37
38 บทที่ 4 ประวตั ิ ความสาคญั และแนวปฏบิ ตั ใิ นการไหว้พระ สาระสาคัญ 1. วัดกษตั ราธิราชวรวิหาร เดิมชื่อวดั กษัตรา มคี วามสาคัญคอื เปน็ พระอารามหลวงช้ันตรี ชนดิ วรวหิ าร และแนวปฏบิ ตั ิในการไหว้พระของวดั นีค้ ือ ผ้ทู ม่ี าวดั นยิ มไหว้พระอโุ บสถ 2. วัดใหญช่ ัยมงคลเดิม เป็นวดั ทสี่ รา้ งมาต้ังแต่สมัยพระเจา้ อู่ทอง มคี วามสาคัญคอื สมเด็จ พระนเรศวรโปรดให้สร้างเจดีย์องค์ใหญ่ขึ้น เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ และแนวปฏิบัตใิ นการไหว้ พระของวัดนคี้ อื ผูท้ ี่มาวดั นิยมไหว้วิหารพระพุทธไสยาสน์ 3. วัดเชิงท่า เป็นวัดเก่าท่ีสร้างสมัยกรุงศรีอยุธยา มีความสาคัญ คือ เป็นแหล่ง โบราณสถานของชาติ และแนวปฏิบัติในการไหว้พระของวัดนี้คือ ผู้ท่ีมาวัดนิยมสักการะพระสมเด็จ พระเจา้ ตากสนิ มหาราช 4. วัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นวัดที่มีมาก่อนการสร้างกรุงศรีอยุธยา มีความสาคัญคือ เป็น พระโบราณคู่เมอื ง และแนวปฏบิ ัติในการไหว้พระของวัดน้ีคือ ผู้ที่มาวดั นิยมไหว้พระพุทธไตรรัตนนายก หรอื หลวงพอ่ โต 5. วัดหน้าพระเมรุ เป็นวัดเดียวในกรุงศรีอยุธยาท่ีไม่ถูกพม่าทาลาย มคี วามสาคัญคอื เป็น พระอารามหลวง และแนวปฏิบัติในการไหว้พระของวัดนี้คือ ผู้ท่ีมาวดั นิยมไหว้พระพุทธรูปศิลาประทับ น่ังห้อยพระบาท 6. วัดท่าการ้อง สร้างข้ึนก่อนปีพุทธศักราช 2092 สันนิษฐานว่าเป็นวัดท่ีราษฎรสร้าง มี ความสาคัญคอื เป็นที่ฝกึ แม่ไม้มวยไทยที่มชี ื่อเสียงคือ นายขนมต้ม และแนวปฏิบตั ใิ นการไหวพ้ ระของ วัดนค้ี อื ผู้ทมี่ าวดั นิยมไหว้พระพทุ ธรัตนมงคลหรือทเี่ รียกกันว่า “หลวงพอ่ ยิม้ ” 7. วัดธรรมมกิ ราช พระเจ้าธรรมิกราช โปรดให้สรา้ งวดั ข้ึนบริเวณเมอื งเก่ามีพระเจดยี ์สิงห์ ล้อม 52 ตัว มีความสาคัญคือ เจดีย์ทรงกลมท่ีมีเอกลักษณ์เฉพาะ มีปูนป้ันสิงห์ล้อมรอบไว้อย่างงาม สงา่ และแนวปฏิบตั ใิ นการไหวพ้ ระของวดั นีค้ อื ผ้ทู ีม่ าวัดนิยมไหว้พระวหิ ารพระพุทธไสยาสน์ 8. วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร สร้างข้ึนในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อว่า วัดทอง เป็น วัดประจาราชวงศ์จักรี มีความสาคัญคือ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก มีความโดดเด่นในด้านงาน จิตรกรรมฝาผนัง และสถาปัตยกรรม และแนวปฏิบัติในการไหว้พระของวัดนี้คือ ผู้ที่มาวัดนิยมไหว้ พระในอโุ บสถ 9. วหิ ารพระมงคลบพติ ร สรา้ งในสมยั กรุงศรอี ยุธยาตอนต้น ภายในวหิ ารมพี ระมงคล บพิตรอันงดงาม เป็นพระพุทธรปู ปางมารวชิ ัยขนาดใหญ่ มีความสาคัญคือ เปน็ ท่ปี ระดิษฐานของ หลวงพอ่ มงคลบพติ ร และแนวปฏิบัตใิ นการไหวพ้ ระของวดั นี้คือ ผู้ทมี่ าวดั นิยมไหว้พระมงคลบพติ ร ผลการเรยี นร้ทู ีค่ าดหวัง 1. บอกประวตั ิของวดั ทั้ง 9 วัด ทีไ่ ปกราบไหว้ได้ 2. อธบิ ายความสาคญั ของการไปกราบไหว้ได้ 3. สามารถปฏบิ ตั กิ ารไหวพ้ ระทั้ง 9 วัดได้เหมาะสมกบั แนวปฏบิ ัติของวดั น้นั ๆ ได้
39 4. ตระหนักถงึ ความสาคญั ของการไหว้พระ 9 วดั ที่ถูกต้องเหมาะสมตามแนวปฏบิ ัติ ขอบข่ายเนอื้ หา เรอื่ งท่ี 1 ประวัติ ความสาคัญ และแนวปฏบิ ัติในการไหว้พระวดั กษตั ราธิราชวรวิหาร เรื่องท่ี 2 ประวัติ ความสาคัญ และแนวปฏบิ ัตใิ นการไหว้พระวดั ใหญช่ ยั มงคล เร่ืองที่ 3 ประวตั ิ ความสาคัญ และแนวปฏิบัตใิ นการไหว้พระวัดเชงิ ท่า เร่อื งท่ี 4 ประวตั ิ ความสาคัญ และแนวปฏบิ ัติในการไหว้พระวดั พนัญเชงิ วรวิหาร เรอ่ื งท่ี 5 ประวัติ ความสาคัญ และแนวปฏบิ ัตใิ นการไหว้พระวัดหนา้ พระเมรุ เรื่องท่ี 6 ประวัติ ความสาคัญ และแนวปฏบิ ัติในการไหว้พระวัดทา่ การ้อง เรื่องที่ 7 ประวัติ ความสาคัญ และแนวปฏบิ ัตใิ นการไหว้พระวดั ธรรมมิกราช เรื่องท่ี 8 ประวัติ ความสาคัญ และแนวปฏิบตั ิในการไหว้พระวดั สุวรรณดารารามราชวรวิหาร เรอื่ งที่ 9 ประวตั ิ ความสาคัญ และแนวปฏบิ ัติในการไหว้พระวิหารพระมงคลบพิตร ส่อื ประกอบการเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรียน 2. สอ่ื อิเลก็ ทรอนกิ ส์ 2.1 http://hilight.kapook.com/view/32918 2.2 http://www.ayutthaya.org/attractions/ayutthaya_city01.html 2.3 https://watboran.wordpress.com/ 3. แผนท่ีอาเภอพระนครศรีอยุธยา เร่อื งที่ 1 ประวตั ิ ความสาคญั และแนวปฏบิ ตั ิในการไหว้พระวัดกษตั ราธิราชวรวิหาร 1.1 ประวตั ิวัดกษัตราธิราชวรวหิ าร ต้งั อยรู่ มิ แม่น้าเจา้ พระยาฝ่ังตะวันตก ตาบลบา้ นป้อม อาเภอพระนครศรีอยธุ ยา จังหวดั พระนครศรีอยธุ ยา เป็นวัดโบราณ ปรากฏหลกั ฐานพบวา่ มมี าตั้งแตส่ มัยกรุงศรีอยธุ ยา เดิมชือ่ วดั กษตั รา หรือ กษตั ราราม หรือ กษัตราวาส ไมป่ รากฏหลกั ฐานว่า ใครเป็นผสู้ ร้าง แต่ช่อื ของวัดทา ให้สันนษิ ฐานวา่ คงเปน็ วดั ทีพ่ ระมหากษตั รยิ ์ หรือพระบรมวงศานุวงศ์ ในสมัยกรุงศรอี ยุธยา พระองค์ ใดพระองค์หน่ึง ทรงสร้าง วัดน้ีจึงมชี ่อื วา่ วดั กษัตรา ซึ่งหมายความวา่ เปน็ วดั ของพระมหากษัตรยิ ์ หรือวดั ของพระเจ้าแผน่ ดิน มีปรากฏในแผ่นดินสมเด็จพระสุริยามรินทร์ วา่ แรม 14 ค่า เดือน 5 พมา่ เอาปนื ใหญ่มาตงั้ ท่ีวัดราชพฤกษ์ และวดั กษตั ราวาส ยิงเข้ามาในพระนคร ถูกบ้านเรือนราษฎรลม้ ตาย จานวนมาก วดั นี้คงถูกทาลายเมื่อคราวเสียกรุงศรีอยธุ ยา จงึ ถกู ทิ้งร้างเร่ือยมา คร้ันในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์ เทเวศร์ (ทองอิน) กรมพระราชบวรสถานภิมุข (กรมพระราชวังหลัง) ได้บูรณะวัดกษัตรา และได้
40 เปลย่ี นชื่อใหมเ่ ป็น \"วัดกษัตราธิราช\" ตอ่ มาในสมัยรัชกาลท่ี 2 สมเด็จเจ้าฟ้ากรมขนุ อิศรานุรักษ์ (เกศ) ต้นราชสกุลอิศรางกูร ได้ปฏิสังขรณ์พระอาราม ในปี พ.ศ.2349 ให้เป็นวัดที่มีพระสงฆ์จาพรรษา เป็น พระอารามหลวงลาดบั ท่ี 9 จงั หวัดพระนครศรีอยุธยา ท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ ัว ทรงพระกรุณา โปรดเกลา้ ฯ ยกวัดกษัตราธิราชเป็นพระอารามหลวงช้ันตรี ชนิดวรวิหาร เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2520 ปัจจุบันมีพระญาณไตรโลก (สุชาติ ฐานิสสะโร) เป็นเจ้าอาวาส นับได้ว่าเป็นวัดท่ีสวยงามแห่ง หนึ่งของจังหวัดพระนครศรอี ยธุ ยา ภายในพระอโุ บสถวัดกษัตราธริ าชวรวิหาร ตาบลบ้านป้อม อาเภอ พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธกษัตราธิราช ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม ขนาด องค์พระสูง 2.99 เมตร ฐานกว้าง 2.09 เมตร ต้ังอยู่บนฐานชุกชี ในลักษณะประทับนั่งขัดสมาธิราบ ปางมารวิชยั ใบหน้าลักษณะรูปสเ่ี หล่ียม เม็ดพระศกมขี นาดเล็ก เหนอื จากพระอษุ ณีษะ คือ เกตุมาลา ทาเป็นรัศมีเปลว องค์พระครองจีวรห่มเฉียง เปิดพระอังสาขวา ชายจีวรยาวจรดพระนาภีปลายแยก ออกเปน็ เขี้ยวตะขาบ ต่อมามีการลงรักปิดทองประดับอย่างงดงาม ส่วนกลางฐานชกุ ชี ทาเปน็ ผ้าทิพย์ ป้ันเป็นลายประเภทราชวัตร ประดับประจายาม ปั้นเป็นลายก้านขดมีการออกลายเป็นสัตว์หิมพานต์ ด้านลา่ งปั้นเป็นลายกรวยเชงิ ลกั ษณะคลา้ ยกับผา้ ทิพย์ สาหรับพระอุโบสถท่พี ระประธานประดิษฐานอยู่ มีขนาด 9 ห้อง กว้าง 22 เมตร ยาว 46 เมตร ผนงั ก่ออฐิ เจาะช่องแสงแบบเสาลูกมะหวด ด้านหนา้ พระอุโบสถมีบนั ไดข้ึน 2 ทาง ช่องกลาง ก่อเป็นซุ้มบัญชร ช่องหน้าต่าง ด้านหลังมีมุขเด็จ ทาเป็นบันไดข้ึน 3 ทาง ที่ประตูกลางของมุขเด็จ ด้านหลังก่อเป็นซุ้มก้ันห้องประดิษฐานพระพุทธปฏิมา ปางป่าเลไลยก์ ส่วนหลังคาพระอุโบสถช่อฟ้า ใบระกาหางหงส์ประกอบด้วยเคร่ืองไม้หลังคามุงด้วยกระเบ้ืองกาบู หรือกระเบื้องกาบกล้วยดินเผา หน้าบันท้ัง 2 ดา้ น จาหลักลายดอกพุดตาน มสี าหร่ายรวงผึ้งคน่ั สลับระหว่างเสา ลงรักปิดทองประดับ กระจก มีคันทวย รองรับระหว่างชายคา ท่ีแกะสลักอย่างงดงาม สืบทอดรูปแบบมาจากสมัย กรุงศรีอยธุ ยา ภายในพระอโุ บสถเสากลมมีบัวท่หี วั เสาเป็นแบบดอกบัวตูมจานวน 6 คู่ รองรบั เครือ่ ง บน เพดานเขียนลายทองเป็นลายราชวัตร ดอกกลมและพุ่มข้าวบิณฑ์ สลับกันเป็นระยะบนพื้นสีแดง เพดานสลับไม้ลงรักปิดทอง พื้นภายในพระอุโบสถปูด้วยหินอ่อนจากประเทศอิตาลี ที่รัชกาลท่ี 5 พระราชทานแด่พระครูวินยานุวัติคุณ (ทรง ธัมมสิริโชติ) อดีตเจ้าอาวาส เพ่ือถวายเป็นพุทธบูชา หลงั จากการกอ่ สร้างพระอโุ บสถวัดเบญจมบพิตรดุสติ วนารามราชวรวิหาร ภายในวัดยังมีพระวิหารอีกสองด้านเป็นที่ตั้งรูปหล่อสมเด็จพระพนรัตน์ เป็นพระ อาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือท่ีชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงพ่อแก่ รูปหล่อของสมเด็จ พระพนรัตน์ มาอยู่ที่วัดแห่งนี้แห่งเดียว ผู้ใดมาขอพรจะได้ตามความประสงค์ รวมท้ังยังมีรูปหล่อของ หลวงปู่เทียม อดีตเจ้าอาวาสพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของพระนครศรีอยุธยา ทางด้านอยู่ยงคงกระพัน และเมตตาได้สร้างช่ือเสียงไว้อย่างมากในการสร้างตะกรุด 4 มหาอานาจ รัตนมาลา ตะกรุดโทน จน ปัจจุบันมีคนมาขอดูตะกรุดท่ีทางวัดเก็บรักษาเอาไว้ นอกจากน้ี ยังมีวัตถุมงคลที่หลวงปู่เทียมจดั สร้าง ไว้ในสมัยทท่ี า่ นยังมีชีวิตอยู่ ยงั พอมีหลงเหลอื ให้ประชาชนท่มี คี วามศรทั ธาได้บชู า 1.2 ความสาคญั ของวัดกษัตราธริ าชวรวิหาร มี 3 ขอ้ ดงั นี้
41 ข้อที่ 1 เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร เม่ือวันท่ี 1 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ.2520 ข้อ 2 มีพระพุทธกษตั ราธริ าชในพระอโุ บสถซง่ึ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิ พลอดลุ ยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า พระราชทานนาม ขนาดองค์พระสูง 2.99 เมตร ฐานกวา้ ง 2.09 เมตร ตัง้ อยู่บนฐานชกุ ชี ข้อท่ี 3 เปน็ วัดที่พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช ทรงเสดจ็ เมอ่ื วนั ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2519
42 1.3 แนวปฏิบัติในการไหว้พระวัดกษัตราธิราชวรวิหาร ทค่ี วรนาไปปฏิบัติใหถ้ ูกตอ้ ง ผู้ที่มาวัดนิยมเข้าไปไหว้พระพุทธกษัตราธิราชในพระอุโบสถตามความเชื่อ ผู้ใดได้มา กราบไหว้จะประสบผลสาเร็จในหน้าท่ีการงาน ก้าวหน้าย่ิงใหญ่ข้ึน โดยมีแนวปฏิบัติในการไหว้พระ พุทธกษัตราธิราช ตามขน้ั ตอนตอ่ ไปน้ี ข้นั ตอนท่ี 1 ผ้ทู ี่มากราบไหวต้ อ้ งแต่งกายสุภาพเรยี บร้อยให้เหมาะสมกับสถานท่ี ขั้นตอนท่ี 2 ถอดรองเท้ากอ่ นเขา้ อโุ บสถ ข้นั ตอนที่ 3 นาดอกไม้ ธปู เทียน ที่เตรยี มมาหรอื ทาบญุ ณ จุดทว่ี ดั ให้บริการ ขนั้ ตอนท่ี 4 จดุ ธปู เทยี น บูชา ณ สถานท่ี ท่ีวดั จัดเตรียมไว้ใหด้ า้ นนอกอโุ บสถ ขัน้ ตอนที่ 5 เขา้ ไปกราบไหว้ ขอพรพระพทุ ธกษัตราธริ าชด้านในอุโบสถ เรอื่ งที่ 2 ประวัติ ความสาคัญ และแนวปฏิบัตใิ นการไหวพ้ ระวัดใหญช่ ยั มงคล 2.1 ประวัติวดั ใหญ่ชัยมงคล เป็นวัดท่ีเก่าแก่วัดหน่ึง สร้างข้ึนในสมัยอยุธยาตอนต้น คือในรัชสมัยของสมเด็จ พระรามาธิปดีที่ 1 หรืออีกพระนามหนึ่งคือ สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง พระมหากษัตริย์ผู้สถาปนากรุงศรี อยุธยา ตามตานานกล่าวว่า เมื่อ พ.ศ.1900 สมเด็จพระเจา้ อู่ทอง ไดท้ รงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขุด ศพเจ้าแก้ว ซึ่งทิวงคตด้วยอหิวาตกโรคขึ้นมาเผา ท่ีปลงศพน้ัน โปรดให้สถาปนาเป็นพระอาราม นาม ว่า วัดป่าแก้ว ต่อมาคณะสงฆ์สานักวัดป่าแก้วบวชเรียนมา จากสานักรัตนมหาเถระ ในประเทศศรี ลังกาคณะสงฆ์น้ีได้เป็นท่ีเคารพเลื่อมใสแก่ชาวกรุงศรีอยุธยาเป็นอันมาก ทาให้ผู้คนต่างมาบวชเรียน ในสานักสงฆ์คณะป่าแก้วมากข้ึน สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง จึงทรงต้ังอธิบดีสงฆ์นิกายน้ีเป็น สมเด็จพระวันรัตน มีตาแหน่งเป็นพระสังฆราชฝ่ายขวาคู่กับสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ซึ่งมี ตาแหนง่ เปน็ สังฆราชฝ่ายคนั ถธุระ เร่ืองราวสาคัญในประวัติศาสตร์ของวัดป่าแก้วมีอยู่ว่า อุโบสถของวัด เคยเป็นท่ีซ่ึง คณะท่ีคิดกาจัดขุนวรวงศาธิราชกับท้าวศรีสุดาจันทร์ มาประชุมเสี่ยงเทียนอธิษฐาน ครั้งน้ันได้รับ ผลสาเร็จจึงอัญเชิญพระเฑียรราชาลาผนวช ข้ึนครองราชสมบัติทรงพระนามว่า สมเด็จพระมหา จกั รพรรดิ พ.ศ. 2104 ในรัชกาลของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิน้ันเอง ได้มีพระบรมราชโองการ ให้เอาสังฆราชวดั ปา่ แก้วไปสาเร็จโทษ ฐานฝกั ใฝ่ให้ฤกษย์ ามแก่ฝ่ายกบฎพระศรีศิลป์
43 พ.ศ. 2135 ในแผ่นดินของพระนเรศวรมหาราช มเี หตุการณ์สาคญั ท่ีชวนให้เข้าใจวา่ มี การสร้างปฎิสังขรณ์เจดียป์ ระธานวัด เพื่อเฉลมิ พระเกยี รติยศของพระองคท์ ่ีได้ชัยชนะพระมหาอุปราช แห่งพม่า จงึ ทาใหเ้ ช่อื ว่าเป็นทมี่ าของช่อื วดั ใหญช่ ัยมงคล 2.2 ความสาคญั ของวดั ใหญช่ ยั มงคล มี 3 ขอ้ ดงั น้ี ขอ้ ท่ี 1 เป็นโบราณสถานทีส่ ร้างขนึ้ ในสมัยอยธุ ยาตอนต้น ขอ้ ที่ 2 เป็นวดั ทสี่ มเด็จพระนเรศวรมหาราชสรา้ งปฏิสังขรณ์เจดยี ์ ข้อท่ี 3 เปน็ วัดทพ่ี ระนเรศวรเคยเสดจ็ 2.3 แนวปฏบิ ัตใิ นการไหวพ้ ระวัดใหญช่ ยั มงคล มี 3 สถานท่ี ทค่ี วรนาไปปฏบิ ตั ใิ หถ้ ูกต้อง
44 สถานท่ีที่ 1 ไหว้พระพุทธชัยมงคลในพระ และสถานที่ที่ 2 ไหว้พระนอนท่ีวิหาร พระพุทธไสยาสน์ มแี นวทางทต่ี ้องยดึ ถือ ปฏิบตั เิ หมอื นกัน ตามข้ันตอนต่อไปนี้ ขน้ั ตอนท่ี 1 ผ้ทู มี่ ากราบไหว้ตอ้ งแต่งกายสภุ าพเรยี บร้อยให้เหมาะสมกับสถานที่ ขั้นตอนท่ี 2 ถอดรองเท้ากอ่ นเขา้ อโุ บสถ ขั้นตอนที่ 3 นาดอกไม้ ธปู เทียน ทเี่ ตรียมมาหรอื ทาบุญ ณ จุดทวี่ ัดให้บริการ ขั้นตอนท่ี 4 จดุ ธูป เทยี น บชู า ณ สถานท่ี ทว่ี ดั จัดเตรยี มไวใ้ ห้ด้านนอกอโุ บสถ ขั้นตอนที่ 5 เข้าไปกราบไหว้ ขอพร พระพุทธชยั มงคลด้านในอุโบสถ และพระ นอนทีว่ หิ ารพระพุทธไสยาสน์ สถานท่ีท่ี 3 สกั การะสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ขน้ั ตอนที่ 1 ผู้ท่ีมากราบไหวต้ ้องแตง่ กายสภุ าพเรียบร้อยใหเ้ หมาะสมกับสถานที่ ขั้นตอนท่ี 2 ถอดรองเท้ากอ่ นเข้าอโุ บสถ ขนั้ ตอนท่ี 3 นาดอกไม้ ธปู เทยี น ท่ีเตรียมมาหรอื ทาบญุ ณ จดุ ทวี่ ัดใหบ้ รกิ าร ขน้ั ตอนที่ 4 จดุ ธูป เทียน บูชา ณ สถานท่ี ทวี่ ดั จัดเตรียมไว้ให้ด้านนอกอโุ บสถ ขั้นตอนที่ 5 เข้าไปกราบไหว้ ขอพรพระพุทธกษัตราธริ าชด้านในอโุ บสถ สาหรับคนท่ีบน บาน จะต้องมีการมาแก้บนกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราชโดยนา รูปป้ันไก่ มาถวาย เรอื่ งท่ี 3 ประวตั ิ ความสาคญั และแนวปฏบิ ัตใิ นการไหว้พระวดั เชงิ ทา่ 3.1 ประวัติวดั เชงิ ท่า เป็นวดั เกา่ สร้างในสมยั กรงุ ศรีอยธุ ยา ยังไม่พบหลกั ฐานว่าใครสรา้ งเมือ่ ใด เปน็ แต่เลา่ สบื ต่อกันมาว่า เศรษฐมี ีลกู สาวสวยคนหน่ึงหลงรักกับชายหนุม่ แลว้ พากันหนไี ป โดยถือความรักเป็นอมตะ ฝา่ ยเศรษฐกี เ็ ฝ้าคอยบตุ รสาวด้วยความรกั อาลัยอยา่ งสุดซ้ึง จงึ ไดป้ ลูกเรือนหอไวค้ อยท่า วา่ หาก กลับมาขอขมากจ็ ะอภยั และยกเรือนหอให้ แต่เฝา้ คอยอยนู่ านหลายปีลกู สาวก็ไม่กลับมา เศรษฐจี งึ ได้ สร้างวดั และถวายเรอื นหอหลงั นนั้ ใหแ้ กว่ ัด เรยี กช่ือกันวา่ วัดคอยท่า เป็นวดั ทมี่ ีความหมายและมีความสาคัญเกีย่ วกบั สมเดจ็ พระเจา้ ตากสนิ มหาราช ขณะยัง เปน็ เดก็ ชายสนิ มเี ร่ืองเล่าสืบต่อกนั มาวา่ “สนิ ” เป็นเดก็ ท่ีมีบญุ และเป็นวาสนาของกรุงสยาม ทีจ่ ะได้ เอกราชกลบั คืนมา เมื่อเสยี กรุงศรีอยธุ ยาครง้ั ที่ 2 มเี รือ่ งเล่าว่า สมเดจ็ พระเจา้ กรุงธนบรุ ี เมื่อครงั้ ยงั ทรงพระเยาวม์ นี ามวา่ สนิ ขณะ พระชนมายุได้ 9 พรรษา เจา้ พระยาจักรีได้นาไปฝากให้เป็นศิษยข์ องพระอาจารย์ทองดี วดั โกษาวาส ใหศ้ ึกษาเลา่ เรยี นหนงั สือไทย ขอม และคัมภีรพ์ ระไตรปฎิ ก เมอื่ พระชนมายุได้ 13 พรรษา ในวันหน่งึ นายสินคิดตง้ั ตนเป็นเจา้ มอื บ่อนถว่ั ชักชวนบรรดาศิษยว์ ัดเลน่ การพนัน พระอาจารยท์ องดที ราบเร่อื ง จึงลงโทษทกุ คน เฉพาะนายสินเป็นเจ้ามอื ถกู ลงโทษหนักมากกว่าคนอ่ืน ใหม้ ดั มือคร่อมกับบนั ไดท่า น้า ประจานให้เข็ดหลาบ นายสนิ ถกู มดั แช่นา้ ตั้งแตเ่ วลาพลบคา่ พอดีเปน็ ช่วงเวลานา้ ขึน้ พระอาจารย์ ทองดีไปสวดพระพุทธมนต์ลมื นายสิน จนประมาณยามเศษ พระอาจารยน์ กึ ขึ้นไดจ้ ึงให้พระภิกษุสงฆ์ ซ่ึงเปน็ อันเตวาสกิ ช่วยกันจุดไต้คน้ หา ก็พบนายสินอยู่ริมตลง่ิ มือยงั ผูกมดั ตดิ อยกู่ ับบันได แต่ตัว บนั ไดกลบั หลดุ ถอนข้ึนมาได้อยา่ งอัศจรรย์ เม่ือพระภิกษสุ งฆช์ ว่ ยกนั แก้มดั นายสนิ แลว้ พระอาจารย์
45 ทองดีจงึ พาตัวนายสินไปยังอุโบสถ ใหน้ ัง่ ลงท่ามกลางพระภิกษสุ งฆ์ แลว้ พระภกิ ษุสงฆท์ ้งั หลายสวด พระพทุ ธมนต์ดว้ ยชยั มงคลคาถาเปน็ การรับขวัญ 3.2 ความสาคัญของเชิงท่า ข้อ 1 เป็นโบราณสถานเกา่ สรา้ งในสมยั กรงุ ศรีอยธุ ยา ข้อ 2 เปน็ แหลง่ โบราณสถานของชาติ 3.3 แนวปฏบิ ัติในการไหว้พระวัดเชิงทา่ ขอ้ 1 ไหวพ้ ระประธานในพระอุโบสถ ขอ้ 2 สักการะพระสมเด็จพระเจา้ ตากสนิ มหาราช
46 ขอ้ 3 ไหว้พระปรางค์ 5 ยอด เรือ่ งท่ี 4 ประวัติ ความสาคญั และแนวปฏิบตั ใิ นการไหว้พระวดั พนัญเชิงวรวหิ าร 4.1 ประวัติวัดพนัญเชงิ วรวิหาร เป็นวัดท่ีมีประวัติอันยาวนาน ก่อสร้างก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยาและไม่ปรากฎ หลักฐานท่ีแน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้าง ตามตานานวัดพนัญเชิง ในพงศาวดารเหนือ บอกไว้ว่า เม่ือครั้ง ก่อนท่ีพระเจ้าอู่ทองจะทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยา สยามประเทศในขณะนั้นไร้ซึ่งกษัตริย์ปกครองอยู่ ระยะหนึง่ เหล่าอามาตย์ ขา้ ราชบริพาร และสมณชีพรามณท์ ั้งหลายจึงลงความเห็นว่า ต้องทาพิธเี สีย่ ง เรือสุวรรณหงส์เอกชัย เพ่ือเสาะหาผู้มีบุญวาสนามาเป็นพระเจ้าแผ่นดิน โดยให้เรือแล่นไปตามแม่น้า คร้ันเม่ือเรือมาถึงยังตาบลแห่งหน่ึงริมฝั่งแม่น้า มีกลุ่มเด็กเลี้ยงโคเล่นกันอยู่ เรือก็จอดสนิทน่ิงไม่ยอม เคล่ือนที่ แม้ว่าเหล่าฝีพายจะพยายามสักแค่ไหนก็ตาม เมื่อเหล่าอามาตย์เห็นเช่นนั้น จึงเดินเข้าไปใน กลุ่มเด็กเลี้ยงโคและพบกับเด็กชายคนหน่ึงท่าทางฉลาด พูดจาฉะฉาน หลักแหลม จึงคิดว่าเด็กผู้นี้คง เป็นผู้มบี ญุ ญาธิการ จงึ รับตวั มาเป็นพระเจ้าแผ่นดินปกครองประเทศ หลังได้ข้ึนเป็นกษัตริย์สยามประเทศแล้ว มีเหตุการณ์ครั้งหน่ึงที่สร้างความน่าอัศจรรย์ใจ และเป็นที่มาของพระนาม \"พระเจ้าสายน้าผ้ึง\" เม่ือพระองค์ทรงโปรดให้ยกขบวนพยุหยาตราไปทาง ชลมารคพร้อมกับเหล่าเสนาบดี เม่ือเรือล่องมาถึงวัดปากคลอง ซ่ึงเป็นเวลาน้าขึ้น จึงตรัสส่ังให้จอด เรือพระท่ีน่ังอยู่หน้าวัด และทรงทอดพระเนตรเห็นรังผึ้งใต้ช่อฟ้าหน้าโบสถ์ พระองค์จึงดาริว่า... \"จะ ขอนมัสการพระพุทธปฏิมากร ด้วยเดชะบุญญาภิสังขารของเรา เพ่ือจะได้ครองไพร่ฟ้าอาณา
47 ประชาราษฎร์ ขอให้น้าผึ้งหยดลงมากล้ัวเอาเรือข้ึนไปประทับแทนกาแพงแก้วนั้นเถิด\" เม่ือตรัสจบ นา้ ผ้ึงกห็ ยดลงมากล้ัวเอาเรือพระท่นี ่ังยกข้นึ ไปถึงทท่ี ันที เปน็ ท่ีประจักษช์ ดั แกส่ ายตาของเสนาบดีน้อย ใหญ่ พระเจ้ากรุงไทยจึงเสด็จขึ้นไปนมัสการพระพุทธปฏิมากร เสร็จแล้วจึงเสด็จลงเรือพระที่น่ัง จากน้ันเรือพระที่น่ังก็ถอยลงมาตามเดิมได้เอง บรรดาภิกษุสงฆ์และเหล่าเสนาบดีจึงพากันถวายพระ พรชัยและถวายพระนามพระเจา้ กรุงไทยว่า \"พระเจา้ สายน้าผึง้ \" คร้ันถึงเวลาน้าลง พระเจ้าสายน้าผ้ึง ก็รับส่ังให้เหล่าเสนาบดีกลับไปรักษาพระนคร ส่วน พระองค์จะเสด็จโดยเรือเพียงลาเดียว เพ่ือเดินทางไปตามสถานท่ีต่าง ๆ และด้วยกุศลที่สร้างมาแต่ ปางหลัง จึงทาให้การเดินทางเปน็ ไปด้วยความเรียบรอ้ ยปลอดภัยจนกระท่ังถึงกรุงจีน เมื่อชาวจีนเห็น ว่าทรงเดินทางเพียงพระองค์เดียวท่ามกลางทะเลใหญ่ แต่ยังสามารถรอดชีวิตมาได้นั้น เป็นที่น่า อัศจรรย์ย่ิงนกั จึงนาความข้ึนทูลว่าพระเจ้าแผ่นดนิ จีนวา่ พระเจ้าแผ่นดินไทยองค์น้ีมีบญุ ญาธิการมาก ด้านพระเจ้ากรุงจีนเม่ือได้ฟังดังน้ัน จึงอยากทดสอบว่าพระเจ้าสายน้าผ้ึงจะมีบุญญาธิการจริงหรือไม่ โดยรับสั่งให้เสนาบดีไปทูลเชิญพระเจ้าสายน้าผึ้งประทับที่อ่าวนาค ซ่ึงเป็นที่ที่มีอันตรายมาก และให้ ทหารไปสอดแนมดูว่าเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นหรือไม่ แต่ผลปรากฏว่านอกจากจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้ว ยังมีเสยี งดุริยางคด์ นตรเี ปน็ ทคี่ รึกครน้ื เมือ่ ความทราบถึงพระเจ้ากรงุ จีน พระองคจ์ ึงมีรับสั่งให้จัด ขบวนแห่ออกไปรับพระเจ้าสายน้าผึ้งเข้ามาภายในพระราชวัง พร้อมท้ังให้ราชาภิเษกกับพระนาง สร้อยดอกหมาก ธิดาบุญธรรมของพระองค์ ขึ้นเป็นพระมเหสีของพระเจา้ สายน้าผึ้งด้วย ระหว่างการ เดินทางกลับเมืองสยาม ในขณะที่ใกล้ถึงพระราชวัง พระเจ้าสายน้าผ้ึง มีรับส่ังให้พระนางสร้อย ดอกหมากคอยพระองค์อยู่ในเรือ เน่ืองจากพระองค์ต้องการเสด็จเข้าพระราชวังก่อนเพื่อจัดเตรียม ขบวนเกียรติยศออกมาต้อนรบั ทว่าเม่ือขบวนเกยี รตยิ ศมาถึงพระเจ้าสายน้าผ้ึง กลบั ไม่ได้เสด็จมาด้วย พระองค์เอง พระนางสรอ้ ยดอกหมากจงึ ไม่ยอมเสดจ็ ขน้ึ จากเรอื พร้อมกล่าววา่ ... \"มาด้วยพระองค์ก็โดยยาก เม่ือมาถึงพระราชวังแล้ว เป็นไฉนพระองค์จึงไม่มารับ ถ้า พระองค์ไม่เสด็จมารับก็จะไม่ไป\" เมื่อเสนาบดีนาความไปกราบทูล พระเจ้าสายน้าผึ้ง คิดว่าพระนาง หยอกเล่น จึงกล่าวเล่น ๆ ว่า \"เม่ือมาถึงแล้วจะอยู่ท่ีนั่นก็ตามใจเถิด\" หลังพระนางสร้อยดอกหมาก ทราบว่าพระเจา้ สายนา้ ผ้ึงตรัสเชน่ นั้น กร็ ู้สึกนอ้ ยพระทัยยิง่ นกั คร้ันรงุ่ เชา้ พระเจา้ สายน้าผึ้งก็เสด็จมา รับด้วยพระองค์เอง พระนางสร้อยดอกหมากจึงตัดพ้อต่อว่าพระองค์ พระเจ้าสายน้าผ้ึง จึงตรัส สพั ยอกอีกว่า \"เอาล่ะ เมอ่ื ไม่อยากขึ้นก็จงอยู่ท่ีน่ีเถิด\" เมอ่ื ได้ฟังดังน้ัน ดว้ ยความน้อยพระทัย พระนาง สร้อยดอกหมากจึงกล้ันพระทัยตายทันที ทาให้พระเจ้าสายน้าผ้ึงทรงเสียพระทัยเป็นอย่างมาก ด้วย เหตุนี้ พระเจ้าสายน้าผึ้ง จึงโปรดเกล้าให้อัญเชิญพระศพของพระนางสร้อยดอกหมากขึ้นมา พระราชทานเพลิงพระศพ ท่ามกลางความอาลัยรักของประชาชนชาวจีนและชาวไทย และทรงให้ สร้างวัดข้ึนเพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงพระนางสร้อยดอกหมาก โดยต้ังช่ือวัดน้ีว่า \"วัดพระนางเชิญ\" หรือ \"วดั พนญั เชงิ \" แตน่ ัน้ มา 4.2 ความสาคัญวัดพนัญเชงิ วรวหิ าร ขอ้ 1 เปน็ พระอารามหลวงชน้ั โท ชนิดวรวหิ าร แบบมหานกิ าย
48 4.3 แนวปฏบิ ตั ใิ นการไหว้พระวดั พนญั เชิงวรวหิ าร ไหวพ้ ระพุทธไตรรตั นนายก ซาปอกง หรือ (หลวงพ่อโต) เรอื่ งที่ 5 ประวตั ิ ความสาคญั และแนวปฏบิ ัติในการไหว้พระวดั หนา้ พระเมรุ 5.1 ประวัติวดั หน้าพระเมรุ ตานานกล่าวถึงวัดน้ีว่า พระองค์อินทร์ในสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 รัชกาลท่ี 10 แห่ง กรุงศรีอยุธยา ทรงสร้างเม่อื จุลศักราช 864 (พ.ศ. 2046) ประทานนามว่า“วัดพระเมรุราชิการาม” แต่ ประชาชนส่วนมากนยิ มเรียกวา่ “วดั พระเมรุ” จึงเปน็ นามของวดั ทใ่ี ช้มาจนทกุ วันน้ี ในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา กล่าวถงึ เหตุการณ์คราวทาสัญญาสงบศกึ ระหว่างสมเด็จพระมหาจักรพรรด์ิกับพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง มีการปลูกพลับพลาเป็นท่ีประทับ ซง่ึ อยดู่ า้ นหนา้ วัดพระเมรุกบั วัดหัสดาวาส (ปจั จุบันวัดหสั ดาวาสเหลอื เพยี งซากเจดีย์) อกี ตอนหนงึ่ เมื่อคราวสมเด็จพระเจา้ อะลองพญามาตีกรงุ ศรอี ยธุ ยา เมื่อเดือน 6 ข้ึน 1 ค่า พ.ศ 2303 พม่า เอาปืนใหญ่มาต้ังท่ีวัดพระเมรุราชิการามกับวัดหัสดาวาส พระเจ้าอะลองพญา ทรงบัญชาการและทรงจุดปืนใหญ่เอง ปืนใหญ่ที่ต้ังอยู่ในวัดพระเมรุราชิการามแตกต้องพระองค์ บาดเจ็บสาหัส ประชวรหนักในวันนั้น พอรุ่งขึ้น 2 ค่า เดือน 6 พ.ศ. 2303 พม่าเลิกทัพกลับไป ทางเหนือหวังออกทางด่านแม่ละเมาะ แต่ยังไม่พ้นแดนเมืองตาก พระเจ้าอะลองพญาก็ส้ิน พระชนมร์ ะหวา่ งทาง
49 5.2 ความสาคัญวัดหนา้ พระเมรุ ข้อ 1 มีสถาปัตยกรรมอยู่ในสมัยอยุธยาตอนต้น พระนามว่า “พระพุทธนิมิตวิชิตมาร โมลศี รสี รรเพชญบรมไตรโลกนาถ” ข้อ 2 เป็นวัดโบราณวัดเดียวในอยุธยาที่ยังคงสภาพสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาท่ี สมบูรณม์ ากทีส่ ดุ เน่อื งจากเปน็ วดั ทีพ่ ม่าเคยใชต้ งั้ กองบญั ชาการรบ จงึ ไม่ไดถ้ ูกพม่าเผาทาลาย 5.3 แนวปฏิบตั ิในการไหวพ้ ระวดั หนา้ พระเมรุ มนัสการพระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ พระประธานใน อุโบสถ ซึง่ สร้างปลายสมัยอยธุ ยา เปน็ พระพทุ ธรูปทรงเครอื่ งหลอ่ สาริดมีความงดงามมาก
50 เรอ่ื งท่ี 6 ประวัติ ความสาคญั และแนวปฏิบัตใิ นการไหวพ้ ระวดั ท่าการอ้ ง 6.1 ประวัติวดั ทา่ การอ้ ง เป็นวัดโบราณมีมาแต่สมัยอยุธยา สร้างข้ึนก่อนปี พ.ศ. 2092 ประมาณ 450 ปี เศษ มาแล้ว ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้างและสร้างในปี พ.ศ. ใด สันนิษฐานว่าคงเป็นวัดท่ีราษฎร สร้าง เพราะไม่ปรากฏรายช่ือพระอารามหลวงสมัยอยุธยา ตามบันทึกพระราชพงศาวดาร วัดท่ากา รอ้ งมบี ทบาทสาคญั ในประวตั ศิ าสตร์ของกรุงศรีอยธุ ยามากมายวัดท่าการอ้ งไดเ้ ป็นท่ีฝกึ ฝนศิลปะแม่ไม้ มวยไทยของนกั มวยไทยทีม่ ชี ือ่ เสียงท่านหน่ึงคือ นายขนมตม้ ในเสภาเร่ือง ขุนช้างขุนแผน มีการบันทึกว่า ขุนไกร และสามเณรพลายแก้ว ได้มา อุปสมบทที่วัดท่าการ้องตอนท่ีขุนแผนถูกจองจา ณ กรุงศรีอยุธยา ณ วันอังคาร ข้ึน 4 ค่า เดือน 5 ปี กุน เวลาบ่าย 4 โมง พม่ายิงปืนสูงวัดการ้องระดมเข้ามา ณ กรุงศรีอยุธยาแล้วเอาเพลิงจุดเช้ือท่ีราก กาแพงทรุดลง ในปี 2309 วัดท่าการ้องได้เคยเป็นท่ีต้ังค่ายของพม่าค่ายหน่ึงก่อนเสียกรุงศรีอยุธยา จนมีคากล่าวว่า “นกกาจากวัดการ้อง บินไปเสียบอก ณ ยอดพระปรางค์วัดพระศรีมหาธาตุ ใจกลาง กรุงศรีอยุธยา น้าตาหลวงพ่อโต วันพนัญเชิง ไหลนองพระเนตร อันเป็นลางบอกเหตุสิ้นแล้วแผ่นดิน กรงุ ศรีอยธุ ยา“ ในสมัยเกิดสงครามโลกคร้ังท่ี 2 วัดท่าการ้อง ได้ถูกจ้ดให้เป็นโรงเรียนนายร้อยฝ่ายช่าง เทคนิค รุ่น 10-12 เป็นการช่ัวคราว โดยใช้ศาลาการเปรียญเป็นห้องเรียน และเป็นท่ีพักอาศัยก่อนที่ จะถกู ปล่อยทิง้ ขาดการเอาใจใสด่ ูแลเปน็ เวลานานจนทาให้ทรดุ โทรมลงในที่สดุ ยังมีจุดน่าสนใจให้ไปเที่ยวชมกัน เม่ือก้าวเข้าไปแล้วจะรู้สึกอยากอยู่นานๆ ไม่ว่าจะเป็น หอ้ งนา้ ที่สะอาดสวยงาม และสวนหยอ่ มท่ีประดับตกแตง่ สวยๆ ตลาดนา้ วัดท่าการ้องและทีส่ าคัญทีส่ ุด ก็คือพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ นามว่า“พระพุทธรัตนมงคล” หรอื ท่เี รียกวา่ หลวงพอ่ ยมิ้ พระคบู่ ้านคูเ่ มือง ทีเ่ ก่าแกอ่ ายนุ บั ร้อยปี และ พระบรมสารรี ิกธาตุใหน้ มสั การกันอกี ด้วย 6.2 ความสาคัญวัดทา่ การอ้ ง ข้อ 1 มหี ลวงพ่อรตั นมงคล (หลวงพอ่ ยิ้ม) ขอ้ 2 มศี าลากลางเปรยี ญ เป็นอาคารทรงไทยไม้สกั สร้างสมัยอยธุ ยา
51 6.3 แนวปฏิบตั ใิ นการไหว้พระวัดทา่ การ้อง สักการะขอพรพระศักดิ์สิทธิ์“พระพุทธรัตนมงคล” หรือที่เรียกว่า หลวงพ่อย้ิม พระ ค่บู ้านคเู่ มืองท่เี กา่ แกอ่ ายนุ ับร้อยปี และ นมัสการพระบรมสารีรกิ ธาตุ เรอื่ งที่ 7 ประวตั ิ ความสาคัญ และแนวปฏิบัตใิ นการไหว้พระวัดธรรมมิกราช 7.1 ประวตั ิ วดั ธรรมกิ ราช อดีตเคยเป็นพระอารามหลวงในสมยั กรงุ ศรีอยธุ ยา เนอื่ งจากติดกบั พระราชวังหลวง และพระมหากษตั ริย์ทรงใชเ้ ป็นทส่ี ดบั พระธรรมเทศนาเป็นประจา เปน็ วัดที่สร้างก่อนกรุงศรอี ยธุ ยา โดยพระยาธรรมิกราช ซงึ่ เปน็ พระราชโอรสของพระเจ้าสายนา้ ผ้งึ หลงั จากครองราชย์สมบตั ิแลว้ กไ็ ด้ สร้างวัดหน่ึงชอ่ื วา่ “วดั มุขราช” ตอ่ มาได้เปลย่ี นชอื่ เป็น “วดั ธรรมิกราช” เมื่อถึงปีพุทธศักราช 2310 กรงุ ศรีอยุธยาเสยี กรุงแก่พมา่ วัดแห่งนี้กไ็ ด้ถกู ทาลายเสียหายและถูกทงิ้ รา้ ง ต่อมาได้มีพระสงฆจ์ า พรรษามาจนถึงทุกวันนี้ ภายในวดั มีโบราณสถาน และโบราณวัตถุทีน่ ่าสนใจดังน้ี พระอโุ บสถ อยูใ่ กล้กบั วหิ ารทรงธรรมดา้ นใต้ มกี าแพงแก้วล้อมรอบและมีใบเสมาหนิ ต้ังอยู่ นอกกาแพงแก้ว ภายในพระอุโบสถมพี ระประธานปูนปน้ั สมัยรตั นโกสินทร์ มีภาพเขยี นสดี ้านทศิ ตะวนั ออก เรอ่ื ง พุทธประวัติ นอกจากนยี้ ังมเี จดีย์ อีกหลายขนาด จานวน 11 องค์ วหิ ารทรงธรรม มกี าแพงแก้วทั้ง 4 ด้าน มีมุขยื่นออกมาทั้งดา้ นหนา้ และด้านหลงั ตัววิหารใหญม่ ากตั้งอย่บู นเนนิ สูง ภายในมเี สากลม 2 แถว แถวละ 10 ตน้ ตัววิหารหันหนา้ ไปทางทศิ ตะวนั ออก วหิ ารเลก็ ปจั จบุ ันเหลอื แต่ฐาน มเี จดีย์ย่อมมุ และซมุ้ จรนัมทัง้ 4 ทศิ วหิ ารพระพทุ ธไสยาสน์ ต้ังอยู่ทางดา้ นเหนือของพระ เจดีย์ใหญ่ หนั หน้าไปทางทิศตะวันออก ดา้ นหลงั มี 3 ประตู ภายในพระวหิ ารมีพระพุทธปางไสยาสน์ ก่ออิฐถอื ปนู เปน็ ศลิ ปะสมัยอยธุ ยา หนั พระพักตรไ์ ปทางทิศเหนือ ทฝ่ี า่ พระบาทมรี อยพระพุทธบาท
52 ปิดทองประดบั บกระจก และน้าพระพุทธมนต์ในพระวิหารนีก้ ลา่ วกันว่ามี ความศักดิ์สิทธิ์มากมี ประชาชนมาอธิษฐาน ขอไปใชต้ ามความปรารถนาจานวนมาก 7.2 ความสาคัญวดั ธรรมิกราช ขอ้ 1 มีสถาปัตยกรรมปูนปัน้ รูปสงิ ห์ล้อมรอบไว้ 52 ตัว ที่หาชมไดย้ ากในเมืองไทย 7.3 แนวปฏิบัตใิ น การไหวพ้ ระ วดั ธรรมิกราช เมอ่ื มากราบไหว้วดั แหง่ นี้จะใหค้ ุณเมตตามหานยิ ม คุ้มครองรักษาโรคภัยอันตราย เรอื่ งที่ 8 ประวตั ิ ความสาคัญ และแนวปฏิบตั ใิ นการไหว้พระวัดสวุ รรณดารารามราช วรวหิ าร 8.1 ประวตั ิวัดสวุ รรณดารารามราชวรวิหาร อยใู่ นเขตพระนครด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะเมือง เหนือบริเวณป้อมเพชร สามารถใช้เสน้ ทางเดียวกับพิพธิ ภัณฑส์ ถานแห่งชาตจิ ันทรเกษม พอถึงสามแยกใหเ้ ลี้ยวขวา แลว้ ตรง ไปประมาณ 1 กโิ ลเมตร จะเห็นปา้ ยทางเข้าวัดอยทู่ างด้านขวามือ วัดน้เี ดิมช่ือว่า “วัดทอง” เป็นวัดที่ พระบรมมหาชนกของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช ทรงสร้างไว้ตัง้ แต่ครัง้ กรงุ ศรี อยุธยา ตอ่ มาเมือ่ พระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราชเสดจ็ ข้นึ ครองราชย์ จึงโปรดเกลา้ ฯ ใหส้ ถาปนาวัดทองขึน้ ใหม่และพระราชนามวา่ “วัดสุวรรณดาราราม” เพ่ือเปน็ อนุสรณ์แด่พระบรม ชนกนาถและพระบรมราชชนนี ตามพระนามเดิมของท้ังสองพระองค์ คอื “ทองดี” และ “ดาวเรอื ง” วัดแหง่ น้มี ีสิง่ ต่างๆ ท่ีน่าชมไมว่ า่ จะเปน็ พระอโุ บสถซง่ึ ยงั คงรูปแบสถาปตั ยกรรมสมยั อยุธยา ตอนปลาย คือ ทาส่วนฐานโคง้ อ่อนลงตรงกลางคล้ายปากเรือสาเภา หนา้ บันอโุ บสถสลักลายเป็นรูป นารายณ์ทรงครุฑ มภี าพจิตรกรรมฝาผนังเทพชมุ นมุ ทผ่ี นงั อุโบสถตอนบน ตอนลา่ ง เขยี นเร่อื ง เวสสันดรชาดก เตมียช์ าดกและสุวรรณสามชาดก ผนงั ด้านหน้าพระประธานเขยี นภาพมารวชิ ัย มีแม่
53 พระธรณีบีบมวยผมอย่ตู รงกลาง สว่ นพระประธานในพระอุโบสถ รชั กาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ใหจ้ าลอง ขยายส่วนจากพระแกว้ มรกต นอกจากนัน้ ภายในพระวหิ ารมลี กั ษณะรปู แบบฐานเปน็ เส้นตรง ไม่ใชฐ้ านอ่อนโค้งตาม รูปแบบสถาปตั ยกรรมสมัยอยุธยา บัวหัวเสามลี กั ษณะเปน็ บัวกลีบยาว หรอื บวั แวง พระวิหารสรา้ งข้นึ ในสมยั รชั กาลท่ี 2 ภายในพระวหิ ารมีภาพเขียนสีในสมยั รชั กาลท่ี 7 แสดงพระราชประวัตขิ องสมเด็จ พระนเรศวรมหาราชทรงกระทายทุ ธหตั ถี นบั เปน็ จติ กรรมฝาผนงั ท่มี ฝี มี ือยอดเยีย่ มงดงามมาก กรม ศิลปากรได้ถา่ ยแบบภาพเขยี นนีไ้ ปไว้ที่อนุสรณ์ดอนเจดีย์ จงั หวดั สพุ รรณบุรี บริเวณหน้าพระอุโบสถ จะเหน็ แท่นพระศรีมหาโพธ์ิ ลักษณะเปน็ แทน่ ฐานบัวคว่าและบวั หงาย ประดิษฐานต้นพระศรมี หาโพธิ์ ซึง่ พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอย่หู วั ไดน้ าหน่อโพธ์ิมาจากประเทศอนิ เดยี ไม่ไกลกันนั้นมีหอ ระฆงั ลกั ษณะแบบ สถาปัตยกรรมตะวันตก ก่ออฐิ ถอื ปูนมีผังเป็นรปู สีเ่ หล่ียมสองชน้ั ชัน้ ล่างเจาะประตู เป็นรปู โคง้ แหลม ชั้นบนเป็นสว่ นของหอระฆัง สนั นษิ ฐานวา่ สรา้ งขนึ้ ในสมัยรัชกาลที่ 4 พรอ้ มกบั การ ปฏสิ ังขรณวี ดั ครง้ั ใหญ่ 8.2 ความสาคญั วัดสวุ รรณดารารามราชวรวหิ าร 1. มีภาพจติ รกรรมฝาฝนังในพระอุโบสถ และพระวหิ าร โดยเฉพาะภาพจติ รกรรมใน พระอโุ บสถซง่ึ มีอายุกว่า 200 ปี 8.3 แนวปฏบิ ัตใิ นการไหว้พระวดั สุวรรณดารารามราชวรวหิ าร นมัสการพระประธานภายในโบสถ์ เป็นพระพทุ ธรูปปางมาวิชัย ซง่ึ สรา้ งในสมัย รชั กาลท่ี 4
54 เรื่องท่ี 9 ประวัติ ความสาคัญ และแนวปฏิบตั ใิ นการไหวพ้ ระวิหารพระมงคลบพิตร 9.1 ประวัติวหิ ารพระมงคลบพติ ร ตง้ั อยทู่ างดา้ นใต้ของวดั พระศรสี รรเพชญ บรเิ วณพระราชวงั ดา้ นตะวันตก ซึง่ เป็นท่ี ประดษิ ฐานของพระมงคลบพิตรเป็นพระพทุ ธรูปหลอ่ ด้วยทองสมั ฤทธ์ิลงรักปดิ ทองกอ่ อฐิ เปน็ แกน มี หน้าตักกว้าง 4 วาเศษ สีดาตลอดองค์ เพราะลงรักไว้ พระมงคลบพิตรสรา้ งขนึ้ ในรชั กาลใดไม่มีหลกั ฐานปรากฏแนน่ อน แตถ่ ้าพิจารณาตาม รูปรา่ งลักษณะแลว้ พอจะกล่าวไดว้ า่ คงสรา้ งขน้ึ ในสมัยกรุงศรอี ยธุ ยาตอนต้น เพราะพระพุทธรูปนีม้ ี เคา้ เปน็ แบบพระพุทธรปู สมยั สุโขทยั เจอื ปนอยู่ดว้ ย ซึ่งน่าจะสรา้ งในราวแผน่ ดนิ สมเด็จพระบรมไตร โลกนาถ เพราะสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถเสดจ็ ไปประพาสทางเมืองเหนอื แล้วไปไดแ้ บบอย่างใน การสรา้ งพระพุทธรปู และพทุ ธเจดีย์มาจากอาณาจักรสโุ ขทัย จงึ นยิ มสรา้ งกันตามแบบน้ัน ไม่นิยม สรา้ งแบบขอมเหมือนอย่างรัชกาลตน้ ๆ ของกรุงศรีอยธุ ยา พระมงคลบพติ รแตก่ ่อนสรา้ งไว้กลางแจง้ เหมอื นอย่างพระพทุ ธรูปในสมยั โบราณองค์อ่นื ๆ เชน่ พระเจา้ พนัญเชิง ในจงั หวดั พระนครศรีอยุธยา พระป่าเลไลยก์ ท่เี มืองสพุ รรณบรุ ี และพระนอน จกั รสีห์ ทเี่ มอื งสงิ ห์บรุ ี เป็นต้น ตอ่ มาหลงั จากที่ยา้ ยมาอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของพระราชวงั แลว้ พระเจา้ ทรงธรรมจงึ โปรดให้ก่อมณฑปสวมไว้ หลงั คาท่ีสรา้ งในสมยั น้ัน เข้าใจว่าคงจะทาเปน็ หลงั คา ยอดแบบอยา่ งมณฑปพระพทุ ธบาท คร้งั เมอ่ื พ.ศ.2249 ในแผน่ ดนิ สมเด็จพระพุทธเจ้าเสือ เกิดอสนุ บี าตฟาดลงมาโดนยอด มณฑปพระมงคลบพติ ร ทาให้ไฟไหม้เคร่ืองบนมณฑปทรดุ ลงมาต้องพระศอของพระมงคลบพติ รหกั ลง มายงั พ้ืน สมเด็จพระเจ้าเสือจึงได้โปรดให้ร้อื เครือ่ งมณฑปออก แล้วก่อสรา้ งใหม่แปลงเป็นพระวิหาร แทน สว่ นพระศอพระมงคลบพิตรนัน้ ก็คงต่อให้คนื ดังเดิม ในสมยั พระเจา้ เสือนั่นเอง ในพงศาวดารกล่าวอกี ตอนหนึง่ ว่า เมอ่ื พ.ศ.2285 สมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั บรมโกศ โปรดให้ รือ้ มณฑปของเดิมแลว้ สรา้ งข้ึนมาใหม่ 2 ปีจงึ แลว้ เสร็จ สิง่ ทป่ี ฏสิ งั ขรณ์ในแผน่ ดินของสมเดจ็ พระ เจา้ อยู่หวั บรมโกศ ส่วนใหญ่จะเป็นมขุ หน้าอยา่ งหนึ่ง กบั เสารายรอบผนงั ด้านนอกอกี อย่างหนง่ึ ซ่ึง เมื่อสรา้ งเสรจ็ แลว้ ทาใหภ้ ายในพระวหิ ารมดื ลงกวา่ เดมิ อกี มาก และทรงแปลงหลังคายอดเปน็ หลังคา ธรรมดา
55 สมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั บรมโกศโปรดให้เป็นลวดลายทฐ่ี านรองรับกบั สันถัต เป็นผา้ ทิพย์ห้อย หน้าพระมงคลบพติ รขนึ้ ใหม่ในการซอ่ มคราวน้ันด้วย และทาเปน็ รปู บวั คว่าตรงฐานบัลลงั ก์ท่ีต้ังอยบู่ น หลังสิงห์กอ่ น สว่ นผ้าทิพยน์ ้ันทาลาดทรดุ เข้าไปใตท้ ี่นั่งของพระพุทธรปู แล้วคลี่ลาดหอ้ ยลงมาอ่อน ช้อยไปตามชั้นฐานถึงปลายท่ีสดุ งอนพาดอยู่ตรงหน้าสงิ ห์ เมื่อคราวเสียกรงุ ศรอี ยธุ ยาครง้ั ท่ี 2 ใน พ.ศ.2310 พระมงคลบพติ รถูกไฟไหมท้ รุดโทรม เครือ่ งบนหักพังลงมาต้องพระเมาฬีและพระกรข้างขวาหักไปขา้ งหนึง่ ต่อมาในสมัยรัชกาลท่ี 5 พระยาโบราณราชธานนิ ทร์ เมื่อคร้งั ดารงตาแหนง่ เปน็ สมุหเทศาภิบาลมณฑลอยธุ ยา ได้ซอ่ มพระเมาฬีและพระกรขา้ งขวาด้วยปูนปั้น ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2474 คุณหญงิ อมเรศร์ สมบัติ มศี รัทธาปฏสิ งั ขรณ์พระมงคลบพิตรอีกครงั้ หนึ่ง แตน่ า่ เสยี ดายทไ่ี ด้ลบรอยปูน ปน้ั ของเดิมออกเสียจนหมด และในปี พ.ศ.2535 ได้มีการลงรักปดิ ทองพระมงคลบพติ รทั้งองค์ นับวา่ เปน็ พระพุทธรูป ปางมารวิชัยท่ีมีขนาดใหญ่มากท่ีสุดองค์หน่ึงของประเทศไทย 9.2 ความสาคัญวิหารพระมงคลบพิตร เป็นพระพุทธรูปสมั ฤทธ์ปิ างมารวชิ ัย นบั เปน็ พระพทุ ธรูปขนาดใหญ่องค์หน่งึ ใน ประเทศไทย สนั นฐิ านว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น 9.3 แนวปฏิบัติในการไหว้พระวิหารพระมงคลบพติ ร มนสั การพระมงคลบพิตร ซง่ึ เป็นพระพุทธรปู สมั ฤทธิ์ปางมารวิชัย
56 กิจกรรมทา้ ยบท กจิ กรรมท่ี 1 คาชแ้ี จง : ให้นกั ศึกษาอ่านคาถามและตัวเลอื ก ตวั อักษร คาตอบ ของข้อต่อไปนี้แล้วให้ เขยี นตัวอักษรหน้าข้อที่นักศึกษาคดิ วา่ ถูกตอ้ งทีส่ ุดเพยี งข้อเดียวลงในแผ่นกระดาษเปลา่ และสามารถ ตรวจคาตอบได้จากเฉลยกจิ กรรมท้ายบทที่ 1 ขอ้ 1 วัดสุวรรณดารารามราชวรวหิ าร เดมิ ชื่อวัดอะไร ก วดั เงิน ข วดั ทอง ค วัดวังทอง ง วดั ทองแดง ขอ้ 2 วดั ธรรมมกิ ราช มสี ถาปตั ยกรรมท่สี าคัญคืออะไร ก พระเจดยี ์ที่ใหญ่ที่สดุ ข พระนอนองคใ์ หญ่ท่ีสุด ค พระพทุ ธรปู ทใี่ หญท่ สี่ ุด ง พระเจดียส์ งิ ห์ลอ้ ม 52 ตวั ขอ้ 3 วดั พนัญเชิงวรวิหารมพี ธิ ีกรรมอะไรท่ีแตกต่างจากวัดอ่นื ก พธิ หี ม่ ผ้าพระ ข พธิ สี รงนา้ พระ ค พธิ แี หเ่ ทียนพรรษา ง พธิ สี วดมนต์ขึ้นปใี หม่ ข้อ 4 วัดเชิงทา่ ซง่ึ มสี ภาพทรดุ โทรมถูกหนว่ ยงานใดกาหนดให้เป็นโบราณสถานที่สาคัญ ก กรมศลิ ปากร ข กรมศลุ กากร ค กรมธนารกั ษ์ ง กรมสรรพสามติ ร ขอ้ 5 วัดท่าการ้องเคยเปน็ ทฝ่ี ึกซ้อมมวยไทยของใคร ก นายขนมต้ม ข พระยาพชิ ัยดาบหกั ค พระนเรศวรมหาราช ง พระเจา้ ตากสินมหาราช กิจกรรมท่ี 2 คาช้แี จง : .ให้นักศึกษาอ่านคาถามในข้อต่อไปนแ้ี ลว้ เขียนคาตอบลงในแผ่นกระดาษเปล่า และสามารถตรวจแนวคาตอบได้จากเฉลยกิจกรรมบทท่ี 4
57 ขอ้ 1 ให้นักศึกษาอธิบายขัน้ ตอนการปฏบิ ัติในการไหว้พระ 9 วัดอาเภอ พระนครศรีอยธุ ยาใหถ้ กู ต้อง คาตอบ ................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................... .................................................................
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: