แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 3กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ รายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (ว21181) ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2561หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรื่องเทคโนโลยีกับชีวติ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4เรอื่ ง การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี เวลา 2 คาบผูส้ อน นายศักด์ิณรงค์ สบื มี โรงเรียนหันคาราษฎรร์ ังสฤษดิ์1. มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั วิเคราะห์แนวคิดหลักของเทคโนโลยีความสัมพันธ์กับศาสตร์อื่นโดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์ รวมทงั้ ประเมนิ ผลกระทบท่ีจะเกิดขนึ้ ตอ่ มนุษย์ สงั คม เศรษฐกิจ และสงิ่ แวดล้อมเพ่ือเปน็ แนวทางในการพฒั นาเทคโนโลยี2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถอธิบายการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีได้ (K) 2. นกั เรยี นสามารถอธิบายการทางานของระบบทางเทคโนโลยไี ด้ (K) 3. นกั เรียนสามารถวิเคราะหก์ ารทางานของระบบทางเทคโนโลยีได้ (P) 4. นกั เรียนสามารถวิเคราะหส์ าเหตุที่หรอื ปจั จยั ทาให้เกดิ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีได้ (P) 5. นกั เรยี นเห็นความสาคัญของการเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยีจะเกดิ ข้ึนตอ่ มนษุ ย์ สังคมเศรษฐกิจ และส่ิงแวดลอ้ ม (A)3. สาระการเรยี นรู้ 1) เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซ่ึงมีสาเหตุหรือปัจจัยมาจากหลายด้าน เชน่ ปญั หา ความต้องการ ความก้าวหนา้ ของศาสตร์ตา่ งๆ เศรษฐกิจ สงั คมวัฒนธรรม ส่ิงแวดล้อม4. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด มนษุ ย์สรา้ งหรือพัฒนาเทคโนโลยขี ึ้นมาเพอ่ื แก้ปญั หาหรอื สนองความตอ้ งการ ซ่ึงเทคโนโลยีท่ีถกู สรา้ งขน้ึจะมีประโยชน์ ณ ช่วงเวลาใดเวลาหน่ึง เมอ่ื เวลาผา่ นไปมนุษย์อาจพบปัญหา หรือสถานการณ์ใหม่ทาให้ตอ้ งสร้างหรือพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาเพื่อใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ท่ีเปล่ียนไป ปัจจัยท่ีส่งผลต่อการเปล่ียนแปลงเทคโนโลยีต้ังแตอ่ ดีตจนถึงปัจจบุ ันมีสาเหตุมาจากหลายดา้ น เช่น ปัญหาความต้องการความกา้ วหนา้ ของศาสตร์ตา่ งๆ สภาพเศรษฐกจิ สงั คม วฒั นธรรม และส่งิ แวดล้อม ซึง่ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั ปจั จยั ทีส่ ่งผลต่อการเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยีเหล่านี้ สามารถใช้เป็นแนวทางเพ่ือการพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพ และทันสมัย ตลอดจนสามารถคาดการณเ์ ทคโนโลยีทอี่ าจเกิดขนึ้ ในอนาคตได้
5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี นและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์1.ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวนิ ัย2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน 1) ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ 2) ทกั ษะการสังเกต 3) ทกั ษะการสือ่ สาร 4) ทกั ษะการทางานรว่ มกนั3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี6. สอื่ ประกอบการเรยี นรู้ 1. ตวั อย่างเทคโนโลยีเพ่ือประกอบการอธบิ าย เรอื่ งการเปลีย่ นแปลงทางเทคโนโลยี เชน่ โทรศัพท์ มอื ถอื คอมพวิ เตอร์ บรรจภุ ณั ฑร์ กั ษส์ ่งิ แวดลอ้ ม 2. วีดิทัศน์ เร่อื งเทคโนโลยที างการแพทย์ 3. หนงั สือเรยี นรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 4. หอ้ งสมดุ โรงเรยี นหันคาราษฎรร์ ังสฤษดิ์7. ช้ินงานและภาระงาน 1. ใบกจิ กรรม เรื่อง สาเหตหุ รือปัจจัยของการเปล่ยี นแปลงเทคโนโลยใี นชวี ิตประจาวนั 2. ใบกิจกรรมทา้ ทายความคดิ เรื่อง การพัฒนาไม้เท้าสาหรับผู้บกพร่องทางการเหน็ 3. ใบกจิ กรรมทา้ ยบท เรอ่ื ง วิเคราะห์สาเหตหุ รอื ปัจจัยของการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยที างการแพทย์8. กจิ กรรมการเรียนรู้ แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชั่วโมงท่ี 1ขน้ั นา กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครนู าเข้าสบู่ ทเรยี นดว้ ยการยกตวั อยา่ งเทคโนโลยีรอบตัวท่มี ีการเปลยี่ นแปลงทเ่ี ห็นได้อยา่ งชดั เจน เช่นโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ บรรจุภัณฑ์รักษ์ส่ิงแวดล้อมด้วยการใช้ตัวอย่างจริงใช้ภาพนิ่ง หรือวีดิทัศน์แสดงเร่ืองราวการเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยีดังกลา่ วต้ังแต่อดีตจนถึงปัจจุบันว่าเทคโนโลยีแต่ละชนิดมีรปู รา่ ง การใช้งาน ความปลอดภยั ความแข็งแรง ราคาแตกตา่ งกนั อย่างไร 2. ครูใหค้ วามรู้เพ่ิมเติมเกย่ี วกบั เทคโนโลยชี นิดตา่ งๆ ในอดีต เชน่ โทรศพั ทม์ อื ถอื คอมพิวเตอร์ เคยมีขนาดใหญแ่ ละตอ้ งใช้ระยะเวลาประมวลผลนาน ปจั จบุ นั มรี ูปแบบและการใช้งานทเี่ ปลย่ี นไปอยา่ งมาก 3. ครสู ุ่มนกั เรียน 3-4 คน ยกตวั อย่างเทคโนโลยใี กล้ตัวท่ีเกิดการเปล่ยี นแปลงโดยครชู ักชวนนกั เรียนใหร้ ว่ มกนั อภิปรายว่าเทคโนโลยีทเ่ี กิดการเปลย่ี นแปลงนน้ั ส่งผลต่อนกั เรียนอยา่ งไร 4. ครถู ามคาถามกระตุ้นความคิดจากหนงั สือเรียนบทท่ี 2 เรื่องสาเหตุหรือปัจจัยของการเปลี่ยนแปลงเร่ืองความรู้เก่ียวกับสาเหตุหรือปัจจัยท่ีทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ได้แก่ ปัญหา หรือความต้องการองค์ความรู้ และ
ความกา้ วหนา้ ของศาสตรต์ ่างๆ โดยเฉพาะวทิ ยาศาสตร์ และคณติ ศาสตร์ ปจั จัยจากสภาพเศรษฐกจิ สงั คม วฒั นธรรมและสิ่งแวดลอ้ ม แล้วให้นกั เรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เห็น และตอบคาถาม (หมายเหตุ : ครูเร่ิมประเมนิ นักเรียนโดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล)ขน้ั สอน สารวจค้นหา (Explore) 1. ครแู บ่งกลมุ่ นักเรียนแบบคละความสามารถ (เกง่ -คอ่ นข้างเก่ง-ปานกลาง-อ่อน) อยใู่ นกลมุ่ เดียวกันกลุ่มละ 4-5 คน โดยครูเป็นผู้เลือกนักเรียนเข้ากลุ่มแล้วให้นักเรียนร่วมกันศึกษาและสืบค้นเก่ียวกับการทากิจกรรมท่ี 1 เร่ืองสาเหตุหรือปัจจยั ของการเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยีในชีวติ ประจาวัน 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันพูดคุยและอภิปรายภายในกลุ่มจากข้อมูลท่ีได้ร่วมกันศึกษาแล้วเขียนสรุปลงในกระดาษฟลิปชาร์ต (Flip chart) โดยครูคอยสังเกตการณ์ทากิจกรรมของนักเรียนแต่ละกลุ่มอย่างใกลช้ ิดพร้อมกบั คอยใหค้ าแนะกบั นักเรยี นท่มี ขี ้อสงสัยระหว่างการทากจิ กรรม 3. ครูแจ้งนักเรียนว่าจะมีการนาเสนอข้อมูล เรื่องสาเหตุหรือปัจจัยของการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยใี นชวี ติ ประจาวัน โดยให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มเตรยี มการนาเสนอข้อมูลด้วยวิธีการสอื่ สารท่ที าให้ผู้อื่นเข้าใจงา่ ย และนา่ สนใจ (หมายเหตุ : ครูเรมิ่ ประเมินนักเรียนโดยใช้แบบประเมินการนาเสนอผลงาน)อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. ครมู อบหมายใหน้ ักเรียนทากิจกรรมทา้ ทายความคิดจากสถานการณ์ของน้องโรบอททไี่ ดศ้ ึกษาแนวทางการพัฒนาไม้เท้าสาหรับผู้บกพรอ่ งทางการเห็น แล้วเตรียมออกนาเสนอหน้าช้ันเรียนและอภิปรายสรปุร่วมกนั สง่ เป็นการบา้ น ชวั่ โมงท่ี 2ข้ันสอน สารวจคน้ หา (Explore)(ต่อ) 1. ครูสนทนากับนกั เรยี นเก่ียวกับประสบการณ์ท่ไี ด้รบั ผลกระทบจากการใช้เทคโนโลยีว่า สร้างผลดีหรือผลเสยี กบั นกั เรยี นอยา่ งไรบา้ ง (แนวคาตอบ เทคโนโลยีถูกนามาใช้ในทางท่ีดีจะเกิดประโยชน์ แต่ในบางคร้ังเทคโนโลยีเหล่านี้ก็ทา ใหเ้ กิดปญั หาได้เชน่ กนั ) 2. ครูให้นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ท่ีครูได้ใหจ้ บั กล่มุ ไว้แล้วออกมาจบั สลากเพ่ือเลือกศึกษาตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ดงั หัวข้อตอ่ ไปนี้ - อุปกรณ์ชว่ ยลดปญั หาเกีย่ วกบั การนอน - หูฟังแพทย์ - บรรจภุ ัณฑ์รักษ์สิ่งแวดลอ้ ม จากน้นั ให้ตัวแทนแตล่ ะกล่มุ นาเสนอผลการศึกษาเพ่อื อภปิ รายสรปุ เกย่ี วกบั สาเหตุหรอื ปจั จยั ของการเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยี
3. ครูจัดกจิ กรรมโดยใชค้ าถามชวนคิดเกี่ยวกบั เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก ว่าเทคโนโลยีเหล่านัน้ มอี ะไรบา้ งและทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้อย่างไร โดยให้นักเรียนศึกษาจากบทเรียน หรือสืบค้นจากแหล่งเรียนรอู้ น่ื ๆ เช่น วารสารในห้องสมดุ เว็บไซต์ แล้วนาข้อมูลท่ไี ด้มาทาลงในกระดาษ A4 แล้วนามาส่งครเู พอื่ ให้ครตู รวจสอบความถูกต้อง (หมายเหตุ : ครูเรมิ่ ประเมินนกั เรียนโดยใชแ้ บบประเมนิ ชน้ิ งาน/ผลงาน) 4. ครูสุ่มเรยี กเลขที่ใหอ้ อกมาอธิบายข้อมูลท่ีสบื ค้นได้ โดยมีครูคอยอธิบายเพม่ิ เตมิ ในสว่ นของท่ียังมีข้อบกพรอ่ งอยู่อธิบายความรู้ (Explain) 1. ครจู บั สลากเลือกลาดับของแตล่ ะกลมุ่ ใหอ้ อกมานาเสนอผลการศกึ ษาโดยให้นักเรยี นกลุ่มทถี่ ูกเลอื กเปน็ อันดบั แรกส่งตัวแทนออกมานาเสนอผลการศกึ ษาทลี ะกลุ่มจนครบ (หมายเหตุ : ครเู ริ่มประเมินนักเรยี นโดยใชแ้ บบประเมนิ การนาเสนอผลงาน) 2. นักเรียนกลุ่มอ่ืนๆ และครูร่วมกันวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับข้อมูลช้ินงานของนักเรียนท่ีออกมานาเสนอจนทกุ คนมคี วามรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องและตรงกัน 3. ครูอธิบายเน้ือหาเพิ่มเติมหลังการอภิปรายของนักเรียนในส่วนท่ีขาดตกบกพร่อง หรือส่วนที่เป็นประเด็นสาคัญ ในเร่อื งการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีขน้ั สรปุ ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate) 1. ครูใหน้ ักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียนเพ่ือวัดความเขา้ ใจหลังจากทากจิ กรรม 2. ครูให้นักเรียนทากิจกรรมท้ายบท เร่ือง วิเคราะห์สาเหตุหรือปัจจัยของการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีทางการแพทย์ แล้วนาเสนอ และอภิปรายสรุปแนวคิดหลักของสาเหตุหรือปัจจัยท่ีทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีขน้ั ประเมนิ ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูตรวจสอบผลการทาแบบทดสอบหลังเรียน เพ่ือวัดความรขู้ องนักเรียนหลังจากทากจิ กรรม 2. ครูประเมินผลโดยการสังเกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล พฤติกรรมการทางานกลมุ่ และจาก การนาเสนอผลงานหน้าชน้ั เรียน 3. ครูประเมินผลช้ินงาน/ผลงานกระดาษ A4 ทส่ี รปุ ขอ้ มูล เร่ืองเกยี่ วกบั เทคโนโลยีเปล่ยี นโลก 4. ครูประเมินผลช้ินงาน/ผลงานฟลปิ ชารต์ ที่สรปุ ข้อมลู เรื่องสาเหตุหรือปัจจัยของการเปลย่ี นแปลง ของเทคโนโลยีในชีวิตประจาวัน 5. ครตู รวจใบกิจกรรมที่ 1 เรือ่ งสาเหตุหรือปจั จยั ของการเปล่ียนแปลงเทคโนโลยใี นชวี ติ ประจาวนั 6. ครตู รวจใบกจิ กรรมทา้ ทายความคิด เรอ่ื งการพฒั นาไม้เทา้ สาหรบั ผบู้ กพรอ่ งทางการเห็น 7. ครูตรวจกจิ กรรมท้ายบท เรื่องวิเคราะหส์ าเหตหุ รือปัจจัยของการเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยที าง การแพทย์
9. การวดั และการประเมินผลสง่ิ ทวี่ ัด / ประเมนิ ผล วิธีการวดั ผล เคร่ืองมอื ทใี่ ช้วัดผล เกณฑ์การประเมินการประเมนิ หลงั เรียน - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - แบบทดสอบหลงั เรียน รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์แบบทดสอบหลังเรยี นหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอ่ื ง การ-เปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยีนักเรียนสามารถอธิบายการ - การอภิปราย - คาถาม คะแนน 4 หมายถึง ดมี ากเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีได้ - การตอบคาถาม คะแนน 3 หมายถึง ดี(K) คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 1 หมายถึง ปรับปรุงนักเรียนสามารถอธิบายการ - การอภิปราย - คาถาม คะแนน 4 หมายถงึ ดีมากทางานของระบบทางเทคโนโลยี - การตอบคาถาม คะแนน 3 หมายถึง ดีได้ (K) คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 1 หมายถึง ปรับปรงุนักเรียนสามารถวิเคราะห์การ - ตรวจกระดาษ A4 ทีส่ รปุ - แบบประเมนิ ช้ินงาน/ คะแนน 4 หมายถึง ดมี ากทางานของระบบทางเทคโนโลยี ข้อมูล เรอ่ื งเก่ยี วกับเทคโนโลยี ผลงาน คะแนน 3 หมายถึง ดีได้ (P) เปลยี่ นโลก - แบบสังเกตพฤติกรรมการ คะแนน 2 หมายถึง พอใช้ - สังเกตพฤติกรรมการทางาน ทางานกลุม่ คะแนน 1 หมายถึง ปรับปรงุ กลุ่มนักเรยี นสามารถวเิ คราะห์ - ตรวจฟลปิ ชาร์ตที่ - แบบประเมนิ ช้นิ งาน/ คะแนน 4 หมายถงึ ดีมากสาเหตุท่ีหรือปัจจัยทาใหเ้ กิดการ สรปุ ข้อมลู เร่อื ง สาเหตหุ รอื ผลงาน คะแนน 3 หมายถึง ดีเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยี ปัจจัยของการเปลีย่ นแปลงของ -กิจกรรมทา้ ยบท คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้ได้ (P) เทคโนโลยีในชีวิตประจาวัน คะแนน 1 หมายถึง ปรบั ปรุง - ตรวจกจิ กรรมทา้ ยบทนักเรียนเห็นความสาคัญของการ - การอภิปราย - คาถาม คะแนน 4 หมายถึง ดีมากเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีจะ - ประเมินการนาเสนอ - ผลงานท่ีนาเสนอ คะแนน 3 หมายถงึ ดีเกิดขึน้ ต่อมนุษย์ สังคมเศรษฐกจิ ผลงาน คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้และส่ิงแวดล้อม (A) คะแนน 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุทกั ษะการคิดเชงิ ระบบ - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ทักษะการคิดอยา่ ง- - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์มวี ิจารณญาณทักษะการสือ่ สาร - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ทักษะการทางานร่วมกบั ผู้อื่น - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - สงั เกตความมีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ - แบบประเมนิ คุณลักษณะ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ และมุง่ ม่ันในการทางาน อันพึงประสงค์
10. เกณฑร์ ะดบั การใหค้ ะแนนประเดน็ การประเมิน 4 ระดับคะแนน 2 1 3นักเรียนสามารถอธบิ ายการ อธิบายการเปลย่ี นแปลง อธบิ ายการเปลี่ยนแปลง อธบิ ายการเปล่ียนแปลง ไม่สามารถอธบิ ายเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี ของเทคโนโลยีได้ถูกตอ้ ง ของเทคโนโลยไี ด้ถกู ตอ้ ง ของเทคโนโลยไี ด้ถูกตอ้ ง การเปลย่ี นแปลงได้ (K) ครบถว้ น เปน็ ส่วนใหญ่ บางส่วน ของเทคโนโลยไี ด้นักเรียนสามารถอธิบายการ อธิบายการทางานของ อธิบายการทางานของ อธิบายการทางานของ อธิบายการทางานทางานของระบบทาง ระบบทางเทคโนโลยไี ด้ ระบบทางเทคโนโลยีได้ ระบบทางเทคโนโลยีได้ ของระบบทางเทคโนโลยไี ด้ (K) ถูกตอ้ งครบถว้ น ถกู ต้องเปน็ ส่วนใหญ่ ถกู ตอ้ งบางส่วน เทคโนโลยีไม่ได้นักเรียนสามารถวิเคราะห์ วิเคราะหก์ ารทางานของ วิเคราะห์การทางานของ วิเคราะห์การทางานของ วเิ คราะหก์ ารการทางานของระบบทาง ระบบทางเทคโนโลยีได้ ระบบทางเทคโนโลยีได้ ระบบทางเทคโนโลยีได้ ทางานของระบบเทคโนโลยีได้ (P) ถกู ตอ้ งครบถว้ น เป็นส่วนใหญ่ ไดบ้ างสว่ น ทางเทคโนโลยี ไมไ่ ด้นกั เรยี นสามารถวิเคราะห์ วิเคราะหส์ าเหตุทห่ี รือ วเิ คราะหส์ าเหตุทหี่ รอื วเิ คราะหส์ าเหตุทหี่ รอื วเิ คราะหส์ าเหตทุ ่ีสาเหตุท่ีหรอื ปัจจยั ทาใหเ้ กิด ปัจจยั ทาใหเ้ กดิ การ ปจั จัยทาใหเ้ กดิ การ ปจั จัยทาใหเ้ กิดการ หรือปจั จัยทาให้การเปล่ียนแปลงของ เปลีย่ นแปลงของ เปลยี่ นแปลงของ เปลยี่ นแปลงของ เกดิ การเทคโนโลยีได้ (P) เทคโนโลยีพรอ้ ม เทคโนโลยีพรอ้ มอธบิ าย เทคโนโลยีอธบิ ายเหตผุ ล เปล่ียนแปลงของ อธิบายเหตผุ ลได้ เหตผุ ลไดถ้ ูกตอ้ งเป็นส่วน ไดถ้ กู ตอ้ งเปน็ บางส่วน เทคโนโลยีแต่ ถูกต้อง ครบถว้ น ใหญ่ อธบิ ายเหตผุ ล ไม่ถกู ต้องนกั เรยี นเห็นความสาคญั ของ เหน็ ความสาคญั ของการ เหน็ ความสาคัญของการ เหน็ ความสาคญั ของการ อธบิ ายเหตผุ ลการเปลี่ยนแปลงของ เปลีย่ นแปลงของ เปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี เปลี่ยนแปลงของ ความสาคญั ของเทคโนโลยจี ะเกดิ ขนึ้ ตอ่ มนุษย์ เทคโนโลยจี ะเกดิ ขน้ึ ตอ่ จะเกดิ ข้ึนต่อมนษุ ย์ สงั คม เทคโนโลยจี ะเกดิ ขนึ้ ต่อ การเปลย่ี นแปลงสงั คมเศรษฐกจิ มนุษย์ สงั คมเศรษฐกจิ เศรษฐกิจ มนุษย์ สังคมเศรษฐกิจ ของเทคโนโลยจี ะและสิง่ แวดลอ้ ม (A) และสง่ิ แวดลอ้ มได้ และสิ่งแวดล้อมไดเ้ ปน็ ส่วน และสิง่ แวดลอ้ มไดอ้ ย่าง เกิดขน้ึ ตอ่ มนษุ ย์ ถูกต้องเหมาะสม ใหญ่ ถกู ต้องเหมาะสมเปน็ สงั คมเศรษฐกิจ ครบถ้วน บางสว่ น และสง่ิ แวดล้อมไม่ ถูกต้อง เกณฑ์การตัดสินระดบั คุณภาพ คะแนน 4 คะแนน หมายถึง ระดบั คณุ ภาพ ดมี าก คะแนน 3 คะแนน หมายถึง ระดับคณุ ภาพ ดี คะแนน 2 คะแนน หมายถงึ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ คะแนน 1 คะแนน หมายถงึ ระดับคณุ ภาพ ปรบั ปรุง หมายเหตุ เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผลสามารถปรับเปล่ยี นได้ตามเหมาะสม
11. แหล่งเรยี นรู้ 1. ห้องเรยี น 2. แหล่งเรยี นรูใ้ นชมุ ชนท่เี ก่ยี วกับการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีดา้ นการประกอบอาชีพในทอ้ งถ่นิ12. ข้อเสนอแนะ 1. นักเรียนสามารถเข้ามาสอบถามครไู ด้ ท้ังงานกลุ่ม และใบกิจกรรมต่างๆ ถ้าไม่เข้าใจ หรอื ไม่รจู้ ะทาไปในแนวไหนให้นักเรียนเข้ามาสอบถามได้ในกลุ่มของ ม.1 แต่ละห้องท่ีครูสร้างไว้ให้ได้ โดยแลกเปล่ียนความรู้กนั พูดคยุ กัน และสามารถออกความคดิ เหน็ ได้ เดี๋ยวครูจะชว่ ยดวู า่ สง่ิ ทน่ี กั เรียนทาถกู หรือไม่13. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศกึ ษา หรอื ผ้ทู ่ีได้รบั มอบหมายข้อเสนอแนะ................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. ............................................... ลงชอื่ ......................................................................... (.........................................................................) ตาแหนง่ ...........................................................................14. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ดา้ นความรู้ ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................... ด้านสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น........................................................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................... ด้านความสามารถทางการออกแบบ และเทคโนโลยี.................................................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................ ............................................... ด้านอืน่ ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทม่ี ีปญั หาของนกั เรยี นเปน็ รายบุคคล (ถ้าม)ี )............................................................................................................................. ........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ ............................................... ปญั หา/อุปสรรค........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ แนวทางการแกไ้ ข........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................
ใบกจิ กรรม เรอ่ื ง สาเหตหุ รือปัจจยั ของการเปล่ียนแปลงเทคโนโลยีในชีวิตประจาวัน คาชี้แจง : ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามต่อไปนี้ให้ถกู ตอ้ ง ครบถ้วน และสมบรู ณ์ นักเรยี นลองสงั เกตและเลอื กเทคโนโลยใี นชวี ิตประจาวนั ที่เคยเห็นและไมซ่ า้ กบั ตวั อย่างในบทเรียนมาอย่างน้อย 3 ชนิด แล้วอธิบายลักษณะของเทคโนโลยีเหล่าน้ันว่ามีการเปล่ียนแปลงจากอดีตจนถึงปัจจุบันอย่างไรในประเดน็ ตา่ งๆ เชน่ รปู รา่ ง การใชง้ าน ความปลอดภยั ความแข็งแรงราคา พรอ้ มทงั้ วเิ คราะห์สาเหตุหรือปัจจัยทีท่ าใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลง แลว้ นาเสนอ
กจิ กรรมทา้ ทายความคดิ การพฒั นาไมเ้ ทา้ สาหรบั ผ้บู กพร่องทางการเห็น คาชแ้ี จง : ให้นักเรยี นช่วยกันคดิ คาตอบคาถามตอ่ ไปนใี้ ห้ถกู ตอ้ ง ครบถ้วน และสมบรู ณ์ จากกิจกรรมทา้ ทายความคิดในบทท่ี 1 นักเรียนได้ทราบมาแล้วว่า น้องโรบอทไดศ้ ึกษาแนวทางการพัฒนาไม้เทา้ สาหรับผูบ้ กพร่องทางการเห็น และทราบระบบการทางานของไม้เทา้ รวมถึงไดอ้ อกแบบแนวคดิการพัฒนาระบบการทางานของไม้เท้าให้มีประสิทธิภาพเพ่ือช่วยให้ผู้บกพร่องทางการเห็น และลดการเกิดอุบัติเหตุได้ดีข้ึน อย่างไรก็ตามน้องโรบอทต้องการทราบว่า ไม้เท้าสาหรับผู้บกพร่องทางการเห็นมีการเปลีย่ นแปลงอย่างไรบา้ ง ถ้านกั เรียนเป็นนอ้ งโรบอท จะมวี ธิ ีการพฒั นาปรับปรุงไม้เท้าให้มีประสทิ ธิภาพดีขึ้นไดอ้ ย่างไรเพอ่ื ช่วยเหลอื ผู้บกพรอ่ งทางการเห็นลดอุบัติเหตจุ ากการเดินทางชว่ ยกนั คดิ 1. ให้นักเรียนสืบคน้ ข้อมลู เพอื่ ศกึ ษาว่าในอดตี จนถึงปจั จบุ นั ไมเ้ ท้าสาหรบั ผู้บกพรอ่ งทางการเหน็ มกี ารพัฒนา และเปลีย่ นแปลงมาอย่างไรบา้ ง พร้อมนาเสนอโดยแสดงภาพตัวอย่าง และอธิบายสาเหตหุ รือปจั จัยที่ทาใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลง แนวคาตอบ ในอดีตไมเ้ ทา้ อาจมี 1 ขาหรือมี 4 ขา ชว่ ยประคองผู้ใช้ในขณะเดิน ซ่งึ สามารถใช้งานไดท้ ้ังผู้บกพร่องทางการเห็นผทู้ ี่ต้องฝึกหดั เดนิ และผู้สูงอายุ ต่อมามกี ารพัฒนาไม้เทา้ สาหรับผบู้ กพรอ่ งทางการเห็นโดยเฉพาะซ่ึงใช้วัสดุที่มีน้าหนักเบา เช่น อะลูมิเนียม ป้องกันการเกิดสนิม และสามารถพับเก็บได้ ปัจจุบันไม้เท้าผู้บกพร่องทางการเหน็ การพฒั นาไม้เทา้ สาหรบั ผบู้ กพรอ่ งทางการเหน็ มีเซ็นเซอร์สาหรบั สง่ิ กีดขวาง โดยสามารถสง่ เสยี งเตือน และสัน่ ทมี่ อื จับได้ เทคโนโลยีนจ้ี ึงใชป้ ัจจยั ทเ่ี กยี่ วกับปัญหา และความต้องการของมนุษย์ร่วมกับความก้าวหนา้ ทางวทิ ยาศาสตร์ในด้านอปุ กรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์ และวสั ดุท่ีนามาใชท้ าไมเ้ ท้าชนิดตา่ งๆ
กิจกรรมทา้ ยบท วเิ คราะหส์ าเหตุหรอื ปัจจยั ของการ เปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยที างการแพทย์ คาช้แี จง : ให้นักเรียนตอบคาถามตอ่ ไปนีใ้ หถ้ ูกต้อง ครบถว้ น และสมบรู ณ์ ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละประมาณ 3-4 คน แล้วเลือกเทคโนโลยีทางการแพทย์มา 1 ชนิดยกตวั อยา่ ง เชน่ อุปกรณ์ชว่ ยในการเดนิ จากน้ันวิเคราะหห์ าสาเหตุ หรอื ปัจจยั ที่ทาใหเ้ กดิ การเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยีน้ัน จากอดีตมาถงึ ปจั จุบัน และคาดการณ์เทคโนโลยีท่จี ะเปลีย่ นแปลงไปในอนาคตพรอ้ มทง้ั อธิบายลกั ษณะของเทคโนโลยีนนั้ ทีจ่ ะเกดิ ข้ึนแล้วนาเสนอ แนวคาตอบ เทคโนโลยีทีเ่ ลือก คืออปุ กรณช์ ว่ ยในการเดนิ 1) สาเหตหุ รือปจั จยั ท่ที าใหเ้ กิดการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีชนดิ นน้ั จากอดตี จนถึงปัจจบุ นั ตอบ ในอดตี จะใช้ไม้ค้ายนั (มี 1 ขาหรือมากกวา่ ) ตอ่ มามกี ารพฒั นาวอร์กเคอร์ (walker) ซง่ึ เป็นโครงอะลูมิเนียมมีขา 4 ขา (หรือล้อ) ให้ผู้ใช้จับท้ังสองมือจับยกหรือดันช่วยเดิน ปัจจุบันมี รองเท้าบูทช่วยเดิน (ankle brace walker) ซ่ึงจะมีส่วนท่ีช่วยประคองขาของผู้ใช้ในขณะเดิน เทคโนโลยีน้ีจึงใช้ปัจจัยที่เก่ียวกับปัญหาและความต้องการของมนุษย์ร่วมกับความก้าวหน้าทาง วทิ ยาศาสตร์ในดา้ นวสั ดุทนี่ ามาใช้ทาอุปกรณ์ชว่ ยในการเดนิ ชนดิ ตา่ งๆ 2) คาดการณล์ กั ษณะของเทคโนโลยนี นั้ ทจ่ี ะเกดิ ข้ึนในอนาคต ตอบ จากความก้าวหน้าดา้ นวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารอปุ กรณ์ ช่วยในการเดินอาจจะมีการทางานแบบ Internet of Things (IoT) คือ มีการติดตั้งหน่วยความจา และการประมวลผลในอปุ กรณ์เพื่อบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับแรงกดระยะในการเดินการคานวณปรมิ าณ แคลอรีทีใ่ ชใ้ นการเดนิ มรี ะบบการเชอื่ มต่อข้อมูลทางอนิ เทอร์เนต็ เพ่อื ส่งขอ้ มูลดังกลา่ วไปให้บคุ ลากร ทางการแพทย์ทีเกย่ี วข้อง และจากความก้าวหน้าของวัสดุศาสตรจ์ ะทาใหอ้ ปุ กรณ์ช่วยในการเดนิ ทา ด้วยวัสดุท่ีมีน้าหนักเบาแต่มีความคงทน แข็งแรง มีอายุการใช้งานยาวนานรวมท้ังความรู้ด้าน วศิ วกรรมการแพทยใ์ นการออกแบบอปุ กรณ์ชว่ ยในการเดินให้มีความเหมาะสมกับสรีระ เพศ และวัย ของผใู้ ชแ้ ตล่ ะคน
แบบประเมินผลงาน/ชิน้ งานแบบประเมินผลงานกระดาษ A4 ท่สี รปุ ข้อมูล เรอ่ื งเทคโนโลยเี ปลย่ี นโลกลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 (ดมี าก) ระดบั คุณภาพ 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรุง) 1 ตรงกบั จุดประสงค์ท่ีกาหนด 2 มีความถกู ต้องสมบรู ณ์ 3 มีความเปน็ ระเบยี บ รวม ลงช่อื .............................................................ผูป้ ระเมนิ ...................../......................./.................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนผลงาน/ชน้ิ งานเกณฑ์ประเมินผลงานกระดาษ A4 ท่ีสรปุ ข้อมลู เรอ่ื งเทคโนโลยีเปลยี่ นโลก ประเด็นที่ประเมิน ระดับคุณภาพ1. ผลงานตรงกับ 4 3 2 1 จดุ ประสงค์ท่ีกาหนด ผลงานไม่สอดคล้อง ผลงาสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคลอ้ ง2. ผลงานมคี วาม กบั จุดประสงค์ กับจดุ ประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ กบั จุดประสงค์ ถกู ต้องสมบูรณ์ ทุกประเด็น เป็นสว่ นใหญ่ บางประเด็น เน้อื หาสาระของ3. ผลงานมีความ เนอ้ื หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เนือ้ หาสาระของ ผลงานไม่ถกู ต้อง เปน็ ระเบยี บ ผลงานถูกต้อง ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานถกู ต้อง เป็นสว่ นใหญ่ เป็นสว่ นใหญ่ เปน็ บางประเดน็ ผลงานสว่ นใหญ่ ครบถว้ น ไม่เปน็ ระเบียบ ผลงานส่วนใหญ่ ผลงานมคี วาม และมีข้อบกพร่อง ผลงานมีความ มคี วามเปน็ เปน็ ระเบยี บแต่มี เป็นระเบียบ มาก แสดงออกถงึ ระเบยี บแตย่ งั มี ขอ้ บกพรอ่ ง ความประณตี ข้อบกพรอ่ ง บางส่วน เลก็ นอ้ ย เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 11–12 ดีมาก 9–10 ดี 6–8 ต่ากวา่ 6 พอใช้ ปรับปรงุ
แบบประเมินผลงาน/ชน้ิ งาน สรุปลงในกระดาษฟลปิ ชาร์ต (Flip chart)เรอ่ื งสาเหตุหรือปัจจยั ของการเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยใี นชีวิตประจาวนัลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 (ดมี าก) ระดับคุณภาพ 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) 1 ตรงกบั จดุ ประสงคท์ กี่ าหนด 2 มีความถกู ต้องสมบูรณ์ 3 มีความคิดสร้างสรรค์ 4 มคี วามเป็นระเบียบ รวม ลงชือ่ .............................................................ผ้ปู ระเมิน ...................../......................./.................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนผลงาน/ชนิ้ งาน เกณฑ์ประเมนิ ผลงานลปิ ชารต์ (Flip chart)แสดงวธิ กี ารดาเนินโครงงาน เร่ืองสาเหตหุ รือปจั จยั ของการเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยีในชีวิตประจาวนั ประเดน็ ที่ประเมนิ ระดับคุณภาพ1. ผลงานตรงกบั จดุ ประสงค์ที่กาหนด 4 3 2 1 ผลงานไม่สอดคล้อง2. ผลงานมีความ ผลงาสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคลอ้ ง ถูกต้องสมบูรณ์ กับจดุ ประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ กับจุดประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ ทุกประเด็น เป็นส่วนใหญ่ บางประเด็น3. ผลงานมคี วามคิด เน้ือหาสาระของ สร้างสรรค์ เน้ือหาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนอื้ หาสาระของ ผลงานไม่ถกู ต้อง ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานถูกต้อง ผลงานถูกต้อง เปน็ สว่ นใหญ่4. ผลงานมคี วาม เป็นสว่ นใหญ่ เป็นบางประเดน็ ผลงานไมแ่ สดง เป็นระเบยี บ ครบถว้ น ผลงานมแี นวคิด ผลงานมคี วาม แนวคดิ ใหม่ ผลงาแสดงออก แปลกใหม่แตย่ งั น่าสนใจ แตย่ งั ไมม่ ี ถึงความคิด ไมเ่ ปน็ ระบบ แนวคิดแปลกใหม่ สร้างสรรค์ แปลกใหม่และ ผลงานสว่ นใหญ่ ผลงานมคี วาม ผลงานส่วนใหญ่ เปน็ ระบบ มคี วามเป็น เป็นระเบียบแต่มี ไม่เป็นระเบยี บ ผลงานมีความ ระเบียบแต่ยงั มี ข้อบกพรอ่ ง และมีขอ้ บกพร่อง เป็นระเบียบ ข้อบกพรอ่ ง บางส่วน มาก แสดงออกถงึ เล็กนอ้ ย ความประณีต เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 14–16 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 ตา่ กวา่ 8 พอใช้ ปรบั ปรงุ
แบบประเมินการนาเสนอผลงานคาชีแ้ จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี น และนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในชอ่ งท่ี ตรงกบั ระดบั คะแนนลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ 1 ความถกู ต้องของเน้ือหา 3 21 2 ความคดิ สรา้ งสรรค์ □ □□ 3 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน □ □□ 4 การนาไปใชป้ ระโยชน์ □ □□ 5 การตรงตอ่ เวลา □ □□ □ □□ รวม ลงช่ือ.............................................................ผู้ประเมนิ ...................../......................./.................เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ผลงาน หรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณช์ ัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงาน หรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงาน หรอื พฤติกรรมสอดคลอ้ งกับรายการประเมินบางสว่ น ให้ 1 คะแนนเกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 ต่ากวา่ 8 พอใช้ ปรบั ปรงุ
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คลชือ่ -สกลุ ......................................................................................................เลขท.่ี ........................ห้อง.................คาช้แี จง : ให้ทาเครอ่ื งหมาย ลงใน □ ท่ตี รงกบั พฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี น และนอกเวลาเรียนลาดับท่ี รายการประเมนิ ปฏิบตั ิ ไม่ปฏิบัติ 1 การแสดงความคดิ เหน็ □□ 2 การยอมรับฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ นื่ □□ 3 การทางานตามหนา้ ทที่ ไี่ ดร้ ับมอบหมาย □□ 4 ความมนี ้าใจ □□ 5 การตรงต่อเวลา □□ ลงชือ่ .............................................................ผูป้ ระเมิน ...................../......................./.................สถานภาพของผู้ประเมนิ □ ตนเอง □ เพื่อน □ พ่อแม่/ผปู้ กครอง □ ครูเกณฑ์การให้คะแนนปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอท้งั 5 ด้าน หมายถึง ดมี ากปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรม 3-4 ดา้ น หมายถงึ ดีปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรม 1-2 ดา้ น หมายถงึ พอใช้ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรม 0 ด้าน หมายถงึ ปรบั ปรงุสรปุ ผลการประเมนิ □ ผา่ น มพี ฤติกรรม 3-5 ดา้ น □ ไม่ผา่ น มพี ฤติกรรม 0-2 ดา้ น
แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่คาช้แี จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียน และนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในช่องท่ี ตรงกับระดับคะแนนลาดับท่ี ชอื่ –สกลุ การแสดง การ การทางาน ความ การมี รวม ของนกั เรียน ความคดิ เห็น ยอมรับฟงั ตามท่ไี ดร้ บั มนี า้ ใจ ส่วนรว่ มใน 15 มอบหมาย การปรบั ปรงุ คะแนน 321 คนอ่ืน 321 ผลงานกลุ่ม 321 321 321 321 ลงชอ่ื .............................................................ผู้ประเมนิ ...................../......................./.................เกณฑ์การให้คะแนน ปฏบิ ัติ หรือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัติ หรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัติ หรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรงุ
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: