Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ความหลากหลายของพืชอาหารป่าและการใช้ประโยชน์จากชุมชนบริเวณลุ่มน้ำห้วยหลวง จังหวัดอุดรธานี เรื่อง พืชอาหารยอดนิยม

ความหลากหลายของพืชอาหารป่าและการใช้ประโยชน์จากชุมชนบริเวณลุ่มน้ำห้วยหลวง จังหวัดอุดรธานี เรื่อง พืชอาหารยอดนิยม

Description: ความหลากหลายของพืชอาหารป่าและการใช้ประโยชน์จากชุมชนบริเวณลุ่มน้ำห้วยหลวง จังหวัดอุดรธานี เรื่อง พืชอาหารยอดนิยม

Search

Read the Text Version

92 เล่ม ที่ 1 เรอื่ ง พชื อาหารยอดนิยม (Local Market) หวายนา ช่ือทวั่ ไป : หวายดง หวายขม ช่ือวิทยาศาสตร์ : Calamus viminalis Wild. ช่ือวงศ์ : PALMACEAE ลกั ษณะ : ไมเ้ ถาพชื จาพวกปาลม์ ลาตน้ สเี ขยี วแตกกอ ลาตน้ และกาบใบมหี นาม กาบหุม้ ลาตน้ สี เขยี วเข้ม เคลอื บด้วยไขสขี าวบาง มีหนามโดยรอบ ใบประกอบแบบขนนก ก้านใบมหี นาม ใบ คลา้ ยใบมะพรา้ ว มอี วยั วะทใ่ี ชเ้ ลอ้ื ยเกาะ และมหี นามโดยตลอด ดอกช่อออกมาจากลาตน้ ตรงสว่ น ทม่ี กี าบใบหมุ้ ผลค่อนขา้ งกลม มลี กั ษณะเป็นเกลด็ ซอ้ นทบั กนั เป็นชนั้ ๆ ผลอ่อนสเี ขยี วเม่อื แก่แลว้ มสี เี หลอื งขาว เน้ือในมรี สฝาด เมลด็ แขง็ ผวิ ขรุขระ เม่อื อายุได้ 2-3 ปี จะเรม่ิ ตดิ ดอก และใหผ้ ลท่ี สามารถนาไปขยายพนั ธุไ์ ด้ ตดิ ผลราวเดอื นมนี าคม-เมษายน พบตามป่าเตง็ รงั ป่าดงดบิ ทช่ี ุ่มชน้ื ส่วนท่ีนามาบริโภค : หนอออ่ น นามาแกง มรี สขม ฤดกู าลที่สามารถใช้ประโยชน์ : ฤดฝู น

ความหลากหลายของพืชอาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชมุ ชน 93 หวายน้า ชื่อพนื้ เมอื ง : หวายเขยี ว หวายขม หวายบุ่น ช่ือวิทยาศาสตร์ : Calamus siamensis Becc. ชื่อวงศ์ : PALMAE ลกั ษณะ : เป็นไมเ้ ถา ลาตน้ เลอ้ื ย หรอื แตกกอ มกั เล่อื ยพนั ตน้ ไมอ้ ่นื มกี าบหุ้มลาตน้ สเี ขยี ว เขม้ เคลอื บดว้ ยไขสขี าวบาง และมหี นามยาวรอบเถา ใบเป็นใบประกอบ มใี บย่อยเรยี งสลบั ใน แนวระนาบ ขอบใบมหี นามแหลมเลก็ ๆ ปลายใบแหลม ดอกออกเป็นช่อสเี หลอื ง ออกดอกเดอื น พฤษภาคม-มถิ ุนายน ผลค่อนขา้ งกลม ผลอ่อนสเี ขยี ว เม่อื แก่สเี หลอื ง ผวิ ผลเป็นเกลด็ บางๆ เรยี งซอ้ นกนั เมลด็ แขง็ ผวิ ขรุขระ หน่ึงผลมี 1-2 เมลด็ ออกผลเดอื นกรกฎาคม-กนั ยายนป่ าดบิ แลง้ และป่าคนื สภาพ ส่วนท่ีนามาบริโภค : หนออ่อน นามาแกง มรี สขม ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : ฤดฝู น

94 เลม่ ที่ 1 เรือ่ ง พืชอาหารยอดนิยม (Local Market) ตาล ช่ือทวั่ ไป : Asian Palmyra palm, Palmyra palm, ตาลโตนด ตาลใหญ่ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Borassus flabelliferL. ชื่อวงศ์ : PALMACEAE ลกั ษณะ : ไม้ยืนต้น ประเภทปาลม์ แยกเพศกนั อย่คู นละต้น สงู 25-40 เมตร ลาต้นเป็นเสย้ี นสี ดาและแขง็ มาก โคนต้นจะมรี ากเป็นกลุ่มใหญ่ ใบเดย่ี ว เรยี งสลบั กนั ลกั ษณะกลมคลา้ ยพดั แผ่น ใบหนามสี เี ขยี ว ปลายใบเป็นจกั ลกึ ถึงครง่ึ แผ่นใบ ขอบของทางกา้ นทงั้ สองขา้ งมหี นามแขง็ คลา้ ย ฟันเล่อื ยแขง็ ๆ สดี าและคมมากอย่ตู ามขอบกา้ นใบ ดอกสขี าวอมเหลอื ง ออกดอกช่อแบบช่อแยก แขนงระหว่างกาบใบ ดอกเป็นแบบแยกเพศอย่ตู ่างต้นกนั มี ช่อดอกเพศผใู้ หญ่รวมกนั เป็นกลุ่มๆ คลา้ ยน้วิ มอื หรอื เรยี กว่า “น้ิวตาล” ช่อดอกเพศเมยี คลา้ ยกบั เพศผู้ แต่เป็นป่มุ ปม ในดอกหน่ึงๆ มี กาบแขง็ ๆ หมุ้ อยใู่ นแต่ละดอก ซง่ึ จะเจรญิ เตบิ โตไปเป็นหวั จกุ ลกู ตาล ผลสดแบบมเี น้อื เมลด็ เดยี ว ผลตดิ กนั เป็นกลมุ่ แน่น ทรงกลม ผลเป็นเสน้ ใยแขง็ เป็นมนั มสี นี ้าตาล ปลายผลสเี หลอื ง เน้ือเย่อื สี เหลอื ง ผวิ ผลเป็นมนั ในผลหน่งึ ๆ จะมเี มลด็ ใหญ่และแขง็ อยปู่ ระมาณ 1-3 เมลด็ (จาวตาล) ซง่ึ จะ ถกู หมุ้ ดว้ ยใยและเน้อื ผลสเี หลอื งสด ส่วนที่นามาบริโภค : จาวตาลรบั ประทานไดร้ สหวาน ผลตาลคนั้ น้าเพ่อื ผสมแป้งทาขนมตาล ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : ฤดหู นาว

ความหลากหลายของพืชอาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชมุ ชน 95 ผกั สาบ ช่ือทิ้งถ่ิน : ผกั สาบ ช่ือวิทยาศาสตร์ : Adenia viridiflora Craib ชื่อวงศ์ : PASSIFLORACEAE ลกั ษณะ : ไม้เล้อื ย เถามมี อื เกาะ อายุหลายปี ใบเดย่ี วออกตรงกนั ขา้ ม กา้ นใบสนั้ ใบรปู หวั ใจ โคนใบสอบ ปลายใบแหลม ขอบใบเรยี บ แผ่นใบเรยี บค่อนขา้ งแขง็ สเี ขยี วเขม้ ดอกออกเป็นกลุ่ม ตามซอกใบแบบกา้ นร่ม กลบี ดอกสเี ขยี วออกเหลอื ง ผลลกั ษณะทรงกลมสเี ขยี วขนาดเทา่ หวั แม่มอื ภายในมเี มลด็ เดยี วส่วนท่ีใชบ้ รโิ ภคยอดอ่อนผลอ่อนการขยายพนั ธุเ์ มลด็ ปักชา้ สภาพแวดลอ้ มท่ี เหมาะสมทด่ี อนทนแลง้ ไดด้ แี ละอยรู่ ว่ มกบั ตน้ ไมใ้ หญ่ฤดกู าลทใ่ี ชป้ ระโยชน์ตลอดปี ส่วนที่นามาบริโภค : ใบออ่ น ยอดออ่ น ดอก ลวกรบั ประทานเป็นผกั รสขม ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : ฤดแู ลง้

96 เลม่ ที่ 1 เรือ่ ง พืชอาหารยอดนิยม (Local Market) ชะพลู ช่ือทวั่ ไป : ชะพลู ช่ือวิทยาศาสตร์ : Piper sarmentosum Roxb. ช่ือวงศ์ : PIPERACEAE ลกั ษณะ : ไมล้ ม้ ลุก สงู ประมาณ 2 ฟุต ลกั ษณะลาต้นจะเป็นขอ้ ๆ ใบเป็นใบเดย่ี ว (simple leaf) เรยี งสลบั (alternate) รูปร่างใบเป็นรูปหวั ใจ (cordate) เสน้ ใบชดั เจน 5-7 เสน้ ปลายใบแหลม ผวิ ใบไม่เรยี บ ใบใหญ่ สเี ขยี วแก่และมรี สเผด็ เลก็ น้อย ดอก ลกั ษณะดอกจะออกยาวเป็นปุ่มๆ คลา้ ย กับดอกดีปลี แต่สนั้ กว่าช่อดอกสีขาวและเปล่ียนเป็นสีเขียว ไม่มีกลีบดอก ผล เป็ นผลรวม (multiple fruit) แบบเบอรร์ ่ี (berry) รปู ทรงกระบอก เมลด็ ขนาดเลก็ ส่วนที่นามาบริโภค : ใบอ่อน ยอดออ่ น รบั ประทานเป็นผกั สด ฤดกู าลที่สามารถใช้ประโยชน์ : ทงั้ ปี

ความหลากหลายของพืชอาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชมุ ชน 97 ผกั แพว ชื่อทวั่ ไป : ผกั ไผ่น้าพรกิ มา้ ผกั ไผ่ หอมจนั ทร์ จนั ทน์โฉม จนั ทน์แดง ช่ือวิทยาศาสตร์ : Polygonum odoratum Lour. ช่ือวงศ์ : POLYGONACEAE ลกั ษณะ : ไมล้ ม้ ลุกปีเดยี ว ลาตน้ เลอ้ื ยและตงั้ ตรงมรี ากงอกออกตามสว่ นทส่ี มั ผสั ดนิ มกี ลนิ่ ฉุนทงั้ ต้นและใบ ลาต้นสเี ขยี วแกมสนี ้าตาลแดง ตามลาต้นมีข้อเป็นระยะๆ บรเิ วณขอ้ มกั มีรากงอก ออกมา ใบเดย่ี วออกสลบั แผ่นใบรปู หอก หรอื รปู หอกแกมรูปไข่ ปลายใบแหลม ฐานใบรปู ลม่ิ มหี ู ใบสขี าวบาง มขี นหยาบคลา้ ยสะเกด็ ใบสเี ขยี ว มแี ต้มสแี ดงทข่ี อบใบและเสน้ ใบย่อย ดอกช่อยาว ออกท่ซี อกใบ แบบเชงิ ลดแคบๆ มดี อกจานวนมากดอกเด่ยี วหรอื เป็นคู่ๆ หรอื เป็นกลุ่มกระจุก ดอกสมบูรณ์เพศ กลบี ดอกมี 5 กลบี สขี าว ถึงชมพูแกมม่วง ไม่ร่วงเม่อื ผลแก่ ผลมขี นาดเลก็ สี น้าตาล มเี มลด็ จานวนมาก พบตามป่าใกลร้ มิ น้า ท่งุ นา คลองบงึ แอ่งน้าต่างๆ ส่วนท่ีนามาบริโภค : ใบอ่อน ยอดออ่ น รบั ประทานเป็นผกั สด ฤดกู าลที่สามารถใช้ประโยชน์ : ทงั้ ปี

98 เล่ม ที่ 1 เรือ่ ง พชื อาหารยอดนิยม (Local Market) ผกั อีฮีน ผกั ขาเขยี ด ชื่อทิ้งถิ่น : ขา่ เขยี ด ชื่อวิทยาศาสตร์ : Monochoria vaginalis (Burm. f.) Presl var. Solms ชื่อวงศ์ : PONTEDERIACEAE ลกั ษณะ : เป็นไมล้ ม้ ลกุ อายุฤดเู ดยี ว สงู 5-35 ซม. ลาตน้ ตงั้ ตรงมเี หงา้ อยใู่ ตด้ นิ เม่อื เจรญิ ในน้าจะ มไี หลสนั้ ๆ มรี ากฝอยสนี ้าตาลแดงจานวนมาก ใบเป็นใบเดย่ี วรปู หวั ใจคลา้ ยผกั ตบชวาแต่เลก็ กว่า ใบกวา้ ง 2-45 มม. ยาว 9-85 มม. ออกสลบั กนั ทโ่ี คน สเี ขยี วอ่อน กา้ นใบยาวและอวบน้า โคนกา้ น ใบแผ่ออกเป็นกาบหมุ้ ใบทอ่ี อ่ นกวา่ ดา้ นในของกา้ นใบมเี ยอ่ื บางสขี าว ดอกเป็นช่อดอก กลบี ดอกสี ม่วงออกจากกา้ นใบ ดอกย่อย 6-15 ดอก ดอกย่อยมกี ลบี ดอก 6 กลบี กลบี ดอกมสี มี ่วงน้าเงนิ โคน กลบี ตดิ กนั ผลมเี มลด็ มากขนาดยาวประมาณ 1 ซม เมลด็ สนี ้าตาล ส่วนท่ีนามาบริโภค : ใบอ่อน ยอดอ่อน รบั ประทานเป็นผกั สด ฤดกู าลที่สามารถใช้ประโยชน์ : ฤดฝู น

ความหลากหลายของพืชอาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชุมชน 99 หมากหมอ้ ชื่อทวั่ ไป : หมากหมอ้ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Rothmannia wittii (Craib.) Bremek. ชื่อวงศ์ : RUBIACEA ลกั ษณะ : ไม้ยนื ต้นขนาดเลก็ สงู 6-8 เมตรเปลือกสนี ้าตาลอมดา กงิ่ อ่อนมขี นอ่อนสนี ้าตาลแดง ปกคลุมหนาแน่น แตกกงิ่ เป็นชนั้ คลา้ ยกบั ฉัตร มที รงพุ่มกลม โปร่งใบเดย่ี ว เรยี งตรงขา้ ม เป็นคู่ ใบรปู ขอบขนาน หรอื รูปวงรแี กมขอบขนาน กวา้ ง 3-6 ซม. ยาว 12-16 ซม. ใบอ่อนมขี นปกคลุม ทงั้ สองดา้ น ใบคอ่ นขา้ งน่มิ มขี นาดใหญ่ และเหน็ เสน้ แขนงใบชดั เจน หใู บอยรู่ ะหวา่ งกา้ นใบ ปลาย ใบ และโคนใบแหลม ดอกช่อ ออกเป็นกระจุกทซ่ี อกใบใกลป้ ลายยอด สขี าวนวล กลบี ดอกเช่อื ม ตดิ กนั เป็นรูประฆงั มดี อกย่อย 5-12 ดอก ดอกย่อยรปู ระฆงั ปลายแยกเป็น 5 กลบี และบานโคง้ งอกลับ โคนกลีบด้านในมีแต้มสีเขียวและแถบประสีม่วงเข้ม ดอกบานคว่าลง เม่ือบานมี เส้นผ่าศูนย์กลางของดอก 3-5 เซนติเมตรมีกล่ินหอมอ่อนๆ ออกดอกช่วงเดือนธันวาคม- กมุ ภาพนั ธผ์ ลสด รปู ทรงกลม เปลอื กผลเรยี บ แขง็ มรี อยตะเขบ็ สนี ้าตาลเป็นสนั เลก็ น้อย แบ่งครง่ึ ลกู เน้ือผลมรี สหวานเลก็ น้อย มสี เี ขยี วเขม้ เม่อื แก่สดี า มเี มลด็ จานวนมาก ขยายพนั ธุด์ ว้ ยเมลด็ พบขน้ึ ตามป่าเตง็ รงั ป่าเบญจพรรณ ป่าดบิ แลง้ ป่าโปรง่ และป่าละเมาะ ส่วนท่ีนามาบริโภค : ผลสกุ รบั ประทานได้ รสหวานหอม ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : ฤดหู นาว

100 เล่ม ที่ 1 เรอื่ ง พชื อาหารยอดนิยม (Local Market) มะตมู ช่ือทวั่ ไป : มะปิน กะทนั ตาเถร ตูมตมุ่ ตงั บวั ตูม หมากตมู ชื่อวิทยาศาสตร์ : Aegle marmelos (L.) Correa ex Roxb. ช่ือวงศ์ : RUTACEAE ลกั ษณะ : ไมย้ นื ตน้ ขนาดกลาง ผลดั ใบ สงู 10-15 ใบประกอบแบบมใี บย่อย 3 ใบ ออกเรยี งสลบั ใบรปู ไข่ สองใบล่างมขี นาดเลก็ และตดิ ตรงขา้ มกนั ปลายใบสอบ โคนใบแหลม ขอบใบเรยี บหรอื มี หยกั มนๆ แผ่นใบเรยี บเกลย้ี งเป็นมนั ใบอ่อนสเี ขยี วออ่ นหรอื สชี มพู มขี นละเอยี ด ใบแกส่ เี ขยี วเขม้ เรยี บเกล้ยี ง ดอกช่อออกตามซอกใบและปลายกง่ิ ออกรวมกนั เป็นช่อสนั้ ๆ สขี าวอมเขยี วหรอื สี เหลอื งออ่ น ดอกมกั ออกพรอ้ มกบั ใบอ่อน มกี ลน่ิ หอม ผลรปู รกี ลมหรอื รยี าว ผวิ เรยี บเกลย้ี ง เปลอื ก หนา แขง็ มาก ไม่แตก ผลอ่อนมสี เี ขยี วพอสุกมสี เี หลอื ง เน้ือผลมสี เี หลอื ง นิ่ม มกี ลนิ่ หอม และมี เน้ือเย่อื สสี ม้ ทม่ี ยี างเหนียวๆ ภายในมี 8-15 ช่อง เมลด็ สนี ้าตาลอ่อน จานวนมาก ออกดอกเดอื น มนี าคม-พฤษภาคม และตดิ ผลเดอื นธนั วาคม-กมุ ภาพนั ธ์ ส่วนที่นามาบริโภค : ใบอ่อน ยอดออ่ นรบั ประทานเป็นผกั สด เน้อื ในผลสกุ ทาขนม หรอื ทาน้า มะตมู ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : เดอื นมนี าคม-พฤษภาคม

ความหลากหลายของพืชอาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชุมชน 101 หมากหวดขา่ ช่ือทวั่ ไป : สหี วดกาซา กะซ่า มะหวดชนั รู มะหวดบาท มะหวดลงิ กาจา ซา นาซา มะจา มะหวด ป่า หวดคา สฮี อกน้อย หวดลาว หวดฆา่ ช่ือวิทยาศาสตร์ : Lepisanthes rubiginosa (Roxb.) Leenh. ชื่อวงศ์ : SAPINDACEAE ลกั ษณะ : ไม้พุ่มผลดั ใบ หรือไม้ยืนต้นขนาดเลก็ สูง 5-15 เมตร เปลอื กตน้ สนี ้าตาล แตกเป็น รอ่ งตามยาว กงิ่ กา้ นมขี นละเอยี ด เม่อื ยงั อ่อนอยู่มขี นสนั้ ๆ กงิ่ แขนงรูปทรงกระบอกเป็นร่อง ทรง พ่มุ กลมหรอื รปู ไข่ใบเป็นใบประกอบแบบนนกปลายคู่ เรยี งเวยี นสลบั รปู ไขถ่ งึ รปู ไขก่ ลบั ปลายใบ แหลม โคนใบสอบ ผวิ ใบมขี นนุ่มปกคลุมทงั้ สองด้าน แผ่นใบบางแต่ค่อนขา้ งเหนียว และย่นเป็น ลอน สเี ขยี วเขม้ ผวิ ใบดา้ นล่างสอี ่อนกว่า ใบอ่อนสนี ้าตาลอมเขยี วดอกสขี าวถึงสเี หลอื งอ่อนๆ ออกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนงตงั้ จากปลายยอดหรอื ซอกใบใกลป้ ลายยอด ดอกย่อยขนาดเลก็ สี ขาว มกี ลน่ิ หอมอ่อนๆ แยกเพศ กลบี ดอกสขี าว มี 4-5 กลบี มขี นนุ่ม โคนกลบี แคบ มเี กลด็ เลก็ ๆ 1 เกลด็ เกสรเพศผู้ 8 อนั ก้านเกสรมขี นสนี ้าตาลอ่อน กา้ นเกสรตวั เมยี ยาว ไม่มขี น กลีบเล้ยี ง 5 กลบี รปู ครง่ึ วงกลม ผลสดแบบมเี น้ือ รูปรเี วา้ เป็นพู ผวิ เกลย้ี ง ผลอ่อนสเี ขยี ว แล้วเปล่ยี นเป็นสี เหลอื งแดงจนแก่จดั สมี ่วงดา มี 2 พู ผวิ เกล้ยี ง เปลอื กและเน้ือบาง เมลด็ สนี ้าตาลดา 1 เมลด็ รปู ทรงรแี กมขอบขนาน พบตามป่ าเตง็ รงั และป่ าดบิ แลง้ ทค่ี วามสงู ตงั้ แต่ระดบั ทะเลปานกลางถงึ 300-1,200 เมตร ออกดอกเดอื นกมุ ภาพนั ธ-์ มนี าคม ตดิ ผลเดอื นเมษายน-พฤษภาคม ส่วนที่นามาบริโภค : ผลสกุ รบั ประทานได้ รสหวาน ฤดกู าลที่สามารถใช้ประโยชน์ : เดอื นเมษายน-พฤษภาคม

102 เลม่ ที่ 1 เรอื่ ง พืชอาหารยอดนิยม (Local Market) หมากแงว ช่ือทวั่ ไป : หมากแงว คอ้ แลน ลน้ิ จป่ี ่า ช่ือวิทยาศาสตร์ : Nephelium hypoleucum Kurz ช่ือวงศ์ : SAPINDACEAE ลกั ษณะ : ไม้ต้นขนาดกลาง ไม่ผลดั ใบ สูง 10-20 เมตร ลาต้นเปลา โคนต้นอาจมีพูพอนบ้าง เปลอื กสนี ้าตาลคล้า เรยี บ เรอื นยอดเป็นพุ่มค่อนขา้ งทบึ ใบ เป็นช่อ ตดิ เรยี งสลบั ยาว 20-30 ซม. ใบย่อยรปู ขอบขนาน แกมรปู ไขก่ ลบั ตดิ ตรงขา้ ม 1-3 คู่ กวา้ ง 3-8 ซม. ยาว 10-20 ซม. โคนใบมน และเบย้ี ว เน้ือใบหนา หลงั ใบเกล้ยี งเป็นมนั ท้องใบสจี าง ขอบใบเรยี บ ดอก ขนาดเลก็ สขี าวอม เขยี ว ออกรวมกนั เป็นช่อโตๆ ตามปลายกงิ่ ทุกส่วนของช่อมขี นสเี ทา โคนกลบี รองดอกตดิ กนั เป็น รูปถ้วยปากกวา้ งปลายแยกเป็น 5 แฉก มขี นนุ่มทงั้ สองดา้ น กลบี ดอกไม่มี เกสรผูม้ ี 5 อนั รงั ไข่ กลม มขี นปกคลุม ผล รปู รหี รอื ค่อนขา้ งกลม โต ผวิ ขรุขระเป็นปมเลก็ ๆ กระจายทวั่ ไป ผลอ่อนสี เขยี ว พอแก่จดั ออกสแี ดงเขม้ แต่ละผลมเี มลด็ เดยี ว มเี น้อื เย่อื ใสๆ และน้าหมุ้ เมลด็ เป็นพรรณไมป้ ่ า ดงดบิ และพบขน้ึ ตามป่าเบญจพรรณชน้ื บา้ ง ตามทใ่ี กลแ้ หล่งน้าทร่ี ะดบั ความสงู จากระดบั น้าทะเล 100-800 เมตร ในภาคต่างๆ ทวั่ ประเทศ ส่วนที่นามาบริโภค : ผลสกุ รบั ประทานได้ ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : ฤดหู นาว

ความหลากหลายของพืชอาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชมุ ชน 103 หมากคอ้ ชื่อทวั่ ไป : Ceylon oak กาซอ้ ง คอสม้ ตะครอ้ หมากคอ้ ช่ือวิทยาศาสตร์ : Schleichera oleosa (Lour.) Oken ช่ือวงศ์ : SAPINDACEAE ลกั ษณะ : ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ สูง 15-25 เมตร แตกกงิ่ กา้ นต่า เรอื นยอดเป็นทรงพุ่มแผ่กวา้ ง กงิ่ กา้ นมกั คดงอ ลาต้นเป็นปุ่มปมและพูพอนเปลอื กลาต้นเป็นสนี ้าตาลแดงหรอื เป็นสนี ้าตาลเทา แตกเป็นสะเกด็ หนาใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ปลายใบออกเป็นค่อู อกเรยี งเวยี นสลบั เป็นกลุ่ม ตามปลายกง่ิ ค่ปู ลายสุดมขี นาดใหญ่และยาวทส่ี ดุ รปู รี หรอื รปู รขี อบขนาน ปลายใบมนหรอื หยกั มี หางสนั้ ๆ โคนใบมนหรอื สอบมกั เบย้ี ว ขอบใบเรยี บเป็นคลน่ื แผ่นใบหนาเรยี บเป็นคล่นื เลก็ น้อย ใบ อ่อนมีขนเล็กน้อยตามเส้นใบ ดอกเป็นช่อ ออกปลายยอดหรอื ตามวอกใบ เป็นพวงแบบหาง กระรอกหอ้ ยลง ขนาดเลก็ สขี าวหรอื สเี หลอื งอ่อนๆ กลบี เลย้ี งมขี นาดเลก็ มาก มแี ฉกแหลม 5 แฉก ดอกไม่มกี ลบี ดอก รงั ไข่มรี ปู ทรงกลม ออกดอกเดอื นมนี าคม-เมษายน ผลเป็นรปู ทรงกลม ปลาย ผลมจี ะงอยแหลมแขง็ เปลอื กหนา ผวิ ผลเกลย้ี งสเี ขยี วอมน้าตาล ภายในมเี มลด็ 1-2 เมลด็ มเี น้ือ หุ้มเมลด็ ใสสเี หลอื ง ฉ่าน้า มีรสเปร้ยี ว ออกผลเดอื นมนี าคม-เดอื นกรกฎาคม พบทางภาคเหนือ ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ภาคตะวนั ตกเฉียงใต้ ภาคกลาง และทางภาคตะวนั ออกเฉียงใตข้ อง ส่วนที่นามาบริโภค : ผลสกุ รบั ประทานกบั น้าพรกิ รสเปรยี ว ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : ฤดรู อ้ น

104 เลม่ ที่ 1 เรือ่ ง พืชอาหารยอดนิยม (Local Market) หมากท้อบา้ น ชื่อทวั่ ไป : Canistel, Eggfruit-tree, Tiesa, Yellow sapote, Canistelsapote, ลกู ทอ้ พน้ื บา้ น ทอ้ เขมรทสิ ซา หมากทอ้ บา้ น มอนไข่ ช่ือวิทยาศาสตร์ : Pouteria campechiana (Kunth) Baehni ชื่อวงศ์ : SAPOTACEAE ลกั ษณะ :ไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูง 8-10ลาตน้ มยี างสขี าวๆ ท่กี ง่ิ อ่อนเป็นสีน้าตาลใบเป็นรปู ใบ หอก ปลายใบเรยี วแหลม กวา้ ง4-7.5 ซม.ยาว11.25-28 ซม. ใบเป็นมนั และบาง ดอกมสี คี รมี และมี กลนิ่ หอม ผลมลี กั ษณะเป็นกลมรปู รี ปลายผลมหี ลายแหลมหรอื จะงอย ผลเม่อื สุกจะเป็นสเี หลอื ง อ่อน เปลอื กผลบาง เน้อื ในผลเป็นสเี หลอื งสดน่ารบั ประทาน เน้ือมลี กั ษณะเหนียวคลา้ ยกบั แป้งทา ขนม เน้อื นิ่มคลา้ ยกบั ไขแ่ ดง ภายในผลมเี มลด็ ขนาดใหญ่ และมลี กั ษณะเป็นรปู รสี ดี า ส่วนท่ีนามาบริโภค : ผลสกุ รบั ประทานได้ เน้อื ในผลสกุ นิยมนามาทาขนม ฤดกู าลที่สามารถใช้ประโยชน์ : ฤดหู นาว

ความหลากหลายของพืชอาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชุมชน 105 ผกั คาวทอง ช่ือทวั่ ไป : Plu Kaow ผกั คาวทอง พลคู าว ช่ือวิทยาศาสตร์ : Houttuynia cordata Thunb. ชื่อวงศ์ : SAURURACEAE ลกั ษณะ : พชื ลม้ ลุกทอดเลอ้ื ยไปตามพน้ื ดนิ สงู 30-50 ซม. ใบเป็นใบเดย่ี ว แผ่นใบแผ่ โคนใบรูป หวั ใจ ปลายใบแหลมเป็นตง่ิ ผวิ ใบดา้ นบนเรยี บสเี ขยี วเขม้ ดา้ นล่างมขี นตามเสน้ ใบ โคนกา้ นใบแผ่ เป็นปีกแคบ ดอกสเี หลอื ง ออกเป็นช่ออดั กนั แน่น มใี บประดบั สขี าวนวลรูปขอบขนานแกมรูปไข่ ขนาดไม่เท่ากนั กลบี รองดอกและกลบี ดอกลดรปู เกสรผู้ 3 อนั เมลด็ ขนาดเลก็ ค่อนขา้ งกลม พบ ในจนี ไทย ถงึ ญป่ี ่นุ ออกดอกและตดิ ผลช่วงเดอื นมถิ ุนายน-สงิ หาคม ส่วนที่นามาบริโภค : ใบอ่อน ยอดอ่อน รบั ประทานเป็นผกั สด หรอื นามาประกอบอาหารประเภท แกงอ่อม ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : ทงั้ ปี

106 เล่ม ที่ 1 เรือ่ ง พชื อาหารยอดนิยม (Local Market) ผกั กระแยง ชื่อทวั่ ไป : ผกั กระแยง ผกั แขยงกะออม กะแยงแดง ผกั พา ช่ือวิทยาศาสตร์ : Limnophila aromatica (Lam.) Merr. ชื่อวงศ์ : SCROPHULARIACEAE ลกั ษณะ : ไมล้ ม้ ลุกเน้อื อ่อนฤดเู ดยี ว สงู 30-70 ซม. ทอดเลอ้ื ย แตกรากจากขอ้ ทงั้ ตน้ และใบเม่อื นามาหกั จะมกี ลน่ิ หอมฉุนและเผด็ รอ้ น ใบเด่ยี ว ออกเรยี งตรงขา้ มกนั เป็นค่ๆู ตามขอ้ รปู ใบหอก ปลายใบแหลม โคนใบห่อติดกบั ลาต้น ขอบใบจกั เป็นฟันเล่อื ย แผ่นใบสเี ขยี ว ไม่มกี ้านใบ ดอก เดย่ี ว ออกตามซอกใบ แต่จะออกดอกเป็นช่อกระจะตรงสว่ นยอดของต้น รปู กรวย ปลายบานออก เลก็ น้อย แยกออกเป็นกลบี 4 กลบี สแี ดง สมี ่วง สขี าว หรอื สชี มพอู ่อน ผลเป็นฝักยาวรี เม่อื แก่จะ แตกออก ออกดอกและตดิ เดอื นมนี าคม-กนั ยายน มกั ขน้ึ ตามรมิ คหู รอื คนั นา อา่ งเกบ็ น้า บรเิ วณท่ี มนี ้าขงั เลก็ น้อย และพน้ื ทช่ี ุ่มชน้ื อ่นื ๆ ส่วนท่ีนามาบริโภค : ใบอ่อน ยอดอ่อน นามาประกอบอาหารประเภทแกงออ่ ม ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : ฤดฝู น-ฤดหู นาว

ความหลากหลายของพืชอาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชมุ ชน 107 มะเขือขืน่ ชื่อทวั่ ไป : Cock roach berryมะเขอื ขม มะเขอื หนาม ชื่อวิทยาศาสตร์ : Solanum aculeatissimum Jacq. ชื่อวงศ์ : SOLANACEAE ลกั ษณะ : ไมล้ ม้ ลุก สงู 1-3 เมตร ตามลาตน้ มหี นามสนั้ ใบเดย่ี ว ออกเรยี งสลบั ใบมหี ลายรปู ร่าง โคนใบเป็นรปู หวั ใจ ขอบใบหยกั เวา้ เป็นพตู น้ื ๆ หลงั ใบสเี ขยี ว ทอ้ งใบเรยี บเป็นมนั มหี นามแหลม ตามเสน้ กลางใบ ดอกเป็นช่อสนั้ แบบช่อกระจะ มดี อกย่อย 4-6 ดอก หรอื ออกดอกเดย่ี วตามซอก ใบ มขี นห่างยาวๆ กลบี ดอกมี 5 กลบี สมี ่วง ออกดอกเดอื นมนี าคม-สงิ หาคม ผลรูปทรงกลม ผวิ ผลเรยี บเป็นมนั เปลอื กเหนียว ผลอ่อนผวิ เรยี บล่นื สเี ขยี วเขม้ มลี ายขาวแทรก เม่อื สกุ สเี หลอื งสด ชนั้ เน้ือผลบางมสี เี ขยี วอ่อนอมสเี หลอื งใส มกี ลน่ิ เฉพาะ รสข่นื ภายในผลมเี มลด็ จานวนมาก รูป กลมแบนขนาดเลก็ สนี ้าตาลอ่อน ตดิ ผลเดอื นพฤศจกิ ายน-ธนั วาคม ส่วนที่นามาบริโภค : ผลแก่ รบั ประทานเน้อื หมุ้ เมลด็ เป็นผกั สด ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : เดอื นพฤศจกิ ายน-ธนั วาคม

108 เลม่ ที่ 1 เรอื่ ง พชื อาหารยอดนิยม (Local Market) มะอึก ช่ือทวั่ ไป : Solanum, Bolo Maka, มะอกึ บกั เขอื ขน ช่ือวิทยาศาสตร์ : Solanum stramonifolium Jacq. ช่ือวงศ์ : SOLANACEAE ลกั ษณะ : ไม้พ่มุ ขนาดกลางสงู 1-2 เมตร ทุกสว่ นของตน้ จะมขี นละเอยี ดสนี ้าตาลออ่ นปกคลุมอยู่ ลาตน้ และใบมหี นามและมขี นอ่อนปกคลุม ใบเป็นใบเดย่ี ว ออกเรยี งสลบั กนั รปู ไขก่ วา้ ง โคนใบเวา้ หรอื ตดั ขอบใบหยักเว้าเป็นพู กว้าง 15-25 ซม. ยาว 20-30 ซม. แผ่นใบสเี ขยี ว ดอกเป็นช่อ กระจุกทซ่ี อกใบ ดอกมสี ขี าว กลบี ดอก 5 กลบี ทโ่ี คนเช่อื มติดกนั ปลายแหลม เกสรตวั ผูส้ เี หลอื ง เป็นเส้นรวมเป็นยอดแหลม ผลรูปทรงกลม ท่ผี วิ มขี นยาวหนาแน่น ผลอ่อนมีสเี ขยี ว ผลสุกมีสี เหลอื งแกมน้าตาล ในผลมเี มลด็ แบนจานวนมากเรยี งเป็นแถวอยู่ภาย ออกผลในชว่ งปลายฤดูฝน รสเปรย้ี วกลนิ่ มเี อกลกั ษณ์พเิ ศษ ส่วนท่ีนามาบริโภค : ผลสดรบั ประทานเป็นผกั หรอื ใสส่ ม้ ตา ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : ทงั้ ปี

ความหลากหลายของพืชอาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชุมชน 109 มะเขือพวง ช่ือทวั่ ไป : Turkey berry, Devil’s Fig, Wild Eggplant, Pea Eggplant, Pea Aubergine, Shoo- shoo Bush, มะเขอื พวง ช่ือวิทยาศาสตร์ : Solanum torvum Sw. ช่ือวงศ์ : SOLANACEAE ลกั ษณะ : ไมพ้ ่มุ ขนาดเลก็ สงู ประมาณ 2 เมตร ลาตน้ มหี นามสนั้ ทวั่ ไป แตกกงิ่ กา้ นสาขามากใบ เดย่ี ว ออกเรยี งสลบั รูปรหี รอื รูปไข่ กวา้ ง 5-20 ซม. ยาว 7-25 ซม. ปลายใบแหลม โคนมน มขี น นุ่มปกคลมุ ทงั้ 2 ดา้ นดอกชอ่ ดอก ออกตามซอกใบและปลายกง่ิ มดี อกย่อยจานวนมาก กลบี เลย้ี ง 5 กลบี สว่ นโคนเช่อื มตดิ กนั ปลายแยกเป็นแฉก ตดิ คงทน กลบี ดอก สขี าว 5 กลบี เช่อื มติดกนั เป็นรปู ดาวผลกล่มุ ออกเป็นชอ่ ผลย่อยรปู ทรงกลม ภายในมเี มลด็ กลมแบนจานวนมาก ส่วนท่ีนามาบริโภค : ผลสด รบั ประทานเป็นผกั สด หรอื ใสแ่ กงออ่ ม ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : ทงั้ ปี

110 เลม่ ที่ 1 เรอื่ ง พืชอาหารยอดนิยม (Local Market) มะแว้งเครอื หมากแข้ง ช่ือทวั่ ไป : Brinja lมะแวง้ เครอื หมากแขง้ เครอื ช่ือวิทยาศาสตร์ : Solanum trilobatum L. ช่ือวงศ์ : SOLANACEAE ลกั ษณะ : ไม้เลือ้ ย ลาตน้ มหี นามเกดิ จากผวิ ยาว 1-5 มม. ฐานหนามกวา้ งใบเดย่ี ว เรยี งรอบขอ้ รปู ไข่ รูปกลม หรอื รูปขอบขนาน กวา้ ง 0.4-2 ซม. ยาว 0.6-3 ซม. ปลายใบตดั หรอื มนฐานใบตดั หรอื ฐานไม่เท่ากนั ขอบใบเป็นคล่นื ผวิ ใบเกลย้ี งทงั้ สองดา้ น ดอกช่อแบบช่อกระจุก ออกทซ่ี อกใบ หรอื ปลายยอดกลบี เลย้ี งสเี ขยี ว เช่อื มกนั ทฐ่ี านเป็นรปู ถว้ ย ปลายแยกเป็น 5 แฉกแต่ละแฉกรปู ใบ หอก ผวิ ดา้ นนอกมขี น ตดิ จนกระทงั่ เป็นผลกลบี ดอกสมี ่วง เช่อื มกนั ทฐ่ี าน ปลายแยกเป็น 5 แฉก แต่ละแฉกรูปใบหอก เกสรเพศผูม้ ี 5 อนั อบั เรณู สเี หลอื ง รูปรี ตดิ ท่ฐี าน ก้านชูเกสร เช่อื มกนั ท่ี ฐานเลก็ น้อย ปลายแยก เป็นแท่งเกสรเพศเมยี รงั ไขอ่ ย่เู หนือวงกลบี รูปกลมยอดเกสรเพศเมยี เป็น กอ้ นกลมผลแบบผลมเี น้ือหลายเมลด็ รปู กลมผลอ่อนสเี ขยี วมลี ายสขี าว ผลแก่สแี ดงเขม้ เมลด็ รปู ไตแบน มจี านวนมากมกั ขน้ึ เองตามธรรมชาตใิ นบรเิ วณท่รี าบชายป่ า ทโ่ี ล่งแจง้ และบรเิ วณทร่ี ก รา้ งรมิ ทาง สามารถพบไดท้ วั่ ทกุ ภาคของประเทศไทย ส่วนท่ีนามาบริโภค : ผลสด รบั ประทานเป็นผกั สดหรอื ใสแ่ กงออ่ ม ฤดกู าลที่สามารถใช้ประโยชน์ : ทงั้ ปี

ความหลากหลายของพืชอาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชมุ ชน 111 ขา่ ลิง ช่ือทวั่ ไป : ขา่ ลงิ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Alpinia conchigera Griff. ชื่อวงศ์ : ZINGIBERACEAE ลกั ษณะ : ไม้ล้มลุก มเี หงา้ ใต้ดนิ สงู 50-150 ซม.ใบ เดย่ี ว เรยี งสลบั รูปขอบขนานกวา้ ง 4-10 ซม. ยาว 15-30 ซม. ผวิ ใบเกลย้ี ง ปลายใบแหลมดอก สแี ดงอมม่วงหรอื สขี าวอมเขยี วถงึ เหลอื ง นวล ออกเป็นช่อตัง้ ยาว 15-25 ซม.ดอกย่อยขนาด 1 ซม. กลีบรองดอก เช่ือมกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 3 แฉก กลบี ดอก โคนเชอ่ื มกนั เป็นหลอดสนั้ ๆ กลบี ปากแผ่ ปลายแยกเป็น 3 กลบี มเี สน้ สมี ่วง แกมแดงเป็นทางผล รปู ทรงกลม ขนาดประมาณ 1 ซม. ผลแก่สสี ม้ ถงึ แดง ปลายผล มกั มกี ลบี เลย้ี งตดิ อย่พู บทวั่ ทุกภาคของประเทศไทย ในทช่ี น้ื ของป่ าดงดบิ ออกดอกและตดิ ผลช่วง เดอื นพฤษภาคม-กุมภาพนั ธ์ ส่วนที่นามาบริโภค : หนอออ่ น ดอกออ่ น รบั ประทานเป็นผกั สด หรอื ลวก ฤดกู าลที่สามารถใช้ประโยชน์ : ฤดฝู น

112 เลม่ ที่ 1 เรอื่ ง พชื อาหารยอดนิยม (Local Market) กระเจียว ชื่อทวั่ ไป : กระเจยี ว ดอกกระเจยี ว ขงิ ดา ดอกวา่ น ว่านมหาเมฆ ช่ือวิทยาศาสตร์ : Curcuma aeruginosa Roxb. ชื่อวงศ์ : ZINGIBERACEAE ลกั ษณะ : ไม้ล้มลุก สงู 80-150 ซม. มเี หง้าอย่ใู ต้ดนิ สเี หลอื งอมเขยี วอ่อน หรอื สมี ่วงอมน้าเงนิ ความยาวของเหงา้ 12 ซม. หวั หรอื เหงา้ เมอ่ื เกบ็ ไวน้ านหลายปีจะเปลย่ี นจากสมี ว่ งเป็นสเี หลอื ง ใบ จะแทงขน้ึ มาจากเหงา้ ทโ่ี คนใบจะมกี าบใบสมี ่วงอมเขยี วเรยี งซอ้ นกนั เป็นชนั้ ๆ มใี บประมาณ 4-7 ใบ รปู ยาวรี ปลายใบแหลม กวา้ งประมาณ 8-20 ซม. ยาว 18-60 ซม. ตรงกลางใบจะมสี มี ่วงแดง ไปจนถงึ ปลายใบดอกเป็นช่อแทงขน้ึ มาจากเหง้าและมกี าบใบห่อหุม้ อยู่ กาบใบยาว 12-20 ซม. ดอกรปู ทรงกระบอกกลมรี กลบี ดอกสขี าวหรอื สชี มพแู ดง ประมาณ 20 กลบี ส่วนที่นามาบริโภค : หนออ่อน ดอกออ่ น รบั ประทานเป็นผกั สด หรอื ลวก ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : ฤดฝู น

ความหลากหลายของพืชอาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชมุ ชน 113 กระเจียวขาว ชื่อทวั่ ไป : กระเจยี วขาว กระเจยี วขาวปากเหลอื ง กระเจยี วป่า กระเจยี ว บวั มหาอุด ช่ือวิทยาศาสตร์ : Curcuma cochinchinensis Gagnep ช่ือวงศ์ : ZINGIBERACEAE ลกั ษณะ : พชื ลงหวั ลม้ ลกุ อายุหลายปี เหงา้ อวบน้า หวั รปู ไข่ มเี หงา้ ทส่ี นั้ มาก สงู 40-60 ซม. เน้อื ในสขี าว หรอื เหลอื งอ่อน ใบเดย่ี ว เรยี งสลบั ออกเป็นกอ 1-5 ใบ ใบรปู ขอบขนานแกมรปู ไขป่ ลาย ใบเรยี วแหลม ฐานใบมนหรอื ค่อยๆ สอบลงส่กู า้ นใบ ขอบเรยี บ แผ่นใบดา้ นบนเกลย้ี ง ดา้ นล่างมี ขนปกคลุมหนาแน่น กาบใบมขี นาดใหญ่ ลกั ษณะเป็นหลอด ช่อดอกเชงิ ลด กา้ นช่อดอกตงั้ ตรง เกดิ จากเหงา้ ใตด้ นิ ออกตดิ กบั พน้ื ดนิ ออกดอกก่อนเกดิ ใบใหม่และเหย่ี วแหง้ ก่อนการสรา้ งใบ แต่ ละช่อมใี บประดบั รองรบั สขี าวอมเหลอื งจนถงึ สชี มพูอ่อน เช่อื มตดิ กนั และเรยี งซอ้ นกนั หลายชนั้ รปู สามเหล่ยี ม หรอื รูปไข่แกมรปู ใบหอก ปลายแหลมเกอื บมน มเี สน้ สชี มพูจาง ตามยาว มกี ลน่ิ หอม กลบี ปากมแี ถบสเี หลอื งกวา้ งอย่ตู ามแนวยาวของเสน้ กลางแผ่นกลบี ปาก เกสรเพศผทู้ เ่ี ป็น หมนั รูปรแี ผ่แบนคล้ายกลีบดอก ไม่เช่อื มติดกบั กลบี ปาก รงั ไข่ค่อนขา้ งกลม อยู่ใต้วงกลีบ มี 3 หอ้ ง ผลแบบแคปซลู รปู ไขห่ รอื คอ่ นขา้ งกลม เมลด็ ขนาดเลด็ สดี า เยอ่ื หุม้ สขี าว ส่วนท่ีนามาบริโภค : หนอออ่ น ดอก รบั ประทานเป็นผกั สด หรอื ลวก ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : ฤดฝู น

114 เล่ม ที่ 1 เรือ่ ง พชื อาหารยอดนิยม (Local Market) กระเจียวขาว ชื่อทวั่ ไป : White Angelกระเจยี วขาว ชื่อวิทยาศาสตร์ : Curcuma parviflora Wall. ชื่อวงศ์ : ZINGIBERACEAE ลกั ษณะ : ไม้ล้มลุก ลาต้นตงั้ ตรง สงู 15-50 ซม. มเี หงา้ อย่ใู ต้ดนิ มกี ลนิ่ หอม เหงา้ มลี กั ษณะเป็น รปู ไข่ มขี นาด2×1 ซม. ภายในเป็นสนี ้าตาลอ่อนๆ ใบเป็นใบเดย่ี ว ออกเรยี งสลบั ใบเป็นรปู ขอบ ขนานแกมรูปใบหอกหรอื เป็นรปู รี ปลายใบเรยี วแหลม ฐานใบเป็นรูปลมิ่ หรอื มน กวา้ ง 6-10 ซม. ยาว16-25 ซม. ผวิ ใบเกล้ยี งทงั้ สองดา้ น กา้ นใบแผ่เป็นกาบ ออกดอกเป็นช่อบรเิ วณปลายยอด โดยจะออกจากกลางลาตน้ มกี า้ นช่อยาวประมาณ 7-30 ซม. ช่อดอกมดี อกย่อยจานวนมาก กลบี ดอกเป็นสขี าว มใี บประดบั เป็นสเี ขยี ว ใบประดบั ส่วนยอดสขี าว กลบี ดอกเป็นรูปไขก่ ลบี มสี ขี าว ลว้ นหรอื มสี มี ่วงหรอื สนี ้าเงนิ แตม้ อย่ทู ส่ี ่วนปลาย ขอบกลีบหยกั เป็นคลน่ื ๆ ดอกมเี กสรเพศผทู้ เ่ี ป็น หมนั แผ่เป็นแผ่นคลา้ ยกลบี ดอกสมี ่วงอ่อน และจะออกดอกในช่วงเดอื นมนี าคมถึงเดอื นธนั วาคม ผลเป็นผลแห้งและแตกได้ ลกั ษณะของผลเป็นรูปไข่กลบั และมขี นประเทศไทยสามารถพบไดท้ วั่ ทกุ ภาคของประเทศ ตามป่าดบิ ทวั่ ไป ป่าดบิ แลง้ ป่าผลดั ใบ บรเิ วณโคกและบรเิ วณป่าโปรง่ ส่วนที่นามาบริโภค : หนออ่อน ดอก รบั ประทานเป็นผกั สด หรอื ลวก ฤดกู าลที่สามารถใช้ประโยชน์ : ฤดฝู น

ความหลากหลายของพืชอาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชุมชน 115 กระเจียวแดง ช่ือทวั่ ไป : กระเจยี วแดงอาวแดงกระเจยี วโคก ช่ือวิทยาศาสตร์ : Curcuma sessilis Gage. ชื่อวงศ์ : ZINGIBERACEAE ลกั ษณะ : ไมล้ ้มลกุ มเี หงา้ ใตด้ นิ อยไู่ ดห้ ลายปีสงู 20-30 ซม.ใบเป็น กาบห่อรวมตวั กนั แน่นเป็นลา ตน้ เทยี ม ใบเดย่ี ว เรยี งสลบั รปู ขอบขนาน ปลายใบแหลม ฐานใบแหลม เสน้ ใบขนาน กวา้ ง 15-20 ซม.ยาว 30-40 ซม. ขอบใบเรยี บ ผวิ เกลย้ี ง หรอื มขี นสนั้ นุ่ม ดอกออก เป็นช่อแน่นแบบชอ่ เชงิ ลด รปู ทรงกระบอก กา้ นช่อดอกชอู อกจากปลายลาตน้ เทยี ม ชอ่ ดอกยอ่ ย แต่ละชอ่ มดี อก 2-7 ดอก ใบ ประดบั ทโ่ี คนช่อดอกรองรบั ดอกสเี ขยี ว ดอกสเี หลอื ง มขี น แฉกบนรปู รี แฉกขา้ งแคบกวา่ เลก็ น้อย กลีบปากรูปไข่กลับ สเี หลือง ปลายแยกเป็น 2 พู เกสรเพศผู้ท่ีเป็นหมันรูปไข่กลับหรอื รูปรี สี เหลอื ง มขี นสนั้ เกสรเพศผทู้ ่สี มบูรณ์ มจี ุดสแี ดงจานวนมาก โคนอบั เรณู เรยี วแหลมเป็นเดอื ย 2 อนั โค้งเขา้ หากนั เกสรเพศเมยี มรี งั ไข่ใต้วงกลบี มขี นสนั้ หนาแน่น ผลรูปไข่ ผวิ มขี นหนาแน่น เมลด็ มี รปู รา่ งคลา้ ยหยดน้า ส่วนที่นามาบริโภค : หนอออ่ น ดอก รบั ประทานเป็นผกั สด หรอื ลวก ฤดกู าลที่สามารถใช้ประโยชน์ : ฤดฝู น

116 เล่ม ที่ 1 เรอื่ ง พชื อาหารยอดนิยม (Local Market) เทา ช่ือทวั่ ไป : เทา (สาหรา่ ยน้าจดื ) เตา ไก ผกั เตา. ช่ือวิทยาศาสตร์ : Spirogyra sp. ชื่อวงศ์ : ZYGNEMATACEAE ลกั ษณะ : พืชน้าพวกสาหร่าย รูปร่างเป็นสายเลก็ ๆ เสน้ ยาวคลา้ ยผมรวมกนั เป็นกลุ่ม เกดิ จาก เซลลร์ ปู ทรงกระบอกเรยี งต่อกนั โดยไม่มกี ารแตกแขนง มสี เี ขยี วอ่อน พนั ตวั กนั เป็นกลุ่มกอ้ น เม่อื สมั ผสั จะรูส้ กึ อ่อนนุ่ม แต่ละเซลล์ทเ่ี รยี งต่อกนั มขี นาดความยาว 90-110 ไมโครเมตร และความ กว้าง 40-50 ไมโครเมตร เม่ือดูใต้กล้องจุลทรรศน์จะเห็นคลอโรพลาสต์เรยี งตวั เป็นเกลียวอยู่ ภายในเซลล์ ซง่ึ เป็นลกั ษณะเฉพาะของสาหร่ายในสกุลน้ี โดยทวั่ ไปแลว้ สาหร่ายชนิดน้ีถูกจาแนก อย่ใู นกลุ่มสาหร่ายน้าจดื ขนาดใหญ่ แต่สามารถพบล่องลอยบนพน้ื น้า หรอื พนั อย่กู บั วสั ดุต่างๆ ใน บรเิ วณแหลง่ น้านิ่ง เช่น คลองสง่ น้า หรอื บ่อเพาะเลย้ี งสตั วน์ ้ากร่อย ส่วนท่ีนามาบริโภค : ทุกสว่ นนามาลวกทาลาบแบบอสี าน ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : ฤดฝู น

ความหลากหลายของพืชอาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชมุ ชน 117 บรรณานุกรม กอ่ งกานดา ชยามฤต. 2545. ค่มู อื จาแนกพรรณไม.้ กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จากดั . คณะเภสชั ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั อุบลราชธานี.ฐานขอ้ มลู สมนุ ไพร คณะเภสชั ศาสตร์ มหาวิทยาลยั อบุ ลราชธานี. [Online] ; www.phargarden.com. ; [15 ธนั วาคม 2558]. โครงการอนุรกั ษพ์ นั ธุกรรมพชื อนั เน่อื งมาจากพระราชดาริ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยาม บรมราชกมุ ารี สวนจติ รลดา. 2558. ขอ้ มลู พรรณไม.้ [Online] ; http://www.rspg.or.th/plants_data/index.htm ; [15 ธนั วาคม 2558]. เตม็ สมติ านนท.์ ช่ือพรรณไมแ้ ห่งประเทศไทย. กรงุ เทพฯ: หอพรรณไมก้ รมป่าไมบ้ างเขน.2544 มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล. 2558. กรนี ไฮเปอรม์ ารท์ : สารานุกรมผลติ ผลและผลติ ภณั ฑจ์ ากพชื ใน ซปุ เปอรม์ ารเ์ กต็ ใน “ดชั นพี ชื ”. [Online] ; http://www.sc.mahidol.ac.th/wiki/doku.php?id= ดชั นีพชื ; [15 ธนั วาคม 2558]. สถาบนั วจิ ยั และพฒั นาทส่ี งู (องคก์ รมหาชน).โครงการเผยแพรข่ อ้ มลู ทรพั ยากรชวี ภาพและภมู ิ ปัญญาทอ้ งถน่ิ บนพน้ื ทส่ี งู . [Online] ; eherb.hrdi.or.th. ; [15 ธนั วาคม 2558]. สานกั งานพฒั นาเศรษฐกจิ จากฐานชวี ภาพ (องคก์ ารมหาชน). 2558. My Biodiversity. [Online] ; http://www.biogang.net/biodiversity_view.php? ; [15 ธนั วาคม 2558]. องคก์ ารสวนพฤกษศาสตร์ กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม. ฐานขอ้ มูลพรรณไม้ องคก์ ารสวนพฤกษศาสตร.์ [Online] ; http://www.qsbg.org/ ; [15 ธนั วาคม 2558].