0 1 ” (Practicum 1) 6412106060 2 2564
คำนำ กำรฝึกปฏิบัติงำนวิชำชีพครูเป็นส่ิงสำคัญและจำเป็นสำหรับนกั ศึกษำหลักสูตรครุศำสตร์ บัณฑิต กำรฝึกปฏิบัติงำนวิชำชีพครูระหว่ำงเรียน 1 (Practicum 1) เป็นกำรเตรียมควำมพร้อม ของนักศึกษำที่จะก้ำวเขำ้ ไปสู่วิชำชีพครูทีส่ มบูรณ์แบบ และถือเป็นกระบวนกำรทีช่ ่วยสร้ำงเสรมิ ให้นักศึกษำวิชำชีพครูได้ฝึกฝนควำมรู้ ควำมสำมรถ ไม่ว่ำจะเป็น กำรควบคุมช้ันเรียน ด้ำนกำร จัดกำรเรียนกำรสอน ฯลฯ รวมถึงด้ำนกิจกรรมต่ำง ๆ ในโรงเรียนที่นอกเหนือจำกกำรเรียนกำร สอน และเป็นกำรรวบรวมข้อมูลของโรงเรียน อีกทงั้ ยงั ใหน้ กั ศกึ ษำเป็นผ้รู ู้จักคิดรู้จกั สังเกตจัดทำ ออกมำในรปู แบบในงำน 8 ใบงำน ประกอยดว้ ย แบบบันทกึ กำรวิเครำะห์ตนเอง กำรสงั เกตกำรณ์ ปฏิบัติหน้ำที่ครู กำรสังเกตกำรจดั กำรเรียนรูข้ องครู กำรศึกษำสังเกตบรบิ ทของสถำนศึกษำและ ควำมสัมพันธ์กับชุมชน กำรศึกษำรำยกรณี กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในรูปแบบกิจกรรม PLC กิจกรรมวิเครำะห์ตนเองตำมสมรรถนะครู สรุปองค์ควำมรู้ท่ีได้จำกประสบกำรณ์เรียนรู้ใน สถำนศึกษำ กำรจัดทำเอกสำรเล่มน้ี ผู้จัดทำได้ทำกำรรวบรวมข้อมูลจำกหลำยส่วนซ่ึงได้รับควำม อนุเครำะห์สนับสนุนจำก คณะผู้บริหำรและครูโรงเรียนอุดมดรณี และครูพ่ีเลี้ยง คุณครูกรรณิกำ อุดมกีรตกิ ุล ท่ใี ห้คำแนะนำ ควำมรู้ แนวทำงกำรศกึ ษำ รวมถึงรุ่นพแ่ี ละเพ่อื นๆ ทกุ คนที่ช่วยเหลือ มำโดยตลอด ผูจ้ ัดทำหวงั วำ่ รำยงำนฉบับนจี้ ะให้ควำมรู้ และเปน็ ประโยชน์แก่ทุกทำ่ น นำยศภุ วชิ ญ์ เถื่อนแท้ ผจู้ ัดทำ
2 2564 1” (Practicum 1) 6412106060 6 2546 3/362 9 - ไ 64000 - 064-3207543 ไ 3/362 9 ไ 64000 ผ ์ .. ้
1 ้ ใหน้ กั ศึกษำบันทึกผลกำรวเิ ครำะหต์ นเอง ในประเด็นดังต่อไปนี้ 1. ควำมใฝฝ่ ันอยำกเปน็ ครู เพรำะอำชพี นเี้ ป็นอำชีพที่สจุ รติ ผมสำมำรถให้ควำมรูก้ บั เด็กนักเรียน และใหค้ ำแนะนำกบั เด็กนกั เรยี นใน เรื่องต่ำง ๆ ได้ ทำให้พวกเขำรู้จักคิด วิเครำะห์ แยกแยะได้ ผมอยำกให้พวกเขำมีควำมรู้เยอะๆ เพรำะเม่ือ พวกเขำโตไป พวกเขำจะได้มีงำนทำที่ดี ๆ มีหน้ำที่กำรงำนท่ีม่ันคง และสำมำรถนำควำมรู้ท่ีได้เรียนไป นำมำใช้เพ่ือพัฒนำบ้ำนเมืองของพวกเขำได้และอีกอย่ำงผมเป็นคนที่ชอบวิชำคณิตศำสตร์มำก ๆ เคยมีอยู่ ครงั้ นงึ ทผี่ มเครยี ด ผมแกเ้ ครยี ดโดยกำรแก้โจทย์คณิตศำสตร์ มนั ทำใหผ้ มได้คิดและลืมเรือ่ งเครียดเหลำ่ นั้นได้ ครับ 2. ควำมรักและศรัทธำในวชิ ำชพี ครู ครูจะต้องมีใจรักและศรัทธำในวิชำชีพของตนเองอย่ำงสูง เพรำะเม่ือเรำพบเจอกับอุปสรรคหรือปัญหำ อะไรจะผ่ำนพน้ ไปได้ ต้องมีควำมรัก ควำมเมตตำกับลูกศิษย์ให้เหมือนลูกหรือบุคคลในครอบครวั ของตนเอง และจะตอ้ งเรียนรูท้ ี่จะพฒั นำตนเองอย่ตู ลอดเวลำ อกี ทงั้ กำรมคี วำมอดทนอดกลน้ั ตอ่ กำรรอคอยนกั เรียนและ เพ่ือนรว่ มงำน 3. ทศั นคติที่ดีตอ่ วชิ ำชพี ครู เป็นครูท่ีมีใจรักและศรัทธำในวิชำชีพ เป็นแบบอย่ำงที่ดีให้กับลูกศิษย์ มีควำมรักควำมเมตตำ มีควำม เข้ำใจตอ่ ลูกศิษย์ และในกำรสอนนัน้ จะตอ้ งมเี ทคนิคท่ีสำมำรถสอนให้นกั เรียนเข้ำใจในบทเรยี นนำควำมรู้นั้น ไประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจำวันได้อกี ท้ังสอนทักษะชีวิตใหน้ ักเรยี นมภี ูมิคุม้ กนั สำมำรถอยู่รว่ มกับสงั คมไดอ้ ย่ำงมี ควำมสขุ
4. ควำมสนใจเรอ่ื งรำวเก่ียวกบั ครู (กำรติดตำมข้อมลู ข่ำวสำรเกยี่ วกบั ครู) เมื่อผมมีควำมใฝ่ฝันท่ีอยำกจะเป็นครู ผมคอยสอบถำมคุณครูในโรงเรียนตอนมัธยมอยู่เสมอเก่ียวกับ อำชีพครู ว่ำควรศึกษำที่ใด เรียนในด้ำนไหน ซึ่งผมได้ติดตำมข่ำวสำรทำงโทรทัศน์ เว็บไซต์และFacebook เก่ียวกับควำมเคลื่อนไหวของอำชีพครู ซึ่งปัจจุบันกำรเรียนครู เรียนเพียง 4 ปี จบแล้วต้องสอบใบประกอบ วิชำชีพ เพ่ือไปสอบครูผู้ช่วยต่อไป ผมคอยติดตำมเพจข้อสอบเกี่ยวกับกำรสอบครูผู้ช่วยลองฝึกทำ เพื่อใน อนำคตอีก 2-3 ปขี ้ำงหนำ้ ผมจะได้สอบบรรจใุ นที่ที่ดแี ละใกลบ้ ำ้ น เพื่อดูแลครอบครัวตอ่ ไป 5. กำรเตรียมพร้อมสู่ควำมเปน็ ครู กำรเตรียมตัวเป็นครู ก่อนอ่ืนต้องเริ่มจำกกำรแต่งกำยต้องสุภำพสมกับควำมเป็นครู พูดจำให้ไพเรำะ มี ควำมเอน็ ดูเด็ก มจี ติ วญิ ญำณควำมเปน็ ครู มีควำมประพฤตดิ ีสมกับทจี่ ะเปน็ แม่พมิ พ์และพอ่ พมิ พท์ ่ดี ี ใหเ้ ดก็ ๆ อย่ำสอนให้เด็กนินทำคนลับหลังโดยไม่มีข้อมูล อย่ำวิจำรณ์ข่ำวที่ไม่มีกำรกรอง สรุปคือเป็นคนหนักแน่นสม กบั คำว่ำครูต่อมำก็ศกึ ษำหลักสูตรกำรสอน เขยี นแผนกำรจดั ประสบกำรณ์ เตรียมกำรสอน เตรยี มสอื่ กำรสอน กส็ อนให้เดก็ คิดเป็น ทำเป็น แก้ปญั หำเป็น ครูเปน็ ผู้กำกบั ไมใ่ ช่ผู้บอกให้เด็กจำ ใช้วิธีสอนที่หลำกหลำย สร้ำง บรรยำยกำศให้เด็กสนกุ กบั กำรเรียน และอกี เยอะแยะ คอ่ ยๆศกึ ษำไป ผมคิดว่ำ \"กำรทจี่ ะมำเปน็ ครกู ย็ ำกแล้ว แตจ่ ะเปน็ ครูทด่ี ีย่งิ ยำกกว่ำสิง่ ใด\" 6. สำมำรถนำผลจำกกำรเรียนรู้ในสถำนศึกษำมำร่วมแลกเปล่ียนเรียนรู้กับเพื่อนร่วมชั้นเรียน ได้อยำ่ งไร เนื่องจำกผมได้มีโอกำสไปสังเกตกำรณ์สอนที่โรงเรียนอุมดรุณี ผมสำมำรถแลกเปลี่ยนวิธีกำรสอนให้แก่ เพือ่ นร่วมช้ันปไี ด้ และในสถำนกำรณต์ อนนีม้ กี ำรระบำดของไวรัสโคโรนำ 2019 อยู่ ผมสำมำรถบอกมำตรกำร กำรปอ้ งกนั จำกกำรระบำดทที่ ำงโรงเรยี นได้จัดข้ึนได้
2 ครูมคี วำมรักและศรทั ธำในวชิ ำชีพครู ปฏิบัตติ นตำมจรรยำบรรณและวินัยครู ปฏบิ ัติตำมบทบำท หนำ้ ทค่ี รผู ู้สอนและครูประจำช้นั ได้อยำ่ งเหมำะสม 1. แสดงพฤตกิ รรมท่สี ะท้อนถงึ กำรมจี ิตวญิ ญำณควำมเปน็ ครู 2. ระบุบทบำทหน้ำทข่ี องครูผสู้ อนและครปู ระจำชัน้ ในกำรชว่ ยเหลอื และพัฒนำผ้เู รียน ้ 1. ควำมรกั และศรทั ธำในวชิ ำชีพครู 2. จรรยำบรรณและวนิ ยั ครู 3. บทบำทหนำ้ ท่ีครผู ู้สอนและครปู ระจำชนั้ 1. ศึกษำเอกสำรเก่ียวกับบทบำทหน้ำที่ครผู ูส้ อนและครปู ระจำชั้น จรรยำบรรณวชิ ำชีพครู 2. สนทนำ อภิปรำย แสดงควำมคดิ เหน็ เกี่ยวกบั คุณลกั ษณะท่ดี ีของครูตำมจรรยำบรรณวิชำชพี ครู ควำมรกั และศรทั ธำในวิชำชพี ครู 3. กำหนดหัวขอ้ สำหรับกำรศกึ ษำสงั เกตและสรปุ ลงในแบบบนั ทึก 4. นำผลกำรศึกษำสังเกตมำนำเสนอเพ่ืออภิปรำยในชั้นเรียน 1. แบบบนั ทึกกำรสงั เกตพฤติกรรมกำรปฏบิ ตั ิหน้ำที่ครู 2. เอกสำรประกอบกำรศกึ ษำด้วยตนเอง ผ 1. ตรวจแบบบนั ทึกกำรสงั เกต 2. สงั เกตพฤตกิ รรมกำรให้ควำมรว่ มมือในชน้ั เรียน
1.วิธกี ำรแสดงออกทใ่ี หเ้ ห็นถึงควำมรักและควำมศรัทธำในวชิ ำชีพครู กำรแสดงออกด้วยควำมช่ืนชมและเช่อื มั่นในอำชีพครดู ้วยตระหนกั ว่ำอำชีพน้ีเปน็ อำชพี ท่ีมีเกียรติ มี ควำมสำคัญและจำเป็นต่อสังคม ครูพึงปฏิบัติงำน ด้วยควำมเต็มใจและภูมิใจ รวมทั้งปกป้องเกียรติภูมิของ อำชพี ครู เข้ำร่วมกจิ กรรมและสนบั สนนุ องค์กรวิชำชพี ครู พฤติกรรมสำคัญ 1. เช่ือมั่น ชื่นชม ภูมิใจในควำมเปน็ ครูและองค์กรวชิ ำชพี ครู ว่ำมีควำมสำคัญและจำเป็นตอ่ สงั คม ตัวอย่ำงเช่น 1) ชน่ื ชมในเกียรติและรำงวลั ทไ่ี ด้รับและรักษำไว้อยำ่ งเสมอต้นเสมอปลำย 2) ยกย่องชมเชยเพอ่ื นครทู ่ีประสบผลสำเร็จเกีย่ วกบั กำรสอน 3) เผยแพรผ่ ลสำเรจ็ ของตนเองและเพอ่ื นครู 4) แสดงตนวำ่ เปน็ ครูอยำ่ งภำคภมู ิ 2. เปน็ สมำชิกองค์กรวิชำชพี ครแู ละสนับสนนุ หรอื เข้ำรว่ มหรือเป็นผ้นู ำในกิจกรรมพัฒนำวชิ ำชีพครู ตวั อยำ่ งเชน่ 1) ปฏิบตั ติ ำมเงื่อนไขข้อกำหนดขององคก์ ร 2) รว่ มกิจกรรมทอ่ี งค์กรจัดข้นึ 3) เป็นกรรมกำรหรือคณะทำงำนขององคก์ ร 4) ปกปอ้ งเกยี รตภิ ูมิของครูและองค์กรวิชำชพี ตวั อย่ำงเชน่ 5) เผยแพร่ประชมสัมพันธ์ผลงำนของครแู ละองคก์ รวิชำชีพครู 6) เม่ือมีผ้เู ขำ้ ใจผดิ เก่ียวกบั วงกำรวิชำชพี ครกู ็ชแี้ จงทำควำมเข้ำใจให้ถกู ต้อง ฯลฯ 2. กำรปฏิบตั ิตนตำมจรรยำบรรณและวนิ ยั ครูผู้สอนและครูประจำชัน้ ต่ำง ๆ ดงั น้ี 2.1 จรรยำบรรณตอ่ ตนเอง คุณครูมีควำมรับผิดชอบต่อหน้ำท่ีในกำรสอน มีกำรแจ้งให้นักเรยี นรับทรำบก่อนเข้ำเรียน คอยพัฒนำค้นหำ ควำมรู้มำสอนนักเรียนอยู่เสมอ มีควำมรักและควำมศรัทธำในวิชำชีพครู เป็นครูท่ีปรึกษำท่ีคอยห่วงใย ตดิ ตำมสอบถำมนกั เรียนเรื่องกำรส่งงำน มคี วำมเอำใจใส่นกั เรยี น และคอยใหค้ วำมช่วยเหลือชกั ถำมถงึ ควำม ต้องกำรของนกั เรียน 2.2 จรรยำบรรณต่อวิชำชพี คุณครูมีควำมรับผิดชอบต่อหน้ำที่ ภำระงำนที่ต้องทำ กำรเป็นครูไม่ได้มีหน้ำที่เพียงสอนอย่ำงเดียว มี ภำระหน้ำที่อย่ำงอ่ืนที่ต้องทำด้วย คุณครูให้ควำมสำคัญ ไม่ละเลยต่อหน้ำท่ี บริหำรจัดกำรส่งงำนที่ได้รับ มอบหมำยตรงตำมกำหนด เมือ่ มงี ำนอื่นที่ตอ้ งทำ ไม่เคยละเลยหน้ำท่ีในกำรส่ังสอนใหค้ วำมรู้แกน่ กั เรยี น
2.3 จรรยำบรรณต่อผู้รับบรกิ ำร คุณครูมีควำมประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่ำงที่ดีให้แก่นกั เรยี น พูดจำสุภำพ อำจจะมีดุบ้ำงเล็กน้อย แต่ใช้ คำสุภำพในกำรว่ำกล่ำวตักเตือน คอยอบรมสั่งสอนให้นักเรียนเป็นคนดีมีคุณธรรม ไม่เพียงแต่สอนแค่วิชำ ควำมรู้ คุณธรรม จริยธรรม กำรปฏิบัติตนเป็นคนดีของสังคม คุณครูก็คอยขัดเกลำสั่งสอนให้แก่นักเรียน คณุ ครูรักนกั เรียนเทำ่ เทยี มกันและสอนนักเรียนดว้ ยควำมเตม็ ใจเสมอ 2.4 จรรยำบรรณตอ่ ผรู้ ่วมประกอบวิชำชพี ในสถำนศึกษำ คุณครูคอยให้ควำมช่วยเหลือ เป็นท่ีปรึกษำให้แก่เพ่ือนครู คุณครูเป็นคนมีน้ำใจเร่ืองไหนที่ คุณครสู ำมำรถชว่ ยได้ คณุ ครูจะคอยชว่ ยเหลอื เสมอ อำจจะมบี ำงเรื่องที่เกิดข้อขดั แยง้ กัน แตก่ ก็ ลำ่ วตักเตือน กัน นอกจำกในสถำนศึกษำแล้ว โรงเรียนใกล้เคียง คุณครูจะเข้ำร่วมกิจกรรม ไปเป็นวิทยำกรและกำร แลกเปลีย่ นเรียนรู้ต่ำงโรงเรียน 2.5 จรรยำบรรณตอ่ สงั คม ในกำรลงพ้ืนที่เข้ำสู่ชุมชน เมื่อมีกิจกรรม คุณครูจะพำนักเรียนไปเข้ำร่วม เพ่ือเกิดกำรเรียนเปลี่ยนรู้นอก สถำนที่ จัดกจิ กรรมสง่ เสริมให้นักเรยี นได้เรยี นรตู้ ำมหลกั ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพยี งรักษำขนมธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมตำ่ ง ๆ เสมอ กำรเคำรพผใู้ หญ่ กำรรู้จักไหวท้ กั ทำย และยดึ ม่นั ตำมระบอบประชำธิปไตย 3. บทบำทหน้ำท่ีของครูผู้สอนและครูประจำชั้นด้ำนต่ำง ๆ ดงั นี้ 3.1 ควำมรบั ผิดชอบของครู บทบำทหน้ำท่ีและควำมรับผิดชอบของคุณครู ได้แก่ ท่ีปรึกษำนักเรียนช้ันมัธยมศึกษำปีที่ 5/1 ที่ปรึกษำ คณะกรรมกำรนักเรียน หัวหน้ำงำนบริหำรหลักสูตรสถำนศึกษำ หัวหน้ำงำนตำรำงสอน หัวหน้ำกลุ่มงำน กิจกรรมพฒั นำผ้เู รยี น 3.2 กำรเอำใจใส่ สง่ เสรมิ ผู้เรยี นตำมควำมแตกต่ำงระหว่ำงบคุ คล คุณครูมีกำรติดตำมงำนของนักเรียนอยู่เสมอ นักเรียนทุกคนมีควำมแตกต่ำงกนั คนไหนที่เรียนไม่ค่อยเขำ้ ใจ คณุ ครกู จ็ ะอธิบำยเพิ่มเติมเสมอ นักเรยี นทีม่ ีควำมเขำ้ ใจแลว้ ก็จะมีควำมเข้ำใจเพมิ่ มำกข้ึนนกั เรยี นท่ีจะจบม.6 ซ่ึงไม่เคยเรียนแคลคูลัส เป็นเด็กสำยสังคม-คอมพิวเตอร์ธุรกิจ คุณครูจะสอนเพ่ิมเติมให้แก่นักเรียน ก่อนจะ เข้ำอุดมศึกษำ เพอ่ื ให้นักเรียนไดเ้ รียนรแู้ ละมีควำมเขำ้ ใจเพมิ่ เตมิ มำกข้ึน
3.3 กำรปฏิบัตติ นเปน็ แบบอย่ำงทด่ี ีแกผ่ ู้เรียน คณุ ครูเปน็ ผูท้ แ่ี ต่งกำยสุภำพ เรยี บรอ้ ยอย่เู สมอ ตรงตอ่ เวลำกำรทำงำน กำรเข้ำสอนตรงตอ่ เวลำสอนครบตำม เวลำที่กำหนด สอนจนหมดคำบ คุณครูมีควำมเมตตำต่อผู้เรียน คอยสอบถำมนักเรียนอยู่เสมอ ว่ำไม่เข้ำใจ ตรงไหน คุณครจู ะอธบิ ำยเพ่มิ เติม กำรเป็นครทู ่ีปรกึ ษำของห้อง คุณครกู จ็ ะคอยติดตำมงำนของนักเรียน ให้ส่ง งำนให้ครบตำมเวลำที่กำหนด ไม่ใหม้ ีกำรคัง่ คำ้ งงำน กำรสอนของคณุ ครูมคี วำมเขำ้ ใจ ทำใหน้ กั เรียนเข้ำใจใน บทเรียนน้ัน 3.4 กำรสรำ้ งแรงบนั ดำลใจให้กบั ผู้เรียน คุณครูจะคอยกระตนุ้ ให้นกั เรียนมีควำมสนใจในกำรเรยี น ก่อนท่ีเริ่มเข้ำสู่บทเรยี น คุณครูจะบอกนกั เรยี นอยู่ เสมอว่ำเรำเรียนไปทำไม เรียนแล้วได้อะไร อย่ำงเช่นวิชำคณิตศำสตร์ เรียนเร่ืองแคลคูลัสชีวิตประจำวนั กไ็ ม่ เห็นมีเกี่ยวกับเรื่องเหล่ำนี้ ทำไมเรำถึงต้องเรียน คุณครูก็จะบอกนักเรียนว่ำในอนำคตถ้ำเรำมีควำมใฝ่ฝันที่ อยำกจะเป็นวิศวกร ก่อนเรำจะเป็นได้ เรำก็ต้องเรียนเรื่องเหล่ำนี้ เพรำะเป็นพื้นฐำนในกำรเรียน กำรเป็น วิศวกร รุ่นพ่ีที่จบไป เขำไปเรียนวิศวกร เขำก็จะขอบคุณครูอยู่เสมอท่ีได้สอนเร่ืองแคลคูลัสให้ ถึงปัจจุบันเรำ จะยังไม่ไดน้ ำสิง่ ท่ีเรำเรียนไปใช้ แต่ในอนำคตเรำไดน้ ำไปใช้แนน่ อน กำรเรยี นทกุ วชิ ำเป็นพนื้ ฐำนในกำรทำงำน ในอนำคตแน่นอน ขอใหท้ กุ คนตงั้ ใจเรยี น เพ่ืออำชพี ทด่ี ีและม่นั คง
3 1. เพอื่ ใหน้ กั ศกึ ษำสังเกตกำรควบคมุ ชัน้ เรยี นของครูผสู้ อน 2. เพ่ือให้นักศกึ ษำสังเกตกำรจัดกำรเรยี นรู้ของครผู ู้สอน เพอื่ ให้นักศกึ ษำนำส่ิงทีไ่ ด้จำกกำรสังเกต กำรควบคมุ ชัน้ เรยี น และกำรจดั กำรเรยี นรู้ของครูผสู้ อนมำเป็นแนวทำงในกำรจัดกำรเรียนรู้ ของตนเอง 3. เพอื่ ใหน้ ักศกึ ษำสงั เกตและฝึกทักษะกำรแก้ปัญหำเฉพำะหนำ้ ให้นักศึกษำ ศึกษำ สังเกต และฝึกทักษะจำกผู้ท่ีเกี่ยวข้องในสถำนศึกษำ แล้วบันทึกข้อมูล ในแบบบนั ทึกตำมประเด็น ดงั นี้ 1. สังเกตเทคนคิ กำรควบคมุ ชั้นเรยี นของครผู ้สู อน 2. สังเกตกำรจัดกำรเรยี นรูข้ องครูผูส้ อน 3. นำสงิ่ ทีไ่ ดจ้ ำกกำรสังเกตกำรควบคมุ ช้นั เรียน และกำรจัดกำรเรียนรูข้ องครูผสู้ อนมำประยุกต์ใช้ ในกำรจัดกำรเรียนรู้ 4. สงั เกตปญั หำทีพ่ บในกำรจัดกำรเรียนร้ขู องครูผู้สอน และเทคนคิ แนวทำงในกำรแกไ้ ขปญั หำ ผ/ 1. ผอู้ ำนวยกำร / รองผู้อำนวยกำรโรงเรียน 2. ครผู ้สู อน / ครพู เ่ี ลี้ยง / นกั เรียน สงั เกต 3 คร้ังต่อสปั ดำห์ รวมอย่ำงนอ้ ย 9 ครัง้
ครัง้ ที่ 1 โรงเรียน อุดมดรณี ระดับชนั้ ม.5/8 รำยวิชำ คณิตศำสตรพ์ ้นื ฐำน รหัสวิชำ ค 32102 จำนวน 1 หน่วยกติ วนั ท่ี 17 พฤศจิกำยน 2564 เวลำ 14.00-14.55 น. จำนวน 55 นำที ครผู ้สู อน นำงกรรณิกำ อดุ มกีรติกุล ็ 1 ครูผ้สู อนจัดกำรเรียนกำรสอนท่มี ีลกั ษณะกำรสอนแบบให้ นักเรยี นวิเครำะห์ โตต้ อบกบั ครูผู้สอนได้ มีกำรต้งั ถำมอยู่ ตลอดเวลำเพื่อกระตุ้นใหน้ ักเรียนสนใจที่จะเรียน 2 -กำรใชค้ ำถำมเพื่อดึงดูดควำมสนใจ -กำรยกตวั อย่ำงเพื่อให้เกดิ กำรเขำ้ ใจ -พดู ชมนักเรียนท่ตี อบคำถำมได้ -กำรเนน้ เสยี งสูง ตำ่ เพอ่ื กระตุ้นใหน้ ักเรียนสนใจ 3 (ตัวอย่ำงขนั้ ตอนกำรจัดกำรเรยี นรสู้ ำมำรถปรับเปล่ียนได้ ตำมสถำนกำรณ์จริง) -้ ครผู ู้สอนสอบถำมนกั เรยี นถงึ คำบท่แี ล้ว ว่ำเรยี นถึงเร่ือง อะไร แลว้ เกร่นิ นำ เร่อื งท่ีจะเรียนในคำบนี้ -้ ครผู สู้ อนอธบิ ำยเกีย่ วกบั เรือ่ ง ลำดับเลขคณิตพรอ้ มกบั ยกตัวอยำ่ งแสดงวธิ ที ำบนกระดำน พรอ้ มกับถำมตอบกบั นกั เรยี น ทำให้นกั เรยี นมีสว่ นรว่ ม -้ ครูผสู้ อนทบทวนใหอ้ ีกครัง้ พรอ้ มกบั ทำโจทย์ไปกบั นกั เรยี น ใหน้ กั เรียนตอบ 4ั / ไั นกั เรยี นบำงส่วนไม่มีควำมสนใจในกำรเรยี น และไมต่ อบ คำถำมคุณครู ไั ้ ผ
ครเู ข้ำไปหำนกั เรยี นแบบรำยบุคคล หรือถำมคำถำมย้ำ ๆ มี กำรให้คะแนนเพ่ิมให้กบั คนที่ตอบได้ 5 ผฒ มกี ำรรำยงำนผลกำรพัฒนำคุณภำพรำยกรณี คือ ครผู สู้ อน ผ ไ ถำมคำถำมซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ เพอ่ื กระตนุ้ ใหน้ กั เรียนสนใจท่จี ะ ไ ตอบคำถำม 6ไ/ จำกกำรเขำ้ สังเกตกำรณจ์ ัดกำรเรียนรทู้ ำให้พบวำ่ ครูผู้สอน จะจดั กำรเรียนกำรสอนโดยกำรเนน้ นักเรียนเป็นสำคญั มี กำรวำงแผนในเนอ้ื หำท่ีจะสอนใหส้ มั พันธก์ นั ตงั้ คำถำม ให้กับนกั เรียนได้เกดิ ทกั ษะ กระบวนกำรคดิ วิเครำะห์ กำร แก้ไขปัญหำ และมีกำรจดั กำรช้นั เรยี นทดี่ ี สังเกต 3 ครงั้ ต่อสัปดำห์ รวมอย่ำงนอ้ ย 9 คร้งั
ครั้งที่ 2 โรงเรียน อดุ มดรณี ระดบั ชน้ั ม.5/2 รำยวชิ ำ คณติ ศำสตร์พน้ื ฐำน รหสั วชิ ำ ค 32102 จำนวน 1 หนว่ ยกติ วันท่ี 22 พฤศจกิ ำยน 2564 เวลำ 11.15-12.10 น. จำนวน 55 นำที ครูผู้สอน นำงกรรณิกำ อดุ มกีรตกิ ลุ ็ 1 ครผู สู้ อนจดั กำรเรยี นกำรสอนทีม่ ลี กั ษณะกำรสอนแบบให้ นักเรยี นวิเครำะห์ โตต้ อบกบั ครผู ู้สอนได้ มกี ำรตัง้ ถำมอยู่ ตลอดเวลำเพอ่ื กระตุ้นให้นกั เรียนสนใจที่จะเรียน 2 -กำรใช้คำถำมเพอื่ ดึงดูดควำมสนใจ -กำรยกตัวอย่ำงเพื่อให้เกดิ กำรเขำ้ ใจ -พดู ชมนกั เรียนที่ตอบคำถำมได้ -กำรเน้นเสยี งสูง ต่ำ เพือ่ กระตนุ้ ให้นกั เรยี นสนใจ 3 (ตัวอยำ่ งขั้นตอนกำรจดั กำรเรยี นร้สู ำมำรถปรับเปล่ยี นได้ ตำมสถำนกำรณ์จรงิ ) -้ ครผู ูส้ อนสอบถำมนักเรียนถึงคำบทแ่ี ล้ว วำ่ เรยี นถึงเร่อื ง อะไร แลว้ เกริ่นนำ เร่อื งทจี่ ะเรียนในคำบนี้ สอบถำม นกั เรยี นถงึ อำทติ ย์ท่ีหยุดไป เป็นอย่ำงไรบ้ำงสบำยดีไหม -้ ครผู ้สู อนอธบิ ำยเก่ียวกับเรื่อง ลำดบั เลขคณิตพรอ้ มกบั ยกตัวอย่ำงแสดงวิธีทำบนกระดำน พรอ้ มกบั ถำมตอบกบั นักเรียน ให้นักเรียนมำทำให้ดบู นกระดำนและมอบหมำย งำน 1 ข้อ ให้นกั เรียนไดท้ ำ สง่ ในชัว่ โมง ทำใหน้ กั เรียนมี ส่วนร่วม -้ ครูผู้สอนทบทวนใหอ้ กี ครง้ั พร้อมกับให้กำรบ้ำน เร่ืองลำดับ เลขคณติ ไปทำตอ่ เพือ่ เพมิ่ ทักษะและควำมเข้ำใจในเรอื่ งนี้ 4ั / ไั
นกั เรียนบำงคนไมม่ ีควำมสนใจในกำรเรียน และไมต่ อบ คำถำมคุณครู ไั ้ ผ ครูเขำ้ ไปหำนกั เรียนแบบรำยบุคคล หรอื ถำมคำถำมยำ้ ๆ มี กำรให้คะแนนเพ่ิมใหก้ บั คนทตี่ อบได้ 5 ผฒ มกี ำรรำยงำนผลกำรพัฒนำคณุ ภำพรำยกรณี คอื ครูผูส้ อน ผ ไ ถำมคำถำมซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ เพือ่ กระตนุ้ ใหน้ กั เรยี นสนใจท่จี ะ ไ ตอบคำถำม 6 ไ/ จำกกำรเขำ้ สังเกตกำรณ์จัดกำรเรียนรู้ทำให้พบว่ำ ครผู สู้ อน จะจัดกำรเรยี นกำรสอนโดยกำรเนน้ นกั เรียนเปน็ สำคญั มี กำรวำงแผนในเนอ้ื หำท่ีจะสอนใหส้ ัมพันธก์ ัน ตัง้ คำถำมและ ให้นกั เรยี นมำทำบนกระดำน เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นได้เกดิ ทกั ษะ กระบวนกำรคิด วิเครำะห์ กำรแก้ไขปญั หำ และมีกำร จัดกำรช้นั เรียนทด่ี ี สงั เกต 3 คร้ังต่อสปั ดำห์ รวมอย่ำงน้อย 9 ครงั้
ครั้งท่ี 3 โรงเรียน อดุ มดรณี ระดบั ชนั้ ม.5/1 รำยวชิ ำ คณิตศำสตร์พ้นื ฐำน รหัสวชิ ำ ค 32102 จำนวน 1 หน่วยกิต วันที่ 23 พฤศจกิ ำยน 2564 เวลำ 08.30-09.25 น. จำนวน 55 นำที ครูผสู้ อน นำงกรรณกิ ำ อดุ มกีรตกิ ลุ ็ 1 ครผู ู้สอนจดั กำรเรียนกำรสอนทมี่ ลี กั ษณะกำรสอนแบบให้ นักเรยี นวเิ ครำะห์ โตต้ อบกบั ครผู ู้สอนได้ มีกำรตง้ั ถำมอยู่ ตลอดเวลำเพือ่ กระตุ้นใหน้ ักเรียนสนใจท่จี ะเรียน 2 -กำรใชค้ ำถำมเพอ่ื ดงึ ดูดควำมสนใจ -กำรยกตัวอยำ่ งเพอ่ื ให้เกิดกำรเขำ้ ใจ -พูดชมนักเรียนทต่ี อบคำถำมได้ -กำรเนน้ เสียงสงู ตำ่ เพอื่ กระต้นุ ใหน้ ักเรียนสนใจ 3 (ตัวอยำ่ งข้ันตอนกำรจดั กำรเรยี นรูส้ ำมำรถปรับเปล่ยี นได้ ตำมสถำนกำรณจ์ รงิ ) -้ ครผู ู้สอนสอบถำมนกั เรียนถึงคำบทแ่ี ลว้ ว่ำเรียนถึงเร่อื ง อะไร แลว้ เกร่ินนำ เรือ่ งทีจ่ ะเรียนในคำบน้ี สอบถำมถงึ สัปดำห์ทีแ่ ลว้ วำ่ เปน็ ไงบ้ำง -้ ครผู ้สู อนอธิบำยเก่ยี วกบั เร่อื ง ลำดบั เลขคณิตพรอ้ มกบั ยกตัวอยำ่ งแสดงวิธีทำบนกระดำน พรอ้ มกบั ถำมตอบกับ นักเรียน ทำให้นกั เรยี นมสี ่วนรว่ ม และมีคะแนนพเิ ศษ สำหรับนักเรียนทต่ี อบคำถำม -้ ครูผู้สอนทบทวนใหอ้ กี คร้ังพรอ้ มกับใหน้ ักเรยี นทำโจทย์ท่ี ได้รบั มอบหมำยจำกคุณครู 4ั / ไั นกั เรยี นบำงสว่ นไม่มีควำมสนใจในกำรเรียน และไม่ตอบ คำถำมคณุ ครู
ไั ้ ผ ครเู ขำ้ ไปหำนกั เรียนแบบรำยบุคคล หรอื ถำมคำถำมย้ำ ๆ มี กำรให้คะแนนเพม่ิ ให้กับคนทีต่ อบได้ 5 ผฒ มกี ำรรำยงำนผลกำรพัฒนำคณุ ภำพรำยกรณี คือ ครผู สู้ อน ผ ไ ถำมคำถำมซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ เพือ่ กระตนุ้ ให้นักเรียนสนใจที่จะ ไ ตอบคำถำม 6 ไ/ จำกกำรเขำ้ สังเกตกำรณ์จัดกำรเรยี นรู้ทำใหพ้ บว่ำ ครูผู้สอน จะจดั กำรเรียนกำรสอนโดยกำรเน้นนักเรยี นเปน็ สำคัญมี กำรวำงแผนในเนอ้ื หำท่ีจะสอนให้สัมพนั ธ์กัน ตง้ั คำถำมและ ใหน้ ักเรียนมำทำบนกระดำน เพ่ือใหน้ กั เรียนได้เกดิ ทักษะ กระบวนกำรคิด วเิ ครำะห์ กำรแก้ไขปญั หำ และมีกำร จัดกำรช้ันเรียนทด่ี ี สังเกต 3 ครัง้ ตอ่ สัปดำห์ รวมอยำ่ งนอ้ ย 9 ครัง้
ครั้งท่ี 4 โรงเรียน อดุ มดรณี ระดบั ชน้ั ม.5/5 รำยวชิ ำ คณิตศำสตร์พ้นื ฐำน รหัสวิชำ ค 32102 จำนวน 1 หนว่ ยกิต วันที่ 23 พฤศจกิ ำยน 2564 เวลำ 12.05-14.00 น. จำนวน 55 นำที ครูผสู้ อน นำงกรรณิกำ อดุ มกีรตกิ ุล ็ 1 ครูผูส้ อนจัดกำรเรียนกำรสอนทีม่ ีลกั ษณะกำรสอนแบบให้ นักเรียนวเิ ครำะห์ โต้ตอบกับครผู ู้สอนได้ มกี ำรตั้งถำมอยู่ ตลอดเวลำเพ่อื กระตุ้นให้นักเรียนสนใจทจ่ี ะเรยี น 2 -กำรใชค้ ำถำมเพื่อดงึ ดูดควำมสนใจ -กำรยกตวั อย่ำงเพื่อใหเ้ กดิ กำรเขำ้ ใจ -พูดชมนกั เรยี นท่ีตอบคำถำมได้ -กำรเน้นเสยี งสูง ตำ่ เพ่อื กระต้นุ ใหน้ กั เรียนสนใจ 3 (ตัวอยำ่ งข้ันตอนกำรจัดกำรเรยี นรู้สำมำรถปรับเปลี่ยนได้ ตำมสถำนกำรณ์จริง) -้ ครผู ูส้ อนสอบถำมนักเรยี นถึงคำบท่แี ลว้ ว่ำเรียนถึงเรือ่ ง อะไร แลว้ เกริน่ นำ เรื่องท่จี ะเรยี นในคำบนี้ สอบถำมถึง สปั ดำห์ทแ่ี ลว้ วำ่ เปน็ ไงบ้ำง -้ ครูผสู้ อนอธบิ ำยเก่ียวกบั เรอื่ ง ลำดับเลขคณติ พร้อมกับ ยกตัวอยำ่ งแสดงวธิ ีทำบนกระดำน พรอ้ มกบั ถำมตอบกับ นักเรียนและใหน้ ักเรยี นมำทำบนกระดำน ทำใหน้ ักเรยี นมี สว่ นรว่ มและมีคะแนนพเิ ศษสำหรบั นักเรียนทตี่ อบคำถำม -้ ครผู สู้ อนทบทวนให้อกี คร้ังพรอ้ มกับทำโจทยไ์ ปกบั นกั เรยี น และให้นักเรยี นทำแบบฝกึ หดั เปน็ กำรบ้ำน 4ั / ไั นกั เรยี นบำงส่วนไม่มีควำมสนใจในกำรเรียน และไมต่ อบ คำถำมคณุ ครู
ไั ้ ผ ครเู ขำ้ ไปหำนกั เรียนแบบรำยบุคคล หรอื ถำมคำถำมย้ำ ๆ มี กำรให้คะแนนเพ่มิ ให้กับคนท่ีตอบได้ 5 ผฒ มกี ำรรำยงำนผลกำรพฒั นำคุณภำพรำยกรณี คอื ครูผสู้ อน ผ ไ ถำมคำถำมซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ เพือ่ กระต้นุ ให้นักเรียนสนใจท่ีจะ ไ ตอบคำถำม 6 ไ/ จำกกำรเขำ้ สังเกตกำรณจ์ ัดกำรเรยี นร้ทู ำให้พบว่ำ ครูผสู้ อน จะจดั กำรเรียนกำรสอนโดยกำรเน้นนักเรยี นเปน็ สำคัญมี กำรวำงแผนในเน้อื หำท่ีจะสอนให้สมั พันธ์กัน ต้งั คำถำมและ ใหน้ ักเรียนมำทำบนกระดำน เพ่อื ให้นักเรียนไดเ้ กดิ ทักษะ กระบวนกำรคดิ วิเครำะห์ กำรแก้ไขปัญหำ และมีกำร จัดกำรช้ันเรียนที่ดี สังเกต 3 ครัง้ ตอ่ สัปดำห์ รวมอยำ่ งนอ้ ย 9 ครัง้
ครง้ั ที่ 5 โรงเรยี น อุดมดรณี ระดับชั้น ม.5/3 รำยวชิ ำ คณติ ศำสตร์พื้นฐำน รหัสวชิ ำ ค 32102 จำนวน 1 หนว่ ยกิต วันที่ 24 พฤศจกิ ำยน 2564 เวลำ 10.20-11.15 น. จำนวน 55 นำที ครผู สู้ อน นำงกรรณิกำ อุดมกีรตกิ ลุ ็ 1 ครูผสู้ อนจดั กำรเรยี นกำรสอนที่มลี กั ษณะกำรสอนแบบให้ นักเรียนวเิ ครำะห์ โตต้ อบกับครผู ู้สอนได้ มีกำรต้ังถำมอยู่ ตลอดเวลำเพอื่ กระต้นุ ให้นักเรียนสนใจทจี่ ะเรียน 2 -กำรใชค้ ำถำมเพอ่ื ดงึ ดูดควำมสนใจ -กำรยกตวั อยำ่ งเพ่อื ให้เกิดกำรเขำ้ ใจ -พดู ชมนักเรียนที่ตอบคำถำมได้ -กำรเนน้ เสียงสงู ตำ่ เพื่อกระตุน้ ให้นักเรยี นสนใจ 3 (ตวั อย่ำงขน้ั ตอนกำรจดั กำรเรยี นรู้สำมำรถปรับเปลี่ยนได้ ตำมสถำนกำรณ์จริง) -้ ครูผสู้ อนสอบถำมนกั เรยี นถึงคำบทีแ่ ล้ว ว่ำเรยี นถึงเรอ่ื ง อะไร แล้วเกร่ินนำ เรือ่ งที่จะเรียนในคำบนี้ สอบถำมถึง สปั ดำห์ท่ีแลว้ ว่ำเปน็ ไงบำ้ ง พูดคยุ ขำ่ วสำรเกี่ยวกับ ชวี ติ ประจำวนั แลกเปล่ียนควำมร้กู นั -้ ครผู ู้สอนอธบิ ำยเก่ยี วกับเรื่อง ลำดบั เลขคณติ พร้อมกบั ยกตวั อยำ่ งแสดงวิธีทำบนกระดำน พรอ้ มกับถำมตอบกบั นักเรียน ทำให้นกั เรียนมีส่วนรว่ ม และมีคะแนนพเิ ศษ สำหรับนักเรยี นทีต่ อบคำถำม -้ ครูผูส้ อนทบทวนให้อีกคร้งั พรอ้ มกบั ทำโจทยไ์ ปกับนักเรียน และใหน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหัดเป็นกำรบำ้ น 4ั / ไั
นักเรยี นบำงสว่ นไมม่ ีควำมสนใจในกำรเรียน และไมต่ อบ คำถำมคณุ ครู ไั ้ ผ ครูเขำ้ ไปหำนักเรียนแบบรำยบุคคล หรือถำมคำถำมย้ำ ๆ มี กำรให้คะแนนเพมิ่ ใหก้ บั คนทีต่ อบได้ 5 ผฒ มีกำรรำยงำนผลกำรพฒั นำคุณภำพรำยกรณี คือ ครูผสู้ อน ผ ไ ถำมคำถำมซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ เพ่อื กระต้นุ ให้นักเรียนสนใจท่ีจะ ไ ตอบคำถำม 6 ไ/ จำกกำรเข้ำสังเกตกำรณจ์ ัดกำรเรียนรทู้ ำใหพ้ บว่ำ ครูผสู้ อน จะจัดกำรเรียนกำรสอนโดยกำรเนน้ นักเรยี นเปน็ สำคญั มี กำรวำงแผนในเนอื้ หำท่ีจะสอนใหส้ ัมพนั ธ์กนั ตัง้ คำถำม ใหก้ บั นกั เรียนได้เกิดทักษะ กระบวนกำรคิด วิเครำะห์ กำร แก้ไขปญั หำ และมีกำรจัดกำรชั้นเรียนทดี่ ี สงั เกต 3 ครัง้ ต่อสัปดำห์ รวมอย่ำงนอ้ ย 9 ครั้ง
ครง้ั ที่ 6 โรงเรยี น อุดมดรณี ระดับชน้ั ม.5/6 รำยวชิ ำ คณติ ศำสตร์พื้นฐำน รหัสวชิ ำ ค 32102 จำนวน 1 หน่วยกติ วันที่ 25 พฤศจกิ ำยน 2564 เวลำ 08.30-09.25 น. จำนวน 55 นำที ครผู สู้ อน นำงกรรณิกำ อุดมกีรตกิ ุล ็ 1 ครูผสู้ อนจดั กำรเรียนกำรสอนท่มี ลี ักษณะกำรสอนแบบให้ นักเรียนวเิ ครำะห์ โต้ตอบกบั ครูผู้สอนได้ มกี ำรตั้งถำมอยู่ ตลอดเวลำเพอื่ กระต้นุ ใหน้ ักเรียนสนใจทจ่ี ะเรียน 2 -กำรใชค้ ำถำมเพือ่ ดงึ ดูดควำมสนใจ -กำรยกตวั อยำ่ งเพ่อื ใหเ้ กดิ กำรเข้ำใจ -พดู ชมนักเรียนทตี่ อบคำถำมได้ -กำรเนน้ เสียงสงู ตำ่ เพอ่ื กระตุ้นให้นกั เรียนสนใจ 3 (ตวั อย่ำงขน้ั ตอนกำรจดั กำรเรียนรสู้ ำมำรถปรับเปลี่ยนได้ ตำมสถำนกำรณ์จริง) -้ ครูผสู้ อนสอบถำมนกั เรียนถึงคำบท่ีแลว้ วำ่ เรียนถึงเร่อื ง อะไร แล้วเกร่ินนำ เร่ืองท่ีจะเรียนในคำบน้ี สอบถำมถงึ สปั ดำห์ท่ีแลว้ วำ่ เปน็ ไงบำ้ ง พดู คุยข่ำวสำรเกยี่ วกบั ชวี ติ ประจำวนั แลกเปล่ยี นควำมรู้กัน -้ ครผู ู้สอนอธบิ ำยเก่ยี วกบั เร่อื ง ลำดบั เรขำคณิตพร้อมกับ ยกตวั อยำ่ งแสดงวิธีทำบนกระดำน พรอ้ มกับถำมตอบกบั นักเรียน ทำใหน้ กั เรียนมีสว่ นรว่ ม และมคี ะแนนพเิ ศษ สำหรับนักเรยี นทีต่ อบคำถำม -้ ครูผูส้ อนทบทวนให้อีกครงั้ พรอ้ มกับทำโจทยไ์ ปกับนกั เรียน และใหน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหัดท้ำยคำบ 4ั / ไั
นักเรยี นบำงสว่ นไมม่ ีควำมสนใจในกำรเรียน และไมต่ อบ คำถำมคณุ ครู ไั ้ ผ ครูเขำ้ ไปหำนักเรียนแบบรำยบุคคล หรือถำมคำถำมย้ำ ๆ มี กำรให้คะแนนเพมิ่ ใหก้ ับคนทีต่ อบได้ 5 ผฒ มีกำรรำยงำนผลกำรพฒั นำคุณภำพรำยกรณี คือ ครูผสู้ อน ผ ไ ถำมคำถำมซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ เพอื่ กระต้นุ ให้นักเรียนสนใจท่ีจะ ไ ตอบคำถำม 6 ไ/ จำกกำรเข้ำสังเกตกำรณ์จัดกำรเรียนรทู้ ำใหพ้ บว่ำ ครูผสู้ อน จะจัดกำรเรียนกำรสอนโดยกำรเนน้ นักเรยี นเปน็ สำคญั มี กำรวำงแผนในเนอื้ หำทีจ่ ะสอนใหส้ ัมพนั ธ์กนั ตัง้ คำถำม ใหก้ บั นกั เรียนได้เกิดทกั ษะ กระบวนกำรคิด วิเครำะห์ กำร แก้ไขปญั หำ และมีกำรจดั กำรชั้นเรียนทดี่ ี สงั เกต 3 ครัง้ ต่อสัปดำห์ รวมอย่ำงนอ้ ย 9 ครั้ง
ครงั้ ท่ี 7 โรงเรียน อุดมดรณี ระดับชัน้ ม.5/1 รำยวิชำ คณติ ศำสตรพ์ ื้นฐำน รหสั วิชำ ค 32102 จำนวน 1 หน่วยกิต วันที่ 26 พฤศจกิ ำยน 2564 เวลำ 08.30-09.25 น. จำนวน 55 นำที ครผู ้สู อน นำงกรรณกิ ำ อุดมกีรติกุล ็ 1 ครูผู้สอนจดั กำรเรียนกำรสอนที่มลี กั ษณะกำรสอนแบบให้ นักเรียนวิเครำะห์ โต้ตอบกบั ครูผู้สอนได้ มีกำรต้ังถำมอยู่ ตลอดเวลำเพือ่ กระตุน้ ใหน้ กั เรียนสนใจทจ่ี ะเรียน 2 -กำรใชค้ ำถำมเพ่อื ดึงดูดควำมสนใจ -กำรยกตัวอย่ำงเพอื่ ให้เกดิ กำรเข้ำใจ -พดู ชมนักเรยี นที่ตอบคำถำมได้ -กำรเน้นเสยี งสูง ตำ่ เพ่อื กระตุ้นใหน้ กั เรียนสนใจ 3 (ตวั อยำ่ งขัน้ ตอนกำรจดั กำรเรียนร้สู ำมำรถปรับเปลี่ยนได้ ตำมสถำนกำรณ์จริง) -้ ครูผู้สอนสอบถำมนักเรียนถึงคำบท่ีแล้ว วำ่ เรยี นถึงเร่ือง อะไร แลว้ เกรนิ่ นำ เรอื่ งที่จะเรียนในคำบน้ี สอบถำมถงึ สปั ดำห์ที่แล้วว่ำเปน็ ไงบำ้ ง พดู คุยข่ำวสำรเก่ยี วกับ ชวี ิตประจำวนั แลกเปลีย่ นควำมรกู้ ัน -้ ครูผ้สู อนอธบิ ำยเกี่ยวกบั เรื่อง ลำดับเลขคณิตพรอ้ มกบั ยกตัวอยำ่ งแสดงวิธีทำบนกระดำน พร้อมกบั ถำมตอบกับ นกั เรียน และให้นกั เรียนมำทำบนกระดำน ทำให้นักเรียนมี สว่ นรว่ ม -้ ครผู สู้ อนทบทวนให้อกี ครง้ั พรอ้ มกบั ทำโจทย์ไปกับนกั เรยี น และใหน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ หัดท้ำยคำบ 4ั / ไั
นักเรยี นบำงสว่ นไมม่ ีควำมสนใจในกำรเรียน และไมต่ อบ คำถำมคณุ ครู ไั ้ ผ ครูเขำ้ ไปหำนักเรียนแบบรำยบุคคล หรือถำมคำถำมย้ำ ๆ มี กำรให้คะแนนเพมิ่ ใหก้ ับคนทีต่ อบได้ 5 ผฒ มีกำรรำยงำนผลกำรพฒั นำคุณภำพรำยกรณี คือ ครูผสู้ อน ผ ไ ถำมคำถำมซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ เพอื่ กระต้นุ ให้นักเรียนสนใจท่ีจะ ไ ตอบคำถำม 6 ไ/ จำกกำรเข้ำสังเกตกำรณ์จัดกำรเรียนรทู้ ำใหพ้ บว่ำ ครูผสู้ อน จะจัดกำรเรียนกำรสอนโดยกำรเนน้ นักเรยี นเปน็ สำคญั มี กำรวำงแผนในเนอื้ หำทีจ่ ะสอนใหส้ ัมพนั ธ์กนั ตัง้ คำถำม ใหก้ บั นกั เรียนได้เกิดทกั ษะ กระบวนกำรคิด วิเครำะห์ กำร แก้ไขปญั หำ และมีกำรจดั กำรชั้นเรียนทดี่ ี สงั เกต 3 ครัง้ ต่อสัปดำห์ รวมอย่ำงนอ้ ย 9 ครั้ง
ครั้งที่ 8 โรงเรยี น อดุ มดรณี ระดบั ช้นั ม.5/2 รำยวิชำ คณติ ศำสตรพ์ ื้นฐำน รหสั วิชำ ค 32102 จำนวน 1 หนว่ ยกติ วันที่ 29 พฤศจกิ ำยน 2564 เวลำ 09.25-10.20 น. จำนวน 55 นำที ครูผ้สู อน นำงกรรณิกำ อุดมกีรตกิ ุล ็ 1 ครูผูส้ อนจดั กำรเรียนกำรสอนท่ีมลี ักษณะกำรสอนแบบให้ นักเรียนวเิ ครำะห์ โตต้ อบกบั ครผู ู้สอนได้ มกี ำรตั้งถำมอยู่ ตลอดเวลำเพ่ือกระตุ้นให้นักเรียนสนใจที่จะเรยี น 2 -กำรใช้คำถำมเพ่ือดึงดูดควำมสนใจ -กำรยกตัวอย่ำงเพ่ือใหเ้ กิดกำรเขำ้ ใจ -พดู ชมนกั เรียนท่ตี อบคำถำมได้ -กำรเน้นเสียงสูง ต่ำ เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนสนใจ 3 (ตวั อยำ่ งขน้ั ตอนกำรจัดกำรเรียนรสู้ ำมำรถปรับเปล่ยี นได้ ตำมสถำนกำรณจ์ รงิ ) -้ ครูผู้สอนสอบถำมนักเรยี นถงึ คำบท่ีแล้ว ว่ำเรยี นถึงเรอ่ื ง อะไร แลว้ เกร่ินนำ เรอื่ งทจี่ ะเรียนในคำบนี้ สอบถำมถงึ สปั ดำห์ท่ีแลว้ วำ่ เป็นไงบ้ำง พดู คยุ ขำ่ วสำรเก่ยี วกับ ชวี ิตประจำวัน แลกเปลย่ี นควำมรู้กนั -้ ครูผสู้ อนอธบิ ำยเก่ยี วกบั เรื่อง ลำดับเรขำคณิตพรอ้ มกบั ยกตวั อย่ำงแสดงวิธีทำบนกระดำน พรอ้ มกบั ถำมตอบกบั นักเรยี นและให้นกั เรียนมำทำบนกระดำน ทำให้นกั เรียนมี สว่ นรว่ ม -้ ครผู ูส้ อนทบทวนใหอ้ กี ครั้งพร้อมกบั ทำโจทยไ์ ปกบั นกั เรยี น และให้นักเรียนทำแบบฝึกหดั ท้ำยคำบ 4ั / ไั
นักเรยี นบำงสว่ นไมม่ ีควำมสนใจในกำรเรียน และไมต่ อบ คำถำมคณุ ครู ไั ้ ผ ครูเขำ้ ไปหำนักเรียนแบบรำยบุคคล หรือถำมคำถำมย้ำ ๆ มี กำรให้คะแนนเพมิ่ ใหก้ ับคนทีต่ อบได้ 5 ผฒ มีกำรรำยงำนผลกำรพฒั นำคุณภำพรำยกรณี คือ ครูผสู้ อน ผ ไ ถำมคำถำมซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ เพอื่ กระต้นุ ให้นักเรียนสนใจท่ีจะ ไ ตอบคำถำม 6 ไ/ จำกกำรเข้ำสังเกตกำรณ์จัดกำรเรียนรทู้ ำใหพ้ บว่ำ ครูผสู้ อน จะจัดกำรเรียนกำรสอนโดยกำรเนน้ นักเรยี นเปน็ สำคญั มี กำรวำงแผนในเนอื้ หำทีจ่ ะสอนใหส้ ัมพนั ธ์กนั ตัง้ คำถำม ใหก้ บั นกั เรียนได้เกิดทกั ษะ กระบวนกำรคิด วิเครำะห์ กำร แก้ไขปญั หำ และมีกำรจดั กำรชั้นเรียนทดี่ ี สงั เกต 3 ครัง้ ต่อสัปดำห์ รวมอย่ำงนอ้ ย 9 ครั้ง
ครัง้ ที่ 9 โรงเรยี น อุดมดรณี ระดับช้ัน ม.5/1 รำยวิชำ คณติ ศำสตรพ์ ื้นฐำน รหสั วิชำ ค 32102 จำนวน 1 หนว่ ยกิต วันที่ 30 พฤศจกิ ำยน 2564 เวลำ 08.30-09.25 น. จำนวน 55 นำที ครผู ้สู อน นำงกรรณกิ ำ อุดมกีรติกลุ ็ 1 ครูผู้สอนจัดกำรเรียนกำรสอนทมี่ ลี กั ษณะกำรสอนแบบให้ นักเรียนวิเครำะห์ โต้ตอบกับครผู ู้สอนได้ มกี ำรตง้ั ถำมอยู่ ตลอดเวลำเพ่อื กระตุ้นให้นกั เรียนสนใจทจ่ี ะเรียน 2 -กำรใช้คำถำมเพ่ือดงึ ดูดควำมสนใจ -กำรยกตวั อย่ำงเพื่อใหเ้ กิดกำรเข้ำใจ -พดู ชมนกั เรยี นที่ตอบคำถำมได้ -กำรเนน้ เสียงสูง ต่ำ เพ่ือกระต้นุ ให้นักเรียนสนใจ 3 (ตัวอยำ่ งข้นั ตอนกำรจดั กำรเรยี นรสู้ ำมำรถปรบั เปลีย่ นได้ ตำมสถำนกำรณ์จรงิ ) -้ ครผู สู้ อนสอบถำมนักเรียนถึงคำบท่แี ล้ว ว่ำเรยี นถึงเร่ือง อะไร แลว้ เกรนิ่ นำ เรอื่ งที่จะเรยี นในคำบน้ี สอบถำมถงึ สปั ดำห์ทแี่ ล้ววำ่ เปน็ ไงบำ้ ง พดู คยุ ข่ำวสำรเกี่ยวกบั ชวี ิตประจำวัน แลกเปลย่ี นควำมรูก้ ัน -้ ครูผู้สอนอธิบำยเกี่ยวกบั เร่อื ง ลำดับเรขำคณิตพร้อมกบั ยกตวั อย่ำงแสดงวธิ ีทำบนกระดำน พรอ้ มกับถำมตอบกับ นกั เรียน และให้นักเรียนมำทำบนกระดำน ทำให้นกั เรยี นมี สว่ นร่วม -้ ครูผูส้ อนทบทวนใหอ้ กี ครงั้ พร้อมกบั ทำโจทย์ไปกบั นกั เรียน และใหน้ ักเรียนทำแบบฝกึ หัดท้ำยคำบ 4ั / ไั
นักเรยี นบำงสว่ นไมม่ ีควำมสนใจในกำรเรียน และไมต่ อบ คำถำมคณุ ครู ไั ้ ผ ครูเขำ้ ไปหำนักเรียนแบบรำยบุคคล หรือถำมคำถำมย้ำ ๆ มี กำรให้คะแนนเพมิ่ ใหก้ ับคนทีต่ อบได้ 5 ผฒ มีกำรรำยงำนผลกำรพฒั นำคุณภำพรำยกรณี คือ ครูผสู้ อน ผ ไ ถำมคำถำมซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ เพอื่ กระต้นุ ให้นักเรียนสนใจท่ีจะ ไ ตอบคำถำม 6 ไ/ จำกกำรเข้ำสังเกตกำรณ์จัดกำรเรียนรทู้ ำใหพ้ บว่ำ ครูผสู้ อน จะจัดกำรเรียนกำรสอนโดยกำรเนน้ นักเรยี นเปน็ สำคญั มี กำรวำงแผนในเนอื้ หำทีจ่ ะสอนใหส้ ัมพนั ธ์กนั ตัง้ คำถำม ใหก้ บั นกั เรียนได้เกิดทกั ษะ กระบวนกำรคิด วิเครำะห์ กำร แก้ไขปญั หำ และมีกำรจดั กำรชั้นเรียนทดี่ ี สงั เกต 3 ครัง้ ต่อสัปดำห์ รวมอย่ำงนอ้ ย 9 ครั้ง
4 เพอื่ ให้นักศกึ ษำสังเกตบริบทของสถำนศกึ ษำ ใหน้ กั ศกึ ษำ ศึกษำ สังเกต และฝึกทกั ษะจำกผู้ที่เก่ยี วข้องในสถำนศึกษำ แล้วบันทึกข้อมูล ในแบบบันทึกตำมประเด็น ดังนี้ 1. ทำเล ท่ีต้ังของสถำนศึกษำสงั เกตกำรจัดกำรเรียนรู้ของครผู สู้ อน 2. อำคำรเรียน และอำคำรประกอบกำรอ่ืน ๆ 3. หอ้ งเรียน และเคร่ืองใช้ตำ่ ง ๆ ในหอ้ งเรยี น 4. มมุ พยำบำล / หอ้ งพยำบำล / เรอื นพยำบำล 5. โรงอำหำร / ที่รบั ประทำนอำหำร 6. โรงประชุม / หอประชมุ 7. หอ้ งพกั ครู 8. หอ้ งสมดุ / หอสมุด 9. หอ้ งปฏิบตั กิ ำรตำ่ ง ๆ (วทิ ยำศำสตรฯ์ ลฯ) 10. นำ้ ด่มื / นำ้ ใช้ 11. หอ้ งนำ้ / หอ้ งสว้ ม / ทีป่ ัสสำวะ 12. สนำมกฬี ำ / สนำมเด็กเลน่ ต่ำง ๆ 13. สถำนท่ีพักผ่อนหย่อนใจ 14. แหล่งขอ้ มูลที่ใช้ในกำรศกึ ษำคน้ คว้ำ / อำ้ งองิ หนว่ ยท่ี 1 สภำพท่วั ไปของสถำนศึกษำ ผ/ ผอู้ ำนวยกำร / รองผอู้ ำนวยกำรโรงเรยี น ครูผู้สอน / ครูพเ่ี ล้ียง / นักเรียน
ชื่อสถำนศึกษำ โรงเรยี นอดุ มดรณุ ี ปรชั ญำ วสิ ำสำ ปรมำญำติ ควำมค้นุ เคย เป็นญำติอย่ำงย่ิง คติธรรม เรยี นเย่ียม ประพฤตดิ ี กีฬำยอด วสิ ยั ทศั น์ ภำยในปี 2566 ผู้เรียนเป็นบคุ คลแห่งกำรเรียนรู้ มสี มรรถนะแห่งศตวรรษท่ี 21 เป้ำหมำย 1. ผเู้ รียนมีผลสัมฤทธ์ิทำงวิชำกำร คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะแหง่ ศตวรรษที่ 21 มีคุณภำพตำมมำตรฐำนกำรศึกษำและมำตรฐำนสำกล 2. สถำนศกึ ษำมีหลักสูตร กระบวนกำรจดั กำรเรยี นรู้ทีเ่ นน้ ผู้เรียนเปน็ สำคญั ตำม มำตรฐำนกำรศกึ ษำและมำตรฐำนสำกลตอบสนองต่อศกั ยภำพของผูเ้ รียนแห่ง ศตวรรษท่ี 21 3. ครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำเปน็ ผูน้ ำทำงวชิ ำกำร มคี ุณภำพตำมมำตรฐำน วิชำชีพทำงกำรศึกษำ 4. สถำนศกึ ษำมีสภำพแวดล้อม และแหล่งเรียนรทู้ ่ีเอ้ือต่อกำรจดั กำรเรียนรู้อยำ่ ง มปี ระสิทธภิ ำพ 5. สถำนศกึ ษำนำนวัตกรรมและเทคโนโลยมี ำใชใ้ นกำรจัดกำรเรียนรู้ และกำร บรหิ ำรจัดกำร 6. สถำนศกึ ษำมกี ระบวนกำรบริหำรจัดกำรสู่ควำมเป็นเลศิ ด้วยระบบคุณภำพ 7. สถำนศึกษำมีเครือขำ่ ยรว่ มพัฒนำในกำรจดั กำรศึกษำอยำ่ งมีประสิทธิภำพสู่ มำตรฐำนสำกล 1. อำคำรเรียน และอำคำรประกอบกำรอืน่ ๆ 1. อำคำร 1 / สัตตบษุ ย์ 2. อำคำร 2 / พุทธรกั ษำ 3. อำคำร 3 / ปำริชำติ 4. อำคำร 4 / รำชพฤกษ์ 5. อำคำร 5 / อดุ มวิทย์ 6. อำคำรพยำบำลมหำแถลง 7. อำคำรพลำนำมยั 8. อำคำรกำรงำนอำชพี
9. อำคำรศิลปะ 10. หอประชุมนพมำศ 11. อำคำรประชำสัมพันธ์ 12. อำคำรพระพทุ โธดมมงคล 13. อำคำร ศำลำ 80 ปี อุดมดรณุ ี 14. อำคำรปัญญำพัฒน์ 15. อำคำรเอนกประสงค์ / โดม 16. โรงอำหำร 2. ห้องเรยี น และเครื่องใช้ต่ำง ๆ ในหอ้ งเรยี น 1. กระดำนไวทบ์ อรด์ 2. ปำกกำไวทบ์ อร์ด 3. โตะ๊ นกั เรยี น 4. โปรเจคเตอร์ 5. พดั ลม 6. เคร่อื งปรบั อำกำศ 7. ถงั ขยะ 8. ไม้กวำด 9. ท่ีตักขยะ 10. ไมถ้ ูพน้ื 3. ห้องพกั ครู ห้องปฏบิ ตั ิงำนและเจำ้ หน้ำที่ ห้องพักครูมจี ำนวนท้ังหมด หอ้ ง ห้องปฏิบตั ิงำนและเจ้ำหน้ำท่ี ได้แก่ 1. สำระสังคมศึกษำศำสนำและวัฒนธรรม 2. สำระคณิตศำสตร์ 3. สำระวทิ ยำศำสตร์ 4. สำระสขุ และพลศึกษำ 5. สำระองั กฤษ 6. สำระศลิ ปะ 7. สำระกำรงำนเทคโนโลยี
8. ห้องคอมพิวเตอร์ 4. หอ้ งปฏิบัติกำรตำ่ ง ๆ (วิทยำศำสตร์ฯลฯ) 1. หอ้ งเรียนเขียว 2. ห้องสมุด 3. ห้องดนตรี 4. หอ้ งศลิ ปะ 5. ศูนย์กำรเรยี นรู้ ICP 90 ปี 5. สถำนท่ีพักผอ่ นหยอ่ นใจ/สนำมเด็กเลน่ ศำลำนั่งพักผ่อน ซมุ้ น่งั พักต่ำง ๆ ลำนกว้ำงและใตถ้ นุ อำคำรเรียน 6. แหล่งขอ้ มูลทใี่ ช้ในกำรศกึ ษำค้นควำ้ / อำ้ งองิ หน่วยท่ี 1 สภำพท่วั ไปของสถำนศกึ ษำ 1. ห้องสมดุ 2. หอสมุดแหง่ ชำตจิ ังหวดั สโุ ขทัย 3. อุทยำนประวตั ิศำสตร์สุโขทัย
1. ศึกษำบรบิ ทของชมุ ชนที่สถำนศึกษำตัง้ อยู่ 1.สภำพชุมชนรอบบริเวรโรงเรียนเป็นสถำนที่รำชกำร เทศบำลและบ้ำนเรือนรำษฎรหนำแน่นมำก อำชีพหลังของชุมชนสว่ นใหญ่ ค้ำขำย เพรำะมีตลำดอยู่ใกล้ๆ 2.โอกำสและขอ้ จำกัดของโรงเรียน โอกำสของสถำนศกึ ษำตงั้ อยู่ใกลเ้ ทศบำลจงึ สะดวกในกำรติดต่อสอ่ื สำรได้อยำ่ งรวดเรว็ ข้องจำกดั ของสถำนศึกษำ ท่ีตั้งบ้ำนเรือนของนักเรียนกระจำยอยู่เกือบทุกตำบลและหมู่บ้ำนทั้งบริเวรในและไกลอำจจะทำให้กำร ประสำนสมั พนั ธ์ระหวำ่ งโรงเรยี นกับผู้ปกครองอำจจะไม่คอ่ ยใกล้ชิดกนั และคล่องตัวเท่ำทค่ี วร 2. ศึกษำควำมสัมพันธร์ ะหว่ำงโรงเรยี นกบั ชุมชน ทำงโรงเรยี นใหท้ ำงชุมชนใชส้ ถำนท่จี ัดงำนกิจกรรมต่ำง ๆ ทำงโรงเรยี นพำนกั เดก็ เข้ำรว่ มกจิ กรรม ต่ำง ๆ ทีช่ ุมชนจัดขึ้น เชน่ ดรุ ิยำงค์ นำงรำ ฯลฯ ให้ยมื อปุ กรณ์ต่ำง ๆ
5 ผ้ เรอ่ื งท่ีสอน ลำดบั เลขคณติ ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษำปีท่ี 5/5 ช่ือครปู ระจำชัน้ 1. คุณครูโรจนสั ถ์ อรุณวิง 2. คณุ ครูณพัฐอร แกลว้ กล้ำ 1. ั ้ นักเรียนบำงสว่ นไม่ใหค้ วำมร่วมมือกบั ครูผู้สอน เชน่ คุณครูให้นักเรียนช่วยกันตอบคำถำมในช้ันเรยี น มีนกั เรยี นบำงสว่ นทไี่ มต่ อบคำถำมคุณครู คุยกบั เพ่ือนเรือ่ งท่ีไมใ่ ช่เร่ืองเรยี น บำงคนไม่สนใจ หลับในคำบ เรียนน้นั ๆ 2. 2.1 เพื่อให้ทรำบถงึ ปญั หำของนกั เรียน และสำเหตขุ องปญั หำท่เี กิดขน้ึ จริงกับนักเรยี น 2.2 เพ่ือให้นักเรยี นมีควำมกล้ำที่จะตอบคำถำมคุณครู และสนใจคุณครู 2.3 เพอื่ ใหน้ กั เรยี นมีควำมกลำ้ ท่ีจะมำปรึกษำครใู นเร่ืองทน่ี ักเรียนเครยี ดหรือมคี วำมวิตกกงั วล 2.4 เพ่ือใหน้ กั เรียนมีควำมกลำ้ ท่ีจะปรึกษำผู้ปกครองในเร่ืองทน่ี กั เรียนเครยี ดหรือมีควำมวิตกกงั 3. ไ ้ หอ้ งเรยี นส่วนใหญจ่ ะจดั โตะ๊ เวน้ ระยะห่ำงกนั เนื่องจำกสถำนกำรณ์ COVID-19 (โควดิ -19) จงึ จำเป็นต้องใหน้ ักเรยี นเว้นระยะห่ำงกัน หอ้ งเรยี นธรรมดำ เป็นห้องพัดลม ส่วนหอ้ งเรยี นพิเศษ จะเป็นห้อง แอร์ และพดั ลม ซ่ึงทัง้ ธรรมดำและห้องพเิ ศษ จะก็มโี ปรเจคเตอร์ ไวอ้ ำนวยควำมสะดวกใหน้ ักเรยี น ไดม้ อง เนื้อหำเหน็ เวลำครูสอนรว่ มไปถึงสะดวกสบำยตอ่ ครผู สู้ อนอกี ดว้ ย 4. ั / 1. ให้คะแนนพเิ ศษกบั นักเรยี นทีต่ อบคำถำมครูได้ หรอื มำทำบนกระดำน 2. ครูผูส้ อนใชเ้ สยี งสงู ตำ่ ในกำรสอนเพอื่ ใหน้ กั เรียนสนใจ ฟังแลว้ ไม่น่ำเบอ่ื 3. พูดชมนกั เรียนท่ตี อบคำถำมได้ หรอื มำทำบนกระดำนได้
5. ้ ้ ้ 1. ทำใหท้ รำบถึงควำมเข้ำใจและควำมตอ้ งกำรของนกั เรียน รพู้ ้ืนฐำนธรรมชำติของนักเรียน 2. ทำใหท้ รำบถึงกำรเป็นครอู ยำ่ งแทจ้ รงิ ไมเ่ พียงแต่กำรสอนอย่ำงเดียว แตต่ อ้ งเข้ำใจถงึ อำรมณ์ และพฤติกรรมของนักเรียน 3. ทำให้ทรำบถึงกำรพัฒนำนกั เรียนใหม้ คี ุณภำพและสำมำรถอยู่ร่วมกบั สังคมไดอ้ ยำ่ งมคี วำมสุข (ลงช่อื )…………………………………………ผู้บันทกึ (นำยศุภวิชญ์ เถื่อนแท้) (ลงชื่อ)………………………………………ครพู ่ีเล้ียง (นำงกรรณกิ ำ อดุ มกีรติกุล)
6 PLC ( ไม่ทำ PLC) ชอ่ื -สกลุ นำยศุภวชิ ญ์ เถอื่ นแท้ รหัสนกั ศึกษำ 6412106060 สำขำวชิ ำ คณิตศำสตร์ ชมุ ชนแห่งกำรเรียนรู้ทำงวิชำชพี (Professional Learning Community : PLC) 1. 1 ไ ็ PLC ชมุ ชนกำรเรยี นรูท้ ำงวิชำชีพ ( Professional Learning Community: PLC) ซึง่ มที ีม่ ำจำกทฤษฎีพหุ ปัญญำของ Gardner ที่ได้กล่ำวถึง ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับกำรเรียนรู้ ว่ำ “How students learn in a holistic & natural way” (Gardner, 1983) ซ่ึงหมำยควำมว่ำ นักเรียนเรียนรู้ในวิถีทำงที่เป็นองค์รวม และธรรมชำติอย่ำงไร นอกจำกนี้แล้ว สติปัญญำของนกั เรยี นถูกเปิดไวเ้ พ่ือกำรเรียนรู้และครูต้องพัฒนำ โอกำสท่หี ลำกหลำยเพ่ือใหน้ กั เรียนไดส้ บื เสำะและคดิ 2. 2 PLC ไ เป็นกำรรวมตัวกันทำงำนไปพฒั นำทักษะและกำรเรียนร้เู พื่อปฏิบตั ิหน้ำท่ีครเู พ่ือศิษยไ์ ป โดยรวมตวั กัน แลกเปลยี่ นเรียนรู้ จำกประสบกำรณต์ รง ทำให้กำรทำหน้ำที่ครูเพื่อศิษย์เปน็ กำรทำงำนเปน็ กลุ่มหรือ เป็นทีม ซ่ึงอำจเป็นทีมในโรงเรียนเดียวกันก็ได้ ต่ำงโรงเรียนกันก็ได้ หรืออำจจะอยู่ห่ำงไกลกันก็ได้ โดย แลกเปลยี่ นเรียนรู้ ผำ่ น ICT 3. 3 PLC ไ 1. รวมกลุม่ ครูทมี่ ีลักษณะใกล้เคยี งกนั เชน่ กล่มุ ครทู ส่ี อนวิชำเดียวกัน สอนในระดับเดยี วกนั หรือมี ลกั ษณะเหมอื นกนั 2. จำนวนสมำชกิ ต้งั แต่ 2 คน ขึ้นไป 4. 4 ไ ั ็ PLC 1. ยอมรบั ว่ำหวั ใจหลักของกำรเรียนรขู้ องครคู อื กำรเรียนรู้ของผู้เรียน 2. ยอมรบั ว่ำกำรสอนและกำรปฏิบัติงำนของครมู ีผลตอ่ กำรเรียนรขู้ องผู้เรยี น 3. เข้ำใจควำมแตกต่ำงของระดับกำรเรียนรู้ 4. สรำ้ งบรรยำกำศควำมรว่ มมือรว่ มใจ
5. สร้ำงควำมสมั พนั ธ์แบบกลั ยำณมิตร 6. รบั ฟังและแสดงควำมคดิ เห็นด้วยทศั นคติเชงิ บวก
7 ชอื่ -สกุล นำยศุภวิชญ์ เถอื่ นแท้ รหัสนกั ศกึ ษำ 6412106060 สำขำวิชำ คณิตศำสตร์ ช่ืออำจำรย์นเิ ทศก์ รศ.ดร.ภัคพล ปรีชำศลิ ป์ ชื่อครพู ่ีเลย้ี ง นำงกรรณิกำ อดุ มกีรตกิ ุล ชื่อโรงเรียนท่ีออกปฏิบัตกิ ำรสอน อุดมดรุณี สมรรถนะ ตัวบง่ ชี้ รำยงำนพฤติกรรมของ นกั ศึกษำ 1. กำรมุ่งผลสัมฤทธ์ิ ใน 1.1 ควำมสำมำรถในกำรวำงแผน กำรกำหนด กำรปฏบิ ัติงำน (Working เปำ้ หมำย กำรวเิ ครำะห์ สังเครำะหภ์ ำรกจิ งำน ผมมกี ำรกำหนด Achievement วตั ถปุ ระสงค์ หรอื Motivation) ต้ังเป้ำหมำยในกำร กระทำในส่ิงต่ำง ๆ ซ่งึ 1.2 ควำมมงุ่ ม่นั ในกำรปฏิบัติหนำ้ ท่ี ให้มคี ุณภำพ เปน็ กระบวนกำร ถูกต้อง ครบถ้วนสมบรู ณ เกยี่ วกับกำรคดิ และ กำรตดั สินในส่ิงตำ่ ง ๆ 1.3 ควำมสำมำรถในกำรตดิ ตำมประเมิน ผลกำร ผมมคี วำมมงุ่ มั่นมำกใน ปฏิบตั ิงำน กำรปฏบิ ตั ิหน้ำที่ของ คณุ ครู คอยทบทวน เนอ้ื หำเรื่องทค่ี รพู ่ีเลี้ยง สอนตลอด อกี ทั้งผมยงั ไดส้ อนนักเรียนอกี ด้วย ผมตดิ ตำมครูพีเ่ ลยี้ ง เวลำไปสอนหรอื ทำ กิจกรรมอะไรตลอด อกี ทั้งยงั ทำหน้ำท่แี ทน ครผู ูส้ อนในบำงคำบ เรยี น
1.4 ควำมสำมำรถในกำรพัฒนำ กำรปฏิบตั ิงำนให้มี ผมนำเทคนคิ และ ประสทิ ธิภำพอย่ำง ต่อเนอ่ื งเพื่อใหง้ ำนประสบ วธิ ีกำรสอนจำกครูพี่ ควำมสำเร็จ เล้ียงมำปรับใชก้ ับตัว ผมเอง ซึง่ ไดน้ ำไปสอน ใหก้ ับนกั เรียนเพือ่ ทำ ให้เรำมปี ระสิทธิภำพ มำกขึน้ 2. กำรบริกำรทีด่ ี 2.1 ควำมตั้งใจและเต็มใจใน กำรให้บรกิ ำร ผมตัง้ ใจและเต็มใจใน (Service Mind) กำรสังเกตกำรสอนทุก 3. กำรพัฒนำตนเอง (Self- Development) คร้งั และเขำ้ ใจตำมไป กบั นักเรียนทำใหเ้ ข้ำใจ เนอ้ื หำมำกย่ิงข้ึนไป 2.2 กำรปรบั ปรุงระบบบริกำรให้มี ประสทิ ธภิ ำพ เมอื่ ผมรวู้ ำผมพลำด ตรงไหน หรือยังไม่ เขำ้ ใจตรงไหนของ เนือ้ หำ ผมจะกลับไป ทบทวนเนอ้ื หำน้นั ๆ ทำใหเ้ รำเข้ำใจเน้ือหำ ทำให้เรำมี ประสทิ ธิภำพมำกขึ้น 3.1 กำรศึกษำคน้ ควำ้ หำควำมรู้ ติดตำม องค์ควำมรู้ ผมศกึ ษำคน้ ควำ้ เนอ้ื หำ ใหมๆ่ ทำงวิชำกำรและวิชำชพี เรื่องทค่ี รพู ่เี ล้ียงสอน ตลอดอีกท้งั ยัง หำ เน้ือหำเพม่ิ เติม ของ เรอ่ื งอืน่ ๆ ท่ีจะเรียนใน เรือ่ งถดั ไปเสมอ 3.2 กำรสรำ้ งองคค์ วำมรู้และนวัตกรรมใน กำร ผมทำใหต้ ัวเองเป็นคน พัฒนำองค์กรและวิชำชีพ เทำ่ ทันทุกเหตุกำรณ์ พรอ้ มเปลยี่ นแปลงใน สถำนกำรณ์ต่ำง ๆ
4. กำรทำงำนเปน็ ทมี 3.2 กำรแลกเปล่ียนควำมคิดเหน็ และสรำ้ ง ผมพูดคุยกับครพู เ่ี ล้ยี ง (Team Work) เครอื ขำ่ ย และเพื่อนๆ ถึงเร่อื ง 4.1 กำรใหค้ วำมร่วมมือ ชว่ ยเหลือและ สนับสนนุ เน้ือหำ และข่ำวสำรใน เพ่อื นรว่ มงำน ชีวติ ประจำวนั ตลอด ผมกับเพื่อนทีม่ ำสังเกต 4.2 กำรเสริมแรงให้กำลังใจเพือ่ นร่วมงำน กำรสอนในโรงเรียน เดยี วกัน สอื่ สำรกัน 4.3 กำรปรบั ตัวเข้ำกับกลุ่มคนหรือ สถำนกำรณ์ ตลอด เวลำมงี ำนอะไร ทหี่ ลำกหลำย ของโรงเรียนก็จะ ช่วยเหลือเกื้อกลู ซ่ึงกัน 4.5 กำรเข้ำไปมสี ว่ นร่วมกบั ผู้อ่ืนใน กำรพฒั นำกำร และกนั กทั้งยงั จดั กำรศึกษำให้บรรลุ ผลสำเร็จตำมเป้ำหมำย ช่วยเหลือเพอื่ นยำมที่ เพือ่ นเดือดร้อน เมอื่ เพ่อื นหมดกำลังใจ หรือเจอเรอ่ื งแย่ ๆ มำ ผมจะคอยเป็นท่ี ปรึกษำและคอยให้ กำลงั ใจเพือ่ นร่วมงำน เสมอ ผมเป็นคนทีป่ รับตัวได้ คอ่ นข้ำงง่ำย เพรำะ เป็นคนเข้ำกบั ใครได้ งำ่ ย อกี ทง้ั ผมมนี ้ำใจ ชอบช่วยเหลือลุคคล อืน่ ๆ ทำใหเ้ ปน็ ทีร่ กั ของใครหลำยคน ผมชว่ ยเหลือคนอ่นื ตลอด เมอื่ ใครมีปญั หำ ขอใหบ้ อกผมถ้ำผม ไม่ไดท้ ำอะไร ผมพรอ้ ม ช่วยเสมอ ทำให้เรำได้
5. จริยธรรม และ 1. ควำมรกั และศรทั ธำในวิชำชีพ ฝึกกำรเป็นครูมำกข้ึน จรรยำบรรณวิชำชพี ครู เพรำะครูนนั้ ไมไ่ ดม้ ี (Teacher’s Ethics and หน้ำทแี่ ค่สอนอย่ำง Integrity) เดียว พฤตกิ รรมเหลำ่ นี้ ทำให้ผมสำเร็จตำม 2. มวี นิ ยั และควำมรบั ผดิ ชอบในวิชำชพี เป้ำหมำย ท่เี รำตงั้ ไว้ ผมมคี วำมรกั ละศรทั ธำ 3. กำรประพฤตปิ ฏบิ ตั ิตน เป็นแบบอยำ่ งท่ดี ี ในวชิ ำชพี ครูมำก ๆ ใน กำรสนับสนนุ หรอื เขำ้ ร่วมกิจกรรมตำ่ ง ๆ ภำยในโรงเรยี นเพอ่ื ปกปอ้ งเกยี รตขิ องครู ผมมคี วำมเอำใจใส่ ใน กำรสอนของครพู ีเ่ ล้ยี ง เสมอ ในเวลำที่ นักเรยี นถำม ผมเข้ำไป หำนักเรียนพร้อมสอน เสมอ เม่ือนักเรียน เรียกหำ ผมมคี วำมรักและควำม เมตตำ ตอ่ นกั เรียน หมน่ั เพยี รในกำรศกึ ษำ ทบทวนเน้อื หำ และ พัฒนำตวั เองอย่เู สมอ มคี วำมเอำใจใส่ นักเรียน เป็นกำลังใจ และแรงผลักดัน ในกับ นักเรียน เพื่อทำให้ นกั เรยี นเปน็ คนใฝร่ ู้ ทำ ใหเ้ รำเป็นแบบอย่ำงท่ี ดี
8 ไ ชือ่ -สกลุ นำยศภุ วชิ ญ์ เถอ่ื นแท้ รหัสนักศึกษำ 6412106060 สำขำวิชำ คณิตศำสตร์ ชอ่ื อำจำรย์นิเทศก์ รศ.ดร.ภคั พล ปรชี ำศลิ ป์ ช่ือครพู ่เี ลีย้ ง นำงกรรณกิ ำ อดุ มกีรติกุล ชอ่ื โรงเรียนท่ีออกปฏบิ ัติกำรสอน อุดมดรุณี 1. สง่ิ ท่ีผมไดร้ บั จำกกำรไปสังเกตกำรสอนในครัง้ นี้มมี ำกมำย แบบได้เป็น 3 ด้ำน ดังต่อไปนี้ 1. ด้ำนควำมรู้ ไดค้ วำมรู้จำกครูพ่ีเล้ียง คอื เทคนิคกำรสอนของครูพเ่ี ล้ียง กำรควบคุมชั้นเรียน กำรใช้สื่อ กำรสอนในช้ันเรียน กำรใช้จิตวิทยำในกำรพูดคุยกับเด็ก กำรแก้ไขปัญหำเฉพำะหน้ำในช้ันเรียน กำรวำงตัว ของควำมเป็นครู ควำมรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ จำกประสบกำรณ์ท่ีครูพ่ีเล้ียงเคยเจอมำและวิธีกำรแก้ไขปัญหำ ได้ ควำมรู้จำกคณะครูท่ำนอ่ืน ๆ ในเร่ืองกำรทำงำนที่นอกเหนือจำกกำรสอน กระบวนกำรทำงำนในโรงเรียน คุณธรรม จริยธรรมทค่ี นเปน็ ครคู วรจะมี 2. ด้ำนกำรปฏิบัติตน ได้รู้จักกำรมีควำมรับผิดชอบในตนเอง ต้องมำโรงเรียนแต่เช้ำเพื่อมำรับนักเรียน หน้ำประตูโรงเรียน กำรแต่งกำยที่สะอำดถูกระเบียบเพื่อเป็นแบบอย่ำงที่ดีให้นักเรียน มีน้ำใจแก่ครูพี่เล้ียง คณะครู รุน่ พีแ่ ละเพือ่ นร่วมฝึกประสบกำรสอน ได้สมั ผัสถึงจติ วญิ ญำณควำมเปน็ ครมู ำกข้นึ กวำ่ เดิม 3. ด้ำนกำรปฏบิ ตั งิ ำน ได้รู้หนำ้ ทีข่ องควำมเปน็ ครูว่ำตอ้ งปฏบิ ัตหิ นำ้ ทีอ่ ะไรบ้ำง ในบำงคำบก็ได้ควบคมุ ช้ัน เรยี นกบั ครูพี่เล้ียง ทำให้เรำมีประสบกำรณท์ ี่ดี และทำหนำ้ ทจ่ี ดบันทึกใบงำนอย่ำงต้ังใจทกุ คร้งั เพอื่ เกบ็ ขอ้ มูล ท่เี ทจ็ จริงไปสง่ ใหอ้ ำจำรยน์ ิเทศน์ได้ตรวจสอบ 2. ไ 1. ได้สัมผัสจติ วญิ ญำณควำมเป็นครูมำกขึน้ มีควำมมุ่งมน่ั ทจ่ี ะตอ้ งเป็นครทู ด่ี ีให้ได้ 2. ได้เห็นถงึ หนำ้ ทข่ี องครทู ีไ่ ม่ใชแ่ คก่ ำรสอนอย่ำงเดียว ครตู ้องเป็นทกุ อยำ่ งให้ไดใ้ นโรงเรียน 3. ได้รบั รปู้ ญั หำและวิธกี ำรแก้ไขปญั หำทไ่ี ดพ้ บเจอในโรงเรียน เพอื่ เป็นควำมรูแ้ ละประสบกำรณ์ในกำร สังเกตกำรสอนหรอื ฝึกกำรสอนในอนำคต 4. ได้รู้ถึงคุณธรรม จริยธรรมท่พี งึ จะมแี ก่คนเปน็ ครทู กุ ท่ำน 5. ได้รถู้ งึ ควำมสำมำรถท่เี รำมีจริง ๆ ในกำรท่ีจะเปน็ ครู และต้องปรบั ปรงุ ในดำ้ นใด
3. ผ ไ 1. ต้องพฒั นำตัวเองให้ดีย่งิ ขนึ้ ในทกุ ๆ ดำ้ น ไม่ว่ำจะเป็นด้ำนควำมร้ทู ั่วไป ควำมรูใ้ นกำรสอน ทักษะชวี ติ เทคนิคในกำรสอน กำรทำให้เด็กรกั วชิ ำคณติ ศำสตร์ และอกี มำกมำยท่ีเรำควรจะมี 2. ตอ้ งเปน็ ครทู ีด่ ีในอนำคต สง่ิ ที่เรำพบเจอแล้วเรำไม่ชอบ เรำจะไมท่ ำแบบนัน้ กับนักเรียน 3. กำรทำงำนในระบบรำชกำร
Search
Read the Text Version
- 1 - 43
Pages: