Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สื่อประกอบการเรียนการสอน มงคลสูตรคำฉันท์

สื่อประกอบการเรียนการสอน มงคลสูตรคำฉันท์

Published by Guset User, 2021-11-13 05:50:49

Description: สื่อประกอบการเรียนการสอน มงคลสูตรคำฉันท์

Search

Read the Text Version

สื่อประกอบการเรียนการสอน วรรณคดีวิจักษ์ มัธยมศึกษาปีที่ 4

บทที่๗ เรื่อง มงคลสูตรคำฉันท์

คำนำ หนังสือ E-Book เล่มนี้ จัดทำขึ้นเพื่อเป็นสื่อประกอบ การเรียนการสอน ในรายวิชาภาษาไทย ข้าพเจ้าได้รวบรวม ข้อมูลเกี่ยวกับ เรื่อง มงคลสูตรคำฉันท์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยมีเนื้อหาต่อไปนี้ ผู้พระราชนิพนธ์ ลักษณะคำประพันธ์ ความเป็นมา รื่องย่อ มงคล 38 ประการ คุณค่าที่ได้รับในด้าน ต่าง ๆ และข้อคิด เพื่อให้ผู้เรียนได้รับความรู้ ความเข้าใจใน เนื้อหามากยิ่งขึ้น ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือ E-Book เล่มนี้ จะ เป็นประโยชน์แก่ผู้เรียน และผู้ที่สนใจไม่มากก็น้อย จัดทำโดย ตูแวฮาดียะห์ โตะรายอ

สารบัญ หน้า 1 เรื่อง 2 ผู้พระราชนิพนธ์ 3 ลักษณะคำประพั นธ์ 4 ความเป็นมา 5 เรื่องย่อ 14 มงคล 38 ประการ 16 คุณค่าที่ได้รับจากเรื่องมงคลสูตรคำฉันท์ ข้อคิดที่ได้จากเรื่องมงคลสูตรคำฉันท์

1 ผู้พระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๖ แห่งพระบรมราชจักกรีวงศ์ เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๒๓ เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ ๒๙ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสวยราชสมบัติเมื่อวันเสาร์ที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๓ และเสด็จสวรรคตวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๘ รวมพระชนมพรรษา ๔๖ พรรษา

2 ลักษณะคำประพั นธ์ มงคลสูตรคำฉันท์เป็นวรรณคดีที่พระบาทสม เด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้น โดยทรงนำคาถาบาลีที่เป็น มงคลสูตร ซึ่งมีในพระ ไตรปิฎก มาแปลแล้วทรงเรียบเรียงแต่งเป็นบท ประพั นธ์ร้อยกรองที่มีคำสัมผัสคล้องจองท่องจำง่าย และสามารถพรรณนาความได้อย่างไพเราะจับใจ โดย ทรงใช้คำประพันธ์ ๒ ชนิดคือ กาพย์ฉบัง ๑๖ และ อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑

3 ความเป็นมา เมื่อ พ.ศ. 2466 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในรัชกาลที่6 ทรงนำมงคลสูตรมาทรงพระราชนิพนธ์เป็นบทร้อย กรองประเกทคำฉันท์ โดยใช้คำประพันธ์ 2 ชนิด คือกาพย์ฉบัง 16 และอินทรวิเชียรฉันท์ 11 ทรงนำคาถาภาษาบาลีจากพระไตร ปิฏกตั้ง แล้วแปลถอดความเป็นร้อยกรองภาษาไทยได้ถูกต้อง ตรงตามบังคับในฉันทลักษณ์โดยไม่เสียเนื้อความจากพระคาถา บาลี การจัดวางลำดับของมงคลแต่ละข้อก็เป็นไปตามที่ปรากฏ อยู่ในพระคาถาเดิม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพระอัจริยภาพทางด้าน ภาษาได้อย่างดียิ่ง

4 เรื่องย่อ พระอานนทเถระได้กล่าวถึงที่มาของมงคลสูตรว่าท่านได้ ฟังมาเฉพาะพระพักตร์ของพระพุ ทธเจ้า ณ เชตวันวิหาร กรุงสา วัตถี มงคลสูตรนี้เกิดขึ้นด้วยอำนาจคำถามคือพระพุ ทธเจ้าทรง เล่าให้พระอานนท์ฟังว่ามีเทวดาเข้ามาทูลถามพระองค์เรื่องมงคล เพราะเกิดความโกลาหลวุ่นวายขึ้นทั้งในหมู่เทวดาและมนุษย์ ที่มี ลัทธิเรื่องมงคลแตกต่างกันเป็นเวลานานถึง ๑๒ ปีท้าวสักกเทว ราชจึงทรงมอบหมายให้ตนมาทูลถามพระพุ ทธองค์จึงตรัสตอบ เรื่องมงคล ๓๘ ประการต่อจากราตรีนั้นพระพุ ทธองค์ได้ทรง แสดงเรื่องมงคลนี้แก่พระอานนท์อีกครั้งหนึ่ง

5 มงคลสูตรคำฉันท์ มงคล ๓๘ ประการ (๑) ไม่คบคนพาล การไม่คบคนพาล ซึ่งคนพาลในที่นี่ก็จะหมายถึง คนที่คิดชั่ว พู ดชั่ว และทำชั่ว ถ้าหากเราคบคนแบบนั้นก็จะพาให้ชีวิตมีแต่สิ่งที่ไม่ดี (๒) คบบัณฑิต คือให้เลือกคบเฉพาะบัณฑิต หมายถึง คนที่คิดดี พู ดดี ทำดี เมื่อเราคบด้วยแล้วก็จะนำพาแต่เรื่องที่ดีสู่ชีวิต (๓) บูชาคนที่ควรบูชา การบูชาบุคคลที่ควรบูชา บุคคลที่เราให้การนับถือ ยกย่อง เลื่อมใส เช่น พระพุ ทธเจ้า บิดา มารดา ครูอาจารย์ เป็นต้น หรือ สถานที่ที่ควรบูชา (๔) อยู่ในปฏิรูปเทศ อยู่ในถิ่นมีสิ่งแวดล้อมดี การอยู่ในสถานที่หรือประเทศที่ดี มี สภาพแวดล้อมและความพร้อมที่ดี ก็จะพาให้พบเจอแต่คนที่ดี

6 (๕) ได้ทำความดีให้พร้อมไว้แต่ก่อน การทำบุญไม่ว่าจะชาตินี้หรือชาติไหน บุญก็จะ ติดตัวเราไป และการที่ได้ทำบุญมาไว้ก่อนก็ถือว่าเป็นมงคลชีวิตอย่างหนึ่ง เพราะผล บุญที่เคยทำมาตั้งแต่อดีตก็จะส่งผลปัจจุบัน (๖) ตั้งตนไว้ชอบ การวางแผนและตั้งเป้าหมายในการใช้ชีวิตทั้งทางโลกและทางธรรม ได้อย่างถูกต้อง และจะต้องไม่ตั้งอยู่ในความประมาท มีแผนสำรองคอยแก้ไขเพื่อให้ไป ถึงเป้าหมาย (๗) เล่าเรียนศึกษามาก ผู้ที่มีความรอบรู้ มั่นศึกษาหาความรู้ เล่าเรียนในสิ่งที่ควรรู้ และจะต้องเป็นผู้ที่ได้ยินได้ฟังได้อ่านมาเยอะ ก็จะเป็นช่องทางนำความเจริญด้วย ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ความเจริญก้าวหน้ามาสู่ตัวเอง และก็จะได้ในสิ่งที่ปรารถนา (๘) มีศิลปวิทยา การแสดงออกได้เห็นถึงความงดงาม และเป็นผู้ที่ฉลาดเรียนรู้ รู้ว่า อะไรเป็นอะไร และอะไรจะต้องทำแบบไหนยังไง แล้วนำความรู้ทางด้านศิลปะมาใช้ให้เกิด ประโยชน์

7 (๙) มีระเบียบวินัย หมายถึง ระเบียบ กฎเกณฑ์ ข้อบังคับ เพื่อใช้สำหรับการควบคุม ความประพฤติ เพราะการอยู่ร่วมกันสังคมกับคนหมู่มากนั้นการมีวินัยจึงเป็นเรื่องที่ จำเป็น (๑๐) วาจาสุภาษิต การพู ดในที่นี่ไม่ใช่หมายถึงการพู ดสุภาษิต แต่จะเป็นการพู ดโดย คิดก่อนพู ด และจะต้องเป็นคำพู ดที่ดี พู ดอย่างสุภาพ พู ดแต่สิ่งที่มีประโยชน์ พู ดให้ ถูกกาลเทศะ และพู ดด้วยจิตที่มีเมตตา ฉะนั้นการมีวาจาสุภาษิตที่ดีถือว่าเป็นมงคลให้ แก่ชีวิต (๑๑) ดูแลบำรุงมารดาบิดา พระคุณของพ่อแม่นั้นมากมาย หน้าที่ของคนที่เป็นลูกก็จะ ต้องตอบแทนบุญคุณ ด้วยคำที่ว่า กตัญญู กตเวที และสิ่งนี้ก็จะเป็นมงคลให้แก่ชีวิต (๑๒) ดูแลสงเคราะห์บุตร การดูลูกให้เป็นคนดี ไม่เป็นภาระของสังคม นั้นก็เป็นหนึ่ง ในหน้าที่ของผู้เป็นพ่อแม่ ฉะนั้นเขาว่ากันว่าเลี้ยงลูกมายังไงลูกก็จะโตมาอย่างนั้น หาก เลี้ยงดูมาด้วยความรัก ดูแลอย่างดี ผลบุญนั้นก็จะได้รับแก่ผู้เป็นพ่อแม่

8 (๑๓) ดูแลสงเคราะห์ภรรยา เมื่อชายหญิงได้อยู่ร่วมกันเป็นสามีภรรยากันแล้ว สามี ก็จะต้องมีหน้าที่เลี้ยงดูภรรยา และตัวภรรยาเองก็จะต้องทำตัวให้น่าเลี้ยงดูด้วยเช่น กัน และการหลักการเลี้ยงดูภรรยา เช่น การให้เกียรติซึ่งกันและกัน ยกย่อง ไม่ดู หมิ่น ไม่นอกใจ เป็นต้น (๑๔) การงานไม่อากูล ทำงานไม่ถูกวิธี คือ ไม่รู้จักการลำดับความสำคัญว่าต้องทำ อะไรก่อนหลัง และสุดท้าย คือไม่ยอมทำงาน ชอบผัดวันประกันพรุ่งจนกลายเป็นดิน พอกหางหมู (๑๕) รู้จักให้ หมายถึง การให้ทาน ก็ถือว่าเป็นมงคลชีวิตอย่างหนึ่ง นอกจากจะ ทำบุญแล้วก็ยังจะต้องทำทานด้วย ซึ่งการให้ทานนั้นจะเป็นการให้โดยที่ไม่หวังผล ตอบแทน (๑๖) ประพฤติธรรม หมายถึง การประพฤติปฏิบัติตนเองให้อยู่ศีลธรรม ปฏิบัติ ธรรม อยู่ในความถูกต้อง และความดี เป็นคนที่มีความเที่ยงธรรม โดยที่ไม่ลำเอียง เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

9 (๑๗) สงเคราะห์ญาติ นอกจากการดูแลพ่อแม่ สามี ภรรยา และลูกแล้ว ยังต้องมี จิตใจเอื้อเฟื้อดูแลญาติพี่น้องที่เราให้ความเคารพนับถือ ซึ่งการสงเคราะห์ญาติก็นับ ว่าเป็นความดีและเป็นมงคลชีวิตให้แก่ที่มีทำ (๑๘) การงานไม่มีโทษ งานที่ทำนั้นจะต้องไม่เป็นงานที่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดประเพณี ไม่ผิดศีล และไม่ผิดธรรม และจะต้องไม่ไปเบียดเบียนใคร (๑๙) เว้นจากความชั่ว ให้งดเว้นการทำบาปทั้งปวง ได้แก่ อกุศลกรรมบถ 10 ได้แก่ การฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พู ดโกหก พู ดส่อเสียด พู ดคำหยาบคาย พู ดเพ้อเจ้อ โลภมากอยากได้ที่ไม่ใช่ของตน คิดแค้นพยาบาล และเห็นผิดเป็นชอบ สิ่งไหนที่เห็นว่าไม่ดีก็อย่าได้ทำ (๒๐) เว้นจาการดื่มน้ำเมา ให้ละเว้นหรือระมัดระวังในการดื่มของมึนเมา เพราะมักจะให้โทษมากกว่าคุณ เช่น การดื่มเหล้า เบียร์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จนทำให้มึนเมาขาดสติ

10 (๒๑) ไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย การตั้งอยู่ในความไม่ประมาท จะทำอะไรก็จะต้องมี สติ ไม่ว่าจะเป็นการคิด พู ด หรือทำอะไรก็แล้วแต่ เพราะหากไม่สติแล้วอาจจะนำไปสู่ ผลเสียในภายหลังได้ (๒๒) ความเคารพ จะต้องมีความเคารพนับถือ และจะต้องตระหนักซาบซึ่ง รู้ซึ้งถึง คุณงามความดีของผู้อื่น ซึ่งพระสัมมาสัมพุ ทธเจ้าทรงแนะสิ่งที่เราควรให้ความ เคารพ ทั้ง 7 ประการ (๒๓) ความสุภาพอ่อนน้อม การอ่อนน้อมถ่อมตัว ไร้ซึ่งฐิทิ ไม่มีความเย่อหยิ่ง จองหอง ไม่พู ดข่มคนอื่น หรือแสดงอาการโอ้อวด ไม่อวดดี แสดงถึงความ สงบเสงี่ยมเจียมตัว (๒๔) ความสันโดษ คำว่าสันโดษในที่นี่ไม่ได้หมายถึงการชอบอยู่คนเดียวตามลำพัง แต่เป็นการหมายถึงการที่รู้จักตัวตนของตนเอง พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี ไม่มีการ เบียดเบียน แก่งแย่งชิงดี อิจฉาริษยา ให้ร้ายป้ายสี ฉ้อโกงกัน

11 (๒๕) มีความกตัญญู หมายถึง การกตัญญู รู้จักบุญคุณ คนที่เคยช่วยเหลือหรือทำ ดีกับเรานั้น ก็จะถือว่าเป็นมงคลให้แก่ชีวิตเป็นอย่างมาก (๒๖) ฟังธรรมตามกาล หมายถึง หากมีเวลาหรือโอกาสก็ควรเข้าวัด ฟังธรรมบ้าง ไม่ว่าจะเป็นวันสำคัญทางศาสนา หรือวันอื่น ๆ เพื่อที่จะได้ไปฟังธรรมแล้วนำกลับมา ใช้ในชีวิตประจำวันให้ดีขึ้น (๒๗) มีความทอดทน อดกลั้น ในสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็น ความยากลำบาก ความทุกข์ที่เกิดขึ้น ความเจ็บใจ หรืออำนาจกิเลสที่เข้ามายั่วยุให้เราต้องไปทำในสิ่งที่ ไม่ดี ฉะนั้นถ้ามีความอดทนได้ก็จะเป็นมงคลแก่ชีวิต (๒๘) เป็นผู้ว่าง่ายสอนง่าย เป็นคนที่ว่านอนสอนง่าย ผู้เชื่อพู ดอะไรก็เชื่อ รับฟังคำ ตักเตือนด้วยดี มีเหตุผล (๒๙) พบเห็นสมณะ สมณะ แปลว่า ผู้สงบ โดยพระพุ ทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่าคุณสมบัติ ของสมณะจะต้องประกอบไปด้วย3ประการ ได้แก่ ต้องสงบกาย ต้องสงบวาจาและต้องสงบใจ

12 (๓๐) สนทนาธรรมตามกาล การพู ดคุยที่เกี่ยวกับเรื่องธรรม มีการแลกเปลี่ยนความรู้ ซึ่งกันและกัน เรียนรู้สิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน และเผยแพร่ความรู้ที่เกี่ยวกับธรรมที่เรารู้ให้ คนอื่นได้รับทราบ (๓๑) มีความเพียรเผากิเลส การทำให้กิเลส ความรุ่มร้อนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายใน จิตใจจางหายไป ยิ่งเราทำให้กิเลสหมดไปได้เร็วเท่าไรก็จะได้รับอานิสงค์จาการบำเพ็ญ ตบะด้วย (๓๒) ประพฤติพรหมจรรย์ กษณะของธรรมที่ถือว่าเป็นการประพฤติพรหมจรรย์ ก็จะมีตามนี้ การให้ทาน การช่วยเหลือผู้อื่น และการรักษาศีล 5 หลักธรรมง่าย ๆ เพี ยงแค่นี้ก็ถือว่าเป็นการได้ประพฤติพรหมจรรย์แล้ว (๓๓) เห็นอริยสัจ หมายถึงว่า การที่ได้เห็นความจริงอันประเสริฐ 4 ประการ ได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค

13 (๓๔) ทำพระนิพพานให้แจ้ง การทำให้แจ้งในนิพพาน ถ้าหากบุคคลนั้นสามารถ บำเพ็ญตบะ หมั่นประพฤติพรหมจรรย์ จนสามารถเห็นแจ้งได้ถึงอริยสัจ 4 ก็จะ ทำให้สามารถเข้าถึงพระนิพพานได้ (๓๕) ถูกโลกธรรม จิตไม่หวั่นไหว เะมีจิตใจที่ตั้งมั่น มีความหนักแน่น มั่นคง และไม่ ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่หวั่น เพราะเข้าใจได้เป็นอย่างดีว่าไม่มีอะไรที่เที่ยงแท้จีรังยั่งยืน (๓๖) จิตไร้เศร้า เข้าใจได้ว่าในใลกใบนี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ไม่มีอะไร ที่จีรังยั่งยืน แม้กระทั่งร่างกายเราเช่นกัน ฉะนั้นหากคิดได้เช่นนี้จิตก็จะไม่เศร้าโศก (๓๗) จิตปราศจากธุลี หมายถึงว่า ทำให้จิตใจของเราหลุดพ้นและไม่เข้าไปพัวพัน อยู่กับกิเลสทั้งปวง เพื่อทำให้จิตสะอาด (๓๘) จิตเกษม หมายถึงว่า จิตใจได้ละจากกิเลสทั้งปวงแล้ว ทำให้ชีวิตมีความสุข กาย สบายใจ

14 คุณค่าที่ได้รับจากวรรณคดีเรื่องนี้ (๑) คุณค่าด้านเนื้อเรื่อง มงคลสูตรคำฉันท์เป็น วรรณคดีที่มีเนื้อหาเป็นคำสอนทางพระพุ ทธศาสนา ว่าด้วย เรื่องของมงคล ๓๘ ประการ ซึ่งเป็นคำสอนที่สามารถพิสูจน์ ให้เห็นจริงได้ โดยเน้นที่ “การปฏิบัติด้วยตนเอง” ลำดับจาก ง่ายไปยาก

15 (๒)คุณค่าด้านวรรณศิลป์ คุณค่าด้านวรรณศิลป์เนื้อ ความในมงคลสูตรคำฉันท์แม้จะมีที่มาจากคาถาภาษาบาลีและมี คำศัพท์ในทางพระพุ ทธศาสนา แต่ก็เป็นคำที่เข้าใจความหาย ได้ไม่ยาก (๓)คุณค่าด้านสังคม มงคลสูตรคำฉันท์ เป็นวรรณคดี ที่มีมาจาก “มงคลสูตร” ซึ่งเป็นคำสอนในทางพระพุ ทธศาสนา ที่ทุกคนโดยเฉพาะพุ ทธศาสนิกชน เมื่อได้นำไปปฏิบัติ ย่อมจะ ทำให้ชีวิตประสบกับ “มงคล” หรือความสุขอย่างแท้จริง

16 ข้อคิด คติคำสอน สิ่งที่เป็นมงคลที่แท้จริง คือ การประพฤติปฏิบัติ ตามหลักคำสอนทางศาสนา ซึ่งสอดคล้องกับ สัจธรรม ที่ว่ามงคลจะเกิดแก่บุคคลใดก็ย่อมเป็น ผลมาจากการประพฤติปฏิบัติของบุคคลผู้นั้นเอง ทั้งสิ้น

ขอบคุณค่ะ

จัดทำโดย นางสาวตูแวฮาดียะห์ โตะรายอ รหัสนักศึกษา 6206510121


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook