เลม่ ท่ี 1 เรื่อง เร่มิ ต้นภาษาซี 1 เอกสารประกอบการเรียน 1 มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ง 3.1 เขา้ ใจ เหน็ คุณค่าและใชก้ ระบวนการเทคโนโลยสี ารสนเทศในการสืบคน้ ขอ้ มลู การเรยี นรู้ การส่อื สาร การแกป้ ัญหา การทางาน และอาชีพอยา่ งมีประสิทธภิ าพ ประสิทธผิ ล มคี ณุ ธรรม ตัวช้ีวัด 1. ข้ันตอนการพัฒนาโปรแกรม มี 5 ข้ันตอน ได้แก่ การวิเคราะห์ปัญหา การออกแบบโปรแกรม การเขียนโปรแกรม การทดสอบโปรแกรม และการจดั ทาเอกสารประกอบ 2. การเขียนโปรแกรม เชน่ ซี จาวา ปาสคาล วชิ วลเบสกิ ซีชารป์ 3. การเขยี นโปรแกรมในงานด้านต่างๆ เช่น การจดั การข้อมูล การวเิ คราะห์ข้อมลู การแก้ปญั หา ในวชิ าคณติ ศาสตร์ และวทิ ยาศาสตร์ การสรา้ งชน้ิ งาน สาระสาคัญ ภาษาซี ถูกสร้างขึน้ มาเพื่อช่วยให้การเขียนโปรแกรมง่ายยิ่งข้ึน เป็นภาษาที่มีหลักการทางานท่ีไม่ ซับซ้อน เข้าใจง่าย และในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ผู้เขียนโปรแกรมจะต้องทราบถึงข้ันตอน วิธีการของการแก้ปัญหาของโปรแกรม ข้อมูลที่จะนาเข้า ผลลัพธ์ที่ต้องการ ตามขั้นตอนการพัฒนา โปรแกรมท้ัง 5 ขั้นตอน คือ การวิเคราะห์ปัญหา การออกแบบโปรแกรม การเขียนโปรแกรม การทดสอบโปรแกรม และการจัดทาเอกสารประกอบ เอกสารประกอบการเรียน เรือ่ ง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เลม่ ที่ 1 เรอื่ ง เร่มิ ต้นภาษาซี 2 ผลการเรยี นรู้ 1. นักเรยี นอธิบายข้ันตอนการพัฒนาโปรแกรมได้ 2. นักเรยี นบอกประวตั คิ วามเป็นมาของภาษาซีได้ 3. นักเรียนบอกลักษณะโครงสรา้ งภาษาซไี ด้ 4. นักเรียนอธิบายลักษณะของตัวแปลภาษาแต่ละชนดิ ได้ 5. นกั เรยี นเขา้ ใจความร้เู บือ้ งตน้ เกยี่ วกับการติดตงั้ โปรแกรมภาษาซี 6. นักเรยี นสามารถตดิ ต้งั โปรแกรม Dev c ได้ 7. นักเรยี นเขา้ ใจความรู้เบอ้ื งต้นเกย่ี วกับการใช้โปรแกรมภาษาซี 8. นกั เรียนสามารถใช้งานโปรแกรม Dev c ได้ เอกสารประกอบการเรยี น เร่อื ง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เล่มที่ 1 เรือ่ ง เรม่ิ ต้นภาษาซี 3 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรื่อง เร่ิมต้นภาษาซี คาชแี้ จง 1. แบบทดสอบฉบับนม้ี ี 10 ข้อ ขอ้ ละ 1 คะแนน คะแนนเต็ม 10 คะแนน เวลา 20 นาที 2. แบบทดสอบน้ีเป็นแบบเลอื กตอบ 3. ใหน้ กั เรียนทาเครื่องหมาย X ลงในกระดาษคาตอบ โดยเลือกตวั อักษร ก ข ค และ ง ที่ถูกท่สี ดุ เพียงขอ้ เดียว 1. ภาษาซสี บื สานมาจากภาษาใด ก. Pascal ข. B ค. Java ง. HTML 2. ขอ้ ใดคอื ผู้พัฒนาภาษาซี ก. เดนนสิ ริชช่ี ข. ชาล์ล แบบเบจ ค. เอดา เลฟิ เลซ ง. ทมิ เบอรเ์ นอรส์ -ลี 3. ภาษาซจี ัดเป็นภาษาระดับใด ก. ระดบั ต่า ข. ระดับกลาง ค. ระดบั สงู ง. ภาษาเครอื่ ง 4. โปรแกรมภาษาซจี ะเร่มิ ทางานจากฟังกช์ นั ใด ก. ฟังก์ชนั main ข. ฟังกช์ นั include ค. ฟังก์ชัน library ง. ฟงั ก์ชนั declare 5. ข้อใดไม่ใช่ข้นั ตอนการพฒั นาโปรแกรมโดยใชภ้ าษา ก. การเขียนและแกไ้ ขโปรแกรม ข. คอมไฟลโ์ ปรแกรม ค. การลิงค์โปรแกรม ง. การประกาศตวั แปร เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เล่มที่ 1 เร่อื ง เรม่ิ ตน้ ภาษาซี 4 6. ข้อใดไม่ใชส่ ว่ นประกอบหลกั ของโครงสร้างภาษาซี ก. สว่ นหัวของโปรแกรม (Preprocessor Directive) ข. สว่ นฟังกช์ ันหลัก (Main Function) ค. สว่ นของคาอธบิ ายโปรแกรม (Program Comment) ง. ส่วนคอมไพเลอร์ (Compiler) 7. ภาษาซีจัดเป็นภาษาท่ีใชต้ ัวแปลภาษาชนดิ ใด ก. Compiler ข. Translator ค. Interpreter ง. Assembler 8. เครอื่ งหมายใดตอ่ ไปนี้ ท่นี ามาใชส้ าหรบั อธิบายรายละเอยี ดภายในโปรแกรม ก. @ @ ข. /* */ ค. [ ] ง. { } 9. ประโยคคาส่งั ในภาษาซตี อ้ งลงทา้ ยดว้ ยเครื่องหมายใด ก. , (comma) ทาแบบทดสอบก่อนเรียนกนั แลว้ ข. \\n ศกึ ษาใบความรู้ท่ี 1 กนั ตอ่ เลยค่ะ ค. ; (semi-colon) ง. : (colon) 10. หากต้องการนาฟังก์ชันมาตรฐาน (stdio.h) มาใชง้ าน จะต้องประกาศอยา่ งไร ก. main(stdio.h) ข. { stdio.h } ค. printf(“<stdio.h>”) ง. #include “stdio.h” เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เล่มท่ี 1 เรื่อง เรม่ิ ต้นภาษาซี 5 ใบความรทู้ ี่ 1 เรือ่ ง ขนั้ ตอนการพฒั นาโปรแกรม ข้นั ตอนการพัฒนาโปรแกรม ในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพ่ือแก้ปัญหาตรงกับความต้องการ ผู้เขียนโปรแกรม จะต้องทราบจุดหมายของการเขียนโปกแกรม เช่น ข้อมูลท่ีจะต้องนาเข้า ลักษณะการทางานของ โปรแกรม รูปแบบการแสดงผลของผลลัพธ์ ซ่ึงหากมีการวางแผนจะทาให้การเขียนโปรแกรมเป็นไป ตามลาดับขั้นตอนจะทาให้ลดการซ้าซ้อนของขั้นตอนการเขียนโปรแกรมและไม่ทาให้เสียเวลามาก ขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรมจะช่วยให้การเขียนโปรแกรมเป็นไปอย่างเป็นระบบ ช่วยให้ง่ายต่อ การเขียนโปรแกรมในการแก้ปัญหา โดยท่ัวไปแล้วข้ันตอนการพัฒนาโปรแกรมจะประกอบด้วย 5 ขั้นตอนดังนี้ 1. การวเิ คราะห์ปญั หา 2. การออกแบบโปรแกรม 3. การเขียนโปรแกรม 4. การทดสอบโปรแกรม 5. จดั ทาเอกสารประกอบ จดั ทาเอกสารประกอบ การทดสอบโปรแกรม การเขียนโปรแกรม การออกแบบโปรแกรม การวเิ คราะห์ปญั หา ภาพท่ี 1.1 แสดงขนั้ ตอนการพัฒนาโปรแกรม เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เลม่ ที่ 1 เร่ือง เริ่มต้นภาษาซี 6 1. การวเิ คราะหป์ ญั หา เป็นขั้นตอนแรกท่ีผู้เขียนโปรแกรมจะต้องทา เพื่อการทางานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เขียนโปรแกรมจะต้องวิเคราะห์ปัญหาให้ทราบถึงความต้องการให้โปรแกรมแก้ปัญหาอะไร ทางาน อยา่ งไร ข้อมูลนาเข้ามอี ะไรบา้ ง โดยมีขั้นตอนย่อยดงั นี้ 1) กาหนดขอบเขตของปัญหา โดยการกาหนดรายละเอียดให้ชัดเจนว่าจะให้โปรแกรม ประมวลผลสิง่ ใดบา้ ง ตวั แปร ค่าคงทที่ ี่ต้องใช้เปน็ ลกั ษณะใด 2) กาหนดข้อมูลเข้าและผลลัพธ์ โดยต้องรู้ว่าข้อมูลท่ีจะส่งเข้าเป็นอย่างไร มีอะไรบ้าง เพอ่ื ให้โปรแกรมประมวลผลและแสดงผลลพั ธ์ 3) กาหนดวิธีการประมวลผล โดยจะต้องรู้ว่าจะให้คอมพิวเตอร์ประมวลผลอย่างไร จึงได้ ผลลัพธ์ตามต้องการ 2. การออกแบบโปรแกรม ขนั้ ตอนนี้จะใช้เคร่อื งมือชว่ ยในการออกแบบโปรแกรม โดยเขียนเป็นลาดบั ข้ันตอนการทางาน ของโปรแกรมที่เรียกว่า อัลกอริทึม (algorithm) ซึ่งจะแสดงข้ันตอนการแก้ปัญหา ใช้ประโยคท่ีชัดเจน ไม่คลุมเครือ มีรายละเอียดเพียงพอที่จะนาไปเขียนโปรแกรมให้ทางานจริง อัลกอริทึมนั้นอาจเขียน ให้อยู่ในรูปของรหัสจาลองหรือซูโดโค้ด (pseudo code) หรือเขียนเป็นผังงาน (flowchart) ก็ได้ โดยซูโดโค้ดจะเป็นคาอธิบายขั้นตอนการทางานของโปรแกรมเป็นคาย่อส่วนผังงานใช้สัญลักษณ์ต่างๆ แทนการทางานและทศิ ทางของโปรแกรม 3. การเขยี นโปรแกรม ขั้นตอนน้ีจะเขียนโปรแกรมเพ่ือให้คอมพิวเตอร์สามารถประมวลผลได้ โดยเปล่ียนขั้นตอน การทางานใหอ้ ยู่ในรูปรหัสภาษาคอมพิวเตอร์ การเขียนโปรแกรมจะต้องเขียนตามภาษาทีค่ อมพวิ เตอร์ เข้าใจโดยอาจใชภ้ าษาระดับสูง หรอื ระดับตา่ ซง่ึ สามารถเลือกได้หลายภาษา 4. การทดสอบและแกไ้ ขโปรแกรม หลังจากเขียนโปรแกรมจะต้องทดสอบความถูกต้องของโปรแกรมท่ีเขียนข้ึน หาจุดผิดพลาด ของโปรแกรม และตรวจสอบจนไม่พบจุดผิดพลาดอีก จุดผิดพลาดของโปรแกรมน้ีเรียกว่า บัก (bug) ส่วนการแก้ไขข้อผิดพลาดให้ถูกต้องเรียกว่า ดีบัก (debug) โดยท่ัวไปแล้วข้อผิดพลาดจากการเขียน โปรแกรมจะมี 2 ประเภท คอื เอกสารประกอบการเรียน เรอ่ื ง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เลม่ ที่ 1 เรอ่ื ง เร่ิมต้นภาษาซี 7 1) การเขียนคาสั่งไม่ถูกต้องตามหลักการเขียนโปรแกรมนั้นๆ ซ่ึงเรียกว่า syntax error หรือ coding error ข้อผิดพลาดประเภทนีเ้ รามกั พบตอนแปลภาษาโปรแกรมเป็นรหัสภาษาเครือ่ ง 2) ข้อผิดพลาดทางตรรกะ หรือ logic error เป็นข้อผดิ พลาดท่ีโปรแกรมทางานได้ แต่ผลลัพธ์ ออกมาไม่ถูกตอ้ ง 5. ทาเอกสารและบารงุ รกั ษาโปรแกรม ขั้น ต อ น นี้ จ ะท า ให้ ผู้ ใช้ ส า ม า รถ ใช้ งา น โป ร แ ก ร ม ได้ อ ย่ า งมี ป ระ สิ ท ธิ ภ าพ แ ล ะ ส ะ ด วก ใน การตรวจสอบขอ้ ผิดพลาดโดยเขยี นเป็นเอกสารประกอบขึน้ มา เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เลม่ ที่ 1 เรอื่ ง เริ่มตน้ ภาษาซี 8 แบบฝกึ หดั ท่ี 1.1 เรอ่ื ง ข้ันตอนการพฒั นาโปรแกรม จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรยี นอธบิ ายข้นั ตอนการพัฒนาโปรแกรมได้ คาช้ีแจง ให้นกั เรียนเขยี นขน้ั ตอนการพัฒนาโปรแกรมลงในกรอบสีเ่ หลยี่ มโดยเรียง ตามลาดับขัน้ ตอนให้ถูกต้อง จากตัวเลือกท่กี าหนดให้ จัดทาเอกสารประกอบ การออกแบบโปรแกรม การทดสอบโปรแกรม การเขียนโปรแกรม การวเิ คราะหป์ ัญหา เอกสารประกอบการเรยี น เรอื่ ง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เลม่ ที่ 1 เรอื่ ง เรม่ิ ตน้ ภาษาซี 9 ใบความรทู้ ี่ 2 เรื่อง ประวตั ภิ าษาซี ประวตั ภิ าษาซี เดนนสิ ริดชี (Dennis Ritchie) ภาษาซีเป็นภาษาท่ีถือว่าเป็นภาษาระดับสูง ถูกพัฒ นาโดย เดนนิส ริดชี (Dennis Ritchie) แห่งห้องทดลองเบลล์ (Bell Laboratories) ที่เมอร์รีฮิล มลรัฐนิวเจอร์ซ่ี ในปี ค.ศ. 1972 โดยเดนนิสได้ใช้หลักการของภาษา B ซ่ึงพัฒนาขึ้นโดย เคน ทอมสัน (Ken Tomson) ต้ังอยู่บน พ้ืนฐานของภาษา BCPL ท่ีถูกพัฒนาโดย Martin Richards การออกแบบและพัฒนาภาษาซีของ เดนนสิ ริดชี มีจุดมุ่งหมายใหเ้ ป็นภาษาสาหรับใช้เขยี นโปรแกรมปฏิบัติการระบบยนู ิกซ์ และได้ตั้งชื่อว่า ซี (C) เพราะเห็นว่า ซี (C) เปน็ ตัวอักษรตอ่ จากบี (B) ของภาษา BCPL ในปี ค.ศ. 1978 เดนนิส ริสซี่ และนายเบรน เครนิกฮาน (Brian W. Kernighan) ได้แต่ง หนังสือชื่อ “The C Programming Language” โดยสามารถนาภาษา C ท่ีสามารถนามาปรับใช้กับ คอมพิวเตอร์ในรูปแบบต่างๆได้มากขึ้น ในปี 1988 ได้มีการสร้างมาตรฐานของภาษา C โดย ANSI C และในปี 1990 องคก์ รมาตรฐานสากล (ISO) ได้ยอมรบั มาตรฐานท่ไี ด้สร้างขน้ึ ภายใต้ช่อื ANSI/ISO C เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เลม่ ที่ 1 เรอ่ื ง เรมิ่ ต้นภาษาซี 10 วิวัฒนาการของภาษาซี - ค.ศ. 1970 มีการพัฒนาภาษา B โดย Ken Thompson ซึ่งทางานบนเครื่อง DEC PDP- 7 ซ่ึง ทางานบนเคร่ืองไมโครคอมพิวเตอร์ไม่ได้ และยังมีข้อจากัดในการใช้งานอยู่ (ภาษา B สืบทอด มาจาก ภาษา BCPL ซง่ึ เขยี นโดย Marth Richards) - ค .ศ . 1972 Dennis M. Ritchie แ ล ะ Ken Thompson ได้ ส ร้ า งภ า ษ า C เพื่ อ เพิ่ ม ประสิทธิภาพ ภาษา B ใหด้ ียิ่งข้นึ ในระยะแรกภาษา C ไมเ่ ป็นทนี่ ยิ มแกน่ กั โปรแกรมเมอร์โดยทวั่ ไปนัก - ค.ศ. 1978 Brian W. Kernighan และ Dennis M. Ritchie ได้เขียนหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ ว่า The C Programming Language และหนังสือเล่มน้ีทาให้บุคคลทั่วไปรู้จักและนิยมใช้ภาษา C ในการเขียน โปรแกรมมากข้ึน - แต่เดมิ ภาษา C ใช้ Run บนเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ 8 bit ภายใตร้ ะบบปฏบิ ตั ิการ CP/M ของ IBM PC ซ่ึงในช่วงปี ค. ศ. 1981 เป็นช่วงของการพัฒนาเคร่ืองไมโครคอมพิวเตอร์ ภาษา C จึงมี บทบาทสาคัญในการนามาใช้บนเครื่อง PC ต้งั แต่นั้นเปน็ ตน้ มา และมกี ารพัฒนาต่อมาอีกหลาย ๆ คา่ ย ดังน้ันเพื่อกาหนดทิศทางการใช้ภาษา C ให้เป็นไปแนวทางเดียวกัน ANSI (American National Standard Institute) ได้กาหนดข้อตกลงที่เรียกว่า 3J11 เพ่ือสร้างภาษา C มาตรฐานข้ึนมา เรยี กวา่ ANSI C - ค.ศ. 1983 Bjarne Stroustrup แห่งห้องปฏิบัติการเบล (Bell Laboratories) ได้พัฒนา ภาษา C++ ข้ึนรายละเอียดและความสามารถของ C++ มีส่วนขยายเพ่ิมจาก C ท่ีสาคัญ ๆ ได้แก่ แนวความคิดของการเขียนโปรแกรมแบบกาหนดวัตถุเป้าหมายหรือแบบ OOP (Object Oriented Programming) ซ่ึงเป็นแนวการเขียนโปรแกรมท่ีเหมาะกับการพัฒนาโปรแกรมขนาดใหญ่ที่มี ความสลับซับซ้อนมาก มีข้อมูลท่ีใช้ในโปรแกรมจานวนมาก จึงนิยมใช้เทคนิคของการเขียนโปรแกรม แบบ OOP ในการพฒั นาโปรแกรมขนาดใหญ่ในปจั จุบันนี้ ลักษณะเด่นของภาษาซี 1. ความสามารถในการใช้งานบนคอมพิวเตอร์ที่แตกต่างกันได้ คือทางานบนคอมพิวเตอร์ หลายระดับ เช่น เมนเฟรมไปจนถึงไมโครคอมพิวเตอร์ และยังสามารถนาภาษาซีมาใช้บน ระบบปฏบิ ตั กิ ารทห่ี ลากหลายได้ 2. มีประสิทธิภาพในการทางานสูง มีการทางานท่ีรวดเร็ว การทางานเหมือนภาษาระดับต่า การจัดการหน่วยความจามปี ระสิทธิภาพสงู ชุดคาสั่งกระชับ เอกสารประกอบการเรียน เร่อื ง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เล่มที่ 1 เรอื่ ง เริม่ ต้นภาษาซี 11 3. ภาษาซีมีแนวคิดในการพัฒนาแบบ โปรแกรมเชิงโครงสร้าง จึงเหมาะสาหรับนามาพัฒนา ระบบ 4. มคี วามยดื หยนุ่ สูง สามารถเขียนใช้งานร่วมกับภาษาระดบั ตา่ อยา่ งภาษาแอสแซมบลีได้ รจู้ กั กับประวตั ิภาษาซี กันแล้ว ไปลองทา แบบฝกึ หดั กันเลย… เอกสารประกอบการเรยี น เรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เลม่ ท่ี 1 เรื่อง เร่ิมตน้ ภาษาซี 12 แบบฝึกหัดท่ี 1.2 เรอื่ ง ประวัติภาษาซี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ นักเรียนบอกประวัติความเป็นมาของภาษาซีได้ คาชีแ้ จง ให้นกั เรียนตอบคาถามต่อไปนใ้ี ห้ถูกตอ้ ง 1. ใหน้ ักเรียนบอกประวัติความเปน็ มาของภาษาซีมาโดยสังเขป ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… …………………………………………………………………………………………………..……………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………..….. 2. ใหน้ ักเรยี นบอกลักษณะเด่นของภาษาซี ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………..….. …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………..….. เอกสารประกอบการเรยี น เรอ่ื ง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เลม่ ท่ี 1 เรอ่ื ง เริม่ ต้นภาษาซี 13 ใบความรทู้ ี่ 3 เรื่อง โครงสรา้ งโปรแกรมภาษาซี โครงสรา้ งโปรแกรมภาษาซี ลกั ษณะโครงสร้างภาษาซีแบ่งออกไดเ้ ปน็ 4 ส่วน ดงั นี้ 1. พรโี ปรเซสเซอรไ์ ดเร็กทีฟ (preprocessor directives) 2. สว่ นฟงั ก์ชนั หลกั (the main () function) 3. ประโยคคาสง่ั (compound statement) 4. สว่ นอธบิ ายโปรแกรม (program comment) 1. พรีโปรเซสเซอร์ไดเรก็ ทีฟ (preprocessor directives) ส่วนนี้ถือเป็นส่วนสาคัญอย่างมากของภาษาซี จะใช้สาหรับเรียกไฟล์ที่โปรแกรมต้องการ ในการทางาน และกาหนดค่าต่างๆ ซึ่งจะต้องเร่ิมต้นด้วยเคร่ืองหมาย ไดเร็กทีฟ # และตามด้วย ช่ือโปรแกรมหรือชื่อตัวแปรท่ีต้องการกาหนดค่า ส่วนน้ีอาจเรียกอีกช่ือหนึ่งว่า ส่วนหัวโปรแกรม สาหรับไดเรก็ ทีฟทใ่ี ช้กันบอ่ ยๆ ไดแ้ ก่ #include เป็นการแจ้งให้คอมไพล์เลอร์อ่านไฟล์อื่นเข้ามาคอมไพล์ร่วมด้วย รูปแบบการใช้ จะทาได้โดยการเขยี น #include แล้วตามดว้ ยชื่อไฟลด์ งั น้ี #include ชื่อไฟล์ หมายความว่า อ่านไฟล์ stdio.h เขา้ มาด้วย #include <stdio.h> การกาหนดช่ือไฟล์ตามหลัง #include น้ัน อาจใช้เครื่องหมาย <> คร่อมไฟล์ก็ได้ ซ่ึงจะเป็น การอ่านไฟล์ไดเร็กทอร่ีกาหนดไว้กอ่ น แต่ถา้ ใช้ “” เป็นการอ่านไฟลไ์ ดเรก็ ทอรปี่ ัจจบุ นั ทกี่ าลงั ติดตอ่ อยู่ และไฟล์ท่ีจะ include มานี้จะต้องไม่มีฟังก์ชัน main() โดยมากแล้วจะประกอบด้วยโปรแกรมย่อย ค่าคงท่ี หรือข้อกาหนดต่าง เฮดเดอร์ไฟล์ช่ือ stdio.h ถือเป็นเฮดเดอร์ไฟล์ท่ีมักถูกเรียกใช้งานอยู่เสมอ เพราะเก่ียวข้องกับอินพุตและเอาต์พุด เช่น ฟังก์ชัน prinft() ฟังก์ชัน scanf() ซึ่งท้ังสองฟังก์ชัน เอกสารประกอบการเรยี น เรอื่ ง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เลม่ ที่ 1 เร่ือง เริม่ ต้นภาษาซี 14 ถูกผนวกอยู่ในเฮดเดอร์ไฟล์ stdio.h และหากโปรแกรมมีการเรียกใช้งานสองฟังก์ชั่นน้ี แต่ไม่ได้ผนวก เฮดเดอร์ไฟล์ stdio.h เขา้ ไป เมอื่ คอมไพลโ์ ปรแกรมกจ็ ะเกดิ ข้อผดิ พลาด #define เป็นการกาหนดค่านิพจนต์ า่ งๆใหช้ ื่อตรงกับตัวแปร โดยมีรปู แบบดังน้ี #define A 15; กาหนดคา่ A มีคา่ เท่ากับ 15 #define B 2+4/2 กาหนด B มีค่าเปน็ 2+4/2 ตวั อยา่ งพรโี ปรเซสเซอร์ท่ีมีอยู่ในภาษาซี #else #elif #undef ##line #if #ifdef #ifndef #endif #include #define #error #pragma 2. ส่วนฟังก์ชนั หลกั (the main () function) ส่วนน้ีทาหน้าท่ีเหมือนกับเป็นโปรแกรมหลักที่ส่ังให้ชุดคาสั่งทางาน ซึ่งจะประกอบไปด้วย ประโยคคาสั่งต่างๆ ท่ีจะให้โปรแกรมทางาน โดยนาคาส่ังต่างๆมาเรียงต่อกัน และแต่ละประโยคคาส่ัง จะจบด้วยเคร่ืองหมายเซมิโคลอน (Semi colon ;) โดยโปรแกรมหลักน้ีจะเร่ิมต้นด้วย main() ตามด้วยเครอื่ งหมายปกี กาเปิด { และจบด้วยเคร่ืองหมายปีกกาปิด } 3. ประโยคคาสัง่ (compound statement) ประโยคคาสั่งในท่ีนห้ี มายถึง ชุดคาส่ังท่ีบรรจอุ ยใู่ นฟังก์ชันนน้ั ๆ ซ่งึ อาจเป็น ประโยคที่ใช้สาหรับประกาศตัวแปร หรือการกาหนดค่าเร่ิมต้นให้กับตัวแปรต่างๆ โดยตวั แปรทใ่ี ช้งานในโปรแกรม จาเป็นตอ้ งได้รับการประกาศชนิดข้อมลู ของตวั แปรนน้ั ๆด้วย ประโยคนิพจนค์ ณิตศาสตร์ เชน่ ประโยคคานวณตวั เลขต่างๆ ประโยคคาสัง่ ควบคมุ อ่ืนๆ เช่น คาสั่งควบคุมวงจรลูป คาสง่ั ควบคมุ เงอื่ นไข เปน็ ต้น 4. สว่ นอธิบายโปรแกรม (program comment) คาอธิบายโปรแกรม เป็นส่วนที่ผู้เขียนโปรแกรมนามาใช้อธิบายจุดสาคัญต่างๆ ภายใน โปรแกรม เช่น ใช้อธิบายจุดประสงค์ของโปรแกรมส่วนน้ันๆ รวมถึงป้องกันการหลงลืม กรณีที่ต้อง กลับมาปรับปรุงโปรแกรม ถอื เปน็ ส่วนสาคญั อยา่ งหนึ่งท่ีช่วยให้ผูเ้ ขยี นโปรแกรม หรือผู้ท่ีนาโปรแกรมนี้ ไปใช้ได้เข้าใจจุดมุ่งหมายของโปรแกรมในส่วนน้ันๆ โดยคอมไพเลอร์จะไม่นาส่วนน้ีมาประมวลผล รปู แบบการเขียนคาอธบิ าย สามารถเขยี นให้อยใู่ นรูปแบบ /* comment */ หรอื //comment ก็ได้ เอกสารประกอบการเรยี น เรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เลม่ ที่ 1 เรื่อง เร่มิ ตน้ ภาษาซี 15 ตัวอย่างการเขียนโปรแกรมภาษาซี #include “stdio.h” สว่ นหัว int main() สว่ นฟงั ก์ชันหลกั { } รูปที่ 1.2 แสดงตัวอยา่ งการเขยี นโปรแกรมภาษาซี ตัวแปลภาษา เนื่องจากภาษาคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะภาษาระดับสูง มีจุดประสงค์เพื่อให้มนุษย์สามารถ สื่อสารเพ่ือการเขียนโปรแกรมได้ง่ายข้ึน แต่ภาษาระดับสูงเป็นภาษาท่ีคอมพิวเตอร์ไม่รู้จัก ดังน้ัน จึงต้องนาภาษาระดับสูงมาผ่านกระบวนการแปลเพื่อให้เป็นภาษาเคร่ือง ตัวแปลภาษาแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ 1. อินเทอร์พรีเตอร์ (Interpreter) ตัวแปลชนิดนี้จะทาการแปลทีละคาสั่ง และจะปฏิบัติ ตามในคาสั่งน้ันๆ หากไม่พบข้อผิดพลาดใดๆ จะนาคาสั่งถัดไปมาแปลต่อ จะกระทาเช่นน้ีไปเร่ือยๆ หากพบขอ้ ผิดพลาด จะหยดุ ทางานทันทแี ละแจ้งข้อผิดพลาดให้ทราบทางหน้าจอ และคาสั่งทผ่ี ิดพลาด น้ีมิไดถ้ ูกสง่ั ให้ทางาน โปรแกรมก็จะยงั ทางานไดอ้ ย่นู น่ั เอง โปรแกรมต้นฉบบั อินเทอรพ์ รเี ตอร์ รหสั ภาษาเครือ่ ง แปลทลี ะคาสั่ง รปู ท่ี 1.3 แสดงขนั้ ตอนการทางานของอินเทอร์พรเี ตอร์ น เอกสารประกอบการเรยี น เรอ่ื ง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เล่มท่ี 1 เร่ือง เร่มิ ตน้ ภาษาซี 16 2. คอมไพลเลอร์ (Compiler) ตัวแปลชนิดนี้จะต่างกับอินเทอร์พรีเตอร์ ตัวแปลชนิดนี้ จะแปลแบบท้ังโปรแกรมเพียงคร้ังเดียว หากพบข้อผิดพลาด จะแจ้งข้อผิดพลาดทางหน้าจอ โปรแกรมเมอร์จะตอ้ งแกไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ ง แลว้ จึงคอมไพล์ใหมจ่ นไมพ่ บข้อผิดพลาด โปรแกรมต้นฉบับ คอมไพเลอร์ รหสั ภาษาเคร่ือง แปลท้งั โปรแกรม รูปท่ี 1.4 แสดงขนั้ ตอนการทางานของคอมไพเลอร์ น เอกสารประกอบการเรียน เร่อื ง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เลม่ ที่ 1 เร่อื ง เร่มิ ตน้ ภาษาซี 17 แบบฝกึ หดั ที่ 1.3 เร่อื ง โครงสรา้ งโปรแกรมภาษาซี จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. นักเรยี นบอกลกั ษณะโครงสร้างภาษาซไี ด้ 2. นกั เรียนอธิบายลกั ษณะของตัวแปลภาษาแตล่ ะชนดิ ได้ คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามต่อไปนี้ใหถ้ ูกต้อง 1. โครงสรา้ งของภาษาซีประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………..….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. 2. ใหน้ กั เรยี นยกตัวอยา่ งพรโี ปรเซสเซอรท์ ่ีมีอยู่ในภาษาซมี าอย่างน้อย 5 ตัวอย่าง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………..….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. 3. ให้นกั เรยี นอธบิ ายความแตกต่างระหว่างตวั แปลภาษาอนิ เทอรพ์ รเี ตอร์กบั คอมไพเลอร์ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………..….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เลม่ ท่ี 1 เรื่อง เร่มิ ตน้ ภาษาซี 18 ใบความรทู้ ี่ 4 เรือ่ ง การตดิ ตง้ั โปรแกรม Dev C ความรู้เบ้ืองตน้ เกี่ยวกบั โปรแกรมภาษาซี การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาต่างๆ สามารถเขียนคาส่ังด้วยการใช้โปรแกรม Text Editor ซ่ึงอาจใช้โปรแกรมพวก word Processor เขียนโดยไม่ใช้รูปแบบพิเศษต่าง ๆ หรือ ใช้โปรแกรมที่มีรูปแบบพิเศษน้อย ๆ เช่น Notepad เป็นต้น เขียนคาสั่งแล้วบันทึกเป็นไฟล์โปรแกรม ภาษาน้ัน ๆ เช่น ภาษาซี จะบันทึกเป็นไฟล์นามสกุล .c แล้วจึงเปล่ียนภาษาท่ีเขียนนั้นเป็นภาษาเครือ่ ง โดยใช้คอมไพเลอร์ (Compiler) ของภาษาคอมพิวเตอร์ที่เขียน เช่น คอมไพล์เลอร์ของภาษาซี ซ่ึงก็มี ผู้ผลิตหลายราย และตอ้ งเป็นไปตามมาตรฐาน ANSI C ซึ่งมรี ายละเอยี ดเพ่ิมเตมิ แตกตา่ งกนั ไป ในการเขียนโปรแกรมที่สะดวก ง่ายในการคอมไพล์และสร้างรหัสเป็นภาษาเครื่อง สามารถ ใช้ Editor และ Compiler ท่ีรวมกันไว้แล้ว ในชุดพัฒนาหรือเครื่องมือท่ีช่วยในการพัฒนาโปรแกรม เรียกว่า IDE (Integrated Development Environment) ซ่ึงเป็นโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ ผู้ที่เขียนโปรแกรมใช้ในการสร้างโปรแกรม โดยจะมี Editor สาหรับเขียนโค้ดของโปรแกรมและ มีตัวแปลภาษามาพร้อม ปัจจุบันมีการออกชุดพัฒนามาหลายรุ่นและเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น Turbo C++, Borland C++, Microsoft C/C++, Microsoft Visual C++, Microsoft Visual C#, Microsoft Visual C++ .NET ซ่ึงชุดพัฒนาแต่ละตวั มีวธิ กี ารนาไปใช้งานท่แี ตกตา่ งกัน เพราะพัฒนามา จากบริษัทต่างกัน แต่อย่างไรก็ตามการเขียนโปรแกรมภาษาซีไม่ว่าจะเป็น IDE ใด ก็มีหลักและวิธีการ ท่ีคล้ายกัน จะตา่ งกนั บ้างตรงรายละเอยี ดบางอย่าง ที่พัฒนาใหใ้ ช้งานไดง้ ่ายขึ้น ในการเรียนการสอนวิชานี้จะใช้ editor และ compiler ท่ีรวมกันไว้แล้ว ใน ชุดพัฒนาหรือ เครื่องมือท่ีช่วยในการพัฒนาโปรแกรม ภาษาอังกฤษเรียกว่า IDE (Intregal Devenlopment Environment) ซ่ึงเป็นโปรแกรมท่ีออกแบบมาเพื่อช่วยในการสร้างโปรแกรมของผู้ท่ีจะทาการเขียน โปรแกรมทางานได้ง่ายข้ึน ไม่ต้องแยกใช้ editor เขียนโปรแกรม แล้วเรียกใช้ compiler ทาการคอมไพล์โปรแกรมอีก โดย IDE ก็มีผู้ผลิตหลายราย โดยในการเรียนการสอนวิชานี้ จะใช้ IDE คือ Bloodshed Dev-C++ เอกสารประกอบการเรียน เรอ่ื ง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เล่มที่ 1 เรอ่ื ง เร่ิมตน้ ภาษาซี 19 ขนั้ ตอนการตดิ ตงั้ โปรแกรม Dev c 5.11 1. เปิด Folder Dev c 5.11 แล้ว Double Click ท่ี File Dev-Cpp 5.11 TDM-GCC 4.9.2 Setup Double Click ภาพท่ี 1.5 แสดงหน้าตา่ งไฟล์ท่ใี ช้ในการติดต้ังโปรแกรม Dev c CcfgggCCAuthor 2. จะเข้าสหู่ นา้ ต่างเลอื กภาษาในการตดิ ต้ัง ให้เลือกภาษา English กดปุ่ม OK > เพอ่ื ดาเนินการต่อ Click ภาพที่ 1.6 แสดงหน้าตา่ งการเลอื กภาษาในการติดตั้ง เอกสารประกอบการเรยี น เรอ่ื ง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เล่มท่ี 1 เรื่อง เรม่ิ ตน้ ภาษาซี 20 3. จะเข้าสหู่ นา้ ตา่ งเงอื่ นไขการใช้งานโปรแกรมของบริษัทผู้ผลติ คลกิ I Agree เพือ่ ยอมรับเงอื่ นไข Click ภาพท่ี 1.7 แสดงหนา้ ตา่ งเงื่อนไขการใชง้ านโปรแกรม CcfgggCCAuthor 4. จะเข้าสหู่ นา้ ต่างการติดตั้งส่วนเสรมิ ตา่ งๆ เพิ่มเตมิ ให้กับโปรแกรม คลกิ Next> เพ่ือดาเนนิ การต่อ Click ภาพที่ 1.8 แสดงหนา้ ต่างการตดิ ตั้งส่วนเสรมิ ต่างๆของโปรแกรม เอกสารประกอบการเรยี น เรือ่ ง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เลม่ ที่ 1 เรื่อง เรมิ่ ตน้ ภาษาซี 21 5. เข้าสหู่ น้าต่างการเลือกตาแหนง่ แฟ้มเพื่อการติดตง้ั คลิก Install Click ภาพท่ี 1.9 แสดงหน้าตา่ งการเลือกตาแหนง่ แฟม้ เพ่ือการติดตัง้ 6. โปรแกรมกาลังติดตง้ั ลงเคร่ือง รอจนกระทัง่ เสร็จสมบรู ณ์ ภาพท่ี 1.10 แสดงหน้าต่างความคบื หนา้ ของการตดิ ต้งั โปรแกรม เอกสารประกอบการเรียน เรอ่ื ง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เล่มที่ 1 เรือ่ ง เร่ิมต้นภาษาซี 22 7. หน้าตา่ งแสดงการตดิ ตั้งเรยี บรอ้ ย คลิก Finish Click ภาพที่ 1.11 แสดงหน้าต่างสิน้ สุดการตดิ ตง้ั โปรแกรม 8. หน้าต่างเลอื กภาษาในการใช้งานเร่ิมต้น คลกิ Next Click ภาพท่ี 1.12 แสดงหน้าตา่ งการเลอื กภาษาในการใช้งานเริม่ ต้น เอกสารประกอบการเรียน เร่ือง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เลม่ ท่ี 1 เรอื่ ง เรมิ่ ต้นภาษาซี 23 9. หนา้ ตา่ งเลือก คุณสมบตั ิของแบบอกั ษร สี และไอคอน คลิก Next Click ภาพท่ี 1.13 แสดงหน้าต่างการกาหนดคณุ สมบตั ิของแบบอักษร สี และไอคอน 10. หน้าตา่ งแจง้ การกาหนดคา่ ต่างๆ ของโปรแกรมเสรจ็ สมบรู ณ์ คลิก OK Click ภาพที่ 1.14 แสดงหนา้ ต่างแจ้งการกาหนดค่าตา่ งๆ ของโปรแกรมเสร็จ สมบูรณ์ เอกสารประกอบการเรยี น เรือ่ ง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เล่มท่ี 1 เรื่อง เริ่มต้นภาษาซี 24 11. หนา้ ตา่ งการใชง้ านโปรแกรม Dev C 5.11 ภาพที่ 1.15 แสดงหนา้ ตา่ งโปรแกรม Dev-c ++ 5.11 12. เมอ่ื ตดิ ต้ังโปรแกรม Dev c 5.11 ลงในเคร่ืองแล้ว จะปรากฏไอคอน สาหรบั เขา้ สู่โปรแกรมอยู่บน Desktop ของเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ เอกสารประกอบการเรยี น เรอ่ื ง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เล่มที่ 1 เรอ่ื ง เริม่ ตน้ ภาษาซี 25 ใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง การติดต้งั โปรแกรม Dev c จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. นักเรียนเข้าใจความรู้เบื้องต้นเก่ียวกับการตดิ ตั้งโปรแกรมภาษาซี 2. นกั เรียนสามารถตดิ ต้ังโปรแกรม Dev c ได้ คาช้แี จง ให้นักเรียนปฎบิ ัติตามหวั ข้อต่อไปนี้ 1. ติดตัง้ โปรแกรม Dev C 5.11 ลงเครื่องที่นักเรียนใช้อยู่ 2. เมื่อตดิ ตงั้ เสรจ็ ให้เรียกโปรแกรม Dev C 5.11 ขึ้นมาเพ่ือมาใช้งาน 3. เขียนปญั หาทพี่ บในการติดตัง้ โปรแกรม และวธิ ีแกป้ ญั หา ปญั หาที่พบ ........................................................................................................................ ....................................................................................................... .................................... ............................................................................................................................. .............. ............................................................................................................................. .............. ............................................................................................... ............................................ วธิ แี กป้ ัญหา................................................................................................................. ....... ........................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .............. ........................................................................................................................................... .................................................................................................................. ......................... เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เล่มที่ 1 เรือ่ ง เรม่ิ ตน้ ภาษาซี 26 ใบความรทู้ ี่ 5 เรื่อง การใช้งานโปรแกรม Dev C 1. การเรยี กใช้งานโปรแกรม Dev-C++ การเรียกใช้ Dev-C++ ไปที่ Start >All Programs> Bloodshed Dev-C++ คลกิ ท่ี Dev-C++ ดังรูป 2. คลิกท่ี All Program 3. คลิกที่ Bloodshed Dev-C++ 4. คลกิ ท่ี Dev-C++ 1. คลิกที่ start ภาพท่ี 1.16 แสดงหนา้ ตา่ งการเรียกใช้โปรแกรม Dev-c ++ 5.11 เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เล่มที่ 1 เรอ่ื ง เริม่ ต้นภาษาซี 27 หรอื คลิกที่ไอคอน สาหรบั เข้าสูโ่ ปรแกรมอยู่บน Desktop ของเครือ่ งคอมพวิ เตอร์ จะไดห้ น้าต่างโปรแกรม Dev-C++ ดงั รูป ภาพท่ี 1.17 แสดงหน้าต่างโปรแกรม Dev-c ++ 5.11 เอกสารประกอบการเรยี น เรอื่ ง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เล่มท่ี 1 เรือ่ ง เรม่ิ ต้นภาษาซี 28 2. สว่ นประกอบของโปรแกรม Dev-C++ โปรแกรม Dev-C++ ประกอบด้วย 7 ส่วนหลัก ๆ คอื 1 2 34 65 7 ภาพที่ 1.18 แสดงหน้าตา่ งส่วนประกอบโปรแกรม Dev-c ++ 5.11 1) ส่วนของแถบไทเทิล (Title Bar) เป็นแถบที่อยู่บนสุดของโปรแกรม จะมีชื่อโปรแกรม ภาษาซี แจง้ ให้ผ้ใู ชท้ ราบวา่ กาลงั ทากับแฟม้ ใด เช่น Untitled1 - Dev-C++ 5.11 2) ส่วนของแถบเมนู (Menu Bar) ส่วนนี้เป็นส่วนของเมนูคาส่ังต่าง ๆ 10 รายการ คือ File Edit Search View Project Execute Tools AStyle Window Help 3) ส่วนแถบเคร่ืองมือ (Tool Bars) เป็นส่วนของเครื่องมือ ที่รวมเอาเมนูคาส่ังท่ีใช้บ่อย ๆ เพ่ืออานวยความสะดวกในการเรียกใช้แทนเมนทู ี่มขี น้ั ตอนเขา้ ใช้หลายข้นั ตอน 4) ส่วนปุ่มรายการเลือก TDM-GCC ของโปรแกรม Dev-C++ ให้รองรับ 32-bit หรือ 64-bit 5) ส่วนของการแสดง Project/Classes/Debug เป็นส่วนท่ีอยู่ทางด้านซ้ายของโปรแกรม ใช้เพื่อแสดง Project หรือ Class ตา่ ง ๆ ของโปรแกรม เอกสารประกอบการเรยี น เรอ่ื ง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เลม่ ท่ี 1 เรอ่ื ง เริ่มต้นภาษาซี 29 6) ส่วนของพ้ืนที่การเขียนโปรแกรม (Editor) เป็นส่วนของพื้นท่ีทางานในการเขียนรหัส โปรแกรมภาษาซี 7) ส่วนแสดงสถานะของโปรแกรม (Status) อยู่ด้านล่างสุด ใช้เพ่ือบอกสถานะต่าง ๆ ในขณะท่ีกาลังเขียนโปรแกรม เช่น จานวนบรรทัดท้ังหมด หรือสถานะการพิมพ์แทรก/ พิมพท์ ับ 3. การใชง้ านเมนูต่าง ๆ ของโปรแกรม Dev-C++ 1) เมนู File ประกอบดว้ ยเมนูย่อย ๆ ท่ีควรรจู้ กั ดังนี้ ภาพท่ี 1.19 แสดงหนา้ ตา่ งเมนู File โปรแกรม Dev-c ++ 5.11 New --> เพ่ือสรา้ งไฟล์ใหม่ Open --> เพอ่ื เปิดไฟลท์ ีบ่ นั ทึกไว้ Save --> เพื่อบันทึกไฟลท์ ับไฟล์เดิม Save As --> เพื่อบนั ทึกไฟลเ์ ปน็ ช่ือใหม่ หรือเลือกบันทึกลงในโฟลเดอรอ์ ่ืน Save All --> เพอ่ื บนั ทึกไฟลห์ รือโปรเจ็กซ์ท้ังหมด ทเ่ี ปดิ ทางานอยู่ Close --> เพอ่ื ปดิ ไฟล์ท่ีกาลังใชอ้ ยู่ Close All --> เพื่อปดิ ไฟล์หรอื โปรเจก็ ซ์ท้ังหมดท่เี ปดิ อยู่ Exit --> เพื่อปดิ โปรแกรม Bloodshed Dev-C++ เอกสารประกอบการเรยี น เร่ือง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เลม่ ท่ี 1 เรื่อง เร่มิ ตน้ ภาษาซี 30 2) เมนู Edit ประกอบด้วยเมนยู ่อย ๆ ที่ควรร้จู ักดังนี้ ภาพที่ 1.20 แสดงหนา้ ตา่ งเมนู Edit โปรแกรม Dev-c ++ 5.11 Undo --> ยกเลิกคาสัง่ 1 ครงั้ Redu --> ใหท้ าซ้าคาส่งั 1 ครง้ั Cut --> ตดั ข้อความทีเ่ ลือก ไปไวใ้ นคลิปบอร์ด Copy --> คดั ลอกข้อความทเี่ ลือก ไปไว้ในคลปิ บอร์ด Paste --> วางขอ้ ความจากคลปิ บอร์ด ลงในตาแหน่งเคอรเ์ ซอร์ Select All --> เลอื กโค้ด หรือข้อความท้งั หมด ทอ่ี ย่ใู น Editor Insert Snippet --> เปน็ เคร่ืองมอื ช่วยจารปู แบบคาสั่ง โดยสามารถเลอื กแทรกรูปแบบ คาสัง่ ตา่ ง ๆ ได้ เอกสารประกอบการเรยี น เร่อื ง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เลม่ ท่ี 1 เรอื่ ง เรมิ่ ต้นภาษาซี 31 3) เมนู Search ประกอบด้วยเมนูยอ่ ย ๆ ท่คี วรรู้จกั ดังนี้ ภาพที่ 1.21 แสดงหน้าตา่ งเมนู Search โปรแกรม Dev-c ++ 5.11 Find --> คน้ หาคา หรอื ข้อความใน Editor Replace --> ให้แทนที่คาทค่ี ้นหา ด้วยคาใหม่ Search Again --> ใหค้ น้ ซ้า หรอื ค้นหาตอ่ ไป เอกสารประกอบการเรียน เรอื่ ง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เลม่ ท่ี 1 เรอ่ื ง เร่ิมต้นภาษาซี 32 4) เมนู View ประกอบดว้ ยเมนูยอ่ ย ๆ ท่ีควรร้จู กั ดงั นี้ ภาพที่ 1.22 แสดงหนา้ ตา่ งเมนู View โปรแกรม Dev-c ++ 5.11 Project/Class Browser --> เพ่อื แสดงหรือไมแ่ สดง Project/Class Browser Statusbar --> เพื่อแสดงหรือไม่แสดง Statusbar Toolbars --> เพื่อแสดงหรอื ไม่แสดง Toolbars ต่าง ๆ เอกสารประกอบการเรยี น เรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เลม่ ที่ 1 เร่ือง เรมิ่ ต้นภาษาซี 33 5) เมนู Project ประกอบดว้ ยเมนูยอ่ ย ๆ ทีค่ วรรจู้ กั ดังนี้ ภาพที่ 1.23 แสดงหน้าต่างเมนู Project โปรแกรม Dev-c ++ 5.11 New file --> เพือ่ สรา้ งไฟล์ใหมใ่ นโปรเจค Add to Project --> เพื่อเพ่ิมไฟล์เข้าโปรเจค Remove from Project --> เพ่อื ยา้ ยไฟลอ์ อกจากโปรเจค เอกสารประกอบการเรยี น เรือ่ ง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เลม่ ที่ 1 เร่อื ง เรม่ิ ตน้ ภาษาซี 34 6) เมนู Execute ประกอบด้วยเมนูย่อย ๆ ท่คี วรร้จู ักดังน้ี ภาพท่ี 1.24 แสดงหน้าตา่ งเมนู Execute โปรแกรม Dev-c ++ 5.11 Compile (F9) --> ส่งั ให้ Compile ซอร์สโค้ด ถ้าผา่ นจะได้ไฟล์ .exe Run (F10) --> สง่ั ให้โปรแกรม .exe ทางาน Compile & Run (F11) --> สงั่ ให้ Compile ถา้ ผา่ นให้ Run ไฟล์ .exe ต่อเลย Rebuild All (F12) --> ส่ังใหส้ ร้างไฟล์ .exe ใหม่ แทนที่ไฟล์เดิม เอกสารประกอบการเรยี น เรือ่ ง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เลม่ ท่ี 1 เรื่อง เร่มิ ต้นภาษาซี 35 7) เมนู tools ประกอบด้วยเมนยู ่อย ๆ ที่ควรรู้จกั ดังนี้ ภาพที่ 1.25 แสดงหน้าต่างเมนู tools โปรแกรม Dev-c ++ 5.11 Editor Options --> เป็นการตัง้ ค่าสภาพแวดล้อมให้กับ Editor เช่น กาหนด ขนาด Tabs สี แบบอักษร เป็นตน้ เอกสารประกอบการเรียน เร่อื ง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เลม่ ที่ 1 เร่อื ง เร่มิ ตน้ ภาษาซี 36 8) เมนู AStyle ประกอบด้วยเมนยู ่อย ๆ ท่คี วรรจู้ กั ดังน้ี ภาพท่ี 1.26 แสดงหน้าต่างเมนู ASyle โปรแกรม Dev-c ++ 5.11 Format Current File --> จดั รปู แบบไฟล์ปจั จุบนั Formatting Options --> ตัวเลอื กการจัดรปู แบบ เอกสารประกอบการเรียน เรอ่ื ง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เลม่ ที่ 1 เรือ่ ง เริ่มต้นภาษาซี 37 9) เมนู Window ประกอบดว้ ยเมนูย่อย ๆ ท่ีควรรู้จกั ดังนี้ ภาพท่ี 1.27 แสดงหน้าต่างเมนู Window โปรแกรม Dev-c ++ 5.11 Close All --> ปดิ หน้าตา่ งของ Editor ทง้ั หมด Full Screen Mode --> ใหแ้ สดงแบบเต็มจอ ถา้ ตอ้ งการยกเลิกแบบ Full Screen Next ให้ click ที่ X เพ่ือปิดหนา้ ตา่ ง Previous --> ใหแ้ สดงหนา้ ต่างของ Editor ถดั ไป --> ให้แสดงหนา้ ตา่ งของ Editor ก่อนหนา้ เอกสารประกอบการเรียน เร่ือง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เลม่ ท่ี 1 เรื่อง เรมิ่ ตน้ ภาษาซี 38 10) เมนู Help เป็นเมนูเกยี่ วกบั การ ขอความช่วยเหลือ ประกอบด้วยเมนูย่อย ๆ ทีค่ วรรูจ้ กั ดังน้ี ภาพที่ 1.28 แสดงหนา้ ต่างเมนู Help โปรแกรม Dev-c ++ 5.11 Help on Dev-C++ --> ขอความช่วยเหลือในโปรแกรม Dev-C++ Tip of the day --> แนะนาเทคนิคการใชง้ านโปรแกรม About Dev-C++ --> รายละเอียดเกยี่ วกบั โปรแกรม Dev-C++ เอกสารประกอบการเรยี น เรือ่ ง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เล่มที่ 1 เร่อื ง เร่มิ ต้นภาษาซี 39 ใบงานที่ 1.2 เรอ่ื ง กาใชง้ านโปรแกรม Dev c จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. นกั เรียนเข้าใจความรู้เบอ้ื งต้นเก่ยี วกับการใชโ้ ปรแกรมภาษาซี 2. นกั เรียนสามารถใชง้ านโปรแกรม Dev c ได้ คาชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นปฏิบัติตามขั้นตอนดังต่อไปน้ี 1. สร้าง Folder ไว้ใน Drive D โดยตงั้ ชื่อของนกั เรียนเอง 2. เปิดโปรแกรม Dev-c ++ 5.11 และสร้างไฟล์งานใหม่ 3. พมิ พ์คาสัง่ ตามตัวอย่างด้านล่าง 4. บันทกึ ไฟลโ์ ดยต้งั ชอื่ วา่ work.cpp เลือกท่ีอยูไ่ ฟล์เปน็ โฟลเดอร์ทีน่ ักเรยี นสร้างไว้ 5. ทดสอบการเขยี นโปรแกรมโดยการ Compile และ Run โปรแกรม สังเกตผลลพั ธ์ทเ่ี กิดข้นึ 6. ทดลองการเพิ่มคาว่า “Takfawichaprasit School” ดงั รูปดา้ นลา่ ง 7. ทดสอบการเขียนโปรแกรมโดยการ Compile และ Run โปรแกรม สังเกตผลลัพธ์ทีเ่ กดิ ขึน้ เอกสารประกอบการเรยี น เร่อื ง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เล่มท่ี 1 เรอื่ ง เริ่มตน้ ภาษาซี 40 แบบทดสอบหลังเรียน เรือ่ ง ขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรมและประวัตภิ าษาซี คาช้แี จง 1. แบบทดสอบฉบับนมี้ ี 10 ขอ้ ขอ้ ละ 1 คะแนน คะแนนเต็ม 10 คะแนน เวลา 20 นาที 2. แบบทดสอบนี้เปน็ แบบเลอื กตอบ 3. ให้นักเรียนทาเครื่องหมาย X ลงในกระดาษคาตอบ โดยเลอื กตวั อักษร ก ข ค และ ง ทีถ่ ูกท่ีสุดเพียงขอ้ เดยี ว 1. ขอ้ ใดไม่ใชข่ ัน้ ตอนการพัฒนาโปรแกรมโดยใชภ้ าษา C ก. การเขยี นและแก้ไขโปรแกรม ข. คอมไฟล์โปรแกรม ค. การประกาศตัวแปร ง. การลงิ คโ์ ปรแกรม 2. ภาษาซีสบื สานมาจากภาษาใดบา้ ง ก. Pascal ข. B ค. Java ง. HTML 3. ภาษาซจี ัดเป็นภาษาระดบั ใด ก. ระดับต่า ข. ระดับกลาง ค. ภาษาเครอ่ื ง ง. ระดบั สูง 4. ข้อใดคือผพู้ ัฒนาภาษาซี ก. เดนนิส รชิ ชี่ ข. ชาลล์ แบบเบจ ค. เอดา เลิฟเลซ ง. ทมิ เบอร์เนอร์ส-ลี 5. โปรแกรมภาษาซีจะเรมิ่ ทางานจากฟังกช์ ันใด ก. ฟังก์ชัน main ข. ฟังก์ชนั include ค. ฟังก์ชัน library ง. ฟงั ก์ชนั declare เอกสารประกอบการเรียน เรือ่ ง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
เล่มที่ 1 เรือ่ ง เร่ิมตน้ ภาษาซี 41 6. เครื่องหมายใดตอ่ ไปนี้ ท่ีนามาใช้สาหรับอธิบายรายละเอยี ดภายในโปรแกรม ก. @ @ ข. /* */ ค. [ ] ง. { } 7. ประโยคคาส่ังในภาษาซีต้องลงทา้ ยด้วยเครื่องหมายใด ก. , (comma) ข. \\n ค. ; (semi-colon) ง. : (colon) 8. ภาษาซจี ัดเป็นภาษาที่ใช้ตัวแปลภาษาชนดิ ใด ก. Compiler ข. Translator ค. Interpreter ง. Assembler 9. หากต้องการนาฟังก์ชนั มาตรฐาน (stdio.h) มาใช้งาน จะตอ้ งประกาศอย่างไร ก. main(stdio.h) ข. { stdio.h } ค. printf(“<stdio.h>”) ง. #include “stdio.h” 10. ข้อใดไมใ่ ช่ส่วนประกอบหลกั ของโครงสร้างภาษาซี ก. สว่ นหวั ของโปรแกรม (Preprocessor Directive) ข. ส่วนฟังก์ชันหลกั (Main Function) ค. สว่ นของคาอธบิ ายโปรแกรม (Program Comment) ง. สว่ นคอมไพเลอร์ (Compiler) เอกสารประกอบการเรียน เร่ือง การเขียนโปรแกรมภาษาซี
Search
Read the Text Version
- 1 - 41
Pages: