Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พุทธวจน "ฆราวาสชั้นเลิศ"

Description: พุทธวจน "ฆราวาสชั้นเลิศ"

Search

Read the Text Version

เปิดธรรมท่ถี ูกปดิ : ฆราวาสชั้นเลิศ สุชาดา !   ถา้ อยา่ งนั้น เธอจงฟัง จงใสใ่ จให้ดี เราจกั กลา่ ว (๑)  ภริยาผู้มีจิตประทุษร้าย  ไม่อนุเคราะห์ด้วย ประโยชนเ์ ก้ือกลู ยินดใี นชายอ่ืน ดหู มน่ิ สามี เปน็ ผู้อนั เขาซื้อมาด้วยทรัพย์  พยายามจะฆ่าผัว  ภริยาของบุรุษ เหน็ ปานนเ้ี รยี กวา่ วธกาภรยิ า ภรยิ าเสมอดว้ ยเพชฌฆาต. (๒)  สามีของหญิงประกอบด้วยศิลปกรรม พาณชิ ยกรรม และกสกิ รรม ไดท้ รพั ยใ์ ดมา ภรยิ าปรารถนา จะยักยอกทรัพย์  แม้มีอยู่น้อยนั้นเสีย  ภริยาของบุรุษ เห็นปานนี้เรียกว่า โจรภริยา ภริยาเสมอด้วยโจร. (๓)  ภรยิ าทไ่ี มส่ นใจการงาน เกยี จครา้ น กนิ มาก ปากร้าย ปากกลา้ รา้ ยกาจ กล่าวค�ำ หยาบ ขม่ ขผ่ี วั ผู้ขยัน ขันแข็ง ภริยาของบุรุษเห็นปานนี้เรียกว่า อัยยาภริยา ภรยิ าเสมอดว้ ยนาย. (๔)  ภริยาใดอนุเคราะห์ด้วยประโยชน์เก้ือกูล ทุกเม่ือ  ตามรักษาสามีเหมือนมารดารักษาบุตร  รักษา ทรัพยท์ ส่ี ามหี ามาไดไ้ ว้ ภรยิ าของบุรษุ เหน็ ปานน้ีเรยี กว่า มาตาภรยิ า ภรยิ าเสมอดว้ ยมารดา. 83

พทุ ธวจน - หมวดธรรม (๕)  ภริยาท่ีเป็นเหมือนพี่สาวน้องสาว  มีความ เคารพในสามีของตน  เป็นคนละอายบาป  เป็นไปตาม อำ�นาจสามี ภรยิ าของบรุ ษุ เห็นปานนีเ้ รยี กวา่ ภคนิ ภี รยิ า ภรยิ าเสมอดว้ ยพส่ี าว นอ้ งสาว. (๖)  ภริยาใดในโลกน้ีเห็นสามีแล้วชื่นชมยินดี เหมือนเพ่ือนผู้จากไปนานแล้วกลับมา  เป็นหญิงมีศีล มีวัตร  ปฏิบัติสามี  ภริยาของบุรุษเห็นปานน้ีเรียกว่า สขีภริยา ภริยาเสมอด้วยเพื่อน. (๗)  ภริยาใดสามีเฆี่ยนตี  ขู่ตะคอก  ก็ไม่โกรธ ไมค่ ิดพโิ รธโกรธตอบสามี อดทนได้ เป็นไปตามอ�ำ นาจ สามี ภรยิ าของบุรษุ เหน็ ปานน้ีเรียกว่า ทาสภี ริยา ภริยา เสมอด้วยทาสี. ภรยิ าทเ่ี รยี กวา่ วธกาภรยิ า โจรภี รยิ า อยั ยาภรยิ า  ภริยาท้งั   ๓  จำ�พวกน้นั   ล้วนแต่เป็นคนทุศีลหยาบช้า ไม่เอือ้ เฟ้อื เม่อื ตายไป ย่อมเขา้ ถงึ นรก. 84

เปดิ ธรรมทถี่ กู ปิด : ฆราวาสชั้นเลิศ ส่วนภริยาที่เรียกว่า  มาตาภริยา  ภคินีภริยา สขีภริยา  ทาสีภริยา  ภริยาทั้ง  ๔  จำ�พวกน้ัน  เพราะ ตั้งอย่ใู นศีล ถนอมรกั ไวย้ ัง่ ยนื เมื่อตายไป ย่อมเข้าถงึ สุคต.ิ สุชาดา !   ภริยาของบุรุษ  ๗  จำ�พวกนี้แล เธอเป็นภรยิ าจ�ำ พวกไหน ใน ๗ จ�ำ พวกน้ัน. ขา้ แตพ่ ระองค์ผ้เู จรญิ  !   ตง้ั แตว่ นั นเ้ี ปน็ ตน้ ไป ขอพระผมู้ ี พระภาคโปรดทรงจำ�หมอ่ มฉนั วา่ เปน็ ภรยิ าของสามผี เู้ สมอดว้ ยทาส.ี 85

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมท่ถี ูกปิด : ฆราวาสช้ันเลิศ มนุษยผ์ ี 21 -บาลี จตกุ ฺก. อํ. ๒๑/๗๔/๕๓. คหบดีและคหปตานีท้ังหลาย !   การอยู่ร่วม ๔ ประการนี้ ๔ ประการเปน็ อยา่ งไรเล่า ? คือ (๑)  ชายผีอยู่รว่ มกับหญิงผี (ฉโว ฉวาย สทฺธึ สํวสต)ิ (๒)  ชายผอี ย่รู ว่ มกบั หญงิ เทวดา (ฉโว เทวยิ า สทฺธึ สํวสติ) (๓)  ชายเทวดาอยรู่ ่วมกับหญิงผี (เทโว ฉวาย สทธฺ ึ สวํ สติ) (๔)  ชายเทวดา อยูร่ ่วมกับหญงิ เทวดา (เทโว เทวยิ า สทธฺ ึ สํวสติ) คหบดีและคหปตานีท้ังหลาย !   ก็ชายผีอยู่ร่วม กับหญงิ ผอี ย่างไร ? สามใี นโลกนเ้ี ปน็ ผมู้ กั ฆา่ สตั ว์ ลกั ทรพั ย์ ประพฤตผิ ดิ ในกาม พูดเท็จ ดืม่ น�ำ้ เมาคือสรุ าและเมรัย อนั เปน็ ท่ตี ้งั แหง่ ความประมาท เปน็ คนทศุ ลี มบี าปธรรม มใี จอนั มลทนิ คอื ความตระหนค่ี รอบง�ำ ดา่ และบรภิ าษสมณพราหมณ์ อยู่ 86

เปดิ ธรรมทถี่ กู ปดิ : ฆราวาสชั้นเลิศ ครองเรอื น แมภ้ รรยาของเขากเ็ ป็นผู้มกั ฆา่ สตั ว์ ลักทรพั ย์ ประพฤตผิ ิดในกามฯลฯเปน็ คนทศุ ลี มบี าปธรรมมีใจอัน มลทนิ คอื ความตระหนค่ี รอบง�ำ  ดา่ และบรภิ าษสมณพราหมณ์ อยู่ครองเรอื น. คหบดีและคหปตานีท้ังหลาย !   ชายผีอยู่ร่วม กับหญงิ ผี อยา่ งนีแ้ ล. คหบดีและคหปตานีท้ังหลาย !   ก็ชายผีอยู่ร่วม กับหญิงเทวดาอยา่ งไร ? สามใี นโลกนเ้ี ปน็ ผมู้ ักฆ่าสัตว…์ ดา่ และบรภิ าษ สมณพราหมณ์ อยู่ครองเรือน ส่วนภรรยาของเขาเป็น ผู้งดเว้น จากการฆา่ สัตว์ จากการลักทรพั ย์ จากการ ประพฤติผิดในกาม  จากการพูดเท็จ  จากการดื่มนำ้�เมา คือสุราเมรัยอันเป็นท่ีต้ังแห่งความประมาท  มีศีล  มีกัลยาณธรรม  มีใจปราศจากมลทินคือความตระหนี่  ไม่ด่าไม่บรภิ าษสมณพราหมณ์  อยู่ครองเรือน. คหบดีและคหปตานีท้ังหลาย !   ชายผีอยู่ร่วม กับหญงิ เทวดา อยา่ งน้ีแล. 87

พทุ ธวจน - หมวดธรรม คหบดีและคหปตานีทั้งหลาย !   ก็ชายเทวดา อยู่ร่วมกบั หญิงผอี ยา่ งไร ? สามีในโลกน้ีเป็นผู้งดเว้น  จากการฆ่าสัตว์… ไมด่ า่ ไมบ่ รภิ าษสมณพราหมณ์ อยคู่ รองเรอื น สว่ นภรรยา ของเขาเปน็ ผมู้ กั ฆา่ สตั ว…์ ดา่ และบรภิ าษสมณพราหมณ์ อยคู่ รองเรอื น. คหบดีและคหปตานีท้ังหลาย !   ชายเทวดา อยรู่ ว่ มกับหญิงผี อยา่ งนี้แล. คหบดีและคหปตานีท้ังหลาย !   ก็ชายเทวดาอยู่ ร่วมกบั หญิงเทวดาอย่างไร ? สามีในโลกน้ีเป็นผู้งดเว้น  จากการฆ่าสัตว์… ไมด่ ่าไมบ่ ริภาษสมณพราหมณ์ อยคู่ รองเรือน แมภ้ รรยา ของเขากเ็ ปน็ ผงู้ ดเวน้   จากการฆา่ สตั ว…์ ไมด่ า่ ไมบ่ รภิ าษ สมณพราหมณ์ อยู่ครองเรอื น คหบดีและคหปตานีทั้งหลาย !   ชายเทวดา อยรู่ ว่ มกบั หญิงเทวดา อยา่ งนแี้ ล. คหบดีและคหปตานีทั้งหลาย !   การอยู่ร่วม ๔ ประการอย่างน้แี ล. 88

เปดิ ธรรมทถี่ กู ปิด : ฆราวาสชั้นเลิศ ภรรยาและสามที ง้ั สองเปน็ ผทู้ ศุ ลี เปน็ คนตระหน่ี มกั ด่าว่าสมณพราหมณ์ ช่ือวา่ เปน็ ผมี าอยู่รว่ มกนั . สามีเป็นผู้ทุศีล  มีความตระหน่ี  มักด่าว่า สมณพราหมณ์ ส่วนภรรยาเป็นผมู้ ศี ลี รู้ความประสงค์ ของผ้ขู อ ปราศจากความตระหน่ี ภรรยาน้ันชื่อว่าหญงิ เทวดาอยูร่ ว่ มกบั ชายผ.ี สามีเป็นผู้มีศีล  รู้ความประสงค์ของผู้ขอ ปราศจากความตระหนี่  ส่วนภรรยาเป็นผู้ทุศีล  มีความ ตระหน่ี มกั ด่าวา่ สมณพราหมณ์ ช่ือว่าหญงิ ผอี ยรู่ ว่ มกับ ชายเทวดา. ท้ังสองเป็นผู้มีศรัทธา  รู้ความประสงค์  ของ ผู้ขอมีความสำ�รวม  เป็นอยู่โดยธรรม  ภรรยาและ สามีทั้งสองน้ัน  เจรจาถ้อยคำ�ที่น่ารักแก่กันและกัน  ยอ่ มมคี วามเจรญิ รงุ่ เรอื งมาก  มคี วามผาสกุ   ทง้ั สองฝา่ ย มีศีลเสมอกัน  รักใคร่กันมาก  ไม่มีใจร้ายต่อกัน คร้ันประพฤติธรรม  ในโลกน้ีแล้ว  ท้ังสองเป็นผู้ มีศีลและวัตรเสมอกัน  ย่อมเป็นผู้เสวยกามารมณ์ เพลดิ เพลินบันเทงิ ใจอย่ใู นเทวโลก. 89

สงิ่ ใดมีความเกิด เปน ธรรมดา สิ่งนั้นทง้ั หมด มีความดับไป เปนธรรมดา -บาลี มหา. ท.ี ๑๐/๔๙/๔๙.

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมทถี่ ูกปดิ : ฆราวาสช้ันเลิศ เข้าใจเรอื่ งกรรม 22เร่ืองควรทราบเก่ียวกบั กรรม ทง้ั ๖ แง่มุม -บาลี ฉกกฺ . อ.ํ ๒๒/๔๕๘,๔๖๓-๔๖๔/๓๓๔. ภิกษุทั้งหลาย !   กรรม เปน็ สง่ิ ทบ่ี คุ คลควรทราบ นทิ านสมั ภวะ แหง่ กรรม เปน็ สง่ิ ทบ่ี คุ คลควรทราบ เวมัตตตา แห่งกรรม เปน็ สง่ิ ทบ่ี คุ คลควรทราบ วิบาก แห่งกรรม เปน็ สง่ิ ทบ่ี คุ คลควรทราบ กัมมนิโรธ เปน็ สง่ิ ทบ่ี คุ คลควรทราบ กมั มนโิ รธคามนิ ปี ฏปิ ทา เปน็ สง่ิ ทบ่ี คุ คลควรทราบ ... ค�ำ ทเ่ี รากลา่ วแลว้ ดงั นน้ี น้ั เราอาศยั อะไรกลา่ วเลา่  ? ภิกษุท้ังหลาย !  เรากลา่ วซง่ึ เจตนา  วา่ เปน็ กรรม เพราะวา่ บคุ คลเจตนาแล้ว ยอ่ มกระท�ำซ่ึงกรรม ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ. ภิกษุทั้งหลาย !   นทิ านสมั ภวะแหง่ กรรมทง้ั หลาย เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุทั้งหลาย !   นิทานสัมภวะ  (เหตุเป็นแดน เกดิ พร้อม) แหง่ กรรมทั้งหลาย คอื ผสั สะ. 91

พทุ ธวจน - หมวดธรรม ภิกษุท้ังหลาย !   เวมัตตตาแห่งกรรมท้ังหลาย เป็นอยา่ งไรเลา่  ? ภิกษุทั้งหลาย !   กรรมท่ีทำ�สัตว์ให้เสวยเวทนา ในนรก  มีอย่ ู กรรมที่ทำ�สัตว์ให้เสวยเวทนาในกำ�เนิด- เดรัจฉาน  มีอยู่  กรรมที่ทำ�สัตว์ให้เสวยเวทนาในเปรต- วิสัย  มีอยู่  กรรมที่ทำ�สัตว์ให้เสวยเวทนาในมนุษยโลก  มีอย ู่ กรรมทีท่ ำ�สัตว์ใหเ้ สวยเวทนาในเทวโลก มีอยู่ ภิกษุท้ังหลาย !   น้ีเรากล่าวว่า  เวมัตตตา (ความมปี ระมาณตา่ งๆ) แหง่ กรรมทั้งหลาย. ภกิ ษุท้ังหลาย !   วบิ ากแห่งกรรมทั้งหลาย เปน็ อยา่ งไรเล่า ? ภิกษุท้ังหลาย !   เรากล่าววิบากแห่งกรรม ทั้งหลาย  ว่ามีอยู่  ๓  อย่าง  คือ  วิบากในทิฏฐธรรม (คือทนั ควนั ) หรอื วา่ วบิ ากในอปุ ะปชั ชะ (คอื ในเวลาตอ่ มา) หรือวา่ วิบากในอปรปรยิ ายะ (คอื ในเวลาต่อมาอกี ). ภิกษุทั้งหลาย !   น้เี รากล่าวว่า วบิ ากแหง่ กรรม ทัง้ หลาย. 92

เปิดธรรมทถี่ ูกปดิ : ฆราวาสช้ันเลิศ ภิกษุทั้งหลาย !   กมั มนิโรธ เป็นอยา่ งไรเลา่  ? ภิกษุทั้งหลาย !   ความดับแห่งกรรมย่อมมี เพราะความดบั แหง่ ผสั สะ. อรยิ อฏั ฐงั คกิ มรรค (อรยิ มรรคมอี งคแ์ ปด) นน้ี น่ั เอง เปน็ กมั มนโิ รธคามนิ ปี ฏปิ ทา (ขอ้ ปฏบิ ตั ใิ หถ้ งึ ความดบั ไมเ่ หลอื แห่งกรรม) ไดแ้ ก่ ส่ิงเหลา่ นี้คอื สมั มาทิฏฐิ (ความเหน็ ชอบ) สัมมาสงั กัปปะ (ความด�ำ ริชอบ) สัมมาวาจา (การพูดจาชอบ) สมั มากมั มันตะ (การทำ�การงานชอบ) สัมมาอาชวี ะ (การเล้ยี งชวี ิตชอบ) สมั มาวายามะ (ความพากเพยี รชอบ) สัมมาสติ (ความระลกึ ชอบ) สมั มาสมาธิ (ความตง้ั ใจมั่นชอบ). ภิกษุท้ังหลาย !   เม่ือใด  อริยสาวก  ย่อมรู้ชัด ซ่ึงกรรม อย่างนี้ รชู้ ดั ซึ่งนทิ านสัมภวะแหง่ กรรม อย่างน้ี รู้ชัดซ่ึงเวมัตตตาแห่งกรรม  อย่างน้ี  รู้ชัดซ่ึงวิบากแห่ง กรรม  อย่างนี้  รู้ชัดซึ่งกัมมนิโรธ  อย่างนี้  รู้ชัดซ่ึง กมั มนิโรธคามินปี ฏปิ ทา อย่างน้ี 93

พทุ ธวจน - หมวดธรรม อริยสาวกน้ัน  ย่อมรู้ชัดซ่ึงพรหมจรรย์นี้ว่า เปน็ เครอ่ื งเจาะแทงกิเลส เปน็ ที่ดบั ไมเ่ หลอื แหง่ กรรม. ภิกษทุ ้ังหลาย !   ขอ้ ท่เี รากลา่ วแล้ววา่ “กรรม เปน็ สงิ่ ทบี่ ุคคลควรทราบ นทิ านสมั ภวะแหง่ กรรม เปน็ สง่ิ ทบ่ี คุ คลควรทราบ เวมัตตตาแหง่ กรรม เป็นสิง่ ที่บุคคลควรทราบ วิบากแหง่ กรรม เปน็ สงิ่ ทีบ่ ุคคลควรทราบ กัมมนิโรธ เป็นสิ่งทบ่ี ุคคลควรทราบ กมั มนโิ รธคามนิ ปี ฏปิ ทา เปน็ สง่ิ ทบ่ี คุ คลควรทราบ” ดังนี้นั้น เราอาศัยความข้อนี้กล่าวแล้ว (รวมสิ่งที่บุคคล ควรทราบเก่ียวกับกรรมทง้ั ๖ แงม่ ุม). 94

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมท่ถี กู ปิด : ฆราวาสชั้นเลิศ กรรมเปรียบด้วยกอ้ นเกลือ 23 -บาลี ตกิ . อํ. ๒๐/๓๒๐/๕๔๐. ภิกษุทั้งหลาย !   ใครพึงกล่าวว่า  คนทำ�กรรม อยา่ งใดๆ ย่อมเสวย กรรมนัน้ อย่างนัน้ ๆ ดงั น้ี เม่ือเปน็ อย่างน้นั การอยปู่ ระพฤตพิ รหมจรรยก์ ็มไี มไ่ ด้ ช่องทาง ท่ีจะทำ�ที่สดุ แหง่ ทุกขโ์ ดยชอบก็ไม่ปรากฏ. ส่วนใครกล่าวว่า  คนทำ�กรรมอันจะพึงให้ผล อยา่ งใดๆ ยอ่ มเสวย ผลของกรรมนัน้ อย่างนั้นๆ ดังน้ี เมื่อเป็นอย่างนี้  การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ย่อมมีได้ ช่องทางทีจ่ ะทำ�ท่สี ดุ แหง่ ทุกข์โดยชอบก็ย่อมปรากฏ. ภิกษุท้ังหลาย !   บาปกรรมแม้ประมาณน้อย ทบ่ี คุ คลบางคนท�ำ แลว้ บาปกรรมนน้ั ยอ่ มน�ำ เขาไปนรกได้ บาปกรรมประมาณนอ้ ยอยา่ งเดียวกนั นน้ั   บางคนทำ�แล้ว กรรมนั้นเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม  (ให้ผลในปัจจุบัน) ไมป่ รากฏผลมากต่อไปเลย. บาปกรรม แมป้ ระมาณนอ้ ย บคุ คลชนดิ ไร ท�ำ แลว้ บาปกรรมนั้นจึงน�ำ เขาไปนรกได ้ ? 95

พทุ ธวจน - หมวดธรรม บุคคลบางคน  ในโลกนี้เป็นผู้มีกายมิได้อบรม มีศีลมิได้อบรม  มีจิตมิได้อบรม  มีปัญญามิได้อบรม มีคุณความดีน้อย  เป็นอัปปาตุมะ  (ผ้มู ีใจคับแคบ  ใจหยาบ) เป็นอัปปทุกขวิหารี  (มีปกติอยู่เป็นทุกข์ด้วยเหตุเล็กน้อย)  บาปกรรมแม้ประมาณน้อย  บุคคลชนิดน้ีทำ�แล้ว  บาปกรรมนนั้ ย่อมนำ�เขาไปนรกได้. บาปกรรม ประมาณน้อยอย่างเดียวกัน บคุ คล ชนิดไร  ทำ�แล้ว  กรรมนั้นจึงเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม ไม่ปรากฏผลมากต่อไปเลย ? บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มีกาย มีศีล มีจิต มีปัญญาได้อบรมแล้ว  มีคุณความดีมาก  เป็นมหาตมะ (ผมู้ ใี จกวา้ งขวาง)  เปน็ อปั ปมาณวหิ ารี (มปี กตอิ ยูด่ ว้ ยธรรม อนั หาประมาณมไิ ด)้   บาปกรรมประมาณนอ้ ยอยา่ งเดยี วกนั นน้ั   บุคคลชนิดนี้ทำ�แล้วกรรมน้ันเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม  ไมป่ รากฏผลมากต่อไปเลย. ภิกษุทั้งหลาย !   เปรียบเหมือนบุรุษใส่เกลือลง ไปในถ้วยน้ำ�เล็กๆ หนงึ่ ก้อน เธอท้ังหลายจะส�ำ คัญความ ขอ้ นว้ี า่ อยา่ งไร น�ำ้ อนั นอ้ ยในถว้ ยน�ำ้ นน้ั จะกลายเปน็ น�ำ้ เคม็ ไมน่ า่ ดืม่ ไป เพราะเกลอื ก้อนนน้ั ใช่ไหม ? 96

เปิดธรรมที่ถูกปดิ : ฆราวาสชั้นเลิศ “เป็นเชน่ นัน้ พระเจา้ ขา้  !”. ข้อนน้ั เพราะเหตุอะไรเล่า “เพราะเหตวุ า่ นำ้ �ในถว้ ยนำ้ �นน้ั มนี อ้ ย มนั จงึ เคม็ ไดเ้ พราะ เกลอื กอ้ นนน้ั พระเจ้าขา้  !”. เปรยี บเหมอื นบรุ ษุ ใสเ่ กลอื กอ้ นขนาดเดยี วกนั นน้ั ลงไปในแม่น้ำ�คงคา  เธอท้ังหลายจะสำ�คัญความข้อนี้ว่า อยา่ งไร น�ำ้ ในแมน่ �ำ้ คงคานน้ั จะกลายเปน็ น�ำ้ เคม็ ดม่ื ไมไ่ ด้ เพราะเกลอื กอ้ นนนั้ หรือ ? 
 “หามไิ ด้ พระเจ้าขา้  !”. ขอ้ น้ันเพราะเหตุอะไรเล่า “เพราะเหตวุ า่ น้ำ�ในแม่น้ำ�คงคามมี าก นำ้ �นั้นจึงไม่เคม็ เพราะเกลือก้อนน้ัน พระเจ้าขา้  !”. ภิกษุท้ังหลาย !   ฉันใดก็ฉันน้ัน  บาปกรรมแม้ ประมาณนอ้ ย บคุ คลบางคนท�ำ แลว้ บาปกรรมนน้ั ยอ่ มน�ำ เขาไปนรกได้  ส่วนบาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียว กนั นน้ั บางคนท�ำ แลว้ กรรมนน้ั เปน็ ทฏิ ฐธรรมเวทนยี กรรม ไมป่ รากฏผลมากตอ่ ไปเลย... 97

พทุ ธวจน - หมวดธรรม ภิกษุทั้งหลาย !   คนบางคนย่อมผูกพันเพราะ ทรพั ย์ แม้กึง่ กหาปณะ... แม้ ๑ กหาปณะ... แม้ ๑๐๐ กหาปณะ สว่ นบางคนไม่ผูกพนั เพราะทรพั ย์เพียงเทา่ นน้ั . คนอย่างไร  จึงผูกพันเพราะทรัพย์  แม้กึ่ง กหาปณะ  คนบางคนในโลกนี้เป็นคนจน  มีสมบัติน้อย มีโภคะน้อย  คนอย่างนี้ย่อมผูกพันเพราะทรัพย์  แม้กึ่ง กหาปณะ ... คนอยา่ งไร ไมผ่ กู พนั เพราะทรพั ยเ์ พยี งเทา่ นน้ั  ? คนบางคนในโลกน้ีเปน็ ผ้มู ัง่ คงั่ มที รัพยม์ าก มีโภคะมาก คนอย่างนี้  ย่อมไม่ผูกพันเพราะทรัพย์เพียงเท่านั้น  ฉนั นนั้ นั่นแหละ. ภิกษุทั้งหลาย !   บาปกรรมแม้ประมาณน้อย บคุ คลบางคนทำ�แลว้ บาปกรรมน้นั ย่อมน�ำ เขาไปนรกได้ ส่วนบาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียวกันนั้น  บุคคล บางคนทำ�แล้ว  กรรมน้ันเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม  ไมป่ รากฏผลมากตอ่ ไปเลย... 98

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมท่ีถูกปิด : ฆราวาสช้ันเลิศ กรรมที่เป็นไปเพื่อความสน้ิ กรรม 24 -บาลี จตุกกฺ . อ.ํ ๒๑/๓๒๐-๓๒๑/๒๓๗. ภกิ ษทุ ้งั หลาย !   กรรม ๔ อยา่ งเหลา่ น้ี เรากระท�ำ ใหแ้ จง้ ดว้ ยปญั ญาอนั ยง่ิ เองแลว้ ประกาศใหร้ ทู้ ว่ั กนั . กรรม ๔ อย่าง อยา่ งไรเลา่  ? ภิกษทุ ั้งหลาย !   กรรมด�ำ มวี ิบากดำ� กม็ ีอยู่. ภิกษุทงั้ หลาย !   กรรมขาว มวี บิ ากขาว กม็ อี ย.ู่ ภิกษุท้ังหลาย !   กรรมทั้งดำ�ทั้งขาว  มีวิบาก ท้งั ดำ�ท้ังขาว ก็มอี ย.ู่ ภิกษุทั้งหลาย !   กรรมไม่ดำ�ไม่ขาว  มีวิบาก ไม่ด�ำ ไมข่ าว เปน็ ไปเพ่อื ความสิน้ กรรม ก็มอี ยู่. ภิกษุทั้งหลาย !   กรรมดำ�  มีวิบากดำ�  เป็น อย่างไรเลา่  ? ภิกษุท้ังหลาย !   บุคคลบางคนในกรณีนี้  ย่อม ปรุงแต่ง  กายสังขารอันเป็นไปกับด้วยความเบียดเบียน ยอ่ มปรงุ แตง่   วจสี งั ขารอนั เปน็ ไปกบั ดว้ ยความเบยี ดเบยี น  ยอ่ มปรงุ แตง่   มโนสงั ขารอนั เปน็ ไปกบั ดว้ ยความเบยี ดเบยี น.  99

พทุ ธวจน - หมวดธรรม ครน้ั เขาปรงุ แตง่ สงั ขาร  (ทง้ั สาม)  ดงั นแ้ี ลว้   ยอ่ ม  เขา้ ถงึ โลก อันเป็นไปกับด้วยความเบียดเบียน  ผัสสะทั้งหลาย อันเป็นไปกับด้วยความเบียดเบียน  ย่อมถูกต้องเขา ผู้เข้าถึงโลกอันเป็นไปกับด้วยความเบียดเบียน  เขาอัน ผัสสะท่ีเป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนถูกต้องแล้ว  ย่อม  เสวยเวทนาที่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียน  อนั เปน็ ทกุ ขโ์ ดยสว่ นเดยี ว ดงั เชน่ พวกสัตวน์ รก. ภิกษุทั้งหลาย !   น้ีเรยี กวา่ กรรมดำ� มวี ิบากด�ำ . ภิกษุทง้ั หลาย !   กรรมขาว มวี บิ ากขาว เป็น อยา่ งไรเลา่  ? ภิกษุทั้งหลาย !   บุคคลบางคนในกรณีน้ ี ย่อม ปรงุ แตง่   กายสงั ขารอนั ไมเ่ ปน็ ไปกบั ดว้ ยความเบยี ดเบยี น  ยอ่ มปรงุ แตง่   วจสี งั ขารอนั ไมเ่ ปน็ ไปกบั ดว้ ยความเบยี ดเบยี น  ยอ่ มปรงุ แตง่   มโนสงั ขารอนั ไมเ่ ปน็ ไปกบั ดว้ ยความเบยี ดเบยี น.  ครน้ั เขาปรงุ แตง่   สงั ขาร  (ทง้ั สาม)  ดงั นแ้ี ลว้   ยอ่ มเขา้ ถงึ โลก อันไม่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียน  ผัสสะทั้งหลายท่ี ไมเ่ ปน็ ไปกบั ดว้ ยความเบยี ดเบยี น  ยอ่ มถกู ตอ้ งเขาผเู้ ขา้ ถงึ โลก อนั ไมเ่ ปน็ ไปกบั ดว้ ยความเบยี ดเบยี น เขาอนั ผสั สะทไ่ี มเ่ ปน็ 100

เปิดธรรมท่ีถกู ปดิ : ฆราวาสช้ันเลิศ ไปกบั ด้วยความเบยี ดเบยี นถกู ต้องแลว้ ยอ่ ม เสวยเวทนา ทไ่ี มเ่ ปน็ ไปกบั ดว้ ยความเบยี ดเบยี น อนั เปน็ สขุ โดยสว่ นเดยี ว ดังเช่นพวกเทพสภุ กิณหา. ภิกษทุ ้งั หลาย !   นเ้ี รยี กวา่ กรรมขาว มวี บิ ากขาว. ภิกษุท้ังหลาย !   กรรมท้ังดำ�ท้ังขาว  มีวิบาก ทงั้ ด�ำ ทงั้ ขาว  เปน็ อยา่ งไรเลา่  ? ภิกษุทั้งหลาย !   บุคคลบางคนในกรณีนี้  ย่อม ปรงุ แตง่   กายสงั ขารอนั เปน็ ไปกบั ดว้ ยความเบยี ดเบยี นบา้ ง ไม่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนบ้าง ย่อมปรุงแต่ง วจสี งั ขารอนั เปน็ ไปกบั ดว้ ยความเบยี ดเบยี นบา้ ง  ไมเ่ ปน็ ไป กบั ดว้ ยความเบยี ดเบยี นบา้ ง  ยอ่ มปรงุ แตง่   มโนสังขาร อันเป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนบ้าง  ไม่เป็นไปกับ ด้วยความเบียดเบียนบ้าง  ครั้นเขาปรุงแต่ง  สังขาร (ทงั้ สาม)  ดังนี้แล้ว  ย่อมเข้าถึงโลกอันเป็นไปกับด้วย ความเบยี ดเบยี นบา้ ง ไมเ่ ปน็ ไปกบั ดว้ ยความเบยี ดเบยี นบา้ ง ผัสสะท้ังหลายท่ีเป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนบ้าง ไม่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนบ้าง  ย่อมถูกต้อง เขาผู้เข้าถึงโลกอันเป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนบ้าง 101

พทุ ธวจน - หมวดธรรม ไม่เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนบ้าง  เขาอันผัสสะที่ เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนบ้าง  ไม่เป็นไปกับด้วย ความเบียดเบียนบ้าง  ถูกต้องแล้ว  ย่อมเสวยเวทนาท่ี เป็นไปกับด้วยความเบียดเบียนบ้าง  ไม่เป็นไปกับด้วย ความเบียดเบียนบ้าง  อันเป็นเวทนาที่เป็นสุขและทุกข์ เจอื กนั ดงั เช่นพวกมนษุ ย์ พวกเทพบางพวก พวกวินบิ าต บางพวก. ภิกษุท้ังหลาย !   น้ีเรียกว่า  กรรมท้ังดำ�ทั้งขาว มวี ิบากทง้ั ด�ำ ทั้งขาว. ภกิ ษทุ งั้ หลาย !   กรรมไมด่ �ำ ไมข่ าว มวี บิ ากไมด่ �ำ ไมข่ าว เปน็ ไปเพอ่ื ความสน้ิ กรรมนน้ั เปน็ อยา่ งไรเลา่  ? คือ สัมมาทฏิ ฐิ สมั มาสงั กปั ปะ สัมมาวาจา สมั มากมั มันตะ สัมมาอาชวี ะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธ.ิ ภิกษุทั้งหลาย !   นี้เรียกว่า  กรรมไม่ดำ�ไม่ขาว มีวิบากไม่ดำ�ไมข่ าว  เป็นไปเพอ่ื ความส้นิ กรรม. ภิกษุทั้งหลาย !   เหล่าน้ีแล  กรรม  ๔  อย่าง ทเ่ี ราท�ำ ใหแ้ จง้ ดว้ ยปญั ญาอนั ยง่ิ เองแลว้ ประกาศใหร้ ทู้ ว่ั กนั . 102

พุทธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมท่ีถกู ปดิ : ฆราวาสช้ันเลิศ วิธดี บั กรรม 25 -บาลี ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๖๕/๓๓๔. ภิกษุทัง้ หลาย !   ...อรยิ มรรคมอี งคแ์ ปดนน้ี น่ั เอง  เปน็ กมั มนโิ รธคามนิ ปี ฏปิ ทา (ขอ้ ปฏบิ ตั ใิ หถ้ งึ ความดบั ไมเ่ หลอื แหง่ กรรม) ได้แก่ ส่ิงเหลา่ นี้คือ สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ) สัมมาสังกัปปะ (ความดำ�รชิ อบ) สัมมาวาจา (การพูดจาชอบ) สมั มากัมมันตะ (การทำ�การงานชอบ) สมั มาอาชวี ะ (การเลยี้ งชวี ติ ชอบ) สมั มาวายามะ (ความพากเพยี รชอบ) สมั มาสติ (ความระลกึ ชอบ) สัมมาสมาธิ (ความตั้งใจม่ันชอบ). (รายละเอียดเกี่ยวกับอริยมรรคมีองค์แปด  สามารถ อา่ นเพม่ิ เติมไดท้ ี่ หน้า ๑๔๕) 103

พุทธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมที่ถกู ปดิ : ฆราวาสช้ันเลิศ วบิ ากกรรมอย่างเบาของหมสู่ ตั ว์ 26 -บาลี อฏฺก. อํ. ๒๓/๒๕๑/๑๓๐. ภิกษุท้งั หลาย !   ปาณาตบิ าต (ฆ่าสตั ว์) ทเ่ี สพ ทั่วแลว้ เจรญิ แล้ว ท�ำ ใหม้ ากแล้ว ย่อมเปน็ ไปเพอ่ื นรก เป็นไปเพื่อกำ�เนิดเดรัจฉาน  เปน็ ไปเพอ่ื เปรตวิสยั . วิบากแห่งปาณาติบาตของผู้เป็นมนุษย์ที่เบากว่า วิบากท้ังปวง คือวบิ ากท่เี ปน็ ไปเพอ่ื มีอายุสน้ั . ภกิ ษุทั้งหลาย !   อทินนาทาน (ลักทรพั ย์) ที่เสพ ทั่วแล้ว เจริญแลว้ ท�ำ ใหม้ ากแล้ว ยอ่ มเปน็ ไปเพ่อื นรก เป็นไปเพื่อก�ำ เนดิ เดรัจฉาน  เป็นไปเพ่ือเปรตวิสยั . วิบากแห่งอทินนาทานของผู้เป็นมนุษย์ที่เบากว่า วบิ ากทง้ั ปวง คอื วบิ ากทเ่ี ปน็ ไปเพอ่ื ความเสอ่ื มแหง่ โภคะ. ภกิ ษุทง้ั หลาย !   กาเมสมุ ิจฉาจาร (ประพฤติผิด ในกาม) ทเ่ี สพทว่ั แลว้ เจรญิ แลว้ ท�ำ ใหม้ ากแลว้ ยอ่ มเปน็ ไป เพอ่ื นรก เปน็ ไปเพอ่ื ก�ำ เนดิ เดรจั ฉาน เปน็ ไปเพอ่ื เปรตวสิ ยั . วิบากแห่งกาเมสุมิจฉาจารของผู้เป็นมนุษย์ที่เบา กวา่ วบิ ากทงั้ ปวง คอื วิบากท่เี ปน็ ไปเพอ่ื กอ่ เวรด้วยศตั รู. 104

เปดิ ธรรมทถี่ ูกปิด : ฆราวาสช้ันเลิศ ภิกษุท้งั หลาย !   มสุ าวาท (ค�ำ เทจ็ ) ทเ่ี สพทว่ั แลว้   เจริญแลว้ ทำ�ให้มากแลว้ ยอ่ มเป็นไปเพือ่ นรก เป็นไป เพื่อกำ�เนดิ เดรัจฉาน  เป็นไปเพื่อเปรตวิสยั . วิบากแห่งมุสาวาทของผู้เป็นมนุษย์ที่เบากว่า วิบากทงั้ ปวง คือวบิ ากท่ีเป็นไปเพื่อ การถูกกล่าวตดู่ ้วย ค�ำ ไมจ่ ริง. ภกิ ษทุ ้ังหลาย !   ปิสณุ าวาจา (คำ�ยุยงให้แตกกัน) ทเ่ี สพทว่ั แลว้ เจรญิ แลว้ ท�ำ ใหม้ ากแลว้ ยอ่ มเปน็ ไปเพอ่ื นรก เปน็ ไปเพ่ือกำ�เนิดเดรจั ฉาน  เปน็ ไปเพ่อื เปรตวสิ ัย. วิบากแห่งปิสุณาวาจาของผู้เป็นมนุษย์ที่เบากว่า วบิ ากทง้ั ปวง คอื วบิ ากท่ีเปน็ ไปเพอ่ื การแตกจากมิตร. ภกิ ษทุ ้ังหลาย !   ผรสุ วาจา (ค�ำ หยาบ) ทเ่ี สพทว่ั แลว้ เจรญิ แล้ว ท�ำ ใหม้ ากแล้ว ยอ่ มเปน็ ไปเพ่ือนรก เป็นไป เพอื่ กำ�เนิดเดรัจฉาน  เป็นไปเพอื่ เปรตวิสยั . วิบากแห่งผรุสวาจาของผู้เป็นมนุษย์ท่ีเบากว่า วิบากทั้งปวง  คือวิบากท่ีเป็นไปเพ่ือ  การได้ฟังเสียงที่ ไม่นา่ พอใจ. 105

พทุ ธวจน - หมวดธรรม ภิกษุทั้งหลาย !   สัมผัปปลาปะ  (คำ�เพ้อเจ้อ) ที่เสพทั่วแล้ว  เจริญแล้ว  ทำ�ให้มากแล้ว  ย่อมเป็นไป เพอ่ื นรก เปน็ ไปเพอ่ื ก�ำ เนดิ เดรจั ฉาน เปน็ ไปเพอ่ื เปรตวสิ ยั . วิบากแห่งสัมผัปปลาปะของผู้เป็นมนุษย์ที่เบา กว่าวิบากท้ังปวง  คือวิบากท่ีเป็นไปเพ่ือวาจาที่ไม่มีใคร เช่ือถือ. ภิกษุทั้งหลาย !   การดม่ื น�ำ้ เมาคอื สรุ าและเมรยั ท่ีเสพทั่วแล้ว  เจริญแล้ว  ทำ�ให้มากแล้ว  ย่อมเป็นไป เพอ่ื นรก เปน็ ไปเพอ่ื ก�ำ เนดิ เดรจั ฉาน เปน็ ไปเพอ่ื เปรตวสิ ยั . วิบากแห่งการด่ืมน้ำ�เมาคือสุราและเมรัยของ ผเู้ ป็นมนุษย์ที่เบากวา่ วิบากทง้ั ปวง คอื วบิ ากทีเ่ ปน็ ไปเพือ่ ความเป็นบา้ (อุมมฺ ตฺตก). 106

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมท่ถี กู ปิด : ฆราวาสช้ันเลิศ ฉลาดในเรอื่ งกรรม 27 -บาลี ม. ม. ๑๓/๖๔๔/๗๐๗. วาเสฏฐะ !   ก็ในหมู่มนุษย์ ผู้ใดอาศัยการ รักษาโคเล้ียงชีวิต ท่านจงรู้อย่างน้ีว่า ผู้น้ันเป็นชาวนา ไม่ใชพ่ ราหมณ์ วาเสฏฐะ !   อนงึ่ ในหมมู่ นุษย์ ผู้ใดเล้ยี งชีวิต ดว้ ยศิลปมากอยา่ ง ท่านจงรอู้ ยา่ งนว้ี ่า ผ้นู ั้นเป็นศิลปนิ ไม่ใชพ่ ราหมณ์ วาเสฏฐะ !   อนึ่ง ในหมู่มนุษย์ ผู้ใดอาศัย การค้าขายเล้ียงชีวิต ท่านจงรู้อย่างน้ีว่า ผู้นั้นเป็นพ่อค้า ไมใ่ ช่พราหมณ์ วาเสฏฐะ !   อนึ่ง ในหม่มู นุษย์ ผูใ้ ดเลยี้ งชีวติ ดว้ ยการรับใช้ผู้อ่นื ทา่ นจงรอู้ ยา่ งนวี้ ่า ผนู้ ้ันเปน็ คนรับใช้ ไมใ่ ช่พราหมณ์ วาเสฏฐะ !   อน่ึง ในหมู่มนุษย์ ผู้ใดอาศัย ของท่ีเขาไมใ่ หเ้ ล้ียงชีวติ ท่านจงร้อู ย่างน้วี า่ ผนู้ เี้ ป็นโจร ไม่ใชพ่ ราหมณ์ 107

พทุ ธวจน - หมวดธรรม วาเสฏฐะ !   อน่ึง ในหมู่มนุษย์ ผู้ใดอาศัย ศาตราวธุ เลยี้ งชวี ิต ทา่ นจงร้อู ยา่ งน้วี ่า ผนู้ ั้นเปน็ ทหาร ไมใ่ ชพ่ วกพราหมณ์ วาเสฏฐะ !   อน่ึง ในหม่มู นุษย์ ผใู้ ดเลีย้ งชีวิต ด้วยการงานของปุโรหิต ท่านจงรู้อย่างนี้ว่า ผู้นั้นเป็น เจา้ หน้าท่ีการบชู า ไมใ่ ช่พราหมณ์ วาเสฏฐะ !   อนึง่ ในหมมู่ นุษย์ ผู้ใดปกครอง บ้านและเมือง ท่านจงรู้อย่างนี้ว่า ผู้น้ีเป็นพระราชา ไมใ่ ช่พราหมณ์ และเราก็ไม่เรียกบุคคลผู้เกิดในกำ�เนิดไหนๆ หรอื เกิดจากมารดาว่าเป็นพราหมณ์ บคุ คลถงึ จะเรยี กกัน วา่ ทา่ นผเู้ จรญิ ผนู้ น้ั กย็ งั เปน็ ผมู้ กี เิ ลสเครอ่ื งกงั วลอยนู่ น่ั เอง เราเรยี ก บคุ คลผไู้ มม่ กี เิ ลสเครอ่ื งกงั วล ผไู้ มย่ ดึ มน่ั นั้นว่าเป็นพราหมณ์ ผู้ใดแลตัดสังโยชน์ทั้งปวงได้แล้ว ไมส่ ะดงุ้ เราเรยี กผนู้ น้ั ผลู้ ว่ งกเิ ลสเครอ่ื งขอ้ ง ไมป่ ระกอบดว้ ย สรรพกิเลส วา่ เปน็ พราหมณ์… บุคคลเป็นพราหมณเ์ พราะชาติ(ก�ำ เนดิ )กห็ ามไิ ด้ จะมใิ ชพ่ ราหมณ์เพราะชาติ (ก�ำ เนิด) ก็หามิได้ 108

เปิดธรรมทถ่ี ูกปิด : ฆราวาสช้ันเลิศ บุคคลเปน็ พราหมณ์ ก็เพราะกรรม ไมเ่ ป็นพราหมณ์ ก็เพราะกรรม บุคคลเป็นชาวนา กเ็ พราะกรรม เป็นศิลปิน กเ็ พราะกรรม บุคคลเปน็ พ่อคา้ กเ็ พราะกรรม เปน็ คนรบั ใช้ ก็เพราะกรรม บคุ คลแม้เปน็ โจร กเ็ พราะกรรม เป็นนกั รบ ก็เพราะกรรม บคุ คลเป็นปโุ รหติ กเ็ พราะกรรม แม้เปน็ พระราชา ก็เพราะกรรม บณั ฑติ ทง้ั หลายยอ่ มเหน็ ซง่ึ กรรมนน้ั ตามทเ่ี ปน็ จรงิ อยา่ งน.้ี ชอ่ื วา่ เปน็ ผเู้ หน็ ซง่ึ ปฏจิ จสมปุ บาท เปน็ ผฉู้ ลาด ในเรอ่ื งวบิ ากแหง่ กรรม. โลกย่อมเป็นไปตามกรรม  หมู่สัตว์ย่อมเป็นไป ตามกรรม. สัตวท์ งั้ หลาย มีกรรมเปน็ เครอ่ื งรึงรดั เหมอื น ลิ่มสลกั ขันยดึ รถที่กำ�ลังแลน่ ไปอยู่. สัตว์ทงั้ หลาย เป็นผูม้ กี รรมเปน็ ของตน  เปน็ ทายาทแห่งกรรม  มีกรรมเป็นก�ำเนิด  มีกรรมเป็น เผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นท่ีพ่ึงอาศัย  กระท�ำกรรมใดไว้ ดีก็ตาม  ช่ัวก็ตาม จักเป็นผู้รับผลของกรรมน้ัน. 109

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมทถี่ ูกปิด : ฆราวาสช้ันเลิศ วินจิ ฉัยกรรม 28 -บาลี ม. ม. ๑๓/๑๒๘/๑๓๐. เมอ่ื จะกระท�ำ ราหุล !   เธอใคร่จะทำ�กรรมใดด้วยกาย พึง พจิ ารณากรรมนน้ั เสยี กอ่ นวา่ “กายกรรมทเ่ี ราใครจ่ ะกระท�ำ น้ี เป็นไปเพ่ือเบียดเบียนตนเองบ้าง  เบียดเบียนผู้อื่นบ้าง เบียดเบียนท้ังสองฝ่ายบ้าง  เป็นกายกรรมท่ีเป็นอกุศล  มีทกุ ข์เป็นกำ�ไร  มีทุกขเ์ ปน็ วบิ าก  หรือไมห่ นอ ?” ดงั น.ี้ ราหุล !   ถ้าเธอพิจารณา  รู้สึกอยู่ดังนี้ไซร้ เธอ ไมพ่ ึงกระทำ�กายกรรมชนิดนนั้ โดยถา่ ยเดียว. ราหุล !   ถ้าเธอพิจารณา  รู้สึกอยู่ดังน้ีว่า “กายกรรมทเ่ี ราใครจ่ ะกระท�ำ น้ี ไมเ่ ปน็ ไปเพอ่ื เบยี ดเบยี น ตนเองบ้าง ไม่เปน็ ไปเพือ่ เบยี ดเบยี นผูอ้ ื่นบา้ ง ไมเ่ ปน็ ไป เพ่ือเบยี ดเบียนท้ังสองฝ่ายบ้าง เป็นกายกรรมท่ีเปน็ กศุ ล มสี ุขเป็นกำ�ไร  มสี ขุ เป็นวิบาก” ดังนไี้ ซร้. ราหุล !   เธอพงึ กระท�ำ กายกรรมชนดิ นน้ั . 110

เปดิ ธรรมที่ถกู ปดิ : ฆราวาสชั้นเลิศ เม่ือกระท�ำ อยู่ ราหุล !   เมื่อเธอกระทำ�กรรมใดด้วยกายอยู่ พงึ พจิ ารณากรรมนั้นวา่ “กายกรรมที่เรากำ�ลังกระทำ�อยู่น้ี เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง  เบียดเบียนผู้อ่ืนบ้าง เบียดเบียนท้ังสองฝ่ายบ้าง  เป็นกายกรรมท่ีเป็นอกุศล  มที ุกข์เปน็ ก�ำ ไร  มที ุกขเ์ ปน็ วบิ าก  หรอื ไม่หนอ ?” ดงั น.ี้ ราหุล !   ถ้าเธอพิจารณา  รู้สึกอยู่ดังน้ีไซร้ เธอพึงเลกิ ละกายกรรมชนดิ นั้นเสยี . ราหุล !   ถ้าเธอพิจารณา  รู้สึกอยู่ดังน้ีว่า “กายกรรมทเ่ี ราก�ำ ลงั กระท�ำ อยนู่ ้ี ไมเ่ ปน็ ไปเพอ่ื เบยี ดเบยี น ตนเองบ้าง ไมเ่ ป็นไปเพอ่ื เบยี ดเบยี นผอู้ ่ืนบา้ ง ไม่เปน็ ไป เพือ่ เบียดเบยี นท้ังสองฝ่ายบ้าง เป็นกายกรรมที่เปน็ กศุ ล มสี ขุ เป็นก�ำ ไร  มสี ขุ เปน็ วิบาก” ดงั นไ้ี ซร้. ราหุล !   เธอพึงเร่งเพ่ิมการกระทำ�กายกรรม ชนดิ นัน้ . 111

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เมอื่ กระท�ำ แลว้ ราหุล !   เม่อื เธอกระทำ�กรรมใดด้วยกายแล้ว พึงพิจารณากรรมน้ัน  ว่า  “กายกรรมที่เรากระทำ�แล้วนี้ เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง  เบียดเบียนผู้อ่ืนบ้าง เบียดเบียนท้ังสองฝ่ายบ้าง  เป็นกายกรรมท่ีเป็นอกุศล มีทกุ ข์เปน็ ก�ำ ไร  มที ุกข์เป็นวบิ าก  หรอื ไม่หนอ ?” ดังน.้ี ราหุล !   ถ้าเธอพิจารณา  รู้สึกอยู่ดังนี้ไซร้ เธอพึงแสดง  พึงเปิดเผย  พึงกระทำ�ให้เป็นของหงาย ซง่ึ กายกรรมนน้ั   ในพระศาสนาหรอื ในเพอ่ื นสพรหมจารี ผเู้ ปน็ วญิ ญชู นทง้ั หลาย ครน้ั แสดง ครน้ั เปดิ เผย ครน้ั กระท�ำ ใหเ้ ปน็ ของหงายแล้ว พงึ ถึงซ่งึ ความระวงั สงั วรต่อไป. ราหุล !   ถ้าเธอพิจารณา  รู้สึกอยู่ดังน้ีว่า “กายกรรมท่ีเรากระทำ�แล้วนี้  ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียน ตนเองบา้ ง ไม่เป็นไปเพอื่ เบยี ดเบยี นผอู้ ่ืนบา้ ง ไมเ่ ปน็ ไป เพอ่ื เบียดเบยี นท้งั สองฝา่ ยบา้ ง เป็นกายกรรมทเี่ ป็นกุศล มสี ุขเป็นกำ�ไร  มีสุขเป็นวบิ าก” ดังน้ี ไซร.้ 112

เปิดธรรมทถ่ี กู ปิด : ฆราวาสชั้นเลิศ ราหลุ  !   เธอพงึ อยู่ด้วยปีติและปราโมทย์ ตาม ศึกษาในกุศลธรรมทั้งหลายอยู่  ทั้งกลางวันและกลาง คืนเถิด. (ในกรณแี ห่ง วจกี รรม และ มโนกรรม กต็ รัสไว้โดยมี นัยอยา่ งเดยี วกนั ) 113

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมทีถ่ กู ปิด : ฆราวาสช้ันเลิศ การบวชท่ไี รป้ ระโยชน์ 29 -บาลี ขนธฺ . สํ. ๑๗/๑๑๓/๑๖๗. ภกิ ษทุ ัง้ หลาย !   อาชพี ต�ำ่ ทส่ี ดุ ในบรรดาอาชพี ทง้ั หลาย คอื การขอทาน. ภิกษุทัง้ หลาย !   ค�ำ สาปแชง่ อยา่ งยง่ิ ในโลกน้ี คอื ค�ำ สาปแชง่ วา่ “แกถอื กระเบอื้ งในมอื เทีย่ วขอทานเถอะ” ดังน้ี. ภิกษทุ ั้งหลาย !   กลุ บตุ รทง้ั หลาย เขา้ ถงึ อาชพี น้ี เป็นผ้เู ป็นไปในอำ�นาจแหง่ ประโยชน์ เพราะอาศัยอ�ำ นาจ แห่งประโยชน์ ไม่ใช่เป็นคนหนีราชทัณฑ์ ไม่ใช่เป็นคน ขอใหโ้ จรปล่อยตัวไปบวช ไมใ่ ชเ่ ปน็ คนหนหี น้ี ไมใ่ ช่เป็น คนหนีภัย ไมใ่ ช่เป็นคนไร้อาชพี จงึ บวช. อกี อยา่ งหนง่ึ กลุ บตุ รนบ้ี วชแลว้ โดยทค่ี ดิ เชน่ นว้ี า่ เราทั้งหลายเป็นผู้ถูกหยั่งเอาแล้ว  โดยชาติชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสท้ังหลาย  เป็นผู้อัน ความทุกข์หย่ังเอาแล้ว  มีความทุกข์เป็นเบื้องหน้าแล้ว ท�ำ ไฉน การท�ำ ทส่ี ดุ แหง่ กองทกุ ขท์ ง้ั สน้ิ น้ี จะพงึ ปรากฏแกเ่ รา ดงั นี.้ 114

เปิดธรรมที่ถกู ปดิ : ฆราวาสชั้นเลิศ ภิกษุท้ังหลาย !   แตว่ า่ กลุ บตุ รผบู้ วชแลว้ อยา่ งน้ี กลบั เปน็ ผมู้ ากไปดว้ ยอภชิ ฌา มรี าคะแกก่ ลา้ ในกามทง้ั หลาย มจี ติ พยาบาท มคี วามด�ำ รแิ หง่ ใจเปน็ ไปในทางประทษุ รา้ ย มีสติอนั ลืมหลงแล้ว ไม่มสี ัมปชัญญะ มีจิตไม่ตงั้ มั่นแล้ว มจี ิตหมุนไปผดิ แล้ว  มีอินทรยี อ์ นั ตนไม่ส�ำ รวมแล้ว. ภิกษุท้ังหลาย !   เปรียบเหมือน  ดุ้นฟืนจาก เชิงตะกอน  ที่เผาศพ  ยังมีไฟติดอยู่ท้ังสอง  ตรงกลาง กเ็ ปอ้ื นอจุ จาระ ยอ่ มใชป้ ระโยชนเ์ ปน็ ไมใ้ นบา้ นเรอื นกไ็ มไ่ ด้ ย่อมใชป้ ระโยชน์เป็นไม้ในป่าก็ไม่ได้ ขอ้ นีฉ้ ันใด ภิกษุท้ังหลาย !   เรากล่าวบุคคลนี้ว่ามีอุปมา เช่นน้ัน  คือ  เป็นผู้เส่ือมจากโภคะแห่งคฤหัสถ์ด้วย ไม่ทำ�ประโยชนแ์ ห่งสมณะให้บรบิ รู ณ์ ด้วย. 115

ทานจงถวายทานในสงฆเ ถิด เม่ือทานถวายทานในสงฆอ ยู จติ จกั เล่ือมใส ทา นเปนผูมีจติ อันเลื่อมใสแลว ภายหลงั แตก ารตายเพราะการทาํ ลายแหง กาย จกั เขา ถงึ สคุ ติโลกสวรรค. -บาลี ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๓๘/๓๓๐.

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมที่ถูกปิด : ฆราวาสช้ันเลิศ สงั ฆทานดีกวา่  ! 30 -บาลี ฉกฺก. อ.ํ ๒๒/๔๓๖-๔๓๘/๓๓๐. “ขา้ แตพ่ ระองคผ์ ู้เจรญิ  !   ทานประจำ�สกลุ วงศ์ขา้ พระองค์ ยังให้อยู่  แต่ว่าทานน้ันข้าพระองค์ให้เฉพาะหมู่ภิกษุผู้เป็น อรหันต์ หรือผปู้ ฏิบตั อิ รหัตตมรรค ที่อยู่ป่า ทถ่ี อื บณิ ฑบาต ที่ถือ ผา้ บังสกุ ลุ เปน็ วัตร”. คหบดี !   ขอ้ ทจ่ี ะรวู้ า่ คนเหลา่ นเ้ี ปน็ พระอรหนั ต์ หรือปฏิบัติอรหัตตมรรคน้ัน  เป็นส่ิงที่รู้ได้ยากสำ�หรับ ทา่ นผเู้ ปน็ คฤหสั ถผ์ บู้ รโิ ภคกาม ผยู้ งั มกี ารนอนเบยี ดบตุ ร บรโิ ภคใชส้ อยกระแจะจนั ทนแ์ ละผา้ จากเมอื งกาส ี ทดั ทรง มาลาและเครื่องกลิ่นและเครื่องผัดทา  ยินดีอยู่ด้วยทอง และเงิน. คหบด ี !   ถึงแม้ภิกษุจะเป็น ผู้อยู่ป่าเป็นวัตร ถ้าเป็น ผฟู้ ุ้งซ่าน ถอื ตวั กลบั กลอก พูดมาก มีวาจา ไมแ่ นน่ อน มสี ตลิ มื หลง ปราศจากสมั ปชญั ญะ ไมม่ สี มาธิ มีจิตหมุนไปผิด มีอินทรีย์อันปล่อยแล้ว ด้วยอาการ อย่างนี้ ภกิ ษนุ น้ั ควรถูกตเิ ตยี นดว้ ยองค์น้นั ๆ. 117

พทุ ธวจน - หมวดธรรม คหบดี !   ถึงแม้ภิกษุจะเป็น  ผู้อยู่ป่าเป็นวัตร ถ้าเปน็ ผไู้ ม่ฟุ้งซา่ น ไมถ่ ือตวั ไมก่ ลับกลอก ไมพ่ ดู มาก มีวาจาแน่นอน  มีสติตั้งมั่น  มีสัมปชัญญะ  มีสมาธิ มีเอกัคคตาจิต  สำ�รวมอินทรีย  ด้วยอาการอย่างน้ี ภิกษุน้นั อนั ใครๆ  ควรสรรเสริญด้วยองคน์ นั้ ๆ. คหบด ี !   ถึงแม้ภิกษุจะเปน็ ผู้อยู่ใกลบ้ า้ น ก็ด.ี .. บิณฑบาตเป็นวัตร  ก็ดี...  ฉันในที่นิมนต์  ก็ดี... ถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตร  ก็ดี...  นุ่งห่มคหบดีจีวร  ก็ดี  ถา้ เป็นผ้ฟู งุ้ ซา่ น ถือตัว กลบั กลอก พดู มาก มวี าจา ไมแ่ นน่ อน มสี ตลิ มื หลง ปราศจากสมั ปชญั ญะ ไมม่ สี มาธิ มีจิตหมุนไปผิด  มีอินทรีย์อันปล่อยแล้ว  ด้วยอาการ อย่างน้ ี ภกิ ษนุ นั้   ควรถกู ติเตียนดว้ ยองคน์ ัน้ ๆ. คหบดี !   ถงึ แมภ้ กิ ษจุ ะเปน็ ผอู้ ยใู่ กลบ้ า้ น กด็ .ี .. บิณฑบาตเป็นวัตร  ก็ดี...  ฉันในท่ีนิมนต์  ก็ดี... ถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตร  ก็ดี...  นุ่งห่มคหบดีจีวร  ก็ดี  ถา้ เป็นผไู้ ม่ฟุ้งซ่าน ไมถ่ ือตัว ไมก่ ลบั กลอก ไม่พูดมาก มีวาจาแน่นอน  มีสติต้ังม่ัน  มีสัมปชัญญะ  มีสมาธิ มีเอกัคคตาจิต  สำ�รวมอินทรีย  ด้วยอาการอย่างนี้ ภิกษุนั้นอนั ใครๆ ควรสรรเสรญิ ด้วยองคน์ ั้นๆ. 118

เปดิ ธรรมท่ถี กู ปิด : ฆราวาสชั้นเลิศ เอาละ คหบด ี !   ทา่ นจงถวายทานในสงฆเ์ ถิด เม่ือท่านถวายทานในสงฆ์อยู่  จิตจักเลื่อมใส  ท่านเป็น ผมู้ จี ติ อนั เลอ่ื มใสแลว้ ภายหลงั แตก่ ารตายเพราะการท�ำ ลาย แห่งกาย  จกั เข้าถงึ สุคติโลกสวรรค.์ “ข้าแต่พระองคผ์ เู้ จรญิ  !   จำ�เดมิ แตว่ นั นไ้ี ป ขา้ พระองค์ จะถวายทานในสงฆ์ ”. 119

“ภกิ ษุ ภกิ ษณุ ี อบุ าสก อุบาสิกาใด ประพฤตธิ รรมสมควรแกธรรม ปฏบิ ัติชอบย่งิ ปฏิบัติตามธรรมอยู ผูน ัน้ ช่อื วา ยอ มสกั การะ เคารพนบั ถือ บชู าตถาคต ดวยการบชู าอันสูงสดุ ” -บาลี มหา. ท.ี ๑๐/๑๖๑/๑๒๙.

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมท่ีถูกปดิ : ฆราวาสช้ันเลิศ ห้ามผู้อนื่ ใหท้ าน ช่ือว่าไม่ใชม่ ิตร 31 -บาลี ตกิ . อํ. ๒๐/๒๐๕/๔๙๗. วัจฉะ !   ผู้ใดห้ามผู้อื่นซึ่งให้ทาน  ผู้น้ันชื่อว่า เปน็ อมติ ร ผ้ทู ำ�อันตรายสิ่ง ๓ สง่ิ คือ ท�ำ อนั ตรายต่อบญุ ของทายก (ผู้ใหท้ าน) ทำ�อนั ตรายต่อลาภของปฏคิ าหก (ผรู้ บั ทาน) และตัวเองก็ขุดรากตัวเองกำ�จัดตัวเองเสียตั้งแต่ แรกแลว้ . วจั ฉะ !   ผทู้ ห่ี า้ มผอู้ น่ื ซง่ึ ใหท้ าน ชอ่ื วา่ เปน็ อมติ ร ผ้ทู �ำ อนั ตรายส่ิง ๓ ส่งิ ดงั นแี้ ล. วัจฉะ !   เราเองย่อมกล่าวอย่างน้ีว่า  “ผู้ใด เทน้ำ�ล้างหม้อ  หรือนำ้�ล้างชามก็ตาม  ลงในหลุมนำ้�ครำ� หรอื ทางน�ำ้ โสโครก ซง่ึ มสี ตั วม์ ชี วี ติ เกดิ อยใู่ นนน้ั ดว้ ยคดิ วา่ สัตวใ์ นน้ันจะได้อาศัยเล้ยี งชีวติ ดังนแ้ี ล้ว เรากย็ ังกล่าวว่า นน่ั เปน็ ทางมาแหง่ บญุ เพราะการท�ำ แมเ้ ชน่ นน้ั ไมต่ อ้ งกลา่ ว ถงึ การให้ทานแก่มนษุ ยด์ ว้ ยกนั ” ดงั นี.้ 121

พทุ ธวจน - หมวดธรรม อีกอย่างหน่ึง เรากลา่ ววา่ ทานท่ใี หแ้ ก่ผมู้ ศี ลี เปน็ ทานมีผลมาก.  ทานที่ให้แก่ผู้ทุศีล  หาเป็นอย่างนั้นไม่. และผู้มีศีลนั้นเป็นผู้ละเสียซ่ึงองค์  ๕  และประกอบอยู่ ด้วยองค์ ๕. ละองค์ ๕ คือ  ละกามฉันทะ  ละพยาบาท ละถนี มทิ ธะ (หดหซู่ มึ เซา)  ละอทุ ธจั จกกุ กจุ จะ (ฟงุ้ ซา่ นร�ำคาญ) ละวจิ ิกจิ ฉา  (ลงั เลสงสยั ) ประกอบดว้ ยองค์ ๕ คือ (๑)  ประกอบดว้ ยกองศลี ชน้ั อเสขะ (๒)  ประกอบด้วยกองสมาธิชน้ั อเสขะ (๓)  ประกอบด้วยกองปัญญาชนั้ อเสขะ (๔)  ประกอบด้วยกองวิมุตติช้ันอเสขะ (๕)  ประกอบดว้ ยกองวมิ ตุ ตญิ าณทสั สนะชน้ั อเสขะ. เรากล่าวว่าทานที่ให้ในบุคคลผู้ละองค์ห้า  และ ประกอบดว้ ยองคห์ ้า ดว้ ยอาการอย่างน้ี มผี ลมาก ดงั น้ี. 122

มีลาภ เสือ่ มลาภ มียศ เส่อื มยศ นินทา สรรเสริญ สขุ ทุกข แปดอยา งนี้ เปนสิง่ ทไ่ี มเทยี่ งในหมมู นษุ ย ไมย ง่ั ยนื มคี วามแปรปรวนเปน ธรรมดา - บาลี อฎก. อํ. ๒๓/๑๕๙/๙๖.

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมท่ถี ูกปดิ : ฆราวาสช้ันเลิศ ผลแห่งทาน 32 -บาลี นวก. อํ. ๒๓/๔๐๕/๒๒๔. คหบดี !   บุคคลให้ทานอันเศร้าหมองหรือ ประณีตก็ตาม  แต่ให้ทานนั้นโดยไม่เคารพ  ไม่ทำ� ความนอบนอ้ มให้ ไมใ่ หด้ ว้ ยมอื ตนเอง ใหข้ องทเ่ี หลอื ไมเ่ ชือ่ กรรมและผลของกรรม  ให้ทาน ทานนน้ั ๆ บงั เกดิ ผลในตระกลู ใดๆ ในตระกลู นน้ั ๆ จติ ของผใู้ หท้ านยอ่ มไมน่ อ้ มไปเพอ่ื บรโิ ภคอาหารอยา่ งดี ยอ่ มไมน่ อ้ มไปเพอ่ื บรโิ ภคผา้ อยา่ งดี ยอ่ มไมน่ อ้ มไปเพอ่ื บรโิ ภคยานอยา่ งดี ยอ่ มไมน่ อ้ มไปเพอ่ื บรโิ ภคกามคณุ ๕ อย่างดี แมบ้ ริวารชนของผูใ้ หท้ านนั้นคือ บุตร ภรรยา ทาส  คนใช้  คนทำ�งาน  ก็ไม่เช่ือฟัง  ไม่เงี่ยหูฟัง ส่งจติ ไปทอ่ี นื่ เสีย. ข้อน้ันเพราะเหตุไร ?  ทั้งนี้เป็นเพราะ  ผลแห่ง กรรมท่ตี นกระทำ�โดยไม่เคารพ. 124

เปดิ ธรรมทถี่ กู ปดิ : ฆราวาสชั้นเลิศ คหบดี !   บุคคลให้ทานอันเศร้าหมองหรือ ประณีตก็ตาม  แต่ให้ทานน้ันโดยเคารพ  ทำ�ความ นอบน้อมให้  ให้ด้วยมือตนเอง  ให้ของท่ีไม่เหลือ  เชอื่ กรรมและผลของกรรม  ใหท้ าน ทานนน้ั ๆ บงั เกดิ ผลในตระกลู ใดๆ ในตระกลู นน้ั ๆ จิตของผู้ให้ทานย่อมน้อมไปเพ่ือบริโภคอาหารอย่างดี  ย่อมน้อมไปเพื่อบริโภคผ้าอย่างดี  ย่อมน้อมไปเพ่ือ บริโภคยานอย่างดี ยอ่ มนอ้ มไปเพอื่ บริโภคกามคณุ ๕ อย่างดี แม้บรวิ ารชนของผูใ้ ห้ทานนั้น คอื บตุ ร ภรรยา ทาส  คนใช ้ คนท�ำ งาน  กเ็ ชอ่ื ฟงั ด ี เงย่ี หฟู งั   ไมส่ ง่ จติ ไปท่ีอนื่ . ข้อนั้นเพราะเหตุไร ?  ท้ังนี้เป็นเพราะผลของ กรรมท่ตี นกระทำ�โดยเคารพ. 125

พทุ ธวจน - หมวดธรรม คหบดี !   เร่ืองเคยมีมาแล้ว  มีพราหมณ์ช่ือ เวลามะ พราหมณผ์ นู้ น้ั ไดใ้ หท้ านเปน็ มหาทานอยา่ งน้ี คอื ไดใ้ หถ้ าดทองเต็มดว้ ยรูปิยะ ๘๔,๐๐๐ ถาด ถาดรปู ิยะ เต็มด้วยทอง ๘๔,๐๐๐ ถาด ถาดสำ�รดิ เต็มด้วยเงิน ๘๔,๐๐๐ ถาด ใหช้ า้ ง ๘๔,๐๐๐ เชอื ก มเี ครอ่ื งประดบั ลว้ น เปน็ ทอง มธี งทอง คลมุ ดว้ ยขา่ ยทอง ใหร้ ถ ๘๔,๐๐๐ คนั หมุ้ ดว้ ยหนงั ราชสหี ์ หนงั เสอื โครง่ หนงั เสอื เหลอื ง ผา้ กมั พล เหลือง มเี คร่อื งประดบั ล้วนเป็นทอง มีธงทอง คลุมด้วย ขา่ ยทอง ใหแ้ ม่โคนม ๘๔,๐๐๐ ตวั มีนำ้�นมไหลสะดวก ใชภ้ าชนะเงนิ รองน�ำ้ นม ใหห้ ญงิ สาว ๘๔,๐๐๐ คน ประดบั ดว้ ยแกว้ มณแี ละแกว้ กณุ ฑล ใหบ้ ลั ลงั ก์ ๘๔,๐๐๐ ท่ี ลาดดว้ ย ผ้าโกเชาว์ ลาดดว้ ยขนแกะสีขาว เครอ่ื งลาดมีสัณฐานเปน็ ช่อดอกไม้ มีเครือ่ งลาดอยา่ งดีทำ�ดว้ ยหนังชมด มีเครื่อง ลาดเพดาน มีหมอนขา้ งแดงทง้ั สอง ใหผ้ ้า ๘๔,๐๐๐ โกฏิ เป็นผ้าเปลือกไม้  ผ้าแพร  ผ้าฝ้าย  เนื้อละเอียด  จะป่วยกล่าวไปไยถึงข้าว  นำ้�  ของเคี้ยว  ของบริโภค เคร่ืองลูบไล้  ที่นอน  ไหลไปเหมือนแมน่ ้�ำ . 126

เปดิ ธรรมที่ถูกปดิ : ฆราวาสชั้นเลิศ คหบด ี !   ท่านพงึ มีความคิดอย่างน้วี ่า สมยั นน้ั ผ้อู น่ื ไมใ่ ช่เวลามพราหมณผ์ ู้ท่ีใหท้ านเปน็ มหาทานนน้ั . คหบดี !   แต่ท่านไม่ควรเห็นอย่างนี้  สมัยน้ัน เราเป็นเวลามพราหมณ์  เราได้ให้ทานนั้นเป็นมหาทาน ก็ในทานนั้น  ไม่มีใครเป็นพระทักขิเณยยบุคคล  ใครๆ ไมช่ �ำ ระทักขิณานั้นให้หมดจด. คหบดี !   ทานท่บี ุคคลถวายให้ท่านผ้ถู ึงพร้อม ดว้ ยทิฏฐิ (พระโสดาบัน) ผเู้ ดยี วบริโภค มีผลมากกว่า ทานท่ีเวลามพราหมณ์ใหแ้ ล้ว. ทานทบ่ี คุ คลถวายใหพ้ ระสกทาคามผี เู้ ดยี วบรโิ ภค มีผลมากกว่า  ทานที่บุคคลถวายให้ท่านผู้ถึงพร้อม ด้วยทฏิ ฐิ ๑๐๐ ทา่ นบรโิ ภค. ทานทบ่ี คุ คลถวายใหพ้ ระอนาคามผี เู้ ดยี วบรโิ ภค มีผลมากกว่า  ทานท่ีบุคคลถวายให้พระสกทาคามี ๑๐๐ ทา่ นบรโิ ภค. 127

พทุ ธวจน - หมวดธรรม ทานที่บุคคลถวายให้พระอรหันต์ผู้เดียวบริโภค มีผลมากกว่า  ทานท่ีบุคคลถวายให้พระอนาคามี ๑๐๐ ท่านบริโภค. ทานทบ่ี คุ คลถวายใหพ้ ระปจั เจกพทุ ธเจา้ รปู เดยี ว บรโิ ภค  มผี ลมากกวา่   ทานท่บี คุ คลถวายใหพ้ ระอรหันต์ ๑๐๐ รปู บริโภค. ทานทบ่ี คุ คลถวายใหพ้ ระอรหนั ตสมั มาสมั พทุ ธเจา้ บริโภค  มีผลมากกว่า  ทานที่บุคคลถวายให้พระ ปัจเจกพุทธเจา้ ๑๐๐ รปู บรโิ ภค. ทานท่ีบุคคลถวายให้ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้า เป็นประมุขบริโภค  มีผลมากกว่า  ทานท่ีบุคคลถวาย ให้พระอรหนั ตสมั มาสมั พทุ ธเจ้าบรโิ ภค. การทบ่ี คุ คล สรา้ งวหิ ารถวายสงฆผ์ มู้ าจากจาตรุ ทศิ มผี ลมากกวา่   ทานทบ่ี คุ คลถวายใหภ้ กิ ษสุ งฆม์ พี ระพทุ ธเจา้ เป็นประมุขบริโภค. 128

เปดิ ธรรมทถ่ี ูกปิด : ฆราวาสชั้นเลิศ การทบ่ี คุ คลมจี ติ เลอ่ื มใสถงึ พระพทุ ธเจา้ พระธรรม และพระสงฆเ์ ปน็ สรณะ มผี ลมากกวา่ ทานทบ่ี คุ คลสรา้ ง วหิ ารถวายสงฆ์ อันมาจากจาตรุ ทิศ. การที่บุคคลมีจิตเล่ือมใสสมาทานสิกขาบท คือ  งดเว้นจากปาณาติบาต  งดเว้นจากอทินนาทาน งดเว้นจากกาเมสุมิจฉาจาร  งดเว้นจากมุสาวาท งดเว้น จากการด่ืมน�้ำเมา  คือสุราและเมรัยอันเป็นท่ีต้ังแห่ง ความประมาท  มีผลมากกว่าการท่ีบุคคลมีจิตเล่ือมใส ถงึ พระพทุ ธเจา้ พระธรรม และพระสงฆเ์ ป็นสรณะ. การท่ีบุคคลเจริญเมตตาจิตโดยที่สุดแม้เพียง เวลาสูดดมของหอม มีผลมากกวา่ การท่บี คุ คลมีจิต เลอ่ื มใสสมาทานสกิ ขาบท คือ งดเว้นจากปาณาตบิ าต... และการที่บุคคลเจริญอนิจจสัญญาแม้เพียง เวลาลดั นว้ิ มอื มผี ลมากกวา่ การทบ่ี คุ คลเจรญิ เมตตาจติ โดยที่สดุ แม้เพียงเวลาสดู ดมของหอม. 129

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมท่ถี กู ปิด : ฆราวาสชั้นเลิศ ทาน ทจี่ ัดวา่ เปน็ มหาทาน 33 -บาลี อฏฺ ก. อ.ํ ๒๓/๒๕๐/๑๒๙. ภิกษุท้ังหลาย !   อริยสาวกในกรณีน้ี  ละ ปาณาตบิ าต  เว้นขาดจากปาณาติบาต. ภิกษุทั้งหลาย !   อริยสาวกเว้นขาดจาก ปาณาติบาตแล้ว ย่อมชื่อว่าให้อภัยทาน อเวรทาน อัพยาปชั ฌทาน แก่สัตว์ท้ังหลาย  มากไม่มปี ระมาณ คร้ันให้อภัยทาน  อเวรทาน  อัพยาปัชฌทาน แก่สตั ว์ท้ังหลาย  มากไมม่ ีประมาณแลว้ ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งความไม่มีภัย  ไม่มีเวร ไมม่ คี วามเบยี ดเบียน  อันไมม่ ปี ระมาณ. ภิกษทุ ง้ั หลาย !   นเ้ี ปน็ ทานชน้ั ปฐมเปน็ มหาทาน รจู้ กั กนั วา่ เปน็ ของเลศิ เปน็ ของมมี านาน เปน็ ของประพฤติ สบื กันมาแตโ่ บราณ ไมถ่ ูกทอดทงิ้ เลย ไม่เคยถูกทอดทิง้ ในอดีต ไมถ่ กู ทอดท้งิ อยใู่ นปัจจุบนั และจักไมถ่ กู ทอดทิ้ง ในอนาคต อันสมณพราหมณผ์ ้รู ู้ไม่คดั ค้าน. 130

เปดิ ธรรมที่ถกู ปดิ : ฆราวาสชั้นเลิศ ภกิ ษุทง้ั หลาย !   ข้อน้ีเป็นทอ่ ธารแหง่ บญุ เปน็ ทไ่ี หลออกแห่งกุศล นำ�มาซึง่ สขุ เป็นไปเพ่ือยอดสุดอนั ดี มีสุขเปน็ วบิ าก เป็นไปเพอื่ สวรรค์ เป็นไปเพอ่ื ประโยชน์ เกอ้ื กลู เพอ่ื ความสขุ อนั พงึ ปรารถนา นา่ รกั ใคร่ นา่ พอใจ. (ในกรณีศีล  ๕  อีกส่ขี ้อท่เี หลือ  คือ  การเว้นขาดจาก อทินนาทาน  การเว้นขาดจากกาเมสุมิฉาจาร  การเว้นขาดจาก มุสาวาท  และการเว้นขาดจากการด่ืมนำ้ �เมา  คือสุราและเมรัย อนั เปน็ ทต่ี ง้ั แหง่ ความประมาท กไ็ ดต้ รสั โดยมนี ยั อยา่ งเดยี วกนั ). ภกิ ษทุ งั้ หลาย !   ทาน ๕ ประการ นีแ้ ล เปน็ มหาทาน รจู้ กั กนั วา่ เปน็ ของเลศิ เปน็ ของมมี านาน เปน็ ของ ประพฤติสบื กนั มาแตโ่ บราณ ไมถ่ ูกทอดท้งิ เลย ไม่เคยถูก ทอดทิ้งในอดีต ไมถ่ กู ทอดทิง้ อย่ใู นปัจจบุ นั และจกั ไมถ่ ูก ทอดท้ิงในอนาคต อันสมณพราหมณผ์ ู้รู้ไมค่ ดั คา้ น. 131

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมท่ถี กู ปิด : ฆราวาสช้ันเลิศ เหตทุ ่ที �ำให้เปน็ ผ้มู รี ูปงาม 34 มีทรพั ย์มากและสูงศักด์ิ -บาลี จตุกกฺ . อํ. ๒๑/๒๗๘/๑๙๗. มัลลิกา !   มาตุคามบางคนในโลกนี้ไม่เป็นผู้มัก โกรธไม่มากไปด้วยความคับแค้นใจ  ถูกว่าแม้มากก็ไม่ ขัดเคืองไม่ฉุนเฉียว  ไม่กระฟัดกระเฟียด  ไม่กระด้าง กระเด่ืองไม่แสดงความโกรธ  ความขัดเคืองและความ ไม่พอใจให้ปรากฏ  เป็นผู้ให้ทาน  คือ  ข้าว  น้�ำ เครอื่ งนงุ่ หม่ ยานพาหนะ ดอกไม้ ของหอม เครอ่ื งลบู ไล้ ทน่ี อน ทอ่ี ยู่ และประทปี โคมไฟ  แกส่ มณะหรอื พราหมณ์ และเปน็ ผมู้ ใี จไม่ริษยา ย่อมไม่ริษยา ไม่มุ่งร้าย ไม่ผูกใจ อิจฉา ในลาภสักการะ ความเคารพ ความนับถือ การไหว้ และการบชู าของคนอนื่ ถา้ มาตคุ ามนน้ั จตุ จิ าก อัตภาพนั้นแล้ว  มาสู่ความเปน็ อยา่ งนก้ี ลบั มาเกดิ ในชาติ ใดๆ  ยอ่ มเปน็ ผมู้ รี ปู งาม นา่ ด ู นา่ ชม ประกอบดว้ ยความ เปน็ ผมู้ ผี วิ พรรณงามยงิ่ นกั ทง้ั เป็นผมู้ ่ังค่งั มีทรัพย์มาก มีโภคสมบตั มิ ากและสูงศกั ดิ.์ 132