ทม่ี าขอ มลู : ฝา ยเอกสารคาํ แนะนํา กองเกษตรสมั พนั ธ กรมสงเสริมการเกษตร PL - 078 เทคนิคการผสมเกสรทุเรียน เรยี บเรียง/จัดทาํ โดย : พัฒนา นรมาศ กองเกษตรสมั พนั ธ จัดทาํ เอกสารเผยแพรโดย : สาํ นกั สง เสรมิ และฝก อบรม มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร ถาเกสรทเุ รยี นผสมกนั เองตามธรรมชาติ ถามวา จะเกดิ อะไรขน้ึ ? 1. ทุเรียนจะติดผลนอย โดยเฉพาะทุเรียนพันธุชะนีจะติดผลไมเกิน 3 เปอรเ ซน็ ต และพันธุ กานยาวจะติดผลไมเกิน 7 เปอรเ ซน็ ต 2. ทเุ รยี นมกั จะตดิ ผลปลายกง่ิ หรอื กง่ิ เลก็ ทําใหการดูแลรักษา การเก็บเกี่ยวลําบากตอ งมกี าร โยกกิ่ง มักทาํ ใหกิ่งฉีกหักไดงาย โดยเฉพาะเมื่อมีลมพายุ หรือฝนตกหนัก จากสาเหตุ 2 ประการน้ี หากปลอยทิ้งไวจะทาํ ใหก ารปลกู ทเุ รยี นไดผ ลตอบแทนไมค มุ คา กบั การ ลงทนุ การแกไ ข การนาํ เทคนคิ การผสมเกสรทเุ รียยมาชวยเพิ่มประสทิ ธิภาพการตดิ ผลของทเุ รียนจงึ เปน วิธกี าร หน่ึงท่ีจะชวยใหก ารตดิ ผลของทเุ รยี นเกดิ ขน้ึ ไดช า เรว็ หรอื มขี นาดของผลเทา ๆ กัน และมคี ุณภาพดไี ด ดวยนั้น เพยี งใชข น้ั ตอนการปฏบิ ตั งิ า ยๆ ดงั น้ี
การเตรยี มอปุ กรณ อุปกรณท ่ใี ชในการผสมเกสรทุเรียน มดี งั น้ี 1. พูกัน 2. ยันได 3. ถงุ ผา ขาวบาง 4. กรรไกรตดั แตง กง่ิ 5. กรรไกรเลก็ 6. ขวดหรอื กระบอกพลาสตกิ 7. ไฟฉายหรอื แสงสวา งชนดิ อน่ื 8. ปายสาํ หรับบันทึกชื่อพันธุ วัน เดอื น ป ข้ันตอนการผสมเกสรทเุ รยี น 1. เวลา 09.00-12.00 น. ใชกรรไกรเลก็ ตดั แตง ดอกพนั ธแุ มใ หเ หลอื เฉพาะดอกขาว และตัด เกสรตัวผูออกทิ้ง หลงั จากนน้ั ใชถ งุ ผา ขาวบางคลมุ ดอกขาวพนั ธแุ มไ ว 2. เวลา 19.00-19.30 น. ทําการเกบ็ ละอองเกสรตวั ผขู องพนั ธพุ อ โดยใชกรรไกรเลก็ ตัด เฉพาะอับละอองเกสรตวั ผทู แ่ี ตกใสไ วใ นขวดหรอื กระบอกพลาสตกิ สําหรับละอองเกสรน้ีสามารถมองเหน็ ไดด ว ยตาเปลา ซง่ึ จะมลี กั ษณะเปน ละอองสขี าวเกาะตดิ อยู กับอบั ละอองเกสร 3. เวลา 19.30 น. เปนตน ไป เริ่มทาํ การผสมเกสร โดยใชป ลายพกู นั แตะละอองเกสรตวั ผแู ลว นําไปแตะที่ยอดเกสรตัวเมยี พนั ธแุ ม ซง่ึ ดอกเกสรพนั ธแุ มน จ้ี ะมลี กั ษณะดอกกลม สเี หลอื ง แลว คลมุ ดว ย ผาขาวบางไวต ามเดมิ ผูกปายบันทึก เขยี นชอ่ื พนั ธุ วัน เดอื น และ ปที่ทําการผสมเกสร กิ่งทุเรียน ใน แตละตน มกั จะมรี ะดบั ความสงู ตา่ํ ตา งกนั จึงแนะนําใหป ฏบิ ตั ดิ ว ยวธิ กี ารดงั น้ี วิธีผสมเกสรกง่ิ ทอ่ี ยใู นระดบั ตา่ํ 1. ตัดดอกทุเรียนที่กาํ ลงั บานและพรอ มทจ่ี ะผสมเกสรของพนั ธพุ อ ในเวลา 19.00-19.30 น. ไปทําการผสมเกสรโดยใหส ว นของอบั เกสรตวั ผทู ม่ี ลี ะอองเกสรตวั ผสู ขี าวไปแตะกบั ยอดเเกสรตวั เมยี พนั ธแุ ม 2. ตดั เฉพาะชดุ ของเกสรตวั ผพู นั ธพุ อ โดยใชมอื จบั กา นเกสรตัวผู ซง่ึ ทป่ี ลายกา นจะมี อับละอองเกสรตวั ผเู กาะอยู แลวนาํ ไปแตะกับยอดเกสรตัวเมียพันธุแม 3. ตดั เฉพาะอบั ละอองเกสรตวั ผู ทม่ี ลี ะอองเกสรสขี าวเกาะอยภู ายในดอกพนั ธพุ อ ใสข วด แลว ใชปลายพกู นั แตะละอองเกสรตวั ผนู ําไปแตะที่ยอดเกสรตัวเมียพันธุแม วิธีผสมเกสรกง่ิ ทอ่ี ยใู นระดบั สงู 1. เกบ็ ละอองเกสรตวั ผพู นั ธพุ อ ใสข วดผกู เชอื กแลว คลอ งคอ ซึ่งเกษตรกจะตองทาํ การปน ข้ึนตนทุเรียนแลวใชป ลายพกู นั แตะละอองเกสรตวั ผใู นขวดนําไปแตะที่ยอดเกสรตัวเมียพันธุแม
2. ทาํ การเกบ็ ละอองเกสรตวั ผพู นั ธพุ อ ใสใ นกระปอ งพลาสตกิ แลว ใชแ ปรงขนออ นตอ ดา ม ไมยาว ใชป ลายแปลงแตะละอองเกสรตวั ผใู นกระปอ งนําไปแตะที่ยอดเกสรตัวเมียพันธุแม วธิ นี ไ้ี มต อ ง ปนขึ้นไปผสมเกสรบนตน ทุเรียน ในกรณตี น พนั ธพุ อ อยใู กลก บั ตน พนั ธแุ ม ไมว า จะเปน กง่ิ ตา่ํ หรอื กง่ิ สงู สามารถใชแ ปรงขน ออนแตะละอองเกสรตวั ผพู นั ธพุ อ แลว นําไปแตะทย่ี อดเกสรตวั เมยี พนั ธแุ มไ ดเ ลย คูพ นั ธทุ เ่ี หมาะสมในการผสมเกสร การเลอื กคพู นั ธทุ เุ รยี นทเ่ี หมาะสมสําหรบั การผสมเกสรเพอ่ื ใหท เุ รยี นตดิ ไดผ ลดี สามารถเลอื ก จากคพู นั ธทุ เ่ี หมาะสมไดด งั น้ี - เกสรตวั ผพู นั ธหุ มอนทองและกา นยาว ผสมกับ พนั ธแุ มช ะนี - เกสรตวั ผพู นั ธห มอนทองและชะนี ผสมกับ พันธุแ มก านยาว - เกสรตวั ผพู นั ธหุ มอนทองและชะนี ผสมกับ พนั ธแุ มอ หี นกั - เกสรตวั ผพู นั ธหุ มอนทองตา งตน และชมพศู รี ผสมกับ พนั ธแุ มห มอนทอง - เกสรตัวผูพันธุชะนีและชมพูศรี ผสมกับ พนั ธุแ มกระดุม ผลทเุ รยี นทเ่ี กดิ จากการผสมเกสร ผลทเุ รยี นทไ่ี ดจ ากการใชเ ทคนคิ ผสมเกสรนน้ั จะสงั เกตได 2 ลกั ษณะดงั น้ี ลกั ษณะภายนอก - การเจรญิ เตบิ โตของผลทเุ รยี นจะเรว็ กวา การผสมเกสรกนั เองตามธรรมขาติ - รปู ทรงของผลสวยงามไมบ ดิ เบย้ี ว พูเต็มเกือบทุกพู ลกั ษณะภายใน - ลกั ษณะเน้อื ทเุ รียน สเี นอ้ื ทเุ รยี น รสชาตไิ มแ ตกตา งจากทเุ รยี นทผ่ี สมเกสรกนั เองตาม ธรรมชาติ
- ในแมพ นั ธชุ ุนี จะไดพูเต็ม และจาํ นวนพตู อ ผลมากขน้ึ - ในแมพ นั ธกุ ระดมุ ทอง จะไดเ มลด็ ลบี ตง้ั แต 29-55 เปอรเ ซน็ ต - ในแมพ นั ธหุ มอนทอง จะไดค วามหนาของเนอ้ื มากตง้ั แต 1.9-2.78 เซน็ ตเิ มตร และมี เมลด็ ลบี ตง้ั แต 40-59 เปอรเ ซน็ ต ประโยชนท ไ่ี ดร บั 1. สามารถกาํ หนดตําแหนง การตดิ ผล ตามกง่ิ ทม่ี ขี นาดใหญ หรอื กง่ิ ทอ่ี ยใู นระดบั ตา่ํ ได 2. จะชวยใหทุเรียนติดผลดีขึ้น 3. ชวยในการปฏิบัติและดูแลรักษาสวนทาํ ไดส ะดวก 4. สามารถกาํ หนดวนั เกบ็ เกย่ี วได และเกบ็ เก่ียวไดง าย 5. จะทาํ ใหผลทุเรียนแกใกลเคียงกัน หรอื พรอ มกนั 6. รปู ทรงผลสวยงาม พูเต็มเกือบทุกพู น้าํ หนกั และขนาดผลดี 7. ลกั ษณะคณุ ภาพของเนอ้ื ทเุ รยี น และรสชาตไิ มเ ปลย่ี นแปลง 8. ไดร บั ผลผลติ ทเุ รยี นมากขน้ึ 9. ผลผลติ ทเุ รยี นจะเปน ทต่ี อ งการของตลาด เอกสารอา งองิ ทรงพล สมศรี. 2532. \"การผสมเกสรทเุ รียนใหติดผลดกและคณุ ภาพดี\" เอกสารประกอบ การสัมมนาอนาคตผลไมไ ทยป 32 จังหวัดจันทบุร.ี ทรงพล สมศรี. 2532. \"การศึกษาการผสมเกสรทุเรียนพันธุชะนีและกานยาวโดยใชเกสรตัวผู พันธตุ า งๆ\" วิทยาสารสถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร กรุงเทพฯ. วันทนา บัวทรัพย มนตรี วงศรักษพานิช. 2533. \"การปลูกทุเรียน\" กรมสง เสรมิ การเกษตร. จดั ทาํ เอกสารอิเล็กทรอนิกสโดย : สาํ นกั สง เสรมิ และฝก อบรม มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: