ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ท้ อ ง ถิ่ น ภ า ค อี ส า น
ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น 01-04 อาหารอีสาน 05-06 สถานที่ท่องเที่ยว 07-09
เสื่อกก เ ป็ น ภู มิ ปั ญ ญ า ข อ ง ค น ใ น ท้ อ ง ถิ่ น ที่ มี ม า ย า ว น า น วิ ธี ก า ร ทำ เ สื่ อ ก ก จ ะ นำ เ อ า ต้ น ก ก ม า ฉี ก ใ ห้ เ ป็ น เ ส้ น ต า ก แ ด ด ใ ห้ แ ห้ ง แ ล ะ นำ ไ ป ย้ อ ม สี เ ส ร็ จ แ ล้ ว นำ ม า ท อ ใ ห้ เ ป็ น แ ผ่ น ผื น บ า ง ห มู่ บ้ า น ทำ เ ป็ น ผื น เ ดี ย ว บ า ง ก ลุ่ ม ก็ ท อ เ ป็ น ผื น ข น า ด เ ล็ ก แ ล้ ว นำ ม า เ ย็ บ ติ ด กั น ใ ห้ เ ป็ น เ สื่ อ ก ก ที่ มี ข น า ด ผื น ใ ห ญ่ ขึ้ น ใ ช้ สำ ห รั บ ปู ร อ ง นั่ ง ห รื อ น อ น
วิธีการทำ เสื่อกก ขั้นตอนที่ 1 การสอยต้นกก 1. ตัดต้นกกสด 2. คัดเลือกต้นกกที่มีขนาดเท่ากันไว้ด้วยกัน 3. นำต้นกกที่คัดแล้วมาสอยเป็นเส้นเล็กโดยใช้มีดปลายแหลมคม(มีดแกะสลัก) 4. นำเส้นกกที่สอยแล้วมาผึ่งแดด ให้แห้ง(ถ้าเป็นไปได้ต้องเป็นแดดที่กล้าจัด) 5. นำเส้นกกสอยที่ตากแห้งแล้วมากมัดเป็นมัด ๆ รอการย้อมสี ขั้นตอนที่ 2 การย้อมสี 1. เลือกซื้อสีสำหรับย้อมกกสี่ต่าง ๆ ที่มีสีสันสวยงาม เช่น สีแดง สีชมพู สีเหลือง สีม่วง สีดำ สีเขียว 2. ก่อไฟโดยไฟที่ใช้ต้องสม่ำเสมอ 3. นำปี๊ ป หรือกระทะใส่น้ำพอประมาณท่วมเส้นกกนำมาตั้งบนเตารอให้น้ำเดือด 4. พอน้ำเดือดก็นำสีที่เลือกมาเทลง 5. นำเส้นกกที่คัดเลือกแล้วลงย้อมจนเพียงพอที่จะใช้ในการทอ 6. นำเส้นกกที่ย้อมสีแล้วลงล้างในน้ำเปล่าแล้วนำไปตากแดดที่จัดจนแห้ง 7. นำเส้นกกที่ย้อมสีตากแห้งแล้วมากเก็บมัดรวมกัน โดยแยกเป็นสี แต่ละสี ขั้นตอนที่ 3 การทอเสื่อกกลายขิด ลายพื้นบ้านและลายบา 1. กางโฮงที่ทำสำเร็จรูปแล้วมากาง (โฮงที่ใช้ขนาดทอคนเดียว) 2. นำเชือกในลอนสำหรับทอเสื่อมาโยงใส่ฟืมจนเสร็จ 3. ฟืมที่ใช้ต้องมีขนาดเท่ากับเส้นกกและฟืมแต่ละฟืมก็อาจจะใช้ทอลายไม่เหมือนกัน 4. นำเส้นกกที่ย้อมสีตามจนแห้งแล้วนำมาทอเสื่อลายขิดตามต้องการซึ่งมีหลายลายด้วยกัน 5. นำเส้นกกที่สอยและย้อมสีแล้วเลือกว่าจะใช้สีใดบ้างที่จะทอเสื่อ 6. เลือกลายแล้วเริ่มทอจนเป็นแผ่น 7. พอทอเสร็จก็ตัดแล้วหลังจากนั้นก็นำไปตากแดดเพื่อให้สีไม่ออก 8. หลังจากนั้นก็นำมาเก็บในที่ร่ม ขั้นตอนที่ 4 การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเสื่อกกลายต่าง ๆ 1. เสื่อที่พิมพ์แล้วนำมาเย็บต่อเป็นผืนโดยใช้จักรเย็บ
กระตร้าสานพลาสติก การสานตะกร้าจากเส้นพลาสติก อุปกรณ์ 1. เส้นพลาสติก 5 ขีด 2. กรรไกร 3. หูถือกระเป๋า
วิธีการทำ 1. ตัดเส้นพลาสติกยาวกว่ากระเป๋าแบบ 20-30 ซม. จานวนความกว้าง 11 เส้น จานวน ความยาว 23 เส้น 2. นาเส้นพลาสติกที่ตัดไว้โดยนา 11 เส้นมาเรียงไว้ (ความกว้างของกระเป๋า) 3. นาเส้นพลาสติกที่เหลือ 23 เส้น นามาสานที่ละเส้น 4. เมื่อนามาสานครบทงั้ 23 เส้นแล้ว หลังจากนั้นจัดเส้นพลาสติกให้แน่น ไม่ให้มีช่องว่าง 5. เมื่อจัดเส้นพลาสติกแล้ว ให้นาเส้นพลาสติกทุกด้านมาขัดกับลาย โดยขัดเว้นเส้น 6. ขึ้นลายข้างกระเป๋า โดยการสานจะใช้ 3 เส้นในการสาน 1 รอบ 6.1 ดึงเส้นพลาสติกที่ขัดไว้มาสานกับ 3 เส้นที่ขึ้นลาย 6.2 สานสลับเส้น 6.3เมื่อขัดเส้นที่ขัดไว้กับลายแล้วให้สานเส้นถัดไปเหมอืนเดิม 6.4 แล้วพับลงมาขัดกับลาย 7. เมื่อสานเสร็จแล้ว ใหบ้ บี ตามขอบของกระเปา๋ เพื่อทาให้เป็นทรง 8. ใส่หูถือกระเป๋า ก็จะเป็นขั้นตอนสุดท้าย
อาหาร ของกินถิ่น อีสาน ส้มตำ เมนูที่ทุกคนทั่วโลกรู้จักจานนี้มาในหลากหลายรูปแบบ ลูกอีสานบางคน ยืนยันว่าส้มตำจะขาดปลาร้าไม่ได้ แต่หัวใจของจานนี้อยู่ที่เส้นมะละกอ ดิบที่ต้องสดกรอบ ก่อนนำมาตำกับมะเขือเทศ พริก และกระเทียม ตำ ปลาร้าฉบับอีสานแท้ ๆ โดดเด่นด้วยกลิ่นแรงจากปลาร้า ลาบ อาหารอีสานขึ้นชื่ออีกจาน ทำจากเนื้อสัตว์บดคลุกกับข้าวคั่ว หอมแดง ต้นหอม ใบสะระแหน่ เสริมรสด้วยพริก น้ำมะนาว และน้ำปลาหรือ ปลาร้า เนื้อที่ใช้โดยมากจะเป็นหมู วัว ไก่ หรือเป็ด แต่บางพื้นที่ก็ใช้เนื้อ สัตว์ที่หาได้ในท้องถิ่นอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีเมนูลาบเลือดที่ผสมเลือด วัวหรือหมูสด เช่นเดียวกับอาหารอีสานอื่น ๆ ลาบมักทานคู่กับข้าว เหนียวนึ่ง ในปัจจุบัน บางร้านยังมีเมนูลาบทอดที่นำวัตถุดิบลาบมาปั้น เป็ นก้อนกลมแล้วนำไปทอดกรอบ ข้าวจี่ ข้าวจี่ตำรับอีสานคือข้าวเหนียวอัดเป็นแผ่นกลมหรือก้อนรี ชุบไข่ผสม เกลือแล้วนำไปย่าง เป็นภูมิปัญญาการถนอมข้าวเหนียวไม่ให้เสียเพราะ อากาศแสนร้อน
ไส้กรอกอีสาน ไส้กรอกอีสานมาจากการนำเนื้อ มัน และหนังหมูมาบด จากนั้นใส่ข้าว สวยเพื่อให้เกิดกระบวนการหมัก ทิ้งไว้ระยะสั้น ๆ แค่ 2-3 วันพอให้มี รสเปรี้ยวเล็ก ๆ ระหว่างทำยังปรุงรสด้วยกระเทียม เกลือ และพริกไทย เหมาะทานเป็นของว่างแสนอร่อย คู่กับพริก ขิง และกะหล่ำปลี ปลาส้ม “ส้ม” ภาษาอีสานแปลว่าเปรี้ยว ดังนั้น เตรียมลิ้นรับรสเปรี้ยวที่เกิดจากการ หมักได้ ปลาที่นำมาทำส่วนมากเป็นปลาน้ำจืดอย่างปลาตะเพียน อาจจะใช้ทั้ง ตัวหรือเฉพาะเนื้อ นำมาหมักกับข้าวสุกปรุงรสแล้วทิ้งไว้ 2-3 วัน ได้ที่แล้วนำ ไปทอดหรือย่างตามใจชอบ แกงหน่อไม้ใบย่านาง แกงอีสานแสนอร่อยนี้ เหมาะสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก เพราะ เป็นแกงที่ ไม่ใส่กะทิ อันดับแรก นำหน่อไม้สดมาต้มเพื่อกำจัดรสขม ก่อนนำไปต้มรวม กับพริกแกงสีเขียวจากใบย่านาง แล้วเสริมความข้นด้วยข้าวเบือที่โขลกไว้ ใส่เครื่องแกงอื่นๆ ที่เตรียมไว้ทั้งพริกขี้หนูและหอมแดง และปลาร้าเพื่อเพิ่ม รส นอกจากนี้ยังสามารถใส่ผักตามฤดูกาลเพิ่มรสชาติได้อีกด้วย
สถานที่ท่อง เที่ยวภาคอีสาน ต้องมาเที่ยวสักครั้ง
หินสามวาฬ จ.บึงกาฬ ถนนคนเดินเชียงคาน จ.เลย วัดป่าภูก้อน จ.อุดรธานี.
วัดคำชะโนด จ.อุดรธานี พิพิธภัณฑ์สิรินธร จ.กาฬสินธุ์ วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว จ.อุบลราชธานี .
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: