Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รวมเล่ม

รวมเล่ม

Published by pim_phadung, 2021-09-22 11:07:49

Description: รวมเล่ม

Search

Read the Text Version

ชดุ ฝึกเกียร์ Toyota Vigo นาย ณฐั นนท์ ขาวละเอยี ด นาย ณฐั พล สีทับทมิ โครงการนีเ้ ปน็ ส่วนหน่ึงของการศึกษาตามหลักสตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชีพช้นั สงู สาขางานเทคนคิ ยานยนต์ สาขาวิชาชา่ งยนต์ ปีการศกึ ษา 2564 วทิ ยาลยั เทคนคิ ปทมุ ธานี

ใบรับรองโครงการ วิทยาลัยเทคนคิ ปทมุ ธานี เร่ือง ชดุ ฝึกเกยี ร์ Toyota Vigo โดย นาย ณัฐนนท์ ขาวละเอียด นาย ณฐั พล สีทับทมิ ได้รับอนุมัตใิ ห้เปน็ ส่วนหนงึ่ ของการการศึกษาตามหลกั สูตรประกาศนียบัตรวิชาชพี ……………………………. (............................................) รองผู้อานวยการฝา่ ยวิชาการ วันที่...........เดอื น...............พ.ศ. ............... คณะกรรมการที่ปรกึ ษา ................................................... ประธานกรรมการทีป่ รึกษา (..................................................) ................................................... กรรมการ/สถานประกอบการ (..................................................) ................................................... กรรมการ/สถานประกอบการ (..................................................)

ก ชอ่ื โครงการ ชุดฝกึ เกียร์ Toyota Vigo ผจู้ ดั ทา นาย ณฐั นนท์ ขาวละเอยี ด นาย ณฐั พล สีทับทิม สาขาวิชา วิชาชา่ งยนต์ สาขางาน ยานยนต์ ปกี ารศึกษา 2564 คณะกรรมการทปี่ รึกษา อาจารย์ เชิดศักดิ์ แสนบุญสง่ อาจารย์ มงกุฎ สรุ เดชาวชุ อาจารย์ อิสมาแอล ม่วงคา บทคัดย่อ โครงการชุดแสดงชุดฝึกเกียร์ Toyota Vigo มีวัตถุประสงค์เพ่ือช่วยในการศึกษาชิ้นส่วนของ แต่เกยี ร์ Toyota Vigo แตล่ ะช้ินและเขา้ ใจหลกั การทางานภายใน เพ่อื ใหส้ ามารถนามาพฒั นาเป็นส่ือ การเรียนการสอนในรายการวิชางานเกียร์ให้ใช่อย่างสมบูรณ์ย่ิงข้ึน มีส่วนประกอบของกลุ่มเหล็กที่ นามาวัดขนาดในการทาโครงยึดชุดสาธิตเกียร์ Toyota Vigo ได้ตามขนาดที่วัดไว้ ก็ทาการตัดเช่ือ เหล็กประกอบใช้เข้าด้วยกัน แล้วใส่ล้อเพ่ือสะดวกในการเคลื่อนย้าย ผลการทดลองพบว่า เมื่อนาชุด เกียร์ Toyota Vigo ยกข้ึนโครง โครงมีความสมดุลในการรับน้าหนักของชุดเกียร์ Toyota Vigo ได้ เป็นอย่าง ดีไม่เอียงไปทางซ้ายหรือทางขวา และการหมุนล้อสามารถทาการหมุนล้อ และเคล่ือนย้าย ได้สะดวก เป็นไปตามวตั ถปุ ระสงค์ทต่ี ัง้ ไว้ของการจดั ทาโครงการในครงั้ น้ี

ข กิตติกรรมประกาศ โครงการชุดฝึกเกียร์ Toyota Vigo สาเร็จได้ด้วยดี เนื่องจากได้รับความอนุเคราะห์และ ช่วยเหลอื อยา่ งดียง่ิ จาก ครูทปี่ รึกษา อาจารยก์ ติ ติ กล่ามว่ ง และประธานกรรมการโครงการ อาจารย์ เชิดศักด์ิ แสนบุญส่ง กรรมการโครงการ อาจารย์มงกุฎ สุรเดชาวุช อาจารย์อิสมาแอล ม่วงคา ท่ีได้ กรุณาให้คาแนะนาทางในการทาโครงการชุดฝึกเกยี ร์ Toyota Vigo และข้อคดิ เห็นต่างๆ คณะผู้จดั ทา ขอขอบพระคุณเปน็ อยา่ งสูงมา ณ ทน่ี ี้ ขอกราบขอบคุณคณะครูอาจารย์ทุกท่านท่ีได้ประสิทธ์ิปรสารทวิชาความรู้ให้แก่คณะผู้จัดทา มาโดยตลอด คณะผู้จัดทาจะตระหนักถึงคาสอน และยึดถือเป็นแนวทางในการปฎิบัติ เพ่ือเป็นการ ทดแทนคณุ เปน็ อย่างยิ่ง นาย ณฐั นนท์ ขาวละเอียด นาย ณัฐพล สีทบั ทมิ

ค คานา ในการจัดทาโครงการชุดฝึกเกียร์ Toyota Vigo ในครั้งน้ี มีวัตถุประสงค์ ของโครงการ เพ่ือ สร้างชุดฝึกเกียร์ เพื่อให้นักศึกษาได้ฝึกทักษะในการสร้างชุดฝึกเกียร์ เพื่อให้นักศึกษามีทักษะการ แก้ปัญหา และการประยุกต์ใช้ในการทางานได้จริง ซ่งึ เปน็ ไปตามวัตถปุ ระสงค์ที่ผูจ้ ัดทาสามารถสร้าง ชุดฝึกเกียร์ Toyota Vigo ได้ โดยมีระยะเวลาในการดาเนินโครงการ ต้ังแต่วันท่ี 14 มิถุนายนพ.ศ. 2564 ถงึ วันท่ี 15 ตลุ าคม พ.ศ. 2564 ผจู้ ัดทา นาย ณฐั นนท์ ขาวละเอยี ด นาย ณัฐพล สที บั ทิม

ง สารบญั หน้า บทคัดย่อ…………………………………………………………………………………………………………………………......ก กิตติกรรมประกาศ……………………………………………………………………………………………………………......ข คานา…………………………………………………………………………………………………………………………………….ค สารบัญ………………………………………………………………………………………………………………………………….ง สารบญั ตาราง………………………………………………………………………………………………………………………..ฉ สารบญั รูปภาพ………………………………………………………………………………………………………………………ช บทท่ี 1 บทนา…………………………………………………………………………………………………………………..….1 1.1 ความเปน็ มาของโครงการ………………………………………………………………………………......1 1.2 วตั ถุประสงค์ของโครงการ…………………………………………………………………………………….1 1.3 ขอบเขตของโครงการ…………………………………………………………………………………………..1 1.4 ประโยชนท์ คี่ าดว่าได้รบั ……………………………………………………………………………………….1 1.5 นยิ ามศพั ท์…………………………………………………………………………………………………….…..2 1.6 งบประมาณในการดาเนินงาน………………………………………………………………………….…..2 บทที่ 2 ทฤษฎแี ละเนอ้ื หาท่ีเก่ียวข้อง…………………………………………………………………………………….3 2.1 เกยี รธ์ รรมดา …………………………………………………………………………………………………….3 2.2 กลไกทเี่ กยี่ วข้องกับเกยี ร์……………………………………………………………………………………10 2.3 ระบบการทางานของเกียร์ธรรมดา……………………………………………………………………..18 2.4 สว่ นประกอบของเกยี รธ์ รรมดา…………………………………………………………………………..20 2.5 ปญั หาของระบบเกียรธ์ รรมดา……………………………………………………………………………21 2.6 อตั ราทดของเกียร์…………………………………………………………………………………………….22 บทที่ 3 วิธีดาเนนิ งานโครงการ……………………………………………………………………………………………25 3.1 ศกึ ษาข้อมลู เกี่ยวกบั …………………………………………………………………………………………..25 3.2 ออกแบบโครงสรา้ งโครงการ……………………………………………………………………………….25 3.3 ประกอบโครงการตามแบบ…………………………………………………………………………………25 3.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล………………………………………………………………………………………..34

จ 3.5 ทดสอบการทางาน…………………………………………………………………………………………….34 3.6 บันทึกผลการทดสอบ…………………………………………………………………………………………34 บทท่ี 4 ผลการทดสอบและปรับแต่ง……………………………………………………………………………………35 4.1 ผลการทดสอบความสมดุลของโครง…………………………………………………………………….35 4.2 ผลการทดสอบการหมนุ ล้อ………………………………………………………………………………….35 บทท่ี 5 สรุป อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ…………………………………………………………………………36 5.1 สรปุ ผล……………………………………………………………………………………………………………..36 5.2 อภิปรายผล……………………………………………………………………………………………………….36 5.3 ข้อเสนอแนะ……………………………………………………………………………………………………..36 บรรณานุกรม……………………………………………………………………………………………………………………….37 ภาคผนวก……………………………………………………………………………………………………………………………38 ประวตั ิผู้จดั ทาโครงการ…………………………………………………………………………………………………………39

ฉ สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า 2.1 แสดงตารางแรงบิดเพิ่มขึ้น…………………………………………………………………………………19

ช สารบญั รูปภาพ ภาพท่ี หน้า 2.1 แสดงเกยี รธ์ รรมดาหรือเกยี ร์กระปุก……………………………………………………………………..4 2.2 แสดงแปน้ เหยยี บคันเร่งในเกยี รธ์ รรมดา………………………………………………………………..4 2.3 แสดงกราฟประสทิ ธภิ าพในการขบั ข่ี……………………………………………………………………..5 2.4 แสดงอตั ราทด……………………………………………………………………………………………………6 2.5 แสดงกลไกการทางานควบคุมระยะไกล…………………………………………………………………6 2.6 แสดงกลไกการทางานชนดิ ควบคมุ โดยตรง…………………………………………………………….7 2.7 แสดงเสน้ ทางการส่งกาลัง……………………………………………………………………………………7 2.8 แสดงเกียร์ 2………………………………………………………………………………………………………8 2.9 แสดงเกียร์ขับเคลอ่ื นล้อหลงั ………………………………………………………………………………..9 2.10 แสดงกลไกซิงโครเมช……………………………………………………………………………………….10 2.11 แสดงการทางานกลไกซิงโครเมช………………………………………………………………………..10 2.12 แสดงซงิ โครเมซแบบมตี ัวหนอน…………………………………………………………………………11 2.13 แสดงซิงโครเมชแบบไม่มตี ัวหนอน………………………………………………………………........12 2.14 แสดงกลไกชะลอความเร็วเพอื่ เขา้ เกยี ร์ถอย………………………………………………………..13 2.15 แสดงกลไกเปลยี่ นเกยี ร์…………………………………………………………………………………….13 2.16 แสดงกลไกป้องกันการเข้าเกยี ร์พร้อมกัน…………………………………………………………….14 2.17 แสดงการทางานของกลไกป้องกันการเขา้ เกียร์พรอ้ มกัน………………………………………14 2.18 แสดงกลไกป้องกนั การเข้าเกยี รถ์ อยหลังผดิ จงั หวะ……………………………………………...15 2.19 แสดงการทางานของกลไกป้องกันการเข้าเกียรถ์ อยหลังผดิ จงั หวะ…………………………15 2.20 แสดงกลไกการเขา้ เกียร์ถอยหลังทางเดียว…………………………………………………………..16 2.21 แสดงกลไกป้องกันเกียร์หลุด……………………………………………………………………………..17 2.22 แสดงกลไกป้องกนั เกยี ร์ถอยหลงั หลดุ …………………………………………………………………17 2.23 แสดง Mercedes-Benz Actros เกยี รธ์ รรมดา……………………………………………………19 2.24 แสดงเกียรธ์ รรมดา 6 สปดี ภาพประกอบกราฟฟคิ ………………………………………………19

ซ 2.25 แสดงฟันเฟือง หรือเกียร์ ในระบบสง่ กาลังของเคร่ืองจกั รกล…………………………………22 2.26 แสดงชดุ เกียรใ์ นรถยนต์……………………………………………………………………………………23 3.1 แสดงแผนผงั การดาเนนิ โครงการ………………………………………………………………………..24 3.2 แสดงนาเหลก็ มาวดั ให้ได้ขนาดทีว่ ัดไว้…………………………………………………………………25 3.3 แสดงนาเหลก็ ทว่ี ัดได้ขนาดไปตดั ………………………………………………………………………..26 3.4 แสดงเหลก็ ทีต่ ัดได้ตามขนาด……………………………………………………………………………..26 3.5 แสดงทาการเชื่อมโครง………………………………………………………………………………………27 3.6 แสดงเอาชุดเกียร์มาเจาะใส่……………………………………………………………………………….27 3.7 แสดงนาลอ้ มาใส่………………………………………………………………………………………………28 3.8 แสดงเร่มิ ได้รปู ร่างเป็นโครง……………………………………………………………………………….28 3.9 แสดงเชอ่ื มโครงเสรจ็ …………………………………………………………………………………………29 3.10 แสดงทาการใส่ล้อเสร็จเรยี บร้อย……………………………………………………………………….29 3.11 แสดงนาแผน่ อะคลิ ิกมาเจาะ………………………………………………………………………........30 3.12 แสดงโครงเสรจ็ รอการทาสี………………………………………………………………………….......30 3.13 แสดงขัน้ ตอนท่ลี งพ่นสีรองพื้นท่โี ครง…………………………………………………………………31 3.14 แสดงพน่ สีรองพื้นทงั้ 2โครงเสรจ็ เรียบร้อย…………………………………………………………..31 3.15 แสดงพ่นสแี ดงลงแลว้ ลงแลคเกอร์……………………………………………………………………..32 3.16 แสดงสแี หง้ แลว้ รอยกชุดสาธติ เกียร์ขน้ึ ……………………………………………………………….32 3.17 แสดงยกชดุ ฝึกเกยี ร์ Toyota Vigo ขึน้ โครง……………………………………………………..33 3.18 แสดงเสร็จเรยี บร้อยชุดฝึกเกยี ร์ Toyota Vigo……………………………………………………33

1 บทที่ 1 บทนา 1.1 ความเป็นมาของโครงการ เน่ืองจาก เทคโนโลยียานยนต์ในปัจจุบัน ได้มีการพัฒนาระบบการทางานของเกียร์ท่ีมีความ สะดวกสบายมากขึ้น เกียร์จึงมีความสาคัญต่อรถยนต์เป็นอย่างมาก และการใช้งานของเกียร์อาจจะ มีรปู รา่ งลกั ษณะท่ีแตกต่างกันออกไปบา้ งเล็กน้อยตามรุน่ ของเครื่องยนต์แตล่ ะชนิด ดังน้ันจึงมีความจาเป็นในการเรียนรู้เกี่ยวกับเกียร์ เพ่ือใช้ในการตรวจสอบระบบการทางาน เกียร์เบ้ืองต้นของเคร่ืองยนต์ได้ และยังเป็นสิ่งสาคัญของนักศึกษาแผนกวิชาช่างยนต์ท่ีจะต้องมี ความรคู้ วามเข้าใจทถ่ี ูกตอ้ ง ในกาสร้างชุดฝกึ เกยี รเ์ พอื่ ทาการเรยี นการสอน จากปัญหาดังกล่าวข้างต้น จึงเป็นแรงจูงใจให้ผู้จัดทา สร้างชุดฝึกเกียร์ Toyota Vigo เพื่อ เป็นการศึกษา เรียนรู้ ขั้นตอนของการสร้างชุดฝึกเกียร์ Toyota Vigo และนาความรู้ที่ได้จากใน ห้องเรียนมาประยุกต์ใช้ในการจดั ทาชุดฝกึ เกียร์ Toyota Vigo เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริงและ เกิดทกั ษะความชานาญเพ่มิ มากขน้ึ 1.2 วตั ถปุ ระสงค์ของโครงการ 1.2.1 เพือ่ สรา้ งชดุ ฝึกเกียร์ จานวน 1 ชดุ 1.2.2 เพอ่ื ใหน้ ักศึกษาได้ฝกึ ทกั ษะในการสรา้ งชุดฝึกเกียร์ 1.2.3 เพอื่ ใหน้ ักศกึ ษามีทักษะการแกป้ ัญหา และการประยุกตใ์ ช้ในการทางานไดจ้ ริง 1.3 ขอบเขตของโครงการ 1.3.1 จัดทาชุดฝึกเกยี ร์ Toyota Vigo 1.4 ประโยชนที่คาดว่าจะไดร้ บั 1.4.1 ได้สร้างชดุ ฝึกเกียร์ Toyota Vigo เพ่ือใชใ้ นการศึกษา 1.4.2 เกดิ ทกั ษะความชานาญในการสรา้ งชดุ ฝกึ เกยี ร์ 1.4.3 เกิดทักษะการแก้ปัญหาและการประยกุ ต์ใชใ้ นการทางานไดจ้ ริง

2 1.5 นิยามศัพท์ 1.5.1 ชดุ ฝึก หมายถงึ อุปกรณท์ ่ีใชใ่ นการฝกึ ปฎิบตั ใิ นการเรยี นการสอน 1.5.2 เกยี ร์ หมายถงึ องค์ประกอบของเคร่ืองจักรท่ีใช้ในการถา่ ยทอดกาลังโดยการเพ่มิ หรือลดความเร็วของเพลา หรอื ใชใ้ นการขบั เกียร์ 1.6 งบประมาณในการดาเนินงาน 1.6.1 คา่ วัสดใุ นการดาเนนิ การสรา้ งโครงการชดุ ฝึกเกยี ร์ Toyota Vigo จานวน 6,000 บาท 1.6.2 ค่าจ้างทา ไม่มี

3 บทที่ 2 ทฤษฎแี ละเนอ้ื หาทเี่ กย่ี วขอ้ ง โครงการชุดสาธิตชิ้นส่วนเกียร์ Toyota Vigo มวี ัตถุประสงค์ เพื่อใชเ้ ปน็ สือ่ การเรียนการสอน ในระบบการทางานของเกียร์ เป็นไปตามขอบเขตที่กาหนดไว้ คณะผู้จัดทาได้ทาการศึกษาทฤษฎีและ เน้อื หาท่เี กี่ยวข้อง ดังน้ี 2.1 เกียรธ์ รรมดา 2.2 กลไกทีเ่ ก่ียวข้องกับเกยี ร์ 2.3 ระบบการทางานของเกยี ร์ธรรมดา 2.4 ส่วนประกอบของเกยี รธ์ รรมดา 2.5 ปญั หาของระบบเกียร์ธรรมดา 2.6 อัตราทดของเกียร์ 2.1 เกียรธ์ รรมดา เกียร์ธรรมดา คือ เกียร์ที่ผู้ขับขี่รถยนต์ จะต้องเป็นฝ่ายท่ีเปล่ียนตาแหน่งเกียร์เองตามอัตรา ความเร่งของรถยนต์ที่ผู้ขับข่ี เครื่องก็จะดับเกียร์ธรรมดาจะใช้ตัวตัดตอ่ กาลังจากเครื่องยนต์และเกยี ร์ เป็นชุดคลัตช์แบบแผ่นแห้ง ซึ่งแรกเริ่มนั้นเป็นเกียร์ท่ีมีต้นทุนการผลิตต่า ทนทาน ดูแลรักษาและ ซ่อมแซมงา่ ยน่ันเอง ข้อดีของเกียร์ธรรมดา นับว่ามีข้อดีหลายอย่างเลยทีเดียวกับเกียร์ธรรมดา อย่างแรกคือมี การสูญเสยี กาลังจากเครื่องยนต์ท่ีสง่ ผ่านมายังระบบเกยี ร์น้นั น้อยกว่าเกียร์อัตโนมัติ เพราะวา่ ใช้คลัตช์ แบบแผ่นฝืดท่ีถ่ายทอดจากกาลังฟลายวีลมายังเกียร์ได้เลยโดยตรง และระบบเกียร์แบบน้ีจะลดการ สูญเสียกาลังจากเครื่องยนต์ได้มาก ทาให้เราได้สัมผัสสมรรถนะที่แท้จริงจากเครื่องยนต์อีกท้ังในเร่ือง ของการประหยัดน้ามันที่เกียร์ธรรมดาจะมีการประหยัดน้ามันได้ดีกว่าเกียร์อัตโนมัติ เพราะเหตุนี้ท่ี เป็นข้อดีของเกียร์ธรรมดานี่เอง เรามักจะเห็นได้ว่ารถท่ีมีสมรรถนะสูงๆ กาลังเคร่ืองยนต์มากๆ หรือ รถแข่งจะใช้เกียร์ธรรมดาเป็นส่วนใหญ่ แต่คนท่ีไม่ชอบการเหยียบคลัตช์นานๆ หรือเท้าไม่น่ิงพอก็ อาจจะไม่ค่อยถูกใจกับเจ้าเกียร์ธรรมดานี้เท่าไหร่นักแต่ในเรื่องของความปลอดภัยนั้นสมรรถนะการ ขบั ข่ีน้ัน เกยี ร์ธรรมดาทางานไดด้ แี ละได้สัมผัสของการขบั รถมากข้นึ นัน่ เอง

4 ภาพท่ี 2.1 ภาพแสดงเกียรธ์ รรมดาหรอื เกยี รก์ ระปุก ภาพท่ี 2.2 ภาพแสดงแปน้ เหยยี บคันเร่งในเกยี รธ์ รรมดา 2.1.1 บทบาทของห้องเกียร์ 1) ใช้ต่อ/ตัดกาลังขบั จากเคร่ืองยนต์โดยการโยกคนั เกียร์ 2) เพ่ือเพิ่มแรงบดิ ในขณะออกรถหรอื ไต่เขา 3) เพอ่ื ให้ล้อรถวง่ิ ท่ีความเร็วสงู ในระหวา่ งการขบั ข่ีที่ความเรว็ สูง 4) การขบั รถถอยหลัง

5 2.1.2 กราฟแสดงประสทิ ธิภาพในการขับข่ี 1) ในทางอุดมคติอาจจะต้องมีเส้นกราฟ ของแรงขับจากเคร่ืองยนต์ควร เปล่ียนแปลงอย่างต่อเนื่องเหมือนกับ เส้นA ในภาพอย่างไรก็ตาม แรงขับของเกียร์ธรรมดา ในความ เปน็ จรงิ จะมกี ารเปล่ยี นแปลงไปแบบไม่ตอ่ เนอื่ งจากเกียร์ 1 ถงึ เกยี ร์ 6 2) แรงขับจากเครื่องยนต์จะถูกส่งต่ออย่างมีประสิทธภิ าพเม่ือทาให้พื้นที่รูปในกราฟ แคบลงเพ่ือใหใ้ กลเ้ คียงกับเสน้ ในอดุ มคติ 3) จะเห็นได้ว่ามันจะใกล้เคียงกับเส้นอุดมคติA ของแรงขับได้เม่ือจานวนเกียร์เพ่ิม มากขน้ึ อยา่ งไรกต็ าม การออกแบบเกยี ร์จะกลายเปน็ เร่ืองซับซ้อน หรืออาจทาใหเ้ กิดความยงุ่ ยากกับผู้ ขบั ข่ใี นการเปล่ยี นเกยี ร์ ภาพที่ 2.3 ภาพแสดงกราฟประสทิ ธิภาพในการขบั ข่ี 2.1.3 ความจาเปน็ ในการเปล่ียนเกียร์ 1) เมื่อออกรถ เมือ่ รถเรมิ่ ออกตัวจะต้องการกาลงั มาก ดงั นั้นเกยี ร์ 1 ซงึ่ มีแรงขบั มาก ทส่ี ดุ จึงถูกใช้ 2) การขับเคลื่อน หลังจากออกตัว เกียร์2 และเกียร์3 ถูกใช้เพื่อเพ่ิมความเร็วรถ เกยี ร์เหล่านี้ถกู ใช้เนอ่ื งจากมขี ีดจากัดของความเร็วรถในเกียร์ 1 และแรงขบั ที่ตอ้ งการกไ็ ม่มากนกั 3) เมอ่ื ขับข่ีที่ความเรว็ สงู สาหรับการขบั ขี่ท่คี วามเรว็ สงู เกยี ร4์ ,5 และเกียร6์ ถูกใช้ เพอ่ื เพมิ่ ความเร็วรถมากข้นึ การใชเ้ กยี รท์ ่ีมีแรงขบั น้อยและลดความเรว็ รอบของเคร่ืองยนต์จะช่วยลด การสิ้นเปลอื งเชอื้ เพลิง 4) เมอื่ ถอยหลงั เม่อื เขา้ เกียร์ถอยหลงั เฟอื งสะพานเกยี รถ์ อยจะถกู เพมิ่ เข้ามา ทาให้ เกยี รถ์ อยหลงั หมนุ กลบั ด้านและรถจะถอยหลัง

6 2.1.4 อตั ราทด 1) ถา้ เฟอื งตามมีฟันเฟือง 38 ซแ่ี ละเฟืองขบั มี 12 ซ่ี อัตราทดของเกียร์ 1 น้ีมีค่าที่มี เท่ากับ 38/12 คือ 3.166 2) เม่ือการหมนุ และแรงบิดจากเพลารบั กาลงั เข้าถกู ส่งไปยังเพลาส่งกาลงั ความเร็ว ในรอบการหมุนจะลดลงและแรงบดิ จะเพ่มิ ขน้ึ ตามอตั ราทดเกยี ร์ แรงบิดส่งออก = แรงบดิ รับเข้า X อัตราทดเกยี ร์ ความเรว็ รอบรบั เข้า = ความเรว็ รอบส่งออก X อัตราทดเกียร์ 3) แรงบดิ เพมิ่ ข้ึนและความเร็วรอบลดลงเมอ่ื อตั ราทดมากขึ้น กลา่ วได้ว่ารถอาจจะมี ถูกขับทคี่ วามเร็วสูงเมื่ออตั ราทดลดลง แมว้ ่ากาลังขับจะลดลง ภาพท่ี 2.4 ภาพแสดงอัตราทด 2.1.5 กลไกการทางาน ชนดิ ควบคมุ ระยะไกล ภาพที่ 2.5 กลไกการทางานควบคมุ ระยะไกล

7 1) ชนดิ นเ้ี ชอ่ื มตอ่ คนั เกียรก์ ับกระปกุ เกียร์ด้วยสายเคเบลิ หรือกา้ นต่อหรอื อืน่ ๆ 2) โดยถูกนามาใช้ในรถยนต์ FF และมคี ณุ ลกั ษณะบางอย่างเช่น เกิดการสัน่ สะเทือน และเกิดเสียงรบกวนไดย้ ากและสามารถออกแบบคนั เกยี ร์ไดโ้ ดยอสิ ระ ชนดิ ควบคมุ โดยตรง ภาพท่ี 2.6 กลไกการทางานชนดิ ควบคมุ โดยตรง ชนิดน้ีเชื่อมต่อคันเกียร์เข้ากับกระปุกเกียร์ โดยตรงชนิดนี้ใช้กับรถยนต์ FR เพราะมี การเปลีย่ นเกียร์ทาได้เรว็ และให้การควบคุมทด่ี ี 2.1.6 เสน้ ทางการส่งกาลัง 1) เกยี ร์แบบธรรมดาแบบใช้กับรถยนตข์ บั เคล่ือนล้อหนา้ จะตดิ ตง้ั อยู่ทดี่ ้านซ้ายสุด หรือขวาสุดของเคร่ืองยนต์วางขวางในรถยนต์ FF 2) เกียร์แบบธรรมดาแบบใช้กับรถยนต์เคลื่อนล้อหลังจะติดต้ังอยู่ท่ีด้านหลังสุดของ เคร่ืองยนต์วางตามยาวในรถยนต์ FR ภาพที่ 2.7 เส้นทางการสง่ กาลัง

8 2.1.7 การทางานของเกียรธ์ รรมดาแบบใชก้ บั รถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า เกยี รว์ า่ ง 1) กาลังจากเครื่องยนต์ไม่ได้ถูกส่งจากเพลารับกาลังไปยังเพลาส่งกาลัง ดังน้ันจึง ไมไ่ ดถ้ ูกสง่ ไปยังเฟืองท้ายด้วย 2) ศรสีฟ้า : การสง่ กาลัง 3) ลกู ศรสีแดง : ทศิ ทางของการหมุน 4) ความยาวของลูกศรแสดงความเร็วรอบ และความกว้างเท่าไหร่ จะแสดงแรงบิด มากเท่านนั้ 5) ย่ิงลูกศรยาวมาก จะยิ่งแสดงความเรว็ รอบมาก และลกู ศรย่งิ กว้างเทา่ ไหร่ จะการ แสดงแรงบิดมากเทา่ นั้น เกยี ร์ 1 1) เฟอื งของเพลาส่งกาลงั ที่ขบกับเฟืองเกียร์ 1 ของเพลารับกาลงั ทาการส่งกาลังไป ยงั เฟืองท้ายผ่านทางเฟอื งขบั 2) ลกู ศรสีฟ้า : การส่งกาลงั 3) ลกู ศรสีแดง : ทศิ ทางของการหมนุ 4) ความยาวของลูกศรแสดงความเรว็ รอบและความกว้างของลกู ศรแสดงแรงบิด 5) ยิง่ ลกู ศรยาวมาก จะยิ่งแสดงความเรว็ รอบมาก และลกู ศรย่ิงกวา้ งเทา่ ไหร่ จะต้อง แสดงแรงบิดมากเท่านัน้ ภาพท่ี 2.8 ภาพแสดงเกียร์ 2

9 เกยี ร์ 3 1) เฟืองของเพลาส่งกาลังที่ขบกับเฟืองเกียร์ 3 ของเพลารับกาลัง ทาการสง่ กาลังไป ยงั เฟืองท้ายผ่านทางเฟืองขับ 2) ลูกศรสฟี า้ : การส่งกาลงั 3) ลูกศรสีแดง : ทิศทางของการหมุนความยาวของลูกศรแสดงความเร็วรอบ และ ความกว้างของลูกศรแสดงแรงบิด 4) ยิ่งลูกศรยาวมาก จะย่ิงแสดงความเร็วรอบมาก และลูกศรย่ิงกว้างเท่าไหร่ จะ แสดงแรงบิดมากเท่านั้น 2.1.8 เกยี ร์แบบธรรมดาแบบใชก้ ับรถขับเคล่อื นล้อหลงั ภาพท่ี 2.9 ภาพแสดงเกยี ร์ขบั เคลอื่ นลอ้ หลัง สาหรับเกียร์ธรรมดาแบบใช้กับรถขับเคล่ือนล้อหลัง เพลารับกาลังและเพลาส่งกาลังจะติด ต้ังอยบู่ นแกนเดยี วกัน และเฟืองรองจะเช่ือมต่อเพลารับและเพลาสง่ กาลังเพือ่ สง่ ผ่านกาลงั

10 2.2 กลไกทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับเกียร์ 2.2.1 กลไกซงิ โครเมช ภาพท่ี 2.10 กลไกซิงโครเมช 1) กลไกซิงโครเมชใช้เพ่ือป้องกันเสียงรบกวนจากเกียร์และช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ ราบเรยี บข้นึ 2) กลไกนี้ถูกเรียกว่า “ซิงโครเมซ” เนื่องจากเฟืองสองตัวที่หมุนด้วยความเร็วรอบ ต่างกันถูกทาใหห้ มนุ ประสานจงั หวะกันด้วยแรงเสยี ดทานในระหว่างการเปลี่ยนเกยี ร์ 3) ช่วยให้คนขบั ไม่ตอ้ งเหยยี บคลตั ชส์ องครั้งทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนเกียร์ 4) เมื่อเปล่ยี นเกียร์ กาลังจะถูกส่งต่อโดยมคี วามลา่ ชา้ นอ้ ยลง 5) การเปล่ียนเกียร์ราบเรยี บข้นึ โดยไม่มคี วามเสยี หายต่อเฟืองเกยี ร์ ภาพท่ี 2.11 การทางานกลไกซงิ โครเมช

11 การทางานกลไกซงิ โครเมช 1) เกียร์ว่าง เฟืองเกยี ร์แตล่ ะตัวจะขบกับเฟืองตามทต่ี รงกันและหมนุ อสิ ระบนเพลา 2) เริ่มกระบวนการปรับความเร็วรอบ เม่ือเริ่มโยกคันเกียร์ ก้ามปูท่ีอยู่ในร่องของ ปลอกเล่ือนจะเคลื่อนไปในทิศทางตามแนวลูกศร เน่ืองจากส่วนยอดท่ีอยู่ตรงกลางของตัวหนอนท่ีติด อยู่กับร่องของปลอกเล่ือน ตัวหนอนจึงเคล่ือนที่ไปพร้อมกันในทิศทางตามแนวลูกศร และดันให้เฟือง ทองเหลอื งแนบกบั ส่วนทเี่ ปน็ โคนของเฟอื งเกยี ร์ เป็นการเริม่ กระบวนการปรบั ความเร็วรอบ 3) ระหว่างกระบวนการปรบั ความเร็วรอบ เม่ือโยกคันเกียร์ออกไปมากข้ึน แรงท่ีถูก กระทากับปลอกเล่ือนจะมากกวา่ แรงของสปริงดันตวั หนอน ทาให้ปลอกเลื่อนเคล่อื นตวั ไปอยู่บนยอด ของตัวหนอน 4) สิ้นสุดกระบวนการปรับความเร็วรอบ แรงที่กระทากับเฟืองทองเหลืองมากข้ึน และดันส่วนโคนของ เฟืองเกียร์ ท่ีทาให้ความเร็วรอบของเฟืองเกียร์เท่ากับความเร็วรอบของเปลือก เลื่อนเมื่อมีความเร็วรอบของปลอกเลื่อนเท่ากับความเร็วรอบของเฟืองเกียร์ เฟืองทองเหลืองจะเร่ิม หมนุ เลก็ น้อยในทิศทางการหมนุ เป็นจะผลใหร้ อ่ งฟันบนปลอกเลื่อนขบกบั ร่องฟนั ของเฟืองทองเหลอื ง 5) สิ้นสุดการเปล่ียนเกียร์ หลังจากที่ร่องฟันบนปลอกเลื่อนขบกับร่องฟันของเฟือง ทองเหลอื ง ปลอกเล่อื นจะไปขบกบั รอ่ งฟนั ของเฟืองเกยี ร์เป็นการส้ินสดุ การเปลยี่ นเกยี ร์ ภาพที่ 2.12 ซิงโครเมซแบบมตี วั หนอน

12 โครงสรา้ งซงิ โครเมซแบบมีตัวหนอน 1) เฟืองเกียร์เดินหน้าแต่ละเกียร์บนเพลารับกาลงั จะขบกับเฟืองเกียร์ ที่ตรงกันบน เพลาสง่ กาลังตลอดเวลา เฟอื งเหลา่ นหี้ มุนอยู่ตลอดเวลาแม้หลังจากคลัตช์จบั ตวั เน่ืองจากเฟืองเหล่าน้ี ไม่ไดย้ ึดติดอยู่กบั เพลาและสามารถหมนุ ได้อิสระ 2) คุมคลัตช์ขบกบั เพลาด้วยร่องฟนั ที่อยู่ในดุมคลตั ช์ นอกจากนีป้ ลอกเลอื่ นยงั ขบกับ รอ่ งฟนั บนเส้นรอบวงด้านนอกของดุมคลตั ช์และสามารถเลื่อนไปไดต้ ามแนวแกน 3) ดุมคลัตช์ มีร่องอยู่สามร่องตามแนวแกนและตัวหนอนท่ีสามารถเข้าไปอยู่ในร่อง นนั้ ตัวหนอนจะถูกดันตดิ กบั ปลอกเล่อื นตลอดเวลาดว้ ยสปรงิ ดันตัวหนอน 4) เม่ือคันเกียร์อยู่ในตาแหน่งเกียร์ว่าง ส่วนที่เป็นยอดของตัวหนอนแต่ละอันจะอยู่ ในรอ่ งของปลอกเลอื่ นพอดี 5) เฟืองทองเหลอื ง จะอยู่ระหวา่ งดุมคลตั ช์กบั โคนของเฟืองเกยี รแ์ ละจะถูกดันให้ติด กับโคนเกียร์อันใดอันหน่ึง มีร่องเล็กๆ ทั่วทั้งส่วนท่ีเป็นโคนด้านในของเฟืองทองเหลืองเพื่อเพ่ิมแรง เสยี ดทาน นอกจากนี้ เฟืองทองเหลืองยังมีรอ่ งสามร่องสาหรบั ใหต้ วั หนอนเขา้ ไปพอดี ความเร็วรอบ ภาพที่ 2.13 ซิงโครเมชแบบไมม่ ีตวั หนอน โครงสร้างซิงโครเมซแบบไมม่ ตี ัวหนอน 1) ปลอกเล่ือน มีร่องสามร่องอยู่ในปลอกเลื่อน เพ่ือท่ีไว้กดสปริงล็อกในขณะท่ีปรับ 2) ดมุ คลตั ช์ จะมีสามร่องอยรู่ อบดมุ คลัตช์เพื่อหยดุ เฟืองทองเหลอื งและสปริงล็อก 3) สปริงล็อก สปริงล็อกมีเดือย 4 เดือยเดือยหนึ่งเป็นตัวยึดสปริงล็อกเอง ส่วนอีก สามเดือยจะยึดตัวหนอน

13 4) เฟืองทองเหลือง มีร่องอยู่ตลอดเส้นรอบวงสาหรับให้เดือยของสปริงล็อกยึดได้ สามจดุ รอ่ งถูกลบมุมบางสว่ น 2.2.2 กลไกชะลอความเร็วเพอ่ื เข้าเกยี ร์ถอย ภาพที่ 2.14 กลไกชะลอความเร็วเพื่อเข้าเกยี ร์ถอย เมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง แขนภายในเปลี่ยนเกียร์หมายเลข 3 สัมผัสกับสลักของเพลาก้ามปู หมายเลข 1 และขยบั ตาแหนง่ ของเพลากา้ มปหู มายเลข 1 และขยบั ตาแหนง่ ของเพลากา้ มปูหมายเลข 1 ไปเป็นระยะ A ในทิศทางของเกียร์ที่ 2 ให้เฟืองทองเหลืองของเกียร์2 ทางานลดความเร็วรอบของ เพลารับกาลัง เม่ือแขนภายในเปลย่ี นเกียรห์ มายเลข 3 แยกจากสลักของเพลาก้ามปูหมายเลข 1 เป็น การสน้ิ สุดการเขา้ เกยี ร์ถอย 2.2.3 กลไกเปลย่ี นเกยี ร์ ภาพที่ 2.15 กลไกเปล่ยี นเกยี ร์

14 โครงสรา้ งกลไกเปล่ยี นเกียร์ 1) เพลาแขนเลือกและเปลี่ยนเกียร์ถูกติดตั้งในแนวตั้งฉากกับเพลาก้ามปู ตรง สว่ นบนของเสอื้ ชดุ เพลาส่งกาลงั แบบทใี่ ช้กับรถขบั เคลื่อนล้อหน้า 2) ได้มีการนากลไกป้องกันการเข้าเกียร์พร้อมกันและกลไกป้องกันการเข้าเกียร์ พรอ้ มกนั และกลไกป้องกันการเขา้ ถึงเกียร์ถอยหลังผิดจังหวะมาใช้ รวมทัง้ กลไกป้องกันเกียรห์ ลุดและ กลไกป้องกันเกียรถ์ อยหลงั หลดุ ก็ติดต้ังอยูบ่ นเพลาก้ามปู 2.2.4 กลไกป้องกนั การเข้าเกยี ร์พรอ้ มกัน ภาพที่ 2.16 กลไกป้องกนั การเขา้ เกียร์พรอ้ มกนั กลไกนี้ป้องกันการเข้าเกียร์สองเกียร์ในเวลาเดียวกันท่ีอาจเกิดขึ้นได้เม่ือก้ามปูสอง อันเคล่ือนท่ีในเวลาเดียวกัน ก้ามปูท้ังสองเข้าเกียร์และจะเป็นการเข้าเกียร์ซ้อน ซึ่งทาให้เกียร์ไม่หมุน รถมีอาการเหมือนกับเบรกค้างและล้อล็อคตาย เป็นสาเหตุให้เกิดอันตรายได้แผ่นล็อกก้ามปูถูกล็อก ไมใ่ ห้หมุนโดยโบลท์ ซึ่งจะยอมให้เพลาและกา้ นเปล่ียนเกียรเ์ ลอื่ นได้ 2.2.5 การทางานของกลไกปอ้ งกันการเข้าเกียรพ์ ร้อมกนั ภาพท่ี 2.17 การทางานของกลไกปอ้ งกันการเข้าเกยี รพ์ ร้อมกนั

15 1) แผน่ ล็อกก้ามปูจะสวมก้ันสองจากสามรอ่ งทีเ่ ปล่ยี นตาแหนง่ เกยี ร์ตลอดเวลาและ จะลอ็ กก้ามปูท้ังหมด ยกเวน้ เกยี รท์ ่ีกาลังจะเปลย่ี น ตัวอยา่ งเชน่ เมอ่ื โยกเกยี ร์ไปท่เี กยี ร์ 1 หรือเกียร์ 2 แผ่นลอ็ กก้ามปแู ละแขนภายในเปล่ยี นเกียรห์ มายเลข 1 จะเล่อื นไปทางขวาตามรูปด้านบน 2) แผ่นล็อกก้ามปูจะป้องกันไมใ่ ห้หวั ก้ามปูเกียร์ 3 ไปเกยี ร์ 4 และ 5 ไปเกียร์ถอย หลังเลื่อนไปได้ ดังนนั้ จึงมเี พียงกา้ มปูเปลย่ี นเกียร์ 1 ไปเกียร์ 2 เทา่ น้นั ทีเ่ ล่ือนได้ 2.2.6 กลไกป้องกนั การเข้าเกียร์ถอยหลังผิดจงั หวะ ภาพที่ 2.18 กลไกป้องกนั การเข้าเกียร์ถอยหลงั ผิดจงั หวะ ถ้าหากเกียร์ถูกโยกไปยังเกียร์ถอยหลังขณะที่รถแล่นจะทาให้เกิดความเสียหายที่ คลัตช์และตัวเกียร์ธรรมดา ท้ังยังทาให้ล้อล็อคตายเป็นสาเหตุให้เกิดอันตรายได้ ดังน้ัน กลไกนี้จึงถูก กาหนดให้ผขู้ บั ขตี่ ้องเปลย่ี นเกยี ร์เป็นเกยี ร์ว่างกอ่ นทีจ่ ะเขา้ เกียร์ถอยหลงั ได้ 2.2.7 การทางานของกลไกป้องกนั การเข้าเกยี ร์ถอยหลงั ผดิ จังหวะ ภาพท่ี 2.19 การทางานของกลไกปอ้ งกันการเข้าเกียรถ์ อยหลงั ผดิ จังหวะ

16 1) เม่ือเลือกตาแหน่งเกียร์ เม่ือคันเกียร์ถูกเลื่อนไปท่ีตาแหน่งเลือกเกียร์ 5 ไปเกียร์ ถอยหลัง (ตาแหน่งกลางระหว่างเกียร์ 5 และเกียร์ถอยหลัง) แขนภายในเปล่ียนเกียร์หมายเลข 2 จะ เคลื่อนที่ตามทิศทาง “เกียร์ 5 ไปเกียร์ถอยหลัง” ทาให้สลักป้องกันการเข้าเกียร์ถอยหมุนไปในทิศทาง ตามลกู ศร A 2) เมื่อเปลี่ยนเป็นเกียร์ 5 เมื่อเกียร์ถูกเปลี่ยนเป็นเกียร์ 5 แขนภายในเปล่ียนเกียร์ หมายเลข 2 จะหมุนไปในทิศทางตามลูกศร B และจะปล่อยสลักป้องกันการเข้าเกียร์ถอย ทาให้สลัก ปอ้ งกันการเข้าเกียร์ถอยหมุนกลับไปยงั ตาแหนง่ เดมิ ตามแรงสปรงิ ดึงกลับ 3) เมื่อพยายามเข้าเกียร์ จากเกียร์5 ไปเกียร์ถอยหลัง ถ้าพยายามเปล่ียนเกียร์ โดยตรงจากเกียร์ 5 ไปเกยี รถ์ อยหลงั (ตามลูกศร C) แขนภายในเปลี่ยนเกียร์หมายเลข 2 จะไปชนกับ สลกั ปอ้ งกันการเข้าเกยี รถ์ อยปอ้ งกันไม่ให้เปล่ียนเกยี รจ์ ากเกียร์ 5 ไปทเ่ี กียร์ถอยหลัง 4) เมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง หลังจากท่ีคันเกียร์กลับไปอยู่ท่ีตาแหน่งกลางระหว่างเกยี ร์ 3 และเกียร์ 4 แล้วจึงเล่ือนไปที่ตาแหน่งเลือกเกียร์ 5 เกียร์ถอยหลัง แขนภายในคันเกียร์หมายเลข 2 และสลักป้องกันการเข้าเกียร์ถอยจะอยู่ในตาแหน่งตามรูปทางซ้ายมือ ในตาแหน่งนี้ การเข้าถึงเกียร์ ถอยหลังจะทาให้แขนภายในเปล่ียนเกียร์หมายเลข 2 หมุนไปตามลูกศร D โดยไม่มีการขัดขวางจาก สลักป้องกันการเขา้ เกยี ร์ถอย 2.2.8 กลไกการเขา้ เกียรถ์ อยหลังทางเดียว ภาพท่ี 2.20 กลไกการเขา้ เกยี รถ์ อยหลังทางเดยี ว 1) เมอ่ื เปล่ียนเป็นเกียร์ 5 เม่ือเปลี่ยนไปท่ีเกียร์ 5 เพลาก้ามปหู มายเลข 3 จะเคล่ือน ไปทางขวา ทาใหล้ กู ปืนถกู ดนั ไปอยใู่ นร่องของเพลากา้ มปหู มายเลข 2 2) เมอื่ เขา้ เกยี รถ์ อย เมือ่ เปลย่ี นเป็นเกียรถ์ อยหลังจะถูกทาให้เคลอ่ื นท่ีไปทางซา้ ย ดว้ ยแหวนรัดที่สวมอยู่บนเพลาก้ามปูหมายเลข 3

17 3) เมื่อเปล่ียนจากเกยี ร์ถอยหลังเป็นเกียร์ว่าง เพลาก้ามปหู มายเลข 3 ลกู ปืนและ ก้ามปูเกยี ร์ถอยหลงั จะเคล่ือนไปด้วยกนั ทางขวา 2.2.9 กลไกป้องกันเกียร์หลุด ภาพที่ 2.21 กลไกป้องกนั เกยี รห์ ลดุ กลไกป้องกนั เกยี ร์หลุด เพลาก้ามปแู ต่ละอันจะมสี ามร่องและลูกปืนล็อกจะถกู กดให้ อยู่ในรอ่ งดว้ ยสปริงในขณะท่ีเปลย่ี นเกียร์ นอกจากจะช่วยป้องกันไม่ใหเ้ กียรห์ ลดุ แลว้ ยังเปน็ ตวั บอก ใหผ้ ขู้ ับขีร่ สู้ กึ ถึงการเขา้ เกยี รด์ ้วย 2.2.10 กลไกป้องกนั เกียร์ถอยหลงั หลดุ ภาพที่ 2.22 กลไกป้องกันเกียร์ถอยหลังหลดุ กลไกป้องกันเกียร์ถอยหลังหลุด ที่ผิวหน้าด้านบนของก้ามปูเกียร์ถอยหลังจะมีร่อง ลกู ปืนซ่งึ ลูกปืนล็อกจะถูกกดให้อยู่ในร่องดว้ ยสปริงเมื่อไม่ได้อยู่ในตาแหน่งเกียร์ถอยหลัง รอ่ งดังกล่าว

18 จะป้องกันไม่ให้เฟืองสะพานเกียร์ถอยเคลื่อนท่ีขณะเดียวกันเม่ือเลื่อนไปอยู่ในตาแหน่งเกียร์ถอยหลัง กจ็ ะเปน็ การบอกผขู้ ับขว่ี ่าไดเ้ ขา้ เกียร์จนสุดหรอื ไม่ 2.2.11 หนา้ ทีข่ องปลอกเลอ่ื น เพ่ือป้องกันไม่ให้เกียร์หลุด ฟันระหว่างปลอกเลื่อนกับเฟืองความเร็วจะถูกลบมุม เพ่ือให้การขบกันของปลอกเล่ือนกับเฟืองความเร็วดีขึ้น เพ่ือจุดประสงค์เดียวกันฟันเฟืองบน เพลารบั กาลงั เฟอื งสะพานและเฟอื งเกยี รถ์ อยหลงั จะถูกลบมุมเล็กน้อยด้วย 1) เม่ือแรงขับถูกส่งจากเฟืองเกียร์ไปท่ีปลอกเล่ือน ฟันของเฟืองเกียร์ขบกับฟันของ ปลอกเลื่อนทงั้ หมด 2) เมื่อแรงขับถูกส่งจากปลอกเล่ือนไปยังเฟืองเกียร์ (ในระหว่างการใช้เครื่องยนต์ ช่วยบรก) จานวนฟันของเฟืองเกียร์ท่ีขบกับฟันของปลอกเล่ือนน้อยกว่า ทาให้แรงดันการขบระหว่าง ปลอกเลอื่ นกบั เฟอื งเกียร์มากขน้ึ จึงชว่ ยในการป้องกนั เกยี ร์หลุด 2.3 ระบบการทางานของเกยี รธ์ รรมดา การทางานของเกียร์ธรรมดา รถยนตจ์ าเป็นจะตอ้ งมชี ุดเกียร์หรอื ระบบส่งกาลงั เนื่องจาก 1) เครื่องยนต์จะต้องทางานไม่เกินรอบเครื่องยนต์สูงสุด (Redline) ท่ีจะทาให้ เครอื่ งยนตไ์ ดร้ บั ความเสยี หาย 2) กาลังม้าและแรงบิด (ทอร์ก) ของเคร่ืองยนต์สูงสุดจะได้มาจากช่วงของรอบ เครื่องยนต์ท่ีแคบ เช่น เคร่ืองยนต์ให้แรงม้าสูงสุด 5,500 รอบ(rpm) เราสามารถใช้ชุดเกียร์ทาการ เปล่ียนความเร็วของรถช้าลงหรือเร็วข้ึนได้โดยการเปล่ียนอัตราทดของเกียร์ และทาให้รอบของ เคร่อื งยนต์ไม่สูงเกินไป 3) แรงบิดและอัตราทดของเกียร์ ลูกสูบได้รับแรงจากการจุดระเบิดภายในกระบอก สูบ และส่งแรงผ่านก้านสูบลงมายังเพลาข้อเหวี่ยง โดยเปลี่ยนการเคล่ือนที่จากแนวตรงมาเป็นการ หมุน หลังจากน้ันเพลาข้อเหว่ียงก็ส่งถ่ายแรงบิด ไปให้ชุดเกียร์หรือห้องเกียร์ (แรงบิด คือแรงท่ีทาให้ เกิดการหมุน ถา้ ไมม่ แี รงบิดเพลาขอ้ เหว่ียงก็ไมส่ ามารถหมุนได้) 4) ชุดเกียร์ (Transmission) จะต่อกับเคร่ืองยนต์โดยผ่านระบบคลัตช์ ดังนั้น ความเรว็ รอบที่เขา้ ไปสเู่ กยี ร์ผ่านเพลาคลตั ช์จะเทา่ กับจานวนรอบของเครื่องยนต์

19 ภาพที่ 2.23 Mercedes-Benz Actros เกยี ร์ธรรมดา ภาพท่ี 2.24 เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ภาพประกอบกราฟฟคิ ตารางท่ี 2.1 ตารางแสดงแรงบิดเพ่มิ ข้ึน ชดุ เกยี รจ์ งึ ไดร้ ับการออกแบบมาใหม้ ีระดบั การทดรอบการหมนุ เชน่ ในเคร่ืองยนตม์ ชี ุดเกยี ร์ 5 เกียร์ แรงหมุนจากเคร่ืองยนต์สง่ มาให้ชดุ เกียร์ 2.315 รอบ เมือ่ เราใช้เกยี ร์ 1 จะทาการทดรอบแลว้ ส่งแรงหมนุ ออกไปภายนอก 1 รอบ เม่ือเปน็ เชน่ น้ี รอบท่ีถกู ทดไป จะไดก้ าลงั ทีเ่ รียกว่าแรงบดิ หรือ ทอร์ค (Torque) เพ่ิมขน้ึ ดังตารางแสดงด้านบน

20 2.4 ส่วนประกอบของเกียร์ธรรมดา เกียร์ธรรมดา จะมชี ้นิ สว่ นประกอบหลกั ดงั น้ี 1) เสื้อเกียร์ ส่วนมากเสื้อเกียร์ทามาจาก เหล็กหล่อหรืออลูมิเนียมผสมมีความ แข็งแรงพอท่ีจะรองรับเพลา แบริ่ง และเฟืองต่างๆบางแบบมีเสื้อคลัทช์รวมอยู่ด้วยกัน บางแบบ เสอื้ คลทั ชแ์ ยกจากกนั 2) เพลารบั กาลงั ปลายขา้ งหนง่ึ ของเพลารบั กาลัง เสอ้ื เกยี ร์รองรับไว้ โดยลูกปืนนา รอ่ งในลอ้ ชว่ ยแรง ปลายอีกข้างเปน็ เฟือง มลี ูกปนื รองรบั อยูภ่ ายในเสอ้ื เกียรป์ ลายเพลารับกาลงั มีร่อง ฟนั และแผน่ คลทั ช์สวมอยู่บนร่อง 3) เพลาเฟืองรอง บนเฟืองรอง ประกอบด้วยเฟืองหลายอนั หลอ่ เป็นชนิ้ เดียวกนั และ หมุนอยู่บนลกู ปืนแบบลกู กลงิ้ เข็มบนเพลาเฟืองรอง กลมุ่ เฟืองนี้ขบอยา่ งคงที่กับเฟืองบนเพลารับกาลัง 4) เพลาสง่ กาลงั ปลายขา้ งหน่งึ ของเพลาสง่ กาลังรองรับโดย ลูกปืนแบบลูกกลิ้งใน เพลารับกาลัง ส่วนปลายอีกข้างหนงึ่ รองรับดว้ ยลูกปืนในเส้ือหอ้ งเกยี ร์ 5) ชดุ ซินโครเมซ ชุดซินโครเมซจะถูกอดั และยึดตดิ อยบู่ นเพลาสง่ กาลังทป่ี ลอด ซนิ โครเมซเล่อื นไปมาไดบ้ นดุมและต่อกบั เฟืองบนเพลาหลัก 6) เฟืองเกียร์ถอยหลัง ประกอบด้วยเฟืองพาถอยหลงั ซึง่ ติดตัง้ อยูบ่ นเพลาและแหวน กนั รุนอย่ทู ี่ปลายเพลาแตล่ ะข้าง เฟืองฟันตรงซ่งึ เล่ือนได้ สาหรบั เกยี รถ์ อยหลังเชื่อมต่อกับเฟอื งพา ถอยหลงั ด้วยร่องฟนั 2.4.1 การถ่ายทดกาลัง 1) เกียร์ว่าง กาลังจากเคร่ืองยนต์ส่งผ่านแผ่นคลัทช์ไปยังเพลารับท่ีมีกาลังเข้าห้อง เกียร์ เพลารับกาลังขับเคล่ือนชุดเฟืองบนเพลาหลัก เฟืองบนเพลาหลักหมุนอย่างอิสระและไม่มีการ ถา่ ยทอดกาลังผ่านไปยงั เพลาสง่ กาลงั 2) เกียร์หนึ่ง เมื่อใช้เกียร์หน่ึง ชุดซินโคเมชจะเล่ือนไปจบั กับเฟืองเกียรห์ นึง่ ทาให้ได้ อัตราทดเฟืองเกียร์หนึ่งกาลังจากเครื่องยนต์ส่งผ่านแผ่นคลัทช์ไปยังเพลารับกาลังเข้าห้องเกียร์ เพลา รบั กาลังขบั เคลื่อนชดุ เฟืองบนเพลาหลัก ชดุ เฟืองบนเพลาหลักถ่ายทอดผา่ นเฟืองเกยี รห์ น่ึงไปยังเพลา ส่งกาลงั 3) เกียร์สอง เมอ่ื ใชเ้ กียร์สอง ชดุ ซนิ โคเมชจะเลื่อนไปจับกับเฟืองเกียร์สอง ทาให้ได้ อัตราทดเฟืองเกียร์สองกาลัง จากเครื่องยนต์ส่งผ่านแผน่ คลทั ช์ไปยงั เพลารับกาลังเข้าหอ้ งเกียร์ เพลา รบั กาลังขบั เคล่ือนชุดเฟอื งบน เพลาหลัก ชดุ เฟืองบนเพลาหลักถ่ายทอดผ่านเฟืองเกียรส์ องไปยงั เพลา ส่งกาลัง

21 4) เกียร์สาม เม่ือใช้เกียร์สาม ชุดซินโคเมชจะเลื่อนไปจับกับเฟือง ที่อยู่เกียร์สาม ทาให้ได้อัตราทดเฟืองเกียร์สามกาลัง จากเครื่องยนต์ส่งผ่านแผ่นคลัทช์ไปยังเพลารับกาลัง เข้าห้อง เกยี ร์ เพลารับกาลังขบั เคลือ่ นชุดเฟืองบนเพลาหลกั ชุดเฟอื งบนเพลาหลักถ่ายทอดผา่ นเฟืองเกียร์ 5) เกียร์ถอยหลัง เม่ือใช้เกียร์ถอยหลัง เฟืองพาถอยหลังจะเข้าไปขบกับกลุ่มเฟือง และเฟืองบนด้านนอก ของปลอกซินโครเมช กาลังเครื่องยนต์ส่งผา่ นแผ่นคลทั ชไ์ ปยังเพลารับกาลงั เข้าไปยงั กล่มุ เฟือง และต่อไปยงั เฟืองพาถอยหลังจนถึงเฟืองบนด้านนอกของปลอกซินโคเมช แล้ว ผ่านเพลาสง่ กาลังออก 2.4.2 เกยี รส์ าหรับรถขบั เคลื่อนลอ้ หลงั แมว้ ่าปรากฎการณแ์ ละโครงสร้างของเกียร์จะแตกตา่ งไปตามแบบของรถยนต์เกียร์ ธรรมดาปกตปิ ระกอบขึ้นด้วยส่วนประกอบต่อไปน้ี 1) เสื้อคลัทช์ (หัวหมู) 2) กลไกการเปล่ียนเกียร์ 3) เพลารบั กาลัง 4) เพลาเฟืองรอง และเฟืองรอง 5) เพลาสง่ กาลงั และเฟอื ง 6) เฟืองเกียร์ถอยกลไกการเปล่ียนเกยี ร์ 7) เส้ือทา้ ยเกยี ร์ 2.5 ปัญหาของระบบเกียร์ธรรมดา ปัญหามักขึ้นอยู่กับชุดประกอบ รวมถงึ เกดิ จากหอ้ งเกยี ร์ท่ีเกิดการรว่ั ซมึ ของน้ามนั เกียร์ บริเวณซลี หนา้ เคร่อื งและท้ายเคร่อื ง โดยสาเหตุเกิดจากการเสือ่ มสภาพตามอายุการใชง้ าน หรือหาก ขับรถลุยโคลนกม็ ีสว่ นทาให้เกิดปญั หาทอ่ อุดตันเชน่ กัน เพ่ือรกั ษาคุณภาพของเกยี ร์ให้สามารถใช้งาน ได้อยา่ งยาวนาน ควรถ่ายน้ามันท่รี ะยะ 40,000 km. นอกจากนย้ี ังพบปญั หาดงั ต่อไปนี้ เกียร์หลดุ : ในกรณที ี่เขา้ เกียรห์ นง่ึ แลว้ เกดิ อาการหลดุ มาทเ่ี กียรว์ า่ ง สาเหตุมาจาก ชดุ เฟืองเกยี ร์เส่อื มโทรม คลตั ช์แข็ง : เมอื่ คลตั ช์หมดอายุจะทาให้รถไม่มีแรง เข้าเกียรย์ าก เวลาออกรถแลว้ คลัตช์มีอาการสนั่ ซ่ึงตอ้ งแก้ไขโดยการเปลยี่ นคลัตช์ใหม่ รวมถงึ ยงั พบปัญหาคลัตช์จม, คลัตชห์ าย, เข้าเกยี ร์ยาก หรอื ปลดเกยี ร์ไมอ่ อก

22 2.6 อัตราทดของเกียร์ ภาพท่ี 2.25 ฟนั เฟอื ง หรอื เกยี ร์ ในระบบส่งกาลังของเครอ่ื งจักรกล หนา้ ทห่ี ลักของเกียร์ คือ การส่งกาลงั จากจดุ หนงึ่ ไปหาจุดหนง่ึ (power transmission ) โดย จะมีสว่ นประกอบจะมีฟนั เฟือง (Gear) มาขบั กันเป็นชุด อาจจะเปน็ ฟันเฟืองชดุ เดียว หรือฟันเฟอื ง หลายๆชดุ กไ็ ด้ แต่จะขึ้นอยกู่ ับการออกแบบ ด้วยรอบ กาลัง ทศิ ทางการหมุน่ และพ้นื ทใ่ี นการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน จานวนเฟืองตาม ( z2 ) = ความเรว็ รอบของฟันขับ (n1) อตั ราทดเกียร์ (i) = จานวนเฟืองขบั (z1) ความเรว็ รอบของฟนั ตาม (n2) อัตราทดมีประโยชน์หลัก ๆ คือ 1) ไว้ทดแรงบิด (Mechanical Advantage) เพื่อที่ว่าจะได้ประหยดั แรงทเ่ี ราใสเ่ ขา้ ไป โดยแรงบิดท่ีไดก้ ็จะเป็นสัดส่วนโดยตรงกับจานวนฟนั ท่ีทดไป 2) ไว้ ลด/เพ่ิมรอบ (Speed adjustment) เพื่อให้รอบเหมาะสมกับการใชง้ านนั้น อตั ราแรงบิด (Torque ratio) = แรงบดิ ขาเข้า (Tout) อตั ราทดเกยี ร์ (i) = แรงบิดขาเข้า(Tin) การต่อเกียรจ์ ะมีรปู แบบหลกั ๆ 2 แบบใหญๆ่ คือ 1) ต่อให้อัตราทดมากกว่า 1 (เกียร์ตามจะใหญ่กว่าเกียร์ขับ) การต่อแบบนี้ จุดประสงค์หลักๆคือต้องการทดแรงบิดครับ ทาให้ตัวขับออกแรงน้อยลงกวา่ เดิมเยอะครับ แต่รอบขา ออกจะช้ากว่าขาเข้า ขอยกตัวอย่างเช่น หากเราไปเจอ nameplate เขียนว่า 2.97/1 ให้รู้คร่าวๆเลย ว่า เกียร์ตัวน้ีทดรอบทาให้รอบขาออกต่า แต่จะทดแรงบิด ยกตัวอย่างการใช้งาน เช่น เกียร์รถยนต์ (เกยี รต์ ้นๆ 1-3 ตอ้ งการกาลงั แรงบิดสูงๆ) เครอ่ื งรดี เหล็ก หรือเครือ่ งมอื ผอ่ นแรงตา่ งๆ เป็นต้น

23 ภาพท่ี 2.26 ภาพแสดงชุดเกียร์ในรถยนต์ 2) ต่อให้อัตราทดน้อยกว่า 1 (เกียร์ตามจะเล็กกว่าเกียร์ขับ) การต่อแบบน้ีคน ออกแบบต้องการความเร็วท่ีสูง แต่แรงบิดก็ต้องใช้มากข้ึนตามสัดส่วนกันไป ขอยกตัวอย่างเช่น หาก เราไปเจอ nameplate เขียนว่า 0.56/1 ให้รู้คร่าวๆเลยว่า เกียร์ตัวนี้เพ่ิมรอบให้สูงกว่าขาเข้า แต่ จะต้องใช้แรงบิดทีม่ ากกวา่ ปกติ พบไดใ้ นพบพวกอุปกรณต์ ้องการรอบหรือความเร็ว

24 บทที่ 3 วิธีดาเนินงานโครงการ ในการจัดทาโครงการจัดทาชุดฝึกเกยี ร์ Toyota Vigo เป็นโครงการประเภทสิ่งประดิษฐเ์ พอื่ การประกอบอาชพี โดยผู้จดั ทาได้ดาเนินงานตามขั้นตอน ดังนี้ เริ่มตน้ ศกึ ษาขอ้ มลู เกยี่ วกบั การจดั ทาชดุ ฝกึ เกยี ร์ Toyota Vigo ออกแบบโครงสร้างโครงงาน ประกอบโครงงานตามแบบ ทดสอบการทางาน แก้ไข ผา่ น ไม่ผ่าน บันทึกผลการทดสอบ จดั ทารูปเล่มรายงาน จบ ภาพที่ 3.1 แผนผังการดาเนินโครงการ

25 3.1 ศึกษาขอ้ มลู เก่ียวกับชุดฝึกเกียร์ Toyota Vigo ผู้จัดทาได้ทาการศึกษาเก่ียวกับทฤษฎีและเน้ือหาที่เก่ียวข้องกับเกียร์ธรรมดา กลไกท่ี เก่ียวข้องกับเกียร์ ระบบการทางานของเกียร์ธรรมดา ส่วนประกอบของเกียร์ธรรมดา ปัญหาของ ระบบเกียร์ธรรมดา อัตราทดของเกียร์ และขั้นตอนของการทาชุดฝึกเกียร์ Toyota Vigo เพื่อใช้ เปน็ แนวทางในการจดั ทาโครงการชดุ ฝึกเกยี ร์ Toyota Vigo 3.2 ออกแบบโครงสรา้ งโครงการ ผู้จัดทาออกแบบโครงสร้างด้วยการวาดภาพรูปแบบของชุดฝึกเกียร์ Toyota Vigo ตาม จินตนาการที่ต้องการ แล้วจึงกาหนดการออกแบบวัสดุอุปกรณ์ท่ีต้องใช้ ประกอบด้วยเหล็กตัดเป็น ชิ้นส่วนของฐานตามขนาดตามที่กาหนด และเหล็กท่ีตัดตามขนาดท่ีกาหนดเพื่อใชเ้ ป็นตัวยึดโครงเขา้ กับชุดฝึกเกียร์ Toyota Vigo แล้วจึงทาการเชื่อมต่อเหล็กให้เป็นฐานรองรับเข้าด้วยกันและเชื่อมต่อ ฐานเข้ากบั โครงชดุ เกียร์ Toyota Vigo เมอ่ื ทาการเช่อื มเสรจ็ แล้วกท็ าการขดั และพน่ สี 3.3 ประกอบโครงการตามแบบ วิธกี ารดาเนินโครงการจดั ทาชุดฝกึ เกยี ร์ Toyota Vigo ประกอบด้วยวิธกี ารดาเนินโครงการ ดังน้ี 3.3.1 ขนั้ ตอนการสร้างชุดฝึกเกียร์ Toyota Vigo มขี ัน้ ตอนการดาเนนิ การ ดังน้ี ภาพที่ 3.2 นาเหล็กมาวดั ให้ไดข้ นาดท่วี ดั ไว้

26 ภาพท่ี 3.3 นาเหลก็ ท่ีวดั ไดข้ นาดไปตัด ภาพที่ 3.4 เหล็กท่ีตดั ไดต้ ามขนาด

27 ภาพท่ี 3.5 ทาการเช่ือมโครง ภาพท่ี 3.6 เอาชดุ เกยี ร์มาเจาะใส่

28 ภาพที่ 3.7 กาลงั นาล้อมาใส่ ภาพที่ 3.8 เร่ิมไดร้ ปู รา่ งเปน็ โครง

29 ภาพที่ 3.9 เชอ่ื มโครงเสร็จ ภาพท่ี 3.10 ทาการใสล่ ้อเรียบร้อย

30 ภาพที่ 3.11 นาแผน่ อะคลิ ิกมาเจาะ ภาพที่ 3.12 โครงเสร็จรอการทาสี

31 ภาพท่ี 3.13 ข้ันตอนทล่ี งพ่นสรี องพื้นทีโ่ ครง ภาพที่ 3.14 พน่ สรี องพ้ืนทั้ง2โครงเสร็จเรยี บรอ้ ย

32 ภาพที่ 3.15 พน่ สแี ดงลงแลว้ ลงแลคเกอร์ ภาพท่ี 3.16 สแี ห้งแล้วรอยกชดุ สาธิตเกียร์ ขน้ึ

33 ภาพที่ 3.17 ยกชุดฝึกเกียร์ Toyota Vigo ขน้ึ โครง ภาพที่ 3.18 เสรจ็ เรียบรอ้ ยชดุ ฝกึ เกยี ร์ Toyota Vigo

34 3.4 การเก็บรวบรวมขอ้ มลู ผู้จัดทาดาเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการศึกษาค้นคว้าทฤษฎีและเนื้อหาท่ีเก่ียวข้องกับ การจดั ทาโครงการชุดฝกึ เกยี ร์ Toyota Vigo แลว้ จึงทาการสรปุ ประเด็นสาคัญในการนามาใช้ในการ สร้างชุดฝึกเกียร์ Toyota Vigo และในระหวา่ งการสร้างชุดฝึกเกียร์ Toyota Vigo ไดเ้ กบ็ รวบรวม ขอ้ มูลตา่ งๆ ในระหว่างทา และในระหวา่ งการทดสอบการทางานของชุดฝึกเกียร์ Toyota Vigo เพ่ือ นาข้อมูลต่างๆ ทไ่ี ด้เกบ็ รวบรวมไว้มาใช้ในการจดั ทารูปเล่มของการจดั ทาโครงการ 3.5 ทดสอบการทางาน ผู้จัดทาได้ทาการทดสอบการทางานของชุดฝึกเกียร์ Toyota Vigo โดยมีข้ันตอนการ ทดสอบการทางานดังนี้ 3.5.1 ทดสอบความสมดุลของโครงในการรับน้าหนกั ของชุดเกียร์ Toyota Vigo 3.5.2 ทาการทดสอบการหมุนล้อของโครงยึดชุดเกียร์ Toyota Vigo 3.6 บนั ทึกผลการทดสอบ ผจู้ ัดทาบนั ทกึ ผลการทดสอบชุดฝึกเกียร์ Toyota Vigo ได้ดังนี้ 3.6.1 โครงยึดชุดเกยี ร์ Toyota Vigo มีความสมดลุ ในการรับนา้ หนกั ไดอ้ ย่างดี 3.6.2 เม่อื นาชุดฝกึ เกยี ร์ Toyota Vigo เข้ากับโครงยดึ ชดุ ฝึกเกยี ร์ Toyota Vigo การหมุนลอ้ สามารถทาการเคลอ่ื นยา้ ยไดส้ ะดวก

35 บทที่ 4 ผลการทดสอบ ในการทาโครงการคร้ังนี้ ผู้จัดทาได้ทาชุดฝึกเกียร์ Toyota Vigo โดยมี การเก็บรวบรวม ขอ้ มูลผลการทดสอบ ดงั น้ี 4.1 ผลการทดสอบความสมดุลของโครง ในการรับน้าหนักของชุดเกียร์ Toyota Vigo พบว่า เมื่อนาชุดเกียร์ Toyota Vigo ยกขึ้นโครง โครงมีความสมดุลในการรับน้าหนักของชุดเกียร์ Toyota Vigo ไดเ้ ป็นอยา่ ง ดไี ม่เอยี งไปทางซา้ ยหรือทางขวา 4.2 ผลการทดสอบการหมนุ ล้อ พบวา่ สามารถทาการหมุนล้อ ทาการเคลือ่ นย้ายไดส้ ะดวก

36 บทที่ 5 สรุป อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ 5.1 สรุปผลโครงการ ผลการดาเนินโครงการสร้างชุดฝึกเกียร์ Toyota Vigo ในครั้งนี้มี ระยะเวลาการดาเนินงาน ต้ังแต่วันท่ี 14 มิถุนายนพ.ศ. 2564 ถึง วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2564 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้าง ชุดฝึกเกียร์ เพื่อให้นักศึกษาได้ฝึกทักษะในการสร้างชุดฝึกเกียร์ เพ่ือให้นักศึกษามีทักษะการ แก้ปัญหาและการประยุกต์ใช้ในการทางานได้จริง และเพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนให้กับนักเรียน นักศึกษาร่นุ ต่อไปไดท้ าการศึกษา พบว่า ผจู้ ัดทาสามารถสร้างชดุ ฝึกเกยี ร์ Toyota Vigo ท่ีสามารถใช้ งานได้จรงิ อยา่ งมีประสิทธภิ าพ 5.2 อภิปรายผล ผู้จัดทาสามารถสร้างชุดฝึกเกียร์ Toyota Vigo ที่ใช้สาหรับการฝึกทักษะในการสร้างชุดฝึก เกียร์ Toyota Vigo ได้ และสามารถแก้ไขปัญหาได้โดยการนาความรู้ที่ได้ศึกษาจาก ห้องเรียนมา ประยุกต์ใช้ในการทาชุดฝึกเกียร์ Toyota Vigo ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถนาไปใช้เป็นสื่อ การเรียนการสอนให้กับนักเรียน นักศึกษารุ่นต่อไปได้ทาการศึกษา ในการจัดทาโครงการในครั้งนี้ได้ พบอุปสรรคการทาโครงการในด้านการจัดหาเคร่ืองมือและอุปกรณ์ในการใช้งาน และผู้จัดทาได้ทา การแก้ไขปัญหานี้ โดยติดต่อขอใช้เครื่องมือในแผนกวิชาช่างยนต์ และปัญหาด้านการสร้างช้ินงาน เนื่องจากต้องทาแยกทางานกับเพ่ือน ทาให้การจัดเตรียมการประกอบชิ้นส่วนต่างๆ ทาให้เกิดความ ล่าช้า ดังน้ันผู้จัดทาจึงต้องทาการวางแผนในการดาเนินงาน และการจัดวางวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เพ่ือ ไม่ใหเ้ กดิ ความสับสน และขอความช่วยเหลือจากเพื่อนจนสามารถสร้างชุดฝึกเกยี ร์ Toyota Vigo ได้ ตามกาหนดระยะเวลาและแผนการดาเนนิ งานทไี่ ด้วางไว้ 5.3 ขอ้ เสนอแนะ ในการจัดทาโครงการชุดฝึกเกียร์ Toyota Vigo ในครั้งนี้ เป็นการสร้างในแบบการวาง แผนการทางานตามขั้นตอนในการจดั ทาและลงมือทาแต่ไม่ไดม้ ีการจัดบอร์ด แสดงข้ันตอนของการทา ประกอบกับช้ินงาน ซึ่งอาจจะทาให้บุคคลภายนอกท่ีมีความสนใจท่ีจะเรียนรู้ไม่เข้าใจถึงขั้นตอนการ สร้าง หรือไม่สามารถมองภาพออกได้ ดังน้ันควรเพิ่มเติมการจัดทาบอร์ดประกอบขั้นตอนการ ออกแบบโครงยึดชุดฝึกเกียร์ Toyota Vigo เพ่ือให้ง่ายต่อการเรียนรู้และเพ่ิม ประสิทธิภาพในการ เรียนรทู้ ีม่ ากขึน้

37 บรรณานกุ รม เกยี ร์ธรรมดา. ( ออนไลน์ ). แหลง่ ท่ีมา https://chobrod.com. สบื ค้นเมื่อ 11 สงิ หาคม 2564. ระบบการทางานของเกยี ร์ธรรมดา. ( ออนไลน์ ). แหลง่ ทม่ี า https://www.techniccar.com . สบื คน้ เมอื่ 16 สิงหาคม 2564. ส่วนประกอบของเกียร์ธรรมดา. ( ออนไลน์ ). แหลง่ ท่มี า http://phithan-toyota.com . สืบค้นเม่ือ 20 สงิ หาคม 2564. ปัญหาของเกยี ร์ธรรมดา. ( ออนไลน์ ). แหล่งท่มี า https://www.tqm.co.th. สบื คน้ เมอื่ 23 สิงหาคม 2564. อตั ราทดเกยี ร์. ( ออนไลน์ ). แหล่งท่มี า https://naichangmashare.com. สบื ค้นเม่อื 25 สิงหาคม 2564.

38 ภาคผนวก

39 ประวตั ิผู้จดั ทาโครงการ ช่อื นายณัฐนนท์ ขาวละเอียด ที่อยู่ 49/3 หมู่ 4 ตาบลลาดหลุมแก้ว อาเภอลาดหลุมแกว้ จงั หวดั ปทมุ ธานี หมายเลขโทรศพั ท์ 088-624-1597 ประวตั ิการศกึ ษา ช้นั ประถมศกึ ษา จากโรงเรียนวดั สทุ ธาวาส ชั้นมัธยมศกึ ษาตอนต้น จากโรงเรียนบัวแก้วเกษร ชั้นมธั ยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรยี นบวั แก้วเกษร ขณะน้ีกาลังศกึ ษาอย่รู ะดับชัน้ ประกาศนียบตั รวิชาชพี ชั้นสงู วทิ ยาลัยเทคนิคปทุมธานี

40 ประวัตผิ ู้จดั ทาโครงการ ชอ่ื นายณัฐพล สีทับทมิ ทีอ่ ยู่ 71 หมู่ 5 ตาบลบางพนู อาเภอเมอื งปทมุ ธานี จังหวัดปทุมธานี หมายเลขโทรศัพท์ 088-942-5967 ประวตั ิการศึกษา ชน้ั ประถมศึกษา จากโรงเรยี นวัดเทยี นถวาย ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ จากโรงเรยี นหอวังปทมุ ธานี ชัน้ มธั ยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรยี นจฑุ ารตั นว์ ิทยา ขณะนกี้ าลงั ศกึ ษาอยูร่ ะดบั ชนั้ ประกาศนียบตั รวิชาชีพชนั้ สงู วทิ ยาลัยเทคนคิ ปทุมธานี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook