Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิจัยในชั้นเรียน นางสายใจ รักเรียน

วิจัยในชั้นเรียน นางสายใจ รักเรียน

Published by wichakarn.rpk21, 2021-05-14 02:14:24

Description: วิจัยในชั้นเรียน นางสายใจ รักเรียน

Search

Read the Text Version

วิจยั ในชนั้ เรียน เรอื่ ง การพฒั นาผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นวิชาดนตรี โดยใชร้ ปู แบบการสอนแบบร่วมมอื เรอื่ งเคร่ืองหมายและสญั ลกั ษณท์ างดนตรไี ทย ของนักเรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2/2 จัดทาโดย นางสายใจ รกั เรยี น กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ โรงเรียนราชประชานุเคราะห2์ 1 อาเภอแมล่ าน้อย จงั หวดั แมฮ่ ่องสอน สานักบรหิ ารงานการศึกษาพเิ ศษ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน

วจิ ัยในช้นั เรียน ชอ่ื เรอ่ื ง การพฒั นาผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น โดยใชร้ ปู แบบการสอนแบบร่วมมอื เรอื่ งเคร่ืองหมายและ สัญลักษณท์ างดนตรีไทยของนกั เรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 2/2 ชอื่ ผ้วู ิจัย นางสายใจ รกั เรียน รายวิชา ปกี ารศกึ ษา ศิลปะ (ดนตรี) 2563 ภาคเรียนที่ 2 ความเป็นมาและความสาคญั ของปัญหา ดนตรีเป็นศาสตร์ด้านหน่ึงของศิลปะ ซ่ึงในปัจจุบันนี้การศึกษาดนตรีเป็นที่นิยมและแพร่หลายมากข้ึน โดยเฉพาะดนตรีไทย เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศท่ีมีศิลปะวัฒนธรรมเก่าแก่ดนตรีไทยถือว่าเป็นมรดกทาง วฒั นธรรมอย่างหนง่ึ ทสี่ ามารถบ่งบอกความเป็นชาติไทยได้และยังมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นทั้งด้านเครื่องดนตรีบทเพลง และประเพณีการไหว้ครูดนตรี จุดมุ่งหมายของการเรียนดนตรีซึ่งอรวรรณ บรรจงศิลป (2551:4) ได้กล่าวไว้ว่า การเรยี นการสอนวชิ าดนตรีเพอ่ื ใหน้ กั เรียนสามารถแยกแยะโครงสรา้ งตา่ ง ๆ ของดนตรไี ดม้ ที ักษะพ้นื ฐานและสนุกกับ การเรียน สามารถนาความรูท้ ่ไี ด้จากการเรียนไปประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจาวัน ในการเลือกฟัง หรือชมการแสดงดนตรี เกดิ เจตคติทดี่ ีตอ่ ดนตรแี ละรูถ้ ึงคุณคา่ ของดนตรอี ย่างแท้จรงิ การจดั การเรียนการสอนวิชาดนตรีให้มีประสิทธิภาพนั้น มีหลากหลายรูปแบบ จากการสืบค้นพบว่าทฤษฎีการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เป็นวิธีการสอนรูปแบบหนึ่งที่ สามารถทา ใหก้ ารเรียนการสอนวชิ าดนตรปี ระสบความสาเรจ็ ได้อย่างดี การจัดกิจกรรมการเรียนรู้มีความสาคัญต่อการเรียนรู้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้จะต้องคานึงถึงหลักท่ี สาคัญดังน้ี ความต้องการหรือความสนใจของผู้เรียนเป็นสาคัญ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนมากที่สุด เน้นให้ผเู้ รียนสามารถสร้างสร้างองค์ความรไู้ ดด้ ้วย ตนเอง เป็นการพึ่งพาตนเองเพ่ือให้เกิดทักษะท่ีจะนาสิ่งท่ีเรียนรู้ไป ใชไ้ ดจ้ รงิ ในชวี ติ ประจาวนั และ สามารถเข้าใจวิธีการเรียนรู้ของตนได้ เน้นการประเมินตนเองจะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจ ตนเองไดช้ ัดเจนขนึ้ รู้จุดเดน่ จดุ ดอ้ ยและพร้อมทจ่ี ะปรับปรุงหรอื พัฒนาตนเองให้เหมาะสมยิง่ ขนึ้ การประเมินในส่วนนี้ เป็นการประเมินตามสภาพจริงและใช้แฟ้มสะสมผลงานช่วย เน้นความร่วมมือ ซึ่งเป็นทักษะที่สาคัญในการดาเนิน ชวี ติ ประจาวัน และเนน้ รปู แบบการเรียนรู้ ซ่ึงอาจจดั ไดท้ ้ังในรปู เป็นกลุ่มหรอื เป็น รายบุคคล (สมศักดิ์ ภู่วิภาดาวรรธน์ : 2544) การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) เป็นการจัดการเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรียนเป็น สาคัญ ที่จะช่วยให้ผู้เรียนประสบความสาเร็จในการเรียนวิทยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการกลุ่มให้ผู้เรียนได้มีโอกาส ทางานร่วมกนั เพือ่ ผลประโยชน์และเกดิ ความสาเร็จรว่ มกนั ของกล่มุ ผสู้ อนจะต้องพยายามใช้กลยุทธ์วิธีให้ผู้เรียนได้ใช้ กระบวนการประมวลส่ิงท่ีมาจากการทากิจกรรมต่างๆ จัดระบบความรู้สรุปเป็นองค์ความรู้ด้วยตนเอง เป็นหลักการ สาคัญ ดังน้ันในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาดนตรี เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ มี ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนดีขนึ้ ผศู้ ึกษาจงึ ได้พฒั นาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนโดยใชร้ ปู แบบการสอนแบบรว่ มมือ วตั ถุประสงคข์ องการวิจยั 1. เพ่ือเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาดนตรีระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยรูปแบบการ สอนแบบร่วมมือ เรอื่ งเครือ่ งหมายและสญั ลกั ษณ์ทางดนตรไี ทย สาหรบั นักเรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 2/2

2. เพ่ือสรา้ งเจตคติทีด่ ีในการเรียนวิชาดนตรีในกลุ่มนกั เรยี นใหด้ ขี ึ้น สมมตฐิ านการศกึ ษา ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนวชิ าดนตรีของนกั เรียนหลังเรียนด้วยรปู แบบการสอนแบบร่วมมือสงู กว่ากอ่ นเรยี น ประโยชนท์ ี่คาดว่าจะไดร้ บั 1. เปน็ แนวทางในการพฒั นาการจดั กิจกรรมการเรียนร้เู พ่ือชว่ ยใหผ้ เู้ รียนมผี ลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นสูงขน้ึ 2. เป็นแนวทางสาหรับครูในการพัฒนาเจตคติต่อการเรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบการสอน แบบรว่ มมอื ในกลุม่ สาระการเรยี นรอู้ นื่ ๆ ต่อไป ขอบเขตการวจิ ัย ประชากร นักเรยี นชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 กลุ่มตวั อย่าง นกั เรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 2/2 จานวน 23 คน ระยะเวลาการวิจัย ภาคเรียนท่ี2 ปกี ารศึกษา 2563 วธิ ีดาเนินการวิจัย ตัวแปรทศ่ี กึ ษา - ตวั แปรต้น ได้แก่ กิจกรรมการเรียนรูโ้ ดยใชร้ ปู แบบการสอนแบบร่วมมอื - ตัวแปรตาม ได้แก่ ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นวชิ าดนตรี การวิจยั ครง้ั น้เี ป็นการวจิ ยั เชงิ ทดลองโดยดาเนนิ การทดลองแบบ One Group Pretest Posttest Design ดงั แผนภาพนี้ O1 X O2 เมื่อ O1 หมายถึง การวัดผลก่อนการทดลอง X หมายถงึ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้โดยใช้รปู แบบการสอนแบบร่วมมือ O2 หมายถึง การวัดผลหลงั การทดลอง เครอื่ งมอื ท่ใี ช้ในการวิจัย เคร่ืองมอื ที่ใช้ในการวจิ ยั จาแนกตามลกั ษณะการใชด้ งั น้ี 1. แบบฝึกทักษะพัฒนาการเรียนรู้โดยใช้รปู แบบการสอนแบบรว่ มมือ 2. แบบประเมนิ การอา่ น เขียน และร้องโนต้ เพลงไทยในอตั ราจงั หวะสองชน้ั ข้นั ตอนดาเนนิ การวิจยั 1. จัดเตรียมเอกสารตา่ งๆ ในการทาวิจัย

2. ใช้แบบฝึกทักษะพัฒนาการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือเรื่องเครื่องหมายและสัญลักษณ์ ทางดนตรีไทย 3. ตรวจสอบความก้าวหน้าของนักเรียนจากแบบทดสอบ 4. รวบรวมและสรปุ ผลการวิจัย การเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้จัดทาได้หาแบบฝึกทักษะพัฒนาการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือ ไปทดลองกับนักเรียนช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ 2/2 จานวน 23 คน ปีการศึกษา 2563 ก่อนท่ีผู้จัดทาจะนาแบบฝึกทักษะพัฒนาการเรียนรู้ไปใช้น้ัน ได้ชี้แจงใหน้ กั เรียนทราบขน้ั ตอนให้เขา้ ใจตรงกนั เสียกอ่ นเพ่ือไมใ่ ห้เกดิ ปญั หาและขอ้ บกพร่องมีรายละเอียดดังนี้ 1. ช้แี จงวัตถปุ ระสงค์ วธิ ใี ช้แบบฝึกทักษะพฒั นาการเรยี นรู้โดยใชร้ ูปแบบการสอนแบบร่วมมือ แก่นักเรียนให้ เข้าใจขัน้ ตอนกอ่ น 2. ขัน้ ประกอบกจิ กรรม โดยให้นกั เรยี นมีบทบาทในการปฏบิ ัติ เพื่อบรรลถุ ึงจุดประสงค์ที่วางไว้ 3. ขัน้ สรปุ เปน็ การสรปุ ความเข้าใจของนกั เรียนในเรอ่ื งน้นั 4. ขนั้ ทาแบบฝกึ หดั ท้ายบท 5. ทาแบบทดสอบท้ายบท การวิเคราะห์ขอ้ มูล นาข้อมูลทไ่ี ดจ้ ากการทาแบบทดสอบก่อนเรียนและแบบทดสอบหลงั เรียนมาสร้างตารางเปรียบเทียบคะแนน สอบก่อนเรียนและหลังเรยี นของนักเรียนของนักเรียนรายบุคคลมา เพ่ือดูพัฒนาการของนักเรียนและจุดบกพร่องใน การเรยี น ใชส้ ถิติบรรยายร้อยละเปรยี บเทยี บความแตกต่างระหว่างก่อนและหลังการเรียนโดย ยึดเกณฑ์การประเมิน ตามระเบียบการประเมินผลสาหรบั ครู ผลการวจิ ยั ตารางแสดงคะแนนสอบของนักเรยี นก่อนเรียนและหลังเรยี นหลังจากใชว้ ธิ ีการสอนแบบรว่ มมือ การทดสอบ คะแนนเตม็ คะแนนเฉลย่ี ( x ) ร้อยละที่เพิ่มข้นึ ร้อยละทเี่ พมิ่ ข้นึ กอ่ นสอนแบบรว่ มมอื 10 5.52 3.35 33. 50 หลังสอนแบบร่วมมอื 10 8.87 ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชาดนตรีของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2/2 ตามตารางท่ีใช้การจัดกิจกรรมการ เรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนตามสมมติฐานข้อท่ี 1 เจตคติต่อการเรียนวิชา ดนตรีของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 หลังเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือ สูงกว่าก่อนเรียนตาม สมมตฐิ านขอ้ ที่ 2 การเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือเร่ืองเครื่องหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรีไทย เป็นการจัด กจิ กรรมทีเ่ น้น กระบวนการกลุม่ ความร่วมมือของกล่มุ คะแนนการทาใบงาน ใบกิจกรรมต่างๆ ระหว่างเรียนของกลุ่ม จะนามาหาค่าเฉล่ียและเป็นคะแนนของสมาชิกกลุ่มน้ัน ๆ นักเรียนจึงช่วยเหลือกันในการเรียนรู้ จึงทาให้ผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนหลังเรียนด้วยรูปแบบนี้มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าก่อนเรียน การเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือ เพม่ิ ความสัมพนั ธท์ ่ดี ีระหวา่ งเพื่อนในกลุม่ มกี จิ กรรมร่วมกนั ได้ช่วยเหลือซ่ึงกันและกันในการเรียน ส่งผลให้นักเรียนมี เจตคติต่อการเรียนในรายวิชาทสี่ ูงข้นึ ขอ้ เสนอแนะ อาจนารปู แบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือ ไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เร่ือง อื่น ๆ หรอื นาไปใชใ้ นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลมุ่ สาระอ่ืน ๆ

ภาคผนวก

ตารางเปรยี บเทยี บคะแนนสอบกอ่ นเรียนและหลังเรียนของนกั เรียน ท่ี ชื่อ สกุล คะแนนกอ่ นเรียน คะแนนหลงั เรยี น 58 1 เด็กชายสันติภาพ สุนทรสินธุ 68 68 2 เด็กชายกมทุ กมลโชตหิ รรษา 59 69 3 เด็กชายพุทธพงศ์ แถววชิ า 5 10 58 4 เดก็ ชายวรชาติ ศริ วิ รรณากร 69 58 5 เด็กชายสุธพิ ล ศศิศรีสกุล 48 69 6 เดก็ ชายอชิตพล เสรีกนั ทร 7 10 58 7 เด็กชายอภิสทิ ธ์ิ พิทยานสุ รณ์ 6 10 69 8 เด็กหญงิ ชมพู สกุลโลกา 48 7 10 9 เดก็ หญิงมาลี วมิ านวนาลัย 69 5 10 10 เด็กหญงิ ศภุ นดิ า แบะทู 48 58 11 เดก็ หญงิ กลุ ภรณ์ พลพฒุ พิ นั ธ์ุ 7 10 6 10 12 เด็กหญิงขวญั ฤทัย ชื่นเครอื 5.52 8.87 3.35 13 เด็กหญิงดวงฤทยั ปกรณเ์ จิดกุล 33.50 14 เด็กหญงิ ธดิ ารัตน์ เกษมเกศเกยรู 15 เดก็ หญงิ ปณชิ า กนั ทรโสภา 16 เดก็ หญงิ เพยี งขวญั สุขใกลพ้ ระ 17 เดก็ หญงิ รชั นวี รรณ อโรชาเกษมศรี 18 เด็กหญิงลดั ดาพร อนนั ต์ศุภกลุ 19 เดก็ หญิงสโรชา กิตตคิ ณุ ถาวร 20 เดก็ หญงิ สุภาพร เอื้องขจรไกล 21 เด็กหญิงอาทิตยา นฤมิตกันทร 22 เด็กหญงิ สรุ เดช ประภาสสงั เกตุ 23 เดก็ หญิงแพรนภัทร แจ่มเจริญ คา่ เฉลย่ี คะแนน ผลต่างคะแนนทเี่ พิ่มข้นึ รอ้ ยละทเี่ พ่มิ ขน้ึ

คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนบันทกึ โน้ตเพลงไทยท่ีมอี ตั ราจงั หวะสองชั้นลงในหอ้ งเพลง ชอ่ื เพลง

แบบประเมินการอ่าน เขียน และร้องโน้ตเพลงไทยในอัตราจงั หวะสองช้นั ลาดับท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1 432 1 การเขยี นโน้ตเพลงไทย 2 การอ่านโนต้ เพลงไทย 3 การร้องโนต้ เพลงไทยในอัตราจงั หวะสองชน้ั รวม ลงชอื่ ...................................................ผู้ประเมนิ .............../.................../............... เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ดีมาก = 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ดี = 3 คะแนน 11 - 12 ดมี าก พอใช้ = 2 คะแนน 9 - 10 ดี ปรับปรุง = 1 คะแนน 6 - 8 พอใช้ ตา่ กว่า 6 ปรบั ปรุง

ทอ่ น 1 รด-ล เพลงต้นบรเทศสองช้ัน -ล-ซ ---- -ด-ม ฉับ ฉ่งิ ฉับ ฉ่งิ ---ซ ---ม ---- -ล-ด รด-ล ฉิ่ง ฉบั ฉิ่ง ฉบั -ร-ด ---- -ด-ม ฉบั ฉง่ิ ฉับ ฉง่ิ ---ซ ---ม ---- ซลรด ฉิ่ง ฉบั ฉง่ิ ฉับ กลบั ตน้ ท่อน 2 ---- -ซ-- ลซ-ม ---ร -ดรม ---- ซมรด มรซม ฉบั ฉิ่ง ฉับ ฉิ่ง ฉบั ฉิ่ง ฉับ ฉ่ิง ---- -ซ-- ลซ-ม ---ร -ดรม ---- ซมรด -ร-ด ฉบั ฉ่ิง ฉับ ฉิง่ ฉับ ฉง่ิ ฉับ ฉงิ่ กลับตน้ ทอ่ น 3 ฟฟฟฟ -ซ-ฟ ซลซฟ -ม-ร ---- ซลดร ดลดซ ---- ฉง่ิ ฉบั ฉิง่ ฉับ ฉิ่ง ฉับ ฉงิ่ ฉบั ฟฟฟฟ -ซ-ฟ ซลซฟ -ม-ร ---- ซมรด -ร-ด ---- ฉงิ่ ฉบั ฉง่ิ ฉับ ฉิ่ง ฉบั ฉิ่ง ฉบั ทอ่ น 4 กลบั ตน้ ดดดด -ล-ด รมรด -ล-ซ ---- รมฟซ ลซฟม ฉิ่ง ฉับ ฉิ่ง ฉับ ฉงิ่ ฉับ ฉ่ิง ---- ฉบั ดดดด -ล-ด รมรด -ล-ซ ---- ดลดซ ดลดซ ฉงิ่ ฉับ ฉ่ิง ฉบั ฉง่ิ ฉบั ฉิง่ ---- ฉบั กลับตน้

เพลงจนี ขิมเล็กสองช้นั จังหวะฉง่ิ อตั ราจงั หวะสองช้นั ทวั่ ไป -ร-ด -มรด -ซ-ล ซมซล -ด-ด -มรด -ร-ม -ลซม ฉับ ฉง่ิ ฉับ ฉง่ิ ฉบั ฉิ่ง ฉับ ฉิ่ง จงั หวะฉิ่งอตั ราจังหวะสองช้นั เพลงสาเนยี งจนี ---- ซซซซ ลซมซ -ล-ด --รด -ล-ซ -ม-- ซล-ซ ฉง่ิ ฉ่ิง ฉบั ฉงิ่ ฉ่งิ ฉับ ฉิ่ง ฉิ่ง ฉับ ฉงิ่ ฉง่ิ ฉับ ท่อน 1 ซซซซ ลซมซ -ล-ด --รด -ล-ซ -ม-- ซล-ซ ---- ฉง่ิ ฉับ ฉิ่ง ฉิ่ง ฉบั ฉิ่ง ฉง่ิ ฉับ ฉง่ิ ฉิ่ง ฉบั ฉ่ิง -ร-ด ดร-ด -ซลม -ร-ด -ซ-ด -ร-ม -ซลม ฉงิ่ ฉับ -ล-- ฉิ่ง ฉับ ฉง่ิ ฉง่ิ ฉบั ฉงิ่ ฉง่ิ ฉบั ฉง่ิ ฉิง่ กลบั ตน้ -ล-ด ท่อน 2 ดดดด -ม-ร -ด-ล ดลดซ ฉ่ิง ฉับ -ล-- ดร-ด ---- ฉิ่ง ฉบั ฉิ่ง ฉิ่ง ฉบั ฉิ่ง ฉิ่ง ฉิ่ง ฉับ ฉ่ิง ซลซด กลบั ตน้ ซลซด --รม รมซร ---- ฉิง่ ฉบั --รม ทอ่ น 3 ฉ่งิ ฉับ ฉ่ิง ฉ่ิง ฉับ ฉิ่ง -ล-ซ ฉง่ิ รมซร ---- ฉง่ิ ฉบั ฉิ่ง ฉบั ฉ่ิง มรดล ดลดซ -ล-ด -มรด -ร-ด -ม-- ซล-ซ -มซร ฉิ่ง ฉบั ฉง่ิ ฉ่งิ ฉบั ฉง่ิ ฉง่ิ ฉับ ฉ่ิง ฉิ่ง ฉับ ฉิ่ง ดร-ด -ซลม -ร-ด -ซ-ด -ร-ม -ซลม -ล-- ฉิ่ง ฉบั ฉิง่ ฉิ่ง ฉบั ฉิ่ง ฉิ่ง ฉบั ฉงิ่ ฉิง่ กลับต้น



ใบความรู้เครอื่ งหมายและสญั ลักษณท์ างดนตรไี ทย 1. โน้ตเพลงไทย โน้ตเพลงไทย มีหลายลักษณะทั้งงท่ีใช้ตัวเลขแทนเสียงและใช้ตัวอักษรไทยแทนเสียง ในปัจจุบันนิยมใช้ ตัวอกั ษรแทนเสยี ง เสยี งของดนตรไี ทยมีทง้ั หมด 7 เสยี ง แตล่ ะชว่ งเสยี งหา่ งกัน 1 เสยี งเตม็ เท่ากันทุกเสียง ตัวอักษรท่ี ใช้แทนเสียงตัวโน้ตของไทย ได้แก่ ตัว ด ใช้แทนเสียง โด ตัว ร ใช้แทนเสียง เร ตัว ม ใช้แทนเสียง มี ตัว ฟ ใช้ แทนเสยี ง ฟา ตัว ซ ใชแ้ ทนเสียง ซอล ตวั ล ใชแ้ ทนเสียง ลา และ ตัว ท ใชแ้ ทนเสียง ที ในการบนั ทึกโน้ต ถา้ โน้ตระดบั เสยี งขึน้ เป็นคู่ 8 กาหนดใหใ้ ช้เครื่องหมาย โดยเขียนไว้บนตวั โน้ต เช่น ด ร ม เปน็ ตน้ 2. รปู แบบการบันทกึ โน้ตเพลงไทย การบนั ทึกโน้ตเพลงไทยโดยทวั่ ไป บรรทัดหนงึ่ จะแบง่ เป็น 8 หอ้ ง เทา่ ๆ กัน ดงั น้ี ในแต่ละห้องเพลงจะประกอบไปด้วยตัวอักษณที่ใชแ้ ทนเสียงตัวโน้ต 4 ตัว เสียงตัวโน้ตมีท้ังส้ันและยาว ในการ บนั ทึกโนต้ เสียงยาวจะใช้สัญลักษณ์ - แทนความยาวของจงั หวะ - มคี ่าเทา่ กับความยาวของโน้ต 1 ตัว ถ้ายาวมากก็ให้ เพ่ิมจานวนสญั ลักษณต์ ามขนาดความยาวของจงั หวะน้นั ซ่ึงจะขึ้นอยกู่ ับความยาวของตวั โนต้ แตล่ ะตวั ว่า ตอ้ งการให้มี ความยาวมากน้อยเพียบงใด ในเบ้ืองต้นวิธีง่ายที่สุดท่ีจะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจจังหวะและสามารถอ่านโน้ตได้อย่าง ถกู ตอ้ ง ก็คอื ฝกึ ใหผ้ ู้เรียนอ่านโนต้ และเคาะจงั หวะโนต้ ตัวที่ 2 และ 4 ของแตล่ ะห้อง ( โน้ตตวั ท่ี 1 และ 3 เป็นจังหวะที่ ยกมือขน้ึ ทั้ง 2 ตัว ) ให้ฝึกอ่านโน้ตในจงั หวะทีห่ ลากหลาย ซงึ่ วธิ ีนชี้ ว่ ยให้สามารถเข้าใจจังหวะย่อยในแต่ละห้องเพลง ได้ชดั เจนขึน้ ตัวอย่าง โนต้ ท่ัวไปทีม่ ีความยาวของจงั หวะเท่า ๆ กัน ให้ฝกึ ปฏิบตั ิอ่านโนต้ ต่อไปน้ีพรอ้ มเคาะจังหวะตรงตวั ท่ี 2 และ 4 ของแต่ละห้อง ด ด ด ด ร ร ร ร ม ม ม ม ฟ ฟ ฟ ฟ ซ ซ ซ ซ ล ล ล ล ท ท ท ท ดํดํดํดํ ตัวอย่าง โนต้ ทม่ี ีความยาวเท่ากบั โน้ต 2 ตัว ฝกึ ปฏิบตั โิ ดยอ่านโนต้ ต่อไปน้พี ร้อมเคาะจังหวะตรงตวั ที่ 2 และ 4 ของแต่ละหอ้ ง โนต้ ตวั ใดทมี เี ครือ่ งหมาย - ตาม ให้ อ่านเสียงใหค้ รบตามจงั หวะ - ด - ด - ร - ร - ม - ม - ฟ - ฟ - ซ - ซ - ล - ล - ท - ท - ดํ- ดํ ตัวอย่าง โน้ตที่มีเสยี งยาวและสน้ั ปนกัน ฝึกปฏิบัตโิ ดยอ่านโนต้ ต่อไปนีพ้ รอ้ มเคาะจงั หวะตวั ที่ 2 และ 4 ของแตล่ ะหอ้ ง ---ร -รรร -ซ–ม รดรม ---- ซลดร -ด–ม รรรร ---ซ -ซซซ ลซมซ -ล–ด ---ด -ดดด -ซ–ม รด–ร

3. อัตราจังหวะพ้ืนฐานเพลงไทย จังหวะเพลงไทยเดิมทน่ี ิยมบรรเลงกนั ท่ัวไป ซง่ึ บัญญตั ไิ วเ้ ป็นศัพท์สงั คีต 3 คา คอื สามชนั้ สองชน้ั และชัน้ เดยี ว ดังน้ี สามชนั้ หมายถงึ อัตราจงั หวะท่ีมีความยาวมากที่สุด หรือ ช้าท่สี ดุ มีความยาวเท่ากับอัตราจังหวะสองช้ัน 2 จังหวะ และเท่ากบั อตั ราจงั หวะชั้นเดียว 4 จงั หวะ ถ้าเคาะตามจงั หวะฉ่ิง จะเคาะตรงโน้ตตัวที่ 4 ของห้องคู่ คือ ห้องท่ี 2 , 4 , 6 , 8 ของแตล่ ะบรรทดั ดังตัวอย่าง สองชั้น หมายถึง อัตราจังหวะท่ีมีความยาวปานกลาง ส้ันกว่าอัตราจังหวะสามช้ัน 1 เท่าและยาวกว่าอัตรา จงั หวะชน้ั เดยี ว 1 เทา่ ดังนั้น ถา้ เคาะตามจงั หวะฉ่งิ จะเคาะตรงตัวโนต้ ตัวท่ี 4 ของแตล่ ะหอ้ ง ดงั น้ี ชั้นเดียว หมายถึง อัตราจังหวะที่ส้ันที่สุด มีความยาวเท่ากับครึ่งหนึ่งของอัตราจังหวะสองช้ัน ถ้าเคาะตาม จงั หวะฉ่ิงเทา่ กับจงั หวะยอ่ ยของโนต้ ท่ีได้ฝกึ ปฏบิ ตั ิข้างต้น คือ จังหวะ ฉิ่ง ลงตาแหน่งอขงตัวโน้ตที่ 2 และจังหวะ ฉับ ลงตัวโน้ตตัวที่ 4


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook