UNIT 1 VECTOR
คมู่ อื การประเมินให้ขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา ตาแหนง่ ครู มีวทิ ยฐานะและเลื่อนวทิ ยฐานะ สงั กดั สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน (ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 21 ลงวนั ที่ 5 กรกฎาคม 2560) สานกั งาน ก.ค.ศ. กระทรวงศึกษาธกิ าร เอกสารประกอบการประชุม ณ โรงแรมคมุ้ ภูคา จ.เชียงใหม่ วันท่ี 4-5 มกราคม 2561
-2- คูม่ ือ การประเมินใหข้ า้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา ตาแหน่งครู มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ สงั กดั สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน (ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.3/ว 21 ลงวันท่ี 5 กรกฎาคม 2560)
-3- คานา สานักงาน ก.ค.ศ. ได้จัดทาคู่มือการประเมินให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งครู มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะฉบับน้ีข้ึน โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือใช้เป็นแนวทางในการประเมินวิทยฐานะ ตามหลกั เกณฑ์และวิธีการใหข้ ้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งครู มีวิทยฐานะและเล่ือนวิทยฐานะ ตามหนังสอื สานกั งาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.3/ว 21 ลงวนั ที่ 5 กรกฎาคม 2560 โดยมีเน้ือหาประกอบด้วย บทนา สาระสาคัญของหลักเกณฑ์และวิธีการ การประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ีและผลงานทางวิชาการ ขน้ั ตอนการดาเนินการขอมีวิทยฐานะและเล่อื นวิทยฐานะ และแนวปฏิบัติการขอมีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ ในช่วงระยะเวลาเปล่ียนผ่าน การกาหนดช่ัวโมงการปฏิบัติงาน ตัวชี้วัด และคาช้ีแจงการประเมิน รวมท้ัง แบบเสนอขอรับการประเมิน แบบรายงาน แบบสรุปผลการตรวจสอบและประเมิน เพื่อช่วยให้การประเมิน วิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาบรรลุผลเป็นไปตามเจตนารมณ์ของหลักเกณฑ์ และวิธกี ารดงั กลา่ ว สานักงาน ก.ค.ศ. หวังเป็นอย่างย่ิงว่าคู่มือการประเมินให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งครู มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะฉบับน้ีจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ท่ีเก่ียวข้อง สามารถนาไปใช้ ในการประเมินไดอ้ ย่างถูกตอ้ งและเป็นมาตรฐานเดียวกนั สานกั งาน ก.ค.ศ. ธนั วาคม 2560
-4- บทท่ี 1 บทนา ความนา ตามมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 บัญญัติว่า “การใหข้ ้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะใดและการเล่ือนเป็นวิทยฐานะใด ต้องเป็นไปตาม มาตรฐานวิทยฐานะตามมาตรา 42 ซึ่งผ่านการประเมิน ท้ังนี้ ให้คานึงถึงความประพฤติด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวชิ าชพี ประสบการณ์ คณุ ภาพการปฏบิ ัตงิ าน ความชานาญ ความเชี่ยวชาญ ผลงานท่ีเกิดจาก การปฏิบตั หิ น้าที่ในด้านการเรียนการสอน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ี ก.ค.ศ. กาหนด” ก.ค.ศ. จึงประกาศใช้ หลักเกณฑ์และวธิ กี ารใหข้ ้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งครู มีวิทยฐานะและเล่ือนวิทยฐานะ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 21 ลงวันท่ี 5 กรกฎาคม 2560 โดยมีหลักการและเหตุผล ประการสาคัญในการประกาศใช้เพื่อใหเ้ กดิ คุณภาพการศกึ ษาและสามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพ มีความสามารถ และสมรรถนะที่เหมาะสม ประกอบกับยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาประเทศได้กาหนดให้มีการพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มี ความสามารถและสมรรถนะที่เหมาะสมรองรับการพัฒนาประเทศไทย 4.0 โดยครูเป็นกลไกสาคัญสูงยิ่ง ในการเตรียมผูเ้ รยี นตามยุทธศาสตรด์ ังกล่าว ก.ค.ศ. จึงกาหนดมาตรฐานตาแหน่ง มาตรฐานวทิ ยฐานะ หลกั เกณฑ์ และวธิ กี ารใหข้ า้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา ตาแหน่งครู มีวิทยฐานะและเล่ือนวิทยฐานะ และหลักเกณฑ์ และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน ให้มีความสอดคล้องเชื่อมโยงกัน ทง้ั ระบบ โดยในส่วนของหลกั เกณฑ์และวิธีการให้ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งครู มีวิทยฐานะ และเล่ือนวทิ ยฐานะ ซึ่งไดป้ ระกาศใช้ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.3/ว 21 ลงวันท่ี 5 กรกฎาคม 2560 เปน็ หลกั เกณฑ์และวธิ กี ารที่มีการปรบั เปลีย่ นระบบการประเมนิ วิทยฐานะที่แตกต่างไปจากเดิม โดยมุ่งเน้นให้ครู ได้มีการสั่งสมประสบการณ์ มีความชานาญและเช่ียวชาญในการจัดการเรียนการสอน มีการพัฒนาตนเอง และพัฒนาวิชาชีพอย่างต่อเน่ือง นาผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่และการพัฒนาตนเองมาใช้ในการขอ มี วิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ดังนั้น เพื่อให้การดาเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กาหนด เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานเดียวกัน จึงจัดทาคู่มือการประเมินการให้ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งครู มีวทิ ยฐานะและเล่ือนวทิ ยฐานะ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 21 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 ฉบบั นขี้ น้ึ วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา หน่วยงานการศึกษา และส่วนราชการ ต้นสังกัด ไดใ้ ช้เป็นหลักปฏิบัติสาหรับการดาเนินการขอมีวทิ ยฐานะหรอื เลื่อนวทิ ยฐานะ 2. เพื่อให้ผู้ประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่และคณะกรรมการประเมินผลงานทางวิชาการ ใชเ้ ป็นหลกั ปฏบิ ตั ิสาหรบั การประเมินการขอมีวทิ ยฐานะหรอื เล่อื นวิทยฐานะ 3. เพือ่ ใหเ้ จ้าหนา้ ที่และผ้ทู ่เี ก่ียวขอ้ งใช้เปน็ แนวปฏิบตั เิ กี่ยวกบั การให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแหนง่ ครู มวี ทิ ยฐานะหรือเล่อื นวทิ ยฐานะ ขอบขา่ ยเนือ้ หา คู่มือการประเมินฉบับน้ี ประกอบด้วยสาระสาคัญของหลักเกณฑ์และวิธีการฯ การประเมินผลงาน ที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่และผลงานทางวิชาการ ขั้นตอนการดาเนินการขอมีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ และแนวปฏบิ ตั กิ ารขอมีวิทยฐานะและเลอ่ื นวทิ ยฐานะในช่วงระยะเวลาเปล่ียนผ่าน ดังน้ี
-5- 1. สาระสาคัญของหลักเกณฑ์และวิธีการใหข้ า้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งครู มีวิทยฐานะ และเล่ือนวิทยฐานะ เป็นการสรุปรายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ การประเมนิ ผลงานทเี่ กดิ จากการปฏิบัตหิ นา้ ที่ การประเมินผลงานทางวิชาการ เกณฑก์ ารตดั สิน และการพจิ ารณา อนุมัติผลการประเมนิ 2. การประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ีและผลงานทางวิชาการ ประกอบด้วยตัวชี้วัด การประเมนิ ผลงานท่เี กิดจากการปฏบิ ตั หิ น้าที่ วิธีการประเมินผลงานท่เี กิดจากการปฏบิ ัตหิ น้าท่ี คาอธิบายตวั ชี้วัด การประเมิน ประเภทผลงานทางวชิ าการ การประเมินผลงานทางวิชาการ และเกณฑก์ ารตดั สิน 3. ขน้ั ตอนการดาเนินการขอมีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะสาหรับผู้ดารงตาแหน่งครู ประกอบด้วย ขนั้ ตอนท่ี 1 การดาเนนิ การในระดบั สถานศกึ ษา ขน้ั ตอนที่ 2 การดาเนินการในระดบั สานักงานเขตพื้นท่กี ารศึกษา ข้ันตอนที่ 3 การดาเนินการในระดับสานักงานศึกษาธิการจังหวัดและคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด และขั้นตอนที่ 4 การดาเนนิ การในระดับสานกั งาน ก.ค.ศ. และ ก.ค.ศ. 4. แนวปฏิบัติในการขอมีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน สาหรับ ผูด้ ารงตาแหน่งครอู ยู่ก่อนวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 และประสงค์ขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ ตามหนังสือ สานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ที่ ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันท่ี 30 กันยายน 2552 หรือตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.3/ว 21 ลงวนั ที่ 5 กรกฎาคม 2560 พร้อมท้งั กรณีตวั อย่างเพ่อื ให้เกดิ ความชดั เจนในทางปฏิบัติ
-6- บทท่ี 2 สาระสาคญั ของหลักเกณฑแ์ ละวธิ กี ารให้ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ตาแหนง่ ครู มีวิทยฐานะและเลือ่ นวิทยฐานะ ก.ค.ศ. กาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งครู มีวทิ ยฐานะและเลือ่ นวิทยฐานะ โดยมีเจตนารมณ์เพ่ือส่งเสริมสนับสนุนให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผ้ดู ารงตาแหนง่ ครู ไดม้ ีการส่งั สมความชานาญและมีความเชีย่ วชาญในการจดั การเรียนการสอน การพฒั นาตนเอง อย่างตอ่ เน่ือง และสง่ เสรมิ ใหค้ รปู ระพฤติปฏิบตั ิตนเป็นแบบอย่างทด่ี ี มีวนิ ัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ วิชาชีพ ซึ่งสานักงาน ก.ค.ศ. ได้แจ้งให้ส่วนราชการเพื่อทราบและถือปฏิบัติ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.3/ว 21 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 โดยมสี าระสาคัญสรุปได้ ดังนี้ 1. ระยะเวลาการดารงตาแหน่งคร/ู ขอมี/เล่ือนเปน็ วทิ ยฐานะ ชนก. ชนพ. ชช. และ ชชพ. วิทยฐานะทดี่ ารงอย่ปู จั จบุ ัน วิทยฐานะละ 5 ปี 2. ชั่วโมงการปฏบิ ัตงิ าน ประเภท/ระดบั ช่วั โมงการ เงือ่ นไข ชนก/ชนพ. รวมไม่นอ้ ยกว่า 800 ชม./ปี การศกึ ษา ปฏบิ ตั ิงานทงั้ หมด ชช/ชชพ. รวมไมน่ อ้ ยกวา่ 900 ชม./ปี - ประถม, มธั ยม ชนก/ชนพ. ตอ้ งมชี ่วั โมงสอนขนั้ ตา่ ตามที่ อาชวี ะ, กศน. 800 ชม./ปี ก.ค.ศ. กาหนด และปฏบิ ตั ิงานอ่ืน ฯลฯ ชช/ชชพ. โดยตอ้ งมชี ่ัวโมง PLC ขั้นต่า 900 ชม./ปี 50 ช่ัวโมงต่อปี 3. วนิ ัย คณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ ไมถ่ กู ลงโทษทางวนิ ัย/จรรยาบรรณ วชิ าชีพ วชิ าชีพ ย้อนหลงั 5 ปี นับถึงวนั ทีย่ ืน่ คาขอ 4. ผา่ นการพัฒนาตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด มชี ่วั โมงการอบรมและพัฒนา ปีละ 12 - 20 ชวั่ โมง รวม 5 ปี จานวน 100 ช่ัวโมง 5. ผลงานท่ีเกดิ จากการปฏบิ ตั ิหน้าท่ี ย้อนหลัง 5 ปีการศึกษาตดิ ต่อกนั 1. ด้านการจดั การเรียนการสอน นบั ถึงวันสิ้นปกี ารศกึ ษากอ่ นวันที่ยนื่ คาขอ 2. ด้านการบรหิ ารจดั การชั้นเรียน 3. ด้านการพัฒนาตนเองและวชิ าชพี ต้องผา่ นเกณฑ์ 3 ปกี ารศกึ ษา ภายในระยะเวลาย้อนหลงั ** ชช. และ ชชพ.** เพ่ิม ผลงานทางวิชาการไม่นอ้ ยกวา่ 2 รายการ 5 ปีการศึกษาตดิ ตอ่ กนั ชช. เปน็ งานวิจัยชนั้ เรียน ไมน่ ้อยกว่า 1 รายการ ชชพ. เป็นงานวิจัยเกย่ี วกบั การศึกษา ไมน่ อ้ ยกว่า 1 รายการ
-7- 1. คณุ สมบัตขิ องผ้ขู อมวี ิทยฐานะและเลือ่ นวิทยฐานะ มดี งั นี้ 1.1 ระยะเวลาการดารงตาแหนง่ ครู วิทยฐานะครูชานาญการ ต้องดารงตาแหน่งครู มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันที่ย่ืนคาขอ หรอื ดารงตาแหน่งอน่ื ท่ี ก.ค.ศ. เทียบเท่า วิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ต้องดารงตาแหน่งครูท่ีมีวิทยฐานะครูชานาญการ มาแล้ว ไม่น้อยกวา่ 5 ปี นบั ถึงวนั ท่ยี ่ืนคาขอ หรือดารงตาแหน่งอื่นท่ี ก.ค.ศ. เทยี บเท่า วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ ต้องดารงตาแหน่งครูที่มีวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ มาแล้ว ไมน่ ้อยกว่า 5 ปี นบั ถงึ วันท่ยี ่นื คาขอ หรือดารงตาแหนง่ อนื่ ท่ี ก.ค.ศ. เทียบเทา่ วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญพิเศษ ต้องดารงตาแหน่งครูที่มีวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ มาแล้ว ไมน่ ้อยกวา่ 5 ปี นับถึงวันทย่ี น่ื คาขอ หรอื ดารงตาแหน่งอน่ื ที่ ก.ค.ศ. เทียบเทา่ 1.2 มีจานวนชว่ั โมงการปฏบิ ตั งิ านเป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด 1.2.1 ช่ัวโมงการปฏิบัติงาน หมายถึง จานวนชั่วโมงสอนตามตารางสอน งานสนับสนุนการจัด การเรยี นรู้ การมสี ว่ นรว่ มในชมุ ชนการเรยี นร้ทู างวิชาชพี และงานตอบสนองนโยบายและจดุ เนน้ จานวนช่ัวโมงสอนตามตารางสอน หมายถึง จานวนชั่วโมงสอนในวิชา/สาขา/กลุ่มสาระ การเรยี นรู้ทก่ี าหนดไวต้ ามหลกั สูตร การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ กิจกรรมฟน้ื ฟูสมรรถภาพผเู้ รียน งานสนับสนุนการจดั การเรียนรู้ หมายถึง การปฏิบัติงานที่เป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริม และพัฒนาการจัดการเรียนรู้ของสถานศึกษา และการมีส่วนร่วมในชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ รวมท้ังงานสนับสนุน การบรหิ ารสถานศึกษา เชน่ งานวิชาการ งานบุคคล งานงบประมาณ และงานบรหิ ารทั่วไป เปน็ ตน้ งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น หมายถึง การปฏิบัติงานที่ตอบสนองนโยบาย และจดุ เนน้ ของรฐั บาล กระทรวงศกึ ษาธิการ และสว่ นราชการต้นสงั กัด 1.2.2 ผู้ดารงตาแหนง่ ครูทจ่ี ะขอมวี ิทยฐานะหรือเลอ่ื นวิทยฐานะ ต้องมชี ั่วโมงการปฏิบตั งิ าน ดังน้ี วิทยฐานะครูชานาญการหรอื วทิ ยฐานะครชู านาญการพิเศษ ต้องมีชว่ั โมงการปฏิบัติงาน ในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 800 ชั่วโมง โดยในชั่วโมงการปฏิบัติงานต้องมีชั่วโมงการมีส่วนร่วมในชุมชนการเรียนรู้ ทางวชิ าชีพ ในแตล่ ะปีไมน่ อ้ ยกวา่ 50 ชัว่ โมง ทงั้ นี้ ต้องมีชั่วโมงสอนข้นั ต่าตามที่ ก.ค.ศ. กาหนดด้วย วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญหรือวิทยฐานะครูเช่ียวชาญพิเศษ ต้องมีชั่วโมงการปฏิบัติงาน ในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 900 ช่ัวโมง โดยในชั่วโมงการปฏิบัติงานต้องมีช่ัวโมงการมีส่วนร่วมในชุมชนการเรียนรู้ ทางวิชาชีพ ในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 50 ชวั่ โมง ท้งั นี้ ต้องมชี ่วั โมงสอนขั้นตา่ ตามที่ ก.ค.ศ. กาหนดด้วย สาหรบั การเสนอผลงานทางวชิ าการในวชิ า/สาขา/กลมุ่ สาระการเรียนรู้ใด ในชว่ งระยะเวลา ย้อนหลัง 5 ปี ผขู้ อจะต้องมีชั่วโมงสอน ในวิชา/สาขา/กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ท่ีเสนอผลงานทางวชิ าการน้ันดว้ ย
-8- 1.2.3 จานวนช่วั โมงสอนตามตารางสอน ท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ดงั นี้ ประเภท/ระดบั การศึกษา ช่วั โมงสอนตามตารางสอน ไม่ต่ากวา่ 6 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ 1. ปฐมวัย ไม่ตา่ กว่า 12 ช่วั โมง/สปั ดาห์ 2. ประถมศึกษา (รวมโรงเรียนวัตถปุ ระสงค์พิเศษ หรอื โรงเรยี นจดั การเรียนรวม) ไม่ต่ากว่า 12 ชว่ั โมง/สัปดาห์ 3. มธั ยมศกึ ษา (รวมโรงเรียนวัตถปุ ระสงค์พเิ ศษ หรอื โรงเรยี นจดั การเรยี นรวม) ไม่ตา่ กวา่ 6 ชวั่ โมง/สัปดาห์ ไม่ตา่ กวา่ 12 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ 4. การศึกษาพเิ ศษ 4.1 เฉพาะความพิการและศนู ย์การศกึ ษาพเิ ศษ 4.2 ศึกษาสงเคราะหแ์ ละราชประชานุเคราะห์ 1.3 มวี ินัย คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย หรือจรรยาบรรณ วชิ าชีพ ในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง 5 ปี นับถงึ วนั ท่ียื่นคาขอ ในกรณที ่ีผู้ดารงตาแหนง่ ครู อยรู่ ะหว่างถูกดาเนินการทางวินัยหรือจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยยังไม่มี คาส่งั ลงโทษ ให้ถอื วา่ ผ้นู นั้ มีคณุ สมบตั ิในข้อนี้ 1.4 ผา่ นการพัฒนา ตามหลักเกณฑแ์ ละวธิ กี ารที่ ก.ค.ศ. กาหนด ซึ่ง ก.ค.ศ. ได้กาหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.7/ว 22 ลงวนั ที่ 5 กรกฎาคม 2560 โดยมสี าระสาคญั ดงั นี้ 1.4.1 ครูต้องเข้ารับการพัฒนาอย่างต่อเน่ืองทุกปี โดยมีการประเมินตนเองเพื่อวิเคราะห์ ความจาเปน็ ในการพฒั นา และนาผลจากการวเิ คราะหม์ าจดั ทาแผนการพฒั นาตนเองเป็นรายปี เสนอผู้อานวยการ สถานศกึ ษาเพอ่ื พจิ ารณาอนญุ าต 1.4.2 การเขา้ รบั การพัฒนา ตอ้ งเขา้ รับการพฒั นาในหลักสูตรท่สี ถาบนั ครุ พุ ฒั นาให้การรับรอง จานวนไม่น้อยกวา่ 12 ช่วั โมง แต่ไม่เกิน 20 ชวั่ โมงต่อปี รวมภายในระยะเวลา 5 ปี จานวน 100 ชั่วโมง กรณีมีชั่วโมง การพฒั นาไมค่ รบ 100 ช่ัวโมง ให้นาช่ัวโมงการมีสว่ นร่วมในชุมชนการเรยี นร้ทู างวิชาชพี (Professional Learning Community : PLC) ส่วนที่เกินจาก 50 ชั่วโมงในแตล่ ะปีมานับรวมได้ 1.4.3 การเขา้ รบั การพัฒนาตามข้อ 1.4.2 ในแต่ละปตี ้องครบ 3 องค์ประกอบ ซึง่ ประกอบด้วย ด้านความรู้ ด้านทักษะ และด้านความเป็นครู เพ่ือให้มีคุณลักษณะท่ีคาดหวังตามมาตรฐานวิทยฐา นะ ทจ่ี ะขอรบั การประเมินนั้น ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ตาแหนง่ ครู ท่ไี ดร้ ับการพัฒนาตามข้อ 1.4.1 - 1.4.3 ครบถ้วนแล้ว ให้ถือว่าผ่านการพัฒนาก่อนการแต่งต้ังให้มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ ตามมาตรา 80 แหง่ พระราชบัญญตั ิระเบียบข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ดว้ ย 1.5 มผี ลงานที่เกิดจากการปฏิบตั ิหน้าท่ี สายงานการสอน ในชว่ งระยะเวลาย้อนหลัง 5 ปีการศึกษา ติดต่อกัน นับถึงวันส้ินปีการศึกษาก่อนวันที่ย่ืนคาขอ ซ่ึงจะต้องมีการประเมินและมีผลการประเมินเป็นไปตาม เกณฑ์การตัดสินแต่ละวิทยฐานะตามท่ีกาหนดไว้ในหลักเกณฑ์นี้ ไม่น้อยกว่า 3 ปีการศึกษา โดยพิจารณาจาก ข้อมูลทบ่ี นั ทกึ ไวใ้ นแบบรายงานผลงานท่ีเกดิ จากการปฏิบตั ิหนา้ ที่ ตาแหน่งครู รายปกี ารศึกษา (วฐ.2)
-9- การประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ีตามข้อนี้ เป็นการประเมินการปฏิบัติงาน ตามหน้าที่ความรับผิดชอบ ตามมาตรฐานตาแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะ ซ่ึงข้าราชการครูทุกคนต้องมี การประเมนิ 3 ดา้ น รวม 13 ตวั ชีว้ ดั คอื ด้านการจัดการเรียนการสอน (8 ตัวชีว้ ัด) ด้านการบริหารจดั การชนั้ เรียน (3 ตัวชี้วัด) และด้านการพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ (2 ตัวชี้วัด) เป็นปกติทุก ปีการศึกษา โดยเม่ือ ส้ินปีการศึกษาผู้ดารงตาแหน่งครูต้องประเมินผลการปฏิบัติงานของตนเอง ตามแบบ วฐ.2 เสนอผู้อานวยการ สถานศึกษา ผู้ขอรับการประเมินและผู้อานวยการสถานศึกษาต้องเป็นผู้รับรองข้อมูล เอกสาร และหลักฐาน เก่ียวกับคุณสมบตั ิของผูข้ อดว้ ย หากภายหลังการตรวจสอบพบว่ามีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ใหถ้ ือวา่ เปน็ ผูข้ าดคุณสมบตั ิ 2. การประเมิน 2.1 การประเมินผู้ดารงตาแหนง่ ครู ให้มีการประเมนิ ดงั นี้ 2.1.1 ประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี สาหรับทุกวิทยฐานะ ต้องประเมินผลงาน ที่เกดิ จากการปฏิบตั หิ นา้ ที่ มี 3 ดา้ น 13 ตวั ชี้วดั ดังน้ี 2.1.1.1 ด้านการจดั การเรยี นการสอน มี 8 ตัวชี้วัด ประกอบด้วย 1) การสร้างและหรือ พฒั นาหลักสตู ร จานวน 1 ตัวชี้วดั 2) การจัดการเรียนรู้ จานวน 4 ตัวชี้วัด ได้แก่ การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ กา ร จั ด ท าแ ผ น ก า ร จัด ก า ร เ รี ยน รู้ /แ ผ น กา ร จั ด ก า รศึ ก ษ า เ ฉ พา ะ บุ ค ค ล( IEP) /แ ผ น ก าร ส อ น ร า ยบุ ค ค ล ( IIP) / แผนการจัดประสบการณ์ กลยุทธ์ในการจัดการเรียนรู้ และคุณภาพผู้เรียน 3) การสร้างและการพัฒนา สื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศึกษา และแหล่งเรียนรู้ จานวน 1 ตัวชี้วัด 4) การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ จานวน 1 ตัวชว้ี ัด และ 5) การวิจัยเพื่อพฒั นาการเรยี นรู้ จานวน 1 ตัวชว้ี ดั 2.1.1.2 ดา้ นการบรหิ ารจัดการชนั้ เรยี น มี 3 ตัวช้ีวดั ประกอบด้วย 1) การบริหารจัดการ ช้นั เรยี น 2) การจัดระบบดูแลชว่ ยเหลือผเู้ รยี น และ 3) การจัดทาข้อมูลสารสนเทศ และเอกสารประจาช้ันเรียน หรือประจาวชิ า 2.1.1.3 ดา้ นการพฒั นาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ มี 2 ตวั ชีว้ ดั ประกอบดว้ ย 1) การพัฒนา ตนเอง และ 2) การพัฒนาวิชาชพี 2.1.2 ประเมินผลงานทางวชิ าการ สาหรับวทิ ยฐานะครเู ชีย่ วชาญและวิทยฐานะครูเชย่ี วชาญพิเศษ นอกจากต้องผ่านการประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ีแล้ว ต้องผ่านการประเมินผลงานทางวิชาการ ที่แสดงใหเ้ หน็ ถงึ สมรรถนะในการวิจัยเพ่อื พัฒนากระบวนการเรยี นร้แู ละการพฒั นาวชิ าชีพ ดงั น้ี 2.1.2.1 วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ ต้องมีผลงานทางวิชาการ ซึ่งเป็นงานวิจัยในช้ันเรียน หรือรายงานผลการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ที่เกิดจากชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ หรือผลงานทางวิชาการ ในลกั ษณะอืน่ ท่มี ีจดุ มุ่งหมายในการแก้ปญั หาดา้ นการเรยี นร้ขู องผูเ้ รียนและสอดคล้องกับแผนการจัดการเรียนรู้ มกี ารศกึ ษาแนวคิด ทฤษฎี และองค์ความร้ตู า่ ง ๆ เพื่อแก้ปญั หาและนาไปส่กู ารสรุปองคค์ วามรู้เพ่ือพฒั นาคณุ ภาพ ของผูเ้ รยี น จานวนไม่น้อยกว่า 2 รายการ โดยต้องเป็นงานวิจยั ในช้ันเรียน อยา่ งน้อย 1 รายการ 2.1.2.2 วทิ ยฐานะครูเชี่ยวชาญพเิ ศษ ต้องมีผลงานทางวชิ าการ ซึ่งเป็นงานวิจัยเกี่ยวกับ การจัดการเรียนการสอน หรือรายงานผลการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ท่ีเกิดจากชุมชน การเรียนรู้ทางวิชาชีพ หรอื ผลงานทางวชิ าการในลกั ษณะอนื่ ท่มี จี ุดมงุ่ หมายในการแก้ปัญหาด้านการเรียนรู้ของผู้เรียน และสอดคล้อง กับแผนการจดั การเรียนรู้ มีการศึกษาแนวคิด ทฤษฎีและองค์ความรู้ต่าง ๆ เพื่อแก้ปัญหา และนาไปสู่การสรุป องค์ความรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน จานวนไม่น้อยกว่า 2 รายการ โดยต้องเป็นงานวิจัยเกี่ยวกับการจัด การเรียนการสอน อย่างนอ้ ย 1 รายการ
- 10 - ท้ังน้ี ผลงานทางวิชาการท่ีผู้ขอเสนอ ต้องเป็นผลงานในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง 5 ปี นับถึงวันท่ียื่นคาขอ และต้องไม่เป็นผลงานทางวิชาการที่ใช้เป็นส่วนหน่ึงของการศึกษาเพ่ือรับปริญญา หรือประกาศนียบัตรใด ๆ หรือเป็นผลงานทางวิชาการท่ีเคยใช้เพ่ือเลื่อนตาแหน่งหรือเพื่อให้มีวิทยฐานะ หรือเลือ่ นวิทยฐานะมาแลว้ 2.2 ผู้ประเมิน ผู้อานวยการสถานศกึ ษาในฐานะผ้บู งั คับบญั ชาเป็นผปู้ ระเมิน โดยให้ดาเนินการ ดงั น้ี 2.2.1 ให้ประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ีของผู้ดารง ตาแหน่งครู ทุกคน ในสถานศึกษา ภาคเรียนละ 1 ครั้ง โดยภาคเรยี นท่ี 1 เปน็ การประเมนิ เพ่ือใหค้ าแนะนาและพัฒนา และภาคเรียน ท่ี 2 ให้ประเมนิ ภาพรวมทงั้ ปี 2.2.2 ให้ตั้งคณะกรรมการจากข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาหรือ นอกสถานศึกษา เพ่ือตรวจสอบและกลนั่ กรองข้อมูลในแบบบนั ทกึ การประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี ตาแหนง่ ครู และแบบรายงานผลงานท่เี กดิ จากการปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ี ตาแหนง่ ครู รายปีการศึกษา (วฐ.2) พรอ้ มทัง้ เสนอ ความเห็นประกอบการพิจารณาของผู้อานวยการสถานศึกษา ในการประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี ในแต่ละปกี ารศกึ ษา 2.2.3 เมื่อสิ้นปีการศึกษาให้พิจารณาผลการประเมินตนเองของผู้ดารงตาแหน่งครู ทงั้ 3 ดา้ น 13 ตัวชว้ี ดั ตามแบบบันทกึ การประเมนิ ผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี ตาแหน่งครู และตามแบบ รายงานผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ตาแหน่งครู รายปีการศึกษา (วฐ.2) อย่างต่อเนื่องทุกปีการศึกษา 2.2.4 ให้สรุปผลการประเมินให้ผู้ดารงตาแหน่งครูทราบปีการศึกษาละ 1 คร้ัง หากผู้ดารง ตาแหน่งครู ไม่เห็นด้วย ให้เปิดโอกาสได้ปรึกษาและช้ีแจง หากผู้ประเมินพิจารณาแล้วเห็นว่าถูกต้องตรงตาม ความเปน็ จรงิ แล้ว แตผ่ ดู้ ารงตาแหนง่ ครมู คี วามเห็นไม่สอดคล้องกับผปู้ ระเมิน ให้สถานศึกษาแจ้งไปยังสานักงาน เขตพ้ืนที่การศึกษา เพื่อแต่งต้ังคณะกรรมการตรวจสอบผลการประเมิน และเม่ือได้ข้อยุติเป็นประการใด ให้ถอื เป็นอันสนิ้ สดุ 2.2.5 กรณีการประเมินในปีการศึกษาใด หากผู้อานวยการสถานศึกษาไม่อาจประเมิน ผลงานท่เี กิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดารงตาแหน่งครูด้วยเหตุใด ๆ ให้เสนอ กศจ. แต่งต้ังข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษาในจังหวดั นน้ั ทมี่ คี วามรู้ ความสามารถเหมาะสมเป็นผู้ประเมินแทน 2.2.6 เมื่อผู้ดารงตาแหน่งครูยื่นคาขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนเป็นวิทยฐานะใด ให้เสนอคาขอ ตามแบบ วฐ.1 และผู้อานวยการสถานศกึ ษาตอ้ งสรุปผลการประเมนิ 5 ปกี ารศกึ ษาย้อนหลังติดต่อกันนับแต่วันที่ ยืน่ คาขอตามแบบ วฐ.3 2.2.7 กรณีที่ผู้ดารงตาแหน่งครูย่ืนคาขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ซึ่งจะต้องมีการสรุป ผลการประเมิน 5 ปกี ารศกึ ษายอ้ นหลังตดิ ต่อกัน หากผู้อานวยการสถานศึกษานั้นมีวิทยฐานะต่ากว่าวิทยฐานะท่ีขอ ให้ผู้อานวยการสถานศึกษาดาเนินการ เสนอสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา เพ่ือเสนอ กศจ. พิจารณาแต่งต้ัง ขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ในจังหวัดนั้นท่ีมีวิทยฐานะไม่ต่ากว่าวิทยฐานะที่ขอ เป็นผู้ร่วมประเมิน และสรุปผลการตรวจสอบและประเมิน (5 ปกี ารศึกษา) ตามแบบ วฐ.3
- 11 - 2.2.8 การประเมินผลงานทางวิชาการ สาหรับวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญและวิทยฐานะ ครูเชย่ี วชาญพเิ ศษ ก.ค.ศ. เปน็ ผู้ตง้ั คณะกรรมการประเมิน 3. เกณฑ์การตดั สนิ ผลการประเมนิ ผลงานทเี่ กดิ จากการปฏบิ ัติหนา้ ที่และผลงานทางวิชาการกาหนดไว้ ดงั น้ี ตวั ชี้วดั เกณฑ์การตดั สิน 1. ดา้ นการจัดการเรยี นการสอน ครูชานาญการ ครชู านาญการพิเศษ ครูเชี่ยวชาญ ครูเชี่ยวชาญพิเศษ (8 ตวั ชี้วัด) ทกุ ตัวช้ีวัดต้องได้ ทุกตวั ชว้ี ดั ตอ้ งได้ ทุกตัวชี้วดั ต้องได้ ทุกตวั ชวี้ ัดตอ้ งได้ 2. ดา้ นการบริหารจัดการ ไมต่ า่ กว่า ระดบั ไมต่ า่ กว่า ระดับ 3 ไม่ต่ากวา่ ระดบั 4 ไมต่ ่ากวา่ ระดับ 5 ชนั้ เรยี น (3 ตัวชีว้ ัด) 2 ด้าน 2 และ 3 ด้าน 2 และ ดา้ น 2 และ 3. ดา้ นการพัฒนาตนเอง ทงั้ 2 ดา้ น 3 3 และพฒั นาวชิ าชีพ ด้าน 2 และ ไมต่ า่ กว่า (2 ตวั ชว้ี ดั ) 3 ระดับ 2 ท้ัง 2 ดา้ น ท้งั 2 ด้าน และรวมกัน ไมต่ า่ กว่า ไมต่ ่ากว่า 4. ผลงานทางวชิ าการ แตล่ ะดา้ น ไมน่ ้อยกว่า ระดับ 3 ระดบั 4 ไม่ต่ากว่า 3 ตวั ชวี้ ัด และรวมกัน และรวมกัน ระดบั 2 ไมน่ อ้ ยกว่า ไมน่ อ้ ยกวา่ 3 ตัวชว้ี ดั 3 ตัวชี้วัด ไม่น้อยกว่า 1 ตวั ชี้วดั ตอ้ งไดค้ ะแนนจาก กรรมการแตล่ ะคน ตอ้ งไดค้ ะแนนจาก ไมต่ ่ากว่าร้อยละ - กรรมการแตล่ ะคน 80 ไม่ต่ากวา่ ร้อยละ 75 4. การพจิ ารณาผลการประเมนิ 4.1 วิทยฐานะครชู านาญการและวทิ ยฐานะครชู านาญการพเิ ศษ 4.1.1 กรณีผลการประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี ผ่านเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กาหนด ใหส้ านักงานศกึ ษาธิการจังหวัด เสนอ อกศจ. และ กศจ. พจิ ารณาต่อไป 4.1.2 กรณผี ลการประเมนิ ผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบตั หิ นา้ ที่ ไมผ่ า่ นเกณฑท์ ี่ ก.ค.ศ. กาหนด ให้ สานกั งานศกึ ษาธกิ ารจงั หวัด นาผลการประเมนิ พร้อมทั้งข้อสังเกต เสนอ อกศจ. และ กศจ. พิจารณาตอ่ ไป 4.1.3 กรณี กศจ.อนุมัติ ให้มผี ลไมก่ ่อนวนั ทส่ี านักงานศกึ ษาธิการจงั หวัดไดร้ บั คาขอมวี ิทยฐานะ หรือเล่ือนวทิ ยฐานะ และผลการประเมินผลงานท่เี กิดจากการปฏบิ ตั หิ น้าที่ พรอ้ มท้งั เอกสารหลักฐาน ท่ีเกี่ยวข้อง ครบถ้วนสมบูรณ์ กรณี กศจ. ไม่อนมุ ัติ ให้สานักงานศกึ ษาธิการจงั หวัดแจ้งผลการพิจารณาและข้อสังเกต การประเมนิ ไปยังสานักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษา เพ่อื แจง้ ผู้ขอทราบ 4.2 วทิ ยฐานะครเู ชย่ี วชาญและวิทยฐานะครเู ช่ียวชาญพเิ ศษ 4.2.1 กรณีผลการประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี ผ่านเกณฑ์ท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ใหส้ านกั งานศึกษาธิการจังหวัด เสนอ อกศจ. และ กศจ. พิจารณา และส่งผลการประเมิน ผลงานทางวิชาการ และเอกสารหลักฐานตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ให้สานักงาน ก.ค.ศ. เพื่อเสนอ ก.ค.ศ. พจิ ารณาตอ่ ไป
- 12 - 4.2.2 กรณผี ลการประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ผ่านเกณฑ์ท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ให้สานักงานศกึ ษาธิการจงั หวดั นาผลการประเมินพร้อมทั้งข้อสังเกต เสนอ อกศจ. และ กศจ. พิจารณา และแจ้ง ผลการพิจารณาพร้อมข้อสังเกตการประเมินไปยังสานักงานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษา เพอื่ แจง้ ผขู้ อทราบ 4.2.3 กรณี ก.ค.ศ. อนุมัติ ให้มีผลไม่ก่อนวันที่สานักงาน ก.ค.ศ. ได้รับคาขอมีวิทยฐานะ หรือเลื่อนวิทยฐานะ ผลการประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี และผลงานทางวิชาการ ซ่ึงมีเอกสาร หลักฐานท่ีเกยี่ วข้องครบถว้ นสมบรู ณ์ กรณที ีม่ ีการปรบั ปรุงผลงานทางวชิ าการ หาก ก.ค.ศ. อนมุ ัติ ให้มีผลไม่ก่อน วันทสี่ านกั งาน ก.ค.ศ. ไดร้ บั ผลงานทางวชิ าการที่ปรบั ปรงุ ครบถว้ นสมบูรณ์คร้ังหลังสุด และแจ้งผลการพิจารณา ไปยงั สานกั งานศกึ ษาธิการจงั หวดั เพื่อแจง้ สานักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษา ให้แจง้ ผ้ขู อทราบ กรณี ก.ค.ศ. ไม่อนุมัติ ให้สานักงาน ก.ค.ศ. แจ้งผลการพิจารณาและข้อสังเกต การประเมนิ ไปยังสานักงานศกึ ษาธิการจงั หวัด เพ่ือแจง้ สานกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษา ใหแ้ จ้งผขู้ อทราบ 5. การแตง่ ต้งั 5.1 วิทยฐานะครชู านาญการ กรณีท่ี กศจ. มีมติอนุมัติและผู้ขอมีวิทยฐานะผ่านการพัฒนาตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ให้ผู้มี อานาจตามมาตรา 53 สง่ั แต่งตัง้ ใหม้ วี ทิ ยฐานะครชู านาญการ และใหไ้ ดร้ ับเงินเดือนอันดับ คศ. 2 ในขั้นหรืออัตรา เงินเดอื นเทา่ เดิม ถ้าไมม่ ีขั้นหรอื อตั ราเงนิ เดอื นเท่าเดมิ ใหไ้ ดร้ ับในขนั้ หรอื อัตราเงนิ เดือนใกล้เคียงที่สูงกว่า 5.2 วิทยฐานะครชู านาญการพิเศษ กรณที ่ี กศจ. มีมตอิ นุมัติและผู้ขอเลื่อนวิทยฐานะผ่านการพัฒนาตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด ให้ผู้มี อานาจตามมาตรา 53 สง่ั แตง่ ตง้ั ให้เล่ือนเป็นวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ และให้ได้รับเงินเดือนอันดับ คศ. 3 ในขั้นหรืออตั ราเงนิ เดอื นเทา่ เดิม ถา้ ไมม่ ขี นั้ หรอื อัตราเงนิ เดอื นเท่าเดิม ให้ไดร้ ับในขั้นหรอื อัตราเงินเดือนใกล้เคียง ท่สี งู กว่า 5.3 วิทยฐานะครเู ชีย่ วชาญ กรณที ่ี ก.ค.ศ. มีมตอิ นมุ ตั แิ ละผู้ขอเลอ่ื นวทิ ยฐานะผา่ นการพฒั นาตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ให้ผู้มี อานาจตามมาตรา 53 ส่ังแต่งต้ังให้เล่ือนเป็นวิทยฐานะครูเช่ียวชาญ และให้ได้รับเงินเดือนอันดับ คศ. 4 ในขั้น หรอื อตั ราเงนิ เดอื นเทา่ เดิม ถา้ ไมม่ ีขน้ั หรอื อัตราเงนิ เดอื นเทา่ เดิม ใหไ้ ดร้ บั ในขัน้ หรืออัตราเงินเดอื นใกล้เคยี งที่สูงกว่า 5.4 วทิ ยฐานะครูเชยี่ วชาญพิเศษ กรณีท่ี ก.ค.ศ. มีมติอนุมัติและผู้ขอเลื่อนวิทยฐานะผ่านการพัฒนาตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ใหผ้ ู้บังคบั บญั ชาสูงสดุ ของสว่ นราชการทีผ่ ูน้ ั้นสงั กดั อยูเ่ ปน็ ผสู้ งั่ บรรจแุ ละให้รฐั มนตรีเจา้ สังกัดนาเสนอนายกรัฐมนตรี เพื่อนาความกราบบังคมทูลเพ่ือทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งต้ังให้เล่ือนเป็นวิทยฐานะครูเช่ียวชาญพิเศษ และให้ได้รบั เงนิ เดอื นอันดับ คศ. 5 ในข้ันหรืออตั ราเงนิ เดือนเท่าเดิม ถ้าไม่มีขั้นหรืออัตราเงินเดือนเท่าเดิม ให้ได้รับ ในขน้ั หรืออัตราเงนิ เดอื นใกลเ้ คยี งทีส่ งู กว่า
- 13 - บทที่ 3 การประเมนิ ผลงานทีเ่ กดิ จากการปฏบิ ัติหน้าทีแ่ ละผลงานทางวิชาการ การประเมินวิทยฐานะตามหลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งครู มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.3/ว 21 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 มกี ารประเมนิ ดังน้ี 1. การประเมนิ ผลงานทีเ่ กิดจากการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี การประเมนิ ผลงานที่เกิดจากการปฏบิ ตั ิหน้าที่มตี วั ช้ีวัด เกณฑ์การตัดสนิ วิธีการประเมนิ และคาอธบิ าย ตัวชว้ี ัดการประเมนิ ดงั นี้ 1.1 ตวั ช้ีวัดการประเมนิ ผลงานทีเ่ กดิ จากการปฏิบัตหิ น้าที่ (3 ด้าน 13 ตัวชวี้ ดั ) มดี ังตอ่ ไปน้ี ด้านท่ี 1 ด้านการจัดการเรียนการสอน ตวั ช้ีวัดที่ 1.1 การสร้างและหรือพฒั นาหลกั สูตร ตวั ช้ีวดั ที่ 1.2 การจดั การเรยี นรู้ ตัวช้ีวดั ที่ 1.2.1 การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ ตวั ชวี้ ดั ท่ี 1.2.2 การจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้/แผนการจัดการศกึ ษา เฉพาะบุคคล (IEP)/แผนการสอนรายบคุ คล (IIP)/ แผนการจัดประสบการณ์ ตัวชว้ี ดั ท่ี 1.2.3 กลยทุ ธ์ในการจดั การเรียนรู้ ตวั ชว้ี ดั ท่ี 1.2.4 คณุ ภาพผเู้ รียน ตวั ชว้ี ัดท่ี 1.3 การสรา้ งและการพฒั นา สื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศึกษา และแหล่งเรยี นรู้ ตัวชี้วัดท่ี 1.4 การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ตวั ช้ีวัดที่ 1.5 การวจิ ัยเพือ่ พฒั นาการเรียนรู้ ดา้ นท่ี 2 ด้านการบริหารจดั การชน้ั เรยี น ตัวชี้วัดท่ี 2.1 การบรหิ ารจดั การชนั้ เรียน ตัวชี้วัดท่ี 2.2 การจดั ระบบดแู ลชว่ ยเหลือผเู้ รียน ตัวช้ีวดั ท่ี 2.3 การจดั ทาข้อมลู สารสนเทศ และเอกสารประจาช้ันเรยี นหรอื ประจาวชิ า ดา้ นที่ 3 ด้านการพฒั นาตนเองและพฒั นาวชิ าชพี ตัวชี้วดั ที่ 3.1 การพฒั นาตนเอง ตวั ชี้วดั ท่ี 3.2 การพัฒนาวิชาชพี
- 14 - 1.2 เกณฑก์ ารตดั สนิ การประเมนิ ผลงานทีเ่ กดิ จากการปฏิบตั ิหนา้ ท่ี (3 ดา้ น 13 ตัวชีว้ ัด) การประเมนิ ผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ กาหนดเป็นระดับคุณภาพ 5 ระดับ ตั้งแต่ระดับ 1 ระดับ 2 ระดบั 3 ระดับ 4 และระดับ 5 โดยเกณฑ์การตดั สินการประเมนิ ได้กาหนดไว้ในแตล่ ะวทิ ยฐานะ ดังน้ี ตวั ช้ีวดั เกณฑ์การตดั สิน 1. ดา้ นการจดั การเรยี นการสอน ครูชานาญการ ครูชานาญการพิเศษ ครเู ชีย่ วชาญ ครูเชี่ยวชาญพิเศษ (8 ตวั ชี้วดั ) ทกุ ตัวช้ีวัดตอ้ งได้ ทกุ ตวั ช้ีวดั ต้องได้ ทุกตัวชี้วัดต้องได้ ทุกตัวชี้วัดต้องได้ 2. ดา้ นการบรหิ ารจัดการ ไมต่ า่ กวา่ ระดับ 2 ไม่ต่ากว่า ระดบั 3 ไมต่ า่ กวา่ ระดบั 4 ไม่ตา่ กว่า ระดบั 5 ชนั้ เรยี น (3 ตวั ชีว้ ดั ) ด้าน 2 และ 3 ดา้ น 2 และ 3 ด้าน 2 และ 3 ด้าน 2 และ 3 3. ดา้ นการพัฒนาตนเอง แต่ละดา้ น ทัง้ 2 ดา้ น ทง้ั 2 ด้าน ท้งั 2 ด้าน และพฒั นาวิชาชพี ตอ้ งได้ ตอ้ งไดไ้ ม่ต่ากว่า ตอ้ งได้ไม่ต่ากวา่ ต้องไดไ้ มต่ า่ กว่า (2 ตวั ชีว้ ดั ) ไมต่ ่ากวา่ ระดบั 2 ระดับ 3 ระดับ 4 ระดบั 2 และรวมกนั แล้ว และรวมกันแล้ว และรวมกันแล้ว ไม่น้อยกว่า ไมน่ อ้ ยกว่า ไม่นอ้ ยกวา่ ไมน่ ้อยกวา่ 1 ตัวช้ีวดั 3 ตวั ชวี้ ดั 3 ตัวชวี้ ดั 3 ตวั ชว้ี ดั 1.3 วธิ ีการประเมินผลงานท่เี กิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ให้ดาเนนิ การ ดงั น้ี 1.3.1 การประเมนิ ผลงานท่เี กิดจากการปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ รายปีการศกึ ษา 1.3.1.1 ให้ผู้อานวยการสถานศกึ ษาในฐานะผูบ้ ังคบั บัญชาเป็นผู้ประเมินผลงานที่เกิดจาก การปฏิบัติหนา้ ท่ี (3 ดา้ น 13 ตวั ช้วี ัด) 1.3.1.2 ให้ผู้อานวยการสถานศึกษาต้ังคณะกรรมการจากข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษาในสถานศึกษาหรือนอกสถานศึกษา เพื่อตรวจสอบและกลั่นกรองข้อมูล การประเมินตนเองของ ผูด้ ารงตาแหน่งครู และเอกสารหลกั ฐาน แหล่งขอ้ มูล ทแ่ี สดงร่องรอยวา่ ผู้ดารงตาแหน่งครเู ปน็ ผ้มู ผี ลงานทีเ่ กิดจาก การปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีจรงิ ในแบบบันทึกการประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี ตาแหน่งครู และแบบ วฐ.2 พร้อมทั้งเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของผู้อานวยการสถานศึกษาในการประเมินผลงานท่ีเกิดจาก การปฏบิ ัติหนา้ ทีใ่ นแตล่ ะปีการศกึ ษา 1.3.1.3 เม่ือส้ินปีการศึกษาให้พิจารณาผลการประเมินตนเองของผู้ดารงตาแหน่งครู ท้ัง 3 ด้าน 13 ตัวชี้วัด ตามแบบบันทึกการประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี ตาแหน่งครู และตามแบบ วฐ.2 อยา่ งตอ่ เนอื่ งทกุ ปกี ารศึกษา 1.3.1.4 การประเมินผลงานทีเ่ กดิ จากการปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ี ให้ใช้แบบบนั ทกึ การประเมนิ ผลงาน ท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี ตาแหน่งครู ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/0635 ลงวันที่ 10 ตุลาคม 2560 การประเมนิ ให้พจิ ารณาจากผลการปฏิบตั ิงานจริง โดยพิจารณาจากเอกสารหลักฐาน แหล่งข้อมูล ท่ีแสดงร่องรอยว่าผู้ดารงตาแหน่งครูเป็นผู้มีผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ในด้านการจัดการเรียนการสอน ด้านการบริหารจัดการชัน้ เรียน และดา้ นการพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ ทงั้ นี้ การประเมินอาจใช้วิธีการประเมิน ในรปู แบบอ่ืนท่เี หมาะสม เช่น การสังเกต การสมั ภาษณ์ หรือสอบถามข้อมูลจากผดู้ ารงตาแหนง่ ครู เพ่อื นรว่ มงาน ผรู้ บั บรกิ าร และผทู้ ี่เก่ียวข้องกอ่ นตัดสินใจประเมนิ ตามระดับคุณภาพที่เป็นจริง เมื่อประเมินได้ระดับคุณภาพใดแล้ว ให้นาไปกรอกลงในตารางสรปุ ผลการประเมนิ และให้นาผลการประเมินไปบันทึกลงในแบบรายงานผลงานที่เกิดจาก การปฏบิ ัติหนา้ ที่ ตาแหนง่ ครู รายปีการศกึ ษา (วฐ.2) 1.3.1.5 ให้สรุปผลการประเมินให้ผู้ดารงตาแหน่งครูทราบปีการศึกษาละ 1 ครั้ง หากผู้ดารงตาแหน่งครู ไม่เห็นด้วย ให้เปดิ โอกาสได้ปรึกษาและช้ีแจง หากผู้ประเมินพิจารณาแล้วเห็นว่าถูกต้อง
- 15 - ตรงตามความเป็นจริงแลว้ แตผ่ ้ดู ารงตาแหน่งครูมีความเห็นไมส่ อดคลอ้ งกบั ผู้ประเมิน ใหผ้ อู้ านวยการสถานศกึ ษา แจ้งไปยังสานักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษา เพือ่ แตง่ ตง้ั คณะกรรมการตรวจสอบผลการประเมิน และเมื่อได้ข้อยุติเป็น ประการใดใหถ้ ือเป็นอันส้ินสุด 1.3.1.6 กรณีการประเมินในปีการศึกษาใด หากผู้อานวยการสถานศึกษาไม่อาจประเมิน ผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดารงตาแหน่งครูด้วยเหตุใด ๆ ให้เสนอ กศจ. แต่งต้ังข้าราชการครู และบคุ ลากรทางการศึกษาในจงั หวดั นน้ั ท่ีมคี วามรู้ ความสามารถเหมาะสมเปน็ ผูป้ ระเมินแทน 1.3.2 การประเมนิ ผลงานที่เกดิ จากการปฏิบัตหิ น้าที่ 5 ปีการศกึ ษา 1.3.2.1 เมื่อผู้ดารงตาแหน่งครูย่ืนคาขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนเป็นวิทยฐานะใด ให้เสนอ คาขอตามแบบ วฐ.1 และผู้อานวยการสถานศึกษานาผลการประเมินรายปีการศึกษา (วฐ.2) มาบันทึกลงในแบบ สรปุ ผลการตรวจสอบและประเมิน (วฐ.3) 1.3.2.2 กรณีที่ผู้ดารงตาแหน่งครูย่ืนคาขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ ซ่ึงจะต้องมี การสรุปผลการประเมิน 5 ปีการศึกษาย้อนหลังติดต่อกัน หากผู้อานวยการสถานศึกษามีวิทยฐานะต่ากว่า วิทยฐานะท่ีขอ ให้ผู้อานวยการสถานศึกษาแจ้งสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา เพื่อเสนอ กศจ. พิจารณาแต่งต้ัง ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดน้ันท่ีมีวิทยฐานะไม่ต่ากว่าวิทยฐานะที่ขอเป็นผู้ร่วมประเมิน และสรปุ ผลการตรวจสอบและประเมนิ (วฐ.3) 1.4 คาอธิบายตัวชีว้ ัดการประเมินผลงานทเ่ี กิดจากการปฏิบัตหิ น้าท่ี การประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศกึ ษา ตาแหน่งครู มีวิทยฐานะและเลือ่ นวิทยฐานะ ตามหนงั สือสานักงาน ก.ค.ศ.ท่ี ศธ 0206.3/ว 21 ลงวันท่ี 5 กรกฎาคม 2560 กาหนดให้ผู้ขอมีวิทยฐานะครชู านาญการและเล่อื นเป็นวทิ ยฐานะครูชานาญการพิเศษ วิทยฐานะครเู ชี่ยวชาญและวทิ ยฐานะครูเชี่ยวชาญพิเศษ ต้องได้รับการประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ (3 ด้าน 13 ตัวช้ีวัด) ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.3/0635 ลงวันที่ 10 ตุลาคม 2560 โดยมีรายละเอียด คาอธิบายตัวชว้ี ดั การประเมินแตล่ ะดา้ น ดงั น้ี ดา้ นที่ 1 ดา้ นการจดั การเรียนการสอน หมายถึง การจัดทาหลักสูตรและหรือพัฒนาหลักสูตร เพ่ือพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี คนเก่ง มีปัญญา มีศักยภาพ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพตามมาตรฐาน ตัวชี้วดั สมรรถนะสาคญั และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรสถานศึกษา โดยจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการ รปู แบบทหี่ ลากหลาย และเหมาะสมเน้นผูเ้ รียนเป็นสาคญั ใหผ้ ู้เรยี นเกิดการเรยี นร้ดู ว้ ยวิธีการปฏิบัติ มีจานวน 8 ตัวชี้วัด มีรายละเอียด ดังน้ี ตัวชี้วัดท่ี 1.1 การสร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร หมายถึง การจัดทาและหรือพัฒนา หลกั สูตรรายวชิ าหรอื สาระการเรียนรทู้ ี่รับผิดชอบ โดยมีการวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดเพื่อจัดทา คาอธิบายรายวิชา หน่วยการเรียนรู้ รวมทั้งมีการประเมินความสอดคล้องกับมาตรฐานการเ รียนรู้และตัวชี้วัด หรือผลการเรียนรู้ ตัวช้ีวัดท่ี 1.2 การจัดการเรียนรู้ หมายถึง การจัดกิจกรรมเพ่ือพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ทักษะ คุณลักษณะตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด สมรรถนะสาคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญให้เรียนรู้ด้วยวิธีการปฏิบัติ ส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเอง ตามธรรมชาตแิ ละเตม็ ตามศักยภาพ โดยคานึงถงึ ความแตกต่างระหว่างบุคคล ประกอบดว้ ย 4 ตวั ช้ีวดั ยอ่ ย ดังนี้ ตัวชี้วัดท่ี 1.2.1 การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ หมายถึง การจัดทาและหรือพัฒนา หน่วยการเรียนรู้ ท่ีสอดคล้องกับคาอธิบายรายวิชา ธรรมชาติของสาระการเรียนรู้ เหมาะสมกับผู้เรียนบริบท ของสถานศึกษาและท้องถ่ิน มีกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยวิธีการปฏิบัติ โดยเลือกรูปแบบการจัดการเรียนรู้ สื่อ
- 16 - นวัตกรรม เทคโนโลยี แหล่งเรยี นรู้ และการวัดและประเมินผล เพื่อให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ บรรลตุ ามมาตรฐานการเรียนรู้ และประเมนิ ผลหนว่ ยการเรยี นรู้ ตวั ชี้วดั ท่ี 1.2.2 การจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้/แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP)/แผนการสอนรายบคุ คล (IIP)/แผนการจัดประสบการณ์ มีความหมาย ดงั นี้ จัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ หมายถึง การกาหนดแนวทางการจัดการเรียนรู้ ตามหน่วยการเรียนรู้เป็นการเตรียมการสอนหรือการกาหนดกิจกรรมการเรียนรู้ล่วงหน้าอย่างเป็นระบบ และเป็นลายลักษณอ์ ักษร จดั ทาแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบคุ คล (IEP) หมายถงึ การวิเคราะห์ ความต้องการ จาเป็นพเิ ศษทางการศกึ ษาหรอื การบาบดั ฟ้ืนฟูของแต่ละบคุ คล โดยอาศัยความรว่ มมอื จากผู้ปกครอง ครู ผู้บริหาร และสหวชิ าชีพ เพ่ือกาหนดแนวทางการจัดการเรยี นรทู้ ่ีสอดคล้องกับความต้องการจาเป็นพิเศษของแต่ละบุคคล ตลอดจนกาหนด สื่อ ส่ิงอานวยความสะดวก บริการ และความช่วยเหลืออ่ืนใดทางการศึกษาให้เฉพาะบุคคล อย่างเปน็ ระบบ และเปน็ ลายลกั ษณอ์ กั ษร จัดทาแผนการสอนรายบคุ คล (IIP) หมายถงึ การกาหนดแนวทางการจัดการเรียนรู้ หรอื การบาบัดฟนื้ ฟู เป็นการเตรียมการสอนหรือการกาหนดกิจกรรมการเรียนรู้หรือการบาบัดฟื้นฟูไว้ล่วงหน้า อยา่ งเปน็ ระบบ และเปน็ ลายลกั ษณอ์ กั ษร ตามแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) จัดทาแผนการจัดประสบการณ์ หมายถึง การกาหนดแนวทางการจัดประสบการณ์ เพือ่ สง่ เสริมพัฒนาการท่สี มดลุ ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา ผ่านกิจกรรม การเลน่ ทเ่ี หมาะสมกับวยั และความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคล ตัวชี้วัดท่ี 1.2.3 กลยุทธ์ในการจัดการเรียนรู้ หมายถึง วิธีการจัดการเรียนรู้ที่แยบยล โดยใช้เครอ่ื งมือ รูปแบบ เทคนิค และวธิ กี ารอย่างหลากหลายท่ีมีประสิทธภิ าพ บรรลุตามมาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชวี้ ดั ที่ 1.2.4 คุณภาพผเู้ รียน หมายถึง ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ทาให้ผู้เรียน มีความรู้ ทักษะ คุณลักษณะ ตามมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดของสาระการเรียนรู้ มีสมรรถนะสาคัญ และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคต์ ามหลกั สูตร ตัวชี้วัดที่ 1.3 การสร้างและการพัฒนา สื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศึกษา และแหล่งเรียนรู้ หมายถึง การเลือก คัดสรร ใช้ สร้างและพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศึกษา และแหล่งเรียนรู้ เพื่อนามาใช้ในการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียนสอดคล้องกับเน้ือหาสาระ มาตรฐาน การเรยี นรู้ ตวั ชี้วดั และจดุ ประสงค์การเรียนรู้ ตัวช้ีวัดท่ี 1.4 การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ หมายถึง กระบวนการที่ได้มาซ่ึงข้อมูล สารสนเทศที่เป็นผลจากการจัดการเรียนรู้ เพื่อปรับปรุง พัฒนา ตัดสินผลการเรียนรู้ ความก้าวหน้า และพัฒนาการของผู้เรียนท่ีสะท้อนระดับคุณภาพของผู้เรียน โดยใช้วิธีการ เครื่องมือวัดและประเมินผล ทห่ี ลากหลาย เหมาะสมและสอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ชวี้ ัด และจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ตัวชี้วัดที่ 1.5 การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ หมายถึง กระบวนการแก้ปัญหาหรือพัฒนา การจัดการเรยี นร้อู ยา่ งเปน็ ระบบที่สง่ ผลต่อคณุ ภาพผู้เรยี นได้เต็มตามศักยภาพ ด้านที่ 2 ด้านการบริหารจัดการชั้นเรียน หมายถึง การจัดกิจกรรมส่ิงอานวยความสะดวก จัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม ทีส่ ่งเสริม สนบั สนุน และช่วยเหลอื ผเู้ รยี นให้เกิดการเรียนรอู้ ยา่ งมคี วามสุข และเปน็ ผู้เสริมแรง ช้ีแนะแนวทางให้ผู้เรียนศึกษาแสวงหาความรู้ คิดวิเคราะห์ ปฏิบัติ และค้นพบคาตอบด้วยตนเอง มจี านวน 3 ตวั ชี้วัด ดงั น้ี
- 17 - ตัวช้ีวดั ท่ี 2.1 การบริหารจัดการช้ันเรียน หมายถึง การจัดสภาพแวดล้อม บรรยากาศ ในชั้นเรียน ท่ีส่งเสริมและเอื้อต่อการเรียนรู้ กระตุ้นความสนใจใฝ่รู้ ใฝ่ศึกษา ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้เรียน เกดิ กระบวนการคิด ทกั ษะชีวิต ทกั ษะการทางาน และคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ค่านิยมท่ีดีงาม ปลูกฝัง ความเป็นประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมขุ สร้างแรงบันดาลใจ และเสริมแรงให้ผู้เรียน มีความม่นั ใจในการพัฒนาตนเองเต็มตามศกั ยภาพ มีความสขุ และมีความปลอดภยั ตัวชวี้ ดั ท่ี 2.2 การจดั ระบบดูแลชว่ ยเหลือผู้เรียน หมายถึง การดาเนินการดูแลช่วยเหลือ ผเู้ รยี นอย่างเปน็ ระบบ โดยการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ สังเคราะห์ จัดทาและใช้สารสนเทศของผู้เรียน จัดทาโครงการ และกจิ กรรมเชงิ สรา้ งสรรค์ด้วยวิธีการทหี่ ลากหลาย เพื่อสง่ เสรมิ ป้องกนั และแก้ปญั หาของผเู้ รียนรายบุคคล ตัวช้ีวัดที่ 2.3 การจัดทาข้อมูลสารสนเทศ และเอกสารประจาช้ันเรียนหรือประจาวิชา หมายถึง การดาเนนิ การรวบรวมข้อมูลของผู้เรียนในทุกด้านท่ีผ่านการวิเคราะห์ สังเคราะห์ อย่างเป็นระบบมีความถูกต้อง และเป็นปจั จบุ นั เพอ่ื เปน็ สารสนเทศในการเสริมสร้างและพัฒนาผเู้ รียนประจาชนั้ หรือประจาวิชาทีร่ บั ผดิ ชอบ ด้านที่ 3 ด้านการพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ หมายถึง กระบวนการพัฒนาสมรรถนะ และวิชาชีพครู โดยมแี ผนการพัฒนาตนเอง และดาเนินการพัฒนาตนเองตามแผนอย่างเป็นระบบสอดคล้องกับ สภาพการปฏิบัติงานความต้องการจาเป็น องค์ความรู้ใหม่ นโยบาย แผนกลยุทธ์ของหน่วยงานการศึกษา หรือส่วนราชการต้นสงั กดั มกี ารแลกเปลย่ี นเรยี นรรู้ ว่ มกนั ในระดบั สถานศกึ ษา หรือระดับเครือขา่ ย หรือระดับชาติ และแสดงบทบาทในชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) ด้วยความสัมพันธ์ แบบกัลยาณมิตรที่มีวิสัยทัศน์ คุณค่า เป้าหมายและภารกิจร่วมกัน ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียน เพ่ือให้เกิดเป็น วฒั นธรรมองค์กร และสร้างนวัตกรรมจากการเข้ารว่ มในชุมชนแหง่ การเรยี นรู้ทางวชิ าชีพ มีจานวน 2 ตัวช้วี ัด ดงั นี้ ตัวชวี้ ัดที่ 3.1 การพฒั นาตนเอง หมายถึง กระบวนการพัฒนาสมรรถนะของครูรายบุคคล โดยมีแผนการพัฒนาตนเองและดาเนินการตามแผนอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องสอดคลอ้ งกบั สภาพการปฏบิ ตั ิงาน ความต้องการจาเปน็ องค์ความรใู้ หม่ หรือตามนโยบาย หรอื แผนกลยทุ ธข์ องหน่วยงานการศกึ ษาหรือส่วนราชการ ต้นสังกัด โดยนาความรู้ ความสามารถ ทักษะ ท่ีได้จากการพัฒนาตนเองมาพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ ทสี่ ่งผลต่อคณุ ภาพผู้เรียน ตวั ชี้วดั ท่ี 3.2 การพัฒนาวิชาชีพ หมายถึง กระบวนการพัฒนาวิชาชีพครู โดยการมีส่วน รว่ มแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ร่วมกันในระดับสถานศกึ ษา หรือระดับเครือข่าย หรือระดับชาติ และแสดงบทบาทในชุมชน แห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) ด้วยความสัมพันธ์แบบกัลยาณมิตร มีวิสัยทัศน์ คุณคา่ เป้าหมายและภารกิจร่วมกัน เพื่อให้เกิดเปน็ วัฒนธรรมองค์กร และสร้างนวัตกรรมจากการเข้า ร่วมในชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ โดยนาความรู้ ความสามารถ ทักษะ ท่ีได้จากการพัฒนาวิชาชีพมาพัฒนา นวตั กรรมการจัดการเรยี นรทู้ ่ีส่งผลตอ่ คุณภาพผู้เรยี น 1.5 นยิ ามศพั ทท์ สี่ าคัญ ครพู ีเ่ ลี้ยง หมายถึง ข้าราชการครทู ไ่ี ด้รบั มอบหมายให้เปน็ ผู้ดแู ล ให้คาปรึกษา แนะนา ช่วยเหลือ ครูที่มีประสบการณ์น้อยกว่าได้หลากหลายรูปแบบ เพ่ือให้มีความรู้ ทักษะ และความเป็นครู ที่มีคุณภาพสูง เหมาะสมกับวิทยฐานะท่ีขอรบั การประเมนิ ครูท่ปี รึกษา หมายถึง ข้าราชการครูท่มี คี วามรู้ และทกั ษะความเป็นครู เปน็ ท่ยี อมรับ ในวงวิชาชีพ สามารถให้คาปรกึ ษา แนะนา ช่วยเหลอื ครทู ี่มีประสบการณ์นอ้ ยกว่าได้หลากหลายรูปแบบ เพ่ือให้ผู้ท่ีมาปรึกษา ได้มีความรแู้ ละทกั ษะความเป็นครทู ี่มคี ุณภาพสงู เหมาะสมกับวทิ ยฐานะทขี่ อรบั การประเมิน
- 18 - ผู้นาดา้ นการพฒั นาหรือสร้างหลักสตู ร หมายถงึ ครูที่มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ในการพัฒนา หลักสตู รที่มอี ยู่เดิมใหเ้ หมาะสมกบั ผ้เู รียนและบรบิ ทของสถานศึกษา นาไปจัดการเรยี นรไู้ ด้ผลดหี รอื สร้างหลกั สตู ร 2. การประเมินผลงานทางวิชาการ ก.ค.ศ. กาหนดให้การประเมินวิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญและวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญพิเศษ ตอ้ งเสนอผลงานทางวิชาการ ดงั นี้ วิทยฐานะครูเช่ียวชาญ ต้องมีผลงานทางวิชาการ ซึ่งเป็นงานวิจัยในช้ันเรียน หรือรายงานผล การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ท่ีเกิดจากชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ หรือผลงานทางวิชาการในลักษณะอื่น ท่ีมีจุดมุ่งหมายในการแก้ปัญหาด้านการเรียนรู้ของผู้เรียนและสอด คล้องกับแผนการจัดการเรียนรู้ มีการศึกษาแนวคดิ ทฤษฎี และองค์ความรูต้ ่าง ๆ เพ่ือแก้ปญั หาและนาไปสู่การสรุปองค์ความรเู้ พ่อื พัฒนาคณุ ภาพ ของผู้เรยี น จานวนไม่นอ้ ยกว่า 2 รายการ โดยต้องเปน็ งานวิจัยในชัน้ เรียน อยา่ งนอ้ ย 1 รายการ วทิ ยฐานะครเู ชยี่ วชาญพิเศษ ต้องมีผลงานทางวชิ าการ ซ่ึงเป็นงานวิจยั เก่ียวกบั การจัดการเรยี น การสอน หรือรายงานผลการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ท่ีเกิดจากชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ หรือผลงาน ทางวิชาการในลักษณะอื่น ที่มีจุดมุ่งหมายในการแก้ปัญหาด้านการเรียนรู้ของผู้เรียน และสอดคล้องกับ แผนการจัดการเรียนรู้ มีการศึกษาแนวคิด ทฤษฎีและองค์ความรู้ต่าง ๆ เพื่อแก้ปัญหา และนาไปสู่การสรุป องค์ความรู้เพ่ือพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน จานวนไม่น้อยกว่า 2 รายการ โดยต้องเป็นงานวิจัยเก่ียวกับการจัด การเรยี นการสอน อย่างน้อย 1 รายการ ท้ังน้ี ผลงานทางวิชาการที่ผู้ขอเสนอ ต้องเป็นผลงานในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง 5 ปี นับถึงวันท่ีย่ืนคาขอ และต้องไม่เป็นผลงานทางวิชาการท่ีใช้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาเพ่ือรับปริญญา หรือประกาศนียบัตรใด ๆ หรือเป็นผลงานทางวิชาการท่ีเคยใช้เพ่ือเลื่อนตาแหน่งหรือเพื่อให้มีวิทยฐานะ หรอื เลือ่ นวทิ ยฐานะมาแลว้ ความหมายของผลงานทางวิชาการ ผลงานทางวชิ าการของสายงานการสอน หมายถึง รายงานการศึกษา ค้นคว้า หรือผลการวิจัย ในช้ันเรียน หรือผลการวจิ ัยเกย่ี วกับการจัดการเรยี นการสอน หรือรายงานผลการพัฒนา การจัดการเรียนรู้ท่ีเกิดจาก ชมุ ชนการเรยี นรูท้ างวิชาชีพ หรือผลงานทางวิชาการในลักษณะอ่ืนที่มีจุดมุ่งหมายในการแก้ปัญหาด้านการเรียน ของผู้เรียนและสอดคล้องกับแผนการจัดการเรียนรู้มีการศึกษาแนวคิด ทฤษฎี และองค์ความรู้ต่างๆ เพ่ือแก้ไข ปัญหาและนาไปสู่การสรปุ องค์ความรู้ เพ่อื พฒั นาคณุ ภาพของผูเ้ รยี น โดยมลี กั ษณะดังน้ี 1. ตรงกับสาขาวิชาทข่ี อเลือ่ นวทิ ยฐานะ 2. เป็นผลงานที่เก่ียวกับการพัฒนาการเรียนการสอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้หรือสาขาวิชาต่าง ๆ และใชป้ ระโยชนใ์ นการเรยี นการสอน 3. เกิดจากการปฏิบัติงานตามหนา้ ท่ีความรับผิดชอบทางด้านการสอน 4. เปน็ ผลงานในชว่ งระยะเวลา 5 ปี นบั ถงึ วันที่ยื่นคาขอ 5. ต้องไม่เป็นผลงานทางวิชาการท่ีใช้เป็นส่วนหน่ึงของการศึกษาเพ่ือรับปริญญา หรือ ประกาศนียบัตรใด ๆ หรือเป็นผลงานทางวิชาการที่ใช้เพ่ือเล่ือนตาแหน่งหรือเพื่อให้มีวิทยฐานะหรือเลื่อน วทิ ยฐานะมาแลว้ 6.กรณีผลงานทางวิชาการท่ีร่วมจัดทากับผู้อ่ืนในรูปคณะทางานหรือกลุ่ม ให้ช้ีแจง ให้ชัดเจนว่าผู้ขอรบั การประเมิน มีส่วนร่วมในการจัดทาในส่วนใด ตอนใด หน้าใดบ้าง คิดเป็นร้อยละเท่าไรของ ผลงานทางวชิ าการแต่ละเล่ม และให้ผู้รว่ มจัดทาทกุ คนรับรองพรอ้ มทงั้ ระบวุ ่าผูร้ ่วมจดั ทาแตล่ ะรายไดท้ าส่วนใดบ้าง
- 19 - ประเภทผลงานทางวชิ าการ ผลงานวิจัยในชั้นเรียน หมายถึง รายงานการแก้ปัญหาหรือการพัฒนาท่ีมีกระบวนการ วเิ คราะห์ปัญหาหรือความต้องการ ในการจัดการเรียนรู้ มีการศึกษาออกแบบเพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนาวิธีการ แนวทางการจัดการเรียนรู้ สื่อ นวัตกรรม และเทคโนโลยีทางการศึกษา โดยนาไปใช้ปฏิบัติจัดการเรียนรู้จริง และมีการประเมินผล ซงึ่ ปรากฏว่าแกป้ ญั หาหรือสนองความต้องการท่ีจะพัฒนาการเรียนรขู้ องผเู้ รยี นได้ รายงานผลการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ท่ีเกิดจากชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ หมายถึง รายงานเพ่ือแก้ปัญหาการจัดการเรียนรู้ที่ใช้วิธีการจัดการเรียนรู้ สื่อ นวัตกรรม และเทคโนโลยีทางการศึกษา ท่ไี ดจ้ ากชุมชนการเรียนร้ทู างวิชาชีพ ซ่ึงดาเนินการอยา่ งเปน็ ระบบ และได้ปฏบิ ัติการจดั การเรียนรจู้ รงิ มีผลสาเร็จ ในการแกป้ ญั หานัน้ การวิจัยเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอน หมายถึง รายงานการวิจัยเพื่อแก้ปัญหา การจดั การเรียนรู้ การสรา้ งส่อื นวัตกรรม และเทคโนโลยีทางการศึกษา เทคนิควิธีการจัดการเรียนรู้ วิธีการและ เคร่อื งมือทใี่ ช้วัดและประเมนิ ผล โดยมีการศกึ ษาค้นคว้าและดาเนนิ การวิจัย อย่างเป็นระบบ การวิเคราะห์ข้อมูล ถูกตอ้ ง มกี ารสรปุ ผลและเสนอแนะทเี่ ป็นประโยชนต์ ่อการจัดการศกึ ษา ผลงานทางวิชาการในลักษณะอ่นื ทมี่ ีจุดมงุ่ หมายในการแก้ปญั หาด้านการเรียนรขู้ องผเู้ รยี น และสอดคล้องกับแผนการจดั การเรียนรู้ เชน่ 1. การประเมินงาน หรือการประเมนิ โครงการที่เกีย่ วกบั การจดั การเรียนการสอน 2. ส่อื นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา เช่น ผลงานด้านการจัดทาสื่อการเรียน การสอน ผลงานด้านการคิดพัฒนารูปแบบนวัตกรรมที่นามาใช้ในการปฏิบัติงานทาให้เกิดประสิทธิภาพสูงข้ึน ซึ่งอาจจัดทาเป็นเอกสาร หรือส่ืออิเล็กทรอนิกส์ หรือสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ รวมท้ังเทคนิค วิธีการจัดการ เรียนรู้ อนั เป็นประโยชนต์ ่อการพัฒนาการจดั การเรียนการสอนและการพฒั นาคุณภาพการศึกษา องคป์ ระกอบการประเมินผลงานทางวิชาการ มีดงั น้ี 1. ด้านคุณภาพของผลงานทางวิชาการ 1.1 ความถกู ต้องตามหลกั วิชาการ ผลงานทางวิชาการต้องมีความถูกต้องตามหลักวิชาการและรูปแบบของผลงาน ประเภทนั้น ๆ เชน่ งานวิจยั ในช้ันเรียนหรืองานวิจัยเก่ียวกับการจัดการเรียนการสอน จัดทาถูกต้องตามวิธีการ รูปแบบและระเบียบวิธีวิจัย รายงานผลการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ที่เกิดจากชุมชนการเรียนรู้ทางวิ ชาชีพ จัดทาถูกต้องตามวิธีการและรูปแบบของการจัดการเรียนรู้ที่เกิดจากชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ รายงาน การประเมินโครงการจัดทาถูกต้องตามวิธีการและรูปแบบของการประเมินโครงการ หรือ รายงานการพัฒนา นวตั กรรมจัดทาถูกต้องตามวิธกี ารและรูปแบบของการพฒั นานวัตกรรม เปน็ ตน้ 1.2 ความสมบูรณ์ของเน้ือหาสาระ ผลงานทางวิชาการต้องมีเนื้อหาสาระสมบูรณ์ ครบถ้วนถูกต้องตามหลักวิชาการ ทนั สมัย มกี ารคน้ ควา้ อ้างองิ ถูกตอ้ งเชื่อถอื ได้ การเรียบเรยี งถกู ตอ้ งตามหลกั ภาษา และจัดหวั ขอ้ เปน็ ระบบเดยี วกัน ฯลฯ 1.3 ความคิดรเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ ผลงานทางวิชาการต้องแสดงใหเ้ ห็นถึงการคิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์ พัฒนาและประยุกต์ใช้ หรอื สรา้ งองคค์ วามรู้ใหม่ โดยไมค่ ัดลอกหรือลอกเลียนผลงานทางวชิ าการของผอู้ ่นื โดยมชิ อบ
- 20 - 1.4 การจัดทา การพมิ พแ์ ละรปู เล่ม ผลงานทางวิชาการตอ้ งมีการจดั ทาอยา่ งประณีต การพิมพ์ถูกต้องตามหลักวิชาการ และสวยงาม เช่น การพมิ พ์หัวข้อ การย่อหนา้ การพมิ พ์ตาราง การพิมพเ์ ชงิ อรรถ บรรณานุกรม การจัดทารูปเล่ม ถูกต้อง มีปกหนา้ ปกใน คานา สารบญั เนื้อหา บรรณานุกรม ภาคผนวก ปกหลงั เป็นตน้ 2. ดา้ นประโยชนข์ องผลงานทางวชิ าการ 2.1ประโยชน์ต่อผู้เรียน ครู บุคลากรทางการศึกษา การจัดการเรียนการสอน หนว่ ยงานการศกึ ษา และชมุ ชน พิจารณาจากผลท่ีปรากฏต่อผู้เรียน ครู บุคลากรทางการศึกษา การจัดการเรียน การสอน หนว่ ยงานการศกึ ษา และชุมชน อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพและประสิทธผิ ล 2.2 ประโยชน์ตอ่ ความกา้ วหน้าทางวชิ าการและการเผยแพร่ในวงวชิ าการ พจิ ารณาจากประโยชน์ต่อความก้าวหน้าทางวิชาการหรือวิชาชีพ สามารถเป็นแบบอย่าง ใช้เป็นแหล่งอ้างอิง หรือเป็นแบบในการปฏิบัติได้เป็นอย่างดี มีการนาผลงานไปเผยแพร่ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น จดั พิมพใ์ นรายงานประจาปี เอกสาร วารสาร การนาเสนอต่อที่ประชุม สัมมนา การจัดนิทรรศการ การเผยแพร่ ทางวิทยุ โทรทศั น์ เทคโนโลยีสารสนเทศ เปน็ ต้น เกณฑก์ ารตดั สนิ ผลงานทางวชิ าการ (100 คะแนน) รายการประเมิน คะแนนเตม็ เกณฑ์การตัดสนิ ผลงานทางวชิ าการ 50 วิทยฐานะ (20) 1. คุณภาพของผลงานทางวชิ าการ (15) ครูเชี่ยวชาญ (10) 1.1 ความถกู ตอ้ งตามหลกั วชิ าการ (5) ผลงานทางวิชาการ 1.2 ความสมบรู ณ์ของเนอื้ หาสาระ 50 ต้องได้คะแนนจาก 1.3 ความริเรมิ่ สรา้ งสรรค์ (30) กรรมการแต่ละคน 1.4 การจดั ทา การพมิ พ์และรปู เลม่ ไม่ต่ากวา่ ร้อยละ 75 2. ประโยชนข์ องผลงานทางวิชาการ (20) วทิ ยฐานะ 2.1 ประโยชน์ตอ่ ผู้เรยี น ครู บุคลากรทางการศกึ ษา 100 ครเู ชย่ี วชาญพิเศษ การจัดการเรยี นการสอน หนว่ ยงานการศกึ ษาและ ผลงานทางวชิ าการ ชมุ ชน ตอ้ งไดค้ ะแนนจาก 2.2 ประโยชน์ตอ่ ความก้าวหน้าทางวชิ าการและ กรรมการแตล่ ะคน ไม่ตา่ กว่ารอ้ ยละ 80 เผยแพรใ่ นวงวิชาการ รวมคะแนนผลงานทางวิชาการ
- 21 - บทท่ี 4 ขน้ั ตอนการดาเนนิ การขอมวี ทิ ยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ สาหรบั ผดู้ ารงตาแหนง่ ครู ก.ค.ศ. กาหนดหลกั เกณฑ์และวิธกี ารให้ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ตาแหน่งครู มีวิทยฐานะ และเลอ่ื นวิทยฐานะ โดยมีเจตนารมณ์เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ดารง ตาแหน่งครู ได้มีการสั่งสมความชานาญและมีความเชี่ยวชาญในการจัดการเรียนการสอน มี การพัฒนาตนเอง อย่างตอ่ เน่อื ง และสง่ เสริมใหค้ รูประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างท่ีดี มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ วิชาชีพ ซ่ึงสานักงาน ก.ค.ศ. ได้แจ้งให้ส่วนราชการเพื่อทราบและถือปฏิบัติ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 21 ลงวนั ท่ี 5 กรกฎาคม 2560 โดยสรปุ ข้นั ตอนการดาเนินการตามแผนภาพ ดงั นี้ จากแ ผนภ าพ ดัง กล่าวจะ เห็ นว่ า ในการข อมีวิ ทย ฐ านะห รื อเ ลื่อนวิท ยฐ านะ ของผู้ ด าร งต าแห น่ง ค รู ต้อง ได้ รั บการ ป ร ะ เมิ นผ ล ง านที่ เ กิ ด จากการ ป ฏิบั ติ ห น้ าท่ี เป็ นร าย ปีการ ศึ กษา แ ล ะ ใ นบ าง วิ ท ย ฐานะ ต้ อง มี การประเมินผลงานทางวิชาการด้วย ดังน้ัน เพื่อให้เกิดความเข้าใจท่ีชัดเจน จึงขอกล่าวถึงขั้นตอนการดาเนินการ และบทบาท หนา้ ทข่ี องผู้เกี่ยวข้อง ดงั น้ี ข้ันตอนที่ 1 การดาเนินการในระดับสถานศกึ ษา
- 22 - 1. ผ้ดู ารงตาแหน่งครู ในแต่ละปีการศกึ ษาผู้ดารงตาแหนง่ ครู มีบทบาทหนา้ ท่ี ดงั น้ี 1.1 ปฏิบัติงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบตามมาตรฐานตาแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะ ที่ ก.ค.ศ. กาหนด 1.2 มชี ว่ั โมงการปฏบิ ัตงิ าน 1.2.1 ผู้ดารงตาแหน่งครู ที่จะขอมีวิทยฐานะครูชานาญการหรือขอเล่ือนเป็นวิทยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ ต้องมีชั่วโมงการปฏิบัติงานในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 800 ชั่วโมง โดยช่ัวโมงการปฏิบัติงาน ตอ้ งมชี ั่วโมงการมีสว่ นร่วมในชุมชนการเรียนรทู้ างวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) ไม่น้อยกว่า 50 ชว่ั โมง และตอ้ งมีชั่วโมงสอนขน้ั ตา่ ตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด 1.2.2 ผู้ดารงตาแหน่งครู ที่จะขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญหรือวิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญพิเศษ ต้องมีช่ัวโมงการปฏิบัติงานในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 900 ชั่วโมง โดยช่ัวโมงการปฏิบัติงาน ต้องมีช่วั โมงการมสี ว่ นร่วมในชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชพี (Professional Learning Community : PLC) ไมน่ ้อยกวา่ 50 ชัว่ โมง และตอ้ งมีช่วั โมงสอนขั้นตา่ ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด 1.3 ประพฤติตนอยู่ในวินยั คณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชพี 1.4 มีการพฒั นาตนเองตามหลกั เกณฑ์และวิธีการท่ี ก.ค.ศ. กาหนด โดยพัฒนาอย่างต่อเนื่องทุกปี แตล่ ะปีไมน่ อ้ ยกว่า 12 ชัว่ โมง แต่ไม่เกิน 20 ช่วั โมง 1.5 ประเมินผลงานของตนเอง ที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ สายงานการสอน 3 ด้าน คือ ด้านการจัดการเรียนการสอน ด้านการบริหารจัดการชั้นเรียน และด้านการพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ โดยมีตัวชี้วัด รวม 13 ตัวชี้วัด และบันทึกผลการประเมินลงในแบบรายงานผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี ตาแหนง่ ครู รายปีการศกึ ษา (วฐ.2) และเสนอผูอ้ านวยการสถานศกึ ษาพจิ ารณา 1.6 บันทึกข้อมูลลงในประวัติการปฏิบัติงาน (Logbook) โดยมีรายละเอียดตามคู่มือบันทึก ประวตั กิ ารปฏบิ ัตงิ าน 1.7 ผ้ดู ารงตาแหน่งครู ที่จะขอเลือ่ นเป็นวิทยฐานะครเู ชยี่ วชาญหรอื วิทยฐานะครูเชยี่ วชาญพิเศษ ต้องจัดทาผลงานทางวิชาการไม่น้อยกว่า 2 รายการ โดยวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญต้องเป็นงานวิจัยในช้ันเรียน อย่างน้อย 1 รายการ และ วิทยฐานะครูเช่ียวชาญพิเศษต้องเป็นงานวิจัยเก่ียวกับการจัดการเรียนการสอน อย่างน้อย 1 รายการ 2. ผอู้ านวยการสถานศึกษาหรือผู้ประเมนิ ในแตล่ ะปกี ารศึกษาผูอ้ านวยการสถานศึกษาหรอื ผูป้ ระเมิน มีบทบาทหนา้ ที่ ดงั นี้ 2.1 ประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ 3 ด้าน 13 ตัวชี้วัด ของผู้ดารงตาแหน่งครู ภาคเรยี นละ 1 คร้ัง โดยในการประเมินภาคเรียนที่ 1 เป็นการประเมินเพอ่ื ให้คาแนะนาและพฒั นา 2.2 ประเมนิ ผลงานทีเ่ กดิ จากการปฏิบัติหน้าที่ 3 ด้าน 13 ตัวชี้วัด ในภาพรวมทั้งปี เมื่อสิ้นภาคเรียนที่ 2 โดยตั้งคณะกรรมการจากข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาน้ัน หรือนอกสถานศึกษา ตามความเหมาะสม เพ่ือตรวจสอบและกล่ันกรองข้อมูลผู้ดารงตาแหน่งครู รายงานและเสนอความเห็น เพือ่ ประกอบการพิจารณาประเมินผลงานท่ีเกดิ จากการปฏิบตั หิ นา้ ทใ่ี นแตล่ ะปีการศกึ ษา กรณีการประเมินในปีการศึกษาใด หากผู้อานวยการสถานศึกษาไม่อาจประเมินผลงาน ท่ีเกิดจากการปฏิบัตหิ นา้ ทข่ี องผ้ดู ารงตาแหน่งครูดว้ ยเหตุใด ๆ ให้เสนอ กศจ. แต่งต้ังข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศกึ ษาในจังหวัดน้ันท่มี คี วามรู้ ความสามารถเหมาะสมเปน็ ผปู้ ระเมนิ ผลงานที่เกิดจากการปฏิบตั หิ น้าทแี่ ทน ผู้อานวยการสถานศกึ ษา
- 23 - 2.3 บันทึกผลการประเมินในแบบรายงานผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ตาแหน่งครู (รายปกี ารศกึ ษา) ตามแบบ วฐ.2 และสรุปผลการประเมินระดับคุณภาพรายตัวชี้วัด ทั้งนี้ หากมีผลการประเมิน ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ท่ีกาหนดให้ระบุเหตุผลประกอบการประเมินตามตัวชี้วัด พร้อมให้คาแนะนา ในการพัฒนางานนน้ั ดว้ ย โดยผู้ดารงตาแหน่งครู และผู้อานวยการสถานศึกษาหรือผู้ประเมิน ต้องเก็บหลักฐาน ผลการประเมนิ ผลงานทเี่ กดิ จากการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ ตามแบบ วฐ.2 ไว้ คนละ 1 ชดุ 2.4 สรุปผลการประเมินให้ผูด้ ารงตาแหน่งครู ทราบ ปีการศึกษาละ 1 ครั้ง กรณีที่ผู้ดารง ตาแหน่งครู ไม่เห็นด้วยกบั ผลการประเมนิ นน้ั ให้เปิดโอกาสให้ไดป้ รกึ ษาและชแี้ จง หากผู้อานวยการสถานศึกษา หรือผู้ประเมินพิจารณาแล้วเห็นว่าผลการประเมินถูกต้องตรงตามความเป็นจริงแล้ว แต่ผู้ดารงตาแหน่งครู ยังมีความเห็นไม่สอดคล้องกับผู้อานวยการสถานศึกษาหรือผู้ประเมินอีก ให้สถานศึกษาแจ้งไปยังสานักงาน เขตพื้นท่ีการศึกษา เพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบผลการประเมินของปีการศึกษาน้ัน และเม่ือได้ข้อยุติ เป็นประการใดใหถ้ อื เป็นอนั ส้นิ สดุ 3. คณะกรรมการตรวจสอบและกลนั่ กรองขอ้ มลู การดาเนินการของคณะกรรมการตรวจสอบและกล่ันกรองข้อมูลในแต่ละปีการศึกษา ให้ดาเนินการ ตรวจสอบและกลัน่ กรองขอ้ มูล ชัว่ โมงการปฏิบัติงาน การพัฒนา ผลการประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี 3 ดา้ น ไดแ้ ก่ ด้านการจัดการเรยี นการสอน ด้านการบริหารจัดการชัน้ เรยี น และด้านการพฒั นาตนเองและพัฒนา วิชาชีพ รวม 13 ตัวชี้วัด พร้อมเสนอความเห็นต่อผู้อานวยการสถานศึกษาหรือผู้ประเมิน เพ่ือประกอบ การพิจารณาตอ่ ไป 4. การเสนอคาขอมวี ทิ ยฐานะและเลือ่ นวทิ ยฐานะ และการประเมนิ 4.1 ผดู้ ารงตาแหน่งครทู ่ปี ระสงคจ์ ะขอมีวทิ ยฐานะหรือเลอื่ นวทิ ยฐานะ ให้ดาเนนิ การ ดงั นี้ 4.1.1 ตรวจสอบคณุ สมบตั ิของตนเองใหเ้ ปน็ ไปตามหลกั เกณฑท์ ี่ ก.ค.ศ.กาหนด 4.1.1.1 มีระยะเวลาการดารงตาแหน่งหรือวิทยฐานะปัจจุบัน ไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันที่ ย่ืนคาขอ 800 ช่ัวโมง 4.1.1.2 มชี ว่ั โมงการปฏิบัตงิ านสาหรับวิทยฐานะที่จะขอมีวทิ ยฐานะหรือเลอ่ื นวทิ ยฐานะดังน้ี วิทยฐานะครูชานาญการและวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ไม่น้อยกว่า ตอ่ ปี วิทยฐานะ ครูเช่ียวชาญและวิท ยฐานะครูเช่ียวชา ญพิเศษ ไม่น้อยกว่ า 900 ช่ัวโมงต่อปี โดยจานวนชวั่ โมงการปฏบิ ตั งิ านดังกลา่ ว ต้องมีช่ัวโมงการมีส่วนร่วมในชุมชน การเรยี นรูท้ างวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) ในแตล่ ะปี ไม่นอ้ ยกว่า 50 ชัว่ โมง และต้องมี ชว่ั โมงสอนขัน้ ต่าตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด สาหรบั ผ้ขู อเลื่อนเปน็ วทิ ยฐานะครเู ชยี่ วชาญและวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญพิเศษ การเสนอผลงานทางวชิ าการในวิชา/สาขา/กลมุ่ สาระการเรียนรู้ใด ในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง 5 ปี ผู้ขอจะต้องมี ชั่วโมงสอนในวิชา/สาขา/กล่มุ สาระการเรียนรู้ ทีเ่ สนอผลงานทางวชิ าการนนั้ ดว้ ย 4.1.1.3 ไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ ภายในระยะเวลา 5 ปี นับถงึ วนั ท่ียน่ื คาขอ 4.1.1.4 ผ่านการพฒั นาตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารที่ ก.ค.ศ. กาหนดแล้ว โดยเข้ารับ การพัฒนาจานวนไม่นอ้ ยกว่า 12 ช่วั โมง แตไ่ ม่เกิน 20 ช่ัวโมงต่อปี รวมภายในระยะเวลา 5 ปี จานวน 100 ชั่วโมง กรณีมชี ่วั โมงการพัฒนาไม่ครบ 100 ชวั่ โมง ให้นาช่วั โมงการมสี ่วนร่วมในชุมชนการเรียนรูท้ างวชิ าชีพ (Professional Learning Community : PLC) สว่ นทีเ่ กินจาก 50 ช่ัวโมงในแต่ละปมี านับรวมได้
- 24 - 4.1.1.5 มีผลการประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ผ่านเกณฑ์ ไม่น้อยกว่า 3 ปีการศึกษา ในชว่ งระยะเวลายอ้ นหลงั 5 ปีการศึกษาติดตอ่ กัน นบั ถึงวันสนิ้ ปกี ารศกึ ษากอ่ นวนั ทย่ี ื่นคาขอ โดยให้ผู้ขอและผู้อานวยการสถานศึกษารับรองข้อมูล เอกสาร และหลักฐานเกี่ยวกับ คุณสมบตั ดิ ้วย 4.1.2 ย่ืนคาขอมวี ทิ ยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะต่อสถานศึกษาได้ตลอดปี รอบปีละ 1 ครั้ง พรอ้ มเอกสารหลกั ฐานเพ่ือประกอบการพจิ ารณา ดังน้ี 4.1.2.1 วิทยฐานะครูชานาญการและวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ให้ย่ืนเอกสาร จานวน 2 ชุด ดังน้ี 1) คาขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ตาแหน่งครู ตามแบบคาขอ มวี ิทยฐานะหรอื เลอ่ื นวทิ ยฐานะ ตาแหนง่ ครู (วฐ.1) 2) ผลงานทเ่ี กดิ จากการปฏบิ ตั หิ น้าที่ รายปีการศกึ ษา จานวน 5 ปกี ารศึกษา ตามแบบ วฐ.2 3) บันทึกประวัติการปฏิบัติงาน (Logbook) โดยมีชั่วโมงการปฏิบัติงาน ช่ัวโมงการอบรมและพฒั นา และผ่านการรับรองจากผอู้ านวยการสถานศึกษา พร้อมแนบไฟล์ 4) เอกสารหลักฐานอื่นท่ีเกี่ยวข้อง เช่น ตารางสอน คาสั่งมอบหมายงาน วฒุ บิ ัตรผ่านการพัฒนา เป็นต้น 4.1.2.2 วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญและวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญพิเศษ ให้ยื่นเอกสาร จานวน 4 ชุด ดงั นี้ 1) คาขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ ตาแหน่งครู ตามแบบคาขอมี วิทยฐานะหรือเลอื่ นวทิ ยฐานะ ตาแหนง่ ครู (วฐ.1) 2) ผลงานทีเ่ กดิ จากการปฏบิ ัติหน้าท่ี รายปีการศึกษา จานวน 5 ปีการศึกษา ตามแบบ วฐ.2 3) บันทึกประวัติการปฏิบัติงาน (Logbook) โดยมีชั่วโมงการปฏิบัติงาน ชั่วโมงการอบรมและพฒั นา และผา่ นการรับรองจากผอู้ านวยการสถานศึกษา พรอ้ มแนบไฟล์ 4) ผลงานทางวิชาการ 5) เอกสารหลักฐานอื่นที่เก่ียวข้อง เช่น ตารางสอน คาสั่งมอบหมายงาน วฒุ ิบตั รผา่ นการพฒั นา เป็นต้น ทั้งนี้ ทุกวิทยฐานะ เอกสารหลักฐาน ตามข้อ 2) และ 3) ต้องมีการบันทึกข้อมูล เป็นระยะๆ ให้ครบถ้วนและเป็นปัจจุบนั กรณผี ู้ทจ่ี ะเกษียณอายรุ าชการและจะขอมีวทิ ยฐานะครูชานาญการและขอเลื่อนเป็น วิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ให้ยื่นคาขอพร้อมเอกสารหลักฐานต่อสถานศึกษาเพ่ือตรวจสอบและรับรอง แล้วเสนอผู้บังคับบัญชาตามลาดับ ถึงสานักงานศึกษาธิการจังหวัด ก่อนวันที่จะเกษียณอายุราชการไม่น้อยกว่า 6 เดอื น สาหรับผู้ท่ีจะเกษียณอายุราชการและจะขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญและ วิทยฐานะครูเช่ียวชาญพิเศษ ให้ย่ืนคาขอพร้อมเอกสารหลักฐาน ต่อสถานศึกษาเพื่อตรวจสอบและรับรอง แล้วเสนอผ้บู งั คบั บัญชาตามลาดับและสานักงานศกึ ษาธกิ ารจงั หวัด ถึงสานกั งาน ก.ค.ศ. กอ่ นวนั ทจี่ ะเกษียณอายุราชการ ไมน่ ้อยกวา่ 6 เดือน 4.2 ให้ผู้อานวยการสถานศกึ ษาในฐานะผบู้ ังคบั บัญชาเป็นผปู้ ระเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติ หน้าที่ทุกวิทยฐานะ ดงั นี้
- 25 - 4.2.1 ตรวจสอบคุณสมบัตขิ องผ้ขู อมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ที่ ก.ค.ศ. กาหนด 4.2.2 สรุปผลการประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ีของผู้ขอในแต่ละปีการศึกษา รวม 5 ปีการศึกษา และบันทึกลงในแบบสรุปผลการตรวจสอบและประเมิน ตาแหน่งครู รวม 5 ปีการศึกษา ตามแบบ วฐ.3 4.2.3 ผู้อานวยการสถานศึกษาส่งคาขอพร้อมเอกสารหลักฐานต่อสานักงานเขตพื้นท่ี การศกึ ษา ดังตอ่ ไปน้ี 1) คาขอมีวิทยฐานะหรอื เลอื่ นวิทยฐานะ ตาแหน่งครู ตามแบบคาขอมีวทิ ยฐานะหรอื เลอ่ื นวิทยฐานะ ตาแหน่งครู (วฐ.1) 2) สรุปผลการตรวจสอบและประเมิน ตาแหนง่ ครู (5 ปีการศกึ ษา) ตามแบบ วฐ.3 3) บันทึกประวัติการปฏิบัติงาน (Logbook) โดยมีช่ัวโมงการปฏิบัติงาน ชั่วโมงการอบรม และพฒั นา และผา่ นการรับรองจากผู้อานวยการสถานศกึ ษา พรอ้ มแนบไฟล์ 4) ผลงานทางวชิ าการ (สาหรับวิทยฐานะครูเช่ียวชาญและครเู ชยี่ วชาญพิเศษ) 5) เอกสารหลกั ฐานอนื่ ที่เกย่ี วข้อง เชน่ ตารางสอน คาสัง่ มอบหมายงาน วุฒิบตั รผ่าน การพัฒนา เป็นตน้ กรณีที่ผู้ดารงตาแหน่งครูได้ยื่นคาขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ หากผู้อานวยการ สถานศึกษามีวิทยฐานะต่ากว่าวิทยฐานะที่ผู้ดารงตาแหน่งครูขอรับการประเมิน ให้ผู้อานวยการสถานศึกษา รายงานสานักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษา เพือ่ เสนอ กศจ. พิจารณาแต่งต้ังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในจังหวัดนั้นท่ีมีวิทยฐานะไม่ต่ากว่าวิทยฐานะท่ีขอ เป็นผู้ร่วมประเมินสรุปผลการตรวจสอบและประเมิน ตาแหนง่ ครู 5 ปกี ารศึกษา ตามแบบ วฐ.3 ข้ันตอนที่ 2 การดาเนนิ การในระดบั สานกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษา การดาเนินการของสานักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษา ให้ดาเนินการ ดังนี้ 1. ตรวจสอบคณุ สมบตั ิของผูข้ อมีวิทยฐานะหรอื เล่ือนวิทยฐานะใหเ้ ปน็ ไปตามหลักเกณฑท์ ่ี ก.ค.ศ. กาหนด 2. ตรวจสอบผลการประเมนิ ผลงานทีเ่ กดิ จากการปฏบิ ตั หิ นา้ ทีแ่ ละเอกสารหลักฐาน ดงั น้ี 2.1 วิทยฐานะครชู านาญการและวิทยฐานะครชู านาญการพเิ ศษ 2.1.1 คาขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ ตาแหน่งครู ตามแบบคาขอมีวิทยฐานะหรือ เลื่อนวทิ ยฐานะ ตาแหน่งครู (วฐ.1) 2.1.2 สรปุ ผลการตรวจสอบและประเมนิ ตาแหนง่ ครู (5 ปีการศึกษา) ตามแบบ วฐ.3 2.1.3 บนั ทึกประวตั ิการปฏิบัติงาน (Logbook) โดยมีชั่วโมงการปฏิบัติงาน ช่ัวโมงการอบรม และพฒั นา และผ่านการรับรองจากผูอ้ านวยการสถานศึกษา พร้อมแนบไฟล์ 2.1.4 เอกสารหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น ตารางสอน คาส่ังมอบหมายงาน วุฒิบัตรผ่าน การพัฒนา เป็นต้น 2.2 วิทยฐานะครเู ชยี่ วชาญและวทิ ยฐานะครเู ชยี่ วชาญพเิ ศษ 2.2.1 คาขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ ตาแหน่งครู ตามแบบคาขอมีวิทยฐานะหรือ เลอ่ื นวทิ ยฐานะ ตาแหน่งครู (วฐ.1) 2.2.2 สรุปผลการตรวจสอบและประเมนิ ตาแหน่งครู (5 ปีการศกึ ษา) ตามแบบ วฐ.3 2.2.3 บันทกึ ประวตั ิการปฏิบัตงิ าน (Logbook) โดยมีช่ัวโมงการปฏิบัติงาน ชั่วโมงการอบรม และพฒั นา และผ่านการรบั รองจากผอู้ านวยการสถานศกึ ษา พรอ้ มแนบไฟล์
- 26 - 2.2.4 ผลงานทางวชิ าการ 2.3 กรณีที่ตรวจสอบแล้วปรากฏว่าเอกสารหลักฐานไม่ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ ให้สานักงาน เขตพ้ืนท่กี ารศึกษาแจ้งสถานศกึ ษาทราบและดาเนินการจดั สง่ ข้อมูลเพมิ่ เติมได้ 3. ให้สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาให้ความเห็นในแบบคาขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทย ฐานะ ตาแหนง่ ครู ตามแบบ วฐ.1 แล้วจัดส่งเอกสารหลักฐานดงั กลา่ วให้สานกั งานศึกษาธิการจังหวดั 4. กรณีสถานศึกษาแจ้งว่าผู้ดารงตาแหน่งครูไม่เห็นด้วยกับผลการประเมินผลงานที่เกิดจาก การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ประเมิน ให้สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาตั้งคณะกรรมการตรวจสอบผลการประเมิน ของปีการศกึ ษานน้ั เมอื่ ได้ข้อยุติเป็นประการใดใหถ้ อื เป็นอนั สนิ้ สุด ขัน้ ตอนที่ 3 การดาเนนิ การในระดบั สานกั งานศึกษาธิการจังหวัดและคณะกรรมการศึกษาธกิ ารจังหวัด 1. การดาเนนิ การของสานักงานศึกษาธิการจังหวัด ใหด้ าเนนิ การ ดังน้ี 1.1 ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ที่ ก.ค.ศ. กาหนด 1.2 ตรวจสอบผลการประเมินผลงานทเี่ กดิ จากการปฏิบตั ิหน้าท่แี ละเอกสารหลกั ฐาน ดังนี้ 1.2.1 วิทยฐานะครชู านาญการและวทิ ยฐานะครูชานาญการพเิ ศษ 1.2.1.1 คาขอมวี ิทยฐานะหรอื เลอื่ นวทิ ยฐานะ ตาแหน่งครู ตามแบบคาขอมีวิทยฐานะ หรือเลื่อนวิทยฐานะ ตาแหน่งครู (วฐ.1) 1.2.1.2 สรุปผลการตรวจสอบและประเมนิ ตาแหน่งครู (5 ปกี ารศึกษา) ตามแบบ วฐ.3 1.2.1.3 บันทึกประวัติการปฏิบัติงาน (Logbook) โดยมีช่ัวโมงการปฏิบัติงาน ชั่วโมง การอบรมและพัฒนา และผา่ นการรบั รองจากผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา พร้อมแนบไฟล์ 1.2.1.4 เอกสารหลักฐานอ่ืนท่ีเก่ียวข้อง เช่น ตารางสอน คาสั่งมอบหมายงาน วุฒิบัตรผ่านการพัฒนา เป็นต้น 1.2.2 วทิ ยฐานะครูเชยี่ วชาญและวิทยฐานะครเู ชยี่ วชาญพเิ ศษ 1.2.2.1 คาขอมีวทิ ยฐานะหรอื เลอื่ นวิทยฐานะ ตาแหนง่ ครู ตามแบบคาขอมีวทิ ยฐานะ หรือเลอ่ื นวทิ ยฐานะ ตาแหนง่ ครู (วฐ.1) 1.2.2.2 สรปุ ผลการตรวจสอบและประเมิน ตาแหนง่ ครู (5 ปกี ารศกึ ษา) ตามแบบ วฐ.3 1.2.2.3 บนั ทกึ ประวัตกิ ารปฏบิ ตั ิงาน (Logbook) โดยมีช่ัวโมงการปฏิบตั ิงาน ชว่ั โมง การอบรมและพฒั นา และผา่ นการรบั รองจากผู้อานวยการสถานศึกษา พร้อมแนบไฟล์ 1.2.2.4 ผลงานทางวิชาการ 1.3 ให้สานักงานศกึ ษาธิการจงั หวดั เสนอ อกศจ. และ กศจ. พิจารณาตามลาดับ 2. คณะกรรมการศกึ ษาธิการจังหวัด (กศจ.) คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด พิจารณาคุณสมบัติของผู้ขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ประกอบด้วย ระยะเวลาการดารงตาแหน่งและหรือวิทยฐานะปัจจุบัน ชั่วโมงการปฏิบัติงาน วินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ การพัฒนาตามหลักเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กาหนด และผลการประเมินผลงาน ที่เกดิ จากการปฏิบตั ิหน้าที่ พร้อมทงั้ เอกสารหลักฐาน เมอ่ื พิจารณาแล้วมผี ลเป็นประการใดให้ดาเนินการ ดังน้ี 2.1 วทิ ยฐานะครูชานาญการและวิทยฐานะครชู านาญการพเิ ศษ
- 27 - 2.1.1 กรณีที่ กศจ. มีมติอนุมัติ ให้ผู้มีอานาจตามมาตรา 53 สั่งแต่งตั้งให้มีวิทย ฐานะ หรอื เลอื่ นวทิ ยฐานะ และใหส้ านกั งานศกึ ษาธิการจังหวัดแจ้งสานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษา เพือ่ แจง้ ผู้ขอทราบ 2.1.2 กรณีท่ี กศจ. มีมติไม่อนุมัติ ให้สานักงานศึกษาธิการจังหวัดแจ้งผลการพิจารณา พร้อมทงั้ ขอ้ สงั เกตการประเมินไปยงั สานกั งานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษา เพอื่ แจ้งผ้ขู อทราบ 2.2 วทิ ยฐานะครเู ช่ยี วชาญและวิทยฐานะครเู ชีย่ วชาญพเิ ศษ 2.2.1 ก ร ณีที่ ก ศจ . มีม ติว่า เ ป็น ผู้มีคุณส ม บัติต า ม ที่ ก . ค. ศ. กา ห น ด ใ ห้ สานักงานศึกษาธิการจังหวัด ส่งเอกสารหลักฐาน จานวน 4 ชุด ไปยังสานักงาน ก.ค.ศ. ภายใน 30 วัน นับแต่ วั น ท่ี กศจ. มีมติเพ่ือเสนอ ก.ค.ศ. พิจารณา ดังน้ี 2.2.1.1 คาขอมีวิทยฐานะหรือเลอ่ื นวิทยฐานะ ตาแหนง่ ครู ตามแบบคาขอมีวิทยฐานะ หรอื เลอ่ื นวทิ ยฐานะ ตาแหน่งครู (วฐ.1) 2.2.1.2 สรุปผลการตรวจสอบและประเมนิ ตาแหน่งครู (5 ปีการศึกษา) ตามแบบ วฐ.3 2.2.1.3 มติ กศจ. คร้ังท่เี กย่ี วข้องและมกี ารรบั รองสาเนาถกู ตอ้ ง 2.2.1.4 ผลงานทางวิชาการ 2.2.2 กรณีท่ี กศจ. มีมติว่าเป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติหรือไม่ผ่านเกณฑ์ตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด ให้สานักงานศึกษาธิการจังหวัดแจ้งผลการพิจารณาพร้อมทั้งข้อสังเกตการประเมิน และเอกสารหลักฐาน ท่เี ก่ยี วขอ้ งไปยังสานักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษา เพื่อแจง้ ผูข้ อทราบ 2.3 ให้แต่งต้ังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดนั้นที่มีวิทยฐานะไม่ตา่ กว่า วิทยฐานะที่ผู้ดารงตาแหน่งครูขอรับการประเมินเป็นผู้ร่วมประเมินสรุปผลการตรวจสอบและประเมิน ตาแหน่งครู (5 ปีการศึกษา) กรณที ผ่ี ู้อานวยการสถานศึกษามวี ิทยฐานะต่ากว่าวิทยฐานะที่ผู้ดารงตาแหนง่ ครูขอรับการประเมิน ขั้นตอนที่ 4 การดาเนนิ การในระดบั สานกั งาน ก.ค.ศ. และ ก.ค.ศ. 1. เมอ่ื สานกั งาน ก.ค.ศ. ได้รับคาขอเล่ือนเปน็ วทิ ยฐานะครูเชี่ยวชาญหรือวิทยฐานะครูเช่ียวชาญพิเศษ พร้อมทง้ั เอกสารหลกั ฐาน จานวน 4 ชดุ ดังนี้ 1.1 คาขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ตาแหน่งครู ตามแบบคาขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อน วทิ ยฐานะ ตาแหนง่ ครู (วฐ.1) 1.2 สรปุ ผลการตรวจสอบและประเมนิ ตาแหนง่ ครู (5 ปีการศกึ ษา) ตามแบบ วฐ.3 1.3 มติ กศจ. ครั้งทเ่ี กยี่ วขอ้ งและมีการรบั รองสาเนาถกู ต้อง 1.4 ผลงานทางวิชาการ 2. สานักงาน ก.ค.ศ. ตรวจสอบคุณสมบัติ ผลการประเมิน และเอกสารหลักฐานตามที่สานักงาน ศึกษาธกิ ารจังหวดั สง่ มาให้ถกู ตอ้ ง ครบถว้ นตามหลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารน้ีเพอื่ เสนอ ก.ค.ศ. พิจารณาตอ่ ไป 3. ก.ค.ศ. พจิ ารณา ดังน้ี 3.1 ต้ังคณะกรรมการประเมินผลงานทางวิชาการ จากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ ความสามารถ และเชย่ี วชาญในสาขาวิชาท่จี ะตรวจและประเมนิ โดยผูข้ อ 1 ราย ให้มีคณะกรรมการประเมนิ จานวน 3 คน 3.2 กรณีคณะกรรมการประเมินผลงานทางวิชาการ พิจารณาแล้วเห็นควรให้ปรับปรุงผลงาน ทางวิชาการ ต้องมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 คน ทั้งนี้ ผลงาน ทางวิชาการต้องอยู่ในวิสัยท่ีสามารถปรับปรุงได้ และ ก.ค.ศ. มีมติให้ปรับปรุง ก็ให้ปรับปรุงตามข้อสังเกต
- 28 - ของกรรมการได้ ไมเ่ กิน 2 ครงั้ ครั้งแรก ภายใน 6 เดือน และครั้งท่ี 2 ภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่สานักงาน ก.ค.ศ. แจ้งมติ ก.ค.ศ. ให้สานกั งานศกึ ษาธกิ ารจงั หวดั ทราบ เมื่อผู้ขอปรับปรุงผลงานทางวิชาการแล้ว ให้สานักงาน ก.ค.ศ. เสนอคณะกรรมการ ประเมนิ ผลงานทางวชิ าการชดุ เดมิ ตรวจและประเมนิ ตอ่ ไป 3.3 กรณีผู้ขอไม่ส่งผลงานทางวิชาการที่ปรับปรุงตามข้อสังเกตภายในระยะเวลาที่กาหนด หรอื ส่งพ้นระยะเวลาทกี่ าหนด ใหถ้ อื วา่ สละสทิ ธิ์ 3.4 กรณีคณะกรรมการประเมินผลงานทางวิชาการ พิจารณาแล้วเห็นว่าผลงานทางวิชาการ มีคุณภาพและเป็นประโยชนใ์ นการจัดการเรียนการสอนต่อผเู้ รียน อาจให้ผู้ขอมานาเสนอกระบวนการและวิธีการ ดาเนินการในเรื่องดังกล่าว และคณะกรรมการอาจไปประเมิน ณ สถานที่ปฏบิ ตั งิ านจริงด้วยก็ได้ 3.5 กรณีท่ี ก.ค.ศ. มีมติอนุมัติ ให้สานักงาน ก.ค.ศ. แจ้งมติไปยังสานักงานศึกษาธิการจังหวัด เพือ่ ดาเนนิ การต่อไป สาหรบั วทิ ยฐานะครเู ช่ยี วชาญพิเศษ ใหผ้ ูบ้ ังคบั บญั ชาสูงสดุ ของส่วนราชการท่ีผู้น้ันสังกัดอยู่ เป็นผู้สั่งบรรจุและให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดนาเสนอนายกรัฐมนตรี เพ่ือนาความกราบบังคมทูลเพ่ือทรงพระกรุณา โปรดเกลา้ ฯ แต่งตง้ั ใหเ้ ล่ือนเป็นวทิ ยฐานะครูเช่ยี วชาญพิเศษ ต่อไป 3.6 กรณีที่ ก.ค.ศ. มีมติไม่อนุมัติ ให้สานักงาน ก.ค.ศ. แจ้งมติพร้อมทั้งข้อสังเกตให้สานักงาน ศึกษาธกิ ารจังหวดั เพอ่ื ให้สานกั งานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษา แจง้ ผ้ขู อทราบตอ่ ไป บทที่ 5 แนวปฏิบตั ิการขอมวี ทิ ยฐานะและเลือ่ นวิทยฐานะในช่วงระยะเวลาเปล่ียนผ่าน ในช่วงระยะเวลาเปล่ียนผ่านจากหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูบุคลากรทางการศึกษา มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ท่ี ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันท่ี 30 กันยายน 2552 มาใช้หลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแห น่งครู
- 29 - มีวิทยฐานะและเล่ือนวิทยฐานะ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.3/ว 21 ลงวันท่ี 5 กรกฎาคม 2560 ให้ผู้ดารงตาแหน่งครูอยู่ก่อนวันท่ี 5 กรกฎาคม 2560 ท่ีมีคุณสมบัติตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด สามารถย่ืนคาขอ มีวิทยฐานะหรอื เลอื่ นวทิ ยฐานะ ตามหนังสอื สานักงาน ก.ค.ศ. ดว่ นท่ีสดุ ที่ ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันที่ 30 กันยายน 2552 หรือตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการฯ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 21 ลงวันท่ี 5 กรกฎาคม 2560 ได้ โดยมแี นวปฏิบตั ิ ดังน้ี การขอมีวิทยฐานะและเล่ือนวิทยฐานะ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ที่ ศธ 0206.4/ว 17 ลงวนั ท่ี 30 กนั ยายน 2552 ก.ค.ศ. กาหนดแนวปฏิบัติในการขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ สาหรับผู้ดารงตาแหน่งครู ในช่วงระยะเวลาเปล่ยี นผ่าน ทม่ี ีคณุ สมบัตคิ รบตามหลกั เกณฑ์และวิธกี ารฯ ตามหนงั สือสานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนท่ีสุด ท่ี ศธ 0206.4/ว 17 ลงวนั ที่ 30 กันยายน 2552 ไว้ดงั นี้ กรณีผู้ดารงตาแหน่งครูได้ยื่นคาขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ที่ ก.ค.ศ. กาหนดไว้เดิมก่อนวันที่หลักเกณฑ์และวิธีการน้ีใช้บังคับ แต่ยังดาเนินการไม่แล้วเสร็จ ให้ดาเนินการ ตามหลักเกณฑแ์ ละวิธีการเดมิ น้นั ตอ่ ไปจนกว่าจะแลว้ เสร็จ สาหรับการขอมวี ิทยฐานะหรอื เลอื่ นวทิ ยฐานะตามหลกั เกณฑ์และวิธกี ารฯ ตามหนงั สือสานกั งาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ที่ ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันท่ี 30 กันยายน 2552 หรือตามหลักเกณฑ์และวิธีการนี้ในครั้งต่อไป ใหด้ าเนนิ การดงั น้ี 1 ผปู้ ระสงคจ์ ะขอมวี ทิ ยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนท่ีสุด ที่ ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันท่ี 30 กันยายน 2552 ให้สามารถยื่นคาขอได้ 1 คร้ัง เพียงวิทยฐานะเดยี ว ดังน้ี 1.1 กรณีคาขอรับการประเมินท่ียื่นไว้เดิม ได้รับการอนุมัติ และในวันท่ีมีหนังสือแจ้งมติ มีคุณสมบตั ิครบทจี่ ะขอเลื่อนวิทยฐานะถัดไปได้อยู่แล้ว ให้ยื่นคาขอ ภายใน 1 ปี นับแต่วันท่ีมีหนังสือแจ้งมติน้ัน แต่หากวนั ท่มี หี นงั สือแจง้ มติดงั กล่าว ยงั มีคุณสมบัติไมค่ รบทจ่ี ะขอเล่ือนวิทยฐานะถัดไป ให้ยื่นคาขอ ภายใน 1 ปี นบั แต่วนั ทีม่ ีคณุ สมบัตคิ รบ 1.2 กรณีคาขอรับการประเมินที่ยื่นไว้เดิม ไม่ได้รับการอนุมัติ ให้ยื่นคาขอได้ ภายใน 1 ปี นับแต่ วันที่มีหนงั สอื แจง้ มติ 2. กรณีผู้ดารงตาแหน่งครูอยู่ก่อนวันที่หลักเกณฑ์และวิธีการนี้ใช้บังคับ หากมีคุณสมบัติครบ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ที่ ก.ค.ศ. กาหนดไว้เดิม และตามหลักเกณฑ์และวิธีการน้ีด้วย ให้ยื่นคาขอได้ ตามหลกั เกณฑ์ใดหลักเกณฑห์ น่ึงเพยี งหลกั เกณฑ์เดียว กรณีทไี่ ดย้ ่ืนคาขอมวี ทิ ยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการฯ ที่ ก.ค.ศ. กาหนดไว้ เดมิ ก่อนวันที่หลักเกณฑแ์ ละวิธีการน้ีใช้บังคับ แต่การดาเนินการพิจารณายังไม่แล้วเสร็จ หากผู้นั้นประสงค์จะย่ืนคาขอรับ การประเมนิ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการน้ี ให้มีหนังสือแจ้งยกเลิกคาขอตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ เดิม โดยย่ืน ต่อสานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษา สว่ นราชการ หรอื สานกั งาน ก.ค.ศ. แลว้ แตก่ รณี 3. กรณีผู้ดารงตาแหนง่ ครูมีคุณสมบตั เิ ฉพาะสาหรับวิทยฐานะที่จะขอรับการประเมิน ตามหลักเกณฑ์ และวิธกี ารฯ ตามหนงั สอื สานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนท่ีสุด ท่ี ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันที่ 30 กันยายน 2552 อยู่ก่อนวันที่ หลักเกณฑ์และวธิ กี ารน้ีใชบ้ ังคับ หากประสงคจ์ ะขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ดว่ นทส่ี ดุ ที่ ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันที่ 30 กันยายน 2552 ให้สามารถยื่นคาขอได้ ภายใน 1 ปี นับแตว่ นั ที่หลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารนใ้ี ชบ้ งั คับ
- 30 - 4. กรณผี ดู้ ารงตาแหน่งครูมีคุณสมบัติเฉพาะสาหรับวิทยฐานะที่จะขอรับการประเมินตามหลักเกณฑ์ และวธิ ีการฯ ตามหนังสอื สานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนทสี่ ดุ ท่ี ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันที่ 30 กันยายน 2552 ต้ังแต่วันท่ี หลกั เกณฑ์และวิธีการน้ีใช้บังคับเป็นต้นไป หากประสงค์จะขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ ตามหลักเกณฑ์ และวธิ กี ารฯ ตามหนังสอื สานักงาน ก.ค.ศ. ดว่ นท่สี ดุ ท่ี ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันท่ี 30 กันยายน 2552 ให้สามารถ ยื่นคาขอไดภ้ ายใน 1 ปี นบั แต่วนั ทม่ี ีคณุ สมบัติครบ 5. ผู้ดารงตาแหน่งครู ต้ังแต่วันที่หลักเกณฑ์และวิธีการน้ีใช้บังคับเป็นต้นไป การดาเนินการขอ มวี ิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ ให้ดาเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการน้ี เว้นแต่ผู้ท่ีมีกรณีเป็นไปตามเงื่อนไข ท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.3/ว 26 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2559 หากประสงค์จะขอมี วิทยฐานะครชู านาญการ ตามหลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารฯ ตามหนงั สอื สานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ท่ี ศธ 0206.4/ว 17 ลงวนั ที่ 30 กันยายน 2552 ใหส้ ามารถยน่ื คาขอได้ 1 ครั้ง ภายใน 1 ปี นับแตว่ นั ทมี่ คี ุณสมบัตคิ รบ 6. ผู้ทไ่ี ด้ยนื่ คาขอรบั การประเมนิ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ที่ ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันที่ 30 กันยายน 2552 ในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่านไปแล้ว หรือมิได้ยื่นคาขอรับ การประเมิน ภายในระยะเวลาท่ีกาหนดตามข้อ 1 ข้อ 3 ข้อ 4 และข้อ 5 ของแนวปฏิบัติการดาเนินการ ในชว่ งระยะเวลาเปลีย่ นผา่ น แล้วแต่กรณี การดาเนินการขอมีวิทยฐานะและเล่ือนวิทยฐานะต่อไป ให้ดาเนินการ ตามหลกั เกณฑ์และวิธกี ารนี้ การขอมีวทิ ยฐานะและเลือ่ นวิทยฐานะ ตามหนงั สือสานกั งาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 21 ลงวนั ท่ี 5 กรกฎาคม 2560 ก.ค.ศ. กาหนดแนวปฏิบัติในการขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ สาหรับผู้ดารงตาแหน่งครู ในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ที่มีคุณสมบัติครบตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 21 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 ให้ตรวจสอบและดาเนนิ การ ดังนี้ 1. คณุ สมบัติ ให้ผขู้ อมวี ิทยฐานหรือเลอื่ นวทิ ยฐานะ ตรวจสอบคุณสมบัติให้เปน็ ไปตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด ดังนี้ 1.1 ระยะเวลาการดารงตาแหนง่ ครู วิทยฐานะครูชานาญการ ต้องดารงตาแหน่งครู มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันที่ยื่นคาขอ หรือดารงตาแหนง่ อ่นื ท่ี ก.ค.ศ. เทียบเท่า วิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ต้องดารงตาแหน่งครูท่ีมี วิทยฐานะครูชานาญการ มาแล้ว ไม่น้อยกว่า 5 ปี นบั ถงึ วันท่ีย่นื คาขอ หรอื ดารงตาแหนง่ อื่นท่ี ก.ค.ศ. เทยี บเทา่ วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ ต้องดารงตาแหน่งครูที่มีวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ มาแล้ว ไมน่ ้อยกว่า 5 ปี นบั ถงึ วนั ทีย่ น่ื คาขอ หรอื ดารงตาแหนง่ อื่นท่ี ก.ค.ศ. เทียบเท่า วิทยฐานะครูเช่ียวชาญพิเศษ ต้องดารงตาแหน่งครูท่ีมีวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ มาแล้ว ไม่นอ้ ยกว่า 5 ปี นับถึงวนั ที่ยื่นคาขอ หรอื ดารงตาแหน่งอ่นื ท่ี ก.ค.ศ. เทียบเทา่ 1.2 มีจานวนช่ัวโมงการปฏิบัติงานสะสมในตาแหน่งหรือวิทยฐานะที่ดารงอยู่ในปัจจุบัน ย้อนหลัง เป็นเวลา 5 ปี นับถึงวนั ทีย่ ่ืนคาขอ ดังน้ี 1.2.1 การขอมีวิทยฐานะครูชานาญการหรือเล่ือนเป็นวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ต้องมีภาระงานสอน ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนท่ีสุด ที่ ศธ 0206.3/3724 - 3725 ลงวันที่ 21 กันยายน 2553 สะสมย้อนหลังเป็นเวลา 5 ปี รวมกนั ไม่น้อยกว่า 4,000 ชั่วโมง
- 31 - 1.2.2 การขอเล่อื นเปน็ วทิ ยฐานะครเู ชีย่ วชาญหรือวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญพิเศษ ต้องมีภาระงานสอน ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ที่ ศธ 0206.3/3724 - 3725 ลงวันท่ี 21 กันยายน 2553 สะสมย้อนหลัง เปน็ เวลา 5 ปี รวมกนั ไม่นอ้ ยกวา่ 4,500 ชั่วโมง 1.3 มวี นิ ัย คณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย หรือจรรยาบรรณ วชิ าชีพ ในช่วงระยะเวลายอ้ นหลัง 5 ปี นับถงึ วนั ทยี่ น่ื คาขอ ในกรณที ผี่ ดู้ ารงตาแหน่งครู อยูร่ ะหว่างถูกดาเนินการทางวินัยหรือจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยยังไม่มี คาสง่ั ลงโทษ ใหถ้ ือว่าผูน้ ั้นมีคุณสมบตั ใิ นขอ้ น้ี 1.4 ผ่านการพัฒนาตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ซ่ึงหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนา ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา ตามหนงั สอื สานักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.7/ว 22 ลงวนั ที่ 5 กรกฎาคม 2560 กาหนดการดาเนินการในชว่ งระยะเวลาเปลย่ี นผา่ น ไวด้ ังนี้ 1.4.1 ผลการพฒั นาตามหลกั เกณฑ์และวิธีการพัฒนาขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา ก่อนแต่งตั้งให้มีและเล่ือนเป็นวิทยฐานะชานาญการพิเศษ และวิทยฐานะเช่ียวชาญ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.7/ว 3 ลงวันท่ี 7 เมษายน 2554 ที่ยังอยู่ภายในเวลา 3 ปี นับแต่วันที่สาเร็จหลักสูตรการพัฒนา ให้สามารถนามาใช้เป็นคุณสมบัติในการขอมีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ และการแต่งต้ังให้มีวิทยฐานะ และเล่ือนวทิ ยฐานะ ตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารฯ น้ี ได้อีก 1 ครง้ั 1.4.2 ผู้ดารงตาแหน่งครูหรือดารงวิทยฐานะมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 5 ปี ท่ีมีผลการพัฒนา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งต้ังให้มีและเล่ือนเป็นวิทยฐานะชานาญการพิเศษ และวิทยฐานะ เชี่ยวชาญ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.7/ว 3 ลงวันท่ี 7 เมษายน 2554 หากพ้นกาหนดเวลา 3 ปี นับแต่วันที่สาเร็จหลักสูตรการพัฒนาแล้ว หรือไม่เคยเข้ารับการพัฒนาตามหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าว ให้เข้ารับการพฒั นาตามหลักสูตรท่ีสถาบันคุรุพัฒนารับรอง จานวน 20 ช่ัวโมง เพ่ือใช้เป็นคุณสมบัติในการขอมี วิทยฐานะและเลอื่ นวทิ ยฐานะ และการแต่งต้งั ใหม้ วี ทิ ยฐานะและเลื่อนวทิ ยฐานะ ตามหลักเกณฑแ์ ละวิธีการฯ นไ้ี ดอ้ ีก 1 ครงั้ 1.5 มผี ลงานที่เกดิ จากการปฏบิ ตั ิหน้าที่ สายงานการสอน ในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง 5 ปีการศึกษา ติดต่อกัน นับถึงวันส้ินปีการศึกษาก่อนวันท่ียื่นคาขอ ทั้งนี้ ให้ผู้ขอรับการประเมิน รายงานผลงานที่เกิดจาก การปฏบิ ตั หิ นา้ ทีเ่ ปน็ รายปกี ารศึกษา ยอ้ นหลัง 5 ปีการศกึ ษา และรบั รองข้อมลู ดังกลา่ ว ตามแบบรายงานผลงาน ที่เกิดจากการปฏบิ ตั ิหน้าที่ ตาแหน่งครู รายปกี ารศึกษา (วฐ.2) 2. การยน่ื คาขอรับการประเมนิ ผู้ดารงตาแหน่งครูที่มีคุณสมบัติตามข้อ 1 และประสงค์จะขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ให้ย่ืนคาขอรับการประเมินต่อสถานศึกษาได้ตลอดปี รอบปีละ 1 คร้ัง พร้อมเอกสารหลักฐานที่เก่ียวข้อง เพ่ือประกอบ การพิจารณา ดงั น้ี 2.1 วทิ ยฐานะครชู านาญการและวิทยฐานะครูชานาญการพเิ ศษ ใหย้ น่ื คาขอ พร้อมเอกสารหลักฐาน ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง จานวน 2 ชุด ดังน้ี 2.1.1 คาขอมีวทิ ยฐานะหรอื เลือ่ นวทิ ยฐานะ ตาแหนง่ ครู ตามแบบคาขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือน วทิ ยฐานะ ตาแหน่งครู (วฐ.1) 2.1.2 รายงานผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี ตาแหน่งครู รายปีการศึกษา (วฐ.2) จานวน 5 ปีการศึกษา โดยแยกรายงานเป็นรายปีการศกึ ษา 2.1.3 บนั ทกึ ประวตั กิ ารปฏิบตั งิ าน (Logbook) เฉพาะกรณที ไ่ี ด้มีการบันทกึ ประวัตกิ ารปฏิบตั ิงาน ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2560 เปน็ ต้นไป
- 32 - 2.1.4 เอกสารหลักฐานอ่ืนที่เกี่ยวข้อง เช่น สาเนาทะเบียนประวัติข้าราชการ (ก.พ. 7) หรือ ก.ค.ศ. 16 ตารางสอน คาส่งั มอบหมายงาน วฒุ ิบตั รผ่านการพฒั นา เปน็ ตน้ 2.2 วิทยฐานะครูเช่ียวชาญและวิทยฐานะครูเช่ียวชาญพิเศษ ให้ยื่นคาขอ พร้อมเอกสารหลักฐาน ท่เี ก่ยี วข้อง จานวน 4 ชดุ ดังน้ี 2.2.1 คาขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ ตาแหน่งครู ตามแบบคาขอมีวิทยฐานะหรือ เลอื่ นวิทยฐานะ ตาแหนง่ ครู (วฐ.1) 2.2.2 รายงานผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ตาแหน่งครู รายปีการศึกษา (วฐ.2) จานวน 5 ปีการศกึ ษา โดยแยกรายงานเป็นรายปีการศกึ ษา 2.2.3 ผลงานทางวิชาการ จานวนไม่น้อยกว่า 2 รายการ ตามหลกั เกณฑ์ท่ี ก.ค.ศ.กาหนด 2.2.4 บนั ทกึ ประวตั กิ ารปฏิบัตงิ าน (Logbook) เฉพาะกรณที ไี่ ดม้ กี ารบนั ทึกประวตั กิ ารปฏิบัตงิ าน ต้งั แต่วนั ที่ 5 กรกฎาคม 2560 เปน็ ตน้ ไป 2.2.5 เอกสารหลักฐานอ่ืนท่ีเกี่ยวข้อง เช่น สาเนาทะเบียนประวัติข้าราชการ (ก.พ. 7) หรือ ก.ค.ศ. 16 ตารางสอน คาสัง่ มอบหมายงาน วฒุ บิ ตั รผา่ นการพัฒนา เปน็ ต้น 2.3 การขอมีวทิ ยฐานะหรอื เลื่อนวิทยฐานะ สาหรบั ผู้ทจี่ ะเกษยี ณอายรุ าชการในปที ข่ี อ 2.3.1 ผู้ขอมีวทิ ยฐานะครูชานาญการและเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ให้ย่ืนคาขอ พร้อมเอกสารหลักฐาน ตามข้อ 2.1 ต่อสถานศึกษา เพื่อตรวจสอบและรับรองแล้วเสนอผู้บังคับบัญชาตามลาดับ ถงึ สานักงานศึกษาธิการจังหวัด ก่อนท่จี ะเกษยี ณอายรุ าชการไม่น้อยกวา่ 6 เดือน 2.3.2 ผู้ขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญและวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญพิเศษ ให้ยื่นคาขอ พรอ้ มเอกสารหลักฐาน ตามข้อ 2.2 ตอ่ สถานศกึ ษา เพอ่ื ตรวจสอบและรับรองแล้วเสนอผู้บังคับบัญชาตามลาดับ ถึงสานักงาน ก.ค.ศ. ก่อนทจี่ ะเกษยี ณอายรุ าชการไมน่ อ้ ยกว่า 6 เดอื น 3. คณะกรรมการตรวจสอบและกลน่ั กรองข้อมลู ให้ผู้อานวยการสถานศึกษาต้ังคณะกรรมการจากข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในสถานศึกษานั้นหรือนอกสถานศึกษา เพื่อตรวจสอบและกล่ันกรองข้อมูลที่ผู้ดารงตาแหน่งครูรายงานในแต่ละ ปีการศึกษา ได้แก่ ระยะเวลาการดารงตาแหน่ง การดารงวิทยฐานะ ชั่วโมงการปฏิบัติงาน การมีวินัย คุณธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวิชาชพี การพัฒนา ผลการประเมนิ ผลงานท่ีเกิดจากการปฏบิ ตั หิ น้าท่ี 3 ด้าน รวม 13 ตัวชี้วัด ไดแ้ ก่ ด้านการจดั การเรียนการสอน ด้านการบริหารจัดการช้นั เรียน และดา้ นการพฒั นาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ พร้อมทง้ั เสนอความเหน็ ต่อผู้อานวยการสถานศึกษาหรือผ้ปู ระเมิน เพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป 4. การประเมนิ การประเมนิ ให้ผู้อานวยการสถานศกึ ษาหรือผ้ปู ระเมนิ ดาเนนิ การ ดงั นี้ 4.1 ตรวจสอบคณุ สมบตั ิของผู้ขอรบั การประเมินใหเ้ ป็นไปตามคณุ สมบัตขิ อ้ 1 4.2 ประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ขอรับการประเมิน 5 ปีการศึกษา โดยแยก ประเมินเป็นรายปกี ารศกึ ษา (ตามแบบ วฐ.2) และนาผลการประเมินดังกล่าวบันทึกลงในแบบสรุปผลการตรวจสอบ และประเมิน (วฐ.3) 4.3 แจ้งผลการประเมินให้ผู้ขอรับการประเมินทราบ กรณีที่ผู้ขอรับการประเมินไม่เห็นด้วยกับ ผลการประเมินนั้น ใหเ้ ปิดโอกาสใหช้ ้แี จง หากผปู้ ระเมินพจิ ารณาแลว้ เหน็ ว่า ผลการประเมินถูกต้องตรงตามความเปน็ จริงแล้ว แต่ผูน้ ้ันมีความเห็นไม่สอดคลอ้ งกบั ผ้ปู ระเมิน ให้แจง้ ไปยังสานกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษาเพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการ ตรวจสอบผลการประเมนิ เม่อื ได้ขอ้ ยตุ เิ ปน็ ประการใดใหถ้ ือเป็นอนั สิน้ สุด 4.4 สง่ เอกสารหลกั ฐานทเ่ี กีย่ วขอ้ งให้สานักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษา ดงั น้ี
- 33 - 4.4.1 วทิ ยฐานะครชู านาญการและวทิ ยฐานะครูชานาญการพิเศษ (จานวน 2 ชุด) 4.4.1.1 คาขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ ตาแหน่งครู ตามแบบคาขอมีวิทยฐานะ หรือเล่ือนวทิ ยฐานะ ตาแหน่งครู (วฐ.1) 4.4.1.2 สรปุ ผลการตรวจสอบและประเมิน ตาแหนง่ ครู (5 ปกี ารศึกษา) ตามแบบ วฐ.3 4.4.1.3 บันทึกประวตั ิการปฏิบัติงาน (Logbook) เฉพาะกรณีท่ีได้มีการบันทึกประวัติการ ปฏบิ ัติงาน ตงั้ แต่วันท่ี 5 กรกฎาคม 2560 เป็นตน้ ไป 4.4.1.4 เอกสารหลักฐานอื่นทเ่ี กยี่ วขอ้ ง เชน่ สาเนาทะเบียนประวัติข้าราชการ (ก.พ. 7) หรือ ก.ค.ศ. 16 ตารางสอน คาสง่ั มอบหมายงาน วฒุ ิบัตรผา่ นการพฒั นา เป็นตน้ 4.4.2 วิทยฐานะครูเชย่ี วชาญและวทิ ยฐานะครเู ชีย่ วชาญพเิ ศษ (จานวน 4 ชุด) 4.4.2.1 คาขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ ตาแหน่งครู ตามแบบคาขอมีวิทยฐานะ หรอื เลือ่ นวทิ ยฐานะ ตาแหน่งครู (วฐ.1) 4.4.2.2 สรปุ ผลการตรวจสอบและประเมนิ ตาแหน่งครู (5 ปีการศึกษา) ตามแบบ วฐ.3 4.4.2.3 บันทึกประวัติการปฏิบัติงาน (Logbook) เฉพาะกรณีที่ได้มีการบันทึกประวัติ การปฏบิ ตั ิงาน ต้งั แตว่ ันที่ 5 กรกฎาคม 2560 เปน็ ตน้ ไป 4.4.2.4 ผลงานทางวิชาการ จานวนไม่น้อยกว่า 2 รายการ ตามหลักเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กาหนด 4.4.2.5 เอกสารหลกั ฐานอ่นื ที่เกี่ยวข้อง เช่น สาเนาทะเบียนประวัติข้าราชการ (ก.พ. 7) หรอื ก.ค.ศ. 16 ตารางสอน คาสงั่ มอบหมายงาน วฒุ บิ ตั รผา่ นการพฒั นา เป็นต้น 4.5 กรณีที่ผู้ดารงตาแหน่งครูได้ยื่นคาขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ หากผู้อานวยการ สถานศึกษามีวิทยฐานะต่ากว่าวิทยฐานะท่ีขอ ให้สถานศึกษาแจ้งสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาเพ่ือเสนอ กศจ. แต่งต้ังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดน้ันท่ีมีวิทยฐานะไม่ต่ากว่าวิทยฐานะที่ขอ เป็นผู้ร่วม ประเมนิ สรปุ ผลการตรวจสอบและประเมนิ ตาแหน่งครู 5 ปีการศกึ ษา 5. การดาเนินการของสานกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษา เมอื่ สานกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษาไดร้ บั คาขอพร้อมท้ังเอกสารหลกั ฐานแล้ว ให้ดาเนินการ ดงั น้ี 5.1 ตรวจสอบเอกสารหลกั ฐานที่เกี่ยวขอ้ งตามขอ้ 4.4 ใหถ้ กู ต้องและครบถ้วน กรณีที่ตรวจสอบ แล้วปรากฏว่าเอกสารหลักฐานไม่ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ ให้สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาแจ้งสถานศึกษา จดั ส่งขอ้ มลู หรือเอกสารหลักฐานเพ่มิ เตมิ ได้ 5.2 ตรวจสอบคณุ สมบตั ิของผู้ขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะให้เป็นไปตามคุณสมบัติข้อ 1 และให้ ผู้อา น ว ย ก า ร สา นัก ง า น เ ข ต พื้น ที่ก า ร ศึก ษ า ใ ห้ค ว า ม เ ห็น ว่า เ ป็น ผู้มีคุณ ส ม บัติค ร บ ต า ม ห ลัก เ ก ณ ฑ์ห รือ ขาดคุณสมบัติ และบันทึกความเห็นลงในแบบคาขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ ตาแหน่งครู (วฐ.1) แลว้ จดั สง่ เอกสารหลกั ฐานดังกล่าวให้สานักงานศกึ ษาธิการจงั หวดั ดาเนนิ การต่อไป 5.3 กรณีที่สถานศึกษาแจ้งว่าผู้ดารงตาแหน่งครูไม่เห็นด้วยกับผลการประเมินผลงานที่เกิด จากการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ประเมนิ ให้สานักงานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษาต้ังคณะกรรมการตรวจสอบผลการประเมิน ของปกี ารศกึ ษานนั้ เมื่อไดข้ ้อยุติเป็นประการใดใหถ้ ือเปน็ อันสิน้ สดุ 5.4 กรณีท่ีสถานศึกษา แจ้งว่าผู้ดารงตาแหน่งครูได้ย่ืนคาขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ แต่ผู้อานวยการสถานศึกษามีวิทยฐานะต่ากว่าวิทยฐานะที่ขอ ให้สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาแจ้งสานักงาน ศึกษาธกิ ารจังหวดั เพื่อนาเสนอ กศจ. แตง่ ต้ังข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาในจังหวัดน้ันท่ีมีวิทยฐานะ ไม่ต่ากวา่ วทิ ยฐานะทข่ี อ เปน็ ผู้ร่วมประเมนิ สรุปผลการตรวจสอบและประเมิน ตาแหน่งครู 5 ปกี ารศึกษา
- 34 - 6. การดาเนินการของสานักงานศึกษาธกิ ารจงั หวดั และคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด 6.1 การดาเนนิ การของสานักงานศึกษาธิการจังหวดั เม่อื สานักงานศกึ ษาธิการจังหวัดไดร้ บั คาขอพรอ้ มท้งั เอกสารหลกั ฐานแลว้ ให้ดาเนนิ การ ดงั นี้ 6.1.1 ตรวจสอบเอกสารหลักฐานท่ีเก่ียวข้องตามข้อ 4.4 ให้ถูกต้องและครบถ้วน กรณีที่ ตรวจสอบแล้วปรากฏว่าเอกสารหลักฐานไม่ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ ให้สานักงานศึกษาธิการจังหวัด แจง้ สานักงานเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษาจดั ส่งข้อมูลหรอื เอกสารหลักฐานเพิ่มเตมิ ได้ 6.1.2 ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะให้เป็นไปตามคุณสมบัติข้อ 1 และหากสานักงานศึกษาธิการจังหวัดเห็นว่าผู้ขอรับการประเมินเป็นผู้มีคุณสมบัติครบตามหลักเกณฑ์ หรือขาดคุณสมบัติ ให้นาเสนอ อกศจ. พิจารณาให้ความเห็นก่อนนาเสนอ กศจ. พิจารณาต่อไป 6.1.3 สาหรับวิทยฐานะครเู ชี่ยวชาญและวิทยฐานะครูเชย่ี วชาญพเิ ศษ เม่ือ กศจ. มีมติว่าเป็น ผู้มีคุณสมบัติตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ให้สานักงานศึกษาธิการจังหวัด ส่งเอกสารหลักฐาน จานวน 4 ชุด ไปยัง สานกั งาน ก.ค.ศ. ภายใน 30 วนั นับแต่วนั ที่ กศจ. มีมติเพ่อื เสนอ ก.ค.ศ. พจิ ารณา ดังน้ี 1) คาขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ตาแหน่งครู ตามแบบคาขอ มวี ทิ ยฐานะหรือเลื่อนวทิ ยฐานะ ตาแหนง่ ครู (วฐ.1) 2) สรุปผลการตรวจสอบและประเมิน ตาแหน่งครู (5 ปีการศึกษา) ตามแบบ วฐ.3 3) มติ กศจ. ครงั้ ทีเ่ ก่ียวขอ้ งและมกี ารรับรองสาเนาถูกต้อง 4) ผลงานทางวชิ าการ กรณีท่ี กศจ. มีมติว่าเป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติหรือไม่ผ่านเกณฑ์ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ให้สานกั งานศึกษาธกิ ารจงั หวดั แจ้งผลการพิจารณาพรอ้ มท้งั ข้อสังเกตการประเมิน และเอกสารหลักฐาน ท่เี กีย่ วขอ้ งไปยังสานักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษา เพ่ือแจง้ ผู้ขอทราบ 6.1.4 การแต่งตัง้ 6.1.4.1 วทิ ยฐานะครชู านาญการ กรณที ่ี กศจ. มีมติอนุมัติและผู้ขอมีวิทยฐานะผ่านการพัฒนาตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด ให้ผู้มีอานาจตามมาตรา 53 สั่งแต่งตั้งให้มีวิทยฐานะครูชานาญการ และให้ได้รับเงินเดือนอันดับ คศ. 2 ในข้ันหรอื อตั ราเงินเดือนเทา่ เดมิ ถา้ ไม่มขี น้ั หรอื อัตราเงนิ เดือนเทา่ เดมิ ให้ได้รับในขั้นหรืออัตราเงินเดือนใกล้เคียง ทส่ี ูงกวา่ 6.1.4.2 วทิ ยฐานะครชู านาญการพเิ ศษ กรณีท่ี กศจ. มมี ติอนุมัตแิ ละผขู้ อเลอ่ื นวิทยฐานะผา่ นการพฒั นาตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด ใหผ้ ูม้ อี านาจตามมาตรา 53 สัง่ แตง่ ต้งั ให้เล่ือนเป็นวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ และให้ได้รับเงินเดือน อันดับ คศ. 3 ในข้ันหรืออัตราเงินเดือนเท่าเดิม ถ้าไม่มีข้ันหรืออัตราเงินเดือนเท่าเดิม ให้ได้รับในขั้นหรืออัตรา เงินเดือนใกลเ้ คียงท่สี ูงกว่า 6.1.4.3 วิทยฐานะครเู ช่ียวชาญ กรณที ี่ ก.ค.ศ. มีมติอนมุ ตั ิและผ้ขู อเลอื่ นวิทยฐานะผา่ นการพฒั นาตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด ให้ผ้มู ีอานาจตามมาตรา 53 สั่งแต่งต้ังให้เลื่อนเป็นวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ และให้ได้รับเงินเดือนอันดับ คศ. 4 ในขนั้ หรอื อตั ราเงนิ เดือนเท่าเดมิ ถ้าไม่มีข้ันหรืออัตราเงินเดือนเท่าเดิม ให้ได้รับในขั้นหรืออัตราเงินเดือน ใกล้เคียงทส่ี ูงกว่า
- 35 - 6.1.5 เม่ือ กศจ. พิจารณา มีมติอนุมัติหรือไม่อนุมัติ สาหรับวิทยฐานะครูชานาญการ และวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ให้สานักงานศึกษาธิการจังหวัดแจ้งมติของ กศจ. ไปยังสานักงานเขตพ้ืนที่ การศกึ ษา เพือ่ แจง้ ผูข้ อมีวิทยฐานะหรอื เลื่อนวทิ ยฐานะทราบ 6.1.6 เมื่อ ก.ค.ศ. พิจารณา มีมติอนุมัติหรือไม่อนุมัติ สาหรับวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ และวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญพิเศษ ให้สานักงานศึกษาธิการจังหวัดแจ้งมติของ ก.ค.ศ. ไปยังสานักงานเขตพื้นท่ี การศกึ ษา เพอื่ แจง้ ผู้ขอมีวทิ ยฐานะหรอื เล่ือนวิทยฐานะทราบ 6.2 การดาเนินการของคณะกรรมการศกึ ษาธิการจังหวัด (กศจ.) 6.2.1 กรณีที่สานกั งานเขตพื้นที่การศึกษา แจ้งว่าผู้ดารงตาแหน่งครูได้ยื่นคาขอมีวิทยฐานะ หรอื เลอ่ื นวิทยฐานะ แต่ผอู้ านวยการสถานศกึ ษามีวิทยฐานะตา่ กว่าวทิ ยฐานะทขี่ อ ให้สานักงานศึกษาธกิ ารจังหวัด เสนอ กศจ. แต่งต้งั ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดน้ันท่ีมีวิทยฐานะไม่ต่ากว่าวิทยฐานะที่ขอ เปน็ ผรู้ ว่ มประเมนิ สรปุ ผลการตรวจสอบและประเมิน ตาแหน่งครู 5 ปีการศกึ ษา 6.2.2 เมื่อ อกศจ. ได้พิจารณากลั่นกรองแล้ว ให้ กศจ. พิจารณาให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กาหนด เมือ่ มีมติเป็นประการใดแลว้ ให้สานกั งานศึกษาธิการจังหวดั ดาเนินการในสว่ นทเ่ี กี่ยวข้องตอ่ ไป 7. การดาเนินการของสานักงาน ก.ค.ศ. และ ก.ค.ศ. 7.1 การดาเนนิ การของสานักงาน ก.ค.ศ. เมอ่ื สานักงาน ก.ค.ศ. ได้รับคาขอพร้อมท้ังเอกสารหลักฐานจากสานักงานศึกษาธิการจังหวัดแล้ว ให้ดาเนนิ การ ดงั น้ี 7.1.1 ตรวจสอบเอกสารหลกั ฐานที่เกย่ี วข้องให้ถกู ตอ้ งและครบถ้วน (จานวน 4 ชุด) 1) คาขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ ตาแหน่งครู ตามแบบคาขอมีวิทย ฐานะ หรอื เลื่อนวิทยฐานะ ตาแหนง่ ครู (วฐ.1) 2) สรปุ ผลการตรวจสอบและประเมนิ ตาแหนง่ ครู (5 ปกี ารศึกษา) ตามแบบ วฐ.3 3) มติ กศจ. ครง้ั ทีเ่ กยี่ วข้องและมกี ารรบั รองสาเนาถูกตอ้ ง 4) ผลงานทางวิชาการ 5) สาเนาทะเบียนประวตั ิขา้ ราชการ ( ก.พ. 7) หรือ ก.ค.ศ. 16 ก ร ณ ีที ่ต ร ว จ ส อ บ แ ล ้ว ป ร า ก ฏ ว ่า เ อ ก ส า ร ห ล ัก ฐ า น ไ ม ่ถ ูก ต ้อ ง ค ร บ ถ ้ว น ส ม บ ูร ณ์ ให้สานักงานก.ค.ศ. แจ้งสานักงานศึกษาธิการจังหวัด จัดส่งข้อมูลหรือเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม ท้ังนี้ ก.ค.ศ. อาจเรียกใหจ้ ดั ส่งเอกสารหลกั ฐานอ่ืนเพิม่ เตมิ ก็ได้ 7.1.2 ตรวจสอบคุณสมบัติ ผลการประเมิน และเอกสารหลักฐานตามที่สานักงานศึกษาธิการจังหวัด ส่งมา ให้ถูกต้องครบถว้ นตามหลกั เกณฑ์และวิธีการนก้ี ่อนนาเสนอ ก.ค.ศ. พิจารณาตอ่ ไป 7.1.3 เมื่อ ก.ค.ศ. พิจารณา มมี ตอิ นมุ ัตหิ รอื ไม่อนุมตั ิ สาหรบั วทิ ยฐานะครเู ช่ียวชาญและวิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญพิเศษ ให้สานักงาน ก.ค.ศ. แจ้งมติ ก.ค.ศ. ไปยังสานักงานศึกษาธิการจังหวัด เพ่ือให้สานักงาน เขตพื้นทกี่ ารศกึ ษา แจ้งผขู้ อมีวทิ ยฐานะหรอื เลื่อนวทิ ยฐานะทราบ 7.2 การดาเนนิ การของ ก.ค.ศ. 7.2.1 ตั้งคณะกรรมการประเมินผลงานทางวิชาการ จากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ ความสามารถ และเช่ยี วชาญในสาขาวิชาท่จี ะตรวจและประเมนิ โดยผู้ขอ 1 ราย ใหม้ คี ณะกรรมการประเมิน จานวน 3 คน 7.2.2 กรณคี ณะกรรมการประเมนิ ผลงานทางวิชาการ พิจารณาแล้วเห็นควรให้ปรับปรุงผลงาน ทางวิชาการ ต้องมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 คน ท้ังนี้ ผลงาน
- 36 - ทางวิชาการต้องอยู่ในวิสัยท่ีสามารถปรับปรุงได้ และ ก.ค.ศ. มีมติให้ปรับปรุง ก็ให้ปรับปรุงตามข้อสังเกต ของกรรมการได้ ไม่เกนิ 2 ครัง้ ครั้งแรก ภายใน 6 เดือน และครั้งที่ 2 ภายใน 3 เดือน นับแต่วันท่ีสานักงาน ก.ค.ศ. แจ้งมติ ก.ค.ศ. ให้สานักงานศึกษาธกิ ารจงั หวดั ทราบ 7.2.3 กรณีผู้ขอไม่ส่งผลงานทางวิชาการที่ปรับปรุงตามข้อสังเกตภายในระยะเวลาท่ีกาหนด หรือสง่ พ้นระยะเวลาทก่ี าหนด ให้ถอื วา่ สละสิทธ์ิ เมอื่ ก.ค.ศ. พิจารณามีมตอิ นมุ ตั ิหรอื ไมอ่ นมุ ตั ิ ใหส้ านักงาน ก.ค.ศ. ดาเนนิ การในส่วนที่เกย่ี วข้องต่อไป คาอธิบายและตัวอย่างประกอบหลักเกณฑแ์ ละวธิ กี ารฯ ว 21/2560 ในการน้ีเพ่ือให้เกิดความชัดเจนในทางปฏิบัติ สานักงาน ก.ค.ศ. จึงได้ยกกรณีตัวอย่าง การดาเนินการในช่วงระยะเวลาเปล่ียนผ่านสาหรับการย่ืนขอมีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ ตามหลักเกณฑ์ และวธิ กี ารฯ ว 17/2552 และ ว 21/2560 ไว้ ดงั น้ี 1. การยื่นคาขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ ตามหลักเกณฑ์และวธิ ีการฯ ว 17/2552 ในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน กรณีผู้ดารงตาแหน่งครูได้ยื่นคาขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อน วิทยฐานะตามหลกั เกณฑ์และวิธีการฯ ท่ี ก.ค.ศ. กาหนดไว้เดมิ (ว 17/2552, ว 10/2554, ว 13/2556) ก่อนวันที่ หลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 21/2560 ใช้บังคับ แต่ยังดาเนินการไม่แล้วเสร็จ ให้ดาเนิน การตามหลักเกณฑ์ และวธิ ีการเดมิ น้นั ตอ่ ไปจนกว่าจะแลว้ เสร็จ “ขอ้ 1.1 กรณีคาขอรับการประเมินท่ยี ่ืนไว้เดิม ได้รับการอนุมัติ และในวันที่มีหนังสือแจ้งมติ มคี ณุ สมบตั คิ รบทจี่ ะขอเลื่อนวิทยฐานะถัดไปได้อยู่แล้ว ให้ยื่นคาขอ ภายใน 1 ปี นับแต่วันท่ีมีหนังสือแจ้งมติน้ัน แต่หากวันที่มีหนังสือแจ้งมติดังกล่าว ยังมีคุณสมบัติไม่ครบที่จะขอเล่ือนวิทยฐานะถัดไป ให้ย่ืนคาขอ ภายใน 1 ปี นบั แตว่ นั ทมี่ ีคณุ สมบตั ิครบ” ตามกรณตี ัวอยา่ ง ดังต่อไปน้ี ตวั อยา่ งท่ี 1 นาง ก ได้ย่ืนคาขอรบั การประเมนิ เพ่ือเลอื่ นเปน็ วทิ ยฐานะครูชานาญการพิเศษ ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการฯ ว 13/2556 ส่งถึงสานักงาน ก.ค.ศ. เม่ือวันที่ 20 กันยายน 2556 และได้รับหนังสือแจ้งมติอนุมัติ เมอื่ วนั ท่ี 15 กรกฎาคม 2560 โดยมผี ลอนมุ ัติย้อนหลงั ตง้ั แต่วนั ที่ 20 กนั ยายน 2556 ซ่ึง ณ วันที่ได้รับแจ้งมตินั้น ถอื ว่าเปน็ ผูด้ ารงตาแหน่งครู วิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ มาแล้วเปน็ เวลาไมน่ ้อยกว่า 3 ปี กรณนี ี้ จึงเป็นกรณีที่ มีคุณสมบัตคิ รบและสามารถขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะถดั ไปคอื วทิ ยฐานะครูเชี่ยวชาญ ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการฯ ว 17/2552 ได้อยู่แล้ว ต้ังแต่วันที่ 20 กันยายน 2559 ดังน้ัน หาก นาง ก ประสงค์จะขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะ ครเู ชี่ยวชาญ ตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารฯ ว 17/2552 ให้ยืน่ คาขอได้ภายใน 1 ปี นบั แต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2560 ซ่งึ เป็นวนั ทม่ี ีหนังสอื แจ้งมติ จะครบกาหนด 1 ปี ในวนั ที่ 14 กรกฎาคม 2561 “ขอ้ 1.2 กรณคี าขอรับการประเมินทีย่ ่ืนไวเ้ ดิม ไมไ่ ดร้ บั การอนมุ ัติ ให้ย่นื คาขอได้ ภายใน 1 ปี นับแต่วันท่ีมีหนงั สอื แจ้งมติ” ตามกรณีตวั อยา่ ง ดังตอ่ ไปน้ี ตวั อยา่ งที่ 2 นาย ค ได้ยื่นคาขอรับการประเมินเพื่อเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูเช่ียวชาญ ตามหลักเกณฑ์ และวธิ กี ารฯ ว 17/2552 ส่งถึงสานกั งาน ก.ค.ศ. เม่ือวนั ที่ 19 พฤษภาคม 2559 และไดร้ ับหนงั สือแจง้ มตไิ ม่อนุมัติ เมื่อวันท่ี 15 สิงหาคม 2560 หาก นาย ค ประสงค์จะขอเล่ือนเป็นวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการฯ ว 17/2552 อกี ครั้งหนงึ่ ให้ยื่นคาขอได้ภายใน 1 ปี นับแต่วนั ที่ 15 สิงหาคม 2560 ซง่ึ เป็นวันที่มีหนังสือ แจ้งมติ จะครบกาหนด 1 ปี ในวนั ที่ 14 สงิ หาคม 2561
- 37 - “ข้อ 3. กรณีผดู้ ารงตาแหน่งครูมีคุณสมบัติเฉพาะสาหรับวิทยฐานะที่จะขอรับการประเมิน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนท่ีสุด ที่ ศธ 0206.4/ว 17 ลง วันที่ 30 กันยายน 2552 อยู่ก่อนวันท่ีหลักเกณฑ์และวิธีการนี้ใช้บังคับ หากประสงค์จะขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือน วิทยฐานะตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ที่ ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันท่ี 30 กันยายน 2552 ให้สามารถยื่นคาขอได้ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่หลักเกณฑ์และวิธีการนี้ใช้บังคับ” ตามกรณี ตวั อย่าง ดงั ต่อไปน้ี ตวั อยา่ งท่ี 3 นางสาว ง ได้ดารงตาแหน่งครู วิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ เม่ือวันท่ี 9 มิถุนายน 2557 ซ่งึ มคี ุณสมบัติครบตามหลักเกณฑ์และวิธกี าร ว 17/2552 และสามารถย่ืนคาขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ ได้ตั้งแต่วันท่ี 9 มิถุนายน 2560 แต่ยังมิได้ยื่นคาขอไว้ก่อนวันท่ีประกาศใช้หลักเกณฑ์และวิธีการ ว 21/2560 (5 กรกฎาคม 2560) หาก นางสาว ง ประสงคจ์ ะขอเลอ่ื นเปน็ วทิ ยฐานะครูเชย่ี วชาญ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 17/2552 ให้ย่ืนคาขอได้ภายใน 1 ปี นับแต่วันท่ี 5 กรกฎาคม 2560 ซ่ึงเป็นวันท่ีหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 21/2560 ใชบ้ ังคบั กล่าวคอื ตอ้ งยืน่ คาขอ ภายในวนั ที่ 4 กรกฎาคม 2561 “ขอ้ 4. กรณีผู้ดารงตาแหน่งครูมีคุณสมบัติเฉพาะสาหรับวิทยฐานะท่ีจะขอรับการประเมิน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ท่ี ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันท่ี 30 กันยายน 2552 ตั้งแตว่ นั ท่หี ลักเกณฑ์และวธิ ีการนี้ใช้บงั คบั เปน็ ต้นไป หากประสงคจ์ ะขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือน วิทยฐานะตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ที่ ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันที่ 30 กนั ยายน 2552 ให้สามารถย่ืนคาขอได้ภายใน 1 ปี นบั แตว่ นั ทมี่ คี ณุ สมบตั คิ รบ” ตามกรณตี ัวอย่าง ดงั ตอ่ ไปน้ี ตวั อย่างที่ 4 นาย จ ดารงตาแหน่งครู วิทยฐานะครูชานาญการ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2559 อยู่ก่อน ประกาศใช้หลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 21/2560 (5 กรกฎาคม 2560) ซึ่งจะมีคุณสมบั ติในการขอเล่ือนเป็น วิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ (ครบ 1 ปี) ในวันที่ 8 กันยายน 2560 (มีคุณสมบัติหลังประกาศใช้หลักเกณฑ์ และวิธีการฯว 21/2560) หาก นาย จ ประสงค์จะขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ตามหลักเกณฑ์ และวธิ ีการฯ ว 17/2552 ใหย้ น่ื คาขอไดภ้ ายใน 1 ปี นับแต่วนั ท่ี 9 กันยายน 2560 ถงึ วนั ที่ 8 กันยายน 2561 “ข้อ 5. ผู้ดารงตาแหน่งครู ต้ังแต่วันท่ีหลักเกณฑ์และวิธีการนี้ใช้บังคับเป็นต้นไป การดาเนินการขอมีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ ให้ดาเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการน้ี เว้นแต่ผู้ที่มี กรณเี ปน็ ไปตามเงอ่ื นไขที่ ก.ค.ศ. กาหนด ตามหนงั สอื สานกั งาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.3/ว 26 ลงวนั ท่ี 30 ธันวาคม 2559 หากประสงค์จะขอมีวิทยฐานะครูชานาญการ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ที่ ศธ 0206.4/ว 17 ลงวนั ที่ 30 กันยายน 2552 ให้สามารถยืน่ คาขอได้ 1 ครั้ง ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่มีคุณสมบัติ ครบ” ตามกรณีตัวอย่าง ดงั ต่อไปน้ี ตัวอย่างท่ี 5 นางสาว น วุฒิ ค.บ. (คอมพิวเตอร์ศึกษา) ดารงตาแหน่งครู เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2560 แต่ในขณะท่ีดารงตาแหน่งครูผู้ช่วย ได้รายงานการไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโท สาขาคอมพิวเตอร์ศึกษา โดยไมใ่ ช้เวลาราชการตามระเบยี บของทางราชการ ในวนั ที่ 12 ธนั วาคม 2559 ซ่งึ เป็นไปตามเง่ือนไขที่ ก.ค.ศ. กาหนด ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.3/ว 26 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2559 (รายงานการศึกษาต่อเรียนหลังวันท่ี
- 38 - 9 ธนั วาคม 2559 ต้องเป็นวุฒิในสาขาเดียวกันกับวุฒิปริญญาตรีที่สาเร็จการศึกษามาแล้ว) หาก นางสาว น ประสงค์ จะขอมวี ิทยฐานะครชู านาญการ ตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารฯ ว 17/2552 สามารถนาคุณวุฒิดังกล่าวมาลดระยะเวลา ในการดารงตาแหนง่ เพื่อขอมีวทิ ยฐานะครูชานาญการได้ โดยให้ย่นื คาขอได้ภายใน 1 ปี นบั แตว่ ันท่ี 1 ตุลาคม 2564 ถึงวันท่ี 30 กันยายน 2565 2. การยื่นคาขอมวี ิทยฐานะหรอื เลื่อนวทิ ยฐานะ ตามหลักเกณฑ์และวิธกี ารฯ ว 21/2560 ในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน กรณีผู้ดารงตาแหน่งครูประสงค์ยื่นคาขอมีวิทยฐานะ หรือเลื่อนวิทยฐานะตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 21/2560 ตามข้อ 7 ใหด้ าเนนิ การ ดังนี้ “ข้อ 7. ในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน หากผู้ดารงตาแหน่งครูมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์นี้ ขอ้ 2.1 ระยะเวลาการดารงตาแหนง่ และขอ้ 2.3 วินยั คณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชพี แต่คณุ สมบตั ิ ตามข้อ 2.2 ช่ัวโมงการปฏิบัติงาน ข้อ 2.4 การพัฒนา และข้อ 2.5 ผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ไม่เป็นไปตามที่หลักเกณฑ์กาหนดไว้ หากประสงค์จะขอรับการประเมินตามหลักเกณฑ์และวิธีการนี้ และมีคุณสมบตั ดิ ังตอ่ ไปน้ใี หน้ าไปใชใ้ นการขอมีวทิ ยฐานะและเลอ่ื นวทิ ยฐานะได้ 7.1 มีจานวนชั่วโมงการปฏิบัติงานสะสมในตาแหน่งหรือวิทยฐานะที่ดารงอยู่ ในปจั จบุ นั ยอ้ นหลังเปน็ เวลา 5 ปี นับถึงวนั ท่ยี นื่ คาขอ ดงั น้ี 7.1.1 การขอมีวิทยฐานะครูชานาญการหรอื เลือ่ นเปน็ วิทยฐานะครชู านาญการพิเศษ ต้องมีภาระงานสอนไม่ต่ากว่าภาระงานขั้นต่าตามที่ส่วนราชการกาหนด โดยความเห็นชอบของ ก.ค.ศ. ตามหนงั สือสานักงาน ก.ค.ศ. ด่วนทส่ี ุดท่ี ศธ 0206.3/3724 - 3725 ลงวนั ที่ 21 กันยายน 2553 และต้องมีภาระ งานสอนสะสมยอ้ นหลังเปน็ เวลา 5 ปี รวมกันไมน่ ้อยกวา่ 4,000 ชั่วโมง 7.1.2 การขอเลอ่ื นเปน็ วทิ ยฐานะครูเชย่ี วชาญหรือวิทยฐานะครเู ช่ียวชาญพิเศษ ต้องมีภาระงานสอนไม่ต่ากว่าภาระงานขั้นต่าตามท่ีส่วนราชการกาหนด โดยความเห็นชอบของ ก.ค.ศ. ตามหนงั สอื สานกั งาน ก.ค.ศ. ด่วนท่สี ุดท่ี ศธ 0206.3/3724 - 3725 ลงวนั ที่ 21 กันยายน 2553 และต้องมีภาระ งานสอนสะสมย้อนหลงั เปน็ เวลา 5 ปี รวมกันไมน่ อ้ ยกว่า 4,500 ช่ัวโมง 7.2 ผ่านการพัฒนาตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารที่ ก.ค.ศ. กาหนด 7.3 มีผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ สายงานการสอน ในช่วงระยะเวลา ย้อนหลัง 5 ปีการศึกษาติดต่อกัน นับถึงวันส้ินปีการศึกษาก่อนวันที่ยื่นคาขอ ทั้งน้ี ให้ผู้ขอรับการประเมินรายงาน ผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ีเป็นรายปีการศึกษา ย้อนหลัง 5 ปีการศึกษา และรับรองข้อมูลดังกล่าว ตามแบบรายงานผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี ตาแหน่งครู รายปีการศึกษา (วฐ.2)” ตามกรณีตัวอย่าง ดงั ตอ่ ไปน้ี ตวั อย่างท่ี 1 นาง ก ได้ยน่ื คาขอรับการประเมินเพ่ือเลื่อนเปน็ วทิ ยฐานะครูชานาญการพิเศษ ตามหลักเกณฑ์ และวธิ กี ารฯ ว 21/2560 เม่อื วนั ท่ี 31 ตุลาคม 2560 โดยมีคุณสมบตั ิ ดังน้ี 1. ดารงตาแหน่งครู วิทยฐานะครชู านาญการ มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี (ตั้งแต่วันท่ี 1 มกราคม 2555 - วนั ที่ 31 ตุลาคม 2560 รวมระยะเวลา 5 ปี 10 เดอื น) 2. มีจานวนชั่วโมงการปฏิบัติงานสะสมในตาแหน่งครู วิทยฐานะครูชานาญการ ย้อนหลัง เปน็ เวลา 5 ปี นับถงึ วนั ท่ยี ื่นคาขอ ดังน้ี ปีท่ี 1 วนั ท่ี 1 พฤศจกิ ายน 2555 – 31 ตุลาคม 2556
- 39 - มีภาระงานสอนสะสม 800 ชว่ั โมงต่อปี โดยมีภาระงานสอน 18 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (ชว่ั โมงสอนตามตารางสอน 12 ช่ัวโมงต่อสัปดาห์ และภาระงานอ่ืน 6 ชัว่ โมงตอ่ สปั ดาห)์ ปที ่ี 2 วนั ท่ี 1 พฤศจกิ ายน 2556 – 31 ตลุ าคม 2557 มภี าระงานสอนสะสม 800 ชวั่ โมงต่อปี โดยมภี าระงานสอน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (ชวั่ โมงสอนตามตารางสอน 12 ช่ัวโมงตอ่ สัปดาห์ และภาระงานอน่ื 8 ชว่ั โมงต่อสปั ดาห)์ ปีท่ี 3 วันท่ี 1 พฤศจิกายน 2557 – 31 ตลุ าคม 2558 มีภาระงานสอนสะสม 900 ช่วั โมงตอ่ ปี โดยมภี าระงานสอน 21 ชว่ั โมงตอ่ สปั ดาห์ (ช่วั โมงสอนตามตารางสอน 18 ชั่วโมงต่อสปั ดาห์ และภาระงานอื่น 3 ชัว่ โมงต่อสปั ดาห์) ปีท่ี 4 วันที่ 1 พฤศจกิ ายน 2558 – 31 ตุลาคม 2559 มีภาระงานสอนสะสม 650 ชั่วโมงต่อปี โดยมีภาระงานสอน 12 ชั่วโมงตอ่ สปั ดาห์ (ชว่ั โมงสอนตามตารางสอน 12 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และไมม่ ภี าระงานอ่ืน) ปที ่ี 5 วนั ที่ 1 พฤศจกิ ายน 2559 – 31 ตลุ าคม 2560 มภี าระงานสอนสะสม 850 ชัว่ โมงต่อปี โดยมีภาระงานสอน 19 ช่ัวโมงตอ่ สัปดาห์ (ชว่ั โมงสอนตามตารางสอน 15 ชัว่ โมงต่อสัปดาห์ และภาระงานอ่นื 4 ชวั่ โมงต่อสปั ดาห)์ 3. ไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ ในระยะเวลา ยอ้ นหลัง 5 ปี นับถงึ วันที่ย่ืนคาขอ (วันที่ 1 พฤศจิกายน 2555–31 ตุลาคม 2560) 4. ผ่านการพัฒนาตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารท่ี ก.ค.ศ. กาหนด นาง ก เคยผ่านการพัฒนาก่อนแต่งตั้ง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 3/2554 เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2558 ซึ่งผลการพัฒนายังไม่หมดอายุ (หมดอายุวันท่ี 4 มิถุนายน 2561) 5. มีผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี สายงานการสอน ในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง 5 ปีการศึกษาตดิ ต่อกัน นับถงึ วนั สน้ิ ปกี ารศกึ ษาก่อนวนั ท่ยี นื่ คาขอ ทัง้ น้ี ให้ผขู้ อรับการประเมิน รายงานผลงานท่ีเกิดจาก การปฏบิ ัติหนา้ ท่ีเปน็ รายปีการศึกษา ย้อนหลัง 5 ปีการศึกษา นาง ก ต้องประเมนิ ผลงานทเี่ กิดจากการปฏิบัติหนา้ ที่ ในตาแหน่งครู ทั้ง 3 ด้าน 13 ตัวชี้วัด ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/0635 ลงวันท่ี 10 ตุลาคม 2560 ย้อนหลังรายปีการศึกษา จานวน 5 ปีการศึกษา ดังน้ี ปกี ารศึกษาท่ี 1 (ปีการศกึ ษา 2555) วนั ท่ี 1 พฤษภาคม 2555 – 31 มนี าคม 2556 ผลการประเมนิ ไม่ผ่านเกณฑ์การตดั สนิ ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ปีการศกึ ษาท่ี 2 (ปีการศึกษา 2556) วนั ท่ี 1 พฤษภาคม 2556 – 31 มนี าคม 2557 ผลการประเมินผา่ นเกณฑก์ ารตดั สิน ตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด ปีการศกึ ษาที่ 3 (ปีการศึกษา 2557) วันท่ี 1 พฤษภาคม 2557 – 31 มีนาคม 2558 ผลการประเมนิ ผา่ นเกณฑก์ ารตัดสิน ตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด ปีการศึกษาท่ี 4 (ปกี ารศึกษา 2558) วนั ที่ 1 พฤษภาคม 2558 – 31 มนี าคม 2559 ผลการประเมนิ ผ่านเกณฑก์ ารตดั สิน ตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด ปกี ารศกึ ษาที่ 5 (ปีการศกึ ษา 2559) วนั ที่ 1 พฤษภาคม 2559 – 31 มนี าคม 2560 ผลการประเมนิ ผา่ นเกณฑก์ ารตัดสิน ตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด
- 40 - สรุป นาง ก เป็นผู้มีคุณสมบัติในการขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารฯ ว 21/2560 ในชว่ งระยะเวลาเปลย่ี นผ่าน กลา่ วคอื 1. มีระยะเวลาการดารงตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะครูชานาญการ เปน็ ระยะเวลา 5 ปี 10 เดอื น 2. มีช่ัวโมงการปฏิบัติงานสะสมในตาแหน่งหรือวิทยฐานะที่ดารงอยู่ในปัจจุบัน ย้อนหลังเป็นเวลา 5 ปี นบั ถึงวนั ท่ยี ่นื คาขอ รวม 4,000 ชว่ั โมง 3. ไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ ในระยะเวลายอ้ นหลงั 5 ปี นับถงึ วันทย่ี ่ืนคาขอ (วันที่ 1 พฤศจิกายน 2555–31 ตุลาคม 2560) 4. ผ่านการพัฒนาตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารท่ี ก.ค.ศ. กาหนด โดยผ่านการพัฒนา ก่อนแต่งตั้ง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 3/2554 เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2558 ซึ่งผลการพัฒนา ยังไม่หมดอายุ (หมดอายุวันที่ 4 มิถุนายน 2561) ทั้งน้ี ในวันท่ีนาง ก ย่ืนคาขอและในวันที่สานักงานศึกษาธิการจังหวัดรับคาขอ ผลการพัฒนาตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 3/2554 ต้องยังไม่หมดอายุ เน่ืองจากการแต่งต้ังให้เลื่อน เป็นวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ มีผลไม่ก่อนวันที่สานักงานศึกษาธิการจังหวัดรับคาขอ 5. มีผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ สายงานการสอน ในช่วงระยะเวลา ย้อนหลัง 5 ปีการศึกษาติดต่อกัน นับถึงวันสิ้นปีการศึกษาก่อนวันที่ย่ืนคาขอ (ปีการศึกษา 2555 – 2559) โดยมี ผลการประเมินผ่านเกณฑ์ จานวน 4 ปีการศึกษา ตัวอยา่ งที่ 2 นาง ข ดารงตาแหน่งครู วทิ ยฐานะครูชานาญการ เม่ือวันที่ 5 กันยายน 2556 และประสงค์ ย่ืนคาขอรับการประเมินเพ่ือเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 21/2560 แต่ในวันท่ีประกาศใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าว (วันท่ี 5 กรกฎาคม 2560) มีระยะเวลาดารงตาแหน่ง 3 ปี 10 เดือน จงึ มรี ะยะเวลาการดารงตาแหน่งไม่ครบ 5 ปี ขาดอยู่ 1 ปี 2 เดือน ซึ่งจะมีระยะเวลาการดารงตาแหน่งครู วิทยฐานะ ครูชานาญการ ครบ 5 ปี ในวันที่ 4 กันยายน 2561 โดยจะต้องมีคุณสมบัติ ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการฯ ว 21/2560 ดังน้ี 1. ดารงตาแหนง่ ครู วิทยฐานะครชู านาญการ ครบ 5 ปี ในวันที่ 4 กันยายน 2561 2. ต้องมจี านวนช่ัวโมงการปฏิบัติงานสะสมในตาแหน่งครู วิทยฐานะครูชานาญการ ย้อนหลัง เป็นเวลา 5 ปี นับถึงวนั ที่ย่ืนคาขอ ดังนี้ ปีที่ 1 วนั ที่ 5 กันยายน 2556 – 4 กนั ยายน 2557 มีภาระงานสอนสะสม 850 ชัว่ โมงตอ่ ปี โดยมภี าระงานสอน 18 ช่ัวโมงต่อสปั ดาห์ (ชั่วโมงสอนตามตารางสอน 12 ชว่ั โมงตอ่ สปั ดาห์ และภาระงานอ่นื 6 ชว่ั โมงต่อสปั ดาห์) ปีท่ี 2 วันท่ี 5 กันยายน 2557 – 4 กันยายน 2558 มภี าระงานสอนสะสม 720 ชัว่ โมงตอ่ ปี โดยมีภาระงานสอน 18 ชวั่ โมงตอ่ สปั ดาห์ (ชั่วโมงสอนตามตารางสอน 18 ช่ัวโมงตอ่ สัปดาห์ และไมม่ ีภาระงานอน่ื ) ปีที่ 3 วนั ท่ี 5 กนั ยายน 2558 – 4 กนั ยายน 2559 มีภาระงานสอนสะสม 950 ช่วั โมงตอ่ ปี โดยมีภาระงานสอน 20 ช่ัวโมงตอ่ สปั ดาห์ (ชั่วโมงสอนตามตารางสอน 14 ชว่ั โมงตอ่ สัปดาห์ และภาระงานอืน่ 6 ชว่ั โมงต่อสปั ดาห์)
- 41 - ปที ่ี 1 - 3 เป็นการปฏิบัติงานอยู่ก่อนท่ีหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 21/2560 ประกาศใช้ ต้องมภี าระงานสอนไมต่ ่ากว่าภาระงานขนั้ ต่าตามที่ส่วนราชการกาหนดโดยความเห็นชอบของ ก.ค.ศ. ตามหนังสือ สานกั งาน ก.ค.ศ. ด่วนท่ีสดุ ที่ ศธ 0206.3/3724-3725 ลงวันที่ 21 กันยายน 2553 ปที ี่ 4 วันที่ 5 กันยายน 2559 – 4 กนั ยายน 2560 (เป็นช่วงเปล่ียนผ่านในการประกาศใช้ หลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารฯ ว 21/2560) ช่วงที่ 1 วันท่ี 5 กันยายน 2559 – 4 กรกฎาคม 2560 (10 เดอื น) มีภาระงานสอนสะสม 576 ช่ัวโมง โดยมีภาระงานสอน 18 ช่ัวโมงต่อสัปดาห์ (ช่ัวโมงสอนตามตารางสอน 14 ช่ัวโมงต่อสัปดาห์ และมภี าระงานอ่นื 4 ช่วั โมง) ชว่ งที่ 2 วันท่ี 5 กรกฎาคม 2560 – 4 กนั ยายน 2560 (2 เดือน) มชี ัว่ โมงการปฏิบัตงิ าน รวม 154 ชั่วโมง โดยมีชว่ั โมงสอนตามตารางสอน 14 ช่ัวโมงต่อสัปดาห์ (112 ชั่วโมง) มีช่ัวโมงการปฏิบัติงานอื่น 32 ช่ัวโมง และมชี ัว่ โมงการมสี ว่ นรว่ มในชุมชนการเรียนรู้ทางวชิ าชีพ จานวน 10 ชั่วโมง สรปุ ปีที่ 4 มีช่ัวโมงการปฏิบตั ิงาน รวม 730 ชัว่ โมงต่อปี ปีที่ 5 วันท่ี 5 กันยายน 2560 – 4 กันยายน 2561 (เป็นการปฏิบัติงานหลังวันท่ี หลักเกณฑ์และวธิ ีการฯ ว 21/2560 ประกาศใชแ้ ล้ว) มีช่ัวโมงการปฏิบัติงานรวม 850 ชั่วโมงต่อปี โดยมีช่ัวโมงสอนตามตารางสอน 19 ช่ัวโมงต่อสัปดาห์ (760 ช่ัวโมงต่อปี) มีช่ัวโมงการปฏิบัติงานอื่น 40 ช่ัวโมงต่อปี และมีชว่ั โมงการมีสว่ นร่วมในชมุ ชนการเรยี นรทู้ างวชิ าชีพ จานวน 50 ช่ัวโมงต่อปี ตามหลักเกณฑ์ ว 21/2560 ต้องมีช่ัวโมงการปฏิบัติงานไม่น้อยกว่า 800 ช่ัวโมงต่อปี โดยในชั่วโมงการปฏิบัติงานต้องมีชั่วโมงสอนตามตารางสอนตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด และมีชั่วโมงการมีส่วนร่วม ในชมุ ชนการเรียนรูท้ างวชิ าชพี ไมน่ ้อยกวา่ 50 ช่วั โมงตอ่ ปี 3. ไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ ในระยะเวลา ยอ้ นหลัง 5 ปี นับถงึ วนั ทย่ี ่ืนคาขอ (วันท่ี 5 กันยายน 2556–4 กันยายน 2561) 4. ผ่านการพัฒนาตามหลักเกณฑแ์ ละวิธีการที่ ก.ค.ศ. กาหนด นาง ข เคยผา่ นการพัฒนาก่อนแต่งตั้ง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 3/2554 เม่ือวันท่ี 5 มิถนุ ายน 2558 ซงึ่ ผลการพฒั นาหมดอายุเม่ือวันท่ี 4 มิถุนายน 2561 นาง ข ย่ืนขอรับการประเมินเพื่อเล่ือนเป็น วิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ เมือ่ วนั ท่ี 4 กนั ยายน 2561 ดังนน้ั นาง ข ต้องเข้ารับการพัฒนาตามหลกั สตู รท่สี ถาบนั คุรพุ ฒั นารับรอง จานวน 20 ชัว่ โมง ตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารฯ ว 22/2560 เพ่อื นามาใชเ้ ป็นคณุ สมบัติในการขอเล่อื นเป็นวทิ ยฐานะครชู านาญพเิ ศษ 5. มีผลงานที่เกดิ จากการปฏบิ ัติหนา้ ที่ สายงานการสอน ในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง 5 ปีการศึกษา ติดต่อกัน นับถึงวันส้ินปีการศึกษาก่อนวันท่ีย่ืนคาขอ ท้ังนี้ ให้ผู้ขอรับการประเมิน รายงานผลงานท่ีเกิดจาก การปฏิบตั หิ นา้ ท่เี ปน็ รายปีการศึกษา ยอ้ นหลงั 5 ปกี ารศกึ ษา นาง ข ตอ้ งประเมินผลงานท่เี กดิ จากการปฏิบตั หิ นา้ ท่ี ในตาแหน่งครู ทั้ง 3 ด้าน 13 ตัวชี้วัด ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/0635 ลงวันท่ี 10 ตุลาคม 2560 ในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง 5 ปกี ารศกึ ษาติดตอ่ กัน นบั ถงึ วนั สนิ้ ปกี ารศกึ ษากอ่ นวันท่ยี นื่ คาขอ ดงั นี้ ปีการศึกษาท่ี 1- 4 ผู้ดารงตาแหน่งครูไม่เคยได้รับการประเมินรายปีการศึกษา ตาม ว 21/2560 มากอ่ น ดงั นน้ั ในปีทีจ่ ะยน่ื ขอรับการประเมินให้ผู้ดารงตาแหน่งครู รวบรวมผลงานที่เกิดจาก
- 42 - การปฏิบัติหน้าที่และประเมินตนเองย้อนหลังเป็นรายปีการศึกษา จานวน 4 ปีการศึกษา และเสนอให้ ผู้อานวยการสถานศกึ ษาพิจารณาต่อไป ปกี ารศกึ ษาท่ี 1 (ปีการศึกษา 2556) วนั ท่ี 1 พฤษภาคม 2556 – 31 มนี าคม 2557 ผลการประเมินไม่ผา่ นเกณฑ์การตดั สนิ ตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด ปีการศึกษาท่ี 2 (ปีการศึกษา 2557) วนั ท่ี 1 พฤษภาคม 2557 – 31 มีนาคม 2558 ผลการประเมนิ ผ่านเกณฑ์การตัดสนิ ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ปีการศกึ ษาที่ 3 (ปีการศกึ ษา 2558) วนั ที่ 1 พฤษภาคม 2558 – 31 มนี าคม 2559 ผลการประเมินไม่ผ่านเกณฑก์ ารตดั สิน ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ปีการศึกษาที่ 4 (ปกี ารศกึ ษา 2559) วนั ที่ 1 พฤษภาคม 2559 – 31 มีนาคม 2560 ผลการประเมนิ ผ่านเกณฑก์ ารตดั สิน ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ปีการศึกษาท่ี 5 (ปีการศกึ ษา 2560) วนั ที่ 1 พฤษภาคม 2560 – 31 มนี าคม 2561 ผลการประเมนิ ผา่ นเกณฑก์ ารตดั สนิ ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด เน่ืองจากในปีการศึกษาท่ี 5 ก.ค.ศ. ประกาศใช้หลกั เกณฑ์และวธิ ีการฯ ว 21/2560 เม่อื วนั ที่ 5 กรกฎาคม 2560 ดงั น้นั เม่อื สิ้นปีการศกึ ษาที่ 5 ให้ผู้ดารงตาแหน่งครู ประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ของตนเอง ตาม ว 21/2560 เม่อื ผดู้ ารงตาแหนง่ ครูมีคณุ สมบัตคิ รบตามหลักเกณฑ์ ว 21/2560 ในช่วงระยะเวลา เปล่ียนผ่านและประสงค์จะขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษให้นาผ ลการประเมินผลงานท่ีเกิดจาก การปฏิบตั ิหน้าที่ของตนเอง ในปที ก่ี ารศึกษาที่ 1 – 5 เสนอใหผ้ อู้ านวยการสถานศกึ ษาพจิ ารณาดาเนนิ การต่อไป สรุป นาง ข จะเป็นผู้มีคุณสมบัติในการขอเล่ือนเป็นวิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ ไม่ก่อนวันท่ี 4 กันยายน 2561 ตามหลกั เกณฑ์และวธิ ีการฯ ว 21/2560 ในชว่ งระยะเวลาเปล่ยี นผ่าน กลา่ วคอื 1. มีระยะเวลาการดารงตาแหน่งครู วทิ ยฐานะครชู านาญการ เป็นระยะเวลา 5 ปี 2. มีชั่วโมงการปฏิบัติงานสะสมในตาแหน่งหรือวิทยฐานะท่ีดารงอยู่ในปัจจุบัน ยอ้ นหลงั เป็นเวลา 5 ปี นบั ถงึ วนั ที่ยื่นคาขอ รวม 4,100 ช่ัวโมง 3. ไมเ่ คยถกู ลงโทษทางวนิ ยั คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวชิ าชีพ ในระยะเวลา ยอ้ นหลงั 5 ปี นบั ถงึ วันท่ีย่ืนคาขอ (วันที่ 5 กันยายน 2555 - 4 กันยายน 2561) 4. ผ่านการพัฒนาก่อนแต่งตั้ง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 3/2554 เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2558 ซ่ึงผลการพัฒนาหมดอายุเม่ือวันที่ 4 มิถุนายน 2561 ดังนั้น นาง ข ต้องเข้ารับการพัฒนา ตามหลักสตู รทสี่ ถาบันครุ ุพัฒนารบั รอง จานวน 20 ชั่วโมง ตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการฯ ว 22/2560 เพ่ือนามาใช้ เป็นคุณสมบตั ใิ นการขอเลือ่ นเป็นวทิ ยฐานะครูชานาญพิเศษ 5. มีผลงานที่เกิดจากการปฏิบัตหิ นา้ ที่ สายงานการสอน ในช่วงระยะเวลาย้อนหลงั 5 ปีการศึกษาติดต่อกนั นับถงึ วันสนิ้ ปีการศกึ ษากอ่ นวันทีย่ ืน่ คาขอ (ปีการศึกษา 2555 – 2559) โดยมผี ลการประเมนิ
- 43 -
Search
Read the Text Version
- 1 - 45
Pages: