Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือและแนวปฏิบัตินักเรียน G

คู่มือและแนวปฏิบัตินักเรียน G

Published by pm.sanit.leedee, 2021-09-09 06:29:22

Description: คู่มือและแนวปฏิบัตินักเรียน G

Keywords: คู่มือและแนวปฏิบัตินักเรียน G

Search

Read the Text Version

อนุสัญญาวา่ ด้วยสิทธเิ ด็ก ค.ศ. 1989 ฯลฯ ขอ้ 7 1. เดก็ จะไดร้ บั การจดทะเบยี นทนั ทหี ลงั การเกดิ และจะมสี ทิ ธทิ จ่ี ะมชี อ่ื นบั แตเ่ กดิ และสทิ ธทิ จี่ ะไดส้ ญั ชาติ และเท่าท่ีจะเปน็ ไปได้ สทิ ธิท่จี ะรู้จักและได้รับการดแู ลเลี้ยงดูจากบดิ ามารดาของตน 2. รัฐภาคีจะประกันให้มีการปฏิบัติตามสิทธิเหล่านี้ตามกฎหมายภายในและพันธกรณีของรัฐภาคี ท่ีมีอยู่ภายใต้ตราสารระหว่างประเทศที่เก่ียวข้องในเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีท่ีเด็กจะตกอยู่ ในสถานะไรส้ ัญชาติ ฯลฯ 95

2. สถานะและสิทธิของบุคคลตาม พ.ร.บ. การทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2534 และ ฉบับท่ี 2 พ.ศ. 2551 2.1 การรับรองการเกิด 2.1.1 รับรองขณะเกดิ (มาตรา 23) ท.ร. 1/1 = หนังสือรับรองการเกิดท่ีผู้ท�ำคลอดออกให้กับเด็กทุกคน ทุกสัญชาติ ทีเ่ กิดในสถานพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นหนว่ ยงานของรัฐหรอื เอกชน 2.1.2 รบั รองหลังเกิด (มาตรา 20/1) ท.ร. 20/1 = หนังสือรับรองการเกิดท่ีนายทะเบียนออกให้คนที่มีชื่อในทะเบียนบ้าน หรือทะเบียนประวัติ แตไ่ ม่มีสูตบิ ตั ร และมเี หตจุ ำ� เป็นตอ้ งใชห้ ลักฐานการเกดิ 2.2 ประเภทของทะเบยี นบา้ น 2.2.1 ท.ร. 14 ส�ำหรับลงรายการบุคคลสัญชาติไทยและคนต่างด้าวท่ีมีสิทธิอาศัยเป็นการถาวร ในประเทศไทย (ต่างดา้ วมีใบส�ำคัญถิน่ ทอ่ี ยหู่ รือใบส�ำคัญคนต่างด้าว) 2.2.2 ท.ร. 13 ส�ำหรบั ลงรายการคนต่างด้าว 2 ประเภทไดแ้ ก่ • คนทเี่ ขา้ เมืองถกู ต้องและได้รับอนญุ าตใหอ้ ยชู่ ัว่ คราว • คนท่ีได้รับผ่อนผันให้อยู่อาศัยเป็นกรณีพิเศษเฉพาะเร่ือง เฉพาะกลุ่มท่ี รมว.มท. ประกาศกำ� หนด (มาตรา 38 วรรคแรก) 2.3 การจัดท�ำทะเบียนประวตั ขิ องบุคคล ก. ทะเบยี นประวัตบิ ุคคลซงึ่ ไม่มสี ัญชาติไทย 1. กลุ่มแรงงานตา่ งด้าวหลบหนเี ขา้ เมือง 3 สญั ชาติ ตามมตคิ ณะรัฐมนตรี 2. กลุ่มคนตา่ งด้าวและบุตรคนต่างด้าวทเี่ กดิ ในประเทศไทย ข. ทะเบียนประวัตบิ คุ คลทไ่ี ม่มสี ถานะทางทะเบยี น “บคุ คลทไี่ มม่ สี ถานะทางทะเบยี น” หมายถงึ บคุ คลทอ่ี ยอู่ าศยั เปน็ หลกั แหลง่ ในราชอาณาจกั ร แต่ไมม่ รี ายการในทะเบยี นราษฎร 1. กลุ่มบุคคลตามยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคลตามมติ คณะรฐั มนตรี เมือ่ วนั ท่ี 18 มกราคม 2548 จำ� นวน 6 กลุ่ม ประกอบดว้ ย กล่มุ 1 ชนกลุ่มน้อยท่เี ข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานานแต่ตกการสำ� รวจ กลุม่ 2 เด็กนักเรียน นักศึกษาที่ก�ำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่ในสถานศึกษาท้ังของรัฐและเอกชน กลุ่ม 3 กลุม่ บคุ คลทไ่ี รร้ ากเหง้าไม่ปรากฏบพุ การหี รอื บพุ การที อดทิง้ กลมุ่ 4 บุคคลที่ทำ� คุณประโยชน์ใหแ้ กป่ ระเทศ กลมุ่ 5 แรงงานตา่ งดา้ วสญั ชาตพิ มา่ ลาว และกมั พชู าทมี่ ปี ญั หาไมส่ ามารถสง่ กลบั ประเทศตน้ ทาง กลุ่ม 6 คนต่างด้าวอน่ื นอกจากกลมุ่ 1 - 5 96

2. กลุ่มที่ไม่อาจรับแจ้งการเกิดตามมาตรา 19 มาตรา 19/1 และ มาตรา 19/3 เนื่องจาก ไม่อาจพิสูจน์สถานะการเกดิ และสญั ชาตไิ ด้ 3. กลุ่มที่อ้างว่าเป็นผู้มีสัญชาติไทย ขอเพ่ิมช่ือในทะเบียนบ้าน แต่ไม่อาจพิสูจน์สถานะ การเกดิ และสัญชาติได้ 4. กลุ่มคนท่ีไม่มีสัญชาติไทยอ่ืน ๆ ตามมาตรา 38 วรรคสอง ของพระราชบัญญัติ การทะเบยี นราษฎร แก้ไขฉบบั ที่ 2 พ.ศ. 2551 2.4 การบันทกึ สถานะของบคุ คลในเอกสารการทะเบยี นราษฎร การทะเบยี นราษฎร หมายถงึ การบนั ทกึ ข้อมลู ต่าง ๆ ของบุคคล เชน่ ชอ่ื ที่อยู่ วัน เดือน ปีเกดิ สัญชาติ เป็นต้น เพื่อเป็นหลักฐานแสดงข้อเท็จจริงและตัวตนในทางกฎหมาย โดยการบันทึกจะเริ่มต้น ตง้ั แต่เกิด จนถงึ แกค่ วามตาย การบนั ทกึ ในทะเบยี นบ้าน/ทะเบียนประวตั ิ O คนสัญชาติไทยและคนต่างด้าวได้รับสิทธิอาศัยอยู่ถาวร (ใบส�ำคัญถิ่นที่อยู่หรือใบส�ำคัญ ประจ�ำตวั คนต่างด้าว) ไดร้ บั การบนั ทกึ ในทะเบียนบา้ นเล่มปกน้ําเงิน (ท.ร. 14) O คนต่างด้าวท่ีได้รับอนุญาตให้อาศัยอยู่เป็นการช่ัวคราว (พาสปอร์ต วีซ่า) หากประสงค์ ก็สามารถขอเพมิ่ ช่อื ในทะเบยี นบา้ นเล่มปกสเี หลือง (ท.ร. 13) O คนต่างด้าวได้รับการผ่อนผันให้อาศัยอยู่ในประเทศไทยได้เป็นกรณีพิเศษหากผ่อนผัน มรี ะยะเวลาตงั้ แต่ 5 ปขี นึ้ ไป หรอื กรณสี ง่ กลบั ประเทศตน้ ทางไมไ่ ด้ ตอ้ งขอเพม่ิ ชอื่ ในทะเบยี นบา้ นเลม่ ปกสเี หลอื ง (ท.ร. 13) O หากผ่อนผันต�่ำกว่า 5 ปี จะได้รับการบันทึกเข้าในทะเบียนประวัติ (ท.ร. 38, ท.ร. 38 ก) แล้วแต่กรณี คนต่างด้าวเข้าเมืองโดยมิชอบด้วยกฎหมายจะได้รับการบันทึกในทะเบียนประวัติประเภท ท.ร. 38 ก 97

3. แนวทางการเขา้ ถงึ สถานะและสิทธิของบคุ คล 3.1 การแจ้งการเกิด 3.1.1 เดก็ ทเ่ี กิดในสถานพยาบาล ต้องท�ำอย่างไร? พ่อหรือแมข่ องเดก็ ตดิ ตอ่ ขอหนังสอื รบั รองการเกิด (ท.ร.1/1) จากโรงพยาบาล สถานีอนามยั หรือคลินิค (ท้ังรัฐและเอกชน) ที่เด็กเกิดพ่อหรือแม่ของเด็กน�ำส�ำเนาทะเบียนบ้าน หรือส�ำเนาทะเบียนประวัติ บัตรประจ�ำตัวและหนังสือรับรองการเกิด (ท.ร. 1/1) ไปย่ืนเร่ืองขอแจ้งการเกิดต่อนายทะเบียนภายใน 15 วัน นับแต่วันท่ีเด็กเกิด โดยถ้าโรงพยาบาล สถานีอนามัย หรือคลินิกที่เด็กเกิดตั้งอยู่ในเขตอ�ำเภอหรือเทศบาลใด ก็ไปยนื่ เรอื่ งท่ีอ�ำเภอ หรอื เทศบาลน้นั เม่ือนายทะเบยี นรับแจ้งการเกิดแล้วจะออกสตู ิบตั ร (ใบเกิด) ให้ 3.1.2 เดก็ ท่เี กดิ นอกสถานพยาบาล ต้องท�ำอย่างไร? พ่อหรือแมห่ รอื เจา้ บา้ นทีม่ กี ารเกดิ เปน็ ผู้แจ้งการเกิด ถ้าเด็กเกิดในท้องที่หมู่บ้านไหนให้แจ้งการเกิดต่อผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านน้ันภายใน 15 วนั นบั แต่วันท่เี ดก็ เกิด และขอรบั ใบรบั แจง้ การเกดิ (ท.ร. 1 ตอนหนา้ ) ไปยนื่ เรอ่ื งต่อนายทะเบยี นที่อ�ำเภอ เพื่อรับแจ้งการเกิด และออกสูติบัตร (ใบเกิด) ให้ถ้าเด็กเกิดในเขตเทศบาลท่ีมีผู้ใหญ่บ้านให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับ เด็กท่เี กดิ ในหมบู่ ้าน ถา้ เดก็ เกดิ ในเขตเทศบาลทไี่ มม่ ผี ใู้ หญบ่ า้ น ใหแ้ จง้ การเกดิ ตอ่ นายทะเบยี นของเทศบาลนนั้ โดยน�ำส�ำเนาทะเบียนบ้านหรือส�ำเนาทะเบียนประวัติ บัตรประจ�ำตัว และควรน�ำผู้ท�ำคลอดหรือพยานบุคคลที่ เห็นการเกดิ ของเด็กไปด้วย เพื่อใหน้ ายทะเบียนรับแจ้งการเกดิ และออกสูติบตั ร (ใบเกิด) ให้ 3.1.3 ผทู้ ่ไี มไ่ ด้แจ้งการเกดิ และตอ้ งการแจง้ การเกดิ ตอ้ งท�ำอย่างไร? เจ้าตัว (ท่ีบรรลุนิติภาวะ) พ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือเจ้าบ้านท่ีมีการเกิดเป็นผู้แจ้งการเกิด นายทะเบียนอ�ำเภอหรือนายทะเบียนท้องถ่ินออกใบรับแจ้งการเกิด (ท.ร. 100) ให้ผู้แจ้งนายทะเบียน รวบรวม หลกั ฐานเสนอใหน้ ายอ�ำเภอพสิ ูจน์สถานะการเกิดและสญั ชาติ - ถา้ มสี ญั ชาตไิ ทย ใหอ้ อกสตู บิ ตั ร (ท.ร.2) ใหแ้ กผ่ แู้ จง้ และเพม่ิ ชอ่ื เขา้ ในทะเบยี นบา้ น (ท.ร.14) - ถ้าไม่ได้สัญชาติไทยหรือไม่อาจพิสูจน์สถานะการเกิดหรือสัญชาติได้ให้จัดท�ำทะเบียน ประวัตสิ ำ� หรับบุคคลทไี่ มม่ สี ถานะทางทะเบยี น 3.2 การออกหนังสือรับรองการเกดิ (ท.ร. 20/1) (สำ� หรบั ผทู้ ี่ไม่มีสูติบตั รและมคี วามจ�ำเป็นตอ้ งมหี นังสือรับรองการเกิด) หลักเกณฑ์และเงือ่ นไขในการร้องขอ 3.2.1 เกดิ ในประเทศไทย แตไ่ มไ่ ดแ้ จง้ การเกดิ หรอื แจง้ การเกดิ แลว้ แตไ่ มไ่ ดส้ ตู บิ ตั ร หรอื สตู บิ ตั ร ช�ำรุดสญู หาย และไม่สามารถคัดส�ำเนาได้ 3.2.2 มีชอื่ และรายการบุคคลในทะเบยี นบา้ นหรือทะเบียนประวตั ิ 98

พยานหลักฐานท่ใี ช้ 1. สำ� เนาทะเบยี นบา้ น (ท.ร. 14 หรอื ท.ร. 13) หรอื สำ� เนาทะเบยี นประวตั ิ (เชน่ ท.ร. 38 ท.ร. 38/1, ท.ร. 38 ก, ท.ร. 38 ข เปน็ ต้น) 2. เอกสารหลกั ฐานแสดงว่าเกิดในประเทศไทย (ถ้าม)ี 3. พยานบคุ คลผู้นา่ เช่ือถือ 2 คน 4. รูปถา่ ย ขนาด 2 นว้ิ 2 รปู ยนื่ ทไี่ หน ส�ำนักทะเบียนอ�ำเภอหรือส�ำนักทะเบียนท้องถ่ินท่ีผู้นั้นเกิด หรือมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ทะเบยี นประวัติ หรือมภี ูมิลำ� เนาปัจจุบนั ทั้งนี้ ระยะเวลาในการด�ำเนนิ การไม่เกิน 105 วนั 3.3 การมชี ่ือในทะเบยี นบ้านของคนสญั ชาตไิ ทย 3.3.1 การมชี อ่ื โดยผา่ นการแจ้งการเกดิ เมื่อบุคคลได้รับแจ้งการเกิดและได้รับสูติบัตรแล้วนายทะเบียนจะเพ่ิมช่ือในทะเบียนบ้าน โดยคนที่เกิดในท้องทต่ี ามทะเบยี นบา้ นของพ่อแม่จะได้รับการเพ่มิ ชือ่ ในทะเบยี นบ้านน้ัน แตถ่ า้ เกิดตา่ งทอ้ งทจี่ ะ ได้รับการเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้านกลางของส�ำนักทะเบียน กรณีน้ีพ่อแม่จะต้องขอแจ้งย้ายออกเพ่ือน�ำใบแจ้ง การย้ายไปแจ้งย้ายเขา้ ทะเบียนบ้านทอี่ าศยั อยู่จริง 3.3.2 การมชี ่อื โดยผ่านการย่นื ค�ำร้องขอเพมิ่ ชือ่ 3.3.2.1 ตามระเบยี บส�ำนกั ทะเบยี นกลางวา่ ดว้ ยการจดั ท�ำทะเบยี นราษฎร พ.ศ. 2535 ส�ำหรับบุคคลท่ัวไปที่ไม่ได้แจ้งการเกิดและไม่ได้รับการบันทึกรายการบุคคล ในเอกสารการทะเบยี นราษฎร หรือบคุ คลทเ่ี คยแจ้งการเกดิ หรอื เคยมชี อ่ื ในทะเบยี นบา้ นแล้วแตเ่ ป็นทะเบียนรนุ่ ทไี่ มม่ เี ลขประจำ� ตวั ประชาชน ซงึ่ จำ� แนกประเภทของบคุ คลทส่ี ามารถยน่ื คำ� รอ้ งขอเพมิ่ ชอ่ื ในทะเบยี นบา้ นไดด้ งั นี้ 1. คนไทยท่ีตกส�ำรวจทางทะเบียนราษฎร เม่ือปี พ.ศ. 2499 (เกิดก่อน วนั ท่ี 1 มถิ ุนายน 2499) 2. คนทม่ี สี ตู บิ ตั ร ใบแจง้ การยา้ ยทอ่ี ยู่ หรอื ทะเบยี นบา้ นฉบบั ทไ่ี มม่ เี ลข 13 หลกั 3. คนไทยที่ไปอยู่ต่างประเทศเป็นเวลานานหรือเกิดต่างประเทศแล้วกลับเข้ามา ในประเทศไทย 4. คนไทยทไี่ มม่ หี ลกั ฐานเอกสารราชการอะไรเลยทจี่ ะยนื ยนั สถานะของตนเอง 5. เดก็ อนาถาหรอื เดก็ ทถี่ กู ทอดทง้ิ ซง่ึ อยใู่ นอปุ การะของบคุ คลหรอื หนว่ ยงานตา่ งๆ 6. คนที่มีสญั ชาติไทยโดยการเกดิ แตไ่ มไ่ ด้แจ้งการเกดิ 7. คนที่ได้รับสัญชาติไทยโดยผลของกฎหมาย เช่น ได้ถือสัญชาติไทยตามสามี ไดแ้ ปลงสญั ชาตเิ ปน็ ไทย หรอื รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทยสง่ั ใหส้ ญั ชาตไิ ทย เปน็ ตน้ ยน่ื คำ� รอ้ งตามแบบ ท.ร. 31 ที่ส�ำนักทะเบียนอ�ำเภอหรือส�ำนักทะเบียนท้องถิ่นที่บุคคลนั้นมีภูมิล�ำเนา เว้นแต่กรณีคนที่มีสูติบัตรหรือทะเบียนบ้าน ฉบับท่ไี มม่ เี ลข 13 หลกั ใหย้ ่นื คำ� รอ้ งทสี่ ำ� นักทะเบียนท่ีออกสูติบตั รหรอื ตามทะเบียนบ้านแล้วแต่กรณี 99

หลักฐานท่จี ะตอ้ งใช้ประกอบการย่นื ค�ำรอ้ ง 1) หลักฐานเอกสารราชการที่มีรายการบุคคลของผู้ที่จะขอเพิ่มช่ือ (ถ้ามี) เช่น หนงั สือรับรองการเกดิ ทะเบียนนักเรยี น ส.ด. 9 ส.ด. 43 หนังสอื เดินทาง หนังสอื สำ� คัญการแปลงสัญชาติ เปน็ ต้น 2) ทะเบยี นบา้ น (ท.ร. 14) ของบา้ นท่จี ะเพม่ิ ชื่อ 3) บัตรประจ�ำตัวประชาชนหรือบัตรประจ�ำตัวอย่างอื่นที่ทางราชการออกให้ของ บิดามารดา (ถา้ มี) 4) ผลการตรวจดเี อน็ เอ (ถ้ามี) 5) พยานบุคคลท่ีน่าเชื่อถือซ่ึงสามารถให้การรับรอง และยืนยันตัวบุคคลได้ บุคคลที่ได้รับการเพ่ิมช่ือในทะเบียนบ้าน (ท.ร. 14) จะได้เลขประจ�ำตัวประชาชน 13 หลัก ท่ีขึ้นต้นด้วยเลข 5 เวน้ แต่คนทไ่ี ด้รบั สัญชาติไทยโดยผลของกฎหมายตาม (7) จะไดเ้ ลข 13 หลัก ที่ข้นึ ต้นดว้ ยเลข 8 3.3.2.2 ตามระเบยี บส�ำนกั ทะเบยี นกลางวา่ ดว้ ยการพจิ ารณาลงรายการ สถานะบคุ คล ในทะเบียนราษฎรใหแ้ กบ่ ุคคลบนพนื้ ที่สูง พ.ศ. 2543 ส�ำหรับชาวเขา 9 เผ่าดั้งเดิม (กะเหรี่ยง ม้ง ลีซอ อาข่า ลาหู่ เมี่ยน ลัวะ ขมุ และมลาบรี) ใน 20 จังหวดั พน้ื ที่สูง ท่มี ขี ้อเทจ็ จรงิ ตามกฎหมายอนั ทำ� ใหไ้ ดส้ ญั ชาตไิ ทย ยื่นค�ำร้องขอลงรายการสัญชาติตามระเบียบส�ำนักทะเบียนกลางว่าด้วย การพิจารณาลงรายการสถานะบุคคลในทะเบียนราษฎรให้แก่บุคคลบนพ้ืนท่ีสูง พ.ศ. 2543 ณ ท่ีว่าการอ�ำเภอ ซึ่งตนเองมีภูมิล�ำเนาอยู่ตามทะเบียนประวัติ ฯ โดยใช้แบบค�ำร้องขอลงรายการในทะเบียนบ้านตามระเบียบ ส�ำนักทะเบียนกลางว่าด้วยการพิจารณาลงรายการสถานะบุคคลในทะเบียนราษฎรให้แก่บุคคลบนพ้ืนท่ีสูง พ.ศ. 2543 หลกั ฐานท่จี ะตอ้ งใชป้ ระกอบการยื่นคำ� ร้อง 1) ส�ำเนาบัตรประจ�ำตวั ของบดิ าและมารดา 2) สำ� เนาทะเบียนบ้านหรือทะเบยี นประวตั ิ ฯ ของบิดาและมารดา 3) ส�ำเนาบัตรประจ�ำตัว หรือส�ำเนาทะเบียนประวัติ ฯ ของบุคคลที่จะขอลง รายการสัญชาติ 4) หนังสือรับรองการเกิดซ่ึงออกโดยโรงพยาบาล สูติบัตร หนังสือ รับรอง สถานที่เกิดของบิดาและมารดา รวมท้ังของบุคคลที่จะขอลงรายการสัญชาติ ทะเบียนส�ำรวจบัญชีบุคคล ในบา้ น (ท.ร.ชข.) รบั รองสำ� เนาโดยศนู ยพ์ ัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขาหรือศูนยพ์ ัฒนาสังคม 5) เอกสารยนื ยันตัวบคุ คลอ่นื ๆ เชน่ บัตรประจ�ำตวั นกั เรียน บตั รประจ�ำตวั ลกู เสือชาวบ้าน เปน็ ต้น 6) พยานบคุ คลทสี่ ามารถยนื ยันข้อเท็จจริงอนั ท�ำใหไ้ ด้สญั ชาตไิ ทย เช่น ยนื ยนั วา่ ผูร้ อ้ งเกิดในไทย 100

3.3.3 การมีชื่อโดยผ่านการเปล่ียนแปลงสถานะ (ตามมาตรา 23 แห่ง พ.ร.บ. สัญชาติ (ฉบับท่ี 4) พ.ศ. 2551) บุคคลท่ีจะได้สัญชาติไทยตามมาตรา 23 ได้แก่ ผู้ที่เกิดในประเทศไทย ก่อนวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2535 โดยขณะเกิดมีพ่อและแม่เป็นคนตา่ งด้าวท่ีเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม กฎหมายวา่ ดว้ ยคนเขา้ เมอื ง หรอื ไดร้ บั อนญุ าตใหอ้ าศยั อยเู่ พยี งชวั่ คราว (มพี าสปอรต์ วซี า่ ) หรอื ไดร้ บั ผอ่ นผนั ให้ อาศยั อยไู่ ดเ้ ปน็ กรณพี เิ ศษ (ชนกลมุ่ นอ้ ย) รวมถงึ บตุ รของบคุ คลนนั้ ทเี่ กดิ ในประเทศไทย กอ่ นวนั ท่ี 28 กมุ ภาพนั ธ์ 2551 และไม่ได้สัญชาติไทยเน่ืองจากพ่อและแม่ไม่ได้สัญชาติไทย โดยกฎหมายก�ำหนดเงื่อนไขว่าผู้ที่จะได้สัญชาติไทย ต้องมีรายการในเอกสารการทะเบียนราษฎร มีภูมิล�ำเนาอาศัยอยู่จริงในประเทศไทยและมีความประพฤติดี หรือทำ� คณุ ประโยชน์ให้แก่สงั คมหรือประเทศ ย่ืนค�ำร้องตามแบบค�ำขอลงรายการสัญชาติไทยในทะเบียนบ้านท่ีส�ำนักทะเบียนอ�ำเภอ หรือสำ� นักทะเบยี นท้องถ่ินท่ีบุคคลนัน้ มภี ูมลิ ำ� เนาอยู่ตามทะเบยี นบา้ นหรือทะเบยี นประวัติ หลกั ฐานทจ่ี ะตอ้ งใช้ประกอบการย่นื ค�ำร้อง 1) สูติบัตรหรือหนังสือรับรองการเกิด (ท.ร. 1/1, ท.ร. 20/1) หรือหนังสือรับรอง สถานท่ีเกดิ 2) ทะเบียนบ้าน (ท.ร. 14 หรือ ท.ร. 13) หรือทะเบียนประวัติ (ท.ร. 38, ท.ร. 38/1, ท.ร. 38 ก หรอื ท.ร. 38 ข) 3) รูปถา่ ยขนาด 2 นว้ิ จำ� นวน 1 รูป 4) บัตรประจ�ำตวั ท่สี �ำนกั ทะเบยี นออกให้ (ถ้ามี) 5) เอกสารที่หน่วยงานหรอื องค์กรต่าง ๆ ออกให้เพ่ือรบั รองความประพฤติ หรอื การท�ำ คณุ ประโยชน์ให้กับสงั คม (ถา้ มี) 6) พยานบคุ คลท่ีนา่ เช่ือถอื ซงึ่ สามารถใหก้ ารรบั รองและยืนยนั ตวั บุคคลได้ เมื่อนายทะเบียนอ�ำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นได้รับค�ำขอลงรายการสัญชาติไทย ในทะเบียนบ้านพร้อมด้วยพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการพิสูจน์คุณสมบัติของผู้ขอตามกฎหมายก�ำหนดแล้ว จะรวบรวมน�ำเสนอนายอ�ำเภอเพื่อพิจารณา หากได้รับอนุญาตให้ลงรายการสัญชาติไทยตามท่ีขอ ค�ำขอน้ัน จะถูกส่งไปให้กรมการปกครองก�ำหนดเลขประจ�ำตัวประชาชน 13 หลักให้ โดยผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ออนไลน์ จากนั้นนายทะเบียนจะท�ำการเปล่ียนสถานะของบุคคลโดยจ�ำหน่ายรายการเดิมที่ไม่ได้สัญชาติไทย แล้วเพ่ิมชื่อในทะเบียนบ้าน (ท.ร. 14) ลงรายการสัญชาติเป็น “ไทย” ส�ำหรับผู้ที่มีอายุต้ังแต่ 15 ปี ขึ้นไป จะต้อง ย่ืนขอทำ� บัตรประจ�ำตวั ประชาชนดว้ ย บุคคลท่ีได้สัญชาติไทยตามมาตรา 23 น้ีจะได้เลขประจ�ำตัวประชาชน 13 หลักข้ึนต้นด้วย เลข 8 และเลขในหลกั ท่ี 6 และหลักที่ 7 จะเปน็ เลข 73 101

3.4 การแก้ไขปญั หาเร่อื งสถานะของบคุ คลตามกฎหมายในกลมุ่ ผ้ดู อ้ ยโอกาส ได้แก่ เด็กถูกทอดทิ้ง เด็กเร่ร่อน เด็กท่ีไม่ปรากฏบุพการีหรือบุพการีทอดท้ิง และคนไร้รากเหง้า สามารถดำ� เนนิ การไดห้ ลายวิธเี พ่ือให้มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎรตามกฎหมาย 3.4.1 พบเด็กแรกเกิดหรือเด็กไรเ้ ดียงสาอายุประมาณไม่เกนิ 7 ปี ถกู ทอดทง้ิ ให้ผู้พบนำ� ตวั เด็ก ไปส่งให้กับเจ้าหน้าที่ต�ำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง (ปลัดอ�ำเภอ) หรือเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการพัฒนาสังคม และความม่นั คงของมนุษย์ (พม.) ท้องทท่ี พ่ี บเดก็ ซง่ึ จะท�ำใหเ้ ดก็ ได้รับแจง้ การเกิดโดยเจา้ หน้าท่ี พม. เปน็ ผแู้ จ้ง การเกดิ ที่ส�ำนักทะเบียนทอ้ งที่ท่ีพบเดก็ 3.4.2 ผู้อุปการะเล้ียงดูเด็กแรกเกิดหรือเด็กไร้เดียงสาอายุประมาณไม่เกิน 7 ปี ถูกทอดทิ้ง ก็สามารถยน่ื ค�ำร้องขอเพม่ิ ชือ่ เด็กในทะเบยี นบ้านได้ทส่ี �ำนักทะเบียนท้องทีท่ ผ่ี ู้ร้องมภี มู ิล�ำเนา 3.4.3 เดก็ เรร่ อ่ น เดก็ กำ� พร้าไม่ปรากฏบุพการหี รอื บพุ การที อดทงิ้ มีอายไุ ม่เกิน 18 ปี ถา้ เด็กอยู่ ในการอปุ การะดแู ลของสถานสงเคราะหข์ องทางราชการ หรอื สถานสงเคราะหข์ องเอกชนตามรายชอ่ื ทกี่ ระทรวง มหาดไทยประกาศ สามารถจะแจ้งการเกิดได้โดยหัวหน้าหน่วยงานน้ัน ๆ เป็นผู้แจ้งการเกิดท่ีส�ำนักทะเบียน ทอ้ งทีท่ ่หี นว่ ยงานน้นั ตัง้ อยู่ หรือถา้ ไม่อาจแจ้งได้ดว้ ยตนเองกส็ ามารถมอบหมายใหผ้ อู้ ื่นแจง้ การเกดิ แทนได้ 3.4.4 สถานสงเคราะห์ของเอกชนที่ให้การสงเคราะห์ดูแลเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี ไม่มีรายชื่อ อยใู่ นประกาศกระทรวงมหาดไทย จะไมส่ ามารถแจง้ การเกิดใหก้ บั เด็กในการสงเคราะห์ได้ แตห่ ัวหนา้ หน่วยงาน สามารถยน่ื คำ� รอ้ งขอเพมิ่ ชอ่ื เดก็ ในทะเบยี นบา้ นของสถานสงเคราะหไ์ ดท้ สี่ ำ� นกั ทะเบยี นทอ้ งทท่ี ผ่ี รู้ อ้ งมภี มู ลิ ำ� เนา 3.4.5 คนเร่ร่อนไร้บุพการี หรืออาจเรียกว่า “คนไร้รากเหง้า”ไม่ว่าจะอยู่ในการสงเคราะห์ดูแล ของบุคคลหรือหน่วยงานใดหรือไม่ ก็สามารถมีหลักฐานทางทะเบียนราษฎรได้เพราะกลุ่มคนไร้รากเหง้าจัดอยู่ในกลุ่ม บุคคลที่มีปัญหาเรื่องสิทธิและสถานะบุคคลที่จะต้องได้รับการแก้ไขตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันท่ี 18 มกราคม 2548 เพยี งแตจ่ ะตอ้ งผา่ นการสำ� รวจตามหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และภายในหว้ งระยะเวลาทกี่ รมการปกครองกำ� หนด โดยผู้ทไี่ ดร้ บั การส�ำรวจจะไดจ้ ัดท�ำทะเบยี นประวตั ิและกำ� หนดเลขประจ�ำตวั ประชาชน 13 หลัก ให้ หมายเหตุ เดก็ กลมุ่ ตามขอ้ 3.4.1 และกลมุ่ ตามขอ้ 3.4.3 ถา้ มหี ลกั ฐานวา่ เดก็ เกดิ ในประเทศไทย นายทะเบียนจะออกสูติบัตรหรือใบเกิดให้ และเพ่ิมช่ือเด็กเข้าในทะเบียนบ้าน แต่ถ้าไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่า เดก็ เกิดในประเทศไทย นายทะเบยี นจะจดั ทำ� ทะเบียนประวัติและกำ� หนดเลขประจำ� ตัวประชาชน 13 หลักให้ เดก็ กลมุ่ ตามขอ้ 3.4.2 และกลมุ่ ตามขอ้ 3.4.4 ถา้ มหี ลกั ฐานวา่ เดก็ เกดิ ในประเทศไทย นายทะเบยี น จะเพมิ่ ชอื่ เดก็ เขา้ ในทะเบยี นบา้ น แตไ่ มไ่ ดส้ ตู บิ ตั รหรอื ใบเกดิ แตถ่ า้ ไมม่ หี ลกั ฐานพสิ จู นว์ า่ เดก็ เกดิ ในประเทศไทย นายทะเบียนจะจดั ทำ� ทะเบียนประวตั แิ ละกำ� หนดเลขประจ�ำตวั ประชาชน 13 หลกั ให้ หลักฐานที่ต้องใช้ประกอบการยน่ื คำ� รอ้ งตามข้อ 3.4.2 - 3.4.4 1) บนั ทกึ การรบั ตัวเด็ก (กรณีการแจ้งการเกิดเดก็ ไรเ้ ดยี งสาถกู ทอดทงิ้ ) 2) หลกั ฐานการรบั ตวั เดก็ ไวใ้ นการอปุ การะดแู ล (กรณเี ดก็ อยใู่ นการอปุ การะของสถานสงเคราะห)์ 3) หลกั ฐานอ่ืน ๆ ท่เี กีย่ วขอ้ งกับตัวเด็ก ท้ิงพยานเอกสารและวัตถพุ ยาน (ถ้าม)ี 4) รปู ถ่ายของเดก็ ขนาด 2 นิว้ จ�ำนวน 2 รปู 5) ทะเบยี นบา้ นและบตั รประจำ� ตัวประชาชนของผู้แจ้งการเกดิ หรอื ผยู้ ื่นคำ� รอ้ งขอเพม่ิ ชอ่ื 102

6) พยานบคุ คลท่ีน่าเชื่อถอื ซงึ่ สามารถใหก้ ารรับรองและยืนยนั ตวั บุคคลได้ 7) หนังสอื มอบหมายใหแ้ จง้ แทน (ถ้าม)ี เด็กท่ีได้รับแจ้งการเกิดในสถานะเป็นคนสัญชาติไทย จะได้เลขประจ�ำตัวประชาชนท่ีข้ึนต้น ด้วยเลข 2 ถ้าเป็นคนซ่ึงไม่มีสัญชาติไทยจะได้เลขประจ�ำตัวขึ้นต้นด้วยเลข 7 ส่วนเด็กที่ไม่ได้แจ้งการเกิด แต่ได้รับการเพิ่มช่ือในทะเบียนบ้านในสถานะเป็นคนสัญชาติไทย จะได้เลขประจ�ำตัวที่ขึ้นต้นด้วยเลข 5 และ ถ้าไม่สามารถพิสูจน์สถานะและสัญชาติได้จะเป็นผู้ที่ได้รับการจัดท�ำทะเบียนประวัติจะได้เลขประจ�ำตัวท่ีขึ้นต้น ด้วยเลข 0 ผู้ด้อยโอกาสกลุ่มคนไร้สัญชาติ คนเร่ร่อน จะได้รับการส่งเสริมสวัสดิภาพและการคุ้มครอง พิทักษ์สิทธิตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ และคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ เม่อื วนั ที่ 20 พฤศจกิ ายน 2550 3.5 ผู้ถือใบส�ำคญั ประจ�ำตวั คนตา่ งดา้ ว คนตา่ งดา้ วทไ่ี ดร้ บั อนญุ าตจากรฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทยใหม้ ถี นิ่ ทอี่ ยถู่ าวรในประเทศไทย แลว้ ไมว่ า่ จะเคยมีสัญชาตขิ องประเทศเดิมหรอื ไร้สัญชาติ 1. ด�ำเนินการเพื่อรับเอกสารที่แสดงว่ามีสิทธิอาศัยในประเทศไทยอย่างถาวรและถูกต้อง โดยขอรับใบส�ำคัญถ่ินที่อยู่ (ตม. 16) ที่ส�ำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งที่ตนยื่นค�ำร้อง และขอมีใบส�ำคัญ ประจ�ำตัวคนตา่ งด้าวทส่ี ถานตี �ำรวจท้องที่ทีม่ ภี ูมิล�ำเนา 2. ขอมีชอื่ ในทะเบยี นบ้าน (ท.ร. 14) และท�ำบัตรประจ�ำตวั คนซ่งึ ไม่มสี ญั ชาตไิ ทย (บัตรพลาสติก แขง็ สีชมพู โดยเสียค่าธรรมเนยี ม 60 บาท) ทส่ี ำ� นักทะเบียน 3. เดินทางได้ทั่วราชอาณาจักรไทย โดยไม่ต้องขออนุญาต หากย้ายภูมิล�ำเนาต้องแจ้งย้ายที่อยู่ ตามทะเบียนบ้าน และใบส�ำคัญประจ�ำตัวคนต่างด้าวต่อส�ำนักทะเบียน และสถานีต�ำรวจท้องท่ีท่ีไปอยู่ใหม่ ตามล�ำดับ เพื่อแกไ้ ขเอกสารให้ถกู ต้อง 4. เดนิ ทางไปต่างประเทศได้โดยขอมหี นังสอื เดินทาง (พาสปอร์ตเล่มสเี หลือง) 5. เม่ืออาศัยอยู่ในประเทศมีภูมิล�ำเนาตามทะเบียนบ้าน (ท.ร. 13,ท.ร. 14) ต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปี มีสทิ ธิ์ยื่นค�ำร้องขอแปลงสัญชาตเิ ปน็ สัญชาตไิ ทยหากได้รบั สัญชาติไทยครบ 5ปีจะมสี ทิ ธิเลือกต้ัง • คนตา่ งดา้ วทวั่ ไป ถา้ อยตู่ า่ งจงั หวดั ยนื่ คำ� รอ้ งไดท้ กี่ องบงั คบั การตำ� รวจภธู รจงั หวดั ทวั่ ประเทศ และถ้าอยใู่ นกรงุ เทพมหานคร ยืน่ ได้ทก่ี องบัญชาการต�ำรวจสนั ตบิ าล • คนตา่ งดา้ วทเ่ี ปน็ ชนกลมุ่ นอ้ ย ซงึ่ รฐั บาลมนี โยบายใหอ้ ยถู่ าวรแลว้ ถา้ อยตู่ า่ งจงั หวดั ยน่ื คำ� รอ้ ง ไดท้ ีอ่ ำ� เภอตามภูมลิ ำ� เนาและถา้ อย่ใู นกรงุ เทพมหานคร ยน่ื ได้ทกี่ รมการปกครอง 6. บตุ รทเี่ กดิ ในประเทศไทยหลงั จากทบ่ี ดิ าและมารดาไดร้ บั อนญุ าตใหม้ ถี นิ่ ทอ่ี ยใู่ นราชอาณาจกั ร ไทย จะมสี ญั ชาตไิ ทยโดยการเกดิ ตามหลกั ดนิ แดน 7. บตุ รทเ่ี กดิ ตา่ งประเทศ สามารถแจง้ การเกิดทส่ี ถานทตู หรอื สถานกงสลุ ไทย ณ ประเทศท่ีเกิด แต่ไม่ไดส้ ญั ชาตไิ ทย 103

3.6 ผูถ้ ือบตั รประจ�ำตัวซ่ึงไมม่ สี ญั ญาตไิ ทย (บตั รสเี ดิม) 3.6.1 กลมุ่ บคุ คลทมี่ นี โยบายใหส้ ทิ ธอิ์ าศยั ถาวรในประเทศไทย สว่ นบตุ รทเี่ กดิ ในไทย ใหไ้ ดส้ ญั ชาติ ไทยตามมาตรา 7 ทวิ พ.ร.บ. สญั ชาติ มี 14 กลุ่ม กลุ่มเช้ือสายไทย ได้แก่ กลุ่มผู้อพยพเชื้อสายไทยจากจังหวัดเกาะกง กัมพูชา และกลุ่ม ผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่าเช้ือสายไทย สามารถแปลงสัญชาติแบบพิเศษ (ลดเง่ือนไข เช่น การมีถิ่นท่ีอยู่ติดต่อกัน 5 ปี และยกเว้นค่าธรรมเนียม) กลมุ่ อื่น ๆ ไดแ้ ก่ (1) กล่มุ อดตี ทหารจีนคณะชาตแิ ละจนี ฮอ่ อพยพพลเรือน (2) กลุ่มไทย ลอ้ื (3) กลมุ่ เวยี ดนามอพยพ (4) กลมุ่ ผพู้ ลดั ถน่ิ สญั ชาตพิ มา่ (5) กลมุ่ จนี ฮอ่ อสิ ระ (6) กลมุ่ ชาวเขา (7) กลมุ่ บคุ คล บนพ้ืนที่สูง (8) กลุ่มเนปาลอพยพ (9) กลุ่มชาวลาวภูเขาอพยพ (10) กลุ่มอดีตโจรจีนคอมมิวนิสต์มลายา (11) กลมุ่ มง้ ถา้ํ กระบอก (12) กลุ่มมอแกน 3.6.2 กลุ่มซึ่งอยู่ในระหว่างรอการก�ำหนดหลักเกณฑ์ย่ืนค�ำร้องขอสถานะ ปัจจุบันรัฐบาล มีนโยบายให้สิทธิอาศัยอยู่ชั่วคราว ได้แก่ (1) กลุ่มลาวอพยพ (2) กลุ่มบุคคล/ชุมชนบนพ้ืนที่สูงอพยพ เขา้ มาหลงั 3 ตลุ าคม 2528 (3) กลมุ่ ผหู้ ลบหนเี ขา้ เมอื งจากพมา่ (ทำ� งาน/มถี นิ่ ทอ่ี ย)ู่ เขา้ เมอื งหลงั 9 มนี าคม 2519 (4) กล่มุ ผูห้ ลบหนีเขา้ เมืองจากพม่า (ทำ� งาน/อย่กู ับนายจ้าง) เขา้ เมอื งหลัง 9 มนี าคม 2519 (5) กลมุ่ ผหู้ ลบหนี เข้าเมอื งจากกัมพูชาเขา้ เมืองหลัง 15 พฤศจิกายน 2520 แบบบตั รประจ�ำตวั คนซึ่งไม่มีสัญชาตไิ ทย รปุ ถ่ายขนาด บตั รประจ�ำตัวคนซง่ึ ไม่มีสญั ชาติไทย ส�ำนักทะเบียนกลาง 2.5 x 3 ซม. 0-0000-000000-0 ชอ่ื ตราครุฑ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ชือ่ สกุล เกิดวนั ที่ ข้อพงึ ปฏบิ ตั สิ ำ� หรับผู้ถอื บัตรประจ�ำตัว ท่ีอยู่ 1. บตั รน้มี ิใช่บัตรประจ�ำตวั ประชาชน 2. ใหใ้ ช้บัตรน้ีทุกครั้งในการติดตอ่ สำ� นกั ทะเบียน สว่ นราชการหรอื หนว่ ยงานรฐั ................................ ................................ ................................ วนั ออกบัตร วันบัตรหมดอายุ ผู้อ�ำนวยการกองทะเบียน แบบบัตรประจ�ำตวั บุคคลทไี่ มม่ ีสถานะทางทะเบยี น 104

3.7 ผ้ถู อื บตั รไม่มีสถานะทางทะเบยี น หมายถึง บุคคลทไ่ี ม่มีสถานะทางทะเบียน ประกอบดว้ ย 1. กลุ่มบุคคลตามยุทธศาสตร์จัดการปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคล (ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวนั ท่ี 18 มกราคม 2548) 2. บุคคลที่อ้างว่ามีสัญชาติไทย ขอแจ้งการเกิดหรือเพ่ิมชื่อในทะเบียนบ้าน แต่ยังไม่อาจพิสูจน์ สถานะการเกิดและสญั ชาติได้ • สทิ ธอิ าศยั และสถานะบคุ คลอยรู่ ะหวา่ งการกำ� หนดภายใตก้ รอบยทุ ธศาสตรฯ์ ซงึ่ ในปจั จบุ นั บคุ คลเหลา่ นม้ี สี ทิ ธอิ าศยั อยใู่ นประเทศไทยเปน็ การชวั่ คราว เพอื่ รอการสง่ กลบั ตามประเทศ กระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจ�ำพวกเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการช่ัวคราว เพื่อรอการส่งกลับและ กำ� หนดเขตพื้นทค่ี วบคุม ลงวนั ท่ี 1 ตลุ าคม พ.ศ. 2552 • เรยี นหนงั สอื ไดต้ ามระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธกิ ารวา่ ดว้ ยหลกั ฐานในการรบั นกั เรยี น นกั ศกึ ษา เข้าเรียนในสถานศกึ ษา พ.ศ. 2548 และสามารถขออนุญาตเดินทางออกนอกพน้ื ท่ีเพือ่ ไปศกึ ษา • แม้บัตรผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียนจะก�ำหนดอายุไว้ 10 ปี แต่สิทธิตามบัตรไม่ใช่ 10 ปี แต่ข้นึ อยูก่ ับนโยบายของรฐั บาลเกย่ี วกบั สถานะและการอยอู่ าศัยในประเทศไทยของแต่ละกลุ่มบุคคล • การก�ำหนดและการพัฒนาสถานะบุคคลจะเป็นไปตามกฎหมายและนโยบายของรัฐบาล ต่อไป 3.8 ผไู้ ม่มเี อกสารประจ�ำตวั ใด (บตั รสีเดิม) 1. เตรียมพยานหลักฐาน (ถา้ ม)ี และอาจขอค�ำแนะน�ำจากหน่วยงานทเี่ กยี่ วข้อง 2. การด�ำเนินการเพื่อมีหลักฐานทางทะเบียนราษฎรกรณีอ้างว่าเป็นคนไทยสามารถขอแจ้ง การเกดิ ขอมชี อื่ ในทะเบยี นบา้ นตอ่ สำ� นกั ทะเบยี น โดยตอ้ งมพี ยานบคุ คล (ดหู วั ขอ้ “คนไทยขอมชี อื่ ”) หากพสิ จู น์ สถานะการเกดิ และสญั ชาตไิ มไ่ ด้ จะไดร้ บั การจดั ทำ� ทะเบยี นประวตั แิ ละกำ� หนดเลขประจำ� ตวั ประชาชน 13 หลกั ข้นึ ต้นหลักแรกด้วยเลข 0 ย่ืนค�ำร้องต่อส�ำนักทะเบียน โดยถ้ามีพยานหลักฐานท่ีพิสูจน์ได้ว่าเป็นกลุ่มคนต่างด้าวที่สามารถ มีชื่อในทะเบียนบ้านได้ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย (เป็นกลุ่มคนท่ีไม่สามารถส่งกลับประเทศต้นทางและ ได้รับการผ่อนผันให้อาศัยอยู่ในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 5 ปี) จะได้รับการเพ่ิมช่ือใน ท.ร. 13 แต่ถ้าไม่มีพยาน หลักฐานพิสูจน์ว่าเป็นกลุ่มดังกล่าว จะได้รับการจัดท�ำทะเบียนประวัติและก�ำหนดเลขประจ�ำตัวประชาชน 13 หลัก ข้ึนต้นหลักแรกด้วยเลข 0 กรณีเป็นบุคคลตามกลุ่มยุทธศาสตร์ ฯ ให้เข้ารับการส�ำรวจหรือรอการส�ำรวจและจัดท�ำ บตั รประจ�ำตัวตามยุทธศาสตร์ ฯ 105

3.9 ผถู้ อื บตั รแรงงานตา่ งดา้ ว 3 สญั ชาติ (พม่า กัมพูชา และลาว) คนตา่ งดา้ วสญั ชาตพิ มา่ ลาว และกมั พชู า ผไู้ ดร้ บั อนญุ าตใหอ้ ยอู่ าศยั ในประเทศไทยไดเ้ ปน็ ชว่ั คราว ระหวา่ งรอการสง่ กลบั โดยมติ ครม. โดยใชอ้ ำ� นาจตามมาตรา 17 ของ พ.ร.บ. คนเขา้ เมอื ง พ.ศ. 2522 และอนญุ าต ใหท้ ำ� งานในประเทศไทยไดต้ ามพระราชบญั ญตั กิ ารทำ� งานของคนตา่ งดา้ ว โดยผทู้ ไ่ี ดร้ บั อนญุ าต จะตอ้ งไปรายงาน ตวั ตอ่ สำ� นกั ทะเบยี นเพอื่ มรี ายชอื่ ในแบบรบั รองรายการทะเบยี นประวตั ขิ องคนตา่ งดา้ ว ทไี่ ดร้ บั อนญุ าตใหอ้ ยอู่ าศยั ในประเทศไทยได้เป็นกรณีพิเศษ (ท.ร. 38/1) โดยผู้ได้รับอนุญาตให้อยู่อาศัยในประเทศไทยได้เป็นกรณีพิเศษ หรอื มี ท.ร. 38/1 นจี้ ะตอ้ งขอรับใบอนญุ าตทำ� งานในกิจการทีไ่ ด้รับอนุญาตตามมติ ครม. โดยมีข้นั ตอน ดงั นี้ 1. รายงานตัวเพ่ือขอรับ ท.ร. 38/1 ณ ท่ีว่าการอ�ำเภอหรือส�ำนักงานเขตในพ้ืนที่ท่ีท�ำงาน ในระยะเวลาทกี่ ำ� หนด 2. ตรวจสุขภาพและท�ำบัตรประกันสุขภาพตามโรงพยาบาลท่ีก�ำหนดไว้ในแต่ละจังหวัด โดยคา่ ใชจ้ า่ ย ในการตรวจสขุ ภาพและท�ำบตั รประกนั สุขภาพ 1,900 บาท 3. นำ� ใบรบั รองแพทยแ์ ละ ท.ร. 38/1 ทส่ี ำ� นกั งานจดั หางานในแตล่ ะพน้ื ทเี่ พอ่ื ขอรบั ใบอนญุ าต โดยมคี า่ ใช้จ่ายในการท�ำ 1,900 บาท ในปจั จุบันบตั รประจำ� ตวั แรงงานต่างด้าวสามสัญชาตจิ ะมอี ายุสองปี ผู้ถือบัตรแรงงานต่างด้าวจะต้องเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติของประเทศต้นทางเสียก่อน หากไมผ่ า่ นจึงจะสามารถเข้าสูก่ ระบวนการพัฒนาสถานะได้ ชนกลมุ่ นอ้ ยทสี่ ำ� คญั ผดิ ในขอ้ เทจ็ จรงิ โดยไดร้ บั การสำ� รวจจดั ทำ� ทะเบยี นประวตั แิ รงงานตา่ งดา้ ว (ท.ร. 38/1) สามารถยื่นคำ� ร้องเพอื่ ใหส้ �ำนกั ทะเบียนแกไ้ ขปรับปรงุ ฐานข้อมลู ให้ถกู ตอ้ งตามขอ้ เท็จจรงิ 3.10 การให้เลขประจ�ำตวั ประชาชน 13 หลัก บคุ คลทไี่ ดร้ บั การบนั ทกึ รายการลงในเอกสารทะเบยี นราษฎร จะไดร้ บั การกำ� หนดเลข 13 หลกั โดยเลขหลักแรกจะมคี วามหมายบ่งบอกประเภทของบุคคลทเี่ ข้าสรู่ ะบบทะเบียนราษฎรและสัญชาติ เลข 1 หมายถึง คนสัญชาตไิ ทยทีแ่ จ้งการเกิดภายใน 15 วัน นบั แตว่ ันเกดิ เลข 2 หมายถงึ คนสญั ชาติไทยทแี่ จง้ การเกิดเกนิ ระยะเวลาท่ีกฎหมายก�ำหนด เลข 3 หมายถงึ คนสญั ชาตไิ ทยและคนตา่ งดา้ วทม่ี ชี อ่ื ในทะเบยี นบา้ นกอ่ นการใหเ้ ลข 13 หลกั เลข 4 หมายถึง คนสัญชาติไทยและคนต่างด้าวที่เพิ่มช่ือในทะเบียนบ้านด้วยใบแจ้งย้ายใน ช่วงการให้ เลข 13 หลัก เลข 5 หมายถึง คนสัญชาติไทยท่ีมีช่ือในทะเบียนบ้านโดยการเพ่ิมช่ือภายหลังช่วงการให้ เลข 13 หลกั เลข 6 หมายถึง คนซงึ่ ไมม่ สี ญั ชาตไิ ทยทไ่ี ดร้ บั การเพมิ่ ชอื่ ในทะเบยี นบา้ น (กลมุ่ ทไ่ี ดร้ บั อนญุ าต ใหอ้ ยใู่ นประเทศไทยชว่ั คราว และได้รบั ผอ่ นผันให้อยู่เปน็ กรณีพิเศษ) 106

เลข 7 หมายถงึ บุตรของคนซ่ึงไม่มีสญั ชาติไทยทเ่ี กิดในประเทศไทยแต่ไมไ่ ด้สญั ชาติไทย เลข 8 หมายถงึ คนทไ่ี ดส้ ญั ชาตไิ ทยตามกฎหมายและคนตา่ งดา้ วทไ่ี ดร้ บั อนญุ าตใหม้ ถี น่ิ ทอี่ ยู่ ในประเทศไทยขอเพ่มิ ชอื่ ในทะเบียนบ้าน เลข 0 หมายถึง คนซงึ่ ไมม่ สี ถานะทางทะเบยี นทไ่ี ดร้ บั สำ� รวจจดั ทำ� ทะเบยี นประวตั ติ ามยทุ ธศาสตร์ การจัดการปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคลตามมติ ครม. 18 มกราคม 2548 และคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ที่ไม่อาจมีชื่อในทะเบียนบ้าน (ท.ร. 13) ตามมาตรา 38 วรรคสอง เลข 00 หมายถึง แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชาท่ีได้รับ การจัดทำ� ทะเบยี นประวตั ิและไดร้ บั อนญุ าตใหท้ ำ� งานตามมติ ครม. รวมถึงผู้ตดิ ตามแรงงาน การมีสถานะเกี่ยวกับสัญชาติของบุคคลย่อมบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนในทางกฎหมายที่จะ ส่งผลต่อ การมีสทิ ธหิ นา้ ที่ทีแ่ ตกต่างกัน หากแบง่ คนในประเทศไทยจะแบ่งเป็น 2 ประเภท คอื คนสัญชาติไทย กับคนไมม่ สี ัญชาตไิ ทย 107

4. การไดส้ ญั ชาตไิ ทยตาม พ.ร.บ. สญั ชาติ พ.ศ. 2535 การได้สัญชาตไิ ทยตามกฎหมายสัญชาติ มี 2 ประการ คือ 1. ไดส้ ญั ชาตไิ ทยโดยการเกิด พ.ร.บ. สญั ชาติ พ.ศ. 2535 ฯลฯ มาตรา 7 บุคคลดังตอ่ ไปนยี้ อ่ มได้สัญชาตไิ ทยโดยการเกดิ (1) ผเู้ กดิ โดยบิดาหรือมารดาเป็นผมู้ สี ญั ชาติไทย ไมว่ ่าจะเกดิ ในหรือนอกราชอาณาจักรไทย (2) ผเู้ กิดในราชอาณาจกั รไทย ยกเวน้ บคุ คลตามมาตรา 7 ทวิ วรรคหน่ึง ค�ำว่าบิดาตาม (1) ให้หมายความรวมถึงผู้ ซ่ึงได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นบิดาของผู้เกิดตามวิธีการ ท่ีก�ำหนดในกฎกระทรวง แม้ผู้น้ันจะมีได้จดทะเบียนสมรสกับมารดาของผู้เกิด และมิได้จดทะเบียนรับรอง ผู้เกิดเปน็ บตุ รกต็ าม ซ่ึงผูม้ ีสัญชาตไิ ทยโดยหลกั การเกดิ แบ่งไดเ้ ปน็ 2 ประเภท คอื 1.1 ผู้มีสัญชาติไทยโดยการเกิดโดยหลักสายโลหิต คือ หากมีพ่อหรือแม่เป็นไทย ลูกก็ได้ไทย ตามพ่อหรือแม่ 1.2 ผู้มีสัญชาติไทยโดยการเกิดโดยหลักดินแดน คือ ใครก็ตามที่เกิดในประเทศไทยย่อมได้ สัญชาติไทยเกิดในประเทศไทย เวน้ แต่จะเปน็ บุคคลที่เข้าขอ้ ยกเวน้ ตามมาตรา 7 ทวิ วรรคหนง่ึ คือ พอ่ และแม่ เป็นคนต่างด้าวที่เข้าเมืองผิดกฎหมายหรือมีสิทธิ์อยู่ในประเทศไทยได้ช่ัวคราว (ถือพาสปอร์ต วีซ่า บัตรคน ซ่ึงไม่มีสัญชาติไทย หรือบัตรแรงงานต่างด้าว) ท่ีลูกเกิดในประเทศไทยจะไม่ได้สัญชาติไทยตามหลักดินแดน ดงั บญั ญตั ิไว้ในมาตรา 7 ทวิ ดงั นี้ มาตรา 7 ทวิ ผู้เกิดในราชอาณาจักรไทย โดยบิดาและมารดาเปน็ คนตา่ งดา้ ว ย่อมไม่ได้รบั สัญชาติ ไทย ถ้าในขณะทเี่ กิดบดิ าตามกฎหมายหรอื บดิ าซง่ึ มี ได้มีการสมรสกับมารดาหรอื มารดาของผู้นั้นเปน็ (1) ผทู้ ไ่ี ดร้ ับการผอ่ นผันให้พกั อาศัยอยใู่ นราชอาณาจักรไทยเป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย (2) ผู้ทไี่ ด้รับอนุญาตใหเ้ ข้าอยูใ่ นราชอาณาจักรไทยเพียงชัว่ คราว หรอื (3) ผู้ทีเ่ ขา้ มาอย่ใู นราชอาณาจักรไทยโดยไมไ่ ด้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าดว้ ยคนเขา้ เมือง ในกรณีท่ีเห็นสมควร รัฐมนตรีจะพิจารณาและส่ังเฉพาะรายหรือเป็นการท่ัวไปให้บุคคลตามวรรค หน่ึง ไดส้ ญั ชาติไทยกไ็ ด้ตามหลกั เกณฑท์ ีค่ ณะรัฐมนตรีก�ำหนด 108

ผู้เกิดในราชอาณาจักรไทยซ่ึงไม่ได้สัญชาติไทยตามวรรคหนึ่งจะอยู่ในราชอาณาจักรไทยในฐานะใด ภายใต้เง่ือนไขใด ให้เป็นไปตามที่ก�ำหนดในกฎกระทรวง ทั้งน้ี โดยค�ำนึงถึงความม่ันคงแห่งราชอาณาจักรและ สิทธิมนุษยชนประกอบกัน ในระหว่างท่ียังไม่มีกฎกระทรวงดังกล่าวให้ถือว่าผู้น้ันเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ไดร้ ับอนุญาตตามกฎหมายวา่ ด้วยคนเข้าเมอื ง ข้อสังเกต: ก่อนท่ีจะมีการประกาศใช้ประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 337 (ปว. 337) ที่มีผลบังคับใช้ เม่ือวันท่ี 14 ธันวาคม พ.ศ. 2515 ประเทศไทยมีการยึดถือหลักการได้สัญชาติโดยหลักดินแดน โดยไม่มี ข้อยกเว้นใด ๆ โดย ปว. 337 มีใจความส�ำคญั ดังนี้ คือ “บุคคลที่เกิดในราชอาณาจักรไทยโดยบิดาหรือมารดาเป็นคนต่างด้าวท่ีเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักร ไทย โดยไมช่ อบดว้ ยกฎหมายวา่ ดว้ ยคนเขา้ เมอื งหรอื บดิ าหรอื มารดาเปน็ คนตา่ งดา้ วทเ่ี ขา้ มาในราชอาณาจกั รไทย โดยได้รับอนุญาตให้เข้ามาอยู่เพียงชั่วคราวหรือเป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย บุคคลเหล่านี้แม้จะมีสัญชาติไทย แตก่ ม็ ไิ ดม้ คี วามจงรกั ภกั ดตี อ่ ประเทศไทย เพอื่ ปอ้ งกนั และรกั ษาความมนั่ คงแหง่ ชาติ สมควรมใิ หบ้ คุ คลดงั กลา่ วมี หรือได้สญั ชาติไทยอีกตอ่ ไป” ซึ่งนอกจาก ปว. 337 จะมีผลท�ำใหบ้ ุคคลทเี่ กดิ ในประเทศไทยโดยพอ่ หรอื แมเ่ ปน็ ตา่ งด้าวท่ไี มช่ อบ ด้วยกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองหรือมีสิทธิอาศัยช่ัวคราว ไม่ได้สัญชาติไทยแล้วยังมีผลย้อนหลังไปถอน สัญชาติไทยของบุคคลที่เกิดในประเทศไทยที่เกิดจากพ่อหรือแม่เป็นต่างด้าวที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายว่าด้วย คนเขา้ เมอื งหรอื มสี ทิ ธอิ าศยั ชวั่ คราวอกี ดว้ ย ซง่ึ ตอ่ มา ปว. 337 ถกู ยกเลกิ โดยพระราชบญั ญตั สิ ญั ชาติ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2535 ลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2535 ซ่ึงต่อมากลุ่มที่ถูกถอนสัญชาติหรือไม่ได้รับสัญชาติไทย โดยผลของ ปว. 337 นน้ั ไดร้ บั สญั ชาติ โดยผลของมาตรา 23 แหง่ พ.ร.บ.สญั ชาติ ฉบบั ท่ี 4 พ.ศ. 2551 ลงวนั ที่ 27 กมุ ภาพนั ธ์ 2551 ซึ่งถือว่าบุคคลกลุ่มนี้มีสัญชาติไทยนับแต่วันท่ี 28 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นต้นไป รายละเอียด จะได้กล่าว ตอ่ ไป 2. ได้สัญชาติไทยภายหลังการเกิด การไดส้ ญั ชาตไิ ทยภายหลงั การเกดิ คอื ขณะเกดิ ไมไ่ ดส้ ญั ชาตไิ ทยแลว้ มาขอภายหลงั แบง่ ออกเปน็ การขอถือสัญชาติโดยการสมรสเฉพาะฝา่ ยหญิงเทา่ น้ันท่ขี อมีสัญชาตไิ ทยตามสามีได้ การขอแปลงสัญชาติ จะขอได้ต้องมีคุณสมบัติตามท่ีกฎหมายก�ำหนด เช่น อยู่ในประเทศไทย ตอ่ เนือ่ งกว่า 5 ปี มอี าชีพมั่นคง เป็นตน้ นอกจากน้ีกฎหมายสัญชาติยังก�ำหนดวิธีการได้สัญชาติไทยของบุคคลท่ีเกิดในประเทศไทยเพ่ิมเติม อกี 2 ประการ คือ 1. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยสั่งให้สัญชาติไทยเป็นการเฉพาะรายหรือเป็นการทั่วไป ตามหลกั เกณฑ์ทรี่ ฐั มนตรีกำ� หนดตามมาตรา 7 ทวิ วรรคสอง 2. ให้สัญชาติไทยให้กลุ่มบุคคลท่ีเสียสัญชาติไทยเพราะผลของประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 337 โดยมาตรา 23 แหง่ พ.ร.บ.สัญชาติ ฉบบั ท่ี 4 พ.ศ. 2551 ซึง่ มเี นือ้ หา ดงั น้ี 109

“บรรดาบุคคลที่เคยมีสัญชาติไทยเพราะเกิดในราชอาณาจักรไทยแต่ถูกถอนสัญชาติไทย ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี 337 ลงวันท่ี 13 ธันวาคม พุทธศักราช 2515 ข้อ 1 และผู้ท่ีเกิด ในราชอาณาจักรไทย แต่ไม่ได้สัญชาติไทยตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี 337 ลงวันที่ 13 ธันวาคม พทุ ธศักราช 2515 ข้อ 2 รวมถึงบุตรของบุคคลดังกล่าวท่ีเกดิ ในราชอาณาจักรไทยกอ่ นวันที่พระราชบัญญัตนิ ีใ้ ช้ บังคับและไมไ่ ดส้ ญั ชาตไิ ทย ตามมาตรา 7 ทวิ วรรคหนง่ึ แหง่ พระราชบญั ญตั สิ ญั ชาติ พ.ศ. 2508 ซง่ึ เพม่ิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั ิ สัญชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ถ้าบุคคลผู้นั้นอาศัยอยู่จริงในราชอาณาจักรไทยติดต่อกันโดยมีหลักฐาน ทางทะเบยี นราษฎร และเปน็ ผมู้ คี วามประพฤตดิ ี หรอื ทำ� คณุ ประโยชนใ์ หแ้ กส่ งั คมหรอื ประเทศไทยใหไ้ ดส้ ญั ชาติ ไทย ตง้ั แตว่ นั ทพี่ ระราชบญั ญตั นิ ใี้ ชบ้ งั คบั เวน้ แตผ่ ซู้ งึ่ รฐั มนตรมี คี ำ� สงั่ อนั มผี ลใหเ้ ปน็ ผมู้ สี ญั ชาตไิ ทยแลว้ กอ่ นวนั ที่ พระราชบัญญัตนิ ใ้ี ช้บงั คับ เมอื่ พน้ กำ� หนดเกา้ สบิ วนั นบั แตว่ นั ทพ่ี ระราชบญั ญตั นิ ใ้ี ชบ้ งั คบั ใหผ้ มู้ คี ณุ สมบตั ติ ามวรรคหนงึ่ ยนื่ คำ� ขอ ลงรายการสัญชาติในเอกสารการทะเบียนราษฎรต่อนายทะเบียนอ�ำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นตามกฎหมาย วา่ ด้วยการทะเบยี นราษฎรแหง่ ทอ้ งที่ท่ีผู้นนั้ มีภมู ิลำ� เนาในปัจจบุ นั ” 110

ขภาคผนวก ค�ำถาม - ตอบ

หมวดที่ 1 นโยบายของรฐั บาลไทย 1. มีมาตรการใดของรฐั บ้างในการแก้ไขปัญหากรณที เี่ ดก็ นักเรียนไมม่ ีนามสกลุ ตอบ เดก็ ทไี่ มม่ นี ามสกลุ เกดิ ไดจ้ ากสาเหตหุ ลายประการ และเกดิ ไดท้ งั้ กบั เดก็ สญั ชาตไิ ทย และเดก็ ท่ีไม่มีสัญชาติไทย เช่น กรณีเด็กที่ถูกทอดท้ิง เด็กเร่ร่อน หรือเด็กที่ไม่ปรากฏบุพการี ซึ่งอยู่ในการอุปการะ ดูแลของบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ญาติ หรืออยู่ในสถานสงเคราะห์ เพราะตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และ พ.ร.บ. ช่ือบุคคล พ.ศ. 2505 ล้วนก�ำหนดหลักการเรื่องการใช้ชื่อสกุลไว้ ซึ่งสรุปว่า บุตรมีสิทธิใช้ช่ือสกุลของบิดาหรือมารดา ซ่ึงรวมถึงบิดามารดาบุญธรรมด้วย หรืออาจจะใช้ชื่อสกุล รว่ มกบั ผอู้ น่ื กไ็ ดแ้ ตจ่ ะตอ้ งไดร้ บั ความยนิ ยอมจากผทู้ เี่ ปน็ เจา้ ของนามสกลุ นน้ั และจะตอ้ งจดทะเบยี นตามกฎหมาย ดังน้ัน ถ้าเด็กไม่มีบิดามารดาก็ไม่รู้ว่าจะใช้ชื่อสกุลใด เว้นแต่เด็กที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ซึ่งบางแห่งจะมี การจดทะเบยี นตง้ั นามสกลุ กลางของสถานสงเคราะหไ์ ว้ หวั หนา้ สถานสงเคราะหก์ ส็ ามารถใหเ้ ดก็ ในการอปุ การะ ใช้นามสกุลของสถานสงเคราะห์ได้ นอกจากนี้ยังมีปัญหาท่ีเกิดกับลูกของคนต่างด้าวบางคนที่บิดามารดาไม่มีนามสกุล ลูกก็จะไม่มี นามสกุลไปด้วย ส่วนที่เห็นว่าเด็กต่างด้าวบางคนมีนามสกุลและเป็นนามสกุลไทย ๆ ด้วยนั้น สืบเน่ืองมาจาก ในขน้ั ตอนการส�ำรวจเพื่อจดั ทำ� ทะเบยี นประวตั บิ คุ คลน้นั เจ้าหน้าท่ีจะจดบนั ทกึ ชื่อ นามสกุล และประวตั ิตามที่ ได้รับแจ้งจากผู้ถูกส�ำรวจซ่ึงส่วนใหญ่เป็นคนที่ไม่มีหลักฐานอ้างอิง ถ้าบอกว่านามสกุลอะไรก็จดไปตามนั้น แตเ่ มอ่ื จดบนั ทกึ เปน็ ทะเบยี นแลว้ จะมาขอเปลย่ี นนามสกลุ ใหม่ กรณนี จ้ี ะตอ้ งมหี ลกั ฐานมาพสิ จู นข์ อ้ เทจ็ จรงิ กอ่ น จึงจะแก้ไขได้ ส�ำหรับวิธีการแก้ไขปัญหาของคนที่ต้องการมีนามสกุลน้ันมีหลายวิธี เช่น ถ้าพบว่าพ่อ หรือแม่ ผู้ให้ก�ำเนิดเป็นคนท่ีมีนามสกุลก็ไปขอแก้ไขเพิ่มเติมทะเบียนราษฎรให้มีนามสกุลตามพ่อหรือแม่ได้ หรือถ้าเป็น บุตรบุญธรรมของใครก็สามารถขอใช้นามสกุลตามพ่อหรือแม่บุญธรรมได้ หรือคนท่ีจดทะเบียนสมรสแล้ว กส็ ามารถขอใชน้ ามสกลุ ตามสามหี รอื ภรรยากไ็ ดเ้ ชน่ กนั หรอื คนตา่ งดา้ วทก่ี ำ� ลงั ขอสญั ชาตไิ ทย กส็ ามารถยนื่ เรอื่ ง ขอต้ังนามสกลุ ไว้ก่อนกไ็ ด้ แตย่ งั ใชไ้ ม่ไดจ้ นกวา่ จะได้รับสัญชาติไทยแล้ว จึงจะยื่นเร่ืองขอใชน้ ามสกุลได้ แต่ถ้าจะ ใหค้ นตา่ งดา้ วในทะเบยี นราษฎรสามารถเปลย่ี นชอ่ื ตวั ตง้ั นามสกลุ ใหม่ หรอื ขอใชน้ ามสกลุ รว่ มกบั คนอน่ื ไดอ้ ยา่ ง คนไทยก็คงตอ้ งเสนอแก้ไขกฎหมายว่าด้วยช่อื บุคคล 2. กรณีเด็กท่ีอาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย เช่น เด็กชาวเขมรที่เดินข้ามชายแดนมาเรียน แบบไปกลับ เพราะติดตามพ่อแม่หรือผู้ปกครองมาฝั่งไทยมาขอเข้าเรียนอย่างนี้ ถือว่าเป็นเด็กที่ได้รับ ความคุ้มครองตามกฎหมายไทยในเร่อื งการจดั การศกึ ษาหรอื ไม่ ตอบ เด็กที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยสามารถเข้าเรียนในสถานศึกษาและได้รับการสนับสนุน ทางการศึกษา (มตคิ ณะรฐั มนตรี เม่ือวันที่ 5 กรกฎาคม 2548 เรอ่ื ง ร่างระเบียบกระทรวงศกึ ษาธิการว่าดว้ ย หลักฐานวัน เดือน ปีเกิดในการรับนักเรียน นักศึกษาเข้าเรียนในสถานศึกษา พ.ศ. ... การจัดการศึกษา แกบ่ คุ คลท่ไี มม่ ีหลักฐานทะเบยี นราษฎรหรอื ไม่มีสญั ชาตไิ ทย) 112

เหน็ ควรขยายโอกาสทางการศกึ ษาแกบ่ คุ คลทไ่ี มม่ หี ลกั ฐานทางทะเบยี นราษฎรหรอื ไมม่ สี ญั ชาตไิ ทย ซงึ่ เดมิ เคยจำ� กดั ไวใ้ หเ้ ฉพาะบางกลมุ่ บางระดบั การศกึ ษา เปน็ การเปดิ กวา้ งใหท้ กุ คนทอี่ าศยั ในประเทศสามารถ เขา้ เรยี นไดโ้ ดยไมจ่ �ำกดั ระดบั ประเภท หรอื พนื้ ทกี่ ารศกึ ษา (ยกเวน้ ผทู้ หี่ นภี ยั จากการสรู้ บ จดั ใหเ้ รยี นไดใ้ นพน้ื ท)่ี ซงึ่ จะสอดคลอ้ งกบั การเปน็ ภาคอี นสุ ญั ญาสทิ ธเิ ดก็ และเพอื่ ใหน้ กั เรยี น นกั ศกึ ษาเหลา่ นนั้ มคี วามเขา้ ใจ มที ศั นคติ ที่ดตี อ่ ประเทศไทยเพือ่ การเสรมิ สร้างความมั่งคงของชาตใิ นระยะยาวตอ่ ไป) 3. การให้การศกึ ษากับเดก็ กบั เรื่องสถานะบคุ คลนน้ั มีความสมั พันธก์ นั หรอื ไม่อยา่ งไร ตอบ สถานะบุคคลต้องได้รับตามท่ีเป็นจริง การไม่ได้รับการศึกษา หรือได้รับการศึกษาไม่ท�ำให้ สถานะบคุ คลของเดก็ เปลย่ี นแปลง แตค่ รอู าจารยแ์ ละผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาควรชว่ ยเหลอื เดก็ ทย่ี งั ไมม่ สี ถานะบคุ คล ใหไ้ ด้รับสถานะบคุ คลตามทีเ่ ปน็ จรงิ 4. โรงเรียนหรือผู้บริหารโรงเรียน หรือวัด หากรับนักเรียนท่ีไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎร หรือไมม่ ีสัญชาตไิ ทย จะมคี วามผดิ ตามกฎหมายคนเข้าเมืองฐานให้ท่ีพกั พงิ คนต่างดา้ วหรือไม่ ตอบ ความผิดฐานให้ท่ีพักพิงคนต่างด้าว ตามมาตรา 64 พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ผู้กระท�ำผิดต้องมเี จตนา “เพ่ือใหค้ นต่างด้าวน้นั พ้นจากการจบั กมุ ” การรบั นกั เรยี นอยา่ งเปดิ เผย บนั ทึกรายการ นักเรียน หลักฐานการศึกษา และให้การศึกษาตามปกติ ไม่เป็นการช่วยให้เด็กพ้นจากการจับกุม โรงเรียน หรอื ผู้บรหิ าร หรอื วดั จงึ ไมม่ ีความผิด (พระราชบญั ญตั คิ นเขา้ เมอื ง พทุ ธศกั ราช 2522 ฯลฯ มาตรา 64 ผู้ใดรู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ให้เข้า พกั อาศยั ซอ่ นเรน้ หรอื ชว่ ยดว้ ยประการใด ๆ เพอื่ ใหค้ นตา่ งดา้ วนน้ั พน้ จากการจบั กมุ ตอ้ งระวางโทษจำ� คกุ ไมเ่ กนิ ห้าปี และปรบั ไมเ่ กินห้าหมื่นบาท) หมวดท่ี 2 การจดั การศกึ ษา 5. กรณีโรงเรียนท่ีไม่ได้ให้หลักฐานใด ๆ เลย แต่ที่ผ่านมาก็ให้เรียนไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีการบันทึก ประวตั นิ ักเรยี น อยา่ งนี้จะมีผลกระทบอยา่ งไร ตอบ ถือว่าไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และระเบียบต้องมีการส�ำรวจจัดท�ำและบันทึกประวัตินักเรียน ตลอดจนออกหลักฐานการศกึ ษา 6. หากนกั เรียนไม่มหี ลกั ฐานยืนยันว่ามีสัญชาตใิ ดควรกรอกในเรื่องสญั ชาตอิ ยา่ งไร ตอบ ควรใสต่ ามจรงิ ว่าไม่ทราบสัญชาติ หรอื ท�ำเคร่อื งหมาย “ - ” เพราะการท่ีผใู้ ดจะมสี ญั ชาตใิ ด ไดน้ ั้นต้องมีเอกสารที่รฐั ชาติน้ันออกมาให้เท่าน้นั 7. ในการกรอกข้อมูลของเด็ก หากผู้แจ้งแจง้ ข้อความอันเปน็ เท็จ เจา้ หนา้ ท่หี รอื ครใู นสถานศกึ ษา ทบ่ี นั ทกึ ข้อมลู นน้ั มคี วามผิดหรอื ไมอ่ ยา่ งไร ตอบ การจดขอ้ มลู ตามทไี่ ดร้ บั แจง้ ถอื เปน็ การ “จดตามแจง้ ” เจา้ หนา้ ทห่ี รอื ครผู จู้ ดตามแจง้ ไมม่ คี วามผดิ 113

8. เด็กที่ผ่านการศึกษาจากโรงเรียนช่ัวคราวหรือศูนย์การเรียนของเอกชนต้องการมาเรียนต่อ ในโรงเรยี นของรฐั จะสามารถเขา้ เรยี นไดห้ รอื ไม่ และสามารถเทยี บโอนความรหู้ รอื เทยี บโอนผลการเรยี น หรอื เทยี บระดบั การศึกษาไดห้ รือไมอ่ ย่างไร ตอบ ได้ โดยดจู ากหลกั สูตร หากหลกั สตู รถกู ตอ้ งก็สามารถเทยี บโอนได้ เมอื่ ไม่มีกฎหมายหา้ ม (ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง “การเทียบผลการเรียนการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน และการศึกษา ระดับอุดมศึกษา ระดับต�่ำกว่าปริญญา” และแนวปฏิบัติของส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน เรือ่ ง “แนวปฏบิ ตั เิ กีย่ วกับการเทียบโอนผลการเรยี นเขา้ สู่การศกึ ษาในระบบระดบั การศึกษาขัน้ พื้นฐาน”) 9. หากนักเรียนทีเ่ คยเขา้ เรยี นหรือเรียนจบไปแล้ว แต่ไมเ่ คยไดร้ บั หลักฐานใด ๆ มาขอรบั หลักฐาน การศึกษายอ้ นหลังจากโรงเรยี นสามารถท�ำได้หรอื ไม่ ตอบ ได้ เน่ืองจากเด็กนักเรียนดังกล่าวได้ลงหลักฐานในทะเบียนนักเรียนของโรงเรียนและมี ผลการเรยี นของเด็กทุกคนเกบ็ ไว้เป็นหลกั ฐานอยูแ่ ลว้ 10. เด็กนักเรียนไร้สัญชาติที่มีความสามารถทางกีฬา สามารถเป็นตัวแทนโรงเรียนเข้าร่วม แข่งขนั กฬี าหรือไม่ ตอบ เด็กนกั เรยี นไร้สญั ชาตสิ ามารถเป็นตัวแทนโรงเรียนเข้ารว่ มการแขง่ ขนั กีฬาโรงเรยี นได้ (ระเบยี บส�ำนกั งานพฒั นาการกฬี าและนนั ทนาการวา่ ดว้ ยการแขง่ ขนั กฬี าโรงเรยี น พ.ศ. 2550) ขอ้ 3 ในระเบียบนี้ “โรงเรียน” หมายความว่า โรงเรียน วิทยาลัย และสถานศึกษาท่ีเรียกชื่ออย่างอ่ืน ท่ีจัดการสอน ในสายสามัญหรอื สายอาชวี ศกึ ษา ทง้ั ของรัฐบาลและเอกชน “นักเรยี น” หมายความวา่ บุคคลทีก่ ำ� ลงั ศึกษาอยู่ในโรงเรยี น) 11. หากนักเรียนที่มีอายุต้ังแต่ 12 ปีขึ้นไป ซ่ึงไม่สามารถพูดภาษาไทยได้ ซ่ึงมีเป็นจ�ำนวนมาก ในจังหวัดสมุทรสาคร หากทางโรงเรียนต้องการให้ทาง กศน. ช่วยจัดท�ำหลักสูตรให้กับเด็กกลุ่มนี้ จะมี ความเปน็ ไปไดม้ ากน้อยเพียงใด และผู้ใดควรเปน็ ผอู้ นุมัตผิ ลการศึกษา ตอบ สามารถทำ� ได้ โดยโรงเรยี นจะตอ้ งทำ� บนั ทกึ ความเขา้ ใจ เพอ่ื ขอความรว่ มมอื และแบง่ ภารกจิ กับ กศน. ในพน้ื ท่ี ผ้อู นมุ ตั ผิ ลการศึกษา คือ หน่วยงานท่เี ด็กลงทะเบียนเรียน 12. นักเรียน นักศึกษาที่ไม่มีเลขประจ�ำตัว 13 หลัก จะสามารถด�ำเนินการกู้ยืมเงินกองทุนเพ่ือ การศึกษา (กยศ.) ไดห้ รือไม่ ตอบ ไม่ได้ เน่ืองจากพระราชบัญญัติกองทุนภู้ยืมเงินเพ่ือการศึกษา (กยศ.) พ.ศ. 2560 ก�ำหนด คณุ สมบัติของผู้กยู้ มื ตามมาตรา 39 ว่าจะต้องมสี ัญชาติไทย 114

13. บตุ รของแรงงานตา่ งดา้ ว เดก็ เรร่ อ่ นไรส้ ญั ชาติ ไมม่ ขี อ้ มลู เอกสารอยา่ งใดเลย และไมม่ ผี ปู้ กครอง ไมท่ ราบวัน เดือน ปีเกิด จะรบั เข้าเรยี นไดห้ รอื ไม่ ตอบ บุตรของแรงงานต่างด้าว เด็กเร่ร่อน ไม่มีข้อมูลเอกสารใด ๆ เลย ถือเป็นบุคคลท่ีไม่มีหลักฐาน ทางทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย มีสิทธิเรียนอย่างเสมอภาคกับผู้มีสัญชาติไทย กรณีไม่มีเอกสารใด ๆ เลย และไม่มีพ่อแม่หรือไม่มีผู้ปกครอง ให้องค์กรเอกชนท�ำบันทึกแจ้งประวัติบุคคลเป็นหลักฐานที่จะน�ำมาลงหลักฐาน ทางการศึกษา หากไม่มีองค์กรเอกชนให้ (เจ้าหน้าท่ีสถานศึกษา) ซักถามประวัติบุคคล ผู้มาสมัครเรียน หรือ ผทู้ เี่ กย่ี วขอ้ ง เพอื่ นำ� ลงรายการบนั ทกึ แจง้ ประวตั บิ คุ คลตามแบบแนบทา้ ยระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธกิ ารวา่ ดว้ ยหลกั ฐาน ในการรับนักเรียน นกั ศึกษาเข้าเรยี นในสถานศกึ ษา พ.ศ. 2548 เปน็ หลักฐานท่จี ะนำ� มาลง หลักฐานทางการศกึ ษา (มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันท่ี 5 กรกฎาคม 2548 เรื่อง ร่างระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธกิ ารว่าด้วย หลกั ฐานวนั เดือน ปเี กดิ ในการรบั นักเรยี น นักศึกษาเข้าเรยี นในสถานศึกษา พ.ศ. ... (การจดั การศึกษาแก่ บุคคลทีไ่ ม่มีหลกั ฐานทะเบยี นราษฎรหรือไม่มสี ญั ชาติไทย) ฯลฯ เห็นควรขยายโอกาสทางการศึกษาแก่บุคคลท่ีไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย ซึง่ เดมิ เคยจำ� กดั ไวใ้ ห้เฉพาะบางกลุม่ บางระดบั การศกึ ษา เป็นการเปิดกวา้ งใหท้ กุ คนท่ีอาศัยในประเทศสามารถ เข้าเรียนได้โดยไม่จ�ำกดั ระดบั ประเภท หรอื พื้นท่กี ารศกึ ษา (ยกเว้นผ้ทู ่หี นีภัยจากการสู้รบจดั ให้เรยี นได้ในพน้ื ท)ี่ ซง่ึ จะสอดคลอ้ งกบั การเปน็ ภาคอี นสุ ญั ญาสทิ ธเิ ดก็ และเพอื่ ใหน้ กั เรยี น นกั ศกึ ษาเหลา่ นน้ั มคี วามเขา้ ใจ มที ศั นคติ ที่ดตี อ่ ประเทศไทยเพ่อื การเสริมสรา้ งความม่งั คงของชาติในระยะยาวตอ่ ไป) ระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธกิ ารวา่ ดว้ ยหลกั ฐานในการรบั นกั เรยี นนกั ศกึ ษาเขา้ เรยี นในสถานศกึ ษา พ.ศ. 2548 ฯลฯ ข้อ 5 ให้สถานศึกษาถือเป็นหน้าที่ ในการที่จะรับเด็กที่อยู่ในวัยการศึกษาตามกฎหมายว่าด้วย การศกึ ษาภาคบังคับ เขา้ เรียนในสถานศึกษา ขอ้ 6 การรับนักเรียน นักศึกษาในกรณีที่ไม่เคยเข้าเรียนในสถานศึกษามาก่อน ให้สถานศึกษา เรียกหลักฐานอย่างใดอย่างหนึง่ ตามลำ� ดับเพื่อนำ� มาลงหลักฐานทางการศกึ ษา ดังตอ่ ไปนี้ (1) สูตบิ ัตร (2) กรณีท่ีไม่มีหลักฐานตาม (1) ให้เรียกหนังถือรับรองการเกิด บัตรประจ�ำตัวประชาชน ส�ำเนา ทะเบยี นบ้านฉบับเจา้ บ้าน หรือหลกั ฐานทีท่ างราชการจดั ท�ำขน้ึ ในลกั ษณะเดียวกนั (3) ในกรณีที่ไม่มีหลักฐานตาม (1) หรือ (2) ให้เรียกหลักฐานที่ทางราชการออกให้ หรือ เอกสาร ตามท่กี ระทรวงศึกษาธิการกำ� หนดใหใ้ ช้ได้ (4) ในกรณีท่ไี มม่ หี ลกั ฐานตาม (1) (2) และ (3) ใหบ้ ดิ ามารดา ผูป้ กครอง หรอื องคก์ รเอกชน ทำ� บันทกึ แจง้ ประวัติบุคคล ตามแบบแนบทา้ ยระเบียบน้ี เปน็ หลักฐานท่ีจะน�ำมาลงหลกั ฐานทางการศึกษา (5) ในกรณที ไี่ มม่ บี คุ คล หรอื องคก์ รเอกชนตาม (4) ใหซ้ กั ถามประวตั บิ คุ คลผมู้ าสมคั รเรยี น หรือผทู้ เี่ กยี่ วขอ้ ง เพอ่ื นำ� ลงรายการบนั ทึกแจ้งประวตั บิ ุคคลตามแบบแนบท้ายระเบยี บนเี้ ปน็ หลักฐานท่ีจะนำ� มา ลงหลักฐานทางการศกึ ษา 115

14. นกั เรยี น นกั ศกึ ษาสามารถออกนอกเขตควบคมุ เพอื่ ไปรว่ มกจิ กรรมทางการศกึ ษา หรอื ไปศกึ ษา ตอ่ ในสถานศึกษาอ่ืน จะท�ำได้หรอื ไมอ่ ยา่ งไร ตอบ สามารถขออนญุ าตออกนอกเขตควบคมุ เปน็ การชว่ั คราว ตามแนวทางปฏบิ ตั ิในการอนญุ าต ออกนอกเขตควบคุมชั่วคราว เพ่ือเข้ารับการศึกษาในสถานศึกษาของนักเรียน นักศึกษา ซ่ึงเป็นบุคคล ไม่มีสญั ชาตไิ ทย ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยการอนญุ าตใหบ้ คุ คลซงึ่ ไมม่ สี ญั ชาตไิ ทยออกนอกเขตควบคมุ เป็นการช่ัวคราวเพื่อเขา้ เรียนในสถานศึกษา พ.ศ. 2553 และประกาศกระทรวงมหาดไทย เร่อื ง การก�ำหนด เขตพ้ืนท่ีควบคุมและการอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจ�ำพวกที่เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ออกนอกเขตพน้ื ท่ีควบคมุ ) 15. ในกรณีที่สถานที่เรียนและครูไม่เพียงพอที่จะรับเด็กไร้สัญชาติหรือเด็กท่ีไม่มีหลักฐาน ทางทะเบยี นราษฎรเขา้ เรียนเพ่มิ จะท�ำอยา่ งไร ตอบ ให้เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณและอัตราจากหน่วยงานต้นสังกัด และขอรับ การสนับสนุนช่วยเหลือจากองคก์ รพัฒนาเอกชนที่ทำ� งานเกี่ยวข้องกบั เดก็ ไรส้ ัญชาตใิ นพื้นที่ 16. หากสถานศึกษาบางแห่งไม่ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยหลักฐานในการรับ นักเรยี น นักศกึ ษาเขา้ เรียนในสถานศึกษา พ.ศ. 2548 จะท�ำอย่างไร ตอบ สถานศึกษามีหน้าที่ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยหลักฐานในการรับนักเรียน นักศึกษาเข้าเรียนในสถานศึกษา พ.ศ. 2548 หากไมป่ ฏบิ ัตถิ อื เป็นการละเว้นการปฏิบัตหิ นา้ ทต่ี ามกฎหมาย (มติคณะรฐั มนตรเี มอ่ื วันที่ 5 กรกฎาคม 2548 เรื่อง รา่ งระเบียบกระทรวงศกึ ษาธิการว่าดว้ ย หลักฐานวัน เดือน ปีเกิดในการรับนักเรียน นักศึกษาเข้าเรียนในสถานศึกษา พ.ศ. .... (การจัดการศึกษา แก่บุคคลทไี่ ม่มหี ลักฐานทะเบยี นราษฎรหรือไมม่ สี ญั ชาตไิ ทย) ให้หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาของเด็ก เช่น กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร กระทรวงกลาโหม สำ� นกั งานตำ� รวจแหง่ ชาติ กระทรวงวฒั นธรรม กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี า กระทรวงคมนาคม กระทรวงวิทยาคาสตร์และเทคโนโลยี และสภากาชาดไทย รับไปพิจารณาด�ำเนินการออกระเบียบให้สอดคล้อง กบั ร่างระเบยี บนน้ั ๆ ระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธกิ ารวา่ ดว้ ยหลกั ฐานในการรบั นกั เรยี นนกั ศกึ ษาเขา้ เรยี นในสถานศกึ ษา พ.ศ. 2548 ข้อ 4 สถานศึกษา หมายความว่า สถานพัฒนาเด็กประถมวัย โรงเรียน ศูนย์การเรียน วิทยาลัย สถาบันมหาวิทยาลัย หน่วยงานการศึกษาหรือหน่วยงานอ่ืนของรัฐหรือของเอกชนท่ีมีอ�ำนาจหน้าที่หรือ มีวัตถปุ ระสงคใ์ นการจดั การศึกษา ข้อ 5 ให้สถานศึกษาถือเป็นหน้าที่ในการท่ีจะรับเด็กท่ีอยู่ในวัยการศึกษาตามกฎหมายว่าด้วย การศกึ ษาภาคบงั คับ เขา้ เรยี นในสถานศึกษา 116

ข้อ 6 การรับนักเรียน นักศึกษาในกรณีท่ีไม่เคยเข้าเรียนในสถานศึกษามาก่อน ให้สถานศึกษา เรยี กหลกั ฐานอย่างใดอย่างหนีง่ ตามล�ำดบั เพือ่ นำ� มาลงหลักฐานทางการศกึ ษา ดงั ต่อไปน้ี (1) สูตบิ ตั ร (2) กรณีที่ไม่มีหลักฐานตาม (1) ให้เรียกหนังสือรับรองการเกิด บัตรประจ�ำตัวประชาชน ส�ำเนาทะเบียนบ้านฉบบั เจา้ บา้ น หรือหลักฐานทท่ี างราชการจดั ทำ� ขนึ้ ในลักษณะเดยี วกนั 3) ในกรณที ี่ไม่มีหลักฐานตาม (1) หรอื (2) ให้เรียกหลักฐานทีท่ างราชการออกให้ หรือเอกสาร ตามที่กระทรวงศกึ ษาธกิ ารก�ำหนดใหใ้ ช้ได้ (4) ในกรณีท่ีไม่มีหลักฐานตาม (1) (2) และ (3) ให้บิดามารดา ผู้ปกครอง หรือองค์กรเอกชน ทำ� บนั ทึกแจ้งประวัตบิ คุ คล ตามแบบแนบท้ายระเบียบนี้ เป็นหลักฐานท่ีจะนำ� มาลงหลกั ฐานทางการศึกษา (5) ในกรณีท่ีไม่มีบุคคล หรือองค์กรเอกชนตาม (4) ให้ซักถามประวัติบุคคลผู้มาสมัครเรียน หรือผทู้ เี่ กีย่ วขอ้ ง เพ่ือน�ำลงรายการบันทึกแจง้ ประวตั ิบคุ คลตามแบบแนบทา้ ยระเบยี บน้เี ป็นหลักฐานทจี่ ะน�ำมา ลงหลกั ฐานทางการศึกษา) 17. สิทธิของเด็กท่ีสามารถเข้าเรียน น้ันรวมไปถึงสิทธิในการเข้าร่วมกิจกรรมทางวิชาการของ หนว่ ยงานราชการ และหน่วยงานตา่ ง ๆ ด้วยหรอื ไม่ ตอบ กรณเี ดก็ ลงทะเบยี นเปน็ นกั เรยี นของโรงเรยี นใดยอ่ มมสี ทิ ธทิ จี่ ะรว่ มกจิ กรรมของโรงเรยี นนนั้ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมภายในหรอื นอกโรงเรียน 18. การประเมินมาตรฐานการจัดการศึกษาของโรงเรียนตามเกณฑ์มาตรฐาน สมศ. น้ัน โรงเรียนที่จัด การศกึ ษาใหก้ บั เดก็ ทไ่ี มม่ หี ลกั ฐานทางทะเบยี นราษฎร จะใชเ้ กณฑก์ ารประเมนิ เหมอื นกบั โรงเรยี นปกตทิ ว่ั ไปหรอื ไม่ ตอบ โดยหลักแลว้ ตอ้ งมีการปฏบิ ัตเิ ช่นเดียวกนั 19. โรงเรียนท่ีจัดการศึกษาให้กับเด็กกลุ่มนี้สามารถท่ีจะใช้วิธีการจัดการศึกษาท้ัง 3 แบบ คือ เรยี นในระบบ โรงเรยี นนอกระบบ และการจดั การศึกษาตามอธั ยาศัย ในโรงเรียนเดยี วกันได้หรอื ไม่ ตอบ ได้ ขึ้นอยู่กับความพร้อม และความเหมาะสมของโรงเรียนมาตรา 15 การจัดการศึกษา มสี ามรูปแบบ คอื การศึกษาในระบบ การศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศยั (1) การศึกษาในระบบเป็นการศึกษาท่ีก�ำหนดจุดมุ่งหมายวิธีการศึกษาหลักสูตรระยะเวลาของ การศึกษาการวดั และประเมินผลซงึ่ เป็นเง่ือนไขของการสำ� เรจ็ การศกึ ษาท่ีแนน่ อน (2) การศึกษานอกระบบเป็นการศึกษาท่ีมีความยืดหยุ่นในการก�ำหนดจุดมุ่งหมายรูปแบบ วิธีการจัดการศึกษาระยะเวลาของการศึกษาการวัดและประเมินผลซ่ึงเป็นเง่ือนไขส�ำคัญของการส�ำเร็จ การศึกษาโดยเนื้อหาและหลักสูตรจะต้องมีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการ ของบุคคลแต่ละกลุ่ม (3) การศึกษาตามอัธยาศัยเป็นการศึกษาท่ีให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจศักยภาพ ความพร้อมและโอกาสโดยศึกษาจากบุคคลประสบการณ์สังคมสภาพแวดล้อมส่ือหรือแหล่งความรู้อื่น ๆ สถานศึกษา อาจจัดการศึกษาในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งหรือทั้งสามรูปแบบก็ได้ (ตามมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติ การศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542) 117

20. การแจกจ่าย อาหารเสริม (นม) ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ให้นักเรียนด่ืมนมทุกวัน วันละ 1 คร้ังต่อวันน้ัน นักเรียนท่ีไม่มีหลักฐานทางทะเบียนหรือไม่มีสัญชาติไทย มิสิทธิเท่า เด็กไทยหรือไม่ หากกรณีงบประมาณไม่พอ จะต้องรอให้เด็กไทยได้รับก่อน แล้วท่ีเหลือค่อยจัดสรรให้กับเด็กไม่มีหลักฐาน ทางทะเบยี นหรือไม่มสี ญั ชาตไิ ทยหรอื ไม่ ตอบ ได้ หากการสนับสนุนน้ันมาจากกระทรวงศึกษาธิการ เพราะเด็กท่ีลงทะเบียนของโรงเรียน นน้ั ทกุ คนมสี ทิ ธไิ ดร้ บั การสนบั สนนุ เชน่ เดยี วกนั ไมส่ ามารถเลอื กปฏบิ ตั ไิ ด้ แตห่ ากเปน็ การดำ� เนนิ การของ อบต. ก็อาจต้องดนู โยบายของ อบต. นัน้ ๆ 21. ในการจัดการศึกษาให้เด็กท่ีไม่สามารถพูดภาษาไทยได้นั้น หากทางโรงเรียนต้องการปรับ พ้ืนฐานทางภาษาไทยให้นักเรียนสามารถส่ือสารภาษาไทยได้ หากจะมีการจ้างครูที่เป็นแรงงานข้ามชาติ มาท�ำงานทพี่ ูดไทยได้ แต่ไม่มีวฒุ ปิ ริญญาตรี จะท�ำไดห้ รือไม่ ตอบ สามารถท�ำได้ในรูปของวิทยากร หรือครูจ้างสอนพิเศษท่ีไม่ต้องอยู่ในเงื่อนไขต้องมีวุฒิ หรือใบประกอบวิชาชีพตามพระราชบญั ญตั ิสภาครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 22. การจัดการศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช พ.ศ. 2551 ในระดับประถมศึกษา น้ันจะมีการสอนภาษาเดิมของนักเรียน เช่น การสนทนาและการเขียนภาษาถิ่น ของเดก็ นอกเหนอื จากเวลาทหี่ ลกั สตู รก�ำหนดได้หรือไม่ ตอบ สามารถท�ำได้ในรูปของหลักสูตรสถานศึกษา หรือกิจกรรมเสริม หรือสาระเพ่ิมเติมตามที่ โรงเรยี นเห็นสมควร และตามสภาพของนกั เรยี น 23. กรณที กี่ ลมุ่ แรงงานขา้ มชาตจิ ดั การศกึ ษากนั เอง จะเปน็ ในหมบู่ า้ นหรอื ชมุ ชนทเี่ ขาอาศยั อยหู่ รอื รวมกลุ่มกนั จัดการศกึ ษาใหก้ ับเดก็ ตั้งแต่ 3- 5 ปี ในวัดตา่ ง ๆ นน้ั ท�ำไดห้ รือไม่ ตอบ สามารถท�ำได้ เนื่องจากรัฐมีหน้าที่ส่งเสริมการจัดการศึกษาโดยบุคคล ครอบครัว องค์กรชุมชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันสังคมอ่ืน มีสิทธิในการจัดการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามท่ีก�ำหนดในกฎกระทรวง (ตามพระราชบัญญัติ การศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 12) 24. กรณีนโยบาย เรียนฟรี 15 ปี จะครอบคลมุ ถึงเดก็ กลมุ่ นห้ี รือไม่อยา่ งไร ตอบ ครอบคลมุ (ตามคำ� สง่ั หวั หนา้ คณะรกั ษาความสงบแหง่ ชาตทิ ี่ 28/2559 เรอื่ ง ใหจ้ ดั การศกึ ษา ข้ันพ้นื ฐาน 15 ปี โดยไม่เก็บค่าใชจ้ า่ ย) 25. การจัดสรรค่าใช้จ่ายรายหัวให้กับเด็กที่ไร้สัญชาติ หรือไร้สถานะทางทะเบียนกลุ่มน้ีมีวิธีการ อย่างไร และการออกเลขประจ�ำตัว 13 หลกั นน้ั มแี นวปฏิบัติอยา่ งไร ตอบ การจัดสรรค่าใช้จ่ายรายหัวของเด็กไร้สัญชาติ หรือไร้สถานะทางทะเบียน หากขึ้นทะเบียน เป็นนักเรียนของโรงเรียนแล้วสามารถเบิกจ่ายได้เท่ากับเด็กไทยทุกคน ส่วนการลงเลขประจ�ำตัวให้ด�ำเนินการ ตามทสี่ �ำนักทะเบยี นกลาง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยกำ� หนด 118

26. บุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย ถือ Passport Visitor ที่เข้ามาท�ำงานหรืออาศัยอยู่ในประเทศไทย มาสมคั รเรยี นเป็นนักเรียนนักศึกษา แล้วขอหนังสือรับรองว่าเปน็ นักเรยี นนกั ศกึ ษาทีก่ �ำลังศึกษาอย่ใู นสถานศึกษา น�ำไปขอวซี า่ หรอื เป็นขอ้ อ้างอยใู่ นประเทศไทย เพื่อเรยี นให้จบหลกั สตู ร 1. สถานศกึ ษาออกหนงั สอื รบั รองการเปน็ นกั เรยี น นกั ศกึ ษาถกู ตอ้ งหรอื ไม่ หรอื ตอ้ งปฏบิ ตั อิ ยา่ งไร 2. ใบรับรองเป็นเหตใุ หผ้ ้เู รยี นขออยปู่ ระเทศไทยต่อไดห้ รอื ไม่ ตอบ เม่ือนักเรียน นักศึกษามาขอหนังสือรับรอง สถานศึกษามีหน้าท่ีออกหนังสือรับรอง ตามความเป็นจริง ตามแบบฟอร์มหนังสือรับรองสถานภาพการเป็นนักเรียน ส่วนจะมีผลให้สามารถขออยู่ใน ประเทศไทยไดห้ รอื ไม่นน้ั เปน็ เรื่องของการพิจารณาของหน่วยงานทีเ่ กี่ยวขอ้ ง 27. เด็กได้สัญชาติไทยแล้ว จะต้องเอาหมายเหตุสีแดงที่บอกว่าไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฏร ออกหรือไม่ ตอบ ต้องเอาออก เนอ่ื งจากในขณะทนี่ กั เรียน นกั ศกึ ษายงั ศึกษาอยใู่ นสถานศกึ ษา เมือ่ ปรากฏว่า มหี ลกั ฐานตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการทะเบยี นราษฎรมาแสดงภายหลงั ใหส้ ถานศกึ ษาแกไ้ ขหลกั ฐานทางการศกึ ษา ให้เป็นไปตามหลักฐานดังกล่าว โดยถือปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการน้ัน (ระเบียบ กระทรวงศกึ ษาธกิ ารว่าด้วยหลักฐานในการรับนกั เรยี น นกั ศึกษาเข้าเรยี นในสถานศึกษา พ.ศ. 2548) 28. ชนกลุ่มน้อย หรือคนท่ีถือบัตรบุคคลท่ีไม่มีสัญชาติไทย หรือถือบัตรบุคคลที่ไม่มีสถานะทาง ทะเบยี นท่ีตอ้ งขออนญุ าตออกนอกเขตควบคุม เพ่ือไปศกึ ษาต้องท�ำอย่างไรบา้ ง ตอบ พื้นท่ีควบคุมของคนกลุ่มน้ี คือ จังหวัด หากต้องเดินทางออกนอกจังหวัด เพ่ือไปศึกษา ต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ (ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการอนุญาตให้บุคคลซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ออกนอกเขตควบคุมเป็นการช่ัวคราวเพ่ือเข้าเรียนในสถานศึกษา พ.ศ. 2553 และประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การก�ำหนดเขตพ้ืนท่ีควบคุมและการอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจ�ำพวกท่ีเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักร เป็นการชั่วคราวออกนอกเขตพน้ื ทีค่ วบคมุ ) 29. เด็กทีอ่ อกจากศนู ยพ์ ักพิงชัว่ คราวโรงเรียนตอ้ งรับเขา้ เรยี นหรือไม่ ตอบ กรณีเด็กอาศัยอยู่ในพื้นท่ีพักพิงชั่วคราวจะจัดให้เรียนได้ในพ้ืนท่ีพักพิงชั่วคราว ส่วนเด็ก ท่ีอาศัยอยู่นอกพื้นที่พักพิงช่ัวคราวสามารถเข้าเรียนได้ทุกระดับการศึกษา ทุกประเภท และทุกพ้ืนที่ (ตามมตคิ ณะรฐั มนตรวี นั ท่ี 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2548) 119

หมวดท่ี 3 การพฒั นาสถานะทางกฎหมายและการคมุ้ ครองสทิ ธขิ องนกั เรยี นนกั ศกึ ษา ในความดแู ลของสถานศึกษา 30. เดก็ ทไี่ ม่มหี ลกั ฐานทะเบยี นราษฎรหรอื ไมม่ สี ญั ชาตไิ ทยซง่ึ ไมม่ หี ลกั ฐานเอกสารใด ๆ เลย จะมี แนวทางช่วยเหลอื อยา่ งไรบา้ ง ตอบ 1. ผไู้ มม่ หี ลกั ฐานทะเบยี นราษฎรหรือไมม่ ีสญั ชาตไิ ทยทเ่ี กิดในประเทศไทยสามารถจดทะเบียน การเกดิ และได้สูติบตั รทกุ คน (พระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2551 มาตรา 20 และหนังสือสั่งการ ท่ี มท 0309.1/ว 8 ลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 : เร่ือง การแจ้งการเกิดและการจัดท�ำทะเบียนประวัติ สำ� หรบั คนซึง่ ไม่มีสญั ชาติไทยตามพระราชบญั ญัติการทะเบียนราษฎร (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2552) 2. ผู้ท่ีมีสัญชาติไทยแต่ไม่มีหลักฐานเอกสารสามารถใช้พยานบุคคลมายืนยันเพื่อเพิ่มชื่อ เขา้ ในระบบทะเบยี นราษฎรในฐานะผมู้ สี ญั ชาติไทยได้ (ระเบยี บสำ� นกั ทะเบียนกลางวา่ ดว้ ยการจดั ทำ� ทะเบยี นราษฎร พ.ศ. 2535 ข้อ 97) 31. กรณที น่ี กั เรยี นเคยเขา้ เรยี นในสถานศกึ ษาอนื่ มากอ่ นและไมม่ หี ลกั ฐานใด ๆ เลยแมแ้ ตห่ ลกั ฐาน ทางการศึกษา จะตอ้ งท�ำอยา่ งไร ตอบ ให้ด�ำเนินการบันทึกใหม่ในโรงเรียนปัจจุบัน โดยด�ำเนินตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ วา่ ดว้ ยหลกั ฐานการรับนักเรียน นกั ศึกษาเขา้ เรียนในสถานศกึ ษา พ.ศ. 2548 ข้อ 6 32. มรี ะเบยี บใดบ้างท่ีสามารถใช้อา้ งองิ ในการออกบตั รประจ�ำตัวนักเรยี น ตอบ การออกบัตรนักเรียนนั้นสามารถท�ำได้ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการท�ำ บตั รประจำ� ตวั นกั เรยี น นกั ศกึ ษา พ.ศ. 2534 นอกจากนส้ี ถานศกึ ษายงั ถอื เปน็ นติ บิ คุ คล สามารถออกใบประกาศ และใบรับรองตา่ ง ๆ ได้ดังน้นั การออกบัตรประจำ� ตัวนักเรยี นจงึ สามารถท�ำไดเ้ ช่นเดียวกนั 33. หลกั ฐานทางการศึกษาเป็นเอกสารทางราชการหรือไม่ ตอบ เป็นเอกสารราชการตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยหลักฐานในการรับนักเรียน นักศึกษาเข้าเรยี นในสถานศึกษา พ.ศ. 2548 34. กรณกี ารเขา้ เรยี นในระดบั อดุ มศกึ ษานน้ั เนอ่ื งจากในการศกึ ษาในชน้ั ทส่ี งู ขนึ้ นมี้ ลี กั ษณะแขง่ ขนั และเดก็ ทม่ี สี ญั ชาตไิ ทยบางคนกไ็ มม่ โี อกาสไดร้ บั การศกึ ษาอยา่ งนหี้ ากมกี ารใหเ้ ดก็ ทไี่ มม่ สี ถานะทางทะเบยี น หรอื ไมม่ สี ญั ชาตไิ ดเ้ ขา้ เรยี นไดน้ นั้ จะมผี ลกระทบกบั งบประมาณของประเทศหรอื ไม่ นอกจากนกี้ ารเปดิ โอกาส ดังกลา่ ว โดยไม่มกี ารก�ำหนดกล่มุ ทีช่ ดั เจนจะท�ำใหเ้ กดิ การฉวยโอกาส และส่งผลกระทบตอ่ ความมัน่ คงของ ประเทศหรอื ไม่ ตอบ มตคิ ณะรฐั มนตรเี มอื่ รนั ที่ 5 กรกฎาคม 2548 เรอื่ ง รา่ งระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธกิ ารวา่ ดว้ ย หลักฐานวัน เดือน ปีเกิดในการรับนักเรียนนักศึกษาเข้าเรียนในสถานศึกษา พ.ศ. ..... (การจัดการศึกษา แกบ่ คุ คลท่ีไม่มหี ลกั ฐานทะเบยี นราษฎรหรอื ไมม่ ีสญั ชาตไิ ทย) 120

เห็นควรขยายโอกาสทางการศึกษาแก่บุคคลท่ีไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งเดิมเคยจ�ำกัดไว้ใหเ้ ฉพาะบางกลุ่ม บางระดบั การศึกษา เป็นการเปิดกวา้ งใหท้ กุ คนทอ่ี าศัยในประเทศสามารถ เขา้ เรยี นไดโ้ ดยไมจ่ ำ� กดั ระดบั ประเภท หรอื พนื้ ทกี่ ารศกึ ษา (ยกเวน้ ผทู้ หี่ นภี ยั จากการสรู้ บ จดั ใหเ้ รยี นไดใ้ นพนื้ ท)ี่ ซึ่งจะสอดคล้องกับการเป็นภาคีอนุสัญญาสิทธิเด็ก และเพื่อให้นักเรียน นักศึกษาเหล่าน้ันมีความเข้าใจ มที ศั นคตทิ ด่ี ีตอ่ ประเทศไทยเพื่อการเสรมิ สร้างความมน่ั คงของชาติในระยะยาวต่อไป 35. ควรมกี ารแนะแนวการศกึ ษาแกเ่ ดก็ อยา่ งไร เชน่ การศกึ ษาตอ่ และการท�ำงานเมอ่ื จบการศกึ ษา ตอบ ควรแนะนำ� วา่ เดก็ สามารถศกึ ษาตอ่ ไดจ้ นถงึ ระดบั สงู สดุ คอื ระดบั ปรญิ ญาเอก และสามารถ ทำ� งานตามวุฒกิ ารศึกษาทีจ่ บได้ (ยกเว้นงานบางประเภททร่ี ะบุไว้วา่ ตอ้ งมสี ญั ชาตไิ ทย) 36. หากพบปญั หาในการเลอื กปฏบิ ตั จิ ากหนว่ ยงานหรอื องคก์ รของรฐั ทม่ี ผี ลกระทบกบั สทิ ธติ า่ ง ๆ ของนักเรยี น นกั ศกึ ษาในความดูแลหรือตอ้ งการร้องเรยี นจะท�ำอยา่ งไร ตอบ ปรึกษาหรอื ร้องเรยี นไดท้ ี่ 1) สำ� นกั งานศกึ ษาธิการจังหวดั ทกุ จงั หวดั 2) ส�ำนกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาทกุ แหง่ 3) สำ� นกั ส่งเสริมกิจการการศึกษา สำ� นกั งานปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ถนนราชดำ� เนินนอก เขตดสุ ิต กรงุ เทพ ฯ 10300 โทรศพั ท์ 0-2628-6399 , 0-2628-6400 โทรสาร 0-2628-6399 4) สายดว่ นกระทรวงศกึ ษาธกิ าร หมายเลข 1579 ตลอด 24 ชว่ั โมง 121



คภาคผนวก หนังสอื เสนอความเห็น จากหนว่ ยงาน กฎหมาย กฎระเบียบ หนังสอื ประกาศ และค�ำส่งั ท่เี กยี่ วข้อง

ดว่ นมาก กระทรวงการต่างประเทศ ถนนศรอี ยุธยา กทม. 10400 ท่ี กต 0304/7359 27 พฤษภาคม 2548 เรื่อง รา่ งระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยหลกั ฐานวัน เดือน ปีเกิดในการรับนักเรยี น นกั ศกึ ษาเขา้ เรียน ในสถานศกึ ษา พ.ศ เรยี น เลขาธิการคณะรัฐมนตรี อา้ งถึง หนังสือสำ� นกั เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ดว่ นมาก ที่ นร 0503/ว (ล) 3395 ลงวนั ท่ี 8 มนี าคม 2548 ตามหนังสือท่ีอ้างถึง ขอให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาเสนอความเห็นในส่วนที่เกี่ยวข้องหรือส่วนอ่ืน ท่ีเห็นสมควรเพ่ือประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีเก่ียวกับร่างระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยหลักฐาน วัน เดอื น ปีเกดิ ในการรับนักเรียน นักศึกษาเขา้ เรียนในสถานศกึ ษา พ.ศ. ............ ความละเอียดแจง้ แล้ว น้นั กระทรวงการต่างประเทศได้พิจารณาร่างระเบียบกระทรวงศึกษาธิการดังกล่าวแล้ว เห็นด้วยกับ กระทรวงศกึ ษาธกิ ารเสนอใหข้ ยายโอกาสทางการศกึ ษาแกบ่ คุ คลทไ่ี มม่ หี ลกั ฐานทะเบยี นราษฎร หรอื ไมม่ สี ญั ชาตไิ ทย ให้เข้าเรียนได้ทุกระดับ ทุกประเภทการศึกษา และในทุกพื้นที่การศึกษา ยกเว้นกลุ่มผู้หนีภัย จากการสู้รบในศูนย์ พน้ื ทพ่ี กั พงิ และบคุ คลในความหว่ งใย (POC) ในความดแู ลของ UNHCR โดยเหน็ ควรจดั สรรงบประมาณเปน็ รายหวั ตงั้ แตร่ ะดับประถมศกึ ษาจนถึงระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย ในอัตราเดียวกับคา่ ใชจ้ า่ ยรายหวั ทีจ่ ัดสรรให้เดก็ ไทย ส�ำหรับการจัดการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนของครอบครัวผู้หนีภัยการสู้รบ ซึ่งพ�ำนักอยู่ใน พื้นท่ีพักพิงนั้น กระทรวงการต่างประเทศเห็นด้วยท่ีกระทรวงศึกษาธิการจะจัดการศึกษาให้ในรูปแบบท่ีเหมาะสม เน่ืองจาก การอนุญาตให้ผู้หนีภัยการสู้รบพ�ำนักอยู่ในประเทศไทยเป็นการให้พักพิงชั่วคราว โดยมีเจตนารมณ์ให้มี การดำ� เนนิ การสง่ กลบั ประเทศตน้ ทางในโอกาสแรกทส่ี ถานการณเ์ ออ้ื อำ� นวย ดงั นน้ั จงึ ควรเนน้ การจดั การศกึ ษา ในรูปแบบทเ่ี หมาะสมกบั สภาพเงื่อนไขในพน้ื ท่แี ละความจำ� เป็น จงึ เรยี นมาเพ่อื โปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ (นายกนั ตธีร์ ศุภมงคล) รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงการต่างประเทศ กรมการกงสลุ กองสัญชาตแิ ละนิติกรณ์ โทร. 02-575-1057, โทรสาร 02-575-1054 124

ดว่ นทีส่ ุด กระทรวงแรงงาน ถนนมิตรไมตรี ดนิ แดง กรุงเทพฯ 10400 ท่ี รง 0204.1/1341 17 มกราคม 2548 เรอ่ื ง การจัดการศกึ ษาแก่บุคคลทไี่ ม่มีหลกั ฐานทะเบยี นราษฎรหรอื ไมม่ ีสัญชาติไทย เรยี น รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร อา้ งถงึ หนังสือกระทรวงศกึ ษาธิการ ดว่ นมาก ที่ ศธ 0208/6030 ลงวนั ท่ี 3 ธนั วาคม 2547 ตามหนังสือที่อ้างถึงกระทรวงศึกษาธิการได้ขอความร่วมมือกระทรวงแรงงานเสนอ ความเห็นเกี่ยวกับ การจัดการศกึ ษาแกบ่ คุ คลที่ไม่มหี ลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไมม่ ีสัญชาติไทย ความละเอียด แจ้งแล้ว นน้ั กระทรวงแรงงานได้พจิ ารณาประเด็นตา่ ง ๆ แล้ว เหน็ ดว้ ยกับการขยายโอกาสการศกึ ษา สำ� หรบั บคุ คล ที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทยที่ปรากฏในร่างระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ และแนวปฏิบัติ ซึ่งตามหลักมนุษยธรรมสากลและสิทธิมนุษยธรรมแล้วเห็นว่าควรให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านี้ได้ และยังเหน็ วา่ นา่ จะเปน็ ประโยชน์ต่อการสร้างความเข้าใจและการอยรู่ ว่ มกันกับคนไทยอีกด้วย จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดพิจารณา ขอแสดงความนบั ถือ (นางอุไรวรรณ เทยี นทอง) รัฐมนตรวี า่ การกระทรวง แรงงาน ส�ำนักงานปลดั กระทรวงแรงงาน ส�ำนักนโยบายและยทุ ธศาสตร์ กลุม่ พฒั นายทุ ธศาสตร์ โทร. 0-2232-1287, 1158 โทรสาร 0-2232-1290 125

ด่วนมาก สำ� นักงานสภาความมั่นคงแหง่ ชาติ ท�ำเนียบรฐั บาล กทม. 10300 ที่ นร 0804/9622 30 ธนั วาคม 2547 เรอ่ื ง การจดั การศกึ ษาแกบ่ ุคคลทไ่ี ม่มหี ลักฐานทะเบยี นราษฎรหรอื ไม่มีสญั ชาตไิ ทย เรยี น รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศึกษาธกิ าร อ้างถงึ หนังสอื กระทรวงศึกษาธกิ าร ดว่ นมาก ท่ี ศธ 0208/6030 ลงวนั ที่ 3 ธนั วาคม 2547 ตามท่ีกระทรวงศึกษาธิการขอให้ส�ำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติพิจารณาให้ความเห็นต่อกรณี ขอ้ เสนอแนวทางการจดั การศกึ ษาแกบ่ คุ คลทไ่ี มม่ หี ลกั ฐานทะเบยี นราษฎรหรอื ไมม่ สี ญั ชาตไิ ทยเพอื่ ประกอบการ พจิ ารณาของคณะรัฐมนตรี รายละเอยี ดตามหนงั สอื ทอ่ี า้ งถึง นนั้ ส�ำนกั งานฯ พิจารณาแลว้ เหน็ ด้วยในหลักการตามข้อเสนอของกระทรวงศึกษาธิการซึง่ ก�ำหนดแนวทาง และระเบียบท่ีชัดเจนในการบริหารจัดการ รวมทั้งการขยายโอกาสและสิทธิให้แก่บุคคลท่ีไม่มีหลักฐานทะเบียน ราษฎรหรือไม่มสี ัญชาตไิ ทยใหส้ ามารถเขา้ เรียนไดโ้ ดยไมจ่ �ำกัดระดบั ประเภทหรือพ้ืนที่การศึกษา โดยเห็นวา่ เป็น เร่ืองท่ีสอดคล้องกับกฎหมายรัฐธรรมนูญและการปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน อย่างไรก็ตาม เน่ืองจากบุคคล เป้าหมายดังกล่าวเป็นบุคคลที่ไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎรและส่วนหน่ึง มีสถานะเป็นบุคคลเข้าเมือง โดยมชิ อบดว้ ยกฎหมาย หรอื อยรู่ ะหวา่ งกระบวนการยน่ื คำ� รอ้ งเพอ่ื พสิ จู นแ์ ละรบั รองสถานะ ซงึ่ ยงั มคี วามจำ� เปน็ ที่จะต้องควบคุมดูแลให้อยู่ในพื้นที่ที่ก�ำหนด ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการจึงควรประสานกับกระทรวงมหาดไทย และส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติเพ่ือร่วมกันพิจารณาก�ำหนดแนวทางปฏิบัติในการควบคุมกลุ่มคนดังกล่าวอย่าง เหมาะสมโดยเฉพาะการอนุญาตให้ออกนอกพื้นที่และการจัดท�ำฐานทะเบียนประวัติบุคคล อย่างเป็นระบบ ทง้ั นี้ เพอ่ื ปอ้ งกนั มใิ หเ้ กดิ ปญั หาและผลกระทบตอ่ ความมน่ั คงโดยรวม นอกจากนก้ี ารจดั สรร งบประมาณอดุ หนนุ รายหัวให้แก่สถานศึกษาท่ีจัดการศึกษาแก่กลุ่มคนดังกล่าวจะต้องไม่เป็นภาระและกระทบต่อคนไทย และควรมี การกำ� หนดมาตรการทเี่ หมาะสมเพอ่ื ปอ้ งกนั มใี หแ้ นวทางการขยายโอกาสทางการศกึ ษา ดงั กลา่ วเปน็ ปจั จยั ดงึ ดดู หรอื สรา้ งความเขา้ ใจทค่ี ลาดเคลือ่ นอันจะเป็นเหตใุ ห้มีการลักลอบหลบหนีเขา้ เมืองมากขนึ้ จึงเรยี นมาเพอื่ โปรดทราบ ขอแสดงความนับถอื พลเอก (วินยั ภทั ทยิ กุล) เลขาธิการสภาความม่ันคงแหง่ ชาติ ส�ำนกั ความมั่นคงกิจการภายในประเทศ โทร. 0-2629-8000 ต่อ 3705 โทรสาร 0-2629-8058 126

ดว่ นท่สี ดุ กระทรวงกลาโหม ถนนสนามไชย กรงุ เทพฯ 10200 ท่ี กห 0207/172 25 มกราคม 2548 เรือ่ ง การจดั การศกึ ษาแกบ่ ุคคลทไ่ี มม่ หี ลกั ฐานทะเบยี นราษฎรหรอื ไม่มีสญั ชาตไิ ทย เรียน รฐั มนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อา้ งถงึ หนงั สอื กระทรวงศึกษาธิการ ดว่ นมาก ที่ ศธ 0208/6030 ลงวันที่ 3 ธนั วาคม 2547 ตามทก่ี ระทรวงศกึ ษาธกิ ารขอใหก้ ระทรวงกลาโหมพจิ ารณาเสนอความเหน็ เกยี่ วกบั การจดั ทำ� รา่ งระเบยี บ กระทรวงศึกษาธิการ และแนวทางการปฏิบัติในการจัดการศึกษาแก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎร หรือไม่มีสัญชาติไทยในประเด็นหลัก 4 ประเด็น เพ่ือรวบรวมน�ำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา รายละเอียด ตามหนังสอื ท่อี า้ งถงึ นน้ั กระทรวงกลาโหมพิจารณาแลว้ ดงั น้ี 1. เห็นด้วยกับการขยายโอกาสทางการศึกษาแก่บุคคลท่ีไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎร หรือไม่มีสัญชาติไทย เนอื่ งจากการศึกษาเปน็ เครอ่ื งมือในการพฒั นาทรัพยากรมนุษยท์ สี่ ำ� คญั โดยมีขอ้ สงั เกตเพ่มิ เติม ดงั นี้ 1.1 การดำ� เนนิ การดงั กลา่ วจะตอ้ งคำ� นงึ ถงึ ผลกระทบในเรอ่ื งของความปลอดภยั อาทิ กรณโี รงเรยี น มีท่ีตั้งอยู่ในพ้ืนท่ีหน่วยทหาร เช่น โรงเรียนสัตหีบ ตั้งอยู่ในพ้ืนที่ของกองทัพเรือ จึงควรก�ำหนดให้มีข้อยกเว้น การรบั เขา้ ศกึ ษาในโรงเรยี นทมี่ พี นื้ ทตี่ ง้ั อยใู่ นหนว่ ยทม่ี ขี อ้ จำ� กดั ดา้ นการรกั ษาความปลอดภยั และมผี ลกระทบตอ่ ความม่นั คง 1.2 การจัดการศึกษาตามหลักสูตร ควรพิจารณาจัดชั่วโมงการสอนเพ่ิมเติมเป็นกรณีพิเศษ เพ่ือเสริมสร้างทัศนคติ แนวความคิด รวมท้ังปลูกฝังอุดมการณ์ท่ีเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยที่เป็นแผ่นดิน ท่อี ยู่อาศัย 1.3 การขยายโอกาสทางการศึกษาในทางปฏิบัติภาครัฐควรจะต้องจัดการศึกษาให้แก่ เด็กไทย อย่างท่ัวถึงและมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายก่อน หากครบถ้วนสมบูรณ์และมีงบประมาณเพียงพอการขยาย โอกาสทางการศึกษาให้ครอบคลุมกจ็ ะสามารถกระทำ� ได้ 2. การจัดสรรงบประมาณอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัวให้แก่สถานศึกษาในอัตราเดียวกันกับ นักเรียนที่มี สญั ชาตไิ ทยมคี วามเหมาะสม 3. การจดั ทำ� ฐานขอ้ มลู (เลขประจำ� ตวั 13 หลกั ) เพอ่ื จำ� แนกสถานะรวมทงั้ มาตรการขอ้ กำ� หนด ระเบยี บ ปฏบิ ตั นิ บั วา่ เปน็ สงิ่ จำ� เปน็ อยา่ งยง่ิ ทจ่ี ะตอ้ งดำ� เนนิ การดว้ ยความรอบคอบ รดั กมุ รวมทง้ั ควรมกี ารตรวจสอบอยา่ ง สม่�ำเสมอ เพ่ือให้การควบคุมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ อาจเช่ือมโยงระบบฐานข้อมูลให้หน่วยงาน ทเี่ ก่ียวขอ้ งสามารถนำ� ไปใชป้ ระโยชนร์ ว่ มกันอยา่ งเปน็ รูปธรรม 127

การจดั การศกึ ษาแกเ่ ดก็ และเยาวชนทหี่ นภี ยั จากการสรู้ บ เปน็ สง่ิ ทสี่ มควรดำ� เนนิ การตามหลกั มนษุ ยธรรม โดยควรพิจารณาจัดชั่วโมงการสอนเพ่ิมเติมเป็นกรณีพิเศษเพื่อเสริมสร้างทัศนคติแนวความคิด รวมท้ังปลูกฝัง อดุ มการณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยทเ่ี ปน็ แผ่นดนิ ท่ีอยอู่ าศยั จงึ เรยี นมาเพอ่ื กรณุ าทราบ ขอแสดงความนบั ถอื พลเอก (สัมพันธ์ บุญญานนั ต)์ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงกลาโหม สำ� นกั งานปลดั กระทรวงกลาโหม สำ� นกั นโยบายและแผนกลาโหม โทร. 0-2222-8159 โทรสาร 0-2226-1839 128

ดว่ นมาก กระทรวงมหาดไทย ถนนอัษฎางค์ กทม. 10200 ท่ี มท 0308.4/1368 9 กมุ ภาพนั ธ์ 2548 เรอ่ื ง การจัดการศึกษาแก่บุคคลที่ไม่มหี ลักฐานทะเบยี นราษฎรหรือไมม่ สี ญั ชาตไิ ทย เรยี น รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงศึกษาธิการ อา้ งถงึ หนงั สอื กระทรวงศึกษาธกิ าร ด่วนมาก ที่ ศธ 0208/6030 ลงวนั ท่ี 3 ธนั วาคม 2547 ตามท่ีกระทรวงศึกษาธิการขอให้กระทรวงมหาดไทยให้ความเห็นเกี่ยวกับการจัดท�ำร่างระเบียบ กระทรวงศึกษาธิการและแนวทางปฏิบัติที่มีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง น้ัน กระทรวงมหาดไทย ไดต้ รวจสอบและพิจารณาแล้วมีความเหน็ ดังน้ี 1. กรณีการขยายโอกาสทางการศึกษาแก่บุคคลท่ีไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎรหรือไม่มี สญั ชาตไิ ทย นน้ั เมอื่ เปรยี บเทยี บระหวา่ งระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธกิ ารวา่ ดว้ ยหลกั ฐานวนั เดอื น ปเี กดิ ในการรบั นักเรียน นักศึกษาเข้าเรียนในสถานศึกษา พ.ศ. 2535 กับร่างระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยหลักฐาน วัน เดือน ปีเกิดในการรับนักเรียน นักศึกษาเข้าเรียนในสถานศึกษา พ.ศ. ... น้ัน ตามหลักการเดิมและ หลกั การใหมม่ คี วามแตกตา่ งกนั ในเรอ่ื งของการรบั นกั เรยี น นกั ศกึ ษา กลา่ วคอื ในตวั ระเบยี บเดมิ ใหจ้ ดั การศกึ ษา แกเ่ ดก็ ไมม่ สี ญั ชาตไิ ทยตามกลมุ่ ชนชาติ (ทก่ี ระทรวงมหาดไทยไดจ้ ดั ทำ� ทะเบยี นประวตั ไิ วแ้ ลว้ ) แตใ่ นระเบยี บใหม่ นนั้ เปดิ เปน็ กรณที วั่ ไป ใหเ้ ดก็ ทกุ คนทอี่ ยใู่ นประเทศไทยสามารถเรยี นได้ แตย่ งั มขี อ้ ยกเวน้ เฉพาะกลมุ่ ผหู้ นภี ยั จาก การสู้รบที่อาศัยอยู่ใน ศูนย์พักพิงและบุคคลในความห่วงใย (POC) ท่ีจะจัดการศึกษาให้เฉพาะในศูนย์เท่ากับ เป็นการเปิดกว้างให้คนที่อยู่ในประเทศไทยได้รับการศึกษาอย่างท่ัวถึง เน่ืองจากเหตุผลที่ว่าการศึกษาเป็น เครอื่ งมอื ในการพฒั นาคนและทำ� ใหเ้ กดิ การพฒั นาประเทศทย่ี ง่ั ยนื คนทไี่ ดร้ บั การศกึ ษายอ่ มสอื่ สารทำ� ความเขา้ ใจ กนั ได้ และการศกึ ษาเปน็ สทิ ธขิ นั้ พน้ื ฐาน ทมี่ นษุ ยท์ กุ คนพงิ ไดร้ บั เปน็ การพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ การประกอบอาชพี การสรา้ งสมานฉนั ท์ และความเขา้ ใจอนั ดตี อ่ กนั ของทกุ คนในชาติ อนั เปน็ ประโยชนต์ อ่ ประเทศไทยในการปอ้ งกนั แก้ไขปัญหาต่าง ๆ โดยเฉพาะปัญหาที่มีผลกระทบต่อความม่ันคงของชาติ ซ่ึงหน่วยงานความม่ันคงแห่งชาติ ได้ให้ความส�ำคัญในการแก้ไขปัญหา โดยใช้กระบวนการทางการศึกษาเป็นยุทธศาสตร์หนึ่งที่แยกประเด็นกับ เรื่องการให้สถานะบุคคลอีกทั้งยังเป็นการปฏิบัติตามหลักการ “Education For All” แห่งปฏิญญาสากล วา่ ด้วยการศกึ ษาเพอื่ ปวงชนและหลักการแห่งปฏญิ ญาสากล วา่ ด้วยสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ ซ่งึ ประเทศไทย เป็นภาคดี ว้ ย จึงเหน็ ด้วยกับการขยายการศึกษาดงั กล่าว 129

2. กรณกี ารจดั สรรงบประมาณเพม่ิ เตมิ สำ� หรบั กลมุ่ ทจี่ ะเปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี น นกั ศกึ ษาทไี่ มม่ หี ลกั ฐาน ทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทยในความดูแลของส�ำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ซ่ึงในป้จจุบันมีจ�ำนวน 1,269 คน ซ่ึงจะได้รับการอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัวในอัตราเดียวกับนักเรียนท่ีมี สัญชาติไทย โดยจะต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นประมาณ 6.5 ล้านบาท น้ัน เม่ือกระทรวงมหาดไทย เห็นด้วย กับการขยายการศึกษาตามข้อ 1 แล้ว งบประมาณเป็นเรื่องท่ีไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้แต่ต้องอยู่บนฐานที่ ไม่สร้างภาระให้กับงบประมาณของประเทศมากนัก หากเกิดมีจ�ำนวนกลุ่มเป้าหมายเพ่ิมมากข้ึน ก็ควรมี การบริหารจดั การทเ่ี หมาะสมในอนาคต 3. สำ� หรบั การจดั ทำ� ฐานขอ้ มลู (เลขประจำ� ตวั 13 หลกั ) เกยี่ วกบั บคุ คลทไี่ มม่ หี ลกั ฐานทะเบยี นราษฎร หรือไมม่ ีสญั ชาติไทย และอำ� นวยความสะดวกใหก้ ลุ่มทไี่ ดร้ บั การศึกษาตามร่างระเบยี บดงั กลา่ ว เดนิ ทางออกไป ศกึ ษาได้เปน็ ระยะเวลาตามหลกั สตู รการศกึ ษา โดยไมต่ ้องขออนุญาตเป็นครง้ั คราว ยกเว้นผหู้ นีภยั จากการสู้รบ และบุคคลในความห่วงใย (POC) เห็นว่าเร่ืองดังกล่าวเกี่ยวข้องกับสิทธิที่อาจจะเกิดข้ึนในอนาคตจากการจัดท�ำ ฐานข้อมูล (เลขประจ�ำตัว 13 หลัก) จะเท่ากับเป็นการยอมรับถึงสิทธิอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างถูกต้องด้วย ซงึ่ ตอ้ งเปน็ ไปตามนโยบายของรฐั บาลโดยความเหน็ ของคณะรฐั มนตรี ประกอบกบั การทจ่ี ะควบคมุ บคุ คลเหลา่ น้ี กฎหมายวา่ ดว้ ยคนเข้าเมอื งได้วางหลกั การไว้ ท้งั น้ี เพือ่ ความจำ� เปน็ ของความมั่นคงของชาติ จงึ ควรน�ำเขา้ หารอื กับส�ำนกั งานสภาความม่นั คงแหง่ ชาติในโอกาสตอ่ ไปก่อน 4. กรณีท่ีกระทรวงศึกษาธิการจัดการศึกษาในรูปแบบท่ีเหมาะสมแก่เด็ก และเยาวชนท่ีหนีภัย จากการสู้รบ เพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิตและการอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์น้ันถือว่าเป็นการด�ำเนิน การในเชิงรุก เพอ่ื จะทำ� ใหร้ ฐั สามารถกำ� หนดหลกั สตู ร เพอ่ื สรา้ งความเขา้ ใจใหก้ บั บคุ คลเหลา่ นที้ ม่ี อี ยใู่ นประเทศไทยตามแนวทาง ที่รฐั ก�ำหนดจึงเห็นชอบด้วย จงึ เรยี นมาเพ่ือโปรดทราบและพิจารณาดำ� เนินการต่อไป ขอแสดงความนับถือ (นายโภคนิ พลกลุ ) รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง ส�ำนักกจิ กรรมความม่ันคงภายใน โทร./โทรสาร 0-2223-6740 130

ด่วนทสี่ ดุ กระทรวงการคลัง ถนนพระราม 6 กทม. 10400 ที่ กค 0409.6/7070 25 เมษายน 2548 เรื่อง รา่ งระเบียบกระทรวงศกึ ษาธกิ ารว่าด้วยหลักฐานวัน เดือน ปีเกดิ ในการรบั นกั เรยี น นักศึกษาเขา้ เรียน ในสถานศึกษา พ.ศ. ....... เรียน เลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี อ้างถึง หนังสอื ส�ำนกั เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ด่วนมาก ท่ี นร 0503/ว (ล) 3395 ลงวันที่ 8 มีนาคม 2548 ตามที่ขอให้เสนอความเห็นกรณีกระทรวงศึกษาธิการเสนอร่างระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วย หลักฐานวัน เดือน ปีเกิดในการรับนักเรียน นักศึกษาเข้าเรียนในสถานศึกษา พ.ศ. ... และแนวทางปฏิบัติการ จัดการศึกษาแก่บุคคลทีไ่ มม่ หี ลกั ฐานทะเบยี นราษฎรหรอื ไม่มีสัญชาตไิ ทย นั้น กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว เห็นชอบด้วยกับหลักการตามที่เสนอ แต่เน่ืองจากสถานศึกษา ที่จัดการศึกษาให้แก่กลุ่มบุคคลดังกล่าว มีทั้งในส่วนของส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ส�ำนักบริหารงานการศกึ ษานอกโรงเรียน สถานศึกษาเอกชน กรงุ เทพมหานคร และองคก์ รปกครองส่วนท้องถนิ่ อืน่ ๆ ซ่ึงกระทรวงศึกษาธิการยังไม่สามารถประมาณการวงเงินงบประมาณได้ ดังนั้น การจัดสรรงบประมาณอุดหนุน เป็นคา่ ใช้จา่ ยรายหวั ใหแ้ กก่ ลมุ่ บคุ คลดังกล่าว จึงควรเป็นไปตามความเห็นของส�ำนักงบประมาณ จึงเรยี นมาเพื่อโปรดเสนอคณะรัฐมนตรพี ิจารณาต่อไป ขอแสดงความนบั ถือ (นายสมคิด จาตุศรีพทิ ักษ์) รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงการคลัง กรมบัญชกี ลาง ส�ำนกั มาตรฐานด้านกฎหมายและระเบยี บการคลงั กลมุ่ กฎหมายและระเบยี บด้านค่าใชจ้ ่ายในการบรหิ าร โทร. 0-2273-9573 131

ดว่ นทีส่ ุด กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมนั่ คงของมนษุ ย์ อาคารซันทาวเวอร์ส ถนนวิภาวดีรงั สิต ท่ี พม 0207/1163 เขตจตุจกั ร กทม. 10900 12 มกราคม 2548 เรือ่ ง การจดั การศกึ ษาแกบ่ ุคคลท่ีไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย เรียน รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ อ้างถึง หนงั สือกระทรวงศกึ ษาธิการ ด่วนมาก ที่ ศธ 0208/6030 ลงวนั ที่ 3 ธนั วาคม 2547 ตามหนังสือที่อ้างถึง กระทรวงศึกษาธิการได้ส่งเรื่อง การจัดการศึกษาแก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐาน ทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทยมาเพ่ือให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์เสนอ ความคิดเห็นเกยี่ วกบั เรอื่ งดงั กล่าว เพ่ือประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี นนั้ กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมั่นคงของมนษุ ยไ์ ด้พจิ ารณาแล้ว มีความเห็น ดงั น้ี 1. เหน็ ดว้ ยกบั รา่ งระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธกิ ารและแนวปฏบิ ตั ทิ ม่ี กี ารปรบั ปรงุ ใหมข่ องกระทรวงศกึ ษาธกิ าร เนื่องจากเป็นการเปิดโอกาสให้แก่เด็กและบุคคลทุกคนมีสิทธิได้รับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน โดยไม่มีการแบ่งแยก ทงั้ ยงั เปน็ การเออ้ื ใหน้ ำ� นโยบายการจดั การศกึ ษาสำ� หรบั เดก็ ดอ้ ยโอกาสไปปฏบิ ตั ใิ หเ้ หน็ ผลเดน่ ชดั ขนึ้ ในดา้ นความ เสมอภาคทางการศึกษา 2. สำ� หรบั การจดั สรรงบประมาณอดุ หนนุ เปน็ คา่ ใชจ้ า่ ยรายหวั ใหแ้ กส่ ถานศกึ ษาขอให้ พจิ ารณาประเดน็ การเข้าถึงทุนกู้ยืมเพ่ือการศึกษาของเด็กที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย เนื่องจากเด็ก ส่วนใหญ่มีฐานะยากจน ควรเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนทุกคนได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียมโดยปราศจาก การเลอื กปฏิบตั ิ จงึ เรยี นมาเพ่ือโปรดพิจารณาด�ำเนินการตอ่ ไป ขอแสดงความนบั ถอื (นายสรอรรถ กล่ินประทุม) รฐั มนตรีว่าการกระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมัน่ คงของมนุษย์ ส�ำนกั งานปลดั กระทรวง สำ� นักนโยบายและยทุ ธศาสตร์ โทร./โทรสาร 0-2612-8841, 0-2612-8718 132

ดว่ นมาก สำ� นกั งบประมาณ ถนนพระราม 6 กรงุ เทพฯ 10400 ที่ นร 0706/5610 31 มกราคม 2548 เร่อื ง การจัดการศกึ ษาแกบ่ คุ คลท่ไี มม่ หี ลกั ฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มสี ัญชาตไิ ทย เรียน รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร อ้างถึง หนังสือกระทรวงศึกษาธิการ ดว่ นมาก ที่ ศธ 0208/6030 ลงวันท่ี 3 ธันวาคม 2547 ตามหนงั สอื ทอ่ี า้ งถงึ กระทรวงศกึ ษาธกิ ารขอใหส้ ำ� นกั งบประมาณเสนอความเหน็ เรอื่ ง การจดั การศกึ ษา แก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย เพื่อรวบรวมในการน�ำเสนอคณะรัฐมนตรี ส�ำหรับ การจดั ทำ� รา่ งระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธกิ าร และแนวปฏบิ ตั ทิ ม่ี กี ารปรบั ปรงุ แกไ้ ขใหมใ่ นประเดน็ หลกั 4 ประเดน็ ความละเอียดแจง้ แล้ว นั้น ส�ำนกั งบประมาณพจิ ารณาแล้วขอเรยี น ดังน้ี 1. การขยายโอกาสทางการศึกษาดังกล่าว เป็นการเปิดโอกาสทางการศึกษาให้ทุก ๆ คน ที่อาศัยอยู่ ในประเทศไทยสามารถเข้าเรียนโดยไม่จ�ำกัดระดับ ประเภท หรือพ้ืนที่การศึกษา และครอบคลุม ถึงเด็กท่ีไม่มี ทะเบยี นราษฎรหรอื ไมม่ สี ญั ชาติไทย โดยหลกั การแลว้ เปน็ เรอ่ื งทีด่ แี ละเปน็ การสร้างความเสมอภาค ที่จะพัฒนา คณุ ภาพชีวติ ใหแ้ ก่กลมุ่ บุคคลดงั กล่าว อนั เป็นยทุ ธศาสตร์หนงึ่ ท่ีสามารถป้องกนั และแกไ้ ขปัญหาด้านความม่ันคง ของชาติ ท้ังนี้ การเปิดโอกาสกว้างควรจะต้องควบคุมและตรวจสอบให้ชัดเจนท้ังจ�ำนวนคน ความต้องการ ในอนาคต ให้ครอบคลุมทุกหน่วยงานท่ีมีส่วนในการจัดการศึกษา เพื่อการวางแผนการจัดการศึกษา โดยผลการดำ� เนนิ งานดงั กลา่ วตอ้ งไมข่ ดั ตอ่ บทบญั ญตั แิ หง่ กฎหมายเฉพาะ เพอื่ ประโยชนใ์ นการรกั ษาความมน่ั คง ของรฐั หรอื เศรษฐกจิ ของประเทศ 2. การเปิดโอกาสทางการศึกษาให้แก่บุคคลท่ีไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย ควรก�ำหนดขอบเขตเฉพาะบุคคลที่อยู่ในวัยเรียนเท่าน้ัน ซึ่งในปัจจุบันกลุ่มบุคคลดังกล่าวสามารถเข้าศึกษา ในสถานศึกษาของรัฐได้ตามมติคณะรัฐมนตรีเม่ือวันที่ 28 มกราคม 2535 และขณะน้ีมีจ�ำนวนประมาณ 50,000 คน ที่รัฐได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาข้ันพื้นฐานตั้งแต่ระดับก่อนประถมศึกษาถึงระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย โดยจัดสรรงบประมาณผ่านไปทางสถานศึกษาของรัฐอยู่แล้ว แต่เน่ืองจากค่าใช้จ่าย ในการจัดการศึกษาข้ันพื้นฐานส�ำหรับคนไทยท่ีจัดอยู่ในขณะนี้ยังไม่เพียงพอท่ีจะจัดให้ได้คุณภาพเท่าเทียมกัน ทุกแห่ง ประกอบกับงบประมาณของประเทศมีจ�ำนวนจ�ำกัดและมีภาระข้อผูกพันที่จะต้องจ่ายตามกฎหมาย อีกมาก หากรัฐต้องด�ำเนินการให้การศึกษาแก่บุคคลดังกล่าว เพื่อสร้างความสมานฉันท์และความเข้าใจอันดี 133

ตอ่ กนั ของทกุ คนในชาติ อนั เปน็ ประโยชนใ์ นการแกไ้ ขปญั หาตา่ ง ๆ โดยเฉพาะปญั หาทม่ี ผี ลกระทบตอ่ ความมงั่ คง ของชาติน้ัน ก็เห็นควรท่ีจะสนับสนุนให้เข้ารับการศึกษาเฉพาะสถานศึกษาของรัฐเท่านั้น ส�ำหรับสถานศึกษา ของเอกชนทรี่ บั บคุ คลทไี่ มม่ หี ลกั ฐานทะเบยี นราษฎรหรอื ไมม่ สี ญั ชาตไิ ทยเขา้ ศกึ ษาในปจั จบุ นั จำ� นวน 1,269 คน ซึ่งผู้ปกครองมีฐานะเพียงพอท่ีจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว เห็นสมควรให้ผู้ปกครองยังคงรับผิดชอบค่าใช้จ่าย เชน่ เดมิ 3. เพ่ือประโยชน์ต่อการจ�ำแนกสถานะ รวมท้ังอนุญาตและอ�ำนวยความสะดวกให้เด็กและเยาวชน ที่มีข้อก�ำหนด ระเบียบปฏิบัติ หรือมีกฎหมายควบคุมเฉพาะให้จ�ำกัดพื้นที่อยู่อาศัยสามารถเดินทางไปศึกษา ได้เป็นระยะเวลาตามหลักสูตรการศึกษา ส�ำหรับกรณีบุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย เห็นควรให้กระทรวงมหาดไทยจัดท�ำฐานข้อมูล (เลขประจ�ำตัว 13 หลัก) โดยค�ำนึงถึงประโยชน์ในการรักษา ความมัน่ คงของรัฐหรอื เศรษฐกจิ ของประเทศด้วย 4. การท่ีกระทรวงศึกษาธิการขอจัดการศึกษาในรูปแบบที่เหมาะสมแก่เด็กและเยาวชนที่หนีภัย จากการสู้รบ ขอเรียนว่าการจัดการศึกษาในปัจจุบันนั้นจัดได้หลายรูปแบบ ท้ังการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย หากเห็นความจ�ำเป็นในการจัดการศึกษาให้แก่กลุ่มบุคคลดังกล่าว กระทรวงศึกษาธิการ ควรจดั การศกึ ษาใหส้ อดคลอ้ งตามพระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 และทแ่ี กไ้ ขเพมิ่ เตมิ พ.ศ. 2545 โดยค�ำนึงถึงหลักประหยัดและมีประสทิ ธิภาพด้วย จงึ เรียนมาเพ่ือโปรดทราบและพจิ ารณาดำ� เนินการต่อไป ขอแสดงความนับถือ (นายวฒุ ิพนั ธุ วชิ ยั รตั น)์ ผู้อำ� นวยการส�ำนกั งบประมาณ สำ� นักจดั ท�ำงบประมาณดา้ นสงั คม 1 โทร. 0-2273-9266-80 ต่อ 1305 โทรสาร 0-2273-9928 134

กองบัญชาการต�ำรวจตระเวนชายแดน 1279 ถนนพหลโยธิน กรงุ เทพฯ 10400 ท่ี ตช 0024.552/203 18 มกราคม 2548 เร่ือง การจัดการศกึ ษาแก่บุคคลทไี่ ม่มหี ลักฐานทะเบยี นราษฎรหรือไมม่ ีสญั ชาติไทย เรียน รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร อา้ งถึง หนงั สอื กระทรวงศกึ ษาธิการ ดว่ นมาก ท่ี ศธ 0208/6030 ลงวันที่ 3 ธนั วาคม 2547 ตามหนังสือท่ีอ้างถึง กองบัญชาการต�ำรวจตระเวนชายแดนพิจารณาและมีความเห็น สอดคล้องกับ แนวทาง รายละเอียด การจัดการศึกษาแก่บุคคลท่ีไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย ซ่ึงกระทรวงศึกษาธิการ โดยส�ำนักงานปลัดกระทรวงฯ ส�ำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ ได้สรุปน�ำเรียนเสนอ หนว่ ยงานท่ีเก่ยี วขอ้ งทกุ ประการ จงึ เรียนมาเพอ่ื โปรดทราบ ขอแสดงความนบั ถอื พลต�ำรวจตรี เธยี รชัย เอีย่ มรักษา (เธียรชัย เอ่ียมรักษา) รองผ้บู ัญชาการฯ ปฏิบตั ิราชการแทน ผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำ� รวจตระเวนชายแดน แผนก 2 กองกำ� กับการ 5 กองบังคบั การอ�ำนวยการต�ำรวจตระเวนชายแดน โทร. 0-2279-9520-34 ต่อ 353 โทรสาร 0-22279-9520-34 ต่อ 336 135

เลม่ 127 ตอนพเิ ศษ 31 ง ราชกิจจานุเบกษา 10 มีนาคม 2553 ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการอนญุ าตใหบ้ คุ คลซ่ึงไมม่ ีสญั ชาติไทยออกนอกเขตควบคมุ เปน็ การชวั่ คราว เพือ่ เข้าเรยี นในสถานศกึ ษา พ.ศ. 2553 _____________________________ โดยที่คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2549 ให้ความคุ้มครองดูแลกลุ่มบุคคลท่ีไม่มีสถานะ ทางทะเบียนที่ได้รับการส�ำรวจตามยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคล เพ่ือให้สามารถ อยู่ในประเทศไทย โดยถูกต้องตามกฎหมายและมีสิทธิต่าง ๆ ตามสถานะที่ได้รับรวมทั้งท่ีคณะรัฐมนตรีได้มีมติ ให้ชนกลุม่ น้อยกลมุ่ ผู้พลัดถนิ่ สญั ชาตพิ มา่ เชือ้ สายไทย (เขา้ มาหลงั วันที่ 9 มนี าคม 2519) ผู้อพยพเช้อื สายไทย จากจังหวดั เกาะกง กมั พชู า (เขา้ มาหลงั วันท่ี 15 พฤศจิกายน 2520) ผหู้ ลบหนีเข้าเมอื งจากกัมพูชา ลาวอพยพ และผู้หลบหนีเขา้ เมืองจากพม่า โดยให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้อาศัยอยู่ในประเทศไทยช่ัวคราวเพ่ือรอการส่งกลับ และอนญุ าตให้ออกนอกเขตทอี่ ยอู่ าศัย เพอื่ ไปทำ� งานตามพระราชบญั ญตั ิการทำ� งานของคนต่างดา้ ว พ.ศ. 2521 โดยอาศัยอ�ำนาจ ตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ไปแล้ว และคณะรัฐมนตรี เม่ือวันท่ี 5 กรกฎาคม 2548 เห็นชอบแนวปฏิบัติการจัดการศึกษาแก่บุคคลท่ีไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎร หรือไม่มีสัญชาติไทยโดยให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาอนุญาตและอ�ำนวยความสะดวกให้เด็กและเยาวชน ท่ีมีข้อก�ำหนด ระเบียบปฏิบัติหรือมีกฎหมายควบคุมเฉพาะให้จ�ำกัดพื้นท่ีอยู่อาศัย สามารถเดินทางไปศึกษาได้ เปน็ ระยะเวลาตามหลกั สูตรการศึกษาระดับนน้ั โดยไมต่ ้องขออนญุ าตเปน็ คร้งั คราวยกเว้น ผู้หนีภยั จากการสรู้ บ อาศัยอ�ำนาจตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกระเบียบไว้ ดงั ต่อไปน้ี ขอ้ 1 ระเบยี บนเี้ รยี กวา่ “ระเบยี บกระทรวงมหาดไทย วา่ ดว้ ยการอนญุ าตใหบ้ คุ คลซง่ึ ไมม่ สี ญั ชาตไิ ทย ออกนอกเขตควบคมุ เป็นการชัว่ คราวเพ่อื เข้าเรียนในสถานศึกษา พ.ศ. 2553” ขอ้ 2 ระเบยี บนี้ใหใ้ ชบ้ งั คับตั้งแตว่ ันถัดจากวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเป็นต้นไป ขอ้ 3 บรรดาระเบียบ ค�ำส่ัง หรอื ประกาศใดที่เก่ียวขอ้ งกับการอนุญาตออกนอกเขตควบคุม เปน็ การ ช่ัวคราว เพื่อเข้าเรียนในสถานศึกษาของนักเรียน นักศึกษา ซึ่งเป็นบุคคลไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งขัดหรือแย้งกับ ระเบยี บนี้ ใหใ้ ช้ระเบยี บนี้ 136

เลม่ 127 ตอนพิเศษ 31 ง หน้า 2 10 มนี าคม 2553 ราชกิจจานเุ บกษา ขอ้ 4 ในระเบยี บน้ี “บคุ คลซ่งึ ไม่มีสญั ชาตไิ ทย” หมายความวา่ นักเรียน นกั ศกึ ษา ดังตอ่ ไปน้ี (1) นักเรียน นักศึกษา ท่ีเป็นชนกลุ่มน้อยและไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งได้จัดท�ำทะเบียนประวัติ และบัตรประจ�ำตัวไว้แล้ว รวม 15 กลุ่ม คือ อดีตทหารจีนคณะชาติและจีนฮ่ออพยพ ไทยลื้อ เวียดนามอพยพ ผู้พลัดถ่ินสัญชาติพม่า ผู้พลัดถ่ินสัญชาติพม่าเชื้อสายไทย จีนฮ่ออิสระ เนปาลอพยพ บุคคลบนพื้นท่ีสูง และชมุ ชนบนพนื้ ทส่ี งู มง้ ในทพ่ี กั สงฆถ์ ำ�้ กระบอก อดตี โจรจนี คอมมวิ นสิ ตม์ าลายา ผอู้ พยพเชอื้ สายไทยจากจงั หวดั เกาะกง กัมพูชา ลาวอพยพ ผู้หลบหนีเข้าเมืองเช้ือสายไทยจากจังหวัดเกาะกง กัมพูชา ผู้หลบหนีเข้าเมืองจาก กมั พูชา และผูห้ ลบหนเี ขา้ เมืองจากพมา่ ทปี่ ระสงค์จะเขา้ เรยี นในสถานศึกษา (2) นักเรียน นักศึกษา ที่ไม่มีสัญชาติไทยกลุ่มอื่น ๆ ซ่ึงไม่ใช่ชนกลุ่มน้อยตาม (1) รวมถึง นักเรียน นกั ศกึ ษา ซงึ่ เปน็ บคุ คลทไี่ มม่ สี ถานะทางทะเบยี น และไดร้ บั การสำ� รวจจดั ทำ� ทะเบยี นประวตั ิ และบตั รประจำ� ตวั ตามระเบียบส�ำนักทะเบียนกลางที่ออกตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร ท่ีประสงค์จะเข้าเรียน ในสถานศึกษา “เขตควบคุม” หมายความว่า อาณาบริเวณท่ีกระทรวงมหาดไทยได้ก�ำหนดให้อยู่อาศัย ตามระเบียบ ประกาศและคำ� สงั่ ซง่ึ เปน็ ไปตามบญั ชเี ขตควบคมุ ทา้ ยระเบยี บนี้ รวมถงึ ทอ้ งทอี่ ำ� เภอ จงั หวดั หรอื กรงุ เทพมหานคร ท่ีได้ส�ำรวจจัดท�ำทะเบียนประวัติและบัตรประจ�ำตัวตามระเบียบส�ำนักทะเบียนกลางที่ออกตามกฎหมาย วา่ ด้วยการทะเบียนราษฎรให้แก่นกั เรียน นักศกึ ษา “ทะเบียนประวัติ” หมายความว่า เอกสารทะเบียนราษฎรท่ีนายทะเบียนจัดท�ำข้ึนตามกฎหมาย ว่าด้วยการทะเบียนราษฎร ส�ำหรับบันทึกรายการบุคคลของคนไม่มีสัญชาติไทยหรือบุคคลไม่มีสถานะ ทางทะเบียน เช่น ทะเบียนบ้าน (ทร.13) แบบรับรองรายการทะเบียนประวัติบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน (ทร.38 ข) เปน็ ตน้ “จงั หวัด” หมายความวา่ จังหวัดทเี่ ป็นเขตควบคุมตามทีก่ ระทรวงมหาดไทยกำ� หนด “อ�ำเภอ” หมายความวา่ อ�ำเภอและกิ่งอำ� เภอที่เปน็ เขตควบคมุ ตามทกี่ ระทรวงมหาดไทยกำ� หนด “สถานศึกษา” หมายความว่า สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย โรงเรียน ศูนย์การเรียน วิทยาลัย สถาบัน มหาวทิ ยาลยั หนว่ ยงานการศกึ ษาหรอื หนว่ ยงานอน่ื ของรฐั หรอื ของเอกชน ทมี่ อี ำ� นาจหนา้ ท่ี หรอื มวี ตั ถปุ ระสงค์ ในการจดั การศึกษา “หลักฐานทางการศึกษา” หมายความว่า เอกสารอันเป็นหลักฐานทางการศึกษาของนักเรียน นักศึกษา ได้แก่ ทะเบียนนักเรียน นักศึกษา สมุดประจ�ำตัวนักเรียนนักศึกษา สมุดประจ�ำชั้น บัญชีเรียกช่ือ ใบส่งตัวนักเรียน นักศึกษา หลักฐานแสดงผลการเรียน ประกาศนียบัตร หนังสือรับรองการเป็นนักเรียน นกั ศึกษาของสถาบนั การศึกษา หรือเอกสารอื่นใดในลักษณะเดียวกัน 137

เล่ม 127 ตอนพิเศษ 31 ง หนา้ 3 10 มนี าคม 2553 ราชกจิ จานเุ บกษา “หนงั สอื รบั รองการเปน็ นกั เรยี น นกั ศกึ ษาของสถานศกึ ษา” หมายความวา่ หนงั สอื ซงึ่ หวั หนา้ สถานศกึ ษา ออกให้แก่นักเรียน นักศึกษา เพ่ือแสดงว่าบุคคลน้ันได้เป็นนักเรียน นักศึกษา ของสถานศึกษาดังกล่าวจริง โดยระบุระยะเวลาในการศึกษาตามหลักสตู รไวด้ ว้ ย ข้อ 5 การขออนญุ าตออกนอกเขตควบคมุ เปน็ การชว่ั คราวของนกั เรยี น นักศกึ ษา ใหด้ �ำเนนิ การ ดงั น้ี (1) กรณมี ภี มู ิล�ำเนาอยู่ในเขตกรงุ เทพมหานคร ใหข้ ออนญุ าตตอ่ อธิบดกี รมการปกครอง โดยย่ืนค�ำขอ ตามแบบทา้ ยระเบียบนี้ ณ ส�ำนกั กิจการความมั่นคงภายใน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย (2) กรณมี ีภมู ลิ ำ� เนาอยใู่ นเขตจงั หวัดอน่ื (ก) กรณอี อกนอกเขตจงั หวดั ใหข้ ออนญุ าตตอ่ ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั โดยยนื่ คำ� ขอตามแบบทกี่ ำ� หนด ทา้ ยระเบยี บน้ี ณ ทที่ ำ� การปกครองอำ� เภอหรอื กง่ิ อำ� เภอ ทผ่ี ยู้ น่ื คำ� ขอมภี มู ลิ ำ� เนาและใหน้ ายอำ� เภอหรอื ปลดั อำ� เภอ ผเู้ ปน็ หวั หน้าประจ�ำกิ่งอำ� เภอเสนอความเหน็ ให้ผูว้ ่าราชการจังหวัด เพื่อพจิ ารณาต่อไป (ข) กรณีออกนอกเขตอ�ำเภอหรือกิ่งอ�ำเภอ ให้ขออนุญาตต่อนายอ�ำเภอหรือปลัดอ�ำเภอ ผู้เป็นหัวหน้าประจ�ำอ�ำเภอหรือก่ิงอ�ำเภอ โดยย่ืนค�ำขอตามแบบท้ายระเบียบนี้ ณ ท่ีท�ำการปกครองอ�ำเภอ หรอื ก่งิ อ�ำเภอทผี่ ู้ย่นื คำ� ขอมภี ูมลิ ำ� เนา ข้อ 6 ในการขออนุญาตออกนอกเขตควบคุม ให้ผู้ยื่นค�ำขอแจ้งสถานที่ท่ีประสงค์จะเดินทางไปศึกษา ช่ือสถานศึกษา ชื่อหลักสูตร ระยะเวลาที่ศึกษาตามหลักสูตร ระยะเวลาที่ขออนุญาต และสถานที่ท่ีพักอาศัย ระหว่างการศึกษาให้ชัดเจน พร้อมแนบเอกสารประกอบการยื่นค�ำขอ ประกอบด้วย ส�ำเนาทะเบียนประวัติ หรอื บตั รประจำ� ตวั หนงั สอื รบั รองการเปน็ นกั เรยี น นกั ศกึ ษา ของสถานศกึ ษา รปู ถา่ ยขนาด 1 นวิ้ จำ� นวน 4 รปู และหลักฐานอื่น ๆ ในการขออนุญาตออกนอกเขตกรุงเทพมหานครหรือเขตจังหวัดให้ผู้ย่ืนค�ำขอยื่นขออนุญาต ก่อนก�ำหนดวันเดินทางไม่น้อยกว่าสิบวันท�ำการในการขออนุญาตออกนอกเขตอ�ำเภอหรือกิ่งอ�ำเภอให้ผู้ย่ืน ค�ำขอยนื่ ขออนญุ าตก่อนก�ำหนดวนั เดนิ ทางไมน่ อ้ ยกวา่ หา้ วันทำ� การ ข้อ 7 ระยะเวลาในการอนุญาต ให้อยู่ในดุลพินิจของอธิบดีกรมการปกครอง ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอ�ำเภอหรือปลัดอ�ำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจ�ำก่ิงอ�ำเภอ แล้วแต่กรณี โดยให้พิจารณาจากระยะเวลาที่ผู้นั้น ศึกษาตามหลักสูตรและระยะเวลาในการเดินทางไปและเดินทางกลบั เป็นส�ำคญั กรณจี ำ� เปน็ และมเี หตผุ ลพเิ ศษ เชน่ กรณขี อออกนอกเขตกรงุ เทพมหานคร จงั หวดั อำ� เภอ หรอื กง่ิ อำ� เภอ เกินกว่าระยะเวลาท่ีผู้นั้นศึกษาตามหลักสูตรให้อธิบดีกรมการปกครอง ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอ�ำเภอ หรือปลัดอ�ำเภอ ผ้เู ป็นหัวหน้าประจ�ำกง่ิ อำ� เภอ แลว้ แตก่ รณี พจิ ารณาเป็นรายกรณไี ป การอนุญาตออกนอกเขตควบคุมนอกเหนือจากตามบัญชีเขตควบคุมท้ายระเบียบนี้ ให้เสนอ ปลดั กระทรวงมหาดไทย พจิ ารณาเป็นรายกรณีไป 138

เล่ม 127 ตอนพิเศษ 31 ง หน้า 4 10 มีนาคม 2553 ราชกิจจานเุ บกษา ในการอนุญาตให้นักเรียน นักศึกษา ออกนอกเขตควบคุมช่ัวคราวตามระเบียบนี้ ให้หมายความรวมถึง การอนุญาตให้ออกนอกเขตควบคุมเพ่ือไปยังเขตท้องท่ีอ่ืนอันเป็นท้องท่ีท่ีสถานศึกษาได้ก�ำหนดให้เป็นท้องที่ ที่นักเรียน นกั ศกึ ษา ตอ้ งดำ� เนนิ กจิ กรรมตามหลกั สูตรทก่ี ำ� หนด ข้อ 8 เมอ่ื ไดอ้ นญุ าตใหน้ กั เรยี น นกั ศกึ ษา ออกนอกเขตควบคมุ ชว่ั คราว ใหอ้ อกหนงั สอื อนญุ าตตามแบบ ทา้ ยระเบยี บนใ้ี หก้ บั ผทู้ ไ่ี ดร้ บั อนญุ าตนน้ั และใหจ้ ดั ทำ� สมดุ บนั ทกึ ควบคมุ การอนญุ าตใหอ้ อกนอกเขตควบคมุ ตาม แบบท้ายระเบียบนี้ไว้ด้วย โดยให้มีรายละเอียดเกี่ยวกับชื่อ ที่อยู่ของผู้ได้รับอนุญาต สถานศึกษา ระยะเวลาที่ อนญุ าต สถานทท่ี เี่ ดนิ ทางไปศกึ ษา สถานทที่ พี่ กั อาศยั ระหวา่ งศกึ ษา และชอ่ งหมายเหตสุ ำ� หรบั ใหผ้ ไู้ ดร้ บั อนญุ าต ลงช่ือ หรอื พมิ พล์ ายนวิ้ มือ เมอื่ เดินทางกลับมารายงานตวั เม่ือได้รับรายงานตัวจากผู้ท่ีได้รับอนุญาตออกนอกเขตควบคุมแล้วให้จัดท�ำสมุดบันทึกควบคุม การรายงานตวั ตามแบบทา้ ยระเบยี บไวด้ ว้ ย โดยใหม้ รี ายละเอยี ดเกย่ี วกบั ชอ่ื ทอี่ ยขู่ องผไู้ ดร้ บั อนญุ าต สถานศกึ ษา ระยะเวลาที่อนุญาต สถานท่ีที่เดินทางไปศึกษา สถานที่ที่พักอาศัยระหว่างศึกษา ก�ำหนดวันรายงานตัว และชอ่ งหมายเหตสุ �ำหรับให้ผู้ทมี่ ารายงานตวั ลงชอ่ื หรือพมิ พล์ ายนิว้ มือ ขอ้ 9 ผทู้ ไ่ี ดร้ บั อนญุ าตให้ออกนอกเขตควบคุม ต้องน�ำหนังสืออนุญาตและบตั รประจำ� ตัว พกพาตดิ ตวั ไปด้วยระหว่างเดินทางออกนอกเขต และเมื่อไปถึงท้องที่อันเป็นสถานท่ีที่พักอาศัย อยู่ระหว่างการศึกษา ใหผ้ ูท้ ไ่ี ดร้ ับอนญุ าตออกนอกเขตควบคมุ ไปรายงานตวั ดงั นี้ (1) กรณีท่ีพักอาศัยอยู่ระหว่างการศึกษาอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครให้ไปรายงานตัวต่ออธิบดี กรมการปกครองหรือผู้ท่ีได้รับมอบหมาย และให้อธิบดีกรมการปกครองแจ้งผู้บัญชาการกองบัญชาการต�ำรวจ สนั ตบิ าล ส�ำนกั งานต�ำรวจแห่งชาติ ทราบ (2) กรณที พี่ กั อาศยั อยรู่ ะหวา่ งการศกึ ษาอยใู่ นจงั หวดั อนื่ ใหไ้ ปรายงานตวั ตอ่ นายอำ� เภอ หรอื ปลดั อำ� เภอ ผู้เป็นหัวหน้าประจ�ำกิ่งอ�ำเภอ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย และให้นายอ�ำเภอหรือปลัดอ�ำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจ�ำ กง่ิ อ�ำเภอแจ้งหวั หน้าสถานตี ำ� รวจในทอ้ งทนี่ นั้ ทราบ แลว้ แตก่ รณี (3) กรณีท่ีได้รับอนุญาตออกนอกเขตควบคุมเกินกว่าหน่ึงปี ให้ผู้ท่ีได้รับอนุญาตออกนอกเขตควบคุม ไปรายงานตัวต่ออธิบดีกรมการปกครอง นายอ�ำเภอ หรือปลัดอ�ำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจ�ำกิ่งอ�ำเภอ หรือผู้ท่ี ได้รับมอบหมายทุกหกเดือนนับแต่วันรายงานตัวคร้ังแรก โดยให้อธิบดีกรมการปกครอง นายอ�ำเภอหรือ ปลัดอ�ำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจ�ำก่ิงอ�ำเภอแจ้งผู้บัญชาการกองบัญชาการต�ำรวจสันติบาล ส�ำนักงานต�ำรวจ แห่งชาติ หรอื หัวหน้าสถานีตำ� รวจในท้องท่ที ราบ แลว้ แต่กรณี เม่ือส้ินสดุ ระยะเวลาทไ่ี ด้รบั อนญุ าตให้ออกนอกเขตควบคุมแลว้ ให้ผทู้ ีไ่ ดร้ บั อนญุ าตกลบั ไป รายงานตัว ยังท้องท่ีทผ่ี ไู้ ด้รับอนุญาตน้นั ไดย้ ืน่ คำ� ขออนุญาตออกนอกเขตควบคมุ ไว้ 139

เลม่ 127 ตอนพเิ ศษ 31 ง หน้า 5 10 มนี าคม 2553 ราชกจิ จานเุ บกษา หากมเี หตจุ ำ� เปน็ อนั เกย่ี วเนอื่ งกบั การศกึ ษา ใหผั มู้ อี ำ� นาจในการอนญุ าตออกนอกเขตควบคมุ ตามขอ้ 10 สามารถขยายระยะเวลาไดต้ ามสมควรแกก่ รณี ข้อ 10 เมื่อผู้ท่ีได้รับอนุญาตให้ออกนอกเขตควบคุม มีความประสงค์เปล่ียนแปลงสถานท่ีท่ีพักอาศัย ระหว่างการศกึ ษาใหด้ ำ� เนินการ ดงั นี้ (1) กรณีท้องท่ีอันเป็นสถานที่ที่พักอาศัยอยู่ระหว่างการศึกษาเดิมอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ใหข้ ออนญุ าตตอ่ อธบิ ดกี รมการปกครอง โดยยน่ื คำ� ขอตามแบบทา้ ยระเบยี บนี้ ณ สำ� นกั กจิ การความมน่ั คงภายใน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย (2) กรณีทอ้ งท่อี ันเป็นสถานทที่ ่พี ักอาศยั อยู่ระหวา่ งการศกึ ษาเดมิ อยใู่ นจังหวดั อนื่ (ก) กรณีออกนอกเขตจังหวัดให้ขออนุญาตต่อผู้ว่าราชการจังหวัดโดยย่ืนค�ำขอตามแบบ ท้ายระเบียบนี้ ณ ที่ท�ำการปกครองอ�ำเภอหรือที่ท�ำการปกครองก่ิงอ�ำเภอท่ีผู้ยื่นค�ำขอได้พักอาศัย อยู่ระหว่าง การศึกษาเดิม และให้นายอ�ำเภอหรือปลัดอ�ำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจ�ำกิ่งอ�ำเภอเสนอความเห็นให้ผู้ว่าราชการ จงั หวัดเพ่ือพิจารณาต่อไป (ข) กรณีออกนอกเขตอ�ำเภอหรือก่ิงอ�ำเภอให้ขออนุญาตต่อนายอ�ำเภอหรือปลัดอ�ำเภอ ผู้เป็น หัวหน้าประจ�ำก่งิ อำ� เภอ โดยย่นื คำ� ขอตามแบบท้ายระเบียบน้ี ณ ที่ท�ำการปกครองอำ� เภอ หรือกงิ่ อ�ำเภอทผี่ ยู้ ่นื ค�ำขอได้พกั อาศยั อย่รู ะหว่างการศกึ ษาเดิม ในการขออนุญาตตามวรรคหน่ึง ให้ผู้ยื่นค�ำขอแนบเอกสารการยื่นค�ำขอ ประกอบด้วย ส�ำเนาทะเบียนประวัติหรือบัตรประจ�ำตัว หนังสือรับรองการเป็นนักเรียนนักศึกษาของสถานศึกษา รูปถ่าย ขนาด 1 น้ิว จ�ำนวน 4 รูป และหนังสืออนุญาตให้นักเรียนนักศึกษาออกนอกเขตควบคุมเป็นการช่ัวคราว เพอื่ เขา้ เรียนในสถานศึกษา เม่ือท้องท่ีใดได้อนุญาตให้นักเรียนนักศึกษาเปล่ียนแปลงสถานที่ที่พักอาศัยระหว่างการศึกษา ให้ออกหนังสืออนุญาตการเปลี่ยนแปลงสถานท่ีท่ีพักอาศัยระหว่างการศึกษาให้ผู้ท่ีได้รับอนุญาตนั้น เพื่อให้ผู้น้ัน น�ำไปแจ้งท้องท่ีอันเป็นสถานท่ีที่พักอาศัยอยู่ระหว่างการศึกษาแห่งใหม่ทราบ และให้ท้องที่อันเป็นสถานที่ ที่พักอาศัยอยู่ระหว่างการศึกษาเดิมแจ้งท้องที่อันเป็นสถานที่ที่พักอาศัย อยู่ระหว่างการศึกษาแห่งใหม่รวมถึง ผู้อนุญาตเดิมทราบ ท้ังน้ี เมื่อไปถึงท้องท่ีอันเป็นสถานที่ที่พักอาศัย อยู่ระหว่างการศึกษาแห่งใหม่ให้ผู้ที่ได้รับ อนุญาตออกนอกเขตควบคุมไปรายงานตัวตามข้อ 9 140

เล่ม 127 ตอนพิเศษ 31 ง หน้า 6 10 มีนาคม 2553 ราชกิจจานุเบกษา ข้อ 11 กรณีนักเรียน นักศึกษาได้เดินทางออกนอกเขตควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่ไปรายงานตัว ต่ออธิบดีกรมการปกครอง นายอ�ำเภอหรือปลัดอ�ำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจ�ำกิ่งอ�ำเภอหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เมอ่ื ไปถงึ ทอ้ งทอี่ นั เปน็ สถานทที่ พ่ี กั อาศยั อยรู่ ะหวา่ งการศกึ ษา หรอื เมอื่ เปลยี่ นแปลงสถานทที่ พ่ี กั อาศยั อยรู่ ะหวา่ ง การศกึ ษาแหง่ ใหม่ หรอื เมอ่ื กลบั ถงึ เขตควบคมุ ภายในกำ� หนดเวลาแลว้ แตก่ รณี ใหถ้ อื วา่ เปน็ ผอู้ อกนอกเขตควบคมุ โดยไมไ่ ด้รับอนุญาต และมคี วามผดิ ตามกฎหมาย ขอ้ 12 ใหป้ ลดั กระทรวงมหาดไทยรกั ษาการตามระเบยี บนี้ และมอี ำ� นาจวนิ จิ ฉยั ตคี วามการปฏบิ ตั ติ าม ระเบยี บน้ี ประกาศ ณ วนั ที่ 2 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2553 ชวรตั น์ ชาญวรี กลู รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย 141

หนังสอื อนญุ าต ติดรปู ใหน้ กั เรยี น นักศึกษา ซึ่งเป็นบคุ คลที่ไม่มสี ัญชาตไิ ทย ออกนอกเขตควบคุมเปน็ การชัว่ คราวเพ่ือรับการศกึ ษาในสถานศกึ ษา ที่......../......... วันท่ี.......เดือน........................พ.ศ. ....... อนุญาตให.้ ........................................................อาย.ุ .......ปี หมายเลขประจำ� ตวั ...................................... ชอ่ื หมบู่ า้ น.................................บา้ นเลขท.ี่ .......หมทู่ .ี่ .........ตำ� บล/แขวง.......................อำ� เภอ/เขต......................... จังหวัด/กรุงเทพฯ.......................................................ซง่ึ มหี ลักฐาน ดงั น้ี 1. ส�ำเนาทะเบียนประวัติหรือบัตรประจ�ำตัว 2. หนังสือรบั รองการเปน็ นกั เรียน นักศึกษา 3. รปู ถ่ายขนาด 1 นิ้ว จำ� นวน 4 รปู 4. หลกั ฐานทางการศกึ ษาอน่ื ๆ เดนิ ทางออกนอกเขตอำ� เภอ/กงิ่ อำ� เภอ..................................จงั หวดั /กรงุ เทพฯ............................ เปน็ การชวั่ คราว เพอ่ื เดนิ ทางไป............ (อำ� เภอ จงั หวดั หรอื กรงุ เทพฯ)........... เพอ่ื เขา้ เรยี น ณ............... (ชอ่ื สถานศกึ ษา).............. หลักสูตร.....................................................ตั้งแต่วันท่ี.....เดือน...........พ.ศ.......ถึงวันที่.....เดือน...........พ.ศ........ ระยะเวลา............(วนั เดอื น ป)ี .......... โดยระหวา่ งเขา้ เรยี นในสถานศกึ ษาอนญุ าตใหพ้ กั อาศยั อยบู่ า้ นเลขท.ี่ ............ หมทู่ .่ี ........ตำ� บล......................อำ� เภอ.....................จงั หวดั .......................หมายเลขโทรศพั ทต์ ดิ ตอ่ .......................... โดยให้ผ้ไู ดร้ ับอนุญาตปฏิบัตติ ามเงอ่ื นไขท้ายหนงั สอื น้ีอย่างเครง่ ครดั ออกให้ ณ วนั ท่.ี ...........เดือน.........................พ.ศ.................. (ลงช่อื ) ................................................. ตำ� แหนง่ ................................................ ลงช่ือ................................................ (ประทบั ตราประจ�ำต�ำแหนง่ ) (ผไู้ ด้รบั อนญุ าต) ลายพมิ พ์นิ้วหวั แม่มือซ้าย ลายพมิ พ์น้วิ หวั แมม่ อื ขวา 142

เงื่อนไข 1. ผู้ท่ีได้รับอนุญาตให้ออกนอกเขตควบคุม ต้องน�ำหนังสืออนุญาตและบัตรประจ�ำตัวพกพาติดตัวไป ด้วยระหว่างเดินทางออกนอกเขต และเม่ือไปถึงท้องที่อันเป็นสถานท่ีที่พักอาศัยอยู่ระหว่างการศึกษาให้ผู้ได้รับ อนุญาตออกนอกเขตควบคุมไปรายงานตวั ดังนี้ (1) กรณีท่ีพักอาศัยอยู่ระหว่างการศึกษาอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ไปรายงานตัวต่ออธิบดี กรมการปกครอง หรือผู้ท่ีได้รับมอบหมายและให้อธิบดีกรมการปกครองแจ้งผู้บัญชาการกองบัญชาการ ตำ� รวจสนั ติบาล ส�ำนักงานต�ำรวจแหง่ ชาตทิ ราบ (2) กรณที พ่ี กั อาศยั อยรู่ ะหวา่ งการศกึ ษาอยใู่ นจงั หวดั อนื่ ใหไ้ ปรายงานตอ่ นายอำ� เภอหรอื ปลดั อำ� เภอ ผู้เป็นหัวหน้าประจ�ำก่ิงอ�ำเภอ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย และให้นายอ�ำเภอหรือปลัดอ�ำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจ�ำ ก่งิ อำ� เภอ แจง้ หวั หนา้ สถานตี �ำรวจในทอ้ งที่น้นั ทราบ แลว้ แต่กรณี (3) กรณที ไ่ี ดร้ บั อนญุ าตออกนอกเขตควบคมุ เกนิ กวา่ หนง่ึ ปี ใหผ้ ทู้ ไี่ ดร้ บั อนญุ าตออกนอกเขตควบคมุ ไปรายงานตวั ต่ออธิบดกี รมการปกครอง นายอำ� เภอหรือปลัดอ�ำเภอผเู้ ปน็ หวั หนา้ ประจ�ำก่งิ อำ� เภอ หรือผทู้ ไ่ี ด้รบั มอบหมายทุกๆ หกเดือน นับแต่วันรายงานตัวคร้ังแรก โดยให้อธิบดีกรมการปกครอง นายอ�ำเภอหรือปลัดเภอ ผู้เป็นหัวหน้าประจ�ำก่ิงอ�ำเภอ แจ้งผู้บัญชาการกองบัญชาการต�ำรวจสันติบาล ส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติ หรอื หวั หนา้ สถานตี �ำรวจในทอ้ งท่ที ราบ แลว้ แตก่ รณี เม่ือสิ้นสุดระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตให้ออกนอกเขตควบคุมแล้ว ให้ผู้ท่ีได้รับอนุญาตกลับไปรายงานตัว ยงั ท้องทีท่ ี่ผูไ้ ด้รบั อนุญาตนัน้ ได้ย่นื คำ� ขออนญุ าตออกนอกเขตควบคุมไว้ 2. เมอ่ื ผทู้ ไ่ี ดร้ บั อนญุ าตใหอ้ อกนอกเขตควบคมุ มคี วามประสงคเ์ ปลย่ี นแปลงสถานทท่ี พ่ี กั อาศยั ระหวา่ ง การศกึ ษาใหด้ �ำเนินการ ดงั น้ี (1) กรณีท้องท่ีอันเป็นสถานท่ีที่พักอาศัยอยู่ระหว่างการศึกษาเดิมอยู่ในเขตกรุงทพมหานคร ใหข้ ออนญุ าตตอ่ อธบิ ดกี รมการปกครอง ณ สำ� นกั กจิ การความมนั่ คงภายใน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย (2) กรณีทอ้ งท่อี ันเปน็ สถานทที่ ่พี กั อาศัยอยรู่ ะหวา่ งการศึกษาเดมิ อยใู่ นจงั หวัดอ่ืน (ก) กรณีออกนอกเขตจังหวัดให้ขออนุญาตต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ณ ที่ท�ำการปกครองอ�ำเภอ หรือท่ีท�ำการปกครองกิ่งอ�ำเภอที่ผู้ยื่นค�ำขอได้พักอาศัยอยู่ระหว่างการศึกษาเดิม และให้นายอ�ำเภอหรือ ปลดั อ�ำเภอผ้เู ปน็ หัวหน้าประจ�ำกงิ่ อ�ำเภอเสนอความเห็นให้ผู้วา่ ราชการจงั หวัดเพื่อพจิ ารณาตอ่ ไป (ข) กรณอี อกนอกเขตอำ� เภอหรอื กงิ่ อำ� เภอใหข้ ออนญุ าตตอ่ นายอำ� เภอหรอื ปลดั อำ� เภอผเู้ ปน็ หวั หนา้ ประจำ� กิง่ อำ� เภอ ณ ท่ที �ำการปกครองอ�ำเภอหรือกิง่ อ�ำเภอท่ผี ยู้ ่นื คำ� ขอไดพ้ กั อาศยั อยูร่ ะหวา่ งการศึกษาเดมิ 3. นกั เรยี น นกั ศกึ ษา ซง่ึ เปน็ บคุ คลไมม่ สี ญั ชาตไิ ทยไดเ้ ดนิ ทางออกนอกเขตควบคมุ โดยไมไ่ ดร้ บั อนญุ าต หรอื ไม่ไปรายงานตัวต่ออธิบดกี รมการปกครอง นายอ�ำเภอหรอื ปลดั อำ� เภอผเู้ ปน็ หัวหนา้ กง่ิ อำ� เภอ หรอื ผูท้ ่ไี ด้รับ มอบหมาย เมอื่ ไปถงึ ทอ้ งทอ่ี นั เปน็ สถานทที่ พี่ กั อาศยั อยรู่ ะหวา่ งการศกึ ษาหรอื เมอ่ื เปลยี่ นแปลงสถานทที่ พี่ กั อาศยั อยู่ระหว่างการศึกษาใหม่ หรือเม่ือกลับถึงเขตควบคุมภายในก�ำหนดเวลา แล้วแต่กรณี ให้ถือว่าเป็นผู้ออกนอก เขตควบคุมโดยไมไ่ ด้รับอนญุ าต และมคี วามผิดตามกฎหมาย 143

แบบค�ำร้องขออนุญาตออกนอกเขตควบคมุ เป็นการชั่วคราว แบบค�ำขอ ออกนอกเขตอ�ำเภอ เขียนท.ี่ .......................................................... วนั ที.่ .........เดือน.........................พ.ศ. .................. 1) เรื่อง ขออนุญาตออกนอกเขตควบคุมเปน็ การชว่ั คราวเพ่อื รับการศึกษาในสถานศกึ ษา เรยี น นายอำ� เภอ/ปลดั อ�ำเภอผเู้ ปน็ หัวหน้าประจำ� ก่งิ อำ� เภอ......................................................................... ดว้ ยขา้ พเจา้ (นาย, นาง, นางสาว, เดก็ ชาย, เดก็ หญงิ ระบ)ุ ............................................อาย.ุ ...........ปี หมายเลขประจำ� ตวั ..............................ชอื่ หมบู่ า้ น.......................................................บา้ นเลขท.่ี ..........หมทู่ .ี่ ........ ตำ� บล..........................................อำ� เภอ......................................จงั หวดั .........................................ไดแ้ นบหลกั ฐาน ประกอบดังน้ี 1. สำ� เนาทะเบยี นประวตั หิ รอื บตั รประจำ� ตัว 2. หนงั สอื รับรองการเปน็ นกั เรยี น นักศึกษา 3. รปู ถ่ายขนาด 1 นิ้ว จำ� นวน 4 รูป 4. หลักฐานอนื่ ๆ ขออนญุ าตเดนิ ทางออกนอกเขตอำ� เภอ/กงิ่ อำ� เภอ.................................จงั หวดั ...................................... เปน็ การชว่ั คราวไปยงั ......................................อำ� เภอ/เขต...........................(อำ� เภอ จงั หวดั หรอื กรงุ เทพ)................ เพอื่ เขา้ เรยี น ณ...........(ชอ่ื สถานศกึ ษา)......... หลกั สตู ร.........................ตงั้ แตว่ นั ท.่ี .......เดอื น................พ.ศ. ............ ถึงวันท.ี่ ........เดอื น....................พ.ศ. ..........รวมระยะเวลา............วัน...........เดือน.............ปี โดยระหว่างการเขา้ เรยี น ในสถานศกึ ษา ขา้ พเจา้ ขออนญุ าตพกั อาศยั อยบู่ า้ นเลขท.ี่ ..........หมทู่ .่ี ........ ตำ� บล/แขวง....................................... อ�ำเภอ/เขต...................................จงั หวดั ......................................... จึงเรียนมาเพื่อโปรดพจิ ารณาออกหนังสอื อนญุ าตใหก้ บั ข้าพเจา้ ตอ่ ไป ขอแสดงความนับถอื (ลงช่อื ) ................................................. (ผขู้ ออนญุ าต) (.................................................) 2) ความเหน็ ของผ้ใู หญ่บา้ น/กำ� นัน ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ (ลงช่ือ) ................................................. (ผูใ้ หญบ่ า้ น/กำ� นนั ) วนั ท่.ี .......เดอื น...................พ.ศ............ 3) ความเหน็ ของเจา้ พนักงาน/นายอ�ำเภอ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ (ลงชื่อ) ................................................. (ปลดั อำ� เภอ/นายอำ� เภอ) วนั ที.่ .......เดือน...................พ.ศ............ 144


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook