Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางต้องรู้และควรรู้ ภายใต้สถานการณ์ Covid-19 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางต้องรู้และควรรู้ ภายใต้สถานการณ์ Covid-19 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

Description: ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางต้องรู้และควรรู้ ภายใต้สถานการณ์ Covid-19 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

Search

Read the Text Version

ตัวชี้วดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลางต้องรแู้ ละควรรู้ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ สาหรบั การจัดการเรยี นรู้ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔ ภายใตส้ ถานการณแ์ พร่ระบาดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ โรงเรยี นวัดสายลาโพงใต้ สานกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต ๓

สารบัญ หนา้ สรปุ ตัวชว้ี ดั และสาระการเรียนรแู้ กนกลางต้องรแู้ ละควรรู้ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4 1 ภาษาไทย 2 คณติ ศาสตร์ 5 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 8 สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม 14 สุขศกึ ษาและพลศึกษา 21 ศลิ ปะ 23 การงานอาชพี 26 ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) 27

สรปุ ตัวชี้วัดและสาระการเรยี นรูแ้ กนกลางต้องรู้และควรรู้ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 4 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) กลุม่ สาระการเรียนรู้ ตวั ช้วี ัด ตอ้ งรู้ ควรรู้ หมายเหตุ ท้ังหมด ภาษาไทย คณิตศาสตร์ 33 26 7 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 22 15 7 สขุ ศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ 21 16 6 ว 2.1 ป.4/1 เป็นทัง้ ตอ้ งร้แู ละควรรู้ การงานอาชพี ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) 38 14 24 19 13 6 29 15 14 5 23 20 17 3

๒ ตวั ชีว้ ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลางตอ้ งรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ชน้ั ที่ รหสั ตวั ช้ีวดั ตัวชี้วดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.๔ 1 ท ๑.๑ ป.๔/๑ ๑. อ่ำนออกเสยี งบทร้อยแก้วและ  กำรอำ่ นออกเสียงร้อยแก้ว  บทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกตอ้ ง และกำรบอกควำมหมำย 2 ท ๑.๑ ป.๔/๒ ๒. อธบิ ำยควำมหมำยของคำ ประโยค ของถอ้ ยคำ สำนวน ทีป่ ระกอบด้วย  และสำนวนจำกเรอ่ื งที่อ่ำน - คำทม่ี ี ร ล เปน็ พยญั ชนะต้น - คำทมี่ ีพยัญชนะควบกล้ำ - คำทมี่ ีอักษรนำ - คำทีม่ ตี ัวกำรนั ต์ - สำนวนไทย  กำรอ่ำนทำนองเสนำะบทรอ้ ยกรอง 3 ท ๑.๑ ป.๔/๓ อ่ำนเร่ืองส้นั ๆ ตำมเวลำท่ีกำหนดและ  กำรอ่ำนจับใจควำมจำกสอ่ื ตำ่ ง ๆ  ตอบคำถำมจำกเรือ่ งที่อำ่ น เชน่ 4 ท ๑.๑ ป.๔/๔ แยกข้อเทจ็ จริงและข้อคิดเห็น - ป้ำยโฆษณำ  จำกเร่อื งที่อ่ำน - โอวำท 5 ท ๑.๑ ป.๔/๕ คำดคะเนเหตุกำรณจ์ ำกเร่ืองที่อ่ำน - วรรณคดีและวรรณกรรม  โดยระบุเหตุผลประกอบ ในหนังสอื เรียน 6 ท ๑.๑ ป.๔/๖ สรุปควำมร้แู ละข้อคิดจำกเรื่องทอี่ ำ่ น - บทเรียนจำกกลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้  อ่นื ๆ เพอ่ื นำไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั 7 ท ๑.๑ ป.๔/๗ อำ่ นหนังสอื ท่ีมีคุณค่ำตำมควำมสนใจ  กำรอำ่ นหนงั สือตำมควำมสนใจ เช่น  อย่ำงสม่ำเสมอและแสดงควำมคิดเหน็ - หนงั สอื ทนี่ ักเรยี นสนใจ เก่ียวกบั เรือ่ งทีอ่ ่ำน และเหมำะสมกับวัย - หนังสือทีค่ รแู ละนักเรยี นกำหนด รว่ มกัน 8 ท ๑.๑ ป.๔/๘ มีมำรยำทในกำรอ่ำน  มำรยำทในกำรอำ่ น  9 ท ๒.๑ ป.๔/๑ คัดลำยมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทัด  กำรคดั ลำยมือตัวบรรจงเตม็ บรรทดั  และครงึ่ บรรทัด และครึง่ บรรทัด ตำมรปู แบบกำรเขยี นตวั อักษรไทย 10 ท ๒.๑ ป.๔/๒ เขียนส่ือสำรโดยใช้คำไดถ้ ูกต้องชดั เจน  กำรเขยี นสอ่ื สำร เชน่  และเหมำะสม - คำขวญั - คำแนะนำ - ประกำศไมเ่ ป็นทำงกำร - กำรเขยี นอธิบำย 11 ท ๒.๑ ป.๔/๓ เขยี นแผนภำพโครงเร่ืองและแผนภำพ  กำรนำแผนภำพโครงเร่ืองและ  ควำมคิดเพ่ือใช้พฒั นำงำนเขยี น แผนภำพควำมคิดไปพฒั นำ งำนเขยี น สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓ ชน้ั ที่ รหสั ตัวชี้วดั ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.4 12 ท ๒.๑ ป.๔/๔ เขียนยอ่ ควำมจำกเรื่องสน้ั ๆ  กำรเขียนย่อควำมจำกวรรณคดี  และวรรณกรรมในหนงั สือเรียน หรือส่ือตำ่ ง ๆ 13 ท ๒.๑ ป.๔/๕ เขียนจดหมำยถึงเพ่ือนและบิดำมำรดำ  กำรเขยี นจดหมำยถงึ เพื่อนและบิดำ  มำรดำ 14 ท ๒.๑ ป.๔/๖ เขียนบันทกึ และเขยี นรำยงำน  กำรเขยี นบนั ทึกและเขยี นรำยงำน  จำกกำรศึกษำคน้ คว้ำ จำกกำรศึกษำคน้ คว้ำ 15 ท ๒.๑ ป.๔/๗ เขยี นเร่อื งตำมจินตนำกำร  กำรเขียนเร่ืองตำมจนิ ตนำกำร  16 ท ๒.๑ ป.๔/๘ มมี ำรยำทในกำรเขียน  มำรยำทในกำรเขียน  17 ท ๓.๑ ป.๔/๑ จำแนกข้อเท็จจรงิ และข้อคิดเห็นจำก  กำรจบั ใจควำม และกำรพูดแสดง  เรือ่ งท่ีฟังและดู ควำมคิดเหน็ จำกเรือ่ งท่ีฟังและดู 18 ท ๓.๑ ป.๔/๒ พดู สรุปควำมจำกกำรฟังและดู  ในชวี ติ ประจำวัน เช่น 19 ท ๓.๑ ป.๔/๓ พดู แสดงควำมรู้ ควำมคิดเห็น  - เรือ่ งเลำ่ และควำมรูส้ กึ เกี่ยวกบั เรื่องท่ีฟังและดู - เพลง 20 ท ๓.๑ ป.๔/๔ ตง้ั คำถำมและตอบคำถำม  เชิงเหตผุ ลจำกเรอ่ื งที่ฟังและดู 21 ท ๓.๑ ป.๔/๕ รำยงำนเร่อื งหรือประเดน็ ท่ีศึกษำ  กำรรำยงำน เชน่  ค้นควำ้ จำกกำรฟงั กำรดู - กำรพูดลำดับข้ันตอนกำรปฏบิ ตั งิ ำน และกำรสนทนำ - กำรพดู ลำดบั เหตุกำรณ์ 22 ท ๓.๑ ป.๔/๖ มีมำรยำทในกำรฟัง กำรดู และกำรพูด  มำรยำทในกำรฟัง กำรดู  และกำรพูด 23 ท ๔.๑ ป.๔/๑ สะกดคำและบอกควำมหมำยของคำ  ทบทวนสำระกำรเรียนร้หู ลกั กำรใช้  ในบริบทต่ำง ๆ ภำษำไทย ชั้น ป.1 - 3  คำเป็นคำตำย 24 ท ๔.๑ ป.๔/๒ ระบุชนดิ และหนำ้ ทขี่ องคำในประโยค  ชนดิ และหนำ้ ที่ของคำ  - คำนำม - คำสรรพนำม - คำกริยำ 25 ท ๔.๑ ป.๔/๓ ใช้พจนำนุกรมค้นหำควำมหมำยของคำ  กำรใช้พจนำนุกรม  26 ท ๔.๑ ป.๔/๔ แต่งประโยคได้ถูกต้องตำมหลักภำษำ  ประโยคสำมญั  27 ท ๔.๑ ป.๔/๕ แตง่ บทร้อยกรองและคำขวัญ  คำคล้องจอง   กำรแตง่ กลอนส่ี  คำขวญั สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๔ ชนั้ ที่ รหสั ตัวช้ีวดั ตวั ช้วี ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้  ป.4 28 ท ๔.๑ ป.๔/๖ บอกควำมหมำยของสำนวน  สำนวนไทย  29 ท ๔.๑ ป.๔/๗ เปรียบเทียบภำษำไทยมำตรฐำน  กำรเปรยี บเทียบภำษำไทย  มำตรฐำนกบั ภำษำถิ่น กับภำษำถ่ินได้   วรรณคดแี ละวรรณกรรม เชน่ 30 ท ๕.๑ ป.๔/๑ ระบุข้อคิดจำกนิทำนพนื้ บ้ำน - นิทำนพน้ื บ้ำนในท้องถ่นิ ตนเอง  หรือนิทำนคติธรรม  หรอื นิทำนคติธรรม - เพลงพื้นบ้ำน - หนังสอื อ่ำนนอกเวลำ 26 7 31 ท ๕.๑ ป.๔/๒ อธิบำยขอ้ คิดจำกกำรอ่ำน - บทอำขยำน - วรรณคดแี ละวรรณกรรม เพอ่ื นำไปใชใ้ นชวี ติ จริง ในบทเรียน 32 ท ๕.๑ ป.๔/๓ รอ้ งเพลงพืน้ บำ้ น 33 ท ๕.๑ ป.๔/๔ ท่องจำบทอำขยำนตำมทีก่ ำหนด และบทร้อยกรองที่มคี ุณค่ำ ตำมควำมสนใจ รวม ๓๓ ตัวชี้วัด สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

ตัวช้ีวดั และสาระการเรยี นรูแ้ กนกลางต้องรู้และควรรู้ ๕ กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ชน้ั ที่ รหสั ตัวช้ีวดั ตัวช้วี ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.๔ 1 ค 1.1 ป.4/1 อำ่ นและเขียนตัวเลขฮนิ ดูอำรบิก จานวนนบั ท่มี ากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐  2 ค 1.1 ป.4/2 ตวั เลขไทย และตัวหนงั สอื แสดง - กำรอำ่ น กำรเขยี นตัวเลขฮินดอู ำรบกิ 3 ค 1.1 ป.4/3 4 ค 1.1 ป.4/4 จำนวนนับทีม่ ำกกวำ่ ๑๐๐,๐๐๐ ตวั เลขไทย และตัวหนงั สอื แสดงจำนวน 5 ค 1.1 ป.4/5 เปรียบเทียบและเรยี งลำดับ - หลกั คำ่ ประจำหลักและคำ่ ของเลขโดด  6 ค 1.1 ป.4/6 จำนวนนบั ทม่ี ำกกวำ่ ๑๐๐,๐๐๐ ในแต่ละหลัก และกำรเขียนตัวเลขแสดง 7 ค 1.1 ป.4/7 จำนวนในรูปกระจำย 8 ค 1.1 ป.4/8 จำกสถำนกำรณ์ต่ำง ๆ - กำรเปรียบเทียบและเรียงลำดับจำนวน - ค่ำประมำณของจำนวนนบั และกำรใช้ เครือ่ งหมำย ≈ บอก อำ่ น และเขยี นเศษส่วน เศษส่วน  จำนวนคละแสดงปริมำณส่ิงต่ำง ๆ - เศษสว่ นแท้ เศษเกนิ และแสดงสงิ่ ต่ำง ๆ ตำมเศษส่วน - จำนวนคละ จำนวนคละท่กี ำหนด - ควำมสัมพนั ธร์ ะหว่ำงจำนวนคละและ เปรยี บเทียบ เรยี งลำดับเศษส่วน เศษเกิน  และจำนวนคละทีต่ วั ส่วนตวั หนงึ่ - เศษส่วนที่เทำ่ กนั เศษส่วนอย่ำงต่ำและ เป็นพหคุ ูณของอีกตวั หน่งึ เศษส่วนทเ่ี ท่ำกบั จำนวนนบั - กำรเปรยี บเทยี บ เรยี งลำดบั เศษสว่ น และจำนวนคละ อำ่ นและเขยี นทศนิยมไมเ่ กนิ ทศนยิ ม  ๓ ตำแหน่ง แสดงปรมิ ำณของ - กำรอ่ำนและกำรเขียนทศนิยมไม่เกนิ สิง่ ต่ำง ๆ และแสดงสิง่ ต่ำง ๆ ๓ ตำแหนง่ ตำมปรมิ ำณท่กี ำหนด ตำมทศนิยมท่กี ำหนด - หลกั คำ่ ประจำหลกั คำ่ ของเลขโดด เปรียบเทยี บและเรียงลำดบั ในแตล่ ะหลกั ของทศนยิ ม และกำรเขยี น  ทศนยิ มไม่เกนิ ๓ ตำแหน่ง ตัวเลขแสดงทศนยิ มในรปู กระจำย จำกสถำนกำรณ์ต่ำง ๆ - ทศนยิ มทเ่ี ท่ำกัน - กำรเปรียบเทยี บและเรยี งลำดบั ทศนยิ ม ประมำณผลลัพธข์ องกำรบวก การบวก การลบ การคณู การหาร  กำรลบ กำรคูณ กำรหำร จานวนนับทมี่ ากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ จำกสถำนกำรณต์ ่ำง ๆ - กำรประมำณผลลัพธข์ องกำรบวก อยำ่ งสมเหตสุ มผล กำรลบ กำรคูณ กำรหำร หำคำ่ ของตวั ไม่ทรำบค่ำ - กำรบวกและกำรลบ  ในประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดง - กำรคูณและกำรหำร กำรบวกและประโยคสัญลักษณ์ - กำรบวก ลบ คณู หำรระคน แสดงกำรลบของจำนวนนบั - กำรแกโ้ จทยป์ ญั หำและกำรสร้ำงโจทย์ ท่ีมำกกวำ่ ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ ปัญหำ พร้อมทัง้ หำคำตอบ สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19) โดย สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำข้นั พื้นฐำน รว่ มกบั สถำบนั ส่งเสรมิ กำรสอนวิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี

๖ ชนั้ ท่ี รหสั ตวั ชี้วดั ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้  ป.๔ 9 ค 1.1 ป.4/9 หำค่ำของตวั ไม่ทรำบค่ำ  ในประโยคสัญลกั ษณ์ แสดง   กำรคณู ของจำนวนหลำยหลัก  ๒ จำนวน ที่มผี ลคูณไม่เกิน   ๖ หลกั และประโยคสัญลกั ษณ์   แสดงกำรหำรท่ตี ัวตง้ั ไม่เกนิ  ๖ หลกั ตวั หำรไม่เกิน ๒ หลัก 10 ค 1.1 ป.4/10 หำผลลพั ธก์ ำรบวก ลบ คณู หำรระคนของจำนวนนับ และ ๐ 11 ค 1.1 ป.4/11 แสดงวธิ หี ำคำตอบของโจทย์ปญั หำ ๒ ขน้ั ตอนของจำนวนนบั ทม่ี ำกกว่ำ ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ 12 ค 1.1 ป.4/12 สร้ำงโจทย์ปัญหำ ๒ ข้นั ตอน ของจำนวนนับและ ๐ พรอ้ มทง้ั หำคำตอบ 13 ค 1.1 ป.4/13 หำผลบวก ผลลบของเศษส่วน การบวก การลบเศษส่วน และจำนวนคละที่ตัวส่วนตัวหน่ึง - กำรบวก กำรลบเศษส่วนและจำนวนคละ เป็นพหุคณู ของอีกตวั หนง่ึ - กำรแก้โจทยป์ ญั หำกำรบวกและโจทย์ 14 ค 1.1 ป.4/14 แสดงวธิ ีหำคำตอบของโจทยป์ ัญหำ ปัญหำกำรลบเศษส่วนและจำนวนคละ กำรบวกและโจทย์ปัญหำกำรลบ เศษสว่ นและจำนวนคละที่ตัวส่วน ตวั หน่ึงเป็นพหคุ ูณของอีกตวั หนึ่ง 15 ค 1.1 ป.4/15 หำผลบวก ผลลบของทศนิยม การบวก การลบทศนิยม ไม่เกนิ ๓ ตำแหน่ง - กำรบวก กำรลบทศนยิ ม 16 ค 1.1 ป.4/16 แสดงวธิ หี ำคำตอบของโจทยป์ ัญหำ - กำรแก้โจทยป์ ญั หำกำรบวก กำรลบ กำรบวก กำรลบ ๒ ข้นั ตอนของ ทศนิยมไม่เกิน ๒ ขั้นตอน ทศนิยมไม่เกนิ ๓ ตำแหน่ง 17 ค 2.1 ป.4/1 แสดงวิธหี ำคำตอบของโจทยป์ ัญหำ เวลา เก่ียวกับเวลำ - กำรบอกระยะเวลำเปน็ วินำที นำที ช่วั โมงวนั สปั ดำห์เดือน ปี - กำรเปรียบเทียบระยะเวลำ โดยใช้ ควำมสมั พนั ธร์ ะหวำ่ งหน่วยเวลำ - กำรอ่ำนตำรำงเวลำ - กำรแกโ้ จทยป์ ญั หำเกยี่ วกับเวลำ 18 ค 2.1 ป.4/2 วดั และสร้ำงมุม โดยใชโ้ พรแทรกเตอร์ การวัดและสรา้ งมุม - กำรวัดขนำดของมุมโดยใชโ้ พรแทรกเตอร์ - กำรสร้ำงมุมเม่ือกำหนดขนำดของมุม สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19) โดย สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขนั้ พืน้ ฐำน ร่วมกบั สถำบนั ส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี

๗ ชน้ั ที่ รหสั ตัวชี้วัด ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.๔ 19 ค 2.1 ป.4/3 แสดงวิธหี ำคำตอบของโจทยป์ ัญหำ  เกยี่ วกับควำมยำวรอบรปู และ รปู สีเ่ หลย่ี มมุมฉาก  20 ค 2.2 ป.4/1 พ้ืนทขี่ องรูปส่เี หลย่ี มมุมฉำก 7 21 ค 2.2 ป.4/2 - ควำมยำวรอบรูปของรูปสเ่ี หลย่ี มมุมฉำก จำแนกชนิดของมุม บอกชื่อมุม 22 ค 3.1 ป.4/1 ส่วนประกอบของมุมและเขียน - พื้นทขี่ องรูปสเี่ หลีย่ มมมุ ฉำก สญั ลกั ษณ์แสดงมมุ สร้ำงรูปส่ีเหลีย่ มมมุ ฉำก - กำรแก้โจทย์ปญั หำเกีย่ วกับควำมยำว เมอ่ื กำหนดควำมยำวของด้ำน รอบรูป และพน้ื ทข่ี องรปู สีเ่ หลีย่ มมุมฉำก ใช้ขอ้ มูลจำกแผนภูมิแท่ง ตำรำงสองทำงในกำรหำคำตอบ รปู เรขาคณิต  ของโจทย์ปญั หำ - ระนำบ จุด เสน้ ตรง รังสี ส่วนของเสน้ ตรง รวม 22 ตวั ช้ีวดั และสัญลักษณ์แสดงเสน้ ตรง รงั สสี ่วน ของเสน้ ตรง - มมุ o สว่ นประกอบของมมุ o กำรเรยี กชอื่ มุม o สญั ลักษณแ์ สดงมุม o ชนิดของมุม - ชนดิ และสมบัตขิ องรูปสี่เหลี่ยมมุมฉำก - กำรสร้ำงรูปสเี่ หลยี่ มมุมฉำก การนาเสนอขอ้ มลู  - กำรอำ่ นและกำรเขยี นแผนภมู แิ ทง่ (ไม่รวมกำรยน่ ระยะ) - กำรอำ่ นตำรำงสองทำง (two - way table) 15 สำหรบั กำรจัดกำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19) โดย สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขัน้ พน้ื ฐำน รว่ มกบั สถำบนั สง่ เสรมิ กำรสอนวิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี

๘ ตัวชีว้ ัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางต้องรู้และควรรู้ กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ชน้ั ท่ี รหัสตัวชี้วดั ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.4 1 ว 1.2 ป.4/1 บรรยำยหน้ำท่ีของรำก ลำต้น • ส่วนตำ่ ง ๆ ของพชื ดอกทำหน้ำท่ีแตกต่ำงกัน  ใบ และดอกของพืชดอก โดยใช้ - รำกทำหนำ้ ท่ดี ดู น้ำและธำตุอำหำรขนึ้ ไปยัง ข้อมลู ท่รี วบรวมได้ ลำตน้ - ลำตน้ ทำหน้ำที่ลำเลียงนำ้ ต่อไปยังส่วนตำ่ ง ๆ ของพืช - ใบทำหนำ้ ท่ีสร้ำงอำหำร อำหำรทพ่ี ชื สรำ้ งข้ึน คือ นำ้ ตำลซ่ึงจะเปลย่ี นเป็นแป้ง - ดอกทำหนำ้ ทส่ี ืบพันธ์ุ ประกอบด้วย สว่ นประกอบตำ่ ง ๆ ไดแ้ ก่ กลีบเลี้ยง กลบี ดอก เกสรเพศผู้ และเกสรเพศเมยี ซ่ึงสว่ นประกอบแต่ละสว่ นของดอก ทำหน้ำทแ่ี ตกตำ่ งกนั 2 ว 1.3 ป.4/1 จำแนกสง่ิ มชี ีวิตโดยใช้ควำมเหมอื น • สง่ิ มีชีวติ มหี ลำยชนิด สำมำรถจัดกลุ่มได้  และควำมแตกตำ่ งของลักษณะ โดยใชค้ วำมเหมอื นและควำมแตกต่ำงของ ของส่งิ มชี วี ติ ออกเป็นกลุม่ พืช ลกั ษณะต่ำง ๆ เชน่ กลมุ่ พืชสร้ำงอำหำรเองได้ กลมุ่ สตั ว์ และกลุม่ ทไี่ ม่ใชพ่ ชื และ และเคลื่อนทีด่ ้วยตนเองไม่ได้ กลมุ่ สตั ว์ สตั ว์ กินสิ่งมชี ีวติ อ่นื เป็นอำหำรและเคล่อื นท่ไี ด้ กลุ่มท่ีไมใ่ ชพ่ ืชและสัตว์ เช่น เห็ด รำ จุลนิ ทรยี ์ 3 ว 1.3 ป.4/2 จำแนกพชื ออกเปน็ พืชดอก • กำรจำแนกพืช สำมำรถใชก้ ำรมดี อกเป็นเกณฑ์  และพืชไมม่ ดี อก โดยใช้ ในกำรจำแนกไดเ้ ป็นพชื ดอกและพืชไมม่ ดี อก กำรมดี อกเปน็ เกณฑ์ โดยใช้ข้อมูล ทรี่ วบรวมได้ 4 ว 1.3 ป.4/3 จำแนกสัตว์ออกเปน็ สัตวม์ ีกระดกู • กำรจำแนกสตั ว์ สำมำรถใชก้ ำรมกี ระดูกสนั หลงั  สนั หลงั และสตั ว์ไม่มกี ระดูกสนั หลงั เปน็ เกณฑใ์ นกำรจำแนกไดเ้ ป็นสัตวม์ ีกระดูก โดยใช้กำรมีกระดูกสันหลังเป็นเกณฑ์ สันหลังและสตั วไ์ มม่ ีกระดูกสันหลัง โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้ • สตั วม์ ีกระดกู สนั หลงั มหี ลำยกลุ่ม ได้แก่ 5 ว 1.3 ป.4/4 บรรยำยลักษณะเฉพำะทีส่ ังเกตได้ กลุม่ ปลำ กลมุ่ สัตว์สะเทนิ น้ำสะเทนิ บก  ของสัตว์มีกระดูกสันหลงั กล่มุ สัตว์เลอื้ ยคลำน กลุม่ นก และกล่มุ สตั ว์ ในกลมุ่ ปลำ กลุม่ สตั ว์สะเทินน้ำ เล้ียงลูกดว้ ยนำ้ นม ซงึ่ แต่ละกลุ่มจะมีลักษณะ สะเทนิ บก กลุม่ สตั ว์เลือ้ ยคลำน เฉพำะทีส่ ังเกตได้ กลมุ่ นก และกลมุ่ สตั ว์เล้ียงลกู ดว้ ยนำ้ นม และยกตวั อยำ่ ง สิ่งมีชวี ติ ในแตล่ ะกลุ่ม สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19) โดย สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้นั พื้นฐำน ร่วมกบั สถำบันสง่ เสริมกำรสอนวิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี

๙ ชั้น ที่ รหัสตัวช้ีวัด ตวั ชีว้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.4 6 ว 2.1 ป.4/1 เปรียบเทียบสมบัตทิ ำงกำยภำพ • วัสดแุ ตล่ ะชนดิ มีสมบตั ิทำงกำยภำพแตกต่ำงกัน   ดำ้ นควำมแข็ง สภำพยดื หยุ่น วัสดทุ ี่มคี วำมแข็งจะทนตอ่ แรงขูดขดี วัสดุทมี่ ี กำรนำควำมร้อน และกำรนำ สภำพยืดหยนุ่ จะเปล่ียนแปลงรปู รำ่ งเม่อื มีแรง ไฟฟำ้ ของวัสดุ โดยใช้หลักฐำน มำกระทำและกลบั สภำพเดิมได้ วสั ดทุ น่ี ำ เชิงประจกั ษ์จำกกำรทดลองและ ควำมรอ้ น จะร้อนได้เร็วเม่อื ได้รับควำมรอ้ น ระบุกำรนำสมบัตเิ รอื่ งควำมแขง็ และวสั ดุท่นี ำไฟฟ้ำได้ จะให้กระแสไฟฟำ้ ผ่ำนได้ สภำพยดื หยนุ่ กำรนำควำมร้อน ดงั นน้ั จงึ อำจนำสมบัติตำ่ ง ๆ มำพิจำรณำ และกำรนำไฟฟ้ำของวสั ดุไปใช้ เพอ่ื ใชใ้ นกระบวนกำรออกแบบชน้ิ งำน ในชวี ติ ประจำวนั ผ่ำนกระบวนกำร เพ่ือใชป้ ระโยชน์ในชวี ติ ประจำวนั ออกแบบช้ินงำน 7 ว 2.1 ป.4/2 แลกเปลย่ี นควำมคิดกบั ผู้อ่ืน  โดยกำรอภปิ รำยเก่ียวกบั สมบัติ ทำงกำยภำพของวัสดุอยำ่ งมี เหตผุ ลจำกกำรทดลอง  8 ว 2.1 ป.4/3 เปรียบเทียบสมบัติของสสำร • วัสดเุ ป็นสสำรเพรำะมีมวลและต้องกำรท่ีอยู่ ทั้ง ๓ สถำนะ จำกข้อมลู ทไี่ ด้จำก สสำรมีสถำนะเปน็ ของแขง็ ของเหลว หรอื แก๊ส กำรสงั เกตมวล กำรต้องกำรท่ีอยู่ ของแขง็ มีปรมิ ำตรและรูปร่ำงคงท่ี ของเหลวมี รปู รำ่ งและปรมิ ำตรของสสำร ปริมำตรคงที่ แต่มรี ปู รำ่ งเปล่ียนไปตำมภำชนะ  9 ว 2.1 ป.4/4 ใชเ้ คร่ืองมือเพื่อวัดมวล และ เฉพำะสว่ นที่บรรจุของเหลว สว่ นแก๊สมี ปรมิ ำตรของสสำรทัง้ ๓ สถำนะ ปรมิ ำตรและรปู รำ่ งเปลย่ี นไปตำมภำชนะ ท่ีบรรจุ 10 ว 2.2 ป.4/1 ระบผุ ลของแรงโนม้ ถว่ งที่มีต่อวัตถุ • แรงโนม้ ถว่ งของโลกเปน็ แรงดึงดดู ท่โี ลกกระทำ  จำกหลกั ฐำนเชงิ ประจักษ์ ตอ่ วตั ถุ มีทิศทำงเข้ำสศู่ ูนย์กลำงโลก และเป็น 11 ว 2.2 ป.4/2 ใชเ้ ครอ่ื งชง่ั สปรงิ ในกำรวดั น้ำหนกั แรงไมส่ มั ผสั แรงดึงดูดท่โี ลกกระทำกบั วัตถุ  ของวัตถุ หนงึ่ ๆทำให้วตั ถตุ กลงสู่พื้นโลก และทำใหว้ ตั ถุ มนี ำ้ หนกั วดั นำ้ หนักของวัตถุได้จำกเครื่องชัง่ สปริง นำ้ หนกั ของวัตถขุ น้ึ กบั มวลของวตั ถุ โดยวตั ถทุ ี่มีมวลมำกจะมีน้ำหนกั มำก วตั ถุทม่ี ี มวลนอ้ ยจะมนี ้ำหนักน้อย 12 ว 2.2 ป.4/3 บรรยำยมวลของวัตถุที่มีผลต่อ • มวล คือ ปริมำณเนื้อของสสำรท้งั หมด  กำรเปลย่ี นแปลงกำรเคล่ือนที่ของ ทป่ี ระกอบกนั เป็นวตั ถุ ซงึ่ มีผลต่อควำมยำกง่ำย วตั ถจุ ำกหลักฐำนเชิงประจักษ์ ในกำรเปลย่ี นแปลงกำรเคลื่อนท่ีของวัตถุ วัตถทุ ีม่ มี วลมำกจะเปลีย่ นแปลงกำรเคลอ่ื นท่ี ไดย้ ำกกวำ่ วตั ถทุ ีม่ ีมวลน้อย ดังนน้ั มวลของ วัตถนุ อกจำกจะหมำยถึงเนื้อทงั้ หมดของ วัตถนุ ั้นแลว้ ยังหมำยถึงกำรต้ำนกำรเปลีย่ นแปลง กำรเคลือ่ นที่ของวัตถุนัน้ ดว้ ย สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19) โดย สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้นั พ้นื ฐำน ร่วมกบั สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี

๑๐ ชน้ั ที่ รหสั ตัวชี้วัด ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.4 13 ว 2.3 ป.4/1 จำแนกวตั ถเุ ป็นตวั กลำงโปรง่ ใส • เม่อื มองสง่ิ ตำ่ ง ๆ โดยมวี ตั ถุตำ่ งชนดิ กัน  ตวั กลำงโปร่งแสง และวตั ถทุ บึ แสง มำก้นั แสงจะทำใหล้ ักษณะกำรมองเห็นส่งิ นน้ั ๆ จำกลักษณะกำรมองเห็นส่งิ ต่ำง ๆ ชดั เจนต่ำงกนั จึงจำแนกวัตถุทีม่ ำก้นั ออกเปน็ ผ่ำนวตั ถุนั้นเป็นเกณฑ์ โดยใช้ ตัวกลำงโปรง่ ใส ซงึ่ ทำให้มองเห็นส่งิ ตำ่ ง ๆ ได้ ชดั เจน ตวั กลำงโปร่งแสงทำให้มองเห็นส่งิ ตำ่ ง ๆ หลักฐำนเชิงประจักษ์ ไดไ้ ม่ชัดเจน และวตั ถุทึบแสงทำให้มองไมเ่ ห็น ส่ิงต่ำง ๆ นน้ั 14 ว 3.1 ป.4/1 อธิบำยแบบรปู เส้นทำงกำรขึ้น • ดวงจนั ทร์เป็นบรวิ ำรของโลก โดยดวงจันทร์  และตกของดวงจันทร์ โดยใช้ หมุนรอบตวั เองขณะโคจรรอบโลก ขณะทโี่ ลก กห็ มนุ รอบตัวเองด้วยเช่นกัน กำรหมุนรอบตัวเอง หลักฐำนเชิงประจักษ์ ของโลกจำกทิศตะวันตกไปทิศตะวนั ออกในทิศทำง ทวนเข็มนำฬิกำ เมอื่ มองจำกข้ัวโลกเหนือ ทำใหม้ องเห็นดวงจันทรป์ รำกฏขนึ้ ทำงด้ำน ทิศตะวนั ออกและตกทำงดำ้ นทศิ ตะวนั ตก หมนุ เวยี นเป็นแบบรูปซำ้ ๆ 15 ว 3.1 ป.4/2 สร้ำงแบบจำลองท่ีอธิบำยแบบรปู • ดวงจนั ทร์เป็นวัตถทุ ีเ่ ปน็ ทรงกลม  กำรเปลยี่ นแปลงรูปรำ่ งปรำกฏ แตร่ ปู ร่ำงของดวงจนั ทรท์ ี่มองเห็นหรอื รปู ร่ำง ปรำกฏของดวงจนั ทร์บนท้องฟ้ำแตกต่ำงกันไป ของดวงจนั ทร์และพยำกรณ์ ในแตล่ ะวัน โดยในแต่ละวนั ดวงจนั ทร์จะมี รปู รำ่ งปรำกฏของดวงจนั ทร์ รปู รำ่ งปรำกฏเป็นเสี้ยวทม่ี ขี นำดเพิม่ ข้นึ อย่ำงต่อเน่ืองจนเตม็ ดวงจำกนั้นรูปรำ่ งปรำกฏ ของดวงจนั ทรจ์ ะแหว่งและมีขนำดลดลง อยำ่ งต่อเนือ่ งจนมองไม่เหน็ ดวงจนั ทร์ จำกน้นั รูปร่ำงปรำกฏของดวงจนั ทรจ์ ะเป็นเสยี้ วใหญ่ ข้นึ จนเตม็ ดวงอีกครั้งกำรเปลี่ยนแปลงเช่นน้ี เป็นแบบรปู ซำ้ กนั ทุกเดือน 16 ว 3.1 ป.4/3 สรำ้ งแบบจำลองแสดง • ระบบสุริยะเปน็ ระบบทีม่ ดี วงอำทติ ย์  องคป์ ระกอบของระบบสรุ ิยะ เป็นศนู ยก์ ลำงและมีบรวิ ำรประกอบดว้ ย ดำวเครำะห์แปดดวงและบริวำร ซึ่งดำวเครำะห์ และอธบิ ำยเปรียบเทียบคำบ กำรโคจรของดำวเครำะหต์ ำ่ ง ๆ แต่ละดวงมีขนำดและระยะห่ำงจำกดวงอำทิตย์ แตกตำ่ งกัน และยังประกอบด้วย ดำวเครำะห์ จำกแบบจำลอง แคระ ดำวเครำะห์น้อย ดำวหำง และวตั ถุ ขนำดเลก็ อ่นื ๆ โคจรอยรู่ อบดวงอำทติ ย์ วัตถุ ขนำดเล็กอ่นื ๆ เม่อื เข้ำมำในชน้ั บรรยำกำศ เนือ่ งจำกแรงโน้มถว่ งของโลกทำให้เกิดเป็น ดำวตกหรือผีพุ่งไต้และอกุ กำบำต สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19) โดย สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขั้นพืน้ ฐำน ร่วมกับ สถำบันสง่ เสริมกำรสอนวิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี

๑๑ ชัน้ ท่ี รหสั ตัวชี้วัด ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.4 17 ว 4.2 ป.4/1 ใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะในกำรแก้ปัญหำ • กำรใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะเป็นกำรนำกฎเกณฑ์หรอื  กำรอธิบำยกำรทำงำน กำรคำดกำรณ์ เงอื่ นไขที่ครอบคลุมทุกกรณีมำใช้พจิ ำรณำ ในกำรแกป้ ญั หำ กำรอธิบำย ผลลัพธ์ จำกปัญหำอย่ำงง่ำย กำรทำงำน หรือกำรคำดกำรณ์ผลลัพธ์ • สถำนะเริม่ ต้นของกำรทำงำนทแ่ี ตกตำ่ งกัน จะใหผ้ ลลัพธ์ทีแ่ ตกตำ่ งกัน • ตวั อย่ำงปัญหำ เชน่ เกม OX โปรแกรม ทมี่ ีกำรคำนวณ โปรแกรมที่มีตัวละครหลำยตัวและ มกี ำรสง่ั งำนทีแ่ ตกตำ่ งหรอื มกี ำรสื่อสำร ระหว่ำงกนั กำรเดนิ ทำงไปโรงเรียน โดยวิธีกำร ตำ่ ง ๆ 18 ว 4.2 ป.4/2 ออกแบบ และเขียนโปรแกรม • กำรออกแบบโปรแกรมอย่ำงงำ่ ย เช่น  อย่ำงง่ำย โดยใช้ซอฟต์แวรห์ รือ กำรออกแบบโดยใช้ storyboard หรอื กำรออกแบบอลั กอรทิ มึ ส่ือ และตรวจหำข้อผดิ พลำด • กำรเขียนโปรแกรมเป็นกำรสรำ้ งลำดบั ของ และแก้ไข คำสงั่ ใหค้ อมพิวเตอร์ทำงำน เพอ่ื ให้ได้ผลลพั ธ์ ตำมควำมต้องกำร หำกมีขอ้ ผิดพลำด ใหต้ รวจสอบกำรทำงำนทีละคำสั่ง เมือ่ พบจุด ทท่ี ำใหผ้ ลลพั ธไ์ มถ่ กู ตอ้ ง ให้ทำกำรแก้ไข จนกวำ่ จะไดผ้ ลลัพธท์ ่ีถูกต้อง • ตัวอย่ำงโปรแกรมที่มเี รือ่ งรำว เชน่ นทิ ำนท่ีมีกำรโตต้ อบกบั ผ้ใู ช้ กำร์ตูนสน้ั เลำ่ กจิ วัตรประจำวันภำพเคลื่อนไหว • กำรฝกึ ตรวจหำขอ้ ผิดพลำดจำกโปรแกรมของ ผอู้ ื่นจะช่วยพัฒนำทักษะกำรหำสำเหตุของ ปญั หำไดด้ ียงิ่ ข้นึ • ซอฟตแ์ วรท์ ่ีใช้ในกำรเขยี นโปรแกรม เชน่ Scratch, logo  19 ว 4.2 ป.4/3 ใช้อินเทอร์เนต็ คน้ หำควำมรู้ และ • กำรใช้คำคน้ ทต่ี รงประเดน็ กระชบั จะทำให้ ประเมินควำมนำ่ เชอื่ ถือของข้อมูล ไดผ้ ลลัพธ์ท่รี วดเร็วและตรงตำมควำมต้องกำร • กำรประเมนิ ควำมนำ่ เชอ่ื ถอื ของข้อมูล เช่น พจิ ำรณำประเภทของเว็บไซต์ (หน่วยงำน รำชกำร สำนักข่ำว องค์กร) ผู้เขียน วันท่ี เผยแพร่ข้อมลู กำรอ้ำงองิ • เมื่อได้ขอ้ มูลท่ีต้องกำรจำกเว็บไซต์ตำ่ ง ๆ จะต้องนำเน้อื หำมำพิจำรณำ ปรียบเทียบ แลว้ เลือกข้อมลู ท่ีมีควำมสอดคลอ้ งและ สัมพันธ์กนั สำหรบั กำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19) โดย สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขนั้ พนื้ ฐำน ร่วมกบั สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี

๑๒ ช้นั ท่ี รหสั ตวั ช้ีวัด ตัวชี้วัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.4 • กำรทำรำยงำนหรือกำรนำเสนอขอ้ มลู  รวบรวม ประเมนิ นำเสนอข้อมลู จะตอ้ งนำข้อมลู มำเรยี บเรียง สรปุ 20 ว 4.2 ป.4/4 และสำรสนเทศโดยใช้ซอฟต์แวร์ เป็นภำษำของตนเองท่เี หมำะสมกับ  ที่หลำกหลำย เพ่ือแก้ปัญหำ กลุ่มเปำ้ หมำยและวิธีกำรนำเสนอ 21 ว 4.2 ป.4/5 ในชีวิตประจำวนั (บูรณำกำรกับวิชำภำษำไทย) • กำรรวบรวมข้อมูล ทำไดโ้ ดยกำหนดหัวข้อ ใชเ้ ทคโนโลยีสำรสนเทศ ที่ต้องกำร เตรยี มอุปกรณใ์ นกำรจดบนั ทกึ อย่ำงปลอดภยั เข้ำใจสทิ ธิและ • กำรประมวลผลอย่ำงง่ำย เชน่ เปรยี บเทยี บ หน้ำที่ของตน เคำรพในสิทธิของ จัดกล่มุ เรียงลำดบั กำรหำผลรวม ผอู้ ่ืนแจง้ ผเู้ กีย่ วข้องเมื่อพบข้อมูล • วเิ ครำะห์ผลและสร้ำงทำงเลือกที่เปน็ ไปได้ หรอื บุคคลท่ีไมเ่ หมำะสม ประเมินทำงเลอื ก (เปรยี บเทียบ ตัดสนิ ) • กำรนำเสนอข้อมูลทำได้หลำยลักษณะ ตำมควำมเหมำะสม เช่น กำรบอกเลำ่ เอกสำรรำยงำน โปสเตอร์ โปรแกรม นำเสนอ • กำรใช้ซอฟตแ์ วรเ์ พ่ือแกป้ ญั หำ ในชวี ติ ประจำวนั เชน่ กำรสำรวจ เมนูอำหำรกลำงวันโดยใช้ซอฟตแ์ วร์ สร้ำงแบบสอบถำมและเกบ็ ข้อมลู ใช้ซอฟตแ์ วรต์ ำรำงทำงำน เพ่อื ประมวลผล ขอ้ มูล รวบรวมข้อมูลเกย่ี วกับคณุ ค่ำ ทำงโภชนำกำรและสร้ำงรำยกำรอำหำร สำหรบั ๕ วนั ใช้ซอฟตแ์ วร์นำเสนอ ผลกำรสำรวจรำยกำรอำหำรทเี่ ป็นทำงเลอื ก และข้อมูลดำ้ นโภชนำกำร • กำรใชเ้ ทคโนโลยีสำรสนเทศอยำ่ งปลอดภัย เข้ำใจสิทธแิ ละหน้ำที่ของตน เคำรพ ในสทิ ธขิ องผู้อ่นื เช่น ไมส่ รำ้ งขอ้ ควำมเทจ็ และสง่ ใหผ้ ้อู ่ืน ไม่สรำ้ งควำมเดอื ดรอ้ นต่อ ผ้อู ่นื โดยกำรส่งสแปมขอ้ ควำมลูกโซ่ สง่ ต่อโพสต์ที่มีข้อมูลสว่ นตวั ของผู้อื่น สง่ คำเชญิ เลน่ เกม ไมเ่ ข้ำถึงข้อมูลสว่ นตวั หรอื กำรบ้ำนของบุคคลอ่ืนโดยไมไ่ ด้รับ อนญุ ำต ไมใ่ ชเ้ คร่ืองคอมพวิ เตอร์/ชื่อ บัญชขี องผู้อ่นื สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19) โดย สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำข้ันพ้ืนฐำน ร่วมกับ สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี

๑๓ ชน้ั ท่ี รหัสตัวชี้วัด ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.4 16 6 • กำรสอื่ สำรอยำ่ งมีมำรยำทและรู้กำลเทศะ • กำรปกปอ้ งข้อมลู สว่ นตัว เชน่ กำรออก จำกระบบเมื่อเลิกใช้งำน ไม่บอกรหัสผ่ำน ไมบ่ อกเลขประจำตัวประชำชน รวม 21 ตัวชี้วดั หมายเหตุ: ตัวชว้ี ดั ว 2.1 ป.4/1 มีลกั ษณะเฉพำะคอื เป็นทั้งตัวช้วี ดั ต้องรแู้ ละควรรู้ รำยละเอยี ดดังน้ี ตอ้ งรู้ : สมบตั ขิ องวัสดุด้ำนควำมแขง็ สภำพยดื หยุ่น กำรนำควำมร้อน กำรนำไฟฟ้ำ ควรรู้ : กำรนำสมบตั ิของวัสดุไปใชป้ ระโยชน์ผำ่ นกระบวนกำรออกแบบชิน้ งำน เปน็ เน้ือหำที่ประยุกต์ใช้ควำมรู้จำกท่ีเรยี นมำแล้ว ไปแกป้ ัญหำ ครูอำจจัดเปน็ กิจกรรมเสริม เพอ่ื ให้นักเรียนไดน้ ำควำมรู้ทเี่ รียนมำแล้วมำใช้ สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19) โดย สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำข้นั พ้นื ฐำน ร่วมกับ สถำบันสง่ เสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี

๑๔ ตวั ชีว้ ัดและสาระการเรยี นรู้แกนกลางท่ีต้องรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ชน้ั ท่ี รหัสตัวช้ีวัด ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.4 1 ส ๑.๑ ป.๔/๑ อธิบำยควำมสำคัญ  ควำมสำคญั ของพระพทุ ธศำสนำ  ของพระพทุ ธศำสนำ  พระพุทธศำสนำ ในฐำนะ หรอื ศำสนำที่ตนนับถือ ท่ีเปน็ เครื่องยดึ เหน่ยี วจิตใจ ในฐำนะเป็นศนู ย์รวมจติ ใจ  เปน็ ศูนยร์ วมกำรทำควำมดี ของศำสนิกชน และพัฒนำจิตใจ เช่น ฝกึ สมำธิ สวดมนต์ ศึกษำหลกั ธรรม  เปน็ ทป่ี ระกอบศำสนพธิ ี (กำรทอดกฐิน กำรทอดผ้ำป่ำ กำรเวยี นเทียน กำรทำบุญ)  เปน็ แหลง่ ทำกิจกรรม ทำงสงั คม เชน่ กำรจัด ประเพณีท้องถ่ิน กำรเผยแพร่ ข้อมูลข่ำวสำรชมุ ชน และกำร สง่ เสรมิ พฒั นำชุมชน 2 ส ๑.๑ ป.๔/๒ สรุปพุทธประวตั ิตั้งแตบ่ รรลุธรรม  สรุปพุทธประวตั ิ (ทบทวน)  จนถึงประกำศธรรม หรอื ประวัติ  ตรัสรู้ ศำสดำที่ตนนับถือตำมที่กำหนด  ประกำศธรรม ได้แก่ o แสดงโอวำทปำฏิโมกข์ 3 ส ๑.๑ ป.๔/๓ เห็นคณุ ค่ำ และปฏิบตั ติ น  พทุ ธสำวก พุทธสำวิกำ  ตำมแบบอย่ำงกำรดำเนนิ ชวี ติ  พระอรุ ุเวลกัสสปะ และข้อคดิ จำกประวัติสำวก ชำดก  ชำดก เรื่องเล่ำและศำสนิกชนตวั อย่ำง  กฏุ ิทสู กชำดก ตำมทีก่ ำหนด  ศำสนกิ ชนตัวอย่ำง  สมเด็จพระศรีนครินทรำ บรมรำชชนนี สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๑๕ ชน้ั ที่ รหสั ตัวชี้วดั ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.4 4 ส ๑.๑ ป.๔/๔ แสดงควำมเคำรพพระรัตนตรัย  พระรัตนตรัย  ปฏบิ ัตติ ำมไตรสิกขำและหลักธรรม o ศรัทธำ ๔ โอวำท ๓ ในพระพุทธศำสนำหรอื  พระพทุ ธ หลักธรรมของศำสนำทีต่ นนบั ถือ o พุทธคณุ ๓ ตำมทกี่ ำหนด  พระธรรม o หลกั กรรม  พระสงฆ์  ไตรสกิ ขำ  ศีล  โอวำท ๓  ไม่ทำช่วั o ทจุ ริต ๓  ทำควำมดี o สจุ รติ ๓ o พรหมวิหำร ๔ o กตัญญูกตเวทีต่อ ประเทศชำติ o มงคล ๓๘ - เคำรพ - ถ่อมตน - ทำควำมดีให้พร้อมไวก้ ่อน  ทำจิตให้บริสุทธิ์ (บริหำรจิต และเจริญปญั ญำ)  พุทธศำสนสุภำษติ  สุขำ สงฺฆสฺส สำมคฺคี : ควำมพรอ้ มเพรียงของหมู่ ใหเ้ กดิ สขุ  โลโกปตฺถมฺภิกำ เมตฺตำ : เมตตำธรรม ค้ำจนุ โลก 5 ส ๑.๑ ป.๔/๕ ชน่ื ชมกำรทำควำมดีของตนเอง  ตวั อย่ำงกำรกระทำควำมดี  บุคคลในครอบครวั โรงเรียน ของตนเองและบคุ คล และชมุ ชนตำมหลักศำสนำ ในครอบครวั ในโรงเรียน พร้อมท้ังบอกแนวปฏบิ ัติ และในชุมชน ในกำรดำเนินชวี ติ สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๑๖ ช้ัน ที่ รหัสตัวช้ีวดั ตวั ช้ีวดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.4 6 ส ๑.๑ ป.๔/๖ เหน็ คุณคำ่ และสวดมนต์ แผเ่ มตตำ  สวดมนตไ์ หว้พระ สรรเสริญ  มีสตทิ ่เี ป็นพ้ืนฐำนของสมำธิ คณุ พระรตั นตรยั และแผ่เมตตำ ในพระพุทธศำสนำหรอื กำรพฒั นำจิต  ควำมหมำยของสตสิ มั ปชญั ญะ ตำมแนวทำงของศำสนำทีต่ นนับถือ สมำธแิ ละปัญญำ ตำมทกี่ ำหนด 7 ส ๑.๑ ป.๔/๗ ปฏบิ ัติตนตำมหลักธรรม  หลักธรรมเพ่ือกำรอยูร่ ่วมกนั  ของศำสนำทตี่ นนับถอื อยำ่ งสมำนฉันท์ เพ่อื กำรอยรู่ ่วมกนั เปน็ ชำติ o พรหมวิหำร ๔ ได้อย่ำงสมำนฉนั ท์ 8 ส ๑.๑ ป.๔/๘ อธิบำยประวัติศำสดำ  ประวัติศำสดำ  ของศำสนำอืน่ ๆ โดยสงั เขป o พระพทุ ธเจำ้ (เรียนในช่วงชั้นท1ี่ ) o มฮุ มั มัด o พระเยซู 9 ส ๑.๒ ป.๔/๑ อภิปรำยควำมสำคญั และมีส่วนร่วม  ควำมรู้เบ้ืองต้นและควำมสำคัญ  ในกำรบำรุงรักษำศำสนสถำน ของศำสนสถำน ของศำสนำทีต่ นนบั ถือ  กำรแสดงควำมเคำรพ ตอ่ ศำสนสถำน  กำรบำรุงรักษำศำสนสถำน 10 ส ๑.๒ ป.๔/๒ มมี รรยำทของควำมเปน็  มรรยำทของศำสนิกชน  ศำสนกิ ชนที่ดตี ำมทกี่ ำหนด o กำรปฏิบัติตนท่เี หมำะสม ต่อพระภิกษุ o กำรยนื กำรเดนิ และกำรน่ัง ที่เหมำะสมในโอกำสต่ำง ๆ 11 ส ๑.๒ ป.๔/๓ ปฏบิ ัตติ นในศำสนพธิ ี พิธีกรรม  ปฏบิ ัตติ นในศำสนพิธี  และวนั สำคญั ทำงศำสนำ o กำรอำรำธนำธรรม ตำมทกี่ ำหนดได้ถกู ต้อง o กำรอำรำธนำพระปริตร o ระเบยี บพธิ แี ละกำรปฏบิ ัติ ตนในวนั ธรรมสวนะ 12 ส ๒.๑ ป.๔/๑ ปฏบิ ัตติ นเป็นพลเมืองดี  กำรเข้ำรว่ มกจิ กรรมประชำธปิ ไตย  ตำมวิถีประชำธปิ ไตย ของชุมชน เช่น กำรรณรงค์ ในฐำนะสมำชิกทด่ี ีของชมุ ชน กำรเลือกตั้ง  แนวทำงกำรปฏบิ ัตติ น เปน็ สมำชิกทดี่ ีของชุมชน เชน่ อนุรักษส์ ่ิงแวดล้อม สำธำรณสมบัติ โบรำณวัตถุ และโบรำณสถำน กำรพัฒนำ ชุมชน สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๑๗ ชน้ั ท่ี รหสั ตัวชี้วดั ตัวช้ีวดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.4 13 ส ๒.๑ ป.๔/๒ ปฏิบัติตนในกำรเปน็ ผูน้ ำ  กำรเปน็ ผูน้ ำและผู้ตำมท่ีดี  และผ้ตู ำมที่ดี o บทบำทและควำมรับผิดชอบ ของผนู้ ำ o บทบำทและควำมรับผดิ ชอบ ของผู้ตำมหรือสมำชิก o กำรทำงำนกลมุ่ ให้มี ประสทิ ธิภำพและประสิทธผิ ล และประโยชน์ของกำรทำงำน เป็นกลมุ่ 14 ส ๒.๑ ป.๔/๓ วเิ ครำะห์สทิ ธพิ ืน้ ฐำนท่ีเดก็ ทุกคน  สทิ ธพิ ืน้ ฐำนของเดก็ เช่น  พึงได้รับตำมกฎหมำย สทิ ธทิ จ่ี ะมชี ีวิต สทิ ธทิ ่จี ะได้รับ กำรปกป้อง สิทธิทจ่ี ะไดร้ บั กำรพัฒนำ สิทธทิ ีจ่ ะมีส่วนร่วม 15 ส ๒.๑ ป.๔/๔ อธิบำยควำมแตกต่ำง  วัฒนธรรมในภำคต่ำง ๆ  ทำงวฒั นธรรมของกลุม่ คน ของไทยที่แตกต่ำงกนั เชน่ ในท้องถ่ิน กำรแต่งกำย ภำษำ อำหำร 16 ส ๒.๑ ป.๔/๕ เสนอวิธกี ำรทจ่ี ะอยูร่ ว่ มกนั  ปญั หำและสำเหตุของกำรเกิด  อยำ่ งสันติสุขในชีวิตประจำวนั ควำมขดั แย้งในชวี ิตประจำวัน  แนวทำงกำรแกป้ ญั หำ ควำมขดั แย้งดว้ ยสนั ติวธิ ี 17 ส ๒.๒ ป.๔/๑ อธบิ ำยอำนำจอธปิ ไตย  อำนำจอธปิ ไตย  และควำมสำคญั ของระบอบ  ควำมสำคญั ของกำรปกครอง ประชำธปิ ไตย ตำมระบอบประชำธิปไตย 18 ส ๒.๒ ป.๔/๒ อธบิ ำยบทบำทหน้ำท่ขี องพลเมือง  บทบำทหน้ำที่ของพลเมือง  ในกระบวนกำรเลือกต้ัง ในกระบวนกำรเลือกต้ัง ทงั้ ก่อน กำรเลือกตั้ง ระหว่ำงกำรเลือกต้งั และหลงั กำรเลือกตงั้ 19 ส ๒.๒ ป.๔/๓ อธิบำยควำมสำคัญของสถำบัน  ควำมสำคญั ของสถำบนั  พระมหำกษัตรยิ ์ตำมระบอบ พระมหำกษตั รยิ ์ในสังคมไทย ประชำธิปไตยอนั มีพระมหำกษัตรยิ ์ ทรงเป็นประมขุ 20 ส ๓.๑ ป.๔/๑ ระบุปัจจัยท่มี ีผลต่อกำรเลือกซอื้  สินคำ้ และบรกิ ำร (ทบทวน)  สนิ คำ้ และบริกำร  ปจั จัยทมี่ ีผลต่อกำรเลอื กซอื้ สนิ ค้ำและบริกำร เช่น ควำมพงึ พอใจของผู้ซื้อ รำคำสนิ ค้ำ กำรโฆษณำ คุณภำพของสินค้ำ สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๑๘ ช้นั ท่ี รหัสตัวชี้วดั ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.4 21 ส ๓.๑ ป.๔/๒ บอกสทิ ธิพ้ืนฐำนและรักษำ  สิทธพิ น้ื ฐำนของผู้บรโิ ภค  ผลประโยชนข์ องตนเอง  สินค้ำและบริกำรทีม่ ี ในฐำนะผู้บริโภค เครื่องหมำยรับรองคุณภำพ  หลักกำรและวิธกี ำรเลือก บรโิ ภค 22 ส ๓.๑ ป.๔/๓ อธิบำยหลักกำรของ  หลักกำรของเศรษฐกิจพอเพียง  เศรษฐกจิ พอเพียงและนำไปใช้  กำรประยุกตใ์ ชป้ รัชญำ ในชวี ิตประจำวันของตนเอง ของเศรษฐกิจพอเพยี ง ในกำรดำรงชวี ติ เชน่ กำรแตง่ กำย กำรกนิ อำหำร กำรใช้จ่ำย 23 ส ๓.๒ ป.๔/๑ อธิบำยควำมสมั พันธท์ ำงเศรษฐกิจ  กำรพึ่งพำอำศัยกนั ภำยในชมุ ชน  ของคนในชมุ ชน ทำงดำ้ นเศรษฐกิจ เชน่ ควำมสมั พนั ธ์ระหว่ำงผูซ้ ื้อ ผู้ขำย กำรก้หู นี้ ยืมสนิ 24 ส ๓.๒ ป.๔/๒ อธิบำยหนำ้ ท่ีเบื้องต้นของเงิน  ควำมหมำยและประเภทของเงิน   หนำ้ ทเี่ บอ้ื งต้นของเงินในระบบ เศรษฐกจิ  สกลุ เงินสำคัญท่ีใช้ในกำรซ้ือขำย แลกเปลี่ยนระหว่ำงประเทศ 25 ส ๔.๑ ป.๔/๑ นบั ช่วงเวลำเป็นทศวรรษ  ควำมหมำยและช่วงเวลำของ  ศตวรรษ และสหัสวรรษ ทศวรรษ ศตวรรษ และสหัสวรรษ  กำรใช้ทศวรรษ ศตวรรษ และ สหสั วรรษ เพ่ือทำควำมเขำ้ ใจ ช่วงเวลำทีป่ รำกฏในเอกสำร ต่ำง ๆ เชน่ หนงั สือพิมพ์ 26 ส ๔.๑ ป.๔/๒ อธิบำยยุคสมัยในกำรศึกษำประวตั ิ  เกณฑ์กำรแบง่ ยุคสมัย  ของมนุษยชำติโดยสังเขป ในกำรศึกษำประวตั ิศำสตร์ ทแ่ี บง่ เป็นยุคกอ่ น ประวตั ิศำสตร์ และยุคประวัตศิ ำสตร์ 27 ส ๔.๑ ป.๔/๓ แยกแยะประเภทหลักฐำน  ประเภทของหลกั ฐำน  ที่ใชใ้ นกำรศึกษำควำมเปน็ มำ ทำงประวัติศำสตร์ ของท้องถิ่น ท่แี บง่ เปน็ หลกั ฐำนช้นั ตน้ และหลักฐำนช้ันรอง  ตวั อยำ่ งหลกั ฐำนท่ใี ชใ้ นกำรศึกษำ ควำมเป็นมำในท้องถน่ิ ของตน  เกณฑ์กำรจำแนกหลักฐำน ท่ีพบในทอ้ งถิ่นเปน็ หลกั ฐำน ช้นั ต้นและหลักฐำนชั้นรอง อยำ่ งงำ่ ย ๆ สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๑๙ ช้นั ที่ รหสั ตัวช้ีวัด ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.4 28 ส ๔.๒ ป.๔/๑ อธบิ ำยกำรตง้ั หลักแหลง่  พัฒนำกำรของมนษุ ย์  และพฒั นำกำรของมนุษย์ ยคุ กอ่ นประวัติศำสตร์และ ยคุ ก่อนประวตั ิศำสตร์และ ยคุ ประวัติศำสตร์ในดินแดนไทย ยคุ ประวตั ศิ ำสตร์ โดยสังเขป โดยสังเขป  หลกั ฐำนทำงประวัติศำสตร์ 29 ส ๔.๒ ป.๔/๒ ยกตัวอย่ำงหลกั ฐำน ทพ่ี บในท้องถนิ่ ทแี่ สดง  ทำงประวตั ศิ ำสตร์ที่พบในทอ้ งถน่ิ พฒั นำกำรของมนษุ ยชำติ ที่แสดงพฒั นำกำรของมนษุ ยชำติ ในดินแดนไทย โดยสงั เขป 30 ส ๔.๓ ป.๔/๑ อธิบำยพฒั นำกำรของอำณำจักร  กำรสถำปนำอำณำจักรสโุ ขทัย  สุโขทัยโดยสงั เขป โดยสังเขป  พัฒนำกำรของอำณำจกั ร สุโขทยั ทำงดำ้ นกำรเมือง กำรปกครองและเศรษฐกิจ โดยสงั เขป 31 ส ๔.๓ ป.๔/๒ บอกประวัติและผลงำนของบุคคล  ประวตั ิ และผลงำนของบุคคล  สำคญั สมยั สโุ ขทัย สำคญั สมัยสโุ ขทยั เช่น พอ่ ขนุ ศรี อนิ ทรำทติ ย์ พอ่ ขุนรำมคำแหง มหำรำช พระมหำธรรมรำชำที่ ๑ (พระยำลิไท) โดยสังเขป 32 ส ๔.๓ ป.๔/๓ อธิบำยภมู ปิ ญั ญำไทยที่สำคญั  ภมู ิปัญญำไทยในสมัยสุโขทัย  สมัยสโุ ขทยั ท่ีน่ำภำคภมู ิใจและ เชน่ ภำษำไทย ศิลปกรรม ควรคำ่ แก่กำรอนุรักษ์ สโุ ขทยั ทท่ี ำให้สโุ ขทัยไดร้ บั กำรยกย่องเปน็ มรดกโลก  คณุ ค่ำของภูมปิ ัญญำไทยที่สืบต่อ ถงึ ปัจจุบนั ท่นี ่ำภำคภมู ิใจ และควรค่ำแกก่ ำรอนุรักษ์ 33 ส 5.1 ป.4/1 สบื คน้ และอธบิ ำยข้อมูลลักษณะ  ลักษณะทำงกำยภำพของ  ทำงกำยภำพในจงั หวัดของตน จงั หวดั ตนเอง ด้วยแผนท่ีและรูปถ่ำย 34 ส 5.1 ป.4/2 ระบุแหลง่ ทรัพยำกรและ  แหล่งทรัพยำกรและสถำนท่สี ำคัญ  สถำนทสี่ ำคัญในจงั หวัดของตน ในจงั หวดั ของตน ดว้ ยแผนทแ่ี ละรปู ถำ่ ย 35 ส 5.1 ป.4/3 อธบิ ำยลักษณะทำงกำยภำพ  ลกั ษณะทำงกำยภำพทีส่ ่งผลต่อ  ทีส่ ่งผลต่อแหลง่ ทรัพยำกรและ แหลง่ ทรัพยำกรและสถำนทสี่ ำคัญ สถำนท่สี ำคญั ในจังหวดั ในจงั หวดั 36 ส 5.2 ป.4/1 วเิ ครำะห์สิ่งแวดล้อมทำงกำยภำพ  สิ่งแวดล้อมทำงกำยภำพ  ทสี่ ่งผลต่อกำรดำเนนิ ชวี ติ ของคน ที่ส่งผลต่อ กำรดำเนนิ ชวี ิต ในจังหวัด ของคนในจังหวัด สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๐ ช้นั ท่ี รหัสตัวช้ีวัด ตัวช้ีวัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.4 37 ส 5.2 ป.4/2 อธบิ ำยกำรเปลย่ี นแปลง  กำรเปล่ียนแปลงส่ิงแวดล้อม  ส่งิ แวดล้อมในจงั หวัดและ ในจังหวัด และผลท่ีเกดิ จำก ผลทเี่ กิดจำกกำรเปลี่ยนแปลง กำรเปลย่ี นแปลง เช่น กำรต้งั ถ่ินฐำน กำรย้ำยถ่ิน 38 ส 5.2 ป.4/3 นำเสนอแนวทำงกำรจดั กำร  กำรจัดกำรส่ิงแวดล้อมในจงั หวัด  สงิ่ แวดลอ้ มในจงั หวดั 14 24 รวม 38 ตัวชี้วัด สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

ตวั ช้วี ัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางต้องรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ุขศึกษาและพลศกึ ษา ๒๑ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ช้ัน ที่ รหสั ตัวชี้วัด ตัวชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.4 1 พ 1.1 ป.4/1 อธิบำยกำรเจริญเตบิ โตและ  กำรเจรญิ เตบิ โตและพัฒนำกำร  พฒั นำกำรของร่ำงกำยและจิตใจ ของรำ่ งกำยและจติ ใจตำมวัย ตำมวยั (ในช่วงอำยุ ๙ – ๑๒ ปี) 2 พ 1.1 ป.4/2 อธิบำยควำมสำคัญของกล้ำมเนอ้ื  ควำมสำคญั ของกลำ้ มเน้ือ กระดูก  กระดูกและข้อที่มผี ลตอ่ สุขภำพ และข้อทมี่ ผี ลต่อสุขภำพ กำรเจริญเติบโตและพัฒนำกำร กำรเจรญิ เติบโตและพัฒนำกำร 3 พ 1.1 ป.4/3 อธบิ ำยวธิ ีดูแลกลำ้ มเน้ือ กระดกู  วิธีดูแลรักษำกล้ำมเน้ือ กระดูกและข้อ  และขอ้ ใหท้ ำงำนอยำ่ งมปี ระสิทธิภำพ ใหท้ ำงำนอยำ่ งมีประสทิ ธิภำพ 4 พ 2.1 ป.4/1 อธบิ ำยคณุ ลักษณะของควำมเป็น  คุณลักษณะของควำมเป็นเพื่อนและ  เพ่ือนและสมำชกิ ทดี่ ขี องครอบครัว สมำชิกทดี่ ีของครอบครวั 5 พ 2.1 ป.4/2 แสดงพฤตกิ รรมทเี่ หมำะสมกับเพศ  พฤติกรรมทเ่ี หมำะสมกับเพศของตน  ของตนตำมวัฒนธรรมไทย ตำมวัฒนธรรมไทย 6 พ 2.1 ป.4/3 ยกตัวอยำ่ งวิธีกำรปฏิเสธกำรกระทำ  วธิ กี ำรปฏเิ สธกำรกระทำที่เป็นอนั ตรำย  ทเ่ี ป็นอันตรำยและไม่เหมำะสม และไม่เหมำะสมในเรื่องเพศ ในเรอื่ งเพศ 7 พ 3.1 ป.4/1 ควบคมุ ตนเองเม่ือใช้ทักษะกำร  กำรเคล่อื นไหวร่ำงกำยแบบผสมผสำน  เคลือ่ นไหวในลักษณะผสมผสำนได้ ท้ังแบบอยกู่ ับที่ เชน่ กระโดดหมนุ ตวั ทัง้ แบบอยู่กับท่ี เคล่อื นท่ี และใช้ กระโดดเหยียดตวั แบบเคลอื่ นท่ี เชน่ อปุ กรณ์ประกอบ ซกิ แซ็ก วิ่งเปล่ียนทิศทำง ควบม้ำ และ แบบใชอ้ ปุ กรณ์ประกอบ เช่น บอล เชอื ก 8 พ 3.1 ป.4/2 ฝึกกำยบรหิ ำรท่ำมือเปล่ำประกอบ  กำยบรหิ ำรทำ่ มือเปลำ่ ประกอบจังหวะ  จงั หวะ 9 พ 3.1 ป.4/3 เลน่ เกมเลยี นแบบและกิจกรรม  เกมเลยี นแบบและกิจกรรมแบบผลัด  แบบผลัด 10 พ 3.1 ป.4/4 เลน่ กีฬำพ้ืนฐำนอย่ำงน้อย ๑ ชนิด  กีฬำพ้ืนฐำน เช่น แชร์บอล แฮนด์บอล  หว่ งขำ้ มตำขำ่ ย 11 พ 3.2 ป.4/1 ออกกำลงั กำย เล่นเกม และกีฬำ  กำรออกกำลงั กำย เล่นเกม ตำมควำมชอบ  ที่ตนเองชอบและมคี วำมสำมำรถ ของตนเองและเล่นกีฬำพนื้ ฐำนรว่ มกบั ในกำรวิเครำะหผ์ ลพัฒนำกำรของ ผู้อ่ืน ตนเองตำมตัวอยำ่ งและแบบปฏิบตั ิ  กำรวิเครำะห์ผลพัฒนำกำรของตนเอง ของผู้อ่ืน ในกำรออกกำลังกำย เลน่ เกม และ เล่นกฬี ำตำมตวั อยำ่ งและแบบปฏิบตั ิ ของผู้อื่น  คณุ ค่ำของกำรออกกำลงั กำย เล่นเกม และเล่นกีฬำทมี่ ีต่อสุขภำพ สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๒ ชั้น ที่ รหสั ตวั ช้ีวัด ตวั ชวี้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.4 12 พ 3.2 ป.4/2 ปฏิบัติตำมกฎ กติกำกำรเล่นกฬี ำ  กำรปฏบิ ตั ิตำมกฎ กติกำ กำรเล่นกีฬำ  พ้นื ฐำนตำมชนิดกีฬำท่ีเลน่ พนื้ ฐำนตำมชนิดกีฬำท่ีเล่น 13 พ 4.1 ป.4/1 อธิบำยควำมสัมพันธ์ระหว่ำง  ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงสิ่งแวดล้อม  ส่ิงแวดล้อมกับสุขภำพ กับสุขภำพ  กำรจัดส่ิงแวดล้อมท่ีถูกสุขลักษณะ และเอ้ือต่อสุขภำพ 14 พ 4.1 ป.4/2 อธิบำยสภำวะอำรมณ์ ควำมรู้สกึ  สภำวะอำรมณ์และควำมรูส้ กึ เชน่  ท่มี ผี ลต่อสขุ ภำพ โกรธ หงดุ หงิด เครียด เกลียด เสียใจ เศร้ำใจ วติ กกงั วล กลัว กำ้ วร้ำว อจิ ฉำ ริษยำ เบ่ือหน่ำย ท้อแท้ ดใี จ ชอบใจ รัก ชื่นชม สนุก สขุ สบำย  ผลท่มี ตี อ่ สขุ ภำพ ทำงบวก : สดชน่ื ยม้ิ แยม้ แจม่ ใส ร่ำเรงิ ฯลฯ ทำงลบ : ปวดศีรษะ ปวดท้อง เบ่ืออำหำร อ่อนเพลีย ฯลฯ 15 พ 4.1 ป.4/3 วิเครำะห์ข้อมลู บนฉลำกอำหำรและ  กำรวิเครำะห์ขอ้ มลู บนฉลำกอำหำร  ผลติ ภณั ฑ์สุขภำพ เพ่ือกำรเลอื กบรโิ ภค และผลติ ภัณฑ์สขุ ภำพ 16 พ 4.1 ป.4/4 ทดสอบและปรับปรุงสมรรถภำพ  กำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำย  ทำงกำยตำมผลกำรตรวจสอบ สมรรถภำพทำงกำย  กำรปรบั ปรงุ สมรรถภำพทำงกำยตำมผล กำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำย 17 พ 5.1 ป.4/1 อธิบำยควำมสำคัญของกำรใชย้ ำ  ควำมสำคัญของกำรใชย้ ำ  และใชย้ ำอยำ่ งถูกวธิ ี  หลักกำรใชย้ ำ 18 พ 5.1 ป.4/2 แสดงวธิ ีปฐมพยำบำลเม่ือไดร้ ับ  วิธีปฐมพยำบำล  อันตรำยจำกกำรใช้ยำผดิ สำรเคมี - กำรใชย้ ำผดิ แมลงสัตวก์ ดั ต่อย และกำรบำดเจ็บ - สำรเคมี จำกกำรเล่นกีฬำ - แมลงสตั วก์ ัดต่อย - กำรบำดเจ็บจำกกำรเลน่ กีฬำ 19 พ 5.1 ป.4/3 วเิ ครำะห์ผลเสียของกำรสูบบุหร่ี  ผลเสยี ของกำรสบู บหุ ร่ี กำรด่ืมสรุ ำ  และกำรดื่มสรุ ำทม่ี ตี ่อสขุ ภำพ และกำรป้องกนั และกำรป้องกนั รวม 19 ตวั ชี้วดั 13 6 สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

ตวั ชี้วัดและสาระการเรียนรแู้ กนกลางต้องรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรูศ้ ลิ ปะ ๒๓ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ชน้ั ท่ี รหสั ตวั ช้ีวดั ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.๔ 1 ศ ๑.๑ ป.๔/๑ เปรียบเทยี บรปู ลกั ษณะของรูปร่ำง  เส้น สี รปู รำ่ ง รปู ทรง พนื้ ผวิ และพืน้ ท่ีวำ่ ง  รปู ทรง ในธรรมชำติ สิ่งแวดลอ้ ม และ ในธรรมชำติ ส่ิงแวดล้อมและงำนทัศนศลิ ป์ งำนทัศนศลิ ป์ 2 ศ ๑.๑ ป.๔/๓ จำแนกทัศนธำตขุ องสิง่ ต่ำง ๆ  ในธรรมชำติ สิง่ แวดล้อม และงำนทัศนศิลป์ โดยเนน้ เร่ืองเส้น  อทิ ธิพลของสี กำรเลือกใช้สวี รรณะอุ่น  สี รูปร่ำง รปู ทรงพน้ื ผวิ และพื้นที่วำ่ ง และวรรณะเย็นเพ่ือถ่ำยทอดอำรมณ์  ควำมรู้สกึ ผำ่ นกำรวำดภำพถ่ำยทอด 3 ศ ๑.๑ ป.๔/๒ อภปิ รำยเกยี่ วกับอทิ ธพิ ลของ ควำมร้สู กึ และจนิ ตนำกำร สีวรรณะอนุ่ และสีวรรณะเยน็ ทม่ี ตี อ่ อำรมณข์ องมนุษย์  กำรใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ในกำรวำดภำพ  และกำรสรำ้ งงำนพิมพภ์ ำพ  4 ศ ๑.๑ ป.๔/๗ วำดภำพระบำยสี โดยใชส้ ีวรรณะอุ่น และสีวรรณะเย็น ถำ่ ยทอดควำมรสู้ กึ  กำรใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ในกำรวำดภำพ  และจนิ ตนำกำร ระบำยสี  5 ศ ๑.๑ ป.๔/๙ เลือกใช้วรรณะสเี พื่อถ่ำยทอดอำรมณ์  กำรจัดระยะควำมลึก นำ้ หนัก  ควำมรู้สกึ ในกำรสร้ำงงำนทัศนศิลป์ และแสงเงำในกำรวำดภำพ  6 ศ ๑.๑ ป.๔/๔ มที ักษะพื้นฐำนในกำรใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์  ควำมเหมือนและควำมแตกต่ำง สรำ้ งสรรคง์ ำนพิมพภ์ ำพ ในงำนทศั นศิลป์ ควำมคิด ควำมรู้สึก ทถี่ ำ่ ยทอดในงำนทศั นศิลป์ 7 ศ ๑.๑ ป.๔/๕ มีทักษะพ้นื ฐำนในกำรใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ สร้ำงสรรคง์ ำนวำดภำพระบำยสี  งำนทศั นศลิ ป์ในวฒั นธรรมท้องถิ่น 8 ศ ๑.๑ ป.๔/๖ บรรยำยลกั ษณะของภำพโดยเนน้  งำนทศั นศิลปจ์ ำกวฒั นธรรมต่ำง ๆ  เรื่องกำรจดั ระยะ ควำมลึก น้ำหนัก  และแสงเงำในภำพ  โครงสรำ้ งของบทเพลง - ควำมหมำยของประโยคเพลง 9 ศ ๑.๑ ป.๔/๘ เปรียบเทยี บควำมคดิ ควำมรู้สึก - กำรแบง่ ประโยคเพลง ทถ่ี ่ำยทอดผำ่ นงำนทศั นศลิ ป์ ของตนเองและบคุ คลอน่ื 10 ศ ๑.๒ ป.๔/๑ ระบุ และอภปิ รำยเก่ียวกับ งำนทัศนศลิ ป์ ในเหตุกำรณ์ และงำนเฉลมิ ฉลองของวฒั นธรรม ในท้องถิ่น 11 ศ ๑.๒ ป.๔/๒ บรรยำยเกี่ยวกบั งำนทศั นศิลป์ ทม่ี ำจำกวัฒนธรรมตำ่ ง ๆ 12 ศ 2.1 ป.4/1 บอกประโยคเพลงอยำ่ งง่ำย สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๔ ชน้ั ท่ี รหัสตัวช้ีวัด ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้  ประเภทของเคร่ืองดนตรี  ป.4 13 ศ 2.1 ป.4/2 จำแนกประเภทของเครื่องดนตรี  เสียงของเครอื่ งดนตรีแต่ละประเภท  กำรเคล่ือนทข่ี ึน้ - ลงของทำนอง  ท่ีใช้ในเพลงที่ฟงั  รปู แบบจังหวะของทำนองจงั หวะ  รูปแบบจังหวะ 14 ศ 2.1 ป.4/3 ระบทุ ิศทำงกำรเคลื่อนทข่ี ึน้ – ลงงำ่ ย ๆ ของทำนอง รูปแบบจงั หวะ และ ควำมเร็วของจังหวะในเพลงที่ฟัง 15 ศ 2.1 ป.4/4 อำ่ น เขยี นโน้ตดนตรีไทยและสำกล  ควำมช้ำ - เร็วของจงั หวะ   เครอื่ งหมำยและสญั ลักษณ์ทำงดนตรี - กุญแจประจำหลกั - บรรทัดหำ้ เส้น - โน้ตและเครื่องหมำยหยุด - เสน้ ก้นั หอ้ ง 16 ศ 2.1 ป.4/5 รอ้ งเพลงโดยใชช้ ่วงเสยี งทเี่ หมำะสม  โครงสรำ้ งโน้ตเพลงไทย  กบั ตนเอง - กำรแบง่ ห้อง - กำรแบ่งจังหวะ  17 ศ 2.1 ป.4/6 ใช้และเกบ็ เคร่ืองดนตรอี ย่ำงถูกตอ้ ง  และปลอดภัย  กำรขับร้องเพลงในบันไดเสยี ง  ที่เหมำะสมกบั ตนเอง 18 ศ 2.1 ป.4/7 ระบุวำ่ ดนตรีสำมำรถใช้ในกำรสอื่  เร่ืองรำว  กำรใช้และกำรดูแลรกั ษำเคร่ืองดนตรี ของตน 19 ศ 2.2 ป.4/1 บอกแหลง่ ท่มี ำและควำมสัมพันธ์ ของวิถีชวี ิตไทย ท่สี ะทอ้ นในดนตรี  ควำมหมำยของเน้ือหำในบทเพลง และเพลงทอ้ งถนิ่  ควำมสมั พันธข์ องวถิ ีชวี ิตกับผลงำนดนตรี 20 ศ 2.2 ป.4/2 ระบุควำมสำคัญในกำรอนรุ ักษ์สง่ เสรมิ วัฒนธรรมทำงดนตรี - เนอ้ื หำเรือ่ งรำวในบทเพลงกับวถิ ชี ีวิต 21 ศ 3.1 ป.4/1 ระบทุ ักษะพน้ื ฐำนทำงนำฏศลิ ป์ - โอกำสในกำรบรรเลงดนตรี  และกำรละครท่ีใช้ส่อื ควำมหมำยและ  กำรอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมทำงดนตรี อำรมณ์ - ควำมสำคัญและควำมจำเป็น 22 ศ 3.1 ป.4/2 ใช้ภำษำทำ่ และนำฏยศัพท์ หรือศพั ทท์ ำงกำรละครงำ่ ย ๆ ในกำรอนุรักษ์ ในกำรถำ่ ยทอดเรื่องรำว - แนวทำงในกำรอนุรกั ษ์ 23 ศ 3.1 ป.4/3 แสดงกำรเคลื่อนไหวในจังหวะตำ่ ง ๆ ตำมควำมคดิ ของตน  หลกั และวิธกี ำรปฏบิ ตั ินำฏศิลป์  - ภำษำทำ่ - นำฏยศพั ท์  กำรใช้ภำษำทำ่ และนำฏยศัพท์  ประกอบเพลงปลกุ ใจและเพลงพระรำชนิพนธ์  กำรใช้ศัพท์ทำงกำรละคร ในกำรถ่ำยทอดเรื่องรำว  กำรประดิษฐ์ท่ำทำงหรือท่ำรำ ประกอบจังหวะพื้นเมือง สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๕ ชั้น ที่ รหัสตัวชี้วดั ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.4 24 ศ 3.1 ป.4/4 แสดงนำฏศิลปเ์ ปน็ คแู่ ละหมู่   กำรแสดงนำฏศิลป์ ประเภทคู่และหมู่ 25 ศ 3.1 ป.4/5 เล่ำสงิ่ ท่ีชื่นชอบในกำรแสดง - รำวงมำตรฐำน  โดยเน้นจุดสำคัญของเรอ่ื ง - ระบำ 26 ศ 3.2 ป.4/1 และลักษณะเดน่ ของตวั ละคร  27 ศ 3.2 ป.4/4 อธิบำยประวตั คิ วำมเปน็ มำของ  กำรเล่ำเรือ่ ง  28 ศ 3.2 ป.4/2 นำฏศิลป์ หรอื ชดุ กำรแสดงอยำ่ งงำ่ ย ๆ - จดุ สำคญั ระบุเหตุผลท่ีควรรกั ษำและสืบทอด - ลักษณะเดน่ ของตัวละคร 29 ศ 3.2 ป.4/3 กำรแสดงนำฏศิลป์ เปรยี บเทยี บกำรแสดงนำฏศิลป์  ควำมเป็นมำของนำฏศิลป์ กำรละเลน่ กับกำรแสดงที่มำจำกวัฒนธรรมอ่ืน ของหลวง และที่มำของชุดกำรแสดง - คุณคำ่ ของนำฏศลิ ปไ์ ทย อธบิ ำยควำมสำคัญของกำรแสดง ควำมเคำรพในกำรเรียนและกำรแสดง  กำรชมกำรแสดง  นำฏศิลป์ - เปรียบเทียบกำรนำฏศิลป์ กับกำรแสดง รวม ๒๙ ตวั ชี้วัด วัฒนธรรมอื่น  ควำมเปน็ มำของนำฏศิลป์  - กำรทำควำมเคำรพก่อนเรียน และก่อนแสดงนำฏศิลป์ ๑๕ ๑๔ สำหรบั กำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๖ ตวั ชีว้ ัดและสาระการเรยี นรูแ้ กนกลางตอ้ งรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ การดารงชวี ิต ประกอบดว้ ย งานบา้ น งานเกษตร งานช่าง งานประดิษฐ์ งานธรุ กิจ และงานอ่ืน ๆ แต่ไมไ่ ดก้ าหนดให้ จดั การเรียนรคู้ รบทั้ง ๕ งาน เปน็ การเปิดโอกาสให้เลอื กตามความเหมาะสม ในท่ีนเ้ี ป็นเพยี งตวั อย่างของงาน เทา่ น้ัน ช้นั ที่ รหัสตวั ช้ีวัด ตัวชีว้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.๔ ๑ ง ๑.๑ ป.๔/๑ อธิบายเหตุผลในการทางาน  ทักษะการทางานตามข้ันตอนเพื่อใหบ้ รรลุ  ใหบ้ รรลุเปา้ หมาย เป้าหมาย โดยคานงึ ถึงการใช้พลงั งานและ 2 ง ๑.๑ ป.๔/๒ ทางานบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ทรพั ยากรอย่างประหยดั คุ้มค่า  อย่างเป็นขน้ั ตอนด้วยความขยัน โดยฝกึ ปฏบิ ตั ิผา่ นงาน เชน่  อดทน รับผดิ ชอบ และซือ่ สัตย์ - จดั ตเู้ ส้ือผ้า โตะ๊ เขียนหนงั สือ 3 ง ๑.๑ ป.๔/๓ ปฏิบัตติ นอยา่ งมีมารยาท และกระเปา๋ นกั เรยี น ในการทางาน - ขยายพันธ์ุพชื - ประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุ 4 ง ๑.๑ ป.๔/๔ ใชพ้ ลังงานและทรพั ยากร ธรรมชาตใิ นทอ้ งถน่ิ  ในการทางานอยา่ งประหยัด - ทาบญั ชีรับ-จ่ายสว่ นตวั และคมุ้ ค่า  มารยาทในการทางานกลมุ่ เชน่ - เป็นผู้นา ผูต้ าม - เคารพข้อตกลงรว่ มกัน - รบั ผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมาย  คุณลักษณะการทางาน เชน่ ขยนั อดทน รบั ผิดชอบ และซ่ือสัตย์ 5 ง 2.๑ ป.๔/๑ อธบิ ายความหมายและ  ความหมายและความสาคญั ของอาชีพ  ความสาคัญของอาชีพ รวม 5 ตัวชี้วัด 23 ยกเลิกมาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชี้วดั สาระท่ี 2 และสาระที่ 3 คงเหลอื 2 สาระ คอื สาระท่ี 1 การดาเนินชีวิตและครอบครัว และสาระท่ี 4 การอาชีพ และเปลยี่ นชอื่ สาระที่ 4 การอาชีพ เป็นสาระที่ 2 การอาชีพ ตามคาสงั่ สพฐ. ที่ 921/2561 ลงวนั ท่ี 3 พฤษภาคม 2561 สาหรบั การจัดการเรยี นรู้ ปกี ารศึกษา 2564 ภายใตส้ ถานการณแ์ พร่ระบาดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)

ตวั ชีว้ ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลางตอ้ งรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) ๒๗ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ชัน้ ที่ รหสั ตวั ช้ีวดั ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.4 1 ต 1.1 ป.4/1 ปฏบิ ตั ิตำมคำสัง่ คำขอร้อง และ  คำสั่งและคำขอร้องทใี่ ชใ้ นห้องเรียน  คำแนะนำ (instructions) ง่ำย ๆ และคำแนะนำในกำรเลน่ เกม กำรวำดภำพ ที่ฟังหรืออ่ำน หรือกำรทำอำหำรและเคร่ืองด่มื - คำสั่ง เช่น Look at the…/here/over there./Say it again./Read and draw./ Put a/an…in/on/under a/an…/ Don’t go over there. etc. - คำขอรอ้ ง เช่น Please take a queue./ Take a queue, please./Can you help me, please? etc. - คำแนะนำ เชน่ You should read everyday./Think before you speak./ - คำศัพท์ท่ีใช้ในกำรเล่นเกม Start./ My turn./Your turn./Roll the dice./ Count the number./Finish./ - คำบอกลำดับขนั้ ตอน First,... Second,… Then,… Finally,... etc. 2 ต 1.1 ป.4/2 อำ่ นออกเสียงคำ สะกดคำ  คำ กลุ่มคำ ประโยค ข้อควำม บทพดู เข้ำจงั หวะ  อำ่ นกล่มุ คำ ประโยค ขอ้ ควำมงำ่ ย ๆ และกำรสะกดคำ และบทพูดเขำ้ จงั หวะถูกตอ้ ง  กำรใชพ้ จนำนุกรม ตำมหลกั กำรอ่ำน  หลกั กำรอ่ำนออกเสียง เช่น - กำรออกเสียงพยัญชนะต้นคำและพยัญชนะ ท้ำยคำ - กำรออกเสียงเนน้ หนัก-เบำ ในคำและกลุ่มคำ - กำรออกเสียงตำมระดับเสยี งสูง-ต่ำในประโยค 3 ต 1.1 ป.4/3 เลือก/ระบภุ ำพหรอื สัญลักษณ์  กลมุ่ คำ ประโยคเด่ยี ว สัญลักษณ์ เครื่องหมำย  หรือเคร่อื งหมำยตรงตำมควำมหมำย และควำมหมำยเกีย่ วกับตนเอง ครอบครวั ของประโยคและข้อควำมส้ัน ๆ โรงเรยี น สงิ่ แวดลอ้ ม อำหำร เคร่อื งด่ืม ที่ฟงั หรืออ่ำน เวลำว่ำงและนันทนำกำร สุขภำพและสวสั ดิกำร กำรซือ้ -ขำย และลมฟำ้ อำกำศ เปน็ วงคำศัพท์ สะสมประมำณ ๕๕๐ - ๗๐๐ คำ (คำศัพท์ทีเ่ ปน็ รูปธรรมและนำมธรรม) สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๘ ช้นั ท่ี รหสั ตัวช้ีวดั ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.4 4 ต 1.1 ป.4/4 ตอบคำถำมจำกกำรฟงั และอ่ำน  ประโยค บทสนทนำ นิทำนที่มภี ำพประกอบ  ประโยค บทสนทนำ และนทิ ำน คำถำมเก่ยี วกับใจควำมสำคัญของเร่ือง เชน่ ง่ำย ๆ ใคร ทำอะไร ท่ไี หน - Yes/No Question เชน่ Is/Are/Can…? Yes,…is/are/can./ No,…isn’t/aren’t/can’t. Do/Does/Can/Is/Are...? Yes/No… etc. - Wh-Question เช่น Who is/are…? He/She is…/They are… What…?/Where…? It is …/They are… What...doing? …is/am/are… etc. - Or-Question เชน่ Is this/it a/an…...or a/an…? It is a/an… etc. 5 ต 1.2 ป.4/1 พูด/เขยี นโต้ตอบในกำรสอื่ สำร  บทสนทนำท่ใี ชใ้ นกำรทกั ทำย กล่ำวลำ  ระหว่ำงบคุ คล ขอบคุณ ขอโทษ กำรพูดแทรกอยำ่ งสภุ ำพ ประโยค/ข้อควำมที่ใช้แนะนำตนเอง เพ่ือน และบคุ คลใกล้ตัว และสำนวนกำรตอบรบั เชน่ Hi/Hello/Good morning/ Good afternoon/Good evening/I am sorry./ How are you?/I’m fine. Thank you. And you?/Hello. I am…/Hello,…I am… This is my sister. Her name is… Hello,…/Nice to see you. Nice to see you too./Goodbye./Bye./ See you soon/later./Thanks./ Thank you./Thank you very much./ You’re welcome./It’s O.K. etc. 6 ต 1.2 ป.4/2 ใช้คำสง่ั คำขอร้อง และคำขออนุญำต  คำสัง่ คำขอรอ้ ง และคำขออนุญำต  ง่ำย ๆ ทใ่ี ช้ในหอ้ งเรยี น 7 ต 1.2 ป.4/3 พดู /เขยี นแสดงควำมต้องกำร  คำศัพท์ สำนวนภำษำ และประโยคทใี่ ช้  ของตนเอง และขอควำมช่วยเหลือ แสดงควำมต้องกำรและขอควำมช่วยเหลอื ในสถำนกำรณง์ ่ำย ๆ ในสถำนกำรณ์ตำ่ ง ๆ เชน่ I want …/ Please…/May…?/I need your help./ Please help me./Help me! etc. สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๙ ช้นั ท่ี รหสั ตวั ช้ีวัด ตวั ชีว้ ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.4 8 ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขียนเพ่ือขอและให้ข้อมลู  คำศัพท์ สำนวนภำษำ และประโยคท่ีใชข้ อ  เก่ยี วกบั ตนเอง เพอื่ นและครอบครัว และให้ข้อมลู เกี่ยวกับตนเอง สง่ิ ใกลต้ วั เพื่อน และครอบครวั เช่น What’s your name? My name is… What time is it? It is one o’clock. What is this? It is a/an… How many…are there? There is a/an…/ There are… Where is the ….? It is in/on/under… etc. 9 ต 1.2 ป.4/5 พูดแสดงควำมรสู้ ึกของตนเอง  คำและประโยคทใ่ี ช้แสดงควำมรสู้ ึก เชน่ ดใี จ  เกี่ยวกบั เรอ่ื งต่ำง ๆ ใกล้ตวั และ เสยี ใจ ชอบ ไม่ชอบ รัก ไม่รัก เช่น กิจกรรมตำ่ ง ๆ ตำมแบบท่ีฟัง I/You/We/They like…/He/She likes… I/You/We/They love…/He/She loves… I/You/We/They don’t like/love/feel… He/She doesn’t like/love/feel… I/You/We/They feel… etc. 10 ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขยี นให้ขอ้ มลู เกี่ยวกับตนเอง  ประโยคและข้อควำมท่ใี ชใ้ นกำรพดู ให้ข้อมลู  และเร่ืองใกล้ตวั เกี่ยวกับตนเอง บคุ คล สตั ว์ และเรอ่ื งใกล้ตัว เช่น ชือ่ อำยุ รูปร่ำง สี ขนำด รูปทรง ส่งิ ต่ำง ๆ จำนวน ๑ - ๑๐๐ วัน เดอื น ปี ฤดูกำล ตำแหน่งของสง่ิ ตำ่ ง ๆ  เครื่องหมำยวรรคตอน 11 ต 1.3 ป.4/2 พดู /วำดภำพแสดงควำมสัมพันธ์  คำ กลมุ่ คำท่มี ีควำมหมำยสมั พนั ธ์กบั สง่ิ ต่ำง ๆ  ของส่ิงต่ำง ๆ ใกล้ตัวตำมท่ีฟัง ใกล้ตัว เชน่ กำรระบุ/เชอ่ื มโยงควำมสมั พนั ธ์ หรืออ่ำน ของภำพกับคำ หรือกลุ่มคำ โดยใชภ้ ำพ แผนภมู ิ แผนภำพ แผนผัง 12 ต 1.3 ป.4/3 พดู แสดงควำมคิดเห็นง่ำย ๆ  ประโยคทใี่ ชใ้ นกำรแสดงควำมคิดเหน็ เก่ยี วกับ  เกี่ยวกับเรอ่ื งตำ่ ง ๆ ใกล้ตัว เรือ่ งต่ำง ๆ ใกล้ตัว 13 ต 2.1 ป.4/1 พูดและทำท่ำประกอบอย่ำงสุภำพ  มำรยำทสงั คมและวฒั นธรรมของเจำ้ ของภำษำ  ตำมมำรยำทสงั คมและวัฒนธรรม เชน่ กำรขอบคุณ ขอโทษ กำรใช้สีหน้ำท่ำทำง ของเจำ้ ของภำษำ ประกอบกำรพูดขณะแนะนำตนเอง กำรสัมผัสมือ กำรโบกมือ กำรแสดงควำมรู้สึกชอบ/ไม่ชอบ กำรแสดงอำกำรตอบรบั หรือปฏิเสธ สำหรบั กำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๐ ชนั้ ที่ รหัสตัวชี้วัด ตวั ชวี้ ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.4 14 ต 2.1 ป.4/2 ตอบคำถำมเก่ียวกบั เทศกำล/  คำศพั ท์และขอ้ มูลเกย่ี วกับเทศกำล/วนั สำคัญ/  วนั สำคัญ/งำนฉลอง และ งำนฉลอง และชวี ิตควำมเป็นอยู่ของเจ้ำของภำษำ ชีวติ ควำมเป็นอยงู่ ่ำย ๆ เชน่ วนั ครสิ ต์มำส วนั ขนึ้ ปีใหม่ เคร่อื งแตง่ กำย ของเจำ้ ของภำษำ ฤดกู ำล อำหำร เครอ่ื งดืม่ 15 ต 2.1 ป.4/3 เขำ้ ร่วมกจิ กรรมทำงภำษำ  กิจกรรมทำงภำษำและวฒั นธรรม เชน่  และวัฒนธรรมที่เหมำะกับวัย กำรเล่นเกม กำรร้องเพลง กำรเลำ่ นิทำน ประกอบท่ำทำง วันครสิ ต์มำส วนั ข้นึ ปีใหม่ 16 ต 2.2 ป.4/1 บอกควำมแตกตำ่ งของเสยี งตวั อกั ษร  ควำมแตกต่ำงของเสยี งตวั อกั ษร คำ กลุม่ คำ  คำ กล่มุ คำ ประโยค และข้อควำม และประโยคของภำษำต่ำงประเทศ ของภำษำต่ำงประเทศและภำษำไทย และภำษำไทย 17 ต 2.2 ป.4/2 บอกควำมเหมือน/ควำมแตกต่ำง  ควำมเหมือน/ควำมแตกตำ่ งระหว่ำงเทศกำล  ระหว่ำงเทศกำลและงำนฉลอง และงำนฉลองตำมวฒั นธรรมของเจำ้ ของภำษำ ตำมวฒั นธรรมของเจ้ำของภำษำ กบั ของไทย กับของไทย 18 ต 3.1 ป.4/1 คน้ คว้ำ รวบรวมคำศพั ทท์ ี่เกย่ี วข้อง  กำรค้นควำ้ กำรรวบรวม และกำรนำเสนอ  กับกลมุ่ สำระกำรเรียนรู้อน่ื และ คำศัพทท์ เี่ กีย่ วข้องกบั กลุ่มสำระกำรเรียนรู้อน่ื นำเสนอดว้ ยกำรพูด/กำรเขียน 19 ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อำ่ นในสถำนกำรณ์  กำรใชภ้ ำษำในกำรฟงั และพดู /อ่ำน  ทีเ่ กดิ ข้ึนในหอ้ งเรยี นและ ในสถำนกำรณท์ ่เี กิดข้ึนในห้องเรียน สถำนศกึ ษำ และสถำนศึกษำ 20 ต 4.2 ป.4/1 ใชภ้ ำษำตำ่ งประเทศในกำรสืบคน้  กำรใชภ้ ำษำต่ำงประเทศในกำรสืบค้น  และรวบรวมข้อมูลตำ่ ง ๆ และกำรรวบรวมข้อมูลตำ่ ง ๆ รวม 20 ตัวช้ีวัด 17 3 สำหรบั กำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)