆ ได้เชน่ นก กา ไก่ หมู สุนขั แมว เป็นตน้ ภาพท่ี 3.8 ฝึกวาดเสน้ หยักฟันปลา

44 6. เส้นคดหรอื ขด เป็นเส้นทีใ่ ช้สรา้ งรปู ทรงต่างๆ ได้เชน่ เดียวกนั ทงั้ ยงั ใช้ลงนา้ หนกั ของผิววตั ถุตา่ งๆ ได้ด้วย ภาพที่ 3.9 ฝกึ วาดเส้นคดหรือขด จากการฝกึ หดั วาดในการลากเสน้ ในทิศทางต่างๆ ให้เกิดทกั ษะชานาญในการใชเ้ ส้น ผู้ ฝกึ สามารถนาเสน้ ต่างๆ มาสร้างเปน็ รปู รา่ งของวัตถุ สง่ิ ของท่จี ะวาดเพอ่ื เปน็ โครงสรา้ งในการวาด การต์ นู ต่อไป เมือ่ ฝกึ หดั ลากเส้นในลกั ษณะและทิศทางต่างๆ แล้วจึงเรมิ่ ฝกึ วาดเสน้ ให้เปน็ รูปร่าง ต่างๆ ดว้ ย เช่น วงกลม วงรี สามเหลี่ยม สีเ่ หล่ียม รปู บิดเบีย้ วอสิ ระ เพ่อื เปน็ โครงสรา้ งพนื้ ฐาน สาหรบั การวาดตัวการต์ ูนโดยมีการฝึกวาดดงั นี้ (ศกั ด์ชิ ัย เกียรตินาคนิ ทร์, 2534ก : 16) (ภาพ 3.10 – 3.14) 1. วงกลม เป็นรปู ร่างพ้นื ฐานในการสร้างตัวการ์ตูนทเี่ กิดจากวงกลมน้ไี ดแ้ ก่ ศรี ษะ ใบหน้า ตา จมกู ข้อนวิ้ เป็นต้น ภาพที่ 3.10 วงกลม

45 2. วงรี เป็นรปู รา่ งพนื้ ฐานในการสร้างตวั การ์ตนู ท่เี กิดจากวงรี ไดแ้ ก่ ศรี ษะใบหนา้ ตา จมูก ปาก หู มือ ลาตัว เป็นตน้ ภาพที่ 3.11 วงรี 3. สามเหลี่ยม เป็นรูปร่างพื้นฐานในการสรา้ งตวั การต์ นู ทเ่ี กดิ จากสามเหล่ยี ม ได้แก่ ใบหนา้ ลาตวั เป็นตน้ ภาพท่ี 3.12 สามเหลี่ยม 4. ส่เี หล่ยี ม เป็นรูปรา่ งพน้ื ฐานในการสรา้ งตวั การต์ นู ทเี่ กิดจากสี่เหลยี่ ม ไดแ้ ก่ ใบหน้า ลาตวั สิ่งของต่างๆ เปน็ ตน้ ภาพท่ี 3.13 ส่ีเหลี่ยม

46 5. รปู บิดเบี้ยวและอิสระ อีกรูปร่างหน่ึงในการสรา้ งตวั การ์ตนู ไดอ้ ยา่ งอสิ ระและ เพ่ือตอบสนองจินตนาการของตัวการ์ตนู ภาพท่ี 3.14 รูปบดิ เบ้ยี วอิสระ ดังนน้ั การฝึกวาดรปู รา่ งตา่ งๆ ทาใหน้ ักวาดการต์ นู เกดิ ทักษะในการนารูปร่างมา ประกอบกนั ใหเ้ กิดเปน็ รูปภาพการ์ตูน เพือ่ นาไปสรา้ งสรรคต์ วั การต์ ูนได้ตามจินตนาการ ซ่ึง นอกเหนอื จากการศกึ ษาโครงสร้างลายเส้น รปู ร่างการ์ตนู หลากหลายรปู แบบแล้ว เราควรศึกษา หลักการวาดทัศนยี ภาพควบคู่ไปด้วย เพราะการวาดการ์ตูนนัน้ ไม่ต่างจากการเรยี นวิชาศิลปะ เบือ้ งต้นทวั่ ไป การวาดการ์ตนู จึงตอ้ งศกึ ษาหลกั การวาดทัศนยี ภาพจากสง่ิ แวดลอ้ มทางธรรมชาตแิ ละ สง่ิ ทีม่ นษุ ย์สรา้ งข้ึนด้วย หลกั การวาดทศั นียภาพ (Perspective) หลักการวาดทศั นยี ภาพ ในการวาดการ์ตนู เปน็ สิ่งท่ีสาคญั ไม่ใชน่ อ้ ย เพราะสามารถทา ให้เกดิ อารมณแ์ ละจิตนาการตามผลงานไดม้ าก สง่ิ ท่ีนกั วาดการ์ตนู จะต้องรู้และศกึ ษากันคือ หลักการวาดทศั นยี ภาพ เป็นภาพทใี่ ห้เกดิ ความรู้สกึ เปน็ 3 มิติ ที่นาหลกั การเบ้อื งต้นของทฤษฎี ทางศิลปะนามาปฏบิ ัติ ทาใหเ้ กดิ ภาพท่ีเหมอื นกบั ตาเรามองเห็นตามความเปน็ จริง แลว้ นามา ถา่ ยทอดบรรยากาศออกมาเกดิ เป็นมติ ิ โดย มีลกั ษณะของความเหมอื นใกล้เคียงกับภาพทค่ี นเราเห็น ภาพตา่ งๆ เช่น ถา้ ไปยืนอยู่กลางถนน แล้วมองไปไกลข้างหนา้ เราจะเห็นถนนจะค่อย ๆ เลก็ ลง เสาไฟฟ้าก็สัน้ เล็กลง ถ้ามีต้นไม้เป็นทวิ ขา้ งทางก็จะเต้ียลง แล้วก็จะวิง่ ไปรวมกันที่จดุ สุดสายตา หรอื ถ้าใครอยู่ใกล้เส้นทางรถไฟก็จะเหน็ ไดช้ ดั เจน รางรถไฟจะไปรวมกันทจี่ ดุ จดุ เดียว ไม้หมอนท่นี อน ขวางรับรางเหล็กกจ็ ะส้ันเขา้ และรวมกันที่จุดรวมสายตา (สิงขร ภักด,ี 2558 : 77) ในการวาดภาพทศั นียภาพการต์ ูนน้นั ประโยชนท์ ี่ไดเ้ พอื่ เปน็ ตัวกาหนดขนาด สดั ส่วน และรปู ร่างรูปทรงของวตั ถุ สิ่งของ ระยะใกลไ้ กลให้เกดิ มิตใิ ห้ถูกตอ้ ง ดงั น้ันผูว้ าดตอ้ งฝกึ วาดดงั น้ี

47 1. แบบจดุ รวมสายตา 1 จดุ (Vanishing Point) จุดเดยี ว หรือ (One Point Perspective) มแี นวเสน้ ระดบั ด้านหน้าขนานกับเส้นระดบั ตา (Horizon Line หรอื Eye Level) ส่วนด้านลึกจะไปรวมกนั ที่จดุ รวมสายตา (VP) ซง่ึ ตง้ั อยบู่ นเสน้ ระดบั ตา (HL) (ภาพท่ี 3.15-3.16) ภาพที่ 3.15 การวาดภาพแบบรวมสายตา 1 จดุ ภาพที่ 3.16 ตวั อยา่ งภาพวาดแบบ 1 จุด

48 2. แบบจุดรวมสายตา 2 จดุ (Two Point Perspective) คือภาพ Perspective ทีม่ เี สน้ แนวระดบั ท้ังด้านหนา้ และด้านขา้ งไปรวมตรงจุดรวมสายตา (VP. 1 และ VP. 2) ซึง่ อยู่ ด้านซ้ายและขวา (ภาพที่ 3.17-3.18) ภาพท่ี 3.17 การวาดภาพแบบจดุ รวมสายตา 2 จดุ ภาพที่ 3.18 ตัวอย่างภาพวาดแบบ 2 จุด

49 3. แบบรวมจุดสายตา 3 จดุ (Three Point Perspective) คอื ภาพ Perspective ท่คี ล้ายกบั แบบจดุ รวมสายตา 2 จดุ แตเ่ พม่ิ การมองจุดรวมสายตาจากจดุ ท่ี 3 (VP. 3) ตรงตาม แนวดง่ิ จุดรวมสายตาท่ี 3 ( VP. 3) ดภู าพได้เมื่ออยทู่ ั้งดา้ นบนและด้านลา่ งของเส้นระดับตา (HL) (ภาพที่ 3.19-3.22) ภาพที่ 3.19 การวาดภาพแบบจุดรวมสายตา 3 จดุ ดภู าพดา้ นบน PP ภาพท่ี 3.20. ตัวอย่างภาพวาดแบบ 3 จดุ ดภู าพด้านบน

50 ภาพที่ 3.21 การวาดภาพแบบจดุ รวมสายตา 3 จุด ดูภาพดา้ นล่าง ภาพท่ี 3.22 ตวั อย่างภาพวาดแบบ 3 จดุ ดภู าพดา้ นลา่ ง

51 สิง่ ทีต่ ้องคานงึ ในการวาดทัศนยี ภาพมีการแบง่ ระยะออกเป็น 3 ระยะ ดงั น้ี 1. ระยะหนา้ (Fore Ground) หมายถงึ การจัดวางตาแหน่ง ทีอ่ ยใู่ กลส้ ดุ ของ ภาพ ซง่ึ ตอ้ งมกี ารเนน้ สว่ นละเอียดและชัดเจน 2. ระยะกลาง (Middle Ground) หมายถงึ การจดั วางตาแหนง่ ท่อี ยูไ่ กลกว่า ระยะหน้า ต้องเขียนขนาดของสิง่ ต่างๆ ใหม้ ขี นาดเลก็ กวา่ ระยะหนา้ 3. ระยะไกล (Back Ground) หมายถงึ การจดั วางตาแหนง่ ทีอ่ ย่ไู กลสุดของภาพ รปู ทรงในระยะน้ี จะตอ้ งกาหนดใหม้ ขี นาดเลก็ กวา่ ระยะหน้าและระยะกลาง สว่ นรายละเอยี ด ความ เด่นชดั ของรปู ทรงจะต้องเนน้ ให้นอ้ ยลงหรอื น้าหนักจางลงตามขนาด ส่วนทส่ี าคัญในการวาดภาพแบบทศั นียภาพ การวาดการต์ ูนนตี้ ้องอาศัยการสรา้ งภาพ ลวงตา ให้เกิด ความลกึ ระยะใกล้ กลาง ไกล ท่ที าใหเ้ กิดภาพ 3 มิติ เหมือนจริงด้วยการ มองเหน็ หลักการวาดการ์ตนู หลักการ วาดการ์ ตนู นัน้ เร่ิมจากภาพรา่ งจากโครงสรา้ งลายเสน้ ทศี่ กึ ษาจากหลักการ พน้ื ฐานเบ้ืองต้น การรา่ งภาพเปน็ พน้ื ฐานของงานทศั นศลิ ป์ทกุ แขนง การทีผ่ วู้ าดจะวาดรูปภาพอะไร กต็ าม ต้องเร่มิ จากการร่างภาพก่อน โดยเริ่มจากการวาดโครงสร้างง่ายๆ ตามรปู แบบต่างๆ จาก การวาดในบททผ่ี า่ นมาเพอื่ ทาให้การวาดการ์ตนู ใหส้ วยงามและได้อารมณ์สนุกสนาน ขบขนั เนอื้ หา ของบทตามจินตนาการของการต์ นู แตล่ ะประเภท ประกอบไปดว้ ยดังนี้ 1. การรา่ งภาพ (Outline) หมายถึง การกาหนดโครงสร้างของรปู แบบอยา่ ง คร่าวๆ โดยเรม่ิ แรกอาจขึน้ ด้วยเส้นโครงสร้างหลกั อยา่ งง่ายแลว้ เพิม่ ปรมิ าตรให้โครงสร้างกล้ามเนื้อ และเส้ือผา้ ในส่วนรายละเอียดตา่ งๆ ก่อนทจ่ี ะลายลงเส้นจรงิ และลงสีตอ่ ไป (ธรรมศกั ด์ิ เอ้อื รกั สกุล, 2547 : 62) (ภาพท่ี 3.23) ภาพท่ี 3.23 โครงสร้างการร่างภาพรปู แบบอย่างครา่ วๆ

52 2. แนวคิดหรอื แนวเร่ือง (Concept) หมายถงึ แรงบนั ดาลใจ หรอื จินตนาการ มโนภาพท่ีได้มาจากความคิด แรงบันดาลใจอาจจะเรม่ิ ตน้ จากผลงานนกั วาดอ่นื ทช่ี ่วยให้เราคน้ หา แนวทางของเราเองไดง้ ่ายข้นึ แต่อาจได้จากธรรมชาติ ภาพงานจิตรกรรมสกลุ ต่างๆ ภาพล้อใน หนงั สอื พมิ พ์ การ์ตูนคอมมิกส์ ภาพประกอบในนิตยสาร ภาพถ่ายแฟชัน่ ภาพยนตร์ นกั แสดง ละคร ใบปดิ โฆษณา และจินตนาการ เปน็ ต้น สรุปว่าเราสามารถหาแรงบนั ดาลใจได้ทง้ั สน้ิ สง่ิ เหลา่ น้ีอาจเปน็ การจุดประกายให้นกั วาดต่อยอดจากทเ่ี ห็นผสมผสานจนเกิดเป็นแนวทางใหมห่ รือฉีก หนไี ปจากงานเดมิ ๆ กไ็ ด้ ท้ังนขี้ นึ้ อยูก่ บั วิธกี ารทางานของแต่ละบุคคล (จรญู พร ปรปกั ษป์ ระลยั , 2548 : 81) (ภาพที่ 3.24) ภาพที่ 3.24 วาดรูปจากโครงสร้างจากแรงบันดาลใจ ธรรมชาติและจินตนาการ

53 3. รูปรา่ ง (Shape) หมายถึง ภาพวาดทม่ี ลี กั ษณะเนน้ เฉพาะรูปรา่ งของภาพมี ลักษณะ 2 มติ เิ ปน็ ภาพวาดสองมิติ รปู วาดแบน ไม่มคี วามหนา ไม่มีความลกึ ไม่เน้นรายละเอยี ด ของภาพวาด ภาพจ ะออกมาเปน็ โทนเข้มหรอื สดี า ทาให้ดูน่าสนใจอีกประเภทหนง่ึ ทีช่ ว่ ยกระตุ้น อารมณผ์ ดู้ ูผลงานในการใชจ้ ิตนาการ (ภาพที่ 3.25) ภาพที่ 3.25 ภาพวาดรูปร่าง 4. รูปทรง (Form) หมายถึง เปน็ ภาพโครงสร้างทเ่ี ปน็ ภาพมีลักษณะ 3 มิติ มี ความกวา้ ง ยาว และลกึ ภาพท่ีวาดใหน้ ้าหนักมากยิง่ ให้ความรสู้ กึ มีมิติมาก ไมแ่ บน ส่วนใหญ่รปู ท่ี วาดตอ้ งอาศัยรูปรา่ งและรูปทรงเป็นพนื้ ฐาน ในการเริม่ ต้นวาดภาพโดยการพิจารณาจากภาพทเ่ี รา เลือกวาดให้เหมาะสมกับเร่อื งท่ีวาด แยกออกได้ 3 ประเภท คือ 4.1 รปู ทรงอิสระ (Free Form) รูปทรงท่ีเกดิ ขึ้นเองตามธรรมชาติหรอื มนษุ ย์ สร้างขึ้นไมม่ โี ครงสร้างเปน็ มาตรฐานแน่นอนเหมือนรูปทรงเรขาคณิตหรือรปู ทรงจากสิง่ มชี ีวิต ไดแ้ ก่ รูปทรงของก้อนหนิ ก้อนกรวด ดนิ หยดน้า ก้อนเมฆ เปลวไฟ คล่นื นา้ คลื่นทราย รูปปั้น ภาพ ท่ีดัดแปลง เพอ่ื ใหเ้ กิดความแปลกใหม่ อาจเกิดขนึ้ โดยความบังเอญิ ไปตามอารมณข์ องผู้วาดหรอื ลกั ษณะทล่ี ่นื ไหลเปลย่ี นแปลงตลอดเวลา(ภาพที่ 3.26) ภาพท่ี 3.26 ภาพวาดรปู ทรงอสิ ร

54 4.2 รปู ทรงเรขาคณิต (Geometrical Form) หมายถึง โครงสร้างทม่ี นษุ ย์ สร้างข้นึ มีรูปทรงที่แนน่ อน มาตรฐาน มกี ฎเกณฑ์ โครงสร้างมาจากรูปวงกลม รูปวงรี รูปสามเหลีย่ ม รปู สเี่ หลี่ยม รปู ห้าเหลี่ยม รูปหกเหล่ียม รูปพีระมดิ เป็นตน้ รูปทรงเรขาคณิตเป็นโครงสร้างพืน้ ฐาน ของรูปทรงตา่ งๆ ทผ่ี ูฝ้ ึกฝนการวาดการ์ตนู ตอ้ งศึกษาและใหค้ วามเข้าใจใหม้ าก เพื่อนาโครงสร้าง ดงั กลา่ วไปใชง้ าน (ภาพที่ 3.27) ภาพท่ี 3.27 ภาพวาดรูปทรงเรขาคณิต 4.3 รปู ทรงท่สี รา้ งขึ้นใหม่ (Semi abstract Form) หรอื กึ่งนามธรรม หมายถึง เป็นการตัดทอนหรือดดั แปลงรปู แบบจากธรรมชาติให้เปลี่ยนไปจากความจริงและผสมผสาน จินตนาการความคิดของผวู้ าดอยา่ งมเี อกภาพ (Unity) สร้างเปน็ รปู แบบใหม่ แต่ยังคงรูปทรงของวตั ถุ เดิมอยู่บ้างซงึ่ เป็นเอกลกั ษณ์เฉพาะตัวของผ้วู าด (ภาพท่ี 3.28) ภาพที่ 3.28 ภาพวาดรปู ทรงทสี่ ร้างข้นึ ใหม่ตามจนิ ตนาการ

55 5. การเลา่ เร่ือง (Narrate) หมายถึง การวาดภาพโดยมีเนอ้ื เรื่องเป็นตวั กาหนด อาจจะเปน็ เรอ่ื งสัน้ หรอื ยาวกไ็ ด้ เรื่องราวนั้นๆ จะมตี ัวหนังสือบรรยายภาพ หรือไมม่ ตี ัวหนงั สือก็ได้ การต์ ูนจะเลา่ เรือ่ งน้ันๆ ตั้งแตต่ น้ จนจบ (ภาพที่ 3.29) ภาพที่ 3.29 ภาพวาดการเลา่ เร่อื งราว 6. อารมณ์ (Emotion) หมายถึง ความรสู้ กึ ที่ถา่ ยทอดอารมณ์ของการ์ตนู เรา สามารถวาดอารมณ์ของตัวการต์ ูนให้แสดงออกมาได้หลายลักษณะ ทัง้ สีหนา้ ตา ปาก อารมณ์ โกรธ เศร้า ตลก ยมิ้ เป็นตน้ เพราะถอื เป็นจดุ หลกั ในการส่ือสารระหวา่ งผ้ดู ูกบั ตัวการ์ตนู ยิ่งตัว การต์ ูนแสดงอารมณอ์ อกมาได้ชดั เจนย่ิงสร้างความนา่ สนใจไดม้ าก (จักรกฤษณ์ นลิ ทะสนิ , 2545 : 50) (ภาพที่ 3.30) ภาพท่ี 3.30 ภาพวาดการแสดงออกถึงอารมณแ์ ละความรู้สึก

56 7. การเนน้ (Emphasize) หมายถงึ การกระทาให้ขอ้ ความทพี่ รรณนาเสน้ สี เสยี ง ความคิดและอนื่ ๆ ใหม้ ีชวี ติ ให้เหน็ เดน่ เป็นพเิ ศษกวา่ ธรรมดา (ศลิ ป์ พีระศรี, 2553 : 149) การเน้น ลายเสน้ แบ่งออกไดห้ ลายลกั ษณะ คือ การเนน้ พน้ื ผวิ เส้น รปู ร่างและรปู ทรง เป็นต้น การวาด การต์ ูนจะแบ่งการเนน้ เป็น 2 ลกั ษณะดงั นี้ 7.1 การเนน้ รายละเอียด หมายถงึ การวาดสว่ นรายละเอยี ดของภาพวาดการต์ ูน ท้งั หมด ทจ่ี ะเพิ่มเติมใหก้ ารต์ ูนมีมิติในส่วนตา่ งๆ ของภาพวาดมชี ีวติ ชีวา สรา้ งบรรยากาศ ใหเ้ กิด ระยะของภาพและสร้างบรรยากาศของภาพใหม้ ีลักษณะเป็นแบนๆ ก็ได้ (ภาพที่ 3.31) ภาพท่ี 3.31 การเน้นรายละเอยี ดดว้ ยแสงเงา แบบ 3 มิติ และแบนเปน็ 2 มติ ิ 7.2 การเน้นเสน้ รอบนอก (Out Line) หมายถงึ ภาพวาดลายเส้นทม่ี ีขนาดใหญ่ หรอื หนากว่าเสน้ ภายในตัวการต์ นู เพ่ือทจี่ ะเน้นความเดน่ ชดั สรา้ งความสวยงาม เป็นการเนน้ รปู ทรงของการต์ นู และเน้นระยะของตัวการ์ตนู ให้มีพลงั มากยง่ิ ขึ้น (ภาพท่ี 3.32) ภาพท่ี 3.32 การเน้นเสน้ ของรูปทรงตัวการ์ตนู

57 8. ความดลุ ยภาพ (Balance) การจัดภาพใหเ้ กดิ ความเทา่ กนั ในน้าหนักของสง่ิ ของ ต่างๆ ระหว่าง 2 สว่ น โดยการแบง่ ภาพหรือผลงานออกเปน็ 2 ส่วน โดยใช้เส้นแบง่ กึ่งกลางของ ผลงาน แล้วเปรียบเทยี บน้าหนักขององคป์ ระกอบ ไมห่ นกั ไปด้านใดดา้ นหนึง่ ทาใหเ้ กดิ ความ สวยงามมคี วามสมบูรณล์ งตวั ในรูปภาพ (ฉตั ร์ชัย อรรถปกั ษ์, 2548 : 142) (ภาพท่ี 3.33) ภาพที่ 3.33 การจดั ภาพใหเ้ กิดความสมดุล ผลงานของ สงิ ขร ภกั ดี

58 9. จุดเดน่ (Dominance) หมายถงึ ส่วนท่สี าคญั ทเ่ี ป็นจุดเด่น มีความสะดดุ ตา มี อานาจครอบงา ในทางศลิ ปะอาจกลา่ วไดว้ ่าจุดเด่นคือ ส่วนสาคญั และชดั เจนกว่าภาพใดในภาพ มี ความสะดุดตา เปน็ สง่ิ แรกที่รบั รู้ไดด้ ว้ ยการมอง จดุ เดน่ อาจเกิดได้จากการเน้นหรอื การสง่ เสริมจาก องค์ประกอบต่างๆ เช่น ขนาด สี ลกั ษณะผิว ทีช่ ว่ ยส่งเสรมิ จุดเดน่ ใหก้ าร์ตนู นา่ สนใจมากย่งิ ขน้ึ (ฉตั ร์ชยั อรรถปกั ษ์, 2548 : 161) (ภาพท่ี 3.34) ภาพที่ 3.34 การจัดจดุ เด่นของการ์ตนู ผลงานของ พรชีวนิ ทร์ มลพิ นั ธุ์

59 ดงั นนั้ การฝกึ ฝนในการวาดการ์ตูน ผู้ท่ีเริม่ ตน้ ในการวาดนั้นควรหมัน่ ฝึกใหเ้ กิดทกั ษะอยู่ สมา่ เสมอในการวาด เพ่ือใหเ้ กิดความชานาญศึกษา หลักพ้ืนฐานการ วาดการ์ ตนู การวาดผู้ฝกึ จะตอ้ งผอ่ นคลายความตึงเครยี ดของกลา้ มเนือ้ มือในการจบั ดนิ สอ ปากกา พกู่ ันบา้ งในเวลาวาด นานๆ และพกั สายตาในเวลาวาดดว้ ย เพราะการพักดังกล่าวจะทาให้ผลงานการวาดการต์ ูนไมเ่ ครยี ด จนเกนิ ไป การ์ตนู ทีว่ าดออกมาจะดสู วยงามดว้ ย สรปุ โครงสร้างลายเส้นเปน็ ทศั นธาตทุ ่สี าคัญใน การวาดการ์ตนู ท่ีค้นหาเอกลักษณเ์ ฉพาะตัว ในการใช้เครอื่ งมือแตล่ ะชนิด ไดแ้ ก่ ปากกาเขียนแบบ ปากกาคอแรง้ พกู่ นั ทท่ี าใหเ้ สน้ เกิด ความรู้สึกในการรบั รู้ไดต้ า่ งๆ กัน ไดแ้ ก่ เสน้ ตรง เสน้ โค้ง เสน้ ตรงตดั กนั เสน้ โคง้ ตัดกนั เสน้ หยกั ฟันปลา เส้นคดหรอื ขด ความรูส้ ึกที่เกิดจากเส้นต่างๆ วาดใหเ้ กิดนา้ หนกั ของเส้น และพ้ืนฐานการ วาดเส้นให้เกิดเปน็ รปู ร่างตา่ งๆ ได้แก่ วงกลม วงรี สามเหลี่ยม สเ่ี หล่ยี ม รูปบดิ เบีย้ วอิสระ การวาดการ์ตนู มหี ลกั การเบื้องต้นของทฤษฎีทางศิลปะนามาปฏิบัติวาด ตามหลกั ทศั นียภาพทม่ี ี 3 ประเภท ไดแ้ ก่ แบบจุดรวมสายตา 1 จดุ แบบจดุ รวมสายตา 2 จุด แบบรวม จุดสายตา 3 จุด ทนี่ าขน้ั ตอนไปสู่หลกั การวาดทัศนียภาพ เปน็ การสร้างภาพลวงตา ใหเ้ กิด ความ ลึก ระยะใกล้ กลาง ไกล ที่ทาใหเ้ กดิ ภาพ 3 มติ ิ ถอื เป็นผสู้ รา้ งภาพวาด ทศั นียภาพทส่ี รา้ ง บรรยากาศอารมณ์ ความรูส้ กึ และจนิ ตนาการ ท่ถี ่ายทอดออกมาตามจนิ ตนาการ การวาดการต์ นู มหี ลกั การพ้นื ฐานที่ ทาใหต้ ัวละครสวยงามและมีอารมณ์สนุกสนาน ขบขนั เน้ือหาของบทตามจนิ ตนาการ ของการต์ นู แต่ละประเภท ได้แก่ การรา่ งภาพ แนวคิดหรือ แนวเรือ่ ง รูปร่าง รปู ทรง รปู ทรงที่สรา้ งขนึ้ ใหม่ การเล่าเรือ่ ง อารมณ์ การเน้น ความดุลยภาพ และจดุ เดน่ ที่ช่วยส่งเสรมิ จุดเดน่ ให้การต์ ูนน่าสนใจมากย่งิ ขน้ึ

60

บทที่ 4 โครงสร้างสดั ส่วน การวาดการต์ นู ในแตล่ ะสว่ น การศึกษาหลักพน้ื ฐานการวาดการต์ ูนท่เี ป็นพื้นฐานหลักการวาดแล้ว ผู้ฝึกวาดตอ้ ง เรยี นร้หู ลกั การวาดกายวิภาคของตัวการต์ ูนด้วย เพราะจะทาใหผ้ วู้ าดกาหนดโครงสรา้ งทีช่ ัดเจนในแต่ ส่วนโดยมีหลักการโครงสร้างสัดสว่ นของการ์ตูน โครงสร้างสดั ส่วน การกาหนดสัดส่วนในการวาดการ์ตูนมักมีกาหนดโดยสัดสว่ นของคนจรงิ เป็นหลกั จากนน้ั จงึ นามาสรา้ งข้นึ ใหม่โดยยดึ หรือหดขนาดของสัดส่วนนั้นให้ดูนา่ รักและมคี วามนา่ สนใจข้นึ การฝึกวาดในช่วงแรกผวู้ าดควรยดึ หลักของสัดสว่ นจรงิ ก่อน อาจใชส้ ดั สว่ นของเด็กเขียนแทน เพราะ จะชว่ ยใหก้ าร์ตูนนน้ั ดนู ่ารกั และตลกขึ้น (จักรกฤษณ์ นลิ ทะสิน, 2545ก : 8) สดั ส่วนมนุษย์ท่ีกาหนดเปน็ เกณฑ์น้ี ผศู้ ึกษาต้องฝึกวาดเพือ่ การจดจาสัดสว่ นท่ถี ูกตอ้ ง ว่าแต่ละส่วนควรจะอยู่ตรงไหน ทัง้ ดา้ นหนา้ ด้านขา้ งและดา้ นหลงั การแสดงสัดส่วนตามหลกั การ วาดภาพ โดยกาหนดไว้ 8 ส่วน เพ่ือประโยชน์ท่ีจะนาไปใชป้ ระกอบการฝกึ วาดภาพต่อไป (เสนห่ ์ ธนารัตน์สฤษด์ิ, 2533 : 24) (ภาพที่ 4.1-4.2) ภาพที่ 4.1 โครงสร้างสัดส่วนผชู้ ายคนจรงิ (เสน่ห์ ธนารตั น์สฤษด์ิ, 2533 : 24)

62 สาหรบั การหาสัดส่วนในรา่ งกายของผู้หญงิ มีการกาหนด 8 สว่ นเชน่ เดยี วกันกับ ผชู้ าย ผู้เรียนศิลปะจะตอ้ งฝึกหดั วาดสัดสว่ นของคน มกี ารกาหนดส่วนต่างๆ เพ่ือใหค้ วามสมั พนั ธ์ ระหวา่ งกนั ไดช้ ดั เจน เชน่ เมอ่ื วาดคนยืน หวั ของคนจะเท่ากบั 1 ใน 7 ของความสูงคน ท่ีแบง่ ออกเปน็ 8 สว่ นความยาวของใบหน้า ตัง้ แตศ่ รี ษะจรดปลายคางเท่ากับ 1 : 8 ของศรี ษะจรดฝ่าเทา้ นัน้ เอง (บรรจงศกั ดิ์ พิมพ์ทอง, 2550 : 53) ภาพท่ี 4.2 โครงสร้างสดั สว่ นผหู้ ญิงคนจริง (เสน่ห์ ธนารัตนส์ ฤษดิ์, 2533 : 25)

63 โครงสรา้ งสัดสว่ นที่แสดงการเปรียบเทยี บ ผูว้ าดควรศึกษาสัดสว่ นของมนษุ ย์ ท่มี ีอายุ 1, 3, 5, 10, 15 และ 20 ปขี ้ึนไป จะสังเกตความแตกตา่ งของสดั สว่ นตามอายุ ผ้ศู ึกษาจะต้อง จดจาให้ได้ว่า อายเุ ทา่ ใดมกี ี่สว่ นโดยประมาณ เพอื่ เปน็ ประโยชน์ที่จะนาไปใช้ในการวาดตอ่ ไป (เสนห่ ์ ธนารตั นส์ ฤษดิ์, 2533 : 26) (ภาพท่ี 4.3) ภาพที่ 4.3 โครงสรา้ งสดั ส่วนตามอายุเพ่อื เปน็ เป็นประโยชน์ในการวาด (เสน่ห์ ธนารัตนส์ ฤษด์ิ, 2533 : 26)

64 สดั ส่วนการวาดการต์ ูน SD สาหรับการวาดการต์ นู ที่มีสัดสว่ นดนู ่ารกั และนา่ สนใจนั้น ผฝู้ กึ วาดตอ้ งศกึ ษาการวาด การต์ นู แบบ SD (Super Deformation) เป็นการวาดการ์ตนู แบบยอ่ สัดส่วนทสี่ มจริงลงมาใหด้ ู น่ารัก ไม่วา่ จะเปน็ ตวั การต์ นู แบบไหนก็วาดใหเ้ ป็นแบบ SD โดยมีสดั สว่ นการย่อต้งั แต่ 2-4 ส่วน แตบ่ างครง้ั กม็ แี บบ 1 ส่วนออกมาบา้ ง การวาดการต์ นู แบบ SD นจ้ี ะง่ายกวา่ การวาดการ์ตนู แบบ สมจริง การ์ตนู แบบ SD เหมาะสาหรับผู้ที่เริ่มตน้ วาดใหม่ๆ การวาดการ์ตนู SD หรือตัวการ์ตนู แบบยอ่ สว่ นกค็ อื การนาเอาภาพลกั ษณ์ของคน จริงมาวาดเป็นตัวการ์ตนู ใหน้ ่ารักยงิ่ ข้นึ ในการวาดยงั มเี รอ่ื งของแสงเงาเข้ามาเกี่ยวขอ้ ง จนทาใหต้ ัว การต์ นู ทีไ่ ดอ้ อกมามลี กั ษณะเปน็ 3 มติ ิ การวาดการ์ตูน SD มีการแยกในการวาดเปน็ ส่วนๆ ทงั้ การแบง่ สัดส่วน การวาดสว่ นศีรษะ เคร่อื งแตง่ กายและการแรเงาทีละส่วนๆ ใหเ้ กดิ ความสวยงาม และนา่ รัก (C’C Club, 2557 : 1-9) ภาพที่ 4.4 การวาดสดั สว่ นของการ์ตนู SD

65 ภาพที่ 4.5 การวาดการ์ตนู แบบ SD ดว้ ยแสงเงาทาให้เกดิ 3 มิติ การวาดการ์ตนู แบบ SD การวาดการ์ตูนแบบ SD มกี ระบวนการและขนั้ ตอนเปน็ สว่ นๆ ดังนี้ (ภาพท่ี 4.6-4.12) ภาพท่ี 4.6 แบ่งสัดส่วนตัวการ์ตนู ที่จะวาดท้ังตวั

66 ภาพท่ี 4.7 วาดเค้าโครงศรี ษะใบหนา้ และส่วนตา่ งๆ ภาพที่ 4.8 วาดทรงผมและสว่ นใบหน้าเป็นท่ีตอ้ งการใหช้ ดั เจน

67 ภาพท่ี 4.9 วาดสว่ นลาตัวใหช้ ัดเจน ภาพที่ 4.10 วาดสว่ นทอนดา้ นล่างกางเกง ขา เท้า ออกมา

68 ภาพที่ 4.11 ภาพรา่ งลายเส้นทส่ี มบรู ณ์ ภาพท่ี 4.12 เก็บรายละเอียดส่วนตา่ งๆ และพร้อมแรเงาให้น้าหนกั จนเสร็จสมบรู ณ์

69 การวาดการต์ ูนในแตล่ ะส่วน โครงสรา้ งของการต์ ูน ท่นี กั วาดการต์ นู ต้องฝกึ ฝนเพอ่ื ให้เกดิ ทักษะและความชานาญถึง อารมณ์ การแสดงออกท่าทางต่างๆ บอกถึงบคุ ลกิ ของตวั การต์ ูนนั้นๆ ทจ่ี ะตอ้ งฝึกฝน เชน่ ใบหนา้ ดวงตา ปาก มือ เทา้ หู จมกู ในข้นั ตน้ ก่อนที่จะวาดเป็นเรื่องราวต่างๆ โดยมีดังนี้ (ภาพท่ี 4.13-24) ภาพที่ 4.13 ใบหน้าผู้ชาย

70 ภาพที่ 4.14 ใบหนา้ ผู้หญงิ

71 ภาพท่ี 4.15 ดวงตา 1

72 ภาพท่ี 4.16 ดวงตา 2

73 ภาพที่ 4.17 ปาก 1

74 ภาพท่ี 4.18 ปาก 2

75 ภาพที่ 4.19 มือ 1

76 ภาพท่ี 4.20 มอื 2

77 ภาพที่ 4.21 เทา้

78 ภาพที่ 4.22 เท้าท่ใี ส่รองเทา้

79 ภาพที่ 4.23 หู

80 ภาพท่ี 4.24 จมกู

81 สรุป การกาหนดสัดสว่ นโครงสร้างการ์ตนู มีการกาหนดโดยสัดสว่ นของคนจริงเป็นพื้นฐาน สดั ส่วนมนุษย์ทกี่ าหนดมี 8 ส่วน จากความยาวของใบหน้า ตั้งแต่ศรี ษะจรดปลายคางเท่ากบั 1 : 8 ของศีรษะจรดฝา่ เท้า สัดสว่ นทแ่ี สดงการเปรยี บเทยี บคือ อายุ 1, 3, 5, 10, 15 และ 20 ปี ว่า อายุเท่าใดมกี สี่ ่วน โดยประมาณ การวาดการต์ ูนทม่ี ีสดั ส่วนดูนา่ รกั และนา่ สนใจแบบ SD (Super Deformation) เป็น การวาดการ์ตูนแบบยอ่ สัดสว่ นท่ีสมจริงลงมาให้ดูน่ารกั มีสัดส่วนการยอ่ ตั้งแต่ 2-4 ส่วน การนาเอา ภาพลักษณข์ องคนจรงิ มาวาดเป็นตวั การ์ตนู ใหเ้ กิดความสวยงามและนา่ รกั เพิม่ แสงเงาออกมาทาให้ ตวั การ์ตนู ออกมามลี กั ษณะเปน็ 3 มติ ิ การวาดโครงสร้างของการต์ ูนให้เกดิ อารมณ์ การแสดงออกทา่ ทาง บอกถึงบคุ ลกิ ตัว ละคร ส่วนต่างๆ ของรา่ งกาย ได้แก่ ใบหนา้ ดวงตา ปาก มอื เทา้ หู จมกู เปน็ ตน้

82

บทที่ 5 ขน้ั ตอนการวาดการ์ตนู การวาดการ์ตูนเป็นการถา่ ยทอดอารมณ์ ความรูส้ กึ และจินตนาการ ตามประเภทและ ลกั ษณะต่างๆ ของการ์ตนู ขึ้นมาเพื่อใชก้ ับวัตถุประสงคต์ า่ งกัน ทีท่ าให้ผู้ดูประทบั ใจ ทใ่ี ส่อารมณ์ ขบขัน ตลกเฮฮา นา่ สนใจในการนาเสนอ อยา่ งไรก็ตาม การวาดการ์ตูนกถ็ ือเปน็ ศาสตร์แหง่ จนิ ตนาการในการสรา้ งสรรคใ์ นสงิ่ ทมี่ นุษยส์ ร้างขึน้ การวาดตวั ละครจากความคดิ ทีไ่ มม่ ตี ัวตนลง แผ่นกระดาษด้วยดนิ สอ วาดลายเสน้ ด้วยหมกึ อินเดยี องิ คใ์ ห้สวยงาม พรอ้ มกับสรา้ งบรรยากาศ ผลงานใหด้ มู ีชีวิต ดว้ ยเทคนิควิธกี ารวาดตามความถนดั ของนักวาดท่ีเป็นเอกลักษณเ์ ฉพาะตัวในการ ฝกึ ฝนทกั ษะของตน โดยมขี ้ันตอนพื้นฐานท่นี ักวาดต้องใหค้ วามสาคญั ทเ่ี ราจะเริ่มตน้ วาดการต์ ูน ท่ี นกั วาดควรฝึกฝนจากสิง่ ทนี่ ักวาดศึกษามาตงั้ แตใ่ นบทต่างๆ โดยยึดหลกั การพืน้ ฐานประเภทของ การต์ ูน โครงสรา้ งของลายเสน้ พร้อมกบั สัดสว่ นการต์ นู ทผ่ี วู้ าดถนดั และชอบในการนาเสนอแตล่ ะ ประเภทในการวาดดังน้ี ขั้นตอนการวาดดว้ ยปากกาคอแร้งบนกระดาษอาร์ตมนั 1. วาดเค้าโครงตวั การ์ตนู ดว้ ยโครงสร้างรปู ทรงเรขาคณติ เชน่ วงกลม สามเหลยี ม ส่ี เหลยี ม ฯลฯ ในส่วนตา่ งๆ ให้เหมาะสมกับโครงสรา้ งของตวั การต์ ูนด้วยดนิ สอสีฟ้าและไมต่ อ้ งลบ ลายเส้นดนิ สอสฟี ้าออก เน่อื งจากใช้ไส้ดินสอสฟี า้ เวลานาผลงานท่วี าดเสร็จสมบูรณ์ ไปตีพิมพ์ใน โรงพิมพเ์ พอื่ ท่ีจะทาออฟเซ็ท ลายเส้นสฟี ้าจะไม่ปรากฏในผลงานนติ ยสาร ผลงานจะออกมาเปน็ โทน ขาว - ดา (ภาพที่ 5.1) ภาพที่ 5.1 การข้นึ โครงสรา้ งตัวการ์ตูนด้วยรปู ทรงเรขาคณิต ดว้ ยไส้ดนิ สอสฟี ้า

84 2. วาดโครงสร้างด้วยการแบ่งสดั ส่วนใบหนา้ รา่ งกาย จนเสร็จการวาดเคา้ โครงสรา้ ง ลาตวั ทัง้ หมดในขน้ั ตอนนี้ (ภาพท่ี 5.2) ภาพที่ 5.2 การวาดโครงสรา้ งตวั การต์ ูนในเบอ้ื งต้นทง้ั หมดด้วยสดั สว่ นตา่ งๆ

85 3. วาดเค้าโครงสว่ นศรี ษะ ใบหน้า ลาตัว เครือ่ งแตง่ กายเสื้อผ้า เครอื่ งประดับ และ รายละเอยี ดในส่วนตา่ งๆ ที่เปน็ โครงสร้างคร่าวๆ ทพ่ี อมองเห็นเปน็ เค้าโครงของตัวการต์ นู จนเป็น รปู ร่างทีเ่ สรจ็ สมบรู ณ์ด้วยลายเสน้ สฟี ้าทงั้ หมด (ภาพท่ี 5.3) ภาพที่ 5.3 เค้าโครงของตวั การต์ ูนทีเ่ ปน็ รูปร่างเสร็จสมบูรณ์ด้วยลายเสน้ สฟี ้า