หน่วยท่ี 1 หลกั การของระบบคอมพวิ เตอร์ Computer System แผนผงั ความคดิ (Mind Mapping) 7. ปรัชญา 1. ความหมาย 2. องคป์ ระกอบ ของเศรษฐกิจ ของระบบ ของระบบ คอมพวิ เตอร์ คอมพิวเตอร์ พอเพยี ง หลกั การของ 3. ประเภทของ 6. การนา ระบบ คอมพวิ เตอร์ คอมพวิ เตอรไ์ ป คอมพิวเตอร์ ใชง้ าน 5. คุณลกั ษณะ 4. หลักการ ของเครอ่ื ง ทางานของ คอมพวิ เตอร์ คอมพิวเตอร์
2 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยท่ี 1 หลกั การของระบบคอมพิวเตอร์ คาชีแ้ จง 1. แบบทดสอบท้ังหมดมี 15 ขอ้ คิดเป็นคะแนน 15 คะแนน 2. ให้นักเรยี นเลือกคาตอบท่ถี กู ทีส่ ุดเพยี งคาตอบเดียวแลว้ ทาเครอ่ื งหมายกากบาท (X) ลงในกระดาษคาตอบ 3. แบบทดสอบมี 4 ตวั เลอื ก คอื ก, ข, ค, และ ง 4. ใช้เวลาในการทาแบบทดสอบ 15 นาที 1. องคป์ ระกอบของระบบคอมพวิ เตอร์ ประกอบดว้ ยอะไรบ้าง ก. ฮารด์ แวร์ และโปรแกรม ข. ฮารด์ แวร์ โปรแกรม บคุ ลากร และข้อมลู ค. ฮารด์ แวร์ โปรแกรม ขอ้ มลู และโปรแกรมเมอร์ ง. ฮารด์ แวร์ โปรแกรม ขอ้ มูลและกระบวนการทางาน 2. หน่วยประมวลผลกลาง หรือซีพียู จดั อยใู่ นสว่ นใดของระบบคอมพวิ เตอร์ ก. ฮารด์ แวร์ ข. โปรแกรม ค. อปุ กรณต์ อ่ พ่วง ง. อปุ กรณจ์ ัดเกบ็ ขอ้ มูลสารอง 3. ข้อใดอธบิ ายความหมายของ ระบบคอมพวิ เตอร์ ไดถ้ ูกตอ้ งที่สดุ ก. อปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ท่มี องเหน็ และจับตอ้ งสัมผสั ได้ทัง้ หมด ข. อุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์ท่มี คี วามสามารถในการประมวลผลแบบอตั โนมัติ ค. ข้ันตอนการปฏิบัติงานท่ีมีการกาหนดอย่างชัดเจนไม่ว่าจะอยู่ในรูปของเอกสาร สื่อ อิเลก็ ทรอนิกส์ หรอื โดยวธิ กี ารอ่ืน ๆ ง. อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ ท่ีเช่ือมการทางานเข้าด้วยกัน โดยได้มีการกาหนด คาส่ัง ชุดคาส่ัง และแนวทางปฏิบัติงานให้อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ทาหน้าท่ีประมวลผลข้อมูล โดยอตั โนมัติ 4. ฮาร์ดแวร์ในข้อใด ทาหนา้ ที่เปน็ จดุ ศูนยก์ ลางในการเชอ่ื มต่อฮารด์ แวรอ์ น่ื ๆ เขา้ ด้วยกัน ก. เคส ข. แรม ค. ซีพยี ู ง. เมนบอร์ด 5. ระบบปฏิบตั ิการ Windows 8.1 จัดเปน็ โปรแกรมประเภทใด ก. โปรแกรมประยุกต์ ข. โปรแกรมยูทลิ ิตี้ ค. โปรแกรมระบบ ง. ดีไวซ์ไดรฟ์ เวอร์
3 6. โปรแกรมควบคุมการทางานของพรน้ิ เตอร์ จัดเปน็ โปรแกรมประเภทใด ก. โปรแกรมประยุกต์ ข. โปรแกรมยูทิลติ ี้ ค. โปรแกรมระบบ ง. ดีไวซ์ไดรฟ์ เวอร์ 7. ระบบปฏบิ ัติการ Windows 8.1 มีหน้าที่สาคัญอย่างไร ก. เกบ็ ข้อมลู สารองของระบบคอมพิวเตอร์ ข. แสดงผลข้อมูลท่ีผา่ นการประมวลผลแล้ว ค. ประมวลผลข้อมูลทไ่ี ดจ้ ากขนั้ ตอนการนาเข้าข้อมลู ง. เปน็ ตัวกลางในการให้ผใู้ ช้สามารถติดต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ 8. โปรแกรมประเภทใด ทาหนา้ ท่บี บี อดั ข้อมลู ให้มขี นาดเลก็ เพอ่ื สะดวกในการจดั เกบ็ ก. ยูทลิ ิต้ี ข. เบราวเ์ ซอร์ ค. ดไี วซไ์ ดรฟ์ เวอร์ ง. ระบบปฏบิ ัตกิ าร 9. สมปองมหี นา้ ที่ปูอนขอ้ มูลประจาวนั เขา้ สรู่ ะบบ และปฏบิ ตั ิงานตามข้นั ตอนในคู่มือทางาน เพ่ือให้ ระบบพิมพ์รายงานผลการดาเนินงานประจาวันแก่ผู้จัดการ “สมปอง” เป็นบุคลากรด้านใดที่ เกย่ี วขอ้ งกับคอมพิวเตอร์ ก. ช่างเทคนคิ คอมพิวเตอร์ ข. ผ้ใู ช้งานคอมพิวเตอร์ ค. ผดู้ ูแลระบบเน็ตเวริ ก์ ง. นกั วเิ คราะห์ระบบ 10. เม่อื มีการนาระบบ Input, Processing, Output และ Storage เขา้ ด้วยกนั เรียกวา่ อะไร ก. วงจรการพัฒนาระบบสารสนเทศ ข. วงจรการประมวลผลข้อมลู ค. ระบบคอมพวิ เตอร์ ง. ระบบปฏิบตั ิการ 11. คอมพิวเตอร์ประเภทใดตอ่ ไปนี้ ทมี่ ีประสิทธิภาพสูงทส่ี ุด ก. มินิคอมพวิ เตอร์ ข. ซเู ปอร์คอมพิวเตอร์ ค. โน๊ตบคุ๊ คอมพิวเตอร์ ง. เมนเฟรมคอมพวิ เตอร์ 12. คอมพิวเตอรข์ อ้ ใดตอ่ ไปน้ี จดั อยูใ่ นประเภทคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ก. มินิคอมพวิ เตอร์ ข. ซเู ปอรค์ อมพวิ เตอร์ ค. โน๊ตบคุ๊ คอมพิวเตอร์ ง. เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ 13. หน่วยความจุตามข้อใด ทีม่ ปี ริมาณสูงทสี่ ดุ ก. TB ข. GB ค. MB ง. KB 14. ข้อใดตอ่ ไปน้ี ไม่ใช่ คณุ สมบัตขิ องคอมพวิ เตอร์ ก. มีความเรว็ สงู ข. มคี วามแม่นยา ค. มคี วามนา่ เชอ่ื ถือ ง. มีความคิดสรา้ งสรรค์
4 15. ข้อใดต่อไปนีก้ ล่าวถงึ ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ถกู ตอ้ งทส่ี ดุ ก. ความพอประมาณ ความมเี หตุผล ความรู้ ข. ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล ความมีคณุ ธรรม ค. ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล ความมีภมู ิคุม้ กนั ในตัวทด่ี ี ง. ความพอประมาณ ความมเี หตุผล ความรู้ ความมคี ณุ ธรรม
5 หนว่ ยที่ 1 หลกั การของระบบคอมพวิ เตอร์ (Computer System) ======================================================= สาระสาคัญ คอมพิวเตอร์มีเทคโนโลยีและการทางานคือ จากรับข้อมูลทางหน่วยนาเข้าข้อมูล ซ่ึงข้อมูล หรือคาส่ังต่าง ๆ ท่ีนาเข้าถูกเก็บไว้ท่ีหน่วยความจา จากนั้นก็จะถูกนาไปประมวลผลโดยหน่วย ประมวลผลกลาง แล้วนาผลท่ีได้จากการประมวลผลมาเก็บไว้ในหน่วยความจา พร้อมทั้งแสดงออก ทางหน่วยแสดงผลข้อมูล ดังนั้นการทางานของระบบคอมพิวเตอร์จึงประกอบด้วย 4 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ หน่วยนาเขา้ ข้อมลู หน่วยประมวลผลกลาง หนว่ ยความจา และหนว่ ยแสดงผลข้อมลู สาระการเรียนรู้ 1. ระบบคอมพิวเตอร์ 2. ประเภทของคอมพวิ เตอร์ 3. หลกั การทางานของคอมพวิ เตอร์ 4. คุณลกั ษณะของคอมพวิ เตอร์ 5. การนาคอมพวิ เตอร์ไปใช้งาน 6. ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1. บอกความหมายของระบบคอมพวิ เตอร์ได้ 2. บอกองค์ประกอบของระบบคอมพวิ เตอร์ได้ 3. บอกประเภทของคอมพิวเตอร์ได้ 4. อธิบายหลักการทางานของคอมพิวเตอร์ได้ 5. บอกคณุ ลกั ษณะของคอมพวิ เตอร์ได้ 6. บอกการนาคอมพวิ เตอรไ์ ปใชง้ านได้ 7. บอกความหมายของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งได้
6 1. ความหมายของระบบคอมพวิ เตอร์ คอมพวิ เตอร์ (Computer) มีความหมายตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 หมายถึง เครอ่ื งอเิ ล็กทรอนิกส์แบบอตั โนมัติ ทาหนา้ ท่ีเสมอื นสมองกล ใชส้ าหรับแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งที่ งา่ ยและซับซอ้ น โดยวธิ ที างคณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ หมายถึง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ท่ีมีความสามารถในการประมวลผลแบบ อัตโนมัติ เมื่อรับคาสั่งหรือข้อมูลเข้ามาทางอุปกรณ์นาเข้า ประมวลผลจนได้ผลลัพธ์หรือสารสนเทศ ตามท่ีต้องการและแสดงผลลัพธ์ออกมาทางอุปกรณ์แสดงผล อีกท้ังยังสามารถจัดเก็บข้อมูลหรือ สารสนเทศเหลา่ น้นั ลงในส่ือจัดเก็บข้อมลู เช่น ฮาร์ดดิสก์ แฟลชไดรฟ์ เป็นตน้ ระบบ (System) หมายถึง ขั้นตอนการปฏบิ ตั ิงานท่มี กี ารกาหนดอยา่ งชดั เจนอาจจะอยู่ในรูป ของเอกสาร สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือโดยวิธีการอ่ืน ๆ เพ่ือให้ได้ผลลัพธ์ตามท่ีต้องการ มีองค์ประกอบ คอื ปจั จัยนาเข้า กระบวนการ ผลผลิต และขอ้ มลู ปอู นกลบั ซงึ่ มีความสมั พันธ์เชอ่ื มโยงกัน ระบบคอมพิวเตอร์ (Computer System) หมายถึง ชุดอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อ เข้าดว้ ยกนั และสามารถทางานร่วมกันได้ โดยมีการกาหนดชุดคาสั่งหรือโปรแกรมควบคุม เพื่อให้ชุด อุปกรณ์ทาหนา้ ทปี่ ระมวลผลข้อมูลโดยอตั โนมตั ิและได้ผลลพั ธ์ตามที่ต้องการ โดยมีข้ันตอนคือ นาเข้า ขอ้ มูล ประมวลผลขอ้ มูล แสดงผลลัพธ์ และขอ้ มูลปูอนกลบั 2. องคป์ ระกอบของระบบคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องทางานเป็นระบบ ดังน้ัน ส่วนประกอบแต่ละ องค์ประกอบจะตอ้ งทางานสมั พนั ธ์กนั เพ่อื ให้บรรลุวัตถุประสงค์ ซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ประกอบด้วย องค์ประกอบสาคญั 4 สว่ น ไดแ้ ก่ ฮาร์ดแวร์ โปรแกรม บุคลากร และขอ้ มูล ดังภาพที่ 1.1 ฮารด์ แวร์ โปรแกรม ข้อมลู บุคลากร ภาพท่ี 1.1 : ระบบคอมพิวเตอร์ ทมี่ า : ชเู กียรติ คันฉ่อง, 2559
7 2.1 ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ฮาร์ดแวร์ หมายถึง อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่มองเห็นและจับต้องสัมผัสได้ ประกอบด้วย เคส เมนบอร์ด ฮารด์ ดสิ ก์ ซพี ยี ู แรม แหล่งจ่ายไฟหรือเพาว์เวอร์ซัพพลาย ซีดี/ดีวีดี ไดร์ฟ และอุปกรณ์ ต่อพ่วงอืน่ ๆ ท่ีเกยี่ วข้อง เชน่ คยี ์บอรด์ เมาส์ จอภาพ เครื่องพิมพ์ ลาโพง เป็นต้น ซึ่งฮาร์ดแวร์น้ัน ๆ จะไม่สามารถทางานด้วยตัวเองได้ ต้องนาฮาร์ดแวร์เหล่าน้ันมาเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน โดยมีเมนบอร์ด เป็นจุดศูนย์กลางในการเช่ือมต่อเพ่ือใหฮ้ าร์ดแวร์ทางานร่วมกันเป็นระบบเรียกว่า ระบบคอมพิวเตอร์ โดยมีโปรแกรมระบบปฏิบัติการควบคุมให้ฮาร์ดแวร์ทางานร่วมกันเพ่ือทางานด้านต่าง ๆ ตามความ ตอ้ งการของผใู้ ชง้ าน ฮารด์ แวร์ของระบบคอมพิวเตอร์ แบง่ ตามการทางานได้เป็น 4 สว่ น ดงั นี้ 2.1.1 อปุ กรณ์นาเขา้ ข้อมูล (Input Device) ทาหน้าท่ีในการนาเข้าข้อมูลหรือคาสั่ง เข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น คีย์บอร์ด เมาส์ ไมโครโฟน สแกนเนอร์ เปน็ ต้น 2.1.2 หนว่ ยประมวลผลกลางหรอื ซพี ียู (CPU : Central Processing Unit) ทาหน้าที่ในการทางานตามคาสั่งท่ีบรรจุอยู่ในตัวซีพียู ประมวลผลข้อมูลใน ลักษณะของการคานวณและเปรยี บเทียบ โดยรบั ข้อมูลจากหน่วยนาเข้าข้อมูลแล้วทาการประมวลผล และจดั เกบ็ ข้อมูลไวท้ ่หี นว่ ยเกบ็ ข้อมลู และทาการสง่ ผลลพั ธ์ทไ่ี ดจ้ ากการประมวลออกสู่หน่วยแสดงผล ใหผ้ ูใ้ ชต้ อ่ ไป 2.1.3 หนว่ ยเก็บข้อมูล (Storage Device) แบ่งตามหนา้ ที่ได้เปน็ 2 ประเภท คือ 1) หน่วยเก็บข้อมูลหลักหรือหน่วยความจาหลัก (Primary Storage หรือ Main Memory) ทาหนา้ ที่เก็บโปรแกรมหรอื ข้อมลู ท่ีรับมาจากหน่วยนาเข้าข้อมูลเพื่อเตรียมส่งให้กับหน่วย ประมวลผลกลางเพ่ือทาการประมวลผล และรับผลลัพธ์ท่ีได้จากการประมวลผลเพื่อส่งออกหน่วย แสดงผล อาจแยกได้เป็น 2 ชนิด คือ แรม (RAM : Random Access Memory) ท่ีสามารถอ่านและ เขียนขอ้ มลู ไดใ้ นขณะทีเ่ ปดิ เครือ่ งอยู่แตเ่ มอ่ื ปิดเคร่ืองข้อมูลในแรมจะหายไป และรอม (ROM : Read Only Memory) เป็นหน่วยความจาที่อ่านได้อย่างเดียว เช่น ไบออส (BIOS : Basic Input Output System) เป็นโปรแกรมฝงั ไว้ใชต้ อนบู๊ตเพอื่ ให้เคร่ืองคอมพวิ เตอร์เริม่ ต้นทางาน เป็นต้น 2) หนว่ ยเก็บข้อมูลสารอง (Secondary Storage) เป็นหน่วยท่ีทาหน้าที่จัดเก็บ ข้อมูลหรือโปรแกรมต่าง ๆ ท่ีจะปูอนเข้าสู่หน่วยความจาหลักภายในเคร่ือง ก่อนทาการประมวลผล และเกบ็ ผลลัพธ์จากการประมวลผล ข้อมูลภาพ ข้อมูลเพลง ไฟล์ท่ีถูกบันทึกด้วยโปรแกรมต่าง ๆ ซึ่ง ขอ้ มูลจะยังคงเก็บอยู่แม้วา่ จะเปิดหรอื ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ก็ตาม เช่น ฮาร์ดดิสก์ แฟลชไดร์ฟ แผ่น ซดี ี/ดวี ีดี เมมโมร่กี ารด์ เปน็ ต้น
8 2.1.4 อุปกรณ์แสดงผล (Output Device) ทาหน้าท่ีในการแสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการ ประมวลผลเพ่อื ให้ผูใ้ ช้สามารถดูผลลพั ธ์ทีเ่ กิดขน้ึ ได้ เชน่ จอภาพ เคร่อื งพมิ พ์ ลาโพง เปน็ ตน้ 2.2 โปรแกรม (Program) โปรแกรม หรือซอฟตแ์ วร์ (Software) หมายถึง ชุดคาส่ังที่เขียนหรือพัฒนาเพื่อควบคุม ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ใหท้ างานรว่ มกนั ได้ และเพ่อื ใช้งานด้านใดด้านหนึ่งโดยเฉพาะตามที่ผู้ใช้ต้องการ แบง่ เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ 2.2.1 โปรแกรมระบบ (System Program) ทาหน้าที่เป็นตัวกลางในการทาให้โปรแกรมประยุกต์ติดต่อกับฮาร์ดแวร์ของ คอมพิวเตอร์และเตรียมส่วนติดต่อกับบุคลากรทางคอมพิวเตอร์ดังภาพท่ี 1.2 โดยจะทางานอยู่ เบื้องหลงั ทาหน้าที่จัดสรรทรัพยากรของคอมพิวเตอรแ์ ละจดั การการทางานของโปรแกรมต่าง ๆ ดงั น้ี บคุ ลากรทางคอมพวิ เตอร์ (People Ware) โปรแกรมประยุกต์ (Application Program) โปรแกรมระบบ (System Program) ฮารด์ แวร์ (Hardware) (ระบบปฏบิ ัติการ ยูทิลิตี้ ดไี วซ์ไดรฟ์ เวอร์) (โปรแกรมสานักงาน ดูหนงั ฟงั เพลง เบราสเ์ ซอรอ์ ินเตอร์เนต็ ) (ผใู้ ช้งานคอมพิวเตอร์ ชา่ งเทคนิคคอมพวิ เตอร์ นักเขียนโปรแกรม) ภาพท่ี 1.2 : โปรแกรมระบบ ที่มา : นายชเู กยี รติ คนั ฉ่อง, 2559 1) โปรแกรมระบบปฏิบัติการ หรือเรียกว่า โอเอส (Operating System : OS) คอื โปรแกรมที่ทาหน้าท่ีจัดการและควบคุมการทางานร่วมกันของฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์
9 ทางานร่วมกับโปรแกรมประยุกต์ และจัดเตรียมส่วนติดต่อระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์ โปรแกรม ระบบปฏิบัติการที่นิยมใช้ในปัจจุบันดังภาพท่ี 1.3 เช่น Windows 8.1 (วินโดว์ 8.1), Windows 10 (วินโดว์ 10), Unix (ยูนกิ ส์), Linux (ลินุกส์), Mac OS (แม๊ค โอเอส) เปน็ ตน้ ภาพท่ี 1.3 : โปรแกรมระบบปฏบิ ตั ิการหรอื โอเอส ท่มี า : https://i1.wp.com/help.x-cart.com/images/1/1d/OS_logos.png 2) โปรแกรมยทู ิลิต้ี (Utility Program) หรือโปรแกรมอรรถประโยชน์ ทาหน้าท่ี จดั การทรพั ยากรของเครื่องคอมพิวเตอร์ เพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ ช่วยทาให้เครื่อง คอมพิวเตอร์ทางานเร็วข้ึนดังภาพที่ 1.4 เช่น โปรแกรมจัดเรียงข้อมูลบนฮาร์ดดิสก์ใหม่ โปรแกรม ยกเลิกการตดิ ตัง้ โปรแกรม โปรแกรมบบี อดั ไฟล์ โปรแกรมสารองข้อมลู เป็นต้น ภาพที่ 1.4 : โปรแกรมยูทิลติ ี้ ท่มี า : http://nanat1997.weebly.com/uploads/6/0/0/4/60046191/4987163_orig.png 3) ดไี วซไ์ ดรฟ์ เวอร์ (Device Driver) เปน็ โปรแกรมมหี น้าทีค่ วบคมุ อุปกรณ์ต่าง ๆ ใหท้ างานสอดคล้องกันโดยไมเ่ กิดขอ้ ผิดพลาด เชน่ ควบคมุ ฮาร์ดดสิ ก์ การด์ จอ เมาส์ เปน็ ต้น
10 2.2.2 โปรแกรมประยกุ ต์ (Application Program) เป็นโปรแกรมท่ีเขียนหรือพัฒนาขึ้นเพ่ือใช้งานด้านใดด้านหน่ึง โดยเฉพาะตามท่ี ผใู้ ช้ต้องการ เชน่ ไมโครซอรฟ์ ออฟฟิส (Microsoft Office) ท่ีสานักงานใช้สาหรับจัดการงานด้านการ จัดทาเอกสาร การคานวณ การนาเสนอ การจัดการฐานข้อมูล เป็นต้น ดังภาพที่ 1.5 หรือใช้ในการ สารวจและค้นหาข้อมูลสารสนเทศบนระบบอินเทอร์เน็ต เช่น Microsoft Internet Explorer, Google Chrome, Mozilla Firefox เป็นต้น ภาพท่ี 1.5 : โปรแกรมไมโครซอรฟ์ ออฟฟิส ท่ีมา : https://fhphisuttida.files.wordpress.com/2014/09/ms-office-2010.jpg 2.3 บคุ ลากรทางคอมพวิ เตอร์ (People Ware) คอมพิวเตอร์จะตอ้ งใชบ้ ุคลากรในการสั่งให้เครอื่ งคอมพิวเตอร์ทางานซ่ึงสามารถแบ่งได้ หลายระดับ โดยจะทางานเพ่ือให้บริการด้านคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ซ่ึงมีความสัมพันธ์กับระบบ คอมพิวเตอรแ์ ละระบบสารสนเทศ ทางานรว่ มกับฮาร์ดแวร์และโปรแกรม ดังภาพที่ 1.6 แบ่งได้ดังนี้ 2.3.1 ยสู เซอร์ (User) ยูสเซอร์หรือผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ คือผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ระดับพ้ืนฐานที่มี ลักษณะการใชง้ านท่ัวไป เชน่ งานธุรการ งานสานักงาน งานปอู นขอ้ มูล งานบริการลูกคา้ เปน็ ต้น 2.3.2 ชา่ งเทคนิคคอมพวิ เตอร์ (Computer Technician) มหี นา้ ที่ช่วยเหลอื และแกไ้ ขปญั หาท่เี กิดขนึ้ เก่ียวกับคอมพวิ เตอร์ทง้ั ด้านฮาร์ดแวร์ หรือด้านโปรแกรม ให้ทันท่วงทีเพ่ือให้คอมพิวเตอร์สามารถกลับมาใช้งานได้ในระยะเวลาที่เร็วที่สุด และจะตอ้ งมที ักษะ ความชานาญ และประสบการณ์ในการแก้ปญั หา 2.3.3 นกั วเิ คราะห์ระบบ (System Analyst) มีหน้าท่ีวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้และผู้บริหารของหน่วยงาน ออกแบบ กระบวนการทางานของโปรแกรมใหผ้ ูใ้ ช้งานคอมพิวเตอร์ใช้งานโปรแกรมไดง้ ่ายและสะดวกทส่ี ุด
11 2.3.4 โปรแกรมเมอร์ (Programmer) มีหน้าที่เขียนโปรแกรมซ่ึงนักวิเคราะห์ระบบได้ออกแบบไว้ เพ่ือสร้างระบบงาน นน้ั ออกมาใหใ้ ช้งานไดจ้ รงิ ๆ 2.3.5 ผ้ดู ูแลระบบเน็ตเวริ ์ก (Network Administrator) มีหน้าที่ดูแลและบริหารระบบเน็ตเวิร์กหรือระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์และ แกไ้ ขปัญหาทเ่ี กิดข้ึน เชน่ การติดตง้ั ระบบเครือข่าย การควบคุมสิทธิผู้ท่ีใช้งาน การปูองกันการบุกรุก เครอื ข่าย เป็นตน้ ภาพท่ี 1.6 : บุคลากรทางคอมพวิ เตอร์ ท่มี า : http://home.dsd.go.th/hongsonskill/images/stories/new56/29012556p12.jpg 2.3.6 เว็บมาสเตอร์ (Web Master) มีหน้าท่ีในการออกแบบ ให้คาปรึกษา สร้าง ดูแล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ ใหผ้ ใู้ ช้อนิ เทอร์เน็ตมีความสะดวกในการใชบ้ รกิ ารอนิ เทอร์เน็ต เชน่ สร้างเวบ็ ไซตใ์ ห้ลกู ค้าเยี่ยมชมและ สั่งซ้อื สินค้า สร้างบรกิ ารเวบ็ บอรด์ เปน็ ต้น
12 2.4 ข้อมูล (Data) ข้อมูล คือ ข้อเท็จจริงที่ยังไม่ผ่านการประมวลผล เช่น รายการส่ังซ้ือสินค้าจากลูกค้า รายการสง่ สนิ คา้ ชื่อท่ีอยู่ลกู ค้า ยอดขายในแตล่ ะวนั เป็นต้น ข้อมลู ท่ผี ่านการประมวลผลแล้ว เรียกว่า สารสนเทศ โดยข้อมูลจะถูกจัดเก็บไว้ในรูปแบบของไฟล์ (File) ข้อมูลอาจเป็นได้หลายชนิด เช่น ตัวเลข ตวั อกั ษร รูปภาพ รปู ถา่ ย เปน็ ต้น 3. ประเภทของคอมพวิ เตอร์ ประเภทของคอมพวิ เตอร์พิจารณาจากขนาดและขีดความสามารถของคอมพิวเตอร์เป็นหลัก ซ่งึ แบง่ ได้ 4 ประเภท ดังน้ี 3.1 ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (Super Computer) ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ดังภาพท่ี 1.7 เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่และมีประสิทธิภาพ สงู ทส่ี ดุ ในประเภทของคอมพิวเตอร์ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์มีซีพียูจานวนนับพันตัว สามารถประมวลผล ชุดคาสัง่ ไดห้ ลายลา้ นคาส่ังตอ่ วนิ าที เหมาะกับงานท่ีมคี วามซบั ซ้อนสงู มาก เช่น งานด้านวิทยาศาสตร์ งานด้านวศิ วกรรมศาสตร์ งานดา้ นพยากรณอ์ ากาศ และงานดา้ นวิจัยนวิ เคลยี ร์ เป็นตน้ ภาพที่ 1.7 : ซูเปอรค์ อมพวิ เตอร์ ทีม่ า : http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/d/d3/IBM_Blue_Gene_P_supercomputer.jpg 3.2 เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (Mainframe Computer) เมนเฟรมคอมพิวเตอร์เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพด้อยกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ นยิ มนามาใช้ในงานภาคธุรกิจขนาดใหญ่ดังภาพที่ 1.8 เชน่ ธนาคาร บรษิ ัทประกันภัยและสายการบิน นามาใช้เพื่อประมวลผลแบบรวมศูนย์ ด้วยการจัดต้ังเป็นเครื่องแม่ข่ายเพื่อบริการเครื่องลูกข่ายท่ีมี การเชอ่ื มต่อถงึ กันนบั พนั เคร่ือง เปน็ ต้น มีความเร็วในการประมวลผลกว่าพนั ล้านคาสั่งตอ่ วินาที
13 ภาพท่ี 1.8 : เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ ที่มา : http://www.trendinginsocial.com/wp-content/uploads/2015/01/ibm-zec12.jpg 3.3 มนิ ิคอมพิวเตอร์ (Mini Computer) มินิคอมพิวเตอร์เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดกลาง มีประสทิ ธิภาพในการทางานด้านความเร็ว ความสามารถในการประมวลผลน้อยกวา่ เมนเฟรมคอมพิวเตอร์แต่สูงกว่าไมโครคอมพิวเตอร์ และยัง รองรับการทางานจากผใู้ ช้ได้หลายคนในการทางานทแี่ ตกตา่ งกันดงั ภาพที่ 1.9 เช่น บริษัทท่ีให้บริการ โทรศัพทเ์ คลอ่ื นที่ ตลาดหลกั ทรพั ย์ สถานศึกษา การจองห้องพักของโรงแรม เปน็ ต้น ภาพที่ 1.9 : มนิ ิคอมพวิ เตอร์ ท่ีมา : http://www.trendinginsocial.com/wp-content/uploads/2015/01/ibm-zec12.jpg
14 3.4 ไมโครคอมพิวเตอร์ (Microcomputer) ไมโครคอมพวิ เตอร์ดงั ภาพที่ 1.10 เปน็ คอมพวิ เตอร์ระดับเล็กเม่ือเทียบกับคอมพิวเตอร์ ประเภทตา่ ง ๆ ตามทไี่ ด้กล่าวมา เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพน้อยท่ีสุดแต่ได้รับความนิยมมาก ท่สี ดุ โดยไดน้ ามาใช้เป็นคอมพวิ เตอรส์ ่วนบุคคลและในองคก์ รต่าง ๆ แบง่ ได้เปน็ 4 ชนดิ คอื ภาพที่ 1.10 : ไมโครคอมพิวเตอร์ ทมี่ า : https://cdn-images-1.medium.com/max/800/1*VfLnu3rkQCRGSF_CN0deXQ.png 3.4.1 เดสกท์ ็อปคอมพิวเตอร์ (Desktop Computer) เป็นคอมพิวเตอร์ทมี่ ีขนาดเล็ก และนามาใชง้ านเปน็ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลทาให้ เรียกอีกอย่างว่า พีซีคอมพิวเตอร์ (PC : Personal Computer) หรือเรียกส้ัน ๆ ว่า คอมพิวเตอร์ (Computer) แตใ่ หญเ่ กินไปสาหรับการพกพา 3.4.2 โน้ตบกุ๊ คอมพวิ เตอร์ (Notebook Computer) มีคุณลักษณะที่ดีคือ น้าหนักเบา เหมาะในการพกพาไปในสถานที่ต่าง ๆ เนื่องจากสามารถเก็บไว้ในกระเป๋าเอกสารได้ เรียกอีกอย่างว่า แล็ปท็อปคอมพิวเตอร์ (Laptop Computer) หรอื คอมพิวเตอรพ์ กพา 3.4.3 แท็ปเลต็ พซี ี (Tablet PC) เปน็ คอมพวิ เตอรส์ ่วนบุคคลท่ีสามารถพกพาได้สะดวกและใชห้ น้าจอสัมผัสในการ ทางานเป็นอันดับแรก ออกแบบให้สามารถทางานไดด้ ้วยตวั มนั เองและได้รวมการทางานทกุ อย่างไว้ใน จอสัมผสั โดยใช้ปากกาสไตลัส หรือปลายนิ้ว ในการเลือกหรือสั่งงานแทนการใช้คีย์บอร์ดและเมาส์ มี อปุ กรณ์ไร้สายสาหรับการเชอื่ มตอ่ อนิ เทอร์เนต็ และระบบเครือข่าย
15 3.4.4 ปาล์มคอมพวิ เตอร์ (Palm Computer) เป็นคอมพิวเตอร์มือถือ (Handheld Computer) ประกอบด้วยปากกา การรู้จัก จดจาลายมอื เคร่ืองมอื สาหรับจัดการกับงานส่วนตัวและการส่ือสาร ปัจจุบันผู้ผลิตได้นาเทคโนโลยีน้ี ผนวกเขา้ กบั แท็ปเลต็ พีซีซง่ึ ได้รับความนิยมอยา่ งมาก 4. หลักการทางานของคอมพวิ เตอร์ หลักการทางานของคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยการทางานตามกระบวนการทางาน ได้แก่ หน่วยนาเข้าขอ้ มูลซง่ึ จะนาเข้าขอ้ มูลสรู่ ะบบคอมพิวเตอร์ และส่งขอ้ มูลใหก้ บั หนว่ ยประมวลผลเพ่ือทา การประมวลผลข้อมูลให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ และมีการจัดเก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้ในหน่วยจัดเก็บ ข้อมูล และส่งผลลัพธ์ไปยังหน่วยแสดงผลข้อมูล ดังภาพท่ี 1.11 ซ่ึงมีรายละเอียดการทางานและ หลกั การทางานของคอมพิวเตอร์ ดังนี้ หน่วยนาเขา้ ข้อมูล หนว่ ยจดั เกบ็ ขอ้ มูล หนว่ ยความจาหลกั หน่วยประมวลผล หนว่ ยแสดงผลข้อมลู หนว่ ยจดั เกบ็ ข้อมลู หน่วยความจาสารอง ภาพที่ 1.11 : กระบวนการทางานของคอมพวิ เตอร์ ทมี่ า : ชูเกยี รติ คันฉ่อง, 2559 4.1 หน่วยนาเขา้ ข้อมลู (Input Unit) คอมพิวเตอร์เร่ิมต้นด้วยการนาเข้าข้อมูลสู่เคร่ืองคอมพิวเตอร์ ผ่านทางอุปกรณ์นาเข้า ชนิดต่าง ๆ เช่น คียบ์ อร์ดเพอ่ื พิมพข์ อ้ ความหรอื อกั ขระ เมาส์เพอ่ื คลิกสั่งงาน เปน็ ต้น 4.2 หนว่ ยประมวลผล (Processing Unit) นาข้อมูลท่ีได้รับมาจากหน่วยนาเข้าข้อมูล แล้วทาการประมวลผลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ ตามที่ต้องการ เช่น นาข้อมูลมาหาผลรวม นาข้อมูลมาจัดกลุ่ม นาข้อมูลมาหาค่ามากท่ีสุดหรือน้อย ทส่ี ุด เป็นต้น มกี ารติดตอ่ รบั -สง่ ข้อมลู กับหน่วยจดั เก็บข้อมูล และเม่ือประมวลผลเสรจ็ จะส่งผลลัพธ์ไป ยังหน่วยแสดงผลขอ้ มูล
16 4.3 หนว่ ยแสดงผลข้อมูล (Output Unit) เป็นการนาผลลัพธ์ที่ได้หลังจากการประมวลผลมาแสดงให้ผู้ใช้ทราบทางอุปกรณ์ แสดงผล เชน่ จอภาพ ลาโพง และพรน้ิ เตอร์ เป็นตน้ 4.4 หน่วยจดั เก็บขอ้ มูล (Storage Unit) คอมพวิ เตอร์จะทาการจดั เก็บข้อมูลลงในอปุ กรณ์จัดเก็บข้อมูล เช่น หน่วยความจาหลัก คือ แรม หนว่ ยความจาสารอง คอื ฮาร์ดดิสก์ แฟลชไดร์ฟ แผ่นซีดี/ดวี ีดี เป็นตน้ 5. คณุ ลักษณะของคอมพิวเตอร์ คุณลักษณะของคอมพิวเตอรท์ ่ีจะแสดงถงึ ความแตกตา่ งของคอมพวิ เตอร์เม่ือเปรียบเทียบกับ คอมพวิ เตอร์เครอ่ื งอื่น ๆ จะพจิ ารณาจากคณุ ลกั ษณะของ ขนาดข้อมูล ความเร็วของซีพยี ู และความจุ ของแรม ตามรายละเอยี ดดังน้ี 5.1 ขนาดข้อมลู (Word Size) เวิร์ด คือหน่วยข้อมูลจากการนากลุ่มบิตหลาย ๆ บิตมารวมกันเป็นเวิร์ด ซึ่งหน่ึงเวิร์ด อาจมีขนาด 16 บิต หรือ 32 บิต ก็ได้ ดังน้ันหากขนาดข้อมูลใหญ่ นั่นหมายถึง คอมพิวเตอร์จะมี ความสามารถในการรบั ส่งขอ้ มลู ระหว่างกนั ได้มากขึ้น เช่น หากมกี ารรับส่งขอ้ มลู ท่ีมีขนาด 64 บิต นั่น หมายความว่า ถ้าระบบคอมพิวเตอร์เครื่องใดมีขนาดเวิร์ดเพียง 16 บิต ก็จะต้องรับส่งกันถึง 4 รอบ ด้วยกัน แต่ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์ 32 บิต ก็จะรับส่งเพียง 2 รอบ แต่หากเป็นระบบคอมพิวเตอร์แบบ 64 บิต ก็จะรบั สง่ ข้อมูลกนั เพยี งรอบเดียวเท่าน้นั ในการนาขอ้ มูลไปใช้มีระดับโครงสร้างของข้อมลู (Data Structure) ดังนี้ 5.1.1 บติ (Bit) บิต คือ ข้อมูลที่มีขนาดเล็กท่ีสุด เป็นข้อมูลที่เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจ และนาไปใช้งานได้ ได้แก่ เลข 0 หรือ เลข 1 เท่าน้นั 5.1.2 ไบต์ (Byte) ไบต์ หรือ อกั ขระ (Character) ไดแ้ ก่ ตวั เลข ตวั อักษร หรือสญั ลักษณ์พิเศษ เช่น 0, 1, …, 9, A, B, …, Z ซง่ึ 1 ไบต์เทา่ กับ 8 บติ หรอื ตวั อกั ขระ 1 ตวั เป็นต้น 5.1.3 ฟลิ ด์ (Field) ฟิลด์ ได้แก่ ไบต์ หรือ อักขระตั้งแต่ 1 ตัวข้ึนไปรวมกันเป็นฟิลด์ เช่น เลข ประจาตวั (ID) ช่อื พนกั งาน (Name) เป็นตน้ 5.1.4 เรคคอร์ด (Record) เรคคอร์ด ได้แก่ ฟิลด์ตั้งแต่ 1 ฟิลด์ขึ้นไป มีความสัมพันธ์เก่ียวข้องรวมกันเป็น เรคคอร์ด เช่น ชอ่ื -สกุล เลขประจาตวั ขอ้ มูลของพนกั งาน 1 คน เป็น 1 เรคคอร์ด เป็นต้น
17 5.1.5 ไฟล์ (File) ไฟล์ หรือ แฟูมข้อมูล ได้แก่ เรคคอร์ดหลาย ๆ เรคคอร์ดรวมกัน ซ่ึงเป็นเรื่อง เดียวกัน เช่น ข้อมูลของประวัติพนักงานแต่ละคนรวมกันทั้งหมดเป็นไฟล์หรือแฟูมข้อมูลเก่ียวกับ ประวตั พิ นกั งานของบริษัท เป็นตน้ 5.1.6 ฐานขอ้ มูล (Database) ฐานข้อมูล คือ การเก็บรวบรวมไฟล์ข้อมูลหลาย ๆ ไฟล์ที่เก่ียวข้องกันมารวม เข้าด้วยกนั เช่น ไฟลข์ อ้ มูลของแผนกตา่ ง ๆ มารวมกัน เป็นฐานขอ้ มลู ของบรษิ ัท เป็นต้น 5.2 ความเร็วของซพี ยี ู หมายถึงความสามารถในการประมวลผลของซีพยี ู มีหนว่ ยวัดความเร็ว ดงั นี้ 5.2.1 กิกะเฮิรตซ์ (Gigahertz : GHz) เป็นหน่วยวัดความเร็วของคอมพิวเตอร์ โดยความเร็วที่ 1 MHz ต่อสัญญาณ นาฬกิ า หมายถงึ จานวนบติ (16, 32 หรอื 64) ท่ีถูกดาเนินการไดอ้ ย่างน้อยหนึ่งล้านคร้ังต่อวินาที ใน ปัจจุบันความเร็วของซีพียูอยู่ท่ีระดับหน่ึงพันล้านครั้งต่อวินาที หรือ GHz ดังภาพท่ี 1.12 เช่น ความเร็วของซพี ียู Intel Core 2 QUAD มีความเร็ว 2.83 GHz เป็นตน้ 2.83 GHz ภาพที่ 1.12 : ความเร็วของซีพยี ู ทีม่ า : ชูเกียรติ คนั ฉอ่ ง, 2559 5.2.2 มปิ ส์ (Million of Instructions Per Second : MIPS) เป็นหน่วยวัดความเร็วท่ีถูกนามาใช้กับคอมพิวเตอร์ระดับกลางขึ้นไป โดยอย่าง น้อยในเวลา 1 วนิ าที ซีพยี ูจะต้องประมวลผลไดจ้ านวนล้านคาสงั่ 5.2.3 ฟลอ็ ป (Floating Point Operations Per Second : FLOPS) เปน็ หน่วยวดั ความเร็วท่ีนามามาใชก้ บั ซูเปอร์คอมพวิ เตอร์ โดยไม่คานึงถึงจานวน คาสัง่ ท่ีถูกประมวลผล แต่จะวัดจากงานท่ีปฏิบัติการ โดยท่ีซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทั่วไปจะปฏิบัติการได้ 30 - 100 GFLOPS (Gigaflops) โดยที่ 1 GFLOP จะเท่ากบั 1 พันลา้ น FLOPS
18 5.3 ความจขุ องอปุ กรณจ์ ัดเก็บข้อมูล ความจุของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล (Storage capacity) เป็นตัวบ่งชี้ถึงสมรรถนะของ คอมพิวเตอร์ได้ เช่น ถา้ หากความจุของแรมมีขนาดความจุสูง จะทาให้สามารถจัดเก็บข้อมูลเพื่อใช้ใน การประมวลผลหรือรอการประมวลผลไดม้ าก ส่งผลให้คอมพวิ เตอร์มสี มรรถนะในการทางานท่ีเร็วข้ึน หรือฮาร์ดดิสก์ท่ีมีขนาดความจุสูงทาให้เก็บข้อมูลต่าง ๆ ได้จานวนมาก ดังภาพที่ 1.13 ฮาร์ดดิสก์มี ความจุ 1 TB ภาพที่ 1.13 : ความจขุ องฮาร์ดดิสก์ ทม่ี า : ชเู กียรติ คันฉ่อง, 2559 แสดงหน่วยวดั ความจขุ องอปุ กรณจ์ ัดเก็บข้อมูล ไดด้ ังน้ี 5.3.1 ไบต์ (Byte : B) ย่อมาจาก BinarY digiT Eight เป็นจานวนของหน่วยความจาขนาด 8 บิต (bit) ทีใ่ ชเ้ ก็บตวั อกั ขระ 1 ตวั จะเป็นตัวอักษรหรอื ตวั เลขก็ได้ 5.3.2 กิโลไบต์ (Kilobyte : KB) เนื่องจากไบต์แทนค่าหน่วยความจาได้น้อยมาก จึงนาหน่วยความจามารวมเป็น กลุ่มกิโลไบต์ โดยขนาด 1 KB มีคา่ เทา่ กับ 1,024 B 5.3.3 เมกะไบต์ (Megabyte : MB) ขนาด 1 MB มคี า่ เทา่ กับ 1,024 KB หรือ 1,048,576 B 5.3.4 กิกะไบต์ (Gigabyte : GB) ขนาด 1 GB มคี ่าเท่ากับ 1,024 MB หรือ 1,073,741,824 B เป็นหน่วยวัดความจุ ของอุปกรณ์จดั เกบ็ ขอ้ มลู ทใ่ี ชก้ ับคอมพิวเตอร์ยคุ ปัจจบุ นั 5.3.5 เทอราไบต์ (Terabyte : TB) ขนาด 1 TB มีค่าเท่ากับ 1024 GB หรือ 1,099,511,627,776 B เป็นหน่วยความจุ ของอุปกรณ์จดั เกบ็ ขอ้ มูลทใ่ี ช้กับคอมพวิ เตอร์ยคุ ปจั จุบนั
19 6. การนาคอมพิวเตอร์ไปใช้งาน ปัจจบุ นั คอมพวิ เตอร์เปน็ เครอ่ื งมอื สาคัญต่อการประกอบอาชีพได้มีการนาไปใช้งานทางด้าน ตา่ ง ๆ อยา่ งกวา้ งขวาง เน่อื งจากคอมพิวเตอรม์ อี ยู่หลายระดับ หลายขนาด และมีขีดความสามารถที่ หลากหลาย โดยแม้ว่าในปัจจบุ ัน เทคโนโลยีของคอมพวิ เตอร์จะมีการพัฒนาสูงมากข้ึนแต่กลับมีราคา ทีถ่ กู ลง ดงั นนั้ คอมพิวเตอร์จงึ ถูกนามาใชง้ านในทุก ๆ ดา้ น องค์กรต่าง ๆ ทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน หรือบุคคลต่าง ๆ ได้มีการนาคอมพิวเตอร์ไป ประยุกต์ใช้งานในหลายด้านด้วยกัน เช่น ด้านการแพทย์ ดังภาพท่ี 1.14 ด้านการวิเคราะห์สภาพ ภูมิอากาศ ด้านการวิเคราะห์สภาพการจราจร ระบบการจ่ายรายเดือน ระบบควบคุมบัญชี ระบบ สินค้าคงคลัง ระบบควบคุมงานผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม ระบบงานด้านเอกสาร การวิจัยพัฒนา การศึกษา การเกษตร ความบันเทิง เป็นต้น จนนาไปสู่การ แชร์ข้อมูลหรือสารสนเทศร่วมกัน ท้ังใน ระดับองคก์ ร และชุมชนออนไลน์ (Social Network) ภาพท่ี 1.14 : การนาคอมพวิ เตอรไ์ ปใชง้ านด้านการแพทย์ ท่ีมา : http://csmju.jowave.com/cs100_v2/lesson5-9.html โดยคอมพิวเตอรม์ ีคณุ สมบัติ ดงั นี้ 1) คอมพวิ เตอรม์ คี วามเรว็ สงู ในการประมวลผล 2) คอมพวิ เตอรม์ คี วามแมน่ ยาสงู โดยเฉพาะงานคานวณทมี่ ีความซับซอ้ น 3) คอมพิวเตอร์มคี วามเที่ยงตรง ทท่ี างานซา้ ๆ หลายรอบก็จะไดผ้ ลลพั ธท์ ต่ี รงกันเสมอ 4) คอมพวิ เตอรม์ ีความถูกตอ้ ง เช่ือถือได้ โดยคอมพิวเตอร์จะทางานโดยไม่รู้จักเหน็ดเหน่ือย เมื่อเทียบกับการทางานของมนุษย์ ซ่ึงมีโอกาสผิดพลาดสูงกว่า จากอาการเหนื่อยล้า หรือจากการ ทางานหนกั ซ่งึ ต้องใช้เวลาพกั ผอ่ น 5) คอมพวิ เตอรม์ คี วามจุสงู สามารถจัดเกบ็ หรือสารองขอ้ มูลไดอ้ ย่างไม่จากัด
20 7. ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดารัสช้ีแนะ แนวทางในการดาเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด ต้ังแต่ก่อนมีวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ และเม่ือภายหลังได้ทรงเน้นย้าแนวทางการแก้ไขเพื่อให้รอดพ้น และสามารถดารงอยู่ได้อย่างมั่นคง และยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์และการเปล่ียนแปลงต่าง ๆ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็น ปรัชญาที่ช้ีถึงแนวทางการดารงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ต้ังแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชนจนถึงระดับรัฐ ท้ังในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดาเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพ่ือให้ก้าวทนั ต่อโลกยุคโลกาภิวตั น์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจาเป็นที่จะต้องมี ระบบภูมิค้มุ กันในตวั ทดี่ ีพอสมควรต่อการมีผลกระทบใด ๆ อันเกิดจากการเปล่ียนแปลงท้ังภายนอก และภายใน ทงั้ นจ้ี ะต้องอาศัยความรู้ ความรอบคอบ ความระมดั ระวงั อย่างยง่ิ ในการนาวิชาต่าง ๆ มา ใช้ในการวางแผนและการดาเนนิ การทกุ ข้ันตอน และขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของ คนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าท่ีของรัฐ นักทฤษฎีและนักธุรกิจในทุกระดับให้มีจิตสานึกคุณธรรม มี ความซื่อสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ท่ีเหมาะสม ดาเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มี สตปิ ัญญาและความรอบคอบ เพ่อื ใหส้ มดุลและพรอ้ มตอ่ การรองรับการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วและ กว้างขวางทางด้านวตั ถุ สงั คม สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม ดงั ภาพที่ 1.15 ภาพที่ 1.15 : ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ท่ีมา : แนวทางการจดั กิจกรรมเสริมหลกั สตู ร เพ่อื สร้างความตระหนกั รู้และมีส่วนรว่ มในการปอู งกนั การทุจรติ สาหรับนักเรียน นกั ศึกษา.
21 7.1 กรอบแนวคดิ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาการดารงอยู่ในการปฏิบัติตน (Economic Life Guiding Principle) โดยมพี ้ืนฐานมาจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของสังคมไทย สามารถนามาประยุกต์ใช้ ไดต้ ลอดเวลา เป็นการมองโลกเชิงระบบทมี่ ลี ักษณะพลวตั (Dynamic) มุ่งเนน้ การรอดพ้นจากภัยและ วกิ ฤต เพอื่ ความมั่นคงและความยัง่ ยืนของการพัฒนา (Sustainability) 7.2 คณุ ลักษณะ เศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางปฏิบัติในทางท่ีควรจะเป็น (Normative Prescription) สามารถนามาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติตนได้ในทุกระดับ (Scalable) โดยมีแนวคิดทางสายกลาง (Middle Path) เปน็ หวั ใจสาคัญของกรอบแนวคดิ ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทางสายกลางในท่ีน้ี หมายถึงวิธีการ (Means) หรือ การกระทาที่พอประมาณบนพ้ืนฐานของความมีเหตุผลและสร้าง ภูมคิ ุ้มกันที่จะนาไปสูก่ ารพัฒนาแบบเศรษฐกิจพอเพยี ง 7.3 คานิยาม ความพอเพียง (Sufficiency) ประกอบด้วยคุณลักษณะ 3 ประการ และเงื่อนไข 2 ประการ ซ่ึงมีความสัมพันธ์ควบคู่กันไป นาไปสู่แนวทางการปฏิบัติท่ีก่อให้เกิดการพัฒนาที่ย่ังยืนต่อ สังคมโดยรวม ได้แก่ 7.3.1 ความพอประมาณ (Moderation) หมายถึงความพอดีท่ีไม่มากเกินไป และไม่น้อยเกินไปในมิติต่าง ๆ ของการ กระทา หรือความพอใจในสิ่งที่สมควรในปริมาณที่เหมาะสม ไม่น้อยเกินไปจนก่อให้เกิดความขัดสน และไมม่ ากเกนิ ไปจนฟมุ เฟือยจนเกนิ กาลังของตน 7.3.2 ความมีเหตุผล (Reasonableness) หมายถงึ การตัดสินใจเกยี่ วกบั ระดบั ความพอประมาณในมิติต่าง ๆ จะต้องเป็นไป อย่างมเี หตผุ ลโดยพจิ ารณาจากเหตปุ จั จยั และขอ้ มลู ทเ่ี กีย่ วขอ้ งตลอดจนผลที่คาดว่าจะเกิดข้ึนจากการ กระทานัน้ ๆ อยา่ งรอบคอบและถกู ตอ้ งบนพ้นื ฐานของความรู้คูค่ ณุ ธรรม 7.3.3 การมีภมู ิคุม้ กันในตัวที่ดี (Self - Immunity) หมายถึงการเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบท่ีคาดว่าจะเกิดข้ึนจากการ เปล่ียนแปลงด้านต่าง ๆ การกระทาท่ีสามารถเรียกว่า พอเพียง (Systematic and Dynamic Optimum) มใิ ชก่ ารคานงึ ถงึ เหตกุ ารณ์และผลในปัจจุบันเทา่ นน้ั แตจ่ าเป็นตอ้ งคานึงถึงความเป็นไปได้ ของสถานการณต์ ่าง ๆ ทคี่ าดวา่ จะเกิดขน้ึ ในอนาคตด้วย 7.3.4 เงื่อนไข (Condition) การตดั สินใจและการดาเนินกจิ กรรมต่าง ๆ ให้อยู่ในระดับความพอเพียงนั้นต้อง ประกอบด้วยสงิ่ ต่อไปน้ี
22 เง่ือนไขท่ี ๑ ความรู้ (Set of Knowledge) ประกอบด้วย ความรู้เก่ียวกับ วชิ าการต่าง ๆ อยา่ งรอบด้าน ความรอบคอบท่ีจะนาความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เช่ือมโยงสัมพันธ์ กนั (เพอื่ การวางแผน) และความระมัดระวังในการนาไปประยุกต์ใช้ให้เกิดผลในทางปฏิบตั ิทุกขั้นตอน เง่อื นไขที่ ๒ คุณธรรม (Ethical Qualification) ประกอบด้วยคุณธรรมที่จะต้อง เสริมสร้างให้จิตใจ มีความตระหนักในคุณธรรมและความซื่อสัตย์ และมีคุณธรรมในการดาเนินชีวิต โดยเน้นความอดทน ความเพียร สตปิ ัญญา และความรอบคอบ 7.3.5 แนวทางปฏบิ ัตแิ ละผลท่ีคาดวา่ จะได้รับ การนาปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาประยุกต์ใช้จะทาให้เกิดท้ังวิธีการพัฒนา (Development Path) และผลการพัฒนา (Development Goal) ที่สมดุล (Balance) และพร้อม รับตอ่ การเปล่ียนแปลงในทุกดา้ นท้ังดา้ นเศรษฐกจิ สังคม สิง่ แวดลอ้ ม ความรู้ เทคโนโลยี นาไปสู่ความ ยั่งยนื ของการพัฒนาหรือความดารงอยู่อย่างต่อเน่ือง (Sustainability) เกิดความสมดุลใน 4 มิติ คือ ด้านวตั ถุ ดา้ นสังคม ดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม และดา้ นวฒั นธรรม จึงอาจกล่าวโดยสรุปได้ว่า ปัญหาการทุจริตเกิดจากพฤติกรรมของคนในสังคม หากคนใน สังคมไม่ว่าจะเป็นผู้ดารงตาแหนง่ ใดหรือประกอบอาชีพใดก็ตาม เป็นผู้ท่ีมีคุณธรรม จริยธรรม จรรยา วิชาชีพ รู้บทบาทหน้าท่ีของตน ทาหน้าท่ีของตนอย่างซ่ือสัตย์สุจริต รู้จักแยกประโยชน์ส่วนตนออก จากประโยชน์ส่วนรวมและดารงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงแล้ว สังคมน้ันก็จะอยู่ รว่ มกันอย่างเป็นปกติสุขด้วยความช่วยเหลือเก้ือกูล ไร้การละเมิดสิทธิ การเอารัดเอาเปรียบกันและ ปราศจากการทุจรติ หมายเหตุ จากหนังสือ แนวทางการจัดกจิ กรรมเสริมหลักสูตร เพื่อสร้างความตระหนักรู้และมีส่วนร่วม ในการปอู งกันการทุจริตสาหรับนักเรียน นักศึกษา. สานักปูองกันการทุจริตภาคการเมือง สานักงาน ป.ป.ช.
23 สรุปทา้ ยหนว่ ยการเรยี น หนว่ ยท่ี 1 หลกั การของระบบคอมพิวเตอร์ ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงเป็นอุปกรณ์ท่ีจะต้องนามาประกอบเช่ือมต่อเข้า ดว้ ยกนั เพอ่ื ให้ฮาร์ดแวร์ทางานร่วมและสัมพนั ธก์ ันเป็นระบบ มีท้ังท่ีติดต้ังอยู่ภายในเคสและภายนอก เคส สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท คือ หน่วยนาเข้าข้อมูล หน่วยประมวลผล หน่วยเก็บข้อมูล และหน่วยแสดงผล คอมพิวเตอร์สามารถแบ่งประเภทออกได้เป็น 4 ประเภทตามประสิทธิภาพในการนาไปใช้ งานคอื ซูเปอรค์ อมพวิ เตอร์ เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ มินิคอมพวิ เตอร์ และไมโครคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีการ นาคอมพวิ เตอร์ไปใช้ประโยชน์ใน องค์กร บริษัท การใช้งานส่วนบุคคล เพราะมีความเร็วสูง มีความ แม่นยาสงู มคี วามเทีย่ งตรง มคี วามถูกต้อง เช่อื ถอื ได้ และมคี วามจสุ ูง ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเป็นปรชั ญาทีพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงมพี ระราชดารัส ช้ีแนะแนวทางในการดาเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทย หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถงึ ความจาเปน็ ที่จะต้องมรี ะบบภมู ิค้มุ กันในตัวท่ีดีพอสมควรต่อการมีผลกระทบใด ๆ อันเกิดจาก การเปล่ียนแปลงทั้งภายนอกและภายใน เป็นปรัชญาท่ีชี้ถึงแนวทางการดารงอยู่และปฏิบัติตนของ ประชาชนในทกุ ระดบั ตัง้ แตร่ ะดับครอบครัว ระดับชุมชนจนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหาร ประเทศใหด้ าเนนิ ไปในทางสายกลาง
24 ใบงานท่ี 1.1 วิชาคอมพิวเตอร์และการบารุงรกั ษา รหสั วิชา 2204 – 2005 หนว่ ยท่ี 1หลักการของระบบคอมพิวเตอร์ 1. จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1) บอกความหมายของระบบคอมพิวเตอร์ได้ 2) บอกองคป์ ระกอบของระบบคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 3) บอกประเภทของคอมพิวเตอรไ์ ด้ 4) อธบิ ายหลกั การทางานของคอมพิวเตอรไ์ ด้ 5) บอกคณุ ลักษณะของเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ได้ 6) บอกการนาคอมพวิ เตอร์ไปใช้งานได้ 7) บอกความหมายของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้ 2. วสั ดุ/อปุ กรณ์ 1) เอกสารประกอบการสอนวิชา คอมพวิ เตอรแ์ ละการบารุงรกั ษา รหัสวิชา 2204-2005 2) เคร่ืองคอมพิวเตอร์และระบบอนิ เทอร์เน็ต 3) เครอ่ื งฉายโปรเจคเตอร์ 4) สือ่ ประกอบการสอน ได้แก่ สื่อของจริง สื่อมัลติมเี ดีย 5) กระดาษขาวเทา 6) ปากกาเมจกิ 3. ขน้ั ตอนการปฏิบัตงิ าน สอนสัปดาห์ที่ 1 โดยใชเ้ วลาในการปฏบิ ตั งิ าน 70 นาที 1) แบง่ กล่มุ ตามความสมัครใจ กลุ่มละ 4 – 5 คน คัดเลอื กประธาน เลขานุการ 2) ส่งตวั แทนจับฉลากเพอื่ รับผดิ ชอบตามหัวข้อดงั น้ี กลมุ่ ท่ี 1 องคป์ ระกอบของระบบคอมพวิ เตอร์ กล่มุ ท่ี 2 หลกั การทางานของคอมพิวเตอร์ กล่มุ ท่ี 3 การจาแนกประเภทและความแตกต่างของเครือ่ งคอมพิวเตอร์แตป่ ระเภท กลมุ่ ท่ี 4 บคุ ลากรทีเ่ กยี่ วขอ้ งกับคอมพวิ เตอร์ กลมุ่ ท่ี 5 คุณลักษณะทม่ี ีความแตกต่างในระบบคอมพิวเตอร์ กลุ่มท่ี 6 การนาคอมพวิ เตอรไ์ ปประยุกต์ใช้งานทางด้านต่าง ๆ กลมุ่ ท่ี 7 ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
25 3) ให้สมาชิกแต่ละกลุ่มศึกษาเอกสารประกอบการสอนหน่วยท่ี 1 เร่ือง หลักการของระบบ คอมพิวเตอร์ ตามหัวขอ้ ที่ได้รับมอบหมาย ศกึ ษาขอ้ มูลเพ่ิมเตมิ จากหนงั สือและอนิ เทอร์เน็ต 4) ร่วมกนั ระดมความคดิ และเขยี นสรปุ เน้ือหา ลงบนกระดาษ 5) ใหต้ วั แทนกลุม่ นาเสนอผลงาน กล่มุ ละไม่เกนิ 5 นาที 6) ร่วมกันอภิปราย ซักถาม ปญั หา ขอ้ สงสยั และสรปุ เน้ือหาพร้อมกบั เพื่อนและครูผ้สู อน 4. ข้อควรระวังในการปฏิบตั งิ าน 1) ตรวจสอบความเรียบร้อยของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วงอื่น ๆ และระบบไฟฟูา ใหอ้ ยูใ่ นสภาพสมบูรณ์ก่อนลงมอื ปฏบิ ตั ิงาน 2) สอบถามและปรกึ ษาครผู ้สู อนในกรณีท่ีไมแ่ น่ใจหรือไม่เข้าใจ 3) ห้ามเล่นกันในขณะปฏิบัติงาน ดูแลรักษาความเป็นระเบียบ รักษาความสะอาดบริเวณ ปฏบิ ัตงิ านและบรเิ วณรอบ ๆ 5. การประเมนิ ผล 1) จากผลงานใบงานที่ 1.1 2) จากการใหค้ วามร่วมมือของสมาชกิ ในกล่มุ และเพ่ือนในหอ้ งเรยี น 3) การรว่ มแสดงความคิดเหน็ ตอบขอ้ ซกั ถามร่วมกัน 4) เจตคติที่ดีตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หลักความพอประมาณ หลักความมี เหตผุ ล หลักความมีภูมิคุ้มกนั ภายใตเ้ ง่อื นไข ความรู้ (รอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง) คุณธรรม (ซ่ือสัตย์ สุจริต อดทน เพยี ร มีสติ ปญั ญา) พิจาณาจากการเข้าเรียนและปฏบิ ัตงิ าน 6. หมายเหตุ ศึกษาและค้นคว้าเก่ียวกบั หลกั การของระบบคอมพิวเตอร์เพ่มิ เติมไดจ้ าก 1) http://www.chaipat.or.th/site_content/34-13/3579-2010-10-08-05-24- 39.html 2) http://www.kroocom.net/web/index.php/2014-11-07-06-45-49 3) https://sites.google.com/site/teachermoomeng/khxmphiwtexr-beuxng- tn/hlak-kar-thangan-khxng-khxmphiwtexr 4) https://www.youtube.com/
26 แบบประเมนิ ใบงานท่ี 1.1 วิชาคอมพิวเตอร์และการบารุงรกั ษา รหสั วิชา 2204–2005 หนว่ ยท่ี 1 หลักการของระบบคอมพวิ เตอร์ ชื่อเร่ืองการนาเสนอผลงาน..................................................................................................... ....... กล่มุ ท.่ี ..............ชือ่ กลุ่ม................................................................................................................. ช่ือสมาชิก 1............................................................. 2....................................................... 3............................................................. 4....................................................... 5............................................................. 6....................................................... ท่ี รายการประเมิน คะแนน หมายเหตุ 543 1 การเตรียมความพรอ้ ม 2 ความถูกต้อง ครบถ้วนของเนื้อหา 3 รูปแบบการนาเสนอ 4 ความรว่ มมอื ของสมาชกิ ในกลุ่ม 5 การตรงต่อเวลา 6 ความสนใจของผ้ฟู ัง ผปู้ ระเมนิ ..................................................... (...................................................) ................./..................../.............
27 เกณฑ์การประเมินใบงานท่ี 1.1 การใหร้ ะดับคุณภาพ 1. การเตรยี มความพรอ้ ม 5 คะแนน = มกี ารจดั เตรยี มสถานท่ี สอื่ /อปุ กรณไ์ วอ้ ย่างพรอ้ มเพรยี ง 4 คะแนน = มสี ่อื /อปุ กรณพ์ ร้อมแตข่ าดการจัดเตรียมสถานที่ 3 คะแนน = สอื่ /และอปุ กรณ์ไม่เพยี งพอ 2. ความถกู ต้องของเน้ือหา 5 คะแนน = มีสาระสาคัญครบถ้วน มีการจบั ประเดน็ ที่สาคญั ของเนอื้ หาครบถว้ นชดั เจน 4 คะแนน = มีสาระสาคัญครบถ้วน มีการจบั ประเดน็ ทีส่ าคัญของเนื้อหาไมค่ รบถ้วน 3 คะแนน = มีสาระสาคัญครบถ้วน ขาดการจับประเดน็ ท่สี าคญั ของเนือ้ หา 3. รปู แบบการนาเสนอ 5 คะแนน = มีรปู แบบการนาเสนอทเ่ี หมาะสม มีการใช้เทคนิคที่แปลกใหม่ ใช้สื่อและเทคโนโลยปี ระกอบการนาเสนอที่น่าสนใจ 4 คะแนน = เทคนคิ การนาเสนอใช้การนาเสนอแบบบรรยายทไ่ี มม่ สี อ่ื ประกอบ 3 คะแนน = เทคนคิ การนาเสนอไม่นา่ สนใจ ขาดการสรุปประเด็นเร่ืองสาคญั 4. ความร่วมมอื ของสมาชิกในกลมุ่ 5 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีบทบาทและใหค้ วามร่วมมอื เป็นอยา่ งดี 4 คะแนน = สมาชิกสว่ นใหญม่ บี ทบาทและให้ความรว่ มมอื เป็นอยา่ งดี 3 คะแนน = สมาชกิ ส่วนนอ้ ยมบี ทบาทและใหค้ วามรว่ มมอื เปน็ อย่างดี 5. การตรงต่อเวลา 5 คะแนน = ดาเนนิ กิจกรรมได้ตามเวลาทก่ี าหนด 4 คะแนน = ดาเนินกิจกรรมชา้ กว่าเวลาท่ีกาหนดเลก็ นอ้ ย 3 คะแนน = ดาเนนิ กิจกรรมแล้วเสรจ็ แต่ขาดความสมบูรณข์ องเน้อื หา 6. ความสนใจของผฟู้ ัง 5 คะแนน = ผฟู้ ังมากกว่ารอ้ ยละ 80 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมือ 4 คะแนน = ผฟู้ ังรอ้ ยละ 70 – 80 สนใจ และให้ความรว่ มมือ 3 คะแนน = ผฟู้ ังนอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 70 สนใจ และให้ความรว่ มมือ หมายเหตุ เกณฑ์การผา่ น ผู้เรียนตอ้ งไดค้ ะแนนรอ้ ยละ 60 ขน้ึ ไป
28 แบบฝึกหัดที่ 1 หน่วยที่ 1 หลกั การของระบบคอมพิวเตอร์ บูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง คาส่ัง : ให้นาขอ้ ความท่กี าหนดไว้ไปเตมิ ลงหน้าข้อทีม่ คี วามหมายสอดคล้องกนั (ข้อละ 1 คะแนน) .......... 1) การตัดสนิ ใจเกย่ี วกับระดบั ความพอเพียงนนั้ ต้องพิจารณาเหตุปัจจยั ท่ีเกย่ี วข้อง .......... 2) ความพอดีตามอัตภาพและความเหมาะสมกับบริบทและภมู สิ ังคม .......... 3) ต้องอยู่บนพ้ืนฐานทถ่ี กู ต้องตามหลักวิชา หลกั กฎหมาย และหลกั ศลี ธรรม .......... 4) สตเิ ปน็ ความระลกึ รู้ในส่ิงท่ีทาเกดิ ความย้ังคดิ พร้อมรบั การเปลย่ี นแปลง .......... 5) ความพอดที ี่ไม่นอ้ ยเกนิ ไปและไม่มากเกินไป .......... 6) จะเป็นการคาดคะเนปัญหาหรือการเปลี่ยนแปลงในอนาคตพร้อมหาวธิ แี ก้ไข .......... 7) เตรียมตัวให้พรอ้ มรับผลกระทบและการเปล่ียนแปลงท่ีจะเกดิ ขน้ึ ในด้านต่าง ๆ .......... 8) รู้ทฤษฎี หลกั การและข้อมลู ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั เรอื่ งที่คดิ และทา .......... 9) มติ เิ กีย่ วขอ้ งกบั ทรพั ยากรธรรมชาติ ความหลากหลายทางชีวภาพเป็นสง่ิ จาเป็นในการ ดาเนินชีวติ .......... 10) สภาวะภายในจิตใจของมนษุ ย์ท่ีเปน็ ไปในทางถูกต้องดงี าม .......... 11) สามารถนาไปใช้ในการคิด การวางแผนและการปฏบิ ัตใิ ห้เหมาะสม ดาเนินไปในทาง สายกลาง .......... 12) ความซ่อื สตั ย์สุจริต ความขยัน ความอดทน ความเพียร มีสติและรู้จกั การแบ่งปนั .......... 13) เตรยี มแผนสารองแก้ปญั หาและหาทางออกไว้ จะช่วยผ่อนหนกั เป็นเบาได้ .......... 14) เป็นความเชือ่ มโยงขององค์ประกอบต่าง ๆ จนเห็นภาพรวมของเรื่องนัน้ และเกดิ ความสมดุล .......... 15) เป็นทกั ษะทค่ี วรได้รับการฝึกฝนเพราะเป็นฐานในการคิดและปฏิบัตงิ านทุกอย่าง .......... 16) มิติเชงิ กายภาพท่ีมนุษย์สร้างหรือประดษิ ฐ์ขึ้น เช่น ทอ่ี ยู่อาศยั วสั ดุอุปกรณ์ รวมทั้งเงิน .......... 17) มติ ทิ ีต่ อ้ งอยู่รว่ มกนั มีความสัมพนั ธ์กัน ชว่ ยเหลอื เผอ่ื แผ่ มกี ฎเกณฑ์ เคารพกฎหมาย .......... 18) ความรู้ลกึ รู้กว้าง รู้ชดั ร้เู ทา่ ทนั และมีสตริ ะลึกรู้ เปน็ ความรู้ในระดับสงู .......... 19) เป็นมติ ิท่เี กี่ยวขอ้ งกับค่านยิ มของคนในสังคมที่เปลี่ยนแปลงเหมาะสมคงเอกลกั ษณ์ ของชุมชนไว้ .......... 20) มติ ทิ ีเ่ ก่ยี วขอ้ งกับการดาเนนิ ชวี ติ ศาสนา ความเชื่อ ภูมิปัญญา ขนบธรรมเนียมต่าง ๆ
29 แบบฝกึ หัดท่ี 2 หนว่ ยที่ 1 หลักการของระบบคอมพวิ เตอร์ *************************************************************************** คาส่งั : จงตอบคาถามต่อไปนใี้ ห้สมบูรณท์ ่ีสุด (ข้อละ 1 คะแนน) 1. คอมพิวเตอร์ หมายถงึ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... 2. องคป์ ระกอบของระบบคอมพิวเตอร์ ประกอบดว้ ยอะไรบ้าง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... 3. พซี ีคอมพิวเตอร์ หมายถงึ อะไร และตรงกบั ภาษาองั กฤษวา่ อะไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..... 4. จงจาแนกประเภทของคอมพวิ เตอรโ์ ดยพิจารณาถงึ ขนาด และขีดความสามารถของคอมพวิ เตอร์ …………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..... 5. การออกแบบกระบวนการทางานของระบบโปรแกรมต่าง ๆ ให้ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ใช้งานระบบ โปรแกรมได้ง่ายและสะดวกท่สี ดุ เป็นหนา้ ที่ของบคุ ลากรใด …………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..... 6. สิ่งทบี่ ่งบอกถงึ ความแตกต่างในระบบคอมพิวเตอร์ คือ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ………………………………………………………………………………………………………………………………………….....
30 7. หนว่ ยเกบ็ ขอ้ มูล (Storage) แบง่ ตามหน้าที่ได้เป็นกป่ี ระเภท อะไรบ้าง …………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..... 8. จงยกตวั อยา่ งอุปกรณ์ที่เปน็ หนว่ ยเก็บขอ้ มลู ภายนอก (External Storage) มา 3 ชนิด …………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..... 9. Microsoft Office จดั เป็นโปรแกรมประเภทใด …………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..... 10. งานด้านพยากรณ์อากาศการเกิดพายุ ต้องใช้คอมพวิ เตอร์ประเภทใด ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... *************************************************
31 แบบประเมินคุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ หนว่ ยท่ี 1 หลักการของระบบคอมพิวเตอร์ คาชแ้ี จง ทาเครอื่ งหมาย / หากนกั เรียนมพี ฤติกรรมที่เหมาะสมหรือทาเคร่ืองหมาย X หากนักเรียนมี พฤติกรรมที่ไม่ตรงกบั รายการ แผนกวชิ า…………………………………………………….. เ ้ขาเรียนตรงเวลา ระดบั ชนั้ .............................................................. แ ่ตงกาย ูถกต้องตามระเ ีบยบ หน่วยท่ี............................................................... ีมความรอบคอบ ครูผสู้ อน.............................................................. ีมความอดทน วันที่.............เดอื น...............................พ.ศ.......... ีมความข ัยนหมั่นเพียร รวมคะแนน ท่ี ช่ือ-สกุล 1 1 1 1 15 1 X = 0 คะแนน 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 เกณฑ์การประเมิน / = 1 คะแนน
32 แบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยท่ี 1 หลกั การของระบบคอมพิวเตอร์ คาชแี้ จง 1. แบบทดสอบท้ังหมดมี 15 ข้อ คิดเปน็ คะแนน 15 คะแนน 2. ใหน้ กั เรียนเลอื กคาตอบทถ่ี กู ที่สุดเพยี งคาตอบเดียวแล้วทาเครื่องหมายกากบาท (X) ลงในกระดาษคาตอบ 3. แบบทดสอบมี 4 ตัวเลอื ก คือ ก, ข, ค, และ ง 4. ใช้เวลาในการทาแบบทดสอบ 15 นาที 1. องค์ประกอบของระบบคอมพวิ เตอร์ ประกอบด้วยอะไรบ้าง ก. ฮารด์ แวร์ โปรแกรม ขอ้ มูลและกระบวนการทางาน ข. ฮาร์ดแวร์ โปรแกรม ขอ้ มูล และโปรแกรมเมอร์ ค. ฮาร์ดแวร์ โปรแกรม บคุ ลากร และข้อมลู ง. ฮาร์ดแวร์ และโปรแกรม 2. หน่วยประมวลผลกลาง หรอื ซีพยี ู จดั อย่ใู นส่วนใดของระบบคอมพวิ เตอร์ ก. อุปกรณจ์ ดั เกบ็ ข้อมูลสารอง ข. อปุ กรณ์ตอ่ พว่ ง ค. โปรแกรม ง. ฮาร์ดแวร์ 3. ขอ้ ใดอธบิ ายความหมายของ ระบบคอมพิวเตอร์ ได้ถูกตอ้ งทส่ี ุด ก. อปุ กรณห์ รอื ชดุ อุปกรณข์ องคอมพวิ เตอร์ ทีเ่ ช่อื มการทางานเข้าด้วยกัน โดยได้มีการกาหนด คาส่ัง ชุดคาสั่ง และแนวทางปฏิบัติงานให้อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ทาหน้าที่ประมวลผล ข้อมูลโดยอัตโนมัติ ข. ขั้นตอนการปฏิบัติงานที่มีการกาหนดอย่างชัดเจนไม่ว่าจะอยู่ในรูปของเอกสาร สื่อ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ หรอื โดยวธิ ีการอื่น ๆ ค. อปุ กรณอ์ ิเลก็ ทรอนกิ สท์ ีม่ คี วามสามารถในการประมวลผลแบบอตั โนมตั ิ ง. อปุ กรณค์ อมพิวเตอร์ทีม่ องเหน็ และจับตอ้ งสัมผัสไดท้ ้งั หมด 4. อปุ กรณค์ อมพวิ เตอรใ์ ด ทาหนา้ ท่ีเปน็ จดุ ศูนยก์ ลางในการเชือ่ มตอ่ อปุ กรณ์เข้าดว้ ยกัน ก. เมนบอรด์ ข. ซพี ยี ู ค. แรม ง. เคส 5. ระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 จดั เปน็ โปรแกรมประเภทใด ก. ดไี วซไ์ ดร์ฟเวอร์ ข. โปรแกรมระบบ ค. โปรแกรมยูทิลติ ้ี ง. โปรแกรมประยกุ ต์
33 6. โปรแกรมควบคุมการทางานของพรน้ิ เตอร์ จดั เปน็ โปรแกรมประเภทใด ก. ดีไวซ์ไดร์ฟเวอร์ ข. โปรแกรมระบบ ค. โปรแกรมยทู ลิ ิต้ี ง. โปรแกรมประยกุ ต์ 7. ระบบปฏิบตั ิการ Windows 8.1 มีหน้าท่สี าคญั อย่างไร ก. เป็นตัวกลางในการให้ผู้ใช้สามารถติดต่อกบั คอมพวิ เตอรไ์ ด้ ข. ประมวลผลขอ้ มลู ทไี่ ดจ้ ากขนั้ ตอนการนาเขา้ ข้อมลู ค. แสดงผลข้อมลู ทผ่ี ่านการประมวลผลแลว้ ง. เก็บขอ้ มลู สารองของระบบคอมพิวเตอร์ 8. โปรแกรมประเภทใด ทาหนา้ ที่บีบอัดข้อมูลใหม้ ีขนาดเล็กเพ่ือสะดวกในการจัดเกบ็ ก. ยทู ลิ ติ ้ี ข. เบราว์เซอร์ ค. ดไี วซไ์ ดร์ฟเวอร์ ง. ระบบปฏิบตั กิ าร 9. สมปองมหี น้าทีป่ ูอนขอ้ มูลประจาวันเข้าสู่ระบบ และยังต้องปฏิบัติงานตามขั้นตอนในคู่มือทางาน อย่างเครง่ ครัด เพ่อื ให้ระบบพมิ พร์ ายงานผลการดาเนนิ งานประจาวันแกผ่ จู้ ัดการ “สมปอง” เป็น บุคลากรด้านใดที่เกย่ี วข้องกับคอมพวิ เตอร์ ก. นักวเิ คราะหร์ ะบบ ข. ผดู้ ูแลระบบเน็ตเวริ ก์ ค. ผ้ใู ช้งานคอมพวิ เตอร์ ง. ช่างเทคนิคคอมพิวเตอร์ 10. เม่อื มีการนาระบบ Input, Processing, Output และ Storage เข้าดว้ ยกนั เรียกวา่ อะไร ก. ระบบปฏบิ ตั กิ าร ข. ระบบคอมพิวเตอร์ ค. วงจรการประมวลผลขอ้ มูล ง. วงจรการพฒั นาระบบสารสนเทศ 11. คอมพิวเตอรป์ ระเภทใดต่อไปน้ี ทมี่ ีประสทิ ธิภาพสงู ทส่ี ุด ก. เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ ข. โนต๊ บคุ๊ คอมพิวเตอร์ ค. ซูเปอร์คอมพวิ เตอร์ ง. มินิคอมพวิ เตอร์ 12. คอมพวิ เตอร์ข้อใดตอ่ ไปนี้ จัดอยู่ในประเภทคอมพิวเตอร์สว่ นบุคคล ก. เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ ข. โนต๊ บ๊คุ คอมพิวเตอร์ ค. ซูเปอรค์ อมพิวเตอร์ ง. มนิ คิ อมพวิ เตอร์ 13. หน่วยความจตุ ามข้อใด ที่มีปรมิ าณสูงท่ีสดุ ก. KB ข. MB ค. GB ง. TB 14. ข้อใดต่อไปน้ี ไมใ่ ช่ คุณสมบตั ิของคอมพิวเตอร์ ก. มคี วามคิดสร้างสรรค์ ข. มีความน่าเชือ่ ถอื ค. มีความแมน่ ยา ง. มีความเร็วสงู
34 15. ขอ้ ใดตอ่ ไปนี้กล่าวถงึ ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ถูกต้องทส่ี ุด ก. ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล ความมีภมู คิ ้มุ กันในตวั ท่ดี ี ข. ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล ความรู้ ความมีคณุ ธรรม ค. ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล ความมีคุณธรรม ง. ความพอประมาณ ความมเี หตุผล ความรู้
35 บรรณานุกรม ฝุายตาราวิชาการ. (2556). ค่มู อื เรียนวชิ าคอมพวิ เตอรแ์ ละการบารุงรกั ษา. บรษิ ทั ซเี อด็ ยเู คช่นั จากดั . กรุงเทพฯ. ฝุายตาราวิชาการ. (2557). พจนานุกรมคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศ. บรษิ ทั ซเี อด็ ยูเคช่ัน จากดั . กรุงเทพฯ. พรพรรณ โสภาพล. (2557). คอมพวิ เตอรแ์ ละการบารุงรกั ษา. บริษทั สานกั พมิ พเ์ อมพันธ์ จากัด. กรุงเทพฯ. ยุทธนา หนูนาค. (2559). เอกสารประกอบการสอน วิชาคอมพิวเตอร์และการบารุงรักษา. วทิ ยาลัยสารพดั ชา่ งกาฬสนิ ธุ.์ กาฬสินธ.ุ์ สชุ าติ ใจสถาน. (2555). ธรรมาภิบาลเทคโนโลยสี ารสนเทศ. ศูนยส์ ่งเสรมิ วิชาการ. กรงุ เทพฯ. สทุ ธิพนั ธุ์ แสนละเอียด. (2559). ติดตั้งและแก้ปัญหา ฉบบั ช่างคอมมืออาชพี (2016). บริษัท ไอดซี ี พรเี มยี ร์ จากดั . กรุงเทพฯ. สมุ าลี โฆษิตนิธิกลุ . (2559). แนวทางการจัดกิจกรรมเสรมิ หลกั สูตร เพือ่ สร้างความตระหนักรู้และ มสี ่วนรว่ มในการป้องกนั การทุจริตสาหรบั นักเรยี น นักศึกษา. บรษิ ทั สหมติ รพร้นิ ตงิ้ แอนด์ พบั ลิสซิ่ง จากัด. กรงุ เทพฯ. ระบบคอมพิวเตอร์. (2558). http://www.thaiall.com/os/os01.htm [ออนไลน]์ . เข้าถึงเมื่อ วันท่ี 10 พฤษภาคม 2559.
36 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ 1 หลกั การของระบบคอมพวิ เตอร์ 1. ข. ฮารด์ แวร์ โปรแกรม บุคลากร และข้อมลู 2. ก. ฮารด์ แวร์ 3. ง. อปุ กรณ์หรือชดุ อปุ กรณข์ องคอมพวิ เตอร์ ที่เช่ือมการทางานเข้าด้วยกัน โดยได้มีการ กาหนดคาสั่ง ชุดคาสั่ง และแนวทางปฏิบัติงานให้อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ทาหน้าท่ี ประมวลผลข้อมลู โดยอัตโนมัติ 4. ง. เมนบอรด์ 5. ค. โปรแกรมระบบ 6. ง. ดไี วซ์ไดร์ฟเวอร์ 7. ง. เป็นตัวกลางในการให้ผูใ้ ชส้ ามารถตดิ ต่อกบั คอมพวิ เตอร์ได้ 8. ค. ยทู ลิ ติ ี้ 9. ข. ผู้ใช้งานคอมพวิ เตอร์ 10. ค. ระบบคอมพวิ เตอร์ 11. ข. ซูเปอรค์ อมพิวเตอร์ 12. ค. โนต๊ บคุ๊ คอมพิวเตอร์ 13. ก. TB 14. ง. มีความคิดสร้างสรรค์ 15. ค. ความพอประมาณ ความมเี หตุผล ความมภี ูมคิ มุ้ กันในตวั ทด่ี ี
37 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยที่ 1 หลักการของระบบคอมพวิ เตอร์ 1. ค. ฮารด์ แวร์ โปรแกรม บคุ ลากร และข้อมลู 2. ง. ฮาร์ดแวร์ 3. ก. อปุ กรณ์หรือชุดอุปกรณข์ องคอมพิวเตอร์ ท่เี ชื่อมการทางานเข้าด้วยกัน โดยได้มีการ กาหนดคาสั่ง ชุดคาสั่ง และแนวทางปฏิบัติงานให้อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ทาหน้าท่ี ประมวลผลขอ้ มูลโดยอัตโนมตั ิ 4. ก. เมนบอร์ด 5. ข. โปรแกรมระบบ 6. ก. ดไี วซไ์ ดรฟ์ เวอร์ 7. ก. เปน็ ตัวกลางในการให้ผใู้ ชส้ ามารถตดิ ต่อกบั คอมพิวเตอร์ได้ 8. ก. ยทู ลิ ติ ี้ 9. ค. ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ 10. ข. ระบบคอมพวิ เตอร์ 11. ค. ซเู ปอรค์ อมพวิ เตอร์ 12. ข. โน๊ตบุ๊คคอมพิวเตอร์ 13. ง. TB 14. ก. มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ 15. ก. ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล ความมภี ูมคิ ุม้ กนั ในตวั ทดี่ ี
38 เฉลยแบบฝึกหัดท่ี 1 หน่วยที่ 1 หลักการของระบบคอมพิวเตอร์ บรู ณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 1) ความมเี หตุผล 2) ความพอประมาณ 3) ความมีเหตุผล 4) ความมีภูมคิ มุ้ กนั ในตวั ทด่ี ี 5) ความพอประมาณ 6) ความมภี ูมิคมุ้ กันในตัวท่ดี ี 7) ความมีภมู ิคมุ้ กนั ในตัวทดี่ ี 8) เง่ือนไขความรู้ 9) มติ ิดา้ นสง่ิ แวดล้อม 10) เงื่อนไขคุณธรรม 11) ความพอประมาณ 12) เงื่อนไขคณุ ธรรม 13) ความมีภมู ิคมุ้ กันในตวั ท่ีดี 14) 4 มติ ิ 15) ความมเี หตุผล 16) มิตดิ า้ นวัตถุ 17) มติ ดิ า้ นสังคม 18) เงือ่ นไขความรู้ 19) มิตดิ ้านวฒั นธรรม 20) มติ ิดา้ นวัฒนธรรม
39 เฉลยแบบฝึกหดั ท่ี 2 หน่วยท่ี 1 หลักการของระบบคอมพวิ เตอร์ *************************************************************************** 1. คอมพิวเตอร์ หมายถึง แนวคาตอบ หมายถึง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ท่ีมีความสามารถประมวลผลแบบอัตโนมัติ ทา หนา้ ที่เหมอื นสมองกลใชส้ าหรบั การแกป้ ัญหาตา่ ง ๆ ทงั้ ทง่ี ่าย และซบั ซอ้ น โดยวธิ ที างคณิตศาสตร์ 2. องคป์ ระกอบของระบบคอมพวิ เตอร์ ประกอบด้วยอะไรบ้าง แนวคาตอบ ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ ดังน้ี ฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์, ข้อมูลและ กระบวนการทางาน, บคุ ลากร 3. พีซคี อมพิวเตอร์ หมายถึงอะไร และตรงกับภาษาองั กฤษว่าอะไร แนวคาตอบ หมายถงึ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และตรงกับภาษาองั กฤษวา่ PC : Personal Computer 4. จงจาแนกประเภทของคอมพวิ เตอร์โดยพจิ ารณาถงึ ขนาด และขีดความสามารถของคอมพวิ เตอร์ แนวคาตอบ มีอยู่ด้วยกัน 4 ประเภท ดังน้ี ซูเปอร์คอมพิวเตอร์, เมนเฟรมคอมพิวเตอร์, มนิ คิ อมพวิ เตอร์ และไมโครคอมพิวเตอร์ 5. การออกแบบกระบวนการทางานของระบบโปรแกรมตา่ ง ๆ ให้ผู้ใช้งานคอมพวิ เตอร์ใช้งานระบบ โปรแกรมได้ง่ายและสะดวกท่สี ุด เป็นหนา้ ทข่ี องบคุ ลากรใด แนวคาตอบ นักวเิ คราะห์ระบบ (System Analyst) 6. ส่ิงทบ่ี ่งบอกถงึ ความแตกต่างในระบบคอมพิวเตอร์ คอื แนวคาตอบ ประกอบด้วย ดังนี้ ขนาดของข้อมูล, ความเร็วไมโครโปรเซสเซอร์ และขนาด ของหน่วยความจา 7. หน่วยเกบ็ ข้อมลู (Storage) แบ่งตามหนา้ ทไ่ี ดเ้ ปน็ ก่ีประเภท อะไรบา้ ง แนวคาตอบ แบ่งได้ 2 ประเภท คือ หน่วยเก็บข้อมูลหลักหรือหน่วยความจาหลัก (Primary Storage และหนว่ ยเก็บข้อมูลสารอง (Secondary Storage) 8. จงยกตวั อย่างอุปกรณ์ที่เป็นหนว่ ยเกบ็ ขอ้ มูลภายนอก (External Storage) มา 3 ชนดิ แนวคาตอบ ฮารด์ ดสิ ก์, แผน่ ซีดี/ดวี ีดี และแฟลชไดร์ฟ 9. Microsoft Office จัดเป็นโปรแกรมประเภทใด แนวคาตอบ โปรแกรมประยุกต์ (Application Software) 10. งานดา้ นพยากรณ์อากาศการเกดิ พายตุ ้องใช้คอมพิวเตอรป์ ระเภทใด แนวคาตอบ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (Supercomputer)
Search
Read the Text Version
- 1 - 39
Pages: