ภาควชิ าการจัดการโลจสิ ติกส์และซัพพลายเชน การขายเบ้อื งต้น รหสั วชิ า 20200 – 1003 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรื่อง ความสาคัญของการขาย วชิ า การขายเบ้ืองตน้ รหัสวิชา 20200 – 1003 รายการสอนและ จดุ ม่งุ หมายของบทเรียน รายการเรียน ความสาคัญของ การขายเปน็ หนา้ ท่ีหนึ่งในการตลาด แต่มคี วามสาคัญต่อระบบการตลาดมาก ในฐานะที่เป็น การขาย ผู้สร้างการแลกเปลี่ยนสนิ คา้ บรกิ ารขึ้น ช่วยให้เกดิ อาชพี ตา่ ง ๆ เกดิ การพัฒนาเศรษฐกิจใน ระบบท้องถิ่น ช่วยใหส้ งั คมมีความสขุ สะดวกสบายจากสินค้าต่าง ๆ ท่นี ามาเสนอขาย ความหมายของการขาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์ (ป.พ.พ.) มาตรา 453 บัญญตั ิไว้ว่า “ อนั การซ้อื ขายนนั้ คือสญั ญาซงึ่ บคุ คลฝ่ายหน่ึงเรียกวา่ ผู้ขาย โอนกรรมสิทธิแ์ ห่งทรัพยส์ ินให้แก่บุคคลอีกฝ่ายหน่ึง เรียกว่า ผซู้ อ้ื และผ้ซู ือ้ ตกลงวา่ จะใช้ราคาแห่งทรัพย์สินนนั้ ใหแ้ ก่ผขู้ าย ” การขายเป็นศิลปะ ซึ่งต้องรู้จักปรับหลักการให้เหมาะสมกับสภาพของลูกค้าแต่ละคน ทุกประเภท ทุก สถานท่ี ทกุ สถานการณ์ การใช้ศลิ ปะการขายต้องมีการฝกึ ฝนจนเกิดความชานาญ ความสาคัญของการขาย วิชาการขายเปน็ ทั้งศาสตร์ และศิลป์ ดังนั้น ศิลปะการขาย จึงหมายถึง การมีศิลปะในการเกลีย้ กลอ่ ม จูง ใจให้คนอื่นเห็นด้วยกับความคิดของเรา โดยเขาได้รับความพึงพอใจหรือประโยชน์จากการกระทานั้น และเราได้ กาไรเปน็ การตอบแทน ดงั นั้น จึงสรปุ นิยามของคาว่า การขาย ( Selling ) ได้ว่า เป็นกระบวนการในการชักจงู วิทยาลยั เทคนคิ มหาสารคาม
ภาควิชาการจัดการโลจสิ ตกิ ส์และซพั พลายเชน การขายเบือ้ งต้น รหัสวชิ า 20200 – 1003 จูงใจ หรือกระตุ้นให้บุคคลที่คาดว่าจะเป็นลูกค้าเกิดความต้องการหรือยอมรับในสินค้า บริการ หรือความคิด ของตน โดยจะดาเนินการโดยบุคคลหรือไม่ก็ตาม แล้วส่งผลให้เกิดการซื้อสินค้าหรือบริการ หรือยอมรับใน ความคดิ นน้ั ๆ ผู้ขายก็จะไดร้ บั ผลประโยชนท์ างการค้า คนเราทกุ คน ไมว่ ่าอาชีพอะไร ตั้งแตเ่ กดิ จนกระทั่งสนิ้ ลมหายใจลว้ นเป็นคนขายของทั้งส้ิน เพราะไม่ว่าจะ เรียนจบหลักสูตรใด ทุกคน(ผู้ขาย) ต้องนาความรู้ความสามารถ(สินค้า) ที่ได้เล่าเรียนมาไปขายให้แก่ผู้ที่มีความ ต้องการ (นายจ้างหรือผู้ซื้อ) ผลตอบแทนที่ผู้ขายได้รับคือค่าจ้าง เงินเดือน ส่วนผู้ซื้อได้รับผลตอบแทน คือ ผลงานของผูข้ าย ลกั ษณะพนื้ ฐานของการขายทีส่ าคญั มี 7 ประการ ประกอบด้วย 1. การขายคือการใหค้ วามช่วยเหลือลูกค้า พนักงานขายต้องรวู้ า่ ลูกค้าต้องการอะไร และเสนอขายใน ส่งิ ทีล่ กู คา้ ต้องการ 2. การขายคือการชักจงู ใจลูกคา้ พนักงานขายต้องใหล้ ูกคา้ ตัดสินใจซอื้ สินคา้ ด้วยความพงึ พอใจใน ภาพพจนข์ องสนิ ค้า 3. การขายคือการตดิ ต่อส่อื สาร พนักงานขายต้องถา่ ยทอดคณุ ภาพ คณุ ลักษณะ ของสนิ ค้าและ ผลประโยชน์ท่ีลกู คา้ จะได้รบั ไดเ้ ป็นอย่างดี 4. การขายคอื การแก้ปัญหาใหก้ บั ลูกค้า พนกั งานขายต้องชว่ ยให้ลกู คา้ ได้สินค้าตรงความ ต้องการ 5. การขายคือการใหค้ วามรู้แกล่ กู คา้ พนักงานขายต้องรู้จักสินค้าเป็นอย่างดี และสามารถ อธบิ าย ใหค้ วามกระจ่างแก่ลูกค้าได้ อยา่ งชัดเจน และเข้าใจ 6. การขายเป็นการสร้างความพึงพอใจไม่ใช่เปน็ การบังคับ ลกู คา้ ซื้อสินค้าดว้ ยความพงึ พอใจ และมีความ ตอ้ งการในสินค้าน้นั มิใชด่ ว้ ยความเกรงใจถกู บังคับ วทิ ยาลัยเทคนคิ มหาสารคาม
ภาควชิ าการจดั การโลจสิ ตกิ สแ์ ละซพั พลายเชน การขายเบ้อื งตน้ รหัสวิชา 20200 – 1003 7. การขายทาให้ไดส้ ง่ิ ตอบแทนดว้ ยกนั ท้งั 2 ฝา่ ย ลูกคา้ ได้สินคา้ ท่ีต้องการ และพอใจ พนักงานขายได้ค่าสนิ คา้ เปน็ การตอบแทน ววิ ัฒนาการขาย ชาติไทยมีการค้าขายมาตั้งแต่โบราณ โดยอาศัยทรัพยากรท่ีสมบรู ณเ์ ป็นสินคา้ สมยั สุโขทยั เมืองสุโขทัยนี้ดี ในน้ามีปลา ในนามีข้าว เจ้าเมืองบ่เอาจังกอบในไพร่ ลู่ทาง เพื่อนจูงวัวไปค้า ขี่ม้าไป ขาย ใครจักใคร่ค้าช้างค้า ใครจักใคร่ค้าม้าค้า ใครจักใคร่ค้าเงินค้าทองค้า แสดงถึงความมีเสรีภาพในการขายใน สมยั ของพอ่ ขุนรามคาแหง มตี ลาดท่ีเรยี กวา่ ตลาดปสาน หรือ บาร์ซาร์ ( Bazaar ) หรือตลาดนัด เป็นยา่ นชุมชน ที่เป็นห้องแถว หรือร้านเป็นแถว ๆ ให้ประชาชนมาติดต่อซื้อขายกัน ในสมัยนี้ ไทยสามารถผลิตชามสังคโลกเป็น สนิ คา้ ไดแ้ ล้ว มกี าคา้ กบั ชาวตา่ งประเทศ คอื มอญ จีน ลงั กา ญป่ี นุ่ สมยั อยุธยา เจริญสูงสุดในสมยั ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีพระคลังสินค้า คือพระยาวิชาเยนทร์(นายฟอล คอน ชาวอังกฤษ) ท าหน้าที่เหมือนรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลัง มีการค้ากับ โปรตุเกส สเปน ฮอลันดา องั กฤษ จีน ญ่ปี ุ่น อินเดยี เปอรเ์ ซยี อาหรบั สมัยธนบุรี มีเรอื สาเภาจนี เขา้ มาค้าขาย และคา้ ขายกับ อนิ เดีย องั กฤษ มลายู สมัยรัตนโกสินทร์ วิทยาลยั เทคนิคมหาสารคาม
ภาควิชาการจัดการโลจสิ ติกสแ์ ละซัพพลายเชน การขายเบอ้ื งต้น รหสั วชิ า 20200 – 1003 เริ่มมีการค้ากับสหรัฐอเมริกาในสมัย รัชกาลท่ี 2 ต่อมาในรัชกาลที่ 3 ไทยค้าขายกับจีนมากที่สุด และ ติดต่อกับหมอบรัดเล ซึ่งได้นาเครื่องพิมพ์ดีดมาใช้ในไทย ใน รัชสมัยของรัชกาลที่ 4 ยกเลิกระบบการค้าแบบผูกขาดหัน มาค้าขายแบบเสรี ในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 ชาวต่างประเทศ ได้มาเปิดห้างขายสินค้าในไทย และมีการจัดตั้งกระทรวง พาณชิ ยข์ ้ึนในรชั กาลที่ 6 ปัจจบุ นั ระบบการค้าของไทยเป็นแบบผสม คือ ระบบเศรษฐกิจเสรีนิยม หรือ ทุนนิยม( ประชาชนมีเสรี ในการทาธุรกิจ ) ผสมกับสังคมนิยม (รัฐบาลเข้ามามี ส่วนร่วมในการทาธุรกิจธนาคาร การขนส่ง และ สาธารณปู โภค การขายในยุคก่อน ๆ ผู้ขายไม่ต้องใช้ความ พยายามมากในการขาย เนื่องจากการผลิตสินค้าทาได้ ยาก ปริมาณสินค้ามีน้อยกว่าความต้องการของผู้ ซื้อ ผลิตเท่าไรก็ขายหมด แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยี ก้าวหน้ามีผู้ผลิตจานวนมาก สินค้ามีมากกว่าความต้องการของผู้ซื้อ ผู้ซื้อมีโอกาสได้เลือก มีอานาจในการ ตอ่ รอง ผขู้ ายจงึ ต้องพยายามชักจูงใหเ้ กิดความต้องการแล้ว ยงั จะตอ้ งทาให้ผู้ซือ้ เกดิ ความพอใจในสินค้ามากท่ีสุด ประโยชนข์ องการขาย ทางดา้ นเศรษฐกจิ 1. การขายเปน็ จดุ เร่มิ ต้นของการสรา้ งงานอาชพี ใหม่ ๆ เชน่ พนกั งานสง่ ของ พนักงานบัญชี พนักงานคุมสต็อก สนิ คา้ เป็นต้น 2. การขายทาให้ ทอ้ งถิ่นมงี านทา มกี ารกระจายรายได้ วทิ ยาลยั เทคนิคมหาสารคาม
ภาควชิ าการจัดการโลจสิ ตกิ ส์และซัพพลายเชน การขายเบอื้ งตน้ รหัสวิชา 20200 – 1003 3. การขายทาให้ กิจการก้าวหนา้ มีการขยายกาลังการผลิต มอี ตั ราการจา้ งงานเพิ่มข้ึน ทางดา้ นสังคม 1. การขายทาให้ประชาชนมสี ินค้าตามต้องการ เกิดความสะดวกสบาย และประหยดั ค่าใชจ้ า่ ยในการแสวงหา 2. เมอื่ ประชาชนในท้องถิ่นมีรายได้ทาให้มีการยกมาตรฐานการครองชพี เกดิ ความสงบในสงั คม 3. การขายนาความเจรญิ ไปสู่ทอ้ งถิ่น ได้พบความแปลกใหม่ และการเรยี นรู้ วิทยาลยั เทคนิคมหาสารคาม
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: