รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบคุ คล (Personal Self Assessment Report) ปีการศกึ ษา 2563 นายตอ่ พงศ์ พนู ภิญโญยศ ตาแหนง่ ครู โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 21 จังหวัดแม่ฮอ่ งสอน สานักบรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษ
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบคุ คล 1 (Personal Self Assessment Report) คานา รายงานการประเมินตนเอง (Self Assessment Report : SAR) เป็นการประเมินการ ปฏิบตั ิหน้าที่ตามพระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแห่งชาติพุทธศักราช 2543 และฉบับปรบั ปรุง พุทธศักราช 2545 รวมทั้งมาตรฐานการศึกษาของโรงเรียน ข้าพเจ้าได้จัดทาข้ึนเพ่ือรายงานผล การจัดการเรยี น การสอนและการปฏิบัติหน้าที่ของข้าพเจ้าตามฝ่าย กลุ่มงานตลอดจนกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้ส่งเสริมให้ นั ก เรี ย น มี คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ แ ล ะ คุ ณ ภ า พ ต า ม ร ะ ดั บ ม า ต ร ฐ า น คุ ณ ภ า พ ก า ร ศึ ก ษ า โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 21 จงั หวัดแม่ฮ่องสอน สังกัดสานักบรหิ ารงานการศึกษาพิเศษ ประจาปี การศกึ ษา 2563 รายงานน้ีโรงเรียนสามารถนาผลการดาเนนิ งานไปจัดทาการประเมินคณุ ภาพภายในและ สรุปรายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลาดับสายงานตลอดจนเผยแพร่ให้กับผู้ปกครองนักเรียนชุมชนใน สังคมได้ทราบผลการปฏิบัติงานของบุคลากรโรงเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 21 จังหวัดแม่ฮ่องสอน สังกัดสานกั บริหารงานการศกึ ษาพเิ ศษ ข้อมูลที่ได้จากการประเมินในการประเมินตนเอง (SAR) ในครั้งน้ีข้าพเจ้าจะได้นาไปใช้ เป็นแนวทางในการปรับปรุงเพ่ือพัฒนาการปฏิบัติงานท่ีได้รับมอบหมาย เพ่ือส่งเสริมและพัฒนา ศกั ยภาพของผูเ้ รียนให้สูงขึ้นในทกุ ๆ ดา้ นต่อไป ลงชอ่ื (นายต่อพงศ์ พนู ภญิ โญยศ) ตาแหนง่ ครู
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบุคคล 2 (Personal Self Assessment Report) สารบญั หนา้ บทท่ี 1 ข้อมูลทั่วไป ........................................................................................................................3........... บทท่ี 2 สภาพการดาเนินงานในการจัดการเรยี นการสอน ...............................................................6........... บทที่ 3 ผลการประเมนิ ตามมาตรฐานการศึกษา ........................................................................................ บทท่ี 4 แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในอนาคต .................................................................................. ภาคผนวก ................................................................................................................................... ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น ................................................................................................................ ภาพถา่ ยกิจกรรม ......................................................................................................................... บทคดั ย่อรายงานการวิจัย ............................................................................................................. เกียรตบิ ตั ร ................................................................................................................................... ผลงานดเี ดน่ ของตนเองเป็น Best Practice ...............................................................................
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบุคคล 3 (Personal Self Assessment Report) บทท่ี 1 ข้อมูลทั่วไป 1. ข้อมูลเกยี่ วกับผรู้ ายงาน 1.1 ข้าพเจา้ นายต่อพงศ์ พนู ภญิ โญยศ วุฒิการศกึ ษา - ปรญิ ญาตรี ครุศาสตรบณั ฑติ วิชาเอก ชีววทิ ยา จาก มหาวทิ ยาลัยราชภัฏเชยี งใหม่ 1.2 (ประวัติการทางานอย่างย่อ) โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 21 ตาแหนง่ ครู เงินเดือน 19,200 บาท ปัจจุบัน ทาการสอนช้นั ม.4,5,6 รายวชิ าวิทยาศาสตรแ์ ละชวี วิทยา ประสบการณส์ อน จานวน 4 ปี 1.3 ภายใน 1 ปี ไดร้ บั การพัฒนาวชิ าทส่ี อน - 1.4 งานอื่นๆท่ีรบั ผดิ ชอบ กจิ การนักเรยี น,งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น 1.5 ผลงานดีเดน่ ครูตน้ แบบระบบดแู ลชว่ ยเหลือนักเรยี น ปีการศึกษา 2563 2. ข้อมูลเก่ยี วกับนกั เรยี นที่รบั ผิดชอบ จานวนหอ้ งเรยี น หมายเหตุ 2.1 ตารางแสดงจานวนนักเรียนแยกเป็นระดับชนั้ จานวนนกั เรยี น 1 1 ชัน้ ชาย หญิง รวม ม.1/3 11 23 34 รวม 11 23 34 2.2 ตารางแสดงรอ้ ยละของนักเรยี นท่รี ับผดิ ชอบ ท่ีมนี า้ หนัก สว่ นสูง ตามเกณฑม์ าตรฐาน ของกรมอนามัย ระดับช้ันทส่ี อน รอ้ ยละของนักเรียน ร้อยละของนักเรียน ทมี่ ีนา้ หนกั ตามเกณฑ์ ทม่ี ีสว่ นสว่ นสูงตามเกณฑ์ ม.1/3 41.17 41.17
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบุคคล 4 (Personal Self Assessment Report) 2.3 ตารางแสดงค่าเฉลย่ี รอ้ ยละของผลสมั ฤทธ์ิ ทางการเรยี นของนักเรียนที่ได้ระดบั ดขี น้ึ ไป ท่รี บั ผิดชอบ ปีการศึกษา 2563 ระดบั ชน้ั เทอม 1 เทอม 2 ท่ีรบั ผดิ ชอบ ม.4 69.44 88.89 ม.5 75.86 67.86 ม.6 100 100 2.4 นักเรียนท่ีรับผิดชอบ นบั ถือศาสนาพุทธ 11 คน นับถือศาสนาอิสลาม - คน นับถือศาสนา อื่นๆ 23 คน 2.5 นักเรียนที่รบั ผดิ ชอบ อยใู่ นเขตบริการของโรงเรยี น จานวน 34 คน อยู่นอกเขตบริการ จานวน - คน 2.6 นกั เรยี นที่ต้องไดร้ บั การดูแลเป็นพเิ ศษ จานวน…-….คน ได้แก่ (ถ้ามี) 2.6.1 เดก็ ชาย/หญิง ………………-………………บกพรอ่ งดา้ น………-…………. 2.6.2 เดก็ ชาย/หญิง ………………-………………บกพร่องดา้ น………-…………. 2.6.3 เดก็ ชาย/หญงิ ………………-………………บกพร่องดา้ น………-…………. 2.6.4 นักเรียนไดร้ บั รางวัล หรอื ดเี ดน่ ได้แก่….. 1. …...............-….................... 3. ขอ้ มลู เกีย่ วกับผ้ปู กครองของนกั เรยี นท่รี ับผดิ ชอบ 3.1 ระดับการศึกษา สว่ นใหญ่ ต่ากว่าปรญิ ญาตรี (ตา่ กวา่ ปรญิ ญาตรี ปรญิ ญาตรี สงู กวา่ ปรญิ ญาตรี) 3.2 ร้อยละของอาชพี รบั ราชการ ร้อยละ 0 พนักงานรัฐวสิ าหกจิ รอ้ ยละ 0 รบั จา้ ง ร้อยละ 14.70 อืน่ ๆ ร้อยละ 82.35
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบุคคล 5 (Personal Self Assessment Report) 3.3 ร้อยละของสถานภาพ อย่ดู ว้ ยกนั รอ้ ยละ 94.11 แยกกันอยู่ รอ้ ยละ 2.94 อ่นื ๆ รอ้ ยละ 2.94 3.4 รายไดเ้ ฉลี่ยต่อครอบครวั ต่อปี เปน็ เงิน 20,000 บาท 4. ข้อมลู ทรัพยากร (จานวนสอื่ อปุ กรณ์ เคร่ืองอานวยความสะดวกในห้องเรียนหรือที่รับผิดชอบ) 4.1 ทีวี จานวน 2 เคร่อื ง 4.2 ไม้ถู. จานวน 5 อัน 4.3 โต๊ะ จานวน 34 ตวั 4.4 เก้าอี้ จานวน 34 ตวั 4.5 ไมก้ วาด จานวน 3 อนั 5. งบประมาณ (ทไี่ ด้รับการจดั สรรจากผูบ้ รหิ ารต่อรายหัวนกั เรยี นหรือจากท่ีอน่ื ๆ) งบบริจาค…………-…… บาท งบรายหัว 750 บาท งบอ่ืนๆ…………………… บาท ๖. ขอ้ มูลชุมชน/แหลง่ เรียนรู้ ท่นี านักเรียนไป ค้นคว้า หาความรู้ ๖.๑ แหลง่ เรียนร้ใู นชุมชน ได้แก่ ทัศนศึกษาจังหวดั เชยี งใหม่ ๖.๒ ลกั ษณะ/สภาพของชมุ ชน สะอาด นา่ อยู่ ๖.๓ ชุมชนให้ความร่วมมอื เช่น………………………………………….......
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบคุ คล 6 (Personal Self Assessment Report) บทที่ 2 สภาพการดาเนินงานในการจดั การเรยี นการสอน 1. วสิ ัยทศั น์การจดั การศึกษาของผรู้ ายงานในปีการศึกษา 2563 ผเู้ รยี นไดร้ ับทกั ษะทจ่ี าเปน็ ในยคุ ปัจจบุ นั และการใชก้ ระบวนการทกั ษะทางวิทยาศาสตร์ใน การใชช้ ีวิตประจาวัน 2. เป้าหมายคุณภาพ ของผู้เรยี นทรี่ ับผิดชอบ 2.1 มนี ิสัยรักการอา่ นและแสวงหาความรู้ดว้ ยตนเองจากห้องสมดุ แหลง่ เรยี นรู้ ส่อื ต่างๆ รอบตวั 2.2 มีทักษะในการอา่ น ฟัง ดู พดู เขยี นและต้งั คาถามเพ่ือค้นควา้ หาความรเู้ พมิ่ เติม 2.3 เรียนรู้รว่ มกนั เป็นกลุ่ม แลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ เพ่ือการเรียนร้รู ะหวา่ งกัน 2.4 ใชเ้ ทคโนโลยีในการเรยี นรแู้ ละนาเสนอผลงาน 2.5 เห็นคณุ คา่ ของตนเอง มีวินัยในตนเองปฏิบัตติ ามหลกั ธรรมพระพทุ ธศาสนา 2.6 ความเคารพตนเองและผู้อนื่ 2.7 ความรับผดิ ชอบต่อสังคม 2.8 ความรบั ผิดชอบต่อสิง่ แวดล้อม 2.9 การเปดิ ใจกวา้ ง 2.10 เจตคติในการพฒั นาวิสัยทศั น์ 2.11 เป็นสมาชิกชมุ ชนทแ่ี ข็งขัน มสี ว่ นรว่ มรบั ผิดชอบ พัฒนาทักษะท่เี กย่ี วข้องและสรา้ ง เสรมิ เจตคติในการเป็นพลโลกท้ังในระดับบุคคลและส่วนรวม 3. งาน/โครงการที่รับผดิ ชอบ (ทาอะไร ทาอยา่ งไร ผลเปน็ อย่างไร) 3.1 โครงการที่ 1. New normal Science การจดั กจิ กรรม จัดกิจกรรมเปิดบ้านวิชาการ ปีการศึกษา 2563 โดยให้คณะครูแต่ละกลุ่มสาระจัดต้ังบูธ การศึกษาโดยให้นักเรียนเข้าศึกษาเย่ียมชมบูธที่ตนสนใจและเข้าไปเรียนรู้ทาให้นักเรียนสนุกสนาน และได้ความรู้จากการกิจกรรมดังกลา่ วอย่างมาก ผลจากการดาเนนิ งาน 1.นกั เรียนไดม้ กี ารเรยี นรใู้ นเรอื่ งของวทิ ยาศาสตร์ทก่ี ว้างขวาง 2. ร้อยละ 80 ไดร้ บั การพัฒนากจิ กรรมการเรยี นการสอนภายในกลมุ่ สาระวิทยาศาสตร์
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบุคคล 7 (Personal Self Assessment Report) 3.2 โครงการที่ 2. พฒั นางานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี นจากปา้ ยสู่ ก.1 การจัดกิจกรรม จดั กิจกรรมการเรียนรูง้ านสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนทุกคาบงานสวนพฤกษศาสตรว์ ันอังคาร โดยจัดกิจกรรมตามลาดับของการเรียนรู้ 5 องค์ประกอบโดยให้นักเรียนทาทีละใบงาน และเก็บ ผลงานไว้ ได้จัดตั้งกลุ่มนักเรียนแกนนากิจกรรมงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนข้ึนเพ่ือช่วยในการ ดาเนนิ งานและการทางานชว่ ยคณะครูแต่ละหวั ข้องานที่ครูได้รบั มอบหมาย ผลการดาเนินกจิ กรรม เปลี่ยนแปลงภูมิทศั น์ของโรงเรยี น และพรรณไมใ้ นโรงเรยี นตา่ งๆ ทาให้การดาเนนิ กจิ กรรมไม่ ต่อเนื่องและยงั ไม่ประสบผลสาเร็จ 3.3 โครงการที่ 3. ส่งเสรมิ ภมู คิ ้มุ กนั ทักษะการดารงชวี ติ นักเรียนประจาตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง การจัดกจิ กรรม จัดโครงการเพื่อช่วยนักเรียนท่ีมีคะแนนติดลบเยอะได้ทาการบาเพ็ญประโยชน์เพื่อการแก้ไข พฤติกรรมนักเรียนให้เป็นไปในทางท่ีดีข้ึน เช่น การซ่อมแซมทาสีถนนและการติดป้ายรักษาความ ปลอดภยั ภายในโรงเรียน เปน็ ต้น ผลการดาเนินกิจกรรม นักเรียนส่วนมากมีการปรับเปล่ียนพฤติกรรมไปในทางที่ดีขึ้น และมีจิตสาธารณะในการท่ีจะ ช่วยเหลืองานของโรงเรียน ๔. การเปน็ ผมู้ คี วามรู้ ความสามารถในการจดั การเรียนการสอนอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ และเนน้ ผูเ้ รียนเป็นสาคัญ การเป็นผู้มีความรู้ความสามารถในการจัดการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพและเน้น ผ้เู รยี นเป็นสาคัญได้ดาเนนิ การ ๔ ประเด็นดังนี้ ๔.๑ เป็นผู้มีความรู้ ความเข้าใจเป้าหมายของการจัดการศึกษาและหลักสูตรการศึกษาขั้น พ้ืนฐาน (ให้เขียนบรรยายให้เห็นถึงการที่มีความรู้ ความเข้าใจเป้าหมายของการจัดการศึกษาข้ัน พื้นฐานนั้นได้ทาอย่างไรบ้างท่ีแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้มีความรู้ ความเข้าใจ (ให้เขียนบรรยายแสดงถึง ความเปน็ ผรู้ ้อู ย่างยอ่ ๆ) มุง่ ใหผ้ ูเ้ รยี นไดฝ้ ึกคิดและแก้ปัญหาแบบมวี จิ ารญาณ พรอ้ มดว้ ยคุณธรรมและจริยธรรม ๔.๒ เป็นผู้มีความสามารถใน การวิเคราะห์ศักยภาพของผู้เรียนและเข้าใจผู้เรียนเป็น รายบุคคล(เขียนบรรยายบอกให้ได้ว่ามีความสามารถในการวิเคราะห์ศักยภาพของผู้เรียนและเข้าใจ ผู้เรยี นเปน็ รายบคุ คลนน้ั ทาอย่างไรบา้ ง) วิเคราะห์ แยกแยะผู้เรียนเพ่ือหาความแตกต่างระหว่างบุคคล เก่ียวกับความพร้อมด้าน ความรู้พ้ืนฐาน และประสบการณ์เดิมที่มีอยู่ก่อน ที่จะให้ผู้เรียนได้รบั การเรยี นรู้
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบคุ คล 8 (Personal Self Assessment Report) ๔.๓ เป็นผู้มีความสามารถจัดประสบการณ์การเรียนรู้เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ( เขียนบรรยาย บอกให้ไดว้ า่ มีความสามารถในการจดั ประสบการณ์การเรียนรเู้ น้นผู้เรียนเปน็ สาคัญนั้นทาอยา่ งไรบา้ ง) การให้ผู้เรียนเป็นผู้ออกแบบร่วมกันในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และแนวทางการจัดการ เรียนการสอนท่ีผู้เรียนสนใจ เปรียบเทียบกับการวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล เพ่ือส่งเสริมการจัด กจิ กรรมการเรยี นรู้ท่ีหลากหลายและวดั ผลการเรียนร้อู ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ๔.๔ เป็นผู้มีความสามารถใช้เทคโนโลยีในการพฒั นาการเรยี นรู้ของตนเองและผูเ้ รยี น ( เขียนบรรยายบอกให้ได้ว่ามีความสามารถในใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาการเรียนรู้ของตนเองและ ผเู้ รียนนั้นทาอย่างไรบ้าง) เข้าร่วมอบรมออนไลน์ และเรียนรู้วิธีการสอนที่หลากหลายจากส่ือต่างๆในอินเตอร์เน็ต เพื่อให้เกิดการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลายและแปลกใหม่ นาส่ือเทคโนโลยีที่น่าสนใจอย่างเช่น จัดทา สื่อการเรียนรอู้ อนไลน์ ส่ือ CAI เป็นต้น ๔.๕ เป็นผู้มีความสามารถประเมินพัฒนาการของผู้เรียนครบทุกด้านอย่างเหมาะสมตามวัย และสอดคล้องกบั สภาพจริงของการเรยี นรู้ (เขียนบรรยายบอกใหไ้ ด้วา่ ครูสามารถประเมินพฒั นาการ ของผู้เรยี นครบทุกดา้ นอย่างเหมาะสมตามวัยและสอดคล้องกับสภาพจริงของการเรยี น นน้ั ทาอย่างไร บา้ ง) การประเมินพัฒนาการของผู้เรียน เป็นการประเมินด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และ สติปญั ญาของเด็ก โดยจะตอ้ งสังเกตพฤตกิ รรมการเรียน การร่วมกิจกรรมและการทดสอบควบคไู่ ปใน กระบวนการเรียนการสอนเพื่อใช้เป็นกลไกในการติดตาม พัฒนาและช่วยเหลือผู้เรียนให้พัฒนา ความสามารถในการเรยี นร้ใู ห้เตม็ ศกั ยภาพ ๔.๖ เปน็ ผ้มู ีความสามารถนาผลการประเมินพฒั นาการของผู้เรียนมาปรับการจดั ประสบการณ์เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรยี นให้เต็มศักยภาพ(เขียนบรรยายบอกให้ไดว้ ่ามีความสามารถใน การนาผลการประเมินพัฒนาการของผู้เรยี นมาปรบั การจดั ประสบการณ์เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรยี นให้ เต็มศกั ยภาพนน้ั ทาอย่างไรบ้าง) ปรับแผนการจัดการเรียนรู้โดยให้มีกิจกรรมที่เหมาะสมกับความหลากหลายของผู้ เรียนและ วัดและประเมินผลผูเ้ รยี นเปน็ รายบุคคลอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ๔.๗ เป็นผู้มีความสามารถในการจัดทาวิจัยเพ่ือพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนและนาผลไปใช้ พัฒนาผู้เรียน (เขียนบรรยายบอกให้ได้ว่า มีการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนและนาผลไปใช้ พัฒนาผเู้ รยี นนนั้ ทาอยา่ งไรบ้าง) วิจัยคุณลักษณะของครูท่ีพึงประสงค์ทั้ง ตามทัศนะของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อศึกษาเก่ียวกับครูในดวงใจของนักเรียน นาผลที่ได้ไปปรับใช้โดยทาตนเองให้เป็นครูท่ีมีลักษณะพึง ประสงค์ ตามทศั นะของนักเรียนช้นั มัธยมศึกษาตอนปลาย
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบคุ คล 9 (Personal Self Assessment Report) ผลปรากฏว่า จากผลการวิจัยคร้ังนี้ แสดงให้เห็นว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 21 ก็มีทัศนะต่อคณุ ลักษณะของครูท่ีพึงประสงค์ อยู่ในระดับปานกลาง นอกจากน้ีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 21 ยังไดใ้ ห้ความสาคญั ต่อ คณุ ลักษณะของครู ด้านการเป็นพลเมืองดใี นสังคมประชาธิปไตยสูงเปน็ อันดับท่ี 1 สว่ นดา้ นวชิ าการ นักเรียนให้ความสาคัญอยู่ในลาดับท่ี 8 ที่เป็นเช่นน้ีคงเป็นเพราะว่า นักเรียนเห็นว่า ครูคือแม่พิมพ์ ของชาติมีหน้าท่ีเป็นเป้าหล่อหลอมพลเมือง ซึ่งเป็นอนาคตของชาติให้เป็นคนดีของสังคม แต่ปัจจุบัน ก ลั บ มี ค รู บ า ง ค น พ ย า ย า ม ป ร ะ พ ฤ ติ ต น ไม่ เห ม า ะ ส ม กั บ ฐ า น ะ ค ว า ม เป็ น ค รู มั ก ป ร ะ พ ฤ ติ ผิ ด วิ นั ย และจรรยาบรรณครอู ยู่เสมอ ดงั ปรากฏเป็นข่าวอยู่บ่อย ๆ ตามหนา้ หนังสือพิมพ์ ดว้ ยเหตุนจี้ ึงทาให้ นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 21 ต้องการให้ครูมีคณุ ลกั ษณะของ ครูที่พึงประสงค์ข้อน้ีสูงเป็นอันดับท่ี 1 ฉะนั้นในฐานะที่ครูเป็นแม่พิมพ์ของชาติ ครูจึงต้องเป็น พลเมืองดีในสังคมประชาธิปไตย เพ่ือเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ศิษย์ต่อไป ส่วนคุณลักษณะของครูท่ีพึง ประสงค์ด้านวิชาการที่นักเรียนให้ความสาคัญน้อย เป็นลาดับท่ี 8 คงจะเป็นเพราะว่าปัจจุบัน เทคโนโลยีและการส่อื สารเจรญิ กา้ วหนา้ มากความสาคญั ต่อคุณลกั ษณะของครูในดา้ นนีน้ ้อยที่สุด บทท่ี 3 ผลการประเมนิ คุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา 1. ผลการประเมนิ คุณภาพตามมาตรฐาน ดา้ นผูเ้ รียน มาตรฐานท่ี 1 คณุ ภาพผูเ้ รียน ผลการประเมินเป็นตัวบ่งชี้ดังน้ี ตัวบ่งช้ี ร้อยละ ระดบั คุณภาพ 1.1 ผลสมั ฤทธ์ทิ างวิชาการของผเู้ รียน 99.02 ดีเย่ยี ม 1.2 คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ของผเู้ รยี น 99.02 ดีเย่ียม สรุป ผลการประเมินดังกลา่ ว ไดด้ าเนนิ การดังน้ี .......(เขยี นบรรยายว่าไดท้ าอะไรบา้ งที่ส่งผลตอ่ คณุ ภาพของ คือ) มีความสามารถในการอา่ น การเขยี น การสอื่ สาร การคิดคานวณ การคิดประเภทต่าง ๆ การ สรา้ งนวตั กรรม การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร สรปุ ผลการประเมนิ มาตรฐานนอ้ี ยใู่ นระดับคณุ ภาพ (ดมี าก/ ด/ี พอใช้ /ควรปรบั ปรงุ ) จุดเดน่ ผ้เู รยี นเป็นผมู้ คี วามสามารถในการเรยี นรู้ในดา้ นวิชาการได้ดี จดุ ที่ควรปรับปรุง ควรจดั กิจกรรมทีส่ ่งเสรมิ ผู้เรยี นได้ฝึกคิด คน้ คว้า และเรยี นรูด้ ว้ ยตนเองใหม้ ากข้ึน
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบุคคล 10 (Personal Self Assessment Report) มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบริหารและจดั การ ผลการประเมนิ เป็นตัวบ่งชี้ดงั นี้ ตัวบ่งช้ี ร้อยละ ระดับคุณภาพ 2.1 มีเป้าหมาย วสิ ยั ทศั น์ และพนั ธกิจ ไวช้ ัดเจน สอดคลอ้ งกับ บรบิ ทของสถานศึกษาและมีความเป็นไปได้ในการปฏบิ ตั ิ 2.2 มกี ารบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาอยา่ งเป็นระบบทที่ ุก ฝา่ ยมีสว่ นรว่ มกนั วางแผน 2.3 มหี ลักสูตรสถานศกึ ษาที่รองรับการพฒั นาศักยภาพผูเ้ รยี นท่ี หลากหลาย และสอดคลอ้ งกับความตอ้ งการของผู้เรยี น 2.4 พฒั นาครูและบุคลากรใหม้ ีความเชย่ี วชาญทางวชิ าชพี สอดคลอ้ ง กบั ความต้องการรายบุคคล 2.5 มีสงิ่ อานวยความสะดวก จัดสภาพแวดลอ้ ม แหลง่ เรยี นรู้ ฐาน การเรียนรู้ทีเ่ อ้ือต่อการเรียนรู้ 2.6 จดั ระบบเทคโนโลยี ส่ือ สง่ิ อานวยความสะดวกรองรบั การ บรหิ ารจัดการ และจดั กิจกรรมการเรียนร้ขู องครูและผู้เรียน สรปุ ผลการประเมินดังกล่าว ไดด้ าเนนิ การดังน้ี (เขียนบรรยายวา่ ได้ทาอะไรบา้ งทีส่ ่งผลให้ผลการ ประเมินเปน็ ดังน้ี) 1. ตดิ ตามตรวจสอบประเมนิ ผลและปรบั ปรงุ พฒั นางานอย่างตอ่ เน่ือง 2. มกี ารบรหิ ารอัตรากาลงั ทรพั ยากรทางการศกึ ษา 3. ระบบดูแลชว่ ยเหลอื นักเรียน 4. มีระบบนิเทศภายใน 5. การนาข้อมูลมาใช้ในการพัฒนาบคุ ลากรและผูท้ ี่เกย่ี วข้อง 6. ทกุ ฝา่ ยมีส่วนร่วมการวางแผน ปรับปรุง และพฒั นาและรว่ มรับผดิ ชอบตอ่ ผลการจดั การศึกษา สรุปผลการประเมินมาตรฐานนอี้ ยูใ่ นระดับคณุ ภาพ (ดีมาก/ ด/ี พอใช้ ควรปรบั ปรงุ )
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบคุ คล 11 (Personal Self Assessment Report) จดุ เด่น ………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………..…………………………………………………………………………………………………. จดุ ทค่ี วรปรับปรุง ………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………..………………………………………………………………………………………………….
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบุคคล 12 (Personal Self Assessment Report) มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอน ผลการประเมินเปน็ รายตวั บง่ ชี้ ตัวบง่ ชี้ รอ้ ยละ ระดับคุณภาพ 3.1 จดั การเรยี นรู้ตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ช้ีวัดตามหลกั สตู ร สถานศกึ ษาทีเ่ น้นใหผ้ ู้เรียนได้เรียนรู้ผา่ นกระบวนการคิดและ ปฏบิ ัติจรงิ 3.2 ใช้สื่อ เทคโนโลยสี ารสนเทศ และแหลง่ เรยี นรู้ ฐานการเรยี นรู้ โดยสร้างโอกาสใหผ้ ู้เรียนไดแ้ สวงความรูด้ ้วยตนเองจากส่อื ท่ี หลากหลาย 3.3 มีการบรหิ ารจัดการเชิงบวก เน้นปฏิสมั พันธ์ ผูเ้ รียนรกั การเรียนรู้ อยรู่ ่วมกันอย่างมีความสุข 3.4 มเี ครอ่ื งมอื วัดผลการพัฒนาพฤติกรรมการเรยี นรู้ได้ตรงสภาพ จรงิ เหมาะสมกับเปา้ หมายในการจดั การเรยี นรู้ และให้ข้อมูล ยอ้ นกลับแก่ผเู้ รียนและนาผลมาพัฒนาผเู้ รยี น 3.5 มกี ารแลกเปลยี่ นเรยี นรู้และให้สะท้อนกลบั เพื่อพัฒนาการเรยี นรู้ สรปุ ผลการประเมินดังกล่าว ได้ดาเนินการดงั นี้ (เขยี นบรรยายวา่ ไดท้ าอะไรบ้างท่สี ่งผลใหผ้ ลการ ประเมินเปน็ ดังนี้) 1. มีแผนการจัดการเรยี นรู้ท่สี ามารถนาไปจดั กิจกรรมได้จริง 2. มรี ูปแบบการจัดการเรียนรู้เฉพาะสาหรับผู้ท่ีมคี วามจาเป็นและต้องการความชว่ ยเหลอื พิเศษ 3. ผู้เรยี นได้รบั การฝกึ ทักษะ แสดงออก แสดงความคดิ เห็น สรปุ องค์ความรู้ นาเสนอผลงาน และสามารถนาไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตได้ สรปุ ผลการประเมินมาตรฐานนอี้ ยใู่ นระดับคุณภาพ ((ดมี าก/ ด/ี พอใช้ ควรปรับปรงุ ) จดุ เด่น กระบวนการจัดการเรียนการสอนตามมาตรฐานและตัวช้ีวัดของหลักสูตรสถานศึกษา สร้าง โอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง มีการบริหารจัดการช้ัน เรียนเชิงบวก สร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดี ครูรู้จักผู้เรียนเป็นรายบุคคล ดาเนินการตรวจสอบและประเมิน ผู้เรยี นอยา่ งเป็นระบบและนาผลมาพฒั นาผู้เรียน
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบคุ คล 13 (Personal Self Assessment Report) จุดทค่ี วรปรบั ปรุง ………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………..………………………………………………………………………………………………….
2. สรุปผล การประเมินคณุ ภาพเปน็ รายมาตรฐาน รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบุคคล 14 มาตรฐาน (Personal Self Assessment Report) มาตรฐานที่ 1.................................. มาตรฐานที่ 2........................................ ร้อยละ ระดับคุณภาพ มาตรฐานท่ี 3..............................................
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบุคคล 15 (Personal Self Assessment Report) บทท่ี 4 แนวทางการจดั การเรียนการสอนในอนาคต 1. ขอ้ คน้ พบในการดาเนนิ งาน จดุ เด่น จุดทค่ี วรพัฒนาของนักเรยี นและหรือตนเอง 1.1 ด้านนกั เรยี นจุดเดน่ ท่คี วรสง่ เสริม ไดแ้ ก่ เดก็ มคี วามรู้ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ พฒั นาการเรยี นรู้ และมีทักษะ กระบวนการคดิ วเิ คราะห์ ดา้ นนักเรยี นจดุ ที่ควรพัฒนาท่ีควรได้รบั การแกไ้ ข ปรับปรงุ ได้แก่ จดั กจิ กรรมด้านพฒั นาความคิดรวบยอด คิดแกป้ ญั หาและคิดสรา้ งสรรค์ แนวทางในการพฒั นา ส่งเสริมให้มีสว่ นรว่ มในการวิเคราะห์ตนเอง กาหนดเนอ้ื หาสาระ กิจกรรม สอดคล้องกับ ความถนดั เปน็ รายบุคคล ปญั หาและข้อเสนอแนะ การสนบั สนนุ การจดั กิจกรรมพฒั นาผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น คณุ ธรรมจริยธรรม และ คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ 1.2 ด้านผูส้ อนจดุ เด่นทคี่ วรส่งเสรมิ ได้แก่ พฒั นาตนเองอยู่เสมอ มีความตัง้ ใจ มงุ่ มั่น ในการปฏิบตั หิ น้าทอ่ี ยา่ งเตม็ ท่ีเต็มเวลาและ ความสามารถ ควรจัดกิจกรรมให้นักเรียนแสวงหาความรจู้ ากส่อื เทคโนโลยดี ้วยตนเองงอยา่ งต่อเนื่อง ดา้ นผู้สอนจดุ ท่ีควรพัฒนาท่คี วรไดร้ ับการแก้ไข ปรบั ปรุง ไดแ้ ก่ ควรจัดกจิ กรรมเนน้ ให้ผู้เรียนได้มคี วามสามารถในการคิดวิเคราะห์ คดิ สงั เคราะห์อย่าง หลากหลาย และใชแ้ หล่งเรยี นรู้ในการพัฒนาตนเอง แนวทางในการพฒั นา การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ทเ่ี น้นผู้เรียนเป็นรายบุคคลให้ชัดเจนข้นึ ส่งเสริมให้ครูเหน็ ความสาคัญของการจัดการเรียนรโู้ ดยเน้นผู้เรียนเปน็ สาคัญ การจัดทาวิจยั ในช้ันเรยี นเพ่ือพัฒนา ผู้เรยี นใหส้ ามารถเรียนรู้ได้อย่างเตม็ ศักยภาพ ปัญหาและข้อเสนอแนะ การพฒั นาครูผสู้ อนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ทส่ี อดคล้องกับการพัฒนาผูเ้ รียนในศตวรรษ ที่ 21 ***********************************************
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบุคคล 16 (Personal Self Assessment Report) ภาคผนวก
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบุคคล 17 (Personal Self Assessment Report) ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นของนกั เรียนทกุ ชั้น /ทุกสาระทร่ี ับผดิ ชอบ ปีการศกึ ษา 2563
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบคุ คล 18 (Personal Self Assessment Report)
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบคุ คล 19 (Personal Self Assessment Report)
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบคุ คล 20 (Personal Self Assessment Report)
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบคุ คล 21 (Personal Self Assessment Report)
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบคุ คล 22 (Personal Self Assessment Report)
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบคุ คล 23 (Personal Self Assessment Report)
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบคุ คล 24 (Personal Self Assessment Report)
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบคุ คล 25 (Personal Self Assessment Report)
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบคุ คล 26 (Personal Self Assessment Report)
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบคุ คล 27 (Personal Self Assessment Report)
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบคุ คล 28 (Personal Self Assessment Report)
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบคุ คล 29 (Personal Self Assessment Report) ผลงานดเี ด่นของตนเอง Best Practice
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบุคคล 30 (Personal Self Assessment Report) เรื่อง Best practice ชือ่ ผจู้ ัดทา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 21 ตาแหนง่ : การทดลอง : นายต่อพงศ์ พูนภญิ โญยศ : ครผู ู้สอน แนวคิด/หลักการ ในสังคมปัจจุบันการดารงชีวิตของคนในสังคมต้องอาศัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่ อมา ช่วยอานวยความสะดวก ทั้งทางด้านการดาเนินชีวิต การงานอาชีพ จะต้องมีเคร่ืองมือเครื่องใช้ท่ีเป็น ผลผลิตมาจากความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีท้ังส้ิน การท่ีคนเราหาแนวคิดต่าง ๆ นาไป พัฒนาเครอ่ื งมือเครื่องใช้ แนวคิดตา่ ง ๆ น้นั ย่อมมีอทิ ธิพลของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาเก่ียวขอ้ ง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีช่วยให้คนพัฒนาวิธีคิด ท้ังความคิดท่ีเป็นเหตุผล ความคิดสร้างสรรค์ คิด วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ เป็นทักษะที่สาคัญในการค้นคว้าหาความรู้ มีความสามารถในการแก้ปัญหา และความสามารถในการตัดสินใจ โดยใช้ขอ้ มลู หลากหลายที่ตรวจสอบได้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เป็นวัฒนธรรมโลกสมัยใหม่ทุกคนจึงจาเป็นต้องได้รับการพัฒนาให้รู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพ่อื ทจ่ี ะมีความร้คู วามเขา้ ใจโลกธรรมชาติ สามารถใช้ความรู้ในการสนับสนนุ และโตแ้ ยง้ ประเดน็ ต่างๆ ท่ีเกิดขึ้นอย่างมีเหตุผลสร้างสรรค์และมีคุณธรรม ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไม่เพียงแต่ นามาใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีเท่าน้ัน แต่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ยังช่วยให้คนมีความรู้ความ เข้าใจเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์และการดูแลรักษา ตลอดจนการพัฒ นาส่ิงแวดล้อมและ ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสมดุลและย่ังยืน ซ่ึงทาให้ทุกคนดาเนินชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมโลกสมัยใหม่ ไดอ้ ย่างมีความสขุ ในการเรียนการสอนห้องเรียนทดลองวิทย์ของกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรข์ องนักเรียน ระดับชัน้ มัธยมศึกษาตอนปลาย ปัญหาทพ่ี บในช้ันเรียนสว่ นใหญ่คือ นักเรียนขาดทกั ษะการใชอ้ ุปกรณ์ เคร่ืองมือทางวิทยาศาสตร์ ส่งผลให้เป็นอันตรายต่อร่างกายและทรัพย์สิน และผลการทดลองทาง วทิ ยาศาสตร์ท่ีออกมาเกดิ ความคลาดเคล่ือนไม่ถกู ต้องตรงตามทฤษฎี เช่น การใช้เทอร์โมมิเตอร์ไม่ถูก วิธีทาให้อ่านอุณหภูมิไมถ่ ูกต้อง การใช้บีกเกอร์จะต้องวัดให้ระดับของของเหลวอยใู่ นระดบั สายตาโดย ที่วางบีกเกอร์ไว้กับที่ แต่ผู้ทาการทดลองส่วนใหญ่มักจะยกบีกเกอร์ข้ึนมาเพื่อวัดระดับของของเหลว โดยปัญหาน้ีจะทาให้การจดจาและความเข้าใจในเนื้อหาบทเรียนของนักเรียนไม่สัมฤทธ์ิผล ซ่ึงปัญหา ดั ง ก ล่ า ว อ า จ เกิ ด ขึ้ น ม า จ า ก นั ก เรี ย น ไม่ มี ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ แ ล ะ ไม่ ได้ รั บ ก า ร ฝึ ก ฝ น ก า ร ใช้ อุ ป ก ร ณ์ วิทยาศาสตร์มาโดยตรง จุดประสงค์ 1. เพื่อศึกษาผลการจัดกิจกรรมห้องเรียนทดลองวิทย์เพื่อการพัฒนาทักษะการใช้อุปกรณ์ วิทยาศาสตร์ 2. เพ่ือเพิม่ ทักษะในการทดลองให้กับนกั เรียน
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบุคคล 31 (Personal Self Assessment Report) วิธีการและนวตั กรรมท่เี ปน็ เลิศ เก็บรวบรวมข้อมูลจากโจทย์การทดลองท่ีสร้างข้ึนมาเพ่ือทดสอบนักเรียนโดยให้คะแน นทั้ง จากการสงั เกตการณแ์ ละผลการทดลองท่อี อกมา ซึง่ จะทาการทดสอบก่อนและหลังการจัดกจิ กรรม 1. แผนการจดั การเรยี นรู้เรอ่ื งระบบหมนุ เวียนเลอื ด มรี ปู แบบของกิจกรรมดงั นี้ - วีดีทัศน์เรอื่ ง เทคนคิ การใชอ้ ุปกรณ์วิทยาศาสตร์ - การสาธิตการใช้อุปกรณ์วิทยาศาสตร์อยา่ งละเอยี ด - กจิ กรรมการทดลองการหมุนเวยี นเลอื ด ในกระบวนการจัดกจิ กรรมให้ผู้เรยี น จะกาหนดช่ัวโมงในการจัดกิจกรรมสปั ดาห์ละ 2 ชั่วโมง ในการทาการทดลองโดยให้นักเรียนกาหนดปัญหา และตั้งสมมุติฐานเอง เพื่อให้นักเรียนมีทักษะใน การคิด วเิ คราะหป์ ัญหา และสร้างสื่อนวัตกรรมการทดลองเพื่อให้นกั เรียนเกิดความเขา้ ใจ และง่ายต่อ การทากจิ กรรมมากย่งิ ขน้ึ 1. ขั้นวางแผน (Plan) วิเคราะห์สภาพปัญหาร่วมกันในกลุ่มสารการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เพ่ือ ประชุมวางแผนการดาเนินงาน 2. ขั้นลงมือทา (Do) ดาเนินการทาสื่อการสอนเพื่อให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ และลงมือปฏิบัติ จรงิ เพื่อให้เกดิ ทกั ษะ และกระบวนการเรียนรจู้ ากสภาพจริง 3. ข้ันตรวจสอบ (Check) ประเมนิ ผลการดาเนินการ เพ่อื แกไ้ ขปรบั ปรงุ 4. ขั้นการปรับปรุง (Act) ผลการประเมิน ดูสภาพปัญหา จุดอ่อน นาไปปรับปรุงแก้ไข ส่วนท่ี เป็นจดุ แขง็ นาพัฒนาอย่างต่อเนอ่ื ง แล้วสรปุ ผลการดาเนินงาน ปัจจยั แห่งความสาเร็จ 1.ผบู้ ริหาร - ให้คาปรกึ ษาและสนบั สนุนการดาเนินกจิ กรรมต่าง ๆ 2.ครผู ูส้ อน - ม่งุ ม่ันในการจดั ทาสือ่ ที่เหมาะสมกบั ผเู้ รียน และใหค้ าปรึกษาที่ดี 3.ผเู้ รียน - ให้ความรว่ มมือและกระตือรือรน้ ที่จะร่วมกจิ กรรมตา่ ง ๆ ท่ีจัดขน้ึ 4.หนว่ ยงานอืน่ ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง - โรงเรียนให้การสนับสนนุ อปุ กรณ์การทดลองและอุปกรณใ์ นการจัดทาสื่อการสอนต่างๆ
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบุคคล 32 (Personal Self Assessment Report) ผลการดาเนินงาน การจัดกิจกรรมแต่ละคร้ังได้ทาการประเมินการทดลอง ซึ่งเกบ็ คะแนนก่อน-หลัง คร้ังละ 20 คะแนน และสามารถหาค่าเฉล่ีย (Mean) ของคะแนนท่ีได้จากการประเมินการทดลองก่อนที่นักเรียน จะได้ชมภาพและการสาธิตพร้อมสื่อ ซ่ึงคะแนนท่ีได้จากการประเมินการทดลองหลังที่นักเรียน จะไดช้ มภาพ นาไปคานวณหาคา่ เฉลี่ยได้คอื คา่ เฉลี่ยของคะแนนทไ่ี ด้จากการประเมินการทดลองกอ่ น ชมภาพและการสาธิตเท่ากับ 10 คะแนน ส่วนค่าเฉล่ียของคะแนนท่ีได้จากการประเมินการทดลอง หลังชมภาพและการสาธิตพรอ้ มสอื่ เท่ากบั 18 คะแนน หลังจากที่คานวณหาคา่ เฉลีย่ ได้แล้ว สามารถ คานวณหาส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) ได้คือ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของคะแนนที่ได้จากการ ประเมินการทดลองก่อนชมภาพและการสาธิตพร้อมสื่อเท่ากับ 1.581 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ของคะแนนท่ีได้จากการประเมินการทดลองหลังชมภาพและการสาธิตเท่ากับ 0.707 เม่ือคานวณหาค่าเฉลี่ย และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานได้แล้ว จะเห็นได้ว่าเม่ือนักเรียนได้รับการ จัดกิจกรรมพัฒนาทักษะการใช้อุปกรณ์วิทยาศาสตร์แล้วนักเรียนมีคะแนนเพิ่มขึ้น 8 คะแนน
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบุคคล 33 (Personal Self Assessment Report) ภาพการใชส้ ื่อการสอน
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบคุ คล 34 (Personal Self Assessment Report)
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบคุ คล 35 (Personal Self Assessment Report)
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบคุ คล 36 (Personal Self Assessment Report)
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบคุ คล 37 (Personal Self Assessment Report)
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบคุ คล 38 (Personal Self Assessment Report)
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบคุ คล 39 (Personal Self Assessment Report) ชื่องานวิจัย การศกึ ษาผลการจัดกิจกรรมหอ้ งเรยี นทดลองวิทย์พัฒนาทกั ษะการใช้อปุ กรณ์ วทิ ยาศาสตร์ข้ันพน้ื ฐานของนกั เรียนระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 21 ชอ่ื ผ้วู จิ ยั ครูตอ่ พงศ์ พูนภิญโญยศ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ บทคดั ย่อ ในสังคมปัจจุบันการดารงชีวิตของคนในสังคมต้องอาศัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพ่ือมา ช่วยอานวยความสะดวก ทั้งทางด้านการดาเนินชีวิต การงานอาชีพ จะต้องมีเครื่องมือเคร่ืองใช้ที่เป็น ผลผลิตมาจากความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทั้งส้ิน การที่คนเราหาแนวคิดต่าง ๆ นาไป พัฒนาเครือ่ งมอื เคร่ืองใช้ แนวคิดต่าง ๆ นั้นย่อมมีอทิ ธิพลของวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีมาเกยี่ วขอ้ ง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีช่วยให้คนพัฒนาวิธีคิด ทั้งความคิดที่เป็นเหตุผล ความคิดสร้างสรรค์ คิด วเิ คราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ เป็นทกั ษะท่ีสาคัญในการค้นคว้าหาความรู้ มีความสามารถในการแก้ปัญหา และความสามารถในการตัดสินใจ โดยใช้ขอ้ มูลหลากหลายที่ตรวจสอบได้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เป็นวัฒนธรรมโลกสมัยใหม่ทุกคนจึงจาเป็นต้องได้รับการพัฒนาให้รู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพ่อื ทจี่ ะมีความรู้ความเขา้ ใจโลกธรรมชาติ สามารถใชค้ วามรู้ในการสนับสนนุ และโต้แยง้ ประเดน็ ต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างมีเหตุผลสร้างสรรค์และมีคุณธรรม ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไม่เพียงแต่ นามาใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตท่ีดีเท่าน้ัน แต่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ยังช่วยให้คนมีความรู้ความ เข้าใจเก่ียวกับการใช้ประโยชน์และการดูแลรักษา ตลอดจนการพัฒ นาสิ่งแวดล้อมและ ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสมดุลและย่ังยืน ซึ่งทาให้ทุกคนดาเนินชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมโลกสมัยใหม่ ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ ในการเรียนการสอนห้องเรียนทดลองวิทย์ของกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ปัญหาที่พบในช้ันเรียนส่วนใหญ่คือ นักเรียนขาดทักษะการใช้อุปกรณ์ เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ ส่งผลให้เป็นอันตรายต่อร่างกายและทรัพย์สิน และผลการทดลองทาง วทิ ยาศาสตร์ที่ออกมาเกดิ ความคลาดเคล่ือนไม่ถกู ต้องตรงตามทฤษฎี เช่น การใช้เทอร์โมมิเตอร์ไม่ถูก วิธีทาให้อ่านอุณหภูมไิ มถ่ ูกต้อง การใช้บีกเกอร์จะต้องวัดให้ระดับของของเหลวอยู่ในระดบั สายตาโดย ท่ีวางบีกเกอร์ไว้กับท่ี แต่ผู้ทาการทดลองส่วนใหญ่มักจะยกบีกเกอร์ข้ึนมาเพื่อวัดระดับของของเหลว โดยปัญหานี้จะทาให้การจดจาและความเข้าใจในเน้ือหาบทเรียนของนักเรียนไม่สัมฤทธ์ิผล ซึ่งปัญหา ดั ง ก ล่ า ว อ า จ เกิ ด ข้ึ น ม า จ า ก นั ก เรี ย น ไม่ มี ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ แ ล ะ ไม่ ได้ รั บ ก า ร ฝึ ก ฝ น ก า ร ใช้ อุ ป ก ร ณ์ วิทยาศาสตร์มาโดยตรง
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบุคคล 40 (Personal Self Assessment Report) ผู้วิจัยจึงเล็งเห็นว่าควรมีการจัดกิจกรรมที่จะช่วยพัฒนาทั กษะการใช้อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ ให้แก่นักเรียน เพื่อนามาใช้ในการเรียนวิทยาศาสตร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากข้ึน และให้เกิด ข้อผิดพลาดในการทดลองน้อยลง อีกทั้งยังช่วยให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์และกระตือรือร้นในการ เรียน รวมถงึ นาหลกั ความร้ทู ีไ่ ด้ไปประยุกตใ์ ช้กบั การเรยี นรู้ด้านอืน่ ๆ ได้ดว้ ย จุดประสงค์ 1. เพอื่ ศึกษาผลการจดั กิจกรรมหอ้ งเรยี นทดลองวทิ ย์เพ่ือการพฒั นาทักษะการใช้อุปกรณว์ ทิ ยาศาสตร์ ประชากร/กลมุ่ ตวั อยา่ ง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 21 จานวน 19 คน โดยการ สมุ่ แบบจาเพาะเจาะจง นวตั กรรม/เคร่อื งมอื 1. แผนการจดั การเรียนรูเ้ รื่องระบบหมุนเวียนเลอื ด มีรปู แบบของกิจกรรมดงั น้ี - วดี ที ัศนเ์ รือ่ ง เทคนิคการใช้อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ - การสาธิตการใช้อุปกรณว์ ิทยาศาสตรอ์ ย่างละเอยี ด - กจิ กรรมการทดลองการหมุนเวยี นเลือด วิธีดาเนินการ เก็บรวบรวมข้อมูลจากโจทย์การทดลองท่ีสร้างข้ึนมาเพื่อทดสอบนักเรียนโดยให้คะแนนทั้ง จากการสังเกตการณ์และผลการทดลองทีอ่ อกมา ซง่ึ จะทาการทดสอบกอ่ นและหลังการจดั กิจกรรม การวเิ คราะหข์ อ้ มลู (สถติ ิท่ีใช้วเิ คราะห์) การวเิ คราะห์ข้อมลู ครผู ้สู อนจะดาเนินการวิเคราะหข์ อ้ มลู ดังน้ี 1.วิเคราะห์ข้อมูลจากคะแนนของนักเรียนใช้ร้อยละ ค่าเฉล่ียและส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน เสนอในรูปแบบตารางและความเรยี ง
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบคุ คล 41 (Personal Self Assessment Report) ตารางการทาวิจยั ในชน้ั เรียน วนั เดอื น ปี กิจกรรม หมายเหตุ พฤศจกิ ายน 62 ธันวาคม 62 - ศึกษาสภาพปัญหาและวิเคราะห์ปญั หา มกราคม 63 - เขียนเค้าโครงงานวิจัยในชน้ั เรียน กุมภาพนั ธ์ 63 มนี าคม 63 - ศกึ ษาเทคนคิ การสรา้ งแบบสอบถาม -อ อ ก แ บ บ แ ล ะ ส ร้ า ง แ บ บ ส อ บ ถ า ม ท่ี จ ะ ใช้ ใ น งานวจิ ัย - นักเรยี นทาแบบสอบถาม ผู้วจิ ัยบนั ทึกข้อมูล - เก็บรวบรวมข้อมูลและวเิ คราะห์ขอ้ มูล ผวู้ จิ ัยบันทกึ ขอ้ มลู - สรปุ และอภิปรายผล - จัดทารูปเล่ม ผลการวจิ ัย การจัดกิจกรรมแต่ละคร้ังได้ทาการประเมินการทดลอง ซ่ึงเก็บคะแนนก่อน-หลัง คร้ังละ 20 คะแนน และสามารถหาค่าเฉลี่ย (Mean) ของคะแนนที่ได้จากการประเมินการทดลองก่อนท่ีนักเรียน จะได้ชมภาพและการสาธิตพร้อมส่ือ ซ่ึงคะแนนที่ได้จากการประเมินการทดลองหลังท่ีนักเรียนจะได้ ชมภาพ นาไปคานวณหาค่าเฉลี่ยได้คือ ค่าเฉล่ียของคะแนนที่ได้จากการประเมินการทดลองก่อนชม ภาพและการสาธิตเท่ากับ 10 คะแนน ส่วนค่าเฉล่ียของคะแนนท่ีได้จากการประเมินการทดลองหลัง ชมภาพและการสาธิตพร้อมสื่อเท่ากับ 18 คะแนน หลังจากที่คานวณหาค่าเฉลี่ยได้แล้ว สามารถ คานวณหาส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (SD) ได้คือ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของคะแนนที่ได้จากการ ประเมินการทดลองก่อนชมภาพและการสาธิตพร้อมส่ือเท่ากับ 1.581 และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน ของคะแนนที่ได้จากการประเมินการทดลองหลังชมภาพและการสาธิตพร้อมสื่อเท่ากับ 0.707 เม่ือ คานวณหาค่าเฉล่ียและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานได้แล้ว จะเห็นได้ว่าเม่ือนักเรียนได้รับการจัดกิจกรรม พัฒนาทกั ษะการใชอ้ ปุ กรณว์ ิทยาศาสตร์ แล้วนกั เรยี นมีคะแนนเพ่มิ ขน้ึ 8 คะแนน
รายงานผลการประเมนิ ตนเองรายบุคคล 42 (Personal Self Assessment Report) ผลงานดเี ด่นของคร(ู ของตนเอง) เกยี รติบัตร
Search
Read the Text Version
- 1 - 49
Pages: