Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore THA_VIET final spreads

THA_VIET final spreads

Description: THA_VIET final spreads

Search

Read the Text Version

Spirit of Us จะไมต่ อ้ งนำ� มาไหว้ เมอื่ มาถงึ ศาลเจา้ กต็ อ้ ง เจา้ หนา้ ทจ่ี ัดเครื่องไหว้ ใชม้ ดี ไมไ้ ผป่ กั ท่ีไกเ่ ปน็ สญั ลกั ษณส์ ำ� หรบั การ ไหว้เจ้าจะมีเจ้าหน้าที่ศาลเจ้าน�ำถาดเข้าไป ก็เหมือนการอ่านค�ำบูชาการถวายสังฆทาน วางภายในคนนอกเขา้ ไป ไหวว้ นั แรกคอื แรม แบบไทย เรียกต�ำแหน่งน้ีว่า “ดอกวัน” 15 คำ�่ เดอื น 12 มเี จา้ หนา้ ที่ใสช่ ดุ ดำ� ทงั้ หมด เมื่อเร่ิมพิธีจะมีการอ่านบทไหว้เจ้าหน้าท่ีก็ 6 คน มีหัวหน้าชุดจะเรียกต�ำแหน่งนี้ว่า ท�ำตามบทสวดต้องฟังภาษาเวียดนามออก “จิ่งเต๋” และจะมีผู้ช่วย 2 คน อยู่ข้างหลัง บทสวดเปน็ ค�ำโบราณเรียกวา่ จื่อหาน เป็น เรียกว่า “โบ่ยเต๋” จากนั้นจะมีคนตีกลอง ภาษาพูดและเขียนแบบโบราณอักษรต่างๆ ตีฆอ้ งตามจังหวะระหว่างท�ำพธิ ี อีก 2 คน จะคลา้ ยกบั ภาษาจนี ไมเ่ หมอื นภาษา ภาษา จะมีต�ำแหน่งรินเหล้า รินน�้ำในแต่ละถาด เขียนในปัจจบุ ัน (จนี เคยปกครองเวียดนาม ตามจ�ำนวนท่ีชาวบ้านเอามาไหว้ เรียกว่า เปน็ ระยะเวลา 1,000 ปี จึงทำ� ให้บทสวดได้ “เยอื้ กเหยยี่ ว” เมอื่ เสรจ็ จะมอี กี 1 คน อา่ นคำ� รับอิทธิพลจากประเทศจนี *ผเู้ ขยี น) บชู าคำ� ถวายเปน็ ภาษาเวยี ดนาม เปรยี บแลว้ คนบา้ นนาจอกจะใหค้ วามสำ� คญั มาก พิธไี หว้ในวันเตด๊ กับการมาศาลเจ้าในวันตรุษจีน ลูกหลานท่ี อยตู่ า่ งจงั หวดั จะกลบั มาบา้ นและพาครอบครวั มาทศ่ี าลเจา้ ศาลเจา้ บา้ นนาจอกจะอนญุ าต 51

ให้พาเด็กๆ มาได้ ชุมชนอื่นไม่อนุญาตให้ มีดปกั ไก่ เด็กมาศาลเจ้าให้มาเฉพาะผู้ใหญ่ ชุมชน มคี วามเหน็ วา่ ถา้ ไม่ใหเ้ ดก็ มาเคา้ จะไมร่ เู้ รอ่ื ง ไก่ไหว้เจ้า หลังจากน้ันทุกคนก็จะมาจุดธูป ของบรรพบรุ ษุ มนั อาจทำ� ใหส้ ญู หายขาดการ ไหว้เจ้าขอพรต่างๆ ให้ครอบครัวอยู่เย็น สนใจ บรรยากาศจะสนุกสนานมากเพราะ เปน็ สขุ ทำ� มาคา้ ขนึ้ บางคนกม็ าบนบานดว้ ย บางคนไปตงั้ รกรากปนี งึ ลกู หลานไมว่ า่ จะอยู่ หมูหัน ทุกปีศาลเจ้าจะมีหมูหันจากการ ท่ีไหนตอ้ งตอ้ งกลบั มาตรุษจนี ทีอ่ นญุ าตให้ บนบานทสี่ ำ� เรจ็ มาถวาย สว่ นใครอยากบรจิ าค เดก็ มาไดเ้ ราตอ้ งการใหเ้ ดก็ รับรู้ว่า พ่อ แม่ ก็ตามก�ำลังศรัทธา ช่วงตรุษจีนมียอดเงิน ปู่ ยา่ ตา ยาย บรรพบรุ ุษมเี ช้อื เวยี ดนาม บรจิ าคหลงั หกั คา่ ใชจ้ า่ ยประมาณ2 แสนบาท มปี ระเพณแี บบนี้ และผใู้ หญเ่ คา้ มาไหวอ้ ะไร ชว่ งออกพรรษาจะไดป้ ระมาณ3-4 หมน่ื บาท เพราะหลังจากท�ำพิธีก็จะแบ่งไก่คร่ึงตัว เงนิ ตัวนกี้ จ็ ะเอามาปรบั ปรงุ พัฒนาศาลเจา้ ” มาสับกินรวมกันอีกครึ่งตัวให้เอากลับบ้าน ชาวบ้านจะเรียกว่า กินไก่เฮง เพราะเป็น ชาวบ้านนำ� ไกม่ าไหว้ 52

Spirit of Us งานบุญ “หราํ่ ถาง เยียง” หรอื งานสะเดาะเคราะห์หมบู่ ้าน เปน็ อีกหน่งึ งาน พิธีกรรมตามความเชอ่ื ของคนไทยเช้อื สายเวียดนาม ทกี่ ารประกอบพธิ ตี อ้ งไปรวม ตัวกนั ท่ีศาลเจา้ ปจั จุบันท่ีจงั หวัดนครพนม ชุมชนทีย่ ังสืบทอดพธิ กี กรรมดังกลา่ วก็ คอื ชุมชนโพนบก “หร�่ำ ถาง เยียง” แปลไดว้ า่ หร่�ำ = 15 ค่�ำ ถาง = เดอื น /เยยี ง = เดือนหนงึ่ เปน็ ประเพณีที่มีมากว่า100 ปี สบื สานกนั รุ่นส่รู นุ่ เพอ่ื สะเดาะเคราะห์ปัดเป่าสิ่งไมด่ ี ออกจากหมบู่ า้ น วนั แรกเวลาประมาณสามทมุ่ เปน็ เวลาการเชญิ เจา้ มาประทบั ทรี่ า่ งทรง และชว่ งเชา้ ของวนั ทส่ี องคอื วนั สะเดาะเคราะหจ์ ะมกี ารนำ� เรอื ไปลอยเคราะห์ในแหลง่ นำ้� เพอื่ ใหค้ นในหมบู่ า้ นอยเู่ ยน็ เปน็ สขุ ไรท้ กุ ข์โศกโรคภยั ตามความเชอ่ื โบราณ นอกจาก การให้ความส�ำคัญในพิธีกรรมสักการะต่อเทพเจ้าแล้ว คนไทยเชื้อสายเวียดนาม ยังให้ความส�ำคัญต่อบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ ดังจะเห็นได้จากการมีพิธีไหว้ระลึกถึง บรรพบุรุษทบี่ า้ นของตัวเองเมื่อครบรอบวันจากไปของบรรพบรุ ษุ ซึง่ อนั นกี้ ส็ ะท้อน ว่าคนไทยเชื้อสายเวยี ดนามให้ความเคารพตอ่ บรรพบุรษุ เปน็ อยา่ งมาก” อาจารยอ์ ทุ ัย เจริญธนกุล อายุ 85 ปี เถ่ยกงุ๋ ชมุ ชนโพนบก ลอยเรอื สะเดาะเคราะห์ 53



4 Food and Culture เอกลักษณ์ ในอาหาร อาหารเป็นปัจจัยพื้นฐานของการด�ำรงชีวิต อาหารในแต่ละ พ้นื ท่ี แตล่ ะทอ้ งถ่ิน กจ็ ะมคี วามโดดเด่นเฉพาะด้าน เฉพาะตวั ที่แตกต่างกันออกไป และอาหารคาว-หวานของคนไทย เชอ้ื สายเวยี ดนาม ในจงั หวดั นครพนม กม็ อี ตั ลกั ษณเ์ ฉพาะถนิ่ ซ่ึงหลายเมนูก็หารับประทานไม่ได้ง่ายนัก แม้แต่ในประเทศ เวยี ดนามเอง

นบั เปน็ เวลากวา่ 40 ปแี ลว้ ที่ โกเจอื่ ง เฟ่ืองรตั น์ จติ รจำ� นงคด์ ี หรอื เฟอ่ื งรตั น์ จติ รจำ� นงคด์ ี คนไทยเชอื้ สาย เวียดนามวยั 67 ปี จะลุกข้ึนมาปรุงอาหาร “ข้าวโซยเป็นอาหารเช้าท่ีคนนิยมกิน ที่ช่ือว่า “โซย” ซ่ึงเป็นชื่อเรียกในภาษา เพราะราคาถูกกินง่ายเป็นหมือนฟาสต์ฟู้ด เวยี ดนาม ทแี่ ปลตรงตวั วา่ ขา้ วเหนยี ว แตเ่ พอื่ ลูกค้าอิ่มได้ในราคา 5-10 บาท ก็อ่ิมได้ ให้ง่ายต่อการจดจ�ำ โกเจ่ือง จึงตั้งช่ือแบบ เมอ่ื กอ่ นมคี นขายหลายเจา้ ขายไมน่ านกเ็ ลกิ ไทยๆ ว่า “ข้าวโซย” เพราะได้ก�ำไรไม่เยอะอาศัยว่าขายได้มาก และมลี กู คา้ เยอะ ปา้ ตน่ื ตงั้ แต่ ตี2 มาทำ� เสรจ็ “โกขายข้าวโซย 5 อย่าง สมัยก่อน ราวๆ ตี 5 ก็ออกมาขายตลาด ขายจนหมด ขายหอ่ ละ 3 บาท ขายสง่ หอ่ ละ 2 บาท เวลา ถงึ กลับ มนั เป็นอาชพี ที่เหนือ่ ย ตอ้ งรกั จรงิ ผ่านมาก็ปรับราคาขึ้นขายห่อละ 5 บาท ถงึ ทำ� มาไดถ้ ึงป่านน”ี้ ขายส่งหอ่ ละ 4 บาท ขาย ถา้ ชว่ งเทศกาล ขายดีท�ำเป็นกระสอบ กระสอบหน่ึงหนัก 50 โล ข้าวโซยท�ำตั้งแต่สมัยพ่อแม่แล้ว ถา้ รวมระยะเวลากข็ ายมา70 ปกี วา่ ๆ เรม่ิ แรก เดินหาบขายตามตลาดจนมาเป็นท่ีนิยม และมีร้านขายเป็นหลักแหล่ง ข้าวโซยเป็น ข้าวธัญพืชจะมีส่วนผสมของถ่ัวและงามีทั้ง แบบหวานเคม็ โซยหวา่ ง เมอ่ื กอ่ นวธิ กี ารทำ� ยากมาต้องใช้ขม้ินตากแห้งและเอาไปต�ำ กว่าจะได้ตัวข้าวแบบที่ยังไม่ปรุงก็กินเวลา จนหมดวนั แลว้ แตป่ จั จบุ นั มผี งขมนิ้ สำ� เรจ็ รปู ทำ� ใหไ้ มย่ งุ่ ยากเสยี เวลา ขา้ วกำ�่ กบั ขา้ วใบเตย เปน็ เมนูประยุกต์ใหเ้ ขา้ กบั คนพืน้ ถิ่น 56

Food and Culture ขา้ วโซย 1. โซยโง (ข้าวเหนยี วข้าวโพด) 2. โซยหว่อ (ข้าวคลกุ ถ่วั ) 3. โชยหวา่ ง (ขา้ วเหลอื งหวาน) เปน็ เมนตู น้ ต�ำรบั มีเมลด็ ข้าวโพด เมนภู าคเหนอื ของเวยี ดนาม เมนภู าคใต้หรือเรียกว่าขา้ วไซง่อน ผสมลูกเดอื ย โรยหน้าด้วยถว่ั ซีก ข้าวเหนียวน่ึง คลุกกบั ถั่วซีก โรยหนา้ ดว้ ยงาน้ำ� ตาลมะพร้าวขดู โรยหน้าดว้ ยกากหมูและหอมเจยี ว และงาควั่ รสหวาน รสชาตอิ อกเคม็ 4. ข้าวก่ำ� 5. ขา้ วใบเตย คอื ข้าวเหนยี วดำ� มนู กะทิ คือขา้ วเหนยี วมนู ใส่น�ำ้ ใบเตย โรยมะพร้าว รสชาติหวานมนั โรยมะพร้าว รสชาติหวานมัน 57

“โหย่ย” หรือเมนูไส้อ่ัวเลือดหมู เลียน ผา่ มถิ เลยี น ผา่ มถิ คนไทยเช้ือสายเวียดนามจาก ชมุ ชนหลา่ งปา่ คอื คนทที่ ำ� “โหยย่ ” ขายมา ร้านป้าเป็นร้านเก่าแก่ท่ีสุดในตลาดสด อยา่ งตอ่ เนอื่ งถงึ 48 ปี นครพนม ขายต้ังแต่สมัยทองค�ำบาทละ 400 บาท” “ปา้ ทำ� ไสอ้ ว่ั เวยี ดนามขายในตลาดสด ภาษาเวยี ดนามเรียกว่า “โหย่ย” พ่อเป็นคน แม้ว่าสีสันของอาหารจะดูมืดๆ ด�ำๆ สอนให้ท�ำ “โหย่ย” ช่วยพ่อท�ำมาต้ังแต่ยัง แต่หากใครได้ลองชิมก็จะพบว่ารสชาตินั้น เล็กๆ พ่อท�ำอาชีพน้ีจนเลี้ยงลูกได้ 6 คน ตรงกนั ขา้ มกบั ภาพลกั ษณ์ในตวั อาหารอยา่ ง ก็เลยคิดว่าเราก็น่าจะท�ำได้และก็รับช่วงต่อ ส้ินเชิง นอกจากจะเอาไว้กินเป็นกับข้าว มาจากพอ่ สมัยก่อน 2 บาท 5 บาทก็ขาย ท่ัวไปแล้ว “โหย่ย” ยังถือเป็นเมนูข้ึนโต๊ะท่ี เดี๋ยวนี้ของแพงขึ้นราคาก็ปรับไปตามเวลา นิยมใช้ส�ำหรับการไหว้บรรพบุรุษผู้ล่วงลับ สว่ นตวั ปา้ เองกค็ งทำ� ไดเ้ ทา่ ท่ไี หว ลกู ๆ ไม่ให้ อีกดว้ ย ทำ� แล้วและเคา้ ก็ไม่รบั ชว่ งตอ่ คงหมดท่ีปา้ “ขั้นตอนท�ำโหย่ยก็เร่ิมจากเตรียมผัก โหยย่ 3 ชนดิ ผกั ชีฝรั่ง ผกั แพรว ตน้ หอม นำ� มา ซอยผสมรวมกันกับพริกสด น�ำเศษหมูบด 58

Food and Culture กบั เลอื ดหมสู ดทปี่ รงุ รสและนำ�้ เปลา่ ผสมให้ ปัจจุบันโหย่ยไม่ได้กินกันเฉพาะคนไทย เข้ากันทิ้งไว้ซักพักเลือดจะแข็งตัวข้ึน เช้ือสายเวียดนามเท่านั้น คนทซ่ี อ้ื สว่ นมาก และสุดท้ายก็ล้างไส้หมูสดด้วยเกลือให้ คือคนไทยพื้นถน่ิ และกนิ เยอะกวา่ ดว้ ยซ้ำ� ” สะอาดและปล้ินไส้ให้กลับด้าน เสร็จแล้ว กรอกเลือดหมูลงไปให้เต็ม มัดหัวท้าย และน�ำไปต้มไฟอ่อนๆ พลิกไปมาและใช้ ไม้จิ้มไปท่ีไส้ไม่งั้นมันจะแตก ดูจนไส้แน่น นำ้� ตม้ ใสกแ็ ปลวา่ สกุ แลว้ ไสก้ รอกเลอื ดถงึ จะ มีเลือดเป็นส่วนผสมหลัก แต่รสชาติดีและ ไมค่ าวอย่างท่ีใครๆ คิด เพราะผกั ที่ใสล่ งไป ทั้ง 3 ชนิดน้ันให้กล่ินหอม นิยมกินเป็น กบั ขา้ ว กนิ เลน่ หรอื เปน็ กบั แกลม้ นอกจากนน้ั ยงั เปน็ อาหารขนึ้ โตะ๊ ไหวเ้ จา้ และไหวบ้ รรพบรุ ษุ ถือเป็นของท่ีต้องมีในส�ำรับไหว้ห้ามขาด เลือดหมผู สมเคร่อื งยัดไส้ ไส้โหย่ยหลงั ต้มเสร็จ 59

“บุ๋นหม็อก” หรือ ขนมจีนน�้ำยา- มณทชิ า ศริ วิ รเดชกุล หมยู อเวยี ดนาม “โกเตมิ ” มณทชิ า ศริ วิ รเดช วัย 62 ปี เริ่มท�ำ “บุ๋นหม็อก” ด้วยการ ต่อมาท�ำบุ๋นหม็อก ขายไม่ค่อยดีเท่าไหร่ก็ ชว่ ยแมข่ องเธอตงั้ แตย่ งั เลก็ ๆ นบั จากวนั นน้ั ทำ� หมยู อเพมิ่ ของหวาน หมกี่ ะทิ แมล่ กู ชว่ ย ถึงวนั น้ีก็เปน็ เวลาถึง 50 ปแี ล้ว กันท�ำหมดเพราะมีลูก 8 คน วันไหนว่าง หนอ่ ยกห็ ารายไดเ้ พมิ่ ใหล้ กู พอกนิ สมยั กอ่ น “สมัยก่อนรัฐบาลไทยจ�ำกัดสิทธิเรื่อง อาหารเวียดนามไม่ค่อยมีคนนิยมเท่าไหร่ การท�ำอาชีพเค้าว่ามาแย่งอาชีพคนไทย ก็มีแต่คนเวียดนามกินกันเอง คนไทยกิน พ่อแม่ก็เลยคิดหาอาชีพ เลยท�ำกับข้าวไป นดิ ๆ หนอ่ ยๆ พอคนเรม่ิ กนิ กต็ ดิ ใจในรสชาติ ขายตามร้านตามบ้าน ใครมเี งินหนอ่ ยเคา้ ก็ ซ้ือกินเรื่อยเพราะเราขายถูกกว่าในร้าน ช่วยซื้อแล้วก็เอาไปขายในตลาด มีคนขาย อาหารอกี ปจั จบุ นั คนทม่ี านครพนมสว่ นมาก อาหารเวยี ดนามเยอะมาก งดั วชิ ามาทกุ อยา่ ง นักท่องเท่ียวจะนิยมกินอาหารเวียดนาม ที่จะท�ำให้อาหารอร่อย ท่ีนาเราก็ไม่มี เป็นอันดับหนึ่งเป็นอาหารสุขภาพ ตอนนี้ เราเปรียบตลาดเหมือนท่ีนาไว้ท�ำมาหากิน ทรี่ า้ นกข็ ายปอเปย๊ี ะทอด บนุ๋ หมอ็ ก แม่ของโกชื่อนางเฮือง พ่อชื่อนายหยุ๋ง แต่คนเวียดนามจะเรียกช่ือภรรยาตาม สมัยก่อนเวลาขายต้องเอาไปเสริฟ ชื่อสามี พ่อชื่อหยุ๋งเค้าก็เลยเรียกชื่อแม่ว่า ถึงที่ลูกค้านั่งในตลาดแผงไหนก็เสริฟ บ่าหยุง (ยายหยุ๋ง) โกต้องช่วยแม่ค้าขาย กินเสร็จก็ไปเก็บจานทีหลัง เด๋ียวน้ีเค้าต้อง ต้ังแต่เดก็ เพราะพอ่ แมม่ ลี ูกเยอะแม่ท�ำอะไร ลกู กต็ อ้ งช่วยแม่ทุกอย่าง โกออกมาช่วยแม่ ตอนอายุ 11 ปี ชว่ งแรกกซ็ อื้ มาขายไปขาย ผกั ขายปลาไดก้ ำ� ไรนิดๆ หนอ่ ยๆ แลว้ กค็ ดิ ทำ� อาหารและหลอกลอ่ ให้คนไทยกนิ อาหาร เวียดนามเพื่อเราจะได้เงินมาเลี้ยงชีพให้ลูก มีกิน แม่โกขายหลายอย่างแต่ขายไม่ดี วนั นงึ ขายได้ 10-20 บาท เริ่มตน้ คือขายผัก 60

มาซอื้ ทรี่ ้านเอาใส่ถุงกลบั ไปกนิ บ้าน เด๋ียวน้ี Food and Culture คนท่ีมาซ้ือคนไทย 70% คนไทยเชื้อสาย เวยี ดนามซอ้ื แค่ 30% มชี ว่ งนงึ มกี ารผลกั ดนั เป็นแบบท่ีกล่าวหา เขาก็เข้าใจเราเร่ือยๆ ใหก้ ลบั เวยี ดนามคนเวยี ดนามโดนแกลง้ เยอะ หลังจากนั้นรัฐบาลประกาศให้สัญชาติไทย ขายของในตลาดโดนคว่�ำแผงก็มี และก็มี หลังจากน้ันชวี ิตความเป็นอยกู่ ด็ ีขึ้น ขา่ วลอื วา่ กนิ อาหารเวยี ดนามแลว้ อวยั วะเพศ ผู้ชายจะหดสั้นท�ำให้คนไทยไม่กล้ากิน ในสว่ นการทำ� บนุ๋ หมอ็ ก กต็ ม้ ไฟออ่ นๆ ส่วนผู้หญิงกนิ แล้วจะเปน็ ลมชัก มีแกล้งมา ใหน้ ำ้� กระดกู ใส ใสร่ ากผกั ชลี งไปตม้ จนเดอื ด ชกั หนา้ ร้านทีข่ ายก็มี ตาช่งั ขาดนิดหน่อยก็ ตกั ฟองใหห้ มดจนใสสะอาด จากน้ันเตรียม โดนจบั ตอนนัน้ คนเวียดนามก็รว่ มกนั ก็แก้ ผักสด มผี ดั กาดหอม หวั ปลี ผกั ชี ที่ข้นึ ช่อื สถานการณ์คือปฎิบัติกับคนไทยให้ดี กค็ อื ผกั อโี ต มชี อ่ื เวยี ดนามวา่ เตย๋ี โต แตค่ นไทย เพราะเมอื งไทยใหท้ อี่ ยู่ใหท้ ก่ี นิ ทำ� มาคา้ ขาย เรยี ก อีโต แล้วก็ใสห่ ม็อก ลกู ชิน้ หมลู งไป เราชว่ ยงานสงั คมและคอ่ ยๆบอกวา่ เราไม่ได้ เตมิ พริกกระเทียมเจยี วลงไปกเ็ ป็นอันเสร็จ บ๋นุ หมอ็ ก เคล็ดลับท่ีท�ำให้บุ๋นหม็อกของเรา พิเศษคือเรามีน้�ำมันพริกแกง เห็นคนไทย มีพริกแกงก็เลยลองท�ำ มันช่วยให้มีกลิ่น หอมข้ึน เพิ่มรสชาติดีขึ้นกว่าเดิมสีสวย เรยี กวา่ “เอดิ๊ เหมา่ ” ทำ� มาจากพรกิ แดงใหญ่ บดละเอียดผดั กับกระเทียมเจียว” ในทุกวันนี้...ไม่ว่าจะเมนูอาหารที่ ถอดแบบต้นฉบับอย่างไม่ผิดเพ้ียน หรือจะ เปน็ เมนทู ปี่ ระยกุ ต์ สรา้ งสรรคข์ น้ึ ใหม่ เพอ่ื ให้ สอดคลอ้ งไปกบั วฒั นธรรมการกนิ ของคนไทย ก็ล้วนเป็นส่วนส�ำคัญในการสะท้อนให้เห็น ถึงการมีอยู่ของรากวัฒนธรรมของคนไทย เชื้อสายเวียดนามในนครพนม 61

62

5 The Story of Language \"ภาษารากเหงา้ วฒั นธรรม\" การเรียนการสอนภาษาเวียดนามในจังหวัดนครพนมทุกวันน้ี เป็นไปอย่างเสรีมีผู้ให้ความสนใจต้ังแต่ในระดับชั้นเด็กเล็ก ไปจนถึงระดับอุดมศึกษา ต่างจากเม่ือครั้งอดีต ท่ีการเรียน การสอนกลับเป็นเร่ืองต้องห้าม ต้องท�ำกันอย่างลึกลับและ เต็มไปดว้ ยความยากล�ำบาก 63

ภายในตึกแถวอาคารพาณชิ ยท์ ่ตี ั้งอยู่ในชุมชนวัดป่า หรอื “หล่างป่า” ซง่ึ เรยี กกนั ตาม ความคุ้นเคยของคนไทยเชื้อสายเวียดนาม ปัจจุบันได้ถูกใช้เป็นห้องเรียนภาษาเวียดนาม เพื่อเปิดสอนให้แก่เด็กเล็กท่ีสนใจ แรงบันดาลใจในการเปิดสอนภาษาเวียดนามของท่ีน่ี ก็มาจากความต้องการให้เด็กๆ ได้ซึมซับท้ังภาษารวมถึงมีความเข้าใจต่อรากเหง้าทาง วฒั นธรรมของบรรพบรุ ษุ และภายใตก้ ารสนบั สนนุ ของสมาคมคนไทยเชอ้ื สายเวยี ดนามจงั หวดั นครพนม ที่นี่จึงสามารถเปิดเป็นห้องเรียนท่ีให้ความรู้แก่เด็กๆ ได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทง้ั ส้ิน “สมาคมคนไทยเชื้อสายเวียดนาม สถานท่ีเรียน เรียนเสร็จก็มีขนมให้เด็ก จะมีอยู่แทบทุกจงั หวดั แถบภาคอีสาน ทาง เพื่อเป็นก�ำลังใจ ครูทุกคนก็อยากให้เด็กๆ สมาคมได้มีความเห็นร่วมกันว่า ควรจะ มาเรียนเยอะๆ เห็นเด็กสนใจเรียนย่ิงเยอะ อนรุ กั ษป์ ระเพณแี ละภาษาเอาไวจ้ งึ มแี นวคดิ ก็ยิ่งสอนสนุก เดก็ ๆ สมัยนี้ฉลาด เคยได้ยิน ใหแ้ ต่ละสมาคมชว่ ยกันส่งเสริมและผลกั ดัน เด็กบอกว่าถ้าเรียนแล้วถ้าได้ไปเที่ยว จึงเป็นที่มาของศูนย์เรียนภาษาเวียดนาม เวียดนามกฟ็ งั ร้เู รอื่ งจะได้สื่อสารได้ บางคน หล่างป่า เราสอนให้ฟรีตอนนี้มีเด็กไทยที่ กค็ ดิ ไกลวา่ ตอ่ ไปจะทำ� ธรุ กจิ ขา้ มชาตริ ะหวา่ ง ไม่มีเชื้อสายเวียดนามสนใจมาเรียนเราก็ ไทยและเวียดนามเลย เราเน้นการสอนให้ ยนิ ดมี าก ศนู ยก์ ารเรยี นนเ้ี ราเปดิ มา 2 ปแี ลว้ ใชไ้ ด้ในชีวิตประจำ� วัน อยากให้ลกู หลานได้ ตวั ผมเองกเ็ ปน็ เหมอื นครูใหญแ่ ละจะมคี รอู กี เรยี นเพราะมคี วามเกยี่ วขอ้ งกนั กบั ประเพณี 2-3 ชว่ ยกันสอนจะไดด้ ทู ่วั ถงึ เราเรียนในวัน วฒั นธรรม จะไดม้ คี วามเขา้ ใจในการสอ่ื สาร เสาร-์ อาทติ ยเ์ วลา18.00-19.30 เราใชเ้ วลาเรยี น กับปู่ ยา่ ตายาย” 1.30 ชวั่ โมง มีเดก็ เรยี นประมาณ 40 คน แบบเรียนท่ีเราใช้สอนเป็นแบบเรียนตาม องคเ์ สา หรอื ศวิ รตั น์ ตนั ตพิ พิ ฒั กลุ ชยั หลักสูตรประเทศเวียดนาม สถานท่ีเรียน อายุ 66 ปี ประธานชมุ ชนหลา่ งปา่ ก็เป็นการสนับสุนของคนในชุมชนให้เป็น (ชุมชนศรีเทพ) 64

The Story of Language ศวิ รตั น์ ตันตพิ พิ ัฒกุลชัย (องค์เสา) เม่ือยอ้ นเวลากลบั ไปประมาณ 60 ปีกอ่ น “องคเ์ สา” หรือ ศวิ รตั น์ ตันตพิ ิพัฒกุลชัย เขาก็คือหน่ึงในอดีตนักเรียน และครูสอนภาษาเวียดนามที่ผ่านยุคสมัยแห่งความยากล�ำบาก จนกระทั่งไดร้ ับสทิ ธิให้เป็นคนไทยอยา่ งเชน่ ในปจั จบุ นั “การเรยี นภาษาเวยี ดนามในอดตี เมอ่ื ปี เหลอื บ้านละไม่เกิน 5-3 คน แอบเรยี นตาม พ.ศ.1960 ถือเป็นสิ่งต้องห้าม ไม่ให้เรียน ใตถ้ นุ บา้ นหรอื ในหอ้ งครวั เวลาไปเรยี นกต็ อ้ ง ทางการไทยมีความเช่ือว่าคนเวียดนามมีใจ เหน็บสมุดเอาไวใ้ ต้เสือ้ ไม่ให้ใครเหน็ ไมง่ ั้น ฝักใฝ่ในระบบคอมมิวนิสต์ตามแบบโลกเสรี โดนตำ� รวจจับได้ แบบเรียนที่ใชเ้ รยี นนน้ั หา คนเวยี ดนามในทกุ จงั หวดั ทอี่ ยใู่ นประเทศไทย ยากมากจะมีคนแอบเอามาจากเวียดนาม ตอ้ งเรยี นแบบหลบๆ ซอ่ นๆ การเรยี นเรมิ่ แรก แลว้ ครกู จ็ ะคดั ลอกแจกจา่ ยกนั ไปตามชมุ ชน เปน็ การสอนจากพอ่ แม่ รนุ่ พๆ่ี สอนตอ่ ๆ กนั ต่างๆ วิชาที่เรียนเหมือนการเรียนในระบบ ไปจะเรยี นกนั ตามบา้ น อาจจะเรยี นกนั 10 คน ของไทยคอื มกี ารสอนวชิ าคณติ ศาสตร์ , วชิ า ต่อหลัง แต่เม่ือพอทางการเพ่งเล็งก็ลดลง วทิ ยาศาตร,์ วชิ าสงั คมประวตั ศิ าสตรเ์ วยี ดนาม, 65

ศลิ ปะ,พละศกึ ษา คลา้ ยกบั เดก็ ไทย สว่ นเวลา แล้วก็ผลัดเปลี่ยนกันเพื่อไม่ให้จับได้ จะมี เรยี นนนั้ จะเปน็ ชว่ งเชา้ และชว่ งคำ�่ เพราะเปน็ ตน้ ทางคอยดูใหถ้ า้ หากมตี ำ� รวจมากจ็ ะมกี าร ช่วงนอกเวลาราชการจะมีการเรยี น 2 ชว่ ง บอกต่อกันเช่น ชุมชนหล่างป่า (ชุมชนวัด ชว่ งแรก เรยี นตอน6.00-8.00 น. และชว่ งสอง ศรเี ทพ) จะมรี อ้ ยกระปอ๋ งนมเพอื่ สง่ สญั ญาณ เรยี นตอน16.00-18.00 น. หลงั จากนนั้ บางคน คลา้ ยระฆงั ถา้ มตี ำ� รวจมากจ็ ะมกี ารสน่ั ระฆงั กไ็ ปเรยี นภาษาไทยตอ่ การเรยี นภาษาเวยี ดนาม แล้วครูนักเรียนก็ต้องหลบสลายตัวไปซ่อน นนั้ จะเรยี นตั้งแต่ชั้นอนุบาล เริ่มเรียนต้งั แต่ หรือแยกยา้ ยกนั กลบั คนละทาง 7 ขวบ เวลาสอนก็ไมส่ ามารถเรยี นไดท้ เ่ี ดยี ว เชน่ บา้ นนาย ก. สอนอนบุ าลตอน 8 โมงเชา้ ส่วนตัวผมเองก็เคยโดนต�ำรวจจับถึง หลังจากนั้นก็ไปเรียนต่อบ้านนาย ข. และ 2 ครงั้ ตอนนั้นก็โตแลว้ เทยี บเทา่ ประมาณ นาย ก. กส็ อนนกั เรยี น ป.2 ตอ่ เปน็ การสอน ระดบั ชน้ั ม.3 ซงึ่ เปน็ ชน้ั สงู สดุ ของการเรยี น แบบพสี่ อนนอ้ ง ครบู างคนเรยี น ม. 3 กส็ อน ภาษาเวยี ดนามในประเทศไทย ตำ� รวจจบั ไป เดก็ ป.1 แบบนี้ขอ้ ไดแ้ ตล่ ะชมุ ชนจะมกี าร ก็บอกว่าท่ีเราเรียนเป็นส่ิงไม่ดีเป็นการสอน จัดการกันเอง ส่วนสถานท่ีเรียนน้ันก็ไม่ เร่อื งลัทธิคอมมิวนสิ ต์ ท้ังๆ ที่ในสมุดทเ่ี รา จ�ำเป็นต้องเรียนบ้านครู บ้านนักเรียนก็ได้ เรยี นมแี ตเ่ นอื้ หาวชิ าคณติ ศาตร,์ วชิ าสงั คม ไม่มีอะไรเลยที่เก่ียวกับการต่อต้าน เราก็ 66

The Story of Language การเขียนภาษาเวียดนาม อธิบายบอกต�ำรวจไปแบบนี้ แล้วต�ำรวจก็ เวียดนามจัดตั้งข้ึน เพื่อท�ำหน้าท่ีดูแลคน ปล่อย พอผมเรียนจบก็ยังเป็นครูสอน เวียดนาม การสอนภาษาเป็นหน่ึงในนั้นท่ี นักเรียนด้วย ต้องยกเลิกไปด้วยเพราะสถาณะการณ์ เปลี่ยนไป ผู้น�ำของไทยคงรู้แล้วว่ากลุ่มที่ เหตุผลที่ต้องเรียนภาษาเวียดนาม เหลือตกค้างในไทยคงไม่ได้กลับเวียดนาม เพราะทุกคนเช่ือหมดใจว่ายังไงเราก็ต้องได้ ตอ้ งอยใู่ นประเทศไทยตอ่ ไป จงึ ยกเลกิ การเรยี น กลับเวียดนาม คนญวนอพยพทุกคนเช่ือ ภาษาเวยี ดนาม คนเวยี ดนามทเ่ี กดิ ในชว่ งนนั้ อยา่ งหมดใจวา่ จะตอ้ งไดก้ ลบั เวยี ดนามแนๆ่ มกี ารสง่ เสรมิ ใหเ้ รยี นภาษาไทยแทน แตก่ ็ไม่ เราอพยพมาไทยชวั่ คราวเทา่ นน้ั พอ่ แมบ่ อก สามารถเรียนได้สูงๆ มากสุดคือเรียนได้ถึง วา่ เราตอ้ งรภู้ าษาเวยี ดนามเพราะเมอื่ กลบั ไป แค่ ม.3 เทา่ นั้น เรยี นต่อมหาวทิ ยาลัยไม่ได้ จะได้ใช้ชีวิตท่ีนั่นได้แล้วถ้าอยากเรียนต่อ จนเมอ่ื ไดเ้ ป็นไทยใหมม่ ชี ื่อนามสกลุ ไทยลกู ก็จะได้ไมม่ ปี ัญหา หลานคนไทยเช้ือสายเวียดนามก็สามารถ เรียนสงู ได้ทกุ คน” การเลิกสอนภาษาเวียดนามคือ เลกิ ตอนทเ่ี วยี ดนามไดร้ วมประเทศแลว้ ผนู้ ำ� ของประเทศไทยก็ได้ให้ยกเลิกองค์กรที่คน 67

สอาด วงศ์ประเสรฐิ สอาด วงศป์ ระเสรฐิ อายุ 83 ปี อดตี กวา่ 5 คน ดงั นนั้ นกั เรยี นจะเรยี น 30-40 คน ครใู หญส่ อนภาษาเวียดนามกลา่ วว่า ตอ่ หอ้ งไม่ได้ เวลาเรียนถา้ มตี ำ� รวจเขา้ ไปก็ จะมยี าม ตอ้ งมคี นเฝา้ ดู ถา้ เรยี นบา้ นนจ้ี ะมี “เหตุผลที่ทางราชการไทยให้หยุด โตะ๊ เกา้ อกี้ ระดานใหค้ รสู อนใหน้ กั เรยี น คนใน เรียนภาษาเวียดนามก็เพราะประเทศไทย หมบู่ า้ นจะคอยดถู า้ มรี ถตำ� รวจมา กจ็ ะตะโกน ตอนน้ันได้ประกาศกฎอัยการศึกเพ่ือน�ำมา บอกว่าต�ำรวจมาต้องหนีไปให้หมดเหลือ ควบคุมสถานการณ์พิเศษเช่น จลาจลหรือ 5 คน เค้าไม่ใหเ้ กิน 5 คนไงก็ตอ้ งให้มนั ถูก สงคราม ประกาศต้ังแต่สมัยท่านจอมพล กฎหมาย 5 คน ก็จับไม่ได้ ถ้า 6-7 คน ป พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี จนถึง เคา้ จับเลย” สมัยท่านจอมพลสฤษด์ิ ธนะรัชต์ ก็ไม่ ประกาศเลิก มีการห้ามการชุมนุมกันเกิน 68

The Story of Language ปจั จบุ นั ทม่ี หาวทิ ยาลยั นครพนม ไดจ้ ดั ใหม้ หี ลกั สตู รดา้ นภาษาเวยี ดนาม เพอ่ื เปดิ โอกาส ใหน้ สิ ติ นกั ศกึ ษาทสี่ นใจสามารถเลอื กเรยี นภาษาเวยี ดนามไดอ้ ยา่ งเสรี โดยนกั ศกึ ษาผเู้ รยี นมอง วา่ นอกจากภาษาไทย และภาษาสากลอยา่ งภาษาอังกฤษแลว้ การมคี วามรใู้ นภาษาที่ 3 อยา่ ง เช่นภาษาเวยี ดนามนับเป็นต้นทุนทดี่ สี ำ� หรบั การประกอบอาชพี ในอนาคต “ภาษาเวียดนามเป็นหน่ึงในภาษาท่ี คิดว่ามีโอกาสเพราะจังหวัดนครพนมมี สำ� คญั มาก จงั หวดั นครพนมมคี นไทยเชอ้ื สาย สะพานขา้ มไปประเทศลาว-ประเทศเวยี ดนาม เวยี ดนามอยู่เยอะมาก มหี มู่บา้ นโฮจิมินห์ท่ี อีกท้ังนครพนมเป็นพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ ตั้งอยู่ท่ีบ้านนาจอก การสื่อสารท่ีจังหวัด น่าจะมีประโยชน์ต่อไปในอนาคต นครพนม นครพนมมีการใช้ภาษาเวียดนามอยู่เยอะ เป็นจังหวัดที่ให้ความส�ำคัญด้านการเรียน เช่นในตลาดสดเทศบาลนครพนม 80 % ภาษาเวียดนามเปน็ อยา่ งมาก จะมีแม่ค้าเป็นคนไทยเช้ือสายเวียดนาม ประโยชน์ที่จะได้จากการเรียนคือได้ใช้ใน อรณา กิตตนิ ันทพร ชีวิตประจ�ำวัน เรารู้คำ� ศัพท์จะได้สือ่ สารกัน นกั ศกึ ษามหาวทิ ยาลยั นครพนมสาขา ไดไ้ มผ่ ิดพลาด เร่ืองประโยชน์ทางธุรกิจนั้น วชิ าคอมพวิ เตอรธ์ ุรกิจ ปี 3 69

สง่ิ ทที่ ำ� ใหก้ ารเรยี นภาษาเวยี ดนามในนครพนมกลบั มาคกึ คกั อกี ครงั้ กเ็ นอื่ งมากจากการ ทรี่ ฐั บาลเวยี ดนามมนี โยบายเจรญิ ความสมั พนั ธก์ บั ประเทศตา่ งๆ ในภมู ภิ าคอาเซยี น โดยเฉพาะ การเยอื นหมบู่ ้านคนไทยเชือ้ สายเวียดนามของผนู้ ำ� ของประเทศในช่วงปี พ.ศ. 2543 “การสอนภาษาเวียดนามในจังหวัด คนเวียดนามเรียนเพ่ือที่ว่าเวลากลับบ้านที่ นครพนมเกดิ ขน้ึ หลงั จากการอพยพครงั้ ใหญ่ เวยี ดนามไปจะไดเ้ รยี นตอ่ สงู ๆ ไดเ้ ลยไมต่ อ้ ง เข้ามาในไทยช่วงภัยหิวโหยปี ค.ศ. 1945 เรมิ่ เรยี นใหมแ่ ละสามารถสมคั รงานทำ� ไดเ้ ลย ครง้ั นน้ั คนเวยี ดนามเขา้ มาอยใู่ นไทย ชว่ งแรก ส่วนเร่ืองการสอบข้ามช้ันเรียนนั้นจะมีการ เข้ามาเพ่ือลี้ภัยไม่ได้ต้ังใจจะต้ังถิ่นฐานอยู่ สอบไขว้สลับกันเช่น ชุมชนบ้านนาจอก ถาวร ผู้น�ำคนเวียดนามในยุกต์นั้นเห็นว่า จะสอบก็ให้ครูบ้านดอนโมงมาคุมสอบ ลกู หลานทอี่ ยู่ในเมอื งไทยควรไดเ้ รยี นภาษา ส่วนวิชาเรียนในห้องเรียนนั้นต้องเรียนวิชา เวยี ดนาม บวกกบั นโยบายของทา่ นโฮจมิ นิ ห์ พนื้ ฐานเหมอื นประเทศไทยเชน่ คณติ ศาสตร์ คือการสู้กับภัยการไม่รู้หนังสือ นโยบายนี้ วิทยาศาสตร์ เรียนช่างไม้การงานพ้ืนฐาน กระจายไปทั่วในเวียดนาม การสอนหนังสือ อาชพี เยบ็ ปกั ถกั รอ้ ยมหี มด ในชว่ งยคุ แชแ่ ขง็ ในประเทศไทยจะมีสอนทุกหมู่บ้านท่ีมีคน ของภาษาเวียดนามเกิดข้ึนในช่วงท่ีคน ไทยเชอื้ สายเวยี ดนามเกาะกลมุ่ กนั อยู่ ครผู สู้ อน เวยี ดนามไดส้ ญั ชาตไิ ทย พอ่ แมเ่ รมิ่ หนั มาให้ จะอุทิศตนสอนให้คนที่มีความสามารถเพื่อ ลกู เรยี นภาษาไทยแทนจงึ เปน็ ชว่ งยตุ กิ ารเรยี น จะได้น�ำไปสอนต่อๆ กันจะมีระบบนี้ในทุก เหลืองเพียงแต่การพูดการส่ือสาร ช่วงปี ชุมชน ช่วงน้ันรัฐบาลไทยเพ่งเล็งกลุ่มคน ค.ศ. 2004 มกี ระแสการเรยี นภาษาเวยี ดนาม เวียดนามมากเพราะเข้าใจว่าจะเรียนเพื่อ เกิดขึ้น ถูกส่งเสรมิ ใหเ้ ปน็ ภาษาท่ี 3 กระแส เป็นปฏิปักษ์กับไทย แต่ความจริงคือ อาเซ่ียนมาแรง แถบจังหวัดชายแดนที่มี 70

The Story of Language อาจารย์พัชรพงษ์ ภูเบศรพีรวสั คนไทยเช้อื สายเวยี ดนามอยู่ มกี ารส่งเสรมิ จะเห็นได้ว่าการเรียนการสอนภาษา ตามโรงเรยี น สถาบันการศึกษาตา่ งๆ จงึ มี เวยี ดนามทจี่ งั หวดั นครพนมนน้ั มพี ฒั นาการ การปรบั เพมิ่ ใหเ้ รยี นภาษาเวยี ดนามมากขนึ้ จากยุคสมัยแห่งการต้องห้าม จนก้าวเข้าสู่ อีกเหตุผลท่ีส�ำคัญทางด้านเศรฐกิจประเทศ ยคุ แหง่ ความเสรี ทม่ี คี วามสอดคลอ้ งรว่ มกนั เวียดนามเปิดประเทศมากขึ้น ยิ่งท�ำให้คน ไปกับการที่จังหวัดนครพนมก�ำลังพัฒนา หนั มาสนใจศกึ ษาภาษาเวยี ดนามมากเพราะ ไปสู่การเป็นประตูอีกบานหน่ึงทั้งทางด้าน เปน็ ประโยชน์ในดา้ นธุรกจิ การลงทุน” เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวสู่ประเทศ เวยี ดนามและยงั รวมไปถงึ ประเทศเพอ่ื นบา้ น อาจารยพ์ ชั รพงษ์ ภูเบศรพรี วสั ในย่านอาเซยี นอกี ด้วย อาจารย์สาขาวชิ าภาษาเวียดนาม สถาบันภาษามหาวิทยาลยั นครพนม คนไทยเชือ้ สายเวยี ดนาม ชุมชนโพนบก 71


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook