Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เดินตามรอยเท้าพ่อ

เดินตามรอยเท้าพ่อ

Published by namthip32356, 2021-10-26 13:05:32

Description: เดินตามรอยเท้าพ่อ

Keywords: เดินตามรอยเท้าพ่อ,เศรษฐกิจพอเพียง

Search

Read the Text Version

เดินตามรอยเทา้ พ่อ กบั หลกั เศรฐษกจิ พอเพียง

สารบญั เรอ่ื ง หนา้ ความพอเพยี ง 1 -จดุ เร่ิมตน้ แนวคิดกบั การเดนิ ตามรอยเทา้ พ่อ 2 -จดุ เรม่ิ ตน้ แนวคิดเศรษฐกจิ พอเพยี ง 3–5 -เศรษฐกจิ พอเพยี ง 6 -ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 7 -ความหมายของเศรษฐกิจพอเพียง 8 – 15 -ผลของการพฒั นา 16 – 18 -การปฏิบัตติ นตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง 19 เกษตรตามแนว “ทฤษฎใี หม”่ 20 - 21 -การดาเนนิ งานตามทฤษฎใี หมม่ ี 3 ขนั้ ตอน 22 – 26 -หลกั การและแนวทางสาคญั ในการดาเนนิ งาน 27 เกษตรตามแนว \"ทฤษฎใี หม\"่ -ประโยชนข์ อง “ทฤษฎใี หม”่

1 ความพอเพียง 2 จดุ เรม่ิ ตน้ แนวคิดกบั การเดินตามรอยเทา้ พ่อ “ความพอเพียง” จะเป็ นสิง่ หนงึ่ ทจ่ี ะทาใหเ้ ราใชช้ วี ิตอย่ไู ดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ ได้ การใชช้ วี ิตไดด้ ว้ ยการพงึ่ พาตวั เอง ไมเ่ บียดเบียนใครรจู้ ักใชเ้ ทา่ ทม่ี ี ไมใ่ ช้ จา่ ยเกินกาลงั หลายๆ คนอาจจะคิดวา่ ไมม่ ใี ครสามารถทาไดห้ รอกนะ แต่ เราประชาชนชาวไทยคนุ้ ชนิ กบั การไดเ้ ห็นและมบี คุ คลตวั อยา่ งในเร่ืองของ ความพอเพียงนนั่ ก็คือ “ พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช ( รชั กาลที่ ๙ ) ” เชอื่ วา่ คนไทยทกุ คนตอ้ งเคยไดย้ ิน \"แนวคิดหรือปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง\" กนั มากอ่ นหนา้ นแี้ ลว้ ซ่ึงเป็ นแนวพระราชดาริของ พระบาทสมเด็จพระ ปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช โดยเป็ นหลกั การนาไปใชใ้ นชวี ิตไดอ้ ย่าง แทจ้ ริง เป็ นจดุ เริ่มตน้ ทีส่ าคญั ทง้ั ดา้ นการวางแผนการเงนิ การลงทนุ บทความนเ้ี ราจะพาเพ่ือนๆ มาทาความเขา้ ใจถึง จดุ เร่ิมตน้ , หลกั เศรษฐกจิ พอเพยี ง และแกน่ ของเศรษฐกจิ พอเพียง ทงั้ 3 คณุ สมบตั ิ กบั 2 เงอ่ื นไข ท่ี จะชว่ ยใหช้ วี ิตคณุ เปลย่ี นไปในทางท่ีดขี นึ้

3 จุดเร่ิมต้นแนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพยี ง 4 จดุ เรม่ิ ตน้ แนวคิดเศรษฐกจิ พอเพียง ผลจากการใชแ้ นว สาหรบั ผลของการพฒั นาในดา้ นบวกนนั้ ไดแ้ ก่ การเพิม่ ขน้ึ ของ ทางการพฒั นาประเทศไปสคู่ วามทนั สมยั ไดก้ อ่ ใหเ้ กดิ การ อตั ราการเจริญเตบิ โตทางเศรษฐกจิ ความเจริญทางวตั ถุ และ เปล่ยี นแปลงแกส่ งั คมไทยอย่างมากในทกุ ดา้ น ไมว่ ่าจะเป็ นดา้ น สาธารณปู โภคตา่ งๆ ระบบสอ่ื สารที่ทนั สมยั หรือการขยาย เศรษฐกจิ การเมอื ง วฒั นธรรม สงั คมและสิ่งแวดลอ้ ม อีกทงั้ ปริมาณและกระจายการศึกษาอย่างทวั่ ถึงมากขน้ึ แตผ่ ลดา้ น กระบวนการของความเปล่ยี นแปลงมคี วามสลบั ซบั ซอ้ นจนยากท่ี บวกเหลา่ นสี้ ว่ นใหญก่ ระจายไปถึงคนในชนบท หรือผดู้ อ้ ยโอกาส จะอธิบายใน เชงิ สาเหตแุ ละผลลพั ธไ์ ด้ เพราะการเปลย่ี นแปลง ในสงั คมนอ้ ย แตว่ ่ากระบวนการเปล่ียนแปลงของสงั คมไดเ้ กิดผล ทง้ั หมดตา่ งเป็ นปัจจยั เชอื่ มโยงซึ่งกนั และกนั ลบตดิ ตามมาดว้ ย เชน่ การขยายตวั ของรฐั เขา้ ไปในชนบท ได้ สง่ ผลใหช้ นบทเกิดความออ่ นแอในหลายดา้ น ทงั้ การตอ้ งพ่ึงพงิ ตลาดและพ่อคา้ คนกลางในการสงั่ สินคา้ ทนุ ความเส่อื มโทรมของ ทรพั ยากรธรรมชาติ ระบบความสมั พนั ธแ์ บบเครือญาติ และการ รวมกลมุ่ กนั ตามประเพณีเพ่อื การจดั การทรพั ยากรทเ่ี คยมอี ยแู่ ต่ เดมิ แตก สลายลง ภมู คิ วามรทู้ เี่ คยใชแ้ กป้ ัญหาและสงั่ สม ปรบั เปลย่ี นกนั มาถกู ลืมเลอื นและเร่ิม สญู หายไป

5 6 สิ่งสาคญั ก็คือ ความพอเพียงในการดารงชวี ิต ซ่ึงเป็ นเงอื่ นไขพ้นื ฐานท่ีทา “เศรษฐกิจพอเพียง” ใหค้ นไทยสามารถพ่ึงตนเอง และดาเนนิ ชวี ิตไปไดอ้ ย่างมศี กั ดศิ์ รีภายใต้ อานาจและความมอี ิสระในการกาหนด ชะตาชวี ิตของตนเอง ความสามารถ ในการควบคมุ และจดั การเพ่อื ใหต้ นเองไดร้ บั การสนองตอบตอ่ ความตอ้ ง การตา่ งๆ รวมทง้ั ความสามารถในการจดั การปัญหาตา่ งๆ ไดด้ ว้ ย ตนเอง ซึ่งทงั้ หมดนถ้ี ือว่าเป็ นศักยภาพพ้ืนฐานที่คนไทยและสงั คมไทยเคยมี อยแู่ ตเ่ ดมิ ตอ้ งถกู กระทบกระเทือน ซึ่งวิกฤตเศรษฐกจิ จากปัญหาฟองสบู่ และปัญหาความออ่ นแอของชนบท รวมทง้ั ปัญหาอื่นๆ ท่เี กดิ ขน้ึ ลว้ นแตเ่ ป็ นขอ้ พิสจู นแ์ ละยืนยนั ปรากฎการณน์ ไ้ี ดเ้ ป็ นอย่าง เป็ นแนวพระราชดาริในพระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู วั ท่ี พระราชทานมานานกว่า ๓๐ ปี เป็ นแนวคิดท่ตี ง้ั อย่บู นรากฐานของ วฒั นธรรมไทย เป็ นแนวทางการพฒั นาทตี่ งั้ บนพนื้ ฐานของทางสาย กลาง และความไมป่ ระมาท คานงึ ถึงความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล การสรา้ งภมู ิคมุ้ กนั ในตวั เอง ตลอดจนใชค้ วามรแู้ ละคณุ ธรรม เป็ น พืน้ ฐานในการดารงชวี ิต ทส่ี าคญั จะตอ้ งมี “สติ ปัญญา และความ เพยี ร” ซ่ึงจะนาไปสู่ “ความสขุ ” ในการดาเนนิ ชวี ิตอยา่ งแทจ้ ริง

7 8 ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ความหมายของเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกจิ พอเพียง เป็ นปรชั ญาชถ้ี ึงแนวการดารงอยแู่ ละปฏิบตั ติ น ของประชาชนในทกุ ระดบั ตงั้ แตร่ ะดบั ครอบครวั ระดบั ชมุ ชน จนถึง เป็ นแนวคดิ ทยี่ ึดหลกั ทางสายกลาง คือ พอประมาณ มเี หตผุ ล มี ระดบั รฐั ทงั้ ในการพฒั นาและบรหิ ารประเทศใหด้ าเนนิ ไปในทางสาย ภมู คิ มุ้ กนั ท่ีดใี นการดารงชวี ิตและปฏิบตั ติ น ของประชาชนทกุ ระดบั กลาง โดยเฉพาะการพฒั นาเศรษฐกจิ เพอ่ื ใหก้ า้ วทนั ตอ่ โลกยคุ โลกาภิ ตงั้ แตร่ ะดบั ครอบครวั ระดบั ชมุ ชน จนถึงระดบั รฐั เพื่อการดาเนนิ วตั น์ ชวี ิตอยา่ งชาญฉลาด และสามารถดารงอยไู่ ดท้ า่ มกลางสภาพการ แขง่ ขนั และการเปล่ยี นแปลงของโลกาภวิ ฒั น์ ทงั้ นจี้ ะตอ้ งอาศัยความ รอบรู้ ความรอบคอบ และความระมดั ระวงั อยา่ งยง่ิ ในการนา วิชาการตา่ งๆมาใชใ้ นการวางแผนและดาเนนิ การ ทกุ ขนั้ ตอนและ ขณะเดยี วกนั จะตอ้ งเสริมสรา้ งพื้นฐานจติ ใจของคนในชาตโิ ดยเฉพาะ เจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั นกั วิชาการและนกั ธรุ กจิ ในทกุ ระดบั ให้ สานกึ ใน คณุ ธรรม ความซ่ือสตั ยส์ จุ ริต และใหม้ คี วามรอบรทู้ ีเ่ หมาะสม ดาเนนิ ชวี ิตดว้ ยความอดทน ความเพียร มสี ตปิ ัญญาและความ รอบคอบ เพื่อใหส้ มดลุ และพรอ้ มตอ่ การรองรบั การเปลยี่ นแปลง อย่างรวดเร็วและกวา้ งขวางทงั้ ดา้ นวตั ถุ สงั คม สง่ิ แวดลอ้ ม และ วฒั นธรรมจากโลกภายนอกไดอ้ ยา่ งดี

9 10 “…การพฒั นาประเทศจาเป็ นตอ้ งทาตามลาดบั ขน้ั ตอ้ งสรา้ ง ใน พ.ศ. 2540 เกิดปัญหาวิกฤตการณเ์ ศรษฐกิจ พระบาทสมเด็จ พืน้ ฐานคอื ความพอมี พอกนิ พอใช้ ของประชาชนสว่ นใหญ่ พระเจา้ อยหู่ ัวฯ พระราชทานพระราชดารสั เนอื่ งในโอกาสวนั เฉลิม เบ้อื งตน้ กอ่ น โดยใชว้ ิธกี ารและอปุ กรณท์ ี่ประหยดั แตถ่ กู ตอ้ งตาม พระชนมพรรษา วนั ที่ 4 ธนั วาคม พ.ศ. 2540 ณ ศาลาดสุ ิดาลยั หลกั วิชาการ เมอ่ื ไดพ้ ืน้ ฐานจากมนั่ คงพรอ้ มพอสมควร และ สวนจิตรลดา เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงอีกครงั้ เพอ่ื แนวทาง ปฏิบตั ไิ ดแ้ ลว้ จึงคอ่ ยสรา้ งคอ่ ยเสริมความเจริญ และฐานะทาง แกป้ ัญหาใหก้ บั ประเทศ เศรษฐกิจขน้ั ทีส่ งู โดยลาดบั ตอ่ ไป…”

11 12 “…การเป็ นเสอื นน้ั ไมส่ าคญั สาคญั อยทู่ ่ีเรามเี ศรษฐกจิ แบบ คาว่า “พอเพียง” จากพระราชดารสั ของพระบาทสมเด็จพระเตา้ อยู่ พอมพี อกิน แบบพอมพี อกนิ นน้ั หมายความวา่ อมุ้ ชตู นเองไดใ้ หม้ ี หัวฯ เนอื่ งในโอกาสวนั เฉลมิ พระชนมพรรษา วนั ที่ 4 ธนั วาคม พอเพียงกบั ตนเอง อนั นก้ี ็เคยบอกว่าความพอเพยี งไมไ่ ด้ พ.ศ. 2541 ณ ศาลาดสุ ิตดาลยั สวนจิตรลดา พระราชทาน หมายความวา่ ทกุ ครอบครวั จะตอ้ งผลติ อาหารของตวั จะตอ้ ง ความหมายของคาว่า “พอเพียง” ไวว้ ่า ทอผา้ ใสเ่ อง อย่างนน้ั มนั เกนิ ไป แตว่ ่าในหมบู่ า้ นหรือในอาเภอ จะตอ้ งมคี วามพอเพียงพอสมควร บางส่งิ บางอยา่ งท่ผี ลติ ได้ “...คาวา่ พอเพียงมคี วามหมายอีกอย่างหนงึ่ ไมไ่ ด้ มากกว่าความตอ้ งการ ก็ขายได้ แตข่ ายในทไี่ มห่ ่างไกลเท่าไร ไม่ หมายถึงการมพี อสาหรบั ใชเ้ องเทา่ นน้ั แตม่ คี วามหมายว่า ตอ้ งเสียคา่ ขนสง่ มากนกั …” พอมพี อกิน พอมพี อกินนแ้ี ผลว่าเศรษฐกจิ พอเพยี งนน้ั เอง ...” “...ใหเ้ พียงพอนหี้ มายความว่ามกี นิ มอี ยู่ ไมฟ่ ่ ุมเฟื อยไม่ หรหู ราก็ไดแ้ ตว่ า่ พอ แมบ้ างอย่างอาจจะดฟู ่ ุมเฟื อย...”

13 14 จึงประกอบดว้ ยคณุ สมบตั ิ ดงั น้ี เง่ือนไข ของการตดั สินใจและดาเนินกิจกรรมต่างๆ ให้ อยใู่ นระดบั พอเพียง ๒ ประการ ดงั น้ี ๑. ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดที ไ่ี มน่ อ้ ย เกินไปและไมม่ ากเกินไป โดยไมเ่ บียดเบยี นตนเองและผอู้ ่ืน ๑. เง่ือนไขความรู้ ประกอบดว้ ย ความรอบรเู้ กีย่ วกบั วิชาการตา่ งๆ ที่ เชน่ การผลติ และการบริโภคทอี่ ยใู่ นระดบั พอประมาณ เก่ียวขอ้ งรอบดา้ น ความรอบคอบท่ีจะนาความรเู้ หลา่ นน้ั มาพิจารณาให้ เชอ่ื มโยงกนั เพ่อื ประกอบการวางแผนและความระมดั ระวงั ในการปฏิบตั ิ ๒. ความมีเหตผุ ล หมายถึง การตดั สนิ ใจเกีย่ วกบั ระดบั ความพอเพียงนน้ั จะตอ้ งเป็ นไปอยา่ งมเี หตผุ ล โดย ๒. เง่ือนไขคณุ ธรรม ท่จี ะตอ้ งเสริมสรา้ ง ประกอบดว้ ย มคี วาม พิจารณาจากเหตปุ ัจจยั ทเี่ กยี่ วขอ้ ง ตลอดจนคานงึ ถึงผลที่ ตระหนกั ใน คณุ ธรรม มคี วามซ่ือสตั ยส์ จุ ริตและมคี วามอดทน มีความ คาดวา่ จะเกดิ ขนึ้ จากการกระทานน้ั ๆ อย่างรอบคอบ เพียร ใชส้ ตปิ ัญญาในการดาเนนิ ชวี ิต ๓. ภมู ิคมุ้ กนั หมายถึง การเตรียมตวั ใหพ้ รอ้ มรับ ซ่ึงคณุ สมบตั ติ า่ งๆเหลา่ นเ้ี ราจะเรียกกนั สนั้ ๆว่า “ หลกั ๓ หว่ ง ๒ ผลกระทบและการเปล่ยี นแปลงดา้ นตา่ งๆ ที่จะเกิดขน้ึ โดย เงอื่ นไข” นนั่ เอง และจากหลกั ๓ ห่วง ๒ เงอ่ื นไข นน้ั ถา้ เราทาไดก้ ็จะ คานงึ ถึงความเป็ นไปไดข้ องสถานการณต์ า่ งๆ ทคี่ าดว่าจะ นาไปสู่ การมชี วี ิต เศรษฐกจิ สงั คม สิ่งแวดลอ้ มที่สมดลุ , มนั่ คงและ เกดิ ขนึ้ ในอนาคต ยงั่ ยืนอย่างแนน่ อน

15 16 สามห่วง สองเงื่อนไข ผลของการพฒั นา สาหรบั ผลของการพฒั นาในดา้ นบวกนนั้ ไดแ้ ก่ การ เพม่ิ ขน้ึ ของอตั ราการเจริญเตบิ โตทางเศรษฐกจิ ความเจริญ ทางวตั ถุ และสาธารณปู โภคตา่ งๆ ระบบส่อื สารที่ทนั สมยั หรือการขยายปริมาณและกระจายการศึกษาอย่างทวั่ ถึง มากขนึ้ แตผ่ ลดา้ นบวกเหลา่ นส้ี ว่ นใหญก่ ระจายไปถึงคนใน ชนบท หรือผดู้ อ้ ยโอกาสในสงั คมนอ้ ย

17 18 กระบวนการเปลีย่ นแปลงของสงั คมไดเ้ กิดผลลบติดตาม สง่ิ สาคญั ก็คอื ความพอเพยี งในการดารงชวี ิต ซึ่งเป็ นเงอ่ื นไข มาดว้ ย เชน่ การขยายตวั ของรฐั เขา้ ไปในชนบท ไดส้ ง่ ผลให้ พ้ืนฐานทีท่ าใหค้ นไทยสามารถพึง่ ตนเอง และดาเนนิ ชวี ิตไปไดอ้ ย่างมี ชนบทเกิดความอ่อนแอในหลายดา้ น ทง้ั การตอ้ งพึ่งพิงตลาด ศกั ดศิ์ รีภายใตอ้ านาจและความมอี ิสระในการกาหนด ชะตาชวี ิตของ และพอ่ คา้ คนกลางในการสงั่ สนิ คา้ ทนุ ความเสอ่ื มโทรมของ ตนเอง ความสามารถในการควบคมุ และจดั การเพือ่ ใหต้ นเองไดร้ ับ ทรพั ยากรธรรมชาติ ระบบความสมั พนั ธแ์ บบเครือญาติ และ การสนองตอบตอ่ ความตอ้ ง การตา่ งๆ รวมทง้ั ความสามารถใน การรวมกลมุ่ กนั ตามประเพณีเพือ่ การจดั การทรพั ยากรท่ีเคยมี การจดั การปัญหาตา่ ง ๆ ไดด้ ว้ ยตนเอง อยแู่ ตเ่ ดมิ แตก สลายลง ภมู คิ วามรทู้ เ่ี คยใชแ้ กป้ ัญหาและสงั่ สม ปรบั เปลยี่ นกนั มาถกู ลมื เลอื นและเริ่ม สญู หายไป

19 20 การปฏบิ ตั ิตนตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เราสามารถมสี ว่ นรว่ มในการปฏิบตั ติ ามแนวเศรษฐกิจพอเพยี งโดยร่วม ปฏิบตั ใิ นสิ่งงา่ ย ดงั น้ี 1. ยึดหลกั ประหยดั ตดั ทอนคา่ ใชจ้ า่ ยท่ีไมจ่ าเป็ นในทกุ ดา้ น ลด ละ ความ ฟ่ ุมเฟื อยในการดารงชวี ิต 2. ประกอบอาชพี ดว้ ยความถกู ตอ้ ง สจุ ริต แมจ้ ะตกอย่ใู น ภาวะขาดแคลน ในการดารงชพี 3. ละเลิกการแกง่ แย่งผลประโยชนท์ ี่รนุ แรงและไมถ่ กู ตอ้ ง 4. ไมห่ ยดุ นงิ่ ทีจ่ ะหาทางใหช้ วี ิตหลดุ พน้ จากความทกุ ข์ โดยขวนขวายหา ความรู้ ใหเ้ กิดรายไดเ้ พ่ิมพนู จนถึงขนั้ พอเพียง 5. ปฏิบตั ติ นในแนวทางทด่ี ี ลดละส่ิงชวั่ รา้ ยใหห้ มดสิ้นไป

21 22 \"ทฤษฎใี หม\"่ เป็ นแนวทางหรือหลกั ในการบริหารจดั การที่ดนิ การดาเนินงานตามทฤษฎีใหมม่ ี 3 ขนั้ ตอน คือ และนา้ เพ่ือการเกษตรในที่ดินขนาดเล็กใหเ้ กิดประโยชนส์ งู สดุ 1 ) การผลิต ใหพ้ ่งึ ตนเองดว้ ยวิธีงา่ ย ค่อยเป็ นค่อยไปตามกาลงั ดว้ ยหลกั เศรษฐกจิ พอเพียง พระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู ัวได้ ใหพ้ อมพี อกนิ พระราชทานพระราชดารนิ เี้ พื่อเป็ นการชว่ ยเหลอื เกษตรกรที่ 2 ) การรวมพลงั กนั ในรปู แบบ หรือ สหกรณ์ ร่วมแรงร่วมใจกนั ประสบความยากลาบาก ใหส้ ามารถผา่ นชว่ งวิกฤต โดยเฉพาะ ในดา้ นการผลติ การตลาด ความเป็ นอยู่ สวสั ดกิ าร การศึกษา การขาดแคลนนา้ ไดโ้ ดยไมเ่ ดอื ดรอ้ นและยากลาบากนกั สงั คมและศาสนา 3 ) การดาเนนิ ธรุ กจิ โดยตดิ ตอ่ ประสานงาน จดั หาทนุ หรือแหลง่ เงนิ

23 24 ขน้ั แรกการผลิต เป็ นขนั้ สาคญั ท่ีสดุ ใหแ้ บ่งออกเป็ น 4 สว่ น ขดุ สระเก็บกกั น้า ตามอตั ราสว่ น 30 : 30 : 30 : 10 ดงั น้ี พ้นื ท่ีประมาณ 30% ใหข้ ดุ สระเก็บกกั นา้ เพื่อใหม้ นี า้ ใช้ ปลกู ผลไม้ ไมย้ นื ตน้ พืชไร่ พืชผกั สมา่ เสมอตลอดปี โดยเก็บกกั นา้ ฝนในฤดฝู น และใชเ้ สรมิ การ พื้นท่ีประมาณ 30 % ใหป้ ลกู ไมผ้ ล ไมย้ นื ตน้ พชื ไร่ พืชผกั ปลกู พืชในฤดแู ลง้ หรอื ระยะฝนทง้ิ ชว่ ง ตลอดจนการเลยี้ งสตั ว์ และพืชนา้ ตา่ งๆ เชน่ ผกั บงุ้ ผกั กระเฉด โสน ฯลฯ พืชสมนุ ไพร ฯลฯ อย่างผสมผสานกนั และหลากหลายในพ้นื ที่ เดยี วกนั เพ่ือใชเ้ ป็ นอาหารประจาวนั หากเหลือจากการบริโภคก็ นาไปขายได้

25 26 ปลกู ขา้ ว เป็ นท่ีอยอู่ าศยั และอ่ืนๆ พ้นื ที่ประมาณ 30 % ใหป้ ลกู ขา้ วในฤดฝู น เพอื่ ใชเ้ ป็ นอาหาร พืน้ ท่ีประมาณ 10 % ใชเ้ ป็ นที่อย่อู าศยั เลย้ี งสตั ว์ ถนน ประจาวนั สาหรบั ครวั เรือนใหเ้ พยี งพอตลอดปี โดยไมต่ อ้ งซื้อหาใน หนทาง คนั ดนิ โรงเรือนและสิ่งกอ่ สรา้ งอ่ืน๐ รวมทง้ั คอกเลี้ยง ราคาแพง เป็ นการลดค่าใชจ้ า่ ย และสามารพึ่งตนเองได้ สตั ว์ เรือนเพาะชา ฉางเก็บผลิตผลการเกษตร ฯลฯ

27 28 หลกั การและแนวทางสาคญั ในการดาเนินงานเกษตร ตามแนว \"ทฤษฎีใหม\"่ มดี งั น้ี เป็ นระบบการผลติ แบบเศรษฐกจิ พอเพียง ทีเ่ กษตรกร สามารถเลี้ยงตวั เองไดใ้ นระดบั ทีป่ ระหยดั กอ่ น ตอ้ งมพี น้ื ทสี่ ว่ นหนงึ่ ทานาขา้ ว เพราะขา้ วเป็ นปัจจยั หลกั ท่ี ทกุ ครวั เรือนตอ้ งปลกู เพ่ือใหม้ ขี า้ วพอบริโภคตลอดทั้งปี ตอ้ งมนี า้ สารองไวใ้ ชเ้ พียงพอตลอดปี เพอื่ การเพาะปลกู ใน ระยะฝนทิง้ ชว่ ง หรือในฤดแู ลง้ ใชอ้ ตั ราสว่ น30 : 30 : 30 : 10 ในการแบ่งพนื้ ทอี่ อกเป็ น 4 สว่ น ไมว่ ่าจะมพี ื้นท่ีถือครองนอ้ ยกว่าหรอื มากกวา่ 15 ไร่ คอื 30 % ใชข้ ดุ สระเก็บกกั นา้ 30 % ใชป้ ลกู ขา้ ว 30 % ใชป้ ลกู พชื ผกั ผลไม้ พืชไร่ ไมย้ นื ตน้ 10 % ใชเ้ ป็ นทอี่ ยอู่ าศยั และอื่นๆ

27 จดั ทาโดย นางสาว กนกวรรณ เทพกิจ เลขท2ี่ 6 รหสั นกั ศึกษา 6401102001227 นางสาว นา้ ทพิ ย์ แซ่แต้ เลขที่ 28 รหสั นกั ศึกษา 6401102001229 เสนอ อาจารย์ อมรทิพย์ ประยรุ วงค์ คณะครศุ าสตร์ สาขาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั สรุ าษฎรธ์ านี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook