หนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์เรื่อง มาตรฐานของความปลอดภยั ภายในโรงงานอตุ สาหกรรม จดั ทำโดย นาย เถลิงศกั ด์ิ ชมภูกลาง รหสั 60181700110สาขาวชิ า อุตสาหกรรมศิลป์ คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ลาปาง
คานา หนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ เรื่อง มาตรฐานของความปลอดภยั ภายในโรงงาอตุ สาหกรรม ได้จดั ทาขนึ ้เพื่อใช้ประกอบการเรียนการสอน สาหรับ ผ้ทู ี่สนใจจะศกึ ษาเนือ้ หาเก่ียวกบั เร่ืองเรอ่ื งมาตรฐานของความปลอดภยั ภายในโรงงาอตุ สาหกรรม โดยผ้พู ฒั นาได้ แบ่งเนือ้ หาของหนงั สืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์นีไ้ ว้ ผ้พู ฒั นาหวงั เป็นอย่างยิ่งวา่ เนือ้ หาสาระของหนงั สืออเิ ล็กทรอนิกส์เลม่ นี ้ จะเป็นประโยชน์และให้ความรู้แก่ผ้เู รียนและผ้สู นใจทว่ั ไป นาย เถลงิ ศกั ด์ิ ชมภกู ลาง คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั ลาปาง 7 กนั ยายน 2561
สารบญัมาตรฐานของความปลอดภยั ภายในโรงงานอตุ สาหกรรม ของประเทศไทย 1-2หมวด 1 มาตรฐานด้านความร้อน 3หมวด 2 มาตรฐานด้านแสงสว่าง 4หมวด 3 มาตรฐานด้านเสียง 5หมวด 4 มาตรฐานด้านสารเคมีและอนภุ าค 6เคร่ืองมือและอปุ กรณ์ความปลอดภยั 7หมวกปอ้ งกนั ศีรษะ 8อปุ กรณ์ปอ้ งกนั หู 9แวน่ นริ ภยั 10ชดุ ปอ้ งกนั สารเคมี 11หลกั การเลือกใช้อปุ กรณ์ปอ้ งกนั สว่ นบคุ คล 12ประโยชน์ในการใช้อปุ กรณ์ปอ้ งกนั ภยั ส่วนบคุ คลในโรงงาน 13ประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบตั งิ านด้านความปลอดภยั 14สรุป 15แบบทดสอบ/แบบฝึกหดั 16ท่ีมาของข้อมลู 17
มำตรฐำนของควำมปลอดภัย ภำยในโรงงำนอุตสำหกรรม ของประเทศไทย การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจภาคอตุ สาหกรรมของประเทศไทยในปัจจบุ นั นนั้ มีแนวโน้มใน การขยายตวั และพฒั นาเพมิ่ มากขึน้ เร่ือยๆ โดยที่เหตกุ ารณ์ดงั กล่าวเกิดขนึ ้ เนื่องจากการจดั ตงั้ นโยบายส่งเสริมการลงทนุ ในภาคอตุ สาหกรรมของรัฐบาล ท่ีมีการดาเนนิ การเริ่มต้นอยา่ ง จริงจงั ตงั้ แต่แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 4 อีกทงั้ ยงั มีสาเหตอุ นั เน่ืองมาจาก การปรับเปล่ียนโครงสร้างการผลิตในประเทศ ที่ได้พฒั นาจากเศรษฐกิจภาคเกษตรกรรมให้เป็น เศรษฐกิจภาคอตุ สาหกรรมและมีการพฒั นามาอย่างต่อเน่ือง จนส่งผลให้เศรษฐกิจ ภาคอตุ สาหกรรมสามารถขยายตวั ไปยงั ภมู ิภาคตา่ งๆทว่ั ประเทศได้ ควบค่ไู ปกบั การพฒั นาใน ด้านการใช้ประโยชน์จากแรงงานมนษุ ย์ ซงึ่ สามารถเหน็ ได้จากการจดั ตงั้ โรงงานอตุ สาหกรรม ขนึ ้ ในหลายๆจงั หวดั ของประเทศไทย ทาให้เกิดกาไรและผลผลติ แก่ผ้ปู ระกอบการ รวมทงั้ สามารถสร้างความก้าวหน้าให้แก่เศรษฐกิจสว่ นรวมของประเทศชาตไิ ด้ จากการท่ีผ้คู นจานวนมากในประเทศไทย มีการดาเนนิ ชีวติ เก่ียวข้องกบั งานในโรงงาน อตุ สาหกรรม งานสร้างเหมืองแร่ หรืออาจจะเป็นสถานประกอบการอื่นๆ ที่จาเป็นต้องใช้ แรงงานมนษุ ย์ในการทางานร่วมกบั เครื่องจกั รโดยตรง ทาให้สภาพแวดล้อมของการทางานมี ลกั ษณะค่อนข้างอนั ตราย รวมทงั้ มีสภาวะการทางานที่สามารถนาไปสกู่ ารเกิดอุบตั ิเหตุ อาการ บาดเจ็บ ความเจบ็ ป่วยและอาจนาไปสกู่ ารเกิดโรคจากกระบวนการทางานได้ ซงึ่ สาเหตุของ อาการเหลา่ นีเ้กิดขนึ ้ ได้ในหลายลกั ษณะแตกตา่ งกนั ไปจากความประมาท การละเลยในการ ปฏบิ ตั ติ ามกฎความปลอดภยั การกระทาโดยรู้เทา่ ไมถ่ งึ การณ์ หรือจากการดาเนนิ งาน ผิดพลาดจนทาให้เกิดอบุ ตั เิ หตแุ ละการบาดเจบ็ ขนึ ้ มาได้ ตวั อยา่ งเช่น การทางานที่สมั ผสั กบั อณุ หภมู ริ ้อนจดั หรือเยน็ จดั การสมั ผสั ก๊าซพษิ สารพษิ หรือ รังสี การล่ืนล้ม การสมั ผสั กบั กระแสไฟฟา้ การถกู ชน การถกู วตั ถุ หนีบ ทบั หรือกระเดน็ เข้าตา และการที่วตั ถตุ กจากลงมา จากท่ีสงู หรือบริเวณพนื ้ ต่างระดบั เป็นต้น โดยเหตกุ ารณ์ต่างๆดงั กล่าวนี ้เป็นอบุ ตั เิ หตทุ ่ีไม่ เพียงแต่จะเกิดขนึ ้ ได้เฉพาะกบั ผ้ทู ี่มีประสบการณ์น้อยในการทางานด้านอตุ สาหกรรมเพียง เท่านนั้ แต่ยงั สามารถเกิดขนึ ้ กบั ผ้ทู ี่มีประสบการณ์จากการทางานมานานได้เช่นเดียวกนั
หมวด 1 มำตรฐำนด้ำนควำมร้อน1. ความร้อนภายในสถานที่ประกอบการไม่ควรมีสภาพอณุ หภมู ิที่สงู จนส่งผลให้อุณหภมู ิภายในร่างกายของลกู จ้างมีคา่ สงู เกิน 38 องศาเซลเซยี ส2. นายจ้างควรพจิ ารณาให้มีการจดั เตรียมเคร่ืองมือสาหรับปอ้ งกนั ความร้อนให้แก่ลกู จ้างรวมทงั้ ควรจดั หามาตรการที่จะสามารถดาเนนิ การปรับปรุงแก้ไขเพือ่ ลดอณุ หภมู ิความร้อนได้อย่างทนั ท่วงที ในกรณีที่เกิดเหตกุ ารณ์ความร้อนภายในสถานประกอบการ มีสภาพอุณหภมู สิ งูจนสง่ ผลให้อณุ หภมู ภิ ายในร่างกายของลกู จ้างมีค่าสงู เกิน 38 องศาเซลเซยี ส3. ในกรณีท่ีเกิดเหตกุ ารณ์ความร้อนภายในสถานประกอบการ มีสภาพอณุ หภมู ิสงู จนสง่ ผลให้อณุ หภมู ิภายในร่างกายของลกู จ้างมีค่าสงู เกิน 38 องศาเซลเซียส นายจ้างต้องทาการจดั ให้ลกู จ้างได้หยดุ พกั ชวั่ คราว เพื่อรักษาตวั ให้สภาพร่างกายรวมทงั้ อณุ หภมู ภิ ายในร่างกายกลบั มาคงที่สสู่ ภาพปกติ4. นายจ้างควรปิดปา้ ยประกาศสาหรับแจ้งเตือนในจดุ ที่เป็นอนั ตรายแก่ลกู จ้าง ตวั อยา่ งเช่นจดุ ท่ีเป็นแหล่งกาเนดิ ความร้อน ท่ีมีสภาพอณุ หภมู ิความร้อนสงู จนสามารถส่งผลตอ่ สขุ ภาพอนามยั และความปลอดภยั ของบคุ คล5. นายจ้างควรจดั ตงั้ มาตรการการทางาน ในกรณีท่ีลกู จ้างมีความจาเป็นต้องทางานในบริเวณใกล้แหลง่ กาเนิดความร้อนท่ีมีอณุ หภมู สิ งู เกิน 45 องศาเซลเซียส ให้มีการสวมเครื่องแต่งกายท่ีรัดกมุ สวมถงุ มือและรองเท้าตลอดเวลาการดาเนินงานเพ่อื สร้างความปลอดภยั และเพื่อปอ้ งกนั ความร้อนท่ีสามารถสง่ ผลกระทบต่อร่างกายของลกู จ้างได้1
หมวด 2 มำตรฐำนด้ำนแสงสว่ำง1. สาหรับงานที่ไมต่ ้องใช้ความละเอียดสงู ในการดาเนินงาน ตวั อย่างเชน่ การบด การขนย้ายหรือการบรรจุ ควรมีแสงสวา่ งท่ีมีค่าความเข้มของแสงมากกวา่ 50 Lux2. พนื ้ ที่ท่ีใช้สาหรับเก็บวสั ดุ ตวั อยา่ งเชน่ ห้องเก็บวสั ดุ โกดงั รวมทงั้ บริเวณเฉลียงและบนั ไดภายในสถานที่ประกอบการ ควรมีแสงสวา่ งท่ีมีค่าความเข้มของแสงมากกว่า 50 Lux3. สาหรับงานที่ต้องใช้ความละเอียดเล็กน้อยในการดาเนนิ งาน ตวั อย่างเช่น การสีข้าว หรือการผลิตและประกอบชนิ ้ สว่ นผลิตภณั ฑ์อยา่ งง่าย ควรมีแสงสวา่ งที่มีคา่ ความเข้มของแสงมากกวา่ 100 Lux4. สาหรับงานท่ีต้องใช้ความละเอียดปานกลางในการดาเนนิ งาน ตวั อย่างเชน่ การประกอบชนิ ้ ส่วนภาชนะ การเยบ็ ผ้าหรือการเยบ็ หนงั ควรมีแสงสวา่ งที่มีค่าความเข้มของแสงมากกว่า200 Lux5. สาหรับงานที่ต้องใช้ความละเอียดสงู ในการดาเนินงาน ตวั อย่างเช่น การทดสอบและการตรวจสอบผลติ ภณั ฑ์ การซอ่ มแซมเคร่ืองจกั ร หรือการกลงึ แตง่ โลหะ ควรมีแสงสว่างท่ีมีค่าความเข้มของแสงมากกวา่ 300 Lux6. สาหรับงานท่ีต้องใช้ความละเอียดสงู มากเป็นพเิ ศษในการดาเนนิ งาน ตวั อยา่ งเช่น การเย็บผ้าสีมืดทบึ การประกอบชนิ ้ ส่วนท่ีมีขนาดเล็ก หรือการเจียระไนเพชร พลอย ควรมีแสงสวา่ งท่ีมีค่าความเข้มของแสงมากกว่า 1000 Lux7. พนื ้ ที่บริเวณ ทางเดนิ ภายนอกสถานท่ีประกอบการ รวมทงั้ บริเวณถนน ควรมีแสงสว่างท่ีมีคา่ ความเข้มของแสงมากกว่า 20 Lux
หมวด 3 มำตรฐำนด้ำนเสียง การทางานของลกู จ้างภายในสถานท่ีประกอบการ มีมาตรฐานความปลอดภยั ด้านเสียงโดยพจิ ารณาจากระยะเวลาในการทางาน ดงั ต่อไปนี ้1. สาหรับลกู จ้างท่ีมีระยะเวลาในการทางานไม่เกิน 7 ชวั่ โมงตอ่ วนั ระดบั เสียงที่ได้รับติดต่อกนัต้องมีค่าไมเ่ กิน 91เดซเิ บล2. สาหรับลกู จ้างที่มีระยะเวลาในการทางาน 7-8 ชวั่ โมงต่อวนั ระดบั เสียงท่ีได้รับตดิ ต่อกนั ต้องมีคา่ ไม่เกิน 90 เดซเิ บล3. สาหรับลกู จ้างที่มีระยะเวลาในการทางานมากกวา่ 8 ชวั่ โมงตอ่ วนั ระดบั เสียงที่ได้รับตดิ ต่อกนั ต้องมีคา่ ไมเ่ กิน 80 เดซเิ บล4. ภายในสถานที่ประกอบการ ระดบั เสียงที่ลกู จ้างได้รับจะต้องมีคา่ ไมเ่ กิน 140 เดซเิ บล
หมวด 4 มำตรฐำนด้ำนสำรเคมแี ละอนุภำค1. การทางานของลกู จ้างภายในสถานที่ประกอบการ ต้องมีปริมาณความเข้มข้นของสารเคมีในบรรยากาศโดยเฉลี่ยไมเ่ กินค่ามาตรฐานท่ีกฎหมายกาหนดไว้2. การทางานของลกู จ้างภายในสถานท่ีประกอบการ โดยไม่ว่าจะเป็นในระยะเวลาใดของการทางาน จะต้องมีปริมาณความเข้มข้นของสารเคมีไม่เกินมาตรฐานที่กฎหมายกาหนดไว้3. การทางานของลกู จ้างภายในสถานที่ประกอบการ จะต้องไมอ่ ยใู่ นบริเวณท่ีมีปริมาณความเข้มข้นของสารเคมีเกินมาตรฐานที่กฎหมายกาหนดไว้4. การทางานของลกู จ้างภายในสถานท่ีประกอบการ จะต้องมีปริมาณของฝ่นุ และแร่ในบรรยากาศโดยเฉลี่ยเกินไม่เกินค่ามาตรฐานที่กฎหมายกาหนดไว้
เคร่ืองมือและอุปกรณ์ควำมปลอดภยั การใช้เครื่องมือและอปุ กรณ์รักษาความปลอดภยั ภายในสถานที่ประกอบการ เป็นมาตรการท่ีสามารถชว่ ยปอ้ งกนั และลดความเสี่ยงในการเกิดอบุ ตั ิเหตใุ ห้แก่ผ้ปู ฏบิ ตั ิงาน รวมทงั้ ยงัสามารถชว่ ยลดอาการบาดเจบ็ จากอบุ ตั ิเหตทุ ่ีรุนแรงให้เบาลงได้ โดยในปกตกิ ารปอ้ งกนั จะเร่ิมต้นควบคมุ จากสภาวะแวดล้อมภายในสถานท่ีประกอบการก่อน
หมวกป้องกนั ศีรษะ ทามาจากวสั ดทุ ี่มีความหลากหลายแตกต่างกนั มีคณุ สมบตั ิแข็งแรงและสามารถปอ้ งกนัแรงกระแทกได้ ใช้สาหรับการปฏบิ ตั งิ านในงานโรงงานอตุ สาหกรรมทกุ ประเภท เพื่อป้องกนัศีรษะจากการถกู ชน กระทบหรือกระแทกโดยวตั ถทุ ี่ตกมาจากท่ีสงู
อุปกรณ์ป้องกนั หู มีคณุ สมบตั ิในการปอ้ งกนั หจู ากเสียง ท่ีมีคา่ ความดงั เกินกวา่ มาตรฐานที่หมู นษุ ย์สามารถรับได้ ใช้สาหรับการทางานกบั เคร่ืองจกั รกล ตวั อย่างเช่นเครื่องเจาะปนู เครื่องจกั รกลอตั โนมตั ิเครื่องถลงุ เหลก็ และเครื่องปาดคอนกรีตที่มีขนาดใหญ่ เป็นต้น รวมทงั้ ใช้สาหรับการทางานในอตุ สาหกรรมตา่ งๆท่ีควรระมดั ระวงั เร่ืองเสียงเป็นพเิ ศษ ได้แก่ อตุ สาหกรรมการผลิตอตุ สาหกรรมยานยนต์ และอตุ สาหกรรมก่อสร้าง
แว่นนิรภัย วสั ดทุ ่ีใช้ทาขนึ ้ จากกระจกนิรภยั หรือพลาสตกิ มีคณุ สมบตั ใิ นการปอ้ งกันสารเคมีและวสั ดุแปลกปลอมกระเด็นเข้าดวงตาในขณะท่ีกาลงั ปฏิบตั งิ าน ซง่ึ อาจสง่ ผลเสียแก่ดวงตาอยา่ งรุนแรงจนถงึ ขนั้ ตาบอดได้ แวน่ ตานิรภยั จงึ ได้ถกู นามาใช้ประโยชน์ในวงการอตุ สาหกรรมตา่ งๆได้แก่ งานอตุ สาหกรรมงานเครื่องมือ เครื่องจกั รกล งานไม้ งานเช่ือมไฟฟา้ หรืองานเช่ือมแก็สเป็นต้น
ชุดป้องกนั สำรเคมี มีคณุ สมบตั ิในการปอ้ งกนั ร่างกายส่วนตา่ งๆของผ้ปู ฏิบตั ิงานจากความเป็นกรด สาหรับในกรณีที่ต้องดาเนนิ งานในพนื ้ ที่ท่ีมีค่าความเป็นกรดสงู โดยการสวมใสช่ ดุ ป้องกนั สารเคมีดงั กลา่ วได้ถกู แบง่ ระดบั ความรุนแรงของสารเคมีไว้ตามเกณฑ์ที่ถกู กาหนดจากสานกั บริหารการปอ้ งสง่ิ แวดล้อมแห่งชาตสิ หรัฐอเมริกา ได้แก่ ระดบั ความรุนแรงตงั้ แต่ขนั้ A B C และ D
หลกั กำรเลือกใช้อุปกรณ์ป้องกนั ส่วนบุคคล1. ควรเลือกใช้อปุ กรณ์ที่สามารถปอ้ งกนั อนั ตรายได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ2. ควรเลือกใช้อปุ กรณ์ท่ีสามารถใช้งานได้ง่าย สะดวกและสวมใส่สบาย3. ควรเลือกใช้อปุ กรณ์ที่มีคณุ ภาพ สามารถปอ้ งกนั อนั ตรายแก่ผ้ใู ช้งานได้4. ควรเลือกใช้อปุ กรณ์ที่หาซอื ้ ได้ง่ายและมีราคายอ่ มเยา5. ควรเลือกใช้อปุ กรณ์ที่มีวิธีการใช้ไม่ซบั ซ้อนเกินไป จนอาจก่อให้เกิดความยุ่งยากและความผิดพลาด6. ควรเลือกใช้อปุ กรณ์ที่สีสามารถมองเหน็ ได้งา่ ย และดสู ะอาดตา
ประโยชน์ในกำรใช้อุปกรณ์ป้องกนั ภยั ส่วนบุคคลในโรงงำน1. เป็นประโยชน์ในการปอ้ งกนั อนั ตรายที่จะเกิดขนึ ้ กบั ผ้ปู ฏิบตั งิ าน2. เป็นประโยชน์แก่ผ้ปู ระกอบการในการลดต้นทนุ การผลติ3. เป็นประโยชน์ในการเพม่ิ ประสิทธิภาพให้กบั ผ้ปู ฏบิ ตั ิงานระหว่างการทางาน4. เป็นประโยชน์ในการชว่ ยลดระยะเวลาที่ใช้สาหรับผลติ สนิ ค้า5. เป็นประโยชน์ในการเพม่ิ ความมนั่ ใจและความปลอดภยั ระหวา่ งการทางานแก่ผ้ปู ฏิบตั งิ าน6. เป็นประโยชน์ในการเพมิ่ ปริมาณผลผลิต
ประโยชน์ทไ่ี ด้รับจำกกำรปฏิบัตงิ ำนด้ำนควำมปลอดภยั1. ผลผลิตที่เพมิ่ ขนึ ้ ถ้าหากผ้ปู ฏิบตั ิงานมีความมน่ั ใจในความปลอดภยั ระหว่างการทางานด้วยการใช้อปุ กรณ์และสถานที่ท่ีมีประสิทธิภาพ จะสามารถลดความวิตกกงั วลและความรู้สกึไม่ปลอดภยั ลงได้ ส่งผลให้การดาเนินงานเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว มีคณุ ภาพ รวมทงั้ สามารถเพมิ่ผลผลติ โดยรวมได้มากยิง่ ขนึ ้2. ต้นทนุ การผลิตลดลง ในกรณีที่ผ้ปู ฏิบตั ิงานมีความปลอดภยั ในการทางานสงู นอกจากจะสามารถลดการเกิดอบุ ตั ิเหตแุ ละความสญู เสียในการผลติ ลงได้แล้ว ผ้ปู ระกอบการยงั ไม่จาเป็นต้องเพมิ่ ต้นทนุ ให้กบั คา่ ใช้จา่ ยสาหรับอบุ ตั เิ หตทุ ี่อาจเกิดขึน้ สง่ ผลให้ต้นทนุ โดยรวมท่ีใช้สาหรับการผลติ ลดลง3. กาไรเพม่ิ ขนึ ้ เม่ือการดาเนนิ งานสามารถดาเนนิ ไปได้อยา่ งปลอดภยั สง่ ผลให้เกิดการเพม่ิ ขนึ ้ของผลผลิตและการลดลงของต้นทนุ โดยรวม ทาให้ผ้ปู ระกอบการมีโอกาสสร้างกาไรได้มากย่ิงขนึ ้ ในตลาด4. เป็นปัจจยั จงู ใจ ถ้าหากระหวา่ งการดาเนินงาน ผ้ปู ฏบิ ตั งิ านสามารถทางานได้ด้วยความมน่ั ใจในความปลอดภยั ของอปุ กรณ์และเครื่องมือ จะสง่ ผลให้บคุ คลเกิดความพร้อมในการทางาน รวมทงั้ มีแรงจงู ใจในการทางานมากย่งิ ขนึ ้5. การรักษาทรัพยากรบคุ คล การเกิดอบุ ตั เิ หตแุ ละความผิดพลาดระหว่างการปฏบิ ตั ิงาน ที่อาจนามาซง่ึ6. ความสญู เสียทงั้ ทางร่างกายและทรัพย์สินของผ้ปู ฏิบตั ิงาน เป็นเหตผุ ลหน่ึงที่ส่งผลให้ทรัพยากรโดยรวมของชาตสิ ญู เสียไปด้วย การสร้างความปลอดภยั ในการทางานจงึ มีความสาคญั อย่างยง่ิ ตอ่ สงั คมโดยรวม ประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบตั งิ านด้านความปลอดภยั นอกจากจะสามารถชว่ ยเพม่ิผลผลิต เพม่ิ กาไร และลดต้นทนุ การผลติ ลงให้กบั ผ้ปู ระกอบการได้แล้ว การปฏิบัติงานโดยการใช้อปุ กรณ์และสถานที่ที่มีความปลอดภยั ยงั เป็นปัจจยั จงู ใจท่ีสามารถสร้างความมนั่ ใจในการทางานให้แก่ผ้ปู ฏิบตั งิ าน รวมทงั้ สามารถรักษาทรัพยากรมนษุ ย์โดยรวมได้เชน่ กนั
สรุป การเจริญเตบิ โตทางเศรษฐกิจภาคอตุ สาหกรรมของประเทศไทยในปัจจบุ นั นนั้ มีแนวโน้มในการขยายตวั และพฒั นาเพมิ่ มากขึน้ เรื่อยๆ โดยที่เหตกุ ารณ์ดงั กลา่ วเกิดขนึ ้ เน่ืองจากการจดั ตงั้ นโยบายสง่ เสริมการลงทนุ ในภาคอตุ สาหกรรมของรัฐบาล ท่ีมีการดาเนนิ การเริ่มต้นอย่างจริงจงั ตงั้ แต่แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 4 อีกทงั้ ยงั มีสาเหตอุ นั เนื่องมาจากการปรับเปล่ียนโครงสร้างการผลิตในประเทศ ท่ีได้พฒั นาจากเศรษฐกิจภาคเกษตรกรรมให้เป็นเศรษฐกิจภาคอตุ สาหกรรมและมีการพฒั นามาอย่างต่อเน่ือง จนสง่ ผลให้เศรษฐกิจภาคอตุ สาหกรรมสามารถขยายตวั ไปยงั ภมู ิภาคต่างๆทว่ั ประเทศได้ ควบคไู่ ปกบั การพฒั นาในด้านการใช้ประโยชน์จากแรงงานมนษุ ย์ ซง่ึ สามารถเหน็ ได้จากการจดั ตงั้ โรงงานอตุ สาหกรรมขนึ ้ ในหลายๆจงั หวดั ของประเทศไทย ทาให้เกิดกาไรและผลผลติ แก่ผ้ปู ระกอบการ รวมทงั้สามารถสร้างความก้าวหน้าให้แก่เศรษฐกิจสว่ นรวมของประเทศชาติได้
แบบทดสอบ/แบบฝึ กหัด1. มาตรฐานของความปลอดภยั มีก่ีหมวดและด้านใดบ้าง ? ……………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… ……………………………………………….................................. ....................................................................................2. เครื่องมือและอปุ กรณ์ความปลอดภยั ? ……………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………. .................................................................................... .................................................................................... ....................................................................................3. ประโยชน์ในการใช้อปุ กรณ์ปอ้ งกนั ภยั สว่ นบคุ คลในโรงงาน มีอะไรบ้าง ? ……………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………….
ทมี่ ำของข้อมูล https://www.chi.co.th/article/article-1186/ ทม่ี ำของภำพhttps://www.google.com/search?q=%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2+%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1+%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2&hl=en-TH&source=lnms&tbm=isch&sa=X&sqi=2&ved=0ahUKEwjW9O60vKjdAhULV7wKHQZ1CZgQ_AUICigB&biw=1366&bih=662
เกยี่ วกบั ผู้จดั ทำนาย เถลงิ ศกั ด์ิ ชมภกู ลาง รหสั นกั ศกึ ษา 60 181700110สาขา อตุ สาหกรรมศลิ ป์ คณะ เทคโนโลยีอตุ สาหกรรมมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ลาปาง
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: