ชดุ การสอนตามรูปแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E หนว่ ยการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ระบบต่อมไร้ท่อ รายวชิ าชีววทิ ยาเพมิ่ เตมิ (ว32242) นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชาชาญการพเิ ศษ โรงเรยี นโนนไทยคุรุอปถมั ภ์ สังกัดองค์การบรหิ ารสว่ นจังหวดั นครราชสีมา กรมส่งเสรมิ การปกครองท้องถ่นิ กระทรวงมหาดไทย
ชดุ ที่ 2 เรือ่ งฮอร์โมนจำกตอ่ มใตส้ มอง ก คำนำ ชุดการสอนตามรูปแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E วิชาชีววิทยาเพิ่มเติม ว32242 เร่ือง ระบบ ต่อมไรท้ ่อ รายวิชาชีววิทยาเพ่ิมเติม (ว32242) ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 5 จัดทาข้ึนเพื่อพัฒนาการจัดการ เรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ที่มุ่งส่งเสริมให้นักเรียนสร้างองค์ความรู้ดว้ ยตนเองโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหา ความรูแ้ ละการทางานเปน็ กลุม่ การเรียนรโู้ ดยใช้ชุดการสอนน้ชี ว่ ยให้นกั เรียนมสี ่วนร่วมในการเรยี นรู้ ม า ก ก ว่ า ก า ร ส อ น ด้ ว ย วิ ธี บ ร ร ย า ย ท า ให้ นั ก เรี ย น มี ค ว าม ส น ใจ ใน ก า ร เรี ย น ส่ ง ผ ล ให้ นั ก เรี ย น มี ความก้าวหน้าในการเรียนมากข้ึน ผู้เรียนสามารถเรียนรู้และปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง มีการเรียบ เรยี งเนื้อหาตามมาตรฐานการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ และผลการเรียนรู้อย่าง ละเอียดตามกลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 และมีการวัดและประเมินผลการเรียนรู้เมอื่ จบหน่วยการเรยี นรู้ ชดุ การสอนตามรูปแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เร่อื ง ระบบตอ่ มไร้ทอ่ ประกอบด้วยชุดการ สอนท้ังหมด 7 ชุด จานวน 18 ชวั่ โมง ดังน้ี ชุดที่ 1 ฮอรโ์ มนและต่อมไรท้ ่อ ชดุ ท่ี 2 ฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง ชดุ ที่ 3 ฮอร์โมนจากตับออ่ น ชดุ ที่ 4 ฮอรโ์ มนจากต่อมไทรอยด์พาราไทรอยดแ์ ละต่อมหมวกไต ชุดที่ 5ฮอร์โมนเพศและฮอรโ์ มนจากรก ชุดท่ี 6 ฮอรโ์ มนจากต่อมไพเนียลและตอ่ มไธมสั ชุดท่ี 7 ฟโี รโมน ขอขอบคุณผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่านท่ีได้ให้ความรู้ คาปรึกษาและข้อเสนอแนะท่ีเป็นประโยชน์ อย่างยิ่งจนทาให้ชุดการสอนชุดน้ีมีความสมบูรณ์ย่ิงข้ึนผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชุดการสอนตาม รูปแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่องระบบต่อมไรท้ ่อช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 ชุดนี้จะเป็นประโยชน์อยา่ ง ยิง่ สาหรบั นักเรยี น ครแู ละผทู้ ีส่ นใจ ทิวาวรรณ เดชวิทยาวุฒิ วชิ าชีววิทยาเพ่ิมเติม (ว32242) ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวทิ ยาวฒุ ิ
ชุดท่ี 2 เร่อื งฮอร์โมนจำกต่อมใตส้ มอง ข สำรบัญ เร่ือง หนำ้ คำนำ ก ข สำรบัญ ค สารบญั ภาพ 1 ลาดับขัน้ การเรียนโดยชดุ การสอน 2 3 คาชแ้ี จงเก่ยี วกับชุดการสอน 4 คาแนะนาการใชช้ ดุ การสอนสาหรบั ครู 5 6 คาแนะนาการใช้ชุดการสอนสาหรบั นักเรยี น 8 สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนเรียนชดุ การสอนชุดที่ 2 9 10 กระดาษคาตอบแบบทดสอบกอ่ นเรียน ชดุ การสอนชดุ ที่ 2 36 กจิ กรรมการเรยี นรู้ 40 42 ข้นั ที่ 1 ข้นั สรา้ งความสนใจ 43 ขน้ั ท่ี 2 ขั้นสารวจและค้นหา 45 ขั้นที่ 3 ข้ันอธิบายและลงขอ้ สรปุ 46 47 ขนั้ ท่ี 4 ขัน้ ขยายความรู้ ขน้ั ที่ 5 ขน้ั ประเมิน แบบทดสอบหลังเรยี น ชดุ การสอนชดุ ที่ 2 กระดาษคาตอบแบบทดสอบก่อนเรียน ชดุ การสอนชุดท่ี 2 บรรณานุกรม ภาคผนวก วิชาชวี วิทยาเพิ่มเติม (ว32242) ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวทิ ยาวฒุ ิ
ชดุ ที่ 2 เรื่องฮอรโ์ มนจำกต่อมใตส้ มอง ค สำรบัญภำพ ภำพ หน้ำ ภาพท่ี 1 การทดลองเกยี่ วกบั โกรทฮอรโ์ มน 9 ภาพที่ 2 ตาแหน่งของตอ่ มใตส้ มอง 10 ภาพท่ี 3 กายวภิ าคศาสตรข์ องต่อมใต้สมอง 10 ภาพท่ี 4 รายละเอียดของตอ่ มใต้สมอง 11 ภาพที่ 5 เสน้ เลือดท่มี าเลย้ี งต่อมใต้สมองส่วนหน้า 12 ภาพที่ 6 การหลั่งฮอร์โมนจากตอ่ มใตส้ มองสว่ นหนา้ 13 ภาพท่ี 7 แสดงการกระตนุ้ และยบั ย้งั การสร้างฮอรโ์ มน 14 ภาพท่ี 8 การทางานของไทรอยด์ สตมิ เู ลติงฮอร์โมน 15 ภาพที่ 9 การทางานของ โกนาโดโทรปนิ รลี สิ ซิง ฮอร์โมน (GnRH) 16 ภาพท่ี 10 การหล่ังโกรทฮอรโ์ มน 17 ภาพที่ 11 การหล่งั ของโกรทฮอรโ์ มนและอวัยวะเป้าหมายท่ีสาคัญของโกรทฮอร์โมน 19 ภาพท่ี 12 ปัจจยั ทม่ี ีผลตอ่ การผลิตโกรทฮอรโ์ มน 20 ภาพที่ 13 การขาดโกรทฮอร์โมนทาให้รา่ งกายเต้ียแคระ (dwarfism) 21 ภาพท่ี 14 เปรยี บเทยี บความสูงของเดก็ ทีม่ ฮี อร์โมนไทรอยด์ตา่ 22 ภาพที่ 15 ฮอร์โมนต่อมใต้สมอง อวัยวะเปา้ หมาย และฮอร์โมนทห่ี ล่งั โดยอวยั วะเปา้ หมาย 23 ภาพท่ี 16 โครงสรา้ งของเตา้ นม 23 ภาพท่ี 17 การกระตนุ้ การเจริญเตบิ โตของเต้านมและการหลั่งนา้ นม 24 ภาพที่ 18 การหลั่งฮอรโ์ มนจากต่อมใต้สมองส่วนหลงั 29 ภาพที่ 20 สูตรโครงสร้างของADH และออกซิโทซิน 31 ภาพที่ 21 ผู้ปว่ ยเบาจดื จะรูส้ กึ กระหายนา้ เปน็ อย่างมากและปัสสาวะบ่อย 32 ภาพท่ี 22 โครงสร้างฮอร์โมนออกซโิ ทซนิ และแอนติไดยเู รตกิ ฮอรโ์ มน หรือวาโซเพรสซนิ 33 ภาพที่ 23 การทางานของฮอรโ์ มนออกซิโทซิน 34 ภาพที่ 24 การขยายของปากมดลกู เมือ่ เขา้ สู่ขบวนการคลอดกระตุ้นการหลัง่ ออกซโิ ทซนิ 35 วชิ าชวี วิทยาเพิ่มเตมิ (ว32242) ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ
ชุดท่ี 2 เรอ่ื งฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง 1 ลาดับขน้ั การเรียนโดยชดุ การสอน อา่ นคาชแี้ จงการใช้ชุดการสอน ทดสอบก่อนเรียน ดาเนินการใช้ชุดการสอนตามรปู แบบสบื เสาะหาความรู้ 5E ขั้นท่ี 1 สรา้ งความสนใจ ขั้นท่ี 2 สารวจคน้ หา ขนั้ ท่ี 3 อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ ขน้ั ท่ี 5 ประเมนิ ผล ทดสอบหลงั เรียน ไม่ผ่านเกณฑ์ แจ้งผลการ ทดสอบ ผ่านเกณฑ์ ศกึ ษากจิ กรรมชุดการสอนชดุ ตอ่ ไป วิชาชวี วทิ ยาเพิ่มเติม (ว32242) ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ
ชุดท่ี 2 เรอื่ งฮอรโ์ มนจากต่อมใตส้ มอง 2 คาชีแ้ จงเก่ียวกบั ชดุ การสอน 1. ชดุ การสอนตามรปู แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่องระบบต่อมไรท้ อ่ รายวิชาชวี วทิ ยาเพิ่มเติม ว 32242 ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 5 ประกอบดว้ ยชดุ การสอนทัง้ หมด 7 ชดุ ดงั น้ี ชุดท่ี 1 ฮอรโ์ มนและตอ่ มไรท้ ่อ ชดุ ที่ 2 ฮอรโ์ มนจากตอ่ มใตส้ มอง ชดุ ท่ี 3 ฮอรโ์ มนจากตับอ่อน ชดุ ที่ 4 ฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ พาราไทรอยด์ และตอ่ มหมวกไต ชุดท่ี 5 ฮอรโ์ มนเพศและฮอร์โมนจากรก ชดุ ที่ 6 ฮอรโ์ มนจากต่อมไพเนียลและต่อมไธมสั ชดุ ที่ 7 ฟีโรโมน 2. ชุดการสอนในแตล่ ะชดุ ประกอบด้วย - คาชแี้ จง - คาแนะนาในการใช้ชุดการสอน - สาระการเรยี นรู้,มาตรฐานการเรียนรู้,ตัวช้วี ัดและจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ - แบบทดสอบก่อนเรียนและแบบทดสอบหลังเรยี น - บตั รเนอ้ื หาและบัตรกิจกรรม - เฉลยบัตรกจิ กรรมและเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน-หลงั เรยี น 3. การปฏบิ ตั ิกิจกรรมในแต่ละขน้ั ของชุดการสอนใชก้ ระบวนการกลมุ่ และใช้เวลาในการศึกษา 3 ช่ัวโมง วชิ าชีววทิ ยาเพมิ่ เตมิ (ว32242) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวทิ ยาวฒุ ิ
ชุดท่ี 2 เรอื่ งฮอรโ์ มนจากต่อมใตส้ มอง 3 คาแนะนาการใช้ชดุ การสอนสาหรับครู การจดั การเรียนรู้โดยใช้ชุดการสอนตามรปู แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E ชุดที่ 2 ฮอร์โมนจาก ต่อมใตส้ มองใชเ้ ป็นส่อื ประกอบการจดั การเรยี นรู้ซง่ึ ครผู ู้สอนควรมกี ารเตรยี มความพร้อมและปฏิบัติ ตามคาแนะนาดังน้ี 1. ศกึ ษารายละเอียดข้ันตอนการจดั การเรียนรูโ้ ดยใช้ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้จากแผนการจดั การ เรียนรู้ 2. แบง่ นกั เรยี นออกเป็นกลุม่ ๆ ละ 4-5 คน โดยคละความสามารถของนักเรียน เก่ง ปานกลาง และออ่ น โดยใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ เลอื กประธานและเลขานุการกลมุ่ และแบ่งหน้าที่ความรบั ผดิ ชอบ ในกลุ่ม 3. ควรจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์สาหรับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้มีความพร้อมและครบจานวน นกั เรยี นในแต่ละกล่มุ 4. ก่อนการจัดการเรียนรู้ ครูควรชี้แจงให้นักเรียนเข้าใจบทบาทของตนเองแนะนาแนวปฏบิ ัติ และ ข้นั ตอนในการใช้ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ 5. ขณะท่ีนักเรียนปฏิบัตกิ ิจกรรมครูควรกระตุ้นให้นักเรียนทุกคนมีส่วนรว่ มในการทากิจกรรม รู้จัก การทางานรว่ มกนั และหากพบนักเรียนคนใดทีป่ ระสบปญั หาควรให้คาแนะนาอยา่ งใกลช้ ิด 6. หลังจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เสร็จสิ้นลงในแต่ละชุดกิจกรรมการเรียนรู้ให้นักเรียนตรวจ คาตอบในบัตรกิจกรรมและแบบทดสอบจากเฉลยในภาคผนวก และบนั ทึกคะแนนที่ได้ในแบบบนั ทึก คะแนนซึ่งนักเรียนต้องทาแบบทดสอบหลังเรยี นผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 80 ขึ้นไปหากกรณีไม่ผ่านเกณฑ์ ให้นกั เรยี นย้อนกลับไปทากจิ กรรมใหม่แล้วตรวจคาตอบอีกครง้ั พร้อมกบั บันทึกคะแนนส่งครผู ู้สอน 7.เม่ือนักเรียนปฏิบัติกิจกรรมเสร็จเรยี บร้อยแลว้ ให้นกั เรียนเก็บส่ือ วสั ดุอุปกรณใ์ ห้เรยี บร้อย และครู แจ้งให้นักเรียนเตรียมความพรอ้ มสาหรับการเรียนรู้ในชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ตอ่ ไป วชิ าชวี วทิ ยาเพ่ิมเตมิ (ว32242) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ
ชดุ ที่ 2 เรอ่ื งฮอร์โมนจากตอ่ มใต้สมอง 4 คาแนะนาการใช้ชุดการสอนสาหรบั นักเรยี น ชดุ การสอนตามรูปแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E ชดุ ท่ี 5 เรือ่ ง ฮอร์โมนเพศและฮอรโ์ มนจากรก ที่นกั เรียนได้ศึกษาต่อไปนีเ้ ปน็ กจิ กรรมการเรียนรู้เพอ่ื ส่งเสรมิ ใหน้ กั เรียนไดส้ ืบเสาะหาความรแู้ ละ สามารถสร้างองค์ความรดู้ ว้ ยตนเอง โดยใหน้ กั เรยี นปฏิบัติตามขน้ั ตอนที่กาหนดไวใ้ นชุดการสอน ตามลาดับดังน้ี 1. ให้นกั เรียนแบง่ กลุ่มๆ ละ 4-5 คน และกาหนดบทบาทหน้าท่ขี องนักเรยี นแตล่ ะคนในกลุม่ 2. ศึกษาวิธีใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด และจุดประสงค์ การเรียนรู้ 3. ทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เพ่อื ประเมนิ ความรพู้ ื้นฐานของตนเอง ซึง่ นักเรยี นตอ้ งมีความซอื่ สัตยต์ ่อ ตนเอง 4. ปฏิบตั ิกิจกรรมตามข้ันตอนที่กาหนดในชุดกิจกรรมการเรียนรู้ถ้าหากนกั เรียนสงสัยหรอื มปี ัญหาที่ ไมเ่ ขา้ ใจสามารถขอคาแนะนาได้จากครผู ้สู อน 5. เม่อื ศึกษาและปฏิบัติกิจกรรมเสร็จเรียบรอ้ ยแล้ว ให้นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียนเพือ่ ประเมนิ ความรคู้ วามเข้าใจและเปรียบเทียบความก้าวหน้าในการเรียนของนกั เรียน 6.ตรวจคาตอบของบัตรกิจกรรมและแบบทดสอบไดจ้ ากเฉลยในภาคผนวกซง่ึ นกั เรยี นต้องได้คะแนน จากการทาแบบทดสอบหลังเรียนไดร้ ้อยละ 80 ขึน้ ไปจงึ ผา่ นเกณฑ์ หากผ่านเกณฑ์ให้นักเรยี นศึกษา ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ชดุ ต่อไป 7. นักเรียนควรมคี วามรับผิดชอบในการปฏิบัตกิ จิ กรรมที่ได้รบั มอบหมายให้ครบถว้ นสมบูรณ์ หากมี ขอ้ สงสัยในการดาเนินกจิ กรรมใหป้ รกึ ษาครูผู้สอนโดยทันทใี ชเ้ วลาในการดาเนนิ กจิ กรรม 3 ช่ัวโมง วชิ าชวี วทิ ยาเพิ่มเติม (ว32242) ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวทิ ยาวฒุ ิ
ชดุ ที่ 2 เรื่องฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง 5 สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 1 สงิ่ มีชวี ติ กับกระบวนการดารงชีวติ มาตรฐาน ว 1.1 เขา้ ใจหนว่ ยพืน้ ฐานของสิง่ มีชีวติ ความสมั พนั ธข์ องโครงสรา้ ง และหน้าท่ี ของระบบต่างๆ ของสงิ่ มชี ีวติ ที่ทางานสัมพนั ธก์ นั มีกระบวนการสืบเสาะหาความรสู้ ื่อสารสิ่งท่เี รยี นรู้ และนาความร้ไู ปใชใ้ นการดารงชีวติ ของตนเองและดแู ลส่งิ มชี วี ิต สาระที่ 8 ธรรมชาตขิ องวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มาตรฐาน ว 8.1 ใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละจติ วทิ ยาศาสตรใ์ นการสบื เสาะหา ความรู้ การแก้ปัญหารวู้ ่าปรากฏการณท์ างธรรมชาตทิ เ่ี กดิ ขึน้ สว่ นใหญม่ รี ูปแบบ ที่แน่นอน สามารถ อธิบายและตรวจสอบได้ภายใต้ขอ้ มูลและเครอื่ งมอื ทีม่ ีอยู่ในช่วงเวลานน้ั ๆ เขา้ ใจวา่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สงั คมและส่งิ แวดลอ้ มมีความเกย่ี วขอ้ งสมั พนั ธ์กนั นาความรไู้ ปใช้ในการดารงชีวติ ของ ตนเองและดูแลสง่ิ มชี วี ิต ผลการเรยี นรู้ สืบคน้ ข้อมูล อภิปราย โครงสร้างและหน้าท่ีของตอ่ มไรท้ อ่ ทส่ี าคญั ของคน และฟีโรโมน จดุ ประสงค์การเรียนรู้ (K) 1. อธิบายและสรปุ ถงึ หน้าทขี่ องต่อมใต้สมอง ฮอรโ์ มนทต่ี อ่ มใต้สมองสร้างขึ้น และอวัยวะ เป้าหมายของฮอร์โมนได้ 2. บอกผลของการขาดฮอร์โมนหรอื มฮี อรโ์ มนมากเกินไปได้ ทักษะกระบวนการ (P) 1. ทกั ษะการทางานกลมุ่ 2. กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) 1. ซ่อื สัตย์สุจริต 2. มวี นิ ัย 3. ใฝเ่ รียนรู้ 4. มงุ่ ม่นั ในการทางาน วิชาชวี วทิ ยาเพิม่ เติม (ว32242) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ
ชุดท่ี 2 เร่อื งฮอรโ์ มนจากตอ่ มใต้สมอง 6 แบบทดสอบก่อนเรยี น ชดุ การสอนชุดท่ี 2 เร่อื ง ฮอร์โมนจากตอ่ มใต้สมอง คาช้แี จง 1. แบบทดสอบฉบับนี้มี 10 ขอ้ คะแนนเตม็ 10 คะแนน ใช้เวลา 15 นาที 2. ให้นักเรียนเลือกคาตอบทถี่ กู ต้องเพียงข้อเดยี ว 3. ตอบถูกได้ 1 คะแนน ตอบผดิ ได้ 0 คะแนน ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ 1. ต่อมใต้สมองส่วนใด จัดเปน็ ตอ่ มใตส้ มองทีแ่ ทจ้ รงิ ก. ตอ่ มใต้สมองสว่ นหนา้ และสว่ นกลาง ข. ต่อมใต้สมองส่วนกลาง ค. ตอ่ มใตส้ มองสว่ น ง. ตอ่ มใตส้ มองสว่ นหลงั กาหนดให้ 1 = ฮอร์โมนโกนาโดโทรฟนิ 2 = โกรทฮอร์โมน 3 = โพรแลกติน 4 = วาโซเพรสซิน 5 = ออกซิโทซิน จงตอบคาถามขอ้ 2 - 5 2. ขอ้ ใดตอ่ ไปน้เี ปน็ ฮอรโ์ มนจากต่อมใตส้ มองสว่ นหลัง ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4 และ 5 3. ฮอร์โมนทที่ าหนา้ ที่กระต้นุ การเจริญเติบโตของทอ่ ผลิตน้านม คือข้อใด ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4 และ 5 4. ฮอร์โมนทท่ี าหน้าท่คี วบคุมการเจริญเติบโตของรา่ งกายให้เป็นไปตามปกติ คอื ขอ้ ใด ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4 และ 5 5. ฮอรโ์ มนท่ที าหน้าทีค่ วบคุมการดดู กลบั ของท่อหนว่ ยไต คือขอ้ ใด ก. 1 ข. 2 และ 3 ค. 4 ง. 5 วิชาชวี วทิ ยาเพิ่มเติม (ว32242) ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวทิ ยาวฒุ ิ
ชดุ ท่ี 2 เรอื่ งฮอรโ์ มนจากต่อมใตส้ มอง 7 6. อวัยวะเปา้ หมายสว่ นใหญข่ องโทรปกิ ฮอร์โมนคอื ข้อใด ก. กลา้ มเน้ือ ข. ตอ่ มไรท้ ่อ ค. หลอดเลอื ด ง. ไต 7. นิวโรซคี รีทอรีเซลล์ ส้ินสุดบรเิ วณใดมากทส่ี ุด ก. ตอ่ มใตส้ มองสว่ นหน้า ข. ตอ่ มใตส้ มองสว่ นกลาง ค. ต่อมใต้สมองส่วน ง. ต่อมใต้สมองส่วนหลัง พิจารณาภาพแสดงตาแหนง่ ระบบต่อมไร้ท่อของคน แลว้ ตอบคาถามข้อ 8 – 9 C AB 8. จากภาพต่อมใตส้ มองสว่ นหน้า คือหมายเลขใด ก. A และ C ข. A และ B ค. A ง. B 9. จากภาพตอ่ มใตส้ มองสว่ นหน้าคอื หมายเลขใด ก. A และ C ข. A และ B ค. A ง. B 10. ต่อมใต้สมองส่วนหน้าถกู ควบคุมด้วยฮอรโ์ มนประสาทจากบริเวณใด ก. ซีรบี รัม ข. ซรี เี บลลมั ค. ไฮโพทาลามัส ง. หลอดเลือด วิชาชีววทิ ยาเพม่ิ เตมิ (ว32242) ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ
ชดุ ท่ี 2 เรอ่ื งฮอรโ์ มนจากต่อมใตส้ มอง 8 กระดาษคาตอบแบบทดสอบก่อนเรียน ชดุ การสอนชดุ ท่ี 2 เรอื่ ง ฮอรโ์ มนจากตอ่ มใตส้ มอง ชื่อ-สกุล ……………………………………………………………………………………. ชั้น ............ เลขที่ .............. คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคาตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียวในแบบทดสอบแล้วทาเคร่ืองหมาย X ลงในชอ่ งว่าง ข้อ ก ข ค ง 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 คะแนนเตม็ คะแนนที่ได้ 10 วชิ าชีววทิ ยาเพมิ่ เตมิ (ว32242) ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ
ชดุ ที่ 2 เร่ืองฮอร์โมนจากตอ่ มใตส้ มอง 9 ขั้นท่ี 1 ข้ันสร้างความสนใจ บตั รกจิ กรรมที่ 1.1 เร่ือง การศึกษาเกีย่ วกับฮอรโ์ มนจากตอ่ มใตส้ มองส่วนหนา้ คาชแ้ี จง ให้นกั เรยี นศึกษาและวิเคราะหภ์ าพการทดลองเกย่ี วกบั โกรทฮอรโ์ มน และตอบคาถาม ภาพที่ 1 การทดลองเกีย่ วกับโกรทฮอร์โมน ท่มี า : ค่มู ือครูรายวชิ าชีววิทยาเพิ่มเตมิ ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4-6 เลม่ 2. หน้า 167(2554) คาถาม 1. การทดลองน้ผี ู้ทดลองมีสมมติฐานในการทดลองอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………. 2. การทดลองน้กี ลุ่มใดเป็นกลมุ่ ทดลองกลุ่มใดเป็นกลมุ่ ควบคุม ………………………………………………………………………………………………………………………………. 3. การทดลองนไี้ ดผ้ ลสอดคล้องกับสมมติฐานหรอื ไม่ ประจกั ษพ์ ยานใดทแ่ี สดงให้เห็นว่าการ ทดลองนส้ี อดคล้องกับสมมติฐาน ………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………. วิชาชวี วทิ ยาเพิ่มเตมิ (ว32242) ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ
ชดุ ที่ 2 เร่ืองฮอร์โมนจากตอ่ มใต้สมอง 10 ขน้ั ที่ 2 ขน้ั สารวจและค้นหา บัตรเนื้อหาท่ี 2.1 คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนศกึ ษาบตั รเนือ้ หาท่ี 2.1เรื่อง ตอ่ มใต้สมอง ตอ่ มใตส้ มองหรือต่อมพทิ ูอทิ ารี หรอื ไฮโปไฟซีส (pituitary หรอื hypophysis) รูปร่าง ค่อนขา้ งกลมคล้ายถ่วั (bean-shaped) ขนาดประมาณ 1.2 x 1.5 เซนติเมตร ในผูใ้ หญห่ นกั ประมาณ 0.4-0.6 กรัม ตงั้ อยู่ในแอง่ เรียกวา่ เซลลา เทอรซ์ กิ า (sella turcica) ของกระดกู สฟีนอยด์ (sphenoid) โดยอยใู่ ตส้ ว่ นไฮโพทาลามัส มสี ว่ นติดตอ่ กบั ไฮโพทาลามัส เปน็ กา้ นยาว ซึ่งถ้าเป็นภาพ สามมิติจะมรี ปู ร่างเปน็ กรวยเรยี กวา่ ก้านต่อมใต้สมองหรืออินฟนั ดิบูลัม (infundibulum) ภาพท่ี 2 ตาแหนง่ ของตอ่ มใต้สมอง ภาพทื่ 3 กายวภิ าคศาสตร์ของตอ่ มใตส้ มอง ทมี่ า : https://il.mahidol.ac.th/e-media/hormone/chapter1/chapter1.htm(สบื ค้นวนั ที่ 16 พฤษภาคม 2560) วิชาชีววทิ ยาเพ่มิ เติม (ว32242) ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ
ชดุ ที่ 2 เร่อื งฮอรโ์ มนจากตอ่ มใต้สมอง 11 บตั รเนอ้ื หาที่ 2.2 คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นศึกษาบัตรเนื้อหาท่ี 1.2 เรอ่ื ง โครงสร้างและหน้าท่ีของต่อมใตส้ มอง โครงสร้างและหนา้ ท่ีของตอ่ มใต้สมอง ต่อมใตส้ มองแบง่ ตามโครงสรา้ งและหนา้ ทีอ่ อกเป็น 3 สว่ น คอื ต่อมใตส้ มองส่วนหนา้ (anterior pituitary) หรอื อะดโิ นไฮโปไฟซสิ (adenohypophysis) ประกอบด้วยส่วนท่อี ยู่หา่ งไกลออกไป เรียกว่าพารส์ ดิสตาลิส (pars distalis) ซึ่งเปน็ สว่ นใหญ่ของ ตอ่ ม สว่ นทมี่ ีลักษณะเป็นทอ่ เรยี กวา่ พารส์ ทูเบอราลสิ (pars tuberalis) ต่อมใต้สมองสว่ นกลาง(Interior pituitary)ส่วนใหญ่ในมนษุ ย์ตอ่ มน้ีไมท่ างาน ฝอ่ ไปแลว้ แต่ ในสตั วพ์ บว่าต่อมใต้สมองสว่ นกลาง และคอรต์ ิโคโทรฟ (corticotroph) ของตอ่ มใตส้ มองสว่ นหน้า สามารถสรา้ งโมเลกุลตง้ั ต้น ซ่งึ ถูกตดั เปน็ ฮอร์โมนไดห้ ลายตวั รู้จกั ในชือ่ โพรโอพิโอเมลาโนคอร์ตนิ (proopiomelanocortin เรียกย่อวา่ POMC ) และสรา้ งได้ท่ไี ฮโพทาลามสั ปอด กระเพาะ ลาไส้ และรก ตอ่ มใต้สมองส่วนหลงั (posterior pituitary) หรือนวิ โรไฮโปไฟซิส (neurohypophysis) ประกอบดว้ ย มีเดยี น เอมีเนนส์ (median eminence) สว่ นท่ีมเี สน้ ประสาทอยู่มากเรยี กวา่ พาร์สเนอ โวซา (pars nervosa) ท้งั สองสว่ นเชอื่ มดว้ ยสว่ นทส่ี าม คอื กา้ นอินฟันดิบิวลัม (infundibulum) ซึ่งถ้า เป็นภาพสามมติ ิจะเห็นวา่ มีรปู ร่างคลา้ ยกรวย ภาพท่ี 4 รายละเอียดของต่อมใต้สมอง ทม่ี า : https://il.mahidol.ac.th/e-media/hormone/chapter1/chapter1.htm(สบื คน้ วนั ท่ี 16 พฤษภาคม 2560) วิชาชีววทิ ยาเพิม่ เตมิ (ว32242) ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ
ชุดท่ี 2 เรือ่ งฮอร์โมนจากตอ่ มใต้สมอง 12 การควบคมุ การสร้างฮอร์โมน 1.การควบคุมแบบย้อนกลบั คอื การทฮ่ี อรโ์ มนท่ีมีปริมาณมากเกินไปยับยั้งการหลั่งของ ตัวเอง หรอื ไปยับยัง้ ฮอรโ์ มนตวั อนื่ ที่มหี นา้ ที่กระตุ้นการหล่ังของฮอรโ์ มนนั้น โดยวิธีทางตรงหรือวธิ ี ทางอ้อม เชน่ ไทโรโทรปิน รีลสิ ซงิ ฮอร์โมน (TRH) ไปกระตุน้ ตอ่ มใต้สมอง ส่วนหนา้ ใหห้ ล่งั ไทรอยด์สติ มิวเลตงิ ฮอรโ์ มน (TSH) ออกมาแล้วฮอร์โมนน้ีไปกระตนุ้ การทางานของต่อมไทรอยด์ ให้สร้างไทรอยด์ ฮอรโ์ มน (T3หรือ T4) เม่ือไทรอยฮ์ อร์โมนมีระดบั ทีส่ ูงแลว้ จะไปยบั ยัง้ การสรา้ งของ TSH หรือไปยับย้งั การสรา้ ง TRH 2. การควบคมุ ทางระบบประสาท คือ การควบคุมจากระบบประสาท เมอื่ ระบบประสาทถกู กระต้นุ จะทาให้มกี ารหลั่งฮอรโ์ มนทันที เชน่ ฮอรโ์ มนจากตอ่ มใตส้ มอง ถ้ามกี ารกระตุ้นระบบ ประสาทจะมีการหล่งั ฮอร์โมนทช่ี ่วยในการหล่ังของฮอร์โมนอนื่ หรอื รีลิสซิงแฟคเตอร์ (releasing factor) หรอื ฮอร์โมนทย่ี บั ยงั้ การหลั่งของฮอร์โมนอน่ื หรืออนิ ฮบิ ิทงิ แฟคเตอร์ (inhibiting factor) จาก สมองส่วนไฮโพทาลามัส เข้าสู่กระแสเลือด แลว้ สารเหล่าน้ไี ปกระตุน้ หรือยบั ย้งั การหลัง่ ฮอร์โมน จาก ต่อมใต้สมองสว่ นหนา้ เสน้ เลอื ดทมี่ าเลีย้ งตอ่ มใต้สมอง เส้นเลือดท่มี าเลย้ี งต่อมใต้สมองมาจากเส้นเลือดแดง (internal carotid arteries) 3 เสน้ คอื ซูพีเรยี ไฮโพไฟเซียล (superior hypophyseal arteries) มาที่มเี ดียน เอมเิ นนส์ (median eminence) แลว้ ไปตามเสน้ เลือดพอร์ทลั แบบยาวทีต่ อ่ มใต้สมองส่วนหน้า ต่อมใต้สมองสว่ นหลัง ได้รบั เลือดมาจากเสน้ เลือดแดงชอ่ื มดิ เดิลและอินฟีเรยี ไฮโพ ไพเซียล (middle และ inferior hypophyseal arteries) ภาพที่ 5 เส้นเลอื ดท่ีมาเล้ยี งต่อมใต้สมองส่วนหนา้ ที่มา : https://il.mahidol.ac.th/e-media/hormone/chapter1/chapter1.htm(สืบค้นวนั ท่ี 16 พฤษภาคม 2560) วิชาชวี วิทยาเพม่ิ เติม (ว32242) ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ
ชดุ ท่ี 2 เรือ่ งฮอรโ์ มนจากตอ่ มใตส้ มอง 13 บัตรเน้อื หาท่ี 2.3 คาช้แี จง ให้นักเรยี นศกึ ษาบตั รเนอื้ หาที่ 1.3 เรือ่ ง ฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองสว่ นหน้า ฮอรโ์ มนจากตอ่ มใต้สมองส่วนหนา้ หรอื อะดิโนไฮโปไฟซีส (anterior pituitary gland หรอื adenohypophysis) เป็นโปรตนี ทาหน้าที่สร้างฮอรโ์ มน 2 ประเภทคือ 1. โทรปิกฮอร์โมนหรอื โทรฟนิ ฮอรโ์ มน (tropic หรือ trophin hormone) 2. เปปไทดฮ์ อรโ์ มน (peptide hormone) ภาพท่ี 6 การหล่งั ฮอรโ์ มนจากตอ่ มใตส้ มองสว่ นหนา้ ทมี่ า: http://1.bp.blogspot.com/-SeyeOWmwesU/T8jHCDmvHWI/AAAAAAAAAAY/iN4K33PV3Z8 /s1600/%E0%B8%9F%E0%B8%AB%E0%B8%81%E0%B8%94.png (สบื ค้นวันที่ 16 พฤษภาคม 2560) วิชาชีววทิ ยาเพ่ิมเตมิ (ว32242) ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวทิ ยาวฒุ ิ
ชดุ ท่ี 2 เรอื่ งฮอรโ์ มนจากตอ่ มใต้สมอง 14 โทรปิกฮอร์โมนหรอื โทรฟินฮอรโ์ มน (tropic หรอื trophin hormone) ฮอร์โมนบางตวั ควบคมุ การทางานของฮอรโ์ มนอนื่ ๆ เรียกฮอร์โมนท่ีทางานเช่นน้ีว่า โทรปกิ ฮอรโ์ มนไดแ้ ก่ (ปัจจุบันยงั มีความสับสนระหว่างคาหอ้ ยท้ายของคาเต็ม trophic และ tropic อยู่บา้ ง รากศพั ทค์ าวา่ tropic หมายถงึ แนว้ โน้ม การหนั ไปสู่ การนาไปสู่ สว่ น trophic หมายถงึ การหล่อ เลีย้ ง การกนิ การใชค้ าตอ่ ท้ายท้ังสองคานใี้ นขณะนจ้ี ะนิยมใชค้ าวา่ tropic กบั ฮอรโ์ มนเหลา่ น้ี มากกวา่ ) 1. อะดรโี นคอรต์ โิ คโทรปิกฮอรโ์ มน( adrenocorticotropic hormone : adrenocortico trophic hormone เรยี กยอ่ ว่าACTH) สรา้ งจากคอรต์ ิโคโทรปิกเซลล์ (corticotropic cell) มผี ล ควบคุมการสร้างของต่อมหมวกไตสว่ นนอก ( adrenal cortex) กระตนุ้ ให้มกี ารสรา้ ง ฮอร์โมนกลโู ค คอร์ติคอยดแ์ ละ มิเนราโลคอร์ติคอยด์ และถา้ มคี วามเข้มข้นของ ACTH มากๆ จะมีผลต่ออวยั วะอื่น ดว้ ย เช่นกระต้นุ เมลาโนไซท์ (melanocyte) หรือเซลล์มีสีทาใหผ้ ิวมสี ีคล้าข้นึ ในปัจจุบนั พบวา่ ผวิ หนังเป็นแหล่งสรา้ ง ACTH ดว้ ย ซ่งึ มีผลต่อเซลล์ของสีผวิ รากขน (hair follicle) และระบบภูมคิ ้มุ กันทผ่ี วิ หนงั (skin immune system) ซง่ึ อาจเปน็ สาเหตุของโรคผวิ หนงั บางชนิด และอาการแพห้ รอื การอักเสบจากผวิ หนังทพี่ บเน่อื งจากภาวะเครยี ด ภาพที่ 7 แสดงการกระตุน้ และยับยงั้ การสร้างฮอรโ์ มน ที่มา : https://il.mahidol.ac.th/e-media/hormone/chapter1/chapter1.htm(สืบค้นวนั ท่ี 16 พฤษภาคม 2560) จากภาพลกู ศรเสน้ สีดาเตม็ จะเป็นการแสดงการกระต้นุ การสร้างฮอร์โมน ลูกศรเสน้ ประจะ เป็นการแสดงการยับย้ังการสร้างฮอรโ์ มน วชิ าชวี วิทยาเพ่ิมเตมิ (ว32242) ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ
ชุดที่ 2 เร่อื งฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง 15 ฮอร์โมนคอร์ตโิ คโทรปนิ รีลิสซิงฮอรโ์ มน(corticotropin releasing hormone:CRH ) จากไฮโพทาลามสั กระตนุ้ การหลั่งของฮอร์โมน ACTH ท่ตี อ่ มใตส้ มองส่วนหนา้ ACTH จะกระตุ้นการ ทางานของตอ่ มหมวกไตสว่ นนอกให้สรา้ งฮอร์โมนคอรต์ ซิ อล เม่อื ฮอร์โมนมีปริมาณมาก จะไปยับยัง้ การสร้าง CRH 2. ไทรอยด์ สตมิ ูเลติงฮอรโ์ มน (thyroid stimulating hormone or thyrotropic hormone or thyrotropinเรียกยอ่ ว่า TSH) สร้างมาจากไทโรโทรปิกเซลล์ (thyrotropic cell) เป็น ฮอรโ์ มนทีไ่ ปกระตนุ้ ตอ่ มไทรอยดใ์ ห้สรา้ งไทรอยดฮ์ อร์โมน ภาพที่ 8 การทางานของไทรอยด์ สตมิ เู ลตงิ ฮอรโ์ มน ที่มา : https://il.mahidol.ac.th/e-media/hormone/chapter1/chapter1.htm(สบื คน้ วันท่ี 16 พฤษภาคม 2560) การทางานของไทโรโทรปนิ รีลิสซิงฮอรโ์ มน(thyrotropin releasing hormone: TRH) จากไฮโพทาลามสั มากระตนุ้ การหล่งั ของTSH ที่ตอ่ มใตส้ มองส่วนหน้า TSH จะกระต้นุ การสร้าง ไทรอยด์ฮอร์โมนทต่ี ่อมไทรอยด์และปริมาณของไทรอยดฮ์ อร์โมนท่ีเพียงพอแลว้ จะไปยับยั้งการสรา้ ง ของ TSH และTRH วิชาชวี วทิ ยาเพมิ่ เติม (ว32242) ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ
ชุดที่ 2 เรอื่ งฮอร์โมนจากต่อมใตส้ มอง 16 3. ลูทิไนซงิ ฮอรโ์ มน (luteinizing hormone เรียกย่อวา่ LH) หรืออนิ เตอรส์ ติเชียลเซลล์ สติมิวเลตงิ ฮอร์โมน (interstitial cell stimulating hormoneเรียกย่อวา่ ICSH) สร้างมาจากโกนาโด โทรปิกเซลล์ (gonadotropic cell) ถกู กระตุ้นโดยโกนาโดโทรปิน รลี สิ ซิง ฮอรโ์ มน (gonadotropin releasing hormone เรียกย่อวา่ GnRH) จากไฮโพทาลามัส ในเพศหญิงจะมผี ลตอ่ ฟอลลเิ คิลที่สุก แลว้ ทาใหเ้ กิดการตกไข่ (ovulation) และกระตนุ้ คอรป์ สั ลเู ทยี ม (corpus luteum) ให้สร้าง ฮอร์โมนโพรเจสเทอโรนในเพศชายจะกระตุน้ การสรา้ งแอนโดรเจน (androgen) โดยเฉพาะเทสโท สเทอโรน (testosterone) 4. ฟอลลเิ คลิ สตมิ ิวเลตงิ ฮอร์โมน (follicle stimulating hormone เรียกย่อวา่ FSH) สรา้ ง มาจากโกนาโดโทรปกิ เซลล์ (gonadotropic cell) ถกู กระต้นุ โดยโกนาโดโทรปนิ รลี ิสซิง ฮอรโ์ มน (gonadotropin releasing hormone GnRH) จากไฮโพทาลามัสในเพศหญงิ จะไปกระตนุ้ การเจริญ ของไขใ่ นรังไข่ และกระตุ้นรงั ไข่ใหส้ รา้ งฮอร์โมนอสี โทรเจน ในเพศชายจะกระตนุ้ การสร้าง สเปิร์ม (sperm) ภาพท่ี 9 การทางานของ โกนาโดโทรปนิ รีลสิ ซงิ ฮอรโ์ มน (GnRH) ที่มา : https://il.mahidol.ac.th/e-media/hormone/chapter1/chapter1.htm(สบื คน้ วนั ท่ี 16 พฤษภาคม 2560) การทางานของ GnRH จากไฮโพทาลามัสจะกระตนุ้ การสร้างของ LH และFSH ที่ตอ่ มใต้ สมองส่วนหนา้ LH และFSH ควบคมุ การทางานของรงั ไขแ่ ละอัณฑะ และเม่อื มีการสรา้ งฮอรโ์ มน เพยี งพอจะไปยบั ยั้งการหลงั่ LH, FSH และ GnRH TSH, LHและ FSH เป็นฮอร์โมนประเภทไกลโคโปรตนี ( glycoprotein) วชิ าชีววทิ ยาเพิม่ เติม (ว32242) ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ
ชุดที่ 2 เรื่องฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง 17 เปปไทด์ฮอร์โมน (peptide hormone) ฮอร์โมนกลุ่มน้ที ่ีมีผลโดยตรงกับอวยั วะเปา้ หมายอยู่ 2 ชนดิ ได้แก่ 1. โกรทฮอรโ์ มน( growth hormone) หรือโซมาโตโทรปนิ (somatotropin เรยี กยอ่ ว่า STH) สรา้ งจากโซมาโตโทรปกิ เซลล์ (somatotropic cell) ผา่ นทางโปรตีนตวั กลางคอื โซมาโทมดี ิน (somatomedin) ทาหนา้ ทกี่ ระต้นุ การสรา้ งโปรตีน โกรทฮอร์โมน (growth hormone) หรือโซมาโตโทรปิน (somatotropin hormone เรียก ยอ่ วา่ STH) สรา้ งจากโซมาโตโทรฟเซลล์ (somatotroph cell) ทต่ี ่อมใตส้ มองส่วนหนา้ ภาพท่ี 10 การหลั่งโกรทฮอรโ์ มน ท่มี า : https://il.mahidol.ac.th/e-media/hormone/chapter1/chapter1.htm(สบื คน้ วันท่ี 16 พฤษภาคม 2560) เรามาศกึ ษารายละเอยี ด เกี่ยวกับโกรทฮอร์โมนกนั ดกี ว่า วิชาชีววิทยาเพิม่ เตมิ (ว32242) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวทิ ยาวฒุ ิ
ชุดท่ี 2 เร่อื งฮอรโ์ มนจากตอ่ มใตส้ มอง 18 โครงสรา้ งของโกรทฮอรโ์ มน โกรทฮอร์โมนเป็นเปปไทดฮ์ อร์โมนทีป่ ระกอบดว้ ยกรดอะมิโน 191 หน่วย ยนี ทรี่ ับผิดชอบ การสร้าง ฮอรโ์ มนตวั น้อี ยทู่ ีแ่ ขนขา้ งยาวของโครโมโซมคู่ที่ 17 เซลล์รา่ งกายทกุ เซลลเ์ ป็นอวยั วะ เป้าหมายของฮอรโ์ มนนี้ ยกเวน้ เซลลป์ ระสาท โกรทฮอรโ์ มนเปน็ ฮอร์โมนที่สาคญั เก่ียวกบั การเจริญเติบโตตง้ั แตอ่ ยใู่ นครรภม์ ารดา จะเพ่มิ มากข้ึนตามการ เจรญิ เติบโตของร่างกายและสูงสุดเม่อื เขา้ สู่วยั รุน่ โกรทฮอร์โมนจะลดลงภายหลงั อายุ 20 ปี แล้วผลติ ด้วยอัตราคงท่ี เมอ่ื เข้าสวู่ ัยทองการสร้างฮอรโ์ มนนี้จะลดลงอย่างมาก(ประมาณ 60 เปอรเ์ ซ็นต)์ อตั ราการหลั่งโกรทฮอร์โมนเปล่ียนแปลง ได้ในประมาณ 24 ช่วั โมง(circadian rhythm) จะหลัง่ สงู สดุ หลังหลับสนทิ ประมาน 1 – 1.30 ชั่วโมง หน้าทข่ี องโกรทฮอร์โมน หน้าทโ่ี ดยตรงฮอรโ์ มนจับกบั เซลล์ท่ีมีตวั รับสัญญาณ (receptor) ของโกรทฮอร์โมนอยู่ โดยตรงแล้วทาใหม้ กี าร กระตุ้นการเปลยี่ นแปลงท่ีเซลล์นน้ั ได้แกต่ บั เน้ือเย่ือในระบบนา้ เหลอื ง แมคโคเฟจ และเซลลไ์ ขมนั (adipocyte) จะทาให้มีการสลายไทรกลเี ซอไรด์ และลดการขนถ่ายกรด ไขมนั เขา้ เซลล์ เป็นตน้ หน้าทีโ่ ดยอ้อมโกรทฮอรโ์ มนจะออกฤทธิผ์ ่านโซมาโทมีดิน (somatomedin) โดยเฉพาะโซ มาโทมีดนิ ซี หรือทเ่ี รียกวา่ ตัวกระต้นุ การเจรญิ เตบิ โตที่มโี ครงสร้างคล้ายอนิ ซูลิน(insulin-like growth factor-I : IGF-I) โดยโกรทฮอร์โมนจะกระต้นุ ให้มีการสร้าง IGF-I ซ่งึ ส่วนใหญเ่ กดิ ที่ตับ จากน้ัน IGF-I จะไปออกฤทธท์ิ อี่ วัยวะเปา้ หมายอีกทหี นง่ึ เม่ือเขา้ สู่วัยผูใ้ หญร่ ่างกายยงั ตอ้ งการ โกรทฮอรโ์ มนอกี หรือไม่.....มา ศกึ ษากนั ตอ่ ไป วชิ าชวี วทิ ยาเพมิ่ เตมิ (ว32242) ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ
ชดุ ท่ี 2 เรอื่ งฮอรโ์ มนจากต่อมใต้สมอง 19 การกระตุ้นการเจริญเตบิ โต การเจรญิ เตบิ โตเป็นขบวนการซบั ซอ้ น และอาศัยการทางานของหลายฮอรโ์ มน หน้าทีห่ ลัก ของโกรทฮอรโ์ มนคอื การกระตนุ้ ใหต้ บั และเนื้อเยอื่ หลั่ง IGF- I, ซงึ่ IGF-I น้จี ะกระตุ้น เซลลข์ องกระดกู อ่อน(cartilage cell or chondrocyte) ทาใหม้ กี ารแบง่ ตัว ของเซลล ์กระดกู อ่อน นอกจากนีย้ งั กระตุ้นการสรา้ งเน้ือเยอื่ ก่อนถึงปลายกระดกู ทปี่ ลายกระดูกออ่ น (epiphyseal plate)โดยกระตุ้นการ ขนถ่ายกรดอะมโิ นในการสรา้ งโปรตนี ทกี่ ล้ามเน้อื และเนือ้ เยื่ออนื่ ๆ ทาให้มีการแบง่ ตัวเพม่ิ จานวนเซลล์ (hyperplasia) และขยายขนาด (hypertrophy) เพม่ิ ขนึ้ เม่ือเขา้ สวู่ ยั ผู้ใหญร่ ่างกายเจริญเติบโตเตม็ ท่ีแล้ว ร่างกายยงั ตอ้ งการใชก้ รดอะมโิ น ในการ สร้างโปรตีนอยู่ เพื่อควบคมุ เมแทบอลซิ ึมของโปรตนี ไขมันและคาร์โบไฮเดรต ภาพที่ 11 การหล่งั ของโกรทฮอรโ์ มนและอวยั วะเป้าหมายที่สาคญั ของโกรทฮอร์โมน ท่มี า : https://il.mahidol.ac.th/e-media/hormone/chapter1/chapter1.htm(สืบคน้ วนั ท่ี 16 พฤษภาคม 2560) ผลต่อคารโ์ บไฮเดรตเมแทบอลิซึม หน้าที่สาคญั ประการหน่งึ คอื การเพมิ่ ระดบั น้าตาลในเลือด โกรทฮอร์โมนทาหนา้ ท่ียบั ยั้งการ ทางาน ฮอร์โมนอินซลู นิ ทาให้ปริมาณกลโู คสท่จี ะเข้าเซลลล์ ดนอ้ ยลงและยังรว่ มกับเซลลท์ ่ตี บั สลาย ไกลโคเจน (glycogen) เข้ากระแสเลือดเพ่มิ ขน้ึ ด้วย ผลตอ่ โปรตนี เมแทบอลิซมึ โกรทฮอรโ์ มนทางานโดยการกระตนุ้ การสรา้ งโปรตีนที่เนื้อเยื่อหลายชนิด โดยเพม่ิ การดูดซึม กรดอะมิโนเพอื่ นาไปสรา้ งเปน็ โปรตีน และลดการสลายโปรตีนจากเซลล์ ทาให้มกี ารสะสมของ ไนโตรเจนในรา่ งกายมากข้นึ และปรมิ าณไนโตรเจนจากสารยูเรีย (urea nitrogen) ทขี่ ับออก ทาง ปัสสาวะ ลดน้อยลง วชิ าชีววทิ ยาเพมิ่ เติม (ว32242) ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวทิ ยาวฒุ ิ
ชดุ ท่ี 2 เร่อื งฮอร์โมนจากตอ่ มใต้สมอง 20 ผลต่อไขมันเมแทบอลิซมึ โกรทฮอรโ์ มนกระตุ้นการใช้เซลล์ไขมัน โดยกระตนุ้ การสลายไทรกลเี ซอไรต(์ triglyceride) ทาใหไ้ ดก้ รดไขมนั อิสระ (free fatty acid) เพิม่ ข้ึน ทาให้เซลลอ์ ืน่ ๆเช่นเซลลก์ ลา้ มเน้อื นากรดไขมนั อสิ ระ ไปใชเ้ ปน็ พลังงานแทนกลโู คสได้มากขน้ึ ทาใหม้ ีสารคโี ตนท่ีไดจ้ ากการสลายไขมนั ในรา่ งกาย มากข้นึ การควบคุมการหลง่ั ของโกรทฮอรโ์ มน โกรทฮอร์โมนจะถกู ควบคมุ โดยระบบประสาทสว่ นกลางโดยผา่ นทางไฮโพทาลามสั คอื โกรท ฮอรโ์ มนรลี ีสซิงฮอรโ์ มน (GHRH) จากไฮโพทาลามัส จะกระตุ้นตอ่ มใตส้ มองส่วนหนา้ ใหม้ กี าร หลัง่ โก รทฮอร์โมนออกมา นอกจากนน้ั การนอนหลบั สนิทเปน็ ระยะเวลานาน การออกกาลงั กาย ความรสู้ กึ หวิ และการ รบั ประทานอาหารประเภทโปรตนี จะทาให้มกี ารสรา้ งโกรทฮอร์โมนมากข้ึน ภาวะระดับนา้ ตาลในเลอื ดต่า กรดไขมนั ในเลือดที่ลดลงและการเพม่ิ ขึ้นของกรดอะมิโน จะ เพมิ่ การหล่ังโกรทฮอร์โมน ถ้าระดับน้าตาลในเลอื ดสูงจะทาใหม้ ีการหลั่งโกรทฮอรโ์ มนลดลง การทางานของโซมาโตสแททิน( somatostatin : SS) ซึง่ เปน็ เปปไทด์ฮอรโ์ มนท่ีสร้าง มาจาก เน้ือเยอ่ื ต่างๆ ในร่างกาย รวมท้งั ท่ีไฮโพทาลามัสด้วย จะยับยง้ั ไมใ่ หม้ ีการหลั่งของโกรทฮอรโ์ มน ทีต่ อ่ ม ใต้สมองส่วนหน้า ภาพที่ 12 ปัจจยั ทีม่ ผี ลต่อการผลติ โกรทฮอร์โมน ที่มา : https://il.mahidol.ac.th/e-media/hormone/chapter1/chapter1.htm(สบื ค้นวนั ที่ 16 พฤษภาคม 2560) วิชาชีววิทยาเพิ่มเตมิ (ว32242) ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ
ชุดท่ี 2 เรื่องฮอรโ์ มนจากตอ่ มใต้สมอง 21 เกรลิน (ghrelin, ghreหมายถึงเจริญเตบิ โต : grow) เป็นเปปไทด์ฮอรโ์ มนท่ีสร้างจาก กระเพาะ อาหารจะไปจับกบั ตัวรบั สัญญาณท่ีต่อมใต้สมองสว่ นหน้า (ตวั รับสัญญาณของเกรลินคือ growth hormone secretagogue receptor : GHS-R.) ซงึ่ กระตุน้ การสร้างโกรทฮอรโ์ มนได้ ความผดิ ปกตขิ องโกรทฮอรโ์ มน เดก็ ทีข่ าดโกรทฮอรโ์ มนจะมหี นา้ ตาทด่ี ูอ่อนกวา่ อายุจรงิ รปู ร่างเตยี้ เล็กแต่สมส่วน อ้วนกลม เนอ่ื งจาก มไี ขมันสะสมบรเิ วณลาตวั มาก นา้ ตาลในเลือดต่า ถ้าเป็นเดก็ ชายมักมีอวยั วะเพศเลก็ ไม่ สมวยั การขาดโกรทฮอรโ์ มน ไมม่ ีผลกระทบตอ่ ระดับสติปัญญาของเด็ก (แต่มักมีปญั หาด้านจติ ใจ) เรยี กภาวะนว้ี า่ การเต้ยี แคระหรอื dwarfism ภาพที่ 13 การขาดโกรทฮอร์โมนทาให้ร่างกายเตยี้ แคระ (dwarfism) ท่ีมา : https://il.mahidol.ac.th/e-media/hormone/chapter1/chapter1.htm(สืบค้นวนั ท่ี 16 พฤษภาคม 2560) ร่างกายเตี้ยแคระไม่ได้เกิดจากการขาดโกรทฮอร์โมนเสมอไป บางคร้ังโกรทฮอร์โมน ใน กระแสเลือดปกติ แต่ตัวรับสัญญาณไม่ตอบสนองต่อโกรทฮอร์โมน ซ่ึงมักอาจเกิดจากการผ่าเหล่า (mutation)ของยีนของตัวรับสัญญาณ ทาให้โกรทฮอร์โมนทางานไม่ได้ เรียกการเต้ียแคระแบบนี้ว่า การเตี้ยแคระแบบลาร์สันหรือ การไม่ตอบสนองตอ่ โกรทฮอรโ์ มน (Larson dwarfism หรอื growth hormone insensitivity) วิชาชวี วทิ ยาเพมิ่ เตมิ (ว32242) ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ
ชดุ ท่ี 2 เรอื่ งฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง 22 ภาพท่ี 14 เปรยี บเทียบความสูงของเด็กท่ีมฮี อร์โมนไทรอยด์ตา่ ทมี่ า : https://il.mahidol.ac.th/e-media/hormone/chapter1/chapter1.htm (สืบคน้ วนั ท่ี 16 พฤษภาคม 2560) เปรยี บเทยี บความสงู ของเดก็ ท่ีมฮี อร์โมนไทรอยดต์ ่าและเดก็ เต้ยี แคระเน่ืองจากโกรทฮอรโ์ มน ตา่ กบั เดก็ ปกติอายุ 2 ปี และเดก็ ปกติอายุ 8 ปจี ะพบวา่ เด็กทไ่ี ทรอยด์ฮอรโ์ มนต่าจะตวั เตยี้ แขนขาสั้นเท่ากบั เดก็ อายุ 2 ปีและเต้ยี กว่าเด็กปกติ เดก็ ทเ่ี ต้ียแคระเนื่องจากขาดโกรทฮอรโ์ มนจะสมส่วน (สังเกตระดับกระดกู เชิงกราน) แต่เต้ยี กว่าเดก็ ปกติ ท่อี ายุเท่ากันอยมู่ ากเช่นกนั นอกจากภาวะขาดโกรทฮอรโ์ มน ( growth hormone) แลว้ การขาดไทรอยด์ฮอร์โมนและ ฮอรโ์ มนเพศ ยงั มผี ลทาให้ เด็กเตี้ยแต่การขาดไทรอยด์ฮอร์โมนมักหมีผลทางด้านสติปญั ญารว่ มดว้ ย การมีฮอรโ์ มนจากต่อมหมวกไตมากเกินไป ก็ทาให้เด็กมรี ปู ร่างอ้วนเตย้ี ได้ วชิ าชวี วทิ ยาเพ่มิ เตมิ (ว32242) ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวทิ ยาวฒุ ิ
ชุดท่ี 2 เรอื่ งฮอรโ์ มนจากต่อมใต้สมอง 23 2. โพรแลกทิน (prolactin) หรือ แมมโมโทรปนิ (mamotropin) สร้างจากแมมโมโทปกิ เซลล์ (mamotropic cell) หรือแลคโทโทรฟ ( lactotrophs) โพรแลกทิน โกรทฮอรโ์ มนเป็นฮอร์โมนประเภทโปรตนี (simple polypeptide) ภาพที่ 15 ฮอรโ์ มนของต่อมใตส้ มอง อวยั วะเป้าหมาย และฮอรโ์ มนที่หลงั่ โดยอวัยวะเปา้ หมาย ท่ีมา : https://il.mahidol.ac.th/e-media/hormone/chapter1/chapter1.htm (สืบค้นวนั ที่ 16 พฤษภาคม 2560) โพรแลกทนิ (prolactin) เป็นโปรตีนสายเดียวทโ่ี ครงสร้างคลา้ ยกับโกรทฮอร์โมน ประกอบด้วยกรดอะมิโนประมาณ199 หนว่ ย หลั่งจากตอ่ มใตส้ มองสว่ นหนา้ ในปีคศ. 1920ไดม้ กี าร คน้ พบโพรแลกทนิ โดยการใช้ต่อมใต้สมองสว่ นหนา้ ฉดี เขา้ ไปในกระตา่ ยท่ียงั ไมม่ ีเพศสัมพนั ธ์ ปรากฏ วา่ กระตา่ ยมกี ารสร้างนา้ นมขน้ึ มาได้ ภาพท่ี 16 โครงสร้างของเต้านม ทีม่ า : https://il.mahidol.ac.th/e-media/hormone/chapter1/chapter1.htm (สืบค้นวันที่ 16 พฤษภาคม 2560) วิชาชีววทิ ยาเพิ่มเติม (ว32242) ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ
ชดุ ท่ี 2 เรือ่ งฮอรโ์ มนจากต่อมใต้สมอง 24 เรามาศกึ ษารายละเอยี ดเก่ยี วกับ โพรแลกทนิ กันดกี ว่า หนา้ ที่ของฮอร์โมนโพรแลกทนิ เมอื่ เขา้ สวู่ ยั รนุ่ ฮอร์โมนอสี โทรเจนจะกระตุ้นใหม้ ีการเจรญิ เติบโตของเต้านม มกี ารสรา้ งสาขา ของท่อนา้ นม(duct)ออกมากขึน้ หลังจากน้ันอีสโทรเจนจะใหโ้ พรเจสเทอโรนร่วมทางานทาใหท้ ่อ นา้ นมและถงุ นา้ นม(alveoli)เจริญอยา่ งสมบรู ณ์ เตา้ นมมีขนาดใหญข่ ้นึ ตึงตวั ขนึ้ (glandular development) ในขณะตั้งครรภ์ฮอร์โมนท้งั หมดน้จี ะมีจานวนมากขึ้นทาใหเ้ ตา้ นมมีขนาดใหญข่ ้นึ แตโ่ พรแลกทนิ ยังไม่ได้กระตุ้นการสรา้ งน้านมเพราะถกู ยบั ยั้งโดยฮอร์โมนอีสโทรเจนทส่ี รา้ งจากรกใน ระดับสงู ในระดับที่สงู ระหว่างต้งั ครรภ์ หลงั คลอดรกลอกตวั แล้วระดับฮอร์โมนอีสโทรเจนลดนอ้ ยลง และการดูดนมของทารกจะกระตนุ้ โพรแลกทินใหท้ างานไดเ้ ตม็ ท่ี ในขณะท่ตี ่อมใต้สมองส่วนหลังจะมี การหลั่งออกซโิ ทซินออกมากระตนุ้ ใหถ้ งุ นา้ นมขับนา้ นมออกมาสู่ท่อนา้ นมแลว้ มาท่หี วั นม(nipple) ภาพท่ี 17 การกระตุ้นการเจรญิ เตบิ โตของเตา้ นมและการหล่ังนา้ นม ทีม่ า : https://il.mahidol.ac.th/e-media/hormone/chapter1/chapter1.htm (สบื ค้นวนั ที่ 16 พฤษภาคม 2560) วชิ าชีววิทยาเพิ่มเตมิ (ว32242) ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ
ชุดท่ี 2 เร่ืองฮอร์โมนจากตอ่ มใตส้ มอง 25 หน้าท่ี - กระตุ้นการสังเคราะหน์ ้านม (lactogenesis) ซึ่งเปน็ แหล่งอาหารที่สาคญั ของทารก - กระตุ้นใหต้ ่อมนา้ นมหล่งั นา้ นมออกมา ซึ่งจะหลง่ั ออกมาวนั ท่ี 3-4 หลังคลอด - มีความสาคัญในระบบสืบพันธ์ุ ไดแ้ ก่ เป็นฮอรโ์ มนทสี่ าคัญในชว่ งการตัง้ ครรภ์ของสัตวบ์ าง ชนดิ เชน่ สนุ ขั โรเด็นท์ (rodent) และเปน็ ฮอร์โมนทส่ี าคญั ในสัญชาติญาณของการเปน็ มารดาในสัตว์ บางชนิด(maternal behavior) เช่น การทารัง เป็นตน้ นอกจากนโ้ี พรแลกทินมีสว่ นเกย่ี วขอ้ งกบั การทางานของระบบภมู ิค้มุ กัน( immune function) โดยจากการศึกษาพบวา่ หนทู ี่ทดลองเอายนี โพรแลกทินออกจะมีความผิดปกติของ ภมู ิค้มุ กนั ทัง้ นีเ้ น่อื งจากพบตัวรับสัญญาณโพรแลกทนิ ในเซลล์ของระบบภูมิค้มุ กัน เช่น ลมิ โพไซด์ (lymphocytes) บางชนดิ การควบคุมการหล่ังของฮอร์โมน โพรแลกทิน ฮอรโ์ มน โพรแลกทิน (prolactin : PRL) กระตุ้นให้เกิดการสร้างและหล่ังน้านม (lactation) ในระยะใหน้ มบตุ ร โดย PRL มีผลโดยตรงต่อเนอ้ื เยื่อและตอ้ งอาศัยการออกฤทธ์ขิ องฮอร์โมนอนื่ ร่วม ด้วย เช่นอสี โทรเจน(estrogen) โพรเจสเทอโรน(progesterone) คอรต์ โิ คสเตอโรน (corticosterone) และอนิ ซูลิน (insulin) เม่อื ต่อมนา้ นมไดร้ ับฮอรโ์ มนเหล่านก้ี ่อนแลว้ PRL จงึ จะทา ใหเ้ กดิ การหลั่งนา้ นมได้ การหลัง่ ของ PRL ถกู ควบคุมโดยโพรแลกทนิ รีลสิ ซิงฮอร์โมน แฟคเตอร์(prolactin releasing hormone factor: PRF) และโพรแลกทนิ อนิ ฮบิ ิทงิ ฮอรโ์ มน(prolactin inhibiting hormone:PIF ) จากไฮโพทาลามัส โดยมีการเปล่ียนแปลงการหลัง่ ตามการเปลีย่ นแปลงของ ฮอรโ์ มน เพศในรอบเดอื น( menstruation cycle) วิชาชีววทิ ยาเพม่ิ เติม (ว32242) ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ
ชุดท่ี 2 เร่ืองฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง 26 ในช่วงระยะทมี่ กี ารเพมิ่ ของเซลล์เยอื่ บุมดลกู กอ่ นที่มกี ารตกไข่ จะมีPIF จากไฮโพทาลามสั ไป ยบั ยง้ั การหล่งั PRF ที่ต่อมใต้สมองส่วนหนา้ เมือ่ ระดับอสี โทรเจนและโพรเจสเทอโรนลดน้อยลง ใน ระยะท้ายของหลังไข่ตก การหล่งั PIF จะลดน้อยลง ระดบั ของ PRF จะสูงขึ้น อย่างไรก็ตามระดบั ของ PRF ในเลอื ดไมน่ านพอท่จี ะมผี ลต่อเต้านม แต่ในบางคนอาจทาให้เต้านมนุ่มในรอบกอ่ นทจ่ี ะมี ประจาเดอื น ความผดิ ปกตขิ องการหล่ังโพรแลกทนิ ฮอรโ์ มน การมภี าวะโพรแลกตินในกระแสโลหติ สงู หรอื เรยี กว่าไฮเปอร์โพรแลคตนิ อเี มีย (hyperprolactinemia) ท่ีพบบอ่ ยคือการมฮี อร์โมนเพ่มิ มากเกินไป ซง่ึ อาจเกิดจากการมเี น้ืองงอกท่ี ต่อมใตส้ มอง ทาใหม้ กี ารหล่งั ฮอรโ์ มนออกมามากทาให้ระงบั การตกไข่จงึ ไมม่ ีบุตร(infertile) ไม่มรี อบ ระดูหรอื อะเมนนอรเี รยี (amenorrhea ) มีน้านมไหลหรือกาเลคโตเรยี (galactorrhea) ถา้ พบใน ผ้ชู ายจะทาให้ความรู้สึกทางเพศตรงข้ามลดลงและหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (impotence) เป็นหมนั เต้านมขยายเหมือนผู้หญิง (gynaecomastia) วิชาชีววิทยาเพิม่ เติม (ว32242) ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวทิ ยาวฒุ ิ
ชุดที่ 2 เรอ่ื งฮอรโ์ มนจากตอ่ มใตส้ มอง 27 บตั รเนอื้ หาท่ี 2.4 คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นศึกษาบัตรเน้ือหาที่ 2.4 เร่ือง ฮอรโ์ มนจากต่อมใต้สมองส่วนกลาง ความสาคัญของต่อมใตส้ มองส่วนกลาง ต่อมใตส้ มองสว่ นกลาง (pars intermedia หรือ Intermediate lobe) สว่ นใหญใ่ นมนุษย์ ตอ่ มนีไ้ มท่ างาน ฝอ่ ไปแลว้ แตใ่ นสตั ว์พบว่าต่อมใตส้ มองสว่ นกลาง และคอรต์ โิ คโทรฟ (corticotroph) ของตอ่ มใต้สมองส่วนหน้าสามารถสรา้ งโมเลกลุ ตั้งต้น ซึ่งถูกตดั (cleaved) เป็น ฮอรโ์ มนไดห้ ลายตวั ร้จู ักในชื่อโพรโอพโิ อเมลาโนคอร์ติน (proopiomelanocortin เรยี กยอ่ ว่า POMC ) และสรา้ งได้ท่ไี ฮโพทาลามัส ปอด กระเพาะ ลาไส้ และรก ฮอรโ์ มนท่ีหลง่ั จากตอ่ มใต้สมองส่วนกลาง คอื เมลาโนไซท์ สตมิ เู ลติง ฮอร์โมน (melanocyte stimulating hormone เรียกยอ่ วา่ MSH) สรา้ งจากเซลล์เมลาโนไซท์ (melanotropic cell) ในพาร์สอินเตอร์มเี ดียของตอ่ มใตส้ มอง เป็นพอลิเปปไทด์ฮอรโ์ มน ประกอบด้วยกรดอะมิโน 35 - 41 หน่วย ซง่ึ เป็นตวั กระต้นุ ใหม้ ีการสรา้ งเม็ดสีเมลานนิ (melanin pigment ) ที่ผิวหนัง โดยกระตนุ้ การกระจาย ของเมลานิน (melanin) ในเมลาโนไซท์ (melanocyte ) ถา้ ขาด MSH ผิวหนังจะซีดขาว ถ้า MSH มากเกนิ ไปผวิ หนังจะเข้มดา มบี างรายงานไดก้ ล่าวถึงบทบาทของMSH ว่ากดความรู้สกึ เจริญอาหารในสมอง โดยพบวา่ ผู้ ที่อว้ นมากๆ จะมีการผา่ เหลา่ หรอื มีสารพนั ธุกรรมที่สร้างMSH เปลย่ี นไป สว่ นหนา้ ท่ีอื่นๆยงั ไมท่ ราบ แนช่ ัดและเนอื่ งจากในมนษุ ยต์ อ่ มใตส้ มองสว่ นนี้ฝ่อไปแล้ว ดังนน้ั MSHทีต่ รวจได้จงึ เป็นเปปไทด์ท่ีหลั่ง จากต่อมใต้สมองส่วนหนา้ ที่ได้จากการสลาย ACTH ในเซลลค์ อร์ทิโคโทรฟ ( corticotroph) การสังเคราะห์ POMC จะถกู เปลย่ี นเป็น ACTH และเบตาไลโปโทรฟนิ ( β- lipotrophin : β -LPH) และบางส่วนของเบตา เอนดอร์ฟนิ (β – endorphin) มีฤทธิเ์ ปน็ สารกลอ่ มประสาท และมีการสรา้ งเมลาโนโทรปิน แอลฟา (melanotropins a)และ เบตา เอ็ม เอส เอซ ( β MSH) ทัง้ α -MSH และ β- MSH ไม่พบในมนษุ ย์ วิชาชวี วทิ ยาเพ่มิ เติม (ว32242) ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ
ชุดที่ 2 เร่ืองฮอรโ์ มนจากต่อมใตส้ มอง 28 เมลาโนไซท์ สติมเู ลติง ฮอร์โมน (melanocyte stimulating hormone) เมลาโนไซท์ สตมิ ูเลตงิ ฮอร์โมน (melanocyte stimulating hormone เรียกยอ่ วา่ MSH)ทา หนา้ ที่ ดังนี้ การควบคุมสผี ิว (control of skin coloration)ปลา สตั วเ์ ลอื้ ยคลาน และสัตว์ครึ่งบกครง่ึ นา้ เปลี่ยนสีผวิ เพื่อควบคุมอุณหภมู ิของร่างกาย พรางตา และแสดงการดึงดดู เพศตรงขา้ ม ซึง่ เกดิ จาก การเคลือ่ นทห่ี รือขับเมด็ สีดา หรือนา้ ตาล เล็กๆออก หรือเข้าไปในเซลล์ที่เรยี กวา่ เมลาโนฟอร์ (melanophore) สารเมด็ เลก็ ๆน้ีเรยี กว่าสารมีสดี าหรือเมลานนิ (melanin) สร้างจากโดปา (dopa) และโดปาควนิ โนน (dopaquinone) การเคลอื่ นที่ของสารมสี เี ลก็ ๆนถี้ กู ควบคมุ โดยฮอรโ์ มน และสาร สอื่ ประสาทหลายชนดิ ได้แก่ α-MSH, β - MSH, เมลาโทนนิ และแคททีโคลามนี สัตว์เล้ยี งลกู ด้วยนมไมม่ เี มลาโนฟอร์ (melanophore) ทจ่ี ะมารวมกัน หรือกระจายออกไป ไดเ้ หมือนสัตวเ์ หล่านี้ แต่สัตว์เลีย้ งลกู ดว้ ยนมมเี ซลล์ เมลาโนไซท์ (melanocyte) ซึง่ สรา้ งเมลานินได้ พบวา่ การให้ MSH ในผปู้ ว่ ยจะกระตนุ้ การสรา้ งเมลานิน ซ่ึงทาใหผ้ วิ เข้มขนึ้ ได้ใน 24 ช.ม. แม้วา่ α- MSH และ β - MSH จะใช้ไมไ่ ดใ้ นมนษุ ย์ แตเ่ มลาโนไซท์ จะมีเมลาโนโทรบนิ ซึง่ ACTH จะสามารถ จบั กับตวั รับน้ีและกระตุ้นใหผ้ วิ เขม้ ข้ึนได้ การมีสีผิวเขม้ ข้นึ ในมนุษย์การเปลี่ยนสีผิวท่เี กิดจากโรคทางตอ่ มไรท้ ่อในมนุษย์สว่ น ใหญเ่ กิดจากการไหลเวียนของ ACTH ถ้าผิวซดี มักเกิดจากการทางานของไฮโพทาลามัสน้อย ถ้าผิวเขม้ มักพบในผปู้ ่วยที่เปน็ โรคของต่อมหมวกไตทางานน้อย นอกจากนพ้ี บวา่ ผิวหนงั เป็นแหล่งผลิต ACTH และ MSH จากโมเลกุลของPOMC ทสี่ าคญั ฮอรโ์ มนเหล่านี้มผี ลตอ่ รากขน (hair follicles) ตอ่ มนา้ มนั (sebaceous glands) และระบบ ภูมิคมุ้ กนั ที่ผวิ หนัง การควบคุมการหล่งั MSH การหล่งั MSH ถกู กระตนุ้ โดยเมนาโนไซท์ สตมิ ิวเลติงฮอร์โมนรีลีสซงิ แฟคเตอร์ (melanocyte stimulating hormone releasing factor : MSH-RF)ถกู ยับย้ังโดยเมนาโนไซท์ สติ มิวเลตงิ ฮอรโ์ มนอินฮบิ ิตงิ แฟคเตอร์ (melanocyte stimulating hormone inhibiting factor : MSH-IF) วิชาชวี วทิ ยาเพม่ิ เตมิ (ว32242) ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ
ชดุ ท่ี 2 เรอื่ งฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง 29 บัตรเน้อื หาท่ี 2.5 คาช้แี จง ให้นกั เรยี นศกึ ษาบตั รเน้อื หาท่ี 2.5 เร่อื ง ฮอรโ์ มนจากต่อมใต้สมองส่วนหลงั ฮอร์โมนจากตอ่ มใตส้ มองส่วนหลงั ต่อมใตส้ มองส่วนหลังเจรญิ มาจากเน้ือเย่ือประสาท (ตอ่ มใตส้ มองสว่ นหน้าเจรญิ มาจาก เพดานปากของตัวอ่อน) ต่อมใต้สมองสว่ นหลงั เป็นท่ีเกบ็ ฮอร์โมนสองชนิดทห่ี ลงั่ จากไฮโพทาลามัส ฮอร์โมนนวิ โรไฮโพไฟซิส (neurohypophysis : PN) เปน็ ท่สี ิน้ สดุ ของเสน้ ประสาทแอกซอน (axon) ของนวิ โรซคี รที อรีเซลล์ ที่ตวั เซลล์อยู่ที่ไฮโพทาลามสั คอื 1. พาราเวนทรคิ วิ ลาร์ นวิ คลีอาย (paraventricular nuclei : PVN) เซลล์สว่ นใหญ่ สร้างออกซิโทซนิ สว่ นน้อยสรา้ งวาโซเพรสซนิ 2. ซพู ราออฟติก นวิ คลอี าย (supraoptic nuclei : SON) เซลล์ส่วนใหญส่ รา้ งวาโซเพรสซนิ มบี างส่วนสรา้ งออกซโิ ทซนิ ฮอร์โมนทงั้ สองชนดิ ถกู สง่ มาตามเสน้ ประสาทแอกซอน (axon) แล้วเกบ็ ไว้ท่ีนิวโรไฮโพไฟซิส โดยจับกับโปรตีนตัวพา (carrier protein) ชือ่ นวิ โรไฟซนิ (neurophysin) ปลายเสน้ ประสาท จะไป สน้ิ สุดทน่ี วิ โรไฮโพไฟซิส เรียกวา่ ใยประสาท ไฮโพทาลาโม -ไฮโพไฟเซียล (hypothalamo - hypophyseal tract) บริเวณนวิ โรไฮโพไฟซิส ประกอบดว้ ยเซลล์เรยี กว่า พิทูอิไซท์ (pituicyte) ภาพท่ี 18 การหลั่งฮอร์โมนจากตอ่ มใต้สมองสว่ นหลงั ทมี่ า : https://il.mahidol.ac.th/e-media/hormone/chapter1/chapter1.htm (สบื ค้นวนั ท่ี 16 พฤษภาคม 2560) วิชาชวี วิทยาเพม่ิ เติม (ว32242) ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวทิ ยาวฒุ ิ
ชุดที่ 2 เรอ่ื งฮอรโ์ มนจากต่อมใต้สมอง 30 1. ทงั้ พาราเวนทริคิวลาร์ นวิ คลอี ายและซูพราออฟติก นิวคลอี ายในไฮโพทาลามัส มเี ซลล์ ประสาทท่ีสรา้ ง ทั้งวาโซเพรสซินและออกซิโทซนิ แล้วแต่ชนดิ ของเซลลป์ ระสาทในนน้ั ว่าจะสรา้ งวา โซเพรสซินหรอื ออกซโิ ทซนิ 2. ฮอร์โมนจะเคลือ่ นที่ตามเสน้ ประสาทแอกซอนมาเกบ็ ไวท้ ต่ี อ่ มใต้สมองสว่ นหลัง 3. เมือ่ เซลล์ประสาทได้รับการกระตนุ้ ฮอร์โมนทีเ่ ก็บไวจ้ ะถูกหลง่ั เข้าสู่กระแสเลอื ดไปยัง อวยั วะเป้าหมาย จากการทดลองถ้ามกี ารตัดต่อมใตส้ มองส่วนหลงั ออกไปพบว่ามอี าการเบาจดื เกิดขน้ึ ชว่ั คราว แตถ่ ้าตัดไฮโพทาลามสั ออกไป อาการเบาจดื จะเกิดข้ึนอย่างถาวร แสดงใหเ้ หน็ วา่ ต่อมใต้สมองส่วน หลงั ไม่ได้เป็นต่อมทส่ี ร้างฮอร์โมน แตเ่ ป็นทเี่ กบ็ ฮอร์โมน ทส่ี รา้ งจากไฮโพทาลามัส ฮอรโ์ มนทส่ี ร้างข้ึน จะเคล่ือนทีไ่ ปตามนวิ โรซคี รีทอรีเซลล์ไปท่ีตอ่ มใต้สมองสว่ นหลงั ถา้ ตัด ตอ่ มใต้สมองส่วนหลังออก ฮอรโ์ มนจะเคลือ่ นท่ีไปตามเเอกซอน (axon) ไปเรอ่ื ยๆ เมื่อถูกกระตนุ้ ก็จะมกี ารหลง่ั ออกมา จึงทาให้ อาการเบาจืดเปน็ แค่ชั่วคราว ฮอรโ์ มนจากต่อมใต้สมองสว่ นหลัง 1. วาโซเพรสซนิ (vasopressin)หรือ แอนตไิ ดยเู รตกิ ฮอร์โมน (antidiuretic hormone) เป็นเปปไทดฮ์ อร์โมน ที่ไดช้ ื่อเช่นน้เี พราะเป็นฮอรโ์ มนท่ที าให้เสน้ เลือดหดรัดตวั และลดการหล่งั ปัสสาวะเรยี กช่ือยอ่ วา่ ADH รอ้ ยละ 70 ของสารในร่างกายคือน้า แม้ว่าเราจะด่ืมนา้ วันละมากๆ หรอื เสียเหงอื่ ในวันท่ีมี อากาศร้อนมากๆ แต่ความเขม้ ข้นของสารนา้ ในร่างกายยังปกติ นอกจากการทางานของไตแล้ว ฮอร์โมนท่สี าคญั ทค่ี วบคมุ ให้รา่ งกายมีสารน้าปกติคือ แอนตไิ ดยูเรตกิ ฮอรโ์ มน (antidiuretic hormone) วาโซเพรสซนิ ประกอบด้วยกรดอะมิโน 9 หนว่ ย คลา้ ยกับฮอรโ์ มนออกซโิ ทซนิ แตต่ ่างกนั อยู่ เล็กน้อย ทาให้การทางานแตกต่างกนั ไป ตาแหนง่ ท่ี 8 ของวาโซเพรสซนิ คอื กรดอะมิโนอารจ์ นิ นี (arginine) บางคร้งั จึงเรียกวา่ อารจ์ ินนี วาโซเพรสซนิ มีสตู รโครงสรา้ งดงั น้ี วิชาชวี วิทยาเพม่ิ เตมิ (ว32242) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ
ชุดที่ 2 เรอื่ งฮอร์โมนจากต่อมใตส้ มอง 31 ภาพท่ี 20 สูตรโครงสรา้ งของADH และออกซโิ ทซิน ทม่ี า : https://il.mahidol.ac.th/e-media/hormone/chapter1/chapter1.htm (สืบคน้ วันที่ 16 พฤษภาคม 2560) สตู รโครงสร้างของADH และออกซิโทซนิ ประกอบดว้ ยกรดอะมโิ น 9 หน่วย มพี ันธะไดซัลไฟด์ เชอ่ื มระหว่างกรดอะมโิ น ซัสเตอีนตาแหนง่ ท่ี 1 และ 6 จับกันเป็นวงแหวนและต่างกบั ออกซโิ ทซนิ ตาม ภาพ ทาหน้าท่ีในการดูดน้ากลับทีท่ ่อไต และทาให้ปรมิ าณของปสั สาวะลดนอ้ ยลง ทาให้ปรมิ าตรของ เลือดในรา่ งกายเพม่ิ มากขน้ึ ความดันโลหิตปกติ หน้าที่ของวาโซเพรสซิน (vasopressin) 1. ทาใหส้ ารนา้ ในรา่ งกายปกติเมือ่ ใดกต็ ามทีร่ ่างกายขาดนา้ ซึง่ อาจเกิดจากการเสียเหง่อื อจุ จาระรว่ ง (diarrhea) ฮอรโ์ มน ADH จะทาให้ร่างกายขับปสั สาวะนอ้ ยลง หรอื เมอื่ ไฮโพทาลามสั ร้สู กึ วา่ ร่างกายมีความเข้มขน้ ของเกลอื (saltiness) มากเกินไป ร่างกายจะหลั่ง ADH มากข้ึน 2. การเขม้ ขน้ ของสารเหลวในรา่ งกายปกติความเขม้ ขน้ ของสารในกระแสเลือดประเภทที่ เรียกว่าออสโมลาริติ (osmolarity) เกีย่ วขอ้ งกับความเข้มขน้ ของสารโดยรวม รวมทง้ั ประจโุ ดยรวม จะสง่ สญั ญาณผา่ นกระแสประสาทไปท่ไี ฮโพทาลามัส (ซึง่ รู้จกั ในชอ่ื ออสโมรเี ซฟเตอร์ (osmoreceptor)กระต้นุ ให้กระแสประสาทให้หลั่ง ADH ในขณะท่รี า่ งกายสูญเสียสารเหลวหรือเลอื ดในรา่ งกายเปน็ จานวนมาก ฮอรโ์ มน ADH จะหลัง่ ออกมามากขึน้ ทาให้เส้นเลือดหดตวั เสน้ เลอื ดแคบลงทาให้ความดนั เลือดสงู ข้ึน วชิ าชวี วิทยาเพิ่มเติม (ว32242) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ
ชุดที่ 2 เรอ่ื งฮอรโ์ มนจากตอ่ มใต้สมอง 32 ความผิดปกติของการหล่ังฮอร์โมน ภาพที่ 21 ผูป้ ่วยเบาจืดจะรูส้ ึกกระหายน้าเป็นอยา่ งมากและปสั สาวะบ่อย ทมี่ า : https://il.mahidol.ac.th/e-media/hormone/chapter1/chapter1.htm (สบื คน้ วันท่ี 16 พฤษภาคม 2560) โรคทพ่ี บบ่อยไดแ้ ก่ ไไดอะปทิ สิ อนิ ซิปิดัส (diabetes insipidus) ซ่ึงเกดิ จาก 2ประการดงั น้ี 1. ไฮโพทาลามกิ ไดอะบิทสิ อนิ ซิปดิ ัส (hypothalamic diabetes insipidus) คือมีการหลง่ั ADH จากตอ่ มไฮโพทาลามัสได้นอ้ ย ซ่ึงอาจเกิดจากไดร้ ับอบุ ตั เิ หตุที่สมอง หรอื การติดเชอ้ื 2. เนฟโฟจินกิ ไดอะบิทสิ อนิ ซิปดิ สั (nephrogenic diabetes insipidus) เกดิ จากไตไม่ สามารถตอบสนองตอ่ ADH มกั เกดิ จากโรคทีเ่ กดิ ที่ไต ภาวะกลายพันธุ์ (mutation) หรือการผ่าเหล่า ของยีนของ ADHทาให้เกิดการสรา้ งฮอรโ์ มน ADH ท่ผี ิดปกติ ซึง่ อาการแสดงท่ีปรากฏ คอื มีการหล่งั ปสั สาวะออกมาอย่างมาก เช่นการหลั่งปสั สาวะได้16 ลติ ร/ วนั ทาให้ต้องการน้าทดแทน อยา่ งมาก ซงึ่ ถา้ ใหก้ ารทดแทนไมเ่ พียงพอจะเปน็ อันตรายต่อร่างกายได้ การรกั ษาโดยให้ ADH สงั เคราะห์ 2. ออกซโิ ทซิน (oxytocin) โครงสรา้ งของออกซโิ ทซนิ สร้างจากซูพราออฟติก นวิ เคลียส (supraoptic nucleus) เป็นสว่ นมากและพาราเวนทรคิ ลู า นิวเคลียสเป็นสว่ นนอ้ ย เปน็ เปปไทด์ฮอร์โมนทมี่ ีกรดอะมิโน 9 หนว่ ย คลา้ ยฮอร์โมน ADH ตา่ งกนั เล็กนอ้ ยทาใหก้ ารทางานตา่ งกันบา้ ง สรา้ งจากเซลลป์ ระสาทไฮโพทาลามสั แล้วขนถ่ายผา่ น เซลล์ ประสาทเเอกซอน (axon) ไปทต่ี อ่ มใต้สมองส่วนหลัง (hypopituitary gland) นอกจากนยี้ ังสามารถ สรา้ งที่สมอง และเซลล์อ่ืนไดบ้ ้าง เชน่ ทรี่ ังไข่ และอณั ฑะ วิชาชีววิทยาเพมิ่ เติม (ว32242) ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวทิ ยาวฒุ ิ
ชดุ ท่ี 2 เรอ่ื งฮอรโ์ มนจากต่อมใตส้ มอง 33 ภาพท่ี 22 โครงสร้างฮอรโ์ มนออกซิโทซนิ และแอนติไดยเู รตกิ ฮอร์โมน หรอื วาโซเพรสซนิ ทีม่ า : https://il.mahidol.ac.th/e-media/hormone/chapter1/chapter1.htm (สืบคน้ วันที่ 16 พฤษภาคม 2560) หนา้ ทีข่ องฮอร์โมนออกซโิ ทซนิ 1. กระตุ้นการหดรดั ตัวของกลา้ มเนอื้ เรยี บของมดลูกของหญิงมคี รรภ์ ในการคลอดบตุ ร ใน ระยะใกล้คลอด จะพบว่ามีออกซิโทซิน รีเซฟเตอรเ์ พม่ิ มากขึ้นอยา่ งมาก ซ่งึ จะทาให้มีการหดรัดตวั ของมดลกู ถขี่ ้ึนในระยะใกล้คลอด และในระยะคลอด ในขณะคลอดถ้ามกี ารกระตนุ้ การถ่ายขยายของ ปากมดลูกจะทาให้มกี ารหลงั่ ของออกซิโทซนิ เพ่มิ มากขนึ้ 2. กระตนุ้ การหลัง่ น้านม (milk ejection) ทาให้กลา้ มเน้ือของตอ่ มน้านม บบี ตวั ให้หลั่ง น้านมออกมา เมอื่ นา้ นมถกู สรา้ งขึ้นจะไปเก็บไวใ้ นถงุ น้านม ซึง่ เรยี กวา่ อะวโี อไล (alveoli) เพือ่ เตรยี ม ไว้ให ท้ ารก อะวีโอไลจะล้อมรอบดว้ ยกลา้ มเนอ้ื เรียบทีเ่ รียกว่า เซลล์ไมโออปิ ทิ ีเลียม (myoepithelial cell) ซ่งึ เป็นเซลล์เปา้ หมาย (target cell) ของออกซิโทซนิ ออกซโิ ทซนิ จะกระตุน้ ให้มีการหดรดั ตัว ของกลา้ มเน้อื เรยี บน้ี ทาใหน้ ้านมท่ีสรา้ งไว้แล้วไหลเข้าไปสู่ทอ่ นา้ นมเมื่อทารกดดู วิชาชีววทิ ยาเพมิ่ เตมิ (ว32242) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวทิ ยาวฒุ ิ
ชดุ ท่ี 2 เรื่องฮอรโ์ มนจากต่อมใต้สมอง 34 ภาพท่ี 23 การทางานของฮอรโ์ มนออกซิโทซิน ที่มา : https://il.mahidol.ac.th/e-media/hormone/chapter1/chapter1.htm (สบื คน้ วนั ที่ 16 พฤษภาคม 2560) เม่ือทารกดดู นม จะส่งกระแสประสาทผา่ นไขสนั หลัง ไปยงั เซลล์ประสาท ทส่ี รา้ งฮอร์โมน ในไฮโพทาลามสั ทาใหม้ ีการสร้างออกซโิ ทซิน และมาเกบ็ ไวท้ ต่ี อ่ มใต้สมองส่วนหลงั และแพร่เขา้ ไปใน กระแสเลอื ด ไปทางานโดยกระตุ้นกลา้ มเนอ้ื เรียบท่ีต่อมนา้ นม ให้บบี ตัวให้น้านมทสี่ รา้ งไว้แลว้ ให้ไหล ออกมาตามท่อนา้ นมไปทห่ี ัวนมแล้วเขา้ ปากทารก 3. ฮอรโ์ มนออกซโิ ทซนิ จะกระตนุ้ ใหม้ ารดามีพฤติกรรมในการเล้ยี งบุตร บทบาทน้ีทาให้ มนุษยแ์ ละสัตว์ดารงเผ่าพันธุ์สบื ตอ่ มาได้ หลังคลอดจะพบว่ามอี อกซิโทซนิ ท่ใี นสมองและท่ีไขสนั หลัง เพ่มิ มากข้ึน(cerebrospinal fluid ) ซงึ่ เชอ่ื วา่ ฮอรโ์ มนนเ้ี ป็นตวั กระตนุ้ ใหม้ ารดามคี วามต้องการ ใน การเลี้ยงดูทารก นอกจากนีจ้ ะพบวา่ ในมารดาท่ใี หบ้ ุตรดดู นมของตนเอง จะมคี วามรักใครผ่ กู พนั ทารกมากกวา่ มารดาท่ีไม่ไดเ้ ลีย้ งบุตรด้วยนมตนเอง แตจ่ ากการศกึ ษาในระยะหลงั พบวา่ หนทู ่ตี ดั เอาเซลล์เป้าหมายของออกซิโทซนิ ออกไป เมื่อ หนูคลอดบตุ รก็สามารถคลอดไดโ้ ดยง่ายและมพี ฤตกิ รรมในการเลย้ี งลกู ดว้ ยดี แต่มปี ัญหาในการให้นม ลูก ดงั น้นั ปจั จบุ ันจึงมีการศึกษาว่าที่ถูกตอ้ งแล้ว ออกซิโทซนิ มบี ทบาทท่ีสาคญั หรอื แคเ่ ปน็ ตัวสง่ เสริม การกระตุ้นใหก้ ล้ามเน้อื เรยี บหดรดั ตวั และมบี ทบาทในการเล้ียงบุตรเท่านน้ั วชิ าชวี วิทยาเพิ่มเติม (ว32242) ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวทิ ยาวฒุ ิ
ชุดท่ี 2 เรื่องฮอรโ์ มนจากต่อมใตส้ มอง 35 ในผชู้ ายจะมีออกซิโทซิน หลง่ั จากไฮโพทาลามสั เหมอื นผู้หญิงเช่นกนั นอกจากนย้ี งั พบวา่ สามารถผลิตไดใ้ นอณั ฑะและ อวยั วะสืบพันธุ์อื่นๆ พบว่าในขณะทีผ่ ู้ชายหล่งั น้ากาม (semen) จะมี ฮอรโ์ มนน้ีออกมาดว้ ยและจากการศึกษาในปัจจุบันพบวา่ ออกซโิ ทซนิ ใน เซมินอลฟลูอิด (seminal fluid ) ช่วยในการเคล่อื นทข่ี องสเปริ ม์ ในโพรงมดลูก เพอื่ ไปผสมกบั ไขด่ ้วยและ อาจมีผลเกีย่ วกับ พฤตกิ รรมทางเพศของผู้ชายดว้ ย การควบคุมการทางานของฮอร์โมนออกซิโทซนิ การกระตนุ้ ทีห่ ัวนม หรือการดดู นมมารดาของทารกเป็นสิ่งเร้าที่จะกระต้นุ สญั ญาณประสาท ผา่ น ไปในไขสนั หลัง ไปที่สมองไปกระต้นุ ไฮโพทาลามัสใหม้ ีการสงั เคราะหฮ์ อร์โมนออกซโิ ทซนิ และ หล่ังทีป่ ลายประสาทในต่อมใต้สมองสว่ นหลังเขา้ กระแสเลือด ไปมผี ลที่เตา้ นม นอกจากการดดู นมของ ทารกแล้ว เสยี งและภาพของทารกหรือการนึกถงึ ทารกก็สามารถกระตุ้นการหลัง่ ของฮอร์โมนออกซิ โทซินได้ ในขณะท่เี สียงและภาพของทารกไมก่ ระตนุ้ การหล่งั ฮอรโ์ มนโพรแลกทนิ ปัจจัยทกี่ ระตุ้นการหล่งั ออกซโิ ทซินประการหนึง่ คือ การถ่างขยายของปากมดลกู ในระยะเข้าสู่ ขบวนการคลอดบุตร ซ่ึงจะกระต้นุ ให้มดลกู บีบตวั ไดด้ ีขนึ้ ท้ังกอ่ นคลอดและหลงั คลอด ภาพท่ี 24 การถา่ งขยายของปากมดลูกเมอื่ เขา้ สู่ขบวนการคลอดกระตนุ้ การหลง่ั ออกซโิ ทซิน ท่มี า : https://il.mahidol.ac.th/e-media/hormone/chapter1/chapter1.htm (สบื ค้นวันที่ 16 พฤษภาคม 2560) ความผิดปกติของการหล่ังฮอร์โมนออกซโิ ทซนิ ในการคลอดถ้าฮอร์โมนออกซโิ ทซนิ ท่หี ล่งั ตามธรรมชาตไิ ม่เพียงพอ จะทาใหก้ ารคลอดลา่ ช้า แพทย์จะให้ออกซโิ ทซินสังเคราะหเ์ พอ่ื กระตุน้ ให้ปากมดลกู ถ่างขยายได้ดีขนึ้ เมอ่ื ใหแ้ กผ่ ้คู ลอดแลว้ ตอ้ งมกี ารดแู ลอย่างใกล้ชิด มิฉะนัน้ อาจทาใหม้ ดลูกแตก หรอื ทารกขาดออกซเิ จนในครรภ์มารดา จาก การทมี่ ดลกู ไดร้ บั การกระตนุ้ ให้มีการหดรัดตวั มากเกนิ ไป อาจทาให้ทารกเสียชวี ิตในครรภม์ ารดาได้ หรอื ในกรณหี ลังคลอด ถา้ มฮี อรโ์ มนไม่เพียงพอ อาจทาให้มดลูกหดรัดตัวไม่ดพี อท่จี ะไปบบี เส้นเลอื ด บริเวณที่รกลอกตวั ให้เลือดไหลน้อยลง จะทาให้ผู้คลอดเสียเลือดมากจนถงึ แก่ชีวิตได้ วชิ าชวี วิทยาเพมิ่ เตมิ (ว32242) ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ
ชุดท่ี 2 เร่ืองฮอรโ์ มนจากตอ่ มใต้สมอง 36 ข้นั ท่ี 3 ขัน้ อธิบายและลงข้อสรปุ บัตรกจิ กรรมที่ 1.2 คาชี้แจง ให้นกั เรียนร่วมกนั อภปิ ราย และสรปุ ความร้เู ก่ียวกับ ฮอรโ์ มนจากตอ่ มใต้สมอง (14 คะแนน) 1. ต่อมใต้สมองมลี กั ษณะอยา่ งไร และอยบู่ ริเวณใดของสมอง ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 2. ถา้ ฮอร์โมนผดิ ปกติจะเปน็ อย่างไร และจะรักษาดว้ ยวิธีใด? ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 3. ฮอร์โมนจากต่อมใตส้ มองสว่ นหนา้ สร้างฮอรโ์ มนก่ีประเภทอะไรบ้าง ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... วชิ าชีววิทยาเพ่ิมเตมิ (ว32242) ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวทิ ยาวฒุ ิ
ชดุ ที่ 2 เรอื่ งฮอรโ์ มนจากตอ่ มใตส้ มอง 37 4. โทรปิกฮอรโ์ มนหรือโทรฟนิ ฮอรโ์ มน (tropic หรือ trophin hormone)คอื ฮอร์โมนอะไร ได้แก่ ฮอรโ์ มนชนดิ ใดบ้าง และทาหนา้ ที่อย่างไร ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 5. ฮอร์โมนในกลุ่มของเปปไทด์ฮอร์โมน ไดแ้ ก่ฮอรโ์ มนชนิดใด ทาหน้าทีอ่ ย่างไร ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 6. เมื่อเขา้ ส่วู ัยผู้ใหญร่ า่ งกายยงั ตอ้ งการโกรทฮอรโ์ มนอีกหรือไม่ ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... วชิ าชวี วิทยาเพ่ิมเติม (ว32242) ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวทิ ยาวฒุ ิ
ชดุ ท่ี 2 เร่อื งฮอรโ์ มนจากต่อมใต้สมอง 38 7. เด็กยักษ์ คอื อะไร ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 8. ใหน้ กั เรยี นอธบิ ายความผิดปกติกของการหลัง่ โพรแลกทินฮอร์โมน ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 9. ต่อมใต้สมองสว่ นกลางสาคัญอย่างไรในมนุษย์ ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 10. เมลาโนไซท์ สตมิ ูเลตงิ ฮอรโ์ มนทาหน้าที่อะไร ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... วชิ าชีววิทยาเพิม่ เติม (ว32242) ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวทิ ยาวฒุ ิ
ชุดท่ี 2 เรอ่ื งฮอร์โมนจากตอ่ มใตส้ มอง 39 11. ต่อมใต้สมองสว่ นหลังเจริญมาจากท่ีเดยี วกันกบั ตอ่ มใตส้ มองส่วนหนา้ หรือไม่ อยา่ งไร? ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 12. ทาไมขณะออกกาลงั กายรา่ งกายเราจงึ ปสั สาวะนอ้ ยลง ? ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 13. ทาไมจงึ เรยี กออกซโิ ทซินวา่ เป็นฮอรโ์ มนแห่งความรกั ? ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 14. ใหน้ ักเรียนอธบิ ายความผดิ ปกติกของการหลงั่ ฮอร์โมนออกซิโทซนิ ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... วิชาชีววทิ ยาเพมิ่ เติม (ว32242) ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ
ชุดท่ี 2 เรอื่ งฮอรโ์ มนจากต่อมใต้สมอง 40 ขนั้ ที่ 4 ขนั้ ขยายความรู้ บตั รกจิ กรรมท่ี 1.3 คาชแ้ี จง นักเรียนตอบคาถามให้ไดใ้ จความสมบูรณ์ (8 คะแนน) 1. นักเรียนทราบหรอื ไมว่ ่า ตอ่ มใต้สมองเจรญิ มาจากไหน? ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 2. จริงหรอื ไม่ โกรทฮอรโ์ มนสามารถเพม่ิ ความสงู ได้? ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 3. โกรทฮอรโ์ มนช่วยให้นักกฬี าแข็งแรงขนึ้ จริงหรือไม่ ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... วชิ าชวี วทิ ยาเพิม่ เติม (ว32242) ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวทิ ยาวฒุ ิ
ชุดท่ี 2 เร่ืองฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง 41 4. โกรทฮอร์โมนชะลอความแก่ จรงิ หรือไม่ ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 5. การดดู นมมารดาของทารกสามรถเพ่ิม ฮอร์โมน โพรแลกทนิ (PRL) หลังการคลอดได้ อย่างไร ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 6. ใหน้ กั เรียนอธบิ ายการเกิดคนผิวเผอื ก สาเหตเุ ปน็ เพราะอะไร? ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 7. ทาไมเชา้ วนั ทีห่ ลงั ดม่ื แอลกอฮอร์ จงึ ็รสู กึ กระหายน้าและมึนงง ? ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 8. การฟงั เพลงทาให้ววั ให้นา้ นมมากข้ึนไดอ้ ยา่ งไร? ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... วิชาชีววิทยาเพิม่ เตมิ (ว32242) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวทิ ยาวฒุ ิ
ชดุ ที่ 2 เร่อื งฮอร์โมนจากตอ่ มใตส้ มอง 42 ขน้ั ท่ี 5 ขน้ั ประเมิน บัตรกิจกรรมท่ี 1.4 ตอนที่ 1 จงเลอื กคาต่อไปน้ี เตมิ ลงในช่องว่างใหถ้ กู ตอ้ ง ต่อมใตส้ มอง ไฮโพทาลามัส ตอ่ มใต้สมองส่วนหน้า ต่อมใต้สมองส่วนหลงั ตอ่ มใตส้ มองสว่ นกลาง สว่ นของต่อมใตส้ มองท่ตี ิด กบั ไฮโพทาลามสั ตอนที่ 2 จงจับคู่ฮอรโ์ มนและความหมายตอ่ ไปนใ้ี หถ้ กู ต้อง 1..........โพรแลกติน ก.ควบคุมการเจรญิ เตบิ โตของร่างกายทวั่ ๆไป 2..........เอนเดอร์ฟีน ข. กระตุ้นการเจริญของฟอลลเิ คลิ 3..........วาโซเพรสซิน ค.จัดวา่ เปน็ ตอ่ มใต้สมองที่แทจ้ ริง 4..........ออกซิโทซิน ง. มีปลายแอกซอนของนิวโรซคี รีทอรเี ซลล์จานวนมาก 5...........โกรทฮอร์โมน จ.กระตนุ้ การสร้างท่อผลติ น้านม 6………..FSH ฉ. สารแห่งความสขุ 7...........ต่อมใต้สมองส่วนหน้าและ ช. ควบคมุ การดูดน้ากลับของท่อหน่วยไต ต่อมใต้สมองสว่ นหลัง 8...........ต่อมใต้สมองส่วนหลัง ซ. กระต้นุ กล้ามเนื้อมดลกู ใหบ้ ีบตวั 9...........ลทู ิไนซงิ ฮอร์โมน ฌ. กระตุ้นตอ่ มไทรอยดใ์ หส้ ร้างไทรอยด์ฮอร์โมน 10.........TSH ญ. ทาใหเ้ กดิ การตกไข่ในเพศหญงิ วชิ าชีววทิ ยาเพิม่ เติม (ว32242) ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวทิ ยาวฒุ ิ
ชุดที่ 2 เรือ่ งฮอร์โมนจากต่อมใตส้ มอง 43 แบบทดสอบหลงั เรยี น ชดุ ท่ี 2 เร่ือง ฮอร์โมนจากตอ่ มใต้สมอง คาช้ีแจง 1. แบบทดสอบฉบบั นมี้ ี 10 ขอ้ คะแนนเตม็ 10 คะแนน ใชเ้ วลา 15 นาที 2. ใหน้ ักเรยี นเลอื กคาตอบที่ถกู ตอ้ งเพียงขอ้ เดยี ว 3. ตอบถูกได้ 1 คะแนน ตอบผดิ ได้ 0 คะแนน ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ 1. ตอ่ มใต้สมองส่วนใด จัดเปน็ ต่อมใตส้ มองที่แทจ้ รงิ ก. ตอ่ มใตส้ มองสว่ นหนา้ และส่วนกลาง ข. ตอ่ มใต้สมองสว่ นกลาง ค. ตอ่ มใต้สมองส่วน ง. ต่อมใตส้ มองส่วนหลัง กาหนดให้ 1 = ฮอรโ์ มนโกนาโดโทรฟิน 2 = โกรทฮอรโ์ มน 3 = โพรแลกติน 4 = วาโซเพรสซนิ 5 = ออกซิโทซิน จงตอบคาถามขอ้ 2 - 5 2. ขอ้ ใดตอ่ ไปนเ้ี ป็นฮอรโ์ มนจากต่อมใต้สมองส่วนหลงั ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4 และ 5 3. ฮอร์โมนที่ทาหนา้ ทก่ี ระต้นุ การเจรญิ เติบโตของท่อผลิตน้านม คือขอ้ ใด ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4 และ 5 4. ฮอร์โมนทที่ าหน้าที่ควบคุมการเจรญิ เติบโตของรา่ งกายใหเ้ ปน็ ไปตามปกติ คอื ขอ้ ใด ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4 และ 5 5. ฮอร์โมนทีท่ าหน้าทค่ี วบคุมการดดู กลบั ของท่อหนว่ ยไต คือข้อใด ก. 1 ข. 2 และ 3 ค. 4 ง. 5 วิชาชีววิทยาเพิ่มเติม (ว32242) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ
ชดุ ที่ 2 เรื่องฮอรโ์ มนจากตอ่ มใต้สมอง 44 6. อวัยวะเปา้ หมายส่วนใหญข่ องโทรปกิ ฮอร์โมนคอื ขอ้ ใด ก. กล้ามเนอ้ื ข. ตอ่ มไร้ท่อ ค. หลอดเลือด ง. ไต 7. นวิ โรซคี รที อรเี ซลล์ ส้ินสุดบรเิ วณใดมากทส่ี ุด ก. ตอ่ มใต้สมองส่วนหนา้ ข. ต่อมใตส้ มองสว่ นกลาง ค. ต่อมใต้สมองส่วน ง. ต่อมใตส้ มองส่วนหลัง พจิ ารณาภาพแสดงตาแหนง่ ระบบต่อมไรท้ อ่ ของคน แล้วตอบคาถามข้อ 8 – 9 C AB 8. จากภาพต่อมใต้สมองส่วนหนา้ คือหมายเลขใด ก. A และ C ข. A และ B ค. A ง. B 9. จากภาพตอ่ มใต้สมองสว่ นหน้า คอื หมายเลขใด ก. A และ C ข. A และ B ค. A ง. B 10. ตอ่ มใตส้ มองสว่ นหน้าถูกควบคุมด้วยฮอร์โมนประสาทจากบรเิ วณใด ก. ซรี ีบรมั ข. ซีรเี บลลัม ค. ไฮโพทาลามสั ง. หลอดเลือด วิชาชีววทิ ยาเพ่มิ เติม (ว32242) ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวทิ ยาวฒุ ิ
ชดุ ที่ 2 เรอื่ งฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง 45 กระดาษคาตอบแบบทดสอบหลงั เรียน ชุดการสอนชดุ ที่ 2 เร่ือง ฮอร์โมนจากตอ่ มใตส้ มอง ชื่อ-สกุล ……………………………………………………………………………………. ชนั้ ............ เลขที่ .............. คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียวในแบบทดสอบแล้วทาเครื่องหมาย X ลงในชอ่ งวา่ ง ข้อ ก ข ค ง 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 คะแนนเต็ม คะแนนทไี่ ด้ 10 วชิ าชวี วทิ ยาเพ่มิ เตมิ (ว32242) ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวทิ ยาวฒุ ิ
ชดุ ที่ 2 เรือ่ งฮอร์โมนจากต่อมใตส้ มอง 46 บรรณานุกรม กองเจา้ หน้าที่ องค์การบรหิ ารส่วนจังหวัดนครราชสีมา. (2561). โครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อพัฒนาศักยภาพครู 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้. ม.ป.ท.: สกลุ ไทย. ปรนิ ทร์ จริ ะภัทรศิลป.์ (2560). สรปุ เข้ม ขอ้ สอบชีววทิ ยา ม.ปลายมัน่ ใจเต็ม 100. นนทบรุ ี: ไอดซี ฯี . วัชวลั ย์ ครฑุ ไชยันต์. (2556). ต่อมไร้ทอ่ . (ออนไลน)์ . สบื คน้ จาก: http://watchawan.blogspo t.com/2010/05/blog-post_2433.html. [10 พฤษภาคม 2559]. วินัย ลขิ ติ พรลกั ษณ.์ (2556). ระบบต่อมไร้ท่อ. (ออนไลน์). สบื ค้นจาก:https://www.slideshare .net/meemahidol/bio5-1. [10 พฤษภาคม 2559]. ศภุ ณัฐ ไพโรหกุล. (2558). Essential biology. กรุงเทพฯ: แอคทฟี พร้ินท์ จากดั . PeeranatJatoorathaweechot. (ม.ป.ป.).Endocrine system and Hormones. (ออนไลน์). สืบคน้ จาก: www2.vcharkarn.com/uploads/journal/3/vcharkarn-journal- 3078_1.pdf.html. [10 พฤษภาคม 2559]. พิมพนั ธ์ เดชะคปุ ต์ และคณะ. ชดุ กจิ กรรมการเรียนร้ทู ่เี นน้ ผ้เู รยี นเปน็ สาคัญชีววิทยา ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6.กรุงเทพฯ : พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.), 2548. สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี, สถาบัน. หนังสอื เรียนสาระการเรียนรูพ้ น้ื ฐาน และเพมิ่ เติมชวี วทิ ยา เล่ม 3. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพค์ ุรสุ ภาลาดพร้าว, 2547. . คู่มอื ครูสาระการเรยี นรูพ้ ้ืนฐานและเพมิ่ เติมชวี วทิ ยา เล่ม 3. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ คุรสุ ภาลาดพร้าว, 2547. เกษม ศรีพงษ์. คู่มอื เตรยี มสอบชวี วทิ ยาเพมิ่ เติม เล่ม 2. กรุงเทพฯ : ภมู ิบัณฑติ , 2554. ประสงค์ หลาสะอาดและจิตเกษม หลาสะอาด. ติว้เมPAT2 ชีววทิ ยา. กรุงเทพฯ : รุ่งเรืองสาสน์ การ พมิ พ์, 2553. ระบบตอ่ มไรท้ ่อ. ม.ป.ป.<http://www.pibul.ac.th/vichakan/sciweb/Biology42042/ Hormone/Hormone/html/Website-endocrine-system.htm> 5 พฤษภาคม 2559. มหาวิทยาลยั มหดิ ล. สารวจโลกฮอร์โมน. ม.ป.ป. <http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/ hormone.htm> 5 พฤษภาคม 2555. สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศกึ ษาธิการ. คมู่ อื ครู รายวชิ าเพ่มิ เตมิ ชีววทิ ยา เลม่ 2. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพรา้ ว, 2554. หนงั สือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม ชวี วทิ ยา เลม่ 2. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพรา้ ว, 2555. สมาน แก้วไวยทุ ธ. ตะลุยคล้อั สอบ้เามาวิทยาลัย ชีววทิ ยา. กรุงเทพฯ : ฐานบณั ฑติ , 2554. วิชาชวี วิทยาเพม่ิ เตมิ (ว32242) ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 นางสาวทวิ าวรรณ เดชวิทยาวฒุ ิ
Search