ภูเก็ต มุมความรู้ภูเก็ต @ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ ๕๐ พรรษา ศูนย์รวมใจออสเตรีย-ภูเก็ต
มุมความรู้ภูเก็ต @ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ ๕๐ พรรษา ศูนย์รวมใจออสเตรีย-ภูเก็ต ประวัติความเป็นมาของจังหวัดภูเก็ต \" ภูเก็ต \" ได้มีการค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีที่บ้านกมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้ขุดพบเครื่องมือหินและขวาน หินเป็นการแสดงให้ทราบว่ามี มนุษย์อาศัยในดินแดนแถบนี้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ปี มาแล้วและได้มีหลักฐานการ กล่าวถึงดินแดนใน แถบนี้อีกครั้ง เมื่อปี พ .ศ.700 หรือ คริสต์ศตวรรษที่ 2 ในบันทึกของนักเดินเรือ ชื่อ คลอดิอุส ปโตเลมี กล่าวถึงผืนดินหรือแผ่น ดินในส่วนนี้ว่า แหลมตะโกลา เป็นผืนดินที่ถูกดันออกมาทางใต้กลายเป็นแหลมยาวๆ อยู่ส่วนปลายสุดของจังหวัดพังงา อันเนื่อง มาจากการเคลื่อนไหวของรอยเลื่อน ของเปลือกโลกขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า รอยเลื่อนคลองมารุย (Klong Marui Fault) ซึ่งวางตัว เป็นแนวยาวจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีและพังงา ลงมาทางทิศตะวันออกของภูเก็ต ต่อมาได้ถูกคลื่นลมในทะเลกัดเซาะ และตัด พื้นที่ดังกล่าวนี้ ออกจากผืนแผ่นดินใหญ่ จนกลายเป็นเกาะโดยเกิดร่องน้ำระหว่างจังหวัดภูเก็ตและพังงาขึ้น ที่เรียกว่า ช่องแคบ ปากพระ (เป็นร่องน้ำแคบ ๆ โดยส่วนที่ลึกที่สุดลึกเพียง 8-9 เมตร ) ในปัจจุบัน สำหรับการเรียกขานภูเก็ตของชาวต่างประเทศ ในอดีตนอกจากจะมีปรากฎในบันทึก เมื่อปี พ .ศ.700 ของนักเดินเรือ คลอดิอุส ปโตเลมี ที่เรียกผืนดินในบริเวณนี้ว่า แหลมตะโกลา แล้ว ได้มีปรากฎหลักฐานการกล่าวถึง ผืนดินในบริเวณนี้อีกครั้ง จากบันทึก และแผนที่การเดินเรือมาเอเชียตะวันออก ของชาติยุโรป ระหว่างพ.ศ.2054-2397 เรียกผืนดินนี้ว่า จังซีลอน นอกจากนี้ ได้มีหลักฐานเกี่ยวกับการเรียกขาน ผืนดินนี้ของชาวทมิฬ์ในปี พ.ศ.1568 ว่า มณิคราม หมายถึง เมืองแก้ว ซึ่งมีความ หมายตรงกับชื่อ ภูเก็จ ที่ปรากฎในจดหมายเหตุเมืองถลาง ฉบับที่ 1 ในปีพ.ศ .2328 และได้มีการเรียกขานเรื่อย ๆ จนกลายเป็น ภูเก็ต ซึ่งได้ปรากฎในราชกิจจานุเบกษา มาตั้งแต่ พ.ศ.2450 เป็นต้นมา ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า ชื่อของจังหวัดภูเก็ตที่ได้มีการกล่าว ขานตั้งแต่ในอดีตจนกระทั่งปัจจุบันนั้น ประกอบด้วย แหลมตะโกลา มณิคราม จังซีลอน ภูเก็จ และภูเก็ต ซึ่งในบางครั้งได้มีการ เรียกขานว่า สิลัน ถลาง และทุ่งคาร่วมด้วย คำขวัญจังหวัดภูเก็ต \" ไข่มุกอันดามัน สวรรค์เมืองใต้ หาดทราย สีทอง สองวีรสตรี บารมีหลวงพ่อแช่ม \" ต้นไม้ประจำจังหวัดภูเก็ต : ต้นประดู่ ดอกไม้ประจำจังหวัดภูเก็ต : ดอกเฟื่ องฟ้า ผู้ว่าคนปัจจุบัน : นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ที่มา http://province.m-culture.go.th/phuket/index.php/history
มุมความรู้ภูเก็ต @ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ ๕๐ พรรษา ศูนย์รวมใจออสเตรีย-ภูเก็ต ชิโนโปรตุกีส สถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีส (Chino-Portuguese Architecture) ถือกำเนิดขึ้นในดินแดนแหลมมลายูในยุค สมัยแห่งจักรวรรดินิยมของตะวันตก เมื่อประมาณปี พ.ศ.2054 ชาวโปรตุเกสได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานและทำการค้าบริเวณ เมืองท่ามะละกา และได้นำเอาศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนวิทยาการตะวันตกเข้ามาเผยแพร่ด้วย จากการที่เมืองท่า มะละกาอยู่ระหว่างปีนังและสิงคโปร์ ชาวจีนในประเทศเหล่านี้ได้นำแบบแปลนของบ้านเรือนนั้นไปดำเนินการก่อสร้าง ด้วยความรู้และประสบการณ์ เกี่ยวกับชาวจีน ทำให้ผลงานการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนเพี้ยนไปจากแบบแปลนที่ชาว โปรตุเกสได้วางไว้ โดยช่างชาวจีนได้ตกแต่งลวดลายสัญลักษณ์รวมถีงลักษณะรูปแบบบางส่วนของตัวอาคารตามคติ ความเชื่อของจีน เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวขึ้น ท่ามกลางสังคมของกลุ่มชน 3 เชื้อชาติ อันได้แก่ โปรตุเกส จีน และมา เลย์ ในดินแดนแหลมมลายูตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ชิโนโปรตุกีสเดินทางจากปีนังสู่ภูเก็ต โดยสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสเดินทางเข้าสู่ภูเก็ต เมื่อยุคสมัยของพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) เป็นสมุหเทศาภิบาลสำเร็จราชการมณฑลภูเก็ต ในช่วงปี พ.ศ. 2444 – 2456 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 เนื่องจากในช่วงนั้นภูเก็ตได้มีการติดต่อสัมพันธ์ทางการค้าขายกับปีนังอย่างเฟื่ องฟู ทำให้วัฒนธรรม วิทยาการใหม่ๆ ตลอดจนรูปแบบการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนแบบชิโนโปรตุกีสได้แพร่หลายเข้าสู่เมืองภูเก็ต ซึ่งส่วนใหญ่อาคารชิโน โปรตุกีสจะถูกสร้างขึ้นโดยนักธุรกิจชาวจีนที่มีความร่ำรวยจากการธุรกิจเมืองแร่ดีบุก อาคารเหล่านี้ตั้งอยู่ในย่านกลาง เมืองภูเก็ต เมื่อปี พ.ศ. 2537 ทางเทศบาลนครภูเก็ต รวมทั้ง หน่วยงานจากภาครัฐและองค์กรเอกชน องค์กรท้อง ถิ่นในเมืองภูเก็ต ได้ร่วมกันพัฒนาและอนุรักษ์ย่าน เมืองเก่าขึ้นมา มีการกำหนดให้พื้นที่ประมาณ 210 ไร่ ซึ่งครอบคลุมถนนรัษฎา ถนนพังงา ถนนเยาวราช ถนนกระบี่ ถนนดีบุก ถนนถลาง ถนนเทพกระษัตรี ให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมศิลปกรรม โดยออก เป็นประกาศกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้มีการควบคุมให้พื้นที่อนุรักษ์นี้ ให้มีความสูง อาคารได้ไม่เกิน 12 เมตร และยังได้ส่งเสริมให้มีการ พัฒนาอาคารในรูปแบบดั้งเดิมไว้ อย่างเช่นมีการให้ เว้นช่องทางเดินด้านหน้า และคงรูปแบบอาคาร ลักษณะจีน-โปรตุเกสไว้ เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ของ เมืองภูเก็ต ที่มา https://sites.google.com/site/chinomodernphuket/
มุมความรู้ภูเก็ต @ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ ๕๐ พรรษา ศูนย์รวมใจออสเตรีย-ภูเก็ต วัดในจังหวัดภูเก็ต วัดหลวงปู่สุภา หรือ วัดสิริสีลสุภา วัดศรีสุนทร หรือ ที่เรียกว่าวัดลิพอน วัดมงคลนิมิตร หรือ นิยมเรียกวัดนี้ ราม (วัดใหม่หลวงปู่สุภา) เป็นวัดที่มี ซึ่งเป็นวัดที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองของเกาะ ว่า “วัดกลาง” เป็นวัดที่มีความเก่า เกจิชื่อดังก็คือหลวงปู่สุภา ที่อายุถึง ภูเก็ตมามากกว่า 100 ปี ซึ่งจุดเด่น แก่วัดหนึ่ง เนื่องจากเป็นวัดที่สมัย 119 ปี ถึงแม้ว่าปัจจุบันหลวงปู่จะละ ของวันนี้ที่ต้องมา คือจุดเด่นอยู่ที่ ก่อนกษัตริย์ในช่วงรัตนโกสินทร์ตอน สังขารไปแล้ว แต่ก็ยังมีลูกศิษย์ พระนอนองค์ใหญ่บนอาคารที่เป็น ต้นเสด็จประพาส มาทำพิธี และชาว มากมายที่เคารพนับถือหลวงปู่ ต่าง ฐาน ภูเก็ตต่างนิยมนับถือว่าการมาวัดนี้ แห่มาสักการะที่วัดเพื่อ พร้อมเช่า ถือเป็นศิริมงคลสูงสุด ปัจจุบันเป็น ของขลังที่หลวงปู่เสกเพื่อเป็นสิริ วัดหลวงประจำจังหวัดของภูเก็ตอีก มงคลในชีวิต ด้วย วัดพระใหญ่ (พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาค คีรี) เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธมิ่ง มงคลเอกนาคคีรีอยู่ที่เขานาคเกิดซึ่งเป็น สถานที่ท่องเที่ยวในกลุ่มนักท่องเที่ยว ภูเก็ต ลักษณะเด่นของพระใหญ่ของที่นี่ คือ พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ เห็นได้รอบเกาะภูเก็ต ที่มา https://www.klook.com/th/blog/klook-phuket-temple/
มุมความรู้ภูเก็ต @ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ ๕๐ พรรษา ศูนย์รวมใจออสเตรีย-ภูเก็ต วัดในจังหวัดภูเก็ต วัดพระทอง หรือ วัดพระผุด เป็น วัดเขารังสามัคคีธรรม (หรือ วัดเกาะสิเหร่ เป็นวัดที่ตั้งอยู่บน วัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงวัดหนึ่งใน สำนักสงฆ์เขารัง) ตั้งอยู่บนเนินเขา ยอดเขาเกาะสิเหร่ มีวิวทิวทัศน์ที่ จังหวัดภูเก็ต เพราะมีเรื่องเล่าที่ รัง จังหวัดภูเก็ต เป็นสถานที่ปฎิบัติ สวยงาม สามารถมองเห็นวิวโดย อัศจรรย์ ที่ว่าวัดแห่งนี้ มีพระพุทธ ธรรมที่มีชื่อเสียง และมีจุดเด่นอยู่ที่ รอบของเกาะสิเหร่ได้ไกลสุดตา อยู่ รูปผุดขื้นมาครึ่งองค์ และเรื่องเล่าที่ พระพุทธรูปสีทองขนาดใหญ่ ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 4 เป็นที่กล่าวขานกันมา ทำให้วัดนี้เป็น บรรยากาศรายล้อมในวัดเต็มไปด้วย กิโลเมตร บริเวณทางเดินขึ้นไปยัง วัดที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นหนึ่งในวัดที่ แมกไม้เขียวชอุ่ม และวิวภูเขา วิหารมีพระพุทธรูปปางต่างๆ ไม่ควรพลาดที่จะมาไหว้และสักกา ประดิษฐานตามถนนขึ้นเขาโดยรอบ ระที่เกาะภูเก็ตเลยทีเดียว ของตัววัด วัดฉลอง หรือชื่อที่เรียกเป็นทางการ ก็คือ วัด ไชยธาราม เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองภูเก็ต ถ้าใคร มาภูเก็ตจะต้องมาแวะนมัสการหลวงพ่อแช่ม และวัดแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของ พระมหาธาตุ เจดีย์พระจอมไทยบารมีประกาศเป็นที่ประดิ ษฐสถานของ พระบรมสารีริกธาตุของ พระพุทธเจ้าที่นำมาจากศรีลังกาวัดฉลองแห่ง นี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในภูเก็ตอีกแห่งที่ ใครๆ ที่มาเที่ยวภูเก็ตจะต้องมาวัดแห่งนี้ ที่มา https://www.klook.com/th/blog/klook-phuket-temple/
มุมความรู้ภูเก็ต @ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ ๕๐ พรรษา ศูนย์รวมใจออสเตรีย-ภูเก็ต อาหารพื้นเมือง หมี่ฮกเกี้ยน หมี่หุ้นป้าช้าง หมี่สั่ว เป็นเส้นหมี่เหลืองเส้นใหญ่นำมาผัด เป็นหมี่ผัดแห้ง รับประทานกับน้ำซุป ซีอิ้ว โดยมากมักผัดรวมกับหมู ไก่ กระดูกหมู ที่ได้ชื่อว่าหมี่หุ้นป้าช้าง เป็นอาหารเช้าของชาวภูเก็ต มักจะขาย และผักกวางตุ้ง บางร้านจะเสริฟ เพราะ เดิมหมี่ผัด และน้ำต้มกระดูกหมู พร้อมกับผักกาดหอม หัวหอมแดง นี้ขายโดยป้าชื่อช้าง ที่โรงหนังเฉลิม พร้อมข้าวต้มหรือโจ๊ก หมี่สั่วเป็นเส้นหมี่ ผักกู้ฉ้าย ให้รับประทานคู่กัน ตัน(เดิม) ปัจจุบันคือบริเวณสี่แยกถนน เยาวราชตัดกับถนนดีบุก \"หมี่หุ้นป้า ชนิดหนึ่ง เส้นมีสีขาวขนาดเล็ก เมื่อโดน ช้าง\" ถ้าอ่านแบบสำเนียงทางใต้จะ ออกเสียงว่า \"หมี่-หุ้น-ปา-ฉ่าง\" น้ำแล้วจะมีลักษณะนิ่ม วิธีการรับ ประทาน มักจะใช้การลวกหรือต้ม ใส่หมู สับ เครื่องในหมู ไข่ไก่ ทานในลักษณะ เดียวกับต้มจืด ในอดีตมักจะปรุงหมี่สั่วให้ หญิงคลอดบุตรใหม่ๆรับประทาน เพื่อเป็น อาหารบำรุงร่างกาย ฮูแช้ สลัดผักสไตล์ภูเก็ต ฮูแช้เป็นอาหารที่มีครบทุกรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด จากรสชาติของน้ำจิ้มฮูแช้ เสิร์ฟ พร้อมกับหมี่กรอบเคี้ยวเพลิน และผักต่างๆ อีก หลายชนิดไม่ว่าจะเป็น ผักกาดหอม ถั่วงอก ผัก บุ้ง มันแกวซอย แตงกวาหั่นซอย บ้างก็มีเมล็ด ข้าวโพดต้มสุกผสมใส่ลงมาด้วย ที่มา http://province.m-culture.go.th/phuket/index.php/food
มุมความรู้ภูเก็ต @ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ ๕๐ พรรษา ศูนย์รวมใจออสเตรีย-ภูเก็ต อาหารพื้นเมือง โลบะ โอต้าว สับปะรดภูเก็ต เป็นเครื่องในหมูปรุงกับเครื่องพะโล้ ลักษณะคล้ายกับหอยทอด แต่แป้ง เป็นสับปะรดพันธุ์พื้นเมืองที่มี นำมาทอดรับประทานกับเต้าหู้ทอด จะมีลักษณะนุ่มกว่า ใช้หอยนางรม รสชาติหวานกรอบอร่อย ต่างกับ ราดน้ำจิ้ม ตัวเล็ก ผัดกับแป้ง เผือก และไข่ สับปะรดที่อื่น หาซื้อได้ที่ตลาดสด ภูเก็ต โอ๊ะเอ๋ว เป็นของหวานคล้ายวุ้นน้ำเชื่อมใส่น้ำแข็ง ทำ มาจากกล้วยน้ำว้าผสมกับสาหร่ายทะเลชนิด หนึ่ง ที่มา http://province.m-culture.go.th/phuket/index.php/food
มุมความรู้ภูเก็ต @ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ ๕๐ พรรษา ศูนย์รวมใจออสเตรีย-ภูเก็ต ประเพณีจังหวัดภูเก็ต ประเพณีไหว้เทวดา ประเพณีตรุษจีน ประเพณีสารทไทย (เดือนสิบ) เป็นการไหว้ต้อนรับ และขอบคุณ เป็นการเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ของ เป็นเดือนที่ชาวไทยมีความเชื่อว่า เทวดาที่ช่วยพิทักษ์รักษามนุษย์ คนจีน วันตรุษจีนตรงกับ วันแรกของ ยมบาลมีการปล่อยภูตผี และวิญญาณ เวลาของการไหว้จะเริ่มขึ้น หลัง เดือน 1 ของจีน หรือ เดือน 2 เดือน ต่าง ๆ ให้ออกมารับเอาส่วนบุญ จึงมี เที่ยงคืนของ วันที่ 8 เดือน 1 ของจีน 3 ทางจันทรคติ มีพิธีกรรมทั้งหมด 3 การนำของ คาวหวานต่าง ๆ มาทำบุญ ไปแล้ว หรือช่วงเวลาเริ่มต้นของ วัน วัน โดย และให้ทานกันที่วัด สำหรับขนมที่ ที่ 9 เดือน 1 ของไหว้ที่สำคัญ คือ ต้น วันแรก คือ วันที่ 29 เดือน 12 ของ สำคัญในพิธี คือ ขนมลา ขนมเทียน อ้อย 2 ต้นและของคาวหวานต่าง ๆ จีน มีการเตรียมอาหาร และ ของไหว้ ขนมท่อนใต้ ขนมต้ม ฯลฯ ตรงกับวัน ต่าง ๆ ไว้สำหรับวันรุ่งขึ้น แรม 8 ค่ำ เดือน 10 และ วันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ซึ่งแต่ละวัดจะกำหนดทำพิธี เพียงหนึ่งวัน แตกต่างกันไป ประเพณีถือศืลกินผัก เป็นการถือศีลชำระจิตใจ และงดเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์ทุก ชนิด มีระยะเวลา 9 วัน เริ่มตั้งแต่ ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 จนกระทั่ง ถึง ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ของทุกปี ซึ่งอยู่ในช่วง เดือนกันยายน- ตุลาคม เป็นงานประเพณีซึ่งชาวจีนที่เข้ามาอาศัยในภูเก็ต ยึดถือปฏิติมาช้านานตั้งแต่ พ.ศ. 2368 จนถึงทุกวันนี้ จะมี พิธีกรรมต่างๆ มากมาย อาทิ พิธีอัญเชิญพระ พิธีลุยไฟ พิธี สะเดาะเคราะห์ พิธีส่งพระ เป็นต้น งานเทศกาลนี้นับเป็นงาน ที่ได้รับความสนใจ และเลื่อมในศรัทธาทั้งจากชาวไทย และ ชาวต่างประเทศมากที่สุดงานหนึ่ง ที่มา https://www.m-culture.go.th/phuket/ewt_news.php?nid=607&filename=index
มุมความรู้ภูเก็ต @ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ ๕๐ พรรษา ศูนย์รวมใจออสเตรีย-ภูเก็ต ประเพณีจังหวัดภูเก็ต เทศกาลเช็งเม้ง ประเพณีปล่อยเต่า ประเพณีลอยเรือ ประเพณีที่สำคัญมากที่สุดของของ เป็นการทำบุญ และพระสวดมนต์ให้ เป็นพิธีสะเดาะเคราะห์ของชาวเล ชาวจีน คือ ไหว้บรรพบุรุษที่สุสาน ศีลให้พรเสร็จ ก็จะมีการปล่อยเต่า คล้ายกับพิธีลอยกระทงของชาวไทย ฮวงซุ้ย(แต้จิ๋ว) แต่คนฮกเกี้ยนเรียก ลงทะเล ณ อุทยานแห่งชาติหาดไน มีการสร้างเรือจากไม้ระกำ ตัดผมตัด ว่า บ่องป้าย เป็นการแสดงความ ยาง ในวันที่ 13 เมษายน ( วัน เล็บ และทำตุ๊กตาไม้แทนคน ใส่ลง กตัญญูต่อบรรพบุรุษ โดยมีอิทธิพล สงกรานต์ ) ของทุกปี ไปในเรือแล้วนำไปลอย เพื่อนำเอา มาจากลัทธิขงจื๊อ ที่เน้นเรื่องความ ความทุกข์โศกเคราะห์ร้ายต่างๆ กตัญญูเป็นสำคัญ ออกไปกับทะเล แล้วมีการร่ายรำ รอบเรือ หรือที่เรียกว่า รำรองเง็ง นั่นเอง งานท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร ตรงกับวันที่ 13 มีนาคมของทุกปี มีการจัดงานเฉลิม ฉลอง มีกิจกรรมต่างๆ มากมาย เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ ประวัติศาสตร์ ที่สองวีรสตรีสามารถปกป้องเมืองถลาง ให้รอดพันจากข้าศึกพม่าและสดุดีในวีรกรรมของท่าน ที่มา https://www.m-culture.go.th/phuket/ewt_news.php?nid=607&filename=index
สถานที่ท่องเที่ยว จังหวัดภูเก็ต
มุมความรู้ภูเก็ต @ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ ๕๐ พรรษา ศูนย์รวมใจออสเตรีย-ภูเก็ต หาดป่าตอง ชายหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในภูเก็ตซึ่งนักท่องเที่ยวทั่วโลกคุ้นเคยและรู้จักกันดี ด้วยความสวยงามของชายหาดที่ทอดตัวเป็นแนวยาวกินอาณาบริเวณกว้าง ผืนทราย บริเวณนี้ยังเนียนละเอียดนุ่มเท้า และสภาพคลื่นลมบริเวณชายหาดไม่รุนแรงจนเกินไป เหมาะสำหรับการเล่นกิจกรรมทางน้ำสารพัดรูปแบบ ทั้งการขับขี่เจ็ตสกี สปีดโบ๊ต ที่ สามารถเติมความสุขให้กับคนรักท้องทะเลได้ถึงขีดสุด จึงทำให้ชายหาดป่าตองแห่งนี้มี นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนเกือบตลอดทั้งปี และเป็นชายหาดที่เติบโตด้วยสิ่งอำนวยความ สะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมที่พัก ร้านค้า ร้านอาหารที่เกิดขึ้นมาอย่างหนาแน่น ขณะเดียวกันในยามแสงตะวันลับฟ้า หาดป่าตองก็ใช่ว่าจะหมดความสุขไปพร้อมกับการ อำลาของดวงอาทิตย์ เมื่อสีสันแห่งราตรีกาลของชายหาดแห่งนี้ก็เต็มไปด้วยความรื่นรมย์ ไม่แพ้กัน ไนต์ไลฟ์ของหาดป่าตองนั้นเต็มไปด้วยความครึกครื้นและจัดว่ามีชื่อเสียงมาก ที่สุดของภูเก็ต อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 15 กิโลเมตร ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 15 กิโลเมตร ตามเส้นทางถนนวิชิต สงคราม ซอยบางลา ไนท์ไลฟ์ป่าตอง ชีวิต เริ่มต้นเมื่อยามราตรี สีสันของ Nightlife บนถนนบาง ลาที่หาดป่าตองนี้ มีทั้งความครึก ครื้นและความอลังการที่เรียกได้ว่า โด่งดังระดับโลก ที่มา https://thai.tourismthailand.org/Attraction/%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%9 4%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%87
มุมความรู้ภูเก็ต @ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ ๕๐ พรรษา ศูนย์รวมใจออสเตรีย-ภูเก็ต แหลมพรหมเทพ แหลมพรหมเทพ (Laem Phromthep Phuket) เป็นแหลมที่อยู่ทางใต้สุดของเกาะภูเก็ต และเป็นจุดชม พระอาทิตย์ตกดินที่ได้รับการยกย่องว่าสวยที่สุดในประเทศไทยด้วย โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนธันวาคม จนถึงเดือนมีนาคม ที่แสงสีทองค่อย ๆ ทอประกายสาดจับผืนทะเลแลดูเป็นประกายระยิบระยับนั้น จะกลาย เป็นภาพประทับใจที่ทำให้ภูเก็ตกลายเป็นจุดหมายแห่งความทรงจำของทุกคนไปตลอดกาล จากแหลมพรหม เทพ (Phromthep Cape) มองไปด้านหน้าจะเห็นเกาะแก้ว ทางด้านซ้ายมองเห็นหาดในยะ ส่วนทางด้านขวา มองเห็นหาดในหาน ใกล้ ๆ มีต้นตาลและทุ่งหญ้าที่จะกลายเป็นทุ่งสีทองในช่วงหน้าร้อน องค์ประกอบต่าง ๆ เหล่านี้ช่วยเสริมให้แหลมพรหมเทพกลายเป็นจุดชมวิวที่สวยงามโดดเด่น มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนที่อื่น ๆ จุด เด่นของแหลมพรหมเทพ (Laem Phromthep Phuket) อีกแห่งหนึ่งคือ \"ประภาคารกาญจนาภิเษก แหลม พรหมเทพ\" ที่โดดเด่นมาแต่ไกล โดยประภาคารแห่งสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรม หาภูมิพลอดุลยเดชทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ซึ่งแสงไฟจากโคมของประภาคารนั้น สามารถมองเห็นได้ ไกลในระยะถึง 39 กิโลเมตร ส่วนภายในประภาคารยังมีการจัดแสดงนิทรรศการเรื่องราวต่าง ๆ ตั้งแต่ ประวัติการสร้างประภาคาร การรักษาเวลามาตรฐาน การคำนวณและแสดงเวลาที่ดวงอาทิตย์ขึ้น และพื้นที่บน สุดของประภาคารนั้น ยังได้รับความนิยมในฐานะเป็นจุดชมวิวแบบ \"พาโนรามา\" ที่มองเห็นวิวแบบ 360 องศา โดยไร้สิ่งใด ๆ มาบดบังอีกด้วย เป็นจุดชมวิวที่สวยงามของภูเก็ต อยู่ห่างจากหาดราไวย์ ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นแหลมที่อยู่ตอนใต้สุด ของเกาะภูเก็ต สถานที่ท่องเที่ยวใกล้ เคียง หาดราไวย์ จุดชมวิวสามอ่าว หาดในหาน หาดกะตะ หาดกะรน ที่มา https://thai.tourismthailand.org/Attraction/%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%A 5%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%80 %E0%B8%97%E0%B8%9E
มุมความรู้ภูเก็ต @ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ ๕๐ พรรษา ศูนย์รวมใจออสเตรีย-ภูเก็ต หาดไม้ขาว หาดไม้ขาว ตั้งอยู่ที่ อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต นับว่าเป็นชายหาดที่ยาว ที่สุดของจังหวัดภูเก็ต โดยแนวของหาดนั้น จะต่อจากหาดในยางผ่านสนาม บินมาเรื่อยๆ จนสุดที่หาดทรายแก้ว เป็นจุดยอดฮิตในการดูเครื่องบินแลนด์ ดิ้งใกล้ๆ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะนิยมมาถ่ายรูป นอนชิลริมหาดกันเท่านั้น ไม่นิยมเล่นน้ำ เพราะบริเวณนี้น้ำทะเลค่อนข้างลึกชายหาดแคบและตื้น ทำให้ ไม่ปลอดภัย นอกจาก หาดไม้ขาว จะมีทรายขาวละเอียดๆ แล้ว ที่นี่ก็ยังเป็นแหล่งจักจั่น ทะเลของภูเก็ตอีกด้วย โดยจักจั่นทะเลนั้น จะมีลักษณะเป็นเปลือกและขาจะ คล้ายกับกุ้ง โดยเฉพาะไข่ของจักจั่น นึกว่าไข่กุ้งเลยทีเดียว และบริเวณนี้ยังมี เต่าทะเลหลากหลายชนิด ที่จะขึ้นมาวางไข่ในทุกๆ ปีอีกด้วย หนึ่งในสถานที่เที่ยวถ่ายรูป สวย ยอดฮิต และฮิตสุดๆ ประจำ ภูเก็ต ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่าย รูปบนชายหาดสวยๆ คู่กับเครื่อง บินใกล้ๆ กัน คงจะไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นก็คือ หาดไม้ขาว นี้เองค่ะ สถานที่สุดอันซีนของการถ่ายรูป ชายหาดกับเครื่องบิน คือ ถ้า อยากได้รูปคู่เครื่องบินแบบใกล้ๆ บนหาด ที่มา https://travel.trueid.net/detail/BqxXdGV5bYpq
มุมความรู้ภูเก็ต @ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ ๕๐ พรรษา ศูนย์รวมใจออสเตรีย-ภูเก็ต พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว จากโรงเรียนสอนภาษาจีนแห่งแรกในจังหวัดภูเก็ตสู่การเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ลูกหลานชาวจีนฮกเกี้ยน ซึ่งครั้ง หนึ่งก็เคยร่ำเรียนวิชาจากโรงเรียนแห่งนี้ ได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างสรรค์ขึ้นมา เพื่อรวบรวมความเป็นมาของ ภูเก็ตตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งยังเป็นเหมือนอนุสรณสถานเตือนให้ทุกคนได้ระลึกถึงคุณงามความดีของ บรรพบุรุษ ที่สร้างสิ่งดี ๆ ไว้ให้กับลูกหลานในปัจจุบัน โดยอาคารพิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว มีลักษณะทาง สถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกีส ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2477 และผ่านการบูรณะให้มีสภาพสมบูรณ์สวยงาม ละเมียดละไม เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ชุมชน สำหรับด้านบนนั้น ยังใช้เป็นห้องเรียนภาษาจีน ส่วนด้านล่างเป็นห้อง ต่าง ๆ ที่มีนิทรรศการจัดแสดงซึ่งแบ่งออกเป็น 13 ส่วนด้วยกัน จัดแสดงตั้งแต่เรื่องราวประวัติศาสตร์ ความเป็น มาของชาวจีนฮกเกี้ยนที่เดินทางมายังภูเก็ต ความเชื่อ วิถีชีวิตประเพณี ศิลปวัฒนธรรม ความสัมพันธ์ระหว่าง ชาวจีนกับชาวภูเก็ต ตลอดจนประวัติของโรงเรียนภาษาจีนไทยหัว ซึ่งเปิดการเรียนการสอนมากว่า 60 ปี โดย นิทรรศการต่าง ๆ เหล่านี้สร้างความน่าสนใจด้วยการใช้สื่อมัลติมีเดียอันทันสมัย สนุกสนาน เข้าใจง่าย เหมาะ แก่ผู้เข้าชมทุกเพศทุกวัย นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นพื้นที่จัดกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมที่น่าสนใจมากมาย เช่น งาน ไหว้พระจันทร์ งานวิวาห์บาบ๋า เป็นต้น ที่ตั้ง : 28 ถนนกระบี่ ตำบลตลาดเหนือ อำเภอเมืองฯ จังหวัดภูเก็ต เปิด ให้เข้าชมทุกวัน ยกเว้นวันพุธและวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00-17.00 น. ค่าเช้าชม : คนไทย 50 บาท ชาว ต่างชาติ 200 บาท สอบถามข้อมูล : โทรศัพท์ 0 7621 1224 อีเมล[email protected] หรือ ทางเว็บไซต์ http://www.thaihuamuseum.com ตั้งอยู่ที่ถนนกระบี่ย่านเมืองเก่าภูเก็ต สถานที่แห่งนี้เดิมเป็นโรงเรียนสอนภาษา จีนแห่งแรกในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งชาวจีน ฮกเกี้ยนบรรพบุรุษชาวจีนรุ่นแรกที่ อพยพมาอยู่ที่ภูเก็ตได้ร่วมกันตั้งขึ้น ตัว อาคารแบบชิโนโปรตุกีสที่เห็นในปัจจุบัน นี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2477 ด้านบนยังใช้ เป็นห้องเรียนภาษาจีน ส่วนด้านล่างมัก ใช้จัดนิทรรศการต่าง ๆ อยู่เสมอ โดย เฉพาะด้านศิลปะและวัฒนธรรม ที่มา https://thai.tourismthailand.org/Attraction/%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9 E%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8%91 %E0%B9%8C%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%87% E0%B8%95%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E 0%B8%A7
มุมความรู้ภูเก็ต @ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ ๕๐ พรรษา ศูนย์รวมใจออสเตรีย-ภูเก็ต ย่านเมืองเก่าภูเก็ต ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 100 กว่าปีที่แล้ว เมืองภูเก็ตไม่ได้เป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลเหมือนทุก วันนี้ แต่เป็นเมืองที่มีทรัพยากรแร่ธาติเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะแร่ดีบุก แร่ดีบุกในสมัยนั้นเป็นแร่ที่มี ราคามาก หลายประเทศมีความต้องการใช้ในการพัฒนาประเทศเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม จากการที่มี แร่ดีบุกอยู่มาก ทำให้มีชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวตะวันตกเข้าภูเก็ตมาร่วมลงทุนในเหมืองแร่ และมีชาว จีนมาเป็นแรงงาน บ้างก็เปลี่ยนตัวเองมาเป็นนายเหมือง พ่อค้า เมืองภูเก็ตในตอนนั้นจึงมีวัฒนธรรมแบบตะวันตก และ จีนผสมอยู่ด้วย การสร้างบ้านในตอนนั้นจึง ผสมผสานสถาปัตยกรรมทั้งสองแบบเข้าด้วยกัน กลายเป็นสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีส บ้านเรือน แบบชิโนโปรตุกีส มีอยู่ด้วยกันหลายจังหวัดในภาคใต้ แต่ที่มีเยอะสุด หลายร้อยหลัง อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดก็ ต้องที่ภูเก็ต ส่วนประเทศเพื่อนบ้านเราก็มีมากที่เมืองมะละกา ประเทศมาเลเซีย คำว่าชิโน (Sino) แปลว่าจีน ส่วนโปรตุกีส ก็คือประเทศโปรตุเกสในทวีปยุโรป เมื่อรวมเป็น ชิโนโปรตุกีส ก็เป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างจีนกับยุโรปได้อย่างลงตัว การชมบ้านเมืองเก่าชิโนโปรตุกีส โดย ปกติแล้วจะนิยมไปชมที่ ถนนถลาง กระบี่ ดีบุก เยาวราช และ ซ.รมณีย์ เนื่องจากเป็นย่านที่มีบ้านเรือนแบบชิโน โปรตุกีส อยู่อย่างหนาแน่น วิธีที่ง่ายที่สุด ในการเดินชมคือการจอดรถเป็นจุดๆ แล้วเดินชม ถ่ายรูป ช่วงเวลาที่ดีที่สุดจะ เป็นช่วงเย็น เนื่องจากอากาศไม่ร้อน มี ร้านค้า ร้านอาหารหลายร้านในย่านชิโน โปรตุกีส ช่วยเพิ่มสีสัน ให้ย่านเมืองเก่ามี ชีวิตชีวา ที่มา https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%81 %E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%B2
มุมความรู้ภูเก็ต @ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ ๕๐ พรรษา ศูนย์รวมใจออสเตรีย-ภูเก็ต อนุสาวรีย์วีรสตรี (อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร) อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร ตั้งอยู่ที่สี่แยกท่าเรือ สร้างขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติวีรสตรีผู้กล้า หาญและเสียสละแห่งเมืองถลาง ในเหตุการณ์สงคราม 9 ทัพ สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬา โลก (รัชกาลที่ 1) ดังเรื่องราวที่บันทึกในประวัติศาสตร์ “ในสมัยรัชกาลที่ 1 ข้าศึก (กองทัพพม่า) ยก กองทัพเข้ามารุกรานหัวเมืองฝ่ายตะวันตกแถบชายทะเลของไทยในปี พ.ศ. 2328 โดยแบ่งกองทัพยกไป ตีเมืองกระบี่ ระนอง ชุมพร ไชยา ตลอดลงไปถึงเมืองนครศรีธรรมราช ขณะนั้นกองทัพกรุงเทพฯ ยัง ติดพันการศึกที่กาญจนบุรีจึงยกมาช่วยไม่ทัน ข้าศึกยกทัพเรือมาตีได้ตะกั่วทุ่ง ตะกั่วป่า แล้วเลยไปตั้งค่าย ล้อมเมืองถลางไว้ ขณะนั้นพระยาถลางถึงแก่กรรมยังไม่ได้ตั้งเจ้าเมืองใหม่ ภริยาเจ้าเมืองถลางชื่อจัน กับ น้องสาวชื่อมุก ได้คิดอ่านกับกรรมการทั้งปวงตั้งค่ายใหญ่ขึ้น 2 ค่าย ป้องกันรักษาเมืองเป็นสามารถ พม่า ล้อมเมืองอยู่เดือนเศษ จนหมดเสบียงจึงเลิกทัพกลับไป” พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ จึง โปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องยศให้วีรสตรีทั้งสองเป็นท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร เป็นที่น่าภาค ภูมิใจแก่ชาวภูเก็ตตลอดมา อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร เป็นสัญลักษณ์สำคัญคู่บ้านคู่เมืองภูเก็ตที่ ผู้คนนิยมมาสักการะและขอพรเพื่อความ เป็นสิริมงคลในปีพ.ศ.๒๕๐๕ นายอ้วน สุระ กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้เดินทางไป สหราชอาณาจักรและได้รับสำเนา จดหมายเหตุเมืองถลาง จากมหาวิทยาลัย ลอนดอน ประเทศอังกฤษ นำกลับมายัง จังหวัดภูเก็ต และได้มอบหมายให้นายประ สิทธิ ชิณการณ์ ปริวรรต จนทำให้เกิด แนวคิดในการสร้างอนุสาวรีย์ขึ้น อนุสาวรีย์ ฯ สร้างเมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๙ ที่มา https://srisunthon.go.th/thao-thep-kasattriand-thao-srisoontorn
มุมความรู้ภูเก็ต @ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ ๕๐ พรรษา ศูนย์รวมใจออสเตรีย-ภูเก็ต หาดกมลา หาดกมลา เป็นหาดทางตะวันตกของจังหวัดภูเก็ต เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของ จังหวัดภูเก็ต อยู่ห่างจากหาดป่าตองประมาณ 8 กิโลเมตร และจากตัวเมืองประมาณ 26 กิโลเมตร และใช้ เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงจากสนามบินภูเก็ต หาดกมลาเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงจากความ วุ่นวาย และต้องการใช้เวลาส่วนตัวกับคนในครอบครัวหรือเพื่อนฝูง หาดกมลามีหาดทรายที่ทอดยาว และบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะสำหรับวันหยุดพักผ่อนของ ครอบครัว หาดกมลาเป็นทางโค้งยาวสามารถเล่นน้ำได้ตลอดทั้งปี ทะเลมีความสงบที่สุดตั้งแต่เดือน พฤศจิกายนถึงเมษายน และมีคลื่นลมบางส่วนในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม หาดกมลาไม่มีผับ บาร์ หรือกิจกรรมกีฬาทางน้ำมากมาย จึงเป็นชายหาดในอุดมคติสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ผู้ปกครอง สามารถนอนอาบแดดในขณะที่ดูลูกๆเล่นน้ำทะเลได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องกังวลว่าเจ้าตัวเล็กจะว่าย น้ำขวางทางของนักเล่นกระดานโต้คลื่น ผู้คนยังสามารถดำน้ำตื้นในตอนเหนือของชายหาดได้ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายนถึงเมษายนของทุกปี แต่เป้าหมายของคนส่วนใหญ่ที่มาหาดกมลาคือการพักผ่อนหรือหาจุดที่ เหมาะสมในการนอนเล่นบนชายหาดภายใต้แสงแดด หาดกมลามีร้านอาหารมากมายตามชายหาด ที่มีทั้ง อาหารไทย อาหารฝรั่ง สลัด ไก่สะเต๊ะ แกงกะหรี่ และอื่นๆ อีกมากมาย หาดกมลาคึกคักในช่วงกลางคืนเพราะ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทยอยมาชมการแสดงที่ภูเก็ตแฟนตาซี ซึ่งรวมการแสดงไทยดั้งเดิมระดับ ประเทศ กับฉากอันตระการตา กายกรรม และการแสดงช้าง นอกจากนี้ยังมีอาหาร เย็นและร้านค้าที่มีสินค้าหลากหลายให้ เลือกซื้อ ที่มา https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%81 %E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%B2
มุมความรู้ภูเก็ต @ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ ๕๐ พรรษา ศูนย์รวมใจออสเตรีย-ภูเก็ต หาดกะตะ หาดกะตะ เป็นหาดเล็กๆ อยู่ทางภูเก็ตตอนใต้ มีความคึกคักเป็นอันดับสองรองจากหาดป่าตอง หาดแห่งนี้รายล้อมไปด้วย ร้านอาหารและที่พักมากมาย ชายหาดสามารถลงเล่นน้ำได้คลื่นไม่แรง ว่ากันว่าในอดีตบริเวณหาดแห่งนี้เป็นจุดตากข้าวของ พ่อตายมดึงส์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพนับถือของชาวกะตะกะรน คำว่า \"กะตะ\" คือคำที่เพี้ยนมาจาก \"ตาก\" นั่นเอง หากยืนอยู่ ที่หาดกะตะโดยหันหน้าออกทะเลจะเห็นเกาะปูอยู่ด้านหน้า เป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่อยู่คู่กับหาดกะตะมาเนิ่นนาน หาดกะตะมีพื้นที่ชายหาดยาวประมาณ 1.5 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นอ่าวโค้งเว้าคล้ายพระจันทร์เสี้ยว เรียงรายไปด้วย โรงแรม รีสอร์ต บริเวณชายหาดมีต้นปาล์มขึ้นเป็นแนวตามชายหาด หาดกะตะแบ่งออกเป็น 2 หาด ได้แก่ กะตะใหญ่ และกะตะ น้อย หาดทั้งสองนี้อยู่ห่างกันประมาณ 500 เมตร โดยมีแหลมหินคั่นกลาง เมื่อเอ่ยถึงหาดกะตะโดยทั่วไปจะหมายถึงหาดกะตะ ใหญ่ อ่าวกะตะ หรืออ่าวกะตะใหญ่ เป็นหาดที่มีน้ำทะเลใส หาดทรายขาวละเอียด และมีแนวปะการังที่สวยงามต่อเนื่องกันไป จนถึงเกาะปูซึ่งอยู่ด้านหน้าหาด หาดแห่งนี้ถือเป็นเกาะสวรรค์ของคนชอบการดำน้ำและเล่นเซิร์ฟ บริเวณเหนือหาดเป็นที่ตั้ง ของโรงแรมที่พักหลากหลาย ร้านอาหาร สถานบันเทิง บริษัทนำเที่ยว ด้วยความหลากหลายและครบครันนี้จึงทำให้มีนักท่อง เที่ยวเดินทางมาเที่ยวอ่าวแห่งนี้กันอย่างคึกคักตลอดทั้งปี ซึ่งนอกจากความสวยงามของหาดทรายขาวและน้ำทะเลใสแล้ว สิ่งหนึ่งที่สร้างความทรงจำและประทับใจให้แก่นักท่อง เที่ยวได้เป็นอย่างดีคือความสวยงามในยามพระอาทิตย์ตก ที่พระอาทิตย์สีส้มดวงกลมโตจะค่อยๆ หย่อนตัวลงในผืนน้ำทะเลที่ ฉาบไปด้วยแสงสีทองในทุกๆ เย็นที่นักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็นและดื่มด่ำไปกับความงดงามนี้ได้ทั้งจากที่อ่าวกะตะใหญ่ และอ่าวกะตะน้อย หาดกะตะ (Kata Beach) หนึ่งในหาดที่ ขึ้นชื่อในเรื่องของน้ำทะเลที่ใสสะอาด เม็ดทรายขาวนุ่มละเอียด และเป็นสถาน ที่เล่นกระดานโต้คลื่น หรือเซิร์ฟ (Surf) ที่มีชื่อเสียงของภูเก็ต เพียบพร้อมไปด้วย ความสวยงามของธรรมชาติและสิ่ง อำนวยความสะดวก ดึงดูดให้นักท่อง เที่ยวเดินทางมาใช้เวลาพักผ่อน ทำ กิจกรรมทางน้ำที่นี่ สร้างความคึกคัก ตลอดทั้งปี ที่มา https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=241
มุมความรู้ภูเก็ต @ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ ๕๐ พรรษา ศูนย์รวมใจออสเตรีย-ภูเก็ต เกาะเฮ สวรรค์ของคนรักทะเล ต้องเทใจให้ “เกาะเฮ” จังหวัดภูเก็ต เกาะที่เพียบพร้อมไปด้วยเสน่ห์ของน้ำทะเลใส หาดทรายขาว ปะการังสวย แถมยังมีกิจกรรมในแบบ ECO เอาใจสายรักษ์โลก อย่าง 5 กิจกรรมทางทะเลแบบไร้เครื่องยนต์ ให้ทุกคนได้สนุกไปกับธรรมชาติแต่ไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม ว่าแล้วก็หาข้อมูล เตรียม ตัวไว้ก่อนจะไปฮาเฮริมชายหาดกัน! Snorkelling เห็นน้ำทะเลใสแจ๋วอยู่ตรงหน้า ใครจะอดใจไหว รีบคว้าหน้ากากลงไปดำผุดดำว่ายกับสหายปลาเล็กปลาน้อย อยู่ กับความเงียบใต้ท้องทะเล และลืมเรื่องเครียด ๆ กัน Sunbathe เทรนด์ผิวแทนรับซัมเมอร์กำลังมา น่าปูผ้านั่งชิลบนผืนทรายหรือจับจองเก้าอี้ริมชายหาด ใช้เวลาไปกับการอ่าน หนังสือ ฟังเพลง หรือนอนอาบแดดฟังเสียงคลื่น Clear Kayak มิติใหม่ของการพายคายักที่ให้ความรู้สึกเหมือนลอยได้ กับ คายักท้องใส หรือ Clear Kayak จะได้เพลินไปกับการ นั่งมองปลาแหวกว่ายใต้ท้องเรือ หรือพายสำรวจเกาะชมความสมบูรณ์ของธรรมชาติ คายักท้องใสนับเป็นหนึ่งในกิจกรรมยอด ฮิตของเกาะเฮ ที่มีให้บริการแก่นักท่องเที่ยว Floating on Donut ห่วงยางเล่นน้ำไม่ใช่เรื่องของเด็ก ๆ อีกต่อไป แต่เป็นสิ่งที่สาว ๆ ต้องมี เพราะห่วงยางสมัยนี้ดีไซน์เก๋ไก๋ทั้ง รูปทรงโดนัท นกฟลามิงโก้ แตงโม เหมาะกับการเป็นพร็อพเพิ่มสีสันให้ท้องทะเล และยังเป็นเบาะลอยน้ำให้สาว ๆ เล่นน้ำกัน แบบน่ารักสุด ๆ Discovery Scuba Diving ความท้าทายอีกขั้นที่มาพร้อมกับความงามขั้นกว่า กับคอร์สเปิดโลกดำน้ำลึก หรือ สกูบา ไดฟ์วิ่ง สำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ ตั้งแต่ทำความรู้จักอุปกรณ์ไปจนถึงลงทะเลกับกูรู ด่ำดิ่งไปอยู่อีกโลกที่เต็มไปด้วยสีสัน ของปะการัง เกาะเฮ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของ แหลมพันวา เป็นเกาะหนึ่งในเขตรักษา พืชพันธุ์ของกรมประมง บนเกาะมี 2 หาด อยู่ทางด้านเหนือและด้านตะวัน ออก หาดทรายขาวละเอียด มีแนว ปะการังจากหาดระยะทาง 100 เมตร และเป็นเกาะที่เหมาะสำหรับดำน้ำ บน เกาะมีสถานที่พัก ร้านอาหาร และ บริการกีฬาทางน้ำ สามารถเช่าเรือ หางยาวหรือเรือเร็วได้ทั้งจากหาดราไวย์ และอ่าวฉลอง หรือติดต่อบริษัทนำเที่ยว แบบวันเดย์ทัวร์บริเวณท่าเรือฉลอง ที่มา https://thai.tourismthailand.org/Attraction/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B 2%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%AE
มุมความรู้ภูเก็ต @ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ ๕๐ พรรษา ศูนย์รวมใจออสเตรีย-ภูเก็ต ภูเก็ตแฟนตาซี ภูเก็ต แฟนตาซี ตั้งอยู่บริเวณหาดกมลา เป็นแหล่งบันเทิงยามราตรี ที่มีการนำเสนอศิลป วัฒนธรรมไทยด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง อาณาจักรความบันเทิงยามราตรีระดับโลกพร้อมต้อนรับทุกคนด้วยศิลปวัฒนธรรมไทยที่ ผสมผสานกับเทคโนโลยีชั้นสูง สร้างความตระการตาน่าชมยิ่งนัก ที่นี่คุณจะได้ชมการแสดง ความเป็นไทย 9 มโนทัศน์ ที่ถ่ายทอดด้วยเทคนิคพิเศษระดับโลกจากศิลปะประยุกต์ผสม ผสานเอกลักษณ์ไทยที่เต็มไปด้วยความวิจิตรอลังการ โดยการแสดงนั้นประกอบด้วยการแสดง ประเพณีและวัฒนธรรมไทยประยุกต์ เทคนิคเมนิกอิลูชั่น การแสดงกายกรรม การแสดง คาราวานควาญช้าง เทคนิคการแสดงระเบิดเถิดเทิง การแสดงสตั๊นต์ผาดโผน การแสดงเหิน เวหา ระบบ 4 มิติพิศวง เทคนิคสเปเชียลเอฟเฟก และไฮไลต์ที่สุดของที่สุดคือ การแสดง \"มหัศจรรย์กมลา\" ซึ่งเป็นการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยผสมผสานเทคนิคพิเศษระดับโลกจา กลาสเวกัส โดยมีการเพิ่มความอลังการให้กับสองฉากมากยิ่งขึ้น ได้แก่ ฉากบวงสรวงและฉาก เปิดตัวของเจ้าชายกมลา ปฐมบทแห่งตำนานสอดประสานลีลาท่วงท่า การเต้นเข้ากับแสงสีอันตื่นตาตื่นใจ สะกดทุกสายตาของผู้ชมที่จับจ้อง ราวกับต้องมนตร์ และพาทุกคนโลดแล่น ไปกับโลกแห่งจินตมายาของความ มหัศจรรย์ในศิลปวัฒนธรรมไทย นอกจากนี้บริเวณภายในยังมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกและหัตถกรรมไทย ห้องเกม ที่อยู่ภายใต้อาคารทรงไทย ประยุกต์ลักษณะต่าง ๆ ซึ่งดึงเอาจุดเด่น ของแต่ละภาคของเมืองไทยมาใช้ ร่วม กับการตกแต่งโดยใช้แสงสีต่าง ๆ ชวน มอง ที่มา https://thai.tourismthailand.org/Attraction/%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B9%8 0%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%95%E0%B9%81%E0%B8%9F%E0%B8%99 %E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%8B%E0%B8%B50%B8%B5
มุมความรู้ภูเก็ต @ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ ๕๐ พรรษา ศูนย์รวมใจออสเตรีย-ภูเก็ต
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: