กระทรวงคมนาคม วชิ าท่ี 4 พลเมืองและความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม ตามหลกั สตู รต้านทจุ ริตศกึ ษา (Anti – Corruption Education) ของส�ำนกั งาน ป.ป.ช. STRONG : จิตพอเพยี งต้านทจุ รติ 183
กระทรวงคมนาคม 184 STRONG : จิตพอเพยี งตา้ นทจุ ริต
กระทรวงคมนาคม วิชาท่ี 4 : พลเมืองและความรับผดิ ชอบต่อสังคม จ�ำนวนช่ัวโมง : ๓ ช่ัวโมง เรื่อง พลเมืองและความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม สาระสำ� คญั ศกึ ษาความหมาย ความสำ� คัญ ของพลเมอื งกบั ความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม และบทบาทหน้าที่ของความเป็นพลเมืองในการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาการทุจริต ของประเทศ วัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เข้ารบั การอบรม ๑. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ ความหมาย ความสำ� คญั ของพลเมอื งกบั ความรบั ผดิ ชอบ สงั คม และบทบาทหนา้ ทข่ี องความเปน็ พลเมอื งในการมสี ว่ นรว่ มแกไ้ ขปญั หาการทจุ รติ ของประเทศ ๒. สามารถสังเคราะห์ถึงการน�ำแนวคิดความรับผิดชอบต่อการทุจริต ของสงั คมและประเทศได้ ๓. มีความตระหนักรู้ถึงการน�ำแนวคิดความรับผิดชอบต่อการทุจริต ของสังคมและประเทศ ๔. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและบูรณาการกับทุกภาคส่วนของพลเมือง ในการต่อตา้ นการทจุ รติ ได้ ขอบเขตเนื้อหา ความหมาย ความส�ำคัญของความเป็นพลเมืองและบทบาทหน้าที่ ของความเปน็ พลเมืองในการมีสว่ นร่วมแกไ้ ขปญั หาการทจุ ริตของประเทศ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ตระหนักถึงความเป็นพลเมืองและบทบาทหน้าท่ีของความเป็นพลเมือง ในการมสี ว่ นรว่ มแกไ้ ขปญั หาการทจุ รติ ของประเทศ เจตคตทิ ด่ี เี กยี่ วกบั ความเปน็ พลเมอื ง พลเมอื งและความรบั ผิดชอบต่อสังคม 185
กระทรวงคมนาคม วิธีการฝกึ อบรม 1. วทิ ยากรบรรยายใหค้ วามรู้ 2. กิจกรรมสร้างความเป็นพลเมืองเพื่อเสริมสร้างความรับผิดชอบ ตอ่ การทุจรติ 3. แบ่งกลมุ่ ฝกึ ปฏบิ ตั ิและน�ำเสนอผลงาน ระยะเวลา ๓ ชว่ั โมง สอ่ื การเรียนรู้ 1. กรณีตวั อย่าง/กรณศี ึกษา 2. โจทย์กิจกรรม/บ่งการ 3. เอกสารประกอบการอบรม 4. สื่อเทคโนโลย/ี ส่อื อิเล็กทรอนิกส/์ ส่อื วีดิทัศน์ สำ� นกั งาน ป.ป.ช. การวดั และประเมินผล 1. แบบทดสอบความรคู้ วามเขา้ ใจของหนา้ ทพ่ี ลเมอื งกบั ความรบั ผดิ ชอบ ตอ่ สังคม 2. ประเมนิ จากชนิ้ งานและผลงานกลุ่ม 3. ประเมนิ จากการน�ำเสนอผลงาน 186 พลเมอื งและความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม
กระทรวงคมนาคม เนอื้ หาโดยสังเขป วชิ าที่ 4 : พลเมืองและความรบั ผิดชอบต่อสังคม จำ� นวนชว่ั โมง : 3 ช่ัวโมง รายละเอียดเน้อื หา 1. ความหมายและท่ีมาของคำ� ศัพทท์ ี่เกยี่ วข้องกับพลเมอื ง ค�ำว่า “พลเมือง” มีความหมายในหลายแง่มุม และมีการน�ำไปใช้เทียบ กบั คำ� อ่นื ๆ อาทิ ประชากร ประชาชน ปวงชน และราษฎร์ ฯลฯ แตห่ ากพิจารณา ให้ละเอยี ดจะสามารถท�ำความเข้าใจความหมายของคำ� ต่างๆ ทีค่ ลา้ ยกนั ได้ดังน ้ี ประชาชน หมายความถึง คนทั่วไป คนของประเทศ ซ่ึงไม่ใช่ผู้ปกครอง เปน็ สามญั ชนอยภู่ ายใตร้ ฐั เชน่ ประชาชนทกุ คนมหี นา้ ทตี่ อ้ งรกู้ ฎหมาย ใครจะปฏเิ สธ ว่าไม่รู้ไมไ่ ด้ ประชากร หมายถึง คนโดยท่วั ไป โดยมักใชใ้ นกรณีพิจารณาถึงจ�ำนวน ราษฎร ค�ำว่า “ราษฎร” เป็นค�ำเก่าแก่ท่ีมีใช้กันมานาน ในกฎหมาย สมัยกรุงศรีอยุธยาและกฎหมายตราสามดวง ก็มีการใช้ค�ำว่า “ราษฎร” หมายถึง คนโดยทว่ั ไป แต่ว่า “ราษฎร” เปน็ คำ� ทีใ่ ช้ในช่วงสมยั รัชกาลท่ี 5 เนอ่ื งจากสงั คมไทย สมัยโบราณ ประชาชนเป็นไพร่หรือทาสเกือบท้ังหมด พอมาถึงช่วงรัชกาลท่ี 5 ไดม้ กี ารเปลยี่ นแปลงการบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ ครง้ั ใหญแ่ ละไดท้ ำ� การเลกิ ทาสเลกิ ไพร่ ท�ำให้ประชาชนเหล่านั้นกลายเป็นราษฎรหรือเสรีชนท่ีไม่ต้องเป็นข้ารับใช้มูลนาย และมสี ถานะทางกฎหมายเทา่ เทียมกัน จงึ เรยี กอดตี ไพร่ ทาส ขุนนาง รวมทั้งชนช้นั ใหมๆ่ วา่ “ราษฎร” ในความหมายของผ้ทู ่ตี อ้ งเสยี ภาษีให้กบั รฐั และตอ้ งปฏิบตั ติ าม กฎหมายของบ้านเมอื งเชน่ เดียวกนั หมด ปัจจุบันค�ำว่า ราษฎรและประชาชน มีความหมายเกือบจะเหมือนกัน แตป่ ระชาชนสอื่ ถงึ การเปน็ เจา้ ของประเทศและเจา้ ของอำ� นาจอธปิ ไตยมากกวา่ ราษฎร ส่วนราษฎรมีนัยของคนที่เสียเปรียบคนท่ีด้อยกว่าอยู่ด้วย และมีนัยความหมาย เปน็ ทางการนอ้ ยกวา่ คำ� วา่ “ประชาชน” เชน่ แมเ้ ราจะเปน็ ราษฎรธรรมดา แตถ่ า้ ผบู้ รหิ าร ประเทศคดโกงฉอ้ ราษฎรบ์ งั หลวง เรากต็ อ้ งไปคดั ค้าน ทผี่ า่ นมาขา้ ราชการมักจะกดข่ี ราษฎร ดงั นัน้ ราษฎรแปลว่า คนของรัฐเดมิ หมายถึง สามญั ชน คือคนท่ไี มใ่ ชข่ ุนนาง โดยทว่ั ไปมกั หมายถงึ คนธรรมดา หมคู่ นท่มี ใิ ชข่ ้าราชการ พลเมืองและความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม 187
กระทรวงคมนาคม พลเมอื ง คำ� วา่ “พลเมอื ง” เกดิ ขนึ้ ครงั้ แรกเมอื่ เกดิ การปฏวิ ตั ใิ หญใ่ นฝรง่ั เศส เร่ิมต้นเม่ือปี ค.ศ. 1789 ชาวฝรั่งเศสลุกฮือกันข้ึนมาล้มล้างระบอบการปกครอง ของพระเจา้ หลยุ สท์ ่ี 16 ลม้ ลา้ งระบบชนชนั้ ตา่ งๆ ขณะนนั้ ไดแ้ ก่ พระราชวงศ์ ขนุ นาง ขา้ ราชการ สมณะ นกั พรต นกั บวช และไพร่ ประกาศความเสมอภาคของชาวฝรง่ั เศส ทุกคน ตอ่ มาค�ำว่า “Citoyen” จงึ แปลเปน็ “Citizen” ในภาษาอังกฤษ สำ� หรบั ประเทศไทย คำ� วา่ “พลเมอื ง” นา่ จะถกู นำ� มาใชส้ มยั หลงั เปลย่ี นแปลง การปกครอง พ.ศ. 2475 เนื่องจากผู้น�ำคณะราษฎรบางท่านเคยเรียนท่ีประเทศ ฝรั่งเศส จงึ ไดน้ �ำเอาค�ำนีม้ าใส่ไวใ้ นรัฐธรรมนญู ฉบับถาวร ซึ่งประกาศใชเ้ มื่อวันที่ 10 ธนั วาคม พ.ศ. 2475 ตอ่ มากลายเปน็ วชิ าบงั คบั ทนี่ กั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาจะตอ้ งเรยี น ควบค่กู บั วชิ าศลี ธรรม กลายเปน็ วิชา “หนา้ ทพ่ี ลเมอื งและศลี ธรรม” ในส่วนที่เป็นหน้าที่พลเมืองก็ลอกมาจากบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ฉบบั ปี 2475 เรื่อยมาจนถึงรัฐธรรมนญู ฉบับปี 2475 แกไ้ ขเพ่มิ เติม พ.ศ.2495 และเลกิ ใชเ้ มอื่ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรชั ต์ ทำ� การรฐั ประหารเมอื่ วนั ท ่ี 16 กนั ยายน 2500 แต่วิชาหน้าที่พลเมืองก็ยังคงเรียนและสอนกันต่อมาอีกหลายปีจึงเลิกไปพร้อมๆ กบั ค�ำวา่ “พลเมอื ง” โดยตอ่ มาก็ใช้คำ� วา่ “ปวงชน” แทน ค�ำว่าราษฎรคงเปน็ การใช้ แทนค�ำว่า “ประชาชน” หรือค�ำว่า People ในภาษาอังกฤษ อาจได้รับอิทธิพล จากอเมริกาโดยสุนทรพจน์เกตทีสเบิร์กของประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น ท่ีให้ค�ำจ�ำกัดความของรัฐบาลประชาธิปไตยไว้ว่าเป็น “รัฐบาลของประชาชน โดยประชาชนและเพ่ือประชาชน” แต่แทนท่ีเราจะใชค้ ำ� วา่ “ประชาชน” แทนค�ำวา่ “ราษฎร” เรากลับใช้ค�ำว่า “ปวงชน” แทน อย่างไรก็ตาม ค�ำว่าปวงชนก็ใช้แต่ใน รัฐธรรมนูญฉบบั ตา่ ง ๆ เทา่ น้นั แตไ่ ม่ติดปากที่จะใชก้ ันทว่ั ไปในทีอ่ ื่น ๆ ไม่วา่ ในหน้า หนังสือพมิ พห์ รือในสือ่ อ่นื ๆ ยงั นยิ มใชค้ ำ� ว่า “ประชาชน” มากกวา่ ค�ำวา่ “ปวงชน” อย่างไรก็ตาม ค�ำว่า “พลเมือง” ได้มาปรากฏอีกครั้งในร่างรัฐธรรมนูญ ฉบบั ปจั จุบัน เร่ิมต้ังแต่หมวดที ่ 2 ประชาชน สว่ นท่ ี 1 ความเป็นพลเมอื งและหนา้ ที่ ของพลเมอื ง มาตรา 26 บญั ญตั ไิ วว้ า่ “ประชาชนชาวไทยยอ่ มมฐี านะเปน็ พลเมอื ง” ท่ีน่าสังเกตก็คือ ในมาตรานี้ใช้ค�ำว่า “ประชาชน” ชาวไทย แทนค�ำว่า “ปวงชน” ชาวไทยทเ่ี ขยี นไวใ้ นมาตรา 3 “อำ� นาจอธปิ ไตยเปน็ ของปวงชนชาวไทย” และมาตรา 5 “ปวงชนชาวไทยไม่ว่าเหล่าก�ำเนิดเพศหรือศาสนาใด ย่อมอยู่ในความคุ้มครอง 188 พลเมอื งและความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม
กระทรวงคมนาคม แห่งรัฐธรรมนูญเสมอกัน” ซ่ึงร่างรัฐธรรมนูญมีท้ังค�ำว่า “ปวงชน” “ประชาชน” และ “พลเมือง” ในท่ีต่างๆ แทนค�ำว่า “ปวงชน” เหมือนรัฐธรรมนูญฉบับอื่นๆ (วรี พงษ์ รามางกูร, 2558) ส�ำหรับคำ� วา่ “พลเมือง” มีนักวชิ าการใหค้ วามหมาย สรุปไดพ้ อสังเขป พจนานุกรมนักเรียนฉบับราชบัณฑิตยสถาน ให้ความหมาย “พลเมือง” หมายถึง ชาวเมือง ชาวประเทศ ประชาชน “วิถี” หมายถึง สาย แนว ทาง ถนน และ “ประชาธปิ ไตย” หมายถงึ แบบการปกครองทถี่ อื มตปิ วงชนเปน็ ใหญ่ ดงั นน้ั คำ� วา่ “พลเมืองดีในวิถีชีวิตประชาธิปไตย” จึงหมายถึง พลเมืองท่ีมีคุณลักษณะท่ีส�ำคัญ คอื เปน็ ผทู้ ยี่ ดึ มน่ั ในหลกั ศลี ธรรมและคณุ ธรรมของศาสนา มหี ลกั การทางประชาธปิ ไตย ในการด�ำรงชีวิต ปฏิบัติตนตามกฎหมาย ด�ำรงตนเป็นประโยชน์ต่อสังคม โดยมี การชว่ ยเหลอื เกอื้ กลู กนั อนั จะกอ่ ใหเ้ กดิ การพฒั นาสงั คมและประเทศชาติ ใหเ้ ปน็ สงั คม และประเทศประชาธปิ ไตยอย่างแทจ้ ริง วราภรณ์ สามโกเศศ อธิบายว่า ความเป็นพลเมือง หมายถึง การเป็นคน ทรี่ บั ผดิ ชอบไดด้ ว้ ยตนเอง มคี วามสำ� นกึ ในสนั ตวิ ธิ ี มกี ารยอมรบั ความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื ปรญิ ญา เทวานฤมติ รกลุ กลา่ ววา่ ความเปน็ พลเมอื งของระบอบประชาธปิ ไตย หมายถึง การท่ีสมาชิกมีอิสรภาพควบคู่กับความรับผิดชอบและมีอิสรเสรีภาพ ควบคกู่ ับหน้าท่ี จากความหมายของนักวชิ าการต่างๆ พอสรปุ ไดว้ ่า “พลเมือง” หมายถึง ประชาชนทนี่ อกจากเสยี ภาษแี ละปฏบิ ตั ติ ามกฎหมายบา้ นเมอื งแลว้ ยงั ตอ้ งมบี ทบาท ในทางการเมอื ง คอื อยา่ งนอ้ ยมสี ทิ ธไิ ปเลอื กตงั้ แตย่ ง่ิ ไปกวา่ นน้ั คอื มสี ทิ ธใิ นการแสดง ความคดิ เห็นต่างๆ ต่อทางการหรือรฐั ได้ ทัง้ ยงั มสี ิทธิเขา้ รว่ มในกจิ กรรมตา่ งๆ กับรัฐ และอาจเปน็ ฝา่ ยรกุ เพอื่ เรยี กรอ้ งกฎหมาย นโยบายและกจิ กรรมของรฐั ตามทเี่ หน็ พอ้ ง พลเมอื งนนั้ จะเปน็ คนทรี่ ู้สึกเปน็ เจา้ ของในสง่ิ สาธารณะ มคี วามกระตอื รือร้น อยากมี สว่ นรว่ ม เอาใจใสก่ ารทำ� งานของรฐั และเปน็ ประชาชนทสี่ ามารถแกไ้ ขปญั หาสว่ นรวม ไดใ้ นระดับหน่งึ โดยไมต่ อ้ งรอใหร้ ัฐมาแกไ้ ขใหเ้ ท่านน้ั อย่างไรกต็ าม มกี ารเปรยี บเทียบความแตกต่างระหวา่ งความเป็นราษฎร และความเปน็ พลเมือง ดังตาราง (อา้ งจาก จดหมายข่าวสถาบนั พระปกเกลา้ ปีท ่ี 10 ฉบับท่ี 7 เดือนกรกฎาคม 2552) (ความเป็นราษฎร, ม.ป.ป.) พลเมอื งและความรับผดิ ชอบต่อสงั คม 189
กระทรวงคมนาคม ตารางเปรยี บเทียบความแตกต่างระหว่างความเปน็ ราษฎร และความเปน็ พลเมอื ง ความเปน็ ราษฎร ความเปน็ พลเมอื ง - ปฏบิ ตั ติ นตามหนา้ ทเี่ ทา่ นนั้ เชน่ เสยี ภาษี - นอกจากเสยี ภาษแี ละปฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย ปฏบิ ตั ิตามกฎหมาย แล้ว ต้องมีส�ำนึกในทางการเมือง อย่างน้อยต้องไปใช้สิทธิเลือกต้ัง หรือ มากกว่านน้ั คอื แสดงความคิดเหน็ ตา่ งๆ ตอ่ บา้ นเมอื ง ใชส้ ทิ ธเิ ขา้ รว่ มการทำ� กจิ กรรม ตา่ งๆ ร่วมกบั รฐั - ยอมรบั กฎหมาย นโยบาย กจิ การ กจิ กรรม - มอี สิ รภาพ ศักดศ์ิ รี มีความเท่าเทียมกับ ต่างๆ ของรัฐ ผอู้ นื่ ใหค้ วามสนใจตอ่ สว่ นรวม มบี ทบาท และมีสว่ นร่วมทางการเมอื ง - ไม่กระตือรือร้นที่จะมีส่วนร่วมทาง - เคารพตนเองและเคารพสิทธิของผู้อ่ืน การเมืองหรือกิจกรรมสาธารณะ เป็นเจ้าของชีวิตตนเอง ไม่อยู่ใต้ระบบ อปุ ถัมภ์ หรืออิทธิพลอำ� นาจของใคร - คดิ ว่าตนเองเป็นผู้น้อย - ไม่ตกอยู่ใต้อิทธิพลของพรรคการเมือง ต้องคอยรบั การอุปถมั ภ์จากผู้ใหญ่ และนกั การเมอื ง ไมร่ บั เงนิ หรอื ความชว่ ยเหลอื ที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง ไม่ซ้ือสิทธิ ไม่ขายเสยี ง - เอาใจใส่ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ การท�ำงานของรัฐบาล ตรวจสอบ รอ้ งเรยี น เมอ่ื มกี ารดำ� เนนิ นโยบายผดิ พลาด รู้สึกเดือดร้อน เมื่อรัฐบาลท�ำเร่ืองไม่ดี ท�ำงานผดิ พลาด หรอื ดำ� เนินนโยบายผิด - เปน็ ฝา่ ยรกุ เพอื่ เรยี กรอ้ งกฎหมาย นโยบาย หรือกิจการทตี่ นเองเหน็ พอ้ ง - สามารถแก้ปัญหาส่วนรวมเบื้องต้นได้ ไมต่ ้องรอแต่รฐั บาลมาแกไ้ ข กล่าวโดยสรุป “พลเมือง” มีความแตกต่างจากค�ำว่า “ประชาชน” และ “ราษฎร” ตรงทวี่ า่ พลเมอื งจะแสดงออกถงึ ความกระตอื รอื รน้ ในการรกั ษาสทิ ธติ า่ งๆ ของตน รวมถงึ การมีสว่ นรว่ มทางการเมือง โดยการแสดงออกซงึ่ สิทธเิ สรีภาพในการ 190 พลเมืองและความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม
กระทรวงคมนาคม แสดงความคดิ เหน็ ความเปน็ พลเมอื ง (Citizen) มคี วามหมายทส่ี ะทอ้ นใหเ้ หน็ ถงึ บทบาท หนา้ ท่ี และความรบั ผดิ ชอบของสมาชกิ ทางสงั คมทม่ี ตี อ่ รฐั ตา่ งจากคำ� วา่ “ประชาชน” ทก่ี ลายเปน็ ผ้รู ับคำ� สั่งท�ำตามผอู้ ่ืน ดงั น้นั การเปลีย่ นแปลงทสี่ ำ� คญั จงึ อยทู่ ี่การเปลยี่ น ใหป้ ระชาชนคนธรรมดา กลายเป็นพลเมอื งทม่ี ีสิทธิก�ำหนดทิศทางของประเทศได้ 2. ความหมายและแนวคดิ เก่ียวกบั การศกึ ษาเพือ่ สร้างความเป็นพลเมอื ง 2.1 ความหมายของพลเมืองศกึ ษา พลเมืองศึกษา (Civic education) หมายถึง การจัดการศึกษา และประสบการณเ์ รยี นรเู้ พอื่ พฒั นาผเู้ รยี นใหเ้ ปน็ พลเมอื งดขี องประเทศ มคี วามภาคภมู ใิ จ ในความเปน็ พลเมอื งตนเอง มสี ิทธมิ ีเสยี ง สนใจตอ่ ส่วนรวม และมสี ว่ นร่วมในกิจการ บ้านเมืองตามระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย หรือการเรียนรู้เก่ียวกับ รฐั บาล รัฐธรรมนูญ กฎหมาย ระบบการเมอื งการปกครอง สิทธิและความรบั ผดิ ชอบ ของพลเมอื ง ระบบการบรหิ ารจัดการสาธารณะและระบบตุลาการ 2.2 คุณลกั ษณะของพลเมือง “พลเมอื ง” ในระบอบประชาธปิ ไตย ประกอบดว้ ยลกั ษณะ 6 ประการ (ปรญิ ญา เทวานฤมติ รกลุ , 2555) คือ 1) มีอิสรภาพและพึ่งตนเองได้ หมายความว่า ประชาธิปไตย คือ ระบอบการปกครองท่ีประชาชนเป็นเจ้าของอ�ำนาจสูงสุดในประเทศ ประชาชน จึงมีฐานะเป็นเจ้าของประเทศ เป็นเจ้าของชีวิตและมีสิทธิเสรีภาพในประเทศ ของตนเอง ระบอบประชาธิปไตยจึงทำ� ให้เกิดหลกั สทิ ธเิ สรีภาพ และท�ำใหป้ ระชาชน มีอิสรภาพ คอื เป็นเจ้าของชวี ิตตนเอง “พลเมือง” ในระบอบประชาธิปไตยจงึ เป็นไท คือ เป็นอิสรชนที่พึ่งตนเองและสามารถรับผิดชอบตนเองได้ และไม่ยอมตกอยู่ ภายใต้อิทธิพลอำ� นาจ หรอื “ระบบอุปถัมภ์” ของผูใ้ ด 2) เห็นคนเท่าเทียมกัน หมายความว่า ประชาธิปไตยคือระบอบ การปกครองที่อ�ำนาจสูงสุดในประเทศเป็นของประชาชน ดังนั้น ไม่ว่าประชาชน จะแตกตา่ งกนั อยา่ งไรทกุ คนลว้ นแตเ่ ทา่ เทยี มกนั ในฐานะทเ่ี ปน็ เจา้ ของประเทศ “พลเมอื ง” จึงต้องเคารพหลักความเสมอภาคและจะต้องเห็นคนเท่าเทียมกัน คือ เห็นคนเป็น แนวระนาบ (Horizontal) เหน็ ตนเทา่ เทยี มกบั คนอนื่ ทกุ คนลว้ นมศี กั ดศ์ิ รขี องความเปน็ เจา้ ของประเทศอยา่ งเสมอกนั ถงึ แมจ้ ะมกี ารพง่ึ พาอาศัยแตจ่ ะเป็นไปอย่างเท่าเทียม พลเมอื งและความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม 191
กระทรวงคมนาคม 3) ยอมรับความแตกต่าง หมายความว่า ประชาธิปไตย คือ ระบอบการปกครองท่ีประชาชนเปน็ เจ้าของประเทศ ประชาชนจึงมเี สรีภาพ ระบอบ ประชาธิปไตยจึงให้เสรีภาพและยอมรับความหลากหลายของประชาชน ประชาชน จึงแตกต่างกันได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเลือกอาชีพ วิถีชีวิต ความเชื่อทางศาสนา หรอื ความคดิ เห็นทางการเมือง ดงั นน้ั เพ่ือมิให้ความแตกตา่ งน�ำมาซงึ่ ความแตกแยก ในสงั คม “พลเมอื ง” ในระบอบประชาธปิ ไตย จงึ ตอ้ งยอมรบั และเคารพความแตกตา่ ง ของกันและกัน เพ่ือให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ และจะต้องไม่มีการใช้ความรุนแรง ต่อผ้ทู ่เี หน็ แตกตา่ งไปจากตนเอง 4) เคารพสทิ ธผิ อู้ นื่ หมายความวา่ ในระบอบประชาธิปไตยทกุ คน เป็นเจ้าของประเทศทุกคนจึงมีสิทธิ แต่ถ้าทุกคนใช้สิทธิโดยค�ำนึงถึงแต่ประโยชน์ ของตนเองหรอื เอาแตค่ วามคดิ ของตนเองเปน็ ทต่ี งั้ โดยไมค่ ำ� นงึ ถงึ สทิ ธผิ อู้ น่ื หรอื ไมส่ นใจ ว่าจะเกิดความเดือดร้อนแก่ผู้ใดย่อมจะท�ำให้เกิดการใช้สิทธิท่ีกระทบซ่ึงกันและกัน สิทธิในระบอบประชาธิปไตยจึงจ�ำเป็นต้องมีขอบเขตคือ มีสิทธิและใช้สิทธิได้ เท่าที่ไม่ละเมิดสทิ ธผิ ูอ้ ่นื “พลเมือง” ในระบอบประชาธปิ ไตยจึงตอ้ งเคารพสิทธผิ อู้ ื่น และจะต้องไมใ่ ช้สิทธเิ สรีภาพของตนไปละเมดิ สิทธิของผ้อู นื่ 5) รบั ผดิ ชอบต่อสังคม หมายความว่า ประชาธิปไตยมิใช่ระบอบ การปกครองตามอ�ำเภอใจหรือใครอยากจะท�ำอะไรก็ท�ำโดยไม่ค�ำนึงถึงส่วนรวม ดังนั้น “พลเมือง” ในระบอบประชาธิปไตยยังจะต้องใช้สิทธิเสรีภาพของตน โดยรับผิดชอบต่อสังคมด้วย ด้วยเหตุที่สังคมหรือประเทศชาติมิได้ดีข้ึนหรือแย่ลง โดยตวั เอง หากสงั คมจะดขี ้นึ ไดก้ ด็ ว้ ยการกระทำ� ของคนในสังคม 6) เข้าใจระบอบประชาธิปไตยและมีส่วนร่วม หมายความว่า ประชาธปิ ไตยคอื การปกครองโดยประชาชน ใชก้ ตกิ าหรอื กฎหมายทมี่ าจากประชาชน หรือผู้แทนประชาชน ระบอบประชาธิปไตยจะประสบความส�ำเร็จได้ก็ต่อเมื่อ มพี ลเมอื งทเี่ ขา้ ใจหลกั การพนื้ ฐานของการปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยตามสมควร ท้ังในเร่ืองหลักประชาธิปไตยหรือการปกครองโดยประชาชน และหลักนิติรัฐหรือ การปกครองโดยกฎหมาย ถา้ มคี วามขดั แยง้ กเ็ คารพกตกิ าและใชว้ ถิ ที างประชาธปิ ไตย ในการแก้ปัญหาโดยไม่ใชก้ �ำลงั หรือความรนุ แรง 192 พลเมืองและความรับผิดชอบต่อสังคม
กระทรวงคมนาคม 3. องคป์ ระกอบของการศกึ ษาความเปน็ พลเมอื ง ส�ำหรับนักวิชาการต่างประเทศ ได้เขียนบทความวิชาการเก่ียวกับ การศกึ ษาเพอื่ สรา้ งพลเมอื ง อาทิ John Porter เขยี นบทความเรอื่ ง “The Challenge of education for active citizenship” โดยอธิบายการศกึ ษาความเปน็ พลเมือง วา่ ม ี 3 ประเดน็ ทเี่ ชอ่ื มกบั มติ พิ ลเมอื ง การเมอื ง และสงั คม ทง้ั น้ี พลเมอื งประกอบดว้ ย สิทธิจ�ำเป็นส�ำหรับความอิสระ เสรีภาพระดับปัจเจกบุคคล การเมืองประกอบด้วย สิทธิในการมีส่วนร่วมในการใช้อ�ำนาจทางการเมือง ส่วนสังคมประกอบด้วยสิทธิ ที่มีต่อสวัสดิการทางเศรษฐกิจและความมั่นคง สิทธิที่จะร่วมมือกันและเพื่อมีชีวิต อาศัยอยู่อยา่ งศิวไิ ลซ์ 3.1 ความรบั ผิดชอบทางสงั คม (Social Responsibility) การเรียนรู้ของเด็กจะเร่ิมต้นจากความไว้ใจตนเอง เกี่ยวกับสังคม ศีลธรรม พฤติกรรมความรบั ผดิ ชอบ ทั้งในและอย่เู หนอื หอ้ งเรยี น การเรียนรู้ของเด็ก ควรทำ� หรอื แสดงบทบาทในกลุ่มหรอื มสี ่วนร่วมในกิจกรรมของชมุ ชน 3.2 ความเก่ยี วพนั ชมุ ชน (Community Involvement) การเรียนรู้ผ่านชุมชนหรือการบริการในชุมชนมี 2 สาขา ของความเป็นพลเมือง มันไม่จ�ำกัดเวลาของเด็กท่ีโรงเรียน แต่ควรรับรู้ในฐานะเป็น กลมุ่ อาสาสมัครทไี่ ม่เปน็ การเมือง 3.3 ความสามารถในการอ่านและเขียนทางการเมือง (Political Literacy) การเรยี นของนกั เรยี นเกย่ี วกบั การทำ� ใหช้ วี ติ สาธารณะมปี ระสทิ ธผิ ล โดยผ่านความรู้ ทักษะ และค่านิยม ค�ำว่า “ชีวิตสาธารณะ” ถูกใช้ในความรู้สึก ทกี่ วา้ งทสี่ ดุ เพอื่ ทจ่ี ะลอ้ มรอบความรทู้ ส่ี มเหตสุ มผลของการมสี ว่ นรว่ มในการแกป้ ญั หา ความขดั แยง้ และเกย่ี วขอ้ งกบั การตดั สนิ ใจตอ่ เศรษฐกจิ หลกั และปญั หาสงั คมของทกุ วนั รวมทงั้ แตล่ ะการคาดหมายของบคุ คลและการตระเตรยี มสำ� หรบั โลกของการจา้ งงาน และการอภิปรายของการจัดสรรทรัพยากรภาครัฐและการสมเหตุสมผลของระบบ การจัดเก็บภาษี Joseph KuiFoon และ Chow–Kerry J. Kennedy (2012) เขียนบทความเรื่อง “Citizenship and Governance in the Asian Region : Insights from the International Civic and Citizenship Education Study” พลเมืองและความรบั ผิดชอบต่อสงั คม 193
กระทรวงคมนาคม โดยเขาเสนอวา่ ขอบเขตเนอื้ หาของการศกึ ษาความเปน็ พลเมอื งประกอบดว้ ย 4 อยา่ ง คอื 1) ประชาสงั คมและระบบ 2) องคป์ ระกอบขอ้ ปฏบิ ตั พิ ลเมอื ง 3) การมสี ว่ นรว่ ม พลเมอื ง และ 4) อตั ลักษณพ์ ลเมอื งสว่ นขอบเขตกระบวนการความคิด คอื การรจู้ ัก การวเิ คราะหแ์ ละการใหเ้ หตผุ ล และขอบเขตพฤตกิ รรมอารมณ์ คอื ความเชอ่ื คา่ นยิ ม ทศั นคติ ความสนใจเกีย่ วกับพฤตกิ รรมและพฤตกิ รรม Jaap Scheerens เขยี นบทความเรอ่ื ง “Indicators on Informal learning for Active Citizenship at School” มสี าระวา่ เป้าหมายของการศึกษา สำ� หรบั ความเปน็ พลเมอื งม ี 3 มติ ิ คอื มติ ิ 1 การรบั รเู้ ขา้ ใจกบั การนบั ถอื ความรเู้ กย่ี วกบั สถาบนั ประชาธิปไตย มิติ 2 เนน้ การปฏิบตั ิจรงิ (pragmatic) ในอารมณ์ความรสู้ ึก ของการกระท�ำและการได้รับประสบการณ์ และมิติ 3 เกี่ยวกับอารมณ์ในศัพท์ ของการผกู ตดิ กบั สงั คมและชมุ ชนซงึ่ อนั หนง่ึ เปน็ เจา้ ของ สมรรถนะการสอ่ื สารและสงั คม John Patrick เขียนบทความเร่ือง “Defining, Delivering, and Defending a Common Education for Citizenship in a Democracy” ซ่ึงได้พัฒนากรอบแนวคิดการศึกษาหลักสูตรพลเมือง ว่านิยามตามองค์ประกอบ การศกึ ษาความเปน็ พลเมอื งในระบอบประชาธปิ ไตย อันไดแ้ ก่ 1) ความรขู้ องความเปน็ พลเมอื งและรฐั บาลในระบอบประชาธปิ ไตย 2) ทกั ษะทเี่ ฉลยี วฉลาดของความเปน็ พลเมอื งในระบอบประชาธปิ ไตย 3) ทกั ษะการมสี ว่ นรว่ มของความเปน็ พลเมอื งในระบอบประชาธปิ ไตย (ทกั ษะความเปน็ พลเมอื งแบบมสี ว่ นรว่ ม) 4) แนวโน้มที่จะกระท�ำการบางอย่างของความเป็นพลเมือง ในระบอบประชาธปิ ไตย (ความเอนเอียงของพลเมอื ง) Joel Westheimer และ Joseph Kahne (2004) ไดเ้ ขยี นบทความ เรอื่ ง “What kind of Citizen? The Politic of Educating for Democracy” โดยมีสาระว่านักการศึกษาและผู้ก�ำหนดนโยบายได้ติดตามแผนงานเพ่ิมข้ึน ว่าได้มีจุดมุ่งหมายท�ำให้ประชาธิปไตยเข้มแข็งผ่านการศึกษาความเป็นพลเมือง การเรียนรู้ การบรกิ ารและการสอน ทง้ั นี้ Westheimer และ Kahne ได้ใหแ้ นวคดิ ท่ีส�ำคัญ 3 แนวคิดของความเป็นพลเมืองที่ดี คือ การมุ่งเน้นความรับผิดชอบ ระดับบุคคล การมีส่วนร่วม และความยุติธรรมที่เน้นย้�ำ โดยนัยทางการเมืองของ การศกึ ษาประชาธปิ ไตย อันมรี ายละเอยี ดแสดงเปน็ ตาราง ดงั นี้ 194 พลเมืองและความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม
กระทรวงคมนาคม ตารางประเภทของความเป็นพลเมือง การมงุ่ เน้นความรับผิดชอบ การมีสว่ นร่วม ความยตุ ิธรรม ระดับบคุ คล การกระทำ� ความสามารถรบั ผดิ ชอบ สมาชิกที่กระตือรือร้นของ การประเมนิ โครงสรา้ งทาง ในชุมชน องค์กร ชุมชน และหรือ สงั คม การเมอื ง เศรษฐกจิ การปรบั ปรงุ ความพยายาม โดยเปน็ ชว่ งสำ� คญั อนั ตราย เพื่อมองเห็นนอกเหนือ สาเหตุพ้ืนผวิ การท�ำงานและการจา่ ยภาษี ชมุ ชนทมี่ กี ารจดั โครงสรา้ ง การแสวงหาจากภายนอก กลุ่มพยายามท่ีจะดูแล และการระบุประเดน็ ของ ความตอ้ งการจำ� เปน็ เหลา่ น้ี ความไมย่ ุตธิ รรม ส นั บ ส นุ น ก า ร พั ฒ น า เศรษฐกิจ หรือการท�ำให้ สะอาดด้านสง่ิ แวดล้อม การเชอ่ื ฟงั กฎหมาย การรู้จักว่าหน่วยงานรัฐ การระบเุ กยี่ วกบั การเคลอ่ื นไหว ทำ� งานอย่างไร สังคมประชาธิปไตยและ การกระทำ� ทจ่ี ะแกส้ าเหตุ ทีเ่ ป็นรากปัญหา อาสาสมัครท่ีจะลงมือในเวลา การรจู้ กั กลยทุ ธท์ ท่ี ำ� ใหง้ าน วิกฤติ โดยส่วนรวม/กลุ่มบรรลุ เป้าหมาย สมมตฐิ านแกนหลัก เพอ่ื แกป้ ญั หาสงั คมและปรบั ปรงุ เพื่อแก้ปัญหาสังคมและ เพ่ือแก้ปัญหาสังคมและ สังคม ความเป็นพลเมืองที่ดี ปรับปรุงสังคม ความเป็น ปรับปรุงสังคม ความเป็น มคี ณุ ลกั ษณะนนั่ คอื ตอ้ งมคี วาม พลเมืองที่ดีต้องมีส่วนร่วม พลเมืองที่ดีต้องมีค�ำถาม ซื่อสัตย์ รับผิดชอบต่อสังคม อยา่ งกระตอื รอื รน้ และเอา การอภิปรายและการ ตลอดไปและการเป็นสมาชิก ต�ำแหน่งภาวะผู้น�ำภายใต้ เปลี่ยนแปลง เพ่ือจัดต้ัง ตลอดไปของชุมชน การจัดตั้งระบบ และ ระบบ และโครงสรา้ งทวี่ า่ โครงสร้างชุมชน กลบั มาเปน็ รปู แบบผลติ ซำ้� ของความยตุ ธิ รรมมากเกนิ ไป พลเมอื งและความรบั ผิดชอบต่อสงั คม 195
กระทรวงคมนาคม 4. แนวทางการปฏบิ ตั ิตนเป็นพลเมืองดี ณฐั นนั ท ์ ศริ เิ จรญิ (2555) ไดก้ ลา่ วถงึ แนวทางการปฏบิ ตั ติ นเปน็ พลเมอื งดี ตามวถิ ชี วี ิตประชาธิปไตย ควรมีแนวทางการปฏบิ ตั ติ น ดงั น้ี ดา้ นสงั คม ไดแ้ ก่ 1) การแสดงความคิดอยา่ งมเี หตผุ ล 2) การรับฟังข้อคดิ เหน็ ของผู้อนื่ 3) การยอมรับเมอ่ื ผู้อื่นมีเหตผุ ลทีด่ กี วา่ 4) การตัดสินใจโดยใช้เหตผุ ลมากกว่าอารมณ์ 5) การเคารพระเบยี บของสังคม 6) การมจี ติ สาธารณะ คอื เหน็ แกป่ ระโยชนข์ องสว่ นรวมและรกั ษา สาธารณสมบตั ิ ด้านเศรษฐกิจ ไดแ้ ก่ 1) การประหยัดและอดออมในครอบครัว 2) การซือ่ สตั ย์สจุ รติ ตอ่ อาชพี ทีท่ �ำ 3) การพัฒนางานอาชีพใหก้ า้ วหนา้ 4) การใชเ้ วลาว่างให้เป็นประโยชนต์ อ่ ตนเองและสังคม 5) การสรา้ งงานและสรา้ งสรรคส์ ง่ิ ประดษิ ฐใ์ หม่ ๆ เพอื่ ใหเ้ กดิ ประโยชน์ ตอ่ สังคมไทยและสังคมโลก 6) การเปน็ ผผู้ ลติ และผบู้ รโิ ภคทดี่ ี มคี วามซอ่ื สตั ย์ ยดึ มนั่ ในอดุ มการณ์ ทด่ี ตี อ่ ชาตเิ ปน็ ส�ำคญั ด้านการเมืองการปกครอง ไดแ้ ก่ 1) การเคารพกฎหมาย 2) การรบั ฟงั ขอ้ คดิ เหน็ ของทกุ คนโดยอดทนตอ่ ความขดั แยง้ ทเ่ี กดิ ขน้ึ 3) การยอมรับในเหตผุ ลท่ีดกี ว่า 4) การซื่อสัตย์ตอ่ หน้าท่ีโดยไม่เหน็ แก่ประโยชนส์ ว่ นตน 5) การกลา้ เสนอความคดิ เหน็ ตอ่ สว่ นรวม กลา้ เสนอตนเองในการ ทำ� หน้าทส่ี มาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร หรือสมาชกิ วุฒิสภา 6) การท�ำงานอยา่ งเตม็ ความสามารถเต็มเวลา 196 พลเมืองและความรับผิดชอบตอ่ สงั คม
กระทรวงคมนาคม ดงั นน้ั ความเปน็ พลเมอื งสามารถแยกพจิ ารณาทำ� ความเขา้ ใจวา่ ประกอบดว้ ย 3 สว่ น คอื สว่ นที ่ 1 คุณคา่ ค่านิยม ส่วนท่ ี 2 ความรู้ และส่วนท ี่ 3 ทกั ษะพฤตกิ รรม รายละเอยี ดดังน้ี (จาก www.thaiciviceducation.org) ตารางองค์ประกอบของความเป็นพลเมือง คุณค่า คา่ นยิ ม ความรู้ ทักษะและพฤตกิ รรม - รักความเป็นธรรมและ - สิทธิมนุษยชน (เสรีภาพ - เข้าใจผู้อ่ืน (Consider ความเสมอภาคและตระหนกั ความหลากหลาย และความ others) ในผลรา้ ยของความไมเ่ ปน็ ธรรม เทา่ เทยี ม) - ปฏบิ ตั ใิ นอยา่ งเทา่ เทยี มกนั และความไม่เสมอภาค - สทิ ธทิ างสงั คม การเมอื งและ (Treat others as equal) - เช่ือม่ันในความเป็นธรรม เศรษฐกิจ - เรียกร้องหรือต่อสู้ ในสงั คม - ความเท่าเทียมทางเพศ เพื่อความเป็นธรรม - เช่ือมั่นในการปฏิบัติต่อกัน - ใช้หลักความยุติธรรมเป็น บอกได้วา่ อะไรเป็นความ อย่างเทา่ เทยี ม พ้ืนฐานส�ำคัญของสังคม ยุติธรรม ไม่ยุติธรรม ประชาธปิ ไตย ในสถานการณ์ต่างๆ - รู้จักแยกแยะได้ว่าอะไรคือ ความเปน็ ธรรม - เคารพความเท่าเทียม ความเป็นธรรมอะไรคือความ ทางเพศ ไมเ่ ปน็ ธรรม และอะไรคอื ความ เสมอภาค อะไรคือความไม่ เสมอภาค เชอ่ื ในเสรภี าพทม่ี คี วามรบั ผดิ ชอบ - สิทธิมนุษยชน - เสรีภาพอย่างรบั ผดิ ชอบ ตอ่ สังคม (เสรีภาพ ความหลากหลาย - แกป้ ญั หาความขดั แยง้ ดว้ ย - เคารพในสทิ ธิและเสรภี าพ และความเทา่ เทียม) สนั ติวธิ ี ของผอู้ ่นื - ความรบั ผดิ ชอบทงั้ ตอ่ ตนเอง - ใหค้ วามสำ� คญั กบั สทิ ธแิ ละ - เคารพในเสรีภาพท่ีจะ และสงั คม ผลประโยชนข์ องผอู้ ่นื แสดงออกหรือการกระท�ำ - รบั ผดิ ชอบผลอนั เกดิ จาก - รบั ผดิ ชอบตอ่ การตดั สนิ และ การกระท�ำ การกระท�ำของตนทจ่ี ะมผี ล - มสี ว่ นรว่ มกบั วถิ ชี มุ ชนดว้ ย ตอ่ ผูอ้ น่ื การท�ำงานอาสาสมคั ร - รบั ผดิ ชอบตอ่ การตดั สนิ และ การกระท�ำของตนทจี่ ะมีผล ตอ่ ผู้อ่นื (ต่อ) พลเมืองและความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม 197
กระทรวงคมนาคม คณุ ค่า ค่านยิ ม ความรู้ ทักษะและพฤติกรรม - เห็นคุณค่าของการใช้สิทธิ - สิทธิมนุษยชน (เสรีภาพ - ใชส้ ทิ ธิแต่ไมล่ ะทงิ้ หนา้ ท่ี แตไ่ มล่ ะทง้ิ หนา้ ทแี่ ละตระหนกั ความหลากหลาย และความ - ปฏิบัติตามกฎหมาย ในผลร้ายของการใช้สิทธิ เท่าเทยี ม) จา่ ยภาษ ี ไปเลอื กตงั้ และ อยา่ งไมร่ บั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ท่ี - สทิ ธทิ างสงั คม การเมอื ง และ ออกเสียงประชามติ - ยดึ หลกั การใชส้ ทิ ธแิ ตไ่ มล่ ะทง้ิ เศรษฐกิจ อยา่ งมวี ิจารณญาณท่ดี ี หนา้ ทไี่ วเ้ สมอ - กระตือรือร้นในการเป็น สังคมแบบประชาสังคม (Civil society) - มีส่วนร่วมในสังคม กระตอื รอื รน้ ทางการเมอื ง - มีภราดรภาพและเคารพ - สิทธิมนุษยชน (เสรีภาพ - แก้ปัญหาความขัดแย้ง ความแตกตา่ ง ความหลากหลาย และ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ี - เหน็ คณุ คา่ ของความแตกตา่ ง ความเท่าเทียม) - ความสามารถในการอยู่ หลากหลาย - ความรู้เกี่ยวกับสังคมที่มี และท�ำงานท่ามกลาง - เปดิ ใจกวา้ งตอ่ ความเหน็ ตา่ ง ความแตกตา่ งทางวฒั นธรรม ความหลากหลายทาง เปล่ียนแปลงความเห็น วัฒนธรรม สว่ นตน และประนปี ระนอม - ความเขา้ ใจความรสู้ กึ ของ - เคารพความเหน็ ทแี่ ตกตา่ งกนั ผอู้ ่นื ยอมรับหลักของประชามติ - การอยู่ร่วมกันอย่าง และยอมรบั เสียงข้างน้อย สมานฉนั ท์ - ยึดประโยชน์ของส่วนรวม - สิทธิมนุษยชน (ความ - ปฏบิ ตั ติ ามคณุ คา่ รว่ มและ เป็นสำ� คัญ หลากหลาย ความเทา่ เทยี ม) ความเปน็ ธรรมในสงั คม - มีจิตสาธารณะ - ความเข้าใจว่าองค์ทาง - มสี ว่ นรว่ มในประชาสงั คม - มุ่งมั่นในหลักการคนมี การเมืองและรัฐจ�ำเป็น - มีส่วนร่วมในชุมชน ความคิด ความเชื่อคุณค่า ตอ้ งมคี วามรบั ผดิ ชอบอยา่ ง - มีส่วนร่วมในชุมชน ต่างกัน แต่ทุกคนก็มีคุณค่า กระตือรือร้นเพื่อให้บรรลุ ทางการเมอื ง การรว่ มมอื เท่าเทยี มกัน เปา้ หมายร่วมกนั กบั ผู้อืน่ หรอื มสี ่วนร่วม - เห็นคุณค่าของการใช้สิทธ ิ - ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ - คดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและ แต่ไม่ละทิ้งหน้าท่ีและ การเมือง มีเหตุผลความสามารถ ตระหนักในผลร้ายของ - ความรเู้ กย่ี วกบั หลกั ของการ ในการประเมนิ สถานะหรอื การใชส้ ทิ ธอิ ยา่ งไมร่ บั ผดิ ชอบ เคารพสิทธิและวัฒนธรรม การตดั สินใจ ตอ่ หนา้ ที่ ทแ่ี ตกต่างกันของผูค้ น (ตอ่ ) 198 พลเมืองและความรับผดิ ชอบต่อสังคม
กระทรวงคมนาคม คุณคา่ คา่ นิยม ความรู้ ทักษะและพฤตกิ รรม - ยดึ หลกั การใชส้ ทิ ธแิ ตไ่ มล่ ะทงิ้ - ความรเู้ กย่ี วกบั การตงั้ คำ� ถาม - แยกแยะระหวา่ งขอ้ เทจ็ จรงิ หน้าที่ไว้เสมอ หรือการหาข้อมูลเพิ่ม กับความคิดเห็นสามารถ ประกอบการตดั สนิ ใจ ท่ีจะประเมินข่าวสาร ตา่ ง ๆ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ มีทักษะการส่ือสารอย่าง เปน็ กระบวนการสามารถ ทำ� ใหก้ ารตดั สนิ ใจเกดิ ผล ในระดับรัฐ - ม่ันใจทีจ่ ะมสี ว่ นร่วมทาง - บทบาทของสอ่ื ทมี่ ตี อ่ บคุ คล - ตคี วามสาระจากสอื่ (ระบบ การเมอื ง และสงั คม การจงู ใจและการใหค้ ณุ คา่ - รู้จักสิทธิของบุคคลท่ีจะ - มคี วามรพู้ น้ื ฐานทางการเมอื ง /การคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ) มีสว่ นร่วม : ความหมายและความสำ� คญั สามารถใช้ส่ือในทาง ของการเมือง ทถี่ กู ต้อง - ความรู้ทั่วไปเก่ียวกับรัฐ - มีส่วนร่วมทางการเมือง (ความหมายลกั ษณะประเภท สามารถนำ� ความรพู้ น้ื ฐาน รูปแบบของรฐั ) ทางการเมอื งไปใชไ้ ดอ้ ยา่ ง - ระบอบการเมอื งการปกครอง ถูกต้องและเหมาะสม (ความหมายหลกั การลกั ษณะ ไปเลือกต้ังและออกเสียง ประเภท รูปแบบ ข้อดีและ ประชามตอิ ยา่ งมวี จิ ารณญาณ ข ้ อ เ สี ย ข อ ง ร ะ บ อ บ ที่ดี ติดตามตรวจสอบ ประชาธปิ ไตยและเผดจ็ การ) พฤตกิ รรมและการทำ� งาน - ระบบเศรษฐกจิ (ความหมาย ของนักการเมอื ง หลกั การ ลกั ษณะ ประเภท - สามารถวิพากษ์วิจารณ์ รปู แบบ ขอ้ ดแี ละขอ้ เสยี ของ และตัดสินนโยบาย ระบบทนุ นยิ มและสงั คมนยิ ม ผลงานและกรณีต่าง ๆ และความสมั พนั ธข์ องระบอบ ได้อย่างถูกต้องและ การเมืองการปกครองกับ เหมาะสม ระบบเศรษฐกิจ - สามารถน�ำหลักการ - ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ ประชาธปิ ไตยไปใชใ้ นการ กฎหมาย (ความหมาย ดำ� เนนิ ชวี ติ และการทำ� งาน ความสำ� คญั หลกั การลกั ษณะ ได้อย่างถูกต้องและ ประเภทและศักดิ์ของ เหมาะสม กฎหมาย) (ตอ่ ) พลเมอื งและความรับผิดชอบต่อสังคม 199
กระทรวงคมนาคม คณุ คา่ คา่ นิยม ความรู้ ทักษะและพฤตกิ รรม - ปกคเเแหหาวลรตราตะะปุกมุวกสกาสัตรคิ่าง�ำณิศรทรคอา)์ัญณี่ไงสดขข์ตอ้อเงสรรงไี์ยเกาทหนาเยตหรร(ุกสเูต้จามภุรผาือาณพกลง์ -- สคพใผใพชหอู้าวฒัน้ื ้ใแ้มา่ืนนฐนกมาไากาต่ดรมนคาถน้นั่ทรณุ ถเใปาอจค่างฏงาท่ยกบิทมที่จาาัตทีระองิเปกัดกมษรคาอื ะระวงเยแาไมปกุมลอื ตสะรงู่์ู้ - ใรแกสปกนัาฐรจัลาประจธะระัจบบุรสปกจวนัรำ�ฎบุกนมค(ันหกกคญัน)ลามรขูญรไอาอกทขงยงาสรอปงขถฐั กงธารอไาบระทงรรนั กเมไยมแทนอใลือญูบนยะง - เคปขแชคอ่ืวนัจลางาเชระจสมพมกทิกรกใแธบั าฎนิลผไรคดกะดิ ปวแต้อชากกิงรอม่าคสะบแห์กทิ ยทลรลธะุง้ักามิ กใกนตนฎหษุร์หเะลยปมดชาา็นบันยย - -- --- คทคกบคโกรกกกแปใไมกมกเดปนมูว้ลอฎฎรืฎารหทวฎจีญั่ีจสยส็านะระ่ะกาเักหัหดบกาปหหม่ถควดบบมศอาชตรรมมาแมเาาร�ำานวาะปรยวนทะกิาานคยาเเชลนรู้เนน็่เายคยาขทรนวกยกกาบพกง)ธกอา่ี่มาชินาวี่ยแีรยไารแกงมานรีกร(กรมวรพบกยลรทณแขฎเมาขากฎขมกใสะละดั�รำทรท์อับนะฎหออื่ัองไปไแทม่ีกแี่งกคกดมะงมอสยรกกีกี่เตรตกไมฎจาป้ับยว้งะาฎภตรกิกยฎแึรงบู่่็ภนเาคกิหตาใปปตาหกลวอือธนาาา่มนรแล้ะอตมแงรยกะกบาัก่ียลกแริรงกลาใาายไาใันนมตัมกยะฐะชรรารรี้้้ - ปสนใปนมก�ำฏสเดปิบรลุอ้ถ่ือัตงางิตสนสาทิ ิทมกธธกาหิ ิไฎรรปณอืหใกชม์ใา้ใาดรนยทสกรร่ีจู้วาา้ ะ่ารง 200 พลเมอื งและความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม
กระทรวงคมนาคม 5. แนวทางการสร้างเสริมสำ� นึกความเปน็ พลเมือง : กรณศี กึ ษาประเทศไทย จากรายงานการศึกษาแนวทางการสร้างเสริมส�ำนึกความเป็นพลเมือง แกเ่ ยาวชน โดยสภาพฒั นาการเมอื ง สถาบนั พระปกเกลา้ รว่ มมอื กบั หนว่ ยงานในพนื้ ท่ี จัดท�ำรายงานการศกึ ษาในระดับพนื้ ที่ เชน่ กรณภี าคเหนือ : จังหวดั ล�ำปาง 1) กิจกรรมเพื่อเสริมสร้างส�ำนึกความเป็นพลเมืองแก่เยาวชน ในจงั หวัดล�ำปาง ภาพรวมของการจัดกิจกรรมสร้างเสริมส�ำนึกความเป็นพลเมือง แกเ่ ยาวชนและภาพรวมของการสนบั สนนุ สง่ เสรมิ จากภาคสว่ นตา่ งๆ ในการจดั กจิ กรรม สรา้ งเสรมิ สำ� นกึ ความเปน็ พลเมอื งแกเ่ ยาวชนในจงั หวดั ลำ� ปาง สว่ นใหญเ่ ปน็ การดำ� เนนิ การ จัดกิจกรรมเพ่ือการแก้ไขปัญหาและพัฒนาเด็กและเยาวชน ไม่ได้ต้ังวัตถุประสงค์ เพอ่ื สรา้ งเสรมิ สำ� นกึ ความเปน็ พลเมอื งแกเ่ ยาวชนโดยตรง เหมอื นเชน่ โครงการทไี่ ดร้ บั การสนบั สนนุ จากสถาบนั พระปกเกลา้ ทไี่ ดด้ ำ� เนนิ การในโรงเรยี นบางแหง่ ของจงั หวดั ลำ� ปาง แตอ่ ยา่ งไรกต็ าม การจดั กจิ กรรมการพฒั นาเดก็ และเยาวชนตา่ งๆ ทไี่ ดด้ ำ� เนนิ การ ในจงั หวดั ลำ� ปางนนั้ ทา้ ยทสี่ ดุ แลว้ กจ็ ะสง่ ผล หนนุ เสรมิ เตมิ เตม็ สำ� นกึ ความเปน็ พลเมอื ง ของเด็กและเยาวชนได้เชน่ กัน ในขณะเดยี วกันภาคสว่ นตา่ งๆ ทดี่ ำ� เนนิ การสนับสนุน ส่งเสริมกิจกรรมการพัฒนาเด็กและเยาวชนหรือกิจกรรมสร้างเสริมส�ำนึกความเป็น พลเมอื งแกเ่ ยาวชน ซ่ึงประกอบไปด้วย กลมุ่ ผู้ปฏบิ ตั กิ ารกล่มุ ผ้สู นบั สนนุ งบประมาณ กลมุ่ ผสู้ นบั สนนุ วชิ าการองคค์ วามรู้ กลมุ่ ผสู้ นบั สนนุ บคุ ลากรวทิ ยากร กลมุ่ ผสู้ นบั สนนุ อาคารสถานท่ี วัสดุอุปกรณ์ และกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับการจัดกิจกรรมต่างๆ มีความร่วมมือระหว่างกันตามภาระหน้าท่ี พันธกิจและตามความสัมพันธ์ ของภาคส่วนตา่ งๆ เหล่าน้ี 2) ปัญหาอุปสรรคและปัจจัยสู่ความส�ำเร็จในการสร้างเสริมส�ำนึก ความเป็นพลเมอื งแก่เด็กและเยาวชน การด�ำเนินกิจกรรมสร้างเสริมส�ำนึกความเป็นพลเมืองแก่เยาวชน ในจงั หวัดล�ำปาง มปี ัญหาอุปสรรค และความส�ำเรจ็ เกดิ ขึน้ มาก จากการศกึ ษาขอ้ มูล ผา่ นเวทีสะทอ้ นในการประชมุ กล่มุ ยอ่ ย สามารถสรุปปจั จัยสำ� คญั ทเ่ี ปน็ ปัจจัยปัญหา อุปสรรคของการด�ำเนินงานสร้างเสริมส�ำนึกความเป็นพลเมืองแก่เยาวชน เกิดจาก พลเมืองและความรับผดิ ชอบต่อสังคม 201
กระทรวงคมนาคม 3 ปัจจัย คอื ปัจจัยครอบครวั พ่อ แม่ ผปู้ กครอง ปจั จยั การสนับสนนุ ของหน่วยงาน องค์กรที่เก่ียวข้องกับงานด้านเด็กและเยาวชน และปัจจัยโอกาสการเข้าถึงกิจกรรม ของเดก็ และเยาวชน สว่ นปจั จยั สำ� คญั ทเ่ี ปน็ ปจั จยั แหง่ ความสำ� เรจ็ นน้ั เกดิ จาก 4 ปจั จยั คือ ปัจจัยพลังเด็กและเยาวชน ปัจจัยครอบครัว พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ปัจจัยบุคคล หน่วยงาน องคก์ ร ชมุ ชน และปจั จยั เครอื ขา่ ยการท�ำงาน 3) แนวทางในการพฒั นารปู แบบกจิ กรรมเพอื่ เสรมิ สรา้ งสำ� นกึ ความเปน็ พลเมืองแก่เดก็ และเยาวชน การพฒั นาเดก็ และเยาวชนเปน็ งานทตี่ อ้ งอาศยั เวลาและตอ้ งมรี ปู แบบ กิจกรรมที่เหมาะสม สอดคล้องกับบริบทการท�ำงานของแต่ละพื้นที่ ซึ่งจ�ำเป็นต้อง มีการพัฒนารูปแบบกิจกรรมอยู่อย่างต่อเนื่องเพ่ือให้เหมาะสม ทันต่อสภาวการณ์ ของเด็กและเยาวชน และสภาพการเปลี่ยนแปลงทางสังคมท่ีส่งผลกระทบต่อเด็ก และเยาวชน อย่างรวดเร็ว จากการศึกษาพบว่า แนวทางการพฒั นารูปแบบกิจกรรม เพอื่ สรา้ งเสรมิ สำ� นกึ ความเปน็ พลเมอื งแกเ่ ยาวชนในจงั หวดั ลำ� ปาง ควรพฒั นารปู แบบ กิจกรรมโดยเน้นการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชน การบูรณาการกิจกรรมในพื้นท่ี ระดับต�ำบล การพัฒนาเครือข่ายการท�ำงานด้านเด็กและเยาวชน และการส่ือสาร สรา้ งความรู้ ความเข้าใจในพน้ื ที่อยา่ งทัว่ ถึง กรณภี าคตะวันออกเฉียงเหนือ : จงั หวัดสกลนคร 1) กจิ กรรมการสรา้ งเสรมิ สำ� นกึ ความเปน็ พลเมอื งแกเ่ ดก็ และเยาวชน ในจังหวดั สกลนคร ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา เป็นการด�ำเนินกิจกรรมของหน่วยงาน ทง้ั ภาครฐั องคก์ รพฒั นาเอกชน ทท่ี ำ� งานขบั เคลอ่ื นการพฒั นาเดก็ และเยาวชน แตพ่ บวา่ เป็นกิจกรรมท่ีมักจะพัฒนาแนวคิดการด�ำเนินงานที่เป็นลักษณะนโยบายส่วนกลาง เพอ่ื รองรบั งบประมาณ เชน่ สำ� นกั งานพฒั นาสงั คมและความมน่ั คงของมนษุ ย์ แตถ่ า้ เปน็ กิจกรรมเด่นๆ ที่เกิดจากมุมมองในปัญหาของเด็กและเยาวชน และผู้ที่ท�ำงานกับ เด็กและเยาวชนจริงๆ จะเห็นว่ายังไม่ได้เกิดในหน่วยงานภาครัฐ กิจกรรมท่ีสามารถ สรา้ งสำ� นกึ พลเมอื งเดก็ และเยาวชนทเ่ี หน็ ผลของการพฒั นา การสรา้ งสำ� นกึ ความเปน็ พลเมืองแก่เด็กและเยาวชน ท่ีมีเสียงจากกลุ่มเด็กและเยาวชน คือ กิจกรรมค่าย ทใ่ี หโ้ อกาสเดก็ และเยาวชนไดค้ ดิ สรา้ งสรรคก์ จิ กรรมดๆี และหลากหลาย โดยอยภู่ ายใต้ การดแู ลใหค้ ำ� แนะนำ� และไดร้ บั การสนบั สนนุ งบประมาณจากผใู้ หญใ่ จดี เชน่ กจิ กรรม 202 พลเมอื งและความรับผดิ ชอบต่อสังคม
กระทรวงคมนาคม ของชมรมคนรกั ศลิ ป์ กจิ กรรมของกลมุ่ เดก็ ฮกั ถนิ่ สรปุ ภาพรวม ผลการสนทนากลมุ่ ยอ่ ย ในการสร้างส�ำนึกความเป็นพลเมืองแก่เด็กและเยาวชนในจังหวัดสกลนคร มีสาระ ส�ำคัญ คือ การให้นิยามความหมายของเด็ก เยาวชนและผู้ใหญ่ไม่ได้แตกต่างกัน ส่วนส�ำนึกพลเมืองเด็กและเยาวชน ในปัจจุบันควรจะมีต้นแบบส�ำนึกพลเมือง จากผู้ใหญ่ ส่วนส�ำนึกพลเมืองของเด็กและเยาวชนนั้น ได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมค่าย ทมี่ งุ่ เน้นการพฒั นาจติ อาสา 2) ปัญหาและอุปสรรคในการด�ำเนินกิจกรรมเพ่ือเสริมสร้างส�ำนึก ความเปน็ พลเมอื งแกเ่ ยาวชนในจังหวัดสกลนคร ปัจจัยท่ีเป็นปัญหาและอุปสรรคในการเสริมสร้างส�ำนึกพลเมือง แก่เด็กและเยาวชนในพื้นท่ีจังหวัดสกลนคร สรุปได้ดังน้ี 1) การขาดโอกาสในการ เรียนรู้ความเป็นพลเมืองของเด็กและเยาวชน 2) พ่อแม่ ผู้ปกครอง ผู้ใหญ่ในสังคม ไม่เป็นต้นแบบที่ดีแก่ลูกหลานขาดต้นแบบผู้ใหญ่ที่ดี 3) สถาบันการศึกษาขาด ความเขา้ ใจในการสรา้ งสำ� นกึ พลเมอื งแกเ่ ดก็ และเยาวชน ผา่ นหลกั สตู รการจดั การเรยี น การสอน และ 4) หน่วยงานที่ดูแลด้านเด็กและเยาวชนขาดการประสานงาน ขาดความรู้ความเขา้ ใจในเรื่องของการสร้างสำ� นกึ พลเมอื งและทำ� งานซ�้ำซอ้ น 3) แนวทางในการพัฒนารูปแบบกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างส�ำนึก ความเป็นพลเมืองแก่เด็กและเยาวชนจังหวัดสกลนคร มี 2 มุมมอง คือ มุมมอง ของผู้ใหญ่ และ มมุ มองของเดก็ และเยาวชน - มุมมองของผู้ใหญ่ การสร้างต้นแบบให้กับเด็กและเยาวชน ผา่ นสอ่ื ตา่ งๆ การสง่ เสรมิ ตน้ แบบคนดี โดยมเี วทแี สดงความดเี ชงิ ประจกั ษ์ เชดิ ชคู วามดี คนดีเพื่อเป็นก�ำลังใจแก่คนท�ำดี โดยเร่ิมจากระดับครอบครัว และการพัฒนา แบบผสมผสานหลกั ธรรมคำ� สอนกบั กจิ กรรมในชวี ติ ประจำ� วนั รวมทง้ั การบรรจหุ ลกั สตู ร การเสริมสร้างส�ำนึกพลเมืองแก่เด็กและเยาวชนในทุกระดับการศึกษาท่ีครอบคลุม เนอ้ื หาทุกวชิ าทกุ มิติ - มมุ มองของเดก็ และเยาวชน รปู แบบกจิ กรรมเพอื่ เสรมิ สรา้ งสำ� นกึ พลเมืองท่ีอยากเห็นและต้องการ คือ การให้โอกาสได้เข้าร่วมก�ำหนดกรอบแนวทาง เพอ่ื สรา้ งสำ� นกึ พลเมอื งกบั หนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง โดยสอดแทรกกจิ กรรมจติ อาสาพฒั นา สาธารณะให้แกเ่ ด็กและเยาวชนอยา่ งตอ่ เนือ่ งและย่ังยืน พลเมืองและความรับผดิ ชอบต่อสังคม 203
กระทรวงคมนาคม กรณภี าคใต้ : จงั หวัดยะลา บรบิ ทปญั หาสว่ นใหญท่ ค่ี กุ คามหรอื สง่ เสรมิ การสรา้ งสำ� นกึ พลเมอื งจงั หวดั ยะลา คือ เยาวชนว่างงาน เยาวชนเล่นการพนัน เยาวชนติดยาเสพติด เยาวชนขับรถซิ่ง เยาวชนขาดการศึกษา ขาดทุนทรัพยใ์ นการศึกษา แตท่ ี่ส�ำคญั จากผลการวิจัย พบว่า ปญั หาสำ� คญั ในจงั หวดั ยะลา คอื เยาวชนตดิ ยาเสพตดิ และเยาวชนไดร้ บั การศกึ ษานอ้ ย ส�ำหรับท่ีผ่านมา การด�ำเนินงานด้านการพัฒนาเยาวชนในจังหวัดยะลา จากข้อมูลประเด็นยุทธศาสตร์ของจังหวัดยะลา สรุปได้ว่า โครงการพัฒนาเยาวชน เพ่ือสร้างงานโครงการจ้างงานนักเรียน นักศึกษาในช่วงปิดภาคฤดูร้อน โครงการฝึก อาชีพแก่เยาวชนในสถาบันการศึกษาปอเนาะ โครงการมหกรรมเปิดโลกการศึกษา และอาชพี เพอ่ื การมงี านทำ� โครงการศนู ยย์ ะลาสนั ตสิ ขุ คนื คนดสี สู่ งั คม โครงการมวลชน สานสัมพันธ์สานฝันสู่อามานดามัน และโครงการครอบครัวป้องกันภัยแก้ไขปัญหา ยาเสพตดิ ตลอดจนมโี ครงการพฒั นาเยาวชนในถนิ่ ทรุ กนั ดาร โครงการทบู นี มั เบอรว์ นั เป็นต้น อาจกล่าวได้ว่า การสร้างเยาวชนให้มีส�ำนึกพลเมืองเริ่มต้นจากการอบรม ดูแล เอาใจใส่ ศึกษาให้ความรู้ของครอบครัว พ่อแม่ และญาติพ่ีน้อง การได้รับ การศกึ ษาจากสถาบนั ทเ่ี ยาวชนศกึ ษา และหนว่ ยงานภาครฐั ทม่ี หี นา้ ทเี่ กย่ี วกบั เยาวชน คือ ส�ำนักงานพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์จังหวัดยะลา และส�ำนักงาน พัฒนาชุมชนจังหวดั ยะลา 1) กิจกรรมการสร้างเสริมส�ำนึกความเป็นพลเมืองแก่เด็กและเยาวชน ในระดบั พนื้ ที่จงั หวดั ยะลา - จัดโครงการสอนภาษาไทยให้ผู้ไม่รู้หนังสือหรือผู้อ่านภาษาไทย ไมไ่ ด้ เพอื่ สรา้ งความภาคภมู ใิ จในความเปน็ คนไทยมคี วามเปน็ เจา้ ของประเทศมากขนึ้ - โครงการสอนภาษามลายูให้แก่ทหารพรานเพื่อให้สามารถส่ือสาร สรา้ งความเขา้ ใจกับประชาชน - โครงการสำ� นกึ รกั ษท์ อ้ งถนิ่ เสรมิ สรา้ งความสมานฉนั ท์ เพอื่ ใหเ้ ยาวชน ท�ำกิจกรรมร่วมกันและเป็นโครงการที่ส่งเสริมปลูกจิตส�ำนึกให้เยาวชนรักบ้านเกิด รูส้ กึ ความเปน็ เจ้าของ - โครงการน�ำเยาวชนสู่สันติเพ่ือเรียนรู้วิธีการสร้างสันติภาพ การจัดการความขดั แยง้ - โครงการค่ายเอดสแ์ ละยาเสพติด 204 พลเมืองและความรับผดิ ชอบต่อสงั คม
กระทรวงคมนาคม - จดั ตงั้ ศนู ยบ์ รกิ ารทเ่ี ปน็ มติ รแกเ่ ยาวชน เพอื่ ใหเ้ ยาวชนมคี วามพอใจ มคี วามประทบั ใจรสู้ ึกวา่ ตนเองมีความส�ำคญั ท�ำให้มคี วามรักต่อประเทศชาติ - จดั เวทปี ระชาคมหมบู่ า้ นเพอื่ ใหเ้ ยาวชนมสี ว่ นรว่ มกบั ทกุ ฝา่ ยในการ พัฒนาหรือแกไ้ ขปญั หาในชุมชนทำ� ใหเ้ ยาวชนภูมิใจและมคี วามรักต่อชุมชน - โครงการสง่ เสรมิ อาชพี แกเ่ ยาวชน เพอ่ื ใหเ้ ยาวชนเหน็ ชอ่ งทางอาชพี ในอนาคต ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ มคี วามรบั ผดิ ชอบมากขน้ึ - กจิ กรรมนนั ทนาการ เชน่ กจิ กรรมฟตุ บอลภาคฤดรู อ้ น และกจิ กรรม ออเครสตร้าเพือ่ สะทอ้ นการอยู่ร่วมกัน - โครงการสานพลังเยาวชนนำ� สงั คมเขม้ แข็ง - โครงการส่งเสริมอาชีพให้เด็กและเยาวชน เช่น ปลูกผัก เลี้ยงไก่ ซ่อมรถจกั รยานยนต์ 2) ปัญหาและอุปสรรคในการด�ำเนินกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างส�ำนึก ความเปน็ พลเมืองแก่เยาวชนในจังหวดั ยะลา ปัญหาส่วนใหญ่ท่ีคุกคามหรือส่งเสริมการสร้างส�ำนึกพลเมืองจังหวัด ยะลา คือ เยาวชนขาดความรับผิดชอบในการร่วมกิจกรรมเพื่อการพัฒนาศักยภาพ และในการท�ำโครงการ ปัญหาความไม่เข้าใจในวัตถุประสงค์ของการท�ำกิจกรรม เยาวชนขาดจิตอาสาจิตสาธารณะ ปัญหาด้านยาเสพติด งบประมาณในการพัฒนา ศักยภาพของเยาวชนในการท�ำโครงการไม่ต่อเน่ือง การใช้งบประมาณไม่โปร่งใส ขาดความเปน็ อสิ ระ 3) แนวทางในการพัฒนารูปแบบกิจกรรมการสร้างเสริมส�ำนึก ความเปน็ พลเมอื งแกเ่ ดก็ และเยาวชนในระดับพน้ื ทจี่ ังหวดั ยะลา - กจิ กรรมการสรา้ งเสรมิ สำ� นกึ ความเปน็ พลเมอื งแกเ่ ดก็ และเยาวชน ควรดำ� เนนิ การทง้ั ในระบบและนอกระบบโรงเรยี น เนน้ กจิ กรรมการมสี ว่ นรว่ มและสรปุ บทเรยี นรว่ มกนั เพอื่ กอ่ ใหเ้ กดิ การเรยี นรแู้ ละยำ้� สำ� นกึ พลเมอื งบอ่ ยๆ เพอ่ื ใหก้ ลายเปน็ วฒั นธรรมของชมุ ชนต่อไป - กจิ กรรมนอกหลกั สตู รทที่ ำ� นอกเหนอื กจิ กรรมในชนั้ เรยี น นอกจากน้ี ยงั รวมทง้ั การใหห้ นว่ ยงานราชการภาคที มี่ หี นา้ ทเ่ี กยี่ วกบั โครงการทเ่ี ยาวชนดำ� เนนิ การ หรือบุคคลท่ีมีบทบาทในชุมชนมาร่วมรับรู้ เป็นสักขีพยานการท�ำงานของโครงการ โดยเน้นวางระบบการท�ำงานแบบเป็นทางการและลายลักษณ์อักษร มีก�ำหนด การท�ำงานทชี่ ัดเจน และมีคณะบุคคลทม่ี ีหนา้ ที่เกยี่ วขอ้ งมารว่ มติดตาม พลเมอื งและความรับผิดชอบต่อสงั คม 205
กระทรวงคมนาคม 6. การศึกษาเกีย่ วกับความเปน็ พลเมอื งในบริบทต่างประเทศ ในหลายประเทศมีการส่งเสริมเร่ืองการศึกษาเร่ืองความเป็นพลเมือง ซึ่งแต่ละประเทศมีแนวคิดและประเด็นในการศึกษาท่ีแตกต่างกัน โดยเอกสารน้ี จะน�ำเสนอแนวคิด พร้อมท้ังประเด็นการปฏิบัติท่ีน่าสนใจท่ีเกิดขึ้นจากการส่งเสริม ด้านความเป็นพลเมือง โดยเนื้อหาหลักน�ำมาจากบทความของ เลิศพร อุดมพงษ์ เรอ่ื ง การศกึ ษาเพอ่ื ความเปน็ พลเมอื ง (Civic/Citizenship Education) ในการสง่ เสรมิ บทบาทของภาคพลเมอื งในการเมอื งระบบตวั แทน : แนวทางทย่ี งั่ ยนื ผา่ นประสบการณ์ จากตา่ งประเทศ (2558) ซึ่งมปี ระเทศทีน่ ่าสนใจ ดงั น้ี ประเทศญ่ีปนุ่ ญี่ปุ่นเป็นประเทศท่ีอยู่ในทวีปเอเชียมีรูปแบบของรัฐเป็นรัฐเด่ียว และปกครองดว้ ยระบอบประชาธปิ ไตยในระบบรฐั สภามอี งคพ์ ระจกั รพรรดหิ รอื กษตั รยิ ์ ทรงเปน็ ประมขุ มนี ายกรฐั มนตรเี ปน็ ผนู้ ำ� ในการบรหิ ารประเทศเชน่ เดยี วกบั ประเทศไทย (ช�ำนาญ จันทร์เรอื ง, 2554) ในปี ค.ศ. 2013 ได้รับการจดั อันดับดา้ นความเปน็ ประชาธิปไตย (Democracy Ranking) เป็นอันดับ 20 ของโลก (แคมป์เบลล์ และคณะ Campbell et.al., 2013) นับเป็นประเทศประชาธิปไตยในฝั่งเอเชีย เพียงไมก่ ป่ี ระเทศที่ได้รับการประเมนิ อยู่ในอนั ดบั ต้นๆ ของโลก การศกึ ษาเพ่ือความเป็นพลเมอื งในประเทศญป่ี นุ่ คือ การพฒั นาพลเมือง ผซู้ ง่ึ จะสรา้ งสงั คมประชาธปิ ไตยในอนาคต ซง่ึ ประชาธปิ ไตยมที ง้ั ทางตรงและทางออ้ ม ความเป็นพลเมืองมีท้ังรูปแบบเสรีนิยมและรัฐนิยม จึงมีความหลากหลาย และความยากที่จะนิยามค�ำน้ีให้มีความหมายท่ีครอบคลุมได้ในระดับนโยบาย เร่ือง การศึกษาเพื่อความเป็นพลเมืองนั้นอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของกระทรวงหลัก 2 กระทรวง คอื กระทรวงสาธารณสขุ แรงงาน และสวสั ดกิ าร และกระทรวงศกึ ษาธกิ าร วัฒนธรรม วทิ ยาศาสตร์ กฬี า และเทคโนโลยี โดยท่ีรัฐบาลมีการก�ำหนดแผนนโยบายการพัฒนาเด็กและเยาวชนขึ้น ในปี ค.ศ. 2003 โดยไดก้ ลา่ วถงึ หลกั การสำ� คญั 4 ขอ้ สำ� หรบั การจดั การศกึ ษาเพอื่ ความเปน็ พลเมอื งของญปี่ ุ่น ประกอบด้วย 1) สนับสนุนความเปน็ อิสระทางสงั คม 2) สนับสนนุ ให้ได้รับประสบการณต์ ามความต้องการของแต่ละบคุ คล 206 พลเมืองและความรบั ผิดชอบต่อสงั คม
กระทรวงคมนาคม 3) ปรับเปลี่ยนมุมมองของเยาวชนในฐานะสมาชิกท่ีกระตือรือร้น ของสังคม 4) กระตุ้นให้เกิดบรรยากาศที่เป็นอิสระและมีการอภิปรายได้ อยา่ งเปดิ กวา้ งในสังคม ในปี ค.ศ. 2006 มกี ารปฏริ ปู พระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐานของญป่ี นุ่ ซึง่ นบั ต้ังแต่ปี ค.ศ. 1947 ทยี่ งั ไมเ่ คยมกี ารปฏิรูป แตห่ ลกั การที่ส�ำคญั ประการหนึ่ง ทยี่ งั คงไวอ้ ยใู่ นพระราชบญั ญตั โิ ดยทมี่ ไิ ดม้ กี ารเปลยี่ นแปลง มใี จความสำ� คญั ในวรรคแรกวา่ เป้าหมายของการศึกษาที่ส�ำคัญ คือ การศึกษาจะก่อให้เกิดการพัฒนาบุคลิกภาพ โดยสมบรู ณ์ พยายามอยา่ งหนกั ในการสั่งสอนขดั เกลาบคุ คล มจี ิตใจทส่ี ดใส ร่างกาย ท่สี มบรู ณ์ เปน็ ผ้ซู ึ่งรักในความถูกต้องและความยตุ ิธรรม เคารพในคณุ คา่ ของตนเอง เคารพผู้ใช้แรงงาน มีความตระหนักต่อความส�ำนึกรับผิดชอบอย่างลึกซ้ึง ซึมซับ จิตวิญญาณที่เป็นอิสระในฐานะเป็นผู้สร้างสันติภาพแห่งรัฐและสังคม ซ่ึงเป้าหมาย ทก่ี ำ� หนดขน้ึ นนั้ เปน็ ประเดน็ สำ� คญั ทจ่ี ะสนบั สนนุ ใหป้ ระชาชนเปน็ พลเมอื งอยา่ งแทจ้ รงิ มกี ารสง่ เสรมิ เรอ่ื งจติ สาธารณะ ซงึ่ นำ� ไปสกู่ ารมสี ว่ นรว่ มอยา่ งอสิ ระในการ สรา้ งสงั คม พรอ้ มทงั้ การพฒั นาทัศนคตทิ ีม่ ตี อ่ ความตอ้ งการรับผดิ ชอบตอ่ การเตบิ โต ของสงั คม ซงึ่ ปจั จบุ นั ทำ� ใหป้ ระชาชนในประเทศมจี ติ สาธารณะ สามารถเหน็ ไดใ้ นหลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศญปี่ ุ่น การศึกษาความเป็นพลเมืองถูกบรรจุในหลักสูตรการเรียนการสอนต้ังแต่ ในระดับประถมศึกษา เน้ือหาวิชาพลเมืองเป็นศูนย์กลางของการสร้างความเป็น พลเมือง โดยอาศัยฐานของการตระหนักในประชาธิปไตยและความรู้ความเข้าใจ ในสิทธิมนุษยชน และความหมายและแนวคิดในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ “สร้างความเชื่อมโยงกับครอบครัวและชุมชน สร้างให้นักเรียนมีความตระหนักว่า มนษุ ยเ์ ปน็ จดุ เรม่ิ ตน้ ทส่ี ำ� คญั ของสงั คม สรา้ งใหน้ กั เรยี นมคี วามคดิ เกย่ี วกบั ความสมั พนั ธ์ ระหว่างเร่ืองส่วนตัวและสังคม ความมีศักด์ิศรีของตนเองในระบบครอบครัว แบบร่วมสมัย ความเท่าเทียมทางเพศ และสร้างให้เยาวชนตระหนักถึงความส�ำคัญ ของแบบแผนประเพณีของชีวิตในสังคม การรักษาขนบธรรมเนียมและความส�ำนึก รบั ผดิ ชอบของแต่ละบคุ คล” พลเมอื งและความรับผิดชอบต่อสงั คม 207
กระทรวงคมนาคม ประเดน็ ศึกษาเก่ียวกบั หนา้ ทพ่ี ลเมอื งในประเทศญ่ปี ุน่ ส�ำหรับประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติบ่อยคร้ัง แต่ละครัง้ มีความรนุ แรงและสรา้ งความเสียหายตอ่ ชวี ติ และทรพั ยส์ นิ เป็นจำ� นวนมาก แตจ่ ากความยากลำ� บากจากสง่ิ ทเ่ี กดิ ขนึ้ กไ็ ดเ้ กดิ สง่ิ ทนี่ า่ สนใจจากพฤตกิ รรมทแ่ี สดงออก ถงึ ความเปน็ พลเมอื ง ทง้ั ในสว่ นของความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม จติ สาธารณะ ความมวี นิ ยั และอ่ืนๆ โดยจะน�ำเสนอเป็นเรื่องราวสั้นๆ เพื่อง่ายต่อการท�ำความเข้าใจ ดังนี้ โดยเน้ือหาน�ำมาจากบทความ เรื่อง “เรื่องราวดีๆ ของคนญ่ีปุ่นยามภาวะฉุกเฉิน” (“เรอ่ื งราวดๆี ”, 2554) กรณที ี่ 1 ทส่ี วนสนกุ แหง่ หนง่ึ เกดิ เหตกุ ารณซ์ ง่ึ ทำ� ใหน้ กั ทอ่ งเทยี่ วจำ� นวนมาก ไม่สามารถออกไปข้างนอกได้ และทางร้านขายของก็ได้เอาขนมมาแจกนักท่องเที่ยว มีนักเรียนช้ันมัธยมปลายหญิงกลุ่มหน่ึงไปเอามาเป็นจ�ำนวนมาก ซ่ึงมากเกินกว่า ทีจ่ ะบริโภคหมด ขา้ พเจา้ รสู้ ึกทนั ทีวา่ “ท�ำไมเอาไปเยอะ” แตว่ ินาทตี ่อมากลายเปน็ ความรู้สึกตื้นตันใจ เพราะ “เด็กกลุ่มน้ันเอาขนมไปให้เด็กๆ ซ่ึงพ่อแม่ไม่สามารถ ไปเอาเองได้ เนือ่ งจากต้องอยดู่ ูแลลูก จากเหตกุ ารณน์ ้แี สดงให้เหน็ ถงึ ความเออื้ เฟ้อื การช่วยเหลอื ซ่ึงกนั และกัน และมคี วามรับผิดชอบตอ่ ผอู้ น่ื กรณีท่ี 2 ในซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหน่ึง มีของตกระเกะระกะเต็มพ้ืน เพราะแรงแผน่ ดนิ ไหว แตค่ นทเ่ี ขา้ ไปซอ้ื ของไดช้ ว่ ยกนั เกบ็ ของขน้ึ ไวบ้ นชน้ั แลว้ กห็ ยบิ ส่วนทีต่ นอยากซ้ือไปต่อคิวจา่ ยเงิน จากเหตกุ ารณน์ ้ีแสดงใหเ้ หน็ ถึงความเป็นระเบยี บเรยี บร้อย การช่วยเหลือ ซึง่ กนั และกัน และมคี วามรบั ผิดชอบต่อผอู้ ื่น กรณที ่ี 3 ในจงั หวดั จบิ ะเกดิ แผน่ ดนิ ไหวบา้ นเรอื นพงั เสยี หาย คณุ ลงุ คนหนง่ึ ที่หลบภัยอยู่ก็ได้เปรยออกมาว่า ต่อจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร เด็กหนุ่ม ม.ปลาย ก็ตอบกลับไปว่า “ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องห่วง ต่อจากนี้ไป เมื่อเป็นผู้ใหญ่พวกผม จะท�ำใหม้ นั กลับมาเหมอื นเดมิ แนน่ อน จากเหตกุ ารณน์ แ้ี สดงใหเ้ หน็ ถงึ ความรบั ผดิ ชอบตอ่ ชมุ ชนบา้ นเกดิ มคี วามคดิ ทจ่ี ะสร้างชุมชนบ้านเกดิ กลับมาให้เหมอื นเดิม ไมย่ ่อท้อตอ่ ความยากล�ำบาก กรณที ี่ 4 หลงั จากเกดิ เหตกุ ารณส์ นึ ามคิ รงั้ ใหญ่ อาคารบา้ นเรอื นพงั เสยี หาย ประชาชนไมม่ ที อี่ ยูอ่ าศยั และอาหารไมเ่ พยี งพอต่อการบริโภค มีการแจกจา่ ยอาหาร ประชาชนไมม่ กี ารแยง่ อาหารกัน ประชาชนต่อแถว เพือ่ รบั อาหารอย่างเปน็ ระเบียบ เรียบรอ้ ย 208 พลเมืองและความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม
กระทรวงคมนาคม ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลใี ต้) ต้ังอยูท่ างใต้ของคาบสมุทรเกาหลี มรี ะบบ การปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยมีประมุขของประเทศ คือ ประธานาธิบดี ซง่ึ ไดร้ บั การเลอื กตงั้ โดยตรงจากประชาชนใหเ้ ปน็ หวั หนา้ ฝา่ ยบรหิ าร และมนี ายกรฐั มนตรี ซึ่งได้รับการแต่งต้ังโดยประธานาธิบดีผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา (กระทรวง การต่างประเทศ, 2556) เกาหลีใต้เป็นประเทศในเอเชียเพียงไม่ก่ีประเทศท่ีได้รับ การจดั อันดบั ด้านความเปน็ ประชาธปิ ไตย (Democracy Ranking) ตดิ 1 ใน 30 ของโลก โดยได้เป็นอันดับ 26 จากการประเมินปี ค.ศ. 2013 (แคมป์เบลล์ และคณะ Campbell et.al., 2013) อาจกลา่ วไดว้ ่า ประเทศเกาหลใี ต้มพี ัฒนาการ ของความเป็นประชาธิปไตยดีขึ้นมาเป็นล�ำดับ ทั้งความก้าวหน้าในด้านระบบ การเลอื กตงั้ และความเจรญิ ทางวฒั นธรรม ดชั นคี วามเปน็ ประชาธปิ ไตยขยบั เพมิ่ ขน้ึ ทกุ ปี มีคะแนนสูงในทุกด้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสิทธิทางการเมืองและด้านเสรีภาพ ของพลเมอื ง จนไดร้ บั การจดั อนั ดบั ใหอ้ ยใู่ นกลมุ่ ประเทศทเ่ี ปน็ ประชาธปิ ไตยสมบรู ณเ์ ตม็ ใบ ในด้านการพัฒนาเยาวชนด้านการศึกษาเพ่ือความเป็นพลเมืองนั้นมีการด�ำเนินการ มาอย่างต่อเน่ือง มีการก�ำหนดค่านิยม/ส่ิงที่ดีงามพ้ืนฐานที่เป็นองค์ประกอบ ของทักษะชวี ิต 4 ดา้ น ดา้ นละ 5 ลกั ษณะย่อย ไดแ้ ก่ 1) การใช้ชีวิตส่วนตัว : การเคารพตนเอง ความจริงใจ ความซื่อสัตย์ ความเป็นอิสระ และการยบั ยั้งชัง่ ใจ 2) การใชช้ วี ติ รว่ มกนั ในครอบครวั เพอ่ื นบา้ น และโรงเรยี น : การปฏบิ ตั ติ น ตามศาสนา การปฏิบัติหน้าท่ีของลูกต่อพ่อแม่ จรรยามารยาทการอยู่ร่วมกัน และความรกั ต่อโรงเรียนและบา้ นเกดิ 3) การใช้ชีวิตในสงั คม : การปฏบิ ัตติ นตามกฎหมาย การสนใจตอ่ ผ้อู ่นื การอนรุ กั ษ์สง่ิ แวดลอ้ ม ความยุตธิ รรม และการสร้างจติ สำ� นึกสาธารณะ 4) การใชช้ วี ติ ในระดบั ชาตแิ ละชาตพิ นั ธ์ุ : ความรกั ในรฐั ความรกั ในชาติ การมีจิตใจท่ีมั่นคง มีสติสัมปชัญญะ การสร้างความสันติภายหลัง การแบ่งแยก และความรกั ในมนษุ ยชาติ ลักษณะสำ� คญั 4 ประการน้ี ถูกปลูกฝงั มาตง้ั แต่ในระดบั ชนั้ ประถมศึกษา และยงั สง่ เสรมิ การปลกู ฝงั ทกั ษะการคดิ และการตดั สนิ ใจเชงิ จรยิ ธรรม (moral thinking and judgment) หรือทักษะที่จ�ำเป็นต่อการแก้ไขเชิงจริยธรรมในชีวิตประจ�ำวัน อยา่ งถกู ต้องและมีเหตุผล พลเมอื งและความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม 209
กระทรวงคมนาคม โดยสรปุ แนวคดิ สำ� หรบั การศกึ ษาเพอ่ื สรา้ งความเปน็ พลเมอื งของเกาหลใี ต้ หมายถึง การฝึกฝน ความสามารถในการคิดตัดสินใจในสถานการณ์ท่ีเก่ียวข้อง กบั การเมอื ง และมวี ตั ถปุ ระสงคท์ จ่ี ะใหค้ วามรเู้ กยี่ วกบั ปรากฏการณท์ างการเมอื งระดบั ชาติ และท้องถิ่น ในฐานะท่ีเป็นพลเมืองผู้ถืออ�ำนาจอธิปไตย (sovereign citizen) และสำ� หรบั การใหก้ ารศกึ ษาแกเ่ ยาวชนเกย่ี วกบั การมสี ว่ นรว่ มทางการเมอื ง จะใหค้ วามสำ� คญั กับการฝึกฝนทักษะและสอนให้รู้บทบาทหน้าท่ีในฐานะพลเมืองท่ีมีความส�ำนึก รบั ผดิ ชอบ (responsible citizen) วัฒนธรรมของคนเกาหลีใต้สอนให้คนมีระเบียบวินัย หากได้เคยสัมผัส หรอื สงั เกตคนเกาหลใี ตจ้ ะรบั รไู้ ดไ้ มว่ า่ จะเปน็ ทงั้ ทางดา้ นการศกึ ษา กฬี า หรอื การใชช้ วี ติ และหากดูวิวัฒนาการของเกาหลีใต้น้ันประสบความส�ำเร็จในหลากหลายด้าน ในเวลาอนั รวดเรว็ เพราะเกาหลใี ตส้ อนใหม้ กี ารตนื่ ตวั กบั สงิ่ ตา่ งๆ อยเู่ สมอ มกี ารปลกู ฝงั ความรกั ชาติ ซงึ่ เป็นวัฒนธรรมทสี่ บื ทอดกนั มาอย่างยาวนาน ประเด็นศึกษาเกีย่ วกบั หน้าทพ่ี ลเมืองในประเทศสาธารณรฐั เกาหลี กรณีที่ 1 กรณีการอับปางของเรือเฟอร์ร่ีของเกาหลีใต้ที่ชื่อเซวอล ซ่ึงจมลงระหว่างการเดินทางจากกรุงโซลไปยังเกาะเซจูท้ังสาเหตุของการล่มของเรือ ความรบั ผดิ ชอบของกปั ตนั เรอื นายลจี นู เซยี๊ ก (Lee Joon-seok) และผ้ชู ว่ ยกปั ตนั เรอื การปฏิบัติการและการกระจายค�ำสั่งของลูกเรือหลังเกิดอุบัติเหตุ รวมท้ังการกู้ภัย ทยี่ งั คงดำ� เนนิ อยซู่ ง่ึ พบศพผโู้ ดยสาร54 คน สญู หาย 248 คน รอดชวี ติ 174 คน จากจำ� นวน ผู้โดยสารและลูกเรือท้ังหมด 476 คน ผู้เสียชีวิตและสูญหายส่วนใหญ่เป็นนักเรียน มธั ยมจากโรงเรยี น Danwon High School ในเมอื งอนั ซนั ชานกรงุ โซล ทไี่ ปทศั นศกึ ษา ถงึ 350 คน รอ้ ยเอกนายแพทย์ ยงยุทธ มัยลาภ ได้เขยี นเรอื่ งทีน่ า่ สนใจประเดน็ หนงึ่ ไว้ คือ การปฏิบัติของนักเรียนท่ีอยู่บนเรือ หลังจากมีค�ำส่ังจากลูกเรือไปยังผู้โดยสาร เมื่อเกิดเหตุแล้วก็คือ “ให้น่ังอยู่กับท่ีห้ามเคล่ือนไหวไปไหน ขณะท่ีเจ้าหน้าท่ีก�ำลัง ดำ� เนนิ การแกไ้ ขปญั หากนั อยซู่ งึ่ ผโู้ ดยสารจำ� นวนมากกป็ ฏบิ ตั ติ ามคำ� สง่ั น”ี้ จนกระทงั่ เรือเอยี งและจมลง แม้วา่ จะมเี วลาถงึ 2 ชวั่ โมงกวา่ ก่อนทเ่ี รือจะจมซง่ึ ผู้โดยสารน่าจะ มีเวลาเพียงพอท่ีจะสามารถช่วยเหลือตัวเองออกมาจากเรือได้ซ่ึงสะท้อนให้เห็นถึง วนิ ัยของเด็กๆ นักเรยี นที่ฟังค�ำส่ังของ “ผู้ใหญ่” และสะทอ้ นถึงความมรี ะเบยี บวนิ ัย 210 พลเมืองและความรับผิดชอบตอ่ สังคม
กระทรวงคมนาคม ของคนเกาหลีที่เชอ่ื ฟงั ค�ำสงั่ แมต้ นทราบดีว่าอันตรายใกลต้ วั เข้ามามากแลว้ แตค่ ร้งั น้ี “ผใู้ หญ”่ คงประเมนิ สถานการณผ์ ดิ พลาดอยา่ งรา้ ยแรง มรี ายงานวา่ ลกู เรอื ไดพ้ ยายาม กระจายคำ� สงั่ สละเรือในชว่ งคร่งึ ชั่วโมงตอ่ มาหลงั จากเกดิ อบุ ตั เิ หตุแตเ่ ขา้ ใจวา่ คำ� สั่งนี้ กระจายไปไมท่ วั่ ถงึ และเชอ่ื วา่ ผโู้ ดยสารจำ� นวนมากโดยเฉพาะเดก็ ๆ กย็ งั คงนง่ั อยกู่ บั ท่ี (ยงยทุ ธ มัยลาภ, ม.ป.ป.) กรณีท่ี 2 ประเด็นเรื่องของความรับผิดชอบ เห็นได้จากการลาออก และฆ่าตัวตายของข้าราชการนักการเมืองในประเทศหลายคนท้ังๆ ท่ีอาจจะไม่เกี่ยว กบั ความผดิ ทเี่ กดิ ขน้ึ โดยตรง แตอ่ ยใู่ นภาระหนา้ ทที่ ดี่ แู ล เชน่ การลาออกของนายกรฐั มนตรี ชอง ฮง วอน เพ่ือรับผิดชอบต่อการล่มของเรือเซวอลและไม่สามารถช่วยเหลือได้ อยา่ งรวดเรว็ ทั้ง ๆ ทีน่ ายกรัฐมนตรไี มใ่ ช่คนขบั เรอื และกไ็ ม่ใช่คนที่เข้าไปชว่ ยเหลอื เดอื นธนั วาคม 2548 นายฮูห์ จนุ ยัง ผู้บญั ชาการตำ� รวจเกาหลใี ต้ ได้ยื่น หนงั สือลาออกจากตำ� แหน่ง เพือ่ รับผดิ ชอบกรณที ่ีต�ำรวจปราบปรามกลมุ่ ผู้ประท้วง จนถึงแก่ความตายกรณีเจ้าหน้าที่ต�ำรวจทุบตีกลุ่มเกษตรกรที่มารวมตัวประท้วง เรอื่ งการเปดิ เสรขี า้ วในกรงุ โซล จนเปน็ เหตใุ หม้ ชี าวนาเสยี ชวี ติ 2 คน พรอ้ มกบั ขอโทษ ตอ่ กรณีดังกล่าว (เมธา มาสขาว, 2557) เดือนมีนาคม 2549 นายกรัฐมนตรีลี เฮชอน แห่งเกาหลีใต้ ประกาศ ลาออกจากตำ� แหนง่ ภายหลงั จากทเี่ ขาแอบไปรว่ มตกี อลฟ์ กบั กลมุ่ นกั ธรุ กจิ ทเ่ี มอื งปซู าน เม่ือวนั ท่ ี 1 มีนาคม 2549 แม้จะเปน็ วนั หยุดของเกาหลใี ต้ แต่ก็ฟังไม่ขน้ึ ในขณะท่ี ทง้ั ประเทศกำ� ลงั ประสบปญั หาเนอื่ งจากการประทว้ งของพนกั งานรถไฟ (เมธา มาสขาว, 2557) พลเมอื งและความรับผดิ ชอบต่อสังคม 211
กระทรวงคมนาคม บรรณานกุ รม ปรญิ ญา เทวานฤมติ รกลุ . “พลเมอื งศกึ ษา (Civic Education) : พฒั นาการเมอื งไทย โดยสร้างประชาธิปไตยท่ี “คน”. สืบค้นเมื่อ 29 พฤษภาคม 2558, จาก http:/www.social.obec.go.th/node/64 ยงยุทธ มัยลาภ. (2557). “วินัยและความรับผิดชอบของชาวเกาหลีใต้”. สืบคน้ เมอื่ 28 พฤษภาคม 2558, จาก http://www.thaiworld.org/th/ thailand_monitor/answer.php?question_id=1338 เลิศพร อุดมพงษ์. (ม.ป.ป). การศึกษาเพื่อสร้างความเป็นพลเมือง (Civic/ Citizenship Education) ในการสง่ เสรมิ บทบาทของภาคพลเมอื งในการเมอื ง ระบบตัวแทน : แนวทางท่ียั่งยืนผ่านประสบการณ์จากต่างประเทศ. สบื คน้ เมอื่ 28 สิงหาคม 2560, จาก http://kpi.ac.th/media/pdf/M8_ 272.pdf วีรพงษ์ รามางกูร. (2558). “พลเมือง ราษฎร ปวงชน ประชาชน”. สบื คน้ เมอ่ื 29 พฤษภาคม 2558, จาก http://www.prachachat.net/news_ detail.php?newsid=1430887063 ความเป็นราษฎรและความเป็นพลเมือง. สืบค้นเม่ือ 29 พฤษภาคม 2558, จาก http://km.streesp.ac.th/external_links.php?links=3766 นกั การเมอื ง กบั วฒั นธรรมการรบั ผดิ ทางการเมอื ง. สบื คน้ เมอื่ 29 พฤษภาคม 2558, จาก http://www.oknation.net/blog/talkwithMetha/2014/ 01/27/entry-1 Foon, J. Kui .& Kennedy C.– K. J. (2012). Citizenship and Governance in the Asian Region : Insights from the International Civic and Citizenship Education Study. Public Organiz,12 : 299-311 Porter J. (n.d. ). The Challenge of Education for Active Citizenship. West Yorkshire: MCB UP Ltd. 212 พลเมืองและความรบั ผิดชอบต่อสังคม
กระทรวงคมนาคม Scheerens, J. (2011). Indicators on Informal learning for Active Citizenship at School. EducAsseEval. Acc 201-222. Westheimer, J. and Kahne, J. (2004). What kind of Citizen? The Politic of Educating for Democracy. American Educational Research Journal 41, 2, 237-269. พลเมอื งและความรับผิดชอบตอ่ สังคม 213
กระทรวงคมนาคม 7. ส่อื การเรยี นรู้ประกอบวชิ าท่ี 4 พลเมอื งกบั ความรับผิดชอบตอ่ สังคม ที่ ชอ่ื ส่อื ประเภท เนอื้ หาสาระ เวลา แหลง่ สอื่ QR Code 1 ภาพยนตร์สั้น วดิ โี อ พ่อกับลูกคู่หนึ่ง 5 นาที ส�ำนักงาน สำ� นกั งาน ป.ป.ช. ลกู อา่ นหนงั สอื การต์ นู ป.ป.ช. เรอ่ื ง GOT STAR ซึ่งมีเนื้อหาว่า ทุจริต จะครองโลกโดย จอมมาร GOT STAR พ่อขับรถอยู่บนถนน และมพี ฤตกิ รรมคลา้ ย จอมมารฯ 2 ภาพยนตร์ส้ัน วดิ โี อ การลอกข้อสอบ 5.04 ส�ำนักงาน สำ� นกั งาน ป.ป.ช. แล้วอาจารย์จับได้ นาที ป.ป.ช. เรือ่ ง ผลลบั แล้วขอให้ผู้ปกครอง เด็กจ่ายเงินเพื่อแลก กับการให้เด็กสอบ ผ่านแต่ผู้ปกครอง ไม่ยอมจ่าย 3 สารคดตี ามรอยพอ่ วีดทิ ศั น์ นักบินฝนหลวงต้อง 1 นาที ส�ำนักงาน ขอท�ำดี ตอน บนิ ผา่ เขา้ ไปในกอ้ นเมฆ ป.ป.ช. ความรบั ผดิ ชอบ เ พ่ื อ ท� ำ ฝ น ห ล ว ง เพ่อื ส่วนรวม ให้ชาวบา้ น 4 ข ้ า ร า ช ก า ร วดิ ีโอ อ ธิ บ า ย ถึ ง ก า ร 1.03 ส�ำนักงาน คอร์รัปชนั ค อ ร ์ รั ป ชั น ข อ ง นาที ป.ป.ช. ขา้ ราชการ (ตอ่ ) 214 พลเมอื งและความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม
กระทรวงคมนาคม ท่ี ชือ่ ส่ือ ประเภท เน้อื หาสาระ เวลา แหลง่ สอื่ QR Code 5 หั ก เ ห ล่ี ย ม วดิ ีโอ เปน็ การต์ นู การนำ� เสนอ 6.00 ส�ำนักงาน คอรร์ ปั ชัน ข้อมูลการคอร์รัปชัน นาที ป.ป.ช. ในรูปแบบของการ กอ่ สรา้ งทลี่ ดมาตรฐาน จนทำ� ใหเ้ กดิ อนั ตราย ตอ่ ชวี ติ และทรพั ยส์ นิ โ ด ย ข า ด ซ่ึ ง ค ว า ม ละอายท่ีมีต่อการท�ำ ทุจริต 6 Innocense วดิ ีโอ เปน็ หนงั สนั้ ทน่ี ำ� เสนอ 4.54 ส�ำนักงาน (หนังส้ันต้าน เ กี่ ย ว กั บ ก า ร ไ ม ่ นาที ป.ป.ช. คอร์รัปชนั ) สนับสนุนให้เข้าไปมี ส่วนร่วมในการก่อให้ เกิดการทุจรติ พลเมืองและความรับผดิ ชอบต่อสงั คม 215
Search
Read the Text Version
- 1 - 33
Pages: