º·ÅФéºÑº¡ÃЪѺ àÃ×Íè §“ºÕµÑ¡ê ” ดดั แปลงจากวรรณกรรมเยาวชนเร่อื ง “บตี ั๊ก ดาวดวงน้นั ระหว่างน้ำกบั ฟา้ ” ของกายา่ กล้าทะเล สำนกั พมิ พม์ ลู นธิ เิ ดก็ , 2547 รางวลั หนงั สอื ยอดเยย่ี ม “รักลกู อวอรด์ ” ป ี 2548 การแสดงมลี กั ษณะเปน็ ละครเดก็ ทีเ่ ล่าเรอื่ ง โดยใช้คอรัสและอาศัยเทคนิคภาพนิ่งเล่าเร่ือง (Tableaux Vivants) ผสมกับการใช้เทคนคิ แสง เปน็ เรอ่ื งของชาวอรู กั ลาโวย้ ในการแสดง คำท่ี แสดงใหเ้ หน็ ถงึ วฒั นธรรมทางภาษาจะคงคำเดมิ เชน่ “กู” คอื ฉัน “เกา” คอื เธอ เปน็ ตน้ Readers Theatre 151
เวทมี ลี กั ษณะโลง่ วา่ ง ผนงั ดา้ นหลงั มผี า้ ดำขงึ อยเู่ ปน็ ฉากหลงั บนผา้ มดี าวเรอื งแสง ดวงเลก็ ๆ ตดิ อยอู่ ยา่ งกระจดั กระจาย เวลาไฟสวา่ งจะมองไมเ่ หน็ ดาวเหลา่ นน้ั ขณะทไ่ี ฟดบั ดวงดาวเหลา่ นน้ั จะทอแสงระยบิ ระยบั ลกั ษณะของการใชพ้ น้ื ทบ่ี นเวทจี ะสลบั กนั ระหวา่ ง ฝงั่ ซ้ายกบั ฝัง่ ขวา ฉากท่ี 1 เปิดเรื่องด้วยเพลงพ้ืนถ่ินของชนเผ่าอูรักลาโว้ยคลอเบาๆ พอให้ได้บรรยากาศ ประมาณ 2 นาที ฝั่งซา้ ย ฝ่ังขวา ไฟคอ่ ยๆ สวา่ งขน้ึ มีคนนง่ั ดดี กีตาร์ มีคอรัสปรากฏกายขึน้ แตง่ ตัวลักษณะแฟนตาซี คลา้ ยภูติในเทพนยิ าย คอรัส 2 ฟ้ากว้างใหญ่ จรดปลายฟ้า มีดวงดาวเรยี งราย ระยิบระยบั สอ่ งแสงจา้ แพรวพราว วาววบั 152 ละครสร้างนักอ่าน
ฝ่ังซ้าย ฝง่ั ขวา เหลอื คณานับ คะเนได้ ไฟสว่างข้นึ Tableau Vivant เป็นภาพปะ๊ ฮาติ คอรัส 1 ฟา้ เอย สง่ ดาวลงมา พี่ชายของบีตั๊ก และมะซึ่งกำลัง ทอ้ งแกย่ ืนเรียงกันยมิ้ แฉ่ง ดวงดาวแหง่ ฟากฟา้ กว้างใหญ่ ให้ความรู้สกึ เหมอื นถา่ ยรปู หมู่ ดวงดาวที่เป็นแกว้ ตาดวงใจ ดวงทใี่ ครๆ ตา่ งเฝ้าคอย คอรัส 2 ดาวนอ้ ยเอย เจา้ ลงมาแล้ว จงเปน็ ดาวทีเ่ พรศิ พร้อย งดงาม สดุ สอย คอรัส 1 เปน็ ดาวระหวา่ งน้ำกบั ฟา้ ตลอดไป ดาวระหวา่ งน้ำกับฟา้ ดาวทมี่ ชี ่ือว่า บตี ๊ัก คอรัส 2 เดก็ ท่เี รากำลงั จะพูดถงึ มีช่ือ วา่ บตี ั๊ก คอรัส 1 บีต๊กั เกิดในทะเล คอรัส 2 ใช่ เกิดในทะเล คอรัส 1 (ชไี้ ปทางฝ่ังขวา) นั่นน่ะ ครอบครัวของบีตั๊ก Readers Theatre 153
ฝัง่ ซ้าย ฝงั่ ขวา คอรัส 2 อ้าว แลว้ บีตัก๊ หายไปไหนละ่ ไฟสว่างขนึ้ คอรัส 1 (ตบหวั คอรัส 2 เบาๆ แลว้ ชี้ไป Tableau Vivant เปน็ ภาพมะ นอนหันลำตวั ดา้ นข้างใหผ้ ้ชู มกำลงั เบ่ง ฝ่ังขวา) ทอ้ งคลอดขณะที่ปะ๊ อยตู่ รงปลายขา กอ็ ยู่ในนน้ั ไง ในทอ้ งของมะ เพอื่ รอรบั บีต๊กั มฮี าตยิ ืนร้องไห้อยู่ ไฟดับลง แชภ่ าพ 3 วนิ าที ไฟดบั ลง คอรัส 2 ครอบครัวของบีตกั๊ ก็มีความ สขุ ดอี ยูห่ รอก จนกระท่ัง... คอรัส 1 มะของบตี กั๊ เกดิ ปวดท้อง คอรัส 2 บนเรอื คอรัส 1 กลางทะเล คอรัส 2 แตต่ อนนนั้ บีตั๊กยงั ไมค่ รบ เก้าเดอื นเลยนนี่ า คอรัส 1 ยังเหลืออีกต้งั สองเดือน คอรัส 2 (ถามยำ้ ) สองเดือน คอรัส 1 (ตอบหนกั แน่น) สองเดือน คอรัส 2 บีตก๊ั ก็เลยตอ้ งคลอดกลางทะเล คอรัส 1 กลางทะเล 154 ละครสรา้ งนักอ่าน
ฝัง่ ซ้าย ฝั่งขวา (เสียง) อแุ วๆ้ ๆๆ คอรัส 2 แตบ่ ตี ั๊กก็ปลอดภัย คอรัส 1 แต่มะนะ่ สิ คอรสั 2 (เสียงเศร้า) จากบตี ๊ักไป ไมห่ วนคืน Sound ดนตรีบรรเลงเศรา้ ๆ อาจเป็นเพลงพ้ืนถน่ิ หรอื เพลงบรรเลง จากกีตาร์ก็ได้ เพอ่ื แสดงถึงการเปลีย่ น เวลาคอรัส 1 และ 2 เดินยา้ ยไปฝงั่ ขวา ไฟค่อยๆ ดบั ลง ฉากท่ี 2 ฝงั่ ซา้ ย ฝง่ั ขวา ไฟสว่างขนึ้ คอรสั 1 และ 2 ยนื เรียงหน้ากระดานอยู่ Readers Theatre 155
ฝง่ั ซ้าย ฝัง่ ขวา ไฟสวา่ งขึ้น คอรสั 2 บตี ๊กั เป็นลกู ชาวเล Tableau Vivant เปน็ ภาพฮาติ อยา่ งแท้จรงิ กำลงั นั่งเหลาต๊กุ ตารูปตวั เอง คอรัส 1 (พดู ด้วยความภมู ิใจ) เป็น ทีพ่ น้ื มตี ุ๊กตารปู ป๊ะวางอยู่ อูรักลาโว้ย สว่ นบีต๊กั กก็ ำลังนัง่ เหลาตุ๊กตาของตัวเอง คอรัส 2 เป็นไทยใหม่ คอรสั 1 พรุ่งนีจ้ ะมีพิธลี อยเรือแลว้ คอรสั 2 อยากไปพธิ ีลอยเรือบา้ งจงั คอรัส 1 ว่าแต่...มีตกุ๊ ตาไมร้ ะกำ หรือยัง คอรัส 2 (หยิบตุก๊ ตาออกมา) มแี ลว้ คอรสั 1 (หยบิ ต๊กุ ตาออกมา) ฉันกม็ ี คอรสั 2 ง้ันมัวรออะไรอยู่ละ่ (ดึงคอรัส 1 ใหล้ ุกข้ึน) คอรสั 1 เดี๋ยว แล้วบีต๊ักละ มีตุ๊กตา หรือยัง คอรสั 2 สงสยั จะมีแลว้ มงั้ ไฟดับลง 156 ละครสร้างนักอ่าน
ฝ่งั ซ้าย ฝ่งั ขวา คนในภาพนง่ิ เร่มิ เคล่อื นไหว บตี ั๊ก (ชูตุ๊กตาตัวเองขึ้นดู) ทำไมของกูมนั บดู เบย้ี วจงั ฮาต ิ ค่อยๆ ทำเด๋ียวก็สวย บีตัก๊ พอลอยเรือเสร็จ เราชวนปะ๊ ไปดูรองเงง็ กันไหม ฮาต ิ คงไม่ม้ัง เหน็ ป๊ะบ่นว่าปวดท้อง บตี ๊ัก ทำไมชว่ งน้ีปะ๊ ปวดท้องบอ่ ยจัง ฮาติ เอาไว้ว่างๆ กูจะตามโต๊ะชามา่ มาดูป๊ะ บีตั๊ก (พนมมือไหว)้ ขออยา่ ให้ปะ๊ เป็นอะไรเลย ฮาต ิ เอานา่ (หยิบตุ๊กตาป๊ะขน้ึ มา) เด๋ียวเอาตุ๊กตาใส่เรือไป ปะ๊ กไ็ มเ่ ปน็ อะไรแล้ว (ลกุ ข้ึนยืน) เออ เกา เด๋ียวกไู ป หาลิมา่ กอ่ นนะ เกากลบั บ้านไป ก่อนแลว้ กัน บีตก๊ั ลิมา่ อกี แล้ว เด๋ยี วนีเ้ กาน่ะ อะไรๆ กล็ ิมา่ ฮาติ กรู กั ลิม่า แล้วกอ็ ยากให้เกานะ่ รักลิมา่ ด้วย บตี ั๊ก ไม่เอานะ่ กูไมย่ อม กมู ีพช่ี าย คนเดียว เกาตอ้ งรกั กูคนเดียว Readers Theatre 157
ฝั่งซา้ ย ฝง่ั ขวา บีตั๊กวงิ่ ออกไป ไฟคอ่ ยๆ ดับลง ฉากท่ี 3 ฝั่งซา้ ย ฝ่ังขวา ไฟค่อยๆ สวา่ งขึ้น คอรสั 1 วง่ิ เหน่อื ยหอบเขา้ มา คอรสั 1 แยแ่ ล้วๆๆๆ บตี ั๊ก หายไป ใครกไ็ ดช้ ่วย ตามหาที คอรัส 2 (วิง่ ออกมา) บีตั๊กไปไหน คอรัส 1 หนีเขา้ ปา่ คอรสั 2 (ตะโกน) เข้าป่า ทำไมละ่ คอรัส 1 เขาน้อยใจฮาติ ทีก่ ำลงั จะไปขอลมิ ่า 158 ละครสรา้ งนักอา่ น
ฝง่ั ซ้าย ฝง่ั ขวา ไฟสว่างข้นึ คอรัส 2 กเ็ ขาหวงของเขานี่ Tableau Vivant เปน็ ภาพบตี ัก๊ คอรสั 1 ป่านนไ้ี มร่ เู้ ป็นไงบ้าง หลบอย่ใู นโพรงไม้ มะซงึ่ มี คอรสั 2 (พนมมือไหว)้ ขออย่าให้ วงแหวนอยู่รอบหัวซง่ึ ดเู หมอื น บตี ก๊ั เป็นอะไรไปเลย เป็นนางฟ้า ยืนอยู่บนปลายโพรงไม ้ มะจ๋า ช่วยตามหา มะ บตี ก๊ั ออกมาเถอะลูก บีตัก๊ ดว้ ยนะ บตี ั๊ก มะ มะจรงิ ๆ ด้วย (ร้องไห)้ คอรัส 1 มะ มะมาแลว้ ฮาตจิ ะทงิ้ กูไป ทุกคนจะทิ้งกู ไฟดับลง มะ ไม่มีใครท้ิงเกาไปหรอกลูก พเ่ี ขาโตเปน็ ผูใ้ หญ่ เขากต็ ้อง แต่งงาน พอเกาโต เกากต็ อ้ ง แตง่ งานเหมือนกนั แต่ถึงเขา จะแตง่ งานไป เขาก็ยังรกั เกา เหมือนเดมิ นะลกู บตี ๊ัก (โอบกอดมะ ร้องไห)้ มะ มะอยา่ ท้งิ กไู ปอกี นะ Readers Theatre 159
ฝ่ังซ้าย ฝ่งั ขวา มะ มะไม่เคยท้ิงเกานะลูก แค่เกาไมเ่ หน็ มะ ใช่วา่ มะจะไมอ่ ยดู่ ้วย มะอย่กู ับเกาตลอดเวลา และมะก็ยังรักเกาเหมอื นเดมิ แล้วกจ็ ะรกั ตลอดไป บตี ก๊ั รอ้ งไห้เสียงดงั กวา่ เดมิ จนทำให้ฮาติ และคนท่อี อกตามหาได้ยินเสียง (เสียงฮาติ) บตี ก๊ั บตี กั๊ มะแกะมือของบีตั๊กทโ่ี อบกอดอยู่ แล้วจากไปในความมืด บตี ๊กั (ตะโกน) มะ มะ ฮาติและคนอน่ื ๆ ว่ิงเข้ามา (คนละทางกับทีม่ ะจากไป) ฮาติ (ว่ิงเข้ามากอด) บีตกั๊ ๆ บีต๊ักจรงิ ๆ ด้วย บีตก๊ั ฮาติ ป๊ะ เมอ่ื ก.้ี .. ฮาต ิ (สวนทนั ควนั ) บตี ัก๊ กูสญั ญา วา่ กจู ะไมห่ ายไปไหน กูมีน้องคนเดยี ว ถึงกจู ะแตง่ งานไป แล้วตอ้ งไป อย่บู า้ นของลิม่า แต่กกู จ็ ะกลับ มาหาเกาบอ่ ยๆ บีตกั๊ (รอ้ งไห)้ กขู อโทษ 160 ละครสร้างนักอา่ น
ฝ่งั ซ้าย ฝ่ังขวา ทั้ง 3 คนกอดคอกนั ร้องไห ้ บตี ก๊ั (นึกขึ้นได้) เม่อื กกี้ ูเห็น มะ มะบอกกูวา่ มะไม่เคยจาก กูไปไหน มะอยู่กบั กู อยู่กับฮาติ อยู่กับปะ๊ ปะ๊ (ย้ิม) มะอยกู่ บั เราเสมอ บีตก๊ั ไฟค่อยๆ ดบั ลง ฉากที่ 4 ฝ่งั ซ้าย ฝ่ังขวา ไฟคอ่ ยๆ สวา่ งข้นึ คอรัส 1 ในเวลาตอ่ มา สมาชกิ ในครอบครวั ของบีต๊กั Readers Theatre 161
ฝ่ังซ้าย ฝัง่ ขวา ฮาติกบั บตี ๊ักก็เลยพาไป กเ็ พิ่มขน้ึ ฮาตกิ ับลิม่า โรงพยาบาลทใี่ นเมอื ง มีลูกสาวช่อื วา่ ยาโก๊ะ ฮาติประคองปะ๊ เข้ามานอนในเวท ี แปลว่าฝกั ขา้ วโพด ก็ยายหนนู ะ่ ทั้งอว้ นทงั้ กลมเหมอื นข้าวโพดเลย ชว่ งน้ีฮาตกิ เ็ ลยเหนอ่ื ย หน่อย ดูแลท้ังเมีย ท้งั ลูก แล้วกด็ แู ลปะ๊ เพราะช่วงน้ีป๊ะไม่ คอ่ ยสบาย คอรสั 2 วง่ิ เข้ามา คอรสั 2 แยแ่ ล้วๆ คอรสั 1 อะไรแย่ คอรัส 2 กป็ ะ๊ นะ่ สิ อ้วกใหญ่เลย คอรัส 1 แล้วหมอวา่ ไงบ้าง คอรสั 2 หมอบอกวา่ ป๊ะเป็น มะเร็งท่ีกระเพาะอาหาร ระยะสดุ ท้าย คอรสั 1 นน่ั ไง ปะ๊ กลับมาแลว้ คอรัส 2 ป๊ะผอมมากเลย คอรัส 1 ผมปะ๊ ขาวโพลนไปหมด 162 ละครสรา้ งนักอา่ น
ฝัง่ ซ้าย ฝง่ั ขวา ปะ๊ (จับมือบตี ๊ัก) ป๊ะอยากดทู ะเล คอรสั 2 ดปู ะ๊ เจ็บปวดและ เวลาไดย้ ินเสียงคล่นื แล้วปะ๊ ทรมานมาก สบายใจ เมอื่ กลางวัน คอรสั 1 บางคร้ังปะ๊ กร็ อ้ งไห้ มะมารับปะ๊ แตป่ ๊ะขอรอ คอรัส 2 (บีต๊กั ว่ิงเข้ามา) วันนี้พอ บตี ั๊กกลับจากโรงเรียนกอ่ น บีตั๊กกลับมาจากโรงเรียน เวลาป๊ะไม่อยู่ บตี ๊ักต้องเชอ่ื ฟัง บตี ๊กั ไมเ่ ห็นป๊ะบนเตียง ฮาตนิ ะลกู (มองไปทางทอ้ งฟา้ ) จงึ ตกใจมาก มะมาแลว้ มะมารับปะ๊ ไปอยู่ด้วย คอรัส 1 แล้วบีต๊ักกพ็ บวา่ อยา่ กลัวไปเลยลกู ป๊ะกับมะไมไ่ ด้ คอรัส 2 ปะ๊ นอนอยูบ่ นเสือ่ ท่ี จากไปไหน จะอย่ใู กลๆ้ เสมอ รมิ หาด โดยมฮี าติ (มือป๊ะร่วงลง) กบั ลมิ า่ น่งั อยใู่ กล้ๆ บีตั๊ก ปะ๊ ปะ๊ ปะ๊ ไฟคอ่ ยๆ ดบั ลง ไฟค่อยๆ ดบั ลง Readers Theatre 163
ฉากท่ี 5 ฝงั่ ซา้ ย ฝ่งั ขวา ไฟค่อยๆ สวา่ งข้ึน บตี ก๊ั กับฮาตยิ นื ร้องไห้ในงานศพ คอรัส 1 และ 2 เดินจากฝั่งขวามา ฝั่งซา้ ย เพอื่ เป็นสว่ นหน่ึงของแขก ในงานศพ คอรัส 1 ในงานศพ มคี นมาช่วย อาบน้ำใหป้ ๊ะ แล้วสวม เสอื้ ผา้ ใหป้ ะ๊ คอรสั 2 (ทำท่าผกู ผ้าขาวห่อศพ) ก่อนใชผ้ า้ ขาวห่อตัวปะ๊ (ทำท่าแบกศพลงโลง) แลว้ ช่วยกันอมุ้ ร่างของป๊ะ ลงไปนอนในโลง ฮาต ิ (หยิบพร้าใสล่ งไปในโลง) น่พี ร้าของป๊ะนะ ที่ป๊ะชอบ 164 ละครสร้างนักอา่ น
ฝ่งั ซา้ ย ฝง่ั ขวา ใช้มนั ทำทุกอย่างไง (กอดนอ้ ง) บีตั๊ก เดีย๋ วเรา ไปขุดหลุมให้ป๊ะอยู่ใกล้ กับมะ แลว้ จะขุดให้ปะ๊ อยู่ สบายที่สุดเลย ปะ๊ ลำบาก มามากแล้ว ตอนนป้ี ๊ะคง สบายทีไ่ ดน้ อนใกล้ทะเลอกี ฮาติกับบีตัก๊ ช่วยกนั ขดุ หลุม Sound เพลงพนื้ ถ่นิ เศรา้ ๆ คอรสั 1 คนทม่ี ารว่ มงานช่วยกนั นำ ทรายกลบหลุมปะ๊ (กำทราย โยนลงหลมุ 1 กำมือ) คอรสั 2 แลว้ โตะ๊ ชาม่ากเ็ อาน้ำ มะพร้าวเทลงในหลุม คอรสั 1 พอปลงศพเสรจ็ ทุกคนจะ เอาน้ำในกะละมังลา้ งมือ (เอานำ้ ลา้ งมือ) ลา้ งเทา้ (เอานำ้ ล้างเทา้ ) เพ่ือไมใ่ หป้ ๊ะ ตามเขาไป คอรสั 2 แตบ่ ตี ั๊กกับฮาตไิ มท่ ำ เพราะพวกเขาอยากเจอป๊ะ ไม่วา่ จะยามตายหรอื ยามเป็น บตี ๊กั กูรูส้ ึกเหมือนคล่นื ในทะเล Readers Theatre 165
ฝ่ังซา้ ย ฝัง่ ขวา มนั หายไป (แหงนดูท้องฟา้ ) แตก่ ูสญั ญาว่ากูจะเข้มแขง็ กูจะเปน็ หนึง่ เดยี วกบั ผนื ฟ้า และทอ้ งทะเล และพร้อมจะ เผชญิ กบั การเปลย่ี นแปลง แห่งวถิ ีชีวิตอยา่ ง ลกู อูรักลาโว้ย ไฟคอ่ ยๆ ดับลง คอรัส 1 และ 2 เดนิ ยา้ ยไปเวทีฝงั่ ขวา ไฟคอ่ ยๆ สว่างขน้ึ คอรัส 1 ต่อมาไมน่ านบีต๊กั ก็ กลับมาเขม้ แขง็ คอรัส 2 บตี ั๊กไม่ออ่ นแรง แม้เหน่ือยลา้ คอรสั 1 บตี ก๊ั รู้ บตี ๊ักสู้ ทุกเวลา คอรัส 2 บตี ั๊กพร้อมกา้ วไปขา้ งหนา้ เพ่ือเผชญิ คอรสั 1 และนคี่ ือเรือ่ งราวของบตี ัก๊ คอรสั 2 ดวงดาวทีม่ ีมะอยบู่ นฟา้ คอรัส 1 ท่มี ปี ะ๊ อยู่ในนำ้ คอรัส 2 แล้วก็มีบตี ๊ักอยูต่ รงกลาง ระหว่างคนทั้งสอง 166 ละครสรา้ งนักอา่ น
ฝง่ั ซา้ ย ฝั่งขวา พรอ้ มกนั (มองไปท่บี ีตกั๊ ทางด้านซา้ ย ของเวที) และนคี่ ือบตี ั๊ก ลูกอูรักลาโว้ย ดนตรีพ้ืนถิ่นบรรเลงคลอเบาๆ ไฟคอ่ ยๆ ดับลง โดย กสุ มุ า เทพรกั ษ์ Readers Theatre 167
¾Åѧ ¢Í§ º·¡ÇÕ คริสตี้ พอร์ตเตอร์ ใช้เวลาช่วงหนึ่งเพื่อยกกล่องแคนตาลูปเป็นลังๆ นำไปแจกให้ กบั ครอบครวั คนงานรอ่ นเรท่ ร่ี บั จา้ งทำไร ่ ในหบุ เขาโคชเชลลาทางตอนใตข้ องแคลฟิ อรเ์ นยี เห็นไดช้ ัดวา่ เปน็ งานหนกั ผอู้ ำนวยการองคก์ รการกศุ ลวยั 48 เดินกะโผลกกะเผลกเพราะ ขอ้ เข่าอักเสบและต้องรบั น้ำหนักมากเกนิ แขนของเธอมรี อยแมงมุมกัดเปน็ จุดๆ และขา ของเธอก็มรี อยเปอ้ื นคราบนำ้ มนั จากการพยายามซ่อมรถยกของดว้ ยตวั เอง แม้จะทุลักทุเลแต่พอร์ตเตอร์ก็ไม่มีท่าทางสะทกสะท้าน เสมือนเรือท่ีล่องไปบน ลำน้ำท่ีมีฝูงจระเข้รังควานในบึงเอฟเวอร์เกด เธอขับเรือเร็วกว่าคนอ่ืนๆ เสียด้วยซ้ำ เพราะอะไรหรอื ? ไมใ่ ชเ่ พราะฝกึ สมาธทิ กุ วนั หรอื กนิ ยากระตนุ้ ประสาทใดๆ แตเ่ พราะบทกว ี ภาพและทว่ งทำนองของบทกวที ม่ี อี ยใู่ นใจของเธอ ไดเ้ ปลย่ี นสง่ิ ทร่ี ายลอ้ มรอบตวั เธอทกุ วนั ใหด้ เู ป็นสง่ิ ใหมแ่ ละสดใส อณุ หภมู ริ อบๆ สงู ถงึ 120 องศา แต่กแ็ นน่ อนว่ามไิ ดโ้ หดรา้ ยขนาดจะเผาโลกได้ ดังที่เจอร์ราด แมนลี ฮ็อพกินส์ กล่าวไว้ “เพียงแสงย้อนสะท้อนกลับ เม่ือขยับส่ัน แผ่นฟอยล”์ จริงอยู่ บางคร้ังเธอก็พักหลบแดดท่ีใต้บันไดของโกดังเก็บของข้างทาง แต่ก็น่า ประหลาดเม่ือเธอนึกถึงบทกวีของเอมิลี ดิกสัน ท่ีว่า “คนที่หลบซ่อนตนบนทุ่งหญ้า” 168 ละครสร้างนักอา่ น
เธอถามว่า “คุณรู้จักแผ่นกรองแสงท่ีช่างภาพใช้เวลาท่ีแสงจ้าเกินไปไหม?”แล้วเธอก็ ถอดหมวกฟาง สะบดั ผมสบี ลอนดพ์ รอ้ มกบั บอกวา่ “บทกวกี เ็ ปน็ แบบนน้ั แหละสำหรบั ฉนั ” อันที่จริงมีการใช้บทกวีเพื่อการรักษามานานแล้ว เพราะบทกวีมีลักษณะพิเศษที่ สามารถช่วยปลอบและบรรเทาให้สบายใจได้ เชน่ เดยี วกบั บทสวดมนตแ์ ละเพลงของพวก อินเดียนแดงเผ่าอิโรควอย เม่ือต้องเผชิญกับความเศร้าหลังจากสูญเสียคนที่รักไปก็จะใช้ คาถาปลอบใจตัวเองท่องซำ้ ไปซำ้ มา ในอียิปตโ์ บราณเยียวยาโดยการเขียนโคลงกลอนลง บนแผ่นกก แล้วนำไปต้มละลายน้ำเพ่ือนำมาด่มื ทกุ วนั นม้ี กี ารนำเอาบทกวมี าใชใ้ นการรกั ษาทางการแพทยบ์ า้ งแลว้ ราฟาเอล แคมโป หมอท่ีรักษาดว้ ยบทกวีทฮ่ี าวาร์ด ผู้เขยี น “ศิลปะในการรกั ษา : กระเป๋ายาของหมอบทกวี” ซ่ึงช้ีให้เห็นว่าการอา่ น เขียน หรือทอ่ งบทกวสี ามารถบำบัดโรคได้ ในทางปฏิบตั เิ ขามกั จะ แนบแผ่นท่ีบรรจุข้อความของบทกวีไปพร้อมกับใบส่ังยาและแผ่นพับอื่นๆ ท่ีเขามอบให้ คนไข้ แคมโปเชื่อว่า บทกวีสามารถช่วยให้คนไข้มองความเจ็บป่วยในทางที่แตกต่าง (ตามทฤษฎแี ผ่นกรองแสงของช่างภาพ) และจะช่วยใหพ้ วกเขาอยตู่ อ่ ไปอย่างราบรน่ื ท่าม กลางชวี ติ ที่ถกู แมงมมุ กัดหรอื รถยกของเสีย ขณะทเ่ี ขาแนใ่ จวา่ บทกวีมีผลดีตอ่ คน แตเ่ ขาก็ไม่สามารถบอกคุณไดช้ ัดๆ ว่าทำไม “เราเพ่ิงอยู่ในขั้นเร่ิมต้นในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับกลไกการทำงานที่อาจเป็นไปได้” เขาบอก “แต่บทกวีน่าจะส่งผลต่อคนโดยเร่ิมจากระดับของเซลล์ประสาทในก้านสมอง เม่ือคนไข้อ่านหรือทอ่ งบทกวี พบวา่ จังหวะการเต้นของหวั ใจและความถใ่ี นการหายใจดี ขึ้น” อนั ที่จรงิ ผลการวจิ ัยน้ตี ีพิมพใ์ นวารสารวชิ าการโรคหัวใจนานาชาติ ที่แสดงให้เหน็ ว่า เม่ือกลุ่มอาสาสมัครอ่านบทกวีด้วยการออกเสียงเป็นเวลา 30 นาที อัตราการเต้น ของชพี จรจะต่ำลง มากกวา่ กลมุ่ ควบคุมทเี่ ขา้ รว่ มในวงสนทนาโดยไมไ่ ดอ้ ่านบทกวี อุปสรรคท่ีแคมโปพบก็คือ การทำให้คนไข้ผ่านพ้นช่วง “หวาดผวาด้วยการเงียบ” ซ่ึงบทกวีกระตุ้นได้ในบางคน “คนไข้จำนวนมากขยาดบทกวีตั้งแต่ตอนเรียนในโรงเรียน” เขาบอก “แต่มันเป็นรูปแบบการใช้คำในระดับพ้ืนฐานที่สุดที่เรามี และบทกวีก็มิใช่สิ่ง แปลกปลอมอะไรเลย” Readers Theatre 169
เปน็ ไปไดท้ จี่ ะพิชิตโรคขยาดบทกวใี นทกุ กลุ่มอายุ แตป่ ระสบการณ์ด้านบวกที่มตี ่อ ศิลปะในรูปแบบน้ีมาต้ังแต่วัยเยาว์มีส่วนช่วยได้มาก แคมโปจำได้ว่าคุณพ่อของเขาอ่าน บทกวีทีเ่ กย่ี วกบั การรกั ชาติของโจเซ มารต์ ี ใหเ้ ขาฟงั ดว้ ยภาษาสเปนตอนเขาอายุ 3 ขวบ “มนั ให้ความรูส้ ึกทีน่ ุ่มนวล เหมือนเพลงกล่อมเดก็ ” เขาบอก พอรต์ เตอรก์ เ็ ชน่ กนั ทโ่ี ชคดหี ลงใหลบทกวมี านานโดยไมเ่ คยกลวั เธอเตบิ โตทเี่ หมอื ง ถ่านหินในเคนตั๊กกี้ ตอนอายุ 5 ขวบเธอสนใจหนังสือคำกลอนสำหรับเด็กเรื่อง “บ้านและสวนท่ีดีกว่า” คณุ พอ่ ของเธอเป็นคนงานเหมืองถ่านหนิ ทม่ี กี ารศกึ ษาระดบั เกรด 3 และชอบให้เธอท่องบทกวีให้ฟัง ท้ังพ่อลูกรู้สึกต่ืนเต้นขนลุกและจดจ่ออยากรู้เม่ือ อ่าน “โจรข้างทาง” ของอัลเฟรด โนอีส และประโยคที่จำฝังใจใคร่รู้ เช่น “โอ้จันทรา ด่งั นาวาอันน่ากลวั ” “ฉนั ไมร่ ดู้ ว้ ยซำ้ วา่ นาวา คอื อะไร” พอรต์ เตอรย์ อ้ นนกึ ถงึ วยั เดก็ “ฉนั คน้ หาคำนี้ ออ๋ มันเปน็ คนื ทม่ี ืดและมีฝนฟา้ คะนอง และพระจันทรก์ ็เปรยี บเหมอื นเรือที่ทอ่ งไปบนทอ้ งฟา้ เมอื่ คณุ ยงั เด็กนน่ั เปน็ เรอื่ งทน่ี ่าตน่ื เต้นมาก คุณจะเร่ิมคิดว่าน่ีเป็นวธิ ีบรรยายทีแ่ นบเนียน มใิ ชห่ รอื ?” พอรต์ เตอรไ์ มจ่ ำเปน็ ตอ้ งเขา้ ใจตวั บทกวที ง้ั หมดเพอ่ื ทจ่ี ะรกั เสยี งและพลงั ของบทกวี มักมีผู้แคลงใจและเช่ือว่าการซาบซ้ึงในบทกวีน้ันต้องแปลความหมายของเนื้อหาที่ไม ่ ชดั เจนน้ันใหอ้ อก แท้จรงิ แล้วอทิ ธพิ ลของบทกวีข้นึ อยกู่ ับองค์ประกอบของการสร้างภาพ และจงั หวะแบบงา่ ยๆ “เนอ้ื หาไมใ่ ชส่ ง่ิ สำคญั มากเสมอไป” แคมโปกลา่ ววา่ “บทกวสี ามารถ เข้าไปในตัวเราได้โดยผ่านทางความรู้สึกลึกๆ ภายใน ซึ่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับกระบวนการรับรู้ ด้วยเหตผุ ล” เมอ่ื เราอา่ นบทประพนั ธข์ องยที สแ์ ละรสู้ กึ แนน่ หนา้ อกขนึ้ มาทนั ที บทกวกี ำลงั เลยี่ ง การใชจ้ ติ ในการวเิ คราะหข์ องเราและกระทำตอ่ รา่ งกายโดยตรง “บทกวที ดี่ เี พยี งมาแผดรอ้ ง ในตัวคณุ เทา่ นัน้ ” พอรต์ เตอรบ์ อก มสี งิ่ หนงึ่ เกดิ ขน้ึ กบั พอรต์ เตอรต์ อนเธอยา่ งเขา้ สวู่ ยั รนุ่ และบทกวที เ่ี คยตรงึ ใจเธอใน วัยเดก็ ก็เร่มิ มีบทบาทมากขึน้ ในชีวติ ของเธอ คุณพอ่ เรม่ิ ดื่มหนักและพอ่ แม่ก็หย่ารา้ ง ชีวติ ของพอรต์ เตอรเ์ หมอื นด่งิ พรวดลงทนั ที 170 ละครสรา้ งนักอา่ น
ครูท่ีสอนเธอในระดบั เกรด 7 คงจะสงั เกตเหน็ ความต้องการในปญั หาของเด็กสาว จงึ ไดน้ ำเอาสำเนาเรอื่ ง “ฤดใู บไมผ้ ลแิ ละฤดใู บไมร้ ว่ ง : ถงึ เดก็ วยั เยาว”์ ของเจอรร์ าด แมนลี ฮ็อพกินส์ เข้ามาแจกในช้ันเรียน พอร์ตเตอร์กลับคืนสู่สภาพเดิมอีกครั้งจากข้อความท่ี เกยี่ วกบั ความสญู เสยี ในบทกวี (“มารก์ าเรต็ เธอเศรา้ โศกฤาไฉน อยากยอ้ นใหโ้ กลเดน้ โกรฟ ไม่จากไป?”) เธอคลอ้ ยตามร่วมไปกับความเศรา้ เช่นเดียวกับความรูส้ กึ ของตัวละคร และ ประหลาดใจว่าตัวเองรู้ซึ้งถึงสิ่งท่ีกวีต้องการสื่อจริงๆ มาร์กาเร็ตช่างไร้เหตุผลท่ีร้องไห้ ฟมู ฟาย ในเม่อื ใบไม้ทรี่ ว่ งหล่นไปยงั มใี บใหม่ๆ อีกมากมายทกี่ ำลงั จะผลิใหมต่ ามมา ตอนท่ีเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยพอร์ตเตอร์ก็ย่ิงลุ่มหลงในบทกวี เธอท้ิงแบบเรียน ทง้ั หมดของเธอหนั มาสนใจแตห่ นงั สอื ของเดนสี เลเวทอฟ และของกวคี นอน่ื ๆ “เลเวทอฟ คิดว่าบทกวีเป็นเสมือนบทสวดมนต์ตอนเช้า และบทกวีก็เร่ิมทำให้ฉันรู้สึกเช่นน้นั ด้วย” เธอว่า “บทกวีเป็นเพียงส่งิ ท่คี นธรรมดาซ่งึ ขณะหน่งึ เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งเขียนข้นึ บทกวี ท่ีดีจะส่งผ่านความเข้าใจที่แจ่มแจ้งนน้ั มาใหค้ ุณ” ทุกวันน้ีเพื่อนร่วมงานที่บางคร้ังเห็นใบประวัติของพอร์ตเตอร์ก็ล้อเกี่ยวกับชีวิตใน มหาวทิ ยาลยั ของเธอทใี่ ชไ้ ปกับการเรียนบทกวี “อะ๊ ” พวกเขาทำเสียงแปร๋น “บทกวี ให ้ อะไรดๆี กับเธอมากเลยหรือ?” ใช่ ใหม้ ากจริงๆ อย่างเช่นครั้งหน่ึงเม่ือพอร์ตเตอร์ติดค้างอยู่ท่ีสนามบินโอแฮร์ในชิคาโกเพราะมี พายหุ มิ ะ เธอกำลงั จะไปเยย่ี มคณุ พอ่ ซง่ึ ปว่ ยดว้ ยโรคปอดตดิ เชอ้ื และกำลงั จะจากไป เธอนกึ ถงึ บทกวีของเอมลิ ี ดกิ สนั ทวี่ า่ “ใหน้ ่งิ เฉยสู่สงบของชีวติ ไมม่ ีแลว้ รงุ่ อรุณของพรุ่งนี้” ใน สนามบินที่อลหม่านและรายรอบด้วยผู้โดยสารท่ีตกค้าง เธอกลับรู้สึกถึงความน่ิงสงบ จากการปลอบประโลมของบทกวี “บทกวที ำให้ฉันสงบ” พอร์ตเตอรพ์ ูด “ฉนั รู้ว่าควรคาดหวังอะไร เพราะฉนั เชือ่ ม่ัน ในตัวเอมิลี ดิกสนั จรงิ ๆ เธอเคยถูกมาแล้วหลายคร้ังก่อนหน้าน”ี้ เดี๋ยวนี้พอร์ตเตอร์จะเก็บบทกวีไว้ใกล้ๆ มือ เช่น บทกวีของเวนเดล เบอร์รี วางไว้ที่หิ้งในโกดังเก็บของ และรวมผลงาน 101 บทกวีคัดสรรเก็บไว้ที่ใต้เบาะในรถส่ง ของคนั เกา่ ๆ ของเธอ Readers Theatre 171
แต่บทกวีส่วนใหญ่อยู่ในตัวเธอ “มีบทกวีที่มักถูกเขียนซ้ำไปซ้ำมาในหัวของฉันเสมอ” เธอบอก “บทกวีจะกลับมาหาฉันได้ทันทีเหมือนบทสวด แค่รู้สึกว่ามีบทกวีอยู่ด้วย ฉันก็ รสู้ กึ สบายใจแลว้ ” สร้างความคนุ้ เคยกับบทกวี สำหรบั พวกเราสว่ นใหญแ่ ลว้ บทกวมี กั เปน็ สง่ิ ทเ่ี ราทง้ิ ไปตง้ั แตเ่ รยี นจบจากโรงเรยี น หรือมหาวิทยาลัย ต่อไปน้ีเป็นวิธีง่ายๆ ที่จะนำเอาบทกวีกลับเข้ามาในชีวิตเราอีกคร้ัง ย้อนความจำหาจุดเริม่ ตน้ พยายามนกึ ถงึ สงิ่ ทคี่ ุณเคยชอบอา่ นตอนเดก็ อะไรกไ็ ด ้ เชน่ กลอนของมาเธอร์กสู เชล ซิลเวอร์สเทน บทสวดมนต์ หรือเพลงกล่อมเด็ก จังหวะทำนองท่ีจะนำเอาวัยเด็ก ของคณุ กลับมาหาคณุ ไดใ้ นตอนนี้ คุณจะรู้สึกถึงความแจ่มใส ความอบอนุ่ แหง่ วยั เยาว์ อ่านด้วยหู บทกวีเข้าถึงเราได้โดยผ่านทางหูมากกว่าด้วยสายตา สร้างประสบการณ์น้ีได้ด้วย การเขา้ ฟังการอ่านบทกวี ฟังจากเทปหรือซดี ีทีผ่ ู้ประพนั ธอ์ า่ นบทกวีของตัวเองหรือผมู้ ีน้ำ เสยี งงดงามอา่ น หรอื ตามทเ่ี ดนสี เลเวทอฟ เคยแนะนำไวค้ รงั้ หนง่ึ วา่ เขา้ ไปในหอ้ งนำ้ และ อา่ นบทกวีดว้ ยเสยี งดงั ๆ ด้วยตวั เอง หาสง่ิ ทเี่ หมาะกบั คณุ “มบี ทกวสี ำหรบั ทกุ คน เชน่ เดยี วกบั มเี พลงสำหรบั ทกุ คน” ครสิ ต ้ี พอรต์ เตอร ์ บอกไว ้ อยา่ ลม้ เลกิ เพราะคณุ เกลยี ดฮอ็ พกนิ ส ์ หรอื ไมช่ อบเลเวทอฟ ถา้ ใชภ้ าษาทเี่ ขา้ ใจยากไมเ่ หมาะ กับคุณ ก็ลองหาบทกวีทใ่ี ช้ภาษาพูดง่ายๆ อย่างของแมร่ี โอลิเวอร์ หรือ บิลล่ี คอลลินส์ ครูกวีของสหรฐั ในอดตี จำใหข้ ึน้ ใจไวส้ ักบท ไม่มีอะไรจะเหมาะสมไปกว่าการมีบทกวีดีๆ สักบทบันทึกไว้ในสมองของคุณ 172 ละครสรา้ งนักอา่ น
ให้พร้อมจะใช้งานได้ทันที ใช้ช่วงที่คุณรู้สึกผ่อนคลาย เช่น ตอนไปเดินเล่นหรือไต่เขา จำบทกวีสักบทหรือไม่กี่บรรทัดจากบทกวี บทกวีที่จำข้ึนใจคือ “เครื่องรางวิเศษ” ดังที่ ราฟาเอล แคมโปกล่าวไว้ “ปัดเป†าความฟ‡ุงซ่านที่มากระทบขณะที่คุณกำลังบินอยู่บน เคร่ือง หรือใช้ท่องออกเสียงขณะที่คุณฝึกโยคะในห้องนั่งเล่น” เขยี นขึน้ มาด้วยตัวเอง คณุ ไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งเขยี นบทกวใี นฐานะเปน็ รปู แบบงานศลิ ปะวรรณกรรมทม่ี ฉี นั ทลกั ษณ์ แตถ่ า้ คณุ ทำไดก้ ล็ องเขยี นด ู แคมโปแนะนำใหอ้ า่ นหนงั สอื พวกน ้ี คอื การแพทยบ์ ทกวี และ ศลิ ปะการรกั ษาโรคดว้ ยการเขียนบทกวขี องจอหน์ ฟอกซ์ และการเขยี นในฐานะวิธีแหง่ การรักษาโรคของหลยุ ส์ เดอ ซาลโว จาก Alternative Medicine Magazine (December 2006) Readers Theatre 173
174 ละครสร้างนักอา่ น
»ÅØ¡¡ÒÃ͋ҹ- ¼‹Ò¹ÅÕÅÒÅФà : ÊÃÒŒ §àÊÃÔÁ¹Ñ¡Ê×Íè ÊÒà ÃÑ¡¡ÒÃ͋ҹ
“...ขอบคุณผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกท่านท่ีสะท้อนเสียงแห่งความสุข ความพึงพอใจ ในการเข้าร่วมสัมมนา ท้ังยังให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์สำหรับสร้างสรรค์พันธกิจ การอ่านสำหรับเด็กและเยาวชนร่วมกันให้เกิดผลภาพย่ิงๆ ขึ้นต่อไป เหนืออ่ืนใด ขอขอบคุณเด็กๆ และหนงั สือดีทุกเลม่ เพราะโลกนีม้ ีชวี ติ ที่เบกิ บานของเดก็ และมสี ิง่ ทจี่ ะ ทำใหช้ ีวติ นน้ั เบิกบานสูส่ งิ่ ทด่ี ีงามยิง่ ขึ้น คอื หนังสือ...” (ถริ นันท์ อนวชั ศิริวงศ์ และคณะวิทยากร) หนังสือ มีบทบาทสำคัญต่อการเสริมสร้าง พัฒนาการของเด็กและเยาวชนในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะ อย่างยิ่งด้านจิตใจโดยรวม ซ่ึงจะเช่ือมโยงกับการเจริญ เตบิ โตทางกาย การอา่ นหนงั สอื ไมว่ า่ รปู แบบใดๆ ดว้ ยความ เพลิดเพลินจะมีผลต่อการจัดระเบียบทางความคิดของ เด็กและเยาวชน แต่การท่ีจะเปิดประตูสู่กระบวนการอ่านหนังสือ รักการอ่าน เพื่อกระตุ้นให้เด็กเกิดความต้องการอ่าน หนังสือ เกิดพฤติกรรมการอ่าน มีหนังสือเป็นเพ่ือน มีการอา่ นเปน็ ชีวติ จติ ใจ ประการหนึ่งทจี่ ำเปน็ คือ จะตอ้ ง ส่งเสริมบทบาทของผู้ที่มีบทบาทต่อการเรียนรู้ของเด็ก ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ พี่เลี้ยงเด็ก ครู นักการศึกษาและ 176 ละครสร้างนักอา่ น
นักกิจกรรมส่งเสริมการอ่านของห้องสมุดและชุมชน ท่ีสามารถส่ือสารกับเด็ก เพื่อ โนม้ นำให้เด็กเกดิ อุปนสิ ัยรกั การอา่ น มกี ารอา่ นเปน็ กลั ยาณมติ ร “เรา” เช่ือในพลังของละคร และเชื่อว่าการปลุกการอ่านหนังสือด้วยวิธีการของ การละคร จะมพี ลงั เปน็ ทวใี นการสรา้ งกระบวนการลกู โซข่ องการอา่ นทเ่ี ชอ่ื มโยงไปเรอื่ ยๆ และแผข่ ยายเปน็ ตาขา่ ยในสังคม “ปลุกการอ่าน-ผ่านลีลาละคร” จึงก่อรูปข้ึนเป็นโครงการวิจัยปฏิบัติการเชิง สรา้ งสรรค์ (Creative Action Research) เรอื่ ง การสรา้ งเสรมิ นกั สอ่ื สารรกั การอา่ น เพอ่ื ขบั เคลอ่ื นยุทธศาสตรร์ ณรงค์สรา้ ง “พฤติกรรมการอ่าน” โดยการสนับสนุนจากแผนงาน สอ่ื สรา้ งสขุ ภาวะเยาวชน (สสย.) สำนกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.) ให้การสมั มนาเชิงปฏบิ ตั ิการเป็นรูปแบบการจัดกจิ กรรม กรอบแนวคิดที่สำคัญคือ การนำความรู้ด้านการสื่อสารการแสดง (Performing Art) ไปสร้างเสริมศักยภาพของบุคลากร/องค์กรในการขับเคล่ือนพฤติกรรมการอ่านของ เด็กและเยาวชน เราประมวลความรู้ทเ่ี รยี กวา่ เทคนิค “รดี เดอร์ส เธียเตอร์” อันเปน็ ศิลปะการละคร เพอื่ สง่ เสรมิ การอา่ นมาสรา้ งสรรคเ์ ปน็ กจิ กรรม ดว้ ยความหวงั วา่ จะเปน็ กศุ โลบายทด่ี งึ ดดู ใจและก่อให้เกิดความอ่ิมเอมใจจากการเชื่อมโยงหนังสือกับเด็กและเยาวชนด้วยศิลปะ การละครอยา่ งง่ายๆ มาจดั อบรมสัมมนาเชงิ ปฏิบัติการให้แกผ่ ใู้ หญ่เพื่อทำหนา้ ทส่ี อ่ื สารสู่ เดก็ นำเดก็ ใหส้ พู่ ฤติกรรมการอ่าน เป็นการส่งเสริมบทบาทของครูพ่ีเล้ยี งเดก็ เจ้าหน้าท่ ี สง่ เสรมิ การศกึ ษาของ อบต. เทศบาล ครอู าจารยร์ ะดบั ประถม-มธั ยมศกึ ษา และบคุ ลากร ของห้องสมุดทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ที่จะทำหน้าท่ีเป็นอาสาสมัครรัก การอ่าน ให้สามารถนำเขา้ ไปเสริมกระบวนการกจิ กรรมส่งเสรมิ การอา่ นได้ การสัมมนาปฏิบัติการเชิงสร้างสรรค์เทคนิค “รีดเดอร์ส เธียเตอร์ : การละคร ของนักอ่าน” เกิดข้ึนด้วยความร่วมมือจากหลายหน่วยงานซ่ึงส่งข่าวให้บุคลากรมาเข้า รว่ มการสมั มนาฯ รวมถงึ การเผยแพรผ่ า่ นสอ่ื ตา่ งๆ ทำใหม้ บี คุ ลากรจากทกุ ภมู ภิ าคเขา้ รว่ ม การสัมมนาเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร Readers Theatre 177
วัตถุประสงค์ในการจัดสัมมนาปฏิบัติการเชิงสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมนักส่ือสารรัก การอ่าน เพอ่ื ใหผ้ ู้เขา้ สมั มนารจู้ ักเลือกหนงั สือทดี่ ีเหมาะกบั เดก็ แตล่ ะวัย ร้จู กั เทคนิคการ แสดงแบบงา่ ยๆ โดยใชศ้ ลิ ปะการแสดง เชน่ การทำเสยี ง หรอื ทำหนุ่ เปน็ อปุ กรณป์ ระกอบ การแสดง และนำไปประยกุ ตใ์ ชก้ ับการทำงานของตน ในกรณที ท่ี ำงานกบั เดก็ เลก็ กน็ ำไป ประยุกต์ใช้ ครูก็นำไปใช้ในการสอนปกติในช้ันเรียนได้ ห้องสมุดก็นำไปใช้เป็นส่วนหน่ึง ของการจดั กจิ กรรมได้ การสัมมนาฯ จัดข้ึน 2 รุ่น รุ่นแรกวันท่ี 2-4 เมษายน 2551 ณ สวนเงินมีมา กรงุ เทพมหานคร จำนวนผเู้ ขา้ สมั มนา 60 ราย และร่นุ ที่ 2 วนั ที่ 28-30 เมษายน 2551 ณ ห้องประชุมสภาเทศบาล จ.ฉะเชิงเทรา จำนวนผู้เข้าสัมมนา 63 ราย ใช้เวลา ในการอบรมรุ่นละ 3 วัน
¼Ùเ้ ขา้ สัมมนามาจากäหน ผู้เขา้ สมั มนามาจาก 15 จังหวัด* มีทงั้ จากองค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น คอื อบต. เทศบาล และกรงุ เทพมหานคร และจากโรงเรยี นทงั้ ของรฐั และเอกชน ศนู ยก์ ารศกึ ษานอก ระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั (กศน.) มหาวิทยาลยั และภาคประชาสังคม ทั้ง 2 รนุ่ รวม 123 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (ร้อยละ 94) มีอาชพี คร/ู อาจารย์/ พี่เลี้ยงเด็ก และเจ้าหน้าท่ีห้องสมุด/บรรณารักษ์ ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน (ร้อยละ 48 และร้อยละ 47 ตามลำดับ) ที่เหลือเป็นนักวิชาการศึกษา เจ้าหน้าท่ีพัฒนาชุมชน และเจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชน ในสังกัดของ อบต. และนักกิจกรรมชุมชนจากภาค ประชาสังคม ครูท่ีเข้าสัมมนาฯ ส่วนใหญ่เป็นครูท่ีสอนในระดับประถมศึกษา-มัธยมศึกษา (ประมาณ 3 ใน 4 ของกลมุ่ คร)ู และสว่ นใหญเ่ ปน็ ครสู อนวชิ าภาษาไทย และครบู รรณารกั ษ ์ สว่ นครทู ีส่ อนวชิ าอ่ืนๆ เชน่ สงั คมศึกษา นาฏศิลป ์ หรือภาษาองั กฤษ จะมีหนา้ ทช่ี ว่ ยดูแล หอ้ งสมุดของโรงเรียนดว้ ย สำหรับครทู ่สี อนในระดับปฐมวยั หรอื ครูพเ่ี ลย้ี ง ซงึ่ มปี ระมาณ 1 ใน 4 ของกลมุ่ ครู เปน็ บุคลากรทีท่ าง อบต. จัดส่งเขา้ รับการอบรม ครูปฐมวัยหรือครูพ่ีเลี้ยงเด็ก เป็นครูจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในสังกัดของ อบต. อาจเปน็ ไปไดว้ า่ โรงเรยี นในสงั กดั ของ อบต. คอื ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ โรงเรยี นในระดบั ทส่ี งู ขน้ึ (ประถมศึกษา-มัธยมศึกษา) ยังไม่ได้โอนเข้ามาอยู่ในสังกัดของ อบต. และ/หรือ อบต. ให้ความสำคญั กับระดบั ปฐมวยั มาก ประกอบกบั ขาดบุคลากรทจี่ ะดแู ลงานดา้ นการศึกษา โดยตรง จึงให้อยู่ในความรับผิดชอบของครู ส่วนบุคลากรจากเทศบาล ท่ีเข้าสัมมนาฯ มีทั้งเจ้าหน้าท่ีด้านการศึกษาของเทศบาลท่ีทำหน้าที่บรรณารักษ์และครูของโรงเรียนใน สงั กัดเทศบาล กลุ่มบรรณารักษ์จำนวนคร่ึงหนึ่ง มาจากกลุ่มงานพัฒนาห้องสมุดประชาชน กองนันทนาการ สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเท่ียว ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีท้ังบรรณารักษ์/เจ้าหน้าที่ห้องสมุดท่ีประจำอยู่ตามห้องสมุดประชาชนในเขตต่างๆ * กรุงเทพมหานคร กาญจนบุร ี กาฬสินธ ุ์ ฉะเชงิ เทรา เชยี งใหม่ ตาก นครปฐม นนทบุรี 179 พระนครศรีอยุธยา ยะลา ระยอง สงขลา สมุทรสงคราม อา่ งทอง และอุดรธานี Readers Theatre
ของกรงุ เทพมหานคร และเจา้ หนา้ ทขี่ องหอ้ งสมดุ เคลอื่ นท ่ี ทใี่ ชร้ ถตระเวนตามชมุ ชนตา่ งๆ ในเขตชุมชน/โรงเรียน สว่ นกลุ่มบรรณารักษ์อีกครงึ่ หนง่ึ มาจากตา่ งจงั หวัด และส่วนใหญ่ เป็นบรรณารกั ษใ์ นศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย งานหน้าที่หลักประการหนึ่งของบรรณารักษ์ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค คือ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน โดยจัดขึ้นในวันหยุดหรือตระเวนไปตามโรงเรียนและ ชมุ ชนตา่ งๆ สว่ นกลุ่มครูนนั้ ในโรงเรยี นต่างๆ จะมีโครงการนักเรียน-โรงเรียนรักการอ่าน ซ่ึงเป็นนโยบายของกระทรวงศกึ ษาธิการทด่ี ำเนินการตอ่ เนอ่ื งตง้ั แตป่ ี 2546 จากโครงการ ปีแห่งการส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ หน้าที่ของครูนอกจากการสอนในห้องเรียนท่ี เปน็ งานประจำแลว้ จงึ อาจต้องรับผดิ ชอบในการจดั กจิ กรรมส่งเสริมการอา่ นในโรงเรียน ดว้ ย ประมาณ 3 ใน 5 ของผเู้ ข้าสัมมนาฯ เป็นผทู้ ี่หนว่ ยงานต้นสงั กัดจดั สง่ เข้าสัมมนา และจำนวน 1 ใน 5 ทราบจากหนังสอื เชิญชวนของโครงการ ทีเ่ หลอื ทราบจากแหล่งอน่ื ๆ เชน่ ผู้นำชมุ ชน/บคุ คล/เพื่อนร่วมงานแนะนำ และทราบจากเวบ็ ไซต์ เปน็ ตน้ ในภาพรวมสว่ นใหญต่ อ้ งการนำความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการสมั มนาฯ ไปประยกุ ตใ์ ชป้ ระกอบ การปฏิบัติงาน (ร้อยละ 50) และเพื่อเพ่ิมพูนความรู้และประสบการณ์ (ร้อยละ 41) ที่เหลือระบุว่า เห็นว่าเป็นเทคนิคใหม่น่าสนใจ และต้องการนำไปเผยแพร่ต่อให้เพ่ือน ร่วมวิชาชีพหรือผู้ที่มีส่วนเก่ียวข้องรับทราบ และเม่ือแยกรายละเอียด กลุ่มครูส่วนใหญ่ ระบุว่าตอ้ งการนำไปประยกุ ตใ์ ช้ในการปฏิบตั งิ าน ส่วนกลุม่ เจ้าหน้าท่หี ้องสมุด ส่วนใหญ่ ระบุเพ่ือเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ 180 ละครสรา้ งนักอา่ น
ทัÈนคตติ อ่ หนังสอื áละการอา่ น จำนวนมากกว่าครึง่ หนึ่งของผู้เข้าสมั มนาฯ ประเมินความเป็นผูร้ กั การอ่านของตน เองในระดบั ปานกลาง (รอ้ ยละ 52) รักการอ่านในระดบั มาก ร้อยละ 31 และมากที่สุด ร้อยละ 11 ทีร่ ะบวุ า่ น้อย รอ้ ยละ 2 และทเี่ หลอื ไมร่ ะบุ ส่อื ที่นยิ มมากที่สุดคือ โทรทัศน ์ (รอ้ ยละ 29) รองลงมาคือ หนังสือพมิ พ์ (รอ้ ยละ 26) สอดคล้องกับท่ีวิทยากรสอบถามบางกลุม่ ในชว่ งสัมมนาว่าแต่ละวันอา่ นหนงั สือหรอื รับสอ่ื ประเภทหนังสือเทา่ ใดเม่ือเทียบกบั ส่ืออ่นื ๆ ผเู้ ขา้ สมั มนาระบวุ า่ ประมาณ 40-50% เมื่อเทียบกบั สือ่ อื่นๆ สภาพปัญหาประการหน่งึ ทบ่ี รรณารกั ษบ์ างรายระบุ คอื อยากจะอ่านหนงั สือแตม่ ี ข้อจำกัดเนือ่ งจากขอ้ บังคับขององค์กร ไมส่ ามารถอา่ นได้ในเวลางาน จากการให้คำอุปมาเกี่ยวกับหนังสือ ผู้เข้าสัมมนาเกินกว่าครึ่งมองหนังสือในเชิง แหล่งปัญญา/ความรู้ (ร้อยละ 57) และมองว่าหนังสือคือประสบการณ์ชีวิต/โลกกว้าง (รอ้ ยละ 16) หนงั สือคือมิตรแท้ (ร้อยละ 14) ท่เี หลอื อุปมาหนังสือในแง่ของการอา่ นวา่ เปน็ สิง่ ดีมีประโยชน์ พÄตกิ รรมการอา่ นของเยาวชน ผู้เข้าสัมมนาจำนวนมากกว่าครึ่งทำงานอยู่ในองค์กรปัจจุบันมากกว่า 10 ปี และจำนวน 3 ใน 4 ของผูเ้ ข้าสมั มนาทงั้ หมด ทำงานเกีย่ วข้องกับเยาวชนอาย ุ 6-12 ปี และ 12 ปขี ้ึนไป (รอ้ ยละ 42 และ 33 ตามลำดบั ) ส่วนผทู้ ท่ี ำงานเกยี่ วข้องกับเยาวชน อายุ 3-5 ปีมจี ำนวน 1 ใน 4 ของผู้เขา้ สัมมนา ลกั ษณะพฤติกรรมการอา่ นของเยาวชนท่ี ผ้เู ข้าสมั มนาเกยี่ วขอ้ งดว้ ย สรปุ ได้ดงั น้ี Readers Theatre 181
อายุ พฤติกรรมการอา่ น 3-5 ปี • ชอบหนังสอื ที่มีรูปภาพ ตวั หนังสือนอ้ ย สนใจภาพ ชอบดูภาพ • อ่านไมไ่ ด้แต่จะพดู เลา่ เร่ืองตามจนิ ตนาการของภาพท่ีดู • ชอบเลา่ เรื่องจากภาพเองตามจนิ ตนาการ • เปดิ ดภู าพ ทำทา่ อา่ นและพดู เล่าเร่อื งตามความคดิ ของตนเองจาก ภาพท่เี ห็น • ชา่ งซักถาม ดภู าพ สงั เกตแลว้ นำมาพูดเปน็ คำถาม • ชอบให้อ่านใหฟ้ งั และให้เล่าเรอื่ งโดยมกี ารถาม-ตอบ สนใจการแสดงบทบาทสมมุติ • สนใจท่คี รอู า่ น/เลา่ ใหฟ้ งั เมอ่ื จำได้กจ็ ะเปิดหนังสอื เลา่ ใหเ้ พื่อนๆ ฟงั 6-12 ปี • ไมช่ อบอา่ นหนังสอื อ่านนอ้ ย • ชอบดูรูปภาพ สนใจหนังสอื การ์ตูนเป็นส่วนมาก • ชอบเลน่ เกมหรือกิจกรรมบันเทงิ มากกว่าอ่านหนงั สือ • สมาธสิ นั้ อ่านหนังสอื ไมเ่ กินคร่ึงช่ัวโมง สนใจเลน่ เกมอนิ เทอร์เนต็ มากกวา่ • ชอบการเล่านิทาน ชอบหนงั สือทมี่ รี ปู ภาพประกอบเปน็ เรอื่ งเลา่ • (หอ้ งสมุด) เดก็ ส่วนมากจะมผี ปู้ กครองมาด้วย คอยช้ีแนะและอ่านใหฟ้ งั หรือบางครง้ั กอ็ า่ นเอง • อ่านหนังสือพอได้แตอ่ ่านไมค่ ล่อง และบางครั้งตีความจากเร่ืองทีอ่ ่าน ไมไ่ ด้ • จะสนใจอา่ นเมื่อได้รับแรงกระตนุ้ และการดูแลอยา่ งใกลช้ ิด • เด็กประถมฯ ชอบหนังสอื นทิ านภาพมากกว่าหนังสอื ความรู้ 182 ละครสรา้ งนักอา่ น
อายุ พฤตกิ รรมการอ่าน 12 • อา่ นนอ้ ย จำนวนผอู้ ่านไม่มาก ปขี ึ้นไป • ไม่ชอบอา่ น ชอบเล่น ชอบคุย เข้าห้องสมดุ น้อย • ชอบอา่ นหนังสอื ทไี่ ดร้ บั การจัดทำเปน็ ภาพยนตร์/ละคร • เน้นนวนิยายวยั รนุ่ และเรอ่ื งบนั เทงิ โดยเฉพาะดารา นักร้อง และการ เลอื กนยิ ายก็จะเลือกเร่อื งทีม่ ีรปู การ์ตูนหน้าปกสวย • ชอบอา่ นการต์ นู วรรณกรรมเยาวชนเกาหลี ญี่ปุ่น • ชอบศึกษาคน้ คว้าดว้ ยตนเอง อ่าน/ค้นคว้าเฉพาะเรื่องท่ีตอ้ งการเทา่ น้ัน ชอบค้นคว้าจากส่ืออิเล็กทรอนกิ ส์ ชอบใช้อนิ เทอรเ์ นต็ มากกวา่ • สนใจอา่ นหนงั สอื ประเภทเสรมิ บทเรยี น อ่านเฉพาะทีค่ รูใหอ้ ่านหรือ ทีเ่ กยี่ วกบั หมวดวชิ าเรยี น • อ่านหนงั สือเพราะโดนบังคับ • ใชห้ ้องสมุดนอ้ ย ประมาณ 30% เข้าหอ้ งสมดุ อา่ นหนงั สือพิมพ์ วารสาร หนังสอื เยาวชน • คนท่อี ่านหนังสือจะอา่ นประจำแต่มจี ำนวนนอ้ ยมาก คนทีไ่ ม่อ่าน ส่วนใหญ่จะสนใจกิจกรรมอย่างอ่นื มากกวา่ • ขาดทกั ษะการอ่านสรุปความ อ่านเวน้ วรรคไมถ่ กู • อา่ นเฉพาะเรือ่ งสน้ั ๆ • 11-13 ปี ชอบอ่านวรรณกรรมขนาด 20-60 หนา้ 14-17 ปี ชอบ อา่ นหนังสอื เร่ืองยาวโดยเฉพาะวรรณกรรมเดก็ Readers Theatre 183
ป˜ญหาãนการส่งเสริมการอ่าน ผเู้ ขา้ สมั มนาฯ มองวา่ ปญั หาในการสง่ เสรมิ การอา่ นคอื เยาวชนไมส่ นใจรกั การอา่ น (ร้อยละ 19) เยาวชนนิยมส่ืออื่นๆ มากกว่า เช่น เกม คอมพิวเตอร์ (ร้อยละ 13) ผู้ปกครองไม่สนับสนุน/ไม่มีเวลา (ร้อยละ 10) และ ไม่มีผู้มีประสบการณ์หรือผู้นำ กิจกรรม/ห้องสมุดมีหนังสือน้อย หนังสือไม่หลากหลาย การเดินทางไม่สะดวก/จัด กจิ กรรมสง่ เสรมิ การอา่ นไมต่ รงจดุ ไมต่ อ่ เนือ่ ง ฯลฯ ส่วนการแก้ปัญหา ประมาณ 1 ใน 4 ของผเู้ ข้าสมั มนาฯ ระบุว่า ต้องจัดกจิ กรรม สง่ เสริมการอา่ น (ร้อยละ 26) ต้องเปลีย่ นแปลงวิธีการจดั กจิ กรรมเพอ่ื ดงึ ดูดความสนใจ (รอ้ ยละ 13) ตอ้ งรณรงคป์ ระชาสมั พนั ธใ์ หผ้ ปู้ กครองเหน็ ความสำคญั ของการอา่ น (รอ้ ยละ 10) จัดบุคลากรเข้ารับการอบรมเพื่อศึกษาเทคนิคต่างๆ เก่ียวกับการส่งเสริมการอ่าน (รอ้ ยละ 9) ฯลฯ “เมอ่ื ตน้ เดอื นเมษายน มโี อกาสไดเ้ ขา้ ไปสมั มนาเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารเรอ่ื งเทคนคิ รดี เดอรส์ เธียเตอร์ โครงการวิจัยปฏิบัติการเชิงสร้างสรรค์เพ่ือส่งเสริมนักส่ือสารรักการอ่าน... เมื่อครั้งหนังสือเชิญมาค่อนข้างจะงงๆ เพราะเกิดมาเพ่ิงเคยได้ยินเทคนิคนี้เป็นครั้งแรก สว่ นสถานทกี่ ส็ รา้ งความงนุ งงใหอ้ กี ครงั้ เพราะไปอบรมทสี่ วนเงนิ มมี า เมอ่ื ไปถงึ ทางเขา้ กต็ อ้ ง งงอกี ครัง้ เพราะทางเขา้ จะอยู่ใตต้ กึ แถวทีผ่ นงั ทะลเุ ข้าไป พอเดนิ ทะลเุ ข้าไปกจ็ ะพบกบั ความ ร่มรื่นและบรรยากาศแบบสบายๆ พอถึงเวลาสัมมนาเชงิ ปฏิบัติการกเ็ ข้าห้องสัมมนาซ่ึงเปน็ “ห้อง” จรงิ ๆ เพราะโล่ง มีเบาะรองนัง่ วางทีม่ มุ และพวกเรากต็ อ้ งหายงง เพราะตลอด 3 วนั พวกเราใชพ้ นื้ ทีน่ นั้ นัง่ นอน ยนื วงิ่ หรอื แมก้ ระทงั่ เกลอื กกลง้ิ โลดแลน่ ไปตามวธิ กี ารอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารของ “คร”ู ทงั้ หลาย เรมิ่ จากการแนะนำโครงการ อาจารย์ไดบ้ อกความหมายซง่ึ สรปุ สนั้ ๆ วา่ รดี เดอรส์ เธียเตอร์ หรอื Readers Theatre (RT) หรอื การละครของนักอ่าน เปน็ การนำเสนอ 184 ละครสร้างนักอ่าน
เรอ่ื งราวอยา่ งงา่ ยๆ แตเ่ ปน็ การทำใหเ้ กดิ ภาพขน้ึ ในความนกึ คดิ เปน็ ละครแหง่ จนิ ตนาการ กลับจากงานนั้นลองเข้าไปค้นในกูเกิล จะเห็นกิจกรรมแบบนี้ในโรงเรียนและห้องสมุดอยู่ มากมาย แต่ครั้งนีเ้ ป็นครั้งแรกที่ในเมืองไทยพูดถึง ทำให้เราหูตาสว่างขึ้น ได้ข้อสรปุ กับ ตัวเองว่ากิจกรรมส่งเสริมการอ่านทำได้หลายแบบจริงๆ และเป็นเรื่องของทุกคนที่ต้อง ตระหนักและไม่มีศาสตร์สาขาใดเป็นเจ้าของ เพียงแต่ว่าศาสตร์สาขาใดจะเข้าไปสนับสนุน ตรงแง่มมุ ไหน การอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารแบบตวั จรงิ เสยี งจรงิ เรม่ิ จากการฝกึ สมาธไิ ปทงี่ านแสดง สร้างความเชื่อให้กับตัวเองว่าเรากำลังสวมบทบาทนั้นอยู่ การใช้ท่าทางและลีลา การใช้เสียง ดนตรีและการใช้หุ่นนานาชนิด แต่ละวันเหนื่อยอ่อนแต่ทุกคนก็สนุกและใจสู้ วันสดุ ท้ายให้แต่ละกลุ่มเลือกหนังสอื ในดวงใจของกลุ่มมาทำเปน็ ละคร กลับมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง ทกุ คนต่างพูดเสียงเดียวกันว่ากรรมสนองกรรม เพราะ เรื่องแบบนีพ้ วกเราชอบนกั หนาที่ให้เดก็ ในคา่ ยหอ้ งสมดุ สดุ หรรษาทำละครตอนอำลาค่าย แต่ครั้งนั้นเราทำแบบใช้ความรู้สึก ส่วนครั้งนี้ทำแบบมีระบบระเบียบทางศาสตร์ของ การละคร...” (ปอง-มหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร : รวมพลคนรักเดก็ http://gotoknow.org/blog/lovelylibrary/199521) Readers Theatre 185
สมั มนาเชิงปฏบิ ตั ิการเทคนิค “ร´ี เ´อร์ส เธียเตอร”์ การสัมมนาเชิงปฏิบัติการเทคนิค “รีดเดอร์ส เธียเตอร์ : การละครของนักอ่าน” ดำเนนิ ไปตลอด 3 วันตามเน้ือหาหลกั สูตรท่กี ำหนดไว้ ดังน้ี วันแรก ภาคเชา้ • เปิดการสัมมนา แนะนำภาคีส่งเสริมการอ่านแผนงานสื่อสร้างสุขภาวะ เยาวชน (สสย.) ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุน การสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และแนะนำโครงการวิจัยปฏิบัติการเชิง สรา้ งสรรคเ์ พื่อสง่ เสริมนักสอื่ สารรักการอา่ น (ปสอ.) และคณะวิทยากร 186 ละครสรา้ งนักอ่าน
• บรรยายนำ “หนังสือคือชีวิต : นำความคิดและความฝันจากโลกของ การอา่ น” และ “พฒั นาการแห่งวยั วาร : อา่ นหนังสอื อา่ นโลก” • แลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างผู้เข้าร่วมสัมมนา (แบ่งเป็น 6 กลุ่มย่อย มีวิทยากรประจำกลุ่ม) พดู คยุ เกย่ี วกบั หนงั สือดีทต่ี นเตรยี มมา • ตวั แทนแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอหนงั สือด/ี แรงบนั ดาลใจจากการอา่ น ภาคบ่าย • แนะนำศิลปะวิธีการแหง่ การอา่ น “Readers Theatre (RT) : การละคร ของนักอ่าน” • ชมการแสดงชดุ “ละครบรรเลง บทเพลงหนงั สอื ” และเสวนากบั วทิ ยากร นักแสดง ผู้กำกบั การแสดง • วิเคราะห์มิติ/ประเมินหนังสือกับองค์ประกอบของการแสดง (จิต-ร้สู ึกนึก คิด, เสียง-อ่านวินิจสาร, ท่วงทีลีลา-อวัจนสาร, เทคนิคการละคร- ทุกคนทำได้) • กจิ กรรมฝึกความผ่อนคลายของกายและจติ เพอ่ื การแสดงอย่างงา่ ยๆ วันท่สี อง ภาคเชา้ • มติ ทิ ่หี นงึ่ ของ RT (การละครของนกั อ่าน) “ศิลปะแห่งเสยี ง : หลกั การใช ้ เสียงในการสรา้ งสรรคก์ ารอ่าน” ก. หลกั การหายใจ/การอา่ นออกเสยี งใหถ้ กู ตอ้ งชดั เจน/การอา่ นตคี วาม ข. การใช้บทกวี ดนตรี เพลง ส่งเสรมิ การอ่าน ภาคบา่ ย • มิตทิ ส่ี องของ RT (การละครของนกั อ่าน) ก. เทคนคิ การใช้ร่างกายเพอื่ การแสดงอยา่ งงา่ ยๆ Readers Theatre 187
ข. เทคนิคการแสดงแบบภาพนิง่ (Tableau Vivant) • มิติท่สี ามของ RT (การละครของนักอ่าน) ก. การสรา้ งสรรคแ์ ละประดษิ ฐ์หนุ่ มือ และการใชอ้ ปุ กรณ์ ข. รูปแบบการแสดงอืน่ ๆ ประกอบศลิ ปะแหง่ การอ่าน • ปฏบิ ตั กิ ารสรา้ งสรรค์สู่การแสดง (6 กล่มุ ) วันทส่ี าม ภาคเชา้ • ฝกึ ซ้อมและนำเสนอกิจกรรมสรา้ งสรรคเ์ พ่ือส่งเสริมการอ่าน (6 กล่มุ ) • การวจิ ารณ์และเสนอแนะโดยคณะวิทยากร ภาคบา่ ย • สาธติ การแสดงจากวรรณกรรมเยาวชน เร่อื ง “บีต๊ัก ดาวดวงนั้นระหวา่ ง นำ้ กับฟา้ ” • เสวนาว่าด้วยการแสดงเพื่อส่งเสริมการอ่าน จากหนังสือสู่การแสดงจาก ละครของนักอ่านสศู่ ิลปะแห่งการละคร • สรุปและปิดการสมั มนา ในการสัมมนาฯ นอกจากบรรยายตามเน้ือหาที่จัดตารางไว้ คณะวิทยากรได้สอด แทรกกิจกรรมต่างๆ รวมถึง 28 กิจกรรม แทรกตลอดช่วงการสัมมนาท้ัง 3 วัน เป็น กิจกรรมทั้งส่วนท่ีเกี่ยวข้องกับเน้ือหาโดยตรง และกิจกรรมท่ีสอดแทรกเพื่อผ่อนคลาย และดงึ ความสนใจของผเู้ ขา้ สมั มนาฯ ใหไ้ มร่ สู้ กึ เบอื่ การอบรมทกั ษะตา่ งๆ เนน้ ทผ่ี เู้ ขา้ อบรม ไดท้ ดลองปฏิบตั จิ ริงมากกวา่ การบรรยายเป็นเนอื้ หาโดยตรง 188 ละครสร้างนักอ่าน
วิทยากรจะเน้นเร่ืองการเชื่อมโยงการแสดงกับหนังสือทุกครั้งที่มีการสาธิตการ แสดง ทั้งจากการแสดงของวิทยากรเองและของผู้เข้าร่วมสัมมนาและหนังสือสำหรับ เยาวชนทผ่ี ้รู ่วมสมั มนาฯ นำมาคนละ 10 เลม่ เปน็ องคป์ ระกอบสำคัญของการสมั มนาฯ ตั้งแต่วันแรกท่ีต้องแนะนำหนังสือที่ตนเองนำมา คัดเลือกมาจัดนิทรรศการและการจัด ทำอุปกรณ์ประกอบต่างๆ จนถึงวันสุดท้ายของการสัมมนาที่ต้องนำเสนอการแสดง ของกลุ่ม ประสบการณส์ รา้ งขนéÖ ä´้ ผู้เข้าสัมมนาเชิงปฏิบัติการเทคนิครีดเดอร์ส เธียเตอร์ประมาณคร่ึงหน่ึงไม่เคยมี ประสบการณใ์ นการเขา้ อบรม/ปฏิบัติการเกยี่ วกับการส่งเสรมิ การอา่ น (ร้อยละ 52) และ พบว่าผู้ท่ีเคยเข้าอบรมส่งเสริมการอ่านเป็นเจ้าหน้าที่ ห้องสมุด (ท้ังกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด, และครู โรงเรยี นในกรงุ เทพมหานครเปน็ สว่ นใหญ ่ ครใู นสงั กดั ของ อบต. และเทศบาลที่เคยเข้าอบรมการส่งเสริม การอา่ นมาก่อนมนี อ้ ยมาก และส่วนใหญ่ไม่เคยเข้าอบรม/ปฏิบัติการด้าน การละครหรือการแสดงมาก่อน (รอ้ ยละ 89) ผทู้ รี่ ะบุ ว่าเคยเข้าอบรมด้านการละครมาก่อนส่วนใหญ่เป็น กลุ่มครู และส่วนหนึ่งเป็นประสบการณ์ที่มีมาต้ังแต่ สมัยเรียน Readers Theatre 189
การวัดผลสัมฤทธิข์ องการจดั สัมมนาฯ สว่ นหน่ึงอาจวัดไดจ้ ากการรับรู้ ความเขา้ ใจ รู้จักนำทกั ษะตา่ งๆ ทวี่ ทิ ยากรถา่ ยทอดไปใช้ ตรงตามวัตถปุ ระสงคข์ องผถู้ ่ายทอดหรือไม่ รวมถึงความคดิ เห็นต่างๆ จากผูเ้ ข้าสัมมนาต่อการจดั สมั มนานนั้ ๆ ผู้ร่วมสัมมนาปฏิบัติการรายหนึ่ง เล่ากระบวนการเกี่ยวกับการจัดการแสดงของ กลมุ่ ท่นี ำมาแสดงในวนั สดุ ท้ายของการสัมมนาฯ วา่ “จากประสบการณ์ที่อยู่มา 3 วัน กระบวนการทำงานของกลุ่มคือกลุ่ม ของเราจะมีหนังสือ 3 เรื่อง แล้วร้อยเรียงให้เป็น 1 เร่ือง ความจริงแล้ว พวกเราคิดมากกว่า 3 เร่ือง แต่ด้วยความท่ีเมื่อวานนี้มีเวลาน้อยแต่ถามว่าทำไม ต้องเอาหนังสือทั้ง 10 เร่ืองเข้ามา เพ่ือเราจะต้องมาตอบโจทย์ท่ีอาจารย์บอกว่า จะต้องมีกระบวนการที่ร้อยเรียงเข้ามา ก็เลยคิดข้ึนมา เร่ืองแรกท่ีนำมาคือเรื่อง “เดินป่า”เรื่องเดินเล่นในป่ามียาย เราก็ดูว่าใน 10 เร่ืองมีเร่ืองอะไรที่มียาย กม็ ยี ายเช้า คอื เร่ือง ”กระดกุ๊ กระดกิ๊ ” เนื่องจากเรอื่ งเดนิ เลน่ ในป่าเปน็ กลอนสีแ่ ต่ เร่ืองยายเช้าเป็นบทบรรยาย เราก็ต้องแปลงจากเรื่องยายเช้าให้เป็นกลอนส่ีแล้ว เรื่องยายเช้าก็มีสัตว์ต่างๆ นานา เราจะจบด้วยเร่ืองนก ก็จึงมาท่ี “ซาดาโกะ กับนกกระเรยี นพนั ตวั ” มาต่อ มาเรยี งรอ้ ยกันขึน้ มาเลยเปน็ การแสดงเรื่องน้ี” 190 ละครสรา้ งนักอา่ น
ความคิดเหน็ ของผู้เข้าสัมมนา หลงั จากชมการแสดงในชดุ สุดทา้ ย “บีต๊ัก ดาวดวง นน้ั ระหวา่ งน้ำกบั ฟ้า” ท่นี ำเสนอโดยคณะวิทยากร บรรณารักษ์รายหนงึ่ บอกว่า “ก่อนอื่นอยากจะบอกว่าท่ึงในความสามารถ... สิ่งที่อยากจะพูดก็คือ อยากจะบอกว่า ถ้าเราสามารถทำได้อย่างน้ี ในท่ัวทุกแห่งท่ัวประเทศไทย มันจะทำให้เกิดวัฒนธรรมการอ่าน เพราะดิฉันมองว่า เราจะเกิดนิสัยอะไรที่เป็น นิสัยถาวร มันต้องเกิดมาจากความประทับใจอะไรบางอย่าง เรามั่นใจอย่างน้ัน แต่ลักษณะอย่างนี้ บรรยากาศแบบนี้ มันจะเกิดข้ึนได้มากน้อยแค่ไหน พอย้อนกลับมามองดูตัวเอง เอ๊ะ...จะไปเต้นแร้งเต้นกาแบบนี้จะเหมาะหรือเปล่า หลายๆ อย่าง อยากจะบอกว่าท่ึงในความสามารถ และคิดว่าเราจะกลับไปทำที่ บา้ นเราใหเ้ ปน็ แบบน้ี บรรยากาศแบบน้ีไดอ้ ยา่ งไร รับรองวา่ ถ้าเราทำไดห้ อ้ งสมดุ เราน่ไี ม่ต้องใชน้ างกวกั กวักมอื ใหเ้ ขา้ ห้องสมุดอย่างแน่นอนคะ่ ” (จงั หวดั สงขลา) สว่ นความคดิ เห็นที่เกีย่ วขอ้ งกบั การสมั มนาฯ ท่แี สดงใหเ้ หน็ วา่ จะมีการนำทกั ษะท่ี ได้จากการสัมมนาไปประยุกต์ใช้ ตวั อย่างเช่น “(ดฉิ นั ) มหี นา้ ทจ่ี ดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การอา่ นทกุ วนั อาทติ ย์ เปดิ บรกิ ารกบั เดก็ ๆ วัยท่มี ากับครอบครวั ผู้ปกครอง การจัดกจิ กรรมแต่ละครัง้ ไม่กำหนดเพศ วัย อายุ คุณพอ่ คุณแม่กเ็ ลน่ กบั ลกู ได้ ในการจัดกจิ กรรมสง่ เสริมการอ่านเน้นทก่ี ารสง่ เสริม ภาษาไทย คนที่ดำเนินรายการก็คือตัวดิฉันคนเดียว ไม่มีทีมเวิร์ก จัดเวทีเอง คืองานมีวันอาทิตย์ วันศุกร์ก็บริการยืม-คืนไป พิมพ์งานเอกสารไปแล้วก็ว่ิงไปติด ลูกโป่ง เอาโต๊ะมาวาง ปพู รม นีพ่ รมของฉนั นะ ห้ามเดิน พอเด็กมาอา่ น เวทกี ็พงั ทุกอย่างต้องเร่ิมต้นใหม่ พยายามจัดเวทีในลักษณะที่ใช้ทรัพยากรท่ีมีอยู่ ก็ทราบว่างบประมาณเป็นอย่างไร ทรัพยากรมีเท่าไหร่ก็ใช้เท่าน้ัน พอเด็กๆ มาวันศุกร์ ก็บอกให้ช่วยเป่าลูกโป่งหน่อย เด็กก็ฉลาดบอกถ้าจ้างพวกเราเราจะ ยินดีมาก บอกให้ทำอะไรก็รู้ทันเรา... ปัญหาอยู่ท่ีมุกเร่ิมตันแล้ว เพราะว่าดำเนิน Readers Theatre 191
รายการเพียงคนเดียว... บางทกี เ็ กดิ อาการท้อ ทอ้ ในมุมมองของคนทำงาน การได้ มาศกึ ษาดูงานก็เหมือนกำไรของชีวิต พอมาเจอตรงนี้ (การแสดง) ประทับใจมาก นง่ั คดิ เพอ้ ฝนั ฉนั จะเลน่ เปน็ แมวไดไ้ หม...” “จากวนั แรกทบ่ี อกวา่ มปี ญั หาทไ่ี ดช้ แ้ี จง ไป คิดว่าวันนี้มาคุ้ม คุ้มจริงๆ เพราะดิฉันได้มาหมดเลย และไม่ใช่ว่าดิฉันจะได้ เพียงคนเดียว เดก็ ๆ ทร่ี อดฉิ ันอยกู่ จ็ ะได้ดว้ ย” (จังหวดั นครปฐม) วันนว้ี นั ทส่ี ามแล้ว มาไกลคะ่ ... อยากทำงานกับเด็กๆ ทำงานกบั ประชาชนที่ เป็นรากหญ้า อยากพาเขามาห้องสมุด แลว้ ใหเ้ ขาไดใ้ ช้ มีความร้สู ึกชอบท่ีหนังสอื ถกู รอ้ื กระจยุ กระจาย ถกู จบั ยบั เยนิ ชอบมาก จะไมห่ วงเลย ขอแตว่ า่ เขาหยบิ หนงั สอื ไปอ่าน ทีน้ีทางโครงการฯ ส่งหนังสือมาก็ไม่คิดว่าตัวเองจะได้หนังสือเพราะไม่ได้ อยู่ในสว่ นของ กศน. หรือ อบต. เปน็ ห้องสมุดประชาชนเทศบาล เขามองเหน็ วา่ ตรงนี้กเ็ ป็นส่วนหนึ่งที่จะชว่ ยท้องถิ่นได้ คดิ ว่ามีประโยชน์มาก เราได้ความรเู้ ราจะ เอากลบั ไปใช้อย่างแน่นอน ใหเ้ ด็กๆ ดู” (จงั หวัดอดุ รธานี) “ตอนแรกที่อาจารย์ได้รับคำสั่งให้มาอบรมท่ีนี่ มีความรู้สึกว่าร้อง ‘ย้ี’ เลย เบื่อ... ปิดเทอม ไม่อยากมา อยากว่าง แต่ว่าพอได้มาแล้วขอบอกว่าคุ้มค่ามาก แลว้ กจ็ ะเสยี ดายถา้ ไมไ่ ดม้ า สามวนั ทอี่ ยกู่ ลมุ่ นน้ั กลมุ่ นี้ ไดร้ บั รถู้ งึ ความรสู้ กึ ของพวก เราทุกคนทมี่ ีตอ่ วทิ ยากร มนั เป็นความรู้สกึ ท่ีงดงาม ขอขอบคณุ ในความทุ่มเทของ คณะวิทยากรทุกท่าน พวกเราจะนำเจตนารมณ์ของคณะวิทยากรทุกท่านไปต่อ ยอดให้สมดังเจตนารมณ์ เอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์และคุณค่ามากท่ีสุด...” (จังหวัดฉะเชิงเทรา) 192 ละครสร้างนักอา่ น
จากการประเมนิ ความพงึ พอใจตอ่ การสมั มนา ผเู้ ขา้ สมั มนาฯ พงึ พอใจในความสามารถ ของวิทยากรมากทีส่ ุด สว่ นการรับรแู้ ละความเขา้ ใจในเนอื้ หาว่าตรงตามจุดประสงคแ์ ละ มกี ารโยงเรอื่ งหนงั สอื กบั การแสดงหรือไม ่ อย่างไร อาจตอ้ งพจิ ารณาเป็นรายๆ ไป ผลลัพธ์จากการสัมมนาฯ อาจสรุปไดว้ า่ ผูเ้ ขา้ สัมมนาฯ ประทบั ใจและตระหนกั ถึง ความสำคัญของการอ่านมากขึ้น ได้เทคนิคแปลกใหม่เพ่ิมขึ้นในการจัดกิจกรรมส่งเสริม การอ่าน ซึ่งเชื่อว่าผู้เข้าสัมมนาฯ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานในหน้าที่ ประจำได ้ การนำศลิ ปะการแสดง/ละคร และสอ่ื ประกอบตา่ งๆ เชน่ หนุ่ ดนตร ี เพลง ฯลฯ ซง่ึ มคี วามต่ืนตาต่นื ใจและทำใหเ้ พลิดเพลนิ คนสว่ นใหญ่มกั จะชอบ แตน่ ักสอ่ื สารรักการ อ่านต้องรักการอ่านหนังสือด้วย และคอยกระตุ้นให้ผู้ชม/ผู้ร่วมกิจกรรมได้ตระหนักถึง หนงั สือและการอ่านหนังสอื ดว้ ยเชน่ กัน Readers Theatre 193
“©นั จะเปน็ นกสีขาวพราวเวหา ยอ้ นกลบั มาแดนดนิ ถิ่นสวรรค์ รอเวลาถึงคราไดพ้ บกนั ไมม่ ีใครมาขดี คน่ั พรมแดนใจ จะคะนึงถึงตำนานอนั แสนดี ช่ืนชีวีรอเวลาวนั ฟ‡าใหม่ จะมาพบเพื่อนรกั สลักใจ ใชอ่ น่ื ไกลเราท้งั ผองพน่ี ้องกนั ” นกสีขาวโบยบิน แลว้ บทเพลงนกสขี าว (จากหนงั สอื และซดี ี “ระบำสายธาร ตำนานมอแกน”) เพลง แหง่ การอำลากด็ งั กระหมึ่ ในชว่ งสดุ ทา้ ยของการสมั มนาฯ เราสญั ญากนั วา่ จะพบกนั อกี ใน โลกทมี่ เี ดก็ ๆ ในโลกทม่ี หี นงั สอื โลกทเี่ รากำลงั จะไปสรา้ ง ไปเสรมิ โลกแหง่ การอา่ นหนงั สอื เหล่านกสขี าวโบยบนิ กลบั รัง พรอ้ มทีจ่ ะนำอาหารกลับไปป้อนสูล่ ูกนอ้ ยๆ ของตน… 196 ละครสรา้ งนักอ่าน
จากน้ันอีกประมาณ 2-3 เดือน การติดตามขยายผลจากการสัมมนาก็เกิดขึ้น เพ่ือทราบข้อมูลเก่ียวกับประสิทธิผลของโครงการและการอบรมสัมมนาฯ ว่าบรรลุ วัตถุประสงค์เพียงใด มีการนำส่ิงที่ได้จากการสัมมนาไปประยุกต์ใช้หรือขยายผลอย่างไร รวมถึงเพือ่ ทราบสภาพปัญหาและข้อคิดเห็นต่างๆ จากนกั สอ่ื สารรักการอา่ น (ต่อไปนี้จะ เรยี กผู้ผา่ นการอบรมสมั มนาฯ วา่ “นักส่ือสารรกั การอา่ น”) โดยใชก้ ารส่งแบบสอบถาม ทางไปรษณยี ์ (Mailed Questionnaire) ใหน้ กั สอื่ สารรกั การอา่ นจำนวน 123 ราย ผลตอบ รบั จากแบบสอบถามคิดเป็นร้อยละ 54 จากจำนวนทั้งหมด นอกจากน้ี เพอ่ื ใหก้ ารประเมนิ มคี วามสมบรู ณย์ ง่ิ ขน้ึ ไดม้ กี ารตดิ ตอ่ สนทนาทางโทรศพั ท์ กับนักส่ือสารรักการอ่าน และติดตามเว็บไซต์ขององค์กรท่ีส่งบุคลากรมาร่วมสัมมนา ปฏบิ ตั กิ าร ตลอดจนไดต้ อบสนองการขยายผลของหนว่ ยงานบางแหง่ ดว้ ยการจดั กจิ กรรม อบรมใหแ้ กเ่ ยาวชนแกนนำรกั การอา่ น ไดแ้ ก่ ทปี่ ระชาคมอำเภอทา่ มว่ ง จงั หวดั กาญจนบรุ ี โดยมีเยาวชนระดับมัธยมต้นและมัธยมปลายมาร่วมรับการอบรมจำนวน 70 คน และมคี รจู ากโรงเรียนในสงั กดั อบต. ประมาณ 15 คน เม่อื วันท่ี 17 กรกฎาคม 2551 ณ หอ้ งประชุมโรงเรียนวิสุทธรงั ษี ไดร้ ับความสำเร็จในระดับทน่ี า่ พอใจมาก ในการประมวลผลไดจ้ ัดแยกนักสื่อสารรักการอ่านออกเปน็ 4 กลุ่ม เพ่อื ประโยชน์ ในการวเิ คราะห์ คือ • ครูพี่เล้ยี งและเจ้าหน้าที่การศกึ ษาของ อบต. • ครูประถม-มธั ยม • เจ้าหน้าทห่ี อ้ งสมุดของ กทม. • เจ้าหนา้ ท่หี ้องสมุดในตา่ งจังหวัด ครูพี่เลี้ยง เป็นครูในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของ อบต. ส่วนเจ้าหน้าท่ีการศึกษาของ อบต. ในที่นีห้ มายถงึ นักวิชาการศึกษาและนักพัฒนาชมุ ชนในสังกัดของ อบต. ครปู ระถม-มธั ยม คอื ครทู ส่ี อนระดบั ประถมศกึ ษาขน้ึ ไป ซง่ึ ครอบคลมุ ถงึ ครโู รงเรยี น ในสงั กดั เทศบาล โรงเรียนรัฐบาลและเอกชน ทั้งในกรุงเทพมหานครและตา่ งจงั หวดั Readers Theatre 197
เจ้าหน้าที่ห้องสมุดของ กทม. คือบรรณารักษ์/เจ้าหน้าท่ีห้องสมุดในสังกัดกอง นันทนาการ สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเท่ียว ท่ีกระจายอยู่ตามเขตต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร และเจ้าหนา้ ท่หี ้องสมดุ เคลอ่ื นทีข่ อง กทม. เจ้าหน้าท่ีห้องสมุดในต่างจังหวัด คือบรรณารักษ์/เจ้าหน้าที่ห้องสมุด/ นักจัดกิจกรรมชุมชนของเทศบาล อุทยานการเรียนรู้ (TK Park) ศูนย์การศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) มหาวิทยาลัย และห้องสมุดเอกชน (ภาคประชาสังคม) ทอ่ี ยูต่ ามจงั หวดั ต่างๆ นอกเหนือจากกรงุ เทพมหานคร นักสือ่ สารรักการอ่าน : ปฏิบัตกิ าร “ปลกุ ” นักสื่อสารรักการอ่านนำทักษะท่ีได้จากการสัมมนาฯ ไปปรับใช้ตามลักษณะงานที่ ตนรับผิดชอบ กล่าวคือ ครูพ่ีเลี้ยงนำไปใช้ในการเรียนการสอนเด็กปฐมวัย เจ้าหน้าที่ การศึกษาของ อบต. นำไปจัดกิจกรรมและบรรจุเป็นโครงการในแผนของ อบต. ส่วน ครูประถม-มัธยม นำไปใช้ทั้งในการเรียนการสอนและการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ของโรงเรยี นในระดับท่ีเท่ากัน เจา้ หนา้ ทห่ี อ้ งสมดุ ทงั้ ในกรงุ เทพมหานครและตา่ งจงั หวดั นำไปใชใ้ นการจดั กจิ กรรม ส่งเสริมการอ่าน ทั้งการจัดท่ีห้องสมุดและจัดเคลื่อนท่ีไปตามโรงเรียนและชุมชนต่างๆ นอกจากนห้ี อ้ งสมดุ บางแหง่ ยงั นำวธิ ปี ระดษิ ฐห์ นุ่ แบบตา่ งๆ ไปใชส้ อนในชว่ งการจดั กจิ กรรม ด้วย บางแห่งจัดอบรมเทคนิคการเล่านิทานและการผลิตส่ือนิทานเป็นหุ่นแบบต่างๆ ให้กบั ครูในพ้นื ทดี่ ้วย นอกจากนี้ มีการนำส่งิ ทไี่ ด้จากการสัมมนาฯ ไปถ่ายทอดในรปู แบบอืน่ ๆ เชน่ เลา่ สู่ กันฟังเกี่ยวกับเทคนิครีดเดอร์ส เธียเตอร์ ในกลุ่มบุคคลท่ีเกี่ยวข้อง เช่น ผู้บริหาร ครู บรรณารกั ษ ์ อาสาสมคั รหอ้ งสมดุ ลกู ฯลฯ นำความรทู้ ไ่ี ดไ้ ปถา่ ยทอดใหเ้ พอ่ื นรว่ มงานหรอื ผทู้ ี่มีหนา้ ทีเ่ กยี่ วขอ้ งรบั ทราบ นำบทความทเี่ ปน็ เอกสารประกอบการสัมมนาไปเผยแพร่ 198 ละครสร้างนักอา่ น
ต่อใหผ้ ู้ปกครองนกั เรยี นในวันมอบตวั เปน็ ต้น หลงั จากการสมั มนาฯ ไดจ้ ดุ ประกายใหบ้ างหนว่ ยงานนำไปรเิ รมิ่ โครงการใหมๆ่ เชน่ จดั “ศนู ยร์ ักการอ่าน” ในศูนยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ บรกิ ารแกผ่ ปู้ กครองในชมุ ชน จดั ตง้ั ชุมนมุ “ดาราพาอ่าน” ขน้ึ ในโรงเรยี น เปน็ ตน้ ผลจากการสัมมนาฯ ยังส่งผลทางอ้อมแก่ผู้เข้ารับการอบรมด้วย “หลังจากการ อบรมสมั มนาแลว้ ทำใหผ้ มกลา้ แสดงออกขนึ้ เมอ่ื ผมกลา้ แสดงออกแลว้ ทำใหป้ ฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี ให้บริการและสอนนกั เรยี นเปน็ ไปดว้ ยดี ขอขอบคุณโครงการดๆี เชน่ นี้ทม่ี ุง่ พฒั นาคนเพ่ือ ไปพฒั นาคนอื่นต่อไป” (ครบู รรณารักษ์) “ปลกุ การอา่ น” กนั อย่างไร การนำทักษะทไี่ ด้จากการสมั มนาฯ ไปใช ้ ในภาพรวมแลว้ ส่วนใหญ่ใช้การจัดแสดง ละคร/ละครการอา่ น/แสดงบทบาทสมมตุ ปิ ระกอบการอา่ น (รอ้ ยละ 23) ใหเ้ ดก็ อา่ นนทิ าน ประกอบการแสดงทา่ ทาง (รอ้ ยละ 18) ขอ้ แตกต่างคอื ประการแรกเป็นการแสดงเปน็ ทมี สว่ นประการหลังเปน็ การแสดงเดี่ยว นอกจากน ี้ ผจู้ ดั /ครใู ชก้ ารอา่ นหรอื เลา่ นทิ านประกอบทา่ ทาง (รอ้ ยละ 15) และอา่ น หรอื เลา่ นทิ านประกอบหนุ่ มอื (รอ้ ยละ 13) และนำไปใชใ้ นลกั ษณะอนื่ ๆ เชน่ เกมนนั ทนาการ เปดิ ซดี เี พลง/นิทาน แนะนำหนงั สือ แขง่ ขันตอบปัญหา ให้เดก็ วาดภาพเลา่ เร่อื ง เปน็ ต้น แตเ่ ม่อื แยกตามรายกลุ่ม วธิ ีการทีใ่ ช้มรี ายละเอยี ดแตกตา่ งกัน ครÙพ่เี ลéยี งáละเจ้าหนา้ ทก่ี ารÈกÖ ษา อบต. “ในหอ้ งเรยี นศนู ยเ์ ดก็ เลก็ มนี กั เรยี นประมาณ 20 คนและคร ู 1 คน ครใู ชว้ ธิ กี ารอา่ น หรอื เลา่ นทิ านใหเ้ ด็กฟังโดยใช้เทคนคิ การใชเ้ สียง และบางครั้งกใ็ ห้เด็กๆ ได้แสดงทา่ ทาง ประกอบการเล่านิทานตามจินตนาการของตัวเองดว้ ย” Readers Theatre 199
ครพู เี่ ลย้ี งใชว้ ธิ อี า่ นหรอื เลา่ นทิ านประกอบทา่ ทาง และวธิ ใี หเ้ ดก็ แสดงบทบาทสมมตุ ิ ประกอบการอา่ นของครู มากทส่ี ดุ ในระดบั เทา่ กนั (รอ้ ยละ 33 เทา่ กนั ) ลกั ษณะการใหเ้ ดก็ ๆ แสดง สว่ นใหญ่จะใช้อปุ กรณ์ประกอบ เช่น ทำเป็นหมวกหรือมงกุฎเปน็ รูปหวั สัตวต์ า่ งๆ ให้เดก็ สวมแลว้ แสดงทา่ ทางตามเร่อื งทเี่ ล่า สว่ นการอา่ นหรือเล่านิทานของครูก็เพมิ่ สสี นั โดยแสดงทา่ ทาง สหี น้า นำ้ เสยี ง หรอื ใชห้ นุ่ แบบต่างๆ (ห่นุ น้ิวมอื หุน่ ปากอา้ หุน่ หนงั สอื พมิ พ)์ มาประกอบการเล่า ตวั อย่างคำตอบ เชน่ • นำไปใช้ในการเรียนการสอน โดยประดิษฐ์สื่อต่างๆ มาประกอบการเล่านิทาน ในกิจกรรมตามตารางประจำวัน เช่น เล่านิทานก่อนนอน โดยครูออกท่าทาง สีหน้า คำพูดให้ชัดเจน เพ่ือให้เด็กสนุกสนานไม่เบื่อกับการอ่านนิทานของครู เฉยๆ บางครั้งก็นำซีดีมาประกอบในการแสดงนิทานของเด็ก โดยทำสื่อข้ึนมา ใช้ในการแสดง โดยให้เดก็ ๆ ประดษิ ฐห์ มวกแบบตา่ งๆ เชน่ สัตว์ คน รถ และ นำมาแสดงบทบาทสมมตุ กิ ารแสดงละคร ก่อนเริ่มแสดงครจู ะเลา่ นิทานใหเ้ ดก็ ฟงั และใหเ้ ดก็ รวมกลมุ่ กนั คดิ วา่ จะชว่ ยกนั แสดงเรอื่ งนอี้ ยา่ งไร โดยครเู ปน็ ผอู้ า่ น นิทานใหฟ้ ังและใหเ้ ดก็ ปฏิบตั ิตามบทบาทท่ีตนได้รบั • ใชก้ ารอา่ นและเลา่ นทิ านใหเ้ ดก็ ปฐมวยั ในความรบั ผดิ ชอบฟงั เลา่ ดว้ ยเสยี งพากย์ ปรับเสียงเป็นตัวละครนั้นๆ และมีอุปกรณ์ประกอบ เช่น ส่ือทำด้วยวัสดุ หนังสอื พมิ พ์ กล่องนม ฯลฯ รวมถงึ การแสดงด้วยการใช้บทบาทสมมตุ ิ โดยการ ใชห้ วั โขนหรือหัวสตั ว์ต่างๆ ทเ่ี ดก็ ๆ ชอบ • จดั ทำสอ่ื การเรยี นการสอนเปน็ พยญั ชนะ ก-ฮ เนน้ การสอนอา่ นพยญั ชนะ เพราะ เดก็ ยงั เลก็ “สอ่ื ทจี่ ดั ทำเปน็ ตวั อกั ษรทม่ี สี สี นั สดใส เดก็ จะสนใจมาก” และนำทกั ษะ การแสดงมาใช้ในห้องเรียน โดยให้เด็กเล่นละครตามนิทานที่ครูเล่าให้ฟัง “นทิ านสน้ั และสนกุ งา่ ย โดยทำเปน็ รปู สตั วต์ ดิ หวั ของเดก็ เพอ่ื ใหเ้ ดก็ จนิ ตนาการ ตามความคิดของตนว่าเป็นสัตว์อะไรที่ตนชอบและอยากเป็นมากท่ีสุด” และกำลังจะจดั ทำ “ศนู ย์รักการอา่ น” ในศูนย์พัฒนาเดก็ ฯ เป็นศูนย์ทีม่ ีหนังสือ หลากหลายมาบริการแกผ่ ู้ปกครองในชมุ ชน • ใช้วัสดุเหลือใช้มาประดิษฐ์สื่อการเรียนการสอน และเทคนิคการใช้เสียง 200 ละครสร้างนักอ่าน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240