Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore merged (pdf.io)-merged-compressed

merged (pdf.io)-merged-compressed

Published by ศักดิ์ณรงค์ สืบมี, 2018-10-12 01:13:18

Description: merged (pdf.io)-merged-compressed

Search

Read the Text Version

กจิ กรรมทา้ ทายความคดิ เลือกใช้กลไก อุปกรณ์ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกสเ์ พือ่ สรา้ งไม้เทา้ คาช้ีแจง : ใหน้ ักเรียนช่วยกันคดิ คาตอบคาถามตอ่ ไปน้ใี ห้ถกู ตอ้ ง ครบถว้ น และสมบรู ณ์ กิจกรรมท้าทายความคิดเรือ่ งไม้เท้าสาหรับผบู้ กพรอ่ งทางการเห็นในบทที่ 1 ถึง 4 นักเรียนได้เรียนรู้เกีย่ วกับการพัฒนาระบบการทางาน การเปล่ียนแปลงผลกระทบที่อาจเกิดขน้ึ รวมทั้งการเลอื กใช้วัสดุ อปุ กรณ์หรือเครอ่ื งมือสาหรับการสร้างแล้ว อย่างไรกต็ ามน้องโรบอทจาเปน็ ต้องเลือกระบบเซ็นเซอร์ที่ใชเ้ ป็นอุปกรณ์สาคัญสาหรับการออกแบบ และสร้างไม้เท้าเพ่ือให้สามารถใช้งานระบบตรวจจบั สิง่ กีดขวางล่วงหน้า ระบบสั่นสะเทือนทีม่ ือจับและระบบการเตือนดว้ ยเสียงร่วมกันช่วยกันคดิ 1. นักเรียนจะมีวิธีการอย่างไรในการพัฒนาไม้เท้าให้มีระบบตรวจจับสิ่งกีดขวางล่วงหน้า ระบบสั่นสะเทือนท่ีมือจบั และการเตือนด้วยเสียงโดยใช้กลไก ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์โดยนาเสนอแนวทางการเลือกใช้กลไก อปุ กรณ์ไฟฟ้า และอิเลก็ ทรอนิกส์เพื่อการสรา้ งไม้เท้าให้ใชง้ านได้ตามตอ้ งการ - การพัฒนาไม้เทา้ ให้สามารถทางานได้ตามตอ้ งการจาเปน็ ตอ้ งอาศยั อุปกรณ์ไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนกิ ส์ประกอบ โดยอปุ กรณ์หลักที่ตอ้ งใช้ ได้แก่ แบตเตอร่ีสาหรับเป็นแหล่งพลังงานออดไฟฟ้า หรือลาโพงขนาดเลก็เพอ่ื ใชเ้ ป็นอปุ กรณส์ ่งสญั ญาณเสยี ง เซ็นเซอรต์ รวจจับโดยอาจใชแ้ บบอัลตราโซนกิ (ultrasonic)

กจิ กรรมท้ายบท ออกแบบเทคโนโลยที ม่ี อี งค์ประกอบของกลไก อปุ กรณ์ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ ส์ คาชีแ้ จง : ใหน้ กั เรียนตอบคาถามตอ่ ไปนีใ้ หถ้ ูกต้อง ครบถว้ น และสมบรู ณ์ ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มระดมความคิดเพ่ือออกแบบช้ินงานสา หรับแก้ปัญหาที่สนใจ โดยชิ้นงานน้ันจะต้องมสี ่วนประกอบของระบบกลไก อุปกรณ์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนกิ ส์ แล้วนา เสนอในช้ันเรียนในประเด็นดังต่อไปนี้ - เทคโนโลยที อ่ี อกแบบมหี น้าทหี่ รือวัตถปุ ระสงคเ์ พื่อใช้ทา อะไร - ช้ินสว่ นกลไก อปุ กรณ์ไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนกิ สท์ ี่ใช้มีอะไรบ้าง แตล่ ะอย่างมีหนา้ ทีอ่ ะไรแนวคาตอบ - หน้าท่ีของเทคโนโลยที ีอ่ อกแบบคอื เคร่อื งจา่ ยยาอัตโนมตั ิ - หน้าที่การใช้งานเพื่อเป็นอุปกรณ์สาหรับจ่ายยาได้ตรงตามเวลาชนิดของยา และจานวนเม็ดยาที่ตอ้ งการในแตล่ ะครงั้ - องค์ประกอบหลักของอุปกรณ์ คือ โครงสร้างเครอ่ื งจา่ ยยาระบบควบคุมการทางานอตั โนมัติ กลไกการจ่ายยา

แบบประเมนิ ผลงาน/ชิ้นงานแบบประเมินชิ้นงาน/ผลงาน ลงในกระดาษ A 4 สรปุ ขอ้ มูล เรอ่ื ง วเิ คราะห์การใชง้ านกลไกลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 (ดมี าก) ระดับคุณภาพ 3 (ดี) 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรุง) 1 ตรงกับจดุ ประสงค์ทกี่ าหนด 2 มีความถกู ตอ้ งสมบรู ณ์ 3 มีความเปน็ ระเบียบ รวม ลงช่อื .............................................................ผู้ประเมิน ...................../......................./.................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนผลงาน/ชน้ิ งานเกณฑ์ประเมินผลงานลงในกระดาษ A 4 สรปุ ขอ้ มูล เรอื่ ง วเิ คราะหก์ ารใช้งานกลไก ประเดน็ ที่ประเมนิ ระดบั คุณภาพ1. ผลงานตรงกับ 4 3 2 1 จดุ ประสงคท์ ่ีกาหนด ผลงานไม่สอดคลอ้ ง ผลงาสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคล้อง2. ผลงานมคี วาม กับจดุ ประสงค์ กบั จุดประสงค์ กบั จุดประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ ถกู ตอ้ งสมบูรณ์ ทกุ ประเดน็ เปน็ ส่วนใหญ่ บางประเด็น เนอื้ หาสาระของ3. ผลงานมีความ เนื้อหาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เน้อื หาสาระของ ผลงานไม่ถูกตอ้ ง เป็นระเบียบ ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานถกู ต้อง ผลงานถูกต้อง เป็นสว่ นใหญ่ เปน็ ส่วนใหญ่ เปน็ บางประเด็น ผลงานส่วนใหญ่ ครบถว้ น ไม่เปน็ ระเบียบ ผลงานสว่ นใหญ่ ผลงานมคี วาม และมขี อ้ บกพร่อง ผลงานมคี วาม มีความเป็น เป็นระเบียบแต่มี เปน็ ระเบียบ มาก แสดงออกถงึ ระเบียบแต่ยงั มี ข้อบกพรอ่ ง ความประณตี ข้อบกพรอ่ ง บางส่วน เลก็ นอ้ ย เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 11–12 ดีมาก 9–10 ดี 6–8 ต่ากว่า 6 พอใช้ ปรบั ปรงุ

แบบประเมนิ ผลงาน/ชิน้ งาน สรุปลงในกระดาษฟลปิ ชารต์ (Flip chart)เรือ่ ง วิเคราะห์เครื่องมอื พื้นฐานในการสร้างสง่ิ ของเครอ่ื งใช้ลาดับท่ี รายการประเมนิ 4 (ดีมาก) ระดบั คุณภาพ 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) 1 ตรงกบั จดุ ประสงคท์ ่กี าหนด 2 มคี วามถกู ตอ้ งสมบูรณ์ 3 มีความคดิ สรา้ งสรรค์ 4 มคี วามเป็นระเบยี บ รวม ลงช่ือ.............................................................ผปู้ ระเมิน ...................../......................./.................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนผลงาน/ชน้ิ งาน เกณฑ์ประเมนิ ผลงานลปิ ชารต์ (Flip chart)แสดงวิธีการดาเนินโครงงาน เรอ่ื ง วิเคราะห์เคร่ืองมอื พื้นฐานในการสรา้ งสิ่งของเคร่ืองใช้ ประเดน็ ที่ประเมนิ ระดบั คุณภาพ1. ผลงานตรงกับ จุดประสงค์ทีก่ าหนด 4 3 2 1 ผลงานไม่สอดคลอ้ ง2. ผลงานมีความ ผลงาสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคลอ้ ง ถูกตอ้ งสมบรู ณ์ กับจุดประสงค์ กบั จุดประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ กับจุดประสงค์ ทกุ ประเดน็ เป็นสว่ นใหญ่ บางประเด็น3. ผลงานมีความคิด เน้อื หาสาระของ สร้างสรรค์ เนือ้ หาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ ผลงานไมถ่ กู ตอ้ ง ผลงานถกู ต้อง ผลงานถูกต้อง ผลงานถูกต้อง เป็นสว่ นใหญ่4. ผลงานมีความ เปน็ ส่วนใหญ่ เป็นบางประเด็น ผลงานไมแ่ สดง เปน็ ระเบยี บ ครบถ้วน ผลงานมแี นวคิด ผลงานมคี วาม แนวคิดใหม่ ผลงาแสดงออก แปลกใหมแ่ ตย่ งั น่าสนใจ แต่ยังไมม่ ี ถึงความคดิ ไม่เป็นระบบ แนวคดิ แปลกใหม่ สรา้ งสรรค์ แปลกใหม่และ ผลงานส่วนใหญ่ ผลงานมคี วาม ผลงานสว่ นใหญ่ เป็นระบบ มคี วามเปน็ เปน็ ระเบียบแตม่ ี ไมเ่ ป็นระเบียบ ผลงานมีความ ระเบยี บแต่ยงั มี ข้อบกพรอ่ ง และมีข้อบกพรอ่ ง เปน็ ระเบยี บ ขอ้ บกพรอ่ ง บางส่วน มาก แสดงออกถงึ เลก็ นอ้ ย ความประณีต เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 14–16 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 ต่ากว่า 8 พอใช้ ปรับปรงุ

แบบประเมินการนาเสนอผลงานคาชีแ้ จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี น และนอกเวลาเรียน แล้วขดี  ลงในชอ่ งท่ี ตรงกบั ระดบั คะแนนลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ 1 ความถกู ต้องของเน้ือหา 3 21 2 ความคดิ สรา้ งสรรค์ □ □□ 3 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน □ □□ 4 การนาไปใชป้ ระโยชน์ □ □□ 5 การตรงตอ่ เวลา □ □□ □ □□ รวม ลงช่ือ.............................................................ผู้ประเมนิ ...................../......................./.................เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ผลงาน หรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณช์ ัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงาน หรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงาน หรอื พฤติกรรมสอดคลอ้ งกับรายการประเมินบางสว่ น ให้ 1 คะแนนเกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 ต่ากวา่ 8 พอใช้ ปรบั ปรงุ

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คลชือ่ -สกลุ ......................................................................................................เลขท.่ี ........................ห้อง.................คาชแ้ี จง : ให้ทาเครอ่ื งหมาย ลงใน □ ท่ตี รงกบั พฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี น และนอกเวลาเรียนลาดับท่ี รายการประเมนิ ปฏิบตั ิ ไม่ปฏิบัติ 1 การแสดงความคดิ เหน็ □□ 2 การยอมรับฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ นื่ □□ 3 การทางานตามหนา้ ทที่ ไี่ ดร้ ับมอบหมาย □□ 4 ความมนี ้าใจ □□ 5 การตรงต่อเวลา □□ ลงชือ่ .............................................................ผูป้ ระเมิน ...................../......................./.................สถานภาพของผู้ประเมนิ □ ตนเอง □ เพื่อน □ พ่อแม่/ผปู้ กครอง □ ครูเกณฑ์การให้คะแนนปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอท้งั 5 ด้าน หมายถึง ดมี ากปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรม 3-4 ดา้ น หมายถงึ ดีปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรม 1-2 ดา้ น หมายถงึ พอใช้ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรม 0 ด้าน หมายถงึ ปรบั ปรงุสรปุ ผลการประเมนิ □ ผา่ น มพี ฤติกรรม 3-5 ดา้ น □ ไม่ผา่ น มพี ฤติกรรม 0-2 ดา้ น

แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่คาช้แี จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน และนอกเวลาเรยี น แล้วขดี  ลงในช่องท่ี ตรงกับระดับคะแนนลาดับท่ี ชอื่ –สกลุ การแสดง การ การทางาน ความ การมี รวม ของนกั เรียน ความคดิ เห็น ยอมรับฟงั ตามท่ไี ดร้ บั มนี า้ ใจ ส่วนรว่ มใน 15 มอบหมาย การปรบั ปรงุ คะแนน 321 คนอ่ืน 321 ผลงานกลุ่ม 321 321 321 321 ลงชอ่ื .............................................................ผู้ประเมนิ ...................../......................./.................เกณฑ์การให้คะแนน ปฏบิ ัติ หรือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัติ หรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้งั ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัติ หรอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรงุ

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 7กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ รายวชิ าพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (ว21181) ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2561หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรอื่ ง กระบวนการออกแบบ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4เรอ่ื ง กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม เวลา 2 คาบผ้สู อน นายศักดณิ์ รงค์ สบื มี โรงเรียนหันคาราษฎร์รังสฤษด์ิ1. มาตรฐาน/ตัวชวี้ ดั 1. ระบุปัญหาหรือความต้องการท่ีมีผลกระทบต่อสังคม รวบรวมวิเคราะห์ข้อมูลและแนวคิดท่ีเก่ียวข้องกับปัญหาท่มี ีความซับซ้อนเพ่ือสังเคราะห์วิธีการ เทคนิคในการแก้ปัญหาโดยคานึงถึงความถูกต้องด้านทรัพย์สินทางปญั ญา2. ออกแบบวิธีการแก้ปัญหาโดยวิเคราะห์เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลท่ีจาเป็นภายใต้เง่ือนไขและทรัพยากรที่มีอยูน่ าเสนอแนวทางการแก้ปญั หาใหผ้ อู้ ่ืนเข้าใจด้วยเทคนิคหรอื วิธกี ารทีห่ ลากหลายโดยใชซ้ อฟต์แวร์ชว่ ยในการออกแบบวางแผนขั้นตอนการทางานและดาเนนิ การแก้ปัญหา3. ทดสอบ ประเมินผล วิเคราะห์และให้เหตุผลของปัญหาหรือข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นภายใต้กรอบเงื่อนไข หาแนวทางการปรบั ปรงุ แกไ้ ข และนาเสนอผลการแกป้ ัญหาพรอ้ มทง้ั เสนอแนวทางการพฒั นาต่อยอด2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. นักเรยี นสามารถอธิบายการทางานตามกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมได้ (K) 2. นักเรยี นสามารถใชเ้ ทคนิคในการแก้ปญั หาตามกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรมได้ (K) 3. นกั เรยี นสามารถใชว้ ิธีการในการแก้ปัญหาตามกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรมได้ (P) 4. นักเรยี นสามารถวิเคราะหข์ ้อมูลในการแกป้ ัญหาตามกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมได้ (P) 3. นกั เรยี นเห็นความสาคญั ของกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรมได้ (A)3. สาระการเรยี นรู้ 1. ปัญหาหรอื ความต้องการทม่ี ีผลกระทบต่อสงั คม เช่น ปัญหาด้านการเกษตร อาหาร พลังงานการขนสง่ สุขภาพ และการแพทย์ การบริการ ซ่งึ แตล่ ะด้านอาจมไี ดห้ ลากหลายปัญหา 2. การวิเคราะห์สถานการณ์ปญั หาโดยอาจใช้เทคนิคหรอื วิธีการวิเคราะห์ท่ีหลากหลายช่วยให้เขา้ ใจเงื่อนไข และกรอบของปัญหาได้ชัดเจนจากนั้นดาเนินการสืบค้นรวบรวมข้อมูลความรู้จากศาสตร์ต่างๆ ท่ีเก่ยี วขอ้ งเพอ่ื นาไปส่กู ารออกแบบแนวทางการแกป้ ัญหา 3. การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลที่จาเป็นโดยคานึงถึงทรัพย์สินทางปัญญาเงื่อนไขและทรพั ยากร เชน่ งบประมาณ เวลา ข้อมลู และสารสนเทศวัสดุเคร่อื งมอื และอปุ กรณ์ ชว่ ยใหไ้ ดแ้ นวทางการแกป้ ญั หาท่ีเหมาะสม 4. การออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาทาได้หลากหลายวิธี เช่น การร่างภาพการเขียนแผนภาพการเขียนผงั งาน 5. ซอฟตแ์ วรช์ ่วยในการออกแบบ และนาเสนอมหี ลากหลายชนิดจงึ ต้องเลือกใช้ให้เหมาะกบั งาน 6. การกาหนดข้ันตอนและระยะเวลาในการทางานก่อนดาเนินการแก้ปัญหาจะช่วยให้การทางานสาเร็จไดต้ ามเป้าหมาย และลดข้อผิดพลาดของการทางานท่อี าจเกดิ ขนึ้

7. การทดสอบ และประเมินผลเป็นการตรวจสอบช้ินงาน หรือวิธีการว่าสามารถแก้ปัญหาได้ตามวัตถุประสงค์ภายใต้กรอบของปัญหาเพ่ือหาข้อบกพร่องและดาเนินการปรับปรุง โดยอาจทดสอบซ้าเพ่ือ ให้สามารถแกไ้ ขปัญหาได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ 8. การนาเสนอผลงานเป็นการถ่ายทอดแนวคิดเพ่ือให้ผู้อื่นเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการทางานและช้ินงาน หรือวิธีการทไ่ี ด้ ซึ่งสามารถทาได้หลายวิธี เช่น การทาแผ่นนาเสนอผลงานการจัดนิทรรศการการนาเสนอผา่ นสือ่ ออนไลน์ หรือการนาเสนอตอ่ ภาคธุรกจิ เพอื่ การพัฒนาตอ่ ยอดสูง่ านอาชีพ4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมเป็นกระบวนการแก้ปัญหา หรือพัฒนางานเพ่ือสร้างแนวทางท่ีเหมาะสมในการแก้ปัญหา หรอื สนองความต้องการตามท่กี าหนดไว้ การทางานตามกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมนัน้ สามารถยอ้ นข้นั ตอนกลับไปมาได้ และอาจมกี ารทางานซา้ ในบางขั้นตอนหากตอ้ งการพฒั นา หรอืปรับปรงุ ผลงานให้ดขี น้ึ5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์1.ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มีวนิ ยั2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งม่นั ในการทางาน 1) ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ 2) ทกั ษะการสังเกต 3) ทักษะการสื่อสาร 4) ทกั ษะการทางานรว่ มกนั3. ความสามารถในการแก้ปญั หา4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี6. สื่อประกอบการเรียนรู้ 1. ตวั อย่างโครงงานการออกแบบและเทคโนโลยี/ โครงงานสะเตม็ ศึกษา 2. เวบ็ ไซต์ที่เกีย่ วข้องกับนวัตกรรมชิ้นงาน เชน่ กรมทรพั ย์สินทางปัญญา 3. ส่ืออิเล็กทรอนกิ สอ์ ่นื ๆ เช่น ภาพมลั ติมีเดยี วดี ิทศั น์ บลอ็ ก 4. หนงั สือเรยี นรายวชิ าพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 47. ช้ินงานและภาระงาน 1. ใบกจิ กรรม 7.1 ตอนท่ี 1 เร่ือง การวเิ คราะห์องค์ประกอบของปัญหาดว้ ย 5W1H 2. ใบกจิ กรรม 7.1 ตอนท่ี 2 เร่อื ง การหาสาเหตุและกาหนดของเขตของปญั หาทส่ี นใจ 3. ใบกิจกรรม 7.2 ตอนท่ี 1 เรอ่ื ง การรวบรวมขอ้ มูลทเี่ กย่ี วข้องกับปญั หาท่ีสนใจ 4. ใบกิจกรรม 7.2 ตอนท่ี 2 เรอ่ื ง การเปรียบเทยี บ และตัดสินใจเลอื กแนวทางในการแก้ปญั หา 5. ใบกจิ กรรม 7.3 ตอนที่ 1 เรือ่ ง การวิเคราะห์องคป์ ระกอบท่ีจาเปน็ ต่อการแกป้ ญั หาด้วย function-analysis diagram 6. ใบกิจกรรม 7.3 ตอนที่ 2 เร่อื ง การสร้าง และเปรียบเทียบทางเลือกในการแกป้ ัญหา 7. ใบกิจกรรม 7.3 ตอนท่ี 3 เรือ่ ง การออกแบบการแก้ปัญหา 8. ใบกิจกรรม 7.4 เรื่อง การวางแผน และแนวทางการพฒั นา

9. ใบกจิ กรรม 7.5 ตอนที่ 1 เรอื่ ง การกาหนดประเดน็ ในการทดสอบและประเมนิ ผล 10. ใบกิจกรรม 7.5 ตอนท่ี 2 เรื่อง การพัฒนาหรือปรบั ปรงุ ช้ินงานหรือแกป้ ัญหา 11. ใบกจิ กรรม 7.6 เร่ือง การนาเสนอ 12. ใบกิจกรรมทา้ ยบท เรือ่ ง การวเิ คราะหช์ ้ินงานหรือวธิ ีการตามกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนคิ : สบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชัว่ โมงท่ี 1ข้นั นา กระตนุ้ ความสนใจ (Engage) 1. ครูเปิดคลิปวีดิทัศนเ์ พอ่ื ทบทวนกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม หรือแอนิเมชันอธิบายกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมโดยใช้เว็บไซต์ https://www.youtube.com/watch?v=80gWU-AJwF0&t=109s แล้วให้ผู้เรียนรว่ มกนั อภปิ ราย และสรปุ กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรมว่าเป็นกระบวนการแกป้ ญั หาหรอื พฒั นางานเพื่อสนองความตอ้ งการของมนษุ ย์ 2. ครูให้นักเรียนสังเกตรูปภาพในคาถามชวนคดิ ในหนงั สอื บทที่ 6 “ปัจจุบันปัญหา เรื่องขยะในชุมชนเมือง หรือปัญหาน้าท่วม ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์ดังรูป นักเรียนคิดว่าจะมีวิธีการอย่างไรท่ีจะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว” เพื่อให้ผู้เรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อเสนอวิธีการแก้ปัญหาดังกล่าว เพ่ือตอบคาถาม “ปัญหาท่ีสามารถนามาแก้ไขโดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมควรมีลกั ษณะอย่างไร” ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั อภิปราย และสรปุ เปน็ คาตอบของคาถามชวนคดิ วา่ มีวิธกี ารใดสามารถแกไ้ ขได้ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม แนวคาตอบ ปัญหาขยะลน้ เมอื ง อาจแกไ้ ขได้หลากหลายวธิ ี เช่น - รณรงค์การคัดแยกขยะก่อนทงิ้ โดยประชาสัมพนั ธ์ใหค้ วามรกู้ ับประชาชน - การสรา้ งบ่อฝงั กลบขยะ ซึ่งต้องอาศยั ความรู้ ทกั ษะ และการทางานอยา่ งเปน็ ระบบ (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนกั เรียนโดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล)ข้ันสอน สารวจคน้ หา (Explore) 1. ครูให้นักเรยี นอธิบายข้ันตอนของกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม (ขั้นระบุปัญหา) ให้นักเรียนศกึ ษาเน้ือหาในหนังสือเรียนบทท่ี 6 เกี่ยวกบั สถานการณ์การใช้ชีวติ ของผสู้ งู อายุ และรว่ มกนั อภปิ รายปญั หาที่อาจเกิดกบั ผูส้ งู อายใุ นการดารงชีวิตประจาวันท้ังด้านรา่ งกาย ดา้ นจติ ใจ ด้านสงั คม โดยใช้แผนท่ีความคดิ แสดงปัญหาที่พบจากการใชช้ ีวติ ประจาวันของผู้สูงอายใุ นหนงั สอื บทท่ี 6 แล้วให้ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปปญั หาที่พบจากการใชช้ ีวิตประจาวนั ของผ้สู ูงอายุ 2. ครูให้นักเรียนเลือกปัญหาการใช้ชีวิตประจาวันของผู้สูงอายุ และจัดเข้ากลุ่มตามปัญหาท่ีตนเองสนใจ 3. ครูใหน้ ักเรยี นศึกษาการวเิ คราะห์องค์ประกอบของปัญหาด้วยการต้ังคาถาม 5W1H จากตวั อยา่ งในหนังสือเรียน เร่ือง การวิเคราะห์ปญั หาผู้สูงอายุสญู เสียการได้ยินด้วยการต้ังคาถาม 5W1H และนาความร้ไู ปวิเคราะหอ์ งค์ประกอบของปญั หาที่สนใจในกจิ กรรม 7.1 ตอนท่ี 1 เร่ือง การวิเคราะหอ์ งคป์ ระกอบของปัญหา

ด้วย 5W1H แล้วบันทึกลงในใบกจิ กรรม 7.1 ผู้สอนให้ตัวแทนกลมุ่ นาเสนอผลการวิเคราะห์องค์ประกอบของปญั หา 4. ครูให้นักเรียนศึกษาการใช้ผังก้างปลาในการวิเคราะหห์ าสาเหตุของปัญหา และผังก้างปลาแสดงการหาสาเหตุของปัญหาการสูญเสียการได้ยินของผสู้ ูงอายุในหนังสือเรียนแลว้ ให้ผู้เรียนรว่ มกันวิเคราะหห์ าสาเหตุ และปัจจัยของปัญหาของกลุ่มตนเองโดยใช้ผังก้างปลาเพ่ือให้เข้าใจปัญหาได้ชัดเจนขึ้นและกาหนดขอบเขตของปญั หาของกลุ่มให้มคี วามชดั เจนในกิจกรรม 7.1 ตอนที่ 2 เร่อื ง การหาสาเหตแุ ละกาหนดขอบเขตของปญั หาทสี่ นใจ แลว้ บันทึกลงในใบกิจกรรม 5. ครูเช่ือมโยง “ขั้นระบปุ ญั หา” เพื่อนาเข้าสู่ “ขั้นรวบรวมข้อมูลและแนวคิดท่ีเก่ียวข้องกับปญั หา”โดยนกั เรยี นจาเป็นตอ้ งมกี ารสืบคน้ ขอ้ มลู ท่เี กี่ยวขอ้ งเพื่อนาไปสู่การแก้ปญั หาและกอ่ นดาเนนิ การสบื ค้นข้อมูลควรมีการระดมสมองเพื่อกาหนดประเด็นในการรวบรวมข้อมูลโดยใหน้ ักเรยี นศึกษาจากเกร็ดน่ารู้ เรอื่ ง การระดมสมองอธิบายความรู้ (Explain) 1. ครูแนะนาวธิ กี ารสบื คน้ ข้อมูลจากแหล่งขอ้ มูลทห่ี ลากหลาย เช่น การสอบถาม หรอื เชิญผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้ การสบื คน้ จากเอกสาร แหล่งขอ้ มลู ออนไลน์ บทความ งานวจิ ยั การศกึ ษาดูงานจากแหลง่ เรียนรู้หรือสถานประกอบการ รวมถึงแหลง่ ขอ้ มลู ท่เี กี่ยวขอ้ งกบั นวัตกรรม หรอื ชิน้ งาน เช่น กรมทรัพย์สนิ ทางปัญญา ช่ัวโมงท่ี 2ข้ันสอน สารวจค้นหา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนรวบรวมข้อมูลตามประเด็นที่ได้กาหนดไว้ของกลุ่มแล้วสรุปข้อมูลท่ีได้จากการรวบรวมตามประเด็นเปน็ แผนท่ีความคิด เช่น เดียวกับแผนทคี่ วามคดิ แสดงความเชื่อมโยงของข้อมูลเก่ียวกับการสญู เสียการได้ยนิ ของผู้สูงอายเุ นื่องจากประสาทหูเสอื่ ม ในกิจกรรม 7.2 ตอนที่ 1 เร่อื ง การรวบรวมข้อมลูทเ่ี ก่ยี วข้องกบั ปัญหาที่สนใจแล้วบนั ทกึ ลงในใบกิจกรรม 2. ครูให้นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั พดู คุย และอภิปรายภายในกลมุ่ จากขอ้ มูลทไ่ี ด้ร่วมกันศกึ ษา แลว้เขียนสรุปลงในกระดาษฟลปิ ชารต์ (Flip chart) โดยครูคอยสังเกตการณ์ทากิจกรรมของนักเรยี นแต่ละกลุ่มอยา่ งใกลช้ ดิ พร้อมกบั คอยให้คาแนะกบั นักเรยี นทม่ี ขี ้อสงสยั ระหว่างการทากิจกรรม 3. ครูให้นักเรียนศึกษาตัวอย่างการเปรียบเทียบข้อดีข้อด้อยเครื่องช่วยฟังแต่ละประเภทในหนงั สือเรียนครูแนะนาให้นักเรยี นสบื คน้ เพิม่ เตมิ ถงึ แนวทางแก้ไขปัญหาทก่ี ลมุ่ ตนเองได้เลอื กไว้จากการรวบรวมขอ้ มูลในกจิ กรรม 7.2 ตอนท่ี 1 ว่ามีผู้ดาเนินการแกไ้ ขปญั หาไว้อย่างไรบ้าง โดยนาขอ้ มลู ทร่ี วบรวมไดม้ าเปรียบเทยี บข้อดี ขอ้ ด้อยของวธิ กี ารแกป้ ญั หาในกจิ กรรม 7.2 ตอนที่ 2 เร่อื ง การเปรียบเทียบ และตัดสนิ เลอื กแนวทางในการแก้ปญั หาแล้วบนั ทกึ ลงในใบกจิ กรรม 4. ครูเชื่อมโยงเข้าสู่ข้ันตอนออกแบบวธิ ีการแก้ปญั หาโดยให้นักเรยี นศึกษาการวเิ คราะห์องคป์ ระกอบพื้นฐานท่ีจาเป็นต่อการแก้ไขปัญหาด้วย function analysis diagram โดยศึกษาจากตัวอย่างการวิเคราะห์องค์ประกอบพื้นฐานท่ีจาเปน็ ต่อการพฒั นาเครอ่ื งช่วยฟังในหนังสอื เรยี นแล้ววิเคราะห์องคป์ ระกอบพนื้ ฐานท่ีจาเป็นตอ่ การแกไ้ ขปญั หาของกล่มุ ตนด้วย function analysis diagram ในกิจกรรม 7.3 ตอนท่ี 1 เร่ือง การวเิ คราะห์องค์ประกอบท่จี าเป็นต่อการแกป้ ญั หาด้วย function analysis diagram แล้วบันทึกลงในใบกจิ กรรม

5. ครูแนะนานักเรียนถึงการออกแบบแนวทางแก้ปัญหาให้มีรายละเอียดท่ชี ัดเจนขนึ้ ซ่งึ อาจออกแบบไว้หลายแนวทาง จากนั้นจึงตัดสินใจเลอื กแนวทางแก้ปัญหาทเ่ี หมาะสมกับเงื่อนไข และขอบเขตของปัญหามากท่ีสุดโดยพิจารณาจากปัจจยั ด้านต่างๆ ท่ีเก่ียวข้อง เช่น ข้อดี ข้อเสีย ความสอดคล้องกับทรัพยากรทางเทคโนโลยีทม่ี อี ยู่ปจั จัยท่ขี ดั ขวาง หรือข้อจากัด ซงึ่ การตดั สนิ ใจเลอื กแนวทางในการแก้ปญั หาอาจใช้ตารางชว่ ยประเมินเพอ่ื ตดั สินใจเลอื กโดยให้ผ้เู รยี นศึกษาได้จากตวั อยา่ งการออกแบบเครื่องชว่ ยฟงั เพ่ือช่วยเหลือผ้สู งู อายุที่สูญเสียการได้ยินในหนังสือเรียน จากนั้นให้ผู้เรียนสร้างทางเลือกตามแนวทางแก้ปัญหาแล้วตัดสินเลือกแนวทางท่ีเหมาะสมในกจิ กรรม 7.3 ตอนท่ี 2 เรื่อง การสร้างและเปรยี บเทียบทางเลือกในการแกป้ ัญหาแลว้บนั ทกึ ลงในใบกิจกรรม 6. ครูให้นักเรียนออกแบบวิธีการแก้ปัญหาโดยใช้ทางเลือกท่ีได้ให้เป็นภาพร่าง หรือวิธีการอื่นท่ีเหมาะสมสาหรบั การสื่อสารให้ผูอ้ ื่นเขา้ ใจ ซึ่งครูแนะนาวิธีการถา่ ยทอดความคิดเปน็ ภาพรา่ ง 2 มิติ 3 มติ ิหรือภาพฉาย รวมท้ังผงั งาน แผนภาพ และการใช้ซอฟแวร์ช่วยในการออกแบบโดยศึกษาได้จากหนงั สอื เรยี นหรือส่ืออื่นที่ครูสามารถจัดหาได้ พร้อมท้ังระบุข้อมูลทรัพยากรท่ีต้องใช้ตามวิธีการท่ีออกแบบไว้ในกิจกรรม 7.3ตอนท่ี 3 เรอื่ ง การออกแบบการแกป้ ัญหา แล้วบนั ทึกลงในใบกิจกรรม 7. ครูเช่ือมโยงเข้าสู่ขั้นวางแผนและดาเนินการแก้ปัญหาโดยให้นักเรียนกาหนดเป้าหมายการสร้างชิ้นงาน หรือพัฒนาวิธีการแก้ไขปัญหาตามท่ไี ด้ออกแบบโดยถ่ายทอดความคิดเปน็ ภาพร่าง หรือวิธีการอนื่ ท่ีเหมาะสมไว้ รวมทั้งวางแผนการปฏิบัติงานอย่างเป็นขั้นตอนในกิจกรรม 7.4 เร่ือง การวางแผนและแนวทางการพัฒนางานแล้วบนั ทึกลงในใบกิจกรรมและให้นักเรียนลงมอื สร้างช้ินงาน หรือพัฒนาวิธีการตามที่ได้ออกแบบไว้โดยพจิ ารณาจากระยะเวลาที่ใช้ในการทาชิ้นงาน หรือแก้ปัญหาและความพรอ้ มของสถานที่และทรัพยากร 8. กรณีที่นักเรยี นได้สร้างชิ้นงาน หรือวิธีการแก้ไขปัญหาใหน้ ักเรียนทดสอบ และประเมินผลการทางานของชิ้นงาน หรือวิธีการว่าสามารถแก้ปัญหาได้ตามที่ระบุไว้หรือไม่ โดยให้นักเรียนฝึกต้ังประเด็นในการทดสอบ ซ่ึงสอดคล้องกับจุดประสงค์ของช้ินงานหรือวิธีการแก้ไขปัญหาที่สร้างข้ึนในกิจกรรม 7.5 ตอนที่ 1 เรื่อง การกาหนดประเด็นในการทดสอบ และประเมินผล แล้วบันทึกลงในใบกิจกรรมทดลองใช้แบบประเมินกับผลงานของตนเอง 9. ครูแนะนาแนวทางในการปรับปรงุ ชิน้ งานโดยใช้เทคนิค SCAMPER และใหน้ กั เรยี นศกึ ษาเน้อื หาในหนังสือเรียน แล้วฝึกปฏิบัติการใช้เทคนิค SCAMPER ในการปรับปรุงชิ้นงานหรือวิธีการแก้ไขปัญหาตามกจิ กรรมที่ 7.5 ตอนท่ี 2 เรื่อง การพฒั นาหรือปรับปรุงช้นิ งาน หรอื แกป้ ัญหา โดยบันทกึ ลงในใบกจิ กรรม 10. ครูให้นักเรียนเตรียมการนาเสนอผลงานการแก้ไขปัญหาโดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมในกิจกรรม 7.6 เร่ือง การนาเสนอในรูปแบบท่ีเหมาะสม เช่น การทาแผ่นพบั จัดทาแผน่ นาเสนองานโดยใชโ้ ปรแกรมประยุกต์ (หมายเหตุ : ครูเรม่ิ ประเมินนกั เรียนโดยใช้แบบประเมินชิน้ งาน/ผลงาน)

อธิบายความรู้ (Explain) 1. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั อภิปราย ใหข้ ้อเสนอแนะ/ข้อคดิ เหน็ ในการนาเสนอผลงานของนกั เรยี น (หมายเหตุ : ครูเร่มิ ประเมินนักเรยี นโดยใชแ้ บบประเมนิ การนาเสนอผลงาน)ขั้นสรปุ ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 1. ครูใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรยี นเพอื่ วดั ความเข้าใจหลงั จากทากิจกรรม 2. ครูมอบหมายให้นกั เรียนทากจิ กรรมทา้ ยบท เรื่อง การวเิ คราะห์ชิน้ งานหรือวิธีการตามกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม โดยแบ่งกลุม่ ตามความสนใจเพื่อสบื ค้นนวัตกรรม หรือเทคโนโลยีที่ใชใ้ นการแก้ปัญหาด้านสุขภาพจากสือ่ และแหล่งเรียนรตู้ า่ งๆ เชน่ อนิ เทอร์เนต็ หรือวารสารตา่ งๆ รา้ นขายอปุ กรณท์ างการแพทย์แลว้ เลือกมา 1 เรอื่ ง เพอื่ วิเคราะห์แนวทางในการแกป้ ญั หาหรอื พฒั นาเทคโนโลยนี ้นั ตามกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม และนาเสนอหน้าชั้นโดยเทคโนโลยีที่เลอื กอาจเป็นวิธีการหรอื ชิ้นงาน เช่น อุปกรณ์ช่วยเหลือผู้บกพร่องทางการเห็นวิธีการช่วยเหลือผู้ป่วยข้อติดแข็งเครื่องตรวจวัดความดันโลหิตอุปกรณ์ช่วยหัดเดิน(walker) ไมเ้ ท้าค้ายัน (หมายเหตุ: ครเู ร่ิมประเมนิ นกั เรียนโดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม)ขัน้ ประเมนิ ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูตรวจสอบผลการทาแบบทดสอบหลังเรยี น เพอ่ื วัดความร้ขู องนกั เรยี นหลงั จากทากิจกรรม 2. ครูประเมินผลโดยการสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล พฤติกรรมการทางานกลุ่ม และจาก การนาเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรยี น 3. ครูประเมนิ ผลชนิ้ งาน/ผลงาน กจิ กรรม 4. ครูตรวจกจิ กรรมทกุ กจิ กรรม 5. ครูตรวจกจิ กรรมทา้ ยบท เรอื่ ง การวเิ คราะหช์ ้ินงาน หรอื วธิ ีการตามกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม

9. การวดั และการประเมินผลสงิ่ ท่ีวดั / ประเมนิ ผล วธิ ีการวัดผล เครื่องมอื ท่ใี ช้วัดผล เกณฑ์การประเมินการประเมนิ หลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน - แบบทดสอบหลงั เรยี น ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์แบบทดสอบหลงั เรยี นหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เร่ือง - การตอบคาถาม - คาถาม คะแนน 10-12 หมายถงึ ดีมากกระบวนการออกแบบเชงิ - แสดงความคดิ เห็น - แบบสังเกตพฤตกิ รรม คะแนน 6-9 หมายถึง ดีวิศวกรรม - การอภปิ ราย - กจิ กรรมทา้ ยบท คะแนน 3-5 หมายถงึ พอใช้อธบิ ายการทางานตาม - สงั เกตพฤติกรรมกระบวนการออกแบบเชิง - ตรวจกิจกรรมทา้ ยบท คะแนน 1-2 หมายถึง ปรับปรงุวศิ วกรรมได้ (K) - การตอบคาถาม - การอภิปราย - คาถาม คะแนน 10-12 หมายถงึ ดีมากการใชเ้ ทคนคิ หรอื วธิ กี ารเพ่อื - ตรวจใบกจิ กรรม - แบบประเมินชิ้นงาน/ คะแนน 6-9 หมายถงึ ดีวเิ คราะห์ข้อมูลในการแก้ - สงั เกตพฤติกรรม ผลงาน ของใบกิจกรรม คะแนน 3-5 หมายถึง พอใช้ปัญหาตามกระบวนการ 7.1-7.6 คะแนน 1-2 หมายถึง ปรบั ปรุงออกแบบเชิงวิศวกรรม (P) - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - คาถาม คะแนน 10-12 หมายถึง ดมี ากเหน็ ความสาคญั ของ - การตอบคาถาม - แบบสังเกตพฤติกรรม คะแนน 6-9 หมายถงึ ดีกระบวนการออกแบบเชงิ - การอภปิ ราย คะแนน 3-5 หมายถงึ พอใช้ - แบบสงั เกตพฤติกรรม คะแนน 1-2 หมายถงึ ปรบั ปรุงวศิ วกรรมได้ (A) - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ทักษะการคดิ เชิงระบบ - สังเกตพฤติกรรม ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ - สงั เกตพฤตกิ รรมทกั ษะการคิดอยา่ ง- - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์มีวิจารณญาณ - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ทกั ษะการสือ่ สาร - สงั เกตพฤตกิ รรมทักษะการทางานรว่ มกบั ผู้อื่น - แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ - สังเกตความมวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ อันพงึ ประสงค์คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ และมุ่งมั่นในการทางาน

10. เกณฑ์ระดับการใหค้ ะแนน การอธบิ ายการทา งานตามกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรมประเด็นการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 321) การอธิบายการ วิเคราะหแ์ ละอธิบาย วิเคราะหแ์ ละอธิบายแนว วิเคราะห์และอธิบาย วิเคราะหแ์ ละอธิบายแนวทางานตามกระบวนการ แนวทางการพฒั นา ทางการพัฒนาช้นิ งาน แนวทางการพฒั นา ทางการพัฒนาช้ินงานออกแบบเชงิ วิศวกรรม ชิน้ งานหรอื วธิ ีการตาม หรอื วธิ ีการตามกระบวน ชิน้ งานหรือวธิ ีการตาม หรอื วิธกี ารไดแ้ ต่ไม่ กระบวนการออกแบบ การออกแบบเชงิ กระบวนการออกแบบ สอดคล้องตามกระบวน เชงิ วศิ วกรรมไดถ้ กู ต้อง วศิ วกรรมไดถ้ ูกต้อง 4-5 เชงิ วศิ วกรรมไดถ้ ูกตอ้ ง การออกแบบเชงิ ครบถว้ นสมบรู ณท์ ง้ั 6 ขนั้ ตอน 2-3 ข้นั ตอน วิศวกรรมหรอื ถูกตอ้ ง 1 ขัน้ ตอน ขัน้ ตอน2) การใชเ้ ทคนิคหรือวธิ ีการเพอื่ วิเคราะหข์ ้อมลูในการแก้ปญั หาตามกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม2.1) การใช้เทคนิคหรอื วิธกี ารเพ่อื ระบุปัญหาจากสถานการณ์ทส่ี นใจการวิเคราะห์ วิเคราะหป์ ญั หาหรือ วิเคราะหป์ ญั หาหรือความ วิเคราะห์ปัญหาหรือ วิเคราะหป์ ญั หาหรอื ความองคป์ ระกอบปัญหาจาก ความตอ้ งการจาก ตอ้ งการจากสถานการณ์ ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร จ า ก ตอ้ งการจากสถานการณ์การตง้ั คาถาม 5W1H สถานการณ์โดยใช้การ โดยใช้การตั้งคาถาม สถานการณ์โดยใช้การ โดยใช้การตงั้ คาถาม ตง้ั คาถาม 5W1Hที่ 5W1H ไดแ้ ตส่ อดคล้อง ต้ังคาถาม 5W1H 5W1H ไดเ้ พียง 1 ด้าน สอดคลอ้ งกบั ประเดน็ กับประเด็นปญั หาเพยี ง ไดแ้ ต่สอดคล้องกับ หรอื ไมส่ อดคลอ้ งกบั ปัญหาไดค้ รบถ้วนท้งั 6 4-5 ด้าน ประเดน็ ปญั หาเพียง 2-3 ประเดน็ ปญั หา ดา้ น ด้านการหาสาเหตแุ ละ ใช้ผงั กา้ งปลาเพื่อ ใชผ้ งั กา้ งปลาเพือ่ ใช้ผังกา้ งปลาเพอื่ ใชผ้ ังก้างปลาเพื่อปัจจัยของปญั หา ระบสุ าเหตแุ ละปัจจัย ระบสุ าเหตแุ ละปัจจัย ระบสุ าเหตแุ ละปัจจยั ระบสุ าเหตุและปจั จัยได้โดยการวิเคราะห์ ไดส้ อดคล้องและ ได้สอดคลอ้ งและ ได้สอดคลอ้ งและ ไม่สอดคลอ้ ง และไม่ด้วยผงั กา้ งปลา ครอบคลมุ กบั ปัญหา มี ครอบคลมุ กบั ปัญหา มี ครอบคลมุ กบั ปญั หาเปน็ ครอบคลมุ กบั ปญั หาและ ความถูกตอ้ ง ชัดเจน ความถูกตอ้ ง ชดั เจน ส่วนใหญแ่ ต่ขาดความ ขาดความถกู ตอ้ ง เป็นสว่ นใหญ่ ชัดเจนบางสว่ นการกาหนดขอบเขต กาหนดขอบเขต กาหนดขอบเขต กาหนดเปน็ ขอบเขต กาหนดขอบเขตของของปญั หา ของปญั หาไดส้ อดคล้อง ของปญั หาได้สอดคลอ้ ง ของปญั หาได้สอดคลอ้ ง ปัญหาที่ต้องการแกไ้ ขได้ กับสาเหตจุ าก กับสาเหตจุ าสถานการณ์ กับสาเหตจุ าก ไมส่ อดคล้องกบั สาเหตุ สถานการณ์ทสี่ นใจได้ ที่สนใจได้ สถานการณ์ทส่ี นใจได้ จากสถานการณท์ สี่ นใจ ครบถ้วนสมบูรณ์ บางสว่ น

ประเด็นการประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 322.2) การใชเ้ ทคนิคหรือวิธีเพ่ือรวบรวมข้อมลู และสรปุ แนวคดิ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกับปัญหาการกาหนดประเด็น กาหนดประเดน็ เพื่อใช้ กาหนดประเด็นเพ่อื ใช้ กาหนดประเด็นเพอื่ ใช้ กาหนดประเดน็ เพือ่ ใช้เพื่อรวบรวมขอ้ มลู รวบรวมขอ้ มูลได้ตรง รวบรวมขอ้ มลู ท่ตี รงตาม รวบรวมข้อมูลที่ตรงตาม รวบรวมข้อมลู ได้ไมต่ รง ตามปัญหาหรอื ความ ปัญหาหรอื ความตอ้ งการ ปัญหาหรอื ความ ตามปัญหาหรอื ความ ต้องการไดอ้ ย่าง ได้ ตอ้ งการบางสว่ น ตอ้ งการ ครบถว้ นสมบรู ณ์การรวบรวมและสรุป รวบรวมข้อมูลตาม รวบรวมข้อมลู ตาม รวบรวมขอ้ มูลตาม รวบรวมขอ้ มูลไม่ตรงตามข้อมูลทเี่ กยี่ วข้องกบั ประเด็นท่ีกาหนดไว้ ได้ ประเด็นที่กาหนดไว้ ได้ ประเด็นที่กาหนดไวแ้ ละ ประเด็นท่ีกาหนดไว้และประเด็นปญั หา ขอ้ มูลถกู ต้อง สมบูรณ์ ขอ้ มูลถกู ต้อง สมบูรณ์ สรปุ ขอ้ มลู ในรปู แบบ สรปุ ข้อมลู ในรปู แบบ สามารถสรปุ ข้อมลู ใน สามารถสรปุ ขอ้ มลู ใน แผนท่ีความคิดได้โดย แผนทค่ี วามคิดได้แต่ รปู แบบแผนที่ความคดิ รปู แบบแผนที่ความคิดได้ แสดงใหเ้ ห็น ความสมั พันธ์ของข้อมลู ได้ โดยแสดงใหเ้ หน็ โดยแสดงใหเ้ ห็นความ ความสัมพนั ธ์ของ ขาดความถูกต้องเปน็ สว่ น ความสมั พนั ธ์ของข้อมลู สัมพันธ์ของขอ้ มลู อย่าง ข้อมูล แต่ขาดความ ใหญ่ อย่างถกู ตอ้ งครบถ้วน ถกู ต้อง ถกู ต้องบางสว่ นวเิ คราะหข์ อ้ ดี ข้อด้อย วิเคราะหข์ ้อดีขอ้ ดอ้ ย วิเคราะหข์ ้อดีข้อด้อยจาก วิเคราะหข์ ้อดีขอ้ ดอ้ ย วิเคราะห์ข้อดีขอ้ ด้อยจากของแนวทางแกไ้ ข จากข้อมลู ของชนิ้ งาน ขอ้ มูลของช้ินงานหรอื จากข้อมลู ของชนิ้ งาน ขอ้ มลู ของชิน้ งานหรอืปัญหาที่รวบรวมไว้ หรอื วิธีการท่ีสามารถ วธิ กี ารทส่ี ามารถนามาใช้ หรือวธิ ีการที่สามารถ วิธีการทส่ี ามารถ นามาใชเ้ พอื่ แก้ไข เพ่อื แก้ไขปญั หาทสี่ นใจได้ นามาใช้เพื่อแกไ้ ขปัญหา นามาใชเ้ พ่อื แกไ้ ขปัญหาที่ ปัญหาทส่ี นใจได้อยา่ ง อยา่ งถกู ตอ้ ง ท่ีสนใจได้แต่ขาดความ สนใจไดแ้ ตข่ าดความ ถกู ตอ้ งสมบรู ณ์ ถูกตอ้ งบางสว่ น ถูกตอ้ งการเลือกแนวทาง สามารถตัดสินใจเลือก สามารถตัดสนิ ใจเลอื ก สามารถตัดสินใจเลอื ก ตดั สินใจเลอื กแนวทางในในการแกไ้ ขปัญหา แนวทางในการแกไ้ ข แนวทางในการแก้ไข แนวทางในการแก้ไข การแกไ้ ขปัญหาหรอื ปญั หาหรอื ความ ปญั หาหรอื ความตอ้ งการ ปัญหาหรอื ความ ความต้องการของตนเอง ต้องการของตนเองได้ ของตนเองได้โดยใชข้ ้อมลู ตอ้ งการของตนเองได้ ได้ แต่ไมไ่ ด้ใช้ขอ้ มลู และ โดยใช้ข้อมูลและเหตผุ ล และเหตุผลอยา่ ง แตใ่ ชข้ อ้ มลู และเหตผุ ล เหตผุ ลเพ่อื พจิ ารณาความ อยา่ งสมเหตสุ มผลและ สมเหตุสมผล เพียงบางสว่ นเพอื่ เปน็ ไปได้ เป็นไปตามขอ้ เทจ็ จรงิ พิจารณาความเปน็ ไปได้

ประเด็นการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 322.3) การใช้เทคนิค หรอื วธิ กี ารเพอ่ื ออกแบบวิธกี ารแกป้ ญั หาการวิเคราะห์องค์ วิเคราะหอ์ งค์ประกอบ วิเคราะหอ์ งค์ประกอบ วเิ คราะหอ์ งค์ประกอบ วิเคราะห์องค์ประกอบประกอบพนื้ ฐานที่ พืน้ ฐานที่จา เปน็ ตอ่ พื้นฐานท่จี าเปน็ ต่อ พืน้ ฐานทจ่ี าเปน็ ต่อ พน้ื ฐานท่จี าเปน็ ตอ่จาเปน็ ตอ่ แนวทาง แนวทางแก้ไขปัญหา แนวทางแก้ไขปญั หาดว้ ย แนวทางแกไ้ ขปญั หาดว้ ย แนวทางแกไ้ ขปญั หาดว้ ยแกไ้ ขปญั หา ด้วย function function function function analysis analysis analysis analysis Diagram ไดถ้ ูกตอ้ ง diagram diagram diagram ครบถว้ น ไดค้ รบถว้ นแตข่ าดความ ไดค้ รบถว้ นแต่ขาดความ ไดไ้ มค่ รบถว้ น และ ชดั เจนบางสว่ น ถูกตอ้ งบางสว่ น ขาดความถูกตอ้ งการสร้างทางเลือก สรา้ งทางเลือกในการ สร้างทางเลอื กในการ สร้างทางเลอื กในการ สร้างทางเลือกในการในการแก้ไขปญั หา แกไ้ ขปญั หาได้อยา่ ง แกไ้ ขปญั หาได้ แก้ไขปญั หาได้ แกไ้ ขปัญหาได้ หลากหลายได้มากกวา่ 3 แนวทาง 2 แนวทาง 1 แนวทาง 3 แนวทางเปรยี บเทยี บและ เปรียบเทยี บทางเลอื ก เปรยี บเทียบทางเลอื ก เปรียบเทยี บทางเลือก เปรียบเทยี บทางเลือกตัดสินใจเลอื กวธิ กี ารแกป้ ัญหา และตัดสนิ เลอื กวิธีการ และตัดสินเลือกวิธกี าร และตัดสินเลอื กวิธีการ และตัดสินเลือกวิธีการการออกแบบและ แก้ปญั หาหรอื สนอง แกป้ ัญหาหรอื สนองความ แก้ปญั หาหรอื สนอง แกป้ ัญหาหรอื สนองความถา่ ยทอดความคิดของชิ้นงานหรอื วิธกี ารใน ความตอ้ งการ ต้องการสอดคลอ้ งกบั ความต้องการสอดคล้อง ตอ้ งการสอดคลอ้ งกบัการแกไ้ ขปัญหา สอดคล้องกบั ปัญหา ปญั หาหรอื ความต้องการ กบั ปญั หาหรอื ความ ปญั หาหรอื ความต้องการ หรือความต้องการ ภายใตข้ อ้ จากัดทีม่ อี ยู่ ต้องการ ภายใตข้ อ้ จากัด ภายใตข้ ้อจากดั ทมี่ อี ยู่แต่ ภายใตข้ อ้ จากดั ทีม่ ีอยู่ อย่างเหมาะสม ท่ีมอี ยู่แต่ขาดความ ขาดความสมเหตุ อย่างสมเหตสุ มผลและ สมเหตสุ มผลหรือความ สมผลและความเปน็ ไปได้ เป็นไปตามขอ้ เทจ็ จรงิ ถูกต้อง บางส่วน ออกแบบโดยถ่ายทอด ออกแบบโดยถ่ายทอด ออกแบบโดยถ่ายทอด ออกแบบโดยถา่ ยทอด ความคิดวิธีการ ความคดิ วิธกี ารแก้ปญั หา ความคิดวิธกี าร ความคดิ วิธกี ารแก้ปัญหา แก้ปัญหาหรอื สนอง หรือสนองความตอ้ งการ แกป้ ัญหาหรอื สนอง หรือสนองความต้องการ ความต้องการเป็นภาพ เป็นภาพ ความตอ้ งการเป็นภาพ เปน็ ภาพ 2 มิติ ภาพ 3 มติ ิภาพ 2 มติ ิ ภาพ 3 มิติภาพฉาย 2 มิติ ภาพ 3 มิติภาพ 2 มติ ิ ภาพ 3 มิติภาพฉาย ฉาย แผนภาพหรือผัง แผนภาพหรอื ผงั งานได้ ฉาย แผนภาพหรอื ผงั แผนภาพหรอื ผงั งานไม่ งานไดอ้ ยา่ งละเอียด แตข่ าดขอ้ มูลบางส่วน แต่ งานไดแ้ ตข่ าดขอ้ มูล ละเอยี ดขาดขอ้ มลู และ และแสดงขอ้ มูลครบ สามารถสือ่ สารใหผ้ ูอ้ น่ื บางสว่ นและไมส่ ามารถ ไม่สามารถสอ่ื สารใหผ้ อู้ น่ื ถ้วน สามารถสื่อสารให้ เขา้ ใจตรงกนั สือ่ สารใหผ้ ู้อน่ื เข้าใจ เขา้ ใจตรงกัน ผอู้ ืน่ เข้าใจตรงกนั ตรงกนั

ประเดน็ การประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 322.4) การใชเ้ ทคนิค หรือวิธีการเพ่ือวางแผนและดา เนนิ การแก้ปญั หาการวางแผนการทางาน วางแผนเพ่อื ใหก้ าร วางแผนเพ่อื ใหก้ ารทางาน วางแผนเพอ่ื ให้การ วางแผนเพอื่ ใหก้ ารทางาน ทางานเป็นไปตาม เปน็ ไปตาม ทางานเป็นไปตาม เป็นไปตาม เปา้ หมายและ เป้าหมายและระยะเวลา เป้าหมายและระยะเวลา เป้าหมายและระยะเวลา ระยะเวลาที่กาหนด ท่ีกาหนด สามารถปฏบิ ตั ิ ท่ีกาหนด สามารถ ที่กาหนด แตไ่ ม่สามารถ สามารถปฏบิ ัตติ ามแผน ตามแผนที่วางไวไ้ ด้ ปฏบิ ตั ติ ามแผนท่ีวางไว้ ปฏบิ ัตติ ามแผนทวี่ างไว้ ที่วางไว้ไดค้ รบถ้วน ครบถว้ นแตต่ ้องมกี าร ได้ครบถว้ นแต่ต้องมกี าร ได้ครบถว้ น ปรับเปลี่ยนแผนการ ปรบั เปลย่ี นแผนการ ทางานเพยี งเลก็ นอ้ ย ทางานการสร้างผลงาน สร้างผลงานได้ สร้างผลงานได้ สรา้ งผลงานได้ สรา้ งผลงานได้ไม่ ตรงตามแนวคิดที่ ตรงตามแนวคดิ ท่ี ตรงตามแนวคิดที่ ตรงตามแนวคิดที่ ออกแบบไว้ ออกแบบไว้เปน็ ส่วนใหญ่ ออกแบบไว้ไดเ้ พยี ง ออกแบบไว้ บางสว่ น2.5) การใชเ้ ทคนิค หรอื วธิ กี ารเพื่อทดสอบ ปรับปรุงแกไ้ ข และประเมินผลวธิ กี ารแก้ปัญหาหรือช้ินงานการกาหนดประเด็น กาหนดประเด็นในการ กาหนดประเดน็ ในการ กาหนดประเด็นในการ กาหนดประเด็นในการในการทดสอบผลงาน ทดสอบผลงานทจี่ าเป็น ทดสอบผลงานทจี่ าเปน็ ทดสอบผลงานทจี่ าเปน็ ทดสอบผลงานทจี่ าเป็น ต่อการแกป้ ัญหาหรอื ตอ่ การแกป้ ญั หาหรอื ตอ่ การแกป้ ญั หาหรอื ต่อการแกป้ ัญหาหรอื สนองความต้องการได้ไม่ สนองความตอ้ งการ สนองความต้องการตามท่ี สนองความตอ้ งการ สอดคลอ้ งกบั การ แก้ปญั หาหรือผลงาน ตามที่กาหนดไว้อย่าง กาหนดไว้ไดเ้ ป็นส่วนใหญ่ ตามที่กาหนดไว้ได้เป็น ครบถ้วน ส่วนใหญ่การสรา้ งแนวคดิ ในการ สรา้ งแนวคิดในการ สร้างแนวคิดในการ สรา้ งแนวคิดในการ สร้างแนวคดิ ในการ ปรบั ปรงุ แก้ไขผลงานได้ ปรับปรงุ แก้ไขผลงานได้ปรบั ปรงุ แก้ไขผลงาน ปรบั ปรงุ แก้ไขผลงานได้ ปรับปรงุ แก้ไขผลงานได้ สอดคล้องกบั ไม้สอดคล้องกบั ขอ้ บกพรอ่ งทพี่ บ ข้อบกพรอ่ งทพี่ บ สอดคล้องกบั สอดคลอ้ งกบั ข้อบกพร่อง บางสว่ น ไม่สามารถนาเสนอ ขอ้ บกพรอ่ งทพี่ บอยา่ ง ที่พบไดแ้ ละสามารถ นาเสนอขั้นตอนการ ขน้ั ตอนการแกป้ ญั หา แก้ปัญหาได้แต่มี หลากหลายและ นาไปใชป้ รับปรงุ ผลงาน รายละเอียดไม่ชัดเจน สามารถนาไปใช้ ไดบ้ างส่วน ปรับปรงุ ผลงานได้2.6) การใชเ้ ทคนคิ หรือ นาเสนอรายละเอียด นาเสนอรายละเอยี ดวธิ ีการเพ่อื นาเสนอวิธกี าร ข้ันตอนการแก้ปญั หา ขน้ั ตอนการแกป้ ญั หาได้แก้ปัญหาผลการ ไดช้ ดั เจน สอื่ สารให้ ชดั เจน สอ่ื สารใหผ้ ู้อ่นืแกป้ ญั หาหรือชิน้ งาน ผอู้ ืน่ เขา้ ใจได้อยา่ ง เข้าใจได้ ครบถ้วนสมบรู ณ์

เกณฑก์ ารตดั สินระดบั คุณภาพ คะแนน 10-12 คะแนน หมายถึง ระดับคณุ ภาพ ดีมาก คะแนน 6-9 คะแนน หมายถงึ ระดับคณุ ภาพ ดี คะแนน 3-5 คะแนน หมายถงึ ระดบั คุณภาพ พอใช้ คะแนน 1-2 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ ปรับปรุงหมายเหตุ เกณฑ์การวดั และประเมินผลสามารถปรับเปลี่ยนไดต้ ามเหมาะสม11. แหล่งเรยี นรู้ 1. ห้องเรียน 2. ภายในโรงเรียน เช่น ห้องสมุด ห้องศูนยก์ ารเรยี นรู้ในโรงเรยี น 3. แหลง่ เรยี นรอู้ ่นื ๆ เชน่ เวบ็ ไซตท์ เ่ี ก่ียวขอ้ ง ท้งั ทีเ่ ปน็ ภาพนิ่ง หรอื วีดทิ ัศน์โดยใช้คาสาคญั ท่เี ก่ียวข้อ’กบั บทเรียนแต่ละเร่อื ง เช่น การทางานของเฟอื ง ระบบกลไก อุปกรณอ์ ิเล็กทรอนกิ สพ์ นื้ ฐาน12. ข้อเสนอแนะ 1. นักเรียนสามารถเข้ามาสอบถามครูได้ ทั้งงานกลุ่ม และใบกิจกรรมต่างๆ ถ้าไม่เข้าใจเข้ามาสอบถามได้ในกลมุ่ ของ ม.1 แต่ละหอ้ งทีค่ รสู ร้างไวใ้ หไ้ ด้ โดยแลกเปลย่ี นความรกู้ นั พูดคยุ กนั และสามารถออกความคิดเหน็ ได้ เดยี๋ วครจู ะชว่ ยดวู ่าสิ่งที่นกั เรียนทาถกู หรอื ไม่

13. ความเห็นของผ้บู รหิ ารสถานศึกษา หรือผู้ท่ไี ด้รับมอบหมายข้อเสนอแนะ..................................................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ ............................................... ลงชือ่ ......................................................................... (.........................................................................) ตาแหน่ง...........................................................................14. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ด้านความรู้ .................................................................................................................................................................................................................................................................................. ................................................ ด้านสมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน.............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. ............................................... ด้านความสามารถทางการออกแบบ และเทคโนโลยี..................................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ............................................... ดา้ นอนื่ ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ีปญั หาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))............................................................................................................................. ...................................................................................................................................................................................................... ..................... ปญั หา/อปุ สรรค........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ แนวทางการแก้ไข............................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................................

แบบประเมนิ ผลงาน/ช้นิ งานแบบประเมินชิ้นงาน/ผลงานลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 (ดมี าก) ระดบั คุณภาพ 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) 1 ตรงกบั จดุ ประสงคท์ กี่ าหนด 2 มีความถกู ตอ้ งสมบูรณ์ 3 มีความเปน็ ระเบียบ รวม ลงชื่อ.............................................................ผู้ประเมนิ ...................../......................./.................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนผลงาน/ชน้ิ งาน เกณฑ์ประเมนิ ผลงาน ประเดน็ ท่ีประเมนิ ระดบั คุณภาพ1. ผลงานตรงกับ 4 3 2 1 จุดประสงค์ท่ีกาหนด ผลงานไม่สอดคลอ้ ง ผลงาสอดคล้อง ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคลอ้ ง2. ผลงานมคี วาม กับจุดประสงค์ กบั จุดประสงค์ กบั จุดประสงค์ กับจุดประสงค์ ถกู ต้องสมบูรณ์ ทกุ ประเด็น เปน็ ส่วนใหญ่ บางประเดน็ เนือ้ หาสาระของ3. ผลงานมคี วาม เนื้อหาสาระของ เน้อื หาสาระของ เน้ือหาสาระของ ผลงานไมถ่ ูกต้อง เป็นระเบยี บ ผลงานถกู ตอ้ ง ผลงานถกู ต้อง ผลงานถูกต้อง เปน็ ส่วนใหญ่ เป็นส่วนใหญ่ เป็นบางประเด็น ผลงานส่วนใหญ่ ครบถ้วน ไม่เปน็ ระเบยี บ ผลงานส่วนใหญ่ ผลงานมีความ และมีข้อบกพร่อง ผลงานมีความ มคี วามเปน็ เปน็ ระเบียบแต่มี เปน็ ระเบยี บ มาก แสดงออกถงึ ระเบยี บแตย่ งั มี ขอ้ บกพรอ่ ง ความประณีต ขอ้ บกพรอ่ ง บางส่วน เล็กนอ้ ย เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 11–12 ดีมาก 9–10 ดี 6–8 ตา่ กว่า 6 พอใช้ ปรับปรงุ

แบบประเมินการนาเสนอผลงานคาชีแ้ จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี น และนอกเวลาเรียน แล้วขดี  ลงในชอ่ งท่ี ตรงกบั ระดบั คะแนนลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ 1 ความถกู ต้องของเน้ือหา 3 21 2 ความคดิ สรา้ งสรรค์ □ □□ 3 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน □ □□ 4 การนาไปใชป้ ระโยชน์ □ □□ 5 การตรงตอ่ เวลา □ □□ □ □□ รวม ลงช่ือ.............................................................ผู้ประเมนิ ...................../......................./.................เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ผลงาน หรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณช์ ัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงาน หรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงาน หรอื พฤติกรรมสอดคลอ้ งกับรายการประเมินบางสว่ น ให้ 1 คะแนนเกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 ต่ากวา่ 8 พอใช้ ปรบั ปรงุ

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คลชือ่ -สกลุ ......................................................................................................เลขท.่ี ........................ห้อง.................คาช้แี จง : ให้ทาเครอ่ื งหมาย ลงใน □ ท่ตี รงกบั พฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี น และนอกเวลาเรียนลาดับท่ี รายการประเมนิ ปฏิบัติ ไม่ปฏิบัติ 1 การแสดงความคดิ เหน็ □□ 2 การยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ นื่ □□ 3 การทางานตามหนา้ ทที่ ไี่ ดร้ ับมอบหมาย □□ 4 ความมีน้าใจ □□ 5 การตรงต่อเวลา □□ ลงชือ่ .............................................................ผูป้ ระเมิน ...................../......................./.................สถานภาพของผู้ประเมนิ □ ตนเอง □ เพื่อน □ พ่อแม่/ผปู้ กครอง □ ครูเกณฑ์การให้คะแนนปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอท้งั 5 ด้าน หมายถึง ดมี ากปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรม 3-4 ดา้ น หมายถงึ ดีปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรม 1-2 ดา้ น หมายถงึ พอใช้ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรม 0 ด้าน หมายถงึ ปรบั ปรุงสรปุ ผลการประเมนิ □ ผา่ น มพี ฤติกรรม 3-5 ดา้ น □ ไม่ผา่ น มพี ฤติกรรม 0-2 ดา้ น

แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่คาช้แี จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียน และนอกเวลาเรยี น แล้วขดี  ลงในช่องท่ี ตรงกับระดับคะแนนลาดับท่ี ชอื่ –สกลุ การแสดง การ การทางาน ความ การมี รวม ของนกั เรียน ความคดิ เห็น ยอมรับฟงั ตามท่ไี ดร้ บั มนี า้ ใจ ส่วนรว่ มใน 15 มอบหมาย การปรบั ปรงุ คะแนน 321 คนอ่ืน 321 ผลงานกลุ่ม 321 321 321 321 ลงชอ่ื .............................................................ผู้ประเมนิ ...................../......................./.................เกณฑ์การให้คะแนน ปฏบิ ัติ หรือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัติ หรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัติ หรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรงุ

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 8กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ รายวชิ าพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (ว21181) ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2561หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรอื่ ง กระบวนการออกแบบ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4เรื่อง กรณศี กึ ษาการแกป้ ญั หาตามกระบวน การออกแบบเชิงวิศวกรรม เวลา 2 คาบผูส้ อน นายศักดณ์ิ รงค์ สบื มี โรงเรียนหันคาราษฎรร์ ังสฤษดิ์1. มาตรฐาน/ตวั ชีว้ ดั 1. ระบุปัญหาหรือความต้องการท่ีมีผลกระทบต่อสังคม รวบรวมวิเคราะห์ข้อมูลและแนวคิดท่ีเก่ียวข้องกับปัญหาทีม่ ีความซับซ้อนเพื่อสังเคราะห์วิธีการ เทคนิคในการแก้ปัญหาโดยคานึงถึงความถูกตอ้ งด้านทรพั ยส์ นิ ทางปญั ญา2. ออกแบบวิธีการแก้ปัญหาโดยวิเคราะห์เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลที่จาเป็นภายใต้เงื่อนไขและทรัพยากรทีม่ ีอยู่นาเสนอแนวทางการแก้ปัญหาใหผ้ ู้อน่ื เข้าใจด้วยเทคนิคหรือวิธีการท่ีหลากหลายโดยใช้ซอฟต์แวร์ช่วยในการออกแบบวางแผนข้ันตอนการทางานและดาเนินการแกป้ ัญหา 3. ทดสอบ ประเมินผล วิเคราะห์และให้เหตุผลของปัญหาหรือข้อบกพร่องท่ีเกิดขึ้นภายใต้กรอบเง่อื นไข หาแนวทางการปรบั ปรงุ แกไ้ ข และนาเสนอผลการแก้ปัญหาพร้อมทั้งเสนอแนวทางการพฒั นาตอ่ ยอด 4. ใช้ความรู้ และทักษะเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือ กลไก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีท่ีซับซ้อนในการแกป้ ญั หา หรอื พัฒนางาน ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภัย2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายการแก้ปญั หาตามกระบวน การออกแบบเชิงวศิ วกรรมได้ (K) 2. นกั เรยี นสามารถประยกุ ต์ใชก้ ระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมในการแกป้ ญั หาหรอื พฒั นางานใน ชีวิตประจาวนั ได้ (P) 3. นกั เรียนเหน็ ความสาคญั ของการแกป้ ญั หาตามกระบวน การออกแบบเชิงวศิ วกรรมได้ (A)3. สาระการเรียนรู้ 1. ปัญหาหรอื ความต้องการท่มี ีผลกระทบต่อสังคม เช่น ปัญหาด้านการเกษตร อาหาร พลังงานการขนสง่ สุขภาพและการแพทย์ การบริการ ซึ่งแตล่ ะดา้ นอาจมีไดห้ ลากหลายปัญหา 2. การวิเคราะหส์ ถานการณป์ ัญหาโดยอาจใช้เทคนคิ หรือวิธกี ารวเิ คราะห์ที่หลากหลาย ชว่ ยใหเ้ ข้าใจเงื่อนไขและกรอบของปัญหาได้ชัดเจน จากนั้นดาเนินการสืบค้น รวบรวมข้อมูล ความรู้จากศาสตร์ต่างๆ ที่เกย่ี วข้อง เพอ่ื นาไปสกู่ ารออกแบบแนวทางการแก้ปญั หา 3. การวเิ คราะห์เปรยี บเทียบและตัดสนิ ใจเลอื กขอ้ มูลทีจ่ าเป็นโดยคานงึ ถงึ ทรพั ย์สนิ ทางปญั ญาเง่ือนไขและทรัพยากร เช่น งบประมาณ เวลา ข้อมูลและสารสนเทศ วัสดุ เคร่ืองมือและอุปกรณ์ ช่วยให้ได้แนวทางการแกป้ ญั หาทีเ่ หมาะสม 4. การออกแบบแนวทางการแก้ปญั หาทาไดห้ ลากหลายวธิ ี เช่น การร่างภาพ การเขยี นแผนภาพการเขยี นผงั งาน 5. ซอฟต์แวร์ชว่ ยในการออกแบบและนาเสนอมีหลากหลายชนิดจงึ ต้องเลือกใชใ้ ห้เหมาะกบั งาน 6. การกาหนดขั้นตอนและระยะเวลาในการทางานก่อนดาเนินการแก้ปัญหาจะช่วยให้การทางานสาเร็จไดต้ ามเป้าหมาย และลดขอ้ ผิดพลาดของการทางานทีอ่ าจเกิดข้ึน

7. การทดสอบและประเมินผลเป็นการตรวจสอบชิ้นงานหรือวิธีการว่าสามารถแก้ปัญหาได้ตามวัตถุประสงค์ภายใต้กรอบของปัญหาเพ่ือหาข้อบกพร่อง และดาเนินการปรับปรุงโดยอาจทดสอบซ้าเพ่ือให้สามารถแก้ไขปัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ 8. การนาเสนอผลงานเป็นการถ่ายทอดแนวคิดเพ่ือให้ผู้อื่นเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการทางานและชิ้นงานหรือวิธีการท่ีได้ซึ่งสามารถทาได้หลายวิธี เช่น การทาแผ่นนาเสนอผลงาน การจัดนิทรรศการการนาเสนอผา่ นสื่อออนไลน์หรือการนาเสนอต่อภาคธรุ กิจเพ่ือการพัฒนาตอ่ ยอดส่งู านอาชพี 9. วัสดุแต่ละประเภทมีสมบตั ิแตกต่างกนั เช่น ไม้สังเคราะห์ โลหะ จึงต้องมีการวิเคราะห์สมบัตเิ พ่ือเลอื กใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั ลักษณะของงาน 10. การสร้างชิ้นงานอาจใช้ความรู้ เร่ืองกลไก ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ เช่น LDR sensor เฟือง รอกคาน วงจรสาเรจ็ รูป 11 อุปกรณแ์ ละเครอ่ื งมือในการสรา้ งชิ้นงานหรอื พฒั นาวิธีการมหี ลายประเภท ตอ้ งเลือกใชใ้ หถ้ กู ต้องเหมาะสม และปลอดภัย รวมท้ังรู้จกั เกบ็ รกั ษา4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การทางานตามกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมสามารถประยุกต์ใช้ได้ทง้ั ในการสร้างชิ้นงานและวธิ ีการแก้ไขปัญหา ซึง่ การทางานตามกระบวนการน้ีอาจไมไ่ ดม้ ลี าดับขนั้ ตอนทีก่ าหนดตายตัวสามารถยอ้ นกลบัหรือข้ามขั้นตอนได้ และอาจมีการทาซา้ กระบวนการเพื่อพัฒนาหรือปรับปรุงผลงานให้มีความสมบูรณย์ ิง่ ขนึ้กระบวนการแก้ปัญหานส้ี ามารถนาไปประยกุ ต์ใช้ไดก้ ับการทางานในชวี ิตประจาวันและการพัฒนางานเพอื่ เปน็แนวทางการเขา้ สู่อาชีพไดอ้ กี ด้วย การสร้างหรือพัฒนางานบางอย่างอาจมีความจาเป็นต้องใช้วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก อุปกรณ์ไฟฟา้ หรอื อิเล็กทรอนกิ ส์ ดงั น้ันต้องมีความรู้และทกั ษะพืน้ ฐานทจี่ าเปน็ ในสิ่งทเ่ี กี่ยวข้องเพอ่ื ให้สามารถทา งานไดส้ าเร็จตามเปา้ หมาย และทางานได้อย่างปลอดภัย5. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์1.ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มีวนิ ยั2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมัน่ ในการทางาน 1) ทักษะการคิดวเิ คราะห์ 2) ทกั ษะการสังเกต 3) ทักษะการสือ่ สาร 4) ทักษะการทางานรว่ มกนั3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี6. สอื่ ประกอบการเรยี นรู้ 1. เอกสารบทความตัวอยา่ งสถานการณก์ ารแก้ปญั หางานดา้ นสุขภาพและการแพทย์ 2. วีดทิ ศั น์เกย่ี วกับสถานการณป์ ัญหาดา้ นสขุ ภาพ สาธารณสขุ และการบริการ 3. เอกสารตัวอยา่ งการเขียน ภาพ 3 มิติ และภาพฉาย

4. เอกสารตวั อย่างการวเิ คราะหป์ ญั หาดว้ ยผังกา้ งปลา (fishbone diagram) 5. ตัวอย่างเทคนคิ การวิเคราะห์ดว้ ย การตั้งคา ถาม 5W1H 6. หนงั สือเรียนรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 47. ชน้ิ งานและภาระงาน 1. ใบกจิ กรรม เรื่อง การวเิ คราะหก์ ระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม 2. ใบกิจกรรมท้ายบท เรอ่ื ง การแกป้ ญั หาหรือพฒั นางานตามกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม (หมายเหตุ : กิจกรรมท้ายบทอาจใช้เวลาในการทากิจกรรมในลักษณะโครงงาน ซึ่งอาจปรับใช้ระยะเวลาทางานได้ตามความเหมาะสม)8. กิจกรรมการเรยี นรู้ แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนคิ : สบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชัว่ โมงท่ี 1ขั้นนา กระตนุ้ ความสนใจ (Engage) 1. ครูทบทวนความร้เู ดิมของนักเรยี นโดยใช้คาถามชวนคิดในหนงั สอื เรยี นเกย่ี วกับขนั้ ตอนการทางานตามกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม และอภิปรายว่ากระบวนการนี้สามารถนามาประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาหรอื พัฒนางานในชวี ิตประจาวนั หรอื งานอาชพี อะไรได้บ้าง และช่วยได้อย่างไร (หมายเหตุ : ครเู ร่มิ ประเมนิ นักเรยี นโดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล) แนวคาตอบ กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม เปน็ กระบวนการแกป้ ญั หาหรอื พฒั นางาน อยา่ งเปน็ ระบบภายใต้ข้อจากัดหรอื เงอื่ นไข และทรพั ยากรเพอื่ ให้ไดแ้ นวทางการแกป้ ัญหาหรือพฒั นา งานท่เี หมาะสมทสี่ ุดมขี ้นั ตอน ดงั น้ี 1) ระบุปัญหา เป็นการทาความเข้าใจปัญหาหรือความท้าทายวิเคราะห์เงื่อนไขหรือข้อจา กัดของสถานการณ์ปัญหาเพื่อกาหนดขอบเขตของปัญหา ซ่ึงจะนาไปสูก่ ารสรา้ งชิน้ งานหรือวธิ ีการใน การแก้ปัญหา 2) รวบรวมข้อมลู และแนวคดิ ที่เก่ียวข้องกบั ปญั หา เป็นการรวบรวมขอ้ มูลและแนวคิดทาง วิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และเทคโนโลยีท่เี กี่ยวขอ้ งกบั แนวทางการแกป้ ัญหาและประเมินความ เปน็ ไปได้ ขอ้ ดีและขอ้ จากัด 3) ออกแบบวธิ ีการแกป้ ญั หา เป็นการประยกุ ต์ใชข้ อ้ มูลและแนวคดิ ทเี่ ก่ียวข้องเพอ่ื การ ออกแบบชิ้นงานหรือวิธกี ารในการแกป้ ญั หาโดยคานงึ ถงึ ทรพั ยากร ข้อจากดั และเงอื่ นไขตาม สถานการณท์ กี่ าหนด 4) วางแผนและดาเนนิ การแกป้ ัญหา เปน็ การกาหนดลาดบั ขน้ั ตอนของการสรา้ งชิ้นงานหรือ วิธกี ารแลว้ ลงมอื สรา้ งชิ้นงานหรอื พฒั นาวธิ กี ารเพ่ือใช้ในการแกป้ ัญหา 5) ทดสอบ ประเมนิ ผล และปรบั ปรุงแกไ้ ขวิธกี ารแก้ปญั หาหรอื ชิน้ งาน เปน็ การทดสอบและ ประเมินการใช้งานของชน้ิ งาน หรือวธิ กี ารโดยผลท่ไี ดอ้ าจนามาใชใ้ นการปรบั ปรุง และพฒั นาให้มี ประสิทธภิ าพในการแกป้ ญั หาไดอ้ ยา่ งเหมาะสมที่สุด 6) นาเสนอวิธีการแกป้ ญั หาผลการแกป้ ญั หาหรือช้ินงาน เปน็ การนาเสนอแนวคดิ และขน้ั ตอนการแกป้ ญั หาดว้ ยการสรา้ งชนิ้ งานหรอื การพฒั นาวิธกี ารใหผ้ ู้อน่ื เขา้ ใจและได้ข้อเสนอแนะเพอื่ การพฒั นาต่อไป

กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมนอกจากจะนาไปใช้ในการแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน ในทาง วิศวกรรมหรอื เทคโนโลยี แลว้ ยงั สามารถประยกุ ตใ์ ช้ได้กบั การทางานหรือการแกป้ ญั หาในชีวิตประจา วัน เช่น หากเราต้องการปรับหอ้ งน้า ในบ้านให้เหมาะสาหรับผูส้ ูงอายุท่ีเดิน หรือนงั่ ไม่สะดวก ต้อง เร่ิมจากการระบุปัญหาหรอื ความต้องการว่าผสู้ ูงอายุต้องการสงิ่ ใดบ้างเพื่ออานวยความสะดวกขณะ ใช้งาน อีกทั้งยังช่วยป้องกันอุบัติเหตุท่ีอาจเกิดข้ึน จากน้ันต้องสารวจข้อมูลท่ีเกี่ยวข้อง เช่น วัสดุ อุปกรณ์ แล้วจึงนาข้อมูลท่ีได้มาออกแบบ และวางแผน จากนั้นลงมือสร้างชิ้นงาน หรือวิธีการ โดย ระหว่างการปฏบิ ตั ิงานควรมีการทดสอบ และประเมนิ ชิ้นงาน หรอื วธิ กี าร และปรบั ปรงุ แกไ้ ขหากเกดิ ขอ้ ผิดพลาด จนไดผ้ ลลพั ธท์ พี่ รอ้ มใชง้ านสาหรับผูส้ งู อายตุ อ่ ไป 2. ครูจัดกจิ กรรมใหน้ ักเรยี นโดยแบง่ กลมุ่ นักเรยี นออกเป็นกลมุ่ ย่อยกลมุ่ ละ 4-5 คน จากนนั้ ให้ตวั แทนกลุ่มจบั สลากเลอื กตวั อย่างกรณศี ึกษาในหนังสอื เรยี นดงั นี้ - กรณีศึกษาที่ 1 การออกแบบชุดอุปกรณร์ บั ประทานอาหารสาหรบั ผูส้ งู อายทุ ี่ข้อนวิ้ มอื เสือ่ ม - กรณีศกึ ษาท่ี 2 การพฒั นาข้นั ตอนการให้บรกิ ารสาหรับโรงพยาบาลจิตเวช - กรณศี ึกษาท่ี 3 ขาเทียมสาหรับคนพิการแบบปรบั อตั ราหนว่ งได้ขน้ั สอน สารวจคน้ หา (Explore) 1. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ ทากิจกรรม เรื่อง การวิเคราะห์กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรมเพ่อื ทาการวิเคราะห์ และสรปุ ขอ้ มลู ตามกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม (หมายเหตุ : ครเู ร่ิมประเมินนกั เรยี นโดยใชแ้ บบประเมินชิ้นงาน/ผลงาน) 2. ครูให้ตัวแทนนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลการวิเคราะห์การทางานตามกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมจากนั้น ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปการทางานตามกระบวนการของท้ัง 3กรณศี ึกษา (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียนโดยใช้แบบประเมินการนาเสนอผลงาน) 3. ครูใหน้ ักเรียนทากิจกรรมท้ายบท เรือ่ ง การแก้ปัญหาหรือพัฒนางานตามกระบวนการออกแบบเชงิวศิ วกรรมโดยให้นกั เรยี นทาเปน็ กลุ่มกลุม่ เดิมเพื่อทากจิ กรรมการแก้ปญั หาจากสถานการณเ์ กี่ยวกบั งานสุขภาพ(โดยอาจใช้ตัวอย่างสถานการณ์ได้จากหัวข้อที่ 10 ข้อเสนอแนะ) แล้วดาเนินการพัฒนาชิ้นงานหรือวิธีการพรอ้ มจดั ทารายงานและนาเสนอ ตามประเด็นสาคญั ของแตล่ ะขน้ั ตอนการทางานดงั ตอ่ ไปน้ี ขนั้ ระบปุ ญั หา - เหตุผลหรือความจา เปน็ ทีเ่ ลือก - การวเิ คราะห์สถานการณเ์ พื่อกาหนดขอบเขตของปัญหา ขั้นรวบรวมขอ้ มลู และแนวคดิ ทเ่ี กยี่ วข้องกบั ปญั หา - ขอ้ มลู เกย่ี วกับวิธกี ารแกป้ ญั หาที่อาจมีผอู้ น่ื ทาไว้แลว้ - ความรู้วทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ หรืออน่ื ๆ ทเี่ กย่ี วข้อง - วัสดุ อปุ กรณ์ และเคร่ืองมอื ข้ันออกแบบวิธกี ารแก้ปญั หา - ภาพรา่ งช้นิ งาน หรือขนั้ ตอนของวิธกี าร

- วิเคราะหแ์ นวทางการตดั สนิ ใจเลือกแนวทางทเี่ หมาะสม เช่น ความเปน็ ไปได้ ความคมุ้ ทุนทรัพยากร ขั้นวางแผน และดาเนินการแก้ปัญหา - กาหนดแผนการดาเนินการสรา้ งชิน้ งานหรือพัฒนาวิธีการ - บนั ทกึ ข้อมูลระหวา่ งการปฏบิ ัตงิ านขอ้ ผดิ พลาดและแนวทางแกไ้ ข ขั้นทดสอบประเมนิ ผลปรับปรงุ แกไ้ ขวธิ กี ารแกป้ ัญหาหรือชนิ้ งาน - บนั ทึกข้อมลู ผลการทดสอบและประเมนิ ผลงาน - บนั ทึกขอ้ มูลการแก้ไขผลงาน ขน้ั นาเสนอวิธีการแกป้ ัญหาผลการแก้ปญั หาหรอื ชิ้นงาน - ความสาคญั ของปญั หา - แนวทางการแกป้ ญั หา - ผลลพั ธท์ ไี่ ด้ - ข้อเสนอแนะและแนวทางการพฒั นาตอ่ ยอด 4. ครูใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ดาเนนิ การทากจิ กรรมการแกป้ ญั หา หรือพฒั นางาน ตามหัวขอ้ ทสี่ นใจโดยอาจเลอื กจากสถานการณ์ทค่ี รูกาหนดให้พร้อมกบั วเิ คราะห์สถานการณป์ ญั หาโดยอาจใช้เทคนิคการวิเคราะห์ด้วยการต้ังคาถาม 5W1H หรือเทคนคิ ผังก้างปลา (fishbone diagram) เพื่อนาไปสกู่ ารกาหนดขอบเขตของปัญหาแล้วนักเรยี นนาเสนอผลการวเิ คราะห์สถานการณ์ และขอบเขตของปัญหา 5. ครูให้นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันสบื ค้นข้อมูลทเ่ี กย่ี วข้องกับการแกป้ ญั หาโดยครูจะเวลากบั นักเรียนแตล่ ะกลุม่ ไดศ้ ึกษาคน้ คว้า และรวบรวมขอ้ มลู ตา่ งๆ และแนะนาการเลอื กแหล่งข้อมลู ทน่ี า่ เชื่อถือ เช่น วารสารบทความวจิ ัย สารานกุ รม เว็บไซต์ การสัมภาษณ์ผูร้ ู้ หรือปราชญ์ชาวบา้ น แล้วใหน้ ักเรียนบนั ทึกข้อมูลสรปุ โดยอาจทาในรูปแบบแผนท่ีความคิด (mind map) จากนั้นให้แต่ละกลุ่มนาเสนอผลการรวบรวมข้อมูล และแลกเปลีย่ นความคดิ เหน็ ร่วมกนั (หมายเหตุ : ครูเรม่ิ ประเมนิ นักเรียนโดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุม่ ) 6. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั ออกแบบวธิ ีการแก้ปัญหาโดยถา่ ยทอดความคดิ เป็นภาพร่าง ผังงาน และใช้ซอฟตแ์ วร์ช่วยในการออกแบบ เพ่ือแสดงรายละเอยี ดของชน้ิ งาน หรอื ขน้ั ตอนของวธิ กี ารจากน้นั ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มนาเสนออธิบายความรู้ (Explain) 1. ครูให้นักเรียนหาวิธีการฝีกการนาเสนอทดี่ ี และสมบรู ณ์ให้นักเรียนจดั รปู แบบของงานใหส้ วยงามทันสมัย และน่าสนใจ และครูจะคอยบอกหรือเสนอแนวทางการนาเสนองานที่ถูกต้องและน่าสนใจให้กับนกั เรียนในตอนท่นี กั เรียนออกมานาเสนอ ถา้ มีส่วนใดผิดพลาดครจู ะคอยช้แี นะแนวทางให้กบั นักเรียน

ชัว่ โมงที่ 2ขัน้ สอน สารวจค้นหา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มวางแผน และดาเนินการแก้ปัญหาโดยเขียนข้อมูลแสดงรายการวัสดุอุปกรณ์เคร่ืองมือ และงบประมาณ พร้อมท้ังกาหนดระยะเวลาในการปฏิบัติงาน โดยอาจนาเสนอในรปู แบบตารางแล้วดาเนินการปฏิบตั งิ านตามแผนทีก่ าหนดไว้ 2. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มต้องทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแกไ้ ข มีการบันทึกข้อมูลระหว่างการปฏิบัติงาน และหากพบข้อผิดพลาด หรือผลงานไม่สามารถแก้ปัญหาหรือทางานได้ตามต้องการต้องดาเนนิ การแกไ้ ข 3. นักเรียนแต่ละกลมุ่ เขียนรายงาน และนาเสนอผลการแกป้ ัญหาหรอื พัฒนางาน โดยต้องมีประเด็นสาคัญ ได้แก่ ความสาคัญของปญั หา แนวทางการแกป้ ัญหา ผลลพั ธท์ ไ่ี ด้ ข้อเสนอแนะ และแนวทางการพัฒนาตอ่ ยอดความรู้ (Explain) 1. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั อภปิ ราย ใหข้ ้อเสนอแนะ/ข้อคดิ เห็นในการนาเสนอผลงานของนักเรียนและจะจดั การนาเสนอผลงานในรูปแบบนิทรรศการในโรงเรยี น หรือชุมชนรวมทั้งอาจเผยแพร่ผา่ นเวบ็ ไซต์ วารสารของโรงเรยี นข้ันสรปุ ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate) 1. ครูให้นักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี นเพอ่ื วัดความเข้าใจหลงั จากทากจิ กรรมข้ันประเมิน ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูตรวจสอบผลการทาแบบทดสอบหลงั เรียน เพอื่ วัดความร้ขู องนกั เรียนหลังจากทากจิ กรรม 2. ครูประเมนิ ผลโดยการสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล พฤติกรรมการทางานกลุ่ม และจาก การนาเสนอผลงานหน้าช้ันเรยี น 3. ครูประเมนิ ผลชิน้ งาน/ผลงาน กจิ กรรม 4. ครูตรวจรายงานของนักเรียน 5. ครตู รวจกิจกรรมท้ายบท เรอื่ ง การแกป้ ญั หาหรอื พฒั นางานตามกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม. นกั เรยี นสามารถอธิบายการแก้ปญั หาตามกระบวน การออกแบบเชิงวิศวกรรมได้ (K) 2. นกั เรยี นสามารถประยุกตใ์ ช้กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรมในการแกป้ ัญหาหรือพัฒนางานใน ชีวติ ประจาวนั ได้ (P) 3. นกั เรยี นเห็นความสาคัญของการแกป้ ญั หาตามกระบวน การออกแบบเชิงวศิ วกรรมได้ (A)

9. การวดั และการประเมนิ ผลส่ิงทีว่ ดั / ประเมินผล วิธกี ารวดั ผล เครื่องมอื ทใี่ ช้วดั ผล เกณฑก์ ารประเมินการประเมินหลังเรยี น - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์แบบทดสอบหลงั เรยี นหน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 เร่อื ง - การตอบคาถาม - คาถาม คะแนน 10-12 หมายถงึ ดมี ากกระบวนการออกแบบเชงิ - แสดงความคิดเห็น - แบบสังเกตพฤตกิ รรม คะแนน 6-9 หมายถึง ดีวศิ วกรรม - การอภปิ ราย คะแนน 3-5 หมายถงึ พอใช้ - สังเกตพฤตกิ รรม - กิจกรรมทา้ ยบท คะแนน 1-2 หมายถงึ ปรับปรงุอธิบายการแกป้ ญั หาตาม - ตรวจกจิ กรรมท้ายบท - ผลงานกระบวน การออกแบบเชงิ - รายงาน คะแนน 10-12 หมายถงึ ดีมากวิศวกรรมได้ (K) คะแนน 6-9 หมายถงึ ดี - การนาเสนอ คะแนน 3-5 หมายถึง พอใช้ประยกุ ตใ์ ชก้ ระบวนการ - การตอบคาถาม คะแนน 1-2 หมายถึง ปรบั ปรงุออกแบบเชิงวิศวกรรมในการ - การอภิปราย - คาถาม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมแกป้ ัญหาหรือพฒั นางานใน - ตรวจใบกจิ กรรมชีวติ ประจาวนั ได้ (P) - สังเกตพฤติกรรมเหน็ ความสาคญั ของการ - การตอบคาถาม - คาถาม คะแนน 10-12 หมายถงึ ดีมากแกป้ ญั หาตามกระบวน - การอภิปราย - แบบสังเกตพฤตกิ รรม คะแนน 6-9 หมายถึง ดีการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม - สังเกตพฤติกรรม คะแนน 3-5 หมายถงึ พอใช้ได้ (A) คะแนน 1-2 หมายถึง ปรบั ปรุงทักษะการคิดเชิงระบบ - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ทักษะการคดิ อยา่ ง-มวี ิจารณญาณ - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ทกั ษะการสือ่ สาร - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ทกั ษะการทางานรว่ มกับผ้อู นื่ - สังเกตความมวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ - แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ และมงุ่ ม่ันในการทางาน อนั พงึ ประสงค์

10. เกณฑร์ ะดับการใหค้ ะแนนประเดน็ การประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32การแก้ปัญหาหรือพัฒนางานตามกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมการระบุปญั หา ระบปุ ญั หาและเงื่อนไข ระบปุ ญั หาและเง่ือนไข ระบปุ ัญหาและเงือ่ นไข ระบปุ ญั หาและเงื่อนไข ของการแกป้ ญั หา แตไ่ ม่ ของการแกป้ ญั หาได้ ของการแกป้ ญั หาได้ ของการแกป้ ญั หาได้ สอดคลอ้ งกบั สถานการณ์ ทีก่ าหนด สอดคล้องกบั สอดคลอ้ งกบั สถานการณ์ สอดคลอ้ งกบั รวบรวมขอ้ มลู ไม่ สถานการณท์ ก่ี าหนดได้ ท่ีกาหนดไดช้ ดั เจนแตข่ าด สถานการณ์ที่ สอดคล้องกบั แนวทางการ แกป้ ญั หา ครบถ้วน ชดั เจนและ ความสมบรู ณบ์ างสว่ น กาหนดบางสว่ น สมบรู ณ์การรวบรวมขอ้ มลู และ รวบรวมข้อมลู ที่ รวบรวมขอ้ มูลท่ี รวบรวมข้อมูลท่ีแนวคิดทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับ สอดคลอ้ งกบั แนว สอดคล้องกบั แนวทางการ สอดคลอ้ งกบั แนวปัญหา ทางการแก้ปญั หา ได้ แกป้ ญั หา ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ทางการแก้ปญั หาได้ อยา่ งถูกตอ้ ง ครบถว้ น แต่ไมส่ มบรู ณ์ บางสว่ น สมบรู ณ์การออกแบบวิธีการ ออกแบบชิ้นงานหรือ อ อ ก แ บ บชิ้นงานหรือ ออกแบบช้ินงานหรือ อ อ ก แ บ บช้ินงานหรือแกป้ ญั หา วิธีการได้สอดคล้องกับ วิธีการได้สอดคล้องกับ วิธีการได้สอดคล้องกับ วธิ ีการไม่สอดคลอ้ งกบัการวางแผนและดาเนนิ การแกป้ ัญหา แนวทางการแก้ปัญหา แนวทางการแก้ปัญหา แนวทางการแก้ปัญหา แนวทางการแก้ปัญหา และเง่ือนไขที่กาหนด และเง่ือนไขที่กาหนดโดย และเง่ือนไขท่ีกาหนด และเงือ่ นไขทก่ี าหนดและ โดยแสดงรายละเอียด แ ส ด ง ร า ย ล ะ เ อีย ดได้ และสามารถส่ือสารให้ ไม่สามารถสื่อสารให้ผูอ้ ืน่ ได้ ถู ก ต้ อ ง คร บ ถ้ ว น ถู ก ต้ อ ง แ ล ะ ส า ม า ร ถ ผู้อื่นเข้าใจ แต่แสดง เขา้ ใจตรงกัน สมบูรณ์และสามารถ สื่ อ ส า ร ใ ห้ ผู้ อ่ื น เ ข้ าใจ รายละเอยี ดได้ไมช่ ัดเจน ส่ือสารให้ผู้อ่ืนเข้าใจ ตรงกัน ตรงกนั มีการวางแผนในการ มีการวางแผนในการ มีการวางแผนในการ ดาเนินการแก้ปัญหาโดย ทางานและดาเนินการ ทางานและดาเนินการ ทางานแตไ่ ม่ได้ ไม่มีการวางแผนใน แก้ปัญหาตามข้นั ตอน แก้ปัญหาตามขัน้ ตอนการ ดาเนินการแก้ การทางาน การทางานไดอ้ ย่าง ทางานได้ ปัญหาตามขัน้ ตอนท่ี ถูกตอ้ งและเหมาะสม วางแผนไว้

ประเด็นการประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 32การทดสอบประเมนิ ผล กาหนดประเด็นในการ กาหนดประเดน็ ในการ กาหนดประเด็นในการ กาหนดประเดน็ ในการและปรบั ปรงุ แก้ไขวิธีการแกป้ ญั หาหรอื ทดสอบสอดคล้องกบั ทดสอบสอดคล้องกบั ทดสอบสอดคล้องกบั ทดสอบสอดคล้องกบัชนิ้ งาน สถานการณ์ทก่ี าหนดได้ สถานการณ์ทก่ี าหนดได้ สถานการณท์ กี่ าหนดได้ สถานการณ์ทกี่ าหนดได้การนาเสนอวธิ ีการแกป้ ัญหาผลการ อยา่ งชัดเจนและบนั ทึก อยา่ งชดั เจนและบนั ทกึ อยา่ งชดั เจนและบนั ทึก อยา่ งชดั เจนและบันทึกแกป้ ญั หาหรอื ช้ินงาน ผลการทดสอบได้อย่าง ผลการทดสอบได้ถูกตอ้ ง ผลการทดสอบแต่ไม่ ผลการทดสอบไมช่ ัดเจน ละเอยี ด ถกู ตอ้ ง แตข่ าดรายละเอยี ด ครบถ้วนขาด ไม่ครบถ้วน ไม่มกี าร ครบถ้วน มีการ บางสว่ นมกี ารปรบั ปรงุ รายละเอยี ดมกี าร ปรบั ปรงุ หรือเสนอแนว ปรับปรงุ หรือเสนอแนว หรือเสนอแนวทางแกไ้ ขที่ ปรบั ปรงุ หรอื เสนอแนว ทางแกไ้ ขชนิ้ งาน ทางแก้ไขทีส่ อดคลอ้ ง สอดคลอ้ งกบั ปญั หาหาก ทางแก้ไขท่ีไม่สอดคล้อง หรือวธิ ีการเม่อื พบข้อพก กบั ปญั หาหากชิน้ งาน ชิ้นงานหรือวธิ ีการมี กับปญั หาหากชิ้นงาน พร่อง หรอื วธิ ีการมี ขอ้ บกพรอ่ ง หรอื วิธกี ารมขี อ้ บกพรอ่ ง ข้อบกพรอ่ ง นาเสนอรายละเอยี ด นาเสนอรายละเอียด นาเสนอรายละเอยี ด นาเสนอรายละเอยี ด ข้ันตอนการแกป้ ญั หา ขน้ั ตอนการแกป้ ญั หาได้ ขัน้ ตอนการแก้ปญั หาได้ ขัน้ ตอนการแกป้ ญั หาได้ ไดถ้ กู ตอ้ ง ชดั เจน ถกู ต้อง แต่ขาดความ บางส่วน และเลอื ก ไม่ชดั เจนและไมส่ ามารถ ครบถ้วน สมบรู ณแ์ ละ ชัดเจนบางส่วนและเลอื ก วธิ กี ารสื่อสารใหผ้ ู้อ่นื เลอื กวิธีการสื่อสารให้ เลอื กวธิ ีการส่ือสารให้ วิธกี าร สื่อสารใหผ้ อู้ ่ืน เข้าใจในรายละเอยี ดได้ ผอู้ น่ื เข้าใจได ผอู้ นื่ เข้าใจไดเ้ หมาะสม เขา้ ใจไดเ้ หมาะสมกับ กบั รายละเอยี ด รายละเอยี ดเกณฑก์ ารตดั สินระดับคุณภาพ คะแนน 10-12 คะแนน หมายถึง ระดับคณุ ภาพ ดีมาก คะแนน 6-9 คะแนน หมายถึง ระดับคณุ ภาพ ดี คะแนน 3-5 คะแนน หมายถงึ ระดบั คุณภาพ พอใช้ คะแนน 1-2 คะแนน หมายถงึ ระดบั คณุ ภาพ ปรบั ปรงุหมายเหตุ เกณฑ์การวัด และประเมินผลสามารถปรับเปลย่ี นได้ตามเหมาะสม11. แหลง่ เรียนรู้ 1. ห้องเรียน 2. ภายในโรงเรยี น เชน่ หอ้ งสมดุ ห้องศนู ย์การเรียนรูใ้ นโรงเรียน 12. ขอ้ เสนอแนะ 1. นักเรียนสามารถเข้ามาสอบถามครูได้ ท้ังงานกลุ่ม และใบกิจกรรมต่างๆ ถ้าไม่เข้าใจเข้ามาสอบถามได้ในกลุม่ ของ ม.1 แต่ละห้องท่ีครูสรา้ งไวใ้ หไ้ ด้ โดยแลกเปลี่ยนความรู้กนั พูดคยุ กนั และสามารถออกความคิดเหน็ ได้ เดี๋ยวครูจะช่วยดูวา่ ส่ิงที่นักเรยี นทาถูกหรอื ไม่

13. ความเหน็ ของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา หรอื ผทู้ ี่ไดร้ บั มอบหมายข้อเสนอแนะ..................................................................................................................................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................................................................... ลงช่ือ......................................................................... (.........................................................................) ตาแหนง่ ...........................................................................14. บนั ทึกผลหลงั การสอน ด้านความรู้ .................................................................................................................................................................................................................................................................................. ................................................ ด้านสมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น.................................................................................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................ ............................................... ดา้ นความสามารถทางการออกแบบ และเทคโนโลยี.................................................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................. ............................. ดา้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทม่ี ีปญั หาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))................................................................................................................................................... .................................................................................................................................. ................................................................... ปญั หา/อุปสรรค........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ แนวทางการแกไ้ ข................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. .......

ใบกจิ กรรม เรื่อง การวิเคราะหก์ ระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม คาชแ้ี จง : ให้นกั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปนใี้ หถ้ ูกตอ้ ง ครบถ้วน และสมบูรณ์ ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเลือกตัวอย่างกรณีศึกษาหน่ึงเรื่อง จากกรณีศึกษาท่ี 1-3 แล้ววิเคราะห์สรุปข้ันตอนการทางานตามกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมจากตัวอย่างกรณีศึกษาที่เลือก พร้อมท้ังบั นทึกรายละเอยี ดแต่ละขัน้ ตอนของกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม



แบบประเมนิ ผลงาน/ช้นิ งานแบบประเมินชิ้นงาน/ผลงานลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 (ดมี าก) ระดบั คุณภาพ 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) 1 ตรงกบั จดุ ประสงคท์ กี่ าหนด 2 มีความถกู ตอ้ งสมบูรณ์ 3 มีความเปน็ ระเบียบ รวม ลงชื่อ.............................................................ผู้ประเมนิ ...................../......................./.................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนผลงาน/ชน้ิ งาน เกณฑ์ประเมนิ ผลงาน ประเดน็ ท่ีประเมนิ ระดบั คุณภาพ1. ผลงานตรงกับ 4 3 2 1 จุดประสงค์ท่ีกาหนด ผลงานไม่สอดคลอ้ ง ผลงาสอดคล้อง ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคลอ้ ง2. ผลงานมคี วาม กับจุดประสงค์ กบั จุดประสงค์ กบั จุดประสงค์ กับจุดประสงค์ ถกู ต้องสมบูรณ์ ทกุ ประเด็น เปน็ ส่วนใหญ่ บางประเดน็ เนือ้ หาสาระของ3. ผลงานมคี วาม เนื้อหาสาระของ เน้อื หาสาระของ เน้ือหาสาระของ ผลงานไมถ่ ูกต้อง เป็นระเบยี บ ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานถกู ต้อง ผลงานถูกต้อง เปน็ ส่วนใหญ่ เป็นส่วนใหญ่ เป็นบางประเด็น ผลงานส่วนใหญ่ ครบถว้ น ไม่เปน็ ระเบยี บ ผลงานส่วนใหญ่ ผลงานมีความ และมีข้อบกพร่อง ผลงานมคี วาม มคี วามเปน็ เปน็ ระเบียบแต่มี เปน็ ระเบยี บ มาก แสดงออกถงึ ระเบยี บแตย่ งั มี ขอ้ บกพรอ่ ง ความประณีต ขอ้ บกพรอ่ ง บางส่วน เล็กนอ้ ย เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 11–12 ดีมาก 9–10 ดี 6–8 ตา่ กว่า 6 พอใช้ ปรับปรงุ

แบบประเมินการนาเสนอผลงานคาชีแ้ จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี น และนอกเวลาเรียน แล้วขดี  ลงในชอ่ งท่ี ตรงกบั ระดบั คะแนนลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ 1 ความถกู ต้องของเน้ือหา 3 21 2 ความคดิ สรา้ งสรรค์ □ □□ 3 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน □ □□ 4 การนาไปใชป้ ระโยชน์ □ □□ 5 การตรงตอ่ เวลา □ □□ □ □□ รวม ลงช่ือ.............................................................ผู้ประเมนิ ...................../......................./.................เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ผลงาน หรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณช์ ัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงาน หรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงาน หรอื พฤติกรรมสอดคลอ้ งกับรายการประเมินบางสว่ น ให้ 1 คะแนนเกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 ต่ากวา่ 8 พอใช้ ปรบั ปรงุ

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คลชือ่ -สกลุ ......................................................................................................เลขท.่ี ........................หอ้ ง.................คาชแ้ี จง : ให้ทาเครอ่ื งหมาย ลงใน □ ท่ตี รงกบั พฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี น และนอกเวลาเรียนลาดับท่ี รายการประเมนิ ปฏิบตั ิ ไม่ปฏิบตั ิ 1 การแสดงความคดิ เหน็ □□ 2 การยอมรับฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ นื่ □□ 3 การทางานตามหนา้ ทที่ ไี่ ดร้ ับมอบหมาย □□ 4 ความมนี า้ ใจ □□ 5 การตรงต่อเวลา □□ ลงชือ่ .............................................................ผู้ประเมิน ...................../......................./.................สถานภาพของผูป้ ระเมนิ □ ตนเอง □ เพื่อน □ พ่อแม่/ผปู้ กครอง □ ครูเกณฑ์การให้คะแนนปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอท้งั 5 ด้าน หมายถึง ดมี ากปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรม 3-4 ดา้ น หมายถงึ ดีปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรม 1-2 ดา้ น หมายถงึ พอใช้ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรม 0 ด้าน หมายถงึ ปรบั ปรงุสรปุ ผลการประเมนิ □ ผ่าน มพี ฤติกรรม 3-5 ดา้ น □ ไม่ผา่ น มพี ฤติกรรม 0-2 ดา้ น

แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่คาช้ีแจง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียน และนอกเวลาเรยี น แล้วขดี  ลงในช่องท่ี ตรงกับระดับคะแนนลาดับท่ี ชอื่ –สกลุ การแสดง การ การทางาน ความ การมี รวม ของนกั เรียน ความคดิ เห็น ยอมรับฟงั ตามท่ไี ดร้ บั มนี า้ ใจ ส่วนรว่ มใน 15 มอบหมาย การปรบั ปรุง คะแนน 321 คนอ่ืน 321 ผลงานกลุ่ม 321 321 321 321 ลงชอ่ื .............................................................ผู้ประเมนิ ...................../......................./.................เกณฑ์การให้คะแนน ปฏบิ ัติ หรือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัติ หรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัติ หรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรงุ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook