๕๑ พระครูปริยตั โิ ชตยิ าถรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ. เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. วชิ าธรรมวภิ าคชัน้ ตรี อกุศลกรรมบถ แปลวา่ ทางแหง่ กรรมชวั่ ท่ีบคุ คลไมค่ วรประพฤติ และปฏิบตั ิ เพราะอกศุ ลกรรมเหลา่ นีถ้ ้าทาลงไปแล้วยอ่ มเป็นความ เสยี หายแกผ่ ้กู ระทาคือ เม่ือมีชีวติ อยยู่ อ่ มเป็นเหตใุ ห้เสียช่ือเสยี งหรือได้รับ โทษทณั ฑ์ตา่ ง ๆ เม่ือสนิ ้ ชีวติ ไปแล้วยอ่ มไปส่ทู คุ ติ หาความสขุ ไมไ่ ด้เลย . กรรม ๑๐ อยา่ งนี ้เป็นทางบาป ไมค่ วรดาเนิน กศุ ลกรรมบถ ๑๐ ประการ ด้วย จัดเป็ นกายกรรม คือทาด้วยกาย ๓ อย่าง ๑. ปาณาตบิ าต เวรมณี เว้นทาชีวิตสตั ว์ให้ตกลว่ ง คือ ฆา่ สตั ว์ ๒. อทินนาทาน เวรมณี เว้นถือเอาสง่ิ ของที่เจ้าของไมไ่ ด้ให้ อาการแหง่ ขโมย ๓. กาเมสุ มจิ ฉาจาร เวรมณี เว้นจากประพฤตผิ ิดในกาม จัดเป็ นวจีกรรม คือ ทาด้วยวาจา ๔ อย่าง ๔. มสุ าวาท เวรมณี เว้นจากการพดู เทจ็ ๕. ปิสณุ าวาจา เวรมณี เว้นจากการพู ดสอ่ เสียด ๖. ผรุสวาจา เวรมณี เว้นจากการพดู คาหยาบ ๗.สมั ผปั ปลาปา เวรมณีเว้นจากการพดู เพ้อเจ้อ จัดเป็ นมโนกรรม คือทาด้วยใจ ๓ อย่าง ๘. อนภิชฌา ไมโ่ ลภอยากได้ของเขา [โรงเรียนสุเทพนครวชิ พระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา กลุ่ม ๑๐ อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอ็ด]
๕๒ พระครูปริยตั โิ ชตยิ าถรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ. เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. วชิ าธรรมวภิ าคชัน้ ตรี ๙. อพยาบาท ไมพ่ ยาบาทปองร้ายเขา ๑๐. สมั มาทฏิ ฐิ เหน็ ชอบตามคลองธรรม กศุ ลกรรมบถ๑๐ ประการนีเ้ป็นทางกศุ ลซง่ึ ตรงกนั ข้ามกบั อกศุ ลกรรมบถท่ีกลา่ วมาแล้วควรที่จะประพฤตปิ ฏิบตั เิ พราะเป็นความดี เป็นทางบญุ กรรม ๑๐ อยา่ งนี ้เป็นทางบญุ ควรดาเนิน. บุญกริ ยิ าวัตถุ ๑๐ ประการ ๑. ทานมยั บญุ สาเร็จด้วยการบริจาคทาน ๒. สลี มยั บญุ สาเร็จด้วยการรักษาศีล ๓. ภาวนามยั บญุ สาเร็จด้วยการเจริญภาวนา ๔. อปจายนมยั บญุ สาเร็จด้วยการประพฤตถิ ่อมตนแกผ่ ้ใู หญ่ ๕. เวยยาวจั จมยั บญุ สาเร็จด้วยการช่วยขวนขวายในกิจที่ชอบ ๖. ปัตตทิ านมยั บญุ สาเร็จด้วยการให้สว่ นบญุ ๗. ปัตตานโุ มทนามยั บญุ สาเร็จด้วยการอนโุ มทนาสว่ นบญุ ๘. ธมั มสั สวนมยั บญุ สาเร็จด้วยการฟังธรรม ๙. ธมั มเทสนามยั บญุ สาเร็จด้วยการแสดงธรรม ๑๐. ทฏิ ฐุชกุ มั ม์ การทาความเหน็ ให้ตรง [โรงเรียนสุเทพนครวิช พระปริยัตธิ รรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่ม ๑๐ อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอด็ ]
๕๓ พระครูปริยัตโิ ชตยิ าถรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ. เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. วชิ าธรรมวภิ าคชัน้ ตรี บญุ กิริยาวตั ถุ แปลวา่ วตั ถอุ นั เป็นที่ตงั้ แหง่ การบาเพญ็ บญุ บญุ กิริยาวตั ถุ ๑๐ อยา่ งนีย้ น่ ลงใน ทาน ศีล ภาวนา ดงั นี ้ - ทาน (ปัตตทิ านมยั ,ปัตตานโุ มทนามยั ) - ศีล (อปจายนมยั ,เวยยาวจั จมยั ) - ภาวนา (ธมั มสั สวนมยั ,ธมั มเทสนามยั ) ทฏิ ฐุชกุ มั ม์ ยน่ ลงใน ๓ อยา่ งอยา่ ง. ธรรมทีบ่ รรพชิตควรพจิ ารณาเนื่องๆ ๑๐ อยา่ ง ๑. บรรพชิตควรพจิ ารณาเนื่อง ๆ วา่ บดั นีเ้รามีเพศตา่ งจากคฤหสั ถ์ แล้ว อาการกิริยาใด ๆของสมณะ เราต้องทาอาการกิริยานนั้ ๆ ๒. บรรพชิตควรพจิ ารณาเน่ือง ๆ วา่ ความเลยี ้ งชีวิตของเราเนื่องด้วย ผ้อู ื่น ๆเราควรทาตวั ให้เขาเลยี ้ งงา่ ย ๓. บรรพชิตควรพิจารณาเน่ือง ๆ วา่ อาการกายวาจาอยา่ งอน่ื ท่ีเรา จะต้องทาให้ดีขนึ ้ ไปกวา่ นีย้ งั มีอยอู่ ีก ไม่ใชเ่ พียงเทา่ นี ้ ๔. บรรพชิตควรพิจารณาเน่ือง ๆ วา่ ตงั ของเราเองติเตียนตวั เราเอง โดยศีลได้หรือไม่ ๕. บรรพชิตควรพจิ ารณาเนื่อง ๆ วา่ ผ้รู ู้ใคร่ ครวญแล้ว ตเิ ตียนเราโดย ศีลได้หรือไม่ [โรงเรียนสุเทพนครวิช พระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา กลุ่ม ๑๐ อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอด็ ]
๕๔ พระครูปริยตั โิ ชตยิ าถรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ. เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. วชิ าธรรมวภิ าคชัน้ ตรี ๖. บรรพชิตควรพจิ ารณาเนื่อง ๆ วา่ เราจะต้องพลดั พรากจากของรัก ของชอบใจทงั้ นนั้ ๗. บรรพชิตควรพิจารณาเน่ือง ๆ วา่ เรามีกรรมเป็นของตวั เราทาดีจกั ได้ดี ทาชว่ั จกั ได้ชว่ั ๘.บรรพชิตควรพจิ ารณาเนือง ๆ วา่ วนั คนื ลว่ งไป ๆ บดั นี ้เราทาอะไรอยู่ ๙. บรรพชิตควรพจิ ารณาเน่ือง ๆ วา่ เรายินดีในที่สงดั หรือไม่ ๑๐. บรรพชิตควรพจิ ารณาเน่ือง ๆ วา่ คณุ วิเศษของเรามีอยหู่ รือไม่ ที่ จะให้เราเป็นผ้ไู มเ่ ก้อเขินในเวลาเพ่ือนพรรพชิตถามในกาลภายหลงั ธรรม ๑๐ ข้อนีเ้ป็นธรรมสาหรับบรรพชิตควรพิจารณาอยเู่ สมอ ๆ เพ่ือจะได้เป็นเคร่ืองเตือนสตติ นเอง ให้ปฏิบตั ิตามธรรมนองครองธรรมของ บรรพชิต . นาถกรณธรรม คอื ธรรมทาทพ่ี ่งึ ๑๐ อยา่ ง ๑. ศีล รักษากายวาจาให้เรียบร้อย ๒. พาหุสัจจะ ความเป็นผ้ไู ด้สดบั ตรับฟังมาก ๓. กัลยาณมติ ตตา ความเป็นผ้มู ีเพื่อนดีงาม ๔. โสวจัสสตา ความเป็นผ้วู า่ ง่ายสอนงา่ ย ๕. กงิ กรณีเยสุ ทกั ขตา ความขยนั ชว่ ยเอาใจใสใ่ นกิจธุระของเพ่อื น ภกิ ษุสามเณร [โรงเรียนสุเทพนครวชิ พระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่ม ๑๐ อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอด็ ]
๕๕ พระครูปริยตั โิ ชตยิ าถรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ. เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. วชิ าธรรมวภิ าคชัน้ ตรี ๖. ธัมมกามตา ความใคร่ในธรรมที่ชอบ ๗. วริ ิยะ เพียรเพื่อจะละความชวั่ ประพฤติความดี ๘. สันโดษ ยนิ ดีด้วยผ้านงุ่ ผ้าหม่ อาหาร ที่อยอู่ าศยั และยา รักษาโรค ตามมีตามได้ ๙. สติ จาการที่ได้ทาและคาท่พี ดู แล้วแม้นานได้ ๑๐. ปัญญา รอบรู้ในกองสงั ขารตามเป็นจริงอยา่ งไร ธรรมอนั เป็นท่ีพง่ึ เหลา่ นีเ้ม่ือบคุ คลมีไว้ประจาใจแล้วยอ่ มจะเป็นท่ีพง่ึ ของตนเอง ได้ทงั้ ในโลกนีแ้ ละโลกหน้า ยน่ นาถกรณธรรมเหลา่ นีล้ งใน ไตรสกิ ขาศีลสกิ ขาจติ ตสิกขาและ ปัญญาสกิ ขา กถาวัตถคุ ือถ้อยคาทีค่ วรพูด ๑๐ อย่าง ๑. อัปปิ จฉกถา ถ้อยคาที่ชกั นาให้มีความปรารถนาน้อย ๒. สันตุฏฐิกถา ถ้อยคาที่ชกั นาให้สนั โดษยินดดี ้วยปัจจยั ตามมีตามได้ ๓. ปวิเวกกถา ถ้อยคาท่ีชกั นาให้สงดั กายสงดั ใจ ๔. อสังสัคคกถา ถ้อยคาที่ชกั นาไมใ่ ห้ระคนด้วยหมู่ ๕. วริ ิยารัมภกถา ถ้อยคาท่ีชกั นาให้ปรารภความเพียร ๖. สีลกถา ถ้อยคาท่ีชกั นาให้ตงั้ อยใู่ นศีล ๗. สมาธิกถา ถ้อยคาท่ีชกั นาให้เกิดความสงบ ๘. ปัญญากถา ถ้อยคาที่ชกั นาให้เกิดปัญญา [โรงเรียนสุเทพนครวชิ พระปริยัตธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา กลุ่ม ๑๐ อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอด็ ]
๕๖ พระครูปริยตั โิ ชตยิ าถรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ. เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. วชิ าธรรมวภิ าคชัน้ ตรี ๙. วมิ ุตตกิ ถา ถ้อยคาท่ีชกั นาให้ทาใจพ้นจากกิเลส ๑๐.วมิ ุตตญิ าณทัสสนกถา ถ้อยคาท่ีชกั นาให้เกิดความรู้ความเหน็ ในความท่ใี จพ้นจากกิเลส กถาวตั ถคุ ือเร่ืองท่ีควรพดู บรรพชิตพงึ พดู แตถ่ ้อยคาท่ีเป็นประโยชน์แก่ ตนเองและผ้อู ่ืน ตามเรื่องท่คี วรพดู เหลา่ นี ้ ควรเว้นจากการพดู ด้วย เดรัจฉานกถาอนั ไมเ่ ป็นประโยชน์ . อนสุ สติ คอื อารมณค์ วรระลึก ๑๐ ประการ ๑. พุทธานุสสติ ระลกึ ถงึ คณุ ของพระพทุ ธเจ้า ๒. ธัมมานุสสติ ระลกึ ถงึ คณุ ของพระธรรม ๓. สังฆานุสสติ ระลกึ ถึงคณุ ของพระสงฆ์ ๔. สีลานุสสติ ระลกึ ถึงศีลของตน. ๕. จาคานุสสติ ระลกึ ถึงทานที่ตนบริจาคแล้ว ๖. เทวตานุสสติ ระลกึ ถึงคณุ ที่ทาบคุ คลให้เป็นเทวดา ๗. มรณัสสติ ระลกึ ถึงความตายที่จะมาถงึ ตน ๘. กายคตาสติ ระลกึ ทวั่ ไปในกาย ให้เหน็ วา่ ไมง่ าม น่าเกลยี ดโสโครก ๙. อานาปานสติ ตงั้ สติกาหนดลมหายใจเข้าออก [โรงเรียนสุเทพนครวชิ พระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่ม ๑๐ อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอด็ ]
๕๗ พระครูปริยัตโิ ชตยิ าถรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ. เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. วชิ าธรรมวภิ าคชัน้ ตรี ๑๐. อุปสมานุสสติ ระลกึ ถงึ คณุ พระนิพพาน ซงึ่ เป็นท่ีระงบั กิเลส และกองทกุ ข์ อนสุ สติ ๑๐ นี ้ เป็นอารมณ์ที่เราจะต้องระลกึ อยเู่ สมอ ๆ เพื่อให้เกิด ความไมป่ ระมาทในการดารงชีวติ เพราะเมื่อบคุ คลผ้ปู ระมาทแล้ว ยอ่ มจะ เป็นท่ีพง่ึ ของตนเองไมไ่ ด้ ทาอะไรก็มกั ท่ีพลาดไปหมด เพราะฉะนนั้ จงึ ควรที่จะระลกึ ถึงอนสุ สตเิ หลา่ นีไ้ ว้เพ่ือตรวจดตู นเองอยเู่ สมอ ๆ วา่ เรา เป็นอยอู่ ยา่ งไรเช่น เรามีความฟงุ้ ซา่ น กก็ าหนดระลกึ ถึงอาณาปานสติ เพื่อให้ใจสงบเป็นต้น. ปกิณณกะ คือ หมวดเบ็ดเตล็ด อปุ กเิ ลส คอื โทษเครือ่ งเศร้าหมอง ๑๖ อย่าง ๑. อภชิ ฌาวิสมโลภะ ความโลภอยากได้นนั่ อยากได้นี ้ แก้ด้วย ทาน จาคะ ๒. โทสะ ใจเหีย้ มโหด ม้งุ ร้ายหมายชีวิต แก้โดยเมตตา กรุณา พรหมวหิ าร ๓. โกธะ โกรธ หงดุ หงิดฉนุ ฉียว แก้ด้วยขนั ติ เมตตาพรหมวหิ าร ๔. อปุ นาหะ เคียดแค้น ผกู ใจเจ็บ แก้ด้วย กายคตาสติ ๕. มกั ขะ ลบหลคู่ ณุ ทา่ น แก้ด้วย กตญั ญกู ตเวทิตา [โรงเรียนสุเทพนครวิช พระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา กลุ่ม ๑๐ อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอด็ ]
๕๘ พระครูปริยตั โิ ชตยิ าถรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ. เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. วชิ าธรรมวภิ าคชัน้ ตรี ๖. ปลาสะ ตีตนเสมอ คือยกตวั เทียมทา่ นแก้ด้วย สมั มาคารวะ ๗. อสิ สา ริษยา คือเหน็ เขาได้ดี ทนอยไู่ มไ่ ด้ แก้ด้วย มทุ ติ าพรหมวหิ าร ๘. มจั ฉริยะ ตระหน่ี ใจแคบ แก้ด้วย มรณสั สติ ๙. มายา มารยา คือเจ้าเลห่ ์ แก้ด้วย สจั จะ ๑๐. สาเถยยะ โออวด แก้ด้วย วจีสจุ ริต ๑๑. ถมั ภะ กระด้าง หวั ดือ้ แก้ด้วย โสวจสั สตา ๑๒. สารัมภะ แข่งดี คนอื่นสตู่ นไมไ่ ด้ แก้ด้วย อสภุ กมั มฏั ฐาน ๑๓. มานะ ถือตวั ทนงตวั แก้ด้วย นิวาต ๑๔. อติมานะ ดหู ม่นิ เหยียดหยามทา่ นแก้ด้วย อปจายนะ ๑๕. มทะ หลงมวั เมา สาคญั ผดิ เป็นชอบแก้ด้วย จตธุ าตวุ วฏั ฐาน ๑๖. ปมาทะ ประมาท เลนิ เลอ่ แก้ด้วย เจริญกสณิ โพธิปักขยิ ธรรม ๓๗ ประการ หมายถงึ องค์แหง่ การตรัสรู้ธรรมของพระพทุ ธเจ้า คือ ๑. สตปิ ัฏฐาน ๔ ๒. สมั มปั ปธาน ๔ ๓. อทิ ธิบาท ๔ ๔. อินทรีย์ ๕ [โรงเรียนสุเทพนครวชิ พระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา กลุ่ม ๑๐ อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอ็ด]
๕๙ พระครูปริยัตโิ ชตยิ าถรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ. เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. วชิ าธรรมวภิ าคชัน้ ตรี ๕. พละ ๕ ๖. โพชฌงค์ ๗ ๗. มรรคมีองค์ ๘ ธรรมเหลา่ นีเ้มื่อรวมเข้ากนั แล้วกไ็ ด้ ๓๗ ประการพอดี ท่ีได้ช่ือวา่ โพธิปักขิยธรรมนนั้ เพราะเป็นธรรมเป็นไปใน ฝักฝ่ายแหง่ ปัญญาตรัสรู้โลกตุ ตระธรรมและมีช่ือเรียกอีกอยา่ งหนง่ึ วา่ อภญิ ญาเทสติ ธรรม เพราะเป็นธรรมท่ีพระองค์ทรงแสดง เพ่ือความรู้ย่งิ เหน็ จริงในธรรมที่ควรรู้ควรเหน็ . คิหิปฏิบัติ คิหิปฏิบตั ิ คือ ธรรมปฏิบตั สิ าหรับคฤหสั ถ์ หรือฆราวาส กรรมกเิ ลส คอื กรรมเครื่องเศร้าหมอง ๔ อย่าง ๑. ปาณาติบาต ฆ่าหรือทาลายสตั ว์มีชีวติ ถงึ ตาย ๒. อทินนาทาน ลกั ขโมยทรัพย์สินของผ้อู ่ืนมาครองครอง ๓. กาเมสมุ จิ ฉาจาร ประพฤติผิดจารีตประเวณีทางกามารมณ์ ๔. มสุ าวาท พดู เทจ็ หลอกลวงให้ผ้อู ื่นเช่ือและเสียประโยชน์ อบายมขุ คอื เหตุเคร่ืองฉบิ หาย ๔ อย่าง บอ่ เกิดแหง่ ความวิบตั ิ จิตใจเสอ่ื ม ครอบครัวลม่ จม ไม่ควรประพฤติ [โรงเรียนสุเทพนครวชิ พระปริยัตธิ รรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่ม ๑๐ อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอ็ด]
๖๐ พระครูปริยตั โิ ชตยิ าถรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ. เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. วชิ าธรรมวภิ าคชัน้ ตรี ๑. ความเป็นนกั เลงหญิง ประพฤตติ นเป็นคนเจ้าชู้ เสเพลมวั่ อยกู่ บั รัก ๆ ใคร่ ๆ ๒. ความเป็นนกั เลงสรุ า มวั่ สมุ กบั ของมนึ เมา และสงิ่ เสพติดให้โทษ ๓. ความเป็นนกั เลงเลน่ การพนนั หมกมนุ่ เลน่ การพนนั แบบผีสิ่ง ๔. ความคบคนชว่ั เป็นมติ ร สนิทชิดเชือ้ และถกู ชั กจงู ทาชวั่ ทจุ ริต ตามเพื่อนเลว ๆ โทษ ๔ ประการ ไมค่ วรประกอบ ไมค่ วรทา ทฏิ ฐธมั มิกัตถประโยนช์ คือประโยชน์ในปัจจบุ ัน ๔ อยา่ ง ๑. อุฏฐานสัมปทา เพียรเอาจริงเอาจงั ในการศกึ ษาเลยี ้ งชีพ ธุรกิจ ทกุ อยา่ ง ๒. อารักขสัมปทาถงึ พร้อมด้วยการรักษาค้มุ ครองภารกิจมิให้ บกพร่อง ประหยดั และค้มุ ครองทรัพย์สิน ๓. กัลยาณมติ ตตา คบเพื่อนเป็นคนดี ไมค่ บคนชวั่ เป็นมิตร ๔. สมชีวติ า ความเลยี ้ งชีวิตและครอบครัว พอควรแก่รายได้ และทาทจ่ี าเป็น สมั ปรายกิ ตั ถประโยชน์ คือประโยชนภ์ ายหนา้ ๔ อยา่ ง [โรงเรียนสุเทพนครวิช พระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา กลุ่ม ๑๐ อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอด็ ]
๖๑ พระครูปริยตั โิ ชตยิ าถรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ. เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. วชิ าธรรมวภิ าคชัน้ ตรี ๑. สัทธาสัมปทา ถงึ พร้อมด้วยศรัทธา เช่ือมนั ในหลกั ธรรม เชื่อกฎ ของกรรม ๒. สีลสัมปทา ถงึ พร้อมด้วยศีล ประพฤตชิ อบด้วยกายวาจา ๓. จาคสัมปทา ถงึ พร้อมด้วยการบริจาค นา้ ใจเสยี สละ เกือ้ กลู ผ้อู ื่นให้มีสขุ สบาย ๔. ปัญญาสัมปทา ถงึ พร้อมด้วยปัญญา จิตสานึกผิดชอบชว่ั ดี รู้ ปรัชญาชีวิตเจนจบ มติ รปฏริ ปู คือคนเทียมมติ ร คนท่ีมิใช่มติ รแท้ ผ้ไู มม่ ีความจริงใจ ไมค่ วรคบใกล้ชิด มีลกั ษณะตา่ ง ๆ ๑. คนปอกลอก ทาตีสนิทให้วางใจ ปลนิ ้ ปล้อน ๒. คนดีแตพ่ ดู กานลั ด้วยลมปากหวานหวา่ นล้อม ๓. คนหวั ประจบ ทาโอนออ่ นใจเลีย้ งลด ใจคดปากซื่อ ๔. คนชกั ชวนทางฉิบหาย ชกั จงู ให้หลงผิดจนเสยี ตวั เสยี คน ลกั ษณะคนปอกลอก ๔ อย่าง ๑. คิดเอาแตไ่ ด้ฝ่ายเดียว ๒. เสียให้น้อย คิดเอาให้ได้มาก ๓. เม่ือมีภยั แก่ตวั จงึ รับทากิจของเพื่อน [โรงเรียนสุเทพนครวชิ พระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา กลุ่ม ๑๐ อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอด็ ]
๖๒ พระครูปริยัตโิ ชตยิ าถรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ. เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. วชิ าธรรมวภิ าคชัน้ ตรี ๔. คบเพื่อนเพราะเหน็ แก่ประโยชน์ของตวั ลกั ษณะของคนดีแต่พดู ๔ อย่าง ๑. เก็บเอาของลว่ งแล้วมาปราศรัย ๒. อ้างเอาของทีย่ งั ไมม่ ีมาปราศรัย ๓. สงเคราะห์ด้วยสิ่งหาประโยชน์มไิ ด้ ๔. ออกปากพงึ่ มไิ ด้ ลกั ษณะของคนหวั ประจบ ๔ อย่าง ๑. จะทาชว่ั ก็คล้อยตาม ๒. จะทาดกี ค็ ล้อยตาม ๓. ตอ่ หน้าวา่ สรรเสริญ ๔. ลบั หลงั ตงั้ นินทา ลกั ษณะของคนชกั ชวนในทางฉิบหาย ๔ อย่าง ๑. ชกั ชวนด่ืมนา้ เมา ๒. ชกั ชวนเที่ยวกลางคืน ๓. ชกั ชวนให้มวั เมาในการเลน่ ๔. ชกั ชวนเลน่ การพนนั มติ รแท้ ๔ จาพวก ๑. มิตรมีอปุ การะ ยามเดือดร้อนอาศยั ได้ คราวลาเคญ็ กเ็ กือ้ หนนุ [โรงเรียนสุเทพนครวชิ พระปริยัตธิ รรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่ม ๑๐ อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอด็ ]
๖๓ พระครูปริยัตโิ ชตยิ าถรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ. เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. วชิ าธรรมวภิ าคชัน้ ตรี ๒. มิตรร่วมสขุ ร่วมทกุ ข์ นา้ ใจซ่ือเปิดเผย เข้าถงึ ใจกนั เสียสละแทนกนั ได้ ๓. มติ รแนะประโยชน์ ตกั เตือนมใิ ห้หลงผิด ปลกุ ปลอบให้ตงั้ ตนไว้ชอบ ๔. มติ รมีความรักใคร่ เสมอต้นเสมอปลาย รักและภกั ดีทงั้ ตอ่ หน้าและลบั หลงั ลักษณะของมติ รมีอุปการะ ๔ อย่าง ๑. ปอ้ งกนั เพ่ือนผ้ปู ระมาทแล้ว ๒. ปอ้ งกนั ทรัพย์สมบตั ขิ องเพอ่ื นผ้ปู ระมาทแล้ว ๓. เม่ือมีภยั เป็นท่ีพง่ึ พานกั ได้ ๔. เมื่อมีธุระช่วยออกทรัพย์ให้เกินกวา่ ที่ออกปาก ลักษณะของมติ รร่วมสุขร่วมทุกข์ ๔ อย่าง ๑. ขยายความลบั ของตนแก่เพ่ือน ๒. ปิดความลบั ของเพ่ือนไมใ่ ห้แพร่พราย ๓. ไมล่ ะทงิ ้ ในยามวบิ ตั ิ ๔. แม้ชีวิตก็อาจสละแทนได้ ลักษณะของมติ รแนะประโยชน์ ๔ อย่าง ๑. ห้ามไมใ่ ห้ทาความชวั่ ๒. แนะนาให้ตงั้ อยใู่ นความดี ๓. ให้ฟังสง่ิ ที่ยงั ไมเ่ คยฟัง ๔. บอกทางสวรรค์ให้ [โรงเรียนสุเทพนครวชิ พระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา กลุ่ม ๑๐ อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอ็ด]
๖๔ พระครูปริยัตโิ ชตยิ าถรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ. เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. วชิ าธรรมวภิ าคชัน้ ตรี ลักษณะของมติ รมีความรักใคร่ ๔ อย่าง ๑. ทกุ ข์ ๆ ด้วย ๒. สขุ ๆ ด้วย ๓. โต้เถียงคนท่ีพดู ตเิ ตียนเพื่อน ๔. รับรองคนที่พดู สรรเสริญเพ่ือน สงั คหวตั ถุ ๔ อยา่ ง สงั คหวตั ถุ คือธรรมเครื่องยดึ เหนี่ยวนา้ ใจ ธรรมสาหรับผกู ไมตรีเป็น จรรยาบรรณ ด้านมนษุ ยสมั พนั ธ์ เกิดเสน่ห์ ชนะใจคน ครองใจคน ๑. ทาน แจกจา่ ยแก่คนยากจน คนประสบภยั พบิ ตั ิตา่ ง และบริจาค เพ่ือกศุ ลสงเคราะห์ ๒. ปิยวาจา พดู จานมุ่ นวล ออ่ นหวาน ๓. อตั ถจริยา สงเคราะห์ผ้ขู ดั สน และบาเพญ็ สาธารณประโยชน์ ๔. สมานตั ตตา วางตนเหมาะแก่สงิ่ แวดล้อม ไมถ่ ือตวั สขุ ของคฤหสั ถ์ ๔ อยา่ ง เป็นความสขุ ทค่ี ฤหสั ถ์สามญั ชนปรารถนากนั ๑. สขุ เกิดเพราะความมีทรัพย์สมบตั ิ มีกินมีใช้ ๒. สขุ เกิดแตก่ ารจ่ายทรัพย์บริโภค บารุงเลยี ้ งตน ครอบครัว ใช้เป็น ประโยชน์ [โรงเรียนสุเทพนครวชิ พระปริยัตธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา กลุ่ม ๑๐ อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอด็ ]
๖๕ พระครูปริยตั โิ ชตยิ าถรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ. เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. วชิ าธรรมวภิ าคชัน้ ตรี ๓. สขุ เกิดแตค่ วามไมต่ ้องเป็นหนี ้ ๔. สขุ เกิดแตป่ ระกอบการงานท่ีปราศจากโทษ มีอาชีพสจุ ริต ปราศจากพษิ ปลอดภยั ความปรารถนาของบคุ คลในโลก ที่ได้สมหมายด้วยยาก ๔ อยา่ ง ๑. ขอสมบตั ิจงเกิดมีแกเ่ ราโดยทางที่ชอบ (ลาภ) ๒. ขอยศจงเกิดมีแก่เรากบั ญาตพิ วกพ้อง (ยศ) ๓. ขอเราจงรักษาอายใุ ห้ยืนนาน (ผาสกุ ) ๔. เม่ือสนิ ้ ชีพแล้ว ขอเราจงไปบงั เกิดในสวรรค์ (สวรรค์) ตระกลู อันม่นั คั่งจะตง้ั อยนู่ านไม่ได้เพราะสถาน ๔ ๑. ไมแ่ สวงหาพสั ดทุ ี่หายแล้ว ๒. ไมบ่ รู ณะพสั ดทุ ี่คร่าคร่า ๓. ไมร่ ู้จกั ประมาณในการบริโภคสมบตั ิ ๔. ตงั้ สตรีหรือบรุ ุษทศุ ีลให้เป็นแมเ่ รือนพอ่ เรือน ธรรมของฆราวาส ๔ อยา่ ง ชีวติ ชาวบ้านจะร่มเยน็ เป็นสขุ และรุ่งโรจน์มน่ั คงเหมือนเรือนสวรรค์ เพราะคณุ ธรรม คือ ๑. สัจจะ นา้ ใจสตั ย์ซื่อ จริงใจและจงรักภกั ดีซง่ึ กนั และกนั [โรงเรียนสุเทพนครวิช พระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่ม ๑๐ อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอ็ด]
๖๖ พระครูปริยัตโิ ชตยิ าถรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ. เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. วชิ าธรรมวภิ าคชัน้ ตรี ๒. ทมะ ขม่ จิต ยบั ยงั้ ชง่ั ใจ ปรับอารมณ์โดยเอาใจเขามาใสใ่ จเรา ๓. ขันติ อดทน ส้ทู นในการประกอบสมั มาชีพ อดทนตอ่ อปุ สรรค และอดกลนั้ ส่งิ สะเทือนใจ ๔. จาคะ สละให้ปันส่ิงของของตนแก่คนที่ควรให้ปัน ปัญจกะ คือหมวด ๕ ประโยชน์เกิดแตก่ ารถือโภคทรพั ย์ ๕ อย่าง เมื่อแสวงหาโภคทรัพย์ได้โดยทางท่ชี อบแล้ว ควรท่ีจะมีการใช้จ่ายท่ี ถกู ต้องตามระบบเศรษฐกิจแบบพทุ ธ ดงั นี ้ ๑. เลยี ้ งตวั มารดา บิดา บตุ ร ภรรยา บา่ วไพร่ ให้เป็นสขุ ๒. เลยี ้ งเพ่ือนฝงู ให้เป็นสขุ ๓. บาบดั อนั ตรายท่ีเกิดแตเ่ หตตุ า่ ง ๆ ๔. ทาพลี ๕ อยา่ ง คือ ๔.๑ ญาติพลี สงเคราะห์ญาติ ๔.๒ อติถิพลี ต้อนรับแขก ๔.๓ ปพุ พเปตพลี ทาบญุ อทุ ิศให้ผ้ตู าย ๔.๔ ราชพลี บริจาคเป็นหลวง มีการเสยี ภาษีอากรเป็นต้น ๔.๕ เทวตาพลี ทาบญุ อทุ ิศให้เทวดา [โรงเรียนสุเทพนครวชิ พระปริยัตธิ รรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่ม ๑๐ อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอ็ด]
๖๗ พระครูปริยตั โิ ชตยิ าถรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ. เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. วชิ าธรรมวภิ าคชัน้ ตรี ๕. บริจาคทานในสมณพราหมณ์ พระสงฆ์ผ้ปู ระพฤติชอบ ศีล ๕ ๑. ปาณาตปิ าตา เวรมณี เว้นจากทาชีวิตสตั ว์ให้ตกลว่ งไป ๒. อทินนาทานา เวรมณี เว้นจากถือเอาสงิ่ ที่ เจ้าของไมไ่ ด้ให้ด้วย อาการแหง่ ขโมย ๓. กาเมสุ มจิ ฉาจารา เวรมณี เว้นจากประพฤติผดิ ในกาม ๔. มสุ าวาทา เวรมณี เว้นจากพดู เทจ็ ๕. สรุ าเมรยมชั ชปมาทฏั ฐานา เวรมณี เว้นจากดื่มนา้ เมา คือสรุ าและ เมรัย อนั เป็นท่ีตงั้ แหง่ ความประมาท มจิ ฉาวณชิ ชา คือการค้าขายไม่ชอบธรรม ๕ อยา่ ง อาชีพซือ้ ชายเฉพาะสนิ ค้าอนั ชาวพทุ ธไมค่ วรดาเนินการ คือ ๑. ค้าขายเคร่ืองประหาร ศสั ตรา อาวธุ หอก ดาบ ปืน และเคร่ือง ดกั จบั สตั ว์ เป็นต้น ๒. ค้าขายมนษุ ย์ ๓. ค้าขายสตั ว์เป็นสาหรับฆา่ เพื่อเป็นอาหาร ๔. ค้าขายนา้ เมา ๕. ค้าขายยาพิษ การค้าขาย ๕ อยา่ งนี ้เป็นข้อห้ามอบุ าสกไมใ่ ห้ประกอบ [โรงเรียนสุเทพนครวิช พระปริยัตธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา กลุ่ม ๑๐ อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอ็ด]
๖๘ พระครูปริยัตโิ ชตยิ าถรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ. เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. วชิ าธรรมวภิ าคชัน้ ตรี สมบัติของอบุ าสก ๕ ประการ เอกลักษณ์ คอื คณุ สมบตั พิ เิ ศษของชาวพทุ ธ ทงั้ อบุ าสกและอบุ าสกิ า คอื ๑. ประกอบด้วยศรัทธา ๒. มีศีลบริสทุ ธิ์ ๓. ไมถ่ ือมงคลต่ืนขา่ ว คือเชื่อกรรม ไมเ่ ชื่อมงคล ๔. ไมแ่ สวงหาเขตบญุ นอกพทุ ธศาสนา ๕. บาเพญ็ บญุ แตใ่ นพทุ ธศาสนา ฉักกะ คือ หมวด ๖ ทศิ ๖ ๑. ปรุ ัตถิมทิศ คือทิศเบือ้ งหน้า มารดา บิดา ๒. ทกั ขิณทิศ คือทศิ เบือ้ งขวา ครู อาจารย์ ๓. ปัจฉิมทศิ คือ ทศิ เบือ้ งหลงั บตุ รภรรยา ๔. อตุ ตรทิศ คือทศิ เบือ้ งซ้าย มติ รสหาย ๕. เหฏฐิมทิศ คือทิศเบือ้ งต่า บา่ วไพร่ ๖. อปุ ริมทิศ คือทศิ เบือ้ งบน สมณพราหมณ์ ๑. ปรุ ัตถมิ ทศิ คือทศิ เบอื้ งหน้า(มารดาบดิ า)บตุ รพงึ บารุงด้วยสถาน ๕ ๑ ทา่ นได้เลยี ้ งมาแล้ว เลยี ้ งทา่ นตอบ ๒ ทากิจของทา่ น [โรงเรียนสุเทพนครวชิ พระปริยัตธิ รรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่ม ๑๐ อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอ็ด]
๖๙ พระครูปริยตั โิ ชตยิ าถรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ. เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. วชิ าธรรมวภิ าคชัน้ ตรี ๓ ดารงวงศ์สกลุ ๔ ประพฤตติ นให้เป็นคนควรรับทรัพย์มรดก ๕ เม่ือทา่ นลว่ งลบั ไปแล้ว ทาบญุ อทุ ิศให้ทา่ น มารดาบดิ าได้รับบารุงฉะนีแ้ ล้ว อนุเคราะห์บุตรด้วยสถาน ๕ ๑. ห้ามให้ทาความชวั่ ๒. ให้ตงั้ อยใู่ นความดี ๓. ให้ศกึ ษาศลิ ปวิทยา ๔. หาภรรยาทส่ี มควรให้ ๕. มอบทรัพย์ให้ในสมยั ๒. ทกั ขณิ ทศิ คือทศิ เบอื้ งขวา (อาจารย์) ศษิ ย์พงึ บารุงด้วยสถาน ๕ ๑. ด้วยลกุ ขนึ ้ ยืนรับ ๒. ด้วยเข้าไปยืนคอยรับใช้ ๓. ด้วยเช่ือฟัง ๔. ด้วยอปุ ัฏฐาก ๕. ด้วยเรียนศลิ ปวิทยาโดยเคารพ อาจารย์ได้รับบารุงฉะนีแ้ ล้ว ย่อมอนุเคราะห์ศษิ ย์ด้วยสถาน ๕ ๑. แนะนาดี ๒. ให้เรียนดี ๓. บอกศิลปให้สนิ ้ เชิง ไม่ปิดบงั อาพราง๔. ยกยอ่ งให้ปรากฏในเพ่ือนฝงู ๕.ทาความปอ้ งกนั ทิศทงั้ หลาย (คือจะไปทางทศิ ไหน ก็ไมอ่ ดอยาก) ๓. ปัจฉิมทศิ คือทศิ เบอื้ งหลัง (ภรรยา) สามีพงึ บารุงด้วยสถาน ๕ ๑. ด้วยยกยอ่ งนบั ถือวา่ เป็นภรรยา ๒. ด้วยไมด่ หู ม่นิ ๓. ด้วยไมป่ ระพฤตลิ ว่ งใจ ๔. ด้วยมอบความเป็นใหญ่ให้ ๕. ด้วยให้เครื่องแตง่ ตวั ภรรยาได้รับบารุงฉะนีแ้ ล้ว ย่อมอนุเคราะห์สามีด้วยสถาน ๕ อย่าง [โรงเรียนสุเทพนครวชิ พระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา กลุ่ม ๑๐ อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอด็ ]
๗๐ พระครูปริยตั โิ ชตยิ าถรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ. เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. วชิ าธรรมวภิ าคชัน้ ตรี ๑. จดั การงานดี ๒. สงเคราะห์คนข้างเคียงของผวั ดี ๓. ไมป่ ระพฤติลว่ งใจผวั ๔. รักษาทรัพย์ท่ีผวั หามาได้ไว้ ๕. ขยนั ไมเ่ กียจคร้านในกิจการทงั้ ปวง อุตตรทศิ คือทศิ เบอื้ งซ้าย (มติ ร) กุลบุตรพงึ บารุงด้วยสถาน ๕ อย่าง ๑. ด้วยให้ปัน ๒. ด้วยเจรจาถ้อยคาไพเราะ ๓. ด้วยประพฤตปิ ระโยชน์ ๔. ด้วยความเป็นผ้มู ีตนเสมอ ๕. ด้วยไมแ่ กล้งกลา่ วให้คลาดจากความเป็นจริง มติ รได้รับบารุงฉะนีแ้ ล้ว ย่อมอนุเคราะห์กุลบุตรด้วยสถาน ๕ อย่าง ๑. รักษามิตรผ้ปู ระมาทแล้ว ๒.รักษาทรัพย์ของมิตรผู้ ประมาทแล้ว ๓. เม่ือมีภยั เอาเป็นที่พง่ึ พานกั ได้ ๔. ไมล่ ะทงิ ้ ในยามวบิ ตั ิ ๕. นบั ถือตลอดถงึ วงศ์ของมิตร ๕. เหฏฐิมทศิ คือทศิ เบอื้ งต่า (บ่าว) นาย พงึ บารุงด้วยสถาน ๕ อย่าง ๑. ด้วยจดั การงานให้ทาตามสมควรแกก่ าลงั ๒. ด้วยให้อาหารและรางวลั ๓. ด้วยรักษาพยาบาลในเวลาเจบ็ ไข้ ๔. ด้วยแจกของมีรสแปลกประหลาดให้กิน ๕. ด้วยปลอ่ ยในสมยั [โรงเรียนสุเทพนครวิช พระปริยัตธิ รรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่ม ๑๐ อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอด็ ]
๗๑ พระครูปริยตั โิ ชตยิ าถรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ. เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. วชิ าธรรมวภิ าคชัน้ ตรี บ่าวได้รับบารุงฉะนีแ้ ล้ว ย่อมอนุเคราะห์นายด้วยสถาน ๕ อย่าง ๑. ลกุ ขนึ ้ ทาการงานกอ่ นนาย ๒. เลกิ การงานทีหลงั นาย ๓. ถือเอาแตข่ องที่นายให้ ๔. ทาการงานให้ดีขนึ ้ ๕. ทาคณุ ของนายไปสรรเสริญในที่นนั้ ๆ ๖. อุปริมทศิ คือทศิ เบอื้ งบน (สมณพราหมณ์) กุลบุตรพงึ บารุงด้วยสถาน ๕ อย่าง ๑. ด้วยกายกรรม คือทาอะไร ๆ ประกอบด้วยเมตตา ๒. ด้วยวจีกรรม คือพดู อะไร ๆ ประกอบด้วยเมตตา ๓. ด้วยมโนกรรม คือคิดอะไร ๆ ประกอบด้วยเมตตา ๔. ด้วยความเป็นผ้ไู มป่ ิดประตู คือต้อนรับเข้าสบู่ ้านเรือน ๕. ด้วยให้อามสิ ทาน สมณพราหมณ์ได้รับบารุงฉะนีแ้ ล้ว ย่อมอนุเคราะห์กุลบุตรด้วย สถาน ๖ อย่าง คอื ๑. ห้ามไมใ่ ห้กระทาความชว่ั ๒. ให้ตงั้ อยใู่ นความดี ๓. อนเุ คราะห์ด้วยนา้ ใจอนั งาม ๔. ให้ได้ฟังสงิ่ ที่ยงั ไมเ่ คยฟัง ๕. ทาสงิ่ ท่ีเคยฟังแล้วให้แจ่มชดั ๖. บอกทางสวรรค์ให้ [โรงเรียนสุเทพนครวิช พระปริยัตธิ รรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่ม ๑๐ อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอด็ ]
๗๒ พระครูปริยตั โิ ชตยิ าถรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ. เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. วชิ าธรรมวภิ าคชัน้ ตรี อบายมุข คือเหตุเคร่ืองฉบิ หาย ๖ อย่าง ๑. ดื่มนา้ เมา ๒. เที่ยวกลางคืน ๓. เที่ยวดกู ารเลน่ ๔. เลน่ การพนนั ๕. คบคนชว่ั เป็นมิตร ๖. เกียจคร้านทาการงาน ๑) โทษของการด่ืมน้าเมา ๖ อย่าง ๑. เสียทรัพย์ ๒. กอ่ การทะเลาะววิ าท ๓. เกิดโรคโดยเฉพาะโรคเอดส์ ๔. ต้องถกู ตเิ ตียน ๕. ไมร่ ู้จกั อาย ๖. ทอนกาลงั ปัญญา ๒) โทษของการเทยี่ วกลางคืน ๖ อย่าง ๑. ช่ือวา่ ไมร่ ักษาตวั ๒. ชื่อวา่ ไมร่ ักษาลกู เมีย ๓. ชื่อวา่ ไมร่ ักษาทรัพย์สมบตั ิ ๔.เป็นที่ระแวงของคนทงั้ หลาย ๕. มกั ถกู ใสค่ วาม ๖. ได้ความลาบากมาก ๓) โทษของเทีย่ วดูการละเล่นตามวัตถุที่ไปดู ๖ อย่าง ๑. ราท่ีไหนไปท่ีนนั่ ๒. ขบั ร้องที่ไหนไปทีน่ น่ั ๓. ดีดสีตีเป่าท่ีไหนไปท่ีนน่ั ๔. เสภาท่ีไหนไปท่ีนน่ั ๕. เพลงที่ไหนไปท่ีนน่ั ๖. เถิดเทิงที่ไหนไปท่ีนนั่ ๔) โทษของการเล่นการพนัน ๖ อย่าง ๑. เม่ือชนะยอ่ มก่อเวร ๒. เมื่อแพ้ยอ่ มเสียดายทรัพย์ท่ีเสยี ไป ๓. ทรัพย์ยอ่ มฉิบหาย ๔. ไมม่ ีใครเชื่อถือถ้อยคา [โรงเรียนสุเทพนครวิช พระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่ม ๑๐ อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอด็ ]
๗๓ พระครูปริยัตโิ ชตยิ าถรณ์ (หนูพร จารุวณฺโณ) น.ธ. เอก ป.ธ. ๓ ศศ.บ. วชิ าธรรมวภิ าคชัน้ ตรี ๕. เป็นท่ีหมิน่ ประมาทของเพือ่ น ๖.ไมม่ ีใครประสงค์จะแตง่ งานด้วย ๕) โทษของการคบคนชั่วเป็ นมติ รตามบุคคลทคี่ บ ๖ อย่างคอื ๑. นาให้เป็นนกั เลงการพนนั ๒. นาให้เป็นนกั เลงเจ้าชู้ ๓. นาให้เป็นนกั เลงเหล้า ๔. นาให้เป็นคนลวงเขาด้วยของปลอม ๕. นาให้เป็นคนลวงเขาซงึ่ ๆหน้า ๖. นาให้เป็นคนหวั ไม้ ๖ ) โทษของการเกียจคร้านทาการงาน ๑. มกั ให้อ้างวา่ หนาวนกั แล้วไมท่ าการงาน ๒. มกั ให้อ้างวา่ ร้อนนกั แล้วไมท่ าการงาน ๓. มกั ให้อ้างวา่ เวลาเยน็ แล้ว แล้วไมท่ าการงาน ๔. มกั ให้อ้างวา่ ยงั เช้านกั แล้วไมท่ าการงาน ๕. มกั ให้อ้างวา่ หิวนกั แล้วไมท่ าการงาน ๖. มกั ให้อ้างวา่ ระหายนกั แล้วไมท่ าการงาน สรุป ผู้หวังความเจริญด้วยโภคทรัพย์ พงึ เว้นเหตุเคร่ืองฉิบหาย ๖ ประการนีเ้ สีย. [โรงเรียนสุเทพนครวิช พระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่ม ๑๐ อาเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอ็ด]
Search