บันทึกหลังแผนขึ้นชั้น

วช-ร 01 บนั ทกึ ข้อความ ส่วนราชการ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแม่แจม่ จงั หวดั เชียงใหม่ ท่ี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 วนั ท่ี 9 ตุลาคม 2563 เรือ่ ง การเสนอแผนการจัดการเรยี นรเู้ พอ่ื ขออนญุ าตใชใ้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรยี น ผู้อานวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 ข้าพเจ้า นายนิกร ไชยบุตร ตาแหน่ง ครู กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและ วัฒนธรรม ได้จดั ทาแผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาสังคมศึกษา รหสั วิชา ส 33102 ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 6 ภาค เรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 – 4 จานวน 4 แผน จานวน 40 ช่วั โมง รายละเอียดดงั แนบมาพรอ้ มนี้ จงึ เรยี นมาเพือ่ โปรดทราบและพจิ ารณา ลงชื่อ............................................................ครูผู้สอน (นายนกิ ร ไชยบุตร) 9/ต.ค./2563 1. ส่วนประกอบของเอกสาร ท่ี รายการ มี ไมม่ ี หมายเหตุ 1 คาอธิบายรายวชิ า 2 ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ (ตารางวเิ คราะห์ KPA) 3 โครงการสอน/สาระการเรียนร/ู้ จานวน ชม. 4 การออกแบบกระบวนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 5 แผนการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 6 รายละเอยี ดแผนการวดั และประเมินการเรียนรู้ ความเห็นของหวั หน้ากลุ่ม/ตวั แทนกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม 2. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ ท่ี ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรบั ปรงุ 3. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ ท่ี ( ) ท่เี น้นผ้เู รยี นเปน็ สาคัญมาใช้ในการจัดกิจกรรมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ( ) ทย่ี ังไม่เน้นผเู้ รียนเปน็ สาคญั ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป 4. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ ท่ี ( ) นาไปใช้จรงิ ( ) ควรปรับปรุงก่อนนาไปใช้

5. ขอ้ เสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื …………………………………………............ ( นายศรมี ลู สมบุตร ) หวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้/ผู้แทน ความเหน็ ของรองผอู้ านวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ/หวั หน้ากลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ 1. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ ที่ ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรบั ปรงุ 2. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ ท่ี ( ) ทีเ่ นน้ ผูเ้ รียนเป็นสาคัญมาใช้ในการจัดกจิ กรรมไดอ้ ย่างเหมาะสม ( ) ที่ยังไม่เน้นผเู้ รียนเปน็ สาคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ ที่ ( ) นาไปใช้จริง ( ) ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนาไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ……………………………………………………………. ( นายวเิ ศษ ฟองตา ) ตาแหนง่ รองผู้อานวยการกลุ่มบริหารงานวชิ าการ ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ( ) อนุญาตใหใ้ ช้ นาแผนการจัดการเรียนรู้นี้ ไปใช้จดั กจิ กรรมการเรียนร้ไู ด้ ( ) ไมอ่ นญุ าต เพราะ .................................................................................................................................................... ลงชือ่ ……………………………………………………………. (นายอดศิ ร แดงเรอื น) ผูอ้ านวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31

คำอธบิ ำยรำยวิชำ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้สังคมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม รหัสวิชำ ส 33102 ชัน้ มัธยมศึกษำปีท่ี 6 เวลำ 40 ชวั่ โมง/ภำคเรยี น จำนวน 1.0 หน่วยกิต ภำคเรยี นท่ี 2 ศึกษาหาความรู้เกยี่ วกับทฤษฎีและวธิ ีการของพระพทุ ธศาสนาท่ีเป็นสากล ศึกษาข้อปฏิบัติท่ียึดทาง สายกลางพระรัตนตรัย ศึกษาพระรัตนตรัย อริยสัจ 4 มงคล 38 พุทธศาสนสุภาษิตประวัติพุทธสาวก พุทธ สาวิกาและศาสนิกชนตัวอย่าง ชาดก นามาเป็นแบบอยา่ งในการดาเนินชีวติ ศึกษาปัญหาในชุมชนและสงั คม พร้อมทั้งเสนอแนวทางในการจัดกิจกรรมความร่วมมือของทุกศาสนาในการแก้ปัญหาในชุมชนและสังคม ศกึ ษาและปฏิบัตติ นใหถ้ กู ตอ้ งในศาสนพิธี บุญพธิ ี ทานพธิ ี กศุ ลพิธีและบอกประโยชน์ของศาสนพธิ ีได้ ศกึ ษาระบบการปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตย อนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รปู แบบของ รัฐ ฐานะและพระราชอานาจของพระมหากษัตริย์ การตรวจสอบการใช้อานาจรัฐตามรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจกั รไทย ฉบับปจั จบุ นั ทม่ี ผี ลตอ่ การเปลี่ยนแปลงทางสังคม ศึกษาความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ บทบาทขององค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจท่ี สาคัญในภูมิภาคต่างๆ ของโลก ปัจจัยต่าง ๆ ที่นาไปสู่การพึ่งพา การแข่งขันการขัดแย้งและการประสาน ประโยชนท์ างเศรษฐกจิ ไทยกบั ต่างประเทศ ตัวอยา่ งเหตุการณ์ทน่ี าไปส่กู ารพึง่ พาทางเศรษฐกจิ ผลกระทบจาก การดาเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศปัจจัยต่าง ๆ ที่นาไปสู่การพึ่งพาการแข่งขัน การขัดแย้ง และการประสานประโยชน์ทางเศรษฐกจิ และกดี กนั ทางการค้า รู้และเข้าใจการแก้ปัญหาและการดาเนินชีวติ ตามแนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อมเพอ่ื การพัฒนาทยี่ ั่งยืน โดยใช้กระบวนการวิเคราะห์ สังเคราะห์ คิดหาเหตุและผล แล้วทาการสารวจตรวจสอบข้อมูล เพื่อให้เกดิ ความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สามารถนาเสนอสื่อสารส่งิ ทเี่ รยี นรู้ มาปรบั ใช้ในชีวิตประจาวนั พร้อมท้ังเห็นคุณค่าของการปฏิบัติตนเพื่อให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์เกิดความรักและหวงแหน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และเปน็ บุคคลแห่งการเรียนร้ทู ่ีมคี ุณภาพ รหสั ตวั ชี้วัด ส1.1ม.6/4,ส1.1ม.6/13,ส1.1ม.6/14,ส1.1ม.6/22,ส1.2ม.6/2,ส 2.2 ม 6/3,ส 2.2 ม 6/4,ส 3.2 ม6/3,ส 5.2ม 6/5 รวม 9 ตัวช้ีวดั

ผังมโนทัศน์ วิชำสังคมศึกษำ (พื้นฐำน) ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษำปีท่ี 6 หน่วยที่ 1 ภำคเรยี นที่ 2 / 2563 หน่วยท่ี 2 พระรตั นตรัย จำนวน 40 ชัว่ โมง หน้ำท่พี ลเมอื ง 2 10 ช่ัวโมง 10 ชว่ั โมง หนว่ ยท่ี 3 เศรษฐศำสตร์ 2 หนว่ ยท่ี 4 ภูมศิ ำสตร์ 2 10 ช่ัวโมง 10 ช่ัวโมง

แบบบนั ทึกหลงั กำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้ ชอ่ื หนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ่ี พระพุทธศำสนำ 2 แผนกำรเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอื่ ง หลักธรรมทำงพระพุทธศำสนำ รำยวชิ ำ สงั คมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศกึ ษำปที ี่ 6 รหัสวิชำ ส 33102 ครูผู้สอน นำยนกิ ร ไชยบตุ ร ตำแหน่ง ครู เวลำที่ใช้ 10 ชว่ั โมง ************************* แนวทำงกำรจัดกำรเรียนกำรสอน ข้อคน้ พบระหวำ่ ง ปญั หำทพ่ี บ แนวทำงแกไ้ ข ท่ีมีกำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้ เนอ้ื หำ นักเรียนเข้าใจวา่ พระพทุ ธศาสนามีพระ รตั นตรยั เป็นทพี่ ึ่งสูงสดุ ของ พทุ ธศาสนิกชน อริยสัจ 4 เปน็ หลกั ธรรมที่ ช่วยใหม้ นุษย์พน้ จากความทกุ ข์ และมี พุทธศาสนสภุ าษิตมีลักษณะเปน็ ข้อความ สน้ั ๆ และแฝงดว้ ยคติเตือนใจในการ ดาเนนิ ชวี ิตใหม้ นษุ ยศ์ ึกษาและนามา ปฏิบตั ิ เพื่อใหช้ ีวิตมคี วามสขุ อย่างแทจ้ รงิ กิจกรรมกำรเรยี นรู้ - นักเรยี นร่วมกันแสดงความคิดเห็น เก่ียวกับความหมายและคณุ คา่ ของพระ รตั นตรยั แลว้ สรุปเปน็ ความคิดรวบยอด โดยตอบคาถาม - นักเรียนร่วมกนั เสนอแนวทางการปฏิบัติ ตนท่ถี ูกตอ้ งเหมาะสมตอ่ พระรตั นตรัย พร้อมวเิ คราะหผ์ ลทเ่ี กดิ ขนึ้ จากการปฏิบัติ ลงในตาราง แลว้ สรุปเปน็ ความคิดรวบ ยอด - นักเรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกับอรยิ สัจ 4 ในหัวข้อหมวดธรรม เร่ือง ทุกข์ แล้วสรปุ เป็นความคิดรวบยอด โดยตอบ คาถาม - นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความรูเ้ ร่อื ง ทุกข์ใน อรยิ สัจ 4 เกี่ยวกบั ขนั ธ์ 5 โลกธรรม 8 และจติ เจตสิก

ลงในแผนภาพความคิด แล้วสรปุ เป็น จัดกจิ กรรมทห่ี ลากหลายและ ความคิดรวบยอด กระตุน้ ใหน้ กั เรียนเกิดความ - นักเรียนร่วมกนั วเิ คราะหส์ รุปคุณค่าและ สนใจ ประโยชนท์ ่ีได้รับจากการศึกษาเรียนรู้ หลกั ธรรม ทเ่ี ก่ยี วข้องกบั ทุกข์ในอริยสจั 4 ลงใน แผนภาพความคิด แลว้ สรปุ เปน็ ความคดิ รวบยอด - นกั เรียนร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกับอริยสจั 4 : สมทุ ยั (ธรรมท่คี วร ละ) แลว้ สรุปเป็นความคดิ รวบยอด โดย ตอบคาถาม ส่อื ประกอบกำรเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียน รายวิชาพืน้ ฐาน พระพทุ ธศาสนา ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4-6 ของสถาบันพฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.) 2. ภาพข่าวอาชญากรรมจากหนงั สอื พมิ พ์ รายวัน 3. ประวัติความเปน็ มาของมงคล 38 4. ตัวอยา่ งสถานการณท์ ่ีสอดคลอ้ งกบั พทุ ธศาสนสุภาษติ 5. ตวั อยา่ งขา่ วบุคคลท่ีทาความดี 6. แหล่งการเรยี นรู้ทัง้ ภายในและภายนอก โรงเรียน พฤติกรรม/กำรมีส่วนร่วมของผเู้ รียน ความรู้พ้ืนฐานของนักเรียน เขา้ เรยี นตรงเวลา ตง้ั ใจเรยี น เอาใจใส่และ มคี วามเพยี รพยายามในการเรียนรู้ มสี ว่ น รว่ มในการเรยี นรู้ และเขา้ รว่ มกจิ กรรม การเรยี นร้ตู ่าง ๆ และเป็นแบบอยา่ งท่ดี ี ลงช่อื …..........………….......................…….. ครผู ู้จดั กิจกรรมการเรียนรู้ ( นายนกิ ร ไชยบตุ ร ) ตาแหน่ง ครู

แบบบันทกึ หลงั กำรจัดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ ช่ือหนว่ ยกำรเรียนรทู้ ี่ หนำ้ ทีพ่ ลเมือง 2 แผนกำรเรียนรทู้ ี่ 2 เรือ่ ง กำรปกครองระบอบประชำธิปไตย รำยวิชำ สงั คมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศกึ ษำปที ี่ 6 รหสั วิชำ ส 33102 ครูผู้สอน นำยนกิ ร ไชยบตุ ร ตำแหน่ง ครู เวลำท่ใี ช้ 10 ชว่ั โมง ************************* แนวทำงกำรจดั กำรเรียนกำรสอน ข้อค้นพบระหวำ่ ง ปัญหำทีพ่ บ แนวทำงแกไ้ ข ท่ีมีกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ เนอ้ื หำ นกั เรยี นเข้าใจวา่ รฐั เปน็ ชุมชนทาง การเมอื งท่ีมีอานาจในการปกครองตนเอง อยา่ งอสิ ระทาให้แต่ละรัฐสามารถเลือก ระบอบการปกครองแบบตา่ ง ๆ มาใช้เพอ่ื ประโยชน์ในการปกครองทาใหเ้ กิดความ คล้ายคลงึ และความแตกตา่ งกนั ของระบอบ การปกครองในรฐั ตา่ ง ๆ สาหรับประเทศ ไทยมีการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย อนั มพี ระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมุข กิจกรรมกำรเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นสงั เกตแผนที่ประเทศไทย จากน้นั ร่วมกันสนทนา แล้วตอบคาถาม 2. นักเรยี นรว่ มกนั สนทนาเกยี่ วกบั บทบาท และความสาคัญของรฐั บาล โดยการตอบ คาถาม 3. นกั เรียนรว่ มกนั สนทนาเก่ยี วกบั คานิยาม ของประชาธิปไตยทกี่ าหนดให้ แล้วตอบ คาถาม 4. นักเรยี นอ่านข้อความเก่ียวกับการ ปกครองระบอบประชาธิปไตย จากนัน้ รว่ มกันสนทนา แลว้ ตอบคาถาม 5. นกั เรยี นดูวิดีโอ/ภาพเกีย่ วกบั เหตกุ ารณ์ การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 จากน้นั ร่วมกันสนทนา แล้วตอบคาถาม 6. นกั เรยี นร่วมกนั สนทนาเกีย่ วกบั การ ปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมี

พระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมุข โดยการ - ตอบคาถาม 7. นกั เรยี นศกึ ษาและรวบรวมขอ้ มูล กระตนุ้ ใหน้ กั เรียนใหเ้ กิด เก่ียวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตย กระบวนการกลมุ่ และฝึก จากหนังสือเรยี นและแหลง่ การเรยี นรอู้ ่ืน ๆ ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ เพ่มิ เติม อยา่ งหลากหลาย สอื่ ประกอบกำรเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียน รายวิชาพ้ืนฐาน หน้าที่ - พลเมือง วฒั นธรรม และการดาเนนิ ชีวติ ใน สงั คม ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4-6 ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) 2. แผนที่ประเทศไทย 3. ตัวอย่างคานยิ ามของประชาธปิ ไตย 4. ข้อความเกยี่ วกับการปกครองระบอบ ประชาธิปไตย 5. วดิ โี อ/ภาพเกี่ยวกบั เหตุการณ์การ เปล่ียนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 6. แหล่งการเรยี นรู้ท้งั ภายในและภายนอก โรงเรียน พฤติกรรม/กำรมสี ่วนร่วมของผ้เู รียน นกั เรียนขาดทักษะการคดิ เขา้ รว่ มกิจกรรมและมสี ว่ นร่วมในการจัด วิเคราะหใ์ นเนอ้ื หารท่ีสอนแตม่ ี กิจกรรมทเ่ี กยี่ วกบั สถาบันพระมหากษัตรยิ ์ ความรูค้ วามเข้าใจบทเรียน ตามที่โรงเรยี นและชุมชนจดั ข้นึ ชน่ื ชมใน พระราชกรณยี กิจ พระปรีชาสามารถของพระมหากษัตรยิ แ์ ละ พระราชวงศ์ ลงชื่อ …..........………….......................…….. ครผู ู้จดั กิจกรรมการเรียนรู้ ( นายนกิ ร ไชยบตุ ร ) ตาแหน่ง ครู

แบบบันทกึ หลังกำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้ ช่อื หน่วยกำรเรียนรูท้ ี่ เศรษฐศำสตร์ 2 แผนกำรเรยี นรู้ท่ี 3 เรอื่ ง กำรเงิน กำรคลัง รำยวชิ ำ สังคมศกึ ษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ช้ันมัธยมศึกษำปีที่ 6 รหัสวิชำ ส 33102 ครผู สู้ อน นำยนิกร ไชยบุตร ตำแหนง่ ครู เวลำที่ใช้ 10 ชวั่ โมง ************************* แนวทำงกำรจัดกำรเรียนกำรสอน ขอ้ ค้นพบระหวำ่ ง ปัญหำที่พบ แนวทำงแก้ไข ทีม่ ีกำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้ เนือ้ หำ นักเรยี นเขา้ ใจวา่ ในการบรหิ ารประเทศของ รฐั บาลมอี งค์ประกอบหลายอยา่ ง ซึง่ เป็น ปจั จยั สาคญั ในการขบั เคลื่อนเศรษฐกิจ ได้แก่ การเงนิ และสถาบันการธนาคาร การคลัง งบประมาณ รายได้ รายจา่ ยของรฐั บาล เป็น สงิ่ ท่ีทาใหม้ องเหน็ การบรหิ ารประเทศโดย ภาพรวมของรัฐบาล เพอื่ พัฒนาเศรษฐกิจของ ประเทศใหย้ ั่งยืน และเพ่ือปอ้ งกนั ผลกระทบ ต่าง ๆ ท่ีจะเกดิ ข้นึ กบั เศรษฐกิจของประเทศ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ 1. นักเรียนร่วมกนั สนทนาเกยี่ วกบั ความหมายและประเภทของเงนิ โดยตอบ คาถาม 2. นกั เรยี นรว่ มกนั สนทนาเกี่ยวกับสถาบนั การเงิน โดยตอบคาถาม 3. นักเรียนร่วมกนั สนทนาเกย่ี วกบั ความหมายและความสาคัญของงบประมาณ แผ่นดนิ โดยตอบคาถาม 4. นักเรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกับรายไดแ้ ละ รายจ่ายของรฐั บาล โดยตอบคาถาม 5. นกั เรียนรว่ มกนั สนทนาเกี่ยวกับ ความสาคัญของหน้สี าธารณะ โดยตอบ คาถาม 6. นักเรียนรว่ มกนั สนทนาเก่ียวกับนโยบาย การคลังและนโยบายการเงินท่ีมคี วามสาคญั ตอ่ ระบบเศรษฐกิจ โดยตอบคาถาม

7. นักเรียนรว่ มกนั อ่านข้อความเก่ียวกบั การ เพ่ิมสูงข้ึนของระดับราคาสินค้าและบรกิ าร แลว้ ตอบคาถาม 8. นกั เรยี นร่วมกนั สนทนาเกีย่ วกบั ความหมายและความสาคัญของภาวะเงนิ ฝดื โดยตอบคาถาม 9. นักเรยี นร่วมกนั สนทนาเกย่ี วกบั ปญั หาทาง เศรษฐกิจ โดยตอบคาถาม 10. นกั เรยี นอา่ นตัวอย่างบทความเกย่ี วกับ ปญั หาการกระจายรายได้ไม่เทา่ เทยี มกนั จากนนั้ ร่วมกนั สนทนา แลว้ ตอบคาถาม 11. นกั เรียนศกึ ษาและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ เรอื่ ง การเงิน การคลัง จากหนังสอื เรียนและ แหลง่ การเรยี นรอู้ ืน่ ๆ เพมิ่ เติม สอื่ ประกอบกำรเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน รายวิชาพนื้ ฐาน เศรษฐศาสตร์ ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4-6 ของสถาบันพฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) 2. ขอ้ ความเกีย่ วกับการเพมิ่ สูงขึ้นของระดับ ราคาสนิ ค้าและบรกิ าร 3. ตัวอย่างบทความเกย่ี วกับปญั หาการ กระจายรายได้ไมเ่ ท่าเทียมกนั 4. แหล่งการเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอก โรงเรียน พฤติกรรม/การมสี ่วนรว่ มของผ้เู รยี น นกั รเรยี นขาดทักษะความรู้ จดั ทาวจิ ัยในชน้ั เรียนเพื่อ วเิ คราะห์บทบาทของรฐั บาลเก่ียวกบั การคลงั พน้ื ฐานสาระเศรษฐศาสตร์ใน วเิ คราะหแ์ ละพฒั นา ผลสมั ฤทธ์ขิ องนักเรยี น ในการพัฒนาเศรษฐกจิ ของประเทศได้สมั พนั ธ์ เรื่อง การเงิน การคลงั โดยสร้างเครอื่ งมือเพ่ือ กนั มกี ารเช่อื มโยงใหเ้ หน็ เป็นภาพรวมและ นาเสนอในรปู แบบ ปัญหา ของงานวจิ ัย นาเสนอข้อมูล ที่เป็นประโยชนต์ ่อตนเองและผอู้ นื่ ลงช่อื …..........………….......................…….. ครูผู้จดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ( นายนกิ ร ไชยบตุ ร ) ตาแหนง่ ครู

แบบบันทึกหลงั กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ ช่อื หน่วยกำรเรียนร้ทู ี่ ภูมิศำสตร์ 2 แผนกำรเรยี นรู้ท่ี 4 เรอื่ ง ทรัพยำกรธรรมชำตแิ ละสิ่งแวดล้อม รำยวิชำ สงั คมศกึ ษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ช้นั มัธยมศึกษำปีท่ี 6 รหสั วิชำ ส 33102 ครผู ู้สอน นำยนกิ ร ไชยบุตร ตำแหนง่ ครู เวลำท่ใี ช้ 10 ช่วั โมง ************************* แนวทำงกำรจัดกำรเรียนกำรสอน ขอ้ ค้นพบระหวำ่ ง ปญั หำที่พบ แนวทำงแก้ไข ทม่ี กี ำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ เน้อื หำ นักเรียนเขา้ ใจวา่ มนุษย์เรามีความสัมพันธ์กบั ทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อมอย่างใกล้ชดิ ท้ัง ในฐานะทเี่ ป็นสว่ นหน่ึงของธรรมชาติ และใน ขณะเดยี วกนั กเ็ ป็นผู้ใช้ประโยชน์จากธรรมชาติใน การดารงชีวิต ดังนน้ั การอย่ภู ายใตเ้ งอื่ นไขของการ รูจ้ กั ใชป้ ระโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอยา่ งชาญ ฉลาดจึงเป็นเรื่องท่ีสาคัญ การจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อมให้เป็นระบบ และเหมาะสม จะตอ้ งคานึงถึงขีดความสามารถใน การรองรบั เพอ่ื ใหส้ ามารถใช้ประโยชนไ์ ด้อย่างย่งั ยืน กิจกรรมกำรเรียนรู้ 1. นกั เรยี นร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกับความหมายและ ความสาคญั ของทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม โดยตอบคาถาม 2. นักเรียนรว่ มกนั สนทนาเกีย่ วกบั สถานการณก์ าร เปลีย่ นแปลงด้านทรพั ยากรดนิ โดยตอบคาถาม 3. นักเรียนสงั เกตแผนทโี่ ลกพ้นื ที่ทมี่ ภี าวะเส่ยี งตอ่ การขาดแคลนนา้ จากน้นั ร่วมกันสนทนาแลว้ ตอบ คาถาม 4. นักเรียนร่วมกนั สนทนาเกยี่ วกับอากาศบนโลก โดยตอบคาถาม 5. นกั เรียนรว่ มกนั สนทนาเกยี่ วกบั ความสาคัญของ ทรัพยากรปา่ ไม้ โดยตอบคาถาม

6. นกั เรยี นร่วมกนั สนทนาเกีย่ วกับความหลากหลาย ทางชีวภาพ โดยตอบคาถาม 7. นักเรยี นรว่ มกนั สนทนาเก่ยี วกบั ทรัพยากรธรรมชาตทิ ี่สาคัญตอ่ ระบบเศรษฐกิจ โดย ตอบคาถาม 8. นักเรยี นรว่ มกนั สนทนาเกย่ี วกบั มาตรการป้องกนั ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มโดยตอบคาถาม 9. นักเรียนร่วมกนั สนทนาเกย่ี วกบั ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อมในประเทศไทย โดยตอบคาถาม 10. นกั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั ปัญหาดา้ น ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ มในประเทศโดย ตอบคาถาม 11. นกั เรยี นอา่ นบทความตอนหนึ่งเก่ยี วกับ “โลก ร้อน เพราะป่าหมด” จากน้ันร่วมกันสนทนาแลว้ ตอบคาถาม 12. นกั เรยี นเล่าประสบการณ์เกี่ยวกบั “การใช้ ประโยชน์จากทรพั ยากรธรรมชาตอิ ย่างฉลาด ประหยดั และเหมาะสม” จากน้ันร่วมกันสนทนา แลว้ ตอบคาถาม 13. นกั เรยี นอา่ นพระราชดารสั ของสมเดจ็ พระนาง เจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถ เก่ียวกบั ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม จากนน้ั รว่ มกนั สนทนา แล้วตอบคาถาม 14. นกั เรียนศกึ ษาและรวบรวมขอ้ มูลเกีย่ วกับเร่อื ง ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อมจากหนงั สอื เรยี น และแหล่งการเรยี นรูอ้ ่นื ๆ เพมิ่ เติม สื่อประกอบกำรเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรยี น รายวชิ าพ้นื ฐาน ภมู ศิ าสตร์ ช้ัน มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4-6 ของสถาบันพฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) 2. แผนทีโ่ ลกพ้ืนทที่ ่ีมภี าวะเสย่ี งตอ่ การขาดแคลนนา้ 3. พระราชดารัสเกีย่ วกบั ทรพั ยากรนา้ ใน พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช 4. บทความเกีย่ วกับโลกร้อนเพราะป่าหมด 5. พระราชดารสั ของสมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ เกยี่ วกบั การอนรุ กั ษ์ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม

6. แหลง่ การเรียนรทู้ ้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น พฤติกรรม/กำรมีส่วนร่วมของผเู้ รียน นกั เรียนยงั ขาดความ เชญิ วทิ ยากรภายนอก นักเรยี นศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรู้จากหนงั สอื เอกสาร ตระหนกั ในการอนรุ กั ษ์ เข้ามามีสว่ นรว่ มในการ สร้างความตระหนักใน สิ่งพิมพ์ สอื่ เทคโนโลยี ทรัพยากรธรรมชาตใิ น การอนุรักษ์ และสารสนเทศแหล่งเรยี นรูท้ ้งั ภายในและภายนอก ท้องถ่นิ ของตนเอง ทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดล้อมในทอ้ งถนิ่ โรงเรียน เลือกใช้ส่อื เช่น มลู นิธิรกั ษ์ไทยเปน็ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมมกี ารบันทึกความรู้ วิเคราะหข์ อ้ มลู ตน้ สรุปเป็นองคค์ วามรแู้ ลกเปล่ียนเรียนรู้ดว้ ยวธิ ีการท่ี หลากหลายและเผยแพร่แกบ่ คุ คลทัว่ ไปนาไปใช้ ในชีวติ ประจาวันได้ ลงช่อื …..........………….......................…….. ครผู ู้จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ( นายนกิ ร ไชยบตุ ร ) ตาแหนง่ ครู