รู ปแบบการบริหารสู่การสร้าง นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ใน โรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดเล็ก จังหวัดชุมพร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สุราษฎร์ธานี ชุมพร กุลิสรา แก้วทิพย์ นักศึกษาปริญญาโท หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
คำนำ การจัดการศึกษาในยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วส่งผล ต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์จำเป็นที่จะต้องพัฒนาคนให้มีความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้ ประเทศมีความสามารถในการแข่งขันพัฒนาคนให้ดี เก่ง มีคุณภาพ มีทักษะที่จำเป็นใน ศตวรรษที่ 21 มุ่งพัฒนาทักษะขั้นสูงสู่การเป็นนวัตกร เพื่อคิดค้นนวัตกรรมในการ พัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยในอดีตที่ผ่านมาการจัดการศึกษาของประเทศไทยต้อง ประสบกับสภาพปัญหาหลายประการ เห็นได้จากผลการศึกษาปัญหาการจัดการเรียน การสอนในมิติต่าง ๆ ดังนั้น ในการสร้างและพัฒนานวัตกรรมทางการศึกษาด้านการ จัดการเรียนรู้ที่จะส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาไปในทิศทางที่ดีต่อการจัดการ ศึกษาของประเทศไทย ผู้จัดทำจึงได้วิจัยและพัฒนารูปแบบการบริหารสู่การสร้าง นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดเล็กจังหวัดชุมพร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร เพื่อเป็นแนวการ พัฒนาให้ทุกโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดเล็กมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นนวัตกรที่ตอบสนอง ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ที่มีเป้าหมาย การพัฒนาที่สำคัญเพื่อพัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้มีทักษะที่จำเป็นใน ศตวรรษที่ 21 สู่การเป็นคนไทยที่มีทักษะสูง เป็นนักคิด และเป็นนวัตกร สอดคล้องกับ พระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ.2562 โดยมีสาระสำคัญเป็นการจัดให้มี พื้นที่นวัตกรรมการศึกษาเพื่อวัตถุประสงค์ในการ 1) คิดค้นและพัฒนานวัตกรรมการ ศึกษาและการเรียนรู้เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของผู้เรียน รวมทั้งเพื่อ ดำเนินการให้มีการขยายผลไปใช้ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานอื่น 2) ลดความเหลื่อมล้ำใน การศึกษา 3) กระจายอำนาจและให้อิสระแก่หน่วยงานทางการศึกษาและสถานศึกษา นำร่องในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาเพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารและการจัดการ ศึกษาให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และ 4) สร้างและพัฒนากลไกในการจัดการ ศึกษาร่วมกันระหว่างภาครัฐ องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น ภาคเอกชน และภาคประชา สังคมในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา (กองกฎหมายการศึกษาและวัฒนธรรม, 2562 : ก)
สารบัญ O1 --- รูปแบบการบริหารสู่การสร้าง นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ฯ 02 --- หลักการของรูปแบบ 02 --- วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 03 --- ปัจจัยนำเข้า 04 --- แนวทางการนำไปใช้ 16 --- ผลผลิต 17 --- การประเมินผลการดำเนินงาน 18 --- เงื่อนไขความสำเร็จ 21 --- เอกสารคู่มือรูปแบบการบริหารฯ
รู ปแบบการบริหารสู่ การสร้างนวัตกรรมการจัดการ เรียนรู้ในโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดเล็กจังหวัดชุมพร
วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 02 เพื่อเป็นแนวทางในการบริหารโรงเรียนให้โรงเรียน มัธยมศึกษาขนาดเล็กจังหวัดชุมพร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สุราษฎร์ธานี ชุมพรเกิดนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ ในสถานศึกษาเชิงประจักษ์ หลักการของรูปแบบ การบริหารสู่การสร้างนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียน มัธยมศึกษาขนาดเล็กเป็นการจัดการศึกษาเพื่อสร้าง นวัตกรรมสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้และแนวปฏิบัติที่ เป็นเลิศในสถานศึกษา โดยมีองค์ประกอบของการบริหาร 5 ด้าน ขับเคลื่อนองค์ประกอบของการบริหารด้วยทฤษฎี การจัดการ POLC
ปัจจัยนำเข้า 03 ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ปัจจัยภายใน (2S-4M) ได้แก่ • โครงสร้างของสถานศึกษา (Structure) • ระบบบริการ (Services) • บุคลากร (Man) • การเงิน (Money) • วัสดุและอุปกรณ์ (Materiall) • การบริหารจัดการ(Management) ปัจจัยภายนอก STEP ได้แก่ • ด้านสังคมและวัฒนธรรม (Socio-Cultural) • ด้านเทคโนโลยี (Technology) • ด้านเศรษฐกิจ (Economics) • ด้านการเมืองและกฎหมาย(Political and Legal) โดยโรงเรียนมีการ SWOT การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในและ เอกสารประกอบ ภายนอก ซึ่งเป็นการรู้เขา รู้เรา ของสถานศึกษาของในแต่ละปี และนำผลการ การ SWOT วิเคราะห์ที่ศึกษาแนวโน้มการพัฒนาการศึกษาให้มีความเหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนท้องถิ่นให้สอดคล้องกับบริบทของ โรงเรียนตามเงื่อนไขข้อจำกัดและองค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อการจัดการ ศึกษา เพื่อที่จะเป็นข้อมูลในการจัดวางทิศทางของสถานศึกษาอย่างมี ทิศทางที่เหมาะสม สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของสถานศึกษานั้นๆเพื่อให้ สามารถดำเนินการได้ประสบผลสำเร็จสามารถนำไปปฏิบัติจริงได้
แนวทางการนำไปใช้ 04
P – Planning การวางแผน : ด้านองค์กรนวัตกรรม เป็นการกำหนดกิจกรรมตลอดจนภารกิจต่างๆ ที่ต้องปฏิบัติเอาไว้ใน แต่ละช่วงเวลา เพื่อให้เป็นแนวทางตลอดจนทิศทางในการปฏิบัติงาน การ วางแผนต้องมีการกำหนดวัตถุประสงค์และขั้นตอนที่จะทำให้บรรลุผลตามที่ ต้องการ ซึ่งการวางแผนนั้นมีหลายประเภทได้แก่ การวางแผนเชิงกลยุทธ์ (Strategic Planning) การวางแผนเชิงยุทธวิธี (Tactical Planning) การวางแผนเชิงบริหารจัดการ (Operational Planning) สถานศึกษาจะเกิดเป็นองค์กรนวัตกรรมได้นั้น จะต้องมีการบริหาร จัดการให้เป็นองค์กรที่มีความสามารถในใช้ความคิดสร้างสรรค์ นำมาซึ่ง การเปลี่ยนแปลงของการบริหารจัดการความคิดและวิธีการดำเนินงานใน รูปแบบใหม่ๆ ที่มีความแตกต่างจากที่เคยปฏิบัติและมีการสนับสนุนให้ บุคลากรใช้หรือคิดค้นองค์ความรู้เทคโนโลยีสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ เพื่อให้การ บริหารงานมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์ ตอบสนองความต้องการ ของผู้รับบริการ 05
การสร้างองค์กรแห่งนวัตกรรม มีการดำเนินการ ดังนี้ 06 ธีรดา ทองทา (2562 : 7) และ ธีรีสา มัทวพันธุ์ (2563 : 53) กล่าวไว้ว่า องค์กรที่มีลักษณะเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม และการสร้างองค์กรนวัตกรรม มีแนวทาง การยกระดับนวัตกรรมในองค์กรควรมีลักษณะสำคัญ ดังต่อไปนี้ 1. มีการกำหนดทิศทางวัตถุประสงค์ เป้าหมาย และกลยุทธ์ที่ชัดเจนที่สามารถ พัฒนา องค์กรให้มุ่งสู่การเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม 2. ผู้บริหารควรมุ่งเน้นและผลักดันให้เกิดการสร้างวัฒนธรรมภายในองค์กร ด้วยการ เล็งเห็นคุณค่าของนวัตกรรมเป็นสำคัญ และต้องมีบุคลากรสำคัญที่จะทำหน้าที่ ตามบทบาทต่างๆ 3. การให้ความสำคัญกับการสร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อมในที่ทำงาน ที่เอื้อต่อ กระบวนการแห่งการสร้างสรรค์ 4. ผู้นำองค์กรต้องสร้างองค์กรให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) และมีความเชื่อมโยงกบปัจจัยภายนอกองค์กร 5. มีการวางแผนยุทธศาสตร์นวัตกรรมที่สอดคล้องกับธุรกิจ (Innovation Strategy) เน้นการออกแบบกลยุทธ์ เพื่อกำหนดแนวทางยกระดับนวัตกรรมในองค์กร 6. มีการวางแผนการลงทุนและใช้ประโยชน์ในเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง (Innovation Portfolio) มีความเชี่ยวชาญและมีกลยุทธ์องค์กรชัดเจน ต้องการการ วางแผนด้านผลิตภัณฑ์นวัตกรรม 7. การบริหารจัดการกระบวนการนวัตกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ (Innovation Process) คนมีธรรมชาติของการรับการเปลี่ยนแปลง แต่ขาดกระบวนการที่ จะสนับสนุนการทำนวัตกรรม 8. การสร้างความเข้มแข็งให้กับปัจจัยสนับสนุนด้านต่างๆ (Innovation Culture) เริ่มจำกการสร้างวัฒนธรรมนวัตกรรม เพื่อให้คนออกจาก Comfort Zone
O – Organizing การจัดการองค์กร : ด้านวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ด้านนวัตกรรม การจัดการองค์กร เป็นการกำหนดโครงสร้างตำแหน่ง 07 กำหนดบทบาทหน้าที่ ตลอดจนการทำงานของทุกภาคส่วนให้สอดคล้อง ราบรื่น และไม่ทับซ้อนกัน การจัดการองค์กรยังรวมไปถึงการจัดระเบียบใน การทำงานที่จะทำให้การทำงานไม่สะดุด จัดสรรคนให้เหมาะสมกับงาน จัดการงานให้เป็นระบบระเบียบ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานมาก ที่สุด การสร้างวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ด้านนวัตกรรมในสถานศึกษาที่เอื้อต่อการ พัฒนาขีดความสามารถทางนวัตกรรมอย่างยั่งยืนของสมาชิกในองค์กร ด้วยการ บ่มเพาะคุณค่าในตัวสมาชิกภายในองค์กรและเสริมสร้างการตระหนักในคุณค่าและ ความสำคัญของนวัตกรรมการ การปลูกฝังความรู้ความเข้าใจ ตลอดจนการสร้าง กิจกรรมที่ส่งเสริมให้การพัฒนานวัตกรรมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ การเผยแพร่ ความรู้และ ยกระดับความสำคัญของนวัตกรรมขึ้นมาอย่างเด่นชัดในองค์กร โดย บรรยากาศในองค์กรแห่งนวัตกรรมต้องสนับสนุนให้ทุกคนในองค์กรมีการสร้างสรรค์ แนวความคิดใหม่ๆ และส่งเสริมต่อการสร้างนวัตกรรม มีงานวิจัยจำนวนมากที่สรุปถึง ลักษณะของวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนการเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม เช่น การ ยอมรับฟังความคิดเห็นและข้อติชม (Openness) การโต้เถียงกันอย่างมีเหตุผล (Debate) กล้าที่จะยอมรับความเสี่ยง (Risk Taking) การมีอิสระทางความคิด (Freedom) การจัดสรรคนให้เหมาะกับงานตามความถนัดและความสนใจของแต่ละ บุคคล การร่วมมือกันของทุกคนภายในทีม มีวิถีและวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันในชุมชน มีคุณลักษณะที่มุ่งเน้นความเป็นชุมชนแห่งความสุข สุขทั้งการทำงานและการอยู่ร่วม กันที่มีลักษณะวัฒนธรรมแบบ “วัฒนธรรมแบบเปิดเผย” และสามารถขยายกรอบ ความรู้ความเข้าใจ ในการสร้างนวัตกรรมให้กว้างออกไปจนถึงเครือข่ายที่สัมพันธ์กับ ชุมชนต่อไป
การสร้างวัฒนธรรมนวัตกรรมในองค์กรมีขั้นตอนดังต่อไปนี้ 1. สร้างความกระหาย ทำให้สมาชิกในองค์กรมีความกระหายในการสร้างสรรค์ 08 นวัตกรรมใหม่ๆ ด้วยการ 1.1 เชิญบุคคลที่มีความสำคัญมาช่วย \"สร้างแรงบันดาลใจ\" กระตุ้นให้เกิดการ เลียนแบบความคิด เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสร้าง “ทีมนวัตกร (Innovation Team)” ขึ้นในองค์กร 1.2 การติดต่อสื่อสารระหว่างผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา การให้อิสระใน การสื่อสารระหว่างทีมงาน 1.3 ทีมงานต้องมีการเลือก \"หัวหน้าทีม\" จากสมาชิกในทีมงานสร้างนวัตกรรม 1.4 นำข้อมูลของผลิตภัณฑ์/กระบวนการ/บริการด้านนวัตกรรม ที่จะดำเนินการ \"ประชุม ปรึกษา หารือ ถกเถียง” เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสม 2. กำหนดงบประมาณ โดยดำเนินการดังนี้ 2.1 กำหนดงบประมาณค่าใช้จ่ายของโครงการเบื้องต้น 2.2 กำหนดระยะเวลาในการพัฒนาต้นแบบ 2.3 กำหนดรูปแบบการวิจัยและพัฒนา 3. ค้นหาเมล็ดพันธุ์ของความคิดสร้างสรรค์ ผู้บริหารระดับสูงและระดับกลางต้องร่วมกัน สร้างเครื่องมือเพื่อค้นหาเมล็ดพันธุ์แห่งความคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ที่ซ่อนอยู่ใน ตัวของบุคลากรในองค์กร โดยมีวิธีการสร้างเครื่องมือ/กระบวนการสำหรับการค้นหาเมล็ดพันธุ์แห่งความคิด สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ภายในองค์กร มีดังนี้ 3.1 การสร้างสายความคิดนวัตกรรมขึ้นในองค์กร 3.2 การจัดประกวดความคิดด้านนวัตกรรมขึ้นภายในองค์กร ให้รางวัลแก่พนักงานทุก คนที่ได้รับการคัดสรรค์ความคิด ในแต่ละสาขาที่ต้องการ 3.3 การกระจายข่าวนวัตกรรม
09 4. เพาะปลูกสมาชิกทีมงานเมล็ดพันธุ์ องค์กรต้องให้ความเป็นอิสระทาง ความคิด กระบวนการทำงาน พร้อมทั้งการสนับสนุนในด้านต่างๆ แก่ทีมงาน พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้านนวัตกรรมจนประสบความสำเร็จในที่สุด 5. การปกป้องข้อมูลด้านนวัตกรรม ผู้บริหารระดับกลาง และหัวหน้าทีมงาน ที่รับผิดชอบด้านการคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมจะต้องจัดทำการวางแผนการ ป้องกันความรู้และความลับด้านการพัฒนานวัตกรรมการตลาด รวมถึงช่วง เวลาที่เหมาะสมต่อการจะนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด 6. สร้างทีมงานต้นกล้าด้านความคิดนวัตกรรมทีมต่อไป ผู้บริหารระดับสูง และผู้บริหารระดับกลาง จะต้องค้นหา/สร้าง และให้การสนับสนุนกับทีมงาน พัฒนานวัตกรรมทีมต่อไป 7. กำหนดแนวทางวัตกรรม องค์กรต้องกำหนดทางเลือกหลายๆ แนวทางว่า จะพัฒนาแนวคิดนวัตกรรมในสาขาเดียวหรือจะขยายโดยสร้างความร่วมมือ กับองค์กรพันธมิตรอื่นๆ 8. เฉลิมฉลองและเก็บเกี่ยว เป็นช่วงเวลาของการนำเสนอผลงานด้าน นวัตกรรมที่องค์กรพัฒนาขึ้น จนสามารถนำไปสู่การใช้ประโยชน์
L – Leading ภาวการณ์เป็นผู้นำ : ด้านภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรม ภาวการณ์เป็นผู้นำ คือ ภาวะในการควบคุมการทำงานให้สำเร็จ ลุล่วง โดยต้องสามารถสร้างแรงจูงใจให้ทุกคนอยากร่วมทำงานได้ ต้องบริหารงานบุคคลได้ดี ต้องเข้าใจการทำงานของตนเองและผู้ใต้ บังคับบัญชา รวมถึงมีทักษะในการแก้ไขปัญหาได้ดี และมีการตัดสินใจที่ รอบคอบ ฉับไว ดีเยี่ยม สามารถที่จะนำพาทุกคนบรรลุเป้าหมายไปสู่ ความสำเร็จได้ ภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมในสถานศึกษามีความสำคัญต่อการ บริหารงานของบุคลากรในองค์การ คือ ช่วยกระตุ้นให้บุคคลเกิดความคิด ริเริ่มสร้างสรรค์ในการปฏิบัติงาน มีจุดเน้นหรือเป้าหมายร่วมกันในการ ปฏิบัติงาน เกิดสัมพันธภาพที่ดีภายในกลุ่ม เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ ระหว่างกันในการทำงาน สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับบุคลากรให้ สามารถปฏิบัติงานไปสู่วิสัยทัศน์ขององค์การ 10
ภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรม เริ่มต้นจาก 1. ผู้บริหารที่ทำให้เกิดการพัฒนาด้านความสามารถและพฤติกรรม การเรียนรู้จากประสบการณ์ โดยกฎของผู้นำด้านกระบวนการนวัตกรรมต้องมี การกระจายอำนาจให้บุคลากรภายในองค์กรด้วยวิธีทำทันที (Quick-Hits) 2. ส่งเสริมให้บุคลากรมีแนวคิดใหม่ๆและแนวทางการแก้ปัญหา/ กระบวนการดำเนินงานโดยนำมาปฏิบัติจริง เสริมสร้างสมรรถนะของบุคลากร ด้วยวิธีเรียนรู้จากการทำงาน (Action Learning) 3. พัฒนาความสามารถของบุคลากร โดยโรงเรียนจำเป็นต้องจัดให้ มีการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะ ความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรม ให้กับบุคลากร เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์แก่บุคลากร 4. มีการกำหนดให้บุคลากรปฏิบัติงานตรงตามวุฒิและความ สามารถ เป็นการส่งเสริมศักยภาพและเพิ่มทักษะที่เกี่ยวข้องกับบุคคลนั้น และ จะส่งผลให้บุคคลอื่นๆ ที่ร่วมงานเกิดการเรียนรู้พัฒนาตนตามไปด้วย จนเกิด เป็น “ผู้นำร่วมของครู” ในการขับเคลื่อน และ พัฒนาการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้ เรียนเป็นสำคัญ โดยยึดหลักแนวทางบริหารจัดการร่วม การสนับสนุน และการก ระจายอำนาจ 5. มีการสร้างแรงบันดาลใจ สร้างแรงจูงใจของครู โดยครูเป็นผู้ลงมือ กระทำ หรือ ครูทำหน้าที่เป็น“ประธาน” เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงการจัดการ เรียนรู้เน้นการยอมรับทางสังคม และการประเมินผลที่ให้ความสำคัญกับ 11 กระบวนการสร้างสรรค์นวัตกรรม
C – Controlling การควบคุม: ด้านการสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ ด้านการให้รางวัลความสำเร็จ เป็นการดูแลบุคลากรตลอดจนการทำงานต่างๆ ให้เป็น ไปตามแผนงานที่วางไว้ ตลอดจนการติดตามประเมินผลว่าการ ปฏิบัติงานนั้นเป็นไปตามที่วางไว้หรือไม่ บรรลุวัตถุประสงค์ หรือเปล่า มีความสำเร็จมากน้อยเพียงไร การควบคุมนั้นยัง หมายถึง การจัดการกับปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิด ผลกระทบกับการทำงานน้อยที่สุด 12
ด้านการสนับสนุน 13 การจัดการเรียนรู้ สถานศึกษามีระบบงานที่สนับสนุนการจัดระบบงานและ กระบวนการทำงานให้เกิดความคิดใหม่ๆ ในการสร้างนวัตกรรมที่มี ประสิทธิภาพ ใช้หลักการการมีส่วนร่วม ได้แก่ 1. ส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ - การกำหนดประเด็นปัญหาและความต้องการทางการศึกษา ร่วมกัน - การจัดทำหลักสูตรและสื่อการเรียนรู้การมีส่วนร่วมในการ กำหนดและพัฒนาหลักสูตรหรือ สาระของหลักสูตรให้สอดคล้องกับบริบท ของสถานศึกษาและความต้องการ - การจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการปฏิบัติร่วมกัน เช่น การ เป็นครูภูมิปัญญา การร่วมสอน การจัดแหล่งเรียนรู้ - การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ - การกำหนดมาตรฐานและการประกันคุณภาพ - การกำกับ ติดตาม และประเมินผล - การปรับปรุงพัฒนาและการถอดบทเรียนจากการเรียนรู้ 2. การมีส่วนร่วมทางกายภาพได้แก่ - การร่วมระดมทรัพยากรได้แก่ เงิน อาคารสถานที่ วัสดุ ครุภัณฑ์ - การร่วมสนับสนุนทรัพยากร ได้แก่ การสนับสนุนครูและ บุคลากร เงิน อาคารสถานที่ วัสดุ ครุภัณฑ์ ฯลฯ
การติดตามประเมินผลไม่ใช่เพื่อการตรวจสอบแต่เพื่อพัฒนาการ ดำเนินงานในด้างต่างให้ดีขึ้น (The most important purpose of an evaluation is not to prove, but to improve.) โดยมีปรัชญาการประเมิน ดังนี้ 1. การประเมินผลเป็นการศึกษาปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นศึกษาข้อเท็จจริง (Fact) ในแง่มุมต่างๆ เพื่อให้ได้ใกล้เคียงกับความจริง (Truth) มากที่สุด ทั้งในด้านคุณค่าทั้งคุณค่าภายนอกและคุณค่าภายใน 2. การประเมินผลจำเป็นต้องใช้หลักปรัชญา วิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศาสตร์อื่นๆเพื่อให้เกิดความรอบด้าน ครบทุกมุมมอง สม เหตุสมผล ภายใต้แต่ละบริบทของสังคมที่แตกต่างกัน โดยจุดมุ่งหมายของการติดตามประเมินผล มีดังนี้ 1. เพื่อให้ทราบผล และบอกถึงงานที่รับผิดชอบ 2. เพื่อให้เห็นแนวโน้ม เพื่อเตือนภัย 3. เพื่อเปลี่ยนพฤติกรรม และเข้าใจกระบวนการ 4. เพื่อลำดับความสำคัญ แปลง ปรับ กลยุทธ์สู่การปฏิบัติ 5. เพื่อเป็นเครื่องมือในการจัดการ ช่วยการควบคุม 6. เพื่อจัดสรรทรัพยากร 7. เพื่อการเรียนรู้ และรู้ขีดความสามารถ 8. เพื่อเปรียบเทียบ ปรับปรุงและพัฒนา 14 9. เพื่อช่วยเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร 10. เพื่อให้รางวัล เพื่อจูงใจ
ด้านการให้รางวัล ความสำเร็จ การให้รางวัลความสำเร็จนั้นเกิดจากการที่โรงเรียนนำผลการ ปฏิบัติงานมาใช้ในการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนโดยการใช้ระบบ คุณธรรม นำผลงานนวัตกรรมของบุคลากรมาพิจารณาเลื่อนขั้นเงิน เดือน มีการให้รางวัลเพื่อจูงใจบุคลากรในการสร้างสรรค์นวัตกรรม โรงเรียนมีการประเมินผลการปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบและจะต้อง สอดคล้องกันกับการวัดผลการปฏิบัติงาน โดยมีการติดตามและประเมิน ผลการสร้างนวัตกรรม ซึ่งการให้รางวัลเป็นการให้รางวัลที่เป็นตัวเงิน และไม่เป็นตัวเงิน เช่น - รางวัลด้านอาชีพ (Career incentive) - รางวัลด้านสังคม (Social reward) - รางวัลด้านจิตใจ เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังของบุคลากรในการปฏิบัติงานภายใน สถานศึกษา 15
ผลผลิตที่เกิดจากการบริหารด้วยรูปแบบ นวัตกรรมการเรียนรู้เป็นการปรับเปลี่ยน หรือพัฒนาตัวกระตุ้น หรือสื่อการเรียนรู้ และ/หรือการปรับเปลี่ยนหรือพัฒนากระบวนการ เรียนรู้ ที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ โดยไม่มีใครเคยทำมาก่อน เพื่อทำให้เกิด การเรียนรู้ผ่านระบบประสาทสัมผัส ระบบประสาทมอเตอร์ ระบบ สมองเกี่ยวกับความจำ ความรู้สึกและอารมณ์ ทำให้เกิดปัญญาและจิต ปัญญา ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและการทำงาน ต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ เช่น รูปแบบการสอน สื่อการสอนใหม่ๆ เป็นต้น โดยการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ ให้ครูมีความรู้ ความเข้าใจ ในการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ รวมถึงการสนับสนุนและส่งเสริมให้ ครูพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ผ่านการอบรม และกระบวนการวิจัย เกิดเป็นผลงานด้านนวัตกรรมการเรียนรู้ในสถานศึกษาที่ได้รับรางวัล และ/หรือมีการเผยแพร่แก่หน่วยงานภายนอกและเกิดเป็นแนวปฏิบัติ สู่ความเป็นเลิศ Best Practice ในการบริหารจัดการของสถานศึกษา ด้านนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ จนสามารถขยายผลแก่สถานศึกษา อื่น เกิดเป็นเครือข่ายหรือชุมชนแห่งการเรียนรู้ ด้านนวัตกรรมการ จัดการเรียนรู้อย่างยั่งยืน 16
เมื่อโรงเรียนได้มีการดำเนินการตามรูปแบบการบริหารสู่ การสร้างนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดเล็กจังหวัดชุมพร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร โดยโรงเรียนมีการ ประเมินผลการดำเนินงานตามรูปแบบฯ ซึ่งเป็นการนิเทศติดตามการบริหารฯ เพื่อตรวจสอบว่าโรงเรียนสามารถดำเนินการดังกล่าวและเกิดเป็นนวัตกรรมการ จัดการเรียนรู้ในสถานศึกษาเชิงประจักษ์หรือไม่ ถ้าหากการดำเนินการการบริหารสู่ การสร้างนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียนมัธยมศึกษาฯยังไม่เกิดนวัตกรรมการ จัดการเรียนรู้ในสถานศึกษาเชิงประจักษ์โดยภาพรวมของสถานศึกษา ต้องย้อนกลับไป ยังกระบวนการจัดการในสถานศึกษาว่ามีส่วนไหน หรือขั้นตอนการดำเนินการใดที่ส่ง ผลกระทบต่อการดำเนินงานที่ไม่สามารถทำให้บรรลุเป้าหมายได้ และดำเนินการ ปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้เกิดเป็นนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ในสถานศึกษาเชิงประจักษ์ ซึ่งผลงานด้านนวัตกรรมการเรียนรู้ที่เกิดขึ้น สถานศึกษาสามารถนำมาใช้ในการ พัฒนาการจัดการเรียนรู้ให้กับนักเรียนของโรงเรียนได้ และเกิดเป็นแนวปฏิบัติสู่ความ เป็นเลิศ Best Practice ในการบริหารจัดการของสถานศึกษา ด้านนวัตกรรมการ จัดการเรียนรู้ จนสามารถขยายผลแก่สถานศึกษาอื่น เกิดเป็นเครือข่ายหรือชุมชนแห่ง การเรียนรู้ ด้านนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ อย่างยั่งยืน และประชาสัมพันธ์ รายงาน ผลการดำเนินงานของสถานศึกษาสู่ภายนอกได้ การประเมินผลการดำเนินงาน 17
เงื่อนไขความสำเร็จ 18
ประสิทธิภาพของการบริหารจัดการที่มีความชัดเจน การบริหารจัดการที่มีการกำหนดทิศทาง วางแผนการดำเนินงานจนบรรลุ เป้าหมาย (Goal Optimization) ซึ่งเป็นความสามารถขององค์กรในการได้มา และ ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีจำกัด และมีคุณค่าให้เป็นประโยชน์ที่สุดเท่า ที่จะเป็นไปได้ในการปฏิบัติตามเป้าหมาย และการเน้นบทบาทของพฤติกรรม ของบุคคลในองค์กรที่มีต่อความสำเร็จขององค์กรในระยะยาว หรือการยอมรับ ว่าเป้าหมายองค์กรจะสามารถบรรลุถึงได้โดยอาศัยพฤติกรรมของสมาชิกใน องค์กรโดยใช้แรงจูงใจ (Motivation) และความสามารถ (Ability) ซึ่งเป็นตัว กำหนดที่สำคัญต่อพฤติกรรมการทำงาน ความตระหนักในการสร้างนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ในสถานศึกษา การสร้างสรรค์นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ เป็นการ แสดงออกถึงความตระหนัก กระบวนการคิด และเทคนิควิธีการ ของบุคคลที่สามารถออกแบบและผลิตหรือนำสื่อการเรียนการ สอนใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการ สอนอย่างเป็นระบบ สามารถให้คำแนะนำหรือคำปรึกษาด้าน สื่อการเรียนการสอนให้กับผู้อื่นได้และสามารถประเมินและ ติดตามแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้สื่อการเรียนการ สอนใหม่ๆ ด้วยการนำกระบวนการวิจัยมาใช้เป็นเครื่องมือ 19 สำคัญใน การออกแบบและพัฒนาสื่อการเรียนการสอนที่ เหมาะสม
ศักยภาพของครูและผู้บริหารในการสร้างนวัตกรรม 20 การจัดการเรียนรู้ในสถานศึกษา ผู้บริหารมีทักษะในการบริหารจัดการภายในสถานศึกษา เพื่อให้การบริหารงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีการวางแผน กำกับ ติดตาม และประเมินผลการออกแบบและผลิต มีการส่งเสริมสนับสนุนให้มี การค้นคว้า วิจัย เพื่อผลิตและใช้นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ มีการตัดสินใจ และการแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นด้วยการนำกระบวนการวิจัยมาใช้เป็นเครื่อง มืออย่างเหมาะสม รวมทั้ง การสนับสนุนและเอื้ออำนวยการดำเนินการต่างใน สถานศึกษา ซึ่งผู้บริหารสถานศึกษาจำเป็นต้องนำสถานศึกษาของตนเองใน การแสดงศักยภาพในการบริหารจัดการในด้านต่าง ๆ ดังนี้ 1. ปรับปรุงผลลัพธ์ของนักเรียนทุกคน 2. ริเริ่มการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิผล 3. สำรวจและสนับสนุนการใช้ ICT และ e - learning 4. พัฒนาโรงเรียนให้เป็นชุมชนการเรียนรู้ 5. สร้างเครือข่ายเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และความสำเร็จ 6. พัฒนาผู้อื่นให้เป็นผู้นำ ครูมีความรู้ความเข้าใจ มีความตื่นตัวและเตรียม พร้อมในการจัดการเรียนรู้ แสวงหาความรู้ การสนทนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็น การตัดสินใจเลือกใช้เทคโนโลยี การเลือกจัดสถานการณ์ และจัดกิจกรรมในชั้น เรียน การวางแผนการจัดการเรียนรู้ การผลิตสื่อ และการประเมินผลการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนบรรลุวัตถุประสงค์การเรียนรู้ที่วางไว้และเตรียมความพร้อมให้ นักเรียนมีทักษะ สำหรับการออกไปดำรงชีวิตที่เปลี่ยนไปให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะจำเป็น ตลอดจนการเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ โดยร่วมกันสร้าง นวัตกรรม รูปแบบและแนวปฏิบัติในการเสริมสร้างประสิทธิภาพของการจัดการ เรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ที่เน้นองค์ความรู้ ทักษะ ความเชี่ยวชาญและสมรรถนะที่ เกิดกับตัวผู้เรียน เพื่อความสำเร็จของผู้เรียนทั้งด้านการทำงานและการดำเนิน ชีวิต
เอกสารคู่มือรูปแบบฯ 21
Search
Read the Text Version
- 1 - 25
Pages: