Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ใบความรู้หน่วยที่ 6

ใบความรู้หน่วยที่ 6

Published by sunnynakub, 2020-05-18 21:24:55

Description: ความรู้หน่วยนี้เกี่ยวกับ...........

Keywords: เครือข่ายคอม

Search

Read the Text Version

แผนการสอนรายสปั ดาห์ หนว่ ยการสอนที่ 4 เร่ือง ระบบเครือขา่ ยไร้สาย สัปดาห์ที่ 6 วนั พุธ ที่ 20 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ทฤษฎี 1 คาบ ปฏิบัติ 2 คาบ 1.วัตถปุ ระสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ภาคทฤษฎี 1. บอกความหมายยของระบบเครือข่ายไรส้ ายได้ถูกตอ้ ง 2. บอกหลักการทำงานของระบบเครือขา่ ยไรส้ ายได้ถูกต้อง 3. อธิบายลกั ษณะการเชื่อมต่อของระบบเครือขา่ ยไรส้ ายได้ถกู ต้อง 4. อธบิ ายประเภทของระบบเครือขา่ ยไร้สายได้ถูกต้อง 5. บอกการเลือกใชง้ านระบบเครือข่ายได้ถูกต้อง ภาคปฏบิ ัติ - 2.ความร้แู ละทักษะเดิม คอมพิวเตอรเ์ บื้องตน้ 3.สอื่ การสอน [] เอกสารประกอบการสอน หนว่ ยที่ 4 เรือ่ ง ระบบเครือข่ายไรส้ าย [ ] แผน่ ใสประกอบหวั ข้อการสอน [] ใบงานการทดลอง [ ] แผน่ ภาพ [] ของจรงิ [] โปรแกรมนำเสนอ Power Point เร่อื ง ระบบเครือข่ายไรส้ าย

4. การบา้ น/การมอบหมายงาน [ ] การบ้าน เร่ือง [] การมอบหมายงาน แบบฝึกหัด เร่อื ง ระบบเครือขา่ ยไรส้ าย [ ] อื่น ๆ 5.หนงั สือค้นคว้า (เรยี งตามลำดบั ตัวอักษร) บญุ สืบ โพธิ์ศรี และสุกัญญา ไทรทอง. เครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์เบื้องต้น. 2556.

กระบวนการสอน ขน้ั ท่ี 1 การนำเขา้ ส่บู ทเรียน (30 นาที) ผู้สอนนำขา่ วสารเกยี่ วกบั วิทยาศาสตรแ์ ละหรือเทคโนโลยปี ระจำวนั หรือประจำสปั ดาห์มา บอกกลา่ ว อธิบาย แสดงความคิดเห็นกับผู้เรยี น ผูส้ อนแจง้ จดุ ประสงคป์ ระจำหนว่ ยการเรยี นรู้ พรอ้ มทบทวนความรเู้ ดมิ ของผ้เู รยี น ผสู้ อนและ ผู้เรียนตรวจสอบความพร้อมของเครือ่ งคอมพวิ เตอร์และอุปกรณ์ รว่ มกันตกลงถงึ การวางแผนการ เรยี น โครงสร้างเนอื้ หาประจำหน่วย บทเรยี น กจิ กรรม

ขั้นท่ี 2 กจิ กรรมการเรยี นการสอน (3 ช่วั โมง) หัวข้อการสอน เวลา วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรร (นาท)ี การนำเขา้ สู่บทเรยี น 30 ทฤษฎี 150 1. ความหมายของระบบเครือข่ายไร้สาย 1. บอกความหมายยของระบบ 2. หลักการทำงานของระบบเครอื ขา่ ยไร้ 2. บอกหลกั การทำงานของระ สาย 3. ลกั ษณะการเชอ่ื มต่อของระบบ 3. อธบิ ายลกั ษณะการเชื่อมต่อ เครือข่ายไร้สาย ถกู ต้อง 4. ประเภทของระบบเครือขา่ ยไรส้ าย 4. อธิบายประเภทของระบบเค 5. การเลอื กใช้งานระบบเครอื ขา่ ยไร้สาย 5. บอกการเลือกใช้งานระบบเ ปฏบิ ตั ิ -

รม (เพ่ือใหน้ ักศึกษาสามารถ) วิธสี อนและกิจกรรม หมายเหตุ อธบิ าย ยกตัวอยา่ ง และถาม-ตอบ บเครือข่ายไรส้ ายได้ถูกต้อง บรรยาย อธบิ าย และ ะบบเครอื ขา่ ยไร้สายไดถ้ ูกตอ้ ง ถาม-ตอบ อของระบบเครือข่ายไร้สายได้ ครือข่ายไรส้ ายไดถ้ กู ตอ้ ง บรรยาย อธิบาย และ เครือข่ายได้ถกู ต้อง ถาม-ตอบ ยกตัวอยา่ ง อธบิ าย และถาม-ตอบ ยกตวั อย่าง อธิบาย และถาม-ตอบ ยกตวั อยา่ ง อธบิ าย และถาม-ตอบ

ขนั้ ท่ี 3 การสรุปและทบทวนบทเรียน (30 นาที) ครูผู้สอนรว่ มสรุปประเดน็ สำคญั กบั ผูเ้ รียน และเฉลยแบบฝกึ หดั ของหน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 เรอื่ ง ระบบเครอื ขา่ ยไรส้ าย ซึ่งประกอบด้วย 5 สาระสำคัญดงั น้ี คอื ภาคทฤษฎี 1. ความหมายของระบบเครือข่ายไร้สาย 2. หลกั การทำงานของระบบเครือข่ายไร้สาย 3. ลักษณะการเชอื่ มตอ่ ของระบบเครือขา่ ยไรส้ าย 4. ประเภทของระบบเครอื ขา่ ยไร้สาย 5. การเลือกใช้งานระบบเครือขา่ ยไรส้ าย จากนั้นครผู สู้ อนแจ้งหน่วยการเรียนรใู้ นสปั ดาห์ตอ่ ไปคือหน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 เรอ่ื ง OSI Model และโปรโตคอล TCP/IP โดยจะประกอบด้วย 4 สาระสำคญั และ 1 ใบงานการทดลอง ดงั นี้ ภาคทฤษฎี 1. ความหมายของ OSI Model 2. การทำงานของ OSI Model 3. ความหมายของ TCP/IP 4. การทำงานของ TCP/IP ภาคปฏบิ ตั ิ ใบงานการทดลองที่ 5 เรอื่ ง โปรโตคอลบนชั้นประยกุ ต์และชน้ั ขนส่ง

ขั้นท่ี 4 การประเมนิ ผล 4.1 ถามตอบในชน้ั เรียน 1. คำถาม การส่ือสารใดใชร้ ะบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ คำตอบ อินเทอรเ์ นต็ 2. คำถาม สง่ิ ใดไม่ใช่องคป์ ระกอบพื้นฐานของระบบการส่อื สารขอ้ มลู คำตอบ เทคโนโลยกี ารสอ่ื สาร 3. คำถาม สื่อกลางใดใช้ในการสอ่ื สารแบบไรส้ าย คำตอบ อินฟราเรด ไมโครเวฟ และคลืน่ วทิ ยุ

บนั ทึกหลงั การสอน 1. สาเหตทุ ไ่ี มส่ ามารถสอนตามแผนการสอนรายสัปดาหไ์ ด้ แนวทางการแกไ้ ข 2. สรปุ ผลของการประเมินผล ภาคทฤษฎี ผลการประเมิน ปัญหาและข้อบกพร่อง 1. 2. แนวทางแก้ไข 1. 2. ภาคปฏบิ ตั ิ ผลการประเมิน ปัญหาและข้อบกพร่อง 1. 2. แนวทางแก้ไข 1. 2.

ความเหน็ ของครูพเ่ี ลยี้ ง ลงช่อื ...........................................................ครูพี่เลี้ยง วันที่ .................................................... ความเหน็ อาจารยน์ ิเทศก์ ลงชื่อ ...........................................................อาจารย์นเิ ทศก์ วันที่ ....................................................

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 4 ระบบเครอื ขา่ ยไร้สาย 3.1 ความเปน็ มา ระบบเครือข่ายไร้สาย (Wireless LAN) ระบบเครือข่ายไรส้ าย (Wireless LANs) เกิดขึ้นคร้งั แรก ในปี ค.ศ. 1971บนเกาะฮาวาย โดยโปรเจกต์ ของนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาวาย ที่ช่ือ ว่า “ALOHNET” ขณะนั้นลักษณะการส่งข้อมูลเป็นแบบBi-directional ส่งไป-กลับง่ายๆ ผ่าน คลน่ื วิทยุ สอื่ สารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ 7 เครอ่ื ง ซ่งึ ตงั้ อย่บู นเกาะ 4 เกาะโดยรอบ และมีศูนย์กลาง การเชอ่ื มต่ออยูท่ ่ีเกาะๆหนงึ่ ทชี่ อ่ื วา่ Oahu ความหมาย ระบบเครือข่ายไร้สาย (WLAN = Wireless Local Area Network) คือ ระบบการสื่อสาร ขอ้ มลู ทม่ี รี ปู แบบในการสื่อสารแบบไม่ใชส้ าย โดยใช้การส่งคล่ืนความถ่วี ิทยุในย่านวทิ ยุ RF และ คลื่น อนิ ฟราเรด ในการรบั และสง่ ขอ้ มลู ระหว่างคอมพิวเตอร์แตล่ ะเคร่ือง ผา่ นอากาศ, ทะลกุ ำแพง, เพดาน หรอื ส่งิ กอ่ สร้างอ่ืนๆ โดยปราศจากความต้องการของการเดนิ สาย นอกจากน้ันระบบเครือข่ายไร้สายก็ ย ั ง ม ี ค ุ ณ ส ม บ ั ต ิ ค ร อ บ ค ล ุ ม ท ุ ก อ ย ่ า ง เ ห ม ื อ น ก ั บ ร ะ บ บ LAN แ บ บ ใ ช ้ ส า ย ทสี่ ำคญั กค็ ือ การท่ีไม่ตอ้ งใช้สายทำใหก้ ารเคล่อื นยา้ ยการใช้งานทำไดโ้ ดยสะดวก ไมเ่ หมือน ระบบ LAN แบบใช้สาย ที่ต้องใช้เวลาและการลงทุนในการปรับเปลี่ยนตำแหน่งการใช้งานเครื่อง คอมพวิ เตอร์ 3.2 ประโยชนข์ องระบบเครอื ขา่ ยไร้สาย 1. mobility improves productivity & service มคี วามคล่องตวั สงู ดงั นน้ั ไม่วา่ เราจะ เคลอื่ นท่ีไปที่ไหน หรอื เคล่ือนยา้ ยคอมพวิ เตอร์ไปตำแหน่งใด ก็ยงั มกี ารเช่ือมต่อ กบั เครอื ขา่ ยตลอดเวลา ตราบใดท่ยี ังอยใู่ นระยะการส่งข้อมลู 2. installation speed and simplicity สามารถติดตั้งไดง้ ่ายและรวดเร็ว เพราะไมต่ ้อง เสียเวลาตดิ ต้ังสายเคเบิล และไม่รกรงุ รัง 3. installation flexibility สามารถขยายระบบเครอื ข่ายได้ง่าย เพราะเพียงแคม่ ี พซี ีการด์ มาต่อเข้ากับโน๊ตบุ๊ค หรือพีซี ก็เขา้ สเู่ ครือข่ายไดท้ นั ที 4. reduced cost- of-ownership ลดค่าใช้จา่ ยโดยรวม ที่ผลู้ งทนุ ต้องลงทนุ ซ่ึงมรี าคาสงู เพราะในระยะยาวแลว้ ระบบเครอื ข่ายไร้สายไมจ่ ำเป็นต้องเสยี คา่ บำรุงรักษาและการขยายเครือข่ายก็ ลงทนุ น้อยกว่าเดิมหลายเท่า เน่ืองดว้ ยความง่ายในการติดต้ัง 5. scalability เครอื ข่ายไร้สายทำให้องค์กรสามารถปรับขนาดและความเหมาะสมได้งา่ ย ไมย่ ่งุ ยาก เพราะสามารถโยกยา้ ยตำแหนง่ การใชง้ านโดยเฉพาะระบบที่มีการเชื่อมระหวา่ งจุดต่อจดุ เชน่ ระหว่างตึก

3.3 รูปแบบการเช่อื มต่อของระบบเครอื ขา่ ยไรส้ าย 3.3.1 Peer-to-Peer รูปแบบการเชื่อมต่อระบบแลนไร้สายแบบ Peer to Peer เป็นลักษณะ การเชื่อมต่อแบบ โครงข่ายโดยตรงระหว่างเครือ่ งคอมพิวเตอร์ จำนวน 2 เครื่องหรือมากกว่านั้น เป็นการใช้งานรว่ มกนั ของ wireless adapter cards โดยไม่ได้มีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายแบบใช้สายเลย โดยที่เครื่อง คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะมีความเท่าเทียมกัน สามารถทำงานของตนเองได้และขอใช้บริการเครื่อง อ่นื ได้ เหมาะสำหรบั การนำมาใชง้ านเพ่ือจุดประสงค์ในดา้ นความรวดเรว็ หรือตดิ ตั้งได้โดยง่ายเมื่อไม่มี โครงสรา้ งพ้นื ฐานที่จะรองรับ ยกตวั อย่างเช่น ในศนู ย์ประชุม, หรอื การประชมุ ท่ีจัดขึ้นนอกสถานท่ี 3.3.2 Client/Server

ระบบเครือข่ายไรส้ ายแบบ Client / server หรือ Infrastructure mode เป็นลกั ษณะการ รบั ส่งข้อมลู โดยอาศัยAccess Point (AP) หรือเรียกว่า “Hot spot” ทำหนา้ ที่เปน็ สะพานเชื่อมต่อ ระหวา่ งระบบเครอื ข่ายแบบใช้สายกบั เครือ่ งคอมพิวเตอร์ลูกขา่ ย (client) โดยจะกระจายสัญญาณ คลน่ื วทิ ยุเพ่อื รบั -ส่งข้อมูลเป็นรัศมีโดยรอบ เครื่องคอมพิวเตอรท์ ี่อยใู่ นรัศมขี อง AP จะกลายเป็น เครอื ข่ายกลมุ่ เดยี วกนั ทนั ที โดยเคร่อื งคอมพิวเตอร์ จะสามารถตดิ ต่อกนั หรือติดตอ่ กับ Serverเพื่อ แลกเปลีย่ นและค้นหาข้อมลู ได้ โดยตอ้ งตดิ ต่อผา่ นAP เท่านนั้ ซงึ่ AP 1 จดุ สามารถใหบ้ ริการเคร่ือง ลูกขา่ ยได้ถึง 15-50อุปกรณ์ ของเครอ่ื งลูกขา่ ย เหมาะสำหรบั การนำไปขยายเครือข่ายหรือใช้รว่ มกับ ระบบเครือข่ายแบบใชส้ ายเดิมในออฟฟิต,หอ้ งสมุด หรือในห้องประชุม เพ่ือเพม่ิ ประสทิ ธิภาพในการ ทำงานให้มากขนึ้ 3.3.3 Multiple access points and roaming โดยทั่วไปแล้ว การเช่อื มต่อสัญญาณระหว่างเครือ่ งคอมพิวเตอร์ กับ Access Point ของ เครือข่ายไรส้ ายจะอยู่ในรัศมีประมาณ 500 ฟตุ ภายในอาคาร และ 1000 ฟตุ ภายนอกอาคาร หาก สถานท่ีที่ตดิ ตั้งมขี นาดกวา้ ง มาก ๆ เชน่ คลงั สนิ ค้า บรเิ วณภายในมหาวทิ ยาลยั สนามบนิ จะตอ้ งมี การเพิ่มจุดการตดิ ตั้ง AP ให้มากข้นึ เพ่ือให้การรบั ส่งสัญญาณในบริเวณของเครือข่ายขนาดใหญ่ เป็นไปอย่างครอบคลมุ ทัว่ ถงึ

3.3.4 Use of an Extension Point กรณที ่ีโครงสรา้ งของสถานทีต่ ิดตง้ั เครือข่ายแบบไรส้ ายมีปญั หาผอู้ อกแบบระบบอาจจะ ใช้ Extension Points ท่มี ีคุณสมบตั เิ หมือนกบั Access Point แตไ่ มต่ ้องผูกตดิ ไวก้ ับเครือข่ายไรส้ าย เปน็ สว่ นทใ่ี ช้เพ่ิมเติมในการรับส่งสัญญาณ 3.3.5 The Use of Directional Antennas ระบบแลนไรส้ ายแบบนเี้ ปน็ แบบใช้เสาอากาศในการรบั สง่ สัญญาณระหวา่ งอาคารท่ีอยู่ห่าง กนั โดยการตดิ ต้ังเสาอากาศที่แต่ละอาคาร เพื่อสง่ และรับสัญญาณระหวา่ งกัน 3.4 มาตารฐานเครอื ขา่ ยไร้สาย มาตรฐานเครอื ขา่ ยไร้สาย IEEE 802.1 เครอื ข่ายไรส้ ายมาตรฐาน IEEE 802.11 ไดร้ ับการตพี ิมพ์เผยแพร่ครัง้ แรกเมื่อปี พ.ศ. 2540 โดยสถาบนั IEEE (The Institute of Electronics and Electrical Engineers) ซ่งึ มี ข้อกำหนดระบุไว้ว่า ผลติ ภณั ฑเ์ ครือขา่ ยไร้สายในสว่ นของPHY Layer นน้ั มคี วามสามารถในการรับสง่ ข้อมูลท่ีความเร็ว 1, 2, 5.5, 11 และ 54 เมกะบิตต่อวนิ าที โดยมสี ่อื นำสัญญาณ 3ประเภทให้เลอื กใช้ งานอนั ได้แก่ คลนื่ วิทยยุ ่านความถี่ 2.4 กิกะเฮริ ตซ์, 2.5 กกิ ะเฮริ ตซ์และคลน่ื อนิ ฟาเรด ส่วน.ใน

ระดบั ชัน้ MAC Layer น้ันไดก้ ำหนดกลไกของการทำงานแบบ CSMA/CA (Carrier Sense Multiple Access/Collision Avoidance)ซึง่ มีความคล้ายคลงึ กบั CSMA/CD (Collision Detection) ของ มาตรฐาน IEEE 802.3 Ethernet ซึ่งนยิ มใชง้ านบนระบบเครือข่ายแลนใชส้ าย โดยมกี ลไกในการ เข้ารหัสข้อมูลก่อนแพร่กระจายสัญญาณไปบนอากาศ พรอ้ มกบั มีการตรวจสอบผู้ใช้งานอีกดว้ ย มาตรฐาน IEEE 802.11 ในยคุ เริม่ แรกนัน้ ให้ประสิทธภิ าพการทำงานที่ค่อนข้างตำ่ ท้ังไม่มกี ารรับรองคุณภาพของการ ให้บริการที่เรียกว่าQoS (Quality of Service) ซึ่งมีความสำคัญในสภาพแวดล้อมที่มีแอพพลิเคชัน หลากหลายประเภทให้ใช้งาน นอกจากนั้นกลไกในเรื่องการรักษาความปลอดภัยที่นำมาใช้ก็ยังมีช่อง โหว่จำนวนมาก IEEE จึงได้จัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาหลายชุดด้วยกัน เพื่อทำการพัฒนาและปรับปรุง มาตรฐานใหม้ ศี ักยภาพเพมิ่ สงู ขึน้ IEEE 802.11a เป็นมาตรฐานที่ได้รับการตีพิมพ์และเผยแพร่เมื่อปี พ.ศ. 2542 โดยใช้ เทคโนโลยี OFDM (Orthogonal Frequency Division Multiplexing) เพื่อพัฒนาให้ ผลิตภัณฑ์ไร้สายมีความสามารถในการรับส่งข้อมูลด้วยอัตราความเร็วสูงสุด 54 เมกะบิตต่อ วินาที โดยใช้คลื่นวิทยุย่านความถ่ี 5 กิกะเฮิรตซ์ ซึ่งเป็นย่านความถี่ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ งานโดยทั่วไปในประเทศไทย เนื่องจากสงวนไว้สำหรับกิจการทางด้านดาวเทียม ข้อเสียของ ผลิตภัณฑ์มาตรฐาน IEEE 802.11a ก็คือมีรัศมีการใช้งานในระยะสั้นและมีราคาแพง ดังนั้น ผลิตภัณฑไ์ ร้สายมาตรฐาน IEEE 802.11a จึงได้รบั ความนยิ มนอ้ ย IEEE 802.11b เป็นมาตรฐานที่ถูกตีพิมพ์และเผยแพร่ออกมาพร้อมกับมาตรฐาน IEEE 802.11a เมื่อปี พ.ศ. 2542 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีและได้รับความนิยมในการใช้งานกันอย่าง แพร่หลายมากท่ีสดุ ผลติ ภัณฑท์ ่ีออกแบบมาให้รองรับมาตรฐาน IEEE 802.11bใช้เทคโนโลยี ที่เรียกว่า CCK (Complimentary Code Keying) ร่วมกับเทคโนโลยี DSSS (Direct Sequence Spread Spectrum) เพื่อให้สามารถรับส่งข้อมูลได้ด้วยอัตราความเร็วสูงสุด ท่ี 11 เมกะบิตต่อวินาที โดยใช้คลื่นสัญญาณวิทยุย่านความถี่ 2.4 กิกะเฮิรตซ์ ซึ่งเป็นย่าน ความถี่ที่อนุญาตให้ใช้งานในแบบสาธารณะทางด้านวิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรม และ การแพทย์ โดยผลิตภัณฑ์ที่ใช้ความถี่ย่านนี้มีชนิด ทั้งผลิตภัณฑ์ที่รอง รับ เทคโนโลยี Bluetooth, โทรศัพท์ไร้สายและเตาไมโครเวฟ จึงทำให้การใช้งานนั้นมีปญั หาใน เรื่องของสญั ญาณรบกวนของผลิตภณั ฑ์เหลา่ น้ี

IEEE 802.11g เป็นมาตรฐานที่นิยมใช้งานกันมากในปัจจุบันและได้เข้ามาทดแทนผลิตภัณฑ์ที่ รองรับมาตรฐาน IEEE 802.11bเนื่องจากสนับสนุนอัตราความเร็วของการรับส่งข้อมูลใน ระดับ 54 เมกะบิตต่อวินาที โดยใช้เทคโนโลยี OFDM บนคลื่นสัญญาณวิทยุย่าน ความถ่ี 2.4 กกิ ะเฮิรตซ์ และใหร้ ัศมีการทำงานทม่ี ากกว่า IEEE 802.11a พรอ้ มความสามารถ ในการใชง้ านร่วมกนั กับมาตรฐาน IEEE 802.11b ได้ (Backward-Compatible) IEEE 802.11e เป็นมาตรฐานที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานแอพพลิเคชันทางด้านมัลติเมีย อย่าง VoIP (Voice over IP) เพื่อควบคุมและรับประกันคุณภาพของการใช้งานตาม หลักการ QoS (Quality of Service) โดยการปรับปรุง MAC Layer ให้มีคุณสมบัติในการ รบั รองการใชง้ านให้มีประสิทธภิ าพ IEEE 802.11f มาตรฐานนี้เป็นที่รู้จักกันในนาม IAPP (Inter Access Point Protocol) ซึ่งเป็น มาตรฐานที่ออกแบบมาสำหรับจัดการกับผู้ใช้งานที่เคลื่อนที่ข้ามเขตการให้บริการ ของ Access Point ตัวหนึ่งไปยัง Access Point เพื่อให้บริการในแบบโรมมิงสัญญาณ ระหว่างกนั IEEE 802.11h มาตรฐานทอ่ี อกแบบมาสำหรบั ผลิตภณั ฑ์เครือขา่ ยไรส้ ายท่ีใช้งานยา่ นความถี่ 5 กกิ ะ เฮิรตซ์ ให้ทำงานถูกตอ้ งตามข้อกำหนดการใช้ความถ่ีของประเทศในทวีปยุโรป 3.5 การเลือกใช้งานระบบเครือข่ายไรส้ าย ควรพจิ ารณาหลักเกณฑด์ งั น้ี 1.จำนวนผูใ้ ช้งานระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 2.การดแู ลและการจดั การระบบเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ 3.การรกั ษาความปลอดภยั ของขอ้ มลู ในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 4.ปริมาณข้อมลู ท่ีรับส่งผา่ นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 5.ความต้องการใชง้ านทรัพยากรตา่ ง ๆของผู้ใช้แตล่ ะคน 6.งบประมาณ

แบบฝึกหัด เร่อื ง ระบบเครือขา่ ยไรส้ าย พิจารณาข้อความต่อไปนวี้ า่ ถูกรอื ผดิ 1. เครอื ข่ายแบบบสั (bus topology) เป็นรูปแบบเครอื ข่ายท่มี ีโครงสร้างซบั ซ้อน ตอบ 2. สถานีเครือข่ายจะเชือ่ มต่อเขา้ กับสายสื่อสารหลายสายเพือ่ ใชใ้ นการจัดสง่ ข้อมลู ตอบ 3. เครอื ข่ายแบบวงแหวน (ring topology) เปน็ รปู แบบเครอื ขา่ ยที่มกี ารเชื่อมต่อแตล่ ะสถานีเข้า ดว้ ยกันแบบวงแหวน สญั ญาณขอ้ มลู จะส่งอยู่ในวงแหวนไปในทิศทางเดยี วกัน ตอบ 4. มาตรฐานการเช่อื มต่อเครอื ขา่ ยและโพรโทคอลที่ใช้กนั อยา่ งแพรห่ ลาย ไดแ้ ก่ GPRS , CDMA , AMPS และ Bluetooth ซ่ึงส่วนมากจะทำงานร่วมกนั ในการสื่อสารข้อมูลระบบเครอื ข่าย ตอบ 5. ทีพีซี/ไอพี (TCP/IP) เปน็ โพรโทคอลทใ่ี ชใ้ นการสื่อสารในระบบอนิ เตอรเ์ น็ต โดยมีการระบุผูร้ บั - ผู้ สง่ ในเครือขา่ ย และจัดการแบ่งเครือขา่ ยข้อมูลเป็น้นิ เล็ก ๆ ทเี่ รียกว่าแพ็กเกจส่งผา่ นไปในอินเตอรเ์ น็ต ตอบ 6. ไวไฟ (WI-FI) ใช้คลื่นวิทยุความถี่ 2.4 GHz เป็นส่อื กลางในการติดต่อสือ่ สาร ซ่ึงเปน็ เทคโนโลยี เครือข่ายแบบไรส้ าย ตามมาตรฐาน IEEE 802.11 ตอบ 7. โมเดม็ (modem) เป็นอปุ กรณส์ ื่อสารท่ีแปลงสญั ญาณแอนะล็อกเปน็ สญั ญาณดิจทิ ัล เพือ่ ให้ขอ้ มลู สามารถส่งผา่ นสายเคเบลิ ได้ ตอบ

เฉลย แบบฝึกหัด เร่อื ง ระบบเครอื ขา่ ยไรส้ าย พิจารณาข้อความต่อไปนี้วา่ ถูกรอื ผิด 1. เครอื ข่ายแบบบัส (bus topology) เป็นรูปแบบเครอื ขา่ ยที่มีโครงสร้างซับซ้อน ตอบ ' ผดิ 2. สถานเี ครือข่ายจะเชื่อมต่อเขา้ กบั สายส่ือสารหลายสายเพอื่ ใชใ้ นการจดั ส่งข้อมลู ตอบ ' ถูกต้อง 3. เครือข่ายแบบวงแหวน (ring topology) เปน็ รปู แบบเครือขา่ ยที่มกี ารเชื่อมต่อแตล่ ะสถานีเข้า ดว้ ยกนั แบบวงแหวน สัญญาณข้อมลู จะสง่ อยูใ่ นวงแหวนไปในทิศทางเดียวกัน ตอบ ' ถกู 4. มาตรฐานการเชอ่ื มต่อเครือขา่ ยและโพรโทคอลทใ่ี ช้กันอย่างแพรห่ ลาย ได้แก่ GPRS , CDMA , AMPS และ Bluetooth ซ่งึ ส่วนมากจะทำงานร่วมกันในการสอ่ื สารขอ้ มูลระบบเครอื ข่าย ตอบ ' ผดิ 5. ทพี ีซ/ี ไอพี (TCP/IP) เป็นโพรโทคอลท่ีใช้ในการส่ือสารในระบบอนิ เตอร์เนต็ โดยมีการระบผุ รู้ บั - ผู้ สง่ ในเครอื ข่าย และจดั การแบ่งเครือข่ายข้อมลู เป็น้ินเล็ก ๆ ที่เรยี กวา่ แพ็กเกจส่งผา่ นไปในอินเตอร์เน็ต ตอบ ' ถูกต้อง 6. ไวไฟ (WI-FI) ใช้คลนื่ วทิ ยุความถี่ 2.4 GHz เป็นสอื่ กลางในการตดิ ต่อส่ือสาร ซ่งึ เป็นเทคโนโลยี เครือข่ายแบบไรส้ าย ตามมาตรฐาน IEEE 802.11 ตอบ ' ถูกต้อง 7. โมเดม็ (modem) เปน็ อปุ กรณ์ส่ือสารท่ีแปลงสัญญาณแอนะล็อกเป็นสญั ญาณดิจทิ ลั เพ่ือให้ข้อมูล สามารถสง่ ผา่ นสายเคเบิลได้ ตอบ ' ผิด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook