เร่อื ง คู่มอื การเข้าชอื่ เสนอกฎหมายโดยประชาชน ผู้เขยี น ปทั มา สบู ก�ำ ปัง ดวงจันทร์ ศริ ริ ักษโ์ สภณ ขอ้ มลู ทางบรรณานกุ รมของส�ำนกั หอสมุดแหง่ ชาต ิ National Library of Thailand Cataloging in Publication Data ปัทมา สูบก�ำปัง. คมู่ อื การเขา้ ชอื่ เสนอกฎหมายโดยประชาชน. -- กรงุ เทพฯ : สถาบนั พระปกเกลา้ , 2563. 72 หนา้ . ดวงจนั ทร์ ศิริรกั ษโ์ สภณ. ผูแ้ ต่งร่วม 1. สทิ ธิเสนอรา่ งกฎหมาย 328.22 ISBN 978-616-476-121-6 รหสั ส่งิ พมิ พ์สถาบนั สวพ. 63-40-1500.0 ลิขสิทธิข์ องสถาบันพระปกเกลา้ เอกสารนเ้ี ป็นส่วนหนึ่งของโครงการเสรมิ สร้างความเข้มแขง็ ทางดา้ นสิทธเิ สรภี าพ การมีสว่ นรว่ มและกฎหมายแก่ประชาชน ประจำ�ปีงบประมาณ 2563 ที่ปรึกษา ดร.ถวิลวดี บรุ ีกลุ พิมพค์ ร้ังที่ 1 2563 จำ�นวน 1,500 เล่ม พิมพ์ท่ี บริษัท เอ.พ.ี กราฟคิ ดีไซนแ์ ละการพมิ พ์ จำ�กัด 1/8 หมู่ 4 ต�ำ บลบางขนนุ อำ�เภอบางกรวย จังหวดั นนทบุรี 11130 โทรศัพท์ 0-2497-6840-3 โทรสาร 0-2497-6844 จัดพมิ พ์โดย สถาบนั พระปกเกล้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ อาคารรฐั ประศาสนภกั ดี ชัน้ 5 (โซนทิศใต)้ เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วัฒนะ แขวงท่งุ สองห้อง เขตหลกั สี่ กรงุ เทพฯ 10210 http://www.kpi.ac.th โทรศพั ท์ 0-2141-9597 โทรสาร 0-2143-8177 ราคา 90 บาท
คู่มือการเขา้ ช่ือเสนอกฎหมายโดยประชาชน ค�ำน�ำ 3 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มีเจตนารมณ์หลักในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและการม ี ส่วนรว่ มของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ในการรว่ มตดิ ตามตรวจสอบ และมสี ว่ นรว่ มโดยตรงในกระบวนการนติ บิ ญั ญตั ิ ดงั เชน่ มาตรา 133 (3) ก�ำหนดใหผ้ มู้ สี ทิ ธเิ ลอื กตง้ั ไมน่ อ้ ยกวา่ 10,000 คน รเิ รม่ิ เขา้ ชอื่ และน�ำเสนอ ร่างพระราชบัญญัติท่ีเกี่ยวข้องกับ หมวด 3 สิทธิเสรีภาพของปวงชน ชาวไทย หรอื หมวด 5 หนา้ ทขี่ องรฐั ตามรฐั ธรรมนญู รวมทง้ั มาตรา 256(1) ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจ�ำนวนไม่น้อยกว่า 50,000 คน ริเริ่มเข้าช่ือเสนอญัตต ิ ขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ นอกจากน้ี ประชาชนมีส่วนร่วมแสดง ความคดิ เหน็ และเสนอแนะตอ่ รา่ งกฎหมาย ตามทก่ี �ำหนดไวใ้ น มาตรา 77 ซงึ่ รฐั ธรรมนญู ก�ำหนดใหจ้ ดั รบั ฟงั กอ่ นการตรากฎหมายทกุ ฉบบั โดยทต่ี อ้ ง มกี ารวเิ คราะหผ์ ลกระทบทอี่ าจเกดิ ขน้ึ จากกฎหมายอยา่ งรอบดา้ นและเปน็
ระบบ รวมถงึ เปดิ เผยผลการรบั ฟงั ความคดิ เหน็ และการวเิ คราะหผ์ ลกระทบ ต่อประชาชน อีกท้ังให้น�ำมาใช้ประกอบการพิจารณาในกระบวนการ ตรากฎหมายทุกข้ันตอน และให้รัฐจัดประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย เมื่อบังคับใช้ไปแล้ว เพื่อพัฒนากฎหมายให้สอดคล้องกับบริบทสังคมที่ เปลย่ี นแปลงไปด้วย กลา่ วได้ว่ากฎหมายสูงสดุ ได้รบั รองและยนื ยนั สิทธ ิ และการมสี ว่ นรว่ มของประชาชนในกระบวนการนติ บิ ญั ญตั ใิ นทกุ ขนั้ ตอน การเผยแพรอ่ งคค์ วามรแู้ ละวธิ กี ารใชส้ ทิ ธดิ งั กลา่ ว เพอื่ ใหก้ ารมสี ว่ นรว่ ม ของประชาชนเป็นไปอย่างถูกต้อง มีคุณภาพและมีความหมาย และ ส่งผลเชิงบวกต่อการพัฒนากฎหมายให้สอดคล้องและตอบโจทย์สังคม จงึ เปน็ ความจ�ำเปน็ เรง่ ดว่ นทส่ี ถาบนั วชิ าการ รวมถงึ สถาบนั พระปกเกลา้ 4 และเครือข่ายภาคประชาชนตอ้ งด�ำเนนิ การรว่ มกนั “คมู่ อื การเขา้ ชอื่ เสนอกฎหมายโดยประชาชน” ฉบบั น้ี น�ำเสนอ หลกั การเหตผุ ล รวมถงึ ความจ�ำเปน็ ของการใชส้ ทิ ธแิ ละการมสี ว่ นรว่ มของ ประชาชนตอ่ กระบวนการตรากฎหมาย และไดส้ รปุ หลกั เกณฑ์ ขน้ั ตอน วิธีการในการริเริ่มเสนอกฎหมายของประชาชน ท้ังนี้ จากสาระท ่ี สรปุ จากรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช 2560 ประกอบ พระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ. 2556 ซึ่งเป็น กฎหมายฉบบั ทปี่ ระชาชนผมู้ สี ทิ ธเิ ลอื กตงั้ รว่ มกนั เขา้ ชอื่ เสนอ และรฐั สภา พจิ ารณาใหค้ วามเหน็ ชอบ ประกาศใชบ้ งั คบั เปน็ กฎหมาย รวมทง้ั แนวทาง และประสบการณ์ตรงจากการเข้าช่ือเสนอร่างพระราชบัญญัติร่วมกับ เครอื ขา่ ยภาคประชาชนของผเู้ ขยี น เพอ่ื ใหป้ ระชาชนทว่ั ไปทสี่ นใจศกึ ษา ท�ำความเข้าใจ รวมทั้งผู้มีสิทธิเลือกต้ังท่ีประสงค์จะริเร่ิมเข้าชื่อเสนอ รา่ งกฎหมายไดศ้ กึ ษาแนวทางและน�ำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นทางปฏบิ ตั ไิ ดต้ อ่ ไป
คมู่ อื การเข้าชอื่ เสนอกฎหมายโดยประชาชน 5 ผู้เขียนหวังเป็นอย่างย่ิงว่า คู่มือฉบับน้ีจะก่อให้เกิดประโยชน์ใน กระบวนการสร้างการเรียนรู้ และเปิดมุมมองไม่เฉพาะแต่ประชาชน ผู้มีสิทธิเลือกต้ังเท่านั้น แต่คาดหวังว่าสมาชิกรัฐสภา รวมถึงผู้มีบทบาท ก�ำหนดนโยบายในด้านนิติบัญญัติจะได้ตระหนักถึงความส�ำคัญและ จ�ำเป็นท่ีต้องเปิดโอกาสให้กับสิทธิและการมีส่วนร่วมของประชาชน ในกระบวนการนิติบญั ญตั ขิ องไทยอย่างแท้จรงิ ต่อไป นางสาวปัทมา สูบก�ำปงั นางสาวดวงจนั ทร์ ศริ ิรักษโ์ สภณ ส�ำนกั วิจยั และพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า
สารบญั ค�ำน�ำ 3 สารบัญ 6 ความเป็นมาของการเข้าชอ่ื เสนอกฎหมายโดยประชาชน 9 มาทำ� ความร้จู กั กบั กฎหมายเบ้ืองต้น 11 6 กฎหมายคอื อะไร 11 ใครมบี ทบาทหน้าท่อี อกกฎหมาย 11 กฎหมายมกี ี่ประเภท อะไรบา้ ง สัมพันธเ์ กีย่ วขอ้ งกัน 12 อย่างไร การริเริม่ เสนอกฎหมายโดยประชาชน 13 ท�ำไมประชาชนตอ้ งเสนอร่างกฎหมายด้วยตนเอง 13 ประชาชนกบั สทิ ธิรเิ รม่ิ เสนอร่างกฎหมายเปน็ อย่างไร 14 หลักเกณฑก์ ารริเรม่ิ เขา้ ชอื่ เสนอ “รา่ งพระราชบญั ญัต”ิ 16 และ/หรือริเริ่มเสนอ “ร่างรฐั ธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม” เปน็ อยา่ งไร เง่ือนไขส�ำคัญในการเข้าชื่อเสนอรา่ งกฎหมายเป็นอยา่ งไร 18 การเสนอ “ร่างพระราชบญั ญัต”ิ โดยประชาชน 23 การเสนอรา่ งพระราชบัญญตั ิโดยประชาชน 23 มีใครเก่ยี วขอ้ งและรับบทบาทหน้าทีอ่ ะไรบา้ ง
ค่มู อื การเข้าชอ่ื เสนอกฎหมายโดยประชาชน กฎหมายก�ำหนดหลกั เกณฑ์ กระบวนการ และวธิ ี 24 7 ปฏบิ ตั ใิ นการเสนอรา่ งพระราชบัญญัตไิ ว้อย่างไร ขนั้ ที่ 1 การริเริ่มเสนอร่างพระราชบญั ญตั ิ 30 ขั้นท่ี 2 การตรวจสอบหลักการและเน้อื หาของ 32 ร่างพระราชบัญญัติ 34 ข้ันท่ี 3 การชักชวนผู้มีสิทธิเลือกต้ังร่วมลงลายมือช่ือ 36 เข้าชอ่ื เสนอรา่ งพระราชบัญญตั ิ ขั้นท่ี 4 การยน่ื ค�ำร้องขอเข้าชอ่ื เสนอร่างพระราช 37 บญั ญัติตอ่ ประธานรฐั สภา 39 ขนั้ ท่ี 5 การตรวจสอบความถกู ต้องของเอกสาร 41 เขา้ ชื่อเสนอร่างพระราชบัญญตั ิ ขั้นที่ 6 การประกาศรายช่อื ผู้เข้าชอื่ เสนอร่าง 42 พระราชบัญญตั ิและการคดั คา้ น 44 ขน้ั ท่ี 7 การด�ำเนินการใหร้ ฐั สภาพจิ ารณา 48 50 รา่ งพระราชบญั ญตั ิ ขั้นท่ี 8 การพจิ ารณารา่ งพระราชบญั ญัตโิ ดย 54 55 สภาผู้แทนราษฎร ขน้ั ท่ี 9 การพจิ ารณาร่างพระราชบญั ญัตโิ ดยวุฒิสภา ขัน้ ท่ี 10 การประกาศใชพ้ ระราชบัญญตั ิ ขอ้ ควรทำ� ขอ้ ควรงดเว้นหรอื ข้อควรระวงั ในการเข้าชอ่ื เสนอ รา่ งพระราชบัญญัติ บรรณานกุ รม ภาคผนวก ตวั อยา่ งเอกสารประกอบการรเิ ร่ิมเสนอ ร่างพระราชบัญญัติ
สารบญั ภาพ ภาพที่ 1 ล�ำดับช้นั ของกฎหมาย 12 ภาพที่ 2 ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งกับการมีส่วนร่วมใน 20 กระบวนการตรากฎหมายของประเทศไทย 8 ภาพที่ 3 กระบวนการเข้าช่ือเสนอกฎหมายของประชาชน 26 ตามพระราชบญั ญตั วิ า่ ดว้ ยการเขา้ ชอ่ื เสนอกฎหมาย พ.ศ. 2556 ภาพท่ี 4 ขนั้ ตอนการเสนอรา่ งพระราชบญั ญตั โิ ดยประชาชน 29 ภาพที่ 5 การตรวจสอบหลกั การและเนอื้ หาของรา่ งพระราช 33 บัญญัติ ภาพท่ี 6 การชกั ชวนผมู้ สี ทิ ธเิ ลอื กตงั้ รว่ มลงลายมอื ชอื่ เขา้ ชอื่ 35 เสนอรา่ งพระราชบัญญตั ิ ภาพที่ 7 การตรวจสอบความถกู ตอ้ งของเอกสารเขา้ ชอื่ เสนอ 38 ร่างพระราชบัญญัติ ภาพที่ 8 การประกาศรายชอื่ ผเู้ ขา้ ชอื่ เสนอรา่ งพระราชบญั ญตั ิ 40 และการคดั ค้าน ภาพท่ี 9 การด�ำเนนิ การใหร้ ฐั สภาพจิ ารณารา่ งพระราชบญั ญตั ิ 41
ความเป็นมาของการเข้าช่ือ เสนอกฎหมายโดยประชาชน ประเทศไทยเร่ิมก�ำหนดสิทธิและการมีส่วนร่วมของ 9 ประชาชนในการริเริ่มเสนอกฎหมายหรือการเข้าช่ือเสนอกฎหมายโดย ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกต้ัง ต้ังแต่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 25401 ซ่ึงเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน โดยท่ีมาตรา 170 บัญญัติให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่น้อยกว่าห้าหมื่นคน มีสิทธิเข้าชื่อ ร้องขอต่อประธานรัฐสภาเพ่ือให้รัฐสภาพิจารณากฎหมายตามท่ี ก�ำหนดในหมวด 3 สิทธิเสรีภาพของปวงชนชาวไทย หรือหมวด 5 แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ ท้ังนี้ หลักเกณฑ์และวิธีการเข้าช่ือรวมท้ัง การตรวจสอบ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ ต่อมาจึงมีการตรา พระราชบญั ญตั วิ า่ ดว้ ยการเขา้ ชอื่ เสนอกฎหมาย พ.ศ.25422 ขน้ึ มา โดยมี หลักการในการเข้าช่ือโดยผู้มีสิทธิเลือกต้ัง ได้แก่ 1) ผู้มีสิทธิเลือกต้ัง 1 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540, มาตรา 170, ราชกิจจานเุ บกษา เล่มท่ี 114 ตอนท่ี 55 ก (11 ตลุ าคม 2540): 41 2 พระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าช่ือเสนอกฎหมาย พ.ศ.2542, มาตรา 7, ราชกจิ จานุเบกษา เลม่ ที่ 116 ตอนที่ 20 ก (25 มนี าคม 2542): 31-32
รว่ มกนั เขา้ ชอ่ื เสนอรา่ งพระราชบญั ญตั ิ จ�ำนวน 50,000 คน 2) แบบแสดง รายละเอียดของผู้เข้าชื่อเสนอกฎหมายและผู้แทนการเสนอกฎหมาย พร้อมท้ังส�ำเนาบัตรประจ�ำตัวประชาชน บัตรประจ�ำตัวประชาชนท่ี หมดอายุ หรอื บตั รหรอื หลกั ฐานอนื่ ใดของทางราชการทมี่ รี ปู ถา่ ยแสดงตน และส�ำเนาทะเบยี นบ้าน ต่อมารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 1633 ระบุให้ลดจ�ำนวนผู้เข้าช่ือเสนอร่างพระราชบัญญัติลง เหลือไม่น้อยกว่า 10,000 คน ในการนี้มีการเสนอแก้ไขและประกาศใช้ พระราชบญั ญตั วิ ่าด้วยการเขา้ ช่อื เสนอกฎหมาย พ.ศ.2556 ซงึ่ บังคับใช้ 10 ตอ่ เนอื่ งจนประกาศใชร้ ฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช 2560 การริเร่ิมเสนอกฎหมายของประชาชนถือได้ว่าเป็นการใช้ สิทธิเสรีภาพและมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยตรงของประชาชนตาม ครรลองของระบอบประชาธปิ ไตย ซง่ึ รายละเอยี ด วธิ กี าร และหลกั เกณฑ ์ การเข้าชื่อเสนอกฎหมายตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าช่ือเสนอ กฎหมาย พ.ศ.2556 น้ันจะไดน้ �ำเสนอในค่มู ือฉบับน้ีตอ่ ไป 3 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550, มาตรา 163, ราชกจิ จานเุ บกษา เล่มท่ี 124 ตอนที่ 47 ก (24 สงิ หาคม 2550): 61
มาท�ำความรจู้ กั กบั กฎหมายเบอ้ื งต้น 11 กฎหมายคอื อะไร กฎหมาย คือ กฎ กติกาของสังคมท่ีตราข้ึนเพ่ือวางกฎเกณฑ์ การปฏบิ ัติ ก�ำหนดบทบาท อ�ำนาจ หน้าที่ รวมถงึ ความรบั ผดิ ชอบหรือ รบั ผดิ เมอื่ มกี ารละเมดิ หรอื ฝา่ ฝนื อาจตอ้ งมคี วามรบั ผดิ หรอื โทษทางแพง่ อาญา ปกครอง หรอื บทลงโทษอน่ื ใดตามทก่ี �ำหนดไวใ้ นกฎหมายดงั กลา่ ว ใครมีบทบาทหนา้ ทอ่ี อกกฎหมาย โดยปกติแล้วรัฐสภาซึ่งเป็นองค์กรนิติบัญญัติเป็นสถาบันที่มี บทบาทอ�ำนาจหน้าที่พิจารณาเห็นชอบกฎหมาย และนายกรัฐมนตรี น�ำเสนอทลู เกลา้ เพอ่ื ทรงลงพระปรมาภไิ ธย แลว้ จงึ ประกาศใชเ้ ปน็ กฎหมาย เพ่อื บังคบั ใชใ้ นประเทศต่อไป
กฎหมายมกี ป่ี ระเภท อะไรบ้าง สมั พันธเ์ กย่ี วขอ้ งกันอย่างไร ในระบบกฎหมาย แบ่งกฎหมายออกเป็นล�ำดับชั้นจาก รัฐธรรมนญู เป็นกฎหมายสงู สุดไล่เรียงลงไปดงั ภาพตอ่ ไปน้ี รัฐธรรมนญู ภาพที่ 1 ลำดบั ชั้น กขอฎงหมาย12 พระราชบญั ญตั ิ ประกอบรฐั ธรรมนญู พระราชบญั ญัติ / พระราชกำหนด พระราชกฤษฎกี า กฎหมายลำดับรองอนื่ ๆ เช่น กฎกระทรวง กฎ ระเบยี บ ขอ้ บังคบั ประกาศ คำสั่ง ฯลฯ รฐั ธรรมนญู เปน็ กฎหมายสงู สดุ ของประเทศ กฎหมายในล�ำดบั ถดั ลงไปจะขัดหรอื แยง้ กับรฐั ธรรมนูญไมไ่ ด้ โดยหลกั กฎหมายในล�ำดับ รองๆ ลงไป ตอ้ งออกโดยอาศยั อ�ำนาจตามกฎหมายทอี่ ยใู่ นล�ำดบั สงู กวา่
การริเริ่มเสนอกฎหมาย โดยประชาชน ท�ำไมประชาชนตอ้ งเสนอ ? รา่ งกฎหมายด้วยตนเอง 13 • ประชาชนมีปัญหาเร่ืองใดเรื่องหนึ่งและประเทศไทย ยงั ไมม่ กี ฎหมายเพอื่ แกไ้ ขปญั หาในเรอ่ื งดงั กลา่ ว ประชาชน จึงตอ้ งการใหม้ ีกฎหมายเพ่ือแกไ้ ขปัญหานัน้ • บทบาทหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอาจมี ข้อจำ�กัด หรอื อาจไม่ไดเ้ สนอรา่ งกฎหมายในเร่ืองที่ ตรงกับความตอ้ งการของประชาชน • การทปี่ ระชาชนไดเ้ สนอรา่ งกฎหมายไดเ้ องนน้ั เปน็ การ เปิดโอกาสและช่องทางที่เป็นทางการในการเสนอ ประเด็นปัญหาสู่ฝ่ายนโยบาย และหน่วยงานรัฐ ทีเ่ กีย่ วขอ้ ง • เพ่อื ใหส้ ทิ ธติ ามรฐั ธรรมนญู ก�ำ หนด เป็นจริงได้ ในทางปฏบิ ัติ
ประชาชนกับสทิ ธริ เิ ร่มิ เสนอรา่ งกฎหมาย เปน็ อยา่ งไร ส�ำหรับประเทศไทย ก�ำหนดให้ “ประชาชน” ซึ่งเป็น “ผูม้ ีสทิ ธิเลือกตัง้ ” มสี ิทธิรเิ ร่ิมเสนอร่างกฎหมาย 2 ประเภท ได้แก่ (1) “รา่ งพระราชบญั ญตั ”ิ (2) “รา่ งรัฐธรรมนญู แก้ไขเพิม่ เติม” สิทธิริเริ่มเสนอร่างกฎหมายดังกล่าว สอดคล้องกับ “หลกั การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย” ซง่ึ ท�ำใหป้ ระชาชนมสี ว่ นรว่ ม 14 ในกระบวนการนิติบัญญัติได้โดยตรง ถือว่าเป็นประชาธิปไตยแบบ มสี ว่ นรว่ ม (Participatory Democracy) ทเ่ี ขา้ มาเสรมิ “ประชาธปิ ไตย ในระบบผู้แทน” (Representative Democracy) ในระบบรัฐสภาที่ ประเทศไทยยดึ ถอื อยู่ ผมู้ สี ทิ ธเิ ลอื กตงั้ ท่ี จะรเิ รม่ิ เสนอ “รา่ งพระราช ผูท้ ่ไี มไ่ ด้ไปเลอื กตง้ั บัญญัติ” และ/หรือ ริเริ่ม หรอื เสยี สทิ ธิเลอื กตงั้ เสนอ “รา่ งรฐั ธรรมนญู แกไ้ ข กย็ งั มสี ทิ ธเิ ข้าชื่อ เพ่ิมเติม” แม้เป็นผู้ท่ี “เสีย เสนอกฎหมาย ได้ สิทธิเลือกต้ัง” เนื่องจาก ไม่ได้ไปใช้สิทธิออกเสียง เลือกต้ังก็ยังคงมีสิทธิเข้าชื่อเสนอได้ โดยต้องมีผู้มีสิทธิเลือกต้ัง ร่วมกนั เข้าชื่อใหค้ รบตามจ�ำนวนทร่ี ฐั ธรรมนูญก�ำหนด
ใครมีสิทธิ 15 เข้าช่ือเสนอรา่ ง พระราชบญั ญัตบิ า้ ง คำตอบ คำถาม _ตามรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พุทธศกั ราช 2560 มาตรา 133 ระบุผู้มสี ทิ ธเิ ข้าชื่อ เสนอรา่ งพระราชบญั ญตั มิ ดี งั นี้ 1. คณะรัฐมนตรี 2. สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจำนวนไมน่ อ้ ยกวา่ 20 คน 3. ผู้มสี ิทธเิ ลือกตง้ั จำนวนไม่น้อยกวา่ 10,000 คน เขา้ ชอ่ื เสนอกฎหมายตามหมวด 3 สทิ ธเิ สรีภาพ ของปวงชนชาวไทย หรือหมวด 5 หน้าทข่ี องรัฐ ท้งั น้ี ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการเข้าช่อื เสนอกฎหมาย
หลักเกณฑ์การรเิ รม่ิ เขา้ ช่อื เสนอ “รา่ งพระราชบัญญัต”ิ และ/หรอื รเิ ร่มิ เสนอ “ร่างรัฐธรรมนญู แกไ้ ขเพิ่มเติม” เป็นอยา่ งไร 16 1. ผู้มีสิทธิเลือกต้ังจ�ำนวนไม่น้อยกว่า 10,000 คน มีสิทธิเข้าช่ือเสนอร่างพระราชบัญญัติเพ่ือให้รัฐสภาพิจารณา ให้ความเห็นชอบ ตามท่ีรัฐธรรมนูญ มาตรา 1334 กำ� หนด ดงั น้ี “มาตรา 133 รา่ งพระราชบญั ญตั ใิ หเ้ สนอตอ่ สภาผแู้ ทนราษฎร กอ่ น และจะเสนอไดก้ แ็ ตโ่ ดย (1) คณะรฐั มนตรี (2) สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรจำ� นวนไม่นอ้ ยกวา่ 20 คน 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560, มาตรา 133, ราชกิจจานเุ บกษา เล่มที่ 134 ตอนที่ 40 ก (6 เมษายน 2560): 38
(3) ผู้มีสิทธิเลือกต้ังจ�ำนวนไม่น้อยกว่า 10,000 คน เข้าชื่อ 17 เสนอกฎหมายตามหมวด 3 สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย หรือ หมวด 5 หนา้ ทขี่ องรฐั ทง้ั น้ี ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการเขา้ ชอ่ื เสนอกฎหมาย” 2. ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจ�ำนวนไม่น้อยกว่า 50,000 คน มีสิทธิเข้าช่ือเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพ่ิมเติม เพื่อให้รัฐสภา พิจารณาให้ความเห็นชอบ ตามท่ีรัฐธรรมนูญ มาตรา 2565 ดงั น้ี “มาตรา 256 ภายใต้บังคับมาตรา 255 การแก้ไขเพิ่มเติม รฐั ธรรมนญู ให้กระท�ำไดต้ ามหลักเกณฑแ์ ละวิธกี าร ดงั ตอ่ ไปนี้ (1) ญัตติขอแก้ไขเพ่ิมเติมต้องมาจากคณะรัฐมนตรี หรือจาก สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจำ� นวนไมน่ อ้ ยกวา่ หนง่ึ ในหา้ ของจำ� นวนสมาชกิ ทง้ั หมดเทา่ ทม่ี อี ยขู่ องสภาผแู้ ทนราษฎร หรอื จากสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร และสมาชกิ วฒุ สิ ภาจำ� นวนไมน่ อ้ ยกวา่ หนง่ึ ในหา้ ของจำ� นวนสมาชกิ ทง้ั หมด เท่าที่มีอยู่ของท้ังสองสภา หรือจากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจ�ำนวน ไมน่ ้อยกว่าห้าหมื่นคนตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการเขา้ ชื่อเสนอกฎหมาย” 5 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560, มาตรา 256, ราชกจิ จานเุ บกษา เล่มท่ี 134 ตอนท่ี 40 ก (6 เมษายน 2560): 76
เง่อื นไขส�ำคญั ในการเข้าช่อื เสนอร่างกฎหมายเป็นอยา่ งไร 1. รา่ งพระราชบัญญัติ 18 1.1 ประชาชนผมู้ สี ทิ ธเิ ลอื กตงั้ มสี ทิ ธริ เิ รมิ่ เสนอรา่ งพระราชบญั ญตั ิ ได้เฉพาะกรณีที่เก่ียวกับรัฐธรรมนูญ หมวด 3 “สิทธิเสรีภาพ ของปวงชนชาวไทย” ซงึ่ ประกอบดว้ ย มาตรา 25 – มาตรา 49 หรอื หมวด 5 “หน้าทีข่ องรฐั ” คือ มาตรา 50 1.2 ผู้แทนประชาชนท่ีเข้าชื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติเข้าชี้แจง หลักการเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติ ในการพิจารณาร่าง พระราชบัญญตั ิ วาระท่ี 1 ชัน้ สภาผ้แู ทนราษฎร และวุฒสิ ภา 1.3 ผู้แทนประชาชนท่ีเข้าช่ือเสนอร่างพระราชบัญญัติ ร่วมเป็น “กรรมาธิการวิสามัญ” พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ จ�ำนวน ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของจ�ำนวนกรรมาธิการวิสามัญท้ังหมด ทั้งในชัน้ สภาผู้แทนราษฎร และวฒุ สิ ภา 1.4 แนวทางการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายก�ำหนดให้รัฐจัดให้มี กลไกชว่ ยเหลอื ประชาชนในการจัดท�ำและเสนอรา่ งกฎหมาย
คมู่ ือการเข้าช่อื เสนอกฎหมายโดยประชาชน 19 2. ร่างรฐั ธรรมนญู แกไ้ ขเพิ่มเติม 2.1 ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกต้ังมีสิทธิริเร่ิมเสนอร่างรัฐธรรมนูญ แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ ภายใตห้ ลกั การอนั เปน็ ขอ้ หา้ มส�ำคญั คอื หา้ มการ แก้ไขเพ่มิ เตมิ รฐั ธรรมนญู ทีเ่ ป็นการเปลีย่ นแปลงการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ ซึ่งเป็นหลักการท่ัวไปที่ใช้ บงั คบั เชน่ เดยี วกบั การเสนอแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ รฐั ธรรมนญู จากคณะ รัฐมนตรี และสมาชิกรฐั สภา 2.2 ในช้ันพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม วาระท่ี 2 ข้ัน พิจารณาเรียงล�ำดับมาตรา ต้องเปิดโอกาสให้ผู้แทนของ ประชาชนท่ีเข้าชือ่ ได้แสดงความคดิ เหน็ ด้วย
ภาพที่ 2 1ข้นั ที่ 2ขั้นที่ ... รเิ รม่ิ เสนอร่างกฎหมาย พจิ ารณาให้ความเห็นชอบ ประชาชนผู้มีสทิ ธเิ ลือกตง้ั สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร สามารถริเรม่ิ เสนอกฎหมายใด? วาระ 1 “ขั้นรับหลกั การ” ผแู้ ทนประชาชน 1_ รา่ งพระราชบญั ญตั ิ ที่เข้าชอ่ื เสนอร่าง พ.ร.บ. ช้แี จงหลักการ เหตุผลของรา่ ง 20 ผมู้ ีสทิ ธเิ สนอ วาระ 2 “ขน้ั กรรมาธกิ าร” ผู้แทนประชาชน ทเ่ี ขา้ ช่อื เสนอรา่ งร่วมเป็นกรรมาธิการ - ครม. วิสามัญไม่นอ้ ยกว่า 1 ใน 3 ของจำนวน - ส.ส. 20 คน คณะกรรมาธกิ าร - ประชาชนผ้มู สี ทิ ธิเลือกตงั้ วาระ 3 “ลงมตเิ หน็ ชอบ” 10,000 คน วฒุ สิ ภา 2_ร่างรัฐธรรมนญู แกไ้ ข แบ่งออกเป็น 3 วาระ เชน่ เดียวกบั ส.ส. เพ่มิ เติม รัฐสภา ผู้มสี ทิ ธิเสนอ วาระ 1 “ขัน้ รับหลักการ” - ครม. วาระ 2 “ข้นั พิจารณาเรียงลำดับมาตรา” - ส.ส. 1 ใน 5 ของ ในข้ันนี้ ผแู้ ทนประชาชนทเ่ี ขา้ ชอื่ เสนอ รา่ งรฐั ธรรมนญู แกไ้ ขเพ่มิ เติม สภาผแู้ ทนราษฎร สามารถร่วมแสดงความคิดเห็นได้ - ส.ส. และ ส.ว. 1 ใน 5 วาระ 3 “ข้ันลงคะแนนเสียงโดยสมาชิก รัฐสภา” ต้องมีคะแนนเสียงเหน็ ชอบ ของรัฐสภา มากกวา่ กง่ึ หน่ึง - ประชาชนผู้มีสทิ ธิเลือกตั้ง 50,000 คน
ประชาชนผูม้ สี ิทธเิ ลือกตงั้ กบั การมีสว่ นร่วมในกระบวนการ ตรากฎหมายของประเทศไทย 3ข้นั ที่ ประกาศ 21 บังคบั ใช้ พระมหากษตั รยิ ์ เป็น ทรงลงพระปรมาภิไธย กฎหมาย พระมหากษัตรยิ ์ ทรงลงพระปรมาภไิ ธย หรอื ทรงใช้พระราชอำนาจ ยบั ยัง้ (Veto) ส่งกลบั ให้รัฐสภามมี ตยิ ืนยนั
กล่าวโดยสรุปได้ว่า ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีสิทธิและ มสี ว่ นรว่ มในกระบวนการนติ บิ ญั ญตั ไิ ดใ้ น 2 ขน้ั ตอน ไดแ้ ก่ ขน้ั ที่ 1 รเิ รม่ิ เสนอร่างกฎหมาย และข้ันที่ 2 พิจารณาให้ความเห็นชอบ ในการร่วม พิจารณาวาระ 2 ในฐานะ “กรรมาธิการวิสามัญ” หรือ “กรรมาธิการ ร่วมกัน” กรณีท่ีวุฒิสภามีมติแก้ไขเพ่ิมเติมร่างพระราชบัญญัติ แต ่ สภาผแู้ ทนราษฎรไมเ่ ห็นด้วยกบั มตดิ ังกลา่ ว ซ่ึงรายละเอียดขั้นตอนการเสนอกฎหมายในคู่มือฉบับน ้ี ท่ีจะน�ำเสนอต่อไป จะเน้นถึงการเสนอ “ร่างพระราชบัญญัติ” โดย ประชาชน 22
การเสนอ “ร่างพระราชบัญญตั ”ิ โดยประชาชน 23 การเสนอร่างพระราชบัญญัติโดยประชาชน มีใครเกยี่ วขอ้ งและรับบทบาทหน้าท่อี ะไรบ้าง ผู้ริเร่ิมเสนอกฎหมาย คือ ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ที่พบ ประเดน็ ปญั หาและด�ำเนนิ การจดั ใหม้ กี ารเขา้ ชอ่ื เสนอรา่ งพระราชบญั ญตั ิ เพ่ือเป็นช่องทางในการแก้ไขปัญหานน้ั ผู้แทนผู้เข้าช่ือเสนอกฎหมาย คือ ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกต้ัง ผู้ที่ท�ำหน้าที่เป็นผู้แทนในการชี้แจงพระราชบัญญัติและเข้าร่วมเป็น คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ เม่ือร่างพระราช บัญญัติท่ีประชาชนเสนอนั้นเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ผเู้ ขา้ ชอ่ื เสนอกฎหมาย คอื ประชาชนผมู้ สี ทิ ธเิ ลอื กตง้ั ทเี่ ขา้ ชอ่ื เสนอร่างพระราชบญั ญัติ
กฎหมายกำ� หนดหลกั เกณฑ์ กระบวนการ และ วิธีปฏิบัติในการเสนอร่างพระราชบัญญัติไว้ อยา่ งไร หลักเกณฑ์ กระบวนการ และวิธีปฏิบัติในการเสนอ ร่างพระราชบัญญัติ รวมถึงเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพ่ิมเติม เป็นไปตาม “พระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ. 2556” 24
คำถาม 25 จะศึกษาวิธีปฏิบัติ และหาเอกสาร แบบฟอร์ม เเสพนื่ออใชก้ใฎนหกมารายริเไรดม่ิ จ้ ากท่ไี หน _ในเว็บไซต์ “รฐั สภาไทย” จะมแี บบฟอร์ม/ เอกสารท่ีต้องใช้ในการรเิ ริม่ เสนอรา่ งกฎหมาย ให้ดาวน์โหลดในทุกข้นั ตอน นอกจากนี้ ยงั มขี ้อมูลทีเ่ ปน็ สาระน่ารทู้ ่เี กี่ยวกบั การเข้าชือ่ คำตอบเสนอกฎหมายอกี ดว้ ย ช่องทาง www.parliament.go.th > การเข้าชื่อเสนอกฎหมาย
วิธีการเสนอร่างพระราชบัญญัติตามพระราชบัญญัติว่าด้วย การเข้าช่ือเสนอกฎหมาย พ.ศ. 2556 มีข้ันตอนกระบวนการเข้าชื่อ เสนอกฎหมายดงั ภาพ 26 ภาพท่ี 3 กระบวนการเขา้ ชอ่ื เสนอกฎหมาย ของประชาชนตามพระราชบญั ญัติ วา่ ด้วยการเขา้ ชอ่ื เสนอกฎหมาย พ.ศ. 25566 6 รัฐสภาไทย, “แผนภาพกระบวนการเข้าช่ือเสนอกฎหมายของประชาชน ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ.2556”, https:// www.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/parliament_parcy/ewt_dl_link. php?nid=43224&filename=index (สืบค้นเม่อื 9 เมษายน 2563).
ผู้รเิ ร่มิ เสนอกฎหมายไม่น้อยกว่า 20 คน ยนื่ เรอื่ งต่อประธานรัฐสภา พรอ้ มด้วยเอกสาร ประกอบของผู้รเิ ริม่ เสนอกฎหมาย + ร่าง พ.ร.บ. พรอ้ มบนั ทึกประกอบ ประธานรัฐสภาตรวจสอบหลักการและเน้ือหาของร่าง พ.ร.บ. หลกั การไม่เปน็ ไปตามหมวด 3 หลักการเปน็ ไปตามหมวด 3 ผูร้ ิเรม่ิ แกไ้ ขร่าง พ.ร.บ. ได้ แต่ตอ้ ง หรือหมวด 5 หรอื หมวด 5 แจง้ เปน็ หนงั สอื ต่อประธานรัฐสภา พร้อมดว้ ย รา่ ง พ.ร.บ. และบันทึก ประธานรฐั สภาแจง้ เป็นหนังสือให้ ผรู้ เิ ริม่ เสนอกฎหมายยน่ื คำรอ้ งตอ่ ผ้รู ิเร่ิมทราบ ภายใน 15 วนั ประธานรัฐสภา + รายชอ่ื ผแู้ ทนผูเ้ ข้าช่อื ประกอบที่แก้ไขใหม่ นบั แต่วันที่ได้รบั เร่ือง พร้อมสง่ เรือ่ ง เสนอกฎหมายไม่เกิน 60 คน คนื ให้ผ้รู เิ รมิ่ + สำเนารา่ ง พ.ร.บ. + เอกสารประกอบ 10,000 คน (ม.9) ประธานรัฐสภาตรวจสอบเอกสารประกอบการเข้าชอ่ื เสนอกฎหมายแลว้ เสรจ็ ภายใน 45 วัน กรณีไม่ครบ 10,000 คน ครบ 10,000 คน กรณีครบ 10,000 คน แจ้งผู้ริเร่มิ ให้ยนื่ รายชอื่ เพิม่ เติม สง่ ไปใหก้ รมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ภายใน 90 วนั (ม.11) ตรวจสอบความมตี ัวตน และเป็นผู้มีสิทธเิ ลือกตั้ง ของผ้เู ข้าชอ่ื เสนอกฎหมาย ไม่ครบ 10,000 คน ไม่ครบ 10,000 คน ครบ 10,000 คน ประธานรัฐสภา ประธานรฐั สภาจัดใหม้ ีการประกาศรายชือ่ ผู้เข้าช่ือเสนอทาง สัง่ จำหนา่ ยเร่อื งดำเนินการ 1) ส่อื เทคโนโลยสี ารสนเทศ 2) ประกาศบญั ชรี ายชือ่ ให้ประชาชนตรวจสอบ คืนเรือ่ งและเอกสารท่ี ณ สำนกั งานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร เกยี่ วขอ้ งใหผ้ ู้ริเรม่ิ และ 3) หนังสือแจง้ ไปยังผู้เข้าชอื่ โดยตรง (ม.10) ไม่มีหรอื มีการคัดค้าน ผเู้ ขา้ ชือ่ เสนอกฎหมายทีม่ ไิ ด้ร่วมเขา้ ชื่อเสนอกฎหมายด้วย ยืน่ คำร้อง แต่ครบ 10,000 คน คัดคา้ นเพือ่ ใหข้ ีดฆา่ รายชื่อของตนภายใน 30 วัน นับแต่วนั ประกาศ ประธานสภาผแู้ ทนราษฎรพจิ ารณาวา่ เป็น มกี ารคัดค้านทำใหไ้ มค่ รบ 10,000 คน ร่าง พ.ร.บ. เก่ยี วด้วยการเงนิ หรือไม่ รา่ ง พ.ร.บ. ไมเ่ ก่ยี วด้วยการเงิน รา่ ง พ.ร.บ. แจง้ ผู้รเิ รม่ิ ให้ย่นื รายชื่อเพมิ่ เตมิ ครบ 10,000 คน เก่ียวด้วยการเงนิ ภายใน 90 วัน ประธานสภาผแู้ ทนราษฎร สง่ ไปให้นายกรัฐมนตรี ไมค่ รบ 10,000 คน ประธานรัฐสภาสง่ั จำหนา่ ยเรือ่ ง พจิ ารณาบรรจรุ ะเบียบวาระ พจิ ารณาใหค้ ำรบั รอง ดำเนินการคืนเรื่องและเอกสารท่ี การประชมุ เกี่ยวขอ้ งใหผ้ ู้รเิ ร่มิ
ขน้ั ตอนการเขา้ ชอื่ เสนอรา่ งพระราชบญั ญตั โิ ดยประชาชน การพจิ ารณา ใหค้ วามเห็นชอบ และการประกาศใช้ มีดงั นี้ 1. การรเิ รม่ิ เสนอรา่ งพระราชบญั ญัติ 2. การตรวจสอบหลักการและเน้ือหาของรา่ งพระราชบญั ญัติ 3. การชักชวนผู้มีสิทธิเลือกต้ังร่วมลงลายมือช่ือเข้าช่ือเสนอ รา่ งพระราชบัญญตั ิ 4. การยน่ื ค�ำรอ้ งขอเขา้ ชอื่ เสนอรา่ งพระราชบญั ญตั ติ อ่ ประธานรฐั สภา 5. การตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารการเข้าชื่อเสนอร่าง พระราชบญั ญัติ 6. การประกาศรายช่ือผู้เข้าช่ือเสนอร่างพระราชบัญญัติและ 28 การคัดคา้ น 7. การด�ำเนินการให้รัฐสภาพจิ ารณารา่ งพระราชบญั ญตั ิ 8. การพิจารณาร่างพระราชบญั ญัติโดยสภาผู้แทนราษฎร 9. การพิจารณาใหค้ วามเหน็ ชอบโดยวฒุ ิสภา 10. การประกาศใช้รา่ งพระราชบัญญัติ
ผู้ริเรมิ่ เสนอร่าง พ.ร.บ. ต่อประธานรัฐสภา ขอแก้ไข ครบ ร่าง พ.ร.บ. 10,000 ได้ คน ตรวจสอบ ชักชวน ย่ืนคำร้อง หลกั การ ผู้มสี ิทธเิ ลอื กตัง้ ขอเขา้ ชื่อเสนอ และเน้อื หา รว่ มลงลายมอื ชอื่ ของร่าง รา่ ง พ.ร.บ. พ.ร.บ. เข้าชือ่ เสนอ ตอ่ รา่ ง พ.ร.บ. ประธานรฐั สภา 29 ประกาศ รัฐสภา รายชอ่ื ผูเ้ ข้าช่อื ตรวจสอบ พจิ ารณา เสนอ รา่ ง พ.ร.บ. ความถูกตอ้ ง ร่าง พ.ร.บ. และการคดั ค้าน ของเอกสารเขา้ ช่อื เสนอ ร่าง พ.ร.บ. พิจารณา พิจารณา พระมหากษตั รยิ ์ ให้ความเห็นชอบ ให้ความเห็นชอบ ทรงลงพระปรมาภิไธย โดย โดย หรือทรงใช้ สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา พระราชอำนาจยับย้งั (Veto) ส่งกลับ ให้รัฐสภามมี ติยืนยัน ภาพท่ี 4 ขั้นตอนการเสนอ ประกาศบังคับใช้ เป็นกฎหมาย รา่ งพระราชบัญญตั ิ โดยประชาชน
ขัน้ ท่ี 1 การริเริ่มเสนอรา่ งพระราชบัญญัติ “ผรู้ เิ รมิ่ ” จ�ำนวนไมน่ อ้ ยกวา่ 20 คน ยน่ื เรอ่ื งเสนอตอ่ ประธาน รฐั สภาเพอ่ื รเิ รม่ิ เสนอรา่ งพระราชบญั ญตั ิ โดยมเี อกสารประกอบการเสนอ ดงั นี้ 11. รา่ งพระราชบญั ญตั ิ มคี วามชดั เจน บอกถงึ ความประสงคว์ า่ จะตรากฎหมายในเรอ่ื งใด แบง่ เปน็ มาตรา ทง้ั นี้ จะตอ้ งเปน็ กฎหมายทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช 2560 หมวด 3 สทิ ธแิ ละเสรภี าพของปวงชน ชาวไทย หรือหมวด 5 หนา้ ที่ของรฐั 30 22. บนั ทกึ หลกั การและเหตผุ ลในการเสนอรา่ งพระราชบญั ญตั ิ 33. บนั ทกึ วเิ คราะห์สรปุ สาระส�ำคญั 44. รายชอื่ ผรู้ เิ รมิ่ ไมน่ อ้ ยกวา่ 20 คน (แบบฟอรม์ ตามส�ำนกั งาน เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรก�ำหนด) พร้อมด้วยส�ำเนา บัตรประจ�ำตัวประชาชน หรือ บัตรประจ�ำตัวประชาชน ทห่ี มดอายุ หรอื บตั รหรอื หลกั ฐานอนื่ ใดของทางราชการ ท่ีมีรูปถ่ายสามารถแสดงตนได้และมีหมายเลขประจ�ำตัว ประชาชน
?ประชาชน 31 ผมู้ ีสิทธเิ ลือกตั้ง มีแนวคิดอยากจะจดั ทำรา่ งกฎหมาย คำถามแต่ไมร่ วู้ ่าจะเขียนอย่างไร คำตอบ _ท่านสามารถขอความชว่ ยเหลือในการจดั ทำร่างกฎหมาย โดยแจง้ ความประสงค์ไปยังสำนกั งานเลขาธกิ ารสภาผูแ้ ทน ราษฎร สำนกั งานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย หรอื หน่วยงานทม่ี ีอำนาจหนา้ ท่เี กีย่ วกับการช่วยเหลือในการจดั ทำ ร่างกฎหมาย
ขน้ั ท่ี 2 การตรวจสอบหลกั การและเนอื้ หาของ ร่างพระราชบญั ญัติ เมอ่ื ประธานรฐั สภาไดร้ บั เอกสารรเิ รมิ่ เสนอรา่ งพระราชบญั ญตั ิ แลว้ ส�ำนกั งานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร ตรวจสอบรปู แบบ หลกั การ และเนอ้ื หาวา่ เปน็ ไปตามรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช 2560 หมวด 3 หรอื หมวด 5 หรอื ไม่ โดยประธานรฐั สภาวนิ จิ ฉยั และแจง้ ผลใหผ้ ู้ริเริ่มทราบภายใน 15 วัน นับแตว่ นั ทไี่ ดร้ ับการเสนอกฎหมาย การวนิ ิจฉัย 32 1) หากไมเ่ ปน็ ไปตามหมวด 3 หรอื หมวด 5 ตอ้ งสง่ เรอ่ื งคนื ให้ ผ้รู เิ รมิ่ 2) หากเปน็ ไปตามหมวด 3 หรอื หมวด 5 ส�ำนกั งานเลขาธกิ าร สภาผแู้ ทนราษฎร สง่ ส�ำเนารา่ งพระราชบญั ญตั ิ พรอ้ มแจง้ ใหผ้ รู้ เิ รม่ิ รวบรวม รายชื่อประชาชน 10,000 ช่อื เพื่อเสนอกฎหมายตอ่ ไป หากเปน็ ไปตามหมวด 3 หรอื หมวด 5 ผรู้ เิ รม่ิ สามารถขอแกไ้ ข ร่างพระราชบัญญัติโดยแจ้งเป็นหนังสือต่อประธานรัฐสภา พร้อมด้วย รา่ งพระราชบญั ญตั แิ ละบนั ทกึ ประกอบทไี่ ดแ้ กไ้ ข ซง่ึ ตอ้ งด�ำเนนิ การแกไ้ ข ใหแ้ ลว้ เสรจ็ กอ่ นชกั ชวนผมู้ สี ทิ ธเิ ลอื กตงั้ รว่ มเขา้ ชอ่ื เสนอรา่ งพระราชบญั ญตั ิ
“สำนักงานเลขาธิการสภาผูแ้ ทนราษฎร หลักการไมเ่ ป็นไปตาม คนื เร่อื งใหผ้ ู้รเิ ริม่ ตรวจสอบเอกสาร และประธานรฐั สภา หมวด 3 หรอื หมวด 5 วินิจฉยั หลักการ ภายใน 15 วัน” หลักการเปน็ ไปตาม “สำนกั งานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร หมวด 3 หรือ หมวด 5 ส่งสำเนาร่าง พ.ร.บ. พร้อมแจ้งให้ผรู้ ิเริ่ม รวบรวมรายชอ่ื ประชาชน 10,000 คน” เพ่อื เสนอกฎหมายต่อไป ผรู้ เิ ร่ิม 33 สามารถขอแก้ไข ร่าง พ.ร.บ. ได้ ภาพที่ 5 การตรวจสอบ หลักการและเนอ้ื หาของ ร่างพระราชบญั ญัติ
ขั้นท่ี 3 การชักชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งร่วมลง ลายมือชือ่ เขา้ ชอ่ื เสนอร่างพระราชบัญญัติ เมื่อประธานรัฐสภาได้วินิจฉัยว่าร่างพระราชบัญญัติที่เสนอ มานน้ั มหี ลกั การและเนอ้ื หาเปน็ ไปตามทบี่ ญั ญตั ไิ วใ้ นหมวด 3 หรอื หมวด 5 ของรัฐธรรมนูญแล้ว ส�ำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะส�ำเนา ร่างพระราชบัญญัตินั้นให้ผู้ริเริ่มเพ่ือน�ำไปด�ำเนินการชักชวนประชาชน ผมู้ สี ทิ ธเิ ลอื กตง้ั ลงลายมอื ชอ่ื เขา้ ชอื่ เสนอรา่ งพระราชบญั ญตั ิ โดยรวบรวม รายชอ่ื ไมน่ อ้ ยกวา่ 10,000 คน โดยไมม่ กี �ำหนดระยะเวลา ทง้ั นป้ี ระชาชน ผมู้ สี ทิ ธเิ ลอื กตงั้ แมเ้ สยี สทิ ธเิ พราะไมไ่ ดไ้ ปเลอื กตง้ั กส็ ามารถเขา้ ชอ่ื เสนอ 34 ร่างพระราชบัญญัติได้ เอกสารประกอบการเข้าช่ือเสนอร่างพระราชบัญญัติมีดังน้ี 11. เอกสารการลงลายมือช่ือของผู้เข้าช่ือเสนอกฎหมาย (แบบฟอร์มตามส�ำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ก�ำหนด) ปรากฏขอ้ ความวา่ เพอ่ื เสนอรา่ ง พ.ร.บ. ...(ระบุ ชื่อร่าง พ.ร.บ.)… มีรายละเอียดช่ือ-นามสกุล หมายเลข ประจ�ำตวั ประชาชน 2. ส�ำเนาบัตรประจ�ำตัวประชาชน หรือ บัตรประจ�ำตัว ประชาชนท่ีหมดอายุ หรือ บัตรหรือหลักฐานอื่นใด ของทางราชการที่มีรูปถ่ายสามารถแสดงตนได้และมี หมายเลขประจ�ำตวั ประชาชน
ภาพที่ 6 35 การชกั ชวนผู้มีสิทธเิ ลือกต้ัง ร่วมลงลายมอื ชอ่ื เข้าชอ่ื เสนอรา่ งพระราชบญั ญัติ สำนกั งานเลขาธิการ สภาผูแ้ ทนราษฎรสำเนารา่ ง พระราชบญั ญัติใหผ้ ูร้ ิเริม่ ผรู้ ิเริ่มรณรงค์ ชักชวนประชาชน เข้าชอื่ เสนอรา่ ง พ.ร.บ. ไมน่ ้อยกว่า 10,000 คน
ขั้นท่ี 4 การย่ืนค�ำร้องขอเข้าชอ่ื เสนอ ร่างพระราชบญั ญตั ติ อ่ ประธานรฐั สภา เม่ือผู้ริเร่ิมรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกต้ังไม่น้อยกว่า 10,000 คนแล้ว ให้ยื่นค�ำร้องขอเข้าชื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติต่อ ประธานรฐั สภาพรอ้ มทงั้ เอกสารดังตอ่ ไปน้ี 11. ส�ำเนาร่างพระราชบัญญัติ บันทึกหลักการและเหตุผล ในการเสนอร่างพระราชบัญญัติ บันทึกวิเคราะห์สรุป 36 สาระส�ำคัญ 22. เอกสารการลงลายมือชื่อของผู้เข้าชื่อเสนอร่างพระราช บัญญัติ จ�ำนวนไม่น้อยกว่า 10,000 คน พร้อมส�ำเนา บตั รประจ�ำตวั ประชาชน หรอื บตั รประจ�ำตวั ประชาชนท่ี หมดอายุ หรือ บัตรหรือหลักฐานอ่ืนใดของทางราชการ ท่ีมีรูปถ่ายสามารถแสดงตนได้และมีหมายเลขประจ�ำตัว ประชาชน 33. บัญชีรายชื่อผู้แทนของผู้เข้าช่ือเสนอร่างพระราชบัญญัติ จ�ำนวนไมเ่ กิน 60 คน ตามท่ีผรู้ เิ ริ่มก�ำหนด
คมู่ อื การเข้าชื่อเสนอกฎหมายโดยประชาชน ข้ันท่ี 5 การตรวจสอบความถูกต้องของ 37 เอกสารเข้าชือ่ เสนอร่างพระราชบญั ญัติ เมื่อประธานรัฐสภาได้รับเรื่องการเข้าช่ือเสนอร่าง พระราชบัญญัติแล้ว ส�ำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบ ความถูกต้องครบถ้วนของเอกสารการเข้าช่ือเสนอร่างพระราชบัญญัติ และตรวจสอบสิทธิเลือกตั้งของประชาชนผู้เข้าชื่อเสนอร่างพระราช บัญญตั ิ ภายใน 45 วนั 11. เม่ือตรวจสอบเอกสารแล้วพบว่ามีเอกสารไม่ถูกต้อง ครบถ้วนท�ำให้จ�ำนวนผู้เข้าชื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติ ไม่ครบ 10,000 คน ประธานรัฐสภาจะแจ้งเป็นหนังสือ ให้ผู้ริเริ่มรวบรวมรายชื่อเพ่ิมเติมให้ครบ 10,000 คน ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ระบุในหนังสือแจ้ง หากไม่ ด�ำเนินการภายในระยะเวลาดังกล่าว ประธานรัฐสภา จะสงั่ จ�ำหน่ายเรอื่ งเพ่ือคืนเรอ่ื งและเอกสารให้แกผ่ ้รู เิ ร่มิ 2. เมอื่ ตรวจสอบเอกสารแลว้ พบวา่ มเี อกสารถกู ตอ้ งครบถว้ น ประธานรัฐสภาจัดให้มีการประกาศรายชอ่ื ผู้เข้าช่อื เสนอ ร่างพระราชบญั ญตั ติ อ่ ไป
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จัดใหม้ กี ารตรวจสอบเอกสารภายใน 45 วนั ไมค่ รบ 10,000 คน ครบ 10,000 คน ผู้รเิ ริ่มย่นื รายช่อื เพม่ิ เตมิ ประธานรฐั สภาจัดให้มี ภายใน 90 วัน การประกาศรายช่อื ผูเ้ ข้าช่อื เสนอร่าง พ.ร.บ. 38 ไมค่ รบ ครบ 10,000 10,000 คน คน จำหน่ายเรือ่ งและเอกสาร คืนใหแ้ กผ่ ูร้ ิเริ่ม ภาพที่ 7 การตรวจสอบความถูกต้อง ของเอกสารเข้าชอ่ื เสนอร่างพระราชบัญญตั ิ
คู่มอื การเข้าชือ่ เสนอกฎหมายโดยประชาชน 39 ข้ันที่ 6 การประกาศรายช่ือผู้เข้าช่ือเสนอ รา่ งพระราชบัญญัตแิ ละการคดั คา้ น เมอ่ื รวบรวมรายชอื่ ครบถว้ น 10,000 คนแลว้ ประธานรฐั สภา จดั ใหม้ กี ารประกาศรายชอ่ื ผเู้ ขา้ ชอ่ื เสนอรา่ งพระราชบญั ญตั ิ ในชอ่ งทาง ต่าง ๆ ดังนี้ 1. สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศของส�ำนักงานเลขาธิการ สภาผแู้ ทนราษฎร หรอื www.parliament.go.th 2. จัดท�ำบัญชีรายช่ือเพื่อให้ประชาชนตรวจสอบ ณ ส�ำนักงานเลขาธิการสภาผ้แู ทนราษฎร 3. มีหนังสือแจ้งไปยังผู้มีรายช่ือเป็นผู้เข้าช่ือเสนอร่าง พระราชบญั ญตั ิ ผู้ท่ีมีรายชื่อเป็นผู้เข้าช่ือเสนอร่างพระราชบัญญัติแต่มิได้ ร่วมเข้าช่ือด้วย มีสิทธิย่ืนค�ำร้องคัดค้านเพ่ือขีดฆ่ารายชื่อของตนเอง ออกจากบัญชีรายชอ่ื ภายใน 30 วนั นบั แตว่ นั ประกาศ กรณที ม่ี ผี คู้ ดั คา้ นแลว้ ท�ำใหร้ ายชอื่ ไมค่ รบ 10,000 คน ประธาน รฐั สภาจะมหี นงั สอื แจง้ ใหแ้ กผ่ รู้ เิ รม่ิ เพอื่ ไปรวบรวมรายชอื่ เพม่ิ เตมิ ภายใน 90 วัน นับแต่วันได้รับแจ้ง หากพ้นก�ำหนดระยะเวลาแต่ยังมิได้เสนอ รายชอื่ เพม่ิ เตมิ ใหค้ รบถว้ น ประธานรฐั สภาจะสง่ั จ�ำหนา่ ยเรอ่ื งเพอ่ื คนื เรอ่ื ง และเอกสารใหแ้ ก่ผรู้ เิ รมิ่ กรณีที่ไม่มีผู้คัดค้านหรือมีการคัดค้านแต่จ�ำนวนผู้เข้าช่ือมี จ�ำนวนไมน่ อ้ ยกวา่ 10,000 คน ประธานรฐั สภาจะน�ำรา่ งพระราชบญั ญตั ิ เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาตอ่ ไป
ประธานรัฐสภาจัดใหม้ กี ารประกาศ รายชอ่ื ผเู้ ข้าช่อื เสนอรา่ ง พ.ร.บ. ผทู้ ม่ี รี ายชื่อเปน็ ผูเ้ ข้าช่อื เสนอร่าง พ.ร.บ. แตม่ ิได้ร่วมเขา้ ชือ่ ดว้ ย มีสทิ ธยิ ืน่ คำร้องคดั คา้ นเพื่อขีดฆา่ รายช่อื ของตนเองออกจากบัญชีรายช่อื ภายใน 30 วนั ไมม่ หี รือมกี ารคดั คา้ น มีการคดั คา้ นทำให้ แตค่ รบ 10,000 คน ไม่ครบ 10,000 คน 40 ประธานรฐั สภานำร่าง แจ้งให้ผู้รเิ รม่ิ ยืน่ รายช่อื พ.ร.บ. เขา้ สกู่ ารพจิ ารณา เพม่ิ เตมิ ภายใน 90 วนั ของรัฐสภาต่อไป ไมค่ รบ 10,000 คน ครบ 10,000 คน ประธานรัฐสภาจะสั่ง ตรวจสอบเอกสาร จำหน่ายเรอื่ งเพอ่ื คืนเร่อื ง รายละเอียดดงั ขั้นตอน 5 และเอกสารให้แก่ผู้ริเร่ิม การประกาศรายชอื่ ผู้เข้าชอ่ื เสนอร่างพระราชบญั ญัติ ภาพที่ 8 และการคัดค้าน
คมู่ อื การเข้าชอ่ื เสนอกฎหมายโดยประชาชน 41 ข้ันที่ 7 การดำ� เนนิ การให้รฐั สภาพิจารณา รา่ งพระราชบญั ญตั ิ เมื่อรายช่ือผู้เข้าช่ือเสนอกฎหมายผ่านการตรวจสอบจ�ำนวน ไม่น้อยกว่า 10,000 คนแล้ว ประธานรัฐสภาด�ำเนินการให้ประธาน สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาว่าร่างพระราชบัญญัติน้ันเก่ียวด้วยการเงิน หรอื ไม่ หากรา่ งพระราชบญั ญตั เิ กยี่ วดว้ ยการเงนิ ประธานสภาผแู้ ทนราษฎร ส่งรา่ งพระราชบัญญัตใิ หน้ ายกรัฐมนตรพี ิจารณาให้ค�ำรับรองกอ่ น เมื่อนายกรัฐมนตรีพิจารณาให้ค�ำรับรองแล้ว ประธาน สภาผ้แู ทนราษฎรจะพิจารณาบรรจุเข้าระเบยี บวาระการประชุมต่อไป ประธานสภาผูแ้ ทนราษฎร พิจารณารา่ ง พ.ร.บ. ร่าง พ.ร.บ. เกย่ี วด้วย รา่ ง พ.ร.บ. ไม่เกีย่ วด้วย การเงิน การเงนิ นายกรัฐมนตรพี จิ ารณา บรรจรุ ะเบียบ ให้คำรบั รอง วาระการประชมุ สภาผแู้ ทนราษฎร นายกรฐั มนตรพี จิ ารณา ร่าง พ.ร.บ. ตกไป ไมใ่ ห้คำรบั รอง ภาพที่ 9 การดำเนินการใหร้ ัฐสภาพิจารณารา่ งพระราชบัญญัติ
ขั้นที่ 8 การพิ จารณาร่างพระราช บญั ญตั โิ ดยสภาผู้แทนราษฎร 7 เมื่อร่างพระราชบัญญัติผ่านการพิจารณาจากรัฐสภาแล้ว จึงเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร โดยแบ่งออกเป็น 3 วาระ ดงั นี้ วาระท่ี 1 “ข้ันรับหลักการ” เป็นการพิจารณาหลักการของ รา่ งพระราชบญั ญตั ิ โดยผรู้ า่ งพระราชบญั ญตั เิ ปน็ ผชู้ แ้ี จงหลกั การเหตผุ ล ตอ่ ทปี่ ระชมุ สภาผแู้ ทนราษฎร แลว้ จงึ ใหส้ มาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรอภปิ ราย สอบถามข้อสงสัย ตั้งข้อสังเกต ประธานสภาจะเปิดโอกาสให้ผู้เสนอ 42 รา่ งพระราชบญั ญตั ติ อบคำ� ถามและชแี้ จงขอ้ สงั เกต และประธานสภา จะสอบถามมตทิ ปี่ ระชมุ สภาผแู้ ทนราษฎรวา่ เหน็ ชอบหลกั การหรอื ไม่ ถา้ มี มติไม่รับหลักการ ร่างพระราชบัญญัตินั้นจะ “ตกไป” แต่หากมีมติรับ หลกั การ จะมกี ารเสนอแตง่ ตงั้ กรรมาธกิ ารเพอื่ พจิ ารณาในวาระทส่ี องตอ่ ไป วาระที่ 2 “ข้ันกรรมาธิการ” เป็นการพิจารณารายละเอียด ร่างพระราชบญั ญัตริ ายมาตรา อาจเพม่ิ ตัดทอน แกไ้ ขบางมาตรา หรือ บางถ้อยค�ำให้สมบูรณ์ยิ่งข้ึน แต่ต้องไม่ขัดแย้งกับหลักการของร่าง พระราชบญั ญตั ฉิ บบั นนั้ โดยท�ำได้ 2 แบบ คอื “คณะกรรมาธกิ ารเตม็ สภา” สภาอาจใหส้ มาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรทกุ คนรว่ มเปน็ กรรมาธกิ ารพจิ ารณา ร่างพระราชบัญญัติ หรืออาจต้ังคณะกรรมาธิการคณะใดคณะหนึ่ง ประกอบไปด้วยตัวแทนจากพรรคการเมืองต่าง ๆ ทั้งฝ่ายรัฐบาลและ 7 ปัทมา สูบก�ำปัง. (2558). การมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยตรงของประชาชน ในกระบวนการนติ บิ ญั ญตั ิ บทเรยี นจากการเขา้ ชอ่ื เสนอรา่ งพระราชบญั ญตั วิ า่ ดว้ ย การเข้าชอ่ื เสนอกฎหมาย พ.ศ. …. หนา้ 28-34
คู่มือการเขา้ ช่อื เสนอกฎหมายโดยประชาชน 43 ฝา่ ยคา้ นขน้ึ มาพจิ ารณากไ็ ด้ 8 2.1 “ข้ันพิจารณาโดยคณะกรรมาธิการ” โดยท่ัวไป สภา จะตั้งคณะกรรมาธิการมาประจ�ำสภาอยู่แล้วหลายคณะและมีสมาชิก สภาผแู้ ทนราษฎรเปน็ กรรมาธกิ ารอยู่ เรยี กวา่ “คณะกรรมาธกิ ารสามญั ” หรืออาจตั้งขึ้นใหม่เป็นการเฉพาะ เรียกว่า “คณะกรรมาธิการวิสามัญ” ซง่ึ สามารถเชญิ บคุ คลภายนอกมารว่ มเปน็ กรรมาธกิ ารได้ เชน่ มาตรา 128 ของรฐั ธรรมนญู ก�ำหนดให้ รา่ งกฎหมายทปี่ ระชาชนเสนอตอ้ งมตี วั แทน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งท่ีเข้าช่ือเสนอร่างพระราชบัญญัติน้ัน ร่วมคณะ ไมน่ อ้ ยกวา่ 1 ใน 3 ของจำ� นวนคณะกรรมาธิการวสิ ามัญ อยา่ งไรกต็ าม สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรทไี่ มไ่ ดเ้ ปน็ กรรมาธกิ าร กอ็ าจขอแกไ้ ขเพมิ่ เตมิ รา่ งพระราชบญั ญตั ไิ ด้ โดยเสนอค�ำขอ “แปรญตั ต”ิ ตอ่ ประธานคณะกรรมาธกิ ารภายใน 7 วนั หลงั จากวนั ทสี่ ภารบั หลกั การ ในวาระแรก ซ่ึงก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมาธิการว่าจะแก้ไขตามหรือไม่ ถ้าคณะกรรมาธิการไม่เห็นด้วย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้น้ันอาจขอ “สงวนค�ำแปรญัตติ” เช่นเดียวกันกับกรรมาธิการคนใดที่เห็นต่างจาก มตขิ องคณะกรรมาธกิ ารอาจขอ “สงวนความเหน็ ” ได้ 2.2 “ขนั้ พจิ ารณาโดยสภาผแู้ ทนราษฎร” เมอ่ื คณะกรรมาธกิ าร พิจารณาเสร็จแล้วต้องน�ำร่างพระราชบัญญัติเข้าท่ีประชุมสภาอีกคร้ัง โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะมาอภิปรายร่างพระราชบัญญัติน้ี อีกครั้งหน่ึง แต่ประเด็นจะจ�ำกัดอยู่ตามข้อความที่คณะกรรมาธิการ 8 ภัทริดา สุคุณณี. “ร่างพระราชบัญญัติ,” สถาบันพระปกเกล้า., http://wiki. kpi.ac.th/index.php?title=รา่ งพระราชบญั ญตั ิ (สบื คน้ เมอ่ื 17 เมษายน 2563).
มกี ารแกไ้ ข สงวนความเหน็ หรอื สงวนค�ำแปรญตั ตเิ ทา่ นนั้ และสภากจ็ ะ ลงมติเห็นชอบโดยใช้เสียงข้างมาก เรียงตามมาตราไปเรื่อย ๆ จนครบ จงึ ให้สภาพิจารณาวาระท่ีสามตอ่ ไป วาระท่ี 3 “ขนั้ ลงมตใิ หค้ วามเหน็ ชอบ” เปน็ การลงมตเิ หน็ ชอบ ร่างกฎหมายทง้ั ฉบับ ไมม่ ีการอภิปรายใด ๆ และจะแกไ้ ขข้อความใด ๆ ไม่ได้ กรณีที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่เห็นชอบร่างน้ันก็เป็นอันตกไป ถ้าสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบก็จะน�ำร่างพระราชบัญญัติไปสู่การ พิจารณาของวฒุ สิ ภาตอ่ ไป 44 ข้ันที่ 9 การพิ จารณาร่างพระราช บัญญตั โิ ดยวุฒิสภา 9 เม่ือวุฒิสภาได้รับร่างพระราชบัญญัติท่ีผ่านความเห็นชอบ จากสภาผแู้ ทนราษฎรแลว้ วุฒสิ ภาตอ้ งพิจารณาให้เสรจ็ ภายใน 60 วนั แตถ่ า้ เปน็ รา่ งพระราชบญั ญตั ทิ เี่ กย่ี วดว้ ยการเงนิ วฒุ สิ ภาตอ้ งพจิ ารณาให้ เสรจ็ ภายใน 30 วนั หากไมเ่ สรจ็ ภายในเวลาจะถอื วา่ วฒุ สิ ภาไดเ้ หน็ ชอบ ร่างพระราชบัญญัติ ท้ังนี้ วุฒิสภาสามารถลงมติขยายเวลาออกไป เป็นกรณีพิเศษซึ่งต้องไม่เกิน 30 วัน ตามท่ีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ แหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศกั ราช 2560 10 มาตรา 136 9 ปัทมา สูบก�ำปัง. (2558). การมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยตรงของประชาชน ในกระบวนการนติ บิ ญั ญตั ิ บทเรยี นจากการเขา้ ชอ่ื เสนอรา่ งพระราชบญั ญตั วิ า่ ดว้ ย การเขา้ ชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ. …. หนา้ 34-45 10 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560, มาตรา 136 - 138, ราชกิจจานเุ บกษา เลม่ ท่ี 134 ตอนท่ี 40 ก (6 เมษายน 2560)
คมู่ ือการเขา้ ช่ือเสนอกฎหมายโดยประชาชน 45 การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติโดยวุฒิสภา แบ่งออกเป็น 3 วาระ เชน่ เดียวกับสภาผู้แทนราษฎร ดังนี้ วาระท่ี 1 “ข้ันรับหลักการ” เป็นการพิจารณาและลงมติว่า จะรับร่างพระราชบัญญัติหรือไม่เห็นชอบกับสภาผู้แทนราษฎร หากท่ี ประชมุ วฒุ สิ ภามมี ตริ บั หลกั การโดยเสยี งขา้ งมากของทปี่ ระชมุ จะมกี าร เสนอแตง่ ตงั้ คณะกรรมาธกิ ารเพอื่ พจิ ารณาในวาระทสี่ องตอ่ ไป ในวาระน ี้ ผูแ้ ทนประชาชนผมู้ ีสทิ ธิเลอื กตัง้ เปน็ ผชู้ ี้แจงหลกั การตอ่ ท่ีประชุมด้วย วาระท่ี 2 “ขน้ั กรรมาธิการ” 2.1 “ข้ันพิจารณาโดยคณะกรรมาธิการ” เป็นการพิจารณา รายละเอียดร่างพระราชบัญญัติรายมาตรา หลักเกณฑ์การพิจารณา ข้ันนี้จะเหมือนกับสภาผู้แทนราษฎร กรณีเป็นร่างพระราชบัญญัติท่ี ประชาชนผมู้ สี ทิ ธเิ ลอื กตง้ั เสนอ ใหพ้ จิ ารณาโดยคณะกรรมาธกิ ารวสิ ามญั ในวาระน้ีต้องมีตัวแทนจากผู้มีสิทธิเลือกต้ังท่ีเข้าชื่อเสนอร่าง พระราชบัญญัตินั้น ร่วมคณะไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของจ�ำนวน คณะกรรมาธิการทัง้ หมด 2.2 “ขั้นพิจารณาโดยวุฒิสภา” เมื่อประธานวุฒิสภาได้รับ ร่างพระราชบัญญัติและรายงานตามข้อ 2.1 ให้ประธานวุฒิสภาบรรจุ เข้าระเบียบวาระการประชุมวุฒิสภาเป็นเรื่องด่วน โดยการพิจารณา วุฒิสภาจะพิจารณาช่ือร่าง ค�ำปรารภ แล้วพิจารณาเรียงล�ำดับมาตรา และใหส้ มาชกิ วฒุ สิ ภาอภปิ รายเฉพาะถอ้ ยค�ำ หรอื ขอ้ ความทมี่ กี ารแกไ้ ข เพม่ิ เตมิ สงวนความเห็น หรอื สงวนค�ำแปรญตั ติ
เมอ่ื พจิ ารณาเรยี งล�ำดบั มาตราจนจบรา่ งแลว้ สมาชกิ วฒุ สิ ภา สามารถขอแกไ้ ขเพมิ่ เตมิ ถอ้ ยค�ำได้ แตไ่ มส่ ามารถแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ เนอ้ื ความได ้ เวน้ แตเ่ ปน็ เนอ้ื ความทเ่ี หน็ วา่ ยงั ขดั แยง้ กนั อยู่ วาระท่ี 3 “ขนั้ ลงมตใิ หค้ วามเหน็ ชอบ” วฒุ สิ ภามฐี านะเปน็ “สภากลนั่ กรอง” กรณที ม่ี คี วามเหน็ ทแ่ี ตกตา่ งจากสภาผแู้ ทนราษฎร อ�ำนาจ ตดั สนิ ชขี้ าดเปน็ ของสภาผแู้ ทนราษฎร วฒุ สิ ภาพจิ ารณารา่ งพระราชบญั ญตั ิ แล้วสามารถลงมติได้ 3 กรณี ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พทุ ธศกั ราช 2560 มาตรา 137 คอื เหน็ ชอบ ไมเ่ หน็ ชอบ และแกไ้ ขเพมิ่ เตมิ 46 1) วุฒิสภาเห็นชอบด้วยกับสภาผู้แทนราษฎร ก็เท่ากับร่าง พระราชบัญญัติได้ผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากรัฐสภา และเตรียม เขา้ สู่ข้ันตอนประกาศใชเ้ ปน็ กฎหมายตอ่ ไป 2) วฒุ สิ ภาไมเ่ หน็ ชอบดว้ ยกับสภาผูแ้ ทนราษฎร ให้ “ยบั ยัง้ ” ร่างพระราชบัญญัติไว้ก่อนและส่งร่างพระราชบัญญัติคืนไปยัง สภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 138 สภาผแู้ ทนราษฎรจะยกรา่ งพระราชบญั ญัติขนึ้ มาพจิ ารณา ใหม่ได้เม่ือพ้น 180 วัน แต่หากเป็นร่างพระราชบัญญัติที่เกี่ยวกับ การเงนิ ให้ลดเหลือ 10 วัน กรณที วี่ ฒุ สิ ภาสง่ รา่ งพระราชบญั ญตั คิ นื ไปยงั สภาผแู้ ทนราษฎร แล้วสภาผู้แทนราษฎรน�ำกลับขึ้นมาพิจารณาและลงมติยืนยันร่างเดิม ด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหน่ึงของจ�ำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
คมู่ อื การเขา้ ชือ่ เสนอกฎหมายโดยประชาชน 47 เท่าท่ีมีอยู่ ก็ถือว่าร่างพระราชบัญญัติฉบับนั้นได้รับความเห็นชอบแล้ว ใหน้ �ำเข้าสู่ขน้ั ตอนประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป 3) ถ้าแก้ไขเพิ่มเติม ให้ส่งร่างพระราชบัญญัติท่ีแก้ไขเพิ่มเติม แล้วไปยังสภาผู้แทนราษฎร ถ้าสภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบด้วย ก็น�ำสู่ ข้นั ตอนประกาศใชเ้ ป็นกฎหมาย แต่ถ้าสภาผู้แทนราษฎรไม่เห็นด้วยให้ตั้ง “คณะกรรมาธิการ ร่วม” ของสองสภาข้ึนมาพิจารณาอีกชั้นหนึ่ง โดยคณะกรรมาธิการ มีจ�ำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาเท่ากันตามท ่ี สภาผู้แทนราษฎรก�ำหนด เมื่อคณะกรรมาธิการได้ร่วมกันพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติแล้ว ให้เสนอต่อทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ถ้าสภาทง้ั สองเหน็ ชอบ ก็น�ำสขู่ ั้นตอนประกาศใช้เปน็ กฎหมาย ถา้ สภาใดสภาหนง่ึ ไมเ่ หน็ ชอบใหย้ บั ยง้ั รา่ งพระราชบญั ญตั นิ นั้ ไวก้ อ่ น สภาผแู้ ทนราษฎรอาจยกขน้ึ มาพจิ ารณาใหมไ่ ดห้ ลงั 180 วนั โดย อาจมมี ติยนื ยันรา่ งเดิม หรือร่างท่คี ณะกรรมาธิการรว่ มกนั พิจารณากไ็ ด้
ขัน้ ท่ี 10 การประกาศใช้พระราชบัญญัติ เม่ือร่างพระราชบัญญัติได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทน ราษฎรและวฒุ สิ ภาแลว้ ถอื วา่ รฐั สภาใหค้ วามเหน็ ชอบรา่ งพระราชบญั ญตั ิ ตอ่ ไปกจ็ ะเข้าสู่ขน้ั ตอน “การประกาศใช”้ ให้นายกรัฐมนตรีรอไว้ 5 วนั ก่อนน�ำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพ่ือพระมหากษัตริย์ทรงลง พระปรมาภิไธย ซ่ึงระหว่างน้ี รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 256011 มาตรา 148 ระบุว่า 1) หากสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือสมาชิกของทั้งสองสภารวมกันไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจ�ำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าท่ีมีอยู่ของทั้งสองสภา เห็นว่า 48 ร่างพระราชบัญญัติขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ เพ่อื วนิ ิจฉยั และแจ้งใหน้ ายกรฐั มนตรีทราบ 2) หากนายกรฐั มนตรีเห็น ว่าร่างพระราชบัญญัติขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ เพ่ือวินิจฉัย และแจ้งประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานวุฒิสภา ทราบ ถา้ ศาลรฐั ธรรมนญู วนิ จิ ฉยั วา่ รา่ งพระราชบญั ญตั มิ บี ทบญั ญตั ิ ท่ีขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญให้บทบัญญัติดังกล่าวเป็นอันตกไป แต่ถ้า บทบญั ญตั นิ นั้ เปน็ หรอื กระบวนการตราพระราชบญั ญตั นิ น้ั ไมเ่ ปน็ ไปตาม ทีร่ ฐั ธรรมนูญก�ำหนดให้รา่ งพระราชบญั ญัติน้ันตกไปทงั้ ฉบบั 11 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560, มาตรา 145-148, ราชกจิ จานเุ บกษา ฉบบั กฤษฎกี า เลม่ ที่ 134 ตอนท่ี 40 ก (6 เมษายน 2560): หนา้ 43
ค่มู อื การเขา้ ชื่อเสนอกฎหมายโดยประชาชน 49 เมื่อร่างพระราชบัญญัติได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช 2560 มาตรา 145 ระบุ ใหน้ ายกรัฐมนตรีรอไว้ 5 วัน นบั แตว่ นั ได้รบั รา่ งพระราชบัญญัติ แล้วให้ นายกรัฐมนตรีน�ำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพื่อพระมหากษัตริย ์ ทรงลงพระปรมาภิไธย ภายใน 20 วัน เมื่อพระมหากษัตริย์ทรงลง พระปรมาภิไธยแล้ว ก็ให้นายกรัฐมนตรีน�ำพระราชบัญญัตินั้นประกาศ ในราชกิจจานเุ บกษาให้มีผลบังคับใช้เปน็ กฎหมายได้ รา่ งพระราชบญั ญตั ฉิ บบั ใด พระมหากษตั รยิ ไ์ มท่ รงเหน็ ชอบดว้ ย และพระราชทานคนื มายงั รฐั สภา หรอื พน้ 90 วนั แลว้ ไมไ่ ดพ้ ระราชทาน คืนมายังรัฐสภา รัฐสภาปรึกษาร่างพระราชบัญญัติน้ันใหม่ ตามมาตรา 146 ถ้ารัฐสภามีมติยืนยันตามเดิมด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของทงั้ สองสภา ให้นายกรฐั มนตรนี �ำทลู เกล้าทูลกระหม่อมถวายอีกคร้ัง เมื่อพระมหากษัตริย์มิได้ทรงลงพระปรมาภิไธยพระราชทานคืนมา ภายใน 30 วัน ให้นายกรัฐมนตรีน�ำพระราชบัญญัตินั้นประกาศใน ราชกจิ จานเุ บกษาใชบ้ งั คบั เปน็ กฎหมายได้ เสมอื นหนง่ึ วา่ พระมหากษตั รยิ ์ ได้ทรงลงพระปรมาภิไธยแลว้
ข้อควรทำ� ข้อควรงดเว้น หรือขอ้ ควรระวังในการเขา้ ชื่อ เสนอร่างพระราชบญั ญตั ิ 50 ประชาชนผู้เก่ียวข้องในการเสนอร่างพระราชบัญญัติ ได้แก่ ผู้ริเร่ิมเสนอกฎหมาย ผู้แทนผู้เข้าชื่อเสนอกฎหมาย และผู้เข้าชื่อเสนอ กฎหมายมีส่ิงท่ีควรท�ำ ควรงดเว้นหรือควรระวงั ดังนี้ ผรู้ เิ รม่ิ เสนอกฎหมาย และผแู้ ทนผเู้ ขา้ ชอื่ เสนอ กฎหมาย ผู้ริเริ่มเสนอกฎหมาย และผ้แู ทนผูเ้ ข้าช่อื เสนอกฎหมาย ขอ้ ควรทำ� - จดั ท�ำรา่ งพระราชบญั ญตั ปิ ระเดน็ เนอ้ื หาสาระของกฎหมาย - ศึกษาข้ันตอนการเสนอร่างพระราชบัญญัติ กับส�ำนักงาน เลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร จากเวบ็ ไซต์ www.parliament. go.th > การเขา้ ชอ่ื เสนอกฎหมาย
Search