Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่มที่ 2 ประโยคน่ารู้

เล่มที่ 2 ประโยคน่ารู้

Published by punnida, 2021-03-14 05:14:30

Description: เล่มที่ 2 ประโยคน่ารู้

Search

Read the Text Version

สอ่ื การเรยี นรูช้ ดุ พฒั นาทกั ษะการอา่ น การเขียน และการคดิ วเิ คราะห์ ของนกั เรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ ตามโครงการพนั ธก์ จิ สมั พนั ธข์ องมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อตุ รดิตถ์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั อตุ รดติ ถ์

ก คานา ปจั จุบนั เร่ืองของการอ่าน การเขียน และการคิดวิเคราะหเ์ ป็นทกั ษะสาคยั ย่ิง ในชีวิตประจาวนั แต่ทุกวนั น้ีกลบั เป็นปยั หาสาคยั มากเพราะเด็กขาดทักษะการอ่าน การเขยี นการคิดวเิ คราะห์ ไม่สามารถเขยี นสะทอ้ นความรู้ ความเขา้ ใจ ความสามารถ ในการคดิ วเิ คราะหก์ ารแกป้ ยั หา สรา้ งสรรคจ์ นิ ตนาการไดอ้ ย่างเหมาะสม มคี ุณค่า มเี หตุ มผี ล และลาดบั ขน้ั ตอนในการนาเสนอทส่ี รา้ งความเขา้ ใจแก่ผูอ้ ่านอย่างชดั เจน ส่ือการเรียนรูช้ ุดการพฒั นาทกั ษะการอ่านการเขียนและการคิดวิเคราะห์ สาหรบั นกั เรียนชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ตามโครงการพนั ธกิจสมั พนั ธต์ ามยุทธศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อุตรดติ ถ์ เพอ่ื การพฒั นาทอ้ งถ่นิ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ชดุ น้ี มี ๕ เลม่ เป็นการยกระดบั คณุ ภาพการศึกษาอย่างยงั่ ยนื ในดา้ นการเรียนรู้ การอ่าน การเขียน และการคิดวิเคราะห์ ดว้ ยคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั อุตรดิตถ์ ตระหนกั ถงึ การมสี ่วนร่วมในการพฒั นาคุณภาพการศึกษาโดยเฉพาะโรงเรียนเครือข่าย ร่วมพฒั นาวชิ าชพี ครูในจงั หวดั อตุ รดติ ถ์ จงั หวดั แพร่ และจงั หวดั น่าน จงึ ไดด้ าเนินการนา ส่ือชุดการพฒั นาทกั ษะการอ่านการเขียน และการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียน ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ เพอ่ื ใชเ้ ป็นส่อื การเรียนการสอนในการพฒั นาการอ่าน การเขยี น และการคิดวิเคราะหอ์ นั เป็นพ้ืนฐานในการพฒั นา แสวงหาความรูแ้ ละประยุกต์ใช้ ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ขอขอบพระคุณคณะทป่ี รกึ ษา ผูเ้ช่ยี วชาย และผูท้ เ่ี ก่ยี วขอ้ งทกุ ท่านท่กี รุณาให้ คาแนะนา ปรกึ ษาและตรวจสอบ แกไ้ ขขอ้ บกพร่องเป็นอย่างดี หวงั เป็นอย่างย่งิ ว่าส่อื การ เรียนรูช้ ุดการพฒั นาทกั ษะการอ่าน การเขียน และการคิดวเิ คราะห์ สาหรบั นกั เรียน ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ จะเป็นประโยชน์ต่อครู นกั เรียน ผูส้ นใจเพ่ือใชใ้ นการพฒั นา การเรยี นการสอนใหเ้กดิ ประสทิ ธิผลสบื ไป คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อตุ รดติ ถ์

ข ก ข สารบญั ๑ ๒ คานา ๒ สารบยั ๓ ประโยคน่ารู ้ ๗ ความหมายของประโยค ๑๘ โครงสรา้ งประโยค ๒๘ การจาแนกประโยค แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะ เฉลยแบบฝึกเสรมิ ทกั ษะ เอกสารอา้ งองิ

๑ ประโยคน่ ารู ้ สาหรบั นกั เรยี นชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ฉนั หน่งึ คา รกั หน่งึ คา เธอ หน่งึ คา แต่พอเอาสามคามารวมกนั เป็น ฉนั รกั เธอ กลายเป็นประโยคข้นึ มาทนั ที

๒ อา่ นเสรมิ เพ่มิ ความรู้ ประโยคน่ารู้ ความหมายของประโยค ประโยค คือ ถอ้ ยคาท่ีมีความเก่ียวขอ้ งกนั ถูกตอ้ ง ตามระเบยี บของภาษาและมเี น้อื ความสมบูรณ์ ประกอบดว้ ย ภาคประธานและภาคแสดง ประโยค ภาคประธาน ภาคแสดง บทประธาน บทขยายประธาน บทกรยิ า บทขยายกรยิ า บทกรรม บทขยายกรรม เช่น แมวเลน่ ในสวน แยกได้ แมว (ประธาน) เลน่ (อกรรมกรยิ า) ในสวน (ขยายกรยิ า)

๓ อา่ นเสรมิ เพ่มิ ความรู้ ประโยคน่ารู้ การจาแนกประโยค การจาแนกประโยคตามเจตนาผูส้ ง่ สาร มี ๖ ชนิด ๑. ประโยคบอกเลา่ ๒. ประโยคคาถาม ๓. ประโยคปฏเิ สธ ๔. ประโยคคาสงั่ ๕. ประโยคขอรอ้ ง ๖. ประโยคแสดงความตอ้ งการ ๑. ประโยคบอกเลา่ ประโยคบอกเล่า คือ ประโยคท่ีมีเน้ือหารายละเอียด เพยี งเพอ่ื ใหค้ นฟงั รบั ทราบ รบั รูเ้ พยี งเทา่ นน้ั ว่าใคร ทาอะไร ท่ี ไหน อย่างไร เมอ่ื ไหร่ เช่น ตวั อย่าง : วนั น้แี มพ่ าฉนั ไปกินหมกู ระทะ ตวั อยา่ ง : พ่อของฉนั เป็นตารวจ

๔ อา่ นเสรมิ เพม่ิ ความรู้ ประโยคน่ารู้ ๒. ประโยคคาถาม ประโยคคาถาม คือ ประโยคท่ีต้องการคาตอบ ในสง่ิ ท่ถี ามมีอยู่ ๒ ลกั ษณะ คอื ๑. ปร ะ โ ย ค ค า ถา ม ท่ีต้อ ง ก า รค า ต อ บ เ ป็ น คา อ่ืน แ ท น ท่ีใ ช้ คาถาม (คาถามปลายเปิด ตอบแบบไหนก็ได)้ มกั จะมคี าว่าใคร อะไร เหตใุ ด เช่น - เหตใุ ดเธอถงึ มาโรงเรยี นสาย - วนั หยดุ เธอจะไปเท่ยี วท่ไี หน ๒. ประโยคคาถามท่ีตอ้ งการคาตอบรบั หรอื ปฏเิ สธ ซ่งึ จะมคี าว่า ไหม หรอื หรอื ไม่ อยู่ในประโยคคาถาม เช่น - เธอจะไปดูหนงั กบั ฉนั ไหม - เธอชอบวาดรูปไหม

๕ อา่ นเสรมิ เพม่ิ ความรู้ ประโยคน่ารู้ ๓. ประโยคปฏเิ สธ ประโยคปฏเิ สธ จะมคี าว่า ไม่ มไิ ด้ มใิ ช่ ไม่ได้ หามิได้ อยู่ใน ประโยคเพ่ือแสดงใหเ้ ห็นว่ามีความหมายตรงกนั ขา้ มกบั ประโยค บอกเลา่ เช่น ตวั อยา่ ง : รุ่งทวิ าไม่ใช่คนข้เี กยี จเรยี นหนงั สอื เมอ่ื วานน้ฉี นั ไม่ไดม้ าโรงเรยี น ฉนั ไม่ไดไ้ ปต่างจงั หวดั กบั ครอบครวั ๔. ประโยคคาสงั่ ประโยคคาสงั่ เป็นประโยคทม่ี ลี กั ษณะบอกใหผ้ ูฟ้ งั ไดป้ ฏบิ ตั ติ าม ใหท้ าในสง่ิ ใดสง่ิ หน่งึ หรอื ไมใ่ หท้ าสง่ิ ใดสง่ิ หน่ึง ซง่ึ สามารถละประธาน ไวไ้ ด้ เพราะผูส้ ่งสารและผูร้ บั สารต่างเขา้ ใจและทราบว่าสงั่ ใคร เช่น ตวั อยา่ ง : หา้ มเดนิ ลดั สนาม, อยา่ คยุ กนั ในหอ้ งเรยี น

๖ อา่ นเสรมิ เพม่ิ ความรู้ ประโยคน่ารู้ ๕. ประโยคขอรอ้ ง ประโยคขอรอ้ ง คือประโยคท่ีมีขอ้ ความแสดงความตอ้ งการให้ ช่วยเหลือในลกั ษณะต่าง ๆ มกั จะมีคาว่า โปรด กรุณา ช่วย วาน อยู่หนา้ ประโยค และมกั จะมีคาว่า หน่อย ซิ นะ อยู่ทา้ ยประโยค เช่น ตวั อยา่ ง : โปรดมานงั่ ขา้ งหนา้ ใหเ้ตม็ ก่อน กรุณาอย่าจอดรถขวางประตู ๖.ประโยคแสดงความตอ้ งการ ประโยคแสดงความตอ้ งการ คือประโยคทแ่ี สดงความอยากได้ อยากมี อยากเป็นส่ิงใดส่ิงหน่ึง มกั มีคาว่า อยาก ตอ้ งการ ปรารถนา ประสงค์ อยู่ในประโยค เช่น ตวั อยา่ ง : พอ่ ตอ้ งการใหฉ้ นั เป็นหมอ ฉนั อยากเรยี นต่อชน้ั มธั ยมศึกษา

๗ แบบฝึ ก เสรมิ ทกั ษะท่ี ๑ ประโยคน่ารู้ คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นจบั คู่ชนดิ ของประโยคทส่ี อดคลอ้ งใหถ้ กู ตอ้ ง ๑. ประโยคบอกเลา่ ก. โปรดช่วยกนั ประหยดั นา้ ๒. ประโยคปฏเิ สธ ข. ทาไมเธอไมไ่ ปเทย่ี วทะเลกบั พวกเรา ๓. ประโยคขอรอ้ ง ค. วนั น้ที อ้ งฟ้าสวยจงั ๔. ประโยคคาสงั่ ง. ฉนั ตอ้ งการกระเป๋าสะพายสชี มพู ๕. ประโยคคาถาม จ. น่ไี มใ่ ช่ปากกาของฉนั ๖. ประโยคแสดงความตอ้ งการ ฉ. คุณแม่มเี ส้อื สฟี ้าเป็นจานวนมาก ๗. ประโยคบอกเลา่ ช. จงขา้ มถนนตรงทางมา้ ลาย ๘. ประโยคขอรอ้ ง ซ. ใครส่งเสยี งดงั ในหอ้ งสมดุ ๙. ประโยคคาถาม ฌ. ฉนั ไมไ่ ดไ้ ปต่างจงั หวดั กบั ครอบครวั ๑๐. ประโยคคาสงั่ ย. กรุณาอย่าจอดรถขวางประตู

๘ แบบฝึ ก เสรมิ ทกั ษะท่ี ๒ สรา้ งประโยคบอกเลา่ จากภาพ คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นแต่งประโยคบอกเลา่ จากภาพทก่ี าหนดให้ กบหลายตวั อยู่ในสระบวั



๑๐ แบบฝึ ก เสรมิ ทกั ษะท่ี ๓ เรยี งคา สรา้ งประโยคคาถาม คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นเรยี งคาทก่ี าหนดใหเ้ป็นประโยคคาถาม อากาศ / หรอื / ไม่ /จะ /รอ้ น /วนั /น้ี วนั น้อี ากาศจะรอ้ นหรอื ไม่ ๑. หยุด / วนั /ท่ี / เธอ / จะ / เทย่ี ว / ไป / ไหน ๒. หอ้ ง / ดงั / ใน / ส่ง / เสยี ง / สมดุ / ใคร ๓. กาลงั / เธอ / ไป / จะ / ไหน ๔. อยู่ / กลอ่ ง / น้ี / อะไร / ใน / ใบ

๑๑ ๕. ตก / แจ / ใคร / ทา / กนั / แตก ๖. โรง / สาย / เรยี น / มา / ใด / เหตุ / จงึ / เพราะ / เธอ ๗. ไป / หนงั / ไหม / ฉนั / ดู / จะ / เธอ / กบั ๘. หรอื / ดู / ภาพยนตร์ / ไม่ / ชอบ / เธอ / ๙. ชอบ / เธอ / ทา / ไม / ดม่ื / ไม่ / กา / แฟ / จงึ ๑๐. เสยี / เธอ / ใคร / ใจ / ทา / ให้

๑๒ แบบฝึ ก เสรมิ ทกั ษะท่ี ๔ ประโยคปฏเิ สธจากภาพ คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นแต่งประโยคปฏเิ สธจากภาพทก่ี าหนดให้ เดก็ ไมย่ อมกินขา้ ว

๑๓

๑๔ แบบฝึ ก สรา้ งประโยคคาสงั่ เสรมิ ทกั ษะท่ี ๕ คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นนาคาในวงเลบ็ มาเตมิ ในช่องวา่ งใหเ้ป็นประโยค คาสงั่ ทส่ี มบูรณ์ ๑. ……………… หยบิ หนงั สอื ออกจากบรเิ วณน้ี (ช่วย, อย่า) ๒. ……………… มาเลน่ บรเิ วณสนามเดก็ เลน่ น้ี (หา้ ม, ไป) ๓. ……………… ทางานทค่ี รูสงั่ ใหเ้สร็จตรงตามเวลาทก่ี าหนด (จง, หา้ ม) ๔. ……………… นาสนุ ขั เขา้ มายงั บรเิ วณรา้ นอาหารแห่งน้ี (จง, หา้ ม) ๕. ……………… นากลอ่ งพลาสตกิ เขา้ ใกลค้ วามรอ้ น (โปรด, อย่า) ๖. ……………… ออกนอกบา้ นเวลากลางคนื เดด็ ขาด (จง, หา้ ม) ๗. ……………… ท้งิ ขยะลงในแมน่ า้ (โปรด, หา้ ม ๘. ……………… แต่งประโยคทก่ี าหนดให้ (จง, หา้ ม) ๙. ……………… เดนิ ลดั สนาม (อย่า, จง) ๑๐.……………… นาอาหารออกจากบรเิ วณโรงอาหารโดยเดด็ ขาด (โปรด, อย่า)

๑๕ แบบฝึ ก เสรมิ ทกั ษะท่ี ๖ เติมคาสรา้ งประโยคขอรอ้ ง คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นนาคาทอ่ี ยู่ในกรอบเตมิ ลงในประโยคใหเ้ป็น ประโยคขอรอ้ งทถ่ี กู ตอ้ งสมบูรณ์ ๑. .............. มานงั่ ขา้ งหนา้ ใหเ้ตม็ ก่อน โปรด ๒. .............. อย่าจอดรถขวางประตู วาน ๓. .............. ลบกระดานดาใหค้ รูหน่อย ๔. .............. ส่งงานใหฉ้ นั ดว้ ยนะ ช่วย ๕. .............. เกบ็ ไมบ้ รรทดั ใหฉ้ นั ที ขอ ๖. .............. กนั รกั ษาความสะอาดของ กรุณา โรงเรยี นหน่อย ๗. .............. วางรองเทา้ ใหเ้ป็นระเบยี บ ๘. .............. ใหท้ กุ คนสามคั คกี นั ๙. .............. อย่าส่งเสยี งดงั ๑๐............... หยบิ ดนิ สอใหฉ้ นั หน่อยซิ

๑๖ แบบฝึ ก เสรมิ ทกั ษะท่ี ๗ สรา้ งประโยคแสดงความตอ้ งการ คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นนาคาทอ่ี ยู่ในกรอบเตมิ ลงในประโยคใหเ้ป็น ประโยคแสดงความตอ้ งการทถ่ี กู ตอ้ งสมบูรณ์ ๑. พ่อ ………………… ใหฉ้ นั เป็นหมอ ๒. ฉนั ………………… เรยี นต่อชน้ั มธั ยมศึกษา ๓. พ่ี ………………… จะใหน้ อ้ งเรยี นหนงั สอื เก่ง ๔. ครู ………………… จะใหน้ กั เรยี นลายมอื งาม ๕. เขา ………………… ทจ่ี ะเป็นทม่ี ชี ่อื เสยี ง ๖. โตข้นึ มาหนู ………………… เป็นคุณหมอ ๗. ผม ………………… มรี ถสกั คนั เอาไวข้ บั ไปเทย่ี ว ๘. ฉนั มคี วาม ………………… จะสอบไดท้ ่ี ๑ ๙. ฉนั ………………… มบี า้ นหลงั ใหย่ ๑๐.แม่ ………………… ใหน้ อ้ งเป็นคณุ ครู

๑๗ แบบฝึ ก การจาแนกประโยค เสรมิ ทกั ษะท่ี ๘ คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นระบวุ า่ ประโยคต่อไปน้เี ป็นประโยคชนดิ ใด (ประโยคบอกเลา่ ,คาถาม, ปฏเิ สธ, คาสงั่ , ขอรอ้ ง และแสดงความตอ้ งการ) ประโยค ชนิดของประโยค ๑. ทางด่วนมใิ ช่ทางสาหรบั รถเลก็ ๒. กรณุ าอย่าเสยี งดงั ๓. ไปเถอะน่าเดยี๋ วกร็ ูเ้อง ๔. กรณุ าอย่าจอดรถขวางประตู ๕. แมไ่ มช่ อบผา้ ช้นิ น้ี ๖. ฉนั ไหวพ้ ระก่อนนอนทกุ วนั ๗. เธอกาลงั จะไปเทย่ี วทไ่ี หน ๘. ทาไมเดก็ ๆจงึ ชอบดูการต์ ูน ๙. ฉนั จะไปเทย่ี วหวั หนิ อาทติ ยห์ นา้ ๑๐. พ่อตอ้ งการใหฉ้ นั เป็นหมอ

๑๘ เฉลยแบบฝึ ก ประโยคน่ ารู ้ เสรมิ ทกั ษะท่ี ๑ คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นจบั คู่ชนดิ ของประโยคทส่ี อดคลอ้ งใหถ้ กู ตอ้ ง ๑. ประโยคบอกเลา่ ก. โปรดช่วยกนั ประหยดั นา้ ๒. ประโยคปฏเิ สธ ข. ทาไมเธอไมไ่ ปเทย่ี วทะเลกบั พวกเรา ๓. ประโยคขอรอ้ ง ค. วนั น้ที อ้ งฟ้าสวยจงั ๔. ประโยคคาสงั่ ง. ฉนั ตอ้ งการกระเป๋าสะพายสชี มพู ๕. ประโยคคาถาม จ. น่ไี มใ่ ช่ปากกาของฉนั ๖. ประโยคแสดงความตอ้ งการ ฉ. คุณแมม่ เี ส้อื สฟี ้าเป็นจานวนมาก ๗. ประโยคบอกเลา่ ช. จงขา้ มถนนตรงทางมา้ ลาย ๘. ประโยคขอรอ้ ง ซ. ใครส่งเสยี งดงั ในหอ้ งสมดุ ๙. ประโยคคาถาม ฌ. ฉนั ไมไ่ ดไ้ ปต่างจงั หวดั กบั ครอบครวั ๑๐. ประโยคคาสงั่ ย. กรุณาอย่าจอดรถขวางประตู

๑๙ เฉลยแบบฝึ ก เสรมิ ทกั ษะท่ี ๒ สรา้ งประโยคบอกเลา่ จากภาพ คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นแต่งประโยคบอกเลา่ จากภาพทก่ี าหนดให้ กบหลายตวั อยู่ในสระบวั เด็ก ๆ อา่ นหนงั สอื ใตต้ น้ ไม้ ครูและนกั เรยี นไปทศั นศึกษา เดก็ หวั จุกข่ีมา้ กา้ นกลว้ ย เดก็ ๆ เลน่ เคร่อื งเลน่ กนั อย่างสนุกสนาน

๒๐ เด็กๆช่วยกนั ทาการบา้ น เดก็ ๆ ว่งิ วา่ วกนั อยา่ งสนุกสนาน นกฝูงน้ีกาลงั บนิ พระรูปน้ีกาลงั ใหพ้ รญาตโิ ยม เขาทง้ั สองลอยกระทง เดก็ ชายคนน้ีกาลงั รดน้าดอกไม้

๒๑ เฉลยแบบฝึ ก เสรมิ ทกั ษะท่ี ๓ เรยี งคา สรา้ งประโยคคาถาม คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นเรยี งคาทก่ี าหนดใหเ้ป็นประโยคคาถาม ๑. วนั หยดุ เธอจะไปเท่ยี วท่ไี หน ๒. ใครสง่ เสยี งดงั ในหอ้ งสมดุ ๓. เธอกาลงั จะไปไหน ๔. อะไรอยู่ในกลอ่ งใบน้ี ๕. ใครทาแจกนั ตกแตก ๖. เหตใุ ดเธอถงึ มาโรงเรยี นสาย ๗. เธอจะไปดูหนงั กบั ฉนั ไหม ๘. เธอชอบดูภาพยนตรเ์ รอ่ื งน้ีหรอื ไม่ ๙. ทาไมเธอถงึ ไม่ชอบด่ืมกาแฟ ๑๐. ใครทาใหเ้ ธอเสยี ใจ

๒๒ เฉลยแบบฝึ ก เสรมิ ทกั ษะท่ี ๔ ประโยคปฏเิ สธจากภาพ คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นแต่งประโยคปฏเิ สธจากภาพทก่ี าหนดให้ เดก็ ไมย่ อมกนิ ขา้ ว เดก็ ชายไม่ทาการบา้ น เพ่อื นไม่ตง้ั ใจเรยี น นกั เรยี นไม่ทาการบา้ น

๒๓ เขาไม่สง่ เสยี งดงั หนูนิดไม่กนิ ผกั สนั ตไิ ม่นาสรุ าเขา้ มาด่มื โตง้ ไม่ลกั ขโมยของผูอ้ น่ื

๒๔ เฉลยแบบฝึ ก สรา้ งประโยคคาสงั่ เสรมิ ทกั ษะท่ี ๕ คาช้ีแจง : ใหน้ ักเรียนนาคาในวงเล็บมาเติมในช่องว่างใหเ้ ป็น ประโยคคาสงั่ ทส่ี มบูรณ์ ๑. ……อ…ย…่า …… หยบิ หนงั สอื ออกจากบรเิ วณน้ี (ช่วย, อย่า) ๒. ……ห…า้ ม……… มาเลน่ บรเิ วณสนามเดก็ เลน่ น้ี (หา้ ม, ไป) ๓. ………จง……… ทางานทค่ี รูสงั่ ใหเ้สร็จตรงตามเวลาทก่ี าหนด (จง, หา้ ม) ๔. ……ห…า้ ม……… นาสุนขั เขา้ มายงั บรเิ วณรา้ นอาหารแหง่ น้ี (จง, หา้ ม) ๕. ……อ…ย…า่ …… นากลอ่ งพลาสตกิ เขา้ ใกลค้ วามรอ้ น (โปรด, อย่า) ๖. ……ห…า้ ม……… ออกนอกบา้ นเวลากลางคนื เดด็ ขาด (จง, หา้ ม) ๗. ……ห…า้ ม……… ท้งิ ขยะลงในแมน่ า้ (โปรด, หา้ ม ๘. ………จง……… แต่งประโยคทก่ี าหนดให้ (จง, หา้ ม) ๙. ……อ…ย…า่ …… เดนิ ลดั สนาม (อย่า, จง) ๑๐.……อ…ย…า่ …… นาอาหารออกจากบรเิ วณโรงอาหารโดยเดด็ ขาด (โปรด, อย่า)

๒๕ เฉลยแบบฝึ ก เสรมิ ทกั ษะท่ี ๖ เติมคาสรา้ งประโยคขอรอ้ ง คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นนาคาทอ่ี ยู่ในกรอบเตมิ ลงในประโยคใหเ้ป็น ประโยคขอรอ้ งทถ่ี กู ตอ้ งสมบูรณ์ ๑. ..โ..ป..ร..ด...... มานงั่ ขา้ งหนา้ ใหเ้ตม็ ก่อน โปรด ๒. .ก...ร..ุณ...า..... อย่าจอดรถขวางประตู วาน ๓. ...ว..า..น....... ลบกระดานดาใหค้ รูหน่อย ๔. .ก...ร..ุณ...า..... สง่ งานใหฉ้ นั ดว้ ยนะ ช่วย ๕. ...ว..า..น....... เกบ็ ไมบ้ รรทดั ใหฉ้ นั ที ขอ ๖. ...ช..่ว..ย....... กนั รกั ษาความสะอาดของ กรุณา โรงเรยี นหน่อย ๗. .ก...ร..ุณ...า..... วางรองเทา้ ใหเ้ป็นระเบยี บ ๘. ....ข..อ........ ใหท้ กุ คนสามคั คกี นั ๙. .ก...ร..ุณ...า..... อย่าส่งเสยี งดงั ๑๐....ช..่ว..ย....... หยบิ ดนิ สอใหฉ้ นั หน่อยซิ

๒๖ เฉลยแบบฝึ ก เสรมิ ทกั ษะท่ี ๗ สรา้ งประโยคแสดงความตอ้ งการ คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นนาคาทอ่ี ยู่ในกรอบเตมิ ลงในประโยคใหเ้ป็น ประโยคแสดงความตอ้ งการทถ่ี กู ตอ้ งสมบูรณ์ ๑. พอ่ ………………… ใหฉ้ นั เป็นหมอ ๒. ฉนั ………………… เรยี นต่อชน้ั มธั ยมศึกษา ๓. พ่ี ………………… จะใหน้ อ้ งเรยี นหนงั สอื เก่ง ๔. ครู ………………… จะใหน้ กั เรยี นลายมอื งาม ๕. เขา ………………… ทจ่ี ะเป็นทม่ี ชี อ่ื เสยี ง ๖. โตข้นึ มาหนู ………………… เป็นคุณหมอ ๗. ผม ………………… มรี ถสกั คนั เอาไวข้ บั ไปเทย่ี ว ๘. ฉนั มคี วาม ………………… จะสอบไดท้ ่ี ๑ ๙. ฉนั ………………… มบี า้ นหลงั ใหย่ ๑๐.แม่ ………………… ใหน้ อ้ งเป็นคุณครู หมายเหต:ุ ข้ึนอยู่ในดุลยพนิ ิจของครูผูส้ อน

๒๗ เฉลยแบบฝึ ก เสรมิ ทกั ษะท่ี ๘ การจาแนกประโยค คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นระบวุ า่ ประโยคต่อไปน้เี ป็นประโยคชนดิ ใด (ประโยคบอกเลา่ ,คาถาม, ปฏเิ สธ, คาสงั่ , ขอรอ้ ง และแสดงความตอ้ งการ) ประโยค ชนิดของประโยค ๑. ทางด่วนมใิ ช่ทางสาหรบั รถเลก็ ประโยคปฏเิ สธ ๒. กรณุ าอย่าเสยี งดงั ประโยคขอรอ้ ง ๓. ไปเถอะน่าเดยี๋ วกร็ ูเ้อง ประโยคคาสงั่ ๔. กรณุ าอย่าจอดรถขวางประตู ประโยคขอรอ้ ง ๕. แมไ่ มช่ อบผา้ ช้นิ น้ี ประโยคปฏเิ สธ ๖. ฉนั ไหวพ้ ระก่อนนอนทกุ วนั ประโยคบอกเลา่ ๗. เธอกาลงั จะไปเทย่ี วทไ่ี หน ประโยคคาถาม ๘. ทาไมเดก็ ๆจงึ ชอบดูการต์ ูน ประโยคคาถาม ๙. ฉนั จะไปเทย่ี วหวั หนิ อาทติ ยห์ นา้ ประโยคบอกเลา่ ๑๐. พอ่ ตอ้ งการใหฉ้ นั เป็นหมอ ประโยคแสดงความตอ้ งการ

๒๘ เอกสารอา้ งองิ ทมี งานทรูปลูกปยั ยา, ภาษาไทย ป. ๔ เร่อื ง ประโยค. ทรูปลูก ปยั ยา. ๒๕๖๑. แหลง่ ทม่ี า : https://www.trueplookpanya.com/ learning/detail/31405-044005 สบื คน้ เมอ่ื ๒๑ มกราคม ๒๕๖๔ ละมยั แสงสดี า. ภาษาไทย ป.๕ ๒๕๕๕. แหลง่ ทม่ี า : https://sites.google.com/ site/maimaihukmitty/phl-ngan สบื คน้ เมอ่ื ๒๑ มกราคม ๒๕๖๔ สรุปหลกั ภาษาไทย ประโยคเพอ่ื การสอ่ื สาร. หลกั ภาษาไทย ๒๐๑๔ . แหลง่ ทม่ี า : http://www.dekteen.com สบื คน้ เมอ่ื ๒๑ มกราคม ๒๕๖๔

ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อตุ รดิตถ์ เลขที่ ๒๗ ถ.อนิ ใจมี ต.ท่าอิฐ อ.เมืองอุตรดิตถ์ จ.อตุ รดิตถ์ ๕๓๐๐๐ โทรศัพท์ ๐๕๕-๔๑๑๐๙๖ ตอ่ ๑๒๐๐ โทรสาร ๐๕๕-๔๑๖๖๓๑ E-mail [email protected]


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook