Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางต้องรู้และควรรู้ ภายใต้สถานการณ์ Covid-19 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางต้องรู้และควรรู้ ภายใต้สถานการณ์ Covid-19 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

Description: ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางต้องรู้และควรรู้ ภายใต้สถานการณ์ Covid-19 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

Search

Read the Text Version

ตัวชี้วดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลางต้องรแู้ ละควรรู้ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ สาหรบั การจัดการเรยี นรู้ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔ ภายใตส้ ถานการณแ์ พร่ระบาดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ โรงเรยี นวัดสายลาโพงใต้ สานกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต ๓

สารบัญ หนา้ สรปุ ตัวชว้ี ดั และสาระการเรียนรแู้ กนกลางต้องรแู้ ละควรรู้ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 5 1 ภาษาไทย 2 คณติ ศาสตร์ 5 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 8 สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม 15 สุขศกึ ษาและพลศึกษา 22 ศลิ ปะ 25 การงานอาชพี 28 ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) 29

สรปุ ตัวช้ีวัดและสาระการเรยี นรแู้ กนกลางต้องรแู้ ละควรรู้ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ตัวชว้ี ัด ตอ้ งรู้ ควรรู้ หมายเหตุ ทงั้ หมด ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ ๓๓ ๒๘ ๕ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ๑๙ ๑๑ ๘ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ศิลปะ ๓๒ ๒๔ 8 การงานอาชพี ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) 36 17 19 25 12 13 26 13 13 6 33 20 19 1

๒ ตวั ชีว้ ดั และสาระการเรียนรูแ้ กนกลางต้องรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ช้ัน ท่ี รหัสตวั ชี้วัด ตัวชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.๕ ๑ ท ๑.๑ ป.๕/๑ อ่ำนออกเสียงบทร้อยแกว้ และ  กำรอ่ำนออกเสยี งร้อยแก้ว  บทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกตอ้ ง ระดบั ทย่ี ำกข้นึ และกำรบอก 2 ท ๑.๑ ป.๕/๒ อธิบำยควำมหมำยของคำ ประโยค ควำมหมำยของถอ้ ยคำ สำนวน  และข้อควำมท่ีเปน็ กำรบรรยำย ประกอบดว้ ย และกำรพรรณนำ - คำทมี่ ีพยัญชนะควบกลำ้ 3 ท ๑.๑ ป.๕/๓ อธบิ ำยควำมหมำยโดยนยั - คำทม่ี ีอักษรนำ  จำกเรอื่ งที่อำ่ นอย่ำงหลำกหลำย - คำท่มี ตี ัวกำรันต์ - สำนวนไทยทีเ่ ปน็ คำพงั เพย - ข้อควำมท่ีเปน็ กำรบรรยำย  กำรอ่ำนทำนองเสนำะบทรอ้ ยกรอง 4 ท ๑.๑ ป.๕/๔ แยกข้อเทจ็ จริงและข้อคิดเหน็  กำรอำ่ นจับใจควำมจำกส่ือต่ำง ๆ  จำกเรื่องทอ่ี ่ำน เชน่ - บทควำมในสำรำนุกรม 5 ท ๑.๑ ป.๕/๕ วิเครำะหแ์ ละแสดงควำมคิดเหน็ - บทควำมปกณิ กะในหนังสอื พิมพ์  เกี่ยวกบั เร่ืองทอ่ี ่ำนเพื่อนำไปใช้ - ประกำศไมเ่ ป็นทำงกำร ในกำรดำเนนิ ชวี ิต - วรรณคดีและวรรณกรรม ในหนงั สือเรียน - บทเรียนจำกกลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ อนื่ 6 ท ๑.๑ ป.๕/๖ อ่ำนงำนเขียนเชงิ อธิบำย คำสั่ง  กำรอ่ำนงำนเขียนเชิงอธิบำย คำส่ัง  ขอ้ แนะนำ และปฏบิ ัตติ ำม ขอ้ แนะนำ และปฏบิ ัตติ ำม เช่น - กำรใชพ้ จนำนุกรม - กำรใชว้ ัสดอุ ปุ กรณ์ - กำรอำ่ นฉลำกยำ - คมู่ ือและเอกสำรของโรงเรยี น ท่ีเก่ยี วข้องกบั นักเรยี น - ข่ำวสำรทำงรำชกำร 7 ท ๑.๑ ป.๕/๗ อ่ำนหนังสือท่ีมคี ุณค่ำตำมควำมสนใจ  กำรอำ่ นหนังสือตำมควำมสนใจ เช่น  อยำ่ งสม่ำเสมอและแสดงควำมคดิ เห็น - หนังสอื ทีน่ ักเรียนสนใจและ เกย่ี วกับเรอื่ งทอี่ ่ำน เหมำะสมกับวัย - หนงั สอื ท่ีครแู ละนกั เรียนกำหนด รว่ มกัน 8 ท ๑.๑ ป.๕/๘ มีมำรยำทในกำรอำ่ น  มำรยำทในกำรอ่ำน  9 ท ๒.๑ ป.๕/๑ คดั ลำยมือตวั บรรจงเต็มบรรทัด  กำรคัดลำยมือตัวบรรจงเตม็ บรรทัด  และครึ่งบรรทัด และครึ่งบรรทัดตำมรปู แบบ กำรเขียนตัวอักษรไทย สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓ ชน้ั ที่ รหัสตัวชี้วดั ตัวช้ีวดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.5 10 ท ๒.๑ ป.๕/๒ เขียนส่ือสำรโดยใช้คำไดถ้ ูกต้องชัดเจน  กำรเขยี นส่ือสำร เช่น  และเหมำะสม - คำอวยพร - คำแนะนำและคำอธิบำยแสดง ข้นั ตอน - จดหมำยส่วนตวั ในชวี ติ ประจำวนั - เรียงควำม - กำรเขียนแสดงควำมรู้สึกและ ควำมคดิ เหน็ 11 ท ๒.๑ ป.๕/๓ เขียนแผนภำพโครงเรื่องและแผนภำพ  กำรนำแผนภำพโครงเรื่อง  ควำมคดิ เพอื่ ใช้พฒั นำงำนเขยี น และแผนภำพควำมคดิ ไปพัฒนำ งำนเขยี น 12 ท ๒.๑ ป.๕/๔ เขียนย่อควำมจำกเร่ืองท่ีอำ่ น  กำรเขยี นย่อควำมจำกวรรณคดี  และวรรณกรรมในหนังสอื เรยี น หรือส่ือตำ่ ง ๆ 13 ท ๒.๑ ป.๕/๕ เขียนจดหมำยถึงผปู้ กครองและญำติ  กำรเขียนจดหมำยถงึ ผู้ปกครอง  และญำติ 14 ท ๒.๑ ป.๕/๖ เขยี นแสดงควำมรู้สึกและควำมคดิ เห็น  กำรเขยี นแสดงควำมร้สู กึ  ได้ตรงตำมเจตนำ และควำมคิดเหน็ 15 ท ๒.๑ ป.๕/๗ กรอกแบบรำยกำรตำ่ ง ๆ  กำรกรอกแบบรำยกำร  - ใบฝำกเงนิ และใบถอนเงิน - ธณำณัติ - แบบฝำกส่งพัสดุไปรษณียภณั ฑ์ 16 ท ๒.๑ ป.๕/๘ เขียนเรอื่ งตำมจนิ ตนำกำร  กำรเขยี นเรื่องตำมจินตนำกำร  17 ท ๒.๑ ป.๕/๙ มีมำรยำทในกำรเขียน  มำรยำทในกำรเขียน  18 ท ๓.๑ ป.๕/๑ พูดแสดงควำมรู้ ควำมคิดเหน็ และ  กำรจับใจควำม และกำรพูด  ควำมรู้สึกจำกเร่ืองที่ฟงั และดู แสดงควำมรู้ ควำมคดิ เหน็ 19 ท ๓.๑ ป.๕/๒ ต้ังคำถำมและตอบคำถำมเชงิ เหตุผล จำกเร่ืองที่ฟังและดูจำกส่อื ต่ำง ๆ  20 ท ๓.๑ ป.๕/๓ จำกเรือ่ งทฟ่ี งั และดู เช่น  - ขำ่ วและเหตกุ ำรณ์ประจำวัน วเิ ครำะหค์ วำมนำ่ เชอื่ ถือจำกเรือ่ งที่ฟัง - โฆษณำ และดอู ย่ำงมีเหตผุ ล  กำรวิเครำะห์ควำมนำ่ เช่อื ถือ จำกเรื่องท่ฟี ังและดูในชีวติ ประจำวัน 21 ท ๓.๑ ป.๕/๔ พูดรำยงำนเร่ืองหรือประเดน็  กำรรำยงำน เชน่  ทศี่ กึ ษำคน้ ควำ้ จำกกำรฟัง กำรดู - กำรพดู ลำดับขน้ั ตอน และกำรสนทนำ กำรปฏิบตั งิ ำน - กำรพูดลำดบั เหตกุ ำรณ์ 22 ท ๓.๑ ป.๕/๕ มมี ำรยำทในกำรฟัง กำรดู และกำรพูด  มำรยำทในกำรฟงั กำรดู และกำรพูด  สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๔ ช้นั ที่ รหสั ตัวช้ีวดั ตวั ชีว้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้  ป.5 23 ท ๔.๑ ป.๕/๑ ระบชุ นิดและหน้ำทขี่ องคำในประโยค  ชนิดและหน้ำทขี่ องคำ  - คำวเิ ศษณ์   - คำบุพบท   - คำเชอื่ ม   - คำอุทำน  24 ท ๔.๑ ป.๕/๒ จำแนกสว่ นประกอบของประโยค  กลมุ่ คำ หรอื วลี  25 ท ๔.๑ ป.๕/๓ เปรียบเทยี บภำษำไทยมำตรฐำน  ภำษำไทยมำตรฐำน  ๒8 5 กับภำษำถิน่  ภำษำถนิ่ 26 ท ๔.๑ ป.๕/๔ ใช้คำรำชำศัพท์  คำรำชำศัพท์ 27 ท ๔.๑ ป.๕/๕ บอกคำภำษำต่ำงประเทศในภำษำไทย  คำที่มำจำกภำษำต่ำงประเทศ 28 ท ๔.๑ ป.๕/๖ แตง่ บทร้อยกรอง  กำรแต่งกำพย์ยำนี ๑๑ 29 ท ๔.๑ ป.๕/๗ ใช้สำนวนได้ถกู ต้อง  สำนวนไทยท่เี ป็นคำพังเพย 30 ท ๕.๑ ป.๕/๑ สรุปเร่ืองจำกวรรณคดีหรือวรรณกรรม  วรรณคดีและวรรณกรรม เชน่ ท่ีอำ่ น - นิทำนพื้นบำ้ นท้องถน่ิ อน่ื 31 ท ๕.๑ ป.๕/๒ ระบคุ วำมรู้และข้อคิดจำกกำรอำ่ น - สำรคดี วรรณคดแี ละวรรณกรรมท่สี ำมำรถ - บทอำขยำนและบทร้อยกรอง นำไปใชใ้ นชวี ติ จรงิ ท่มี คี ุณคำ่ 32 ท ๕.๑ ป.๕/๓ อธิบำยคณุ ค่ำของวรรณคดี - หนังสืออ่ำนนอกเวลำ และวรรณกรรม - วรรณคดีและวรรณกรรม 33 ท ๕.๑ ป.๕/๔ ท่องจำบทอำขยำนตำมที่กำหนดและ ในบทเรียน บทร้อยกรองที่มคี ุณค่ำตำมควำมสนใจ รวม ๓๓ ตัวช้ีวัด สำหรบั กำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

ตวั ชว้ี ัดและสาระการเรยี นรู้แกนกลางต้องรู้และควรรู้ ๕ กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ชน้ั ท่ี รหสั ตัวชี้วดั ตัวช้วี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.๕ 1 ค 1.1 ป.5/1 เขียนเศษสว่ นที่มตี ัวสว่ น ทศนยิ ม  เปน็ ตัวประกอบของ ๑๐ หรือ - ควำมสมั พนั ธ์ระหว่ำงเศษสว่ นและ ๑๐๐ หรอื ๑,๐๐๐ในรูปทศนิยม ทศนิยม - ค่ำประมำณของทศนยิ มไมเ่ กิน ๓ ตำแหนง่ เป็นจำนวนเต็ม ทศนยิ ม ๑ ตำแหน่ง และ ๒ ตำแหน่ง กำรใช้ เคร่ืองหมำย ≈ 2 ค 1.1 ป.5/2 แสดงวิธหี ำคำตอบของโจทยป์ ัญหำ จานวนนับและ ๐ การบวก การลบ  โดยใช้บญั ญัตไิ ตรยำงศ์ การคณู และการหาร - กำรแกโ้ จทย์ปญั หำ โดยใช้ บัญญตั ไิ ตรยำงศ์ 3 ค 1.1 ป.5/3 หำผลบวก ผลลบของเศษส่วนและ เศษส่วน และการบวก การลบ การคณู  จำนวนคละ การหารเศษสว่ น 4 ค 1.1 ป.5/4 หำผลคูณ ผลหำรของเศษส่วนและ - กำรเปรยี บเทียบเศษส่วนและจำนวนคละ  - กำรบวก กำรลบของเศษส่วนและ จำนวนคละ 5 ค 1.1 ป.5/5 แสดงวิธีหำคำตอบของโจทย์ปัญหำ จำนวนคละ  กำรบวก กำรลบ กำรคณู กำรหำร - กำรคูณ กำรหำรของเศษส่วนและ จำนวนคละ เศษสว่ น ๒ ข้ันตอน - กำรบวก ลบ คณู หำรระคนของเศษส่วน และจำนวนคละ - กำรแก้โจทย์ปญั หำเศษส่วนและ จำนวนคละ 6 ค 1.1 ป.5/6 หำผลคณู ของทศนิยมที่ผลคูณ การคณู การหารทศนิยม  เป็นทศนยิ มไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง - กำรประมำณผลลัพธข์ องกำรบวก 7 ค 1.1 ป.5/7 หำผลหำรท่ตี วั ตงั้ เปน็ จำนวนนบั กำรลบ กำรคูณ กำรหำรทศนิยม  หรอื ทศนยิ มไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง - กำรคูณทศนิยม และตัวหำรเป็นจำนวนนับ ผลหำร - กำรหำรทศนิยม เปน็ ทศนิยม ไม่เกิน ๓ ตำแหนง่ - กำรแก้โจทย์ปญั หำเกีย่ วกบั ทศนิยม 8 ค 1.1 ป.5/8 แสดงวิธหี ำคำตอบของโจทยป์ ัญหำ  กำรบวก กำรลบ กำรคณู กำรหำร ทศนิยม ๒ ข้ันตอน 9 ค 1.1 ป.5/9 แสดงวิธหี ำคำตอบของโจทย์ปัญหำ รอ้ ยละหรอื เปอร์เซ็นต์  รอ้ ยละไมเ่ กนิ ๒ ขน้ั ตอน - กำรอ่ำนและกำรเขียนร้อยละหรอื เปอรเ์ ซ็นต์ - กำรแก้โจทยป์ ญั หำร้อยละ สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19) โดย สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำข้นั พืน้ ฐำน ร่วมกับ สถำบันส่งเสรมิ กำรสอนวทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี

๖ ชนั้ ที่ รหัสตัวชี้วดั ตัวชี้วดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.๕ 10 ค 2.1 ป.5/1 แสดงวธิ หี ำคำตอบของโจทย์ปัญหำ ความยาว  เกยี่ วกบั ควำมยำวที่มีกำรเปลี่ยนหน่วย - ควำมสมั พนั ธร์ ะหว่ำงหนว่ ยควำมยำว และเขียนในรูปทศนิยม เซนติเมตรกับมลิ ลเิ มตร เมตรกบั เซนตเิ มตรกโิ ลเมตรกบั เมตร โดยใช้ ควำมร้เู รื่องทศนยิ ม - กำรแกโ้ จทย์ปญั หำเกี่ยวกับควำมยำว โดยใช้ควำมร้เู รอ่ื งกำรเปลย่ี นหน่วยและ ทศนิยม 11 ค 2.1 ป.5/2 แสดงวิธีหำคำตอบของโจทย์ปัญหำ นา้ หนัก  เกยี่ วกบั นำ้ หนกั ทม่ี ีกำรเปลย่ี นหนว่ ย - ควำมสมั พนั ธร์ ะหวำ่ งหน่วยน้ำหนกั และเขยี นในรปู ทศนิยม กโิ ลกรมั กบั กรมั โดยใช้ควำมรเู้ ร่ืองทศนยิ ม - กำรแกโ้ จทยป์ ัญหำเก่ยี วกับนำ้ หนัก โดยใช้ควำมรเู้ รื่องกำรเปล่ยี นหนว่ ยและ ทศนิยม 12 ค 2.1 ป.5/3 แสดงวิธีหำคำตอบของโจทยป์ ัญหำ ปรมิ าตรและความจุ  เก่ียวกับปริมำตรของทรงสเี่ หลย่ี ม - ปริมำตรของทรงส่ีเหลยี่ มมุมฉำกและ มมุ ฉำกและควำมจขุ องภำชนะ ควำมจุของภำชนะทรงสี่เหล่ยี มมุมฉำก ทรงสเี่ หล่ยี มมมุ ฉำก - ควำมสมั พันธ์ระหวำ่ ง มลิ ลิลิตร ลติ ร ลกู บำศก์เซนตเิ มตร และลกู บำศก์เมตร - กำรแก้โจทยป์ ญั หำเก่ยี วกบั ปริมำตรของ ทรงส่เี หลย่ี มมมุ ฉำกและควำมจุของ ภำชนะทรงส่ีเหล่ยี มมุมฉำก 13 ค 2.1 ป.5/4 แสดงวธิ หี ำคำตอบของโจทย์ปญั หำ รูปเรขาคณิตสองมติ ิ  เก่ียวกบั ควำมยำวรอบรูปของ - ควำมยำวรอบรูปของรปู สี่เหลย่ี ม รปู สเ่ี หลย่ี มและพ้ืนทข่ี องรูปสีเ่ หลี่ยม - พน้ื ทขี่ องรูปสี่เหลย่ี มดำ้ นขนำน ด้ำนขนำนและรูปส่ีเหลี่ยมขนมเปียกปนู และรูปส่เี หลยี่ มขนมเปยี กปนู - กำรแก้โจทย์ปญั หำเกยี่ วกับควำมยำวรอบรปู ของรปู ส่เี หลย่ี มและพน้ื ที่ของรูปสเี่ หลี่ยม ดำ้ นขนำนและรูปส่เี หลยี่ มขนมเปียกปูน 14 ค 2.2 ป.5/1 สร้ำงเสน้ ตรงหรอื สว่ นของเส้นตรง รปู เรขาคณติ  ให้ขนำนกบั เส้นตรงหรือส่วนของ - เสน้ ตง้ั ฉำกและสัญลักษณ์แสดงกำรต้งั ฉำก เสน้ ตรง ทก่ี ำหนดให้ - เส้นขนำนและสัญลกั ษณ์แสดงกำรขนำน - กำรสรำ้ งเสน้ ขนำน - มุมแย้ง มมุ ภำยใน และมมุ ภำยนอก ท่อี ยู่บนข้ำงเดยี วกันของเส้นตัดขวำง (Transversal) สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19) โดย สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขนั้ พื้นฐำน รว่ มกบั สถำบันส่งเสริมกำรสอนวทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี

ชน้ั ท่ี รหสั ตัวชี้วัด ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ๗ รูปเรขาคณติ สองมิติ ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.๕ 15 ค 2.2 ป.5/2 จำแนกรปู สีเ่ หลย่ี ม โดยพิจำรณำ - ชนดิ และสมบัติของรูปส่เี หลีย่ ม  - กำรสร้ำงรปู สีเ่ หลยี่ ม จำกสมบัติของรปู  รูปเรขาคณิตสามมิติ 16 ค 2.2 ป.5/3 สรำ้ งรูปสี่เหลี่ยมชนดิ ต่ำง ๆ - ลักษณะและส่วนต่ำง ๆ ของปริซึม  การนาเสนอขอ้ มลู  เม่อื กำหนดควำมยำวของด้ำน - กำรอำ่ นกรำฟเส้น - กำรอำ่ นและกำรเขียนแผนภมู แิ ท่ง  และขนำดของมุมหรือเมื่อกำหนด 11 8 ควำมยำวของเสน้ ทแยงมุม 17 ค 2.2 ป.5/4 บอกลกั ษณะของปรซิ ึม 18 ค 3.1 ป.5/1 ใชข้ ้อมลู จำกกรำฟเส้น ในกำรหำ คำตอบของโจทย์ปัญหำ 19 ค 3.1 ป.5/2 เขยี นแผนภมู แิ ท่งจำกข้อมูล ทีเ่ ป็นจำนวนนับ รวม 19 ตวั ช้ีวัด สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19) โดย สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำข้นั พ้นื ฐำน รว่ มกบั สถำบันสง่ เสรมิ กำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี

ตวั ช้ีวดั และสาระการเรยี นรู้แกนกลางต้องรู้และควรรู้ ๘ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ช้นั ท่ี รหสั ตัวช้ีวัด ตวั ชีว้ ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.5 1 ว 1.1 ป.5/1 บรรยำยโครงสร้ำงและลักษณะ • สงิ่ มีชวี ติ ท้งั พชื และสัตวม์ ีโครงสรำ้ งและ  ของส่งิ มีชวี ติ ท่ีเหมำะสมกบั ลกั ษณะทเี่ หมำะสมในแตล่ ะแหลง่ ท่อี ยู่ กำรดำรงชวี ิต ซึ่งเป็นผลมำจำก ซง่ึ เปน็ ผลมำจำกกำรปรับตวั ของส่ิงมชี วี ติ กำรปรบั ตัวของสง่ิ มีชวี ิตในแต่ละ เพ่ือให้ดำรงชวี ิตและอยรู่ อดไดใ้ นแตล่ ะ แหล่งที่อยู่ แหล่งทอี่ ยู่ เช่น ผกั ตบชวำมชี ่องอำกำศ ในกำ้ นใบ ชว่ ยใหล้ อยน้ำได้ ต้นโกงกำง ที่ขึ้นอยู่ในป่ำชำยเลนมรี ำกคำ้ จนุ ทำให้ ลำต้นไมล่ ้ม ปลำมีครีบช่วยในกำรเคลอ่ื นที่ ในน้ำ 2 ว 1.1 ป.5/2 อธบิ ำยควำมสัมพันธร์ ะหวำ่ ง • ในแหลง่ ท่อี ยู่หนึง่ ๆ สง่ิ มชี วี ิตจะมี  ส่ิงมีชวี ิตกับสง่ิ มชี ีวติ และ ควำมสัมพันธซ์ ึง่ กนั และกนั และสมั พันธ์กับ ควำมสมั พันธร์ ะหว่ำงสงิ่ มชี วี ิต สิ่งไมม่ ีชีวติ เพ่ือประโยชนต์ อ่ กำรดำรงชวี ิต กับส่ิงไม่มีชวี ติ เพื่อประโยชน์ เช่น ควำมสมั พนั ธก์ นั ดำ้ นกำรกนิ กัน ต่อกำรดำรงชีวิต เป็นอำหำร เปน็ แหลง่ ท่ีอยู่อำศัยหลบภยั 3 ว 1.1 ป.5/3 เขยี นโซ่อำหำรและระบบุ ทบำท และเลี้ยงดลู ูกออ่ น ใช้อำกำศในกำรหำยใจ  หน้ำท่ขี องสง่ิ มชี วี ิตทเ่ี ปน็ ผผู้ ลติ • สิ่งมีชีวติ มีกำรกินกันเป็นอำหำร โดยกนิ ต่อกัน และผบู้ รโิ ภคในโซอ่ ำหำร เป็นทอด ๆ ในรูปแบบของโซ่อำหำร 4 ว 1.1 ป.5/4 ตระหนกั ในคุณคำ่ ของส่ิงแวดล้อม ทำใหส้ ำมำรถระบบุ ทบำทหน้ำที่ของ  ทมี่ ีต่อกำรดำรงชวี ติ ของส่งิ มชี ีวติ สิง่ มีชีวติ เป็นผผู้ ลติ และผู้บรโิ ภค โดยมีสว่ นร่วมในกำรดูแลรักษำ สงิ่ แวดลอ้ ม 5 ว 1.3 ป.5/1 อธิบำยลักษณะทำงพนั ธุกรรม • สิ่งมชี วี ติ ทงั้ พืช สัตว์ และมนษุ ย์ เมือ่ โตเตม็ ท่ี  ที่มีกำรถำ่ ยทอดจำกพ่อแม่ส่ลู ูก จะมกี ำรสบื พนั ธ์เุ พื่อเพิ่มจำนวนและ ของพืช สตั ว์ และมนุษย์ ดำรงพนั ธุ์ โดยลูกทเี่ กิดมำจะไดร้ บั กำร  ถ่ำยทอดลกั ษณะทำงพนั ธกุ รรมจำกพ่อแม่ 6 ว 1.3 ป.5/2 แสดงควำมอยำกรู้อยำกเหน็ ทำใหม้ ีลกั ษณะทำงพนั ธุกรรมท่เี ฉพำะ โดยกำรถำมคำถำมเก่ียวกบั แตกตำ่ งจำกสิ่งมีชวี ติ ชนิดอื่น ลักษณะทคี่ ล้ำยคลงึ กนั ของ • พืชมกี ำรถำ่ ยทอดลักษณะทำงพันธกุ รรม ตนเองกับพ่อแม่ เชน่ ลักษณะของใบ สีดอก • สัตว์มีกำรถ่ำยทอดลักษณะทำงพนั ธุกรรม เช่น สขี น ลักษณะของขน ลกั ษณะของหู • มนษุ ย์มีกำรถ่ำยทอดลักษณะทำงพนั ธุกรรม เชน่ เชิงผมท่ีหน้ำผำก ลกั ยิ้ม ลกั ษณะหนัง ตำ กำรหอ่ ลิ้น ลกั ษณะของติ่งหู สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19) โดย สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขนั้ พ้นื ฐำน ร่วมกับ สถำบันสง่ เสริมกำรสอนวิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี

๙ ชนั้ ท่ี รหสั ตวั ชี้วัด ตัวชีว้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.5 7 ว 2.1 ป.5/1 อธบิ ำยกำรเปลี่ยนสถำนะของ • กำรเปลี่ยนสถำนะของสสำรเป็นกำร  สสำร เมอื่ ทำให้สสำรรอ้ นขนึ้ หรอื เปล่ียนแปลงทำงกำยภำพ เม่อื เพม่ิ ควำมรอ้ น ใหก้ ับสสำรถงึ ระดับหนง่ึ จะทำให้สสำร เยน็ ลง โดยใชห้ ลกั ฐำน ท่ีเป็นของแข็งเปลยี่ นสถำนะเปน็ ของเหลว เชงิ ประจกั ษ์ เรยี กวำ่ กำรหลอมเหลว และเม่อื เพิ่ม ควำมร้อนต่อไปจนถงึ อกี ระดับหนึง่ ของเหลวจะเปลี่ยนเปน็ แกส๊ เรียกว่ำ กำรกลำยเป็นไอ แต่เม่ือลดควำมร้อนลง ถงึ ระดบั หนงึ่ แก๊สจะเปลี่ยนสถำนะ เป็นของเหลว เรียกวำ่ กำรควบแนน่ และ ถำ้ ลดควำมร้อนต่อไปอีกจนถึงระดับหนึ่ง ของเหลวจะเปลยี่ นสถำนะเป็นของแขง็ เรียกว่ำ กำรแข็งตัว สสำรบำงชนิดสำมำรถ เปล่ยี นสถำนะจำกของแข็งเป็นแกส๊ โดยไม่ผำ่ นกำรเปน็ ของเหลว เรียกวำ่ กำรระเหดิ ส่วนแก๊สบำงชนดิ สำมำรถ เปลยี่ นสถำนะเป็นของแข็งโดยไม่ผ่ำน กำรเปน็ ของเหลว เรียกวำ่ กำรระเหิดกลับ 8 ว 2.1 ป.5/2 อธบิ ำยกำรละลำยของสำรในนำ้ • เมื่อใสส่ ำรลงในน้ำแลว้ สำรนั้นรวมเปน็  เน้อื เดยี วกันกับนำ้ ทั่วทุกสว่ น แสดงวำ่ โดยใชห้ ลักฐำนเชงิ ประจักษ์ สำรเกิดกำรละลำย เรยี กสำรผสมที่ได้ วำ่ สำรละลำย 9 ว 2.1 ป.5/3 วิเครำะห์กำรเปลี่ยนแปลงของ • เม่อื ผสมสำร ๒ ชนดิ ขึ้นไปแล้วมีสำรใหม่  สำรเมอื่ เกิดกำรเปลีย่ นแปลง เกดิ ข้นึ ซึ่งมีสมบัติต่ำงจำกสำรเดมิ หรือ เม่ือสำรชนดิ เดียวเกิดกำรเปล่ียนแปลง ทำงเคมี โดยใช้หลกั ฐำน แล้วมสี ำรใหมเ่ กิดขนึ้ กำรเปลี่ยนแปลงนี้ เชงิ ประจกั ษ์ เรียกวำ่ กำรเปลีย่ นแปลงทำงเคมี ซงึ่ สงั เกตได้จำกมีสีหรอื กลน่ิ ตำ่ งจำกสำรเดมิ หรอื มฟี องแกส๊ หรือมีตะกอนเกดิ ขน้ึ หรือ มีกำรเพ่มิ ข้ึนหรือลดลงของอุณหภูมิ 10 ว 2.1 ป.5/4 วเิ ครำะห์และระบุกำรเปลยี่ นแปลง • เมอ่ื สำรเกิดกำรเปลี่ยนแปลงแล้ว  ทผ่ี นั กลบั ได้และกำรเปลีย่ นแปลง สำรสำมำรถเปลี่ยนกลับเป็นสำรเดิมได้ เป็นกำรเปลยี่ นแปลงที่ผันกลับได้ ทผ่ี นั กลบั ไม่ได้ เช่น กำรหลอมเหลว กำรกลำยเป็นไอ กำรละลำย แต่สำรบำงอยำ่ งเกิดกำร เปล่ียนแปลงแล้วไมส่ ำมำรถเปลี่ยนกลบั เปน็ สำรเดมิ ได้เป็นกำรเปล่ยี นแปลง ท่ีผนั กลับไม่ได้ เชน่ กำรเผำไหม้ กำรเกิด สนิม สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19) โดย สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพน้ื ฐำน ร่วมกับ สถำบันสง่ เสริมกำรสอนวิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี

๑๐ ชั้น ท่ี รหสั ตวั ชี้วดั ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.5 11 ว 2.2 ป.5/1 อธิบำยวธิ กี ำรหำแรงลัพธ์ของ • แรงลพั ธเ์ ปน็ ผลรวมของแรงทกี่ ระทำต่อวัตถุ  แรงหลำยแรงในแนวเดยี วกัน โดยแรงลพั ธ์ของแรง 2 แรงท่ีกระทำตอ่ ทก่ี ระทำต่อวตั ถุในกรณีท่วี ัตถุ วัตถุเดียวกนั จะมีขนำดเท่ำกับผลรวมของ อยนู่ ิง่ จำกหลักฐำนเชิงประจกั ษ์ แรงทง้ั สองเมื่อแรงท้ังสองอยใู่ นแนว 12 ว 2.2 ป.5/2 เขยี นแผนภำพแสดงแรงที่กระทำ เดยี วกนั แต่มีทิศทำงตรงข้ำมกัน สำหรบั  ตอ่ วัตถทุ ่ีอยใู่ นแนวเดียวกนั และ วตั ถทุ อี่ ยนู่ ่ิง แรงลัพธท์ ่กี ระทำต่อวตั ถุ มคี ่ำเป็นศนู ย์ แรงลพั ธ์ที่กระทำต่อวตั ถุ 13 ว 2.2 ป.5/3 ใชเ้ ครอื่ งช่ังสปริงในกำรวัดแรง • กำรเขียนแผนภำพของแรงที่กระทำต่อวัตถุ  สำมำรถเขียนได้โดยใชล้ กู ศร โดยหวั ลกู ศร ทกี่ ระทำต่อวัตถุ แสดงทศิ ทำงของแรง และควำมยำวของ ลกู ศรแสดงขนำดของแรงทีก่ ระทำต่อวัตถุ 14 ว 2.2 ป.5/4 ระบุผลของแรงเสยี ดทำนท่มี ตี ่อ • แรงเสียดทำนเปน็ แรงทเ่ี กดิ ขึน้ ระหวำ่ ง  กำรเปลยี่ นแปลงกำรเคลอ่ื นท่ีของ ผวิ สัมผสั ของวตั ถุ เพื่อต้ำนกำรเคลอื่ นท่ี วัตถุจำกหลกั ฐำนเชิงประจักษ์ ของวัตถนุ ้นั โดยถ้ำออกแรงกระทำต่อวตั ถุ 15 ว 2.2 ป.5/5 เขียนแผนภำพแสดงแรงเสยี ดทำน ทีอ่ ยูน่ ง่ิ บนพน้ื ผวิ หน่งึ ให้เคลื่อนท่ี  และแรงท่ีอยูใ่ นแนวเดียวกนั แรงเสยี ดทำนจำกพน้ื ผวิ นัน้ ก็จะต้ำน ทก่ี ระทำต่อวัตถุ กำรเคล่อื นที่ของวัตถุ แต่ถำ้ วัตถกุ ำลัง เคลอ่ื นที่ แรงเสยี ดทำนกจ็ ะทำให้วัตถุนัน้ เคลอื่ นทช่ี ้ำลงหรือหยดุ นงิ่ 16 ว 2.3 ป.5/1 อธบิ ำยกำรได้ยนิ เสียง • กำรได้ยินเสียงต้องอำศัยตัวกลำง  ผ่ำนตัวกลำงจำกหลกั ฐำน โดยอำจเป็นของแข็ง ของเหลว หรอื เชงิ ประจกั ษ์ อำกำศ เสยี งจะสง่ ผ่ำนตัวกลำงมำยงั หู 17 ว 2.3 ป.5/2 ระบุตัวแปร ทดลอง และอธบิ ำย • เสียงท่ไี ดย้ นิ มีระดบั สงู ต่ำของเสยี งตำ่ งกัน  ลกั ษณะและกำรเกิดเสยี งสูง ข้นึ กับควำมถ่ีของกำรสัน่ ของแหล่งกำเนิดเสยี ง เสยี งตำ่ โดยเม่อื แหลง่ กำเนิดเสียงสั่นด้วยควำมถ่ตี ำ่ 18 ว 2.3 ป.5/3 ออกแบบกำรทดลองและอธบิ ำย จะเกดิ เสยี งต่ำ แตถ่ ้ำสนั่ ด้วยควำมถีส่ ูง  จะเกิดเสียงสูง ส่วนเสยี งดงั ค่อยทีไ่ ดย้ นิ ลกั ษณะและกำรเกิดเสียงดงั เสยี งคอ่ ย ขึ้นกับพลังงำนกำรส่นั ของแหล่งกำเนิดเสียง 19 ว 2.3 ป.5/4 วัดระดับเสียงโดยใช้เครอ่ื งมอื โดยเมื่อแหล่งกำเนิดเสียงสนั่ ดว้ ยพลงั งำนมำก  จะเกดิ เสยี งดัง แต่ถ้ำแหล่งกำเนดิ เสียง วดั ระดับเสยี ง 20 ว 2.3 ป.5/5 ตระหนักในคุณคำ่ ของควำมรู้ ส่ันด้วยพลังงำนนอ้ ยจะเกิดเสียงค่อย เร่อื งระดับเสยี ง โดยเสนอแนะ • เสียงดังมำก ๆ เปน็ อนั ตรำยตอ่ กำรได้ยนิ  แนวทำงในกำรหลีกเลี่ยง และเสยี งที่ก่อให้เกิดควำมรำคำญ และลดมลพิษทำงเสียง เป็นมลพิษทำงเสียง เดซเิ บลเปน็ หนว่ ย ทบ่ี อกถงึ ควำมดังของเสียง สำหรบั กำรจัดกำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19) โดย สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำข้นั พ้นื ฐำน ร่วมกับ สถำบันสง่ เสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี

๑๑ ชั้น ที่ รหัสตัวชี้วัด ตวั ชวี้ ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.5 21 ว 3.1 ป.5/1 เปรยี บเทียบควำมแตกต่ำง ของดำวเครำะหแ์ ละดำวฤกษ์ • ดำวทมี่ องเห็นบนท้องฟ้ำอยู่ในอวกำศ  22 ว 3.1 ป.5/2 จำกแบบจำลอง ซึ่งเป็นบริเวณท่ีอยู่นอกบรรยำกำศของโลก 23 ว 3.2 ป.5/1 ใช้แผนท่ดี ำวระบุตำแหน่ง และเส้นทำงกำรขนึ้ และตก มีทง้ั ดำวฤกษ์และดำวเครำะห์ ดำวฤกษ์ 24 ว 3.2 ป.5/2 ของกลมุ่ ดำวฤกษ์บนท้องฟำ้ และอธิบำยแบบรูปเส้นทำง เป็นแหล่งกำเนดิ แสงจึงสำมำรถมองเห็นได้ กำรขนึ้ และตกของกลมุ่ ดำวฤกษ์ บนท้องฟำ้ ในรอบปี ส่วนดำวเครำะห์ไม่ใช่แหล่งกำเนดิ แสง เปรียบเทยี บปริมำณนำ้ แตส่ ำมำรถมองเห็นได้เนื่องจำกแสงจำก ในแตล่ ะแหลง่ และระบุ ปรมิ ำณน้ำท่ีมนุษย์สำมำรถ ดวงอำทิตยต์ กกระทบดำวเครำะห์แล้ว นำมำใช้ประโยชน์ได้ จำกข้อมูล ทรี่ วบรวมได้ สะทอ้ นเข้ำสู่ตำ ตระหนักถึงคณุ คำ่ ของนำ้ • กำรมองเห็นกลมุ่ ดำวฤกษ์มีรปู ร่ำงต่ำง ๆ  โดยนำเสนอแนวทำงกำรใชน้ ำ้ อย่ำงประหยดั และกำรอนรุ ักษ์นำ้ เกิดจำกจินตนำกำรของผูส้ งั เกต กลุ่มดำวฤกษ์ตำ่ ง ๆ ท่ีปรำกฏในท้องฟ้ำ แตล่ ะกลุ่มมดี ำวฤกษ์แตล่ ะดวงเรยี งกัน ทีต่ ำแหน่งคงท่ี และมีเสน้ ทำงกำรขึน้ และ ตกตำมเสน้ ทำงเดิมทกุ คนื ซงึ่ จะปรำกฏ ตำแหน่งเดิม กำรสังเกตตำแหนง่ และ กำรขึน้ และตกของดำวฤกษแ์ ละกลมุ่ ดำวฤกษส์ ำมำรถทำไดโ้ ดยใช้แผนที่ดำว ซ่ึงระบุมุมทศิ และมุมเงยที่กลุ่มดำวนนั้ ปรำกฏ ผู้สงั เกตสำมำรถใชม้ อื ในกำร ประมำณค่ำของมุมเงยเมื่อสังเกตดำว ในท้องฟ้ำ • โลกมที ั้งนำ้ จดื และน้ำเคม็ ซึ่งอย่ใู นแหลง่ น้ำ  ต่ำง ๆ ที่มีท้งั แหล่งน้ำผิวดนิ เช่น ทะเล มหำสมุทร บึง แมน่ ำ้ และแหล่งนำ้ ใตด้ นิ เชน่ น้ำในดิน และน้ำบำดำล นำ้ ท้ังหมด ของโลก แบ่งเปน็ น้ำเค็มประมำณรอ้ ยละ 97.5 ซ่งึ อยู่ในมหำสมุทรและแหลง่ น้ำอื่น ๆ และทเี่ หลืออกี ประมำณร้อยละ 2.5 เป็นน้ำจดื ถ้ำเรยี งลำดับปริมำณน้ำจดื จำกมำกไปน้อยจะอยู่ที่ ธำรน้ำแขง็ และพดื น้ำแข็ง นำ้ ใต้ดนิ ชั้นดินเยอื กแข็ง คงตัวและนำ้ แข็งใตด้ ิน ทะเลสำบ ควำมชื้นในดนิ ควำมชื้นในบรรยำกำศ บงึ แม่นำ้ และน้ำในสิ่งมีชวี ติ • นำ้ จดื ทมี่ นุษย์นำมำใช้ไดม้ ีปรมิ ำณน้อยมำก  จงึ ควรใชน้ ้ำอยำ่ งประหยดั และรว่ มกัน อนรุ ักษน์ ้ำ สำหรบั กำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19) โดย สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขน้ั พืน้ ฐำน ร่วมกับ สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี

๑๒ ชน้ั ที่ รหัสตัวช้ีวดั ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.5 25 ว 3.2 ป.5/3 สร้ำงแบบจำลองท่อี ธบิ ำย • วฏั จกั รน้ำ เปน็ กำรหมุนเวียนของนำ้  กำรหมุนเวยี นของน้ำในวฏั จักรนำ้ ทม่ี ีแบบรปู ซำ้ เดมิ และตอ่ เน่ืองระหว่ำงนำ้ ในบรรยำกำศ น้ำผวิ ดนิ และนำ้ ใต้ดนิ โดยพฤตกิ รรมกำรดำรงชวี ิตของพชื และ สัตว์ส่งผลต่อวฏั จกั รน้ำ 26 ว 3.2 ป.5/4 เปรียบเทียบกระบวนกำรเกิดเมฆ • ไอน้ำในอำกำศจะควบแนน่ เป็นละอองนำ้  หมอก น้ำคำ้ ง และนำ้ คำ้ งแข็ง เลก็ ๆ โดยมีละอองลอย เชน่ เกลือ จำกแบบจำลอง ฝนุ่ ละออง ละอองเรณขู องดอกไม้ เปน็ อนุภำคแกนกลำง เมือ่ ละอองน้ำ จำนวนมำกเกำะกลุ่มรวมกันลอยอยู่สงู จำกพ้นื ดนิ มำก เรยี กว่ำ เมฆ แตล่ ะอองน้ำ ทเ่ี กำะกลุ่มรวมกนั อยู่ใกลพ้ นื้ ดิน เรยี กว่ำ หมอก สว่ นไอนำ้ ที่ควบแน่นเป็นละอองน้ำ เกำะอยู่บนพนื้ ผวิ วัตถุใกลพ้ ้นื ดิน เรยี กว่ำ น้ำค้ำง ถำ้ อุณหภูมิใกล้พน้ื ดนิ ต่ำกวำ่ จุด เยอื กแข็ง น้ำคำ้ งก็จะกลำยเป็นน้ำค้ำงแข็ง 27 ว 3.2 ป.5/5 เปรียบเทียบกระบวนกำรเกิดฝน • ฝน หิมะ ลูกเห็บ เป็นหยำดน้ำฟ้ำซึ่งเป็นน้ำ  หมิ ะ และลูกเห็บ จำกข้อมลู ท่มี ีสถำนะต่ำง ๆ ท่ีตกจำกฟ้ำถึงพ้นื ดิน ท่รี วบรวมได้ ฝนเกดิ จำกละอองน้ำในเมฆท่ีรวมตวั กนั จนอำกำศไมส่ ำมำรถพยุงไว้ได้จึงตกลงมำ หมิ ะเกิดจำกไอน้ำในอำกำศระเหิดกลบั เปน็ ผลึกน้ำแข็ง รวมตัวกันจนมีน้ำหนักมำกขน้ึ จนเกินกวำ่ อำกำศจะพยงุ ไวจ้ ึงตกลงมำ ลกู เห็บเกิดจำกหยดนำ้ ท่ีเปลี่ยนสถำนะ เปน็ น้ำแขง็ แลว้ ถูกพำยุพดั วนซำ้ ไปซำ้ มำ ในเมฆฝนฟ้ำคะนองที่มีขนำดใหญแ่ ละอยู่ ในระดบั สูงจนเป็นก้อนน้ำแข็งขนำดใหญ่ ขึ้นแล้วตกลงมำ 28 ว 4.2 ป.5/1 ใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะในกำรแกป้ ัญหำ • กำรใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะเป็นกำรนำกฎเกณฑ์  กำรอธบิ ำย กำรทำงำน กำรคำดกำรณ์ หรือเง่ือนไขท่ีครอบคลมุ ทกุ กรณี ผลลัพธจ์ ำกปญั หำอย่ำงง่ำย มำใช้พิจำรณำในกำรแกป้ ัญหำ กำรอธิบำย กำรทำงำน หรือกำรคำดกำรณผ์ ลลพั ธ์ • สถำนะเรมิ่ ต้นของกำรทำงำนทแี่ ตกต่ำงกนั จะใหผ้ ลลพั ธท์ แี่ ตกต่ำงกัน • ตวั อย่ำงปัญหำ เช่น เกม Sudoku โปรแกรมทำนำยตัวเลข โปรแกรมสรำ้ ง รปู เรขำคณิตตำมค่ำข้อมลู เข้ำ กำรจัดลำดับ กำรทำงำนบ้ำนในชว่ งวนั หยุด จดั วำงของ ในครัว สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19) โดย สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำข้นั พน้ื ฐำน ร่วมกบั สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี

๑๓ ชัน้ ที่ รหสั ตวั ช้ีวดั ตัวชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.5 29 ว 4.2 ป.5/2 ออกแบบและเขียนโปรแกรม • กำรออกแบบโปรแกรมสำมำรถทำได้โดย  ทมี่ ีกำรใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะอยำ่ งงำ่ ย เขยี นเปน็ ข้อควำมหรือผังงำน ตรวจหำข้อผดิ พลำดและแก้ไข • กำรออกแบบและเขียนโปรแกรมท่ีมี กำรตรวจสอบเง่ือนไขท่ีครอบคลุมทุกกรณี เพ่ือให้ได้ผลลัพธ์ทีถ่ ูกต้องตำมควำมต้องกำร • หำกมขี อ้ ผิดพลำดให้ตรวจสอบกำรทำงำน ทีละคำสั่ง เม่ือพบจุดที่ทำใหผ้ ลลัพธ์ ไม่ถูกต้องให้ทำกำรแก้ไขจนกวำ่ จะได้ ผลลัพธท์ ่ีถกู ต้อง •กำรฝึกตรวจหำขอ้ ผิดพลำดจำกโปรแกรม ของผอู้ ่ืน จะชว่ ยพัฒนำทักษะกำรหำสำเหตุ ของปัญหำไดด้ ียิ่งขน้ึ • ตัวอยำ่ งโปรแกรม เช่น โปรแกรม ตรวจสอบเลขคูเ่ ลขคี่ โปรแกรมรับขอ้ มูล น้ำหนักหรือส่วนสงู แลว้ แสดงผลควำม สมส่วนของร่ำงกำย โปรแกรมส่งั ให้ตัวละคร ทำตำมเง่ือนไขที่กำหนด • ซอฟตแ์ วรท์ ่ีใชใ้ นกำรเขียนโปรแกรม เชน่ Scratch, Logo 30 ว 4.2 ป.5/3 ใช้อนิ เทอร์เนต็ คน้ หำขอ้ มลู • กำรคน้ หำข้อมูลในอินเทอร์เน็ต  ติดตอ่ สอ่ื สำรและทำงำนร่วมกนั และกำรพจิ ำรณำผลกำรค้นหำ ประเมินควำมน่ำเช่ือถือของข้อมูล • กำรตดิ ตอ่ ส่ือสำรผ่ำนอนิ เทอรเ์ นต็ เชน่ อีเมล บล็อก โปรแกรมสนทนำ • กำรเขียนจดหมำย (บูรณำกำรกับวิชำ ภำษำไทย) • กำรใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ ในกำรติดตอ่ ส่อื สำร และทำงำนรว่ มกัน เช่น ใช้นดั หมำย ในกำรประชมุ กลุม่ ประชำสมั พนั ธ์ กจิ กรรมในห้องเรยี น กำรแลกเปล่ยี น ควำมรู้ ควำมคดิ เหน็ ในกำรเรียนภำยใต้ กำรดแู ลของครู • กำรประเมินควำมน่ำเชอ่ื ถอื ของขอ้ มลู เชน่ เปรยี บเทียบควำมสอดคลอ้ ง สมบรู ณ์ของข้อมลู จำกหลำยแหลง่ แหล่งต้นตอของข้อมลู ผู้เขียน วนั ท่ี เผยแพร่ข้อมลู • ขอ้ มลู ทีด่ ีต้องมรี ำยละเอียดครบทุกด้ำน เช่น ขอ้ ดแี ละข้อเสยี ประโยชนแ์ ละโทษ สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19) โดย สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขน้ั พืน้ ฐำน ร่วมกับ สถำบันสง่ เสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี

๑๔ ช้นั ท่ี รหสั ตวั ช้ีวดั ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.5 31 ว 4.2 ป.5/4 รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมลู • กำรรวบรวมข้อมูล ประมวลผล  และสำรสนเทศตำมวตั ถปุ ระสงค์ สรำ้ งทำงเลือก ประเมนิ ผล จะทำให้ โดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รือบรกิ ำร ไดส้ ำรสนเทศเพือ่ ใช้ในกำรแก้ปญั หำ บนอนิ เทอร์เน็ตท่ีหลำกหลำย หรอื กำรตดั สนิ ใจได้อยำ่ งมีประสิทธิภำพ เพือ่ แก้ปัญหำในชวี ิตประจำวนั • กำรใชซ้ อฟตแ์ วรห์ รือบรกิ ำรบน อินเทอร์เนต็ ที่หลำกหลำยในกำรรวบรวม ประมวลผล สรำ้ งทำงเลือก ประเมินผล นำเสนอ จะช่วยใหก้ ำรแกป้ ญั หำทำได้ อย่ำงรวดเร็ว ถกู ต้องและแมน่ ยำ • ตัวอยำ่ งปญั หำ เชน่ ถำ่ ยภำพและสำรวจ แผนทใ่ี นท้องถิน่ เพื่อนำเสนอแนวทำง ในกำรจดั กำรพืน้ ท่ีวำ่ งใหเ้ กิดประโยชน์ ทำแบบสำรวจควำมคิดเห็นออนไลน์ และ วเิ ครำะหข์ ้อมูล นำเสนอข้อมูลโดยกำรใช้ blog หรือ web page 32 ว 4.2 ป.5/5 ใช้เทคโนโลยีสำรสนเทศ • อนั ตรำยจำกกำรใช้งำนและอำชญำกรรม  อย่ำงปลอดภัย มมี ำรยำท ทำงอินเทอร์เนต็ เขำ้ ใจสิทธแิ ละหนำ้ ทข่ี องตน • มำรยำทในกำรติดต่อสื่อสำรผ่ำน เคำรพในสิทธิของผู้อืน่ อนิ เทอรเ์ น็ต (บรู ณำกำรกับวชิ ำท่ีเก่ียวข้อง) แจ้งผเู้ กย่ี วขอ้ งเมื่อพบขอ้ มูลหรอื บคุ คลท่ีไม่เหมำะสม รวม 32 ตัวช้ีวัด 24 8 สำหรบั กำรจัดกำรเรียนรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19) โดย สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้นั พื้นฐำน ร่วมกับ สถำบันสง่ เสริมกำรสอนวิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ตัวชีว้ ดั และสาระการเรียนรูแ้ กนกลางท่ีตอ้ งรู้และควรรู้ กลุม่ สาระการเรยี นรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ๑๕ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ช้ัน ท่ี รหัสตัวช้ีวัด ตัวช้ีวดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.5 1 ส ๑.๑ ป.๕/๑ วิเครำะห์ควำมสำคญั ของ  มรดกทำงวฒั นธรรมที่ได้รบั  พระพุทธศำสนำหรือศำสนำ จำกพระพุทธศำสนำ ทตี่ นนับถือในฐำนะที่เป็นมรดก o มรดกทำงด้ำนรปู ธรรม เช่น ทำงวฒั นธรรมและหลักในกำรพัฒนำ ศำสนสถำน โบรำณวตั ถุ ชำติไทย สถำปัตยกรรม o มรดกทำงด้ำนจติ ใจ เชน่ หลักธรรมคำสั่งสอน ควำมเชื่อ และคุณธรรมต่ำง ๆ  กำรนำพระพุทธศำสนำไปใช้ เปน็ แนวทำงในกำรพัฒนำชำตไิ ทย o พัฒนำด้ำนกำยภำพและ ส่ิงแวดล้อม 2 ส ๑.๑ ป.๕/๒ สรปุ พทุ ธประวัติตัง้ แตเ่ สด็จ o พฒั นำจิตใจ  กรุงกบิลพสั ดุจ์ นถึงพุทธกิจสำคัญ หรือประวตั ศิ ำสดำทีต่ นนับถือ  สรุปพุทธประวตั ิ (ทบทวน)  โปรดพระพุทธบดิ ำ (เสดจ็ กรงุ กบิลพัสด์ุ) ตำมที่กำหนด  พุทธกิจสำคญั ได้แก่ โลกัตถจริยำ ญำตัตถจริยำ และพุทธัตถจริยำ 3 ส ๑.๑ ป.๕/๓ เหน็ คุณคำ่ และประพฤติตน  พุทธสำวก พุทธสำวกิ ำ  ตำมแบบอย่ำงกำรดำเนนิ ชีวิต o พระโสณโกฬวิ สิ ะ และข้อคิดจำกประวัตสิ ำวก ชำดก  ชำดก เร่อื งเลำ่ และศำสนิกชนตัวอย่ำง o จูฬเสฏฐิชำดก ตำมท่กี ำหนด  ศำสนิกชนตัวอย่ำง o สมเด็จพระสังฆรำช (สำ) 4 ส ๑.๑ ป.๕/๔ อธบิ ำยองค์ประกอบและควำมสำคัญ  องคป์ ระกอบของพระไตรปิฎก  ของพระไตรปฎิ กหรือคัมภรี ์ o พระสุตตนั ตปฎิ ก ของศำสนำท่ีตนนับถือ o พระวนิ ยั ปิฎก o พระอภิธรรมปฎิ ก  ควำมสำคัญของพระไตรปิฎก สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๑๖ ชนั้ ที่ รหสั ตัวช้ีวดั ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.5 5 ส ๑.๑ ป.๕/๕ แสดงควำมเคำรพพระรตั นตรัย  ไตรสกิ ขำ  และปฏบิ ัติตำมไตรสิกขำ และ  สมำธิ หลักธรรมโอวำท ๓ ในพระพุทธศำสนำ  โอวำท ๓ หรือหลักธรรมของศำสนำท่ตี นนับถอื  ไม่ทำชว่ั ตำมทก่ี ำหนด o อบำยมุข ๔  ทำควำมดี o บุญกริ ิยำวัตถุ ๓ o อทิ ธบิ ำท ๔ o กตัญญูกตเวทีตอ่ พระพทุ ธศำสนำ o มงคล ๓๘ - ใฝร่ ู้ ใฝ่เรียน - กำรงำนไม่อำกูล - อดทน  ทำจติ ใหบ้ ริสุทธ์ิ (บริหำรจิต และเจริญปัญญำ)  พทุ ธศำสนสุภำษติ  วริ ิเยน ทกุ ฺขมจเฺ จติ คนจะลว่ งทุกข์ได้ เพรำะควำมเพยี ร  ปญฺญำ โลกสฺมิ ปชโฺ ชโต ปญั ญำ คือ แสงสวำ่ งในโลก  6 ส ๑.๑ ป.๕/๖ เห็นคุณค่ำและสวดมนต์ แผ่เมตตำ  วิธีปฏิบตั ิและประโยชน์ของ มีสตทิ ่ีเปน็ พ้ืนฐำนของสมำธิ กำรบรหิ ำรจติ และเจริญปัญญำ ในพระพทุ ธศำสนำหรือกำรพฒั นำจติ  ฝึกกำรยืน กำรเดิน กำรนั่ง ตำมแนวทำงของศำสนำทตี่ นนับถือ และกำรนอนอย่ำงมสี ติ ตำมทก่ี ำหนด  ฝึกกำรกำหนดรู้ควำมรสู้ ึก เม่อื ตำเหน็ รูป หูฟงั เสยี ง จมูกดมกล่นิ ล้ินลมิ้ รส กำยสัมผสั สง่ิ ที่มำกระทบใจรบั รู้ ธรรมำรมณ์  ฝกึ ให้มีสมำธใิ นกำรฟงั กำรอ่ำน กำรคิด กำรถำมและกำรเขียน  7 ส ๑.๑ ป.๕/๗ ปฏบิ ตั ิตนตำมหลักธรรมของศำสนำ  โอวำท ๓ (ตำมสำระกำรเรยี นรู้ ทีต่ นนับถือ เพื่อกำรพฒั นำตนเอง ขอ้ ๕) และสิ่งแวดล้อม  8 ส ๑.๒ ป.๕/๑ จัดพิธกี รรมตำมศำสนำท่ีตนนับถือ  กำรจดั พิธีกรรมทเี่ รียบง่ำย อยำ่ งเรียบง่ำย มปี ระโยชน์ และ ประหยัด มปี ระโยชน์ และ ปฏิบตั ติ นถกู ต้อง ถกู ต้องตำมหลักทำงศำสนำ ที่ตนนบั ถือ สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๑๗ ช้นั ที่ รหสั ตัวช้ีวดั ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.5 9 ส ๑.๒ ป.๕/๒ ปฏบิ ตั ติ นในศำสนพิธี พธิ ีกรรม  กำรมสี ่วนรว่ มในกำรจดั เตรยี ม  และวนั สำคัญทำงศำสนำ สถำนท่ีประกอบศำสนพิธี ตำมท่กี ำหนด และอภิปรำย พิธีกรรมทำงศำสนำ ประโยชน์ท่ีไดร้ ับจำกกำรเข้ำร่วม  พิธถี วำยสงั ฆทำน เครือ่ งสังฆทำน กจิ กรรม  ระเบยี บพธิ ใี นกำรทำบุญงำนมงคล  ประโยชนข์ องกำรเข้ำรว่ ม ศำสนพิธี พธิ กี รรมทำงศำสนำ หรอื กิจกรรมในวันสำคญั ทำงศำสนำ 10 ส ๑.๒ ป.๕/๓ มีมรรยำทของควำมเปน็ ศำสนิกชน  มรรยำทของศำสนิกชน  ท่ีดตี ำมที่กำหนด o กำรกรำบพระรัตนตรยั o กำรไหว้บิดำ มำรดำ ครู อำจำรย์ ผทู้ ี่เคำรพนับถือ 11 ส ๒.๑ ป.๕/๑ ยกตัวอย่ำงและปฏิบตั ิตน o กำรกรำบศพ  สถำนภำพ บทบำท สทิ ธิเสรภี ำพ  ตำมสถำนภำพ บทบำท หนำ้ ท่ขี องพลเมืองดี เชน่ สทิ ธเิ สรภี ำพ และหน้ำที่ เคำรพ เทดิ ทูนสถำบนั ชำติ ในฐำนะพลเมืองดี ศำสนำ พระมหำกษัตริย์ อนรุ ักษ์ทรพั ยำกรธรรมชำติ อนุรักษ์ศลิ ปวฒั นธรรม ปฏิบตั ิตนตำมกฎหมำย  คุณลักษณะของพลเมอื งดี เช่น มุมำนะทำประโยชนเ์ พ่ือส่วนรวม มคี ่ำนยิ มประชำธปิ ไตยมีคณุ ธรรม 12 ส ๒.๑ ป.๕/๒ เสนอวิธกี ำรปกป้องคุ้มครองตนเอง  เหตุกำรณ์ท่ีละเมดิ สิทธิเดก็  หรอื ผู้อ่ืนจำกกำรละเมดิ สิทธิเด็ก ในสงั คมไทย  แนวทำงกำรปกป้องค้มุ ครอง ตนเองหรอื ผู้อ่ืนจำกกำรละเมิด สิทธิเด็ก  กำรปกป้องคมุ้ ครองสทิ ธิเดก็ 13 ส ๒.๑ ป.๕/๓ เหน็ คุณค่ำวฒั นธรรมไทย ในสงั คมไทย  วฒั นธรรมไทยท่มี ผี ลตอ่ กำร  ท่ีมผี ลต่อกำรดำเนินชวี ติ ดำเนินชวี ิตของคนในสังคมไทย ในสังคมไทย  คุณค่ำของวัฒนธรรมกับกำร ดำเนินชวี ิต สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๑๘ ช้ัน ที่ รหัสตัวชี้วดั ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้  ป.5 14 ส ๒.๑ ป.๕/๔ มีส่วนร่วมในกำรอนรุ กั ษ์  ควำมสำคัญของภมู ิปัญญำ และเผยแพรภ่ มู ปิ ัญญำท้องถ่ิน ท้องถิน่ ของชุมชน  ตวั อยำ่ งภมู ปิ ญั ญำท้องถนิ่ ในชมุ ชนของตน  กำรอนรุ กั ษแ์ ละเผยแพร่ ภมู ิปัญญำท้องถิ่นของชุมชน 15 ส ๒.๒ ป.๕/๑ อธิบำยโครงสร้ำง อำนำจหนำ้ ท่ี  โครงสร้ำงกำรปกครองในท้องถนิ่  และควำมสำคัญของกำรปกครอง เชน่ อบต. อบจ. เทศบำล สว่ นทอ้ งถ่ิน และกำรปกครองพิเศษ เชน่ เมืองพทั ยำ กรุงเทพมหำนคร  อำนำจหน้ำทแ่ี ละควำมสำคญั ของกำรปกครองสว่ นท้องถ่นิ 16 ส ๒.๒ ป.๕/๒ ระบุบทบำท หน้ำท่ี และวิธกี ำร  บทบำท หน้ำที่ และวิธกี ำร  เข้ำดำรงตำแหน่งของผบู้ ริหำร เข้ำดำรงตำแหน่งของผบู้ ริหำร ท้องถิ่น ท้องถิน่ เช่น นำยก อบต. นำยกเทศมนตรี นำยก อบจ. ผวู้ ่ำรำชกำร กทม. นำยกเมืองพัทยำ 17 ส ๒.๒ ป.๕/๓ วเิ ครำะหป์ ระโยชน์ทช่ี ุมชน  องค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่  จะได้รบั จำกองคก์ รปกครอง กบั บรกิ ำรสำธำรณประโยชน์ สว่ นท้องถิน่ ในชุมชน 18 ส ๓.๑ ป.๕/๑ อธบิ ำยปจั จยั กำรผลิตสินคำ้  ควำมหมำยและประเภท  และบรกิ ำร ของปจั จัยกำรผลิตประกอบดว้ ย ทดี่ นิ แรงงำน ทุน และ ผู้ประกอบกำร  เทคโนโลยใี นกำรผลติ สินคำ้ และบริกำร  ปจั จยั อ่ืน ๆ เช่น รำคำน้ำมนั วตั ถุดิบ 19 ส ๓.๑ ป.๕/๒ ประยกุ ตใ์ ช้แนวคิดของปรัชญำ  กำรประยุกต์ใชป้ รัชญำของ  ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เศรษฐกิจพอเพียงในกิจกรรม ในกำรทำกจิ กรรมต่ำง ๆ ต่ำง ๆ ในครอบครวั โรงเรยี น ในครอบครัว โรงเรียน และชมุ ชน และชุมชน เช่น กำรประหยัด พลงั งำน และค่ำใชจ้ ่ำยในบำ้ น โรงเรยี น กำรวำงแผน กำรผลติ สินคำ้ และบริกำร เพอื่ ลดควำมสูญเสียทุกประเภท กำรใช้ภูมิปัญญำท้องถิน่  ตวั อย่ำงกำรผลติ สินคำ้ และ บริกำรในชุมชน เชน่ หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ หรอื โอท็อป สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๑๙ ชน้ั ท่ี รหสั ตัวช้ีวดั ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้  ป.5 20 ส ๓.๑ ป.๕/๓ อธิบำยหลักกำรสำคัญและ  หลกั กำรและประโยชน์ ประโยชนข์ องสหกรณ์ ของสหกรณ์  ประเภทของสหกรณ์โดยสังเขป  สหกรณ์ในโรงเรยี น (เน้นฝึกปฏิบัตจิ รงิ ) 21 ส ๓.๒ ป.๕/๑ อธบิ ำยบทบำทหน้ำที่เบื้องตน้  บทบำทหนำ้ ท่ีของธนำคำร  ของธนำคำร โดยสังเขป  ดอกเบ้ียเงินฝำกและดอกเบีย้ กูย้ ืม  กำรฝำกเงิน / กำรถอนเงิน 22 ส ๓.๒ ป.๕/๒ จำแนกผลดแี ละผลเสยี ของกำรก้ยู ืม  ผลดีและผลเสยี ของกำรกูย้ มื เงิน  ท้งั นอกระบบ และในระบบ  23 ส ๔.๑ ป.๕/๑ สบื ค้นควำมเป็นมำของท้องถิ่น  วิธีกำรสบื คน้ ควำมเป็นมำ โดยใช้หลักฐำนที่หลำกหลำย ของทอ้ งถิ่นอย่ำงง่ำย ๆ  แหลง่ ขอ้ มลู และหลกั ฐำน ทำงประวตั ิศำสตร์ที่มีอยู่ในท้องถ่ิน ทเี่ กิดข้นึ ตำมช่วงเวลำตำ่ ง ๆ เชน่ เคร่อื งมือเคร่ืองใช้ อำวธุ โบรำณสถำน โบรำณวตั ถุ ตำนำนทอ้ งถ่ิน คำบอกเล่ำ 24 ส ๔.๑ ป.๕/๒ รวบรวมข้อมลู จำกแหลง่ ต่ำง ๆ  กำรต้งั คำถำมทำงประวัติศำสตร์  เพื่อตอบคำถำมทำงประวตั ิศำสตร์ เกี่ยวกับควำมเป็นมำของท้องถ่ิน อย่ำงมีเหตผุ ล เชน่ มเี หตุกำรณใ์ ดเกดิ ข้นึ ในชว่ งเวลำใด เพรำะสำเหตุใด และมผี ลกระทบอย่ำงไร 25 ส ๔.๑ ป.๕/๓ อธบิ ำยควำมแตกตำ่ งระหวำ่ ง  ตัวอย่ำงเรอื่ งรำวทส่ี ำมำรถ  ควำมจรงิ กับขอ้ เท็จจรงิ เกย่ี วกับ แสดงนัยของควำมคดิ เห็น เรือ่ งรำวในท้องถ่ิน ที่มอี ยู่ในข้อมูลจำกหลักฐำน ต่ำง ๆ เชน่ จำกหนังสือพมิ พ์ จำกบทควำม จำกเอกสำรอื่น ๆ  ตวั อย่ำงข้อมลู จำกหลักฐำน ทำงประวัติศำสตร์ ในท้องถิ่น ทแ่ี สดงควำมจริงกบั ข้อเท็จจริง 26 ส ๔.๒ ป.๕/๑ อธบิ ำยอทิ ธิพลของอำรยธรรม  กำรเข้ำมำของอำรยธรรมอินเดีย  อนิ เดียและจนี ที่มีต่อไทย และจีนในดนิ แดนไทยและ และเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ ภมู ิภำคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ โดยสงั เขป โดยสังเขป  อทิ ธิพลของอำรยธรรมอินเดียและ จนี ท่ีมตี อ่ ไทย และคนในภมู ิภำค เอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ เช่น ศำสนำและควำมเชื่อ ภำษำ กำรแต่งกำย อำหำร สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๐ ชัน้ ท่ี รหสั ตัวชี้วัด ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.5 27 ส ๔.๒ ป.๕/๒ อภปิ รำยอทิ ธิพลของวฒั นธรรม  กำรเข้ำมำของวัฒนธรรมต่ำงชำติ  ต่ำงชำตทิ มี่ ีต่อสังคมไทยปัจจุบัน ในสงั คมไทย เช่น อำหำร โดยสงั เขป ภำษำกำรแตง่ กำย ดนตรี โดยระบลุ กั ษณะ สำเหตแุ ละผล โดยสังเขป  อิทธพิ ลทหี่ ลำกหลำยของกระแส วัฒนธรรมตำ่ งชำตติ ่อสงั คมไทย ในปจั จบุ ัน โดยสังเขป 28 ส ๔.๓ ป.๕/๑ อธิบำยพฒั นำกำรของอำณำจักร  กำรสถำปนำอำณำจักรอยุธยำ  อยุธยำและธนบุรโี ดยสังเขป โดยสังเขป 29 ส ๔.๓ ป.๕/๓ บอกประวตั แิ ละผลงำน ของบุคคลสำคัญสมัยอยุธยำ  พฒั นำกำรของอำณำจักรอยุธยำ  และธนบรุ ีท่ีน่ำภำคภมู ิใจ ดำ้ นกำรเมือง กำรปกครอง 30 ส ๔.๓ ป.๕/๔ อธิบำยภมู ปิ ญั ญำไทย ทีส่ ำคญั สมยั อยธุ ยำและธนบรุ ี และเศรษฐกจิ โดยสังเขป ที่น่ำภำคภูมิใจและควรคำ่ แก่กำรอนรุ กั ษ์ไว้  ผลงำนของบุคคลสำคัญ  ในสมัยอยธุ ยำ เชน่ สมเด็จพระรำมำธิบดที ี่ ๑ สมเด็จพระบรมไตรโลกนำถ สมเด็จพระนเรศวรมหำรำช สมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช ชำวบำ้ นบำงระจนั  ภมู ิปญั ญำไทยสมยั อยธุ ยำ โดยสังเขป เช่น ศิลปกรรม กำรค้ำ วรรณกรรม  กำรกอบกเู้ อกรำชและกำรสถำปนำ อำณำจกั รธนบรุ ี โดยสังเขป  พระรำชประวัติ และผลงำน ของพระเจำ้ ตำกสนิ มหำรำช โดยสังเขป  ภูมิปัญญำไทยสมยั ธนบุรี โดยสงั เขป เช่น ศลิ ปกรรม 31 ส ๔.๓ ป.๕/๒ อธบิ ำยปัจจัยทส่ี ง่ เสรมิ กำรคำ้ วรรณกรรม ควำมเจรญิ รุ่งเรืองทำงเศรษฐกิจ และกำรปกครองของอำณำจกั ร  ปัจจยั ทส่ี ง่ เสรมิ ควำมเจริญรุ่งเรอื ง  อยุธยำ ทำงเศรษฐกจิ และกำรปกครอง 32 ส 5.1 ป.5/1 สบื ค้นและอธบิ ำยขอ้ มลู ลกั ษณะ ทำงกำยภำพในภมู ิภำคของตน ของอำณำจักรอยุธยำ ดว้ ยแผนทีแ่ ละรปู ถ่ำย  ลกั ษณะทำงกำยภำพในภมู ิภำค  ของตน สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๑ ชน้ั ท่ี รหัสตัวช้ีวดั ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.5 33 ส 5.1 ป.5/2 อธบิ ำยลกั ษณะทำงกำยภำพ  ลักษณะทำงกำยภำพทีส่ ่งผลตอ่  ท่สี ง่ ผลตอ่ แหล่งทรัพยำกรและ แหลง่ ทรพั ยำกรและสถำนท่ีสำคัญ สถำนทสี่ ำคญั ในภมู ภิ ำคของตน ในภมู ิภำคของตน 34 ส 5.2 ป.5/1 วิเครำะหส์ ิง่ แวดล้อมทำงกำยภำพ  สิ่งแวดลอ้ มทำงกำยภำพ  ท่มี ีอิทธิพลตอ่ ลักษณะ ทมี่ ีอิทธพิ ลต่อลักษณะ กำรต้ังถน่ิ ฐำนและกำรย้ำยถิน่ กำรตง้ั ถ่นิ ฐำนและกำรย้ำยถิน่ ของประชำกรในภมู ิภำคของตน ของประชำกรในภูมภิ ำคของตน 35 ส 5.2 ป.5/2 วเิ ครำะหอ์ ิทธิพลของส่ิงแวดล้อม  อทิ ธิพลของสิง่ แวดล้อม  ทำงธรรมชำติทีก่ ่อใหเ้ กดิ วิถี ทำงธรรมชำติทกี่ อให้เกิดวิถี กำรดำเนนิ ชีวติ ในภมู ิภำคของตน กำรดำเนนิ ชวี ติ ในภมู ิภำค ของตน 36 ส 5.2 ป.5/3 นำเสนอตวั อยำ่ งท่สี ะท้อนให้เห็น  ผลจำกกำรรักษำและกำรทำลำย  ผลจำกกำรรักษำและทำลำย สิ่งแวดลอ้ มในภมู ิภำคของตน ส่งิ แวดล้อม และเสนอแนวทำง  แนวทำงกำรจดั กำรส่งิ แวดลอ้ ม ในกำรจดั กำรสิ่งแวดลอ้ ม ในภูมภิ ำคของตน ในภูมิภำคของตน รวม 36 ตัวช้ีวัด 17 19 สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๒ ตวั ช้ีวัดและสาระการเรียนรแู้ กนกลางตอ้ งรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ชัน้ ท่ี รหสั ตวั ชี้วดั ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.5 1 พ 1.1 ป.5/1 อธบิ ำยควำมสำคัญของระบบ  ควำมสำคัญของระบบย่อยอำหำร  ยอ่ ยอำหำร และระบบขบั ถ่ำย และระบบขบั ถ่ำยที่มีผลต่อสุขภำพ ทม่ี ผี ลตอ่ สขุ ภำพ กำรเจรญิ เติบโต กำรเจริญเติบโต และพัฒนำกำร และพฒั นำกำร 2 พ 1.1 ป.5/2 อธบิ ำยวธิ ีดูแลระบบย่อยอำหำรและ  วธิ ีดูแลรักษำระบบย่อยอำหำรและ  ระบบขบั ถ่ำยใหท้ ำงำนตำมปกติ ระบบขับถ่ำยให้ทำงำนตำมปกติ 3 พ 2.1 ป.5/1 อธบิ ำยกำรเปลีย่ นแปลงทำงเพศ  กำรเปล่ยี นแปลงทำงเพศ  และปฏบิ ัตติ นได้เหมำะสม กำรดแู ลตนเอง  กำรวำงตวั ทีเ่ หมำะสมกับเพศ ตำมวัฒนธรรมไทย 4 พ 2.1 ป.5/2 อธิบำยควำมสำคัญของกำรมีครอบครัว  ลักษณะของครอบครัวที่อบอุ่น  ท่ีอบอุ่นตำมวัฒนธรรมไทย ตำมวัฒนธรรมไทย (ครอบครัวขยำย กำรนบั ถือญำต)ิ 5 พ 2.1 ป.5/3 ระบุพฤติกรรมท่พี ึงประสงค์ และ  พฤติกรรมที่พึงประสงคแ์ ละ  ไมพ่ ึงประสงค์ในกำรแก้ไขปญั หำ ไมพ่ ึงประสงคใ์ นกำรแก้ไขปญั หำ ควำมขัดแย้งในครอบครวั และ ควำมขัดแย้งในครอบครวั กลุ่มเพ่ือน 6 พ 3.1 ป.5/1 จดั รปู แบบกำรเคล่ือนไหว  กำรจดั รูปแบบกำรเคลื่อนไหวรำ่ งกำย  แบบผสมผสำน และควบคมุ ตนเอง แบบผสมผสำน และกำรปฏบิ ัติ เมื่อใชท้ ักษะกำรเคลื่อนไหว กิจกรรมทำงกำย ท้ังแบบอยูก่ ับท่ี ตำมแบบท่ีกำหนด เคลอ่ื นท่ี และใชอ้ ปุ กรณป์ ระกอบ ตำมแบบท่ีกำหนด เช่น กำรฝกึ กำยบรหิ ำร ยดื หยุ่นข้นั พ้นื ฐำน เปน็ ต้น 7 พ 3.1 ป.5/2 เล่มเกมนำไปสู่กีฬำที่เลือกและ  เกมนำไปสกู่ ีฬำและกจิ กรรมแบบผลดั  กจิ กรรมกำรเคลอ่ื นไหวแบบผลัด ที่มกี ำรตี เข่ยี รับ–สง่ สงิ่ ของ ขว้ำง และวง่ิ 8 พ 3.1 ป.5/3 ควบคมุ กำรเคลอ่ื นไหวในเร่ือง  กำรเคลื่อนไหวในเรอ่ื งกำรรับแรง  กำรรับแรง กำรใช้แรง และควำมสมดุล กำรใชแ้ รง และควำมสมดุล 9 พ 3.1 ป.5/4 แสดงทกั ษะกลไกในกำรปฏบิ ัติ  ทกั ษะกลไกท่ีสง่ ผลต่อกำรปฏิบตั ิ  กจิ กรรมทำงกำยและเล่นกีฬำ กิจกรรมทำงกำยและเลน่ กีฬำ 10 พ 3.1 ป.5/5 เล่นกีฬำไทยและกีฬำสำกล  กำรเล่นกีฬำไทย เชน่ ตะกร้อวง  ประเภทบุคคลและประเภททีม วง่ิ ชกั ธง และกีฬำสำกล เชน่ กรีฑำ อยำ่ งละ ๑ ชนดิ ประเภทลู่ แบดมินตัน เปตอง ฟตุ บอล เทเบลิ เทนนิส วำ่ ยนำ้ 11 พ 3.1 ป.5/6 อธบิ ำยหลักกำร และเข้ำรว่ ม  หลกั กำรและกจิ กรรมนันทนำกำร  กจิ กรรมนนั ทนำกำรอยำ่ งน้อย ๑ กจิ กรรม สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๓ ชั้น ที่ รหัสตวั ช้ีวัด ตัวช้ีวดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.5 12 พ 3.2 ป.5/1 ออกกำลังกำยอย่ำงมรี ปู แบบ  หลักกำรและรูปแบบกำรออกกำลังกำย  เล่นเกมทใ่ี ชท้ ักษะกำรคิดและ ตดั สนิ ใจ  กำรออกกำลงั กำย และกำรเลน่ เกม เชน่ เกมเบด็ เตล็ด เกมเลยี นแบบ เกมนำ และกำรละเลน่ พน้ื เมือง 13 พ 3.2 ป.5/2 เลน่ กีฬำท่ีตนเองชอบอย่ำงสม่ำเสมอ  กำรเล่นกฬี ำไทย และกีฬำสำกล  โดยสร้ำงทำงเลือกในวิธปี ฏิบตั ิ ประเภทบคุ คลและทีมท่เี หมำะสม ของตนเองอยำ่ งหลำกหลำย กบั วยั อยำ่ งสมำ่ เสมอ และมนี ้ำใจนักกีฬำ  กำรสรำ้ งทำงเลือกในวิธีปฏบิ ัติ ในกำรเล่นกีฬำอย่ำงหลำกหลำย และมีนำ้ ใจนักกีฬำ 14 พ 3.2 ป.5/3 ปฏิบัติตำมกฎ กติกำกำรเล่นเกม  กฎ กตกิ ำในกำรเล่นเกมกีฬำไทย  กฬี ำไทยและกีฬำสำกล และกีฬำสำกลตำมชนดิ กฬี ำท่ีเล่น ตำมชนดิ กีฬำท่ีเล่น  วธิ ีกำรรกุ และวธิ ีปอ้ งกันในกำรเลน่ กีฬำไทยและกีฬำสำกลท่เี ล่น 15 พ 3.2 ป.5/4 ปฏิบตั ิตนตำมสทิ ธิของตนเอง  สิทธขิ องตนเองและผอู้ ่ืนในกำรเล่นเกม  ไมล่ ะเมดิ สทิ ธิผู้อนื่ และยอมรับ และกีฬำ ในควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคล ในกำรเลน่ เกมและกฬี ำไทย  ควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคล กีฬำสำกล ในกำรเลน่ เกมและกฬี ำ 16 พ 4.1 ป.5/1 แสดงพฤติกรรมทีเ่ ห็นควำมสำคญั  ควำมสำคญั ของกำรปฏิบัติตน  ของกำรปฏิบัติตนตำมสุขบญั ญัติ ตำมสุขบญั ญัติแหง่ ชำติ แห่งชำติ 17 พ 4.1 ป.5/2 คน้ หำข้อมูลข่ำวสำรเพื่อใช้  แหลง่ และวธิ ีค้นหำข้อมลู ขำ่ วสำร  สรำ้ งเสริมสขุ ภำพ ทำงสุขภำพ  กำรใชข้ ้อมูลข่ำวสำรในกำรสรำ้ งเสริม สุขภำพ 18 พ 4.1 ป.5/3 วิเครำะห์สือ่ โฆษณำในกำรตัดสินใจ  กำรตัดสนิ ใจเลอื กซื้ออำหำรและ  เลือกซ้ืออำหำรและผลิตภณั ฑ์สขุ ภำพ ผลติ ภณั ฑส์ ุขภำพ (อำหำร อย่ำงมีเหตุผล เครือ่ งสำอำง ผลติ ภัณฑ์ดูแลสุขภำพ ในช่องปำก ฯลฯ) 19 พ 4.1 ป.5/4 ปฏบิ ตั ติ นในกำรป้องกนั โรคท่ีพบบ่อย  กำรปฏบิ ตั ติ นในกำรปอ้ งกันโรค  ในชวี ติ ประจำวนั ทพ่ี บบ่อยในชีวติ ประจำวัน - ไขห้ วดั - ไขเ้ ลือดออก - โรคผิวหนงั - ฟันผุและโรคปริทนั ต์ ฯลฯ สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๔ ชั้น ที่ รหสั ตวั ช้ีวัด ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.5 20 พ 4.1 ป.5/5 ทดสอบและปรับปรงุ สมรรถภำพ  กำรทดสอบสมรรถภำพ ทำงกำย  ทำงกำยตำมผลกำรทดสอบ  กำรปรับปรุงสมรรถภำพทำงกำย สมรรถภำพทำงกำย ตำมผลกำรทดสอบสมรรถภำพ ทำงกำย 21 พ 5.1 ป.5/1 วิเครำะห์ปจั จยั ที่มีอทิ ธิพล  ปจั จยั ที่มีอิทธิพลตอ่ กำรใช้สำรเสพติด  ตอ่ กำรใชส้ ำรเสพติด (สุรำ บุหร่ี ยำบ้ำ สำรระเหย ฯลฯ) - ครอบครัว สงั คม เพ่อื น - คำ่ นยิ ม ควำมเช่อื - ปญั หำสขุ ภำพ - สือ่ ฯลฯ 22 พ 5.1 ป.5/2 วเิ ครำะห์ผลกระทบของกำรใช้ยำ  ผลกระทบของกำรใช้ยำและสำรเสพติด  และสำรเสพติดท่ีมผี ลตอ่ ร่ำงกำย ทม่ี ตี อ่ ร่ำงกำย จติ ใจ อำรมณ์ สังคม จติ ใจ อำรมณ์ สังคม และสตปิ ัญญำ และสติปญั ญำ 23 พ 5.1 ป.5/3 ปฏิบัติตนเพือ่ ควำมปลอดภยั  กำรปฏบิ ตั ติ นเพื่อควำมปลอดภัย  จำกกำรใช้ยำและหลีกเล่ียง จำกกำรใชย้ ำ สำรเสพตดิ  กำรหลกี เล่ยี งสำรเสพตดิ 24 พ 5.1 ป.5/4 วเิ ครำะห์อิทธิพลของสือ่  อทิ ธิพลของส่ือที่มตี ่อพฤติกรรมสุขภำพ  ท่มี ีต่อพฤติกรรมสุขภำพ (อินเทอร์เน็ต เกม ฯลฯ) 25 พ 5.1 ป.5/5 ปฏบิ ัตติ นเพอ่ื ป้องกนั อนั ตรำย  กำรปฏิบตั เิ พ่ือป้องกนั อันตรำย  จำกกำรเล่นกีฬำ จำกกำรเลน่ กีฬำ รวม 25 ตวั ช้ีวดั 12 13 สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

ตวั ชวี้ ดั และสาระการเรยี นร้แู กนกลางต้องรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรูศ้ ลิ ปะ ๒๕ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ช้ัน ที่ รหสั ตัวชี้วดั ตัวช้ีวัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้  จงั หวะ ตำแหน่งของส่งิ ต่ำง ๆ  ป.๕ 1 ศ ๑.๑ ป.๕/๑ บรรยำยเก่ยี วกบั จังหวะ ตำแหนง่ ในสิง่ แวดล้อมและงำนทัศนศิลป์  ของสิ่งต่ำง ๆ ที่ปรำกฏในส่งิ แวดลอ้ ม  ควำมแตกต่ำงระหวำ่ งงำนทศั นศิลป์ และงำนทัศนศลิ ป์ 2 ศ ๑.๑ ป.๕/๒ เปรยี บเทียบควำมแตกต่ำงระหว่ำง งำนทัศนศลิ ป์ ที่สรำ้ งสรรค์ด้วยวสั ดุ อปุ กรณ์และวธิ ีกำรท่ีต่ำงกนั 3 ศ ๑.๑ ป.๕/๓ วำดภำพ โดยใช้เทคนคิ ของแสงเงำ  แสงเงำ น้ำหนัก และวรรณะสี  น้ำหนกั และวรรณะสี 4 ศ ๑.๑ ป.๕/๔ สรำ้ งสรรค์งำนปน้ั จำกดนิ นำ้ มัน  กำรสร้ำงงำนปัน้ เพ่ือถ่ำยทอดจนิ ตนำกำร  ดว้ ยกำรใชด้ ินน้ำมันหรือดนิ เหนียว หรอื ดนิ เหนียว โดยเน้นกำรถ่ำยทอด จินตนำกำร 5 ศ ๑.๑ ป.๕/๕ สรำ้ งสรรคง์ ำนพมิ พภ์ ำพ โดยเนน้  กำรจัดภำพในงำนพิมพภ์ ำพ  กำรจัดวำงตำแหน่งของสิ่งต่ำง ๆ ในภำพ 6 ศ ๑.๑ ป.๕/๖ ระบปุ ญั หำในกำรจดั องค์ประกอบศลิ ป์  กำรจดั องค์ประกอบศลิ ปแ์ ละ  กำรสอื่ ควำมหมำยในงำนทัศนศิลป์ และกำรสื่อควำมหมำยในงำนทศั นศลิ ป์ ของตนเอง และบอกวิธกี ำรปรบั ปรงุ งำน ให้ดขี น้ึ 7 ศ ๑.๑ ป.๕/๗ บรรยำยประโยชน์และคณุ คำ่  ประโยชนแ์ ละคุณค่ำของงำนทศั นศลิ ป์  ของงำนทศั นศลิ ปท์ ่ีมีผลต่อชีวิต ของคนในสงั คม 8 ศ ๑.๒ ป.๕/๑ ระบุ และบรรยำยเกีย่ วกบั  ลักษณะรูปแบบของงำนทัศนศิลป์  ลักษณะรูปแบบของงำนทศั นศิลป์ ในแหลง่ เรยี นรหู้ รอื นิทรรศกำรศลิ ปะ 9 ศ ๑.๒ ป.๕/๒ อภปิ รำยเกีย่ วกบั งำนทศั นศิลป์  งำนทัศนศิลป์ทีส่ ะทอ้ นวฒั นธรรม  และภูมิปญั ญำในท้องถนิ่ ทีส่ ะท้อนวฒั นธรรมและภมู ิปัญญำ ในท้องถิ่น 10 ศ 2.1 ป.5/1 ระบอุ งคป์ ระกอบดนตรีในเพลง  กำรสอื่ อำรมณ์ของบทเพลง  ท่ีใช้ในกำรสือ่ อำรมณ์ ดว้ ยองคป์ ระกอบดนตรี - จังหวะกับอำรมณ์ของบทเพลง - ทำนองกับอำรมณ์ของบทเพลง 11 ศ 2.1 ป.5/2 จำแนกลักษณะของเสียงขบั ร้องและ  ลกั ษณะของเสยี งนักร้องกลุ่มต่ำง ๆ  เครื่องดนตรีทอ่ี ยู่ในวงดนตรปี ระเภท ต่ำง ๆ  ลักษณะเสียงของวงดนตรีประเภทต่ำง ๆ 12 ศ 2.1 ป.5/3 อำ่ น เขียนโนต้ ดนตรีไทยและสำกล  เครือ่ งหมำยและสญั ลักษณ์ทำงดนตรี  ๕ ระดับเสยี ง บันไดเสียง ๕ เสียง Pentatonic scale โนต้ เพลงในบนั ไดเสียง ๕ เสียง Pentatonic scale สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๖ ช้นั ท่ี รหสั ตวั ชี้วดั ตัวชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.5 13 ศ 2.1 ป.5/4 ใชเ้ คร่อื งดนตรีบรรเลงจังหวะ  กำรบรรเลงเครื่องประกอบจังหวะ  และทำนอง  กำรบรรเลงเครื่องดำเนนิ ทำนอง 14 ศ 2.1 ป.5/5 รอ้ งเพลงไทยหรือเพลงสำกล  กำรร้องเพลงไทยในอัตรำจังหวะสองชน้ั  หรอื เพลงไทยสำกลทีเ่ หมำะสมกบั วยั  กำรร้องเพลงสำกล หรือไทยสำกล  กำรร้องเพลงประสำนเสยี งแบบ Canon Round 15 ศ 2.1 ป.5/6 ดน้ สดงำ่ ย ๆ โดยใชป้ ระโยคเพลงแบบ  กำรสร้ำงสรรคป์ ระโยคเพลงถำม - ตอบ  ถำม - ตอบ 16 ศ 2.1 ป.5/7 ใชด้ นตรรี ่วมกับกจิ กรรม  กำรบรรเลงดนตรปี ระกอบกิจกรรม  ในกำรแสดงออกตำมจินตนำกำร นำฏศลิ ป์  กำรสรำ้ งสรรค์เสียงประกอบกำรเล่ำเรื่อง 17 ศ 2.2 ป.5/1 อธบิ ำยควำมสมั พนั ธ์ระหวำ่ งดนตรี  ดนตรกี บั งำนประเพณี  กบั ประเพณใี นวัฒนธรรมต่ำง ๆ - บทเพลงในงำนประเพณใี นทอ้ งถน่ิ - บทบำทของดนตรีในแตล่ ะประเพณี 18 ศ 2.2 ป.5/2 อธบิ ำยคณุ คำ่ ของดนตรีทมี่ ำจำก  คณุ ค่ำของดนตรจี ำกแหล่งวฒั นธรรม  วฒั นธรรมท่ีต่ำงกัน - คณุ ค่ำทำงสงั คม - คุณคำ่ ทำงประวตั ศิ ำสตร์ 19 ศ 3.1 ป.5/1 บรรยำยองค์ประกอบนำฏศลิ ป์  องค์ประกอบของนำฏศลิ ป์  - จงั หวะ - ทำนอง - คำรอ้ ง - ภำษำท่ำ - นำฏยศพั ท์ - อุปกรณ์ 20 ศ 3.1 ป.5/2 แสดงท่ำทำงประกอบเพลง  กำรประดิษฐ์ทำ่ ทำงประกอบเพลง  หรอื เร่อื งรำวตำมควำมคดิ ของตน หรือทำ่ ทำงประกอบเร่ืองรำว 21 ศ 3.1 ป.5/3 แสดงนำฏศิลป์ โดยเน้นกำรใช้  กำรแสดงนำฏศลิ ป์  ภำษำท่ำและนำฏยศัพท์ในกำรส่ือ - ระบำ ควำมหมำยและกำรแสดงออก - ฟอ้ น - รำวงมำตรฐำน 22 ศ 3.1 ป.5/4 มสี ว่ นรว่ มในกลมุ่ กับกำรเขยี น  องค์ประกอบของละคร  เคำ้ โครงเรอื่ งหรอื บทละครสน้ั ๆ - กำรเลอื กและเขียนเค้ำโครงเร่ือง - บทละครสนั้ ๆ 23 ศ 3.1 ป.5/5 เปรียบเทยี บกำรแสดงนำฏศิลปช์ ดุ ตำ่ ง ๆ  ทม่ี ำของกำรแสดงนำฏศลิ ป์ชุดต่ำง ๆ  นำฏศลิ ป์ นำฏศิลป์พ้นื เมือง กำรละเล่น ของหลวง กำรแสดงโขน และละคร สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

ชน้ั ท่ี รหัสตัวช้ีวัด ตวั ชว้ี ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ๒๗ ต้องรู้ ควรรู้ ป.5 24 ศ 3.1 ป.5/6 บอกประโยชนท์ ีไ่ ด้รับจำก  หลกั กำรชมกำรแสดง  กำรถ่ำยทอดควำมรสู้ กึ และคณุ ค่ำ  กำรชมกำรแสดง ของกำรแสดงนำฏศิลป์ โขน ละคร  25 ศ 3.2 ป.5/1 เปรยี บเทียบกำรแสดงประเภทตำ่ ง ๆ  ของไทยในแตล่ ะทอ้ งถ่นิ  กำรแสดงนำฏศลิ ปป์ ระเภทตำ่ ง ๆ ๑3 ๑3 26 ศ 3.2 ป.5/2 ระบหุ รอื แสดงนำฏศลิ ป์ นำฏศลิ ป์ พืน้ บำ้ นทส่ี ะท้อนถึงวัฒนธรรม และประเพณี รวม ๒๖ ตวั ชว้ี ดั สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๘ ตัวชวี้ ดั และสาระการเรยี นรูแ้ กนกลางตอ้ งรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ การดารงชวี ิต ประกอบดว้ ย งานบา้ น งานเกษตร งานช่าง งานประดษิ ฐ์ งานธรุ กิจ และงานอ่นื ๆ แตไ่ มไ่ ด้กาหนดให้ จดั การเรียนรู้ครบท้ัง ๕ งาน เป็นการเปิดโอกาสให้เลือกตามความเหมาะสม ในที่นี้เปน็ เพียงตัวอยา่ งของงาน เท่าน้ัน ช้ัน ท่ี รหสั ตวั ช้ีวัด ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.๕ ๑ ง ๑.๑ ป.๕/๑ อธบิ ายเหตผุ ลในการทางาน  ทกั ษะการจดั การโดยทางานตามขัน้ ตอน  แต่ละขน้ั ตอนถูกต้อง อย่างเป็นระบบ เป็นเหตุเป็นผล สรา้ งสรรค์ ตามกระบวนการทางาน ประณตี และมีจติ สานกึ ในการใช้พลงั งาน 2 ง ๑.๑ ป.๕/๒ ใชท้ ักษะการจดั การในการทางาน และทรัพยากรอยา่ งประหยดั และคุ้มคา่  อย่างเปน็ ระบบ ประณตี เพ่ือให้ทางานสาเรจ็ ตามเปา้ หมายอยา่ งมี และมคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ ประสิทธภิ าพ โดยฝึกปฏบิ ัติผา่ นงาน เช่น 3 ง ๑.๑ ป.๕/๓ ปฏิบัตติ นอย่างมีมารยาท - ซอ่ มแซม ซัก ตาก เก็บ รดี พบั เสอ้ื ผ้า  ในการทางานกบั สมาชิก - วางแผนการจัดจาหน่ายผลผลติ ในครอบครวั ทางการเกษตร หรืองานประดษิ ฐ์ 4 ง ๑.๑ ป.๕/๔ มจี ิตสานึกในการใช้พลังงาน - จดั เกบ็ ขอ้ มลู รายรบั -รายจ่าย  และทรัพยากรอย่างประหยดั และทาบัญชีครวั เรือน และคุ้มค่า - ออกแบบผลิตภณั ฑ์จากวัสดุเหลือใช้ ที่มีอยู่ในทอ้ งถนิ่  การทางานกับสมาชกิ ในครอบครวั อยา่ งมี มารยาท เช่น การพดู จาสุภาพ การใชข้ อง รว่ มกัน การแบง่ ปนั 5 ง 2.๑ ป.๕/๑ สารวจข้อมูลท่ีเกี่ยวกับอาชีพต่าง ๆ  สารวจข้อมลู และระบคุ วามแตกต่างของ  ในชมุ ชน อาชพี ในชุมชนในเร่ือง ลักษณะงาน ประเภทกิจการ คา่ ตอบแทน เชน่  6 ง 2.๑ ป.๕/๒ ระบุความแตกตา่ งของอาชีพ - คา้ ขาย - เกษตรกรรม - รบั จา้ ง - รบั ราชการ พนักงานของรัฐ รวม 6 ตัวชวี้ ัด 33 ยกเลกิ มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ช้วี ดั สาระที่ 2 และสาระที่ 3 คงเหลอื 2 สาระ คอื สาระท่ี 1 การดาเนนิ ชีวติ และครอบครวั และสาระท่ี 4 การอาชีพ และเปลี่ยนชอ่ื สาระท่ี 4 การอาชีพ เป็นสาระที่ 2 การอาชีพ ตามคาสั่ง สพฐ. ที่ 921/2561 ลงวนั ที่ 3 พฤษภาคม 2561 สาหรบั การจัดการเรยี นรู้ ปกี ารศกึ ษา 2564 ภายใตส้ ถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)

ตัวชว้ี ดั และสาระการเรียนรูแ้ กนกลางตอ้ งรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) ๒๙ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ชัน้ ที่ รหัสตัวชี้วัด ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.5 1 ต 1.1 ป.5/1 ปฏบิ ัติตำมคำส่ัง คำขอร้อง และ  คำสงั่ และคำขอร้องท่ีใชใ้ นหอ้ งเรียน ภำษำทำ่ ทำง  คำแนะนำง่ำย ๆ ที่ฟงั และอำ่ น และคำแนะนำในกำรเลน่ เกม กำรวำดภำพ หรอื กำรทำอำหำรและเครื่องดื่ม - คำสั่ง เชน่ Look at the…/here/over there./Say it again./Read and draw./ Put a/an…in/on/under a/an…/ Don’t go over there. etc. - คำขอรอ้ ง เช่น Please take a queue./ Take a queue, please./ Can/Could you help me, please? etc. - คำแนะนำ เช่น You should read everyday./Think before you speak./ - คำศพั ทท์ ี่ใช้ในกำรเล่นเกม Start./ My turn./Your turn./Roll the dice./ Count the number./Finish./ - คำบอกลำดับขนั้ ตอน First,... Second,… Next,…Then,… Finally,... etc. 2 ต 1.1 ป.5/2 อำ่ นออกเสยี งประโยค ข้อควำม  ประโยค ข้อควำม และบทกลอน  และบทกลอนสนั้ ๆ ถกู ต้อง  กำรใช้พจนำนุกรม ตำมหลกั กำรอ่ำน  หลกั กำรอำ่ นออกเสียง เช่น - กำรออกเสยี งพยญั ชนะตน้ คำและพยญั ชนะ ท้ำยคำ - กำรออกเสียงเนน้ หนกั -เบำในคำและกล่มุ คำ - กำรออกเสยี งตำมระดบั เสียงสูง-ตำ่ ในประโยค - กำรออกเสยี งเชือ่ มโยง (linking sound) ในข้อควำม - กำรออกเสยี งบทกลอนตำมจังหวะ 3 ต 1.1 ป.5/3 ระบุ/วำดภำพ สัญลักษณ์ หรือ  กลมุ่ คำ ประโยคผสม ข้อควำม สัญลกั ษณ์  เคร่ืองหมำยตรงตำมควำมหมำย เคร่ืองหมำย และควำมหมำยเกยี่ วกับตนเอง ของประโยคและข้อควำมส้ัน ๆ ครอบครัว โรงเรียน ส่ิงแวดล้อม อำหำร ทฟี่ ังหรืออ่ำน เคร่ืองด่ืม เวลำวำ่ งและนันทนำกำร สขุ ภำพ และสวสั ดิกำร กำรซ้ือ-ขำย และลมฟำ้ อำกำศ เปน็ วงคำศัพท์สะสมประมำณ ๗๕๐ - ๙๕๐ คำ (คำศัพท์ทเี่ ป็นรูปธรรมและนำมธรรม) สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๐ ชน้ั ที่ รหสั ตัวชี้วัด ตัวชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.5 4 ต 1.1 ป.5/4 บอกใจควำมสำคญั และตอบคำถำม  ประโยค บทสนทนำ นิทำน หรือเร่อื งสั้น ๆ  จำกกำรฟงั และอำ่ นบทสนทนำ คำถำมเกี่ยวกับใจควำมสำคญั ของเรื่อง เช่น และนทิ ำนง่ำย ๆหรือเรื่องส้นั ๆ ใคร ทำอะไร ท่ีไหน เมื่อไร - Yes/No Question เช่น Is/Are/Can…? Yes,…is/are/can./ No,…isn’t/aren’t/can’t. Do/Does/Can/Is/Are...? Yes/No… etc. - Wh-Question เชน่ Who is/are…? He/She is…/They are… What…?/Where…? It is …/They are… What...doing? ...is/am/are… etc. - Or-Question เชน่ Is this/it a/an...or a/an…? It is a/an… etc. 5 ต 1.2 ป.5/1 พูด/เขยี นโตต้ อบในกำรสอ่ื สำร  บทสนทนำท่ีใชใ้ นกำรทักทำย กลำ่ วลำ ขอบคุณ  ระหว่ำงบุคคล ขอโทษ ชมเชย กำรพดู แทรกอยำ่ งสุภำพ ประโยค/ข้อควำมทใี่ ช้แนะนำตนเอง เพ่ือน และบุคคลใกล้ตัว และสำนวนกำรตอบรับ เช่น Hi/Hello/Good morning /Good afternoon/Good evening/I am sorry./ How are you?/I’m fine. Thank you. And you?/ Hello. I am…/ Hello,…I am… This is my sister. Her name is… / Hello,…/Nice to see you. Nice to see you too./Goodbye./Bye./See you soon/later./Good/Very good./Thanks./ Thank you./Thank you very much./ You’re welcome./It’s O.K. etc. 6 ต 1.2 ป.5/2 ใช้คำสงั่ คำขอรอ้ ง คำขออนุญำต  คำสั่ง คำขอรอ้ ง คำขออนุญำต คำแนะนำ  และใหค้ ำแนะนำง่ำย ๆ ทีม่ ี ๑ - ๒ ข้ันตอน 7 ต 1.2 ป.5/3 พูด/เขียนแสดงควำมต้องกำร  คำศพั ท์ สำนวนภำษำ และประโยคท่ใี ชบ้ อก  ขอควำมชว่ ยเหลือ ตอบรบั และ ควำมต้องกำร ขอควำมชว่ ยเหลือ ตอบรบั และ ปฏเิ สธกำรให้ควำมชว่ ยเหลือ ปฏเิ สธกำรให้ควำมชว่ ยเหลือ เชน่ Please…/ ในสถำนกำรณง์ ำ่ ย ๆ May…?/I need…/Help me!/Can/Could…?/ Yes,.../No,… etc. สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๑ ชน้ั ท่ี รหสั ตวั ชี้วัด ตัวชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.5 8 ต 1.2 ป.5/4 พดู /เขยี นเพอื่ ขอและให้ขอ้ มูล  คำศพั ท์ สำนวนภำษำ และประโยคที่ใชข้ อ  เก่ยี วกบั ตนเอง เพ่ือน ครอบครัว และให้ข้อมลู เกยี่ วกบั ตนเอง เพอื่ น ครอบครวั และเร่อื งใกล้ตวั และเร่ืองใกล้ตวั เช่น What do you do? I’m a/an… What is she/he? She/He is a/an (อำชีพ) How old/tall…? I am… Is/Are/Can…or…? …is/are/can… Is/Are…going to…or…? …is/are going to… etc. 9 ต 1.2 ป.5/5 พูด/เขยี นแสดงควำมรู้สกึ ของตนเอง  คำและประโยคทใ่ี ชแ้ สดงควำมร้สู ึกและกำรให้  เกยี่ วกบั เรอื่ งตำ่ ง ๆ ใกลต้ ัว เหตุผล เชน่ ชอบ ไมช่ อบ ดีใจ เสยี ใจ มีควำมสุข และกจิ กรรมต่ำง ๆ พรอ้ มทัง้ เศรำ้ หิว รสชำติ เช่น ใหเ้ หตุผลสัน้ ๆ ประกอบ I’m…/He/She/It is…/You/We/They are… I/You/We/They like…/He /She likes… because… I/You/We/They love…/He /She loves… because… I/You/We/They don’t like/love/feel… because… He /She doesn’t like/love/feel… because… I/You/We/They feel…because… etc. 10 ต 1.3 ป.5/1 พดู /เขยี นให้ข้อมลู เกี่ยวกับตนเอง  ประโยคและข้อควำมท่ีใช้ในกำรให้ข้อมูล  และเรอื่ งใกลต้ ัว เก่ยี วกบั บุคคล สัตว์ สถำนที่ และกจิ กรรมต่ำง ๆ เช่น ข้อมูลส่วนบคุ คล เรอื่ งต่ำง ๆ ใกล้ตัว จำนวน ๑ - ๕๐๐ ลำดบั ที่ วนั เดอื น ปี ฤดกู ำล เวลำ สภำพดนิ ฟำ้ อำกำศ อำรมณ์ ควำมรูส้ ึก สี ขนำด รปู ทรง ตำแหน่งของส่งิ ต่ำง ๆ  เครอ่ื งหมำยวรรคตอน 11 ต 1.3 ป.5/2 เขยี นภำพ แผนผงั และแผนภมู ิ  คำ กล่มุ คำ ประโยคทแ่ี สดงขอ้ มูล  แสดงขอ้ มูลต่ำง ๆ ตำมท่ฟี ัง และควำมหมำยของเรอื่ งต่ำง ๆ หรอื อำ่ น ภำพ แผนผงั แผนภูมิ ตำรำง 12 ต 1.3 ป.5/3 พูดแสดงควำมคิดเห็นเก่ยี วกับ  ประโยคทใี่ ช้ในกำรพดู แสดงควำมคิดเห็น  เรือ่ งตำ่ ง ๆ ใกลต้ วั เกี่ยวกบั กจิ กรรมหรือเรื่องตำ่ ง ๆ ใกลต้ วั สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๒ ช้นั ที่ รหัสตัวชี้วดั ตัวช้วี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.5 13 ต 2.1 ป.5/1 ใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง และกริ ิยำท่ำทำง  กำรใชถ้ ้อยคำ น้ำเสยี ง และกริ ิยำท่ำทำง  อยำ่ งสภุ ำพตำมมำรยำทสังคม ตำมมำรยำทสังคมและวฒั นธรรมของเจ้ำของ และวฒั นธรรมของเจ้ำของภำษำ ภำษำ เชน่ กำรขอบคุณ ขอโทษ กำรใชส้ ีหนำ้ ท่ำทำงประกอบกำรพูดขณะแนะนำตนเอง กำรสัมผสั มอื กำรโบกมือ กำรแสดงควำมรูส้ กึ ชอบ/ไมช่ อบ กำรกล่ำวอวยพร กำรแสดงอำกำร ตอบรบั หรอื ปฏเิ สธ 14 ต 2.1 ป.5/2 ตอบคำถำม/บอกควำมสำคญั  ข้อมูลและควำมสำคัญของเทศกำล/วันสำคัญ/  ของเทศกำล/วันสำคัญ/งำนฉลอง งำนฉลองและชีวติ ควำมเป็นอยขู่ องเจ้ำของภำษำ และชีวิตควำมเปน็ อยู่งำ่ ย ๆ เช่น วนั คริสตม์ ำส วนั ข้ึนปใี หม่ เครอ่ื งแตง่ กำย ของเจ้ำของภำษำ ฤดกู ำล อำหำร เคร่ืองด่ืม 15 ต 2.1 ป.5/3 เขำ้ รว่ มกจิ กรรมทำงภำษำ  กิจกรรมทำงภำษำและวัฒนธรรม เชน่  และวัฒนธรรมตำมควำมสนใจ กำรเล่นเกม กำรรอ้ งเพลง กำรเล่ำนิทำน วันขอบคุณพระเจำ้ วนั ครสิ ต์มำส วนั ขึ้นปีใหม่ 16 ต 2.2 ป.5/1 บอกควำมเหมือน/ควำมแตกตำ่ ง  ควำมเหมือน/ควำมแตกต่ำงระหว่ำง  ระหว่ำงกำรออกเสียงประโยค กำรออกเสียงประโยคชนิดต่ำง ๆ ชนดิ ต่ำง ๆ กำรใชเ้ คร่ืองหมำย ของภำษำต่ำงประเทศและภำษำไทย วรรคตอน และกำรลำดับคำ  กำรใช้เคร่ืองหมำยวรรคตอนและกำรลำดับคำ (order) ตำมโครงสรำ้ งประโยค ตำมโครงสร้ำงประโยคของภำษำตำ่ งประเทศ ของภำษำตำ่ งประเทศ และภำษำไทย และภำษำไทย 17 ต 2.2 ป.5/2 บอกควำมเหมือน/ควำมแตกตำ่ ง  ควำมเหมือน/ควำมแตกตำ่ งระหว่ำงเทศกำล  ระหวำ่ งเทศกำลและงำนฉลอง และงำนฉลองของเจ้ำของภำษำกบั ของไทย ของเจำ้ ของภำษำกบั ของไทย 18 ต 3.1 ป.5/1 ค้นคว้ำ รวบรวมคำศัพทท์ ่ีเกี่ยวข้อง  กำรค้นควำ้ กำรรวบรวม และกำรนำเสนอ  กับกล่มุ สำระกำรเรยี นรู้อน่ื คำศัพทท์ ่เี กยี่ วข้องกบั กล่มุ สำระกำรเรียนรู้อน่ื และนำเสนอด้วยกำรพูด/กำรเขยี น 19 ต 4.1 ป.5/1 ฟงั พดู และอ่ำน/เขียน  กำรใชภ้ ำษำในกำรฟัง พูด และอ่ำน/เขยี น  ในสถำนกำรณ์ต่ำง ๆ ทเ่ี กดิ ข้ึน ในสถำนกำรณต์ ำ่ ง ๆ ท่ีเกิดขึ้นในหอ้ งเรยี น ในห้องเรยี นและสถำนศึกษำ และสถำนศกึ ษำ 20 ต 4.2 ป.5/1 ใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรสืบคน้  กำรใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรสบื ค้น  และรวบรวมขอ้ มลู ตำ่ ง ๆ และกำรรวบรวมข้อมูลต่ำง ๆ รวม 20 ตัวชี้วดั 19 1 สำหรบั กำรจัดกำรเรียนรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)