โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง วัดที่มชี อื่ เสยี งในภาคใต้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จดั ท าโดย 1.นายอลงกรณ์ วรสทิ ธกิ ร เลขท่ี 3 2.นายพงศกร โต๊ะหลาง เลขที่ 10 3.น.ส.กรรณกิ า โต๊ะหลาง เลขที่ 18 4.น.ส.ชลธชิ า เอียดตนุ้ เลขท่ี 26 5.น.ส.ภาวติ า สามพลกรงั เลขที่ 34 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6/5 รายวิชา ว 31285 โครงงานทางเทคโนโลยสี ารสนเทศ ปกี ารศกึ ษา 2563 โรงเรยี นเมืองสรุ าษฎร์ธานี ส านกั งานเขตพน้ื ท่กี ารมัธยมศกึ ษา เขต 11 โครงงานคอมพวิ เตอร์
เรือ่ ง วัดท่ีมีชอื่ เสียงในภาคใต้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี สารสนเทศ ผู้จดั ท า 1. นายอลงกรณ์ วรสิทธิกร เลขที่ 3 2.นายพงศกร โต๊ะหลาง เลขท่ี 10 3.น.ส.กรรณกิ า โตะ๊ หลาง เลขท่ี 18 4.น.ส.ชลธชิ า เอียดตุ้น เลขที่ 26 5.น.ส.ภาวิตา สามพลกรงั เลขที่ 34 ครทู ีป่ รึกษา 1. นายธนั พงศ์ พานิชวงศ์ ต าแหนง่ ครู สถานศึกษา โรงเรียนเมืองสุราษฎร์ธานี ส านักงานเขตพื้นทก่ี ารมัธยมศึกษา เขต 11 ปกี ารศึกษา 2563 กติ ตกิ รรมประกาศ โครงงานนี้ส าเรจ็ ข้นึ ได้ดว้ ยความกรุณาของคณะอาจารย์หมวดคอมพิวเตอร์ โรงเรยี นเมอื งสุราษฎร์ธานี ซงึ่ ได้ ให้ค าปรึกษา ขอ้ ชีแ้ นะและความช่วยเหลอื จนกระท่งั โครงงานส าเร็จไปด้วยดี ผจู้ ดั ท าขอกราบ ขอบพระคณุ เปน็ อย่างสงู มา ณ ทน่ี ้ี ท้ายสดุ น้ีผูจ้ ัดท าหวงั เป็นอย่างยง่ิ ว่าโครงงานนจ้ี ะเปน็ ประโยชน์ตอ่ การศึกษาของและเปน็ ทน่ี า่ สนใจ ผู้สนใจตอ่ ไป
คณะผจู้ ัดท า หวั ขอ้ โครงงาน :วดั ทีม่ ชี อ่ื เสียงในภาคใต้ ประเภทของโครงงาน : โครงงานพฒั นาส่ือเพอื่ การศกึ ษา ผ้เู สนอโครงงาน : นาย จิรายุส งาสว่าง ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6/99 เลขที่ 37 ครทู ่ปี รกึ ษาโครงงาน : ครู ธนั พงศ์ พานชิ วงศ์ ปีการศึกษา : 2563 บทคัดยอ่ การจดั ท าโครงงานในคร้ังน้ีเผื่อการเรียนรกู้ ารสรา้ งแอพพลิเคชนั่ และการเลือกใชค้ อมพิวเตอร์ การ ศึกษาโปรแกรมคอมพวิ เตอรท์ ่ีใช้สรา้ งแอพพลเิ คชั่นและใหค้ วามรเู้ รอื่ งหลกั การท างานและการเลอื กใช้ คอมพวิ เตอรโ์ ดยประยุกต์ใช้โปรแกรมต่างๆ เช่นโปรแกรม Microsoft Word, Google sheet, glideapps สารบัญ เรอ่ื ง หนา้ เกี่ยวกบั โครงงาน ก กติ ตกิ รรมประกาศ ข บทคดั ยอ่ ค บทท่ี 1 บทน า 1 - ทีม่ าและความส าคัญของโครง งาน - วัตถุประสงค์ - ขอบเขตการศึกษาคน้ ควา้
- ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะได้รบั บทท่ี 2 เอกสารและโครงงานที่เกี่ยวข้อง 2 บทท่ี 3 วิธกี ารจดั ท าโครงงาน 9 - วัสดแุ ละอุปกรณ์ - วธิ กี ารจัดท าโครงงาน บทท่ี 4 ผลการศกึ ษา 10 บทที่ 5 สรุปผล และขอ้ เสนอแนะ 11 - สรุปผลการศึกษา - ประโยชนท์ ี่ได้จากโครงงาน - ขอ้ เสนอแนะ บรรณานุกรม ภาคผนวก ขอ้ มลู ผูจ้ ดั ท า บทท่ี 1 บทน า ท่ีมาและความส าคญั ของโครงงาน ในปัจจบุ ันมีการอนุรักษณก์ ารท่องเทย่ี วเชิงวฒั นธรรมมากขึน้ และการไปเทยี่ ววดั กเ็ ปน็ อกี หนึ่งสถานที่ ท่ีมผี คู้ นไปสกั การะบูชากนั อย่างเเพร่หลาย ผเู้ รียนรู้รุน่ ใหมจ่ ะเปน็ ผู้เรยี นทรี่ ักในการอนรุ กั ษว์ ฒั นธรรมไทยเเละ สบื สานหรือเผยเเพร่สู่คนรนุ่ ใหม่ใหม้ ีความคดิ ริเรมิ่ ในการรกั ษาวฒั นธรรมไทย วตั ถปุ ระสงค์ 1.เพอื่ การศกึ ษาการสรา้ งแอพพลเิ คช่ันของสมาทรโ์ ฟน 2.เพอ่ื ใชเ้ ทคโนโลยใี นการสง่ เสรมิ และเผยแพรพ่ ระพทุ ธศาสนา ขอบเขตของการศึกษาคน้ ควา้ ไดศ้ ึกษาเอกสารทเ่ี กย่ี วข้องจากคอมพิวเตอรโ์ ดยคน้ คว้าจากอินเทอร์เนต็ เเละจากหนงั สอื วดั ตา่ งๆ ใน ภาคใต้ ประโยชนท์ ีค่ าดวา่ จะไดร้ บั 1.ได้ฝกึ การเขียนแอพพลเิ คชน่ั
2.ได้ใช้เทคโนโลยใี หเ้ กิดประโยชน์ บทท่ี 2 เอกสารเเละโครงงานท่ีเกีย่ วข้อง ในการจดั ท าโครงงานการคอมพวิ เตอร์การพัฒนาเว็บไซด์เพ่ือการศกึ ษา เรอ่ื งวดั ดังในภาคใต้ เอกสารที่เก่ยี วข้อง 1.ความหมายวัด 2.ความหมายภาคใต้ 3.ความหมายแอพพลเิ คช่นั 4.โปรแกรมทใ่ี ชด้ าเนินงาน ความหมายวัด สถานท่ีทางพระพทุ ธศาสนา ปกตมิ ีพระอุโบสถ พระวหิ าร พระเจดีย์ รวมทัง้ มีพระภิกษุสงฆ์อยอู่ าศยั (ราชบัณฑติ ยสถาน 2552) สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงคเ์ ธอ เจา้ ฟา้ กรมพระยานริศรานุวดั ติวงศว์ งศ์ และพระยา อนุมานราชธน บันทกึ เรอื่ งความรู้ตา่ งๆ เล่ม 2 กลา่ วไว้วา่ วัด เปน็ ค าเรียกชอื่ ศาสนสถานแบบค าไทย โดยที่ มา ของค าว่า “วัด” ยังไมม่ ีขอ้ ยตุ ิ บางคนอธิบายว่า มาจากค าวา่ “วตวา” ในภาษาบาลี แปลวา่ เปน็ ท่ี สนทนา ธรรม บา้ งก็ว่ามาจาก “วัตร” อนั หมายถงึ กจิ ปฏิบตั หิ รอื หนา้ ทข่ี องพระภกิ ษุที่พึงกระท า หรือแปลอกี อยา่ งว่า การจ าศลี ซึง่ วดั (วัตร) ตามนัยยะน้ีจึงน่าจะหมายถึงสถานท่ีซง่ึ พระภกิ ษุสงฆ์ใช้เป็นที่จ าศีลภาวนา หรอื สถานที่ ท่ีพระภกิ ษุสงฆใ์ ช้ปฏิบตั ภิ ารกจิ ทพ่ี งึ กระท าน่นั เอง แต่กม็ บี างคนสนั นษิ ฐานวา่ มาจากค าวา่ “วัดวา” อัน หมายถึงการก าหนดขอบเขตของดนิ แดนที่สร้างเป็นศาสนสถานเพราะวดั กับวามคี วามหมาย อย่างเดยี วกนั คือ การสอบขนาด หรือปริมาณของสิง่ ตา่ งๆ เชน่ ความยาว ความกว้าง เปน็ ต้น วัดในนยั ยะ อยา่ งหลังนี้จงึ หมายถงึ พ้ืนที่
ครง้ั พทุ ธกาล ใชค้ าวา่ “อาราม” เป็นค าเรียกช่อื ศาสนสถานในทางพทุ ธศาสนาทใ่ี ช้เรยี กเสนาสนะท่ี มี ผศู้ รัทธาถวายพระพุทธองค์ในระยะแรกๆ เชน่ “เชตวนาราม” หรอื ชือ่ เต็มวา่ “เชตวเนอนาถบณิ ฑกิ สสอารา เม” ซง่ึ มคี วามหมายว่า “สวนของอนาถบิณฑท่ีปา่ เชต” หรอื “เวฬวุ นาราม” หรอื “บุปผาราม” เปน็ ต้น โดย “อาราเม” หรือ “อาราม” ในค าอ่านของไทยแปลว่าสวนนอกจากน้ีในเวลาตอ่ มายงั มคี าท่ีใช้เรยี กอีกอยา่ งว่า “วิหาระ” หรือ “วหิ าร” ยังมีค าท่ีให้ความหมายวดั อยอู่ กี ชอ่ื หนง่ึ คอื “อาวาส” ดังชอื่ ที่ใช้เรียกสมภารผู้ครอง วัดวา่ “เจ้าอาวาส” ซ่ึงแปลว่าผเู้ ป็นใหญ่ในวัด หรือช่อื เรียกวัด เช่น เทพศิรินทราวาส (เทพ+ศริ ินทรา+อาวาส) โดยปกตคิ าว่าอาวาสไม่เป็นท่ีนยิ มใชก้ ันในความหมายวา่ วัด ท้ังนีเ้ พราะนยิ มน าไปใช้กับความหมายท่ีแคบกวา่ ค าวา่ อาราม โดยมกั ใหค้ วามหมายในเชิงที่เป็นตัวเรือนท่ีอยอู่ าศัยมากกว่า อาวาสจงึ เสมือนเป็นทีอ่ ยูส่ ว่ นยอ่ ย ภายในอารามทีห่ มายถึงพืน้ ที่ที่เป็นศาสนสถานทงั้ เขต ตามพระราชบัญญตั ิคณะสงฆ์ในประเทศไทย พุทธศกั ราช 2505 ก าหนดไว้วา่ วดั มี 2 ชนิด คอื วัดท่ีไดร้ ับพระราชทาน วสิ งุ คามสีมา ส านักสงฆ์ วิสงุ คามสมี า หมายถงึ เขตพ้นื ทีท่ พี่ ระภิกษสุ งฆข์ อพระราชทานพระบรมราชานุญาตเพ่อื ใช้ จดั ตง้ั วดั ขึน้ แต่ ในทางปฏิบัตเิ ปน็ การขอพระบรมราชานญุ าติเฉพาะแตบ่ รเิ วณท่ีต้ังพระอโุ บสถเทา่ น้นั ส านักสงฆ์ หมายถงึ สถานทพ่ี านกั อาศยั ของหมู่พระภิกษุสงฆ์ ไม่ได้ขอพระบรมราชานญุ าตใิ ช้ ผืนทดี่ นิ แห่ง นนั้ เพื่อจดั ตัง้ เป็นวดั ข้ึน ดงั นัน้ ส านักสงฆจ์ งึ ไม่มีโรงพระอโุ บสถเพ่อื ใช้เปน็ ทีท่ าสงั ฆกรรม ทีไ่ ดร้ ับ พระราชทาน วสิ งุ คามสีมา ถือว่าเปน็ วัดท่ถี ูกตอ้ งและมฐี านะเปน็ นิติบคุ คลตามกฎหมาย วัดประเภทนย้ี ังแยก ออกเปน็ 2 ประเภท คือ วดั หลวงหรอื พระอารามหลวง หมายถงึ วดั ทพ่ี ระมหากษตั รยิ ์หรอื พระบรมวงศานวุ งศ์ทรงสรา้ ง หรอื วดั ท่รี ัฐบาลหรอื ราษฎรทวั่ ไปสร้างขึ้นแลว้ ทรงรับไว้ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ วดั ราษฎร์ หมายถึง วัดท่รี าษฎรท้ังหลายสรา้ งข้นึ ตามศรัทธาพระอารามหลวงแบง่ ออกได้เปน็ 3 ช้ัน คอื (1) พระอารามหลวงช้ันเอก หมายถงึ วัดทมี่ ีเจติยสถานส าคญั เป็นวดั ที่บรรจุพระบรมอฐั หิ รอื วัดที่มเี กยี รติอยา่ ง สงู มเี จา้ อาวาสเปน็ พระราชาคณะผู้ใหญ่ข้นึ ไป (2) พระอารามหลวงชน้ั โท หมายถึง วัดทมี่ เี กียรติ มเี จา้ อาวาสเป็นพระราชาคณะสามัญขนึ้ ไป (3) พระอารามหลวงชนั้ ตรี หมายถึง วัดทมี่ ีเกยี รติหรอื วดั สามญั เจา้ อาวาสเปน็ พระครชู ั้นสงู ขึน้ ไป พระอารามหลวงน้ันยังแบ่งตามฐานนั ดรศักดิ์ออกไดเ้ ปน็ 4 ชนิด คอื
ชนิดราชวรมหาวหิ าร หมายถงึ พระอารามทพ่ี ระมหากษตั ริย์ สมเดจ็ พระราชนิ ี สมเดจ็ พระยุพราช ทรงสร้างหรอื ปฏิสงั ขรณเ์ ปน็ การสว่ นพระองค์ โดยท่สี ง่ิ ปลูกสรา้ งนน้ั มขี นาดใหญโ่ ตสมพระเกยี รติ ชนิดวรมหาวิหาร ลักษณะเดยี วกบั ชนดิ ราชวรมหาวิหาร แต่มีความส าคัญนอ้ ยกว่า ชนดิ ราชวรวหิ าร หมายถงึ พระอารามทีพ่ ระมหากษัตริย์ สมเด็จพระราชนิ ี สมเดจ็ พระยุพราช ทรง สร้างหรอื ปฏิสงั ขรณเ์ ป็นการส่วนพระองค์ ชนิดวรวิหาร หมายถงึ พระอารามท่ีพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระราชนิ ี สมเด็จพระยุพราช ทรงสรา้ ง หรอื ปฏิสงั ขรณ์แล้วพระราชทานเป็นเกยี รตแิ ก่ผูอ้ น่ื พระอารามหลวงแต่ละช้ันมไิ ดห้ มายถึงว่าจะมชี นดิ ของพระอารามครบทัง้ 4 ประเภท ทัง้ นย้ี อ่ มขึน้ อยู่ กบั ความส าคัญของสถานทีข่ นาดและผู้สรา้ ง ซ่ึงจะเป็นสง่ิ ก าหนดชนิดของพระอารามดังกลา่ ว ในปัจจบุ นั ได้มี การจดั แบ่งชนดิ ของพระอารามตามระดับช้ันดงั น้ี พระอารามหลวงช้ันเอก แบง่ เป็น 3 ระดับ คือ (1) ราชวรมหาวิหาร (2) ราชวรวิหาร (3) วรมหาวิหาร พระอารามหลวงชนั้ โท แบง่ เปน็ 4 ระดับ คือ (1) ราชวรมหาวหิ าร (2) ราชวรวิหาร (3) วรมหาวหิ าร (4) วรวิหาร พระอารามหลวงชั้นตรี แบ่งเป็น 3 ระดบั คอื (1) ราชวรวิหาร (2) วรวหิ าร (3) สามญั ไมม่ สี ร้อยต่อท้ายชอ่ื มลู เหตุการสรา้ งวดั สมัยพทุ ธกาลไม่มกี ารสรา้ งอาคารสถานใหเ้ ปน็ ทีอ่ ยูอ่ าศัยของพระภกิ ษุสงฆ์โดย เฉพาะเจาะจง เน่ืองจากพระพทุ ธองคไ์ มท่ รงอนญุ าตใหพ้ ระภกิ ษุมีทอ่ี ยอู่ าศยั เปน็ หลกั แหลง่ ถาวร ดว้ ยจะท าให้ เกดิ ความยดึ ติดในทรพั ย์ทางโลก จงึ ทรงก าหนดสถานทส่ี าหรับใช้เปน็ ที่อาศัยพน้ื ฐานสดุ คอื “รุกขมลู เสนาสนะ” อนั หมายถงึ การอยู่รอบโคนต้นไม้ แล้วให้จาริกไปเรื่อยๆ ทง้ั นเี้ พอื่ มิให้จิตมีสง่ิ ผกู พัน
เม่ือพระพทุ ธเจ้าพรอ้ มเหลา่ สาวกออกเผยแพรพ่ ระศาสนา ปรากฏวา่ มีผเู้ ล่อื มใสศรทั ธาพากันบวชเป็น พระภกิ ษุจ านวนมากมาย ท่ีไมไ่ ด้บวชต่างกใ็ ห้ความอปุ ถัมภ์เก้อื กูลเปน็ อย่างดี โดยเฉพาะพระเจ้าพิมพสิ าร กษตั รยิ ์แหง่ นครราชคฤห์ ทรงประกาศตนเปน็ องค์ศาสนูปถมั ภกต่อพทุ ธศาสนา ท้ังทรงถวาย “เวฬวุ ัน” ใหเ้ ปน็ ทปี่ ระทบั ของพระพทุ ธองค์และเหลา่ พทุ ธสาวก ซ่ึงพระองค์ทรงรบั ไว้ ด้วยเพราะวตั รปฏบิ ตั ิของพระสงฆม์ ิใช่ มงุ่ เน้นใหบ้ าเพ็ญวปิ ัสสนาญาณเทา่ น้ัน หนา้ ทส่ี าคัญอีกประการหน่งึ กค็ ือการจารกิ ออกไป ณ ทต่ี ่างๆ เพอื่ เผยแพร่พระธรรมค าสอนอีกดว้ ย และเปน็ มลู เหตุใหท้ รงมพี ระพุทธานุญาติใหพ้ ระภกิ ษุสามารถรบั อารามที่ เหลา่ ทายกถวายได้ อาทเิ ชตวนาราม ท่ีมหาเศรษฐีอนาถบณิ ฑกิ ะแหง่ กรุงสาวัตถี สร้างถวาย หรือ ปุพพาราม วิหาร ท่นี างวิสาขาสร้างถวาย แตถ่ อื ไดว้ ่าเวฬุวนารามเป็นวดั แหง่ แรกของพุทธศาสนา หลงั พทุ ธกาลเมื่อมีการสร้างพระสถูปเจดีย์ข้ึน ท าให้บริเวณเหล่านเ้ี กิดเป็นทชี่ ุมนุมของเหลา่ พระสงฆ์ และคฤหสั ถ์ทเี่ ดินทางมาถึง ทีส่ ดุ แลว้ กเ็ กิดมพี ระภกิ ษุบางรปู สมัครใจท่ีจะอยพู่ านกั เพอ่ื บ ารงุ รกั ษาสงั เวชนยี สถานเหล่าน้ัน ทัง้ มีผศู้ รัทธาสร้างท่ีพกั กุฎสี งฆ์ถวายแด่พระภิกษุดังกลา่ ว สถานท่ีน้ีในทสี่ ุดไดก้ ลายสภาพเปน็ “วดั ” ทส่ี มบูรณ์แบบ สืบทอดกนั มาจนเกดิ เปน็ แบบอย่างชัดเจนดงั ปจั จุบนั ด้วยเหตุทก่ี ารสรา้ งวดั กลายเป็น ประเพณีทน่ี ิยมกันในท่ีต่างๆ วดั จึงมปี รากฏอย่างแพร่หลายท้ังในเมืองใหญ่และชนบท จนท าใหจ้ ุดมุ่งหมาย เดมิ ของการบวชน้ันเปลยี่ นไปในเวลาตอ่ มา เพราะพระสงฆส์ ่วนหนง่ึ มที ่ีพกั อาศยั อยา่ งถาวรยึดติดใน เสนาสนะ แทนการมงุ่ เนน้ ปฏบิ ัตเิ พือ่ รอื้ ออกซง่ึ ความทกุ ขแ์ ละเพ่อื ท าใหแ้ จง้ แหง่ การดับทกุ ข์ ซง่ึ เปน็ ความหมายของการ บวช เพราะค าวา่ บวช มาจาก ค าวา่ ป+วช แปลว่า เว้นทัว่ หมายถึงเว้นหา่ งจากกาม จากกเิ ลส พระภกิ ษใุ น เวลาถัดมาจึงมลี ักษณะท่แี ตกต่างกัน 2 แบบ คือ ฝา่ ยหนงึ่ ซึ่งยังคงตัง้ มัน่ อยูก่ ับแนวปฏิบัตเิ ดิมน่ันคือปลกี ความวุ่นวายจากโลกออกสู่ปา่ เพอ่ื แสวงหาความวิเวก ม่งุ เน้นทางวปิ สั สนาธรุ ะ ฝ่ายหนึง่ ซ่งึ นยิ มการอยชู่ ดิ ตดิ วัดภายในเขตชุมชน โดยมุง่ เนน้ การศกึ ษา คือการมงุ่ ศกึ ษาเพ่ือใหร้ ้ถู ึงพระพุทธ พจน์ พระธรรมวนิ ัย รวมทัง้ พระอภธิ รรมต่างๆ แยกออกเป็น 2 ลักษณะดงั นี้ (1) ฝา่ ยทอี่ ยปู่ า่ เรียกว่า พระอรัญวาสี (2) ฝ่ายทอ่ี ยใู่ นเมอื ง เรยี กว่า พระคามวาสี พระภกิ ษุไมว่ ่าจะเป็นฝา่ ยอรญั วาสหี รือคามวาสี ทุกรปู จะตอ้ งสงั กดั ไม่วดั ใดกว็ ัดหน่ึง วดั ฝ่ายคามวาสนี นั้ อยู่ ภายในหรือรอบนอกเมืองที่มชี มุ ชนอาศยั อยู่ แต่วดั ฝา่ ยอรัญวาสีจะตอ้ งถอยรน่ ให้ห่างไกลชมุ ชนให้มากทีส่ ดุ แต่ ความจ าเปน็ ในการพง่ึ พาอาศยั การแบ่งปนั อาหารจากสังคมยังตอ้ งมอี ยู่ ในพระวินยั ก าหนดไวว้ ่าวัดฝา่ ย อรญั วาสจี ะต้องตง้ั ไมห่ ่างจากหมู่บ้านที่ใกลท้ ่ีสุดจนเกินไป คือให้อยใู่ นระยะประมาณ 500 ช่วั คนั ธนู หรือ ประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อเออื้ ให้พระภิกษุสามารถเดนิ ไปรบั การบณิ ฑบาตและกลับมาทันฉันอาหารเพลก่อน เท่ียงวัน
วัดอรญั วาสี นิยมตง้ั อยู่ในบริเวณท่ีเปน็ ป่าเขา ส่วนใหญ่มเี พยี งกุฏแิ ละศาลาโถงอเนกประสงค์ ไมม่ ีอาคารและ แบบแผนมากนัก พระสงฆฝ์ ่ายน้ีจะอยจู่ าวดั เฉพาะเพยี งชว่ งเขา้ พรรษา และมงุ่ ธุดงคเ์ ขา้ ปา่ ลกึ ปกั กลด ฝึกหดั กรรมฐานจิต และจาริกไปเรอ่ื ยๆ ก่อนกลบั ออกมาจ าพรรษาที่วัดอกี ครง้ั เม่อื ถึงฤดเู ข้าพรรษาใหม่ ความ ตอ้ งการท าสังฆกรรมใดๆ ก็เพียงอาศัยการก าหนดข้นึ ใชเ้ พยี งช่ัวคราวเท่านั้น วัดคามวาสี สร้างขน้ึ ส าหรับเปน็ ท่พี ึง่ ของชมุ ชนหรือเมอื งโดยตรง ภารกจิ หลกั ของพระภกิ ษสุ งฆฝ์ ่ายน้ีมุ่งไป ในทางปฏิบตั ิดา้ นพิธกี รรมทางศาสนา และการเน้นศกึ ษาทางหนังสือเพือ่ แสวงหาความรู้ ส าหรบั ใชใ้ นการสั่ง สอนฆราวาสมากกว่าฝึกปฏบิ ัตดิ า้ นวปิ ัสสนาธุระ พระสงฆ์ฝ่ายนจ้ี งึ มีความสัมพันธ์และเกย่ี วขอ้ งกบั โลก ภายนอกตลอด ท าใหแ้ นวทางหลักด้านปฏบิ ัตติ อ้ งเปลีย่ นไปจากการมงุ่ หาหนทางเพื่อให้ “ตนเอง” พ้นจาก สังสารวัฏ มาเป็นเพอ่ื ชว่ ยให้ “ผู้อืน่ ” พ้นทุกขแ์ ทน เปน็ การปฏิบัติท่ีไมใ่ ช่เพ่อื มุ่งผลตรสั รแู้ ละนพิ พาน หากแต่ การเน้นผลทางปริยตั ธิ รรมทัง้ คอยชี้แนะชว่ ยเหลือบรรเทาทกุ ขแ์ ก่เวไนยสัตวท์ ั้งปวงได้ กเ็ ท่ากบั เปน็ การส่งั สม ทานบารมแี ละยกระดับจติ ของตนใหส้ ูงขน้ึ ในขณะเดียวกนั ถือเป็นหลักส าคัญในการฝกึ จติ เพ่ือการ “ละวาง” วดั ประเภทนี้จะมอี งคป์ ระกอบทางสถาปัตยกรรมท่ีเปน็ อาคารมากกวา่ วดั อรญั วาสี ตามความต้องการใชง้ าน ก าหนดแบบแผนท้ังดา้ นรปู แบบและแผนผงั รวมมกี ฎเกณฑ์ค่อนขา้ งชัดเจน ความหมายภาคใต้ ภาคใต้ เปน็ ภมู ิภาคหน่งึ ของไทย ตัง้ อยบู่ นคาบสมทุ รมลายู ขนาบด้วยอา่ วไทยทางฝ่ังตะวนั ออก และ ทะเลอนั ดามนั ทางฝั่งตะวันตก มีเน้ือท่ีรวม 70,715.2 ตารางกโิ ลเมตร ความยาวจากเหนือจดใตป้ ระมาณ 750 กโิ ลเมตร ทุกจงั หวัดของภาคมีพนื้ ทต่ี ดิ ชายฝง่ั ทะเล ยกเว้นจงั หวดั ยะลาและจังหวดั พัทลุง ภมู ิประเทศของภาค ใต้ เต็มไปขุนเขานอ้ ยใหญ่ โดยเฉพาะบรเิ วณตอนกลางของภมู ิภาค เชน่ จงั หวัด ระนอง จังหวัดชมุ พร จังหวดั สรุ าษฎรธ์ านี จงั หวัดพังงา จังหวดั นครศรีธรรมราช และ จงั หวดั กระบ่ี โดยมี จุดสงู สุดของภาคใต้อยทู่ ่ี ยอดเขา หลวง 1,835 เมตร เหนือระดบั น้ าทะเลปานกลาง ต้งั อยใู่ นอทุ ยานแห่งชาติ เขาหลวง จงั หวัดนครศรีธรรมราช • ทศิ เหนอื มีพื้นทต่ี ดิ ต่อกับจงั หวดั ประจวบคีรขี ันธ์ ดนิ แดนทอี่ ยูท่ างเหนอื สดุ ของภาคคอื อ าเภอปะทวิ จงั หวดั ชุมพร • ทิศตะวันออก มพี น้ื ท่ตี ิดต่อกบั อ่าวไทย ดนิ แดนบนแผน่ ดินใหญท่ ีอ่ ยู่ทางตะวนั ออกสดุ ของภาคคื อ าเภอตากใบ จังหวดั นราธวิ าส • ทศิ ใต้ มีพ้ืนที่ตดิ กบั ประเทศมาเลเซีย ดนิ แดนทอ่ี ยู่ใตส้ ุดของภาค (และของประเทศไทย) คอื อ าเภอเบตง จังหวดั ยะลา • ทศิ ตะวนั ตก มพี ้นื ทต่ี ิดตอ่ กับทะเลอันดามนั ดินแดนบนแผน่ ดนิ ใหญ่ท่อี ยทู่ างตะวันตกสุดของภาค คือ อ า เภอทา้ ยเหมอื ง จงั หวดั พังงา ภาคใต้ ประกอบด้วย 15 จังหวดั ไดแ้ ก่ กระบ่ี ชมุ พร ตรงั นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พังงา พัทลุง ภูเกต็ ยะลา ระนอง สงขลา สตลู สุราษฎร์ธานี และ หัวหิน
จังหวัดท่ีใหญท่ ีส่ ดุ : คือ สรุ าษฎร์ธานี ลักษณะภูมิประเทศ จงั หวดั ทเ่ี ลก็ ที่สดุ : คือ ภูเก็ต ประกอบด้วย พน้ื ท่ีราบ ป่าไม้ ภูเขา หาดทราย น้ าตก ถ้ า ทะเลสาบ และกล่มุ เกาะในทอ้ งทะเลทัง้ สอง ฝงั่ มีเทอื กเขาท่ีส าคัญไดแ้ ก่ เทอื กเขาตะนาวศรี เทอื กเขาภูเก็ต เทอื กเขานครศรีธรรมราช โดยมเี ทอื กเขาสนั กา ลาครี ี เป็น พรมแดนก้ันระหว่างไทยกับมาเลเซีย รวมความยาวของเทือกเขาภาคใต้ทั้งหมดกว่า 1,000 กิโลเมตร มีแม่น้ าสายส าคญั ไดแ้ ก่ แมน่ ้ าพุมดวง แม่น้ าตาปี แม่น้ าปัตตานีแมน่ ้ าท่าทอง แมน่ ้ าตะกว่ั ปา่ แม่น้ า ปากพนัง และแม่น้ าตรัง ชายหาดทางฝ่งั อ่าวไทยเกดิ จากการยกตัวสูงขึ้น จึงมที ี่ราบชายฝ่งั ทะเลยาวเรียบกวา้ ง น้ าต้ืน ส่วน ทางดา้ นทะเลอนั ดามัน เป็นลกั ษณะของชายฝั่งยุบต่ าลง มที ่รี าบน้อย ชายหาดเว้าแหว่ง มีหนา้ ผาสงู ชนั ชายฝ่งั เปน็ โขดหินและปา่ โกงกาง สภาพ อากาศค่อนขา้ งร้อน แตเ่ นอื่ งจากได้รับอทิ ธพิ ลของลมมรสมุ จงึ ท า ใหม้ ฝี นตก ชุกตลอดทัง้ ปี โดยเร่มิ จากเดอื นพฤษภาคมถึง เดือนกนั ยายน เป็นลมมรสมุ ตะวันตกเฉยี งใต้ ซ่งึ จะ ท าใหเ้ กดิ ฝน ตกและคลื่นลมแรงทางฝง่ั ทะเลอนั ดามัน และอิทธพิ ลของ ลมมรสมุ ตะวันออกเฉยี งเหนือ ระหวา่ งเดอื น พฤศจิกายนถงึ กุมภาพนั ธท์ างฝัง่ ทะเลอ่าวไทยต้ังแตจ่ ังหวดั ชุมพรลงไป ภาค ใต้จงึ มเี พยี ง 2 ฤดู คอื ฤดรู อ้ น และ ฤดฝู น ความหมายแอพพลิเคชน่ั แอพพลเิ คชนั่ (Application) หมายถึง โปรแกรม หรือชุดสั่ง ทใี่ ชค้ วบคมุ การท างานของคอมพิวเตอร์ เคลอื่ นทแ่ี ละอุปกรณ์ต่อพวงต่างๆ เพ่อื ให้ท างานตามค าส่งั และตอบสนองความตอ้ งการของผู้ใช้ โดย แอพ พลิเคชน่ั (Application) จะตอ้ งมีสงิ่ ท่ีเรียกวา่ ส่วนติดต่อกับผู้ใช้ (User Interface หรือ UI) เพอื่ เปน็ ตวั กลาง การใชง้ านต่างๆ ประเภทของแอพพลิเคช่นั 1.แอพพลิเคชนั่ ระบบ เปน็ สว่ นซอฟตแ์ วรร์ ะบบหรอื ระบบปฏบิ ตั กิ าร (Operating system) ที่ท า หนา้ ทคี่ วบคุมการท างานของอุปกรณแ์ ละรองรับการใชง้ านของแอพพลเิ คชั่นหรอื โปรแกรมต่างๆ ที่ติดตง้ั อยู่ ภายในคอมพวิ เตอร์เคล่อื นที่ 2.แอพพลิเคชน่ั ทต่ี อบสนองความตอ้ งการของกล่มุ ผใู้ ช้ เปน็ ซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ตห์ รอื โปรแกรมประยุกต์
ทีท่ างานภายใตร้ ะบบปฏบิ ัติการ มีวัตถปุ ระสงค์เฉพาะอยา่ ง เนอื่ งจากผใู้ ชม้ ีความต้องการใชแ้ อพพลเิ คชนั่ ที่ แตกต่างกัน จ านวนของอุปกรณค์ อมพวิ เตอรเ์ คลอื่ นทีม่ ีหลากหลายชนดิ ขนาดหนา้ จอทแี่ ตกตา่ ง จงึ มีผผู้ ลิต และพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ข้นึ เปน็ จ านวนมาก เพอื่ รองรบั การใช้งานในทุกๆดา้ น โปรแกรมที่ใช้ด าเนินงาน โปรแกรมglide ปจั จบุ นั นี้คงปฏิเสธไมไ่ ดเ้ ลยที่จะบอกว่า โทรศัพทม์ อื ถือ นัน้ เปน็ ส่วนส าคญั ในชีวิตของเราทุกๆ ด้าน แล้วถา้ หากเรามไี อเดียท่จี ะแกไ้ ขปญั หาต่างๆ หรือปรับปรงุ กระบวนการท างานใหส้ ะดวกมากขึ้น หลายคนก็ เร่มิ คิดจะท า mobile app มาแกป้ ัญหาตา่ งๆ น้ี กอ่ นเปน็ อันดบั แรก ซงึ่ ก็มขี น้ั ตอนการพัฒนาประมาณนี้ Main Idea → Plan → Design → Code → Deploy → Monitor ข้ันตอนเหลา่ นี้คงตอ้ งใชเ้ วลา บคุ คลเปน็ อยา่ งมาก แต่หลายคนคงไมไ่ ดท้ ่ีจะมีความรู้ในการพ ฒนา mobile app ขนาดน้ี แต่หากเรามี idea ท่ีดี แล้วอยากจะลดขั้นตอนการท างานลง จนสามารถท าคนเดยี วได้ ก็ คงดี ซึง่ ปจั จุบนั ไดม้ ีบรกิ ารให้มีการพฒั นา application บน platform เช่น เว็บแอป มากมายหลายเจา้ ซง่ึ จะ มาชว่ ยลดขน้ั ตอนหลักๆ คือ การ Code ทใ่ี ครๆ กบ็ อกว่ายากลงได้ วันน้ีกเ็ ลยจะขอยกตวั อย่าง platform ท่ี ชอื่ ว่า Glide Glide ท างานอยา่ งไร? Glide จะมาช่วยจัดการในดา้ นการแสดงผลข้อมลู ต่างๆ จาก Google Sheet ที่เรามใี หม้ าอยู่บน Smart Phone สามารถเลอื กรูปแบบการแสดงผลได้หลากหลายแบบตามต้องการ โดยแค่เรามขี ้อมลู ใน Google Sheet ก็เปลี่ยนเปน็ mobile app ได้ง่ายๆ ครบั บทที่ 3 วธิ ีการจัดท าโครงงาน
วสั ดุและอปุ กรณ์ 1.โปรแกรม Microsoft Word 2. Google sheet 3.glideapps วิธีการจัดท าโครงงาน 1.คิดหัวข้อโครงงานเพื่อน าเสนอครทู ่ีปรึกษา 2.ศกึ ษาเเละคน้ คว้าข้อมูลเร่อื งทีเ่ ราสนใจ คือเรอ่ื ง วัดดังในภาคใตเ้ เละศึกษาคน้ คว้าเพิม่ เติมโดยคน้ หา จากเวบ็ ไซตต์ ่างๆจากอินเตอรเ์ น็ตเเละท าการจัดเกบ็ ข้อมูลเพ่อื จะท าเน้อื หาต่อไป 3.จัดท าโครงร่างโครงงานคอมพวิ เตอร์เพื่อเสนอครทู ป่ี รกึ ษา 4. จดั ท าโครงงานคอมพิวเตอร์เร่อื ง วัดดังในภาคใต้โดยสรา้ งบทเรยี นท่ีสนใจตามแบบเสนอโครงรา่ ง ที่ เสนอ บทที่ 4 ผลการศึกษา การจัดท าโครงงานคอมพิวเตอรพ์ ฒั นาสื่อเพื่อการศกึ ษาเรอื่ ง วดั ดงั ในภาคใตแ้ ละวตั ถุประสงคเ์ พ่ือ เผยแพร่ความรเู้ กี่ยวกับประวัตคิ วามเป็นมาของวดั และประวตั ิของแตล่ ะวัดในภาคใต้ คอมพิวเตอร์โดยใช้ โปรแกรม Google Sheet, Glide มผี ลการด าเนินงานโครงงาน ดังนี้ วตั ถปุ ระสงค์ 1.เพื่อการศึกษาการสร้างแอพพลิเคชั่นของสมาทรโ์ ฟน 2.เพอื่ ใช้เทคโนโลยใี นการสง่ เสรมิ และเผยแพร่พระพุทธศาสนา การพฒั นาโครงงาน
สอื่ เพอ่ื การศกึ ษาเรอื่ งประวัตคิ วามเป็นมาและให้ความรู้เรื่องหลกั การและการปฎบิ ตั ติ นให้ถูกต้องตาม กาละเทศะ โปรแกรม Glide บทที่ 5 สรปุ ผลและข้อเสนอแนะ การจดั ท าโครงงานคอมพวิ เตอรส์ ่อื เพ่อื การศึกษาเรอ่ื ง วัดดงั ในภาคใตเ้ พอื่ ให้ความรู้เกี่ยวกบั วดั ต่างๆ ในภาคใต้ สามารถสรปุ ผลการด าเนินงานโครงงานและข้อเสนอแนะ ดงั นี้ การด าเนินการจัดท าโครงงาน 1.วตั ถุประสงคข์ องโครงงาน -เพื่อการศึกษาการสรา้ งแอพพลิเคช่ันของสมาทร์โฟน -เพอ่ื ใชเ้ ทคโนโลยีในการส่งเสรมิ และเผยแพร่พระพุทธศาสนา 2.ซอฟตแ์ วร์ -โปรแกรม Microsoft Word -Google sites - Glide
สรุปผลการศกึ ษา การด าเนินงานโครงงานน้บี รรลวุ ตั ถปุ ระสงคท์ ี่ได้ก าหนดไวค้ ือเพ่อื เปน็ สือ่ การเรียนรู้แกผ่ ู้ที่สนใจ เกี่ยวกบั วัดดงั ในภาคใตส้ ร้างความสนใจช่วยพฒั นาให้ความรู้เกย่ี วกบั วดั ใหแ้ ก่ผูเ้ รียน มีความเขา้ ใจการจดั ท า โครงงานชน้ิ น้ีขึ้นมาเพือ่ อยากใหเ้ ปน็ สว่ นหนง่ึ ในการใชโ้ ปรแกรมใหเ้ ก่งยิ่งขึน้ ของผู้ทีส่ นใจ ขอ้ เสนอแนะ 1.ควรมีการเพ่ิมเน้อื หาท่ีมีความหลากหลายมากกวา่ น้ี 2.ควรท าส่ือให้มีความน่าสนใจมากกว่านี้ บรรณานกุ รม สถานท่ตี ง้ั ของวัดต่างๆ https://travel.trueid.net/detail/RmQRBEPJybpA https://travel.trueid.net/detail/4ld4B7nPRLql https://www.wongnai.com/listings/temples-hatyai-songkhla https://weekdayspecialthailand.com/11702 https://th.tripadvisor.com/Attractions-g2098280-Activities-c47-Chumphon_Province.htm l วดั ทีส่ นใจ https://www.wongnai.com/attractions/330758hd- %E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9 A %E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%A A %E0%B8%A7%E0%B8%B5 ภาคผนวก
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: