Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Magazine

Magazine

Published by maynieyaa407, 2021-02-22 03:15:22

Description: Magazine

Search

Read the Text Version

ปการ ึศกษา 2563BIO ฉ ับบ ีท 7 ป ีท 6LOGY โ ด ย เ ด็ ก ห้ อ ง 7 วิ ทย์ - คณิ ต - คอม

เซฟโซ โค. ส่วนลด 10% สําหรบั คลาสเรยี น มาพู ดเรอื งการเงินกนั เถอะ ลงทะเบียนวันนี

เครดิต : True Id แนะนาํ ทเี่ ท่ยี วกรุงเทพ กรุงเทพฯ มที ี่เทีย่ วเยอะมาก เปน เมอื งท่ไี มเคยหลบั ใหล มสี ีสันดึงดดู ใจนักทอ งเทีย่ วท่วั โลก เพราะฉะนน้ั เราคนไทยกต็ องเท่ียวไทยกัน Street Art เจริญกรงุ ความฮปิ ของกรงุ เทพฯ และความวนิ เทจ รวมตัวอยูท ถี่ นนเสนนี้ เจริญกรุง ใครที่เคย ผา นไปผานมาจะเห็นไดวา ท่นี เ่ี ปนยานเกา ของกรุงเทพฯ ที่แสนจะมเี อกลักษณ แนนอน วา นอกจากความดั้งเดิมทแ่ี สนดงึ ดดู ใจ ถนนเสนน้ียงั เอาใจสายฮปิ ดว ยลวดลาย Street Art ตามกําแพงในตรอกซอกซอยตางๆ ตง้ั แตต น ถนนไป จนสุดเลยทีเดยี ว รวมถงึ สถาปตยกรรมของตกึ รามบานชอง ยังทําเอาอยากกดชตั เตอรรัวไปอีก บอกเลยวาใครวางๆ ชวนกันมาเดนิ เลน ถา ยรปู ไดเ ลย !

เสา ชงิ ชา้ เสาชงิ ชา แลนดม ารค กลางใจกรุงเทพฯ ทเ่ี รียกไดวา เปนสญั ลักษณของกรุงเทพฯ เลยกว็ า ได เพราะฉะนน้ั ทนี่ จ่ี งึ เปนอีกหนึ่งทเ่ี ท่ยี วท่ีหา มพลาดมาถา ยรูปคะ อีกทงั้ ยงั ตง้ั อยูใกลก ับ วัดสุทศั น อีกดว ย หลังจากทาํ บญุ ไหวพระในวดั สทุ ัศนแลว ออกมาดานหนา แวะแอคทา สวยๆ ถายรปู คกู บั เสาชิงชา หรือ รอชว งเยน็ ๆ กจ็ ะไดภาพทส่ี วยงามมากๆ อีกทั้งใกลๆ เสาชงิ ชา ตลอดแนวถนน ดินสอกม็ รี านอรอยเจา ดัง เจาเกา มากมาย บอกเลยวาตอ งไมพ ลาด !

ตลาดนําตลิงชนั ตลาดน้าํ ตลงิ่ ชนั เปน ตลาดนํ้าช่ือดังในกรุงเทพฯ ทยี่ ังคงความเปน ธรรมชาติ และวิถชี ีวิตชาวบานรมิ นํ้า สองฝง คลอง แวดลอมไปดว ยสวนกลว ยไมสวนผกั บรรยากาศดีๆ ของชาวบา นฝง ธนฯ และอาหารรสชาติอรอ ยแบบทองถิน่ หา งไกลจากมลพิษบนทองถนน มเี รือแพใหน่งั ชิมอาหารอรอยริมนํ้าอีกดว ย เพราะฉะนั้นใครท่ีอยากใชช วี ติ ชา ชิมของอรอ ย อาหารทะเล กุงแมนํ้า ปลาเผาตวั เบิม้ ๆ ตอ งปก หมุดท่นี เ่ี อาไวเลย

สวนรถไฟ จตจุ กั ร พากันมาสดู อากาศกลางสวนใหญ กับ สวนรถไฟ หรือ สวนวชิรเบญจทศั ทจ่ี ตุจกั รคะ ทนี่ ่เี ปน ปอดอกี แหงของกรงุ เทพฯ ท่เี ปด ใหท กุ คนไดเ ขา มารแี ลกซ ใชช วี ิตชา ๆ ในชวงวนั หยดุ ไดส บายๆ ทามกลางตนไมใหญ กจิ กรรมดีๆ ทหี่ ลายคนมกั จะมาชลิ กค็ ือ การปน จักรยานรอบสวน หรอื ปูเส่อื นง่ั ปกนิก ใตตน ไม นอกจากนท้ี ี่สวนรถไฟยงั มีอีกหลากหลายกิจกรรมดๆี เพ่ือชวยสงเสรมิ สขุ ภาพ เชน แอโรบกิ แดนซ สนามบาส สระวายนํ้าสําหรับเด็ก และอีกหลากหลาย เพอื่ ใหคน กรงุ มาพกั ผอ นคลายเครียดกนั ไดทีน่ ี่

สถานีรถไฟ หวั ลําโพง สถานรี ถไฟหวั ลําโพง เปน สถานรี ถไฟเกา แกน ับรอยปซ ง่ึ กอ ตัง้ ขน้ึ ในปลายสมัยรัชกาลท่ี 5 ในป พ.ศ. 2453 ลกั ษณะของสถานรี ถไฟของทนี่ ี่จะแตกตา งจากที่อื่นๆ ดว ยตวั อาคารทรงโดม โคง สไตลอ ิตาเลียน ผสมกับศลิ ปะแบบเรอเนสซองซ คลา ยกนั กับสถานีรถไฟแฟรงกเ ฟรตใน ประเทศเยอรมนนี ่นั เอง ทําใหท่ีนี่เปนอีกท่ีเทีย่ วถายรปู สวยในกรงุ เทพฯ ทีเดียว นอกจากนี้ ดานหนาของสถานีรถไฟ ยงั มี พพิ ิธภณั ฑร ถไฟไทย ใหเราไดเขา ชมอีกดวย



พูดคยุ กบั ศิลปน สตรีมสดในวันศุกรเ์ วลา 19.00 น ทีเพจเฟซบุ๊ก อะไรวะ เ ว อ ร์ แ ม็ ก ซ์ อ า ร์ ต แ ก เ ล อ รี

คคําําถถาามมออะะไไรรเเออ่ย่ย แแบบบบกกววนนๆๆ ไไวว้ท้ทาายยกกับับเเพพือือนนสสนนุกุกๆๆ ใใหห้เ้เพพืออื นนมมอองงแแรรงง ทีม่ า : https://lifestyle.campusstar.com/scoop/5446.html 1. มชี ายคนหนึงเดนิ ทางไปทที ะเลแดง ซึงทะเลแหง่ นีถา้ โยนของลงไปของนันจะเปลยี นไป เขาจึงโยนรองเทา้ สี เขยี วลงไป ถามวา่ รองเทา้ จะเปลยี นเปนอะไร เฉลย รองเทา้ เปยก 2. มคี น 100 คน ยนื บนหน้าผา อยากรู้วา่ คนทเี ทา่ ไหร่ จะตกหน้าผาตาย? เฉลย คนที 9 (คนทกี า้ ว) 3. ปลาอะไร ขเี กยี จ เฉลย ปลาวาฬ (วานใหค้ นอนื ทาํ ไมท่ าํ เอง) 4. พระบชู ารุ่นใด หา้ มแขวนอยบู่ นคอพร้อมกนั เฉลย พระนางพญา กบั พระขนุ แผน (เดยี วถกู ขนุ แผน ปลา) 5. ลา้ งจานยงั ไงมอื ไมเ่ ปยก? เฉลย กนิ แลว้ แช่ ใหแ้ มล่ า้ ง ออิ ิ

6. ปลาอะไรคมุ ทะเล เฉลย ปลาเกา๋ 7. มดอะไรวา่ ยนาได้ เฉลย มดกะแดะอยากเปนปลา 8. ครูอะไรทงั ชวี ติ มปี ากกาดา้ มเดยี ว เฉลย ครูวนั เพญ็ (One pen) 10. ระฆงั ชาตใิ ดดที สี ดุ เฉลย เบลเยยี ม (Bell) 11.พระอะไรหาเรืองตาย เฉลย พมา่ แหกคกุ 12. นัทมเี รีย , เสกโลโซ, เบริด ธงไชย ไปทวั คอนเสริ ์ต ทตี า่ งประเทศ แลว้ เกดิ เครืองบนิ ตก แตน่ ัทมเี รียไม่ เปนอะไร แลว้ นัทมเี รียจะชว่ ยใคร เฉลย ชว่ ยเบริด ธงไชย เพราะเบริด ธงไชยร้องเพลง วา่ “จับมอื ไวแ้ ลว้ ไปดว้ ยกนั ” แตเ่ สกโลโซร้องเพลงวา่ “ไมต่ อ้ งหว่ งฉัน “

13. อะไรเอย่ ทาํ เพอื วดั อยา่ งเดยี วเลย หา้ มตอบวา่ พระ เฉลย ไมบ้ รรทดั 14. นกอะไรเอย่ ปากอยใู่ ตเ้ ทา้ ปกกอ็ ยใู่ ตเ้ ทา้ เฉลย นกถกู เหยยี บ 15. สมมตวิ า่ คณุ เปนเจ้าของร้านอาหารร้านหนึง ทงั ร้านมโี ตะ๊ อาหาร 4 โตะ๊ โตะ๊ หนึงโตะ๊ สองเพงิ สงั อาหาร โตะ๊ สามจ่ายเงนิ เเลว้ เเตโ่ ตะ๊ สี เบยี วคณุ จะทาํ อยา่ งไร เฉลย จัดใหต้ รง 16. ปลาอะไรเอย่ ขเี ทา่ เกาะ? เฉลย ปลาเผาไง 17. โรคอะไรถกู ทสี ดุ เฉลย โรคระบาดไงคร๊าบบบ 18. สโนวไ์ วทท์ าํ ไมถงึ ไมม่ ขี มี กู เฉลย เพราะมคี นแคระทงั 7 (พร้อมแคะขมี กู ให้ อ)ี

If you can’t love yourself, how in the hell you gonna love somebody else ถาไมรัก ไมแ ครต ัวเอง แลวจะไปรกั คนอนื่ ไดไง

ชวี วทิ ยา...คอื อะไร คาํ วา ชีววิทยา ตรงกบั คําวา Biology มีรากศัพทม าจากภาษากรีก คอื Bio แปลวา ชวี ติ และ Logos แปลวา ความคิดและเหตผุ ล Biology หมายถงึ การศึกษาเก่ียวกบั สง่ิ มีชวี ิตอยางมีเหตผุ ลทาง วิทยาศาสตร องคป ระกอบของชวี วิทยา กระบวนการ (Process) การใชก ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร ในการคนหาขอ เทจ็ จรงิ องคความรู (Knowledge) ผลของจากการศกึ ษาโดยการใช กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร กระบวนการทางวิทยาศาสตร การตง้ั ปญหา (Problem) - เกิดจากการทเ่ี ราสังเกตอะไรบางอยางจึงเกิดคาํ ถามหรอื ขอ สงสัย การต้ังสมมติฐาน (Hypothesis) - เปนการคาดเดาคาํ ตอบไวลว งหนา โดยใชเหตุผลประกอบ - อาจถูกหรือผิดกไ็ ด แตตอ งสัมพันธก ับปญ หาที่ตง้ั ไว - สวนมากมกั ข้นึ ตน ดว ยคาํ วา \"ถา ....ดังนั้น....\"

การตรวจสอบสมมตฐิ าน (Testing the Hypothesis) มีหลายวธิ ี เชน - รวบรวมขอ มูล ขอ เทจ็ จริง ท่สี ามารถสงั เกตจากธรรมชาติทว่ั ไป - คน ควา จากเอกสารงานวิจัยหรอื บันทึกผลทางสถิตทิ เี่ คยมี การศึกษาหรอื รวบรวมเอาไวก อ นแลว - การทดลอง ซง่ึ นยิ มใชกนั เพราะสามารถวางแผนและควบคมุ ตัวแปรได ตวั แปร (Variable) คือ ปจ จยั ตา งๆทเ่ี กย่ี วของกับการทดลอง มี 3 ประเภท 1. ตวั แปรตน หรอื ตัวแปรอสิ ระ (Independent Variable) คอื สิง่ ท่เี ปนตน เหตขุ องปญหา 2. ตวั แปรตาม หรอื ตัวแปรไมอสิ ระ (Dependent Variable) คือ ผลทเี่ กิดจากการเปล่ยี นแปลงของตัวแปรตน 3. ตวั แปรควบคมุ (Controlled Variable) คือ สิ่งทอ่ี าจทาํ ใหผลการทดลองคลาดเคลอื่ นถาหากไมไดควบคมุ ไว การวิเคราะหแ ละสรุปผล (Analysis and Conclusion) - เปน การนําขอมลู ที่ไดจ ากการตรวจสอบสมมติฐาน มาหา ความสัมพันธ เพ่อื ตรวจสอบวา ตรงกับสมมติฐานที่ตั้งไวหรือไม องคความรู ขอมูล (Data) ขอ เทจ็ จริงทไี่ ดจ ากการสงั เกต เอกสาร วจิ ยั ตา งๆ ซงึ่ ขอมลู ตอ งมคี วามนา เชอ่ื ถอื ทฤษฎี (Theory) สมมตฐิ านทผ่ี านการตรวจสอบจนเปน ทีย่ อมรับ สามารถนําไปใชอธบิ าย หรือ อางองิ ได กฎ (Law) หลักการท่ีมีความจรงิ อยูในตัวเอง สามารถทดลองแลว ไดผ ลดงั เดมิ

Every new day is another chance to change your life. ทกุ ๆ วันใหม เปนอีกโอกาส ท่ีจะเปลีย่ นแปลงชีวิต

การถายทอดพลังงาน ในระบบนิเวศ ประเภทของสง่ิ มชี วี ติ ทจ่ี ําแนกตามการไดร บั อาหาร 1.ผผู ลิต (Producer) คือ สิง่ มชี วี ติ ทส่ี ามารถสรา งอาหารเองได ทัง้ หมดในระบบนิเวศ ซง่ึ สวนใหญเ กิดโดยวธิ ีสงั เคราะหด วยแสงเนือ่ งจากมี คลอโรฟลลเปนองคประกอบ ไดแ ก พชื สเี ขยี ว สาหรา ยโพรทสิ ต รวมทง้ั แบคทีเรียบางชนดิ 2.ผบู รโิ ภค (consumer) สง่ิ มีชีวติ ทไ่ี มส ามารถสรา งอาหารไดเ อง ตอ งอาศยั การบริโภคผูผลิตหรอื ผบู รโิ ภคดวยกนั เปนอาหารเพ่อื การดาํ รงชีพ ผบู รโิ ภคยังสามารถแบงออกตามลักษณะและการกินไดดังน้ี - ผบู รโิ ภคพชื (herbivore) เปนผูบรโิ ภคลาํ ดบั ทห่ี น่ึง เชน กระตา ย ววั ควาย มา กวาง ชา ง เปนตน - ผบู รโิ ภคสัตว (carnivore) เปนผบู ริโภคลาํ ดับท่ีสอง เชน เหย่ียว เสอื งู เปน ตน - ผูกินทั้งพืชและสัตว (omnivore) เปนผบู รโิ ภคลําดบั ทสี่ าม เชน ไก นก แมว สุนขั คน เปน ตน - ผบู ริโภคซากพชื ซากสัตว (scavenger) เปน ผูบรโิ ภคลาํ ดับ สุดทาย เชน แรง ไสเดือนดนิ กง้ิ กอื ปลวก เปนตน 3.ผูย อยสลายสารอนิ ทรยี  (decomposer) สงิ่ มชี ีวิตทสี่ รางอาหาร เองไมได ดํารงชพี อยไู ดโ ดยการยอยสลายซากพชื ซากสัตวใชเปน พลงั งาน ดงั น้นั ผูยอ ยสลายสารอินทรียจ ึงเปน ผูที่ทาํ ใหสารอนินทรยี หรอื แรธ าตุตา งๆ หมุนเวยี นกลบั คนื สูระบบนเิ วศ และผผู ลิตสามารถนาํ ไปใชในการเจรญิ เตบิ โตอกี ดวย

รปู แบบการถา ยทอดพลังงาน 1.โซอาหาร (food chain) เปนความสัมพันธชองสิ่งมชี ีวิตที่มกี าร กินเปนทอดๆ ในแนวเดียวกนั การเขยี นโซอ าหารทาํ ไดโ ดยเปน ลกู ศร ระหวางส่งิ มีชีวติ โดยสง่ิ มีชีวติ ทถี่ ูกกินอยูท างซาย สวนผบู ริโภคอยทู างขวา 2. สายใยอาหาร (food web) เปนความสมั พนั ธข องสิ่งมีชวี ิตทีม่ ี การถายทอดพลงั งานที่ซับซอนมโี ซอาหารทมี่ คี วามสัมพนั ธก ันหลายๆ โซอ าหารในระบบนเิ วศ

Love your beloved like there is no tomorrow จงรกั คนขา งๆ คณุ ราวกบั วา วันนีเ้ ปนวนั สุดทา ย

วัฏจกั รนํ้า มีขนั้ ตอน ดงั น้ี 1.น้ําจากแหลง น้ําตา งๆ เกดิ การระเหยเขา สอู ากาศ เมอ่ื ไดร ับ ความรอ นจากดวงอาทติ ย 2.การหายใจของสง่ิ มชี ีวิต ทําใหเ กิดไอน้าํ เขา สอู ากาศ 3.การคายนาํ้ ของพืช ทาํ ใหเ กิดไอน้ําเขาสูอากาศ 4.ไอนา้ํ เกดิ การควบแนน กลายเปนเมฆ จากเมฆรวมตัวกัน หยดลงมาเปนฝน กลบั สพู น้ื ผวิ โลก

วัฏจกั รคารบ อน มขี นั้ ตอน ดงั นี้ 1.พืชนําแกสคารบอนไดออกไซดในอากาศไปใชใ นการสงั เคราะหแสง คารบอนเปลีย่ นมาอยูในรปู สารอาหารจาํ พวกแปงและนา้ํ ตาล 2.พืชถกู สตั วก ินเปนอาหาร การหายใจของพืชและสัตวท ําใหเกดิ แกสคารบอนไดออกไซดออกสูอ ากาศ 3.พืชและสัตวทต่ี าย เนา เปอ ยผุพงั โดยผูยอ ยสลายสารอนิ ทรีย การหายใจของผูย อยสลายสารอินทรยี  ทําใหเกิดแกส คารบ อนไดออกไซด เขา สูอ ากาศ 4.พชื ทที่ บั ถมกันเปนเวลานานๆ กลายเปน เชื้อเพลงิ ฟอสซิล การเผาไหมเ ชอ้ื เพลงิ ฟอสซิลทําใหเกดิ แกส คารบอนไดออกไซดอ อกสอู ากาศ

วัฏจกั รไนโตรเจน มีขั้นตอนดงั น้ี 1. แบคทีเรียตรึงไนโตรเจนดดู แกสไนโตรเจนจากอากาศ มาเปลีย่ น เปน สารไนเตรตในดิน 2. พืชดูดสารประกอบไนโตรเจนในดินไปสรางเปน โปรตีน 3. สตั วก นิ พืชไดรับโปรตนี จากพืช 4.พืชและสตั วทต่ี ายเกดิ การเนา เปอยผพุ งั โดยผูย อ ยสลาย สารอนิ ทรีย เกดิ สารประกอบแอมโมเนยี ม 5. สารประกอบแอมโมเนียมเปล่ียนเปนสารไนเตรตในดนิ จากการกระทําของแบคทเี รีย (nitrifying bacteria) 6. สารไนเตรตในดนิ ถกู แบคทเี รีย (denitrifying bacteria) เปลีย่ นเปน แกสไนโตรเจนในอากาศ

Sometimes it's very hard to move on, but once you move on, you'll realize it was the best decision you've ever made. บางคร้งั มันก็เปนเรอ่ื งยากมาก ทจ่ี ะกาวเดนิ ตอไป แตถาเรม่ิ กาวเมอ่ื ใด คณุ จะพบวา มนั คอื การตัดสนิ ใจท่ีดีท่ีสดุ

คําศัพททค่ี วรทราบ ในการศกึ ษาพันธศุ าสตร ยีน (Gene) : หนว ยขอ มลู ทางพนั ธุกรรมที่เกบ็ ไวบน DNA ซ่ึง DNA เปน หนวยยอ ยของโครโมโซม อลั ลลี (Allele) : รูปแบบของยีน (เขียนโดยใชแทนดวยตัวอกั ษร ภาษาองั กฤษ) เปนลักษณะทีแ่ สดงออกของยีนแตล ะยนี โดยหน่ึงยีน สามารถมไี ดหลายรูปแบบ เชน ยีนท่ี 1 ควบคุมลกั ษณะความสงู อลั ลลี ของยนี คอื T = ตวั สงู , t = ตัวเตยี้ ยีนที่ 2 ควบคมุ ลกั ษณะสผี ม อัลลีลของยนี คือ B = สดี ํา, b = สีทอง โครโมโซม (chromosome) : เปนทีอ่ ยูข องหนวยพนั ธุกรรม ซึ่งทํา หนาท่ีควบคุมและถา ยทอดขอ มูล เกีย่ วกับ ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมตา งๆ ของส่ิงมีชวี ิต เชน ลกั ษณะของเสน ผม ลกั ษณะดวงตา เพศ และผวิ โฮโมโลกสั โครโมโซม (homologous chromosome) : โครโมโซม ที่มตี ําแหนงของยีนที่ควบคุมลกั ษณะตาง ๆ ตรงกนั หมดมาเขา คกู ัน (แตไมจ ําเปน ตองมีอัลลีลเหมือนกัน) **โครโมโซมรา งกายของคนมี 2 ชดุ และอยกู ันเปนคู (ไดม าจากพอ 1 จากแม 1)** ลักษณะเดน (Dominant Trait) : ลักษณะท่ีปรากฏออกมาใน รุนลูกหรอ่ื รนุ ตอๆ ไปเสมอ แสดงดว ยตัวอักษรภาษาอังกฤษตวั พมิ พใ หญ เปน ลกั ษณะทีแ่ สดงแมม ีเพยี งหน่ึงอัลลลี ลักษณะดอ ย (Recessive Trait) : ลักษณะทีไ่ มม ีโอกาสปรากฎใน รุนตอไป จะถกู ขมโดยยีนเดน แสดงดว ยตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวพมิ พเ ล็ก ลักษณะทแ่ี สดงออกมาเมือ่ มีอัลลลี ดอย 2 อัลลีลอยูด วยกนั

ฟโนไทป (Phenotype) : คือ ลักษณะทีป่ รากฏใหเหน็ ภายนอกซึง่ เปน ผลมาจากยนี เชน ตนสูง ตนเต้ีย เมลด็ กลมเมลด็ ขรขุ ระ เปนตน จีโนไทป (Genotype) : ลักษณะของยนี ทอี่ ยภู ายใน จะอยกู นั เปนคู ๆ นิยมใชส ัญลักษณเปนอกั ษรภาษาองั กฤษตวั พิมใหญแ ทนยีนท่ี ควบคุมลักษณะเดน และใชอ ักษรตวั พิมเล็กแทนยนี ท่คี วบคมุ ลักษณะดอย เชน TT, Tt , tt เปน ตน แบงออกไดเ ปน 2 ลักษณะ ไดแก 1.พันธุแ ท (Homozygous) คือ ลักษณะของจโี นไทรท ่มี ยี ีนทงั้ คู เหมอื นกนั ซ่งึ อาจเปน ยนี ที่มลี กั ษณะเดนทง้ั คู เชน TT, RR หรอื แสดง ลกั ษณะดอ ย เชน tt , rr เปน ตน 2.พันธุทาง (Heterozygous) คอื ลกั ษณะของจีโนไทรทีม่ ียีนทั้งคู แตกตางกัน โดยมยี นี แสดงลกั ษณะเดน 1 ยีนแสดงลกั ษณะดอ ย 1 ยนี เชน Tt , Rr เปน ตน

Good times become good memories and bad times become good lessons. ชว งเวลาดีๆ.. จะกลายเปน ความทรงจําทดี่ ี และ ชวงเวลาแยๆ.. จะกลายเปนบทเรียนท่ีดี

Sudoku กตกิ าการเลน - ทุกแถวในแนวนอน ตอ งมีตัวเลข 1–9 และตอ งไมซํ้ากัน - ทกุ แถวในแนวตัง้ ตอ งมตี วั เลข 1 – 9 และตอ งไมซ ํา้ กัน - ทกุ ตารางยอ ย 3 x 3 ตอ งมีตวั เลข 1 – 9 และตองไมซ ้าํ กนั



เฉลย ทาํ ไดไ้ หมจะ๊

คณะจัดทาํ ช้ันมัธยมศึกษาปท่ี 6/7 นายนิธิวัฒน ภูทองอูป เลขที่ 3 นางสาวศิริรัตน รักษาศรี เลขท่ี 26 นางสาวอมราพร ไชยศิริ เลขที่ 27 นางสาวเมฑิรา พรมสิงห เลขที่ 32 นางสาวหทัยทิพย จรัญญา เลขท่ี 33


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook