Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การลำเลียงของพืช

การลำเลียงของพืช

Published by PCYCHAN PT, 2021-09-23 21:37:59

Description: พืชมีกลไกในการลำเลียงน้ำจาหดินไปยังส่วนต่างๆของพืชได้อย่างไร

Keywords: ชีวะ

Search

Read the Text Version

การลําเลี ยงของ พื ช พชื มกี ลไกในการ จดั ทําโดย ลาํ เลยี งนําจากดนิ นางสาวจริ ดั ชยา ก่านพรมมา ไปยงั สว่ นต่างๆของ เลขที 16 ชนั มธั ยมศึกษาปที 5/2 พชื ไดอ้ ยา่ งไรกัน? โรงเรยี นวสิ ทุ ธรงั ษี จงั หวดั กาญจนบุรี

คํานํา หนังสอื อิเลก็ ทรอนิกส์ (E-Book) นีจดั ทํา ขนึ เพอื ประกอบการเรยี นรใู้ นรายวชิ าชวี วทิ ยา (ว30243) ผจู้ ดั ทําไดร้ วบรวมขอ้ มูลเกียวกับการ ลาํ เลยี งของพชื เพอื ใหผ้ อู้ ่านไดม้ คี วามรแู้ ละความ เขา้ ใจในเนือหามากยงิ ขนึ ผจู้ ดั ทําหวงั เปนอยา่ งยงิ วา่ จะเปนประโยชน์ แก่ผทู้ ีสนใจ

ส า ร บั ญ การลําเลียงนาํ 4-7 การแลกเปลียนแก๊สและการคายนาํ 8-11 การลําเลียงธาตุอาหาร 12-13 การลําเลียงอาหาร 14-15

การลําเลียงนาํ นาํ เปนปจจยั ทีจาํ เปนต่อการอยูร่ อดของพชื การดดู นาํ จากดนิ เขา้ สพู่ ชื และการลําเลียงนาํ ไปยงั สว่ นต่างๆจงึ เปนสงิ สาํ คัญต่อการ ดาํ รงชวี ติ ของพชื การเคลือนทีของนาํ ในพชื เปนผลมาจากความต่าง ของ ชลศักย์ ชลศักย์ คือ พลังงานอิสระของนาํ ต่อหนงึ หนว่ ยปรมิ าตร โดยชลศักยท์ ี ภาวะหนงึ จะเปนผลรวมของพลังงานอิสระของนาํ ทีไดร้ บั อิทธพิ ลจากปจจยั ต่างๆ ชลศักยเ์ กียวขอ้ งโดยตรงกับทิศทางการเคลือนทีของนาํ นาํ จะมกี าร เคลือนทีจาก ชลศักยส์ งู ไปยงั ชลศักยต์ ํา โดยชลศักยเ์ ปลียนแปลงไดจ้ าก ปจจยั ทีกระทําต่อโมเลกลุ ของนาํ เชน่ ตัวละลาย แรงดนั แรงดงึ ดงั นี เพมิ ตัวละลาย เพมิ แรงดนั เพมิ แรงดงึ

การลําเลียงนาํ การลําเลียงนาํ จากสงิ แวดล้อมเขา้ สรู่ ากพชื สารละลายในดนิ มคี วามเขม้ ขน้ ตํากวา่ ในรากทําใหช้ ลศักยใ์ นดนิ สงู กวา่ ในเซลล์ขนราก นาํ ในดนิ จงึ เคลือนทีเขา้ สรู่ ากพชื โดยนําทีเขา้ มาบางสว่ นอาจผา่ นเยอื หมุ้ เซลลเ์ ขา้ สไู่ ซโทพลาซมึ ของเซลลข์ นราก โดยออสโมซสิ และการแพรแ่ บบฟาซลิ ิเทต และนําบางสว่ นอาจเคลอื นทีผา่ นตามผนัง เซลลแ์ ละชอ่ งวา่ งระหวา่ งเซลล์

ก า ร ลํา เ ลี ย ง นาํ เ ข้ า สู่ ไ ซ เ ล็ ม การลําเลียงนาํ ในราก มี 3 แบบ 1.แบบซิมพลาสต์ เปนการลาํ เลียงนําผ่านเซลล์แต่ละเซลล์ทางช่อง พลาสโมเดสมาตา 2.แบบทรานส์เมมเบรน เปนการลาํ เลียงนําผ่าน เยือหุ้มเซลล์และ ผนังเซลล์ จากเซลล์หนึงสู่อีกเซลล์หนึงไปเรอื ยๆ โดยไม่ผ่านช่อง พลาสโมเดสมาตา 3.แบบอโพพลาสต์ เปนการลาํ เลียงนําโดยไม่ผ่านเซลล์แต่เคลือนที ไปตามผนังเซลล์และช่องว่างระหว่างเซลล์ แต่เมือลาํ เลียงถึงเอนโดเด อรม์ ิสจะเปลียนรูปแบบเปนซิมพลาสต์หรอื ทรานส์เมมเบรน

ก า ร ลํา เ ลี ย ง นาํ ภ า ย ใ น ไ ซ เ ล็ ม นําจะเคลือนทีเขา้ สดู่ ้านบนโดยอาศัย การซมึ ตามรูเล็ก แรงดึง จากการคายนํา และความดันราก 1.การซึมตามรู การเคลือนที เกิดจากแรงโคฮีชันรว้ มกับแรง แอดฮีชัน ทําให้นําเคลือนทีใน ทิศทางตรงข้ามกับแรงโน้มถ่วง ของโลก 2.แรงดึงจากการคายนาํ เมือปาก ใบเปดพืชจะสูญเสียนําในรูปองไอนํา ผ่านทางปากใบ เรยี กการสูญเสียนํา ในรูปของไอนําว่า “ การคายนาํ “ 3.ความดันราก ภาวะอากาศภายนอกมี ความชืนสัมพัทธ์สูงจนไม่สามารถคายนําได้ แต่หากนําในดินมีมากพอ นําจะยังคงเคลือนที เข้าสู่รากได้ทําให้มีความดันเพิมขึน ความดันรากทําหน้าทีเคลือนทีจากไซเล็มจน ออกทาง รูหยาดนาํ การสูญเสียนําในรูปหยดนํา เรยี กว่า กัตเตชัน

การแลกเปลียนแก๊สและการคายนาํ การสูญเสียนาํ ของพืชในรูปของ ไอนาํ โดยนาํ จะระเหยได้ทาง ปากใบ ซึงอยู่ระหว่างเซลล์ คุม 2เซลล์

กลไกการเปดปดปากใบ เมือเซลล์คุมเต่ ง เซลล์คุมจะโค้ งมากขึนทําใ ห้ปากใบเ ปด และ เมือเซลล์คุมสูญเสียความเต่ ง เซลล์คุมจะโค้ งน้ องลงทําให้ปาก ใบปด โดยเมือศึ กษาการสะสมโพแทสเซียมไอออนและซู โ ครสใน เซลล์คุม พบว่ามีความสัมพันธ์กั บการเปดปดของปากใบและ ค ว า ม ก ว้ า ข อ ง รู ป า ก ใ บ

การแลกเปลยี นแก๊ส ใ น ก ร ะ บ ว น ก า ร สั ง เ ค ร า ะ ห์ แ ส ง เ ซ ล ล์ พื ช จ ะ ใ ช้ C O 2 แ ล ะ เ กิ ด O2 ข ณ ะ เ ดี ย ว กั น ใ น ก ร ะ บ ว น ก า ร ห า ย ใ จ ร ะ ดั บ เ ซ ล ล์ พื ช จ ะ ใ ช้ O 2 แ ล ะ เ กิ ด C O 2 ขึ น การแลกเปลียนแก๊สของพืชยังเกิดขึนโดยผ่านทางช่องเปดอืน เช่น แผลที เปลือกของลาํ ต้นหรือราก และ เลนทิเซล ซึงเปนรอยปริแยกทีผิวเปลือกไม้ พ บ ใ น พื ช ที มี ก า ร เ จ ริ ญ เ ติ บ โ ต แ บ บ ทุ ติ ย ภู มิ

การคายนํา พืชแลกเปลียนแก๊ สและคายนําผ่านทางปากใบ โดยได้รับอิ ทธิพล จากปจจัยต่ างๆ เช่นความชืนสัมพัทธ์ ลม อุ ณหภูมิ ปริมาณนําในดิน และความเข้มแสงเปนต้ น ความชืนสัมพัทธ์: ถ้าความชืนสัมพัทธ์ในอากาศลดลง การคายนํา ข อ ง พื ช จ ะ เ พิ ม ม า ก ขึ น ลม: ลมที พัดผ่านใบจะทําให้ความกดอากาศที บริเวณผิวใบลดลง ดังนั นนําจากปากใบจึงระเหยได้มาขึน อุณหภูมิ: หากอุณหภูมิของอากาศสูงขึน การคายนาํ จะเพิมมากขึน แต่ถ้าอุณหภูมิสูงมากเกินไปปากใบจะปด เพือปองกันการสูญเสียนาํ ปริมาณนาํ ในดิ น: เมือพืชเริมขากนํา พืชจะสร้าง กรดแอบไซซิก ซึงมีผลทําให้ปากใบปด การคายนําของพืชจะลดลง ความเข้มแสง: หากความเข้มแสงสูงปากใบจะเปดกว้าง แต่ใน บ า ง ก ร ณี ถึ ง แ ม้ ค ว า ม เ ข้ ม แ ส ง จ ะ ม า ก แ ต่ นํา ใ น ดิ น น้ อ ย พื ช จ ะ เ ริ ม ขาดแคลนนาํ ปากใบจะปด

การลาํ เลยี งธาตอุ าหาร การเคลื อนที ของธาตุ อาหารเข้ าสู่ พื ช ธาตุอาหารจะเข้าสู่เซลล์พีชและเข้าสู่ไซเล็มได้โดยอาศั ยโปรตี น ลาํ เลียง ซึงมีทั งแบบฟาซิลิเทตและแบบแอกที ฟทรานสปอร์ต ความสาํ คั ญของธาตุ อาหาร แ ร่ ธ า ตุ ที พื ช ต้ อ ง ก า ร ใ น ป ริ ม า ณ ม า ก คื อ C H O N P K C A S I M G S แ ร่ ธ า ตุ ที พื ช ต้ อ ง ก า ร ใ น ป ริ ม า ณ น้ อ ย คื อ C L F E M N B Z N C U M O N I ธาตุ อาหารที พื ชต้ องการ

การปลกู พชื ในสารละลายทีมธี าตอุ าหารหรอื ไฮโดรพอนกิ ส์ ซงึ ต้องควบคมุ ค่า pH ใหเ้ หมาะสมตลอด

การลาํ เลยี งอาหาร การศึกษาการเคลือนยา้ ยอาหารในพชื มลั พจิ ิ ไดค้ วนั เปลอื กรอบลาํ ต้น รอยควนั หา่ งกันประมาณ 2ซม. เมอื ปลอ่ ย ใหพ้ ชื เจรญิ ระยะหนึงพบวา่ เปลอื ก ของต้นไมเ้ หนือรอยควนั งออก การลําเลียงนาํ ตาลของโฟลเอ็มมที ิศทางการลําเลียงอยา่ งไร ศึกษาการลาํ เลยี งนําตาลในพชื โดยธาตุ กัมมนั ตภาพรงั สี ซงึ ไดแ้ ก่ 14C ทีเปน องค์ประกอบของคารบ์ อนไดออกไซด์ สารทีลําเลียงในโฟลเอ็ม ซมิ เมอรแ์ มน ศึกษาสารทีลาํ เลยี งในโฟลเอ็มคือ นาํ ตาลซูโครส และสารอืนๆ

กลไกการลําเลียงอาหารของ แอ็นสท์ มนึ ซ์ ซูโครสออกจากแหลง่ สรา้ งเขา้ สซู่ ฟี ทิวบเ์ มมเบอร์ ความเขม้ ขน้ ของสารละลายในชฟี ทิวบเ์ มมเบอรจ์ งึ สงู ขนึ ทําใหช้ ลศักยต์ ําลง จากเซลลข์ า้ งเคียงและเวสเซลเมมเบอรซ์ งึ มชี ลศักยส์ งู กวา่ จงึ เขา้ ชฟี ทิวบเ์ มมเบอรโ์ ดยออสโมซสิ ทําใหค้ วามดนั ในชฟี ทิวบเมมเบอร์ บรเิ วณแหลง่ สรา้ งสงู ขนึ ความดนั ทีสงู ขนึ ทําใหส้ ารละลายใน ซฟี ทิวบเ์ มมเบอรซ์ งึ มชี ูโครสอยูเ่ คลอื นจากซฟี ทิวบเ์ มมเบอรบ์ รเิ วณ แหลง่ สรา้ งไปยงั ชฟี ทิวน์เมมเบอรบ์ รเิ วณแหลง่ รบั ทีมคี วามดนั ตํากวา่ ชูโครสเคลอื นทีออกจากชฟี ทิวบเ์ มมเบอรเ์ ขา้ สเู่ ซลลใ์ นเนือเยอื บรเิ วณ แหลง่ รบั ทําใหค้ วามเขม้ ขน้ ของสารละลายในซฟี ทิวบเ์ มมเบอรล์ ดลง ชลศักยจ์ งึ สงู ขนึ เมอื ชลศักยส์ งู ขนึ นําจากชฟี ทิวบเ์ มมเบอรจ์ งึ เคลอื นที ออกสเู่ ซลลข์ า้ งเคียงและเวสเซลเมมเบอรโ์ ดยออสโมซสิ ทําใหค้ วามดนั ในซฟี ทิวบเ์ มมเบอรบ์ รเิ วณแหลง่ รบั ตําลงซงึ ทําใหย้ งั คงมคี วามแตกต่าง ของความดนั ในชฟี ทิวยเ์ มมเบอรร์ ะหวา่ งบรเิ วณแหลง่ สรา้ งกับแหลง่ รบั การลาํ เลยี งสารในโฟลเอ็มจงึ เกิดขนึ อยา่ งต่อเนือง

ขอใหเ้ ปนวนั ทดี ี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook