สมัยอยุธยา สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
พระราชประวตั ิ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ หรือ สมเด็จพระราเมศว รบรมไตรโลกนาถบพิตร มพี ระนามเดมิ วา่ สมเด็จพระ ราเมศวร หมายถึง \"พระพุ ทธเจ้า\" หรือ \"พระอิศวร\" พระราชสมภพท่ีอยุธยาเม่ือปี พ.ศ. 1974 แต่เติบโต และมีชวี ิตในวัยเยาว์ท่ีพิษณุโลก โดยเปน็ พระราชโอรสของสมเด็จพระบรมราชาธบิ ดที ่ี 2 (เจ้าสามพระยา) กับพระราชธดิ าของพระมหาธรรม ราชาที่ 2 แห่งสุโขทัย พระองคจ์ ึงเปน็ เชือ้ สาย ราชวงศ์สุพรรณบรุ ีและราชวงศ์พระร่วง สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
ราชธานสี มยั อยธุ ยา
บทบาทในการพัฒนาชาตไิ ทย
ดา้ นการปกครอง ประกอบดว้ ยการจัดระเบียบการปกครองส่วนกลางและส่วนภูมิภาค อนั เปน็ แบบแผน ซ่ึงยึดสืบตอ่ กันมาจนถงึ รชั สมยั รัชกาลท่ี 5 ของกรุงรัตนโกสินทร์ และการตราพระ ราชกาหนดศักดินา ซึง่ ทาให้มีการแบ่งแยกสิทธแิ ละหนา้ ท่ีของแต่ละบุคคลแตกตา่ งกนั ไป โดยทรงดาริว่ารปู แบบการปกครองนบั ตงั้ แตร่ ชั สมยั สมเดจ็ พระรามาธบิ ดที ่ี 1 มี ความหละหลวม หวั เมอื งตา่ ง ๆ เบียดบงั ภาษีอากร
ตราพระราชกาหนดศักดนิ า สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถทรงตราพระราชกาหนดศักดินาข้นึ เป็นกฎเกณฑข์ องสังคม ทาให้มีการแบง่ ประชากรออกเป็นหลายชนชนั้ เชน่ เดียวกับหน้าท่แี ละสิทธขิ องแต่ละบุคคล ศักดนิ าเป็นความพยายามจดั ระเบียบ การปกครองใหม้ ีความรัดกุมยิง่ ขน้ึ อนั เปน็ หลักทีเ่ รยี กวา่ การรวมเขา้ สู่ศูนยก์ ลาง ทัง้ นี้ ถงึ แม้วา่ ศักดนิ าจะเป็น การกาหนดสิทธใิ นการถอื ครองทดี่ นิ แต่ในทางปฏิบัตแิ ลว้ หมายถงึ จานวนไพร่พลทส่ี ามารถครอบครอง เกณฑ์ การปรับไหม และลาดับการเขา้ เฝา้ แทน 16/07/64
กฎมณเฑยี รบาล ในปี พ.ศ. 2001 สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถทรงตัง้ กฎมณเฑียรบาล ข้ึนเปน็ กฎหมายสาหรบั การปกครอง แบ่งออกเปน็ สามแผน คือ - พระตาราวา่ ดว้ ยแบบแผนพระราชพิธตี ่าง ๆ - พระธรรมนูญวา่ ด้วยตาแหนง่ หนา้ ท่ีราชการต่าง ๆ - พระราชกาหนดเปน็ ข้อบังคบั สาหรับพระราชสานัก 16/07/64
ด้านวรรณกรรม ในรัชสมัยสมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถ พระองค์ไดโ้ ปรดเกลา้ ฯ ใหป้ ระชมุ นกั ปราชญ์ ราชบัณฑติ แต่งหนังสือมหาชาติคาหลวง นับวา่ เปน็ วรรณกรรมทางพระพุทธศาสนา เรอื่ งแรกของกรุงศรอี ยธุ ยา และเปน็ วรรณคดชี นั้ เยี่ยมทใ่ี ช้เปน็ แนวทางในการศึกษาภาษา และวรรณคดขี องไทย นอกจากนีย้ งั มลี ิลิตพระลอ ซ่ึงเป็นยอดวรรณคดีประเภทลลิ ิตของไทย 16/07/64
แบบอย่างความดีสู่การปฏิบตั ติ น
นาย ภัครพล นิลสุขุม เลขท่ี 4 1 การมีระเบยี บเเบบเเผน คือ ทรงจดั การเมืองการปกครองให้ มเี เบบเเผน การปรบั นาไปใช้ 1.วางเเผนทเ่ี ราจะทา จะไดไ้ ม่ตอ้ งเกดิ ความวุน่ วาย 2. มคี วามเปน็ ระเบียบ คือการใชส้ ิ่งของเเล้วเกบ็ ให้เปน็ ที่จะไดม้ ี ความเปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ย เวลาจะเอามาใช้ใหมจ่ ะหาได้งา่ ย 3.สามารถแก้ไขปญั หาไดเ้ มอื่ เกิดปญั หาตามมาภายหลัง นาย อภริ ักษ์ วาดสุทธาชพี เลขท่ี 6
2 การอยู่รวมกนั โดยสงบสุข คอื ทรงตงั้ กฏมลเฑยี รบาล การปรับนาไปใช้ 1. การอยกู่ บั คนหมมู่ ากควรมีกฎระเบยี บเพื่อการอยูด่ ว้ ยกัน อย่างสงบสุข 2. มีความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคมส่วนรวมไม่ทาอะไรเสียหายเเละไม่ ทาให้คนอน่ื เดอื ดร้อน 3. การมีน้าใจตอ่ กันการอยูก่ บั สังคมหมูม่ ากควรจะมีน้าใจซ้ึง กนั เเละกันไม่เบยี ดเบยี นกนั นาย ธนภมู ิ นารบี ตุ ร เลขท่ี 10
3 ความคิดทเ่ี ฉลียวฉลาด,การนบั ถือศาสนา คอื ทรงเเต่งวรรณ กรรมทางพระพุทธศาสนาเรือ่ งเเรกของอยุธยาเเละเปน็ วรรณคดี ทใี่ ชใ้ นการศึกษาภาษาไทย การปรับนาไปใช้ 1. การตัง้ ใจศึกษาภาษา 2. ศึกษาเกีย่ วกบั ศาสนา เพ่ือใหม้ ีความรเู้ ก่ยี วกบั ศาสนาเเละ สามารถเข้าใจความหมายของศาสนานัน้ ๆได้ 3. หมนั่ ศึกษาหาความรูเ้ ขาตวั ตลอดเวลาจะได้มีความรูร้ อบดา้ น และสามารถนาไปปฏิบัตใิ นสังคมได้ นาย สมโภชน์ สิทธเิ กสร เลขท่ี 14
จดั ทาโดย นาย ภคั รพล นลิ สุขุม เลขที่ 4 นาย อภริ ักษ์ วาดสุทธาชีพ เลขท่ี 6 นาย ธนภมู ิ นารีบุตร เลขที่ 10 นาย สมโภชน์ สิทธเิ กสร เลขท่ี 14 ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 5/4 เสนอ อาจารย์ พิกลุ มใี จเจือ โรงเรียน ภาชี\"สุนทรวทิ ยานกุ ูล\"
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: