0 1 ” (Practicum 1) 6412106060 2 2564
1 1 ้ ให้นักศึกษาบนั ทึกผลการวเิ คราะห์ตนเอง ในประเดน็ ดังต่อไปนี้ 1. ความใฝ่ฝนั อยากเปน็ ครู เพราะอาชพี น้เี ป็นอาชีพทสี่ ุจริต ผมสามารถใหค้ วามรกู้ บั เด็กนักเรยี น และใหค้ าแนะนากบั เด็กนักเรียนใน เรื่องต่าง ๆ ได้ ทาให้พวกเขารู้จักคิด วิเคราะห์ แยกแยะได้ ผมอยากให้พวกเขามีความรู้เยอะๆ เพราะเม่ือ พวกเขาโตไป พวกเขาจะได้มีงานทาที่ดี ๆ มีหน้าท่ีการงานท่ีมั่นคง และสามารถนาความรู้ที่ได้เรียนไป นามาใช้เพ่ือพัฒนาบ้านเมืองของพวกเขาได้และอีกอย่างผมเป็นคนที่ชอบวิชาคณิตศาสตร์มาก ๆ เคยมีอยู่ คร้ังนงึ ท่ีผมเครยี ด ผมแก้เครียดโดยการแกโ้ จทย์คณิตศาสตร์ มนั ทาให้ผมไดค้ ิดและลมื เรื่องเครียดเหลา่ นั้นได้ ครับ 2. ความรักและศรทั ธาในวชิ าชีพครู ครูจะต้องมีใจรักและศรัทธาในวิชาชีพของตนเองอย่างสูง เพราะเมื่อเราพบเจอกับอุปสรรคหรือปัญหา อะไรจะผ่านพน้ ไปได้ ต้องมีความรัก ความเมตตากับลูกศิษย์ให้เหมือนลูกหรือบุคคลในครอบครวั ของตนเอง และจะตอ้ งเรียนรทู้ ่ีจะพัฒนาตนเองอย่ตู ลอดเวลา อีกทงั้ การมคี วามอดทนอดกลั้นต่อการรอคอยนักเรียนและ เพือ่ นรว่ มงาน 3. ทัศนคติทีด่ ตี อ่ วิชาชีพครู เป็นครูท่ีมีใจรักและศรัทธาในวิชาชีพ เป็นแบบอย่างท่ีดีให้กับลูกศิษย์ มีความรักความเมตตา มีความ เข้าใจตอ่ ลกู ศิษย์ และในการสอนนั้นจะต้องมเี ทคนิคท่ีสามารถสอนให้นกั เรียนเขา้ ใจในบทเรยี นนาความรู้น้ัน ไประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวันได้อีกท้ังสอนทกั ษะชวี ติ ใหน้ ักเรียนมภี มู ิคุ้มกันสามารถอยรู่ ่วมกับสังคมไดอ้ ย่างมี ความสขุ
2 4. ความสนใจเรอื่ งราวเกยี่ วกบั ครู (การติดตามขอ้ มูลขา่ วสารเก่ียวกบั คร)ู เมื่อผมมีความใฝ่ฝันท่ีอยากจะเป็นครู ผมคอยสอบถามคุณครูในโรงเรียนตอนมัธยมอยู่เสมอเกี่ยวกับ อาชีพครู ว่าควรศึกษาที่ใด เรียนในด้านไหน ซ่ึงผมได้ติดตามข่าวสารทางโทรทัศน์ เว็บไซต์และFacebook เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของอาชีพครู ซ่ึงปัจจุบันการเรียนครู เรียนเพียง 4 ปี จบแล้วต้องสอบใบประกอบ วิชาชีพ เพื่อไปสอบครูผู้ช่วยต่อไป ผมคอยติดตามเพจข้อสอบเกี่ยวกับการสอบครูผู้ช่วยลองฝึกทา เพื่อใน อนาคตอกี 2-3 ปีข้างหน้า ผมจะไดส้ อบบรรจุในท่ที ี่ดแี ละใกล้บ้าน เพื่อดแู ลครอบครวั ตอ่ ไป 5. การเตรียมพรอ้ มส่คู วามเปน็ ครู การเตรียมตัวเป็นครู ก่อนอ่ืนต้องเริ่มจากการแต่งกายต้องสุภาพสมกับความเป็นครู พูดจาให้ไพเราะ มี ความเอน็ ดเู ดก็ มจี ติ วญิ ญาณความเปน็ ครู มีความประพฤติดสี มกับท่ีจะเป็นแม่พมิ พ์และพอ่ พมิ พท์ ่ดี ี ให้เด็ก ๆ อย่าสอนให้เด็กนินทาคนลับหลังโดยไม่มีข้อมูล อย่าวิจารณ์ข่าวท่ีไม่มีการกรอง สรุปคือเป็นคนหนักแน่นสม กับคาว่าครตู ่อมาก็ศึกษาหลักสูตรการสอน เขยี นแผนการจัดประสบการณ์ เตรียมการสอน เตรียมสื่อการสอน ก็สอนใหเ้ ด็กคิดเปน็ ทาเปน็ แกป้ ญั หาเป็น ครเู ปน็ ผกู้ ากบั ไม่ใช่ผู้บอกให้เดก็ จา ใช้วธิ สี อนท่ีหลากหลาย สร้าง บรรยายกาศให้เดก็ สนุกกบั การเรยี น และอกี เยอะแยะ คอ่ ยๆศกึ ษาไป ผมคดิ วา่ \"การทีจ่ ะมาเป็นครกู ็ยากแล้ว แตจ่ ะเปน็ ครูที่ดยี ่งิ ยากกว่าส่ิงใด\" 6. สามารถนาผลจากการเรียนรู้ในสถานศึกษามาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพ่ือนร่วมชั้นเรียน ได้อยา่ งไร เนื่องจากผมได้มีโอกาสไปสังเกตการณ์สอนท่ีโรงเรียนอุมดรุณี ผมสามารถแลกเปล่ียนวิธีการสอนให้แก่ เพอ่ื นรว่ มช้นั ปีได้ และในสถานการณ์ตอนน้มี กี ารระบาดของไวรสั โคโรนา 2019 อยู่ ผมสามารถบอกมาตรการ การป้องกนั จากการระบาดทท่ี างโรงเรียนได้จดั ขึน้ ได้
3 2 ครมู ีความรักและศรัทธาในวิชาชพี ครู ปฏบิ ตั ติ นตามจรรยาบรรณและวนิ ยั ครู ปฏบิ ตั ิตามบทบาท หนา้ ท่ีครูผู้สอนและครปู ระจาชนั้ ได้อยา่ งเหมาะสม 1. แสดงพฤติกรรมทสี่ ะท้อนถึงการมจี ติ วญิ ญาณความเปน็ ครู 2. ระบบุ ทบาทหน้าท่ขี องครผู สู้ อนและครูประจาชนั้ ในการชว่ ยเหลือและพัฒนาผ้เู รียน ้ 1. ความรักและศรทั ธาในวิชาชพี ครู 2. จรรยาบรรณและวนิ ยั ครู 3. บทบาทหน้าที่ครูผู้สอนและครูประจาชนั้ 1. ศึกษาเอกสารเกย่ี วกับบทบาทหน้าที่ครูผสู้ อนและครูประจาชั้น จรรยาบรรณวชิ าชพี ครู 2. สนทนา อภปิ ราย แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั คุณลกั ษณะทด่ี ขี องครูตามจรรยาบรรณวชิ าชพี ครู ความรกั และศรทั ธาในวิชาชพี ครู 3. กาหนดหวั ข้อสาหรบั การศกึ ษาสงั เกตและสรุปลงในแบบบนั ทกึ 4. นาผลการศึกษาสังเกตมานาเสนอเพอ่ื อภิปรายในชั้นเรียน 1. แบบบันทกึ การสงั เกตพฤติกรรมการปฏิบัติหนา้ ที่ครู 2. เอกสารประกอบการศึกษาดว้ ยตนเอง ผ 1. ตรวจแบบบันทึกการสังเกต 2. สังเกตพฤติกรรมการใหค้ วามร่วมมือในชั้นเรยี น
4 1.วธิ กี ารแสดงออกที่ใหเ้ หน็ ถึงความรักและความศรทั ธาในวชิ าชพี ครู การแสดงออกด้วยความชืน่ ชมและเชื่อม่ันในอาชีพครูด้วยตระหนกั ว่าอาชพี น้ีเปน็ อาชพี ทม่ี ีเกียรติ มี ความสาคัญและจาเป็นต่อสังคม ครูพึงปฏิบัติงาน ด้วยความเต็มใจและภูมิใจ รวมทั้งปกป้องเกียรติภูมิของ อาชพี ครู เขา้ ร่วมกจิ กรรมและสนบั สนนุ องค์กรวิชาชพี ครู พฤติกรรมสาคัญ 1. เช่ือมั่น ชืน่ ชม ภูมิใจในความเปน็ ครแู ละองคก์ รวิชาชพี ครู วา่ มีความสาคัญและจาเป็นต่อสังคม ตวั อย่างเช่น 1) ชน่ื ชมในเกียรตแิ ละรางวลั ทไี่ ด้รับและรักษาไวอ้ ยา่ งเสมอต้นเสมอปลาย 2) ยกย่องชมเชยเพือ่ นครูทป่ี ระสบผลสาเร็จเก่ียวกับการสอน 3) เผยแพร่ผลสาเร็จของตนเองและเพ่อื นครู 4) แสดงตนว่าเปน็ ครอู ย่างภาคภมู ิ 2. เป็นสมาชกิ องคก์ รวชิ าชพี ครแู ละสนับสนุนหรอื เข้ารว่ มหรอื เป็นผู้นาในกจิ กรรมพฒั นาวชิ าชพี ครู ตวั อยา่ งเชน่ 1) ปฏบิ ตั ติ ามเง่ือนไขขอ้ กาหนดขององคก์ ร 2) ร่วมกิจกรรมทอ่ี งค์กรจดั ขนึ้ 3) เปน็ กรรมการหรือคณะทางานขององคก์ ร 4) ปกป้องเกยี รตภิ มู ขิ องครูและองค์กรวชิ าชีพ ตัวอย่างเช่น 5) เผยแพร่ประชมสัมพนั ธ์ผลงานของครแู ละองคก์ รวิชาชพี ครู 6) เม่ือมผี เู้ ข้าใจผดิ เก่ยี วกับวงการวิชาชีพครกู ช็ แี้ จงทาความเข้าใจใหถ้ ูกต้อง ฯลฯ 2. การปฏบิ ตั ติ นตามจรรยาบรรณและวนิ ัยครผู สู้ อนและครปู ระจาชั้นตา่ ง ๆ ดงั น้ี 2.1 จรรยาบรรณต่อตนเอง คุณครูมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ในการสอน มีการแจ้งให้นักเรียนรับทราบกอ่ นเข้าเรียน คอยพัฒนาค้นหา ความรู้มาสอนนักเรียนอยู่เสมอ มีความรักและความศรัทธาในวิชาชีพครู เป็นครูท่ีปรึกษาท่ีคอยห่วงใย ติดตามสอบถามนักเรียนเรอื่ งการสง่ งาน มคี วามเอาใจใส่นกั เรียน และคอยใหค้ วามช่วยเหลอื ชกั ถามถึงความ ต้องการของนักเรียน 2.2 จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ คุณครูมีความรับผิดชอบต่อหน้าท่ี ภาระงานที่ต้องทา การเป็นครูไม่ได้มีหน้าท่ีเพียงสอนอย่างเดียว มี ภาระหน้าที่อย่างอื่นที่ต้องทาด้วย คุณครูให้ความสาคัญ ไม่ละเลยต่อหน้าที่ บริหารจัดการส่งงานที่ได้รับ มอบหมายตรงตามกาหนด เมอ่ื มงี านอ่นื ทต่ี ้องทา ไมเ่ คยละเลยหนา้ ทใ่ี นการส่ังสอนใหค้ วามร้แู กน่ กั เรยี น
5 2.3 จรรยาบรรณต่อผู้รบั บรกิ าร คุณครูมีความประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างท่ีดีให้แก่นักเรยี น พูดจาสุภาพ อาจจะมีดุบ้างเล็กน้อย แต่ใช้ คาสุภาพในการว่ากล่าวตักเตือน คอยอบรมส่ังสอนให้นักเรียนเป็นคนดีมีคุณธรรม ไม่เพียงแต่สอนแค่วิชา ความรู้ คุณธรรม จริยธรรม การปฏิบัติตนเป็นคนดีของสังคม คุณครูก็คอยขัดเกลาสั่งสอนให้แก่นักเรียน คุณครูรักนกั เรยี นเท่าเทยี มกันและสอนนกั เรียนดว้ ยความเตม็ ใจเสมอ 2.4 จรรยาบรรณตอ่ ผู้ร่วมประกอบวชิ าชีพ ในสถานศึกษา คุณครูคอยให้ความช่วยเหลือ เป็นท่ีปรึกษาให้แก่เพ่ือนครู คุณครูเป็นคนมีน้าใจเรื่องไหนท่ี คณุ ครสู ามารถชว่ ยได้ คุณครจู ะคอยช่วยเหลือเสมอ อาจจะมบี างเร่ืองท่ีเกิดข้อขัดแยง้ กัน แตก่ ก็ ล่าวตกั เตือน กัน นอกจากในสถานศึกษาแล้ว โรงเรียนใกล้เคียง คุณครูจะเข้าร่วมกิจกรรม ไปเป็นวิทยากรและการ แลกเปลยี่ นเรียนรตู้ า่ งโรงเรยี น 2.5 จรรยาบรรณตอ่ สงั คม ในการลงพ้ืนที่เข้าสู่ชุมชน เม่ือมีกิจกรรม คุณครูจะพานักเรียนไปเข้าร่วม เพ่ือเกิดการเรียนเปล่ียนรู้นอก สถานท่ี จดั กจิ กรรมส่งเสริมใหน้ ักเรยี นได้เรยี นรู้ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งรกั ษาขนมธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมตา่ ง ๆ เสมอ การเคารพผู้ใหญ่ การรู้จกั ไหวท้ กั ทาย และยดึ มน่ั ตามระบอบประชาธิปไตย 3. บทบาทหนา้ ท่ขี องครูผู้สอนและครูประจาชั้นด้านต่าง ๆ ดังนี้ 3.1 ความรบั ผดิ ชอบของครู บทบาทหน้าท่ีและความรับผิดชอบของคุณครู ได้แก่ ที่ปรึกษานักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 5/1 ที่ปรึกษา คณะกรรมการนักเรียน หัวหน้างานบริหารหลักสูตรสถานศึกษา หัวหน้างานตารางสอน หัวหน้ากลุ่มงาน กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น 3.2 การเอาใจใส่ ส่งเสริมผู้เรยี นตามความแตกตา่ งระหว่างบุคคล คุณครูมีการติดตามงานของนักเรียนอยู่เสมอ นักเรียนทุกคนมีความแตกต่างกนั คนไหนที่เรียนไม่ค่อยเขา้ ใจ คุณครูกจ็ ะอธบิ ายเพิ่มเตมิ เสมอ นักเรียนท่มี คี วามเขา้ ใจแล้ว กจ็ ะมคี วามเข้าใจเพ่ิมมากขึน้ นกั เรยี นท่ีจะจบม.6 ซึ่งไม่เคยเรียนแคลคูลัส เป็นเด็กสายสังคม-คอมพิวเตอร์ธุรกิจ คุณครูจะสอนเพิ่มเติมให้แก่นักเรียน ก่อนจะ เขา้ อุดมศึกษา เพอ่ื ใหน้ ักเรียนได้เรียนรูแ้ ละมคี วามเข้าใจเพิ่มเตมิ มากข้ึน
6 3.3 การปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างท่ีดแี ก่ผู้เรยี น คณุ ครูเป็นผทู้ ่แี ตง่ กายสุภาพ เรียบรอ้ ยอยู่เสมอ ตรงต่อเวลาการทางาน การเข้าสอนตรงต่อเวลาสอนครบตาม เวลาที่กาหนด สอนจนหมดคาบ คุณครูมีความเมตตาต่อผู้เรียน คอยสอบถามนักเรียนอยู่เสมอ ว่าไม่เข้าใจ ตรงไหน คุณครจู ะอธิบายเพมิ่ เติม การเป็นครทู ป่ี รกึ ษาของหอ้ ง คณุ ครกู ็จะคอยติดตามงานของนักเรยี น ใหส้ ง่ งานใหค้ รบตามเวลาที่กาหนด ไม่ใหม้ ีการคงั่ คา้ งงาน การสอนของคุณครมู ีความเข้าใจ ทาใหน้ ักเรียนเข้าใจใน บทเรยี นนน้ั 3.4 การสร้างแรงบนั ดาลใจใหก้ ับผู้เรียน คุณครูจะคอยกระตุ้นให้นักเรยี นมีความสนใจในการเรียน ก่อนท่ีเริ่มเข้าสู่บทเรยี น คุณครูจะบอกนักเรียนอยู่ เสมอว่าเราเรียนไปทาไม เรียนแล้วไดอ้ ะไร อย่างเช่นวิชาคณิตศาสตร์ เรียนเร่ืองแคลคูลัสชีวิตประจาวันกไ็ ม่ เห็นมีเก่ียวกับเรื่องเหล่าน้ี ทาไมเราถึงต้องเรียน คุณครูก็จะบอกนักเรียนว่าในอนาคตถ้าเรามีความใฝ่ฝันท่ี อยากจะเป็นวิศวกร ก่อนเราจะเป็นได้ เราก็ต้องเรียนเรื่องเหล่านี้ เพราะเป็นพื้นฐานในการเรียน การเป็น วิศวกร รุ่นพ่ีท่ีจบไป เขาไปเรียนวศิ วกร เขาก็จะขอบคุณครูอยู่เสมอท่ีได้สอนเร่ืองแคลคูลัสให้ ถึงปัจจุบันเรา จะยังไม่ไดน้ าสง่ิ ทเ่ี ราเรียนไปใช้ แตใ่ นอนาคตเราได้นาไปใช้แนน่ อน การเรียนทกุ วชิ าเปน็ พ้ืนฐานในการทางาน ในอนาคตแนน่ อน ขอให้ทกุ คนต้งั ใจเรยี น เพอื่ อาชพี ทีด่ แี ละม่นั คง
7 3 1. เพอ่ื ใหน้ ักศึกษาสังเกตการควบคมุ ชน้ั เรียนของครผู สู้ อน 2. เพ่อื ให้นักศึกษาสังเกตการจัดการเรยี นรู้ของครผู ู้สอน เพอื่ ให้นักศึกษานาสงิ่ ทไี่ ด้จากการสังเกต การควบคุมชน้ั เรยี น และการจดั การเรยี นรู้ของครูผู้สอนมาเปน็ แนวทางในการจดั การเรยี นรู้ ของตนเอง 3. เพ่อื ใหน้ ักศึกษาสังเกตและฝึกทกั ษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ให้นักศึกษา ศึกษา สังเกต และฝึกทักษะจากผู้ท่ีเกี่ยวข้องในสถานศึกษา แล้วบันทึกข้อมูล ในแบบบันทึกตามประเดน็ ดังนี้ 1. สังเกตเทคนิคการควบคุมช้ันเรียนของครูผู้สอน 2. สงั เกตการจดั การเรียนรขู้ องครูผสู้ อน 3. นาส่ิงทไ่ี ด้จากการสงั เกตการควบคุมชัน้ เรยี น และการจัดการเรียนรู้ของครผู ้สู อนมาประยกุ ต์ใช้ ในการจัดการเรียนรู้ 4. สงั เกตปญั หาที่พบในการจัดการเรียนรูข้ องครผู สู้ อน และเทคนคิ แนวทางในการแก้ไขปัญหา ผ/ 1. ผอู้ านวยการ / รองผู้อานวยการโรงเรยี น 2. ครผู สู้ อน / ครูพเ่ี ล้ียง / นกั เรยี น สงั เกต 3 ครง้ั ต่อสัปดาห์ รวมอยา่ งน้อย 9 คร้ัง
8 ครง้ั ท่ี 1 โรงเรียน อดุ มดรณี ระดบั ช้ัน ม.5/8 รายวชิ า คณติ ศาสตรพ์ ื้นฐาน รหัสวชิ า ค 32102 จานวน 1 หน่วยกติ วนั ที่ 17 พฤศจิกายน 2564 เวลา 14.00-14.55 น. จานวน 55 นาที ครผู ูส้ อน นางกรรณกิ า อุดมกีรตกิ ลุ ็ 1 ครูผู้สอนจัดการเรยี นการสอนท่มี ีลกั ษณะการสอนแบบให้ นักเรยี นวิเคราะห์ โต้ตอบกบั ครผู ู้สอนได้ มกี ารต้ังถามอยู่ ตลอดเวลาเพื่อกระต้นุ ใหน้ ักเรียนสนใจที่จะเรยี น 2 -การใช้คาถามเพือ่ ดึงดูดความสนใจ -การยกตัวอย่างเพ่ือให้เกิดการเข้าใจ -พดู ชมนกั เรียนทีต่ อบคาถามได้ -การเนน้ เสียงสงู ตา่ เพอื่ กระตุ้นใหน้ กั เรยี นสนใจ 3 (ตวั อย่างขนั้ ตอนการจดั การเรยี นรสู้ ามารถปรับเปลีย่ นได้ ตามสถานการณ์จริง) -้ ครูผู้สอนสอบถามนกั เรยี นถงึ คาบท่แี ลว้ ว่าเรียนถึงเรอ่ื ง อะไร แลว้ เกรนิ่ นา เรือ่ งทจ่ี ะเรยี นในคาบน้ี -้ ครูผสู้ อนอธิบายเกย่ี วกบั เรอ่ื ง ลาดับเลขคณติ พร้อมกบั ยกตวั อยา่ งแสดงวธิ ที าบนกระดาน พร้อมกับถามตอบกบั นกั เรยี น ทาให้นักเรียนมีสว่ นร่วม -้ ครผู สู้ อนทบทวนให้อีกครัง้ พรอ้ มกับทาโจทยไ์ ปกบั นกั เรียน ใหน้ กั เรียนตอบ 4ั / ไั นกั เรยี นบางส่วนไม่มคี วามสนใจในการเรยี น และไม่ตอบ คาถามคุณครู ไั ้ ผ
9 ครเู ข้าไปหานกั เรยี นแบบรายบุคคล หรอื ถามคาถามยา้ ๆ มี การใหค้ ะแนนเพ่ิมใหก้ บั คนทตี่ อบได้ 5 ผฒ มกี ารรายงานผลการพัฒนาคุณภาพรายกรณี คอื ครผู ู้สอน ผ ไ ถามคาถามซ้า ๆ ย้า ๆ เพ่ือกระต้นุ ใหน้ กั เรียนสนใจที่จะ ไ ตอบคาถาม 6ไ/ จากการเขา้ สงั เกตการณจ์ ัดการเรียนรู้ทาให้พบวา่ ครูผูส้ อน จะจดั การเรยี นการสอนโดยการเนน้ นักเรียนเป็นสาคญั มี การวางแผนในเน้อื หาท่ีจะสอนให้สัมพันธ์กัน ต้งั คาถาม ใหก้ บั นักเรยี นไดเ้ กดิ ทกั ษะ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ การ แก้ไขปัญหา และมีการจัดการช้ันเรียนทดี่ ี สังเกต 3 คร้งั ตอ่ สปั ดาห์ รวมอย่างนอ้ ย 9 ครงั้
10 คร้งั ที่ 2 โรงเรียน อุดมดรณี ระดับช้นั ม.5/2 รายวชิ า คณติ ศาสตร์พนื้ ฐาน รหัสวิชา ค 32102 จานวน 1 หนว่ ยกิต วนั ท่ี 22 พฤศจิกายน 2564 เวลา 11.15-12.10 น. จานวน 55 นาที ครูผู้สอน นางกรรณกิ า อดุ มกีรตกิ ลุ ็ 1 ครูผสู้ อนจัดการเรียนการสอนท่ีมลี ักษณะการสอนแบบให้ นักเรยี นวเิ คราะห์ โตต้ อบกบั ครผู ู้สอนได้ มกี ารต้ังถามอยู่ ตลอดเวลาเพื่อกระต้นุ ให้นักเรยี นสนใจทจ่ี ะเรยี น 2 -การใช้คาถามเพ่ือดึงดูดความสนใจ -การยกตวั อยา่ งเพอ่ื ให้เกดิ การเข้าใจ -พดู ชมนกั เรียนท่ตี อบคาถามได้ -การเนน้ เสยี งสูง ต่า เพื่อกระตนุ้ ให้นักเรยี นสนใจ 3 (ตวั อย่างขัน้ ตอนการจัดการเรยี นรูส้ ามารถปรบั เปล่ียนได้ ตามสถานการณ์จรงิ ) -้ ครผู ู้สอนสอบถามนักเรยี นถงึ คาบทีแ่ ล้ว ว่าเรยี นถึงเรือ่ ง อะไร แลว้ เกร่ินนา เรือ่ งทีจ่ ะเรยี นในคาบนี้ สอบถาม นักเรียนถงึ อาทิตย์ท่หี ยดุ ไป เป็นอย่างไรบ้างสบายดไี หม -้ ครูผสู้ อนอธิบายเกีย่ วกับเรอื่ ง ลาดบั เลขคณติ พรอ้ มกบั ยกตวั อย่างแสดงวธิ ีทาบนกระดาน พรอ้ มกบั ถามตอบกับ นักเรียน ใหน้ ักเรยี นมาทาให้ดูบนกระดานและมอบหมาย งาน 1 ขอ้ ใหน้ กั เรยี นได้ทา ส่งในช่ัวโมง ทาให้นกั เรียนมี สว่ นร่วม -้ ครูผู้สอนทบทวนใหอ้ กี ครัง้ พรอ้ มกับใหก้ ารบา้ น เรื่องลาดับ เลขคณติ ไปทาตอ่ เพ่ือเพม่ิ ทกั ษะและความเข้าใจในเรอื่ งน้ี 4ั / ไั
11 นักเรยี นบางคนไมม่ คี วามสนใจในการเรยี น และไม่ตอบ คาถามคณุ ครู ไั ้ ผ ครเู ขา้ ไปหานักเรยี นแบบรายบุคคล หรือถามคาถามย้า ๆ มี การให้คะแนนเพ่มิ ใหก้ ับคนที่ตอบได้ 5 ผฒ มกี ารรายงานผลการพัฒนาคุณภาพรายกรณี คือ ครูผ้สู อน ผ ไ ถามคาถามซ้า ๆ ย้า ๆ เพือ่ กระตนุ้ ใหน้ ักเรยี นสนใจท่จี ะ ไ ตอบคาถาม 6 ไ/ จากการเข้าสงั เกตการณ์จัดการเรียนรทู้ าใหพ้ บวา่ ครูผสู้ อน จะจดั การเรียนการสอนโดยการเนน้ นักเรียนเปน็ สาคัญมี การวางแผนในเนอ้ื หาทจ่ี ะสอนใหส้ มั พันธก์ นั ต้ังคาถามและ ใหน้ กั เรียนมาทาบนกระดาน เพื่อใหน้ กั เรียนไดเ้ กดิ ทกั ษะ กระบวนการคดิ วเิ คราะห์ การแก้ไขปัญหา และมีการ จดั การช้ันเรยี นท่ดี ี สังเกต 3 ครง้ั ต่อสัปดาห์ รวมอย่างนอ้ ย 9 คร้ัง
12 ครัง้ ที่ 3 โรงเรยี น อุดมดรณี ระดบั ช้ัน ม.5/1 รายวิชา คณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน รหัสวิชา ค 32102 จานวน 1 หนว่ ยกติ วันที่ 23 พฤศจกิ ายน 2564 เวลา 08.30-09.25 น. จานวน 55 นาที ครูผ้สู อน นางกรรณิกา อดุ มกีรติกุล ็ 1 ครผู ู้สอนจดั การเรียนการสอนทม่ี ีลักษณะการสอนแบบให้ นักเรยี นวเิ คราะห์ โต้ตอบกับครูผู้สอนได้ มกี ารต้ังถามอยู่ ตลอดเวลาเพอ่ื กระตุ้นใหน้ กั เรยี นสนใจท่ีจะเรียน 2 -การใชค้ าถามเพอ่ื ดงึ ดูดความสนใจ -การยกตัวอยา่ งเพ่อื ให้เกิดการเขา้ ใจ -พูดชมนกั เรียนท่ตี อบคาถามได้ -การเน้นเสยี งสูง ตา่ เพอ่ื กระตนุ้ ใหน้ กั เรยี นสนใจ 3 (ตวั อย่างข้ันตอนการจัดการเรยี นรู้สามารถปรบั เปลย่ี นได้ ตามสถานการณจ์ ริง) -้ ครูผู้สอนสอบถามนักเรยี นถงึ คาบทแ่ี ล้ว ว่าเรยี นถึงเร่ือง อะไร แลว้ เกริ่นนา เรื่องทีจ่ ะเรียนในคาบน้ี สอบถามถึง สปั ดาห์ทีแ่ ล้วว่าเป็นไงบ้าง -้ ครูผูส้ อนอธิบายเก่ียวกบั เรือ่ ง ลาดับเลขคณิตพร้อมกับ ยกตัวอย่างแสดงวธิ ีทาบนกระดาน พร้อมกับถามตอบกับ นักเรยี น ทาให้นักเรยี นมีส่วนรว่ ม และมีคะแนนพเิ ศษ สาหรบั นักเรียนท่ีตอบคาถาม -้ ครูผสู้ อนทบทวนใหอ้ กี คร้งั พร้อมกับใหน้ ักเรียนทาโจทยท์ ่ี ไดร้ ับมอบหมายจากคุณครู 4ั / ไั นกั เรียนบางส่วนไม่มคี วามสนใจในการเรยี น และไม่ตอบ คาถามคุณครู
13 ไั ้ ผ ครเู ข้าไปหานกั เรยี นแบบรายบุคคล หรือถามคาถามยา้ ๆ มี การใหค้ ะแนนเพมิ่ ใหก้ บั คนทต่ี อบได้ 5 ผฒ มกี ารรายงานผลการพัฒนาคุณภาพรายกรณี คือ ครูผู้สอน ผ ไ ถามคาถามซา้ ๆ ย้า ๆ เพ่ือกระตุ้นใหน้ กั เรยี นสนใจท่ีจะ ไ ตอบคาถาม 6 ไ/ จากการเข้าสังเกตการณจ์ ัดการเรียนร้ทู าใหพ้ บวา่ ครผู ้สู อน จะจัดการเรียนการสอนโดยการเนน้ นกั เรยี นเปน็ สาคญั มี การวางแผนในเนือ้ หาท่จี ะสอนให้สมั พันธ์กนั ตงั้ คาถามและ ใหน้ ักเรยี นมาทาบนกระดาน เพอื่ ใหน้ ักเรยี นได้เกดิ ทักษะ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ การแก้ไขปญั หา และมีการ จดั การชั้นเรียนทดี่ ี สังเกต 3 ครงั้ ต่อสปั ดาห์ รวมอย่างนอ้ ย 9 คร้ัง
14 คร้ังที่ 4 โรงเรยี น อดุ มดรณี ระดบั ชนั้ ม.5/5 รายวิชา คณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน รหัสวิชา ค 32102 จานวน 1 หนว่ ยกติ วนั ท่ี 23 พฤศจกิ ายน 2564 เวลา 12.05-14.00 น. จานวน 55 นาที ครผู ู้สอน นางกรรณิกา อดุ มกีรติกลุ ็ 1 ครผู ู้สอนจัดการเรียนการสอนท่ีมีลักษณะการสอนแบบให้ นักเรยี นวเิ คราะห์ โตต้ อบกบั ครผู ู้สอนได้ มีการตั้งถามอยู่ ตลอดเวลาเพอื่ กระตุ้นใหน้ ักเรยี นสนใจที่จะเรยี น 2 -การใช้คาถามเพือ่ ดึงดูดความสนใจ -การยกตวั อย่างเพอื่ ใหเ้ กดิ การเขา้ ใจ -พดู ชมนกั เรยี นที่ตอบคาถามได้ -การเนน้ เสยี งสงู ตา่ เพอื่ กระตุ้นใหน้ ักเรยี นสนใจ 3 (ตวั อยา่ งข้นั ตอนการจัดการเรียนรูส้ ามารถปรบั เปลี่ยนได้ ตามสถานการณ์จริง) -้ ครูผสู้ อนสอบถามนกั เรียนถึงคาบทแ่ี ล้ว ว่าเรยี นถึงเรื่อง อะไร แลว้ เกรนิ่ นา เรอ่ื งท่จี ะเรยี นในคาบนี้ สอบถามถงึ สัปดาห์ท่แี ลว้ ว่าเปน็ ไงบ้าง -้ ครูผู้สอนอธบิ ายเก่ียวกบั เร่ือง ลาดับเลขคณิตพร้อมกับ ยกตัวอย่างแสดงวธิ ีทาบนกระดาน พรอ้ มกับถามตอบกับ นักเรยี นและให้นักเรียนมาทาบนกระดาน ทาใหน้ ักเรยี นมี ส่วนรว่ มและมีคะแนนพิเศษสาหรบั นกั เรยี นที่ตอบคาถาม -้ ครผู สู้ อนทบทวนใหอ้ ีกครง้ั พร้อมกับทาโจทยไ์ ปกบั นกั เรยี น และใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกหัดเป็นการบ้าน 4ั / ไั นักเรยี นบางสว่ นไมม่ คี วามสนใจในการเรียน และไม่ตอบ คาถามคุณครู
15 ไั ้ ผ ครเู ข้าไปหานกั เรยี นแบบรายบุคคล หรือถามคาถามยา้ ๆ มี การใหค้ ะแนนเพมิ่ ใหก้ บั คนทต่ี อบได้ 5 ผฒ มกี ารรายงานผลการพัฒนาคุณภาพรายกรณี คือ ครูผู้สอน ผ ไ ถามคาถามซา้ ๆ ย้า ๆ เพ่ือกระตุ้นใหน้ ักเรียนสนใจท่ีจะ ไ ตอบคาถาม 6 ไ/ จากการเข้าสังเกตการณจ์ ัดการเรียนร้ทู าใหพ้ บวา่ ครผู ้สู อน จะจัดการเรียนการสอนโดยการเนน้ นกั เรยี นเป็นสาคญั มี การวางแผนในเนือ้ หาท่จี ะสอนให้สมั พันธ์กนั ตั้งคาถามและ ใหน้ ักเรยี นมาทาบนกระดาน เพอื่ ใหน้ ักเรยี นได้เกดิ ทักษะ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ การแก้ไขปญั หา และมีการ จดั การชั้นเรียนทดี่ ี สังเกต 3 ครงั้ ต่อสปั ดาห์ รวมอย่างนอ้ ย 9 คร้ัง
16 ครง้ั ท่ี 5 โรงเรยี น อุดมดรณี ระดบั ชัน้ ม.5/3 รายวชิ า คณิตศาสตรพ์ น้ื ฐาน รหัสวิชา ค 32102 จานวน 1 หน่วยกติ วนั ที่ 24 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.20-11.15 น. จานวน 55 นาที ครผู ู้สอน นางกรรณกิ า อุดมกีรตกิ ลุ ็ 1 ครูผูส้ อนจัดการเรยี นการสอนทม่ี ีลกั ษณะการสอนแบบให้ นกั เรยี นวเิ คราะห์ โตต้ อบกับครูผู้สอนได้ มีการตัง้ ถามอยู่ ตลอดเวลาเพ่ือกระตนุ้ ใหน้ ักเรียนสนใจที่จะเรยี น 2 -การใชค้ าถามเพ่ือดึงดูดความสนใจ -การยกตวั อย่างเพ่อื ใหเ้ กิดการเขา้ ใจ -พดู ชมนกั เรยี นทีต่ อบคาถามได้ -การเนน้ เสยี งสูง ตา่ เพ่อื กระต้นุ ใหน้ กั เรยี นสนใจ 3 (ตวั อย่างขนั้ ตอนการจดั การเรียนรูส้ ามารถปรับเปลยี่ นได้ ตามสถานการณ์จริง) -้ ครูผสู้ อนสอบถามนกั เรียนถงึ คาบทแี่ ลว้ ว่าเรียนถึงเร่ือง อะไร แล้วเกร่ินนา เรอ่ื งที่จะเรียนในคาบน้ี สอบถามถึง สปั ดาห์ทแ่ี ล้วว่าเป็นไงบา้ ง พูดคยุ ข่าวสารเกีย่ วกับ ชวี ิตประจาวัน แลกเปล่ียนความรกู้ นั -้ ครูผูส้ อนอธิบายเก่ียวกับเร่ือง ลาดับเลขคณติ พรอ้ มกับ ยกตวั อย่างแสดงวิธที าบนกระดาน พร้อมกบั ถามตอบกับ นักเรียน ทาให้นกั เรยี นมีส่วนร่วม และมคี ะแนนพเิ ศษ สาหรับนักเรียนท่ีตอบคาถาม -้ ครูผูส้ อนทบทวนใหอ้ กี คร้งั พร้อมกบั ทาโจทยไ์ ปกบั นกั เรียน และใหน้ กั เรยี นทาแบบฝกึ หัดเปน็ การบ้าน 4ั / ไั
17 นักเรียนบางสว่ นไมม่ ีความสนใจในการเรียน และไม่ตอบ คาถามคณุ ครู ไั ้ ผ ครูเข้าไปหานกั เรียนแบบรายบุคคล หรือถามคาถามย้า ๆ มี การให้คะแนนเพิ่มใหก้ บั คนทตี่ อบได้ 5 ผฒ มกี ารรายงานผลการพฒั นาคุณภาพรายกรณี คอื ครูผู้สอน ผ ไ ถามคาถามซา้ ๆ ย้า ๆ เพ่ือกระตุ้นใหน้ ักเรยี นสนใจทจ่ี ะ ไ ตอบคาถาม 6 ไ/ จากการเข้าสังเกตการณ์จัดการเรียนรทู้ าให้พบว่า ครผู ู้สอน จะจดั การเรยี นการสอนโดยการเน้นนักเรียนเปน็ สาคญั มี การวางแผนในเนอื้ หาท่จี ะสอนใหส้ มั พันธก์ นั ต้งั คาถาม ให้กับนักเรยี นได้เกิดทักษะ กระบวนการคดิ วเิ คราะห์ การ แก้ไขปญั หา และมกี ารจดั การชน้ั เรียนท่ดี ี สงั เกต 3 ครัง้ ต่อสัปดาห์ รวมอย่างนอ้ ย 9 ครงั้
18 คร้งั ท่ี 6 โรงเรียน อุดมดรณี ระดบั ชัน้ ม.5/6 รายวิชา คณิตศาสตร์พ้นื ฐาน รหัสวิชา ค 32102 จานวน 1 หน่วยกติ วันที่ 25 พฤศจกิ ายน 2564 เวลา 08.30-09.25 น. จานวน 55 นาที ครูผ้สู อน นางกรรณกิ า อดุ มกีรติกุล ็ 1 ครผู ้สู อนจดั การเรยี นการสอนทมี่ ลี ักษณะการสอนแบบให้ นักเรยี นวเิ คราะห์ โต้ตอบกบั ครผู ู้สอนได้ มกี ารตัง้ ถามอยู่ ตลอดเวลาเพ่อื กระตนุ้ ให้นกั เรยี นสนใจที่จะเรียน 2 -การใช้คาถามเพื่อดงึ ดูดความสนใจ -การยกตวั อย่างเพือ่ ให้เกดิ การเข้าใจ -พูดชมนักเรียนที่ตอบคาถามได้ -การเน้นเสียงสูง ตา่ เพือ่ กระตุ้นให้นกั เรียนสนใจ 3 (ตัวอยา่ งข้ันตอนการจดั การเรยี นรสู้ ามารถปรบั เปลี่ยนได้ ตามสถานการณ์จรงิ ) -้ ครผู สู้ อนสอบถามนักเรยี นถึงคาบทีแ่ ลว้ วา่ เรยี นถึงเร่อื ง อะไร แล้วเกร่ินนา เรื่องที่จะเรยี นในคาบน้ี สอบถามถงึ สัปดาห์ท่ีแล้วว่าเป็นไงบ้าง พดู คยุ ขา่ วสารเกีย่ วกบั ชวี ติ ประจาวัน แลกเปลีย่ นความรู้กัน -้ ครูผู้สอนอธบิ ายเกี่ยวกับเร่ือง ลาดบั เรขาคณิตพร้อมกับ ยกตวั อยา่ งแสดงวิธที าบนกระดาน พร้อมกบั ถามตอบกับ นักเรยี น ทาใหน้ ักเรียนมสี ว่ นรว่ ม และมีคะแนนพเิ ศษ สาหรับนกั เรียนท่ตี อบคาถาม -้ ครูผสู้ อนทบทวนใหอ้ ีกครง้ั พร้อมกับทาโจทย์ไปกบั นักเรียน และใหน้ กั เรยี นทาแบบฝึกหดั ท้ายคาบ 4ั / ไั
19 นักเรียนบางสว่ นไมม่ ีความสนใจในการเรียน และไม่ตอบ คาถามคณุ ครู ไั ้ ผ ครูเข้าไปหานกั เรียนแบบรายบุคคล หรือถามคาถามย้า ๆ มี การให้คะแนนเพิ่มใหก้ บั คนทตี่ อบได้ 5 ผฒ มกี ารรายงานผลการพฒั นาคุณภาพรายกรณี คอื ครูผู้สอน ผ ไ ถามคาถามซา้ ๆ ย้า ๆ เพ่ือกระตุ้นใหน้ ักเรยี นสนใจทจ่ี ะ ไ ตอบคาถาม 6 ไ/ จากการเข้าสังเกตการณ์จัดการเรียนรทู้ าให้พบว่า ครผู ู้สอน จะจดั การเรยี นการสอนโดยการเน้นนักเรียนเปน็ สาคญั มี การวางแผนในเนอื้ หาทจ่ี ะสอนใหส้ มั พันธก์ นั ต้งั คาถาม ให้กับนักเรยี นได้เกิดทักษะ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ การ แก้ไขปญั หา และมกี ารจดั การชน้ั เรียนท่ดี ี สงั เกต 3 ครัง้ ต่อสัปดาห์ รวมอย่างนอ้ ย 9 ครงั้
20 ครงั้ ท่ี 7 โรงเรยี น อดุ มดรณี ระดบั ชน้ั ม.5/1 รายวิชา คณติ ศาสตรพ์ ้ืนฐาน รหสั วิชา ค 32102 จานวน 1 หนว่ ยกิต วันที่ 26 พฤศจกิ ายน 2564 เวลา 08.30-09.25 น. จานวน 55 นาที ครูผู้สอน นางกรรณิกา อุดมกีรตกิ ลุ ็ 1 ครผู สู้ อนจัดการเรียนการสอนทม่ี ีลกั ษณะการสอนแบบให้ นกั เรยี นวเิ คราะห์ โตต้ อบกบั ครผู ู้สอนได้ มกี ารตงั้ ถามอยู่ ตลอดเวลาเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนสนใจทีจ่ ะเรียน 2 -การใชค้ าถามเพ่ือดึงดูดความสนใจ -การยกตัวอย่างเพ่ือให้เกดิ การเขา้ ใจ -พดู ชมนักเรียนทต่ี อบคาถามได้ -การเน้นเสยี งสูง ต่า เพ่อื กระตนุ้ ให้นกั เรียนสนใจ 3 (ตัวอยา่ งขั้นตอนการจดั การเรยี นรู้สามารถปรับเปลยี่ นได้ ตามสถานการณ์จรงิ ) -้ ครผู ู้สอนสอบถามนกั เรียนถึงคาบทแ่ี ลว้ วา่ เรยี นถึงเร่อื ง อะไร แล้วเกรนิ่ นา เรอ่ื งท่ีจะเรยี นในคาบน้ี สอบถามถงึ สัปดาห์ทีแ่ ลว้ ว่าเป็นไงบ้าง พดู คุยขา่ วสารเกี่ยวกับ ชวี ิตประจาวัน แลกเปลีย่ นความรู้กัน -้ ครผู สู้ อนอธิบายเกย่ี วกบั เร่อื ง ลาดับเลขคณิตพรอ้ มกับ ยกตัวอยา่ งแสดงวิธที าบนกระดาน พรอ้ มกับถามตอบกบั นักเรียน และให้นักเรยี นมาทาบนกระดาน ทาให้นักเรยี นมี ส่วนร่วม -้ ครผู ูส้ อนทบทวนใหอ้ ีกครงั้ พร้อมกบั ทาโจทยไ์ ปกับนักเรียน และใหน้ ักเรยี นทาแบบฝึกหดั ท้ายคาบ 4ั / ไั
21 นักเรียนบางสว่ นไมม่ ีความสนใจในการเรียน และไม่ตอบ คาถามคณุ ครู ไั ้ ผ ครูเข้าไปหานกั เรียนแบบรายบุคคล หรือถามคาถามย้า ๆ มี การให้คะแนนเพิ่มใหก้ บั คนทตี่ อบได้ 5 ผฒ มกี ารรายงานผลการพฒั นาคุณภาพรายกรณี คอื ครูผู้สอน ผ ไ ถามคาถามซา้ ๆ ย้า ๆ เพ่ือกระตุ้นใหน้ ักเรยี นสนใจทจ่ี ะ ไ ตอบคาถาม 6 ไ/ จากการเข้าสังเกตการณ์จัดการเรียนรทู้ าให้พบว่า ครผู ู้สอน จะจดั การเรยี นการสอนโดยการเน้นนักเรียนเปน็ สาคญั มี การวางแผนในเนอื้ หาทจ่ี ะสอนใหส้ มั พันธก์ นั ต้งั คาถาม ให้กับนักเรยี นได้เกิดทักษะ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ การ แก้ไขปญั หา และมกี ารจดั การชน้ั เรียนท่ดี ี สงั เกต 3 ครัง้ ต่อสัปดาห์ รวมอย่างนอ้ ย 9 ครงั้
22 คร้ังท่ี 8 โรงเรยี น อุดมดรณี ระดับชั้น ม.5/2 รายวชิ า คณิตศาสตร์พ้นื ฐาน รหสั วชิ า ค 32102 จานวน 1 หนว่ ยกิต วันท่ี 29 พฤศจกิ ายน 2564 เวลา 09.25-10.20 น. จานวน 55 นาที ครูผ้สู อน นางกรรณิกา อดุ มกีรตกิ ลุ ็ 1 ครูผสู้ อนจดั การเรยี นการสอนที่มลี กั ษณะการสอนแบบให้ นกั เรียนวเิ คราะห์ โต้ตอบกับครผู ู้สอนได้ มีการตง้ั ถามอยู่ ตลอดเวลาเพอ่ื กระต้นุ ใหน้ ักเรียนสนใจท่ีจะเรยี น 2 -การใชค้ าถามเพ่อื ดึงดูดความสนใจ -การยกตัวอย่างเพ่ือให้เกิดการเขา้ ใจ -พดู ชมนกั เรียนทีต่ อบคาถามได้ -การเนน้ เสียงสูง ตา่ เพ่อื กระต้นุ ใหน้ ักเรยี นสนใจ 3 (ตวั อย่างขน้ั ตอนการจดั การเรียนรสู้ ามารถปรบั เปล่ียนได้ ตามสถานการณ์จริง) -้ ครูผูส้ อนสอบถามนักเรียนถงึ คาบทแี่ ล้ว วา่ เรียนถึงเรื่อง อะไร แล้วเกร่นิ นา เร่อื งทจ่ี ะเรยี นในคาบนี้ สอบถามถึง สปั ดาห์ที่แลว้ วา่ เป็นไงบ้าง พดู คยุ ข่าวสารเกีย่ วกบั ชีวิตประจาวัน แลกเปลย่ี นความรูก้ นั -้ ครูผู้สอนอธบิ ายเกย่ี วกับเรื่อง ลาดบั เรขาคณิตพรอ้ มกบั ยกตัวอย่างแสดงวิธที าบนกระดาน พร้อมกบั ถามตอบกับ นกั เรียนและให้นักเรียนมาทาบนกระดาน ทาใหน้ กั เรยี นมี ส่วนรว่ ม -้ ครูผู้สอนทบทวนใหอ้ กี ครงั้ พร้อมกับทาโจทย์ไปกบั นักเรียน และให้นักเรียนทาแบบฝึกหดั ท้ายคาบ 4ั / ไั
23 นักเรียนบางสว่ นไมม่ ีความสนใจในการเรียน และไมต่ อบ คาถามคณุ ครู ไั ้ ผ ครูเข้าไปหานกั เรียนแบบรายบุคคล หรือถามคาถามย้า ๆ มี การให้คะแนนเพิ่มใหก้ บั คนทตี่ อบได้ 5 ผฒ มกี ารรายงานผลการพฒั นาคุณภาพรายกรณี คอื ครูผู้สอน ผ ไ ถามคาถามซา้ ๆ ย้า ๆ เพ่ือกระตุ้นใหน้ ักเรยี นสนใจทจ่ี ะ ไ ตอบคาถาม 6 ไ/ จากการเข้าสังเกตการณ์จัดการเรียนรทู้ าให้พบว่า ครผู ู้สอน จะจดั การเรยี นการสอนโดยการเน้นนักเรียนเปน็ สาคญั มี การวางแผนในเนอื้ หาทจ่ี ะสอนใหส้ มั พันธก์ นั ต้งั คาถาม ให้กับนักเรยี นได้เกิดทักษะ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ การ แก้ไขปญั หา และมกี ารจดั การชน้ั เรียนท่ดี ี สงั เกต 3 ครัง้ ต่อสัปดาห์ รวมอย่างนอ้ ย 9 ครงั้
24 คร้งั ท่ี 9 โรงเรียน อุดมดรณี ระดบั ชัน้ ม.5/1 รายวิชา คณิตศาสตรพ์ นื้ ฐาน รหสั วชิ า ค 32102 จานวน 1 หน่วยกิต วนั ท่ี 30 พฤศจกิ ายน 2564 เวลา 08.30-09.25 น. จานวน 55 นาที ครผู ูส้ อน นางกรรณิกา อดุ มกีรตกิ ลุ ็ 1 ครูผสู้ อนจดั การเรียนการสอนที่มลี ักษณะการสอนแบบให้ นกั เรยี นวิเคราะห์ โต้ตอบกับครูผู้สอนได้ มกี ารตงั้ ถามอยู่ ตลอดเวลาเพ่อื กระตุน้ ใหน้ กั เรยี นสนใจทีจ่ ะเรยี น 2 -การใช้คาถามเพอื่ ดึงดูดความสนใจ -การยกตัวอย่างเพอื่ ให้เกดิ การเขา้ ใจ -พดู ชมนักเรยี นที่ตอบคาถามได้ -การเนน้ เสียงสูง ต่า เพอ่ื กระตุ้นใหน้ กั เรียนสนใจ 3 (ตัวอยา่ งข้ันตอนการจดั การเรยี นรู้สามารถปรับเปลี่ยนได้ ตามสถานการณจ์ ริง) -้ ครูผ้สู อนสอบถามนกั เรียนถงึ คาบที่แล้ว ว่าเรียนถึงเรอื่ ง อะไร แล้วเกรน่ิ นา เรื่องทีจ่ ะเรียนในคาบน้ี สอบถามถึง สปั ดาห์ท่แี ลว้ ว่าเป็นไงบ้าง พูดคยุ ข่าวสารเกีย่ วกบั ชีวติ ประจาวนั แลกเปลี่ยนความรกู้ นั -้ ครูผู้สอนอธบิ ายเกีย่ วกบั เรอ่ื ง ลาดับเรขาคณิตพรอ้ มกบั ยกตวั อยา่ งแสดงวธิ ีทาบนกระดาน พรอ้ มกับถามตอบกับ นกั เรียน และให้นักเรียนมาทาบนกระดาน ทาให้นกั เรยี นมี สว่ นร่วม -้ ครูผู้สอนทบทวนให้อีกครงั้ พร้อมกับทาโจทยไ์ ปกบั นกั เรียน และใหน้ กั เรยี นทาแบบฝกึ หดั ท้ายคาบ 4ั / ไั
25 นักเรียนบางสว่ นไมม่ ีความสนใจในการเรียน และไม่ตอบ คาถามคณุ ครู ไั ้ ผ ครูเข้าไปหานกั เรียนแบบรายบุคคล หรือถามคาถามย้า ๆ มี การให้คะแนนเพิ่มใหก้ บั คนทตี่ อบได้ 5 ผฒ มกี ารรายงานผลการพฒั นาคุณภาพรายกรณี คอื ครูผู้สอน ผ ไ ถามคาถามซา้ ๆ ย้า ๆ เพ่ือกระตุ้นใหน้ ักเรยี นสนใจทจ่ี ะ ไ ตอบคาถาม 6 ไ/ จากการเข้าสังเกตการณ์จัดการเรียนรทู้ าให้พบว่า ครผู ู้สอน จะจดั การเรยี นการสอนโดยการเน้นนักเรียนเปน็ สาคญั มี การวางแผนในเนอื้ หาทจ่ี ะสอนใหส้ มั พันธก์ นั ต้งั คาถาม ให้กับนักเรยี นได้เกิดทักษะ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ การ แก้ไขปญั หา และมกี ารจดั การชน้ั เรียนท่ดี ี สงั เกต 3 ครัง้ ต่อสัปดาห์ รวมอย่างนอ้ ย 9 ครงั้
26 4 เพือ่ ใหน้ ักศกึ ษาสงั เกตบริบทของสถานศกึ ษา ให้นกั ศึกษา ศึกษา สงั เกต และฝึกทักษะจากผทู้ ี่เก่ยี วข้องในสถานศกึ ษา แลว้ บนั ทกึ ข้อมูล ในแบบบนั ทึกตามประเด็น ดงั นี้ 1. ทาเล ท่ีต้ังของสถานศกึ ษาสงั เกตการจัดการเรียนรขู้ องครผู ูส้ อน 2. อาคารเรียน และอาคารประกอบการอ่ืน ๆ 3. หอ้ งเรยี น และเครอ่ื งใช้ต่าง ๆ ในหอ้ งเรียน 4. มุมพยาบาล / ห้องพยาบาล / เรอื นพยาบาล 5. โรงอาหาร / ทรี่ บั ประทานอาหาร 6. โรงประชมุ / หอประชมุ 7. ห้องพักครู 8. ห้องสมุด / หอสมุด 9. ห้องปฏิบตั ิการตา่ ง ๆ (วทิ ยาศาสตรฯ์ ลฯ) 10. น้าดม่ื / นา้ ใช้ 11. ห้องนา้ / ห้องสว้ ม / ทปี่ ัสสาวะ 12. สนามกีฬา / สนามเดก็ เลน่ ต่าง ๆ 13. สถานท่ีพกั ผอ่ นหย่อนใจ 14. แหล่งขอ้ มูลที่ใช้ในการศกึ ษาคน้ ควา้ / อ้างองิ หน่วยท่ี 1 สภาพทว่ั ไปของสถานศกึ ษา ผ/ ผู้อานวยการ / รองผอู้ านวยการโรงเรยี น ครูผู้สอน / ครพู ่เี ล้ียง / นักเรียน
27 ชือ่ สถานศึกษา โรงเรยี นอุดมดรณุ ี ปรชั ญา วิสาสา ปรมาญาติ ความคุ้นเคย เปน็ ญาติอย่างย่ิง คตธิ รรม เรียนเยี่ยม ประพฤตดิ ี กฬี ายอด วสิ ัยทศั น์ ภายในปี 2566 ผู้เรยี นเปน็ บุคคลแหง่ การเรยี นรู้ มสี มรรถนะแหง่ ศตวรรษที่ 21 เป้าหมาย 1. ผู้เรยี นมีผลสัมฤทธิ์ทางวชิ าการ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะแห่ง ศตวรรษที่ 21 มคี ุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษาและมาตรฐานสากล 2. สถานศกึ ษามีหลักสูตร กระบวนการจดั การเรยี นรูท้ เ่ี น้นผูเ้ รยี นเป็นสาคญั ตาม มาตรฐานการศึกษาและมาตรฐานสากลตอบสนองต่อศกั ยภาพของผูเ้ รยี นแหง่ ศตวรรษท่ี 21 3. ครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาเปน็ ผนู้ าทางวิชาการ มคี ณุ ภาพตามมาตรฐาน วชิ าชพี ทางการศกึ ษา 4. สถานศกึ ษามีสภาพแวดลอ้ ม และแหลง่ เรียนรู้ท่ีเอ้ือต่อการจัดการเรยี นรอู้ ยา่ ง มีประสิทธภิ าพ 5. สถานศกึ ษานานวตั กรรมและเทคโนโลยมี าใช้ในการจดั การเรยี นรู้ และการ บริหารจดั การ 6. สถานศกึ ษามีกระบวนการบรหิ ารจัดการสู่ความเป็นเลิศดว้ ยระบบคณุ ภาพ 7. สถานศึกษามีเครือข่ายร่วมพฒั นาในการจัดการศึกษาอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพสู่ มาตรฐานสากล 1. อาคารเรยี น และอาคารประกอบการอืน่ ๆ 1. อาคาร 1 / สัตตบุษย์ 2. อาคาร 2 / พุทธรกั ษา 3. อาคาร 3 / ปาริชาติ 4. อาคาร 4 / ราชพฤกษ์ 5. อาคาร 5 / อดุ มวิทย์ 6. อาคารพยาบาลมหาแถลง 7. อาคารพลานามยั 8. อาคารการงานอาชพี
28 9. อาคารศิลปะ 10. หอประชุมนพมาศ 11. อาคารประชาสัมพนั ธ์ 12. อาคารพระพุทโธดมมงคล 13. อาคาร ศาลา 80 ปี อุดมดรุณี 14. อาคารปัญญาพฒั น์ 15. อาคารเอนกประสงค์ / โดม 16. โรงอาหาร 2. หอ้ งเรียน และเครื่องใชต้ ่าง ๆ ในห้องเรยี น 1. กระดานไวทบ์ อร์ด 2. ปากกาไวทบ์ อรด์ 3. โตะ๊ นกั เรียน 4. โปรเจคเตอร์ 5. พัดลม 6. เครอ่ื งปรบั อากาศ 7. ถงั ขยะ 8. ไม้กวาด 9. ท่ีตกั ขยะ 10. ไมถ้ พู ้ืน 3. หอ้ งพักครู หอ้ งปฏบิ ตั ิงานและเจา้ หนา้ ท่ี ห้องพักครูมีจานวนทั้งหมด หอ้ ง หอ้ งปฏิบัติงานและเจ้าหน้าท่ี ไดแ้ ก่ 1. สาระสังคมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม 2. สาระคณติ ศาสตร์ 3. สาระวทิ ยาศาสตร์ 4. สาระสขุ และพลศกึ ษา 5. สาระอังกฤษ 6. สาระศลิ ปะ 7. สาระการงานเทคโนโลยี
29 8. หอ้ งคอมพวิ เตอร์ 4. ห้องปฏิบตั ิการต่าง ๆ (วิทยาศาสตร์ฯลฯ) 1. ห้องเรียนเขยี ว 2. ห้องสมุด 3. หอ้ งดนตรี 4. หอ้ งศิลปะ 5. ศูนยก์ ารเรียนรู้ ICP 90 ปี 5. สถานท่ีพกั ผ่อนหย่อนใจ/สนามเด็กเล่น ศาลานัง่ พกั ผอ่ น ซ้มุ น่งั พักต่าง ๆ ลานกว้างและใตถ้ นุ อาคารเรยี น 6. แหลง่ ขอ้ มูลทีใ่ ช้ในการศึกษาคน้ ควา้ / อ้างอิงหน่วยท่ี 1 สภาพท่ัวไปของสถานศึกษา 1. หอ้ งสมดุ 2. หอสมุดแหง่ ชาติจังหวดั สุโขทัย 3. อุทยานประวัตศิ าสตรส์ ุโขทัย
30 1. ศกึ ษาบริบทของชมุ ชนทส่ี ถานศึกษาต้ังอยู่ 1.สภาพชุมชนรอบบริเวรโรงเรียนเป็นสถานที่ราชการ เทศบาลและบ้านเรือนราษฎรหนาแน่นมาก อาชพี หลังของชมุ ชนสว่ นใหญ่ คา้ ขาย เพราะมีตลาดอยใู่ กล้ๆ 2.โอกาสและขอ้ จากดั ของโรงเรยี น โอกาสของสถานศกึ ษาตง้ั อยใู่ กลเ้ ทศบาลจึงสะดวกในการตดิ ตอ่ สือ่ สารได้อย่างรวดเร็ว ข้องจากัดของสถานศกึ ษา ที่ต้ังบ้านเรือนของนักเรียนกระจายอยู่เกือบทุกตาบลและหมู่บ้านทั้งบริเวรในและไกลอาจจะทาให้การ ประสานสมั พนั ธร์ ะหว่างโรงเรยี นกบั ผปู้ กครองอาจจะไมค่ ่อยใกลช้ ิดกัน และคล่องตัวเทา่ ท่ีควร 2. ศึกษาความสัมพันธร์ ะหว่างโรงเรยี นกบั ชมุ ชน ทางโรงเรียนให้ทางชมุ ชนใช้สถานทีจ่ ัดงานกจิ กรรมตา่ ง ๆ ทางโรงเรยี นพานักเดก็ เข้ารว่ มกิจกรรม ตา่ ง ๆ ทช่ี มุ ชนจัดขน้ึ เชน่ ดรุ ยิ างค์ นางรา ฯลฯ ให้ยืมอปุ กรณ์ตา่ ง ๆ
31 5 ผ้ เรื่องที่สอน ลาดับเลขคณิต ระดับชั้น มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5/5 ช่ือครปู ระจาชนั้ 1. คุณครโู รจนสั ถ์ อรุณวิง 2. คณุ ครูณพัฐอร แกลว้ กล้า 1. ั ้ นกั เรยี นบางส่วนไมใ่ ห้ความรว่ มมอื กบั ครูผู้สอน เช่น คุณครูให้นักเรยี นช่วยกันตอบคาถามในช้ันเรยี น มีนักเรยี นบางสว่ นที่ไม่ตอบคาถามคุณครู คยุ กบั เพื่อนเรอ่ื งที่ไม่ใชเ่ รื่องเรียน บางคนไมส่ นใจ หลับในคาบ เรยี นน้ัน ๆ 2. 2.1 เพ่ือใหท้ ราบถงึ ปัญหาของนักเรียน และสาเหตขุ องปญั หาท่เี กิดขน้ึ จริงกับนักเรยี น 2.2 เพือ่ ใหน้ กั เรยี นมีความกล้าที่จะตอบคาถามคุณครู และสนใจคุณครู 2.3 เพื่อให้นกั เรยี นมีความกลา้ ที่จะมาปรกึ ษาครูในเรื่องที่นกั เรยี นเครียดหรอื มคี วามวติ กกังวล 2.4 เพอื่ ให้นักเรยี นมีความกล้าท่ีจะปรกึ ษาผปู้ กครองในเรอื่ งท่ีนักเรยี นเครยี ดหรอื มีความวติ กกงั 3. ไ ้ ห้องเรยี นส่วนใหญจ่ ะจัดโต๊ะเวน้ ระยะห่างกนั เนอ่ื งจากสถานการณ์ COVID-19 (โควิด-19) จึง จาเป็นต้องใหน้ ักเรยี นเว้นระยะห่างกนั ห้องเรยี นธรรมดา เป็นห้องพัดลม สว่ นหอ้ งเรียนพเิ ศษ จะเป็นหอ้ ง แอร์ และพัดลม ซงึ่ ทง้ั ธรรมดาและห้องพเิ ศษ จะก็มโี ปรเจคเตอร์ ไวอ้ านวยความสะดวกให้นักเรียน ไดม้ อง เนอ้ื หาเหน็ เวลาครูสอนร่วมไปถึงสะดวกสบายตอ่ ครผู ้สู อนอกี ด้วย 4. ั / 1. ใหค้ ะแนนพเิ ศษกับนกั เรยี นทต่ี อบคาถามครูได้ หรือมาทาบนกระดาน 2. ครผู สู้ อนใช้เสียงสงู ต่า ในการสอนเพอ่ื ให้นกั เรียนสนใจ ฟงั แลว้ ไมน่ า่ เบื่อ 3. พูดชมนกั เรยี นที่ตอบคาถามได้ หรอื มาทาบนกระดานได้
32 5. ้ ้ ้ 1. ทาใหท้ ราบถงึ ความเขา้ ใจและความต้องการของนกั เรียน รพู้ ื้นฐานธรรมชาติของนกั เรียน 2. ทาให้ทราบถึงการเปน็ ครอู ยา่ งแท้จรงิ ไม่เพียงแต่การสอนอย่างเดยี ว แต่ตอ้ งเขา้ ใจถึงอารมณ์ และพฤตกิ รรมของนกั เรยี น 3. ทาใหท้ ราบถงึ การพัฒนานกั เรยี นใหม้ คี ณุ ภาพและสามารถอย่รู ว่ มกับสงั คมไดอ้ ย่างมีความสุข (ลงช่อื )…………………………………………ผู้บนั ทกึ (นายศุภวิชญ์ เถือ่ นแท้) (ลงชอ่ื )………………………………………ครูพี่เล้ยี ง (นางกรรณิกา อุดมกีรตกิ ุล)
33 6 PLC ( ไมท่ ำ PLC) ช่ือ-สกุล นายศภุ วิชญ์ เถอ่ื นแท้ รหัสนกั ศกึ ษา 6412106060 สาขาวิชา คณิตศาสตร์ ชมุ ชนแหง่ การเรียนรูท้ างวชิ าชีพ (Professional Learning Community : PLC) 1. 1 ไ ็ PLC ชุมชนการเรียนร้ทู างวชิ าชพี ( Professional Learning Community: PLC) ซึ่งมีทีม่ าจากทฤษฎีพหุ ปัญญาของ Gardner ที่ได้กล่าวถึง ประเด็นสาคัญเก่ียวกับการเรียนรู้ ว่า “How students learn in a holistic & natural way” (Gardner, 1983) ซ่ึงหมายความว่า นักเรียนเรียนรู้ในวิถีทางท่ีเป็นองค์รวม และธรรมชาติอย่างไร นอกจากนี้แล้ว สติปัญญาของนกั เรียนถูกเปิดไว้เพ่ือการเรียนรู้และครตู ้องพัฒนา โอกาสทหี่ ลากหลายเพือ่ ใหน้ ักเรยี นไดส้ บื เสาะและคดิ 2. 2 PLC ไ เป็นการรวมตัวกันทางานไปพฒั นาทักษะและการเรียนร้เู พื่อปฏิบตั ิหน้าท่ีครูเพื่อศิษย์ไป โดยรวมตัว กนั แลกเปลยี่ นเรียนรู้ จากประสบการณต์ รง ทาให้การทาหน้าท่ีครูเพอื่ ศิษย์เปน็ การทางานเปน็ กลุ่มหรือ เป็นทีม ซ่ึงอาจเป็นทีมในโรงเรียนเดียวกันก็ได้ ต่างโรงเรียนกันก็ได้ หรืออาจจะอยู่ห่างไกลกันก็ได้ โดย แลกเปลย่ี นเรียนรู้ ผา่ น ICT 3. 3 PLC ไ 1. รวมกลุม่ ครทู ม่ี ีลักษณะใกลเ้ คียงกนั เช่น กล่มุ ครูที่สอนวชิ าเดยี วกนั สอนในระดบั เดยี วกัน หรือมี ลกั ษณะเหมือนกัน 2. จานวนสมาชกิ ต้ังแต่ 2 คน ข้นึ ไป 4. 4 ไ ั ็ PLC 1. ยอมรับว่าหัวใจหลักของการเรยี นรขู้ องครคู ือการเรยี นรู้ของผเู้ รียน 2. ยอมรบั วา่ การสอนและการปฏิบัติงานของครูมีผลต่อการเรียนรู้ของผู้เรยี น 3. เข้าใจความแตกตา่ งของระดบั การเรียนรู้ 4. สรา้ งบรรยากาศความรว่ มมือรว่ มใจ
34 5. สร้างความสมั พนั ธ์แบบกัลยาณมิตร 6. รบั ฟงั และแสดงความคิดเหน็ ดว้ ยทัศนคตเิ ชงิ บวก
35 7 ชอื่ -สกลุ นายศภุ วชิ ญ์ เถือ่ นแท้ รหัสนักศกึ ษา 6412106060 สาขาวชิ า คณิตศาสตร์ ช่ืออาจารย์นิเทศก์ รศ.ดร.ภคั พล ปรีชาศลิ ป์ ช่ือครูพี่เลยี้ ง นางกรรณิกา อดุ มกีรติกุล ชื่อโรงเรียนที่ออกปฏิบตั กิ ารสอน อุดมดรุณี สมรรถนะ ตัวบง่ ชี้ รายงานพฤตกิ รรมของ นกั ศกึ ษา 1. การมุ่งผลสมั ฤทธ์ิ ใน 1.1 ความสามารถในการวางแผน การกาหนด การปฏิบัติงาน (Working เป้าหมาย การวิเคราะห์ สงั เคราะห์ภารกิจงาน ผมมีการกาหนด Achievement วัตถปุ ระสงค์ หรอื Motivation) ตั้งเป้าหมายในการ กระทาในส่งิ ตา่ ง ๆ ซ่งึ 1.2 ความมุ่งมัน่ ในการปฏบิ ัติหนา้ ที่ ใหม้ ีคุณภาพ เป็นกระบวนการ ถูกตอ้ ง ครบถว้ นสมบูรณ เกย่ี วกบั การคิด และ การตดั สนิ ในสิ่งตา่ ง ๆ 1.3 ความสามารถในการติดตามประเมิน ผลการ ผมมคี วามมุ่งมัน่ มากใน ปฏิบตั ิงาน การปฏบิ ัติหน้าทขี่ อง คณุ ครู คอยทบทวน เน้ือหาเรอื่ งท่คี รูพ่ีเลยี้ ง สอนตลอด อีกทง้ั ผมยัง ไดส้ อนนกั เรียนอีกด้วย ผมตดิ ตามครพู ่เี ลีย้ ง เวลาไปสอนหรอื ทา กิจกรรมอะไรตลอด อีกทั้งยงั ทาหน้าทแ่ี ทน ครูผ้สู อนในบางคาบ เรยี น
36 1.4 ความสามารถในการพฒั นา การปฏิบตั ิงานให้มี ผมนาเทคนิคและ ประสทิ ธิภาพอยา่ ง ต่อเน่ืองเพื่อใหง้ านประสบ วธิ ีการสอนจากครพู ี่ ความสาเรจ็ เลีย้ งมาปรบั ใช้กับตัว ผมเอง ซงึ่ ได้นาไปสอน ให้กบั นกั เรยี นเพื่อทา ให้เรามีประสทิ ธภิ าพ มากขน้ึ 2. การบรกิ ารท่ดี ี 2.1 ความต้ังใจและเต็มใจใน การให้บริการ ผมตั้งใจและเตม็ ใจใน (Service Mind) การสังเกตการสอนทกุ 3. การพฒั นาตนเอง (Self- Development) ครัง้ และเข้าใจตามไป กับนักเรียนทาใหเ้ ข้าใจ เนื้อหามากย่งิ ข้ึนไป 2.2 การปรับปรงุ ระบบบริการใหม้ ี ประสทิ ธิภาพ เม่อื ผมรู้วาผมพลาด ตรงไหน หรอื ยงั ไม่ เข้าใจตรงไหนของ เนอ้ื หา ผมจะกลับไป ทบทวนเนอื้ หานน้ั ๆ ทาให้เราเข้าใจเนื้อหา ทาใหเ้ รามี ประสทิ ธภิ าพมากขึ้น 3.1 การศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรู้ ตดิ ตาม องคค์ วามรู้ ผมศกึ ษาคน้ ควา้ เนอ้ื หา ใหมๆ่ ทางวิชาการและวิชาชีพ เรื่องทค่ี รูพเ่ี ลย้ี งสอน ตลอดอีกทั้งยงั หา เนอื้ หาเพมิ่ เติม ของ เรือ่ งอืน่ ๆ ท่ีจะเรยี นใน เรือ่ งถดั ไปเสมอ 3.2 การสรา้ งองค์ความรู้และนวัตกรรมใน การ ผมทาให้ตวั เองเป็นคน พฒั นาองคก์ รและวิชาชพี เทา่ ทันทกุ เหตุการณ์ พร้อมเปลย่ี นแปลงใน สถานการณต์ ่าง ๆ
37 4. การทางานเปน็ ทีม 3.2 การแลกเปลี่ยนความคิดเหน็ และสรา้ ง ผมพูดคยุ กบั ครูพี่เลยี้ ง (Team Work) เครือข่าย และเพ่ือนๆ ถึงเร่อื ง 4.1 การให้ความรว่ มมอื ช่วยเหลือและ สนบั สนุน เน้อื หา และขา่ วสารใน เพือ่ นร่วมงาน ชีวิตประจาวันตลอด ผมกับเพ่ือนทมี่ าสังเกต 4.2 การเสริมแรงให้กาลงั ใจเพ่ือนร่วมงาน การสอนในโรงเรียน เดยี วกัน ส่ือสารกนั 4.3 การปรบั ตัวเขา้ กบั กลุ่มคนหรอื สถานการณ์ ตลอด เวลามงี านอะไร ทห่ี ลากหลาย ของโรงเรยี นกจ็ ะ ช่วยเหลอื เกื้อกลู ซง่ึ กัน 4.5 การเข้าไปมีส่วนร่วมกบั ผู้อ่นื ใน การพฒั นาการ และกัน กทงั้ ยัง จดั การศึกษาให้บรรลุ ผลสาเร็จตามเป้าหมาย ช่วยเหลือเพอื่ นยามที่ เพ่อื นเดือดร้อน เมื่อเพื่อนหมดกาลังใจ หรือเจอเร่ืองแย่ ๆ มา ผมจะคอยเปน็ ท่ี ปรกึ ษาและคอยให้ กาลังใจเพื่อนรว่ มงาน เสมอ ผมเปน็ คนท่ีปรับตัวได้ ค่อนข้างง่าย เพราะ เปน็ คนเข้ากบั ใครได้ งา่ ย อกี ทั้งผมมีนา้ ใจ ชอบช่วยเหลอื ลุคคล อื่น ๆ ทาใหเ้ ปน็ ท่รี กั ของใครหลายคน ผมช่วยเหลอื คนอน่ื ตลอด เม่อื ใครมีปญั หา ขอให้บอกผมถา้ ผม ไมไ่ ดท้ าอะไร ผมพร้อม ช่วยเสมอ ทาให้เราได้
5. จริยธรรม และ 1. ความรกั และศรัทธาในวชิ าชพี 38 จรรยาบรรณวิชาชีพครู (Teacher’s Ethics and ฝึกการเปน็ ครมู ากขนึ้ Integrity) เพราะครูน้ัน ไมไ่ ดม้ ี หน้าท่แี ค่สอนอยา่ ง 2. มวี ินยั และความรบั ผิดชอบในวิชาชีพ เดยี ว พฤติกรรมเหล่าน้ี ทาให้ผมสาเรจ็ ตาม 3. การประพฤตปิ ฏบิ ตั ิตน เปน็ แบบอย่างทด่ี ี เป้าหมาย ท่ีเราตัง้ ไว้ ผมมคี วามรักละศรัทธา ในวิชาชีพครูมาก ๆ ใน การสนับสนุน หรอื เขา้ ร่วมกจิ กรรมตา่ ง ๆ ภายในโรงเรียนเพ่อื ปกปอ้ งเกียรติของครู ผมมคี วามเอาใจใส่ ใน การสอนของครพู เ่ี ลย้ี ง เสมอ ในเวลาที่ นักเรยี นถาม ผมเขา้ ไป หานักเรียนพรอ้ มสอน เสมอ เมือ่ นักเรียน เรียกหา ผมมคี วามรกั และความ เมตตา ต่อนักเรยี น หมัน่ เพียรในการศึกษา ทบทวนเนือ้ หา และ พัฒนาตัวเองอยเู่ สมอ มคี วามเอาใจใส่ นักเรยี น เปน็ กาลังใจ และแรงผลักดนั ในกบั นกั เรียน เพ่ือทาให้ นกั เรียนเปน็ คนใฝ่รู้ ทา ใหเ้ ราเปน็ แบบอยา่ งท่ี ดี
39 8 ไ ชอื่ -สกุล นายศภุ วชิ ญ์ เถือ่ นแท้ รหัสนักศึกษา 6412106060 สาขาวิชา คณิตศาสตร์ ชอ่ื อาจารย์นเิ ทศก์ รศ.ดร.ภคั พล ปรชี าศลิ ป์ ชื่อครูพีเ่ ล้ยี ง นางกรรณิกา อุดมกีรติกุล ช่ือโรงเรยี นทอี่ อกปฏิบตั ิการสอน อุดมดรุณี 1. สง่ิ ท่ีผมได้รบั จากการไปสังเกตการสอนในคร้งั นมี้ มี ากมาย แบบไดเ้ ป็น 3 ด้าน ดังตอ่ ไปนี้ 1. ดา้ นความรู้ ไดค้ วามรู้จากครพู เี่ ลี้ยง คอื เทคนคิ การสอนของครูพีเ่ ล้ียง การควบคมุ ชั้นเรียน การใช้สื่อ การสอนในช้ันเรียน การใช้จิตวิทยาในการพูดคุยกับเด็ก การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในชั้นเรียน การวางตัว ของความเป็นครู ความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ จากประสบการณ์ท่ีครูพ่ีเลี้ยงเคยเจอมาและวิธีการแก้ไขปัญหา ได้ ความรู้จากคณะครูท่านอื่น ๆ ในเร่ืองการทางานท่ีนอกเหนือจากการสอน กระบวนการทางานในโรงเรยี น คุณธรรม จรยิ ธรรมทคี่ นเปน็ ครคู วรจะมี 2. ด้านการปฏิบัติตน ได้รู้จักการมีความรับผิดชอบในตนเอง ต้องมาโรงเรียนแต่เช้าเพ่ือมารับนักเรียน หน้าประตูโรงเรียน การแต่งกายที่สะอาดถูกระเบียบเพ่ือเป็นแบบอย่างท่ีดีให้นักเรียน มีน้าใจแก่ครูพ่ีเลี้ยง คณะครู รนุ่ พี่และเพ่อื นรว่ มฝกึ ประสบการสอน ไดส้ มั ผัสถึงจติ วญิ ญาณความเป็นครมู ากข้นึ กวา่ เดิม 3. ด้านการปฏิบตั ิงาน ได้รู้หน้าที่ของความเป็นครวู ่าต้องปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ีอะไรบา้ ง ในบางคาบกไ็ ดค้ วบคมุ ช้ัน เรียนกับครูพ่เี ลี้ยง ทาใหเ้ รามีประสบการณ์ท่ีดี และทาหน้าท่จี ดบันทึกใบงานอย่างตงั้ ใจทุกครงั้ เพอ่ื เกบ็ ขอ้ มูล ทเี่ ทจ็ จรงิ ไปส่งใหอ้ าจารยน์ เิ ทศนไ์ ดต้ รวจสอบ 2. ไ 1. ได้สมั ผัสจิตวญิ ญาณความเป็นครูมากข้นึ มีความมุง่ ม่นั ท่ีจะต้องเป็นครทู ่ีดีให้ได้ 2. ได้เห็นถงึ หน้าทข่ี องครูท่ไี มใ่ ชแ่ คก่ ารสอนอยา่ งเดียว ครูตอ้ งเป็นทกุ อย่างใหไ้ ดใ้ นโรงเรียน 3. ได้รับรู้ปญั หาและวธิ ีการแกไ้ ขปญั หาท่ไี ด้พบเจอในโรงเรียน เพื่อเปน็ ความรแู้ ละประสบการณ์ในการ สงั เกตการสอนหรอื ฝกึ การสอนในอนาคต 4. ไดร้ ู้ถงึ คณุ ธรรม จริยธรรมทพี่ ึงจะมีแก่คนเป็นครทู ุกทา่ น 5. ไดร้ ถู้ งึ ความสามารถที่เรามจี รงิ ๆ ในการที่จะเป็นครู และต้องปรบั ปรงุ ในด้านใด
40 3. ผ ไ 1. ตอ้ งพัฒนาตวั เองให้ดียง่ิ ขึน้ ในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเปน็ ด้านความรทู้ ่วั ไป ความรใู้ นการสอน ทักษะชีวิต เทคนิคในการสอน การทาให้เด็กรกั วิชาคณิตศาสตร์ และอกี มากมายท่ีเราควรจะมี 2. ตอ้ งเป็นครทู ่ีดีในอนาคต สงิ่ ทเ่ี ราพบเจอแล้วเราไมช่ อบ เราจะไม่ทาแบบนั้นกับนักเรียน 3. การทางานในระบบราชการ
Search
Read the Text Version
- 1 - 41
Pages: