Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ศาสตร์พระราชา

Description: ศาสตร์พระราชา

Search

Read the Text Version

พฒั นาและถา่ ยทอดองค์ความรดู้ า้ นการเกษตร น�ำมาประยกุ ตใ์ ช้อย่างเหมาะสม เพื่อประโยชนส์ งู สุด ทงั้ การใช้ประโยชน์จากพ้นื ท่ี ขับเคลอื่ นเกษตรอนิ ทรีย์ พฒั นาผลผลิตเพื่อสร้างรายได้ และแก้ปญั หาท่ีสง่ ผลกระทบต่อพื้นทกี่ ารเกษตร จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 97

เกษตรอนิ ทรยี แ์ หง่ ชาติ ยทุ ธศาสตร์เพอ่ื การเกษตรไทยยั่งยนื วันที่ 11 เมษายน 2560 ยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ ปี 2560-2564 ไดร้ ับความเหน็ ชอบจากครม. โดยมีเป้าหมาย ดังน้ี 98 ศาสตร์พระราชา

ส่ิงท่ตี ้องทำ� ใหส้ �ำเรจ็ ภายในปี 2564 พื้นที่เกษตรอินทรีย์ต้องมีไม่น้อยกว่า 600,000 ไร่ เพิม่ จ�ำนวนเกษตรกร ทีท่ ำ� เกษตรอนิ ทรยี ์ ไมน่ ้อยกว่า 30,000 ราย เพ่ิมสดั ส่วนตลาดสนิ คา้ เกษตรอินทรีย์ ในประเทศไปยังตลาดส่งออก โดยมีสดั สว่ นการตลาดในประเทศ 40 60รอ้ ยละ ต่อตลาดสง่ ออกร้อยละ ยกระดบั กลมุ่ เกษตรอินทรีย์วถิ ีพนื้ บ้าน ให้มีเพมิ่ ขนึ้ จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 99

ยทุ ธศาสตร์ของการพฒั นาเกษตรอินทรยี ์ เน้นท�ำงานเชิงพื้นที่เป็นหลัก (Area Approach)” เป้าหมาย 7 แห่ง คือ โรงพยาบาล โรงเรียน โรงแรม พ้ืนที่เขตส�ำนักงานการปฏิรูปท่ีดินเพ่ือ เกษตรกรรม (ส.ป.ก.) พน้ื ทต่ี ามนโยบายคณะกรรมการนโยบายทด่ี นิ แหง่ ชาติ (คทช.) พน้ื ที่ภาคเอกชน และพน้ื ท่ที ี่กลมุ่ เกษตรกรมคี วามพรอ้ มและตอ้ งการ ท�ำเกษตรอินทรีย์ โดยกำ� หนดจังหวัดน�ำรอ่ งใน 13 กลุ่ม 56 จงั หวดั ใชก้ ลไก คณะอนกุ รรมการพฒั นาการเกษตรและสหกรณข์ องจงั หวดั ซงึ่ มผี วู้ า่ ราชการ จงั หวดั เปน็ ประธาน เกษตรและสหกรณจ์ งั หวดั เปน็ อนกุ รรมการและเลขานกุ าร มีการท�ำบันทึกข้อตกลง (MOU) ความร่วมมือขับเคล่ือนเกษตรอินทรีย์ ครบทกุ กลุ่มจงั หวัด รวมพนื้ ที่ประมาณ 3,392,700 ไร่ 100 ศาสตร์พระราชา

จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 101

ผรู้ บั ผิดชอบ 1) คณะกรรมการพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ มีหน้าที่ขับเคล่ือนงาน บูรณาการแนวทาง แผนงาน และงบประมาณให้สว่ นราชการทเี่ ก่ียวขอ้ ง 2) คณะอนุกรรมการขับเคล่ือนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ มีหน้าที่ ขับเคล่ือนงานภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ฯ ก�ำหนดแนวทาง มาตรการ กลไก ความรว่ มมอื ระหว่างส่วนราชการและภาคส่วนอนื่ ทเี่ ก่ยี วข้อง 3 ระดับของการรบั รองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ และพัฒนาฐานขอ้ มลู ระดบั ที่ 1 มาตรฐานเกษตรอนิ ทรยี ช์ มุ ชน เปน็ ระบบรบั รองแบบมสี ว่ นรว่ ม (PGS) โดยชมุ ชน จากกรมพฒั นาทด่ี นิ (พด.) และสำ� นกั งานการปฏริ ปู ทดี่ นิ เพ่ือเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เป็นเคร่ืองมือส่งเสริมพัฒนาและสร้างโอกาส ให้เกษตรกร เพอ่ื เขา้ ส่กู ระบวนการตรวจรับรองมาตรฐานเกษตรอนิ ทรยี ์ และเชื่อมโยงสู่มาตรฐานสากล เช่น มาตรฐานเกษตรอินทรีย์วิถียโสธร มาตรฐานเกษตรอนิ ทรยี ว์ ถิ ไี ทย (Earth safe) มาตรฐานเกษตรอนิ ทรยี ์ PGS จนั ทบรุ ี ฯลฯ เนน้ ขายในตลาดชมุ ชน เชน่ โรงพยาบาล โรงเรยี น และโรงแรม ระดับที่ 2 มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ประเทศไทย คือ มาตรฐานเกษตร อนิ ทรยี ข์ องกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (มกษ. 9000) เนน้ การขายตลาด ในประเทศ ระดับที่ 3 มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ต่างประเทศ/สากล เช่น มาตรฐาน เกษตรอนิ ทรยี ์ EU, USDA, IFOAM และ JAS ฯลฯ เนน้ สง่ ออกเพอ่ื ขายตลาด ตา่ งประเทศ การจัดท�ำฐานข้อมูล ด�ำเนินงานโดยกรมวิชาการเกษตร รวบรวมข้อมูล เกษตรกรท่ีผ่านการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ระดับ 1-3 ทั้งด้านพืช ประมง และปศสุ ัตว์ จากนั้นกรมพัฒนาทดี่ ินจะวิเคราะห์ ตรวจสอบ จัดท�ำเปน็ ฐานข้อมูล และแอปพลิเคชันท่ีง่ายต่อการใช้ประโยชน์ ปัจจุบันมีข้อมูลผู้ผ่าน การรับรองมาตรฐาน 408 กลุ่ม 15,974 ราย พนื้ ทีป่ ระมาณ 357,000 ไร่ (ยงั ไม่รวมมาตรฐานชุมชน) 102 ศาสตร์พระราชา

โครงการโรงพยาบาลอาหารปลอดภัย สนับสนุนการรับซ้ือ ผลผลิตเกษตรอินทรีย์ให้แก่ผู้ป่วย ซ่ึงหากโรงพยาบาลใด มคี วามพรอ้ มกส็ นับสนุนให้ใชพ้ นื้ ท่ีเพาะปลูกได้ ปัจจยั การผลิตเกษตรอินทรยี ์ เนน้ สร้างความรู้ความเขา้ ใจใน “หลักการเกษตรอินทรีย์และการใช้ปัจจัยการผลิตเกษตร อินทรีย์” ให้แก่เจ้าหน้าท่ีและเกษตรกร รักษาความเป็นอินทรีย์ ตลอดหว่ งโซ่การผลิต การตลาดเกษตรอินทรยี ์ เนน้ ตลาดนำ� การผลติ ทั้งภายในและ ตา่ งประเทศ เชอื่ มโยงเกษตรกรและผู้ผลิต งานวจิ ยั เกษตรอนิ ทรยี ์ เนน้ วจิ ยั เชงิ ปฏบิ ตั แิ บบมสี ว่ นรว่ มในดา้ น วิทยาศาสตร์ สนับสนุนงบประมาณโดยส�ำนักงานพัฒนาการ วจิ ยั การเกษตร (องคก์ ารมหาชน) การประชาสัมพันธ์เกษตรอินทรีย์ ประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสารและรับฟังข้อคิดเห็นจากผู้เก่ียวข้องในรูปแบบต่าง ๆ เช่น สงิ่ พิมพ์ วดี ทิ ัศน์ นทิ รรศการ งานมหกรรมเกษตรอินทรยี ์ และสื่อออนไลน์ แนวทางขบั เคลอ่ื นการพฒั นาเกษตรอนิ ทรยี แ์ หง่ ชาติ ปี 2562 1. ปรับปรุงค�ำส่ังแต่งต้ังคณะอนุกรรมการขับเคล่ือนการพัฒนาเกษตร อนิ ทรยี ใ์ หค้ รอบคลุมทุกหน่วยงานท่ีเก่ยี วข้อง 2. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการความร่วมมือด�ำเนินงานโครงการโรงพยาบาล อาหารปลอดภยั 3. เพิ่มพ้ืนทีเ่ ปา้ หมายภายใต้เกษตรกรรมยั่งยนื ให้ชดั เจน 4. สนับสนนุ ปัจจัยการผลิต การปรับปรุงบำ� รงุ ดนิ เนน้ พง่ึ พาตนเอง แนะน�ำ เกษตรกรน�ำวัตถุดิบในฟาร์มมาใช้ทดแทนสารเคมี เช่น ปุ๋ยหมัก น�้ำหมัก ชีวภาพ พืชปยุ๋ สด ผลติ ภณั ฑจ์ ลุ นิ ทรีย์ เป็นต้น จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 103

วนเกษตร ในเขตปฏริ ปู ทดี่ นิ ขยายพนื้ ทส่ี เี ขียว เพิม่ ปริมาณคุณภาพชีวิตที่ดี ทุกวันน้ี การใช้ชีวิตที่ค�ำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม คือเทรนด์ที่ยั่งยืน เพราะทรัพยากรธรรมชาติเส่ือมโทรมไปแล้วมากมายจากการใช้ประโยชน์ ของมนุษย์ในด้านต่าง ๆ 104 ศาสตร์พระราชา

ยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (2561 – 2580) ก็ให้ความส�ำคัญในเร่ือง ดังกล่าว โดยเน้นบริหารจัดการทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพ ภายใต้ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สนับสนุนการเกษตรกรรมย่ังยืน เช่น เกษตรกรรมธรรมชาติ เกษตรผสมผสาน เกษตรอินทรีย์ วนเกษตร และเกษตรทฤษฎีใหม่ ส�ำนักงานการปฏิรูปท่ีดินเพ่ือเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้ท�ำโครงการส่งเสริม ระบบวนเกษตร เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศในแปลงเกษตร แนวทางส่งเสริมการ สรา้ งระบบวนเกษตรตามแนวพระราชดำ� ริ ปลกู ไม้ 3 อยา่ ง ไดป้ ระโยชน์ 4 อยา่ ง ของในหลวง รชั กาลที่ 9 ใหเ้ กษตรกรทไ่ี ดร้ บั ทดี่ นิ ทำ� กนิ จาก ส.ป.ก. ปลูกไม้กิน ไม้ใช้สอย ไม้เศรษฐกิจ และไม้พลังงาน รวมทั้งพืชสมุนไพรแบบ ผสมผสาน ซงึ่ หากทำ� ไดค้ รบจะกอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชนม์ หาศาล และดตี อ่ ระบบนเิ วศ อย่างย่ิง โดยประโยชน์ยังต่อยอดไปถึงการช่วยลดภาวะโลกร้อน บรรเทา ควันพิษและฝุ่น PM 2.5 ได้อีกด้วย จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 105

ผลด�ำเนินงาน ปีงบประมาณ 2561 เปา้ หมาย 45,000 ไร่ ทำ� ผลงานได้ 45,557 ไร่ (ร้อยละ 101.24) สำ� หรบั ผลงานเชงิ คณุ ภาพ ส.ป.ก. ไดจ้ ดั ทำ� ฐานขอ้ มลู ของเกษตรกรผปู้ ลกู ไม้ ในเขตปฏิรูปที่ดิน รวบรวมต้ังแต่ปีงบประมาณ 2561 ซึ่งเป็นปีแรกที่ ส.ป.ก. ได้รับการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนปัจจัยการผลิต และส่งทีมงานลงพื้นท่ี ไปคัดเลือกเกษตรกรให้เข้าร่วมโครงการฯ จ�ำนวน 27 ราย 106 ศาสตร์พระราชา

อุปสรรค: เจ้าหน้าท่ีและเกษตรกรยังขาดความเข้าใจในหลักการและแนวทาง ด�ำเนินงานส่งเสริมระบบวนเกษตร อาจเป็นเพราะเพ่ิงเริ่มต้นโครงการปีแรก และยังพบอุปสรรคเร่ืองพ้ืนท่ีด�ำเนินงานบางแห่ง เก่ียวกับขอบเขตอ�ำนาจ และบทบาทการเข้าจัดการพื้นที่ เช่น พื้นที่ท่ีมีหนังสือส�ำคัญส�ำหรับที่หลวง (นสล.) หรือพื้นที่ท่ีอยู่ระหว่างส่งมอบให้กรมป่าไม้ ซ่ึงต้องประสานงานกับ หน่วยงานท้องถ่ินตามข้ันตอน บางพ้ืนท่ีจึงไม่สามารถด�ำเนินงานได้ทัน การดำ� เนนิ งาน ยงั ต้องขับเคล่ือนต่อไป เพ่ือทรัพยากรธรรมชาติ และระบบนเิ วศทด่ี ีขึ้น น�ำไปสู่คุณภาพชวี ติ ท่ดี ขี ึ้น อยา่ งแทจ้ รงิ จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 107

บรู ณาการการจัดการท่ีดนิ พฒั นาอาชพี ฟืน้ ฟูชีวติ ดว้ ยศาสตรพ์ ระราชา “ปากทอ้ งของชาวบา้ นคอื เรอ่ื งใหญ”่ ไมใ่ ชค่ ำ� กลา่ วทเ่ี กนิ จรงิ ดงั นนั้ การไมม่ ี ท่ีดินท�ำกินหรือใช้อยู่อาศัยของชาวบ้านท่ีมีรายได้น้อย คือปัญหา เรง่ ดว่ นทตี่ อ้ งแกไ้ ข รวมถงึ การบกุ รกุ พนื้ ทปี่ า่ สงวนดว้ ย ซง่ึ คณะรฐั มนตรไี ดม้ ี มตใิ นวนั ท่ี 22 ธนั วาคม 2558 อนมุ ตั หิ ลกั การจดั ทดี่ นิ ทำ� กนิ ใหช้ มุ ชนในลกั ษณะ แปลงรวม แม้จะไม่ให้กรรมสิทธ์ิ แต่อนุญาตให้เข้าท�ำประโยชน์ในรูปแบบ ของกลุ่ม สถาบัน หรอื รูปแบบอืน่ ๆ ท่เี หมาะสม โดยมีคณะกรรมการนโยบาย ท่ีดนิ แหง่ ชาติ (คทช.) คอยก�ำกับดูแล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนา อาชีพได้น้อมน�ำศาสตร์พระราชามาปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ใชห้ ลกั กสกิ รรมธรรมชาติ และออกแบบการใชป้ ระโยชนจ์ ากทดี่ นิ ตามภมู สิ งั คม หรือ “โคก หนอง นา โมเดล” มาเปน็ แนวทางด�ำเนนิ งาน 108 ศาสตร์พระราชา

ผลส�ำเร็จทเ่ี กดิ ขนึ้ พ้ืนทเี่ ขตปฏริ ปู ที่ดินที่จัดตัง้ สหกรณแ์ ลว้ ใน 7 จังหวัด จ�ำนวน 12 แหง่ เนือ้ ท่ี 13,895 ไร่ เกษตรกรเขา้ ท�ำประโยชนใ์ นทด่ี ิน 1,090 ราย ดังน้ี จงั หวดั อุทัยธานี จังหวัดกาฬสินธุ์ 1 แห่ง เนอื้ ท่ี 3,239 ไร่ 1 แหง่ เน้ือท่ี 777 ไร่ เกษตรกร 74 ราย เกษตรกร 369 ราย ประกอบอาชพี ประกอบอาชีพ เล้ียงโคเน้อื ปลกู หมอ่ น เล้ียงไหม ปลกู หมอ่ น เล้ียงไหม เกษตรผสมผสาน จงั หวดั นครราชสีมา 2 แหง่ เนอ้ื ท่ี 1,564 ไร่ จังหวดั กาญจนบรุ ี เกษตรกร 145 ราย 1 แห่ง เนือ้ ที่ 2,934 ไร่ ประกอบอาชีพ ปลกู ผัก ไม้ผล เกษตรกร 269 ราย ประกอบอาชพี จังหวัดสระแก้ว เลย้ี งแพะ 4 แหง่ เน้ือที่ 3,304 ไร่ เกษตรกร 30 ราย จังหวัดสรุ าษฎรธ์ านี ประกอบอาชพี 1 แหง่ เนือ้ ที่ 972 ไร่ เลี้ยงโคเนือ้ เกษตรกร 114 ราย จงั หวัดชลบรุ ี ประกอบอาชพี 2 แหง่ เน้ือที่ 1,105 ไร่ เกษตรผสมผสาน เกษตรกร 89 ราย ประกอบอาชีพ พืชอาหารสตั ว์ ปาลม์ น้ำ� มัน ทั้งน้ี อยู่ระหว่างจัดต้ังสหกรณ์ในพ้ืนท่ี 6 จังหวัด เนื้อท่ี 15,985 ไร่ คือ - จงั หวดั เชยี งราย 1 แปลง เนอื้ ท่ี 508 ไร่ - จงั หวดั ชมุ พร 2 แปลง เนอ้ื ท่ี 7,369 ไร่ - จงั หวดั สงขลา 1 แปลง เนอื้ ท่ี 149 ไร่ . - จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี 1 แปลง เนอ้ื ท่ี 1,007 ไร่ - จงั หวดั กระบี่ 1 แปลง เนอื้ ท่ี 992 ไร่ - จงั หวดั เชยี งใหม่ 5 แปลง เนอ้ื ท่ี 5,960 ไร่ จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 109

คณะอนกุ รรมการท่ีได้รับแตง่ ตงั้ จาก คทช. จำ� นวน 4 คณะ ประกอบดว้ ย 1) คณะอนุกรรมการจดั หาท่ดี นิ อำ� นาจหน้าท่ี: สำ� รวจ ตรวจสอบ จัดทำ� ขอ้ มลู ท่ีดิน และแผนทข่ี อบเขตทีด่ นิ ประธาน: รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม เลขานุการ: อธิบดีกรมป่าไม้ 2) คณะอนกุ รรมการจดั ทด่ี นิ อำ� นาจหนา้ ท:่ี จดั ทำ� ข้อมลู ผไู้ รท้ ี่ดินทำ� กนิ และทอี่ ยอู่ าศยั กำ� หนดหลกั เกณฑก์ ารจัดที่ดิน ประธาน: รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เลขานกุ าร: อธิบดกี รมทดี่ นิ 3) คณะอนกุ รรมการสง่ เสรมิ และพัฒนาอาชีพ อำ� นาจหนา้ ท:่ี จัดทำ� แผนสง่ เสริมพฒั นาอาชีพ และการตลาดในระดับจงั หวดั ประธาน: รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เลขานกุ าร: อธบิ ดกี รมสง่ เสรมิ สหกรณ์ 4) คณะอนุกรรมการนโยบายทีด่ ินจงั หวดั อำ� นาจหน้าท:ี่ จดั ทำ� แผนปฏบิ ตั ิการจัดท่ดี นิ สง่ เสริมพัฒนาอาชีพ และการตลาดในระดบั จังหวัด 110 ศาสตร์พระราชา

ประธาน: ผู้ว่าราชการจังหวัด ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อมจังหวดั เลขานกุ าร: สหกรณ์จังหวดั อุปสรรค: การบูรณาการของหน่วยงานภาครัฐ ทั้งหน่วยงานในกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องในทุกด้านยังติดขัดอยู่บ้าง อาจทำ� ใหเ้ กดิ ปญั หาการรวมกลมุ่ เพอ่ื จดั ตงั้ สหกรณท์ ไ่ี มเ่ ขม้ แขง็ และเกดิ ความ ไม่พรอ้ มของโครงสรา้ งพ้นื ฐานกอ่ นจดั ทด่ี นิ ข้อเสนอแนะ: ควรประสานและขับเคลื่อนการด�ำเนินงาน โดยอาศัยกลไก ความร่วมมือของคณะอนุกรรมการให้มากขึ้น และควรเตรียมความพร้อม ของเกษตรกร เพ่อื พัฒนาโครงการพ้ืนฐานให้พรอ้ มก่อนทีจ่ ะจัดที่ดิน จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 111

พทุ ธเกษตร ชีวิตก้าวหนา้ ด้วยหลักพุทธศาสนาในวิถเี กษตร ในสมัยก่อน วถิ ีชุมชนจะเนน้ พ่ึงพาอาศยั กันระหวา่ งบ้าน วดั โรงเรียน (บวร) พระสงฆ์จะไดร้ ับความเคารพ เลือ่ มใสศรัทธา และเปน็ ท่พี ่ึงทางใจของชาวบา้ น 112 ศาสตร์พระราชา

ซงึ่ นอกจากพระสงฆจ์ ะเผยแพรห่ ลกั ธรรมคำ� สอน ในหลายชมุ ชน พระสงฆ์ ยงั มบี ทบาทเปน็ นกั วชิ าการเกษตรและนกั พฒั นา ทสี่ ง่ เสรมิ ชาวบา้ น ให้ท�ำการเกษตรโดยน�ำหลักพุทธศาสนามาเป็นแนวทางปฏิบัติ ซึ่งดีต่อ สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติท้ังปวง ไม่ว่าจะเป็นดิน น�้ำ ป่า และเมื่อผสานกับหลักความพอเพียงก็จะน�ำไปสู่ความยั่งยืน พอกิน พอใช้ ปลอดภยั และมสี ขุ ภาพท่ดี จี ากวถิ เี กษตรไรส้ ารเคมี จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 113

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำ� หลกั การมาขยายผล สรา้ งความรู้ ความเข้าใจ แนวคิด และกระบวนการขับเคลื่อนงานพุทธเกษตรให้ เจ้าหน้าท่ีรัฐและภาคีเครือข่าย คัดเลือกพื้นท่ีต้นแบบ วางแผน โดยอยู่ระหว่าง ขับเคล่ือนการด�ำเนินงาน ซึ่งคัดเลือกไว้ 3 แห่ง ตามแผนชุมชนท่ีจัดท�ำ กับชาวบ้านในพ้ืนที่ ดังนี้ จังหวัด พื้นทีต่ น้ แบบ พระสงฆผ์ นู้ ำ� ผลการดำ�เนนิ งาน กาฬสินธุ์ ในการขับเคลือ่ น พื้นที่โครงการ สร้างและพัฒนาระบบน้ำ�ในระดับชุมชน จัดที่ดินทำ�กิน พระมหาสุภาพ และแปลงรายครัวเรือน ตามนโยบาย พุทธฺวิริโย สนับสนุนอาชีพภายใต้ศักยภาพของชุมชน รัฐบาล (เจ้าอาวาส ได้แก่ วัดป่านาคำ�) บ้านดงกล้วย - การปลูกหม่อน เลี้ยงไหม 45 ครัวเรือน ตำ�บลนาจำ�ปา - การปลกู พชื ผกั ในหลมุ พอเพยี ง 34 ครวั เรอื น อำ�เภอดอน- - การปลูกสมุนไพร 13 ครัวเรือน จาน - การปลูกผักหวานป่า 30 ครัวเรือน - การเลี้ยงปลาดกุ 20 ครวั เรอื น - การเพาะเหด็ ฟาง 19 ครวั เรอื น น่าน บ้านโป่งคำ� พระครูสุจิณ สร้างความรู้ ความเข้าใจให้แก่เกษตรกร ตำ�บลดู่พงษ์ นันทกิจ เพื่อปรับแนวคิดให้หันมาทำ�เกษตรกรรม อำ�เภอสันติสุข (เจ้าอาวาส ยั่งยืนในรูปแบบวนเกษตร และส่งเสริม วัดโป่งคำ�) การปลูกพืชสมุนไพร อุตรดิตถ์ บ้านนาอิซาง พระครูสุภัทร สร้างฝายชะลอน้ำ� สำ�รวจป่าชุมชน ตำ�บลนายาง สันติคุณ และส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพร อำ�เภอพิชัย (เจ้าอาวาส วัดดอยท่าเสา) 114 ศาสตร์พระราชา

การขยายผลการด�ำเนนิ งานในอนาคต ค้นหาผู้น�ำทางศาสนาเพื่อเป็นต้นแบบการขับเคลื่อนงาน ให้ครบทุกภูมิภาค ใช้กลไกบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม 3 5 7 เชน่ บรู ณาการการท�ำงานรว่ มกบั กระทรวงวฒั นธรรม ฯลฯ ปรับแผน ก�ำหนดเป้าหมายการขับเคลื่อนนโยบายให้ชัดเจน โดยก�ำหนดผลส�ำเร็จท่ีต้องการในแต่ละข้ัน เพื่อวางแผน ด�ำเนินงานได้เปน็ รูปธรรม ก�ำหนดขอบข่ายนโยบายให้กว้างขึ้น ครอบคลุมทุกศาสนา ทุกพื้นที่ โดยพิจารณาเปล่ียนช่ือนโยบายเป็นชื่ออื่นที่ สามารถสอ่ื ใหเ้ ข้าใจในทกุ ศาสนา จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 115

มาตรฐาน อนิ ทรยี ว์ ถิ ไี ทย Earth Safe Standard สินค้าที่ได้มาตรฐานสากล เปรียบเหมือนปุ๋ยที่ช่วยสร้างการเติบโตทาง เศรษฐกิจ ต้งั แต่ระดับหมบู่ ้านไปจนถึงระดบั ประเทศ 116 ศาสตร์พระราชา

“Earth Safe Standard” หรือมาตรฐานอินทรีย์วิถีไทย คือแนวทางและ กระบวนการปฏบิ ตั สิ ากลสำ� หรบั ผลผลติ การเกษตร ทง้ั ผลผลติ สด ๆ จากฟาร์มและผลผลติ ท่ีแปรรปู กลไกน้ีถูกออกแบบและพัฒนาโดยคณะท�ำงานและภาคีเครือข่าย ภายใต้ มลู นิธิ รกั ษด์ นิ รักษน์ ้�ำ (Earth Safe Foundation) ตวั ชีว้ ัดของมาตรฐาน จะดูแลกระบวนการผลิตพืช ผัก และผลไม้บนวิถีทางธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมี ทกุ ชนดิ การเกบ็ เกยี่ วผลผลติ ตอ้ งไมก่ ระทบกบั ธรรมชาติ หากนำ� ไปแปรรูปก็ต้องปลอดภัย มีมาตรฐานที่ผู้บริโภคตรวจสอบได้ ค�ำนึงถึง สิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศในทุกมิติ ตั้งแต่การปลูกจนถึงจ�ำหน่าย ส่งเสริม เกษตรกรให้ด�ำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกพืชไว้ กนิ เองในครอบครวั หากเหลอื กแ็ บง่ ปนั หากแบง่ ปนั แลว้ ยงั เหลอื อกี กร็ วมตวั กนั จ�ำหน่าย ลดการพ่ึงพาพ่อค้าคนกลาง ช่วยบริหารจัดการผลผลิต และสร้างรายได้ทเ่ี ปน็ ธรรมกบั เกษตรกร ผู้บริโภคไดป้ ระโยชน์ เพราะมี ช่องทางซื้ออาหารอินทรีย์ง่ายข้ึน เกิดเป็นชุมชนเกษตรอินทรีย์วิถีไทย ทม่ี นั่ คง จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 117

118 ศาสตร์พระราชา

พน้ื ทช่ี ุมชนเกษตรอินทรยี ์วถิ ีไทยทีเ่ กิดขึ้นแลว้ คือ 1. ตำ� บลหัวดอน อ�ำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี 2. คริสตจกั รนาเรยี ง อ�ำเภอศรธี าตุ จงั หวดั อุดรธานี 3. บา้ นพะกอยวา อ�ำเภอแม่ระมาด จังหวดั ตาก 4. บ้านควนนา อ�ำเภอรัตภมู ิ จงั หวดั สงขลา 5. ตำ� บลปากรอ อ�ำเภอสงิ หนคร จงั หวดั สงขลา 6. หมบู่ ้านปิยะมติ ร 2 อำ� เภอเบตง จังหวัดยะลา 7. บา้ นศรนี คร อ�ำเภอธารโต จงั หวัดยะลา 8. บ้านแหร อ�ำเภอธารโต จงั หวัดยะลา 9. บ้านอัยเยอรเ์ บอรจ์ ัง อ�ำเภอเบตง จงั หวดั ยะลา 10. บ้านตาเยา อำ� เภอธารโต จังหวัดยะลา โดยมูลนิธิรักษ์ดินรักษ์น�้ำ ร่วมกับสมาคมเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ ร่วมคืน สนั ตสิ ขุ ในพนื้ ทจ่ี งั หวดั ชายแดนภาคใต้ พฒั นา สนบั สนนุ และสง่ เสรมิ ใหเ้ ยาวชน ในพนื้ ทก่ี ลบั คนื ถนิ่ กำ� เนดิ เพอื่ พฒั นาบา้ นเกดิ โดยการทำ� เกษตรอนิ ทรยี ว์ ถิ ไี ทย เพ่อื สร้างความมน่ั คง มง่ั คัง่ และยัง่ ยืนในบ้านเกิดเมืองนอน จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 119

ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ การใชท้ ด่ี นิ สามนำ�้ นาขาวังโมเดล พ้ืนท่ี 14,328 ไร่ ของต�ำบลเขาดิน อ�ำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา มลี กั ษณะเปน็ ทีร่ าบล่มุ แม่น�ำ้ บางปะกง สูงจากระดบั น้ำ� ทะเลปานกลาง 1-2 เมตร ทิศเหนือติดต่อกับต�ำบลบางซ่อน อ�ำเภอบ้านโพธ์ิ ทิศใต้ติดต่อกับต�ำบล ท่าข้าม ทิศตะวันออกติดต่อกับต�ำบลบางผ้ึง อ�ำเภอบางปะกง และติดแม่น�้ำ บางปะกงทางทิศตะวันตก สภาพภูมิอากาศจังหวัดฉะเชิงเทราได้รับอิทธิพล ของมรสมุ ทพี่ ดั ปกคลมุ ประเทศ คอื มรสมุ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ทพ่ี ดั พาความเยน็ มาสู่ประเทศไทย ท�ำให้ประสบภาวะอากาศหนาว และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัด ปกคลุมในช่วงฤดูฝน ท�ำให้อากาศช้ืนและมีฝนตกทั่วไป อุณหภูมิเฉล่ียตลอดปี อยู่ท่ี 27 องศาเซลเซียส ปริมาณน้�ำฝนรวม 1,420 มิลลิเมตร ประชากร 862 ครวั เรอื น ประกอบอาชพี เลย้ี งกงุ้ เลยี้ งปลา ทำ� นา รบั จา้ งทว่ั ไปทงั้ ในและนอกพนื้ ที่ สถานภาพของทรพั ยากรดนิ วัตถุต้นก�ำเนิดดินเป็นดินตะกอนน�้ำทะเล ผสมกับตะกอนล�ำน�้ำ ซ่ึงเกิดจาก ตะกอนน�้ำกร่อยพัดมาทับถม ดินเป็นดินลึก ดินบนเป็นดินเหนียวจัด มีสีเทาเข้ม พบจุดประสีแดงปนเหลืองหรือสีน้�ำตาลเข้ม ปฏิกิริยาของดินเป็นดินกรดจัด- กรดปานกลางดนิ ลา่ งระดบั ลกึ 1-1.5เมตรพบดนิ เลนสเี ทาเขม้ ถงึ เขยี วปฏกิ ริ ยิ าดนิ เปน็ ดนิ ดา่ ง-ดา่ งจัด 120 ศาสตร์พระราชา

การใช้ท่ีดินสว่ นใหญ่ 44.82% 13.24% 9.02% สถานเพาะเลยี้ งสตั วน์ ำ�้ นาข้าว ท่ีอยอู่ าศัย 22.42 % 10.5 % ปา่ ชายเลน อ่ืน ๆ ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิ่น การใช้ทด่ี นิ สามน�้ำ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในต�ำบลเขาดิน กว่า 68 % มีการท�ำการเกษตรในรูปแบบ “นาขาวงั ” มกี ารจดั การแปลงโดยขดุ คลองหลอดรอบกระทงนา ถอื เปน็ ภมู ปิ ญั ญา เกย่ี วกบั การจดั การทด่ี นิ มากวา่ 40 ปี เกษตรกรตำ� บลบางซอ่ น อำ� เภอบา้ นโพธ์ิ รเิ รม่ิ เป็นเจา้ แรก รับแนวคดิ ต้นแบบมาจากภาคใต้ ในระยะแรกมีการท�ำเพยี ง 1-2 แปลง และขยายพน้ื ทจ่ี นมาถงึ ตำ� บลเขาดนิ อำ� เภอบางปะกง รปู แบบการทำ� “นาขาวงั ” นี้ เป็นรูปแบบการปลูกข้าวร่วมกับการเพาะเลี้ยงสัตว์น�้ำจืด น�้ำกร่อย และน้�ำเค็ม ในพ้ืนท่ีเดียวกนั ดนิ ปัญหา...ไม่ใชป่ ัญหา สถานภาพดินในพ้ืนท่ีไม่เหมาะสมส�ำหรับการปลูกข้าว แต่กลับสามารถ ปลูกข้าวได้ผลผลิตสูงถึง 1 ตันต่อไร่ ด้วยรูปแบบการจัดการแปลง อย่างมีประสิทธิภาพของเกษตรกร การท�ำนาถือเป็นรายได้หลัก ซ่ึงเกษตรกร จะท�ำนาในฤดูฝน ซ่ึงเป็นช่วงน�้ำจืด ปัจจุบัน เกษตรกรมีการรวมกลุ่มกันเป็น นาแปลงใหญ่ ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว “ปทุมธานี 1” เพ่ือส่งขายให้กับศูนย์วิจัยข้าว ชลบุรี ในราคามากกว่าท้องตลาด 20% ขณะเดียวกนั ในแปลงนาได้มกี ารปล่อย ปลากะพงขาว หรือกุ้งก้ามกรามเล้ียงเพื่อเป็นรายได้เสริม นอกจากน้ีการขุด คลองหลอดรอบกระทงนายังสามารถลดความเค็มของน้�ำในบางช่วงเวลา บริเวณรากข้าวได้ เนื่องจากน้�ำเค็มมีความหนาแน่นสูงกว่าน�้ำจืด ท�ำให้ผิวน้�ำ เป็นน�้ำจืด และน้�ำในคลองหลอดเป็นน�้ำกร่อย หลังฤดูเก็บเกี่ยวข้าวเกษตรกร จะตากแปลงนา 1-2 เดือน เม่ือถึงเดือนมกราคมจะมีการปล่อยน�้ำกร่อย จากคลองธรรมชาติเข้าสู่แปลงนา ผลพลอยได้คือ สัตว์ทะเลท่ีเข้ามากับน�้ำ มกี ารปลอ่ ยพนั ธป์ุ ทู ะเลกงุ้ กลุ าดำ� และกงุ้ ขาวแวนนาไมลงในแปลงนาเพม่ิ โดยสตั วน์ ำ้� จะหากินเองตามธรรมชาติ มีอาหารหลักจากตอซังและฟางข้าวที่เน่าเปื่อย จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 121

หลงั จากนัน้ 1-2 เดอื นจึงเร่ิมทยอยจบั ขายได้ ท�ำใหต้ ้นทนุ การผลิตตำ่� เมื่อเข้าสู่ ฤดูฝนในเดือนพฤษภาคม น�้ำเค็มในแม่น้�ำบางปะกงจะถูกน�้ำจืดดันลงสู่ทะเล เกษตรกรจะเร่ิมวิดบ่อเพ่ือเตรียมแปลงปลูกข้าว โดยการปล่อยน�้ำจืดลง แปลงนาแลว้ ไถคราด ลา้ งเอาความเคม็ และความเปรย้ี วของดนิ ออกจากแปลงนา โดยลา้ งดนิ 8-10 ครงั้ จนกวา่ จะจดื การจดั การแปลงในลกั ษณะนใี้ ชร้ ปู แบบเดยี วกบั ทฤษฎีแกล้งดิน ซึ่งเป็นการจัดการดินในพ้นื ที่ดนิ เปร้ียวจดั เม่ือพ้ืนทพ่ี รอ้ มแล้ว เกษตรกรก็จะเริ่มหว่านข้าวอีกครง้ั วิจยั ใหเ้ กิดค�ำตอบ กระบวนทศั น์การวิจยั เพ่ือเปน็ กรอบและแนวทางการด�ำเนินงาน ต้นแบบกระบวนการวจิ ยั ในท้องถิ่น สเู่ ปา้ หมาย SDGs การใช้ท่ีดินรูปแบบ “นาขาวัง” เป็นการใช้ท่ีดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด รักษา สถานภาพของดินให้คงอยู่ เป็นพื้นท่ีต้นแบบกระบวนการวิจัยในท้องถิ่น โดย เชอื่ มโยงหลักวชิ าการมาอธิบายและขยายผล เช่น เกษตรกรทราบไดอ้ ยา่ งไรว่า น้�ำเหมาะสมแล้วกับการปลูกข้าว หรือการเล้ียงสัตว์น้�ำเกษตรกรมีการจัดการ ระหวา่ งนำ�้ จดื และนำ้� เคม็ อยา่ งไร เกษตรกรบรหิ ารจดั การแปลงอยา่ งไรใหส้ ามารถ เลยี้ งสตั วน์ ำ�้ กรอ่ ยและปลกู ขา้ วในแปลงเดยี วกนั ได้ เปน็ ตน้ นอกจากนี้ยังมีประเด็นเกี่ยวกับมลพิษและสารพิษตกค้างในดิน ผลผลิตทาง การเกษตร การใช้ข้อได้เปรียบทางภูมิประเทศที่มีป่าล้อมรอบพ้ืนที่เพื่อป้องกัน สารพิษตกค้าง การพัฒนาพ้ืนท่ีป่าชายเลนที่หลากหลายทางชีวภาพเพื่อเป็น แหล่งอนุบาลสัตว์น�้ำ และมีประสิทธิภาพในการผลิตอาหารคุณภาพต้นทุนต่�ำ ตลอดจนขอ้ จำ� กดั และความเปน็ ไปไดใ้ นการขยายรปู แบบการใชท้ ดี่ นิ แบบสามนำ้� ไป ยงั พ้ืนทไ่ี กลเ้ คยี ง กระบวนการเหลา่ นตี้ อ้ งอาศยั กลไกการสรา้ งความรว่ มมอื จาก ภาครฐั และเอกชน นกั วจิ ยั อสิ ระทส่ี นใจศกึ ษา ผเู้ ชย่ี วชาญ ดา้ นตา่ ง ๆ เจ้าหนา้ ทก่ี รมพฒั นาท่ดี นิ รวมถึง การสร้างทีมวิจัยท้องถิ่น คือ เกษตรกรใน พ้ืนท่ี (นักวิจัยชาวบ้าน) เพื่อสร้างแหล่ง เรียนรู้ด้านการจัดการดิน การใช้ที่ดิน เพอื่ หยดุ ภาวะความหิวโหย บริเวณพื้นท่ีชายฝั่ง (Coastal zone) “Zero Hunger” ส� ำ ห รั บ นั ก วิ จั ย ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย (TSP) เครือข่ายนักวิจัยในภูมิภาค เปน็ แหล่งผลติ อาหารทีม่ ่ันคง เอเชีย (ASP) และเครือข่ายนักวิจัย สู่การเปน็ เมอื งอาหาร ระดับโลก (GSP) ท่ีสำ� คญั ของโลกในอนาคต 122 ศาสตร์พระราชา

ขบั เคลอ่ื น เมอื งอจั ฉรยิ ะสเี ขยี ว ต้นแบบการพัฒนาเพอื่ อนาคตที่สวยงาม เมืองท่ีมีคุณภาพ ทันสมัย บริหารจัดการดีเยี่ยม หรือ “Smart City” สามารถ เป็นต้นแบบในการพัฒนาระบบต่าง ๆ ของประเทศได้ รัฐบาล จึงมีนโยบายขับเคล่ือนการพัฒนาพื้นที่เป้าหมาย เพ่ือคัดเลือกเมืองอัจฉริยะ เปน็ ตน้ เเบบใน 7 จงั หวดั คอื กรงุ เทพมหานคร เชยี งใหม่ ภเู กต็ ขอนแกน่ ชลบรุ ี ระยอง และฉะเชิงเทรา โดยร่วมมือกับกระทรวงพลังงาน กระทรวงคมนาคม และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีแผนแม่บทการพัฒนาท่ีเน้น 5 หลักส�ำคัญ คือ มีศักยภาพ เหมาะส�ำหรับการน�ำร่อง ปฏริ ูปกฎหมายที่เกี่ยวขอ้ งอยา่ งบรู ณาการ มีผรู้ บั ผดิ ชอบการบรหิ ารจัดการพืน้ ท่ี องค์กร ระบบ และเทคโนโลยี พร้อมใหบ้ รกิ ารสาธารณะอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพและย่งั ยืน ผลกั ดันการวจิ ยั พฒั นา และนวัตกรรม นำ� ไปปรับใช้สำ� หรบั เมืองอัจฉริยะในอนาคต ส่งเสริมการจดั การขอ้ มูล เพือ่ เรียนรู้ สนบั สนนุ การพัฒนาเมืองอัจฉรยิ ะ ไดอ้ ยา่ งเป็นรปู ธรรม จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 123

7 องค์ประกอบของเมืองอจั ฉริยะ การสญั จรอัจฉรยิ ะ ชุมชนอัจฉริยะ (Smart Mobility) (Smart Community) เศรษฐกิจอัจฉริยะ ส่งิ แวดลอ้ มอจั ฉริยะ (Smart Economy) (Smart Environment) การปกครองอัจฉริยะ อาคารอจั ฉรยิ ะ (Smart Governance) (Smart Building) พลังงานอจั ฉริยะ (Smart Energy) 124 ศาสตร์พระราชา

ต้นแบบเมืองอัจฉริยะทั้ง 7 จังหวัด ถือเป็นเมืองหลวงของแต่ละภูมิภาค การจะพัฒนาให้ส�ำเร็จได้ย่อมสง่ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สงั คม ทรัพยากร ธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม โดยเฉพาะกับจังหวัดในพื้นทขี่ ้างเคียง ค ณ ะ ท� ำ ง า น ข อ ง รั ฐ ม น ต รี ช ่ ว ย ว ่ า ก า ร ก ร ะ ท ร ว ง เ ก ษ ต ร แ ล ะ ส ห ก ร ณ ์ (นายววิ ฒั น์ ศัลยก�ำธร) จงึ ริเร่ิมสนับสนนุ และดำ� เนนิ งานพฒั นา โดยน้อมน�ำ แนวทางศาสตร์พระราชาท่ีสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals) พฒั นาใหเ้ กิดเปน็ เมืองสีเขยี ว (Green City) ขน้ึ กระทรวงเกษตรและสหกรณก์ บั การขบั เคลื่อนเมอื งสเี ขยี ว วิธีการคือ ก�ำหนดพ้ืนท่ี 2 จังหวัดน�ำร่องคือ จังหวัดหนองบัวล�ำภู และจงั หวดั แมฮ่ อ่ งสอน สรา้ งการมสี ว่ นรว่ มกบั ทกุ ภาคสว่ น เพอื่ พฒั นา ฟน้ื ฟู อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน และสิง่ แวดล้อม เพอ่ื ความสมดลุ ของ ระบบนิเวศและคุณภาพชวี ติ ทพ่ี อเพียง จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 125

ลักษณะของเมืองสีเขียว 1) สิ่งแวดล้อมสีเขียว (Green Environment) อนุรักษ์พลังงาน และส่ิงแวดล้อมเพื่ออากาศและภูมิทัศน์ท่ีดี เกิดสมดุลต่อระบบนิเวศ มีสถานที่พักผ่อน ออกก�ำลังกาย เพ่ิมคุณภาพชีวิตท่ีดีข้ึนของ ประชากร 2) บริการสีเขียว (Green Service) ด้วยระบบบริหารด้านบริการ ของหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชนที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม ลดมลภาวะและปญั หาโลกร้อน 3) กิจกรรมสีเขียว (Green Activities) ส่งเสริมกิจกรรมของ คนในองค์กรและชุมชนทด่ี ตี อ่ สิ่งแวดล้อม 4) เศรษฐกจิ สเี ขยี ว (Green Economy) เพิ่มประสิทธิภาพดา้ นการ ใชท้ รพั ยากรและพลงั งาน สง่ เสรมิ การผลติ เทคโนโลยี และนวตั กรรม ที่ดูแลสิ่งแวดล้อม สร้างตลาดสีเขียวเพื่อการผลิตและบริโภคที่ ยั่งยืน 126 ศาสตร์พระราชา

5) ประชาธิปไตยสีเขียว (Green Democracy) สร้างและเปิด โอกาสให้ประชาชน รวมถึงผู้เกี่ยวข้องทุกระดับมีส่วนร่วมก�ำหนด ตดั สินใจ และขบั เคลือ่ นนโยบายเมืองสเี ขยี วรว่ มกนั 6) หัวใจสีเขียว (Green Heart) มีหัวใจที่เคารพวิถีธรรมชาติ มจี ติ สำ� นกึ เหน็ คณุ คา่ รกั และเอาใจใสส่ งิ่ แวดลอ้ มมนี สิ ยั ลดละเลกิ ใชซ้ ำ�้ น�ำกลับมาใช้ใหม่ คิดใหม่ และปฏิเสธทุกวิธีการท�ำร้ายส่ิงแวดล้อม รวมถงึ ตอบแทนคืนส่ิงแวดลอ้ มผ่านการปฏิบัติเท่าท่สี ามารถท�ำได้ 7) คนรุ่นใหม่สีเขียว (Green Generation) พัฒนากลุ่มเยาวชน คนรนุ่ ใหม่ และกลมุ่ ผสู้ นใจ รว่ มอนรุ กั ษ์ ฟน้ื ฟู และพฒั นาสง่ิ แวดลอ้ ม พลังงาน และระบบนิเวศของชมุ ชนให้เกิดการพฒั นาอย่างยง่ั ยืน 8) ความคิดสร้างสรรค์สีเขียว (Green Creative) ปลูกฝังและ สง่ เสรมิ ประชาชนใหส้ รา้ งสรรคส์ งิ่ ใหม่ ตอ่ ยอด ขยายผล หรอื ปรบั ปรงุ สง่ิ ทม่ี อี ยเู่ ดมิ แลกเปลย่ี นความคดิ และความรเู้ พอ่ื นำ� มาพฒั นาเมอื ง สเี ขียว จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 127

แนวทางขบั เคลื่อน นอ้ มนำ� ศาสตรพ์ ระราชาเพอื่ การพฒั นาอยา่ งยงั่ ยนื มาใชใ้ นการกำ� หนดนโยบาย สาธารณะแบบมีสว่ นรว่ ม (Participatory Public Policy) ดังนี้ 1. ประชุมเพื่อยกร่างแนวทางด�ำเนินงาน พัฒนาและสร้างแผนด�ำเนินงาน ร่วมกนั 2. สนับสนุนและพัฒนาข้อมูลท่ีเก่ียวข้อง เพ่ือสนับสนุนการด�ำเนินงาน นโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วม น�ำเสนอข้อมูลแก่สาธารณะ เชิญชวน ทุกฝ่ายที่เก่ียวข้องร่วมคิด ร่วมท�ำ โดยมีสถาบันการศึกษาสนับสนุน ดา้ นวชิ าการ ศกึ ษาวจิ ยั พฒั นาองคค์ วามรอู้ ยา่ งตอ่ เนอ่ื ง 3 ทำ� งานและแลกเปลย่ี นเรยี นรรู้ ว่ มกนั ในทางปฏบิ ตั ิ (Interactive Learning through Action) น�ำไปสู่การผลักดันนโยบายสาธารณะและด�ำเนินงาน ร่วมกันอยา่ งมสี ่วนร่วม 4. จัดอบรมเพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้ และพัฒนาศักยภาพของบุคลากร ท่ีด�ำเนนิ งานขับเคล่ือนนโยบายเมอื งสเี ขียว 5. สือ่ สารนโยบายเมืองสเี ขียว สหู่ นว่ ยงานและสงั คม เพื่อสรา้ งความเข้าใจ ความตระหนกั รู้ และการมสี ว่ นรว่ ม 6. ขบั เคลอื่ นกระบวนการนโยบายสาธารณะแบบมสี ว่ นรว่ มของเมอื งสเี ขยี ว สูก่ ารปฏบิ ตั ริ ว่ มกนั 7. จัดเวทีสมัชชาใหญ่ภายในจังหวัด เพื่อร่วมคิด ร่วมท�ำ ร่วมตัดสินใจ เพ่ือพัฒนาไปด้วยกัน โดยร่วมท�ำโครงการวิจัยเชิงปฏิบัติการ ลดการใช้ และจัดการสารเคมีปราบศัตรูพืชในพื้นท่ีจังหวัดหนองบัวล�ำภู ร่วมกับ รศ.ดร. พวงรัตน์ ขจิตวิชยานุกูล และสถาบันการศึกษา 9 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลยั ศลิ ปากร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัย วลัยลักษณ์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลอสี าน และมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครราชสมี า มรี ะยะเวลาดำ� เนนิ การ ระหว่างปี 2562-2564 เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม สง่ เสรมิ การขบั เคลอ่ื นเกษตรอนิ ทรยี ผ์ า่ นโครงการตา่ ง ๆ อยา่ งมสี ว่ นรว่ ม ทงั้ การวจิ ยั การจดั ทำ� ขอ้ มลู การเผยแพรอ่ งคค์ วามรดู้ า้ นการเกษตร ฯลฯ 128 ศาสตร์พระราชา

แก้ปญั หา ให้ผทู้ �ำนาเกลอื รกั ษาความย่ังยืน ดจุ เกลือรกั ษาความเค็ม เกลือมีราคาที่ตกต�่ำมานานหลายปี พื้นท่ีท�ำนาเกลือก็มีแนวโน้ม ลดลงทุกปีเช่นกัน เพราะการขยายตัวของชุมชนและโรงงานอุตสาหกรรม หน้ีสินของเกษตรกรก็คืออีกหน่ึงปัญหาที่น่าเป็นห่วง ผู้แทนสมาพันธ์ชาวนาเกลือทะเลไทยได้ขอความอนุเคราะห์การแก้ไขปัญหา โดยจดั หาตลาดและเงนิ ทนุ พฒั นาผลติ ภณั ฑเ์ กลอื ใหไ้ ดค้ ณุ ภาพ จดั หาเงนิ ทนุ ให้ชุมนุมสหกรณ์เกลือทะเลไทย จ�ำกัด รวมทั้งสนับสนุนการน�ำเกลือทะเลไป ใช้ประโยชน์ เช่น ท�ำฝนเทียม ท�ำอาหารสัตว์ และผลิตปุ๋ย ฯลฯ จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 129

เพื่อให้สถานการณ์ค่อย ๆ ดีข้ึน คณะกรรมการอ�ำนวยการขับเคลื่อน ยุทธศาสตร์เกลือทะเลไทย จึงก�ำหนดพ้ืนที่เป้าหมายบริเวณจังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดสมุทรสงคราม ซ่ึงมีพ้ืนที่ท�ำนาเกลือท้ังส้ิน 54,780 ไร่ เรียกได้ว่าเป็นแหล่งผลิตเกลือท่ีมากท่ีสุดในประเทศไทย ผลด�ำเนินงาน 1) สนับสนุนอุปกรณ์การตลาดและส่ิงก่อสร้าง เช่น โรงเกลือพร้อมอุปกรณ์ต่าง ๆ ช่วยลดต้นทุนและเพ่ิมศักยภาพ ธุรกิจ รวบรวมเกลือให้สหกรณ์ผู้ท�ำนาเกลือทะเลจ�ำนวน 3 แห่ง คือ - สหกรณ์กรุงเทพ จ�ำกัด จังหวัดสมุทรสาคร - สหกรณ์การเกษตรนาเกลือสมุทรสาคร จ�ำกัด จังหวัดสมุทรสาคร - สหกรณ์การเกษตรนาเกลือสมุทรสงคราม จ�ำกัด จังหวัดสมุทรสงคราม รวบรวมเกลือทะเลของสมาชิกรวมทั้งสิ้น 161 ราย ปริมาณ 9,040 ตนั 2) จดั หาเงนิ ทุนดอกเบยี้ ต�่ำให้สถาบนั เกษตรกร สร้างระบบการผลิตและการตลาดเกลือทะเลของสถาบันเกษตรกร ยกระดับราคาให้ยั่งยืน สนับสนุนวงเงินกู้กองทุนสงเคราะห์เกษตรกร ปลอดดอกเบ้ยี จำ� นวน 52.5 ล้านบาท ช�ำระคนื ภายใน 5 ปี (ปี 2559 – 2563) ให้กลุ่มเกษตรกรในสหกรณ์ตามรายช่ือในข้อ 1 และมีกลุ่มเกษตรกรนาเกลือ บ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ใช้เป็นทุนหมุนเวียน รวบรวมผลผลิตเกลือจาก สมาชกิ ไดแ้ ลว้ กวา่ 48,561 ตนั มลู คา่ 54.31 ลา้ นบาท ยกระดบั ราคาใหส้ งู ขนึ้ เฉลย่ี ตนั ละ 1,000 -1,290 บาท (เดิมราคาเฉลี่ยตนั ละ 500 - 800 บาท) 130 ศาสตร์พระราชา

3) สนบั สนุนกิจกรรมแปรรปู ผลติ ภณั ฑจ์ ากเกลือทะเล บูรณาการร่วมกับหอการค้าไทย ภาครัฐ ประชาชน และเอกชน ภายใต้ โครงการ 1 หอการค้า 1 สหกรณก์ ารเกษตร สร้างองค์ความรู้ พัฒนา ผลิตภัณฑ์ และเพิ่มช่องทางจ�ำหน่ายสินค้า โดยสหกรณ์กรุงเทพ จ�ำกัด จังหวัดสมุทรสาคร ได้สร้างมูลค่าเพ่ิมโดยแปรรูปเกลือทะเลเป็นผลิตภัณฑ์ เกลือสปา ภายใตช้ ่อื แบรนด์ “Samut Sakhon Sea Salt” และผลติ ภัณฑอ์ ่ืน ๆ เชน่ สบ่ดู อกเกลือ เกลอื ขดั ผวิ โลช่ัน ฯลฯ จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 131

4) ฝกึ อบรม เพม่ิ องคค์ วามรใู้ หส้ หกรณผ์ ทู้ ำ� นาเกลอื ทะเล ในปงี บประมาณ 2562 พฒั นาศกั ยภาพสหกรณผ์ ผู้ ลติ เกลอื ผา่ น 2 หลกั สตู ร คือ หลักสูตรการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ประมงและปศุสัตว์ เสริมสร้างความรู้ ด้านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าประมงและปศุสัตว์ การประชมุ เชงิ ปฏบิ ตั กิ ารคลสั เตอร์ สนิ คา้ เกลอื ระดบั ภาค สง่ เสรมิ การรวมกลมุ่ เครือข่ายผู้ผลิตสินค้าของสหกรณ์ เพ่ิมศักยภาพสหกรณ์ให้สามารถบริหาร จดั การสนิ คา้ อยา่ งครบวงจร ยกระดบั ความสามารถการดำ� เนนิ ธรุ กจิ ของสถาบันเกษตรกร และสนับสนนุ ใหเ้ กดิ นวตั กรรมใหม่ ยคุ 4.0 แผนด�ำเนินงานในอนาคตเพื่อให้เกิดความย่ังยืน แผนปฏิบัติการด้านเกลือทะเลไทย ระยะท่ี 1 (ปี 2562-2565) งบประมาณ 53,181,200 บาท ประกอบด้วย 3 โครงการ คือ 1. พฒั นาศกั ยภาพการดำ� เนนิ ธรุ กจิ ของสหกรณภ์ าคการเกษตรและกลมุ่ เกษตรกร โดยสนบั สนนุ อปุ กรณก์ ารตลาด และพัฒนาศักยภาพการด�ำเนินธุรกิจ 2. สร้างระบบการผลิตและการตลาดเกลือทะเลของสถาบันเกษตรกร ยกระดับ ราคาให้ยั่งยืน 3. พัฒนาศักยภาพการด�ำเนินธุรกิจของสหกรณ์ภาคการเกษตรและกลุ่ม เกษตรกร พัฒนาคลัสเตอร์ระดับภาค (สินค้าเกลือทะเล) 132 ศาสตร์พระราชา

ลดหมอกควนั ดบั ไฟปา่ ด้วยยุทธศาสตรแ์ ก้ปญั หา แบบบูรณาการ ปญั หาหมอกควนั สง่ ผลกระทบตอ่ ชวี ติ ความเปน็ อยู่ และสขุ ภาพ ของประชาชนโดยตรง โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิตา้ นทานต�่ำ เชน่ ผสู้ งู อายุ เด็กเล็ก และผปู้ ว่ ยโรคเกยี่ วกบั ระบบทางเดนิ หายใจ เปน็ อปุ สรรคในการคมนาคมขนสง่ และยังท�ำลายทรัพยากรธรรมชาติ ระบบนิเวศป่าไม้ รวมถึงการท่องเที่ยว ซงึ่ เป็นระบบเศรษฐกจิ ส�ำคัญของพ้ืนทก่ี ็ไดร้ บั ผลกระทบเช่นกนั จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 133

กระทรวงเกษตรและสหกรณข์ บั เคล่ือนการท�ำงาน เพอ่ื แกป้ ญั หาหมอกควนั ดงั นี้ ก�ำหนดแนวทางเร่งด่วน ก�ำหนดพ้ืนที่เป้าหมายท่ีมีปัญหาหมอกควันเกิดข้ึนต่อเน่ือง ชาวบ้าน ไมห่ ยดุ การเผา โดยเฉพาะพน้ื ทก่ี ารเกษตร เพอ่ื ลงพน้ื ทตี่ ดิ ตามและเฝา้ ระวงั จัดต้งั อาสาสมคั รเพอ่ื ชว่ ยในการแจง้ เตอื น เฝา้ ระวัง ประชาสมั พนั ธเ์ พอ่ื สรา้ งจติ สำ� นกึ โดยเฉพาะการลด และงดการเผาในทแ่ี จง้ บรู ณาการหนว่ ยงาน เพอ่ื แกป้ ัญหาหมอกควนั ในพนื้ ท่อี ย่างเปน็ รูปธรรม ขับเคลอื่ นยทุ ธศาสตร์ การเปล่ยี นแปลงภูมอิ ากาศด้านการเกษตร มอบหมายส�ำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ด�ำเนินการเพื่อลดปัญหา ในระยะเร่งด่วน ระยะสั้น ระยะปานกลาง และระยะยาว โดยให้หน่วยงาน ที่เก่ียวข้องพิจารณาน�ำร่างมาตรการดึงฟืนออกจากไฟ และปรับเปล่ียน วัสดเุ หลอื ทิ้งทางการเกษตรให้มีมูลค่าและราคาไปดำ� เนินการ บูรณาการการด�ำเนินงานกับกระทรวงต่าง ๆ ได้แก่ กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพลงั งาน กระทรวงทรพั ยากร ธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเทย่ี ว และกฬี า รวมท้งั เชิญหนว่ ยงานภาคเอกชนและสถาบนั การศกึ ษา พิจารณาแนวทางการใช้งบประมาณ นอกเหนือจากงบประมาณภาครัฐ หรืออาจใช้งบประมาณภาครัฐในลักษณะการสนับสนุนมากกว่าใช้เพ่ือ ลงทุน เชน่ สนบั สนนุ เงนิ ทุนดอกเบีย้ ตำ่� ฯลฯ มอบหมายกรมฝนหลวงและการบนิ เกษตรติดตามสภาพอากาศ ความชนื้ ทิศทาง ความเร็วลม ปัจจัยด้านสภาพอากาศท่ีเก่ียวข้อง และปฏิบัติการ ฝนหลวง จำ� นวน 2 ครง้ั 134 ศาสตร์พระราชา

จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 135

นอกจากน้ี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ก�ำหนดจุดเฝ้าระวังพิเศษในระดับ ตำ� บล เพอื่ ใหห้ นว่ ยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ปอ้ งกนั การเผาเศษวสั ดใุ นพนื้ ทกี่ ารเกษตร บรู ณาการอาสาสมคั รของหนว่ ยงาน เพอื่ กำ� กบั ดแู ล รณรงค์ ปลกู จติ สำ� นกึ และสรา้ งจติ อาสา เพอื่ การมสี ว่ นรว่ มของคนในชมุ ชน สง่ เสรมิ เกษตรกร ให้ใช้ประโยชน์จากเศษวัสดุ เช่น การไถกลบตอซัง ท�ำปุ๋ยหมักบ�ำรุงดิน แทนการเผา ฯลฯ เมื่อองค์ความรู้ และจติ สำ� นกึ เขา้ สู่จติ ใจ กจ็ ะน�ำไปสกู่ ารแก้ปัญหา ที่ยั่งยืน 136 ศาสตร์พระราชา

ปลุกตำ� นาน พันธขุ์ ้าวไทยระดับโลก “ปิ่นแก้ว” อนรุ ักษ์และขยายพนั ธุ์พืช สืบสานวฒั นธรรมพ้นื ถน่ิ ดง้ั เดมิ ย้อนไปเม่ือวันที่ 24 กรกฎาคม 2476 มีการประกวดข้าวโลกท่ีเมืองเรจินา ประเทศแคนาดา ซึ่งรางวัลชนะเลิศของสายพันธุ์ข้าวที่เข้าประกวดมาจาก ประเทศไทย...ขา้ วสายพันธ์ุ “ปิ่นแกว้ ” จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 137

วนั ที่ 10 มกราคม 2561 สมเด็จพระอรยิ วงศาคตญาณ สมเดจ็ พระสงั ฆราช สกลมหาสงั ฆปรณิ ายก รบั สงั่ ใหก้ ระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พลกิ ฟน้ื ตำ� นาน ขา้ วป่ินแก้วข้ึนมาอกี ครง้ั และให้ส่งเสรมิ การอนุรกั ษ์พันธุ์พชื พนื้ ถน่ิ ชนดิ อ่นื ๆ เพอื่ สบื สานวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ ใหค้ งอยู่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงน�ำประธานสหกรณ์บ้านคลองโยง จ�ำกัด พร้อมคณะ น�ำเมล็ดพันธุ์ข้าว ปิ่นแก้วจากกรมการข้าวมาปลูกขยายพันธุ์ เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ถวายต้นข้าวและพันธุ์ข้าวปิ่นแก้ว สมเด็จ พระสังฆราชได้ประทานกลับคืนให้เกษตรกรน�ำไปปลูกขยายพันธุ์และแจกจ่าย เพื่อรักษาพันธุ์ข้าวและพันธุ์พืชพื้นถ่ิน รวมทั้งฟื้นฟู สืบสาน และรักษา วัฒนธรรมด้ังเดมิ เชน่ การท�ำขวญั ขา้ วใหค้ งอยตู่ ่อไป 138 ศาสตร์พระราชา

ตอ่ มา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รว่ มกบั สหกรณบ์ า้ นคลองโยง ขยายพนั ธ์ุ ข้าวปิ่นแก้วได้จ�ำนวน 60 กิโลกรัม จึงร่วมวางแผนการขยายพันธุ์ โดยน�ำ เมล็ดพันธุ์แจกจ่ายให้ศูนย์วิจัยข้าว ภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคม เพอื่ ขยายพนั ธ์ุ โดยตดิ ตามและประเมนิ ผลเปน็ ระยะ พรอ้ มทงั้ ขยายผลไปสกู่ าร จดสทิ ธิบัตรเพ่ือให้พนั ธ์ขุ ้าวป่ินแกว้ เปน็ ของชุมชนบ้านคลองโยง จำ� กัด ผลดำ� เนินงานและการขยายผล หนว่ ยงานและภาคเี ครอื ขา่ ย อย่รู ะหว่างเตรียมแปลงสำ� หรบั เพาะปลูกตามแผน ท่กี ำ� หนด โดย สหกรณ์บ้านคลองโยง จำ� กดั รว่ มกบั เทศบาลตำ� บลคลองโยง และหน่วยงานที่เก่ียวข้อง สืบสานวัฒนธรรมประเพณีท้องถ่ิน จัดพิธีสืบสาน ทำ� ขวัญข้าวพนั ธุ์ปิน่ แกว้ เมอ่ื วันที่ 7 ธนั วาคม 2561 เพอ่ื แสดงความนอบนอ้ ม ต่อพระแมโ่ พสพ เทพธิดาประจำ� ตน้ ข้าว และสรา้ งขวัญกำ� ลังใจใหก้ บั ชาวนา การขยายผลตอ่ จากน้ีคือ ข้ึนทะเบียนข้าวพันธุป์ ่ินแกว้ จากการขยายพนั ธุข์ อง สหกรณฯ์ โดยมอบหมายใหก้ รมการขา้ วนำ� สายพนั ธไ์ุ ปตรวจสอบ โดยจะมกี าร ขยายพันธุ์ข้าวและพืชพ้ืนถิ่นอื่น ๆ ท่ัวประเทศ พร้อมทั้งส่งเสริมให้มีการเก็บ เมล็ดพันธุ์พืชพ้ืนถ่ิน พร้อมจดสิทธิบัตรพันธุ์ โดยไม่ลืมที่จะสืบสานประเพณี ทอ้ งถิน่ ดง้ั เดิม เช่น ประเพณที ำ� ขวัญข้าว แรกนาขวญั แพรข่ ยายสู่สังคมไทย ยคุ ใหม่ต่อไป จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 139

เกษตรกรรม ดิน น้�ำ ป่า “ยั่งยนื ” 140 ศาสตร์พระราชา

แกไ้ ขปญั หา พัฒนา ดูแล ตน้ ทางของวิถีชีวิตและเกษตรกรรม ขับเคลือ่ นการด�ำเนินงาน เพืิ่อ “ทรพั ยากรธรรมชาติ” ท่ีอุดมสมบรู ณ์อยา่ งย่งั ยืน จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 141

ระบบกสกิ รรม ตามศาสตรพ์ ระราชา ใน 5 ลมุ่ นำ้� นำ� รอ่ ง ทรัพยากรดินและน้�ำ คือ ต้นทางของความอุดมสมบูรณ์ กระทรวงเกษตร และสหกรณ์จึงน้อมน�ำแนวทางตามศาสตร์พระราชาของในหลวง รชั กาลที่ 9 มาบูรณาการปรับใชก้ ับพ้นื ทเ่ี ป้าหมาย ดว้ ยหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง เนน้ อนรุ กั ษท์ รพั ยากรดนิ และนำ�้ เพมิ่ พน้ื ทเี่ กบ็ กกั นำ�้ พฒั นาพน้ื ทด่ี ว้ ย รูปแบบ “โคก หนอง นา โมเดล” ให้สอดคล้องกับสภาพภูมิสังคม และแนวทาง เกษตรทฤษฎใี หม่ ซึง่ แบง่ สดั ส่วนของที่ดินไว้ใช้ประโยชน์อย่างลงตัว ทั้งพ้นื ที่ แหลง่ นำ�้ พนื้ ทป่ี ลกู ขา้ ว พน้ื ทปี่ ลกู พชื สวน พชื ไร่ และพน้ื ทอ่ี ยอู่ าศยั ทง้ั หมดนน้ั ก็เพอื่ ความเปน็ อยทู่ ี่ดขี องเกษตรกรเจ้าของพื้นท่ี ขอรปู 142 ศาสตร์พระราชา

นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ก�ำหนดแผนด�ำเนินการในลุ่มน�้ำ น�ำร่อง 5 แห่ง คือ ลุ่มน�้ำปิง ลุ่มน�้ำยม ลุ่มน้�ำน่าน ลุ่มน้�ำป่าสัก และลุ่มน�้ำ ปราจีนบุรี (ห้วยโสมง) เพื่อน�ำความรู้ไปสู่การปฏิบัติจริง สร้างรูปแบบการ แก้ปัญหาเกษตรกรรมท่ีสัมพันธ์กับการจัดการส่ิงแวดล้อม มีการอบรม สัมมนาเชิงปฏิบัติการ พร้อมลงพ้ืนท่ีและจัดกิจกรรม “เอาม้ือสามัคคี” หรือ “การลงแขก” ตามประเพณดี ง้ั เดมิ ของคนไทย เพอ่ื ใหเ้ กษตรกรทรี่ ว่ มโครงการ ไดค้ วามรู้ และนำ� ไปปฏิบัตใิ นพ้นื ทีต่ วั อย่างของแตล่ ะลุ่มน้�ำ ผลดำ� เนนิ งาน จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 143

แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาระบบกสิกรรมด้วยศาสตร์พระราชา และคณะ ท�ำงานโครงการพัฒนาระบบกสิกรรมด้วยศาสตร์พระราชา ลุ่มน�้ำน�ำร่อง 5 ล่มุ น�้ำ โดยมหี น่วยงานรบั ผิดชอบ ไดแ้ ก่ กรมส่งเสรมิ สหกรณ์ รบั ผิดชอบ ลุ่มน้�ำปิง ส�ำนักงานการปฏิรูปท่ีดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) รับผิดชอบ ลมุ่ นำ้� ยม กรมพฒั นาทด่ี นิ รบั ผดิ ชอบลมุ่ นำ�้ นา่ น กรมชลประทาน รบั ผดิ ชอบ ลมุ่ นำ�้ ปา่ สกั และลมุ่ นำ�้ ปราจนี บรุ ี (หว้ ยโสมง) เพอ่ื บรู ณาการการดำ� เนนิ งานใหเ้ ปน็ ไป ในรูปแบบและทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ การขับเคลื่อนในแต่ละลุ่มน้�ำจะก�ำหนด พ้ืนท่ีเป้าหมายและจัดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้แก่เกษตรกร พรอ้ มจดั ทำ� กจิ กรรม “เอามอ้ื สามคั ค”ี ในรปู แบบ “โคก หนอง นา โมเดล” การดำ� เนนิ งานในพ้นื ท่ีน�ำร่อง 5 ลุม่ นำ้� 1. ลุ่มน�้ำปงิ โดย กรมส่งเสริมสหกรณ์ ด�ำเนนิ การ 2 แหง่ จุดท่ี 1 บ้านสองธาร (แมข่ ้ีมูก) ต�ำบลบ้านทบั อ�ำเภอแม่แจ่ม จงั หวดั เชียงใหม่ 30เกษตรกรเขา้ ร่วม ครัวเรือน 36 รายอบรมความรู้ ออกแบบแปลง โคก หนอง นา โมเดล 18 แปลง จัดกิจกรรม “เอาม้อื สามคั คี” 2 ครัง้ 144 ศาสตร์พระราชา

จดุ ท่ี 2 ตำ� บลโปง่ แดง อำ� เภอเมอื งตาก จงั หวดั ตาก 86เกษตรกรเขา้ ร่วม ครวั เรือน 82 รายอบรมความรู้ ออกแบบแปลง โคก หนอง นา โมเดล 4 แปลง จัดกิจกรรม “เอามื้อสามคั คี” 2 ครง้ั 2. ลมุ่ นำ้� ยม โดย ส�ำนกั งานการปฏิรปู ทด่ี ินเพ่ือเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) 9 จงั หวดัอบรมเกษตรกรและเจา้ หน้าที่ พะเยา ตาก พิจิตร ก�ำแพงเพชร แพร่ นา่ น พิษณโุ ลก สุโขทัย ลำ� ปาง จำ� นวน 3 รนุ่ รวม 190 ราย แปลงของเกษตรกรต้นแบบ 12 แปลง จากภูผา ผ่านทุ่งนา สู่มหานที 145

3. ลมุ่ น้�ำนา่ น โดย กรมพัฒนาทดี่ นิ ประกอบด้วย จัดกิจกรรม “เอามอื้ สามัคค”ี พลงั หญา้ แฝก เพือ่ การอนรุ ักษ์ดนิ และน้�ำ จอบเปลี่ยนน่าน 4 แห่ง 220 รายเกษตกรเข้ารว่ ม ณ บา้ นผาสกุ หมทู่ ี่ 3 ตำ� บลภฟู า้ อำ� เภอบอ่ เกลอื อำ� เภอ บา้ นหลวง บา้ นสบปนื ตำ� บลหว้ ยโกน๋ อำ� เภอเฉลมิ พระเกยี รติ และอำ� เภอบา้ นหลวง จังหวดั นา่ น 280 รายผเู้ ข้าอบรม (รนุ่ ท่ี 1-4) ณ บา้ นควั ะ หมทู่ ี่ 7 ตำ� บลศรภี มู ิ อำ� เภอทา่ วงั ผา จงั หวดั นา่ น 13 อ�ำเภอขยายผลในพ้ืนทีต่ น้ นำ�้ 34 ราย และพนื้ ท่ีปลายนำ�้ จงั หวัดอุตรดติ ถ์ 2 อ�ำเภอ 3 ราย 4. ลุ่มน�ำ้ ป่าสกั โดย กรมชลประทาน โครงการส่งนำ�้ และบำ� รงุ รกั ษาปา่ สกั ชลสิทธิ์ จังหวัดลพบรุ ี อบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตรออกแบบการพัฒนาระบบกสกิ รรม ตามแนวทางศาสตร์พระราชา 300 คนเกษตรกรเข้ารับการอบรม ขยายผล “โคก หนอง นา โมเดล” ในพน้ื ที่ของเกษตรกร 2 ราย 146 ศาสตร์พระราชา