ความรู้ทวั่ ไปเกย่ี วกับหอ้ งสมุด หอ้ งสมดุ เป็นศูนยบ์ รกิ ารสารสนเทศทส่ี าคญั มาต้ังแต่อดตี จนถึงปัจจุบนั และรจู้ กั กนั ดี มผี ู้ใชบ้ รกิ ารจานวนมาก ซึ่งปจั จบุ นั มีชอื่ เรยี กแตกตา่ งออกไป ขน้ึ อยู่กับลกั ษณะของการใชบ้ ริการ และส่ิงท่ีใหบ้ ริการ ณ ท่นี ้ัน ๆ เช่น หอสมดุ สานักหอสมุด สถาบนั วทิ ยบริการ เป็นต้น ความหมายของห้องสมุด คาว่า “ห้องสมุด” บัญญัตมิ าจากคาว่า Library มาจากภาษาละตินว่า Liberia หมายถงึ ท่ีเกบ็ หนังสือ โดย มีรากศัพทเ์ ดิมว่า “Liber” ซึ่งหมายความวา่ หนงั สือ หอ้ งสมดุ หมายถงึ สถานท่รี วบรวมทรพั ยากรสารสนเทศเอาไวใ้ นรปู แบบต่าง ๆ ท้งั ท่เี ป็นวสั ดุตพี ิมพ์ วสั ดไุ ม่ ตีพิมพ์ วัสดอุ เิ ลก็ ทรอนิกส์ เพอ่ื ให้ผ้ใู ชส้ ืบคน้ และเขา้ ถงึ สารสนเทศได้มากขนึ้ อยา่ งมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า โดยมีการคดั เลอื ก จดั หาให้สอดคลอ้ งกับความต้องการ ความสนใจขอผูใ้ ช้ มีการจัดทเ่ี ปน็ ระบบโดยมี บรรณารกั ษว์ ิชาชีพ ซ่ึงมีความร้ทู างบรรณารกั ษศาสตร์ เปน็ ผบู้ ริหารและดาเนินการจดั ใหอ้ ยา่ งมีระบบ ความสาคัญของหอ้ งสมุด ในยุคแห่งขอ้ มลู ข่าวสาร (Information Age) ผทู้ ส่ี นใจจะศึกษาค้นควา้ ให้เป็นผ้รู อบร้ใู นวทิ ยาการเชยี่ วชาญใน งานอาชีพ และทนั สมยั ต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ นน้ั จาเปน็ ต้องพึ่งพาหอ้ งสมุดเป็นอยา่ งย่ิง หอ้ งสมดุ เป็นปัจจยั สาคัญส่งิ หน่งึ ท่จี ะบง่ ชถ้ี งึ ความมมี าตรฐานดา้ นการศึกษา ของการศกึ ษาแห่งนนั้ ๆ จงึ พอสรปุ ความสาคัญของ หอ้ งสมดุ ได้ ดังน้ี 1. หอ้ งสมุดเปน็ ศูนย์กลางการเรยี นรู้ของสถาบันการศึกษาที่ผู้ใช้สามารถศึกษาคน้ คว้าข้อมูลท่ีตอ้ งการไดท้ กุ สาขาวิชา 2. หอ้ งสมุดเปน็ แหลง่ ท่ีทุกคนสามารถเลือกศึกษาค้นคว้าไดโ้ ดยอสิ ระตามความสนใจของแต่ละบคุ คล เป็น แหลง่ ภมู ปิ ัญญาของสังคม อาจเปน็ การค้นควา้ เพิ่มเตมิ เพ่ือใหร้ อบร้เู ข้าใจยิ่งขึน้ ในเนอื้ หาวชิ า หรอื เรือ่ งที่กาลงั ศกึ ษาอยู่ หรอื เลือกอ่านสง่ิ ท่ีตนเองสนใจ โรเจอร์ เบคอน นักปราชญช์ าวองั กฤษกลา่ วไว้ว่า “การอา่ นทาให้ เป็นคนเตม็ คน” 3. ห้องสมดุ ชว่ ยให้ผใู้ ชร้ จู้ ักใช้เวลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ คนเราน้นั หากมเี วลาวา่ งกค็ วรจะทาอะไรสกั อยา่ ง เพอ่ื ใหค้ ุม้ ค่าเวลา การใช้เวลาวา่ งของแต่ละคนแตกตา่ งกนั เชน่ บางคนชอบน่งั เฉย ๆ ชมธรรมชาติและ
สง่ิ แวดลอ้ มรอบตวั บางคนชอบดูหนงั บางคนชอบฟงั เพลง บางคนชอบคุย อีกหลายคนชอบเลน่ เกม แตก่ ารใช้ เวลาวา่ งทคี่ มุ้ คา่ ท่ีสุดอย่างหนึง่ คอื การอา่ นหนงั สอื หยบิ หนงั สือดี ๆ สกั เล่มใหก้ ับชวี ิตอ่านแล้ว ทาใหป้ ัญญา งอกงามเกดิ ประโยชนแ์ กต่ นเองและสังคม 4. ห้องสมดุ ช่วยให้ผูใ้ ช้มคี วามรู้ทันสมยั ทันเหตกุ ารณอ์ ยเู่ สมอ เพราะผู้ใชห้ อ้ งสมุดเป็นประจาจะเป็นผทู้ ่รี ขู้ า่ ว ความเคลือ่ นไหวทัง้ ภายในและนอกประเทศ 5. ห้องสมุดช่วยให้ผใู้ ชม้ ีนสิ ยั รักการอา่ น การค้นควา้ และใฝ่หาความรูด้ ว้ ยตนเอง เพราะห้องสมดุ เป็นแหล่ง บรกิ ารขอ้ มูล ขา่ วสาร จัดให้มีบรกิ ารชว่ ยการคน้ คว้าและเสนอแนะการอา่ น ผู้ใช้จึงสามารถขยายขอบเขตการ อ่าน การศกึ ษาคน้ ควา้ ให้กว้างขวางออกไปไดม้ ากข้ึน 6. หอ้ งสมดุ เปน็ สมบัติของสว่ นรวม ซ่งึ ผู้ใช้บรกิ ารจะตอ้ งรับรูก้ ฎระเบยี บและปฏบิ ตั ติ ามอย่างเครง่ ครัด รับร้ถู งึ สิทธิและหนา้ ท่ีท่ีพึงปฏิบัตติ ่อส่วนรวม จงึ เป็นการปลูกฝังความเปน็ ประชาธิปไตยในตงั บคุ คลเป็นอย่างดี ประโยชน์ของหอ้ งสมดุ ห้องสมดุ เป็นแหล่งที่จัดหา รวบรวมทรัพยากรสารสนเทศ อันจะกอ่ ให้เกดิ ประโยชน์ต่อตัวบคุ คลและสังคมใน ดา้ นตา่ ง ๆ ดังต่อไปน้ี 1. ดา้ นการเรียนการสอน 2. ดา้ นการคน้ คว้าวจิ ัย เพื่อใหเ้ กดิ ความรูใ้ หม่ 3. ด้านศลิ ปวฒั นธรรม (สะสมความคดิ วฒั นธรรม มรดกของชาต)ิ 4. ดา้ นการดารงชีวติ 5. ด้านเศรษฐกิจ (ช่วยประหยดั ในการหาความรู้ สรา้ งอาชีพให้คน) 6. ใช้ข้อมูลในการตดั สินใจได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม วตั ถุประสงค์ของห้องสมุด 1. วัตถปุ ระสงคข์ องหอ้ งสมดุ ทวั่ ไป 1.1 เพื่อการศึกษา (Education) ห้องสมุดเปน็ แหลง่ บรกิ ารการศกึ ษาด้วยตนเอง บรกิ ารได้ทุกเพศ ทกุ วยั ไมแ่ บ่งชน้ั วรรณะ หรอื พื้นความรู้ เปน็ ตลาดวิชา 1.2 เพ่ือความรู้ (Information) หอ้ งสมุดเปน็ แหลง่ ทีใ่ ห้ความรู้ และขอ้ เท็จจริงของข่าว ทง้ั ในประเทศ และตา่ งประเทศท่ีทันตอ่ เหตกุ ารณ์ 1.3 เพอ่ื การค้นคว้าวจิ ัย (Research) หอ้ งสมดุ เป็นแหล่งช่วยใหผ้ ู้อ่านทส่ี นใจในวชิ าการแขนงใดแขนง หนึง่ สามารถค้นหาขอ้ มลู ทางวชิ าการใหม่ ๆ ที่เปน็ เคร่อื งมือสาคัญในการพัฒนาสังคมให้ก้าวหนา้ ตอ่ ไป 1.4 เพอ่ื ความจรรโลงใจ (Inspiration) วสั ดุอุปกรณห์ นงั สือในห้องสมดุ ช่วยให้ผูใ้ ช้บรกิ าร เกิดความสุข ใจ เกดิ ความซาบซงึ้ และประทับใจวรรณกรรมสาขาต่าง ๆ ท่ีผ้รู เู้ ขยี นข้ึน และนาขอ้ คิด คาคม คตสิ อนใจ ต่าง ๆ ในวรรณกรรมนนั้ ๆ มาปฏบิ ตั ิในทางทด่ี ี
1.5 เพ่อื การพกั ผอ่ นหย่อนใจ (Recreation) มกี ารจดั บรรยากาศภายในหอ้ งสมดุ ให้สวยงาม เพ่อื เป็น แหล่งพักใจให้คลายกงั วล มหี นงั สือประเภทบันเทิงคดี สารคดีท่องเทีย่ ว เปน็ ต้น 2. วัตถปุ ระสงค์ของหอ้ งสมุดโรงเรยี น 2.1 เป็นศูนยก์ ลางการอา่ น เพ่อื เปิดโอกาสเชญิ ชวนใหส้ นใจและรักการอ่าน 2.2 เปน็ ศูนย์กลางการค้นคว้า ชกั จงู ให้เขา้ ใจในการใชห้ นังสอื และวิธีการคน้ ควา้ จาก หนังสือ ซีดี ตลอดจนการสบื ค้นขอ้ มลู จากอนิ เทอร์เนต็ เพ่อื ประโยชน์ในการศึกษา 2.3 เป็นศนู ยก์ ลางฝึกวจิ ารณญาณในการอา่ น และขยายขอบเขตของการอา่ นให้กวา้ งขวางยิ่งข้ึน แนะนา การอา่ นใหก้ บั ผเู้ รยี นอยา่ งหลากหลาย และสมา่ เสมอจนสามารถวินจิ ฉยั หนงั สือหรอื มวี จิ ารณญาณ ในการ อา่ นมากขึน้ ตามลาดับ 2.4 เป็นศนู ย์กลางแนะแนวการอา่ น เพ่ือทาใหเ้ กิดความเขา้ ใจและสามารถเลือกอ่านไดต้ รงตามความ ต้องการ เพื่อการศึกษาคน้ ควา้ เพ่อื แกป้ ัญหา และเพื่อความบันเทงิ 2.5 เป็นศนู ย์กลางวัสดุอุปกรณก์ ารจัดการเรียนรู้ตา่ ง ๆ เพ่อื สนับสนุนและอานวยความสะดวก ในการ เตรยี มการจัดการเรยี นรขู้ องครใู หเ้ ป็นไปอย่างรวดเรว็ ย่งิ ขึน้ สามารถกระตนุ้ ใหผ้ ูเ้ รียนสนใจในการเรียนรู้ และการศกึ ษาคน้ ควา้ ไปจนตลอดชีวิต ประเภทของหอ้ งสมุด ห้องสมดุ แบ่งเป็นประเภทต่าง ๆ ดงั นี้ 1. หอ้ งสมดุ โรงเรียน (School Library) คือ หอ้ งสมุดที่จัดต้งั ขึน้ ภายในโรงเรียน เพ่อื ให้ ผเู้ รียน ครผู สู้ อน และบคุ ลากรในโรงเรียนนนั้ ๆ ได้ศกึ ษาค้นควา้ 2. ห้องสมดุ วิทยาลัยและมหาวทิ ยาลยั ( Collage University and Library) คือ ห้องสมุดท่ีจัดต้งั ขึน้ และ ดาเนนิ การโดยวิทยาลยั มหาวิทยาลัยต่าง ๆ เช่น หอสมุดมหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ หอสมดุ มหาวทิ ยาลัย รามคาแหง ฯลฯ 3. หอ้ งสมุดเฉพาะ (Special Library) คือ หอ้ งสมดุ ท่ีจัดขน้ึ โดยหนว่ ยงาน สถาบันหรือองคก์ รต่าง ๆ ท่มี ี หนา้ ทีร่ วบรวมหนังสอื และวสั ดุการศกึ ษาเฉพาะในบางสาขาวิชา บางเรอ่ื ง เชน่ หอ้ งสมุดธนาคารแห่ง ประเทศไทย หอ้ งสมดุ กระทรวงวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฯลฯ 4. หอ้ งสมุดประชาชน (Public Library) คอื ห้องสมุดที่จัดต้ังขน้ึ เพ่อื ใหบ้ ริการด้านหนงั สอื และวัสดุ การศึกษาตา่ ง ๆ แก่ประชาชนทกุ เพศ ทกุ วัย และทกุ ระดับการศกึ ษาโดยไม่ตอ้ งเสียคา่ บารุง 5. หอสมดุ แห่งชาติ (National Library) คือ ห้องสมุดทปี่ ระเทศเป็นผจู้ ัด เป็นหอ้ งสมดุ ที่มี หนา้ ท่ีเก็บ รวบรวมสงิ่ พิมพ์ ท่พี มิ พ์ข้ึนภายในประเทศตามกฎหมาย องค์ประกอบของหอ้ งสมดุ ในการท่จี ะดาเนินงานหอ้ งสมุดให้ประสพความสาเร็จนั้น หอ้ งสมุดตอ้ งมอี งคป์ ระกอบท่ีสาคญั ดังนี้
1. ผู้บรหิ าร ผบู้ ริหารเปน็ บคุ คลที่มีบทบาทสาคญั ทสี่ ดุ ในการสนบั สนุนการดาเนนิ งานห้องสมุดให้ผู้มอี านาจพิจารณาให้การ สนับสนุนทง้ั ในดา้ นการเงนิ กาลังคนและกาลงั ใจการให้การสนบั สนนุ จะทาใหก้ ารดาเนินงานหอ้ งสมดุ บรรลุ ตามวตั ถปุ ระสงค์ 2. อาคารสถานที่ หอ้ งสมุดต้องมสี ถานที่พอเพียงในการเก็บหนังสือและโสตทัศน์วัสดอุ ปุ กรณ์ในการทางานของเจา้ หน้าที่ และ ให้บรกิ ารแกผ่ ใู้ ช้ สถานทีห่ อ้ งสมุดนั้นอาจเปน็ อาคารสว่ นใดสว่ นหน่งึ ของอาคาร 3. ครภุ ัณฑ์ ครุภณั ฑเ์ ป็นส่ิงจาเปน็ สาหรับหอ้ งสมุดในการทีจ่ ะใชเ้ ป็นทเ่ี ก็บหนังสอื สงิ่ พมิ พ์วสั ดุต่าง ๆ และยงั เป็นเครอ่ื ง อานวยความสะดวกแก่ผใู้ ช้ 4. วัสดสุ ารสนเทศ ห้องสมุดจาเป็นจะตอ้ งมหี นงั สือ สิ่งพมิ พ์ต่าง ๆ และโสตทัศนว์ สั ดเุ พือ่ สนองความตอ้ งการแก่ผู้ใช้วัสดุ สารสนเทศของหอ้ งสมดุ โดยทั่ว ๆ ไป จัดแบง่ เปน็ 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ วัสดตุ ีพมิ พ์ วัสดไุ มต่ ีพิมพ์ และวัสดุ อิเล็กทรอนกิ ส์ 5. บุคลากร หอ้ งสมดุ จะต้องมบี รรณารกั ษซ์ ่ึงมพี ื้นความรใู้ นวิชาบรรณารักษศาสตร์เป็นบรรณารักษแ์ ละบุคลากรอื่น ๆ ร่วม ดาเนนิ งานห้องสมุด 6. เงนิ อุดหนนุ เงินเป็นปัจจยั สาคัญในการจัดหาวัสดุสารสนเทศ ครภุ ัณฑ์ และอุปกรณอ์ ื่น ๆ เพ่ือดาเนนิ งานหอ้ งสมุดบรรลุ เป้าหมายที่วางไว้ หอ้ งสมุดในสมัยโบราณ ห้องสมุดทเ่ี ก่าแก่ท่สี ดุ ในโลก และท่ีตง้ั ข้นึ เป็นแหง่ แรก สันนษิ ฐานกันว่า เห็นจะได้แก่หอ้ งสมุดตามวดั และ พระราชวงั เพราะวัดเป็นทชี่ มุ นุมของนกั บวชซง่ึ เป็นผู้รู้เรือ่ งศาสนา พระราชวังเป็นท่ีซง่ึ มนี กั ปราชญร์ าช บัณฑติ รบั ราชการ หรืออยใู่ นพระราชูปถมั ภ์ ห้องสมุดเกา่ แก่ที่สดุ แหง่ หน่ึงทน่ี ักโบราณคดไี ด้ค้นพบ คือ ห้องสมุดของพระเจา้ ซาร์กอนแหง่ อาณาจกั รอัส ซีเรยี (Sargon of Assyria) ซงึ่ สร้างขน้ึ ประมาณ ๓๐๐ ปีก่อนพุทธกาล เป็นทีร่ วบรวมหนงั สือความร้ตู า่ งๆ ใน
รูปของแท่งดนิ เหนียวสลกั ตัวอกั ษรรูปลิม่ มีท้ังแท่งดนิ ดิบ และแทง่ ดนิ เผา หอ้ งสมุดน้ีทาให้นกั โบราณคดี และ นกั ภาษาโบราณสามารถเรียนรอู้ ารยธรรมของอาณาจักรโบราณในลมุ่ แม่นา้ ไทกรสิ และยูเฟรตสิ ในตะวันออก กลางได้มาก ห้องสมุดแห่งนม้ี หี นังสืออยู่ประมาณ๒๒,๐๐๐ แทง่ เจริญร่งุ เรืองมากในสมัยพระเจ้าอัสสรุ บานิ ปาล พระราชนัดดา ของพระเจ้าซาร์กอนที่ ๒ มหี นังสือเพิ่มเติมมากขึน้ มีการจัดหมู่หนงั สอื และลงบญั ชไี ว้เรียบรอ้ ยส่วนมากเปน็ เร่ือง ประวตั ิศาสตร์ ศาสนา วรรณคดีหลักภาษา วทิ ยาศาสตร์ เท่าที่รู้จกั กันในสมัยนนั้ และเศรษฐกจิ มหี ลกั ฐานปรากฏในอาณาจักรที่เจริญรุง่ เรืองในสมัยโบราณตอ่ มาว่า มหี ้องสมุดสาคัญๆหลายแห่ง เชน่ ใน อียปิ ต์สมยั โบราณ มีห้องสมดุ เมอื งอะเลก็ ซานเดรยี (Alexandria) และหอ้ งสมุด ท่ีเมืองเพอรก์ ามมุ (Pergamum) สมัยกรีกโบราณมหี อ้ งสมุดส่วนตัว ของอารสิ โตเตลิ (Aristotle) ในยโุ รปตอนปลายพทุ ธศตวรรษ ท่ี ๒๐ มหี ้องสมุดขนาดใหญท่ ่มี ีความสาคญั ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจบุ ันคอื หอสมดุ แห่งชาตฝิ ร่ังเศส และ หอสมุดแหง่ ชาตอิ งั กฤษ เปน็ ต้น ในซีกโลกตะวนั ออก อาณาจกั รโบราณเช่น จีน และอินเดีย ซึ่งมีความกา้ วหนา้ ทางวิชาความรแู้ ละหนงั สือ ก็มี การสะสมหนังสอื ด้วยเหมือนกนั ชาวจีนโบราณรจู้ ักวธิ ที ากระดาษสาหรับเขียนหนงั สือ รวู้ ธิ ี พมิ พห์ นงั สือด้วยแผ่นไม้ และแกะตวั พิมพ์ มีการบนั ทกึ ความรู้ ทานองสารานกุ รม จดบนั ทกึ พงศาวดาร เรอื่ งราวในอดตี มีการแตง่ วรรณคดี ชาวเกาหลโี บราณรู้จักวธิ ีพมิ พด์ ว้ ยตวั พมิ พโ์ ลหะและมีหนว่ ยราชการ “วา่ ดว้ ยหนังสอื ” ชาวอินเดีย มีตาราวา่ ด้วยเทววิทยา ศาสนา วรรณศลิ ป์ และศิลปกรรมมาช้านาน อย่างไรก็ดี ความรู้เกยี่ วกบั หอ้ งสมุดหรือคลังหนังสอื ของประเทศท้ังสองในสมัยโบราณ คงเปน็ เรอ่ื งท่ีจะตอ้ งศกึ ษาค้นคว้า อย่างเป็นระบบกนั ตอ่ ไป ประวตั ิของห้องสมุดในประเทศไทย สมยั กรุงสุโขทัย ผู้คดิ ประดิษฐ์ตวั อักษรไทยซงึ่ ใชก้ ันอย่ใู นปจั จุบันนคี้ อื พอ่ ขุนรามคาแหง เก็บรักษาไวท้ ีห่ อไตร สมัยกรุงศรีอยุธยา มกี ารเขยี นหนงั สือด้วยมือลงสมุดขอ่ ย ซง่ึ สมเดจ็ พระนารายณ์มหาราชรวบรวมจัดเก็บไวท้ ี่ หอหนงั สือหลวงภายในพระบรมมหาราชวัง เมื่อคร้งั เสยี กรงุ ครั้งท่ี 2 ถูกพม่าเผาพระราชวัง วดั บ้านเรอื น ประชาชนเสียหายมาก หนงั สอื ก็ถกู เผาไปมากเช่นกนั สมัยกรุงธนบุรี พระเจา้ กรงุ ธนบุรไี ด้จดั ต้ังหอหลวงขนึ้ สาหรบั เก็บรวบรวมคัมภีร์พระไตรปฎิ กในส่วนทเ่ี หลอื และได้ขอยมื มาจากเมอื งนครศรธี รรมราชเพ่มิ เติมอกี สว่ นหน่ึง สมยั กรุงรตั นโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 ไดส้ รา้ งหอพระมณเฑยี รธรรมข้นึ ในบรเิ วณวัดพระศรรี ตั นศาสดาราม ใช้ สาหรบั เก็บพระไตรปิฎกและหนงั สืออ่นื ๆ ซึ่งสว่ นใหญ่เป็นหนังสือทางศาสนาและวรรณคดี กฎหมาย ตารา แพทย์และพงศาวดารซ่งึ กระจายอยู่ตามท่ตี ่าง ๆ
รัชกาลที่ 3 เมอื่ ปีพ.ศ.2332 โปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์วดั โพธาราม และพระราชทานนามใหมว่ ่า “วัดพระเชตุพนวมิ ลมังคลาวาส” ซ่ึงปจั จุบนั คือวัดพระเชตพุ นวิมลมงั คลารามราชวรวิหาร และโปรดเกลา้ ฯ ให้สร้างศาลาราย 70 ศาลา ข้ึนเพ่ือจารึกเร่ืองชาดก รวบรวมตารายาและการแพทยแ์ ผนไทย ตาราอาชีพต่าง ๆ ซ่งึ จะจารกึ ไว้บนแผน่ ศิลาเปน็ รอ้ ยกรองประเภทโคลง และข้อความส้นั ๆ โดยสมเดจ็ ฯ กรมพระปรมานุชิต ชโิ นรสเป็นเรื่องเก่ียวกับพุทธศาสนา ซ่ึงมปี ระวัติของสาวกคนสาคญั ๆ ของพระพุทธเจา้ เช่น พระสารบี ุตร พระมหากัสสป ส่วนเร่อื งทางด้านขนบธรรมเนยี มประเพณีไทยจะเขยี นเปน็ ร้อยแก้ว เชน่ เรอ่ื งเกีย่ วกบั ประเพณีกวนขา้ วทพิ ย์ มหาสงกรานต์ ขบวนแห่พยุหยาตรา วรรณคดีร้อยแกว้ เรื่องนารายณ์สบิ ปาง และ รามเกียรติ์ เขียนและวาดภาพไวต้ ามฝาผนังและในพระวหิ าร เพ่ือใหค้ วามรู้แกป่ ระชาชน จึงนบั ได้วา่ วดั พระเช ตพุ นฯ แหง่ นเ้ี ปน็ หอ้ งสมดุ ประชาชนแหง่ แรกของประเทศไทย รชั กาลท่ี 5 ไดส้ ร้างหอพระสมดุ วชริ ญาณขนึ้ เพือ่ เฉลมิ พระเกยี รติสนองคณุ พระชนกนาถ ซ่ึงต่อมาภายหลัง โปรดเกลา้ ฯ ใหร้ วมหอพระมณเฑียรธรรม หอพระสมุดวชริ ญาณ และหอพุทธสังคหะเข้าดว้ ยกนั และใหใ้ ช้ชอ่ื วา่ “หอพระสมุดสาหรบั พระนคร” ตง้ั อย่ภู ายในพระบรมมหาราชวงั และภายหลงั รชั กาลท่ี 6 ได้ยา้ ยมาอยู่ทตี่ ึกถาวรหน้าวัดมหาธาตฯุ ดา้ นสนามหลวง เพอ่ื ใช้เปน็ ที่เกบ็ รวบรวมหนังสอื ประเภทต่าง ๆ ได้แก่ หนังสือพระพทุ ธศาสนา หนงั สือไทย และหนังสือต่างประเทศ หนังสือเก่ามคี ุณคา่ หายากเชน่ ไตรภูมิ พระรว่ ง พระราชกฤษฎีกา และตานานเขียนสมยั กรงุ ศรอี ยธุ ยาหลายเร่อื ง จดหมายเหตคุ วามทรงจาของกรม หลวงนรนิ ทรเทวี ต้นร่างพระราชนพิ นธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยู่หวั อกี 6 เรอ่ื ง คือ ปลุกใจเสอื ปา่ แบบสงั่ สอนเสือป่าและลกู เสอื การราชาภิเษกพระราม บอ่ เกิดแหง่ รามเกียรติ์ พระนลคาหลวง และโองการ แชง่ น้า สว่ นหนงั สือตา่ งประเทศท่ซี ้ือไว้ในหอพระสมุดน้ันเปน็ เรอื่ งเก่ยี วกบั ประวตั ิศาสตร์ไทยท่ชี าวต่างประเทศเขยี นไว้ ในเรื่องตา่ ง ๆ ทีเ่ กยี่ วกบั ประเทศไทย ซ่งึ จะใชเ้ ป็นหลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์ได้เป็นอยา่ งดี หอพระสมุดวชริ ญาณมคี วามสาคัญเพราะเปน็ สถานท่ีรวบรวมหนังสอื ไทยทีเ่ ป็นต้นฉบบั ตวั เขียนดว้ ยมอื ไว้ได้ มากทีส่ ดุ ในขณะนั้น ซึง่ บนั ทกึ เรื่องราวต่าง ๆ ของเมอื งไทยท่ีมีทาแตเ่ ดิม และแตง่ ขึน้ ใหม่ใหแ้ พรห่ ลาย และคง อยมู่ าจนถึงทกุ วนั น้ี ประวตั ิห้องสมุดโรงเรยี นเฉลิมพระเกียรตสิ มเด็จพระศรนี ครินทร์ ภเู ก็ต ในพระราชปู ถมั ภ์ สมเด็จพระเทพ รัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี ปี พ.ศ. 2539 ห้องสมดุ อยทู่ ช่ี ้ัน 4 ของอาคารสรอ้ ยฟ้า ขนาด 1 หอ้ งเรยี น ขณะนน้ั ยังมีหนงั สอื จานวนนอ้ ย ในหอ้ งสมดุ หนงั สือชดุ แรกที่หอ้ งสมดุ ไดร้ ับ เป็นหนงั สอื Encycropedia จานวน 1 ชุด จากโรงเรยี น ภูเกต็ วทิ ยาลัย ตอ่ มาปี พ.ศ. 2541 ไดย้ า้ ยห้องสมดุ ไปอยู่ช้ันลา่ ง อาคารแคทรียา จานวน 1 หอ้ งเรียน ซึ่งเปน็ หอ้ ง Study ของนักเรียนหอพักชาย โดยมีนางสณุ ิสา พรหมภฒั น์ เปน็ หวั หนา้ งานห้องสมุด และนาง ฉววี รรณ โมฬี เปน็ บรรณารกั ษ์ ภายใต้การบรหิ ารของผอู้ านวยการเมษ ตนั ยรักษ์
ประมาณปี พ.ศ. 2542 ได้ขยายหอ้ งสมดุ เพมิ่ อกี 1 หอ้ งเรยี น ซ่งึ แบง่ เปน็ 2 หอ้ ง คอื หอ้ งสมดุ ทวีปัญญา ซึง่ ใหบ้ รกิ ารหนงั สือหมวดต่างๆ และห้องสมุด E-Library ให้บรกิ ารวารสารและอนิ เตอรเ์ น็ต เพื่อรองรับ โรงเรียนในฝัน และได้เริม่ นาเทคโนโลยีมาใช้ในห้องสมุดคร้ังแรก โดยใช้คอมพิวเตอร์ในการเก็บขอ้ มูลหนงั สอื และส่ิงพมิ พ์ต่าง ๆ ดว้ ยโปรแกรม Alice For Window พรอ้ มจัดทาบารโ์ ค้ดหนงั สอื การสืบคน้ ขอ้ มูล หนงั สอื ดว้ ยคอมพิวเตอร์ ภายใตก้ ารบรหิ ารของผู้อานวยการสดศรี ตนั สธุ ญั ลกั ษณ์ ด้วยวิสยั ทัศน์อันกวา้ งไกล ของผอู้ านวยการสดศรี ตนั สธุ ัญลกั ษณ์ ท่เี ห็นความสาคญั ของห้องสมดุ จึงสรา้ งห้องสมดุ โรงเรยี นใหมข่ นึ้ กลางน้า เป็นอาคาร 2 ช้ัน ดว้ ยงบประมาณกว่า 7,000,000 บาท เสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2554 และยา้ ย เข้ามาใชใ้ ห้บริการเมอ่ื ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2554 ปจั จุบันหอ้ งสมุดเปลย่ี นมาใช้ โปรแกรม Library 2001 เกยี รติประวตั ิหอ้ งสมดุ โรงเรยี นเฉลิมพระเกยี รติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต – รับเกยี รติบัตรครูดีเดน่ ในวชิ าชีพบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ ปี 2548 จากสมาคม หอ้ งสมดุ แหง่ ประเทศไทย – รบั รางวลั หอ้ งสมุดดีเดน่ ปี 2548 ระดบั เขตพน้ื ที่การศึกษาภเู ก็ต – รับเกียรติบัตรครยู อดนกั อา่ น ปี 2548 สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษา ภูเก็ต – รบั เกียรตบิ ัตรนกั เรยี นยอดนักอ่าน ปี 2548 สานักงานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษา ภเู ก็ต – รางวลั โรงเรยี นรักการอ่าน จากสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน – รับรางวัลชมเชย หอ้ งสมุดดีเดน่ ปี 2552 สานกั งานเขตพื้นทีก่ ารศึกษา ภเู กต็ – รบั รางวลั กจิ กรรมห้องสมุดโรงเรียนดเี ด่น ปี 2553 สานกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษา ภเู กต็ ลักษณะของห้องสมุดสมัยใหม่ หอ้ งสมดุ ในยคุ กอ่ น ๆ มุ่งทจ่ี ะจดั เก็บหนงั สอื เอาไว้อยา่ งเข้มงวดมีการลา่ มโซ่หนงั สอื เอาไว้บนที่อ่านอยา่ ง แข็งแรงเพ่ือป้องกนั มิให้หนงั สอื หาย เพราะหนงั สอื มีนอ้ ย จดั ทาขน้ึ ยาก ผเู้ ขยี นเป็นและอ่านออกกม็ ไี มม่ าก จึง มที ง้ั คณุ ค่า หายาก และราคาแพง การใชห้ อ้ งสมดุ จึงจากดั อยใู่ นวงแคบเฉพาะบางกลุ่ม ซ่ึงแตกต่างจาก ห้องสมดุ ในปัจจุบัน ลกั ษณะของห้องสมุดยุคใหม่จึงมลี ักษณะดงั นี้ 1. มีการนาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยกี ารสือ่ สาร เข้ามาเกยี่ วขอ้ งในการดาเนนิ งานของหอ้ งสมุด ทัง้ ในดา้ นกระบวนการทางาน และ ดา้ นการบรกิ ารผใู้ ช้
2. มีระบบโปรแกรมอัตโนมตั ิในการจดั การงานด้านตา่ ง ๆของห้องสมุด ไดแ้ ก่ งานจดั หา งานวิเคราะห์ ทรพั ยากรสารสนเทศ งานบริการยมื – คนื งานสบื คน้ ขอ้ มูล และ งานด้านวารสาร 3. มีทรัพยากรทีเ่ ปน็ ขอ้ มูลอยู่ในรูปแบบดิจิตอล ได้แก่ ขอ้ มลู ทเี่ ปน็ ตัวอักษร รปู ภาพ เสียงและภาพเคลอื่ นไหว โดยจัดเกบ็ ข้อมูลไวใ้ นระบบฐานข้อมูล ในเครอ่ื งคอมพวิ เตอรแ์ มข่ ่าย และให้บริการข้อมูลผ่านเครอื ขา่ ย 4. มกี ารใชเ้ ทคโนโลยีในการสรา้ งขอ้ มูล การจดั เก็บ การค้นหา และ การเผยแพรผ่ ่านระบบเครอื ข่าย 5. มกี ารใหบ้ รกิ ารข้อมลู ในลกั ษณะการใชข้ ้อมลู ร่วมกนั ผูใ้ ช้สามารถท่จี ะเปิดอ่านข้อมูลพรอ้ มๆ กัน ไดใ้ น เวลาเดียวกัน ตา่ งสถานที่กัน โดยผ่านเครอื ขา่ ยอินเตอร์เนต็ 6. ผใู้ ช้สามารถทจี่ ะใชข้ อ้ มลู ไดโ้ ดยตรง เป็นเน้ือหาเตม็ รปู แบบ โดยไมต่ อ้ งมาท่อี าคารห้องสมดุ เนอ่ื งจาก สามารถเปดิ อา่ นได้โดย ผ่านเครือข่ายอินเตอรเ์ น็ต ลกั ษณะของหอ้ งสมดุ ที่ดี หอ้ งสมุดทดี่ ีน้ันควรมกี ารจดั บริการท่ีสนองตอบความตอ้ งการของผใู้ ชไ้ ด้อยา่ งกว้างขวาง ผใู้ ช้ได้รบั ความ สะดวก รวดเร็วและสามารถใช้หอ้ งสมุดในการเพ่ิมพูนความรู้ ตลอดจนนาเอาความรู้ที่ไดไ้ ปประยุกต์ใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนใ์ นชีวติ ประจาวนั ได้เป็นอย่างดี ดังนน้ั หอ้ งสมดุ ท่ดี ีควรมีลักษณะดังนี้ 1. จัดขึน้ เพ่ือใชว้ ัสดตุ า่ ง ๆ ในหอ้ งสมดุ ไมใ่ ช่มีไวเ้ พือ่ เกบ็ ไวด้ ูสวยงาม 2. มบี รรณารกั ษ์ที่มคี วามรไู้ วบ้ รหิ ารงาน 3. มชี ้ันเปดิ เป็นทีเ่ ก็บหนงั สือเพ่อื ให้ผู้ใช้ห้องสมดุ สามารถค้นหาหนงั สือไดอ้ ย่างสะดวก 4. มอี าคาร สถานที่ที่ถูกสขุ ลักษณะ การถา่ ยเทอากาศดี แสงสวา่ งเพียงพอและอยู่ในบริเวณท่ีสงบ 5. วสั ดตุ า่ ง ๆ ในห้องสมดุ มีการจัดการไวเ้ ป็นหมวดหมู่ 6. มกี ารให้บรกิ ารแก่ผใู้ ช้อยา่ งกวา้ งขวางทง้ั เปน็ กลุม่ และรายบุคคล 7. มงี บประมาณสาหรบั การดาเนินงานอยา่ งแนน่ อน 8. พยายามขยายกิจการและการให้บรกิ ารสู่สงั คมหรอื ประชาชนให้มากที่สุด 9. มจี ดุ มงุ่ หมายในอนั ทีจ่ ะส่งเสรมิ ความเจรญิ ของสงั คมทุกวถิ ที าง ลักษณะงานของห้องสมดุ งานห้องสมุด เป็นงานบรกิ ารทางวิชาการ แบ่งเปน็ 5 งาน คือ 1. งานบรหิ าร เป็นงานที่ตอ้ งนาเอาหลักการบรหิ ารงานทวั่ ไปมาใช้ เพือ่ ดาเนินงานห้องสมดุ ใหบ้ รรลเุ ปา้ หมาย งานบริหาร ไดแ้ ก่
1.1 งานวางนโยบาย ตง้ั วัตถุประสงคข์ องห้องสมดุ และวางแผนงานตลอดทง้ั ปี 1.2 การจัดแผนกงานหรือวางรปู งาน เช่นจะมแี ผนกอะไรบ้าง มขี อบเขตงานแคไ่ หน 1.3 การจดั คนเข้าทางาน เมือ่ จัดแผนกของงานแลว้ กจ็ ดั คนเข้าทางานใหถ้ กู ต้องพอเหมาะ กบั ขอบข่ายของงาน รวมไปถึงการจดั นกั เรียนช่วยงานด้วย 1.4 จัดสถานท่ีครุภัณฑ์ ให้เหมาะสมกับงาน จานวนคน วางไวใ้ นที่ ๆ สมควร สะดวก และคล่องตัวในการ ปฏิบตั งิ าน ทง้ั น้รี วมทั้งการรกั ษาวัสดุทกุ ชนดิ ด้วย 1.5 การตดิ ตามและประเมินผลงานที่ไดท้ ามา จะไดท้ ราบขอ้ ขดั ขอ้ งและปญั หา เพือ่ หาทางแก้ไข 1.6 งานธรุ การ เช่น การสั่งซอ้ื หนงั สือ โต้ตอบหนังสือ และการติดต่อประสานงาน เพอื่ ประโยชนข์ องห้องสมุด 1.7 งานประชาสมั พันธ์ การจดั กิจกรรมของหอ้ งสมุดทุกอยา่ ง การทาสถติ ิทุกประเภท และทารายงาน เพ่อื ใหง้ านห้องสมดุ เป็นท่รี จู้ กั ของทกุ คนในโรงเรียน 1.8 การเงนิ 1.9 การจดั ทาค่มู อื การปฏบิ ัตงิ าน สาหรบั ผูท้ างานจะไดย้ ดึ ถอื ปฏิบัติเป็นแนวเดียวกัน คู่มือห้องสมุด สาหรับ ผใู้ ช้ไดท้ ราบความเคลื่อนไหว และข้อปฏิบัติตัวในห้องสมุด 2. งานเทคนิค เป็นงานท่ีจดั ขึน้ เพือ่ อานวยความสะดวก แกผ่ ใู้ ช้ในการค้นควา้ วสั ดสุ ารสนเทศจากห้องสมุด โดยใชค้ วามรู้ ทางบรรณารกั ษศาสตรโ์ ดยตรง ไดแ้ ก่ 2.1 การเลือก จดั ซื้อ จดั หาหนงั สอื วารสาร สิ่งพิมพ์อ่ืน ๆ ตลอดจนทัศนูปกรณ์ตา่ ง ๆ เขา้ หอ้ งสมุด 2.2 การจดั หมู่ แยกประเภท สง่ิ ต่าง ๆ ในข้อ 2.1 เพอ่ื สะดวกในการใช้ 2.3 การลงทะเบียนหนังสือและวสั ดุสิง่ พิมพ์ทุกประเภททีจ่ าเปน็ ในการให้บริการ รวมท้งั จดั ทาดรรชนีวารสาร กฤตภาค และอ่ืน ๆ 2.4 การจัดเตรียม เพอ่ื ให้ผู้ใช้ไดย้ ืมใช้ 2.5 จดั ทาบัตรรายการทุกชนิด 2.6 การซอ่ มหนงั สอื การเย็บเลม่ วารสาร การระวังรกั ษาหนงั สอื ตลอดจนวสั ดุทุกชนิดในหอ้ งสมุด 2.7 การสารวจหนงั สอื ส่วนมากจะทาปีละครง้ั เพือ่ จะได้ทราบจานวนหนงั สอื ที่ แน่นอนทุกปี 3. งานบริการ เปน็ งานที่อานวยความสะดวกแกผ่ ู้ใช้ในด้านการอา่ น การคน้ คว้าหาความรู้ และการสง่ เสริมการอ่านให้ กวา้ งขวางและทว่ั ถงึ มีดังต่อไปนี้ 3.1 บริการใหอ้ า่ น เป็นบริการท่สี าคัญทสี่ ุดงานหน่งึ หมายถึงงานบริการที่ให้ผ้ใู ช้เขา้ มา อา่ นหนังสือได้โดยเสรี ห้องสมดุ จึงจดั หนงั สือแบบชน้ั เปิด เพ่ือให้ผู้อา่ นสามารถเลือก และหยบิ หนงั สืออา่ นได้ ตามความสนใจของแต่ละบุคคล 3.2 บรกิ ารให้ยมื
3.3 บริการหนังสอื จอง 3.4 บริการตอบคาถามและช่วยการค้นควา้ 3.5 บริการแนะแนวการอา่ น 3.6 บริการจัดทาบัตรสมาชิกห้องสมดุ 3.7 บรกิ ารอ่ืน ๆ เช่น ชว่ ยครใู นเร่ืองการสอน การสอนวชิ าทเ่ี กีย่ วกับหอ้ งสมดุ และการจดั กิจกรรมของ หอ้ งสมุด 3.8 บริการขา่ วสารทันสมยั 3.9 บรกิ ารจดั ทาหนังสอื คู่มอื การใช้ห้องสมดุ 3.10 บริการรวบรวมบรรณานกุ รม คือการรวบรวมรายชอื่ หนังสือสงิ่ พิมพห์ รอื วสั ดอุ ่ืน ๆ ท่ีนา่ สนใจในสาขาวิชา ตา่ ง ๆ เพ่อื ชว่ ยอานวยความสะดวกในการค้นคว้า วิจัยของผู้ใช้ห้องสมดุ 4. งานสนับสนุนการเรยี นการสอน ห้องสมดุ มบี ทบาทสาคญั ในการสนบั สนนุ การเรียนการสอน โดยมุ่งใหน้ กั เรียนรจู้ กั หาวธิ เี รียนรู้ด้วยตนเอง โดยการคน้ ควา้ แสวงหาความรู้ ร่วมมือกับครูผู้สอน ดาเนินการเรยี นการสอนทีเ่ น้นทกั ษะกระบวนการในวชิ า ตา่ ง ๆ ตามจุดมุง่ หมายของหลกั สูตร งานสนับสนุนการเรียนการสอนของห้องสมดุ ในโรงเรยี นแบง่ เปน็ 2 ประเภท คอื 4.1 การใชห้ ้องสมุดเพอื่ การเรยี นการสอน 4.2 การสอนวิธีศกึ ษาค้นคว้าดว้ ยตนเอง 5. งานกิจกรรมนกั เรียนและงานสอนรายวิชาทเ่ี กีย่ วขอ้ งกับห้องสมุด กจิ กรรมและรายวชิ าทเ่ี กีย่ วขอ้ งกบั งานหอ้ งสมดุ แบ่งเปน็ 2 ประเภท คอื 5.1 กิจกรรมนักเรียนเป็นกจิ กรรมท่จี ะเสริมสร้างประสบการณ์ให้แก่นกั เรียนใหม้ ีความรู้ นอกเหนอื จากท่ีหลกั สูตรกาหนดเนื้อหาวชิ าไว้ 5.2 วชิ าห้องสมดุ เพื่อการเรยี นรู้ เป็นรายวิชาท่ีสอนเกี่ยวกบั หอ้ งสมดุ เป็นวิชาสาระเพมิ่ เตมิ กลมุ่ สาระการ เรยี นร้ภู าษไทย 5.3 กิจกรรมหอ้ งสมุด เปน็ คาบสอนเก่ียวกบั การส่งเสรมิ การอา่ นการใชห้ ้องสมดุ เปน็ กจิ กรรมพัฒนา ผูเ้ รียน ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ ดาวโหลดไฟลง์ าน
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: