Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พุทธวจน "ตามรอยธรรม"

Description: พุทธวจน "ตามรอยธรรม"

Search

Read the Text Version

เปิดธรรมทีถ่ กู ปดิ : ตามรอยธรรม เธอยอ่ มทำ�การฝกึ หัดศกึ ษาวา่ “เราเปน็ ผู้เหน็ ซง่ึ ความสลัดคืนอยู่เป็นประจำ� หายใจเข้า” ว่า “เราเป็น ผู้เห็นซงึ่ ความสลดั คนื อยเู่ ปน็ ประจำ� หายใจออก”. ภิกษทุ ้งั หลาย !   เมอื่ บคุ คลเจรญิ ทำ�ใหม้ ากซึ่ง อานาปานสติสมาธิอยอู่ ย่างน้ีแล ความหวัน่ ไหวโยกโคลง ของกาย หรอื ความหว่ันไหวโยกโคลงของจิตกต็ าม ย่อม มีขึน้ ไม่ได้. .....ฯลฯ..... ภกิ ษทุ ัง้ หลาย !   แมเ้ ราเองกเ็ หมอื นกนั ในกาลกอ่ นแต่การตรสั รู้ ยงั ไม่ไดต้ รัสรู้ ยังเป็นโพธิสัตว์อยู่ ย่อมอย่ดู ้วยวิหารธรรม คือ อานาปานสติสมาธิ น้ีเป็นส่วนมาก. เมื่อเราอยู่ด้วยวิหารธรรมน้ีเปน็ สว่ นมาก กายก็ไม่ลำ�บาก ตากไ็ ม่ล�ำ บาก และจิตของเราก็หลุดพน้ จากอาสวะ เพราะไม่มอี ุปาทาน. 83

พทุ ธวจน - หมวดธรรม ภกิ ษทุ ั้งหลาย !   เพราะฉะน้นั ในเร่อื งน้ี ถา้ ภกิ ษุ หวงั วา่ กายของเรากอ็ ยา่ ล�ำบาก ตาของเรากอ็ ยา่ ล�ำบากและ จติ ของเรากจ็ งหลุดพน้ จากอาสวะ เพราะไมม่ ีอปุ าทาน เถดิ ดงั นแี้ ลว้ ภกิ ษนุ น้ั จงท�ำในใจ ซงึ่ อานาปานสตสิ มาธิ น้ี ใหเ้ ปน็ อยา่ งด.ี 84

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมทีถ่ ูกปดิ : ตามรอยธรรม วิหารธรรมทท่ี รงอยู่มากตลอดพรรษา 33และทรงสรรเสรญิ มาก -บาลี มหาวาร. สํ. ๑๙/๔๑๒-๔๑๓, /๑๓๖๔-๑๓๖๗. ภิกษุทั้งหลาย !   ถ้าพวกปริพพาชกเดียรถีย์อื่น จะพงึ ถามเธอทง้ั หลายอยา่ งนวี้ า่ “ทา่ นผมู้ อี าย ุ!  พระสมณโคดม ทรงอยจู่ �ำพรรษาสว่ นมาก ดว้ ยวหิ ารธรรมไหนเลา่  ?”  ดงั น.ี้ ภิกษุทั้งหลาย !   เมอ่ื พวกเธอถกู ถามอยา่ งนแ้ี ลว้ พงึ ตอบแกพ่ วกปรพิ พาชกเดยี รถีย์อ่ืนเหล่านน้ั อยา่ งนี้ว่า “ทา่ นผมู้ อี าย ุ!  พระผมู้ พี ระภาคทรงอยจู่ �ำ พรรษาสว่ นมาก ดว้ ยวหิ ารธรรม คอื อานาปานสตสิ มาธิ แล” ดงั น.้ี ภกิ ษทุ ั้งหลาย !   ในกรณีนี้ เรานัน้ เปน็ ผูม้ สี ต ิ หายใจเขา้ เรานัน้ เป็นผมู้ ีสต ิ หายใจออก เมื่อหายใจเขา้ ยาว  ก็ร้ชู ดั วา่ “เราหายใจเข้ายาว” เมอ่ื หายใจออกยาว  กร็ ู้ชัดวา่ “เราหายใจออกยาว” ..... (แตน่ ไ้ี ปทรงแสดง อานาปานสตสิ มาธไิ ปจนจบ ดงั มใี จความ ปรากฏใน “วหิ ารธรรมทที่ รงอยมู่ ากทสี่ ดุ กอ่ นตรสั ร”ู้ หนา้ ที่ ๗๙). 85

พทุ ธวจน - หมวดธรรม ภิกษุท้ังหลาย !   เม่ือใครจะกล่าววิหารธรรมใด โดยชอบ วา่ เปน็ อรยิ วหิ ารกด็ ี พรหมวหิ ารกด็ ี ตถาคตวหิ าร กด็ ี เขาพงึ กลา่ วโดยชอบ ซงึ่ อานาปานสตสิ มาธนิ นั้ วา่ เปน็ อรยิ วหิ าร พรหมวหิ าร ตถาคตวหิ าร. ภิกษุทั้งหลาย !   ภกิ ษทุ งั้ หลายเหลา่ ใด ยงั เปน็ เสขะ มีวตั ถุประสงค์แหง่ ใจ อนั ยงั ไม่บรรลุแลว้ ปรารถนาอย่ซู ึง่ โยคกั เขมธรรมอนั ไมม่ ธี รรมอน่ื ยงิ่ กวา่ อยู่ อานาปานสตสิ มาธิ อันภิกษุเหลา่ น้นั เจรญิ ท�ำใหม้ ากแลว้ ยอ่ มเปน็ ไปเพ่ือ ความสน้ิ ไปแห่งอาสวะทงั้ หลาย. ภิกษทุ งั้ หลาย !   สว่ นภกิ ษทุ ง้ั หลายเหลา่ ใดเป็น อรหันตข์ ณี าสพ มพี รหมจรรยอ์ นั อยจู่ บแลว้ มกี จิ ควรท�ำ อนั กระท�ำ แลว้ มภี าระหนกั อนั ปลงลงแลว้ มปี ระโยชนต์ น อนั ตามบรรลแุ ลว้ มสี ญั โญชนใ์ นภพ อนั สน้ิ แลว้ หลดุ พน้ แลว้ เพราะรู้ดว้ ยปัญญาโดยชอบ อานาปานสตสิ มาธิ อนั ภกิ ษเุ หลา่ นน้ั เจรญิ ท�ำ ใหม้ ากแลว้ กย็ งั เปน็ ไปเพอ่ื การอยเู่ ปน็ สขุ ในปจั จบุ นั ดว้ ย เพอ่ื สตสิ มั ปชญั ญะดว้ ย. 86

พุทธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมท่ีถูกปดิ : ตามรอยธรรม ผู้ไมป่ ระมาทในความตายแทจ้ ริง 34 -บาลี อฏฺ ก. อํ. ๒๓/๓๒๗/๑๗๐. ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !   มรณสติ (การระลึกถงึ ความตาย) อนั บคุ คลเจรญิ ท�ำ ใหม้ ากแลว้ ยอ่ มมผี ลใหญ่ มอี านสิ งสใ์ หญ่ หยั่งลงสู่นิพพาน มีนิพพานเป็นที่สุด. พวกเธอเจริญ มรณสติอยู่บ้างหรือ ? ภกิ ษทุ ง้ั หลายกราบทลู ตอบ และพระผมู้ พี ระภาคไดต้ รสั ตอ่ ไปวา่ ภิกษุท้ังหลาย !   ภิกษุพวกท่ีเจริญมรณสติ อยา่ งนี้วา่ “โอหนอ เราอาจจะมีชีวิตอยไู่ ด้เพียงวันหนึง่ คืนหน่ึง... ดังน้ีก็ดี เราอาจมีชีวิตอยู่ได้เพียงชั่วเวลา กลางวัน... ดังน้ีก็ดี เราอาจมีชีวิตอยู่ได้เพียงชั่วขณะที่ ฉันบณิ ฑบาตเสรจ็ มอ้ื หนงึ่ ... ดงั นก้ี ด็ ี เราอาจมชี วี ติ อยไู่ ดเ้ พยี ง ชว่ั ขณะทฉี่ นั อาหารเสรจ็ เพยี ง ๔-๕ ค�ำ เราพงึ ใสใ่ จถงึ ค�ำสอน ของพระผู้มพี ระภาคเจ้าเถดิ การปฏบิ ตั ติ ามค�ำสั่งสอน ควรท�ำใหม้ ากแลว้ หนอ” ดงั นีก้ ็ดี ภกิ ษเุ หล่าน ี้   เราเรยี กว่า ยังเป็นผ้ปู ระมาทอยู่ ยังเจริญมรณสติเพื่อความส้ินอาสวะช้าไป. 87

พทุ ธวจน - หมวดธรรม ภิกษุท้ังหลาย !   ฝ่ายภิกษุพวกท่ีเจริญมรณสติ อยา่ งนี้วา่ “โอหนอ เราอาจจะมีชีวติ อย่ไู ดเ้ พยี งช่วั ขณะท่ี ฉนั อาหารเสรจ็ เพยี งค�ำเดยี ว” ดงั นก้ี ด็ ี วา่ “โอหนอ เราอาจ มีชีวิตอยู่ได้เพียงช่ัวขณะที่หายใจเข้า แล้วหายใจออก หรือชวั่ ขณะหายใจออกแลว้ หายใจเข้า. เราพงึ ใส่ใจถงึ ค�ำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าเถิด การปฏิบัติตาม ค�ำสอนควรท�ำให้มากแล้วหนอ” ดงั นกี้ ด็ ี ภกิ ษุเหลา่ น้ี เราเรยี กว่า เป็นผูไ้ ม่ประมาทแลว้ เปน็ ผูเ้ จริญมรณสตเิ พื่อความสิ้นอาสวะอยา่ งแทจ้ ริง. ภกิ ษทุ ั้งหลาย !   เพราะฉะนนั้ ในเรอ่ื งน้ี พวกเธอ ทง้ั หลายพงึ ส�ำเหนยี กใจไวว้ ่า “เราทั้งหลาย จักเป็นผู้ไม่ประมาทเป็นอยู่ จักเจริญมรณสติ เพื่อความสิ้นอาสวะอย่างแท้จริง” ดังนี้. ภกิ ษุทั้งหลาย !   เธอทั้งหลาย พึงส�ำเหนียกใจไว้ อย่างน้ีแล. 88

พุทธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมท่ถี กู ปดิ : ตามรอยธรรม ทางรอดส�ำหรบั ภิกษุไข้ 35 -บาลี ปญฺจก. อ.ํ ๒๒/๑๖๐/๑๒๑. ภิกษุทั้งหลาย !   ภิกษุไข้ผู้มีก�ำลังน้อยรูปใด ไม่ละจากธรรม ๕ อย่าง เธอพึงหวังผลอนั น้ไี ด้ คอื เธอจัก ท�ำให้แจ้งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะความสนิ้ ไปแหง่ อาสวะทงั้ หลาย ดว้ ยปญั ญาอนั ยง่ิ เอง ในปัจจุบนั เข้าถงึ แล้วแลอยู่ ต่อกาลไม่นานเลย. ธรรม ๕ อยา่ งอะไรบ้างเล่า ? ๕ อยา่ งคอื (๑) เปน็ ผพู้ จิ ารณา เหน็ ความไมง่ ามในกายอยเู่ ปน็ ประจ�ำ (๒) เปน็ ผทู้ ม่ี กี ารก�ำ หนดหมาย ความเปน็ ปฏกิ ลู ในอาหารอยู่เปน็ ประจำ� (๓) เปน็ ผทู้ ม่ี ีการก�ำหนดหมาย ความไมน่ า่ ยินดี ในโลกท้ังปวงอยู่เป็นประจ�ำ (๔) เปน็ ผทู้ ม่ี กี ารก�ำ หนดหมาย ความไมเ่ ทย่ี งใน สงั ขารทง้ั ปวงอยู่เป็นประจำ� (๕) มสี ตอิ นั ตนเขา้ ไปตง้ั ไวด้ แี ลว้ ในกาย แลว้ เหน็ การเกดิ ดับ ในภายใน. 89

พทุ ธวจน - หมวดธรรม ภกิ ษุทง้ั หลาย !   ภกิ ษไุ ขผ้ มู้ กี �ำลงั นอ้ ยรปู ใด ไมล่ ะ จากธรรม ๕ อย่างเหล่าน้ี เธอพึงหวังผลอันน้ีได้ คือ เธอจักท�ำใหแ้ จง้ เจโตวมิ ุตติ ปญั ญาวมิ ตุ ติ อันหาอาสวะ มิได้ เพราะความสิ้นไปแห่งอาสวะท้ังหลาย ด้วยปัญญา อนั ยง่ิ เองในปจั จบุ นั เขา้ ถงึ แลว้ แลอยู่ ตอ่ กาลไมน่ านเลย. 90

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมทถ่ี กู ปิด : ตามรอยธรรม เม่ือ “เธอ” ไม่มี ! 36 -บาลี อุ. ข.ุ ๒๕/๘๓/๔๙. พาหิยะ !   เม่อื ใดเธอเหน็ รูปแลว้   สกั ว่าเห็น ไดฟ้ ังเสยี งแล้ว  ก็สักว่าฟัง ไดด้ มกลนิ่ แล้ว  ก็สกั ว่าดม ได้ลมิ้ รสแลว้   ก็สักวา่ ลมิ้ ได้สัมผัสทางผิวกายแลว้   กส็ ักว่าสมั ผัส ไดร้ ู้แจง้ ธรรมารมณ ์ ก็สกั ว่าได้รแู้ จ้งแล้ว เมือ่ นนั้ “เธอ” จกั ไมม่ .ี เม่ือใด “เธอ” ไม่มี เมื่อน้ันเธอก็ไมป่ รากฏในโลกน้ี ไม่ปรากฏในโลกอนื่ ไม่ปรากฏในระหว่างแห่งโลกทง้ั สอง นน่ั แหละคอื ทส่ี ุดแห่งทกุ ข.์ 91

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมทีถ่ กู ปดิ : ตามรอยธรรม ความดับทกุ ขม์ ี 37 เพราะความดับแห่งนันทิ -บาลี อปุ ร.ิ ม. ๑๔/๔๘๑/๗๕๖. ปณุ ณะ !   รปู ทเ่ี หน็ ดว้ ยตากด็ ี เสยี งทฟ่ี งั ดว้ ยหกู ด็ ี กล่ินที่ดมด้วยจมูกก็ดี รสท่ีล้ิมด้วยล้ินก็ดี โผฏฐัพพะที่ สัมผสั ดว้ ยกายก็ดี ธรรมารมณ์ทร่ี ูแ้ จ้งดว้ ยใจก็ดี อนั เปน็ สงิ่ ทนี่ า่ ปรารถนา นา่ รกั ใคร่ นา่ พอใจ เปน็ ทย่ี วนตายวนใจ ให้รกั เป็นทเี่ ข้าไปตงั้ อาศยั อยแู่ หง่ ความใคร่ เปน็ ทีต่ ้ัง แห่งความก�ำหนัดย้อมใจ มีอยู่ ภกิ ษุยอ่ มไมเ่ พลดิ เพลิน ไม่พร�ำ่ สรรเสริญ ไมเ่ มาหมก ซึง่ อารมณม์ ีรูปเป็นต้นนั้น. เมอ่ื ภิกษไุ ม่เพลดิ เพลิน ไมพ่ ร�่ำสรรเสริญ ไม่เมาหมก ซ่ึงอารมณ์ มีรูปเป็นต้นนั้นอยู่ นันทิ (ความเพลิน) ยอ่ มดับไป. ปุณณะ !   เรากล่าวว่า  “ความดับไม่มีเหลือ ของทกุ ขม์ ไี ด้ เพราะความดบั ไมเ่ หลอื ของความเพลนิ ” ดงั นแี้ ล. 92

พุทธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมที่ถกู ปิด : ตามรอยธรรม อาการดบั แหง่ ตณั หาในนามแหง่ นนั ทิ 38 -บาลี ม.ู ม. ๑๒/๔๙๒/๔๕๘. ภิกษุทั้งหลาย !   ภิกษุน้ันเห็นรูปด้วยตาแล้ว ยอ่ มไมก่ �ำ หนดั ยนิ ดใี นรปู อนั มลี กั ษณะเปน็ ทต่ี ง้ั แหง่ ความรกั ย่อมไม่ขัดเคืองในรูป อันมีลักษณะเป็นที่ตั้งแห่งความ เกลียดชงั เป็นผู้อย่ดู ้วยสตเิ ป็นไปในกาย อันตนเข้าไป ตง้ั ไวแ้ ลว้ มจี ติ หาประมาณมไิ ดด้ ว้ ย ยอ่ มรชู้ ดั ตามเปน็ จรงิ ซง่ึ เจโตวมิ ตุ ติ ปญั ญาวมิ ตุ ติ อนั เปน็ ธรรมทด่ี บั โดยไมเ่ หลอื แหง่ ธรรมอนั เปน็ บาปอกศุ ลทั้งหลายดว้ ย. ภกิ ษนุ ั้นเป็น ผู้ละเสียได้แล้ว ซึ่งความยินดีและความยินร้ายอย่างนี้ แลว้ เสวยเวทนาใดๆ อนั เป็นสุขก็ตาม เปน็ ทกุ ข์กต็ าม ไม่เป็นทกุ ขไ์ ม่เปน็ สุขกต็ าม ย่อมไม่เพลิดเพลิน ไมพ่ รำ่� สรรเสริญ ไม่เมาหมกอยู่ในเวทนานั้นๆ. เมื่อภิกษุนั้น ไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำ�สรรเสริญ ไมเ่ มาหมกอยใู่ นเวทนานน้ั ๆ นนั ทิ (ความเพลนิ ) ในเวทนา ทง้ั หลายเหล่านน้ั ย่อมดบั ไป. เพราะความดับแห่งนนั ทิ ของภิกษนุ ั้น จงึ มคี วามดับแห่งอปุ าทาน เพราะมคี วาม ดบั แห่งอปุ าทาน จงึ มีความดับแห่งภพ เพราะมีความ 93

พทุ ธวจน - หมวดธรรม ดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ เพราะมีความดับ แห่งชาติ ชรามรณะโสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส ทั้งหลาย จึงดับสิ้น ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ยอ่ มมดี ว้ ยอาการอยา่ งน้ี. (ในกรณีแห่งการได้ยินเสียงด้วยหู ดมกล่ินด้วยจมูก ล้มิ รสด้วยล้นิ ถูกต้องสัมผัสทางผิวหนังด้วยผิวกาย และร้แู จ้ง ธรรมารมณด์ ว้ ยใจ กไ็ ดต้ รสั ไวท้ �ำ นองเดยี วกนั ). ภกิ ษทุ ้งั หลาย !   เธอจงทรงธรรมะนไ้ี ว้ ในฐานะ ที่เป็นธรรมที่ทำ�ความหลุดพ้น เพราะความสิ้นไปแห่ง ตัณหา ซึ่งเรากล่าวไว้โดยสังเขป. 94

พุทธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมท่ีถกู ปดิ : ตามรอยธรรม ผู้แบกของหนกั 39 -บาลี ขนฺธ. ส.ํ ๑๗/๓๒/๔๙-๕๑. ภกิ ษทุ งั้ หลาย !   เราจักแสดงของหนัก ผู้แบก ของหนัก และการแบกของหนัก แก่พวกเธอ เธอท้งั หลาย จงฟงั ขอ้ ความน้ัน. ภิกษทุ ง้ั หลาย !   อะไรเล่าชือ่ วา่ ของหนัก ? ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !   อปุ าทานกั ขนั ธท์ ง้ั หา้ นน้ั แหละ เรากลา่ วว่าเป็นของหนกั . อุปาทานักขนั ธ์ทั้งหา้ เหลา่ ไหนเล่า ? คอื ขันธอ์ นั เป็นทต่ี ้ังแห่งความยึดมั่น คอื รปู ขันธ์อนั เปน็ ทต่ี ัง้ แห่งความยึดมน่ั คือ เวทนา ขนั ธ์อนั เปน็ ที่ตัง้ แห่งความยดึ มั่น คือ สญั ญา ขนั ธอ์ ันเปน็ ทต่ี ัง้ แห่งความยึดมนั่ คือ สังขาร และขนั ธ์อันเปน็ ทตี่ ้งั แห่งความยดึ มนั่ คอื วญิ ญาณ. ภิกษทุ ั้งหลาย !   นีเ้ ราเรียกวา่ ของหนัก. 95

พทุ ธวจน - หมวดธรรม ภิกษทุ ้ังหลาย !   อะไรเลา่ ชอ่ื วา่ ผแู้ บกของหนกั  ? ภิกษุทั้งหลาย !   บุคคล (ตามสมมติ) นน้ั แหละ เราเรยี กวา่ ผแู้ บกของหนกั เขามชี อ่ื อยา่ งน้ี มโี คตรอยา่ งนน้ั ตามท่รี ู้กันอย.ู่ ภิกษทุ ั้งหลาย !   นเ้ี ราเรยี กว่า ผแู้ บกของหนกั . ภกิ ษุทั้งหลาย !  อะไรเลา่ ชอ่ื วา่ การแบกของหนกั  ? ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !  ตณั หาอนั ใดทที่ �ำใหม้ กี ารเกดิ อกี อนั ประกอบดว้ ยความก�ำหนดั เพราะอ�ำนาจแหง่ ความเพลนิ ซ่ึงมีปกติท�ำให้เพลินอย่างยิ่งในอารมณ์น้ันๆ ได้แก่ ตัณหาในกาม ตัณหาในความมีความเป็น ตัณหาใน ความไม่มไี ม่เป็น. ภกิ ษทุ ้ังหลาย !   นเ้ี ราเรยี กวา่ การแบกของหนกั . 96

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมทีถ่ กู ปดิ : ตามรอยธรรม ดับตณั หา คอื ปลงภาระหนกั ลงได้ 40 -บาลี ขนธฺ . สํ. ๑๗/๓๒/๕๒-๕๓. ภกิ ษุทง้ั หลาย !   การปลงภาระหนกั ลงเสยี ได้ เปน็ อยา่ งไรเลา่  ? ภิกษุทงั้ หลาย !   ความดับสนทิ เพราะความจางคลายดบั ไป โดยไมเ่ หลือของตณั หานั้น น่ันเทยี ว ความละไปของตณั หาน้นั ความสลัดกลบั คืนของตัณหาน้ัน ความหลุดออกไปของตัณหานน้ั และความไม่มที ่อี าศัยอกี ตอ่ ไปของตณั หาน้นั อนั ใด. ภกิ ษทุ ้ังหลาย !   อันนเี้ ราเรียกวา่ การปลงภาระหนักลงเสียได้ ดงั นี้. 97

พุทธวจน - หมวดธรรม พระผู้มพี ระภาคเจ้า ได้ตรสั พุทธวจนน้ี ซง่ึ เป็นคำ�ร้อยกรองสบื ต่อไป “ขันธท์ งั้ หา้ เปน็ ของหนัก ! บุคคลนั้นแหละ เป็นผู้แบกของหนักพาไป. การแบกถือของหนัก เป็นความทุกข์ในโลก. การปลงภาระหนักเสียได้ เป็นความสุข. พระอริยเจ้า ปลงภาระหนักลงเสียแล้ว. ทั้งไม่หยิบฉวยเอาของหนักอันอื่นขึ้นมาอีก. ก็เปน็ ผ้ถู อนตณั หาขึ้นได้กระทง่ั ราก (อวชิ ชา) เปน็ ผหู้ มดสง่ิ ปรารถนา ดบั สนทิ ไมม่ สี ว่ นเหลอื ” ดงั น.้ี 98

พุทธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมที่ถกู ปิด : ตามรอยธรรม ต้องทอ่ งเท่ียวมาแลว้ 41 เพราะไม่ร้อู รยิ สจั ส่ี -บาลี มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๔๑/๑๖๙๘. ภกิ ษทุ ้งั หลาย !   เพราะไมร่ ถู้ งึ เพราะไมแ่ ทงตลอด ซึ่งอริยสัจสี่อย่าง เราและพวกเธอทั้งหลาย จึงท่องเที่ยว ไปแลว้ ในสงั สารวฏั ตลอดกาลยืดยาวนานถงึ เพียงน.ี้ ภิกษุท้ังหลาย !   เพราะไมร่ ถู้ งึ เพราะไมแ่ ทงตลอด ซึ่งอริยสัจสี่อย่างเหล่าไหนเลา่  ? ส่ีอยา่ งคอื อริยสัจคอื ทุกข์ อริยสจั คอื เหตใุ ห้เกิดทุกข์ อรยิ สจั คอื ความดับไมเ่ หลือแห่งทกุ ข์ อรยิ สจั คือ ทางดำ�เนินให้ถึงความดับไมเ่ หลอื แห่งทุกข.์ ภิกษุท้งั หลาย !   เพราะไมร่ ถู้ งึ เพราะไมแ่ ทงตลอด ซ่งึ อริยสัจสี่ประการเหล่านี้แล เราและพวกเธอทั้งหลาย จึงได้ท่องเที่ยวไปแล้วในสังสารวัฏ ตลอดกาลยืดยาวนาน ถงึ เพียงน้ี. 99

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมทถี่ กู ปิด : ตามรอยธรรม ทสี่ ุดแห่งการท่องเที่ยวของพระองค์ 42 -บาลี ธ. ข.ุ ๒๕/๓๕/๒๑. เม่อื เรายงั คน้ ไม่พบแสงสว่าง มัวเสาะหานายช่างปลูกเรอื นอยู่ ไดท้ ่องเท่ียวไปในสงั สารวฏั กล่าวคอื ความเกดิ แล้วเกดิ อีกเปน็ อเนกชาติ. ความเกดิ เปน็ ทุกข์ร�ำ่ ไปทุกชาติ. แนะ่ นายช่างผ้ปู ลูกสร้างเรือน ! เรารจู้ กั เจ้าเสยี แล้ว เจา้ จกั สร้างเรอื นใหเ้ รา ต่อไปอีกไม่ได้ โครงเรือนของเจา้ เราหักเสียยับเยนิ หมดแล้ว. ยอดเรอื น เราขยี้เสยี แลว้ . จิตของเรา ถึงความเป็นธรรมชาติ ท่อี ารมณจ์ ะยแุ หย่ ยวั่ เยา้ ไมไ่ ดเ้ สยี แลว้ มันได้ถึงแล้ว ซึ่งความหมดอยากทกุ อย่าง. 100

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมท่ถี กู ปิด : ตามรอยธรรม 101

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมทถ่ี กู ปิด : ตามรอยธรรม “สิ่งน้ัน” หาพบในกายนี้ 43 -บาลี จตกุ กฺ . อ.ํ ๒๑/๖๐/๔๕. “แน่ะเธอ !   ที่สุดโลกแห่งใด  อันสัตว์ไม่เกิด ไมแ่ ก่ ไมต่ าย  ไม่จุติ  ไมอ่ ุบัติ เราไม่กลา่ วว่า ใครๆ อาจรู้ อาจเหน็ อาจถงึ ท่ีสุดแหง่ โลกน้นั ได้ด้วยการไป. “แน่ะเธอ !   ในร่างกายทยี่ าวประมาณวาหนึง่ ท่ียังประกอบดว้ ยสญั ญาและใจน้เี อง เราไดบ้ ัญญตั ิโลก เหตใุ หเ้ กดิ โลก ความดบั สนิทไมเ่ หลอื ของโลก และทางดำ�เนินให้ถึงความดับสนิทไม่เหลอื ของโลกไว”้ ดังนีแ้ ล. 102

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมทีถ่ กู ปิด : ตามรอยธรรม ทรงมีความชราทางกายภาพ 44 เหมือนคนทั่วไป -บาลี มหาวาร. ส.ํ ๑๙/๒๘๗/๙๖๒-๙๖๕. (ล�ำ ดบั นน้ั พระอานนทผ์ มู้ อี ายุ ไดเ้ ขา้ ไปเฝา้ พระผมู้ พี ระภาค ถงึ ทป่ี ระทบั ถวายอภวิ าทแลว้ ลบู คล�ำ ทว่ั พระกายของผมู้ พี ระภาคอยู่ พลางกลา่ วถอ้ ยค�ำ น้ีวา่ ) “ขา้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จรญิ  !   ขอ้ นน้ี า่ อศั จรรย์ ขอ้ นไ้ี มเ่ คยมี มากอ่ น.ขา้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จรญิ  !  บดั นฉี้ ววี รรณของพระผมู้ พี ระภาค ไมบ่ รสิ ทุ ธผิ์ ดุ ผอ่ งเหมอื นแตก่ อ่ น และพระกายกเ็ หยี่ วยน่ หยอ่ นยาน มพี ระองคค์ อ้ มไปขา้ งหนา้ อนิ ทรยี ท์ ง้ั หลายกเ็ ปลย่ี นเปน็ อยา่ งอน่ื ไปหมด ทง้ั พระจักษุ โสตะ ฆานะ ชวิ หา กายะ”. อานนท ์ !   นั่นต้องเป็นอยา่ งนนั้ คือ ความชรามี (ซ่อน) อยใู่ นความหนุ่ม ความเจบ็ ไขม้ ี (ซอ่ น) อยู่ในความไมม่ โี รค ความตายมี (ซ่อน) อยู่ในชีวิต ฉวีวรรณจึงไมบ่ ริสทุ ธ์ผิ ดุ ผ่องเสยี แล้ว และกายก็เหีย่ วย่น หยอ่ นยาน ตัวคอ้ มไปขา้ งหนา้ อินทรีย์ทง้ั หลายก็เปล่ียน เป็นอย่างอนื่ ไปหมด ท้ังตา หู จมกู ลิ้น กาย ดงั นี.้ 103

พุทธวจน - หมวดธรรม พระผมู้ พี ระภาคครน้ั ตรสั ค�ำ นแ้ี ลว้ ไดต้ รสั ขอ้ ความน้ี (เปน็ ค�ำ กาพยก์ ลอน) อกี วา่ โธ่เอ๋ย !   ความแกอ่ ันช่ัวช้าเอย๋ ! ความแก่อนั ท�ำ ความนา่ เกลียดเอย๋ ! กายทนี่ า่ พอใจ บัดนก้ี ถ็ กู ความแกย่ �ำ่ ยหี มดแลว้ แม้ใครจะมีชีวติ อยตู่ ัง้ ร้อยปี ทุกคนกย็ งั มคี วามตาย เป็นท่ีไปในเบื้องหนา้ ความตายไม่ยกเว้นให้แก่ใครๆ มนั ย�ำ่ ยหี มดทกุ คน. 104

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมที่ถูกปิด : ตามรอยธรรม ทรงประกาศธรรม 45 เนอื่ งดว้ ยการปลงอายสุ งั ขาร -บาลี มหา. ที. ๑๐/๑๔๐/๑๐๗-๑๐๘. ภิกษุทั้งหลาย !   ธรรมเหล่าใดท่ีเราแสดงแล้ว ด้วยปญั ญาอันย่งิ ธรรมเหล่านนั้ พวกเธอพงึ เรยี นเอาให้ดี พึงเสพให้ทว่ั พงึ เจริญท�ำใหม้ าก โดยอาการที่พรหมจรรย์ (คือศาสนาน้ี) จักม่ันคง ต้ังอยู่ได้ตลอดกาลนาน ข้อนั้น จักเป็นไปเพ่ือประโยชน์เก้ือกูลแก่มหาชน เพื่อความสุข แก่มหาชน เพ่ืออนุเคราะห์โลก เพ่ือประโยชน์ เพื่อ ความเก้อื กูล เพื่อความสุขแก่เทวดาและมนุษยท์ ง้ั หลาย. ภกิ ษทุ ้งั หลาย !   ธรรมเหลา่ ไหนเลา่ ทเ่ี ราแสดงแลว้ ดว้ ยปญั ญาอนั ย่ิง ฯลฯ คือ สติปฏั ฐานส ่ี สมั มัปธานส ่ี อิทธิบาทสี่ อินทรีย์ห้า  พละหา้ โพชฌงค์เจ็ด อริยมรรคมอี งคแ์ ปด. 105

พุทธวจน - หมวดธรรม ภิกษุท้ังหลาย !   บดั นเ้ี ราจกั เตอื นทา่ นทง้ั หลายวา่ สงั ขารทั้งหลาย มีความเส่ือมเป็นธรรมดา พวกเธอจงให้ ถึงพรอ้ มด้วยความไมป่ ระมาทเถดิ การปรินิพพานของ ตถาคต จักมีในกาลไม่นานเลย ตถาคตจกั ปรนิ ิพพาน โดยกาลลว่ งไปแห่งสามเดอื นนี.้ สัตวท์ ้ังปวง ท้งั ท่เี ปน็ คนหนมุ่ และคนแก่ ทงั้ ที่ เป็นคนพาล และบัณฑติ ทั้งทมี่ ั่งมีและยากจน ลว้ นแต่ มีความตาย เป็นที่ไปถึงในเบื้องหน้า เปรียบเหมือน ภาชนะดนิ ท่ีชา่ งหมอ้ ป้ันแลว้ ทั้งเลก็ และใหญ่ ทัง้ ที่สกุ แลว้ และยงั ดบิ ลว้ นแตม่ กี ารแตกท�ำลายเปน็ ทส่ี ดุ ฉนั ใด ชวี ติ แหง่ สตั วท์ ง้ั หลาย กม็ คี วามตายเปน็ เบอื้ งหนา้ ฉนั นนั้ . วยั ของเราแกห่ งอ่ มแลว้ ชวี ติ ของเรารบิ หรแ่ี ลว้ เราจกั ละพวกเธอไป สรณะของตวั เองเราไดท้ �ำ ไวแ้ ล้ว. ภิกษุทงั้ หลาย !  พวกเธอจงเป็นผู้ไม่ประมาท มีสติ มีศลี เป็นอย่างดี มีความดำ�ริอนั ต้ังไวแ้ ล้วดว้ ยดี ตาม รักษาซึ่งจิตของตนเถดิ . ในธรรมวนิ ัยน้ี ภกิ ษใุ ดเปน็ ผู้ ไมป่ ระมาทแลว้ จกั ละชาตสิ งสาร ทำ�ท่ีสดุ แห่งทุกข์ได.้ 106

พุทธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมทถ่ี ูกปิด : ตามรอยธรรม ผูใ้ ดเหน็ ธรรม ผนู้ น้ั เห็นเรา 46 -บาลี ขนธฺ . สํ. ๑๗/๑๔๖/๒๑๖., -บาลี อิติว.ุ ขุ. ๒๕/๓๐๐/๒๗๒. “อย่าเลย วักกลิ !   ประโยชน์อะไรดว้ ยการเห็นกายเน่านี.้ วกั กล ิ !   ผใู้ ดเห็นธรรม ผนู้ น้ั เห็นเรา ผใู้ ดเหน็ เรา ผู้น้ันเห็นธรรม. วกั กล ิ !   เพราะวา่ เมอ่ื เหน็ ธรรมอย ู่ ก็คือเหน็ เรา เมื่อเห็นเราอยู่ กค็ อื เห็นธรรม” ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !   แมภ้ กิ ษจุ บั ชายสงั ฆาฏิ เดนิ ตาม รอยเท้าเราไปข้างหลังๆ. แต่ถ้าเธอนั้น มากไปด้วย อภิชฌา มีกามราคะกล้า มีจิตพยาบาท มีความดำ�ริ แห่งใจเป็นไปในทางประทุษร้าย มีสติหลงลืม ไม่มี สัมปชญั ญะ มจี ติ ไมเ่ ป็นสมาธิ แกว่งไปแกวง่ มา ไม่ ส�ำ รวมอนิ ทรยี ์ แลว้ ไซร้ ภิกษุน้นั ช่อื ว่าอยไู่ กลจากเรา แม้เราก็อยูไ่ กลจากภิกษุน้ัน โดยแท้. 107

พทุ ธวจน - หมวดธรรม ข้อนัน้ เพราะเหตุไรเลา่  ? ภิกษทุ ง้ั หลาย !   ขอ้ น้นั เหตุเพราะว่า ภกิ ษนุ น้ั ไมเ่ หน็ ธรรม เมอ่ื ไมเ่ หน็ ธรรม กช็ อ่ื วา่ ไมเ่ หน็ เรา. ภิกษุท้งั หลาย !   แมภ้ กิ ษุนัน้ จะอยหู่ า่ ง (จากเรา) ตง้ั รอ้ ยโยชน์ แตถ่ า้ เธอนน้ั ไม่มากไปดว้ ยอภิชฌา ไมม่ ี กามราคะกลา้ ไม่มจี ติ พยาบาท ไม่มคี วามดำ�ริแห่งใจ เปน็ ไปในทางประทษุ รา้ ย มสี ตติ ง้ั มน่ั มสี มั ปชญั ญะ มจี ติ เปน็ สมาธิ ถึงความเป็นเอกคั คตา (จิตมอี ารมณ์อันเดียว) ส�ำ รวมอินทรีย์ แล้วไซร้ ภกิ ษนุ ั้นช่อื วา่ อยใู่ กล้กบั เรา แมเ้ รากอ็ ยใู่ กลก้ บั ภิกษนุ ัน้ โดยแท้. ขอ้ นน้ั เพราะเหตุไรเลา่  ? ภิกษุทัง้ หลาย !   ขอ้ นัน้ เพราะเหตวุ ่า ภิกษนุ ้ันเห็นธรรม เมื่อเห็นธรรม ก็ชือ่ วา่ เห็นเรา แล. 108

พุทธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมทถี่ กู ปิด : ตามรอยธรรม ถุงธรรม 47 -บาลี ปญจฺ ก. อํ. ๒๒/๙๘/๗๓. ภกิ ษทุ ัง้ หลาย !   ภกิ ษใุ นธรรมวนิ ยั น้ี ยอ่ มเลา่ เรยี น ปริยตั ธิ รรม (นานาชนิด) คอื สตุ ตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมมะ เวทัลละ แต่เธอไม่ใช้วันทั้งวันให้เปลืองไปด้วยการเรียนธรรม นน้ั ๆ ไมเ่ รดิ รา้ งจากการหลกี เรน้ ตามประกอบซง่ึ ธรรม เป็นเครื่องสงบใจในภายในเนืองๆ. ภิกษุอย่างนี้แล ชอ่ื ว่า ธรรมวิหารี (ผู้อยดู่ ว้ ยธรรม). ภิกษุท้ังหลาย !   ภิกษุผู้มากด้วยปริยัติ เราก็ แสดงแลว้ ผมู้ ากดว้ ยการบญั ญตั ิ เรากแ็ สดงแลว้ ผมู้ ากดว้ ย การสาธยาย เราก็แสดงแล้ว ผู้มากด้วยการคิด เราก็ แสดงแลว้ และธรรมวหิ ารี (ผอู้ ยดู่ ว้ ยธรรม) เรากแ็ สดงแลว้ ด้วยประการ ฉะน.้ี ภิกษุทั้งหลาย !   กิจอันใดที่ศาสดาผู้เอ็นดู แสวงหาประโยชน์เก้ือกลู อาศยั ความเอ็นดแู ลว้ จะพงึ ท�ำ แก่สาวกทงั้ หลาย กจิ อนั น้นั เราไดท้ ำ�แลว้ แกพ่ วก เธอทงั้ หลาย. 109

พุทธวจน - หมวดธรรม ภิกษุทง้ั หลาย !   น่ัน โคนไม้ทงั้ หลาย น่ัน เรอื นวา่ งท้ังหลาย ภกิ ษทุ ั้งหลาย !   เธอทั้งหลาย จงเพยี รเผากเิ ลส อยา่ ไดเ้ ปน็ ผู้ประมาท เธอทั้งหลาย อย่าเปน็ ผทู้ ตี่ อ้ งร้อนใจในภายหลังเลย นแ่ี ล เปน็ วาจาเครอ่ื งพร�ำ่ สอนพวกเธอทง้ั หลายของเรา. 110

พุทธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมทถี่ ูกปิด : ตามรอยธรรม การปรนิ พิ พานในปัจจบุ นั 48 -บาลี นิทาน. ส.ํ ๑๖/๒๒/๔๖. ภกิ ษุ !   ถา้ ภกิ ษแุ สดงธรรม เพอ่ื ความเบอ่ื หนา่ ย เพอ่ื ความคลายก�ำ หนดั เพอ่ื ความดบั ไมเ่ หลอื แหง่ ชราและ มรณะ อยู่ไซร้ กเ็ ปน็ การสมควร เพ่ือจะเรยี กภกิ ษุนนั้ วา่ “ผู้กลา่ วซ่ึงธรรม (ธรรมถึก)” ดังน.้ี ถ้าภิกษุเป็นผู้ปฏิบัติแล้ว เพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อความคลายกำ�หนัด เพื่อความดับไม่เหลือแห่งชรา และมรณะอยไู่ ซร้กเ็ ปน็ การสมควรเพอื่ จะเรยี กภกิ ษนุ น้ั วา่ “ผู้ปฏบิ ัตแิ ลว้ ซง่ึ ธรรมตามสมควรแก่ธรรม” ดังน.ี้ ถา้ ภกิ ษเุ ปน็ ผหู้ ลดุ พน้ แลว้ เพราะความเบอ่ื หนา่ ย เพราะความคลายก�ำ หนดั เพราะความดบั ไมเ่ หลอื แหง่ ชรา และมรณะ ด้วยความเป็นผู้ไม่ยึดมั่นถือมั่น อยู่แล้วไซร้ ก็เป็นการสมควรเพื่อจะเรียกภิกษุนั้นว่า “ผู้บรรลุแล้ว ซึ่งนิพพานในปัจจุบัน” ดังนี้. (ในกรณแี หง่ ชาติ ภพ อปุ าทาน ตณั หา เวทนา ผสั สะ สฬายตนะ นามรปู วญิ ญาณ สงั ขาร และอวชิ ชา กม็ ขี อ้ ความท่ี กลา่ วไวอ้ ยา่ งเดยี วกนั กบั ในกรณแี หง่ ชราและมรณะ ทก่ี ลา่ วไวข้ า้ งบนน)้ี . 111

พุทธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมที่ถกู ปิด : ตามรอยธรรม 112

พุทธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมที่ถกู ปิด : ตามรอยธรรม ตั้งหนา้ ท�ำกแ็ ลว้ กัน 49 -บาลี ติก. อํ. ๒๐/๓๐๙/๕๓๒. ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !  กจิ ของคหบดชี าวนา ทเ่ี ขาจะตอ้ ง รีบทำ� มสี ามอยา่ งเหลา่ น้ี. สามอยา่ งอะไรบ้างเล่า ? สามอยา่ งคอื คหบดชี าวนา รบี ๆ ไถคราดพน้ื ทน่ี า ใหด้ ีเสยี กอ่ น คร้นั แล้ว ก็รบี ๆ ปลกู พืช คร้ันแล้วก็รบี ๆ ไขนำ�้ เข้าบา้ ง ไขน�ำ้ ออกบ้าง. ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !  กจิ ของคหบดชี าวนา ทเ่ี ขาจะตอ้ ง รบี ท�ำ มสี ามอย่างเหล่านีแ้ ล แต่ว่า คหบดีชาวนานน้ั ไมม่ ี ฤทธห์ิ รืออานภุ าพ ทีจ่ ะบนั ดาลว่า “ข้าวของเรา จงงอกใน วันนี้ ตงั้ ทอ้ งพรุ่งน้ี สุกมะรืนน้”ี ดังนีไ้ ด้เลย ทแ่ี ท้ ยอ่ มมี เวลาทข่ี ้าวนนั้ เปลีย่ นแปรสภาพไปตามฤดูกาล ย่อมจะ งอกบ้าง ตัง้ ทอ้ งบา้ ง สุกบา้ ง ภิกษุทั้งหลาย !   ฉันใดก็ฉันนั้น กิจของภิกษุ ที่เธอจะต้องรีบท�ำ มีสามอย่างเหล่าน้ี. 113

พทุ ธวจน - หมวดธรรม สามอย่างอะไรบา้ งเลา่  ? สามอย่างคือ การสมาทานการปฏบิ ตั ใิ นศลี อนั ยงิ่ การสมาทานการปฏบิ ตั ใิ นจิตอันยิ่ง และการสมาทานการปฏิบตั ิในปญั ญาอนั ยิ่ง. ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !   กิจของภกิ ษุ ทเี่ ธอจะตอ้ งรีบทำ� มีสามอยา่ งเหลา่ นี้แล แต่ว่าภิกษุนั้น ก็ไม่มีฤทธิ์หรืออานุภาพ ที่จะ บนั ดาลวา่ “จติ ของเรา จงหลดุ พน้ จากอาสวะทง้ั หลาย เพราะไมม่ ีอุปาทานในวนั น้ี หรอื พรงุ่ น้ี หรอื มะรนื น้ี” ดงั นไ้ี ดเ้ ลย ทแ่ี ท้ ยอ่ มมเี วลาทเ่ี หมาะสม เมอ่ื ภกิ ษนุ น้ั ปฏิบตั ไิ ปแม้ในศลี อนั ยง่ิ ปฏบิ ตั ิไปแมใ้ นจติ อนั ยิ่ง และ ปฏบิ ตั ไิ ปแมใ้ นปญั ญาอนั ยง่ิ จติ กจ็ ะหลดุ พน้ จากอาสวะ ทั้งหลาย เพราะไม่มีอุปาทานได้เอง. 114

พุทธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมท่ีถูกปิด : ตามรอยธรรม ทรงเปน็ ผเู้ อน็ ดเู กือ้ กูล 50 แก่สรรพสตั ว์ทัง้ ปวง -บาลี สฬา. สํ. ๑๘/๓๘๗/๖๐๓-๖๐๔. “ขา้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จรญิ  !  พระผมู้ พี ระภาค ทรงเปน็ ผเู้ อน็ ดู เกอ้ื กลู แก่สัตว์ทงั้ ปวง อยมู่ ใิ ชห่ รือ พระเจ้าข้า ?”. คามณ ิ !   ถกู แลว้ ตถาคตเปน็ ผูเ้ อน็ ดูเกอื้ กูลแก่ สัตวท์ ัง้ ปวงอย.ู่ “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !   ถ้าอย่างนั้น ทำ�ไมพระองค์ จงึ ทรงแสดงธรรมแกค่ นบางพวก โดยเออ้ื เฟอ้ื และแกค่ นบางพวก โดยไมเ่ ออื้ เฟือ้ เลา่ พระเจา้ ข้า ?” คามณิ !   ถา้ อยา่ งนน้ั เราขอยอ้ นถามทา่ นในขอ้ น้ี ทา่ นจงตอบเราตามทค่ี วร. คามณ ิ !   ทา่ นจะส�ำ คญั ความ ข้อนี้เป็นไฉน ในถิ่นแห่งเรานี้ ชาวนาผู้คหบดีคนหนึ่ง มีนาอยู่ ๓ แปลง แปลงหนง่ึ เปน็ นาช้นั เลศิ แปลงหนง่ึ เปน็ นาปานกลาง แปลงหนง่ึ เปน็ นาเลว มดี นิ เปน็ กอ้ นแขง็ มีรสเคม็ พนื้ ทเี่ ลว. คามณ ิ!   ท่านจะส�ำ คัญความขอ้ นี้ ว่าอย่างไร ชาวนาผูค้ หบดีน้ัน เมอื่ ประสงคจ์ ะหวา่ นพืช เขาจะหวา่ นในนาแปลงไหนกอ่ น คอื วา่ แปลงทเ่ี ปน็ นาเลศิ 115

พุทธวจน - หมวดธรรม นาปานกลาง หรอื วา่ นาเลว มีดนิ เป็นกอ้ นแข็ง มรี สเคม็ พื้นท่ีเลวเลา่  ? “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !   ชาวนาคหบดีผู้ประสงค์จะ หว่านพืชคนนั้น ย่อมหว่านในนาเลิศก่อน แล้วจึงหว่านในนา ปานกลาง ส�ำหรบั นาเลว ซงึ่ ดนิ เปน็ กอ้ นแขง็ มรี สเคม็ พนื้ ทเ่ี ลวนนั้ เขากห็ ว่านบา้ ง ไม่หว่านบา้ ง เพราะเหตวุ า่ อย่างมากท่สี ดุ กห็ วา่ น ไว้ให้โคกิน พระเจ้าข้า !” คามณ ิ !   นาเลศิ นน้ั เปรยี บเหมอื นภกิ ษุ ภกิ ษณุ ี ของเรา เราย่อมแสดงธรรม งดงามในเบื้องต้น งดงาม ในทา่ มกลาง งดงามในท่สี ุด ประกาศพรหมจรรยบ์ รสิ ทุ ธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิง พร้อมทั้งอรรถะ พร้อมทั้งพยัญชนะ แก่ภิกษุ ภิกษุณีเหล่านั้น. ข้อน้ันเพราะเหตุไรเล่า ? คามณิ !   เพราะเหตวุ า่ ภกิ ษุ ภิกษุณที ัง้ หลายเหล่านั้น มเี ราเปน็ ประทปี มีเราเป็นทีซ่ อ่ นเรน้ มีเราเป็นท่ตี า้ นทาน มีเราเปน็ ทีพ่ งิ อาศัยอย.ู่ คามณ ิ !   นาปานกลางนัน้ เปรยี บเหมือนอุบาสก อุบาสิกาของเรา เรายอ่ มแสดงธรรม งดงามในเบอ้ื งต้น งดงามในท่ามกลาง งดงามในท่ีสดุ ประกาศพรหมจรรย์ 116

เปิดธรรมทีถ่ ูกปดิ : ตามรอยธรรม บริสุทธ์ิบริบูรณ์สิ้นเชิง พร้อมทั้งอรรถะ พร้อมท้ัง พยญั ชนะ แกอ่ บุ าสก อบุ าสกิ าทงั้ หลายเหลา่ นนั้ . ขอ้ นน้ั เพราะเหตุไรเล่า ? คามณิ !   เพราะเหตุว่า ชนทั้งหลายเหล่านั้น มเี ราเปน็ ประทีป มีเราเปน็ ที่ซอ่ นเรน้ มีเราเปน็ ทต่ี ้านทาน มเี ราเปน็ ทพี่ งิ อาศัยอยู.่ คามณ ิ !   นาเลว มดี นิ เป็นก้อนแข็ง มรี สเคม็ พืน้ ทีเ่ ลวน้ัน เปรียบเหมอื นสมณพราหมณ์ ปรพิ าชก ทั้งหลาย ผูเ้ ปน็ เดยี รถยี เ์ หลา่ อ่ืน เรากย็ อ่ มแสดงธรรม งดงามในเบอ้ื งต้น งดงามในทา่ มกลาง งดงามในทส่ี ดุ ประกาศพรหมจรรยบ์ รสิ ทุ ธบ์ิ รบิ รู ณส์ น้ิ เชงิ พรอ้ มทง้ั อรรถะ พรอ้ มท้งั พยญั ชนะ แก่ชนทัง้ หลายเหลา่ นนั้ . ขอ้ นั้นเพราะเหตไุ รเล่า ? เพราะเหตวุ า่ ถึงแมว้ ่าเขาจะเข้าใจธรรมทีเ่ รา แสดงสักบทเดยี ว นน่ั กย็ งั เป็นไปเพ่อื ประโยชนเ์ กื้อกูล และความสขุ แกช่ นท้ังหลายเหล่าน้ัน ตลอดกาลนาน. 117



พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมทีถ่ ูกปิด : ตามรอยธรรม อานสิ งสแ์ ห่งการฟังธรรมเนอื งๆ 51 -บาลี จตุกฺก. อํ. ๒๑/๒๕๑/๑๙๑. ภกิ ษทุ ้งั หลาย !   อานิสงส์ ๔ ประการแห่งธรรม ทงั้ หลายท่ีบคุ คลฟงั เนอื งๆ คล่องปาก ขน้ึ ใจ แทงตลอด ดว้ ยดดี ว้ ยความเหน็ อนั บคุ คลพงึ หวงั ได้ อานิสงส์ ๔ ประการ อย่างไรเล่า ? (๑)  ภิกษุทั้งหลาย !   ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาดก อัพภูตธรรม เวทัลละ ธรรมเหลา่ นน้ั เปน็ ธรรมอนั ภกิ ษนุ น้ั ฟงั เนอื งๆ คลอ่ งปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดดี ้วยความเห็น เธอมีสติหลงลืม เมื่อกระท�ำกาละย่อมเข้าถึงเทพนิกายหมู่ใดหมู่หนึ่ง บทแห่งธรรมทั้งหลาย ยอ่ มปรากฏแก่เธอผมู้ ีความสุข ในภพนั้น สติบังเกิดขนึ้ ชา้ แตส่ ตั วน์ น้ั ย่อมเปน็ ผ้บู รรลุ คุณวิเศษเร็วพลนั . ภิกษุท้ังหลาย !   นี้เป็นอานิสงส์ประการที่  ๑ แห่งธรรมท้ังหลายท่บี ุคคลฟังเนืองๆ คลอ่ งปาก ขึ้นใจ แทงตลอดดว้ ยดดี ว้ ยความเหน็ อนั บคุ คลพงึ หวงั ได.้ 119

พุทธวจน - หมวดธรรม (๒)  ภกิ ษยุ อ่ มเลา่ เรยี นธรรม คอื สตุ ตะ ... เวทลั ละ ธรรมเหลา่ น้ันเป็นธรรมอันภิกษุนน้ั ฟังเนอื งๆ คล่องปาก ขึน้ ใจ แทงตลอดดว้ ยดดี ว้ ยความเหน็ เธอมสี ตหิ ลงลมื เมื่อกระท�ำกาละ ย่อมเข้าถึงเทพนิกายหมู่ใดหมู่หน่ึง บทแหง่ ธรรมทง้ั หลาย ยอ่ มไมป่ รากฏแกเ่ ธอผมู้ คี วามสขุ อยใู่ นภพนนั้ เลย แตภ่ กิ ษผุ มู้ ฤี ทธิ์ ถงึ ความช�ำนาญแหง่ จติ แสดงธรรมแก่เทพบริษัท เธอมีความปรวิ ิตกอย่างนี้วา่ ในกาลกอ่ น เราไดป้ ระพฤตพิ รหมจรรยใ์ นธรรมวนิ ยั ใด น้ีคอื ธรรมวินยั นั้น สติบังเกิดข้ึนชา้ แตว่ า่ สตั ว์น้นั ย่อม เป็นผู้บรรลุคณุ วเิ ศษเร็วพลัน. ภิกษุทั้งหลาย !   บุรุษผู้ฉลาดต่อเสียงกลอง เขาเดนิ ทางไกล พงึ ไดย้ นิ เสยี งกลอง เขาไมพ่ งึ มคี วามสงสยั หรอื เคลอื บแคลงวา่ เสยี งกลองหรอื ไมใ่ ชห่ นอ ทแี่ ทเ้ ขาพงึ ถงึ ความตกลงใจว่า เสียงกลองทีเดียว ฉันใด ภิกษุก็ฉันน้ัน เหมือนกัน ย่อมเล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ ... เวทัลละ ธรรมเหลา่ นนั้ เปน็ ธรรมอนั ภกิ ษนุ นั้ ฟงั เนอื งๆ คลอ่ งปาก ขน้ึ ใจ แทงตลอดดว้ ยดดี ว้ ยความเห็น ... สติบังเกิดขึ้นช้า แตว่ า่ สัตวน์ ้นั ยอ่ มเปน็ ผูบ้ รรลุคณุ วเิ ศษ เรว็ พลนั . 120

เปิดธรรมท่ีถกู ปดิ : ตามรอยธรรม ภิกษุท้ังหลาย !   นี้เป็นอานิสงส์ประการท่ี  ๒ แห่งธรรมทั้งหลายท่ีภิกษุฟังเนืองๆ คล่องปาก ข้ึนใจ แทงตลอดด้วยดดี ้วยความเห็น อนั บคุ คลพึงหวงั ได้. (๓)  ภกิ ษยุ อ่ มเลา่ เรยี นธรรม คอื สตุ ตะ ... เวทลั ละ ธรรมเหลา่ นัน้ เปน็ ธรรมอนั ภกิ ษุน้ันฟังเนืองๆ คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดดี ว้ ยความเห็น เธอมีสตหิ ลงลมื เม่ือกระท�ำกาละ   ย่อมเข้าถึงเทพนิกายหมู่ใดหมู่หนึ่ง บทแหง่ ธรรมทงั้ หลายยอ่ มไมป่ รากฏแกเ่ ธอผมู้ คี วามสขุ อยใู่ นภพนน้ั เลย ทงั้ ภกิ ษผุ มู้ ฤี ทธถ์ิ งึ ความช�ำนาญแหง่ จติ กไ็ มไ่ ดแ้ สดงธรรมในเทพบรษิ ทั แตเ่ ทพบตุ รยอ่ มแสดง ธรรมในเทพบรษิ ทั เธอมีความคิดอย่างนีว้ า่ ในกาลกอ่ น เราไดป้ ระพฤตพิ รหมจรรยใ์ นธรรมวนิ ยั ใด นคี้ อื ธรรมวนิ ยั นั้นเอง สติบังเกดิ ข้นึ ช้า แตว่ ่าสัตวน์ ัน้ ย่อมเป็นผู้บรรลุ คณุ วเิ ศษเรว็ พลัน. ภิกษุท้ังหลาย !   บุรุษผู้ฉลาดต่อเสียงสังข์ เขาเดนิ ทางไกลพงึ ไดฟ้ งั เสยี งสงั ขเ์ ขา้ เขาไมพ่ งึ มคี วามสงสยั หรอื เคลอื บแคลงวา่ เสยี งสงั ขห์ รอื มใิ ชห่ นอ ทแี่ ทเ้ ขาพงึ ถึง 121

พทุ ธวจน - หมวดธรรม ความตกลงใจว่า เสียงสังขฉ์ นั ใด ภกิ ษกุ ็ฉนั น้ันเหมือนกนั ย่อมเล่าเรยี นธรรม คอื สุตตะ ... เวทลั ละ ธรรมเหล่านั้น เปน็ ธรรมอนั ภกิ ษนุ น้ั ฟงั เนอื งๆ คลอ่ งปาก ขนึ้ ใจ แทงตลอด ด้วยดีดว้ ยความเห็น ... สติบงั เกดิ ข้ึนชา้ แตว่ า่ สตั วน์ น้ั ยอ่ มเปน็ ผู้บรรลุคุณวิเศษเร็วพลัน. ภิกษุท้ังหลาย !   นี้เป็นอานิสงส์ประการท่ี  ๓ แห่งธรรมทง้ั หลายท่ภี ิกษฟุ งั เนอื งๆ คล่องปาก ข้นึ ใจ แทงตลอดดว้ ยดดี ว้ ยความเหน็ อันบุคคลพึงหวงั ได.้ (๔)  ภกิ ษยุ อ่ มเลา่ เรยี นธรรม คอื สตุ ตะ ... เวทลั ละ ธรรมเหล่านนั้ เปน็ ธรรมอนั ภิกษุน้ันฟังเนอื งๆ คล่องปาก ข้ึนใจ  แทงตลอดด้วยดีด้วยความเห็น  เธอมีสติหลงลืม เมื่อกระท�ำกาละ   ย่อมเข้าถึงเทพนิกายหมู่ใดหมู่หนึ่ง บทแหง่ ธรรมทง้ั หลาย  ยอ่ มไมป่ รากฏแกเ่ ธอผมู้ คี วามสขุ อยใู่ นภพนนั้ เลย แมภ้ กิ ษผุ มู้ ฤี ทธถิ์ งึ ความช�ำนาญแหง่ จติ ก็มิได้แสดงธรรมในเทพบริษัท   แม้เทพบุตรก็ไม่ได้ แสดงธรรมในเทพบริษัท  แต่เทพบุตรผู้เกิดก่อนเตือน เทพบตุ รผเู้ กดิ ทหี ลงั วา่   “ทา่ นผนู้ ริ ทกุ ขย์ อ่ มระลกึ ไดห้ รอื 122

เปดิ ธรรมทถี่ ูกปดิ : ตามรอยธรรม วา่ เราไดป้ ระพฤตพิ รหมจรรยใ์ นกาลกอ่ น” เธอกลา่ วอยา่ งน้ี วา่ “เราระลกึ ไดท้ ่านผ้นู ริ ทกุ ข์ เราระลกึ ไดท้ า่ นผนู้ ิรทุกข”์ สตบิ งั เกดิ ขน้ึ ชา้ แตว่ า่ สตั วน์ น้ั ยอ่ มเปน็ ผบู้ รรลคุ ณุ วเิ ศษ เรว็ พลนั . ภิกษุทั้งหลาย !   สหายสองคนเล่นฝุ่นด้วยกัน เขามาพบกนั บางครงั้ บางคราว ในทบ่ี างแหง่ สหายคนหนง่ึ พงึ กลา่ วกะสหายคนนน้ั อยา่ งนว้ี า่ “สหาย ทา่ นระลกึ กรรม แมน้ ไี้ ดห้ รอื ” เขาพงึ กลา่ วอยา่ งนว้ี า่ “เราระลกึ ได้ เราระลกึ ได้” ฉันใด ภิกษุกฉ็ นั นัน้ เหมือนกัน ย่อมเลา่ เรียนธรรม คอื สตุ ตะ ... เวทลั ละ ธรรมเหลา่ นน้ั เปน็ ธรรมอนั ภกิ ษนุ นั้ ฟงั เนืองๆ คลอ่ งปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีดว้ ยความเห็น ... สตบิ งั เกดิ ขนึ้ ชา้ แตว่ า่ สตั วน์ น้ั ยอ่ มเปน็ ผบู้ รรลคุ ณุ วเิ ศษ เร็วพลัน. ภิกษุท้ังหลาย !   น้ีเป็นอานิสงส์ประการท่ี  ๔ แห่งธรรมทั้งหลายท่ีภิกษุฟังเนืองๆ  คล่องปาก  ข้ึนใจ แทงตลอดด้วยดีดว้ ยความเหน็ อันบุคคลพึงหวงั ได้. 123

พุทธวจน - หมวดธรรม ภิกษุท้ังหลาย !   น้ีแลอานิสงส์  ๔  ประการ แหง่ ธรรมท้ังหลายที่ภิกษฟุ ังแล้วเนืองๆ คล่องปาก ข้นึ ใจ แทงตลอดด้วยดีดว้ ยความเหน็ อนั บคุ คลพงึ หวังได.้ 124





ขอนอบนอ้ มแด่ ตถาคตอรหันตสัมมาสัมพทุ ธะ พระองค์นน้ั ด้วยเศยี รเกลา้ (สาวกตถาคต) คณะงานธมั มะ วดั นาปา พง (กลมุ่ อาสาสมคั รพุทธวจน-หมวดธรรม)

มลู นธิ พิ ทุ ธโฆษณ์ มูลนิธิแห่งมหาชนชาวพทุ ธ ผซู้ งึ่ ชดั เจน และมั่นคงในพุทธวจน เรม่ิ จากชาวพทุ ธกลมุ่ เลก็ ๆ กลมุ่ หนง่ึ ไดม้ โี อกาสมาฟงั ธรรมบรรยายจาก ทา่ นพระอาจารยค์ กึ ฤทธ์ิ โสตถฺ ผิ โล ทเี่ นน้ การนา� พทุ ธวจน (ธรรมวนิ ยั จากพทุ ธโอษฐ์ ทพี่ ระพทุ ธองคท์ รงยนื ยนั วา่ ทรงตรสั ไวด้ แี ลว้ บรสิ ทุ ธบิ์ รบิ รู ณส์ นิ้ เชงิ ทง้ั เนอื้ ความและ พยญั ชนะ) มาใชใ้ นการถา่ ยทอดบอกสอน ซงึ่ เปน็ รปู แบบการแสดงธรรมทต่ี รงตาม พุทธบญั ญตั ิตามท่ี ทรงรบั ส่งั แกพ่ ระอรหันต์ ๖๐ รปู แรกที่ปาอสิ ิปตนมฤคทายวัน ในการประกาศพระสัทธรรม และเปน็ ลกั ษณะเฉพาะทภี่ กิ ษใุ นครง้ั พทุ ธกาลใชเ้ ปน็ มาตรฐานเดยี ว หลกั พทุ ธวจนนี้ ไดเ้ ขา้ มาตอบคา� ถาม ตอ่ ความลงั เลสงสยั ไดเ้ ขา้ มาสรา้ ง ความชดั เจน ต่อความพร่าเลอื นสับสน ในขอ้ ธรรมต่างๆ ทม่ี ีอยู่ในสงั คมชาวพทุ ธ ซง่ึ ท้งั หมดนี้ เป็นผลจากสาเหตเุ ดียวคือ การไมใ่ ช้คา� ของพระพุทธเจา้ เป็นตัวต้งั ต้น ในการศกึ ษาเลา่ เรยี น ดว้ ยศรทั ธาอยา่ งไมห่ วน่ั ไหวตอ่ องคส์ มั มาสมั พทุ ธะ ในฐานะพระศาสดา ทา่ นพระอาจารยค์ กึ ฤทธ์ิ ไดป้ ระกาศอยา่ งเปน็ ทางการวา่ “อาตมาไมม่ คี า� สอนของตวั เอง” และใช้เวลาท่ีมีอยู่ ไปกับการรับสนองพุทธประสงค์ ด้วยการโฆษณาพุทธวจน เพื่อความตั้งมนั่ แหง่ พระสทั ธรรม และความประสานเป็นหน่ึงเดยี วของชาวพุทธ เมอื่ กลบั มาใชห้ ลกั พทุ ธวจน เหมอื นทเี่ คยเปน็ ในครง้ั พทุ ธกาล สงิ่ ทเ่ี กดิ ขน้ึ คือ ความชัดเจนสอดคล้องลงตัว ในความรู้ความเข้าใจ ไม่ว่าในแง่ของหลักธรรม ตลอดจนมรรควธิ ที ต่ี รง และสามารถนา� ไปใชป้ ฏบิ ตั ใิ หเ้ กดิ ผล รเู้ หน็ ประจกั ษไ์ ดจ้ รงิ ดว้ ยตนเองทนั ที ดว้ ยเหตนุ ้ี ชาวพทุ ธทเ่ี หน็ คณุ คา่ ในคา� ของพระพทุ ธเจา้ จงึ ขยายตวั มากขึ้นเรอ่ื ยๆ เกิดเป็น “กระแสพทุ ธวจน” ซง่ึ เปน็ พลงั เงียบท่กี �าลงั จะกลายเป็น คลนื่ ลกู ใหม่ ในการกลบั ไปใชร้ ะบบการเรยี นรพู้ ระสทั ธรรม เหมอื นดงั ครง้ั พทุ ธกาล

ด้วยการขยายตวั ของกระแสพทุ ธวจนน้ี ส่อื ธรรมที่เปน็ พุทธวจน ไม่ว่า จะเป็นหนังสือ หรือซีดี ซ่ึงแจกฟรีแก่ญาติโยมเร่ิมมีไม่พอเพียงในการแจก ทั้งน้ี เพราะจ�านวนของผู้ท่ีสนใจเห็นความส�าคัญของพุทธวจน ได้ขยายตัวมากขึ้นอย่าง รวดเร็ว ประกอบกับว่าท่านพระอาจารย์คึกฤทธ์ิ โสตฺถิผโล เคร่งครัดในข้อวัตร ปฏิบัติท่ีพระศาสดาบัญญัติไว้ อันเป็นธรรมวินัยท่ีออกจากพระโอษฐ์ของตถาคต โดยตรง การเผยแผ่พุทธวจนที่ผ่านมา จึงเป็นไปในลักษณะสันโดษตามมีตามได้ เมือ่ มีโยมมาปวารณาเป็นเจา้ ภาพในการจดั พิมพ์ ไดม้ าจ�านวนเท่าไหร่ ก็ทยอยแจก ไปตามทมี่ เี ทา่ นน้ั เมอ่ื มมี า กแ็ จกไป เมอื่ หมด กค็ อื หมด เนอ่ื งจากวา่ หนา้ ทใ่ี นการดา� รงพระสทั ธรรมใหต้ ง้ั มน่ั สบื ไป ไมไ่ ดผ้ กู จา� กดั อย่แู ตเ่ พยี งพทุ ธสาวกในฐานะของสงฆ์เทา่ นนั้ ฆราวาสกลมุ่ หนึ่งซึ่งเห็นความส�าคญั ของพทุ ธวจน จงึ รวมตวั กนั เขา้ มาชว่ ยขยายผลในสงิ่ ทที่ า่ นพระอาจารยค์ กึ ฤทธ์ิ โสตถฺ ผิ โล ทา� อยแู่ ลว้ นน่ั คอื การนา� พทุ ธวจนมาเผยแพรโ่ ฆษณา โดยพจิ ารณาตดั สนิ ใจจดทะเบยี น จัดตัง้ เปน็ มลู นธิ อิ ย่างถูกตอ้ งตามกฏหมาย เพือ่ ใหก้ ารด�าเนนิ การตา่ งๆ ทง้ั หมด อยใู่ นรปู แบบทโี่ ปรง่ ใส เปดิ เผย และเปดิ กวา้ งตอ่ สาธารณชนชาวพทุ ธทวั่ ไป สา� หรับผู้ท่ีเหน็ ความสา� คัญของพุทธวจน และมคี วามประสงค์ทจี่ ะด�ารง พระสทั ธรรมใหต้ ง้ั มนั่ ดว้ ยวธิ ขี องพระพทุ ธเจา้ สามารถสนบั สนนุ การดา� เนนิ การตรงนไ้ี ด้ ดว้ ยวิธงี า่ ยๆ น่ันคอื เขา้ มาใส่ใจศึกษาพทุ ธวจน และนา� ไปใช้ปฏิบตั ดิ ้วยตนเอง เม่ือรู้ประจักษ์ เห็นได้ด้วยตนแล้ว ว่ามรรควิธีท่ีได้จากการท�าความเข้าใจ โดย ใช้ค�าของพระพุทธเจ้าเป็นตัวต้ังต้นน้ัน น�าไปสู่ความเห็นที่ถูกต้อง ในหลักธรรม อันสอดคล้องเป็นเหตุเป็นผล และเช่ือมโยงเป็นหน่ึงเดียว กระทั่งได้ผลตามจริง ทา� ใหเ้ กดิ มีจติ ศรทั ธา ในการช่วยเผยแพรข่ ยายส่ือพทุ ธวจน เพียงเท่านี้ คุณก็คอื หนง่ึ หนว่ ยในขบวน “พทุ ธโฆษณ”์ แลว้ น่คี อื เจตนารมณ์ของมูลนิธิพทุ ธโฆษณ์ นน่ั คอื เปน็ มลู นิธิแหง่ มหาชน ชาวพทุ ธ ซง่ึ ชดั เจน และมน่ั คงในพทุ ธวจน

ผูท้ ีส่ นใจรับสือ่ ธรรมทเี่ ปน็ พุทธวจน เพอ่ื ไปใชศ้ กึ ษาส่วนตัว หรือน�าไปแจกเปน็ ธรรมทาน แกพ่ ่อแมพ่ ีน่ ้อง ญาติ หรือเพื่อน สามารถมารบั ไดฟ้ รี ที่วดั นาปาพง หรือตามที่พระอาจารย์คกึ ฤทธ์ไิ ด้รบั นมิ นต์ไปแสดงธรรมนอกสถานที่ สา� หรบั รายละเอยี ดกจิ ธรรมต่างๆ ภายใตเ้ ครอื ข่ายพุทธวจนโดยวัดนาปาพง คน้ หา ขอ้ มลู ไดจ้ าก www.buddhakos.org หรือ www.watnapp.com หากมคี วามจ�านงทจ่ี ะรับไปแจกเปน็ ธรรมทานในจา� นวนหลายสิบชดุ ขอความกรุณาแจง้ ความจ�านงไดท้ ี่ มลู นธิ พิ ทุ ธโฆษณ์ ประสานงานและเผยแผ่ : เลขที่ ๒๙/๓ หมูท่ ่ี ๗ ถนนเลียบคลอง ๑๐ ฝ่ังตะวันออก ตา� บลบึงทองหลาง อา� เภอลา� ลูกกา จงั หวัดปทุมธานี ๑๒๑๕๐ โทรศพั ท์ ๐๘ ๒๒๒๒ ๕๗๙๐-๙๔, ๐๘ ๕๐๕๘ ๖๘๘๘, ๐๘ ๑๕๑๓ ๑๖๑๑ โทรสาร ๐ ๒๑๕๙ ๐๕๒๖ เวบ็ ไซต์ : www.buddhakos.org อเี มล์ : [email protected] สนบั สนนุ การเผยแผ่พุทธวจนไดท้ ี่ ชอื่ บญั ชี “มลู นธิ พิ ทุ ธโฆษณ”์ ธนาคารไทยพาณชิ ย์ สาขา คลอง ๑๐ (ธญั บรุ )ี ประเภท บัญชีออมทรัพย์ เลขทีบ่ ัญชี ๓๑๘-๒-๔๗๔๖๑-๐ วธิ ีการโอนเงนิ จากต่างประเทศ ย่นื แบบฟอร์ม คา� ขอโอนได้ท่ี ธนาคารไทยพาณชิ ย์ Account name: “Buddhakos Foundation” SWIFT CODE : SICOTHBK Branch Number : 318 Siam Commercial Bank PCL, Khlong 10(Thanyaburi) Branch, 33/14 Mu 4 Chuchat Road, Bung Sanun Sub District, Thanyaburi District, Pathum Thani 12110, Thailand Saving Account Number : 318-2-47461-0

ขอกราบขอบพระคุณแด่ พระอาจารยค์ กึ ฤทธิ์ โสตถฺ ผิ โล และคณะสงฆว์ ดั นาปา่ พง ท่กี รณุ าให้ค�าปรกึ ษาในการจดั ทา� หนังสือเลม่ น้ี ติดตามการเผยแผ่พระธรรมคา� สอนตามหลกั พทุ ธวจน โดย พระอาจารยค์ ึกฤทธ์ิ โสตฺถิผโล ไดท้ ่ี เวบ็ ไซต์ • http://www.watnapp.com : หนงั สอื และสื่อธรรมะ บนอินเทอร์เนต็ • http://media.watnapahpong.org : ศูนยบ์ ริการมลั ตมิ เี ดียวัดนาปา พง • http://www.buddha-net.com : เครือขา่ ยพุทธวจน • http://etipitaka.com : โปรแกรมตรวจหาและเทยี บเคยี งพุทธวจน • http://www.watnapahpong.com : เว็บไซตว์ ัดนาปา พง • http://www.buddhakos.org : มลู นิธิพุทธโฆษณ์ • http://www.buddhawajanafund.org : มูลนธิ ิพทุ ธวจน ดาวนโ์ หลดโปรแกรมตรวจหาและเทยี บเคยี งพทุ ธวจน (E-Tipitaka) ส�าหรบั คอมพวิ เตอร์ • ระบบปฏบิ ัตกิ าร Windows, Macintosh, Linux http://etipitaka.com/download หรอื รบั แผน่ โปรแกรมได้ทว่ี ดั นาปาพง ส�าหรับโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นทแ่ี ละแทบ็ เลต็ • ระบบปฏิบตั กิ าร Android ดาวน์โหลดได้ท่ี Play Store โดยพิมพค์ �าวา่ พทุ ธวจน หรอื e-tipitaka • ระบบปฏบิ ัตกิ าร iOS (ส�าหรับ iPad, iPhone, iPod) ดาวน์โหลดไดท้ ่ี App Store โดยพมิ พ์คา� ว่า พุทธวจน หรอื e-tipitaka ดาวนโ์ หลดโปรแกรมพุทธวจน (Buddhawajana) เฉพาะโทรศัพทเ์ คลือ่ นทีแ่ ละแทบ็ เล็ต • ระบบปฏบิ ตั กิ าร Android ดาวนโ์ หลดไดท้ ่ี Google Play Store โดยพิมพ์คา� วา่ พุทธวจน หรอื buddhawajana • ระบบปฏบิ ตั ิการ iOS (ส�าหรับ iPad, iPhone, iPod) ดาวน์โหลดได้ท่ี App Store โดยพมิ พ์คา� ว่า พทุ ธวจน หรอื buddhawajana ดาวน์โหลดโปรแกรมวทิ ยวุ ดั นาป่าพง (Watnapahpong Radio) เฉพาะโทรศพั ทเ์ คลื่อนทีแ่ ละแท็บเลต็ • ระบบปฏิบัติการ Android ดาวน์โหลดได้ท่ี Google Play Store โดยพิมพ์ค�าว่า พทุ ธวจน หรือ วทิ ยุวดั นาปาพง • ระบบปฏิบตั ิการ iOS (สา� หรับ iPad, iPhone, iPod) ดาวนโ์ หลดไดท้ ่ี App Store โดยพมิ พค์ �าว่า พทุ ธวจน หรือ วทิ ยุวัดนาปาพง วทิ ยุ • คล่ืน ส.ว.พ. FM ๙๑.๐ MHz ทุกวนั พระ เวลา ๑๗.๔๐ น.

บรรณานกุ รม พระไตรปฎิ กฉบับสยามรัฐ พระไตรปิฎกภาษาไทยฉบบั หลวง หนงั สอื ธรรมโฆษณ์ ชุดจากพระโอษฐ์ (ผลงานแปลพทุ ธวจน โดยทา่ นพุทธทาสภิกขุในนามกองตา� ราคณะธรรมทาน) รว่ มสนับสนุนการจดั ท�าโดย คณะงานธัมมะ วดั นาปา พง (กลมุ่ อาสาสมัครพทุ ธวจน-หมวดธรรม), คณะศิษยว์ ัดนาปาพง, มูลนิธิพุทธวจน, พุทธวจนสถาบันภาคกลาง, พุทธวจนสถาบันภาคเหนือ, พุทธวจนสถาบันภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, พุทธวจนสถาบันภาคตะวันออก, พุทธวจนสถาบันภาคใต้, พุทธวจนสถาบันภาคตะวันตก, กลุ่มศิษย์ตถาคต, กลุ่มสมณะศากยะปุตติยะ, กลุ่มชวนม่วนธรรม, กลุ่มละนันทิ, กลุ่มพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินบริษัทการบินไทย, กลุ่มมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่, ชมรมพุทธวจนอุดรธานี, บจก. สยามคูโบต้า คอร์ปอเรช่ัน, บจก. สยามรักษ์, บจก. เซเว่นสเต็ปส์, บจก. ห้างพระจันทร์โอสถ, สถานกายภาพบ�าบัด คิดดีคลินิค, บจก. ดีเทลส์ โปรดักส์