Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรต้านทุจริต ป.4

หลักสูตรต้านทุจริต ป.4

Published by Yutthakan Chiatrakun, 2023-07-07 14:15:01

Description: หลักสูตรต้านทุจริต ป.4

Search

Read the Text Version

- 49 - ๒) เกณฑ์การให้คะแนนผลงาน ประเด็นทปี่ ระเมนิ คะแนน ๑. ผลงานตรงกับจุดประสงค์ที่ กาหนด ๔๓๒๑ ๒. ผลงานมีความถกู ต้องสมบูรณ์ ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคล้อง ผลงานไม่ ๓. ผลงานมคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ จดุ ประสงคท์ ุก กบั จุดประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ สอดคลอ้ งกบั ๔. ผลงานมคี วามเป็นระเบียบ ประเด็น เป็นส่วนใหญ่ บางประเด็น จดุ ประสงค์ เนื้อหาสาระของ เน้ือหาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ ผลงานถูกต้อง ผลงานถูกต้องเป็น ผลงานถูกต้องเป็น ผลงานไม่ถูกต้อง ครบถว้ น ส่วนใหญ่ บางประเดน็ เปน็ สว่ นใหญ่ ผลงานแสดงออก ผลงานมีแนวคดิ ผลงานมาความ ผลงานไมแ่ สดง ถึงความคิด แปลกใหม่แตย่ งั ไม่ นา่ สนใจ แตย่ ังไม่ แนวคดิ ใหม่ สรา้ งสรรคแ์ ปลก เป็นระบบ มีแนวคดิ แปลก ใหมแ่ ละเป็น ใหม่ ระบบ ผลงานมคี วามเป็น ผลงานส่วนใหญม่ ี ผลงานมคี วามเปน็ ผลงานส่วนใหญ่ ระเบยี บแสดงออก ความเป็นระเบียบ ระเบียบแตม่ ี ไมเ่ ป็นระเบยี บ ถึงความประณีต แตย่ งั มี ข้อบกพร่อง และมขี ้อบกพร่อง ข้อบกพร่อง บางสว่ น ๓) เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ นกั เรียนได้คะแนน ๑๓ คะแนนขึ้นไปร้อยละ ๘๐ ถอื วา่ ผา่ น ๖. บันทกึ หลังการจัดการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ลงชอ่ื .................................................ครผู ้สู อน (.................................................)

- 50 - แบบประเมินผลงานนักเรียน ชอ่ื .....................................................................................................................ช้นั ..........................เลขท่ี.................. หนว่ ยการเรยี นรทู้ .่ี ........กิจกรรม............................................................. คาช้แี จง ให้ผ้ปู ระเมินใส่เครื่องหมาย  ลงในชอ่ งท่ตี รงกับระดับคะแนน ประเด็นทป่ี ระเมนิ ผูป้ ระเมนิ ๑. ตรงจุดประสงค์ท่ีกาหนด ตนเอง เพือ่ น ครู ๒. มคี วามถกู ต้อง ๓. มคี วามคิดสร้างสรรค์ ๑๒๓๔๑๒๓๔๑๒๓๔ ๔. มีความเป็นระเบียบ รวม รวมทกุ รายเฉกลา่ียร ลงชื่อผูป้ ระเมิน................................................(ตนเอง) ลงช่ือผู้ประเมิน................................................(เพื่อน) ลงช่อื ผ้ปู ระเมนิ ................................................(คร)ู

- 51 - เกณฑ์การให้คะแนนผลงาน ประเดน็ ที่ประเมนิ คะแนน ๑. ผลงานตรงกับจุดประสงค์ที่ กาหนด ๔๓๒๑ ๒. ผลงานมีความถูกต้องสมบูรณ์ ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคล้อง ผลงานไม่ ๓. ผลงานมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ จุดประสงคท์ ุก กับจดุ ประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ สอดคลอ้ งกบั ๔. ผลงานมคี วามเปน็ ระเบียบ ประเดน็ เป็นส่วนใหญ่ บางประเด็น จุดประสงค์ เนือ้ หาสาระของ เน้ือหาสาระของ เนือ้ หาสาระของ เน้ือหาสาระของ ผลงานถกู ต้อง ผลงานถูกต้องเปน็ ผลงานถกู ต้องเป็น ผลงานไม่ถูกตอ้ ง ครบถว้ น ส่วนใหญ่ บางประเดน็ เป็นส่วนใหญ่ ผลงานแสดงออก ผลงานมแี นวคดิ ผลงานมาความ ผลงานไม่แสดง ถึงความคิด แปลกใหม่แต่ยงั ไม่ นา่ สนใจ แต่ยงั ไม่ แนวคดิ ใหม่ สร้างสรรคแ์ ปลก เป็นระบบ มีแนวคิดแปลก ใหมแ่ ละเป็น ใหม่ ระบบ ผลงานมคี วามเปน็ ผลงานส่วนใหญม่ ี ผลงานมีความเปน็ ผลงานส่วนใหญ่ ระเบยี บแสดงออก ความเป็นระเบยี บ ระเบียบแต่มี ไม่เป็นระเบียบ ถงึ ความประณตี แต่ยงั มี ข้อบกพร่อง และมีข้อบกพร่อง ขอ้ บกพร่อง บางส่วน เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ นกั เรยี นได้คะแนน ๑๓ คะแนนขึ้นไปร้อยละ ๘๐ ถอื วา่ ผ่าน

- 52 - แบบประเมินพฤติกรรมในการทางานเป็นรายบุคคล ผลงาน/กจิ กรรมที่ ........ เรื่อง ............................................................................................ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ................................................................................................................ คาชแ้ี จง สังเกตพฤตกิ รรมในการปฏิบตั ิกิจกรรมของนกั เรยี น แลว้ เขยี นเครอื่ งหมาย  ลงในช่องรายการ พฤติกรรมท่ีนักเรียนปฏบิ ตั ิ เลขท่ี รายการพฤติกรรม ระดับ คุณภาพ สนใจในการทางาน ๔๓๒๑ ตอบคาถามตรงประเด็น ชอ่ื –สกุล เสนอความ ิคดเ ็หน รับฟังความคิดเห็นของผู้ ่ือน ใ ้หความ ่ชวยเหลือผู้อื่น มุ่ง ั่มนทางานให้สาเร็จ ประเมินและปรับปรุงงานด้วยความเ ็ตมใจ เคารพ ้ขอตกลงของก ่ลุม ทาตามห ้นาที่ ี่ทได้รับมอบหมาย พอใจ ักบความสาเ ็รจของงาน รวมคะแนน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ เกณฑ์การประเมิน ๑. การใหค้ ะแนน  ให้ ๑ คะแนน ๒. การสรุปผลการประเมนิ ให้เป็นระดบั คุณภาพ ๔, ๓, ๒, ๑ กาหนดเกณฑไ์ ด้ตามความ เหมาะสมหรืออาจใช้ เกณฑ์ดงั น้ี ๙–๑๐ คะแนน = ๔ (ดมี าก) ๗–๘ คะแนน = ๓ (ดี) ๕–๖ คะแนน = ๒ (พอใช)้ ๐–๔ คะแนน = ๑ (ควรปรับปรงุ )

- 53 - ใบงาน หวั หน้าหอ้ ง คาช้ีแจง : ใหน้ ักเรียนวเิ คราะห์ประเดน็ ดังตอ่ ไปนี้ ๑. นกั เรยี นมีความคดิ เหน็ อย่างไรเกีย่ วกบั พฤติกรรมของปันปนั ...................................................................................................................... ........................................................... ...................................................................................................................... ........................................................... ...................................................................................................................... ........................................................... ...................................................................................................................... ........................................................... ๒. ถ้านกั เรียนเป็นเพอ่ื นของปันปันจะช่วยแก้ไขพฤติกรรมของปนั ปันได้อยา่ งไร ...................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. ........................................................... ...................................................................................................................... ........................................................... ...................................................................................................................... ........................................................... ...................................................................................................................... ........................................................... ...................................................................................................................... ...........................................................

- 54 - แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยที่ ๒ ชอื่ หนว่ ย ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจริต ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ เวลา ๒ ชว่ั โมง แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๓ เรอ่ื ง การสอบ ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต ๑.๒ ปฏิบตั ิตนเป็นผูล้ ะอายและไม่ทนตอ่ การทุจรติ ทุกรูปแบบ ๑.๓ ตระหนกั และเหน็ ความสาคญั ของการต่อตา้ นและการปอ้ งกันการทจุ รติ ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๒.๑ นักเรยี นสามารถบอกกฎระเบยี บในการสอบได้ ๒.๒ นักเรียนสามารถบอกการกระทาท่ไี มเ่ หมาะสมในขณะทาการสอบได้ ๒.๓ นักเรียนสามารถบอกผลเสยี ของการทุจริตในการสอบได้ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ กฎระเบียบในการสอบ ผู้เขา้ สอบต้องปฏบิ ัติดังตอ่ ไปนี้ ๑) การแต่งกาย ถ้าเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาต้องแต่งเครื่องแบบนักเรียนหรือนักศึกษาแล้วแต่กรณี ถ้า เปน็ ผู้สมคั รสอบต้องแตง่ กายใหส้ ุภาพเรยี บร้อยตามประเพณีนิยม ๒) ไปถึงสถานที่สอบก่อนเวลาเริ่มสอบตามสมควร ผู้ใดไปไม่ทันเวลา ลงมือสอบวิชาใด ไม่มีสิทธิเข้าสอบ วิชาน้ัน แต่สาหรับการสอบวิชาแรกในตอนเช้าของ แต่ละวัน ผู้ใดเข้าห้องสอบหลังจากเวลาลงมือสอบแล้ว ๑๕ นาที จะไม่ได้รับอนุญาตให้สอบวิชาน้ัน เว้นแต่มีเหตุความจาเป็นให้อยู่ในดุลพินิจของประธานดาเนินการสอบ พจิ ารณาอนุญาต ๓) ไม่เข้าหอ้ งสอบกอ่ นได้รับอนญุ าต ๔) ไมน่ าเอกสาร เครื่องอเิ ล็กทรอนกิ ส์หรอื เครอื่ งมือสอื่ สารใด เขา้ ไป ในหอ้ งสอบ ๕) นง่ั ตามที่กาหนดให้ จะเปลย่ี นทน่ี ั่งกอ่ นไดร้ บั อนญุ าตไม่ได้ ๖) ปฏิบัติตามระเบยี บเกี่ยวกับการสอบ และคาส่งั ของผกู้ ากับการสอบ โดยไม่ทุจรติ ในการสอบ ๗) มิให้ผู้เข้าสอบคนอื่นคัดลอกคาตอบของตน รวมทั้งไม่พูดคุยกับผู้ใดในเวลาสอบ เม่ือมีข้อสงสัยหรือมี เหตจุ าเปน็ ใหแ้ จ้งตอ่ ผูก้ ากับการสอบ ๘) ประพฤติตนเปน็ สภุ าพชน ๙) ผู้ใดสอบเสรจ็ ก่อน ผูน้ น้ั ตอ้ งออกไปห่างจากหอ้ งสอบ และไม่กระทาการใด อันเป็นการรบกวนแก่ผู้ที่ ยังสอบอยู่ แตท่ ั้งนผ้ี เู้ ขา้ สอบทกุ คนจะออกจากหอ้ งสอบก่อนเวลา ๒๐ นาที หลงั จากเร่ิมสอบวิชานัน้ ไม่ได้ ๑๐) ไม่นากระดาษสาหรับเขยี นคาตอบทีผ่ ู้กากับการสอบแจกให้ออกไปจากห้องสอบ ๓.๒ สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น ๑) ความสามารถในการสือ่ สาร ๒) ความสามารถในการคิด

- 55 - ๓) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๓.๓ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ซ่อื สตั ย์สุจรติ ๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ขนั้ ตอนการเรียนรู้ ๑) ชั่วโมงที่๑ ๑. ครูสนทนาเก่ียวกับการเรียนการสอบของนักเรียน เช่น ในการเรียนจะต้องมีการทดสอบเพ่ือให้ นักเรียนได้รู้ความสามารถของตนเอง การสอบมีหลายคร้ัง ได้แก่ การสอบท้ายบทเรียน การสอบกลางภาคเรียน เป็นตน้ ๒. ครูแนะนาเรอ่ื ง การทดสอบประเภทตา่ ง เช่น ๒.๑ การสอบภายในโรงเรียน ๒.๒ การสอบแขง่ ขันประเภทต่าง ๒.๓ การสอบเข้าทางาน ๓. ครูแนะนาเรื่องกฎระเบียบกติกาในการเข้าห้องสอบ ได้แก่ ไม่นาหนังสือเข้าห้องสอบ ไม่ส่งเสียงดัง เปน็ ตน้ ๔. ครใู ห้นกั เรียนชมวีดที ศั น์ เรื่อง คะแนนเต็ม ๕. ครใู ห้นกั เรยี นวพิ ากษ์วิจารณเ์ ก่ียวกับเรอ่ื งคะแนนเตม็ ตามประเด็นดงั ต่อไปน้ี ๕.๑ ทาไมแจ็คจึงคดิ เงินผิด ๕.๒ ผลสุดทา้ ยของเร่อื งแจค็ เปน็ อย่างไร ๖. ครใู ห้นกั เรยี นช่วยกันบอกพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในขณะทาการสอบ เชน่ เคาะโตะ๊ คุยกัน เปน็ ตน้ ๗. ครูใหน้ ักเรยี นช่วยกนั บอกผลเสยี ของการทุจรติ ในการสอบ เชน่ ถกู ทาโทษ เป็นต้น ๘. ให้นักเรียนทาใบงานที่ ๑ เรอื่ ง การสอบ ตามประเดน็ ดงั ตอ่ ไปนี้ ๘.๑ กฎระเบียบในการสอบ ๘.๒ การกระทาท่ไี ม่เหมาะสมในการสอบ ๒) ชว่ั โมงที่๒ ๑. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มเป็น ๕ กลุ่ม หรือตามความเหมาะสม โดยให้ศึกษาค้นคว้าจากห้องสมุด และอินเตอรเ์ นต็ เกย่ี วกับเรอื่ งการทจุ รติ ในการสอบประเภทตา่ ง ๒. ครูให้นกั เรยี นนาเสนอข่าว/เหตุการณจ์ ากการศกึ ษาคน้ ควา้ หน้าชั้นเรียน แล้วนาไปจัดป้ายนิเทศ ภายในบรเิ วณโรงเรียน ๓. ครใู ห้นกั เรียนรอ้ งเพลง “ความซ่ือสัตย์” และสรปุ ใจความสาคัญของเนื้อเพลง ๔. ให้นักเรยี นบอกผลเสียของการทุจรติ โดยเขียนลงในใบงานท่ี ๒ แลว้ นาเสนอหน้าช้นั เรียน ๕. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรุปเกยี่ วกบั ผลเสียของการทุจริตในการสอบ ๔.๒ สอ่ื การเรยี นรู้ ๑. เพลง ความซือ่ สตั ย์ ๒. วีดีทศั น์ เร่อื ง คะแนนเต็ม

- 56 - ๓. ใบงานท่ี ๑ เร่ือง การสอบ ๔. ใบงานท่ี ๒ เรือ่ ง ผลเสียของการทุจริตในการสอบ ๕. การประเมินผลการเรียนรู้ ๕.๑ วิธีการประเมิน ๑. ตรวจผลงานใบงานที่ ๑ และใบงานท่ี ๒ ๒. สังเกตพฤติกรรม ซื่อสัตย์สุจรติ ๕.๒ เครอื่ งมอื ท่ีใชใ้ นการประเมิน ๑. แบบใหค้ ะแนนการตรวจผลงานใบงานที่ ๑ และใบงานท่ี ๒ ๒. แบบสังเกตพฤตกิ รรม ซอื่ สัตย์สจุ ริตในการทาข้อสอบ ๕.๓ เกณฑ์การตดั สนิ นักเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ ๘๐ ขนึ้ ไป ๖. บนั ทึกหลังการจดั การเรียนรู้ .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ................................................ ครผู สู้ อน (...........................................................)

- 57 - ภาคผนวก เพลง ความซอื่ สตั ย์ ความซอื่ สัตย์เปน็ สมบัติของผดู้ ี หากวา่ ใครไมม่ ีชาตินเี้ อาดีไมไ่ ด้ มีความรทู้ ่วมหัว เอาตวั ไมร่ อดถมไป คดโกงแล้วใครจะรบั ไว้ใหร้ ่วมงานเอย จะรับไวใ้ หร้ ่วมงานเอย ความซื่อสตั ยเ์ ป็นสมบัติของผดู้ ี หากว่าใครไม่มีชาตินเ้ี อาดีไมไ่ ด้ มคี วามรู้ท่วมหัว เอาตวั ไมร่ อดถมไป คดโกงแลว้ ใครจะรบั ไว้ให้ร่วมงานเอย จะรับไว้ให้รว่ มงานเอย

- 58 - ใบงานท่ี ๑ เรอ่ื ง การสอบ ช่อื .....................................................................................................................ชนั้ ..........................เลขท่.ี ................. คาช้แี จง ให้นกั เรียนตอบคาถามต่อไปนี้ ๑. กฎระเบยี บในการสอบมีอะไรบ้าง (ตอบอยา่ งน้อย ๓ ข้อ) ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________ ๒. การกระทาที่ไม่เหมาะสมในการสอบมีอะไรบา้ ง (ตอบอยา่ งน้อย ๓ ข้อ) ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ____________________________________________________________

- 59 - ใบงาน ท่ี ๒ เรือ่ ง ผลเสยี ของการทุจรติ ในการสอบ ช่ือ.....................................................................................................................ช้นั ..........................เลขท.ี่ ................. คาชีแ้ จง ให้นักเรียนบอกผลเสยี ของการทจุ รติ ในการสอบ อย่างน้อย ๓ ขอ้ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ____________________________________

- 60 - แบบสงั เกตพฤติกรรม เร่ือง ซื่อสตั ย์ สจุ ริต ในการทาข้อสอบ คาช้ีแจง การบันทึกให้ทาเครื่องหมาย  ลงในช่องทต่ี รงกบั พฤตกิ รรมทเี่ กดิ ขน้ึ จริง รายการ เลขที่ ช่อื - สกลุ ไมล่ อก ไมน่ า ไม่จด ไมย่ มื ทา สรุปผล ขอ้ สอบ เครอ่ื งมอื คาตอบ อุปกรณ์ ขอ้ สอบ การประเมิน ผู้อืน่ สือ่ สาร เขา้ ห้อง ผู้อ่ืน เสร็จ เข้าห้อง สอบ ภายใน ผา่ น ไม่ผา่ น เวลาที่ สอบ กาหนด เกณฑ์การประเมนิ ผ่านต้ังแต่ ๓ รายการ ถือวา่ ผ่าน ผ่าน ๒ รายการ ถือวา่ ไมผ่ ่าน ลงชอ่ื ผู้ประเมนิ ( ) ///

- 61 - แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยท่ี ๒ ชอื่ หน่วย ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจริต ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ เวลา ๒ ชว่ั โมง แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๔ เรอื่ ง การแตง่ กาย ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.1 มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั ความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ รติ ๑.๒ ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผู้ละอายและไม่ทนต่อการทุจริตทกุ รูปแบบ ๑.๓ ตระหนกั และเห็นความสาคญั ของการตอ่ ต้านและป้องกนั การทุจริต ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 นกั เรยี นสามารถบอกลักษณะของการแต่งกายทเ่ี หมาะสมถูกต้องตามกาลเทศะได้ 2.2 นกั เรยี นสามารถบอกลักษณะของการแตง่ กายที่ถกู ต้องตามระเบียบของสถานศึกษาได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ความรู้ - การแต่งกายตามกาลเทศะ การแตง่ กายเปน็ มารยาทท่ัว ไปซ่ึงทุกคนต้องปฏิบัติเหมือนกันตามแต่โอกาสท่ีเหมาะสม เช่น แต่งกาย ไปทางาน, ไปวดั , ทาบญุ , ไปเล่นกฬี า และงานพธิ ตี า่ ง หรอื การแต่งกายทอี่ ย่ใู นเครอื่ งแบบของนักเรียน นักศึกษา ทหาร ตารวจ บรษิ ัทห้างร้านทก่ี าหนดใหพ้ นักงานแต่งกาย เป็นต้น หากบุคคลใดสามารถปฏิบัติได้ตามกฎระเบียบ ท่กี าหนดถือวา่ เป็นผู้มมี ารยาทในการแต่งกายทด่ี ี 3.2 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 1) ความสามารถในการสอ่ื สาร 2) ความสามารถในการคิด ๓) ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 3.3 คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ๑) ความมวี ินยั ๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 4.1 ขน้ั ตอนการเรยี นรู้ ๑) ชั่วโมงท่ี ๑ ๑. ครแู ละนักเรยี นสนทนาเกีย่ วกบั การแตง่ กายของคนในสังคม เช่น การแต่งกายไปทางาน การแต่ง กายไปร่วมกิจกรรมทางสงั คม เปน็ ต้น ๒. ครูใหน้ ักเรยี นศกึ ษาใบความรู้ที่ ๑ เรื่อง การแตง่ กายทเี่ หมาะสม ๓. ให้นักเรียนดูรูปภาพการแต่งกายท่ีเหมาะสมในที่สาธารณะและสถานที่ราชการแล้วช่วยกันบอก ลักษณะของการแต่งกายท่ีเหมาะสมถูกต้องตามกาลเทศะ เช่น แต่งกายไปทาบุญควรใส่สีขาวหรือสีอ่อน ผู้หญิง สว่ นมากจะนงุ่ ผ้าไทย เปน็ ตน้

- 62 - ๔. ครูให้นักเรียนดูข่าว เรื่อง “จับหญิงสาว แต่งกายไม่สุภาพเล่นน้าสงกรานต์” เกี่ยวกับการแต่งกายไม่ เหมาะสม ๕. ครูแบ่งนักเรียนเป็น ๕ กลุ่ม หรือตามความเหมาะสม แล้วให้นักเรียนเขียนวิพากษ์วิจารณ์พร้อม ท้งั นาเสนอหน้าช้ันเรียน ตามประเด็นต่อไปน้ี ๕.๑ การแต่งกาย ๕.๒ สถานที่ ๕.๓ ความเหมาะสม ๖. ครูถามนักเรียนว่าถ้านักเรียนเป็นบุคคลในข่าว นักเรียนจะรู้สึกอย่างไร และจะทาอย่างบุคคลใน ข่าวหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด ๗. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเก่ียวกับการแต่งกายเหมาะสมในที่สาธารณะ เช่น การแต่งกายไป สถานท่รี าชการ ผหู้ ญงิ ตอ้ งแต่งกายด้วยกระโปรง ไม่สวมรองเทา้ แตะ เปน็ ตน้ ๒) ช่วั โมงที่ ๒ ๑. ครูให้นักเรียนศึกษาใบความรู้ท่ี ๒ และให้นักเรียนท่ีแต่งกายเรียบร้อยถูกต้องตามระเบียบของ โรงเรียน (เครื่องแบบนักเรียน/เครื่องแบบลูกเสือ-เนตรนารี) ออกมายืนท่ีหน้าช้ันเรียน แล้วแนะนาการแต่งกายที่ ถกู ตอ้ งว่ามีอะไรบา้ ง ๒. ครใู ห้นกั เรยี นทแี่ ต่งกายเคร่อื งแบบไมค่ รบออกมายืนที่หน้าชั้นเรียน แล้วให้นักเรียนคนอ่ืนช่วยกัน บอกวา่ ขาดเคร่ืองหมายอะไรบา้ ง ๓. ครูช้ีแนะให้นักเรียนเห็นถึงความสาคัญของการแต่งกายที่ถูกต้องตามระเบียบของโรงเรียน ว่า นักเรียนชายแต่งกายอยา่ งไร และนกั เรยี นหญงิ แตง่ กายอยา่ งไร ๔. ครูสัมภาษณ์นักเรียนท่ีแต่งกายด้วยเครื่องแบบที่ถูกต้องว่ามีความรู้สึกอย่างไรและมีผลดีอย่างไร ต่อตนเองและสว่ นรวม ๕. ครูสัมภาษณ์นักเรียนที่แต่งกายด้วยเคร่ืองแบบที่ไม่ถูกต้องว่ามีความรู้สึกอย่างไรและมีผลเสีย อย่างไรตอ่ ตนเองและสว่ นรวม ๖. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปเรื่องการแต่งกายที่ถกู ระเบยี บของโรงเรียน 4.2 สื่อการเรียนรู้ ๑) ใบความรทู้ ่ี ๑ เรอ่ื ง การแตง่ กายท่เี หมาะสม ๒) ใบความรทู้ ี่ ๒ เรือ่ ง การแตง่ กายท่ถี ูกต้องตามระเบยี บของโรงเรยี น ๓) รปู ภาพการแตง่ กายของบคุ คลตา่ ง ๔) ขา่ ว “จบั หญงิ สาว แตง่ กายไมส่ ภุ าพเล่นนา้ สงกรานต์” ๕. การประเมินผลการเรียนรู้ 5.1 วธิ กี ารประเมิน ๑) ทดสอบ ๒) สังเกตพฤติกรรมความมวี ินยั ๕.๒ เครื่องมอื ทีใ่ ชใ้ นการประเมนิ ๑) แบบทดสอบ

- 63 - ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรม ความมีวินยั 5.3 เกณฑก์ ารตดั สิน นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๘๐ ขนึ้ ไป ๖. บนั ทึกหลังการจัดการเรยี นรู้ .................................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................ ............ .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ................................................ ครูผูส้ อน (...........................................................)

- 64 - ใบความรูท้ ่ี ๑ เรื่อง การแต่งกายทีเ่ หมาะสม การแต่งกายเป็นมารยาททวั่ ไปซง่ึ ทุกคนต้องปฏบิ ัตเิ หมอื นกันตามแต่โอกาสท่เี หมาะสม เชน่ แต่งกายไป ทางาน, ไปวดั ทาบุญ,ไปเลน่ กฬี า และงานพธิ ตี า่ ง หรอื การแต่งกายที่อยู่ในเครื่องแบบของนักเรยี น นกั ศึกษา ทหาร ตารวจ บรษิ ทั หา้ งรา้ นที่กาหนดให้พนกั งานแต่งกาย เป็นต้น หากบคุ คลใดสามารถปฏบิ ัตไิ ดต้ ามกฎระเบียบ ที่กาหนดถือวา่ เปน็ ผ้มู มี ารยาทในการแต่งกายที่ดี การแต่งกายไปวดั 1. เส้อื ผ้า ควรใชส้ ขี าวหรือสีออ่ น 2. เนอ้ื ผา้ ไมโ่ ปรง่ บางเกนิ ไป ไม่หรหู ราแพงเกนิ ไป 3. เสอื้ ผ้าไมร่ ดั รดั รปู แต่หลวมพอสมควร สาหรับผ้หู ญงิ ไมค่ วรนุ่งกระโปรงส้นั แต่ควรนงุ่ กระโปรงยาว พอสมควร 4. ทรงผม ผู้ชาย ตดั ใหส้ ้ัน ถา้ ไวย้ าวกห็ วใี หเ้ รียบ ผหู้ ญงิ อย่าแต่งผมเกนิ งาม ผพู้ บเหน็ จะได้ไมเ่ กดิ ความคดิ ฟุ้งซ่าน 5. นา้ มันใส่ผม หรอื นา้ หอม ควรเป็นชนดิ กล่ินออ่ นทสี่ ุด จะได้ไมร่ บกวนผอู้ ่ืน 6. การแต่งหนา้ เขียนค้ิว ทาปาก ทาเล็บ ฯลฯ จนเกนิ งามไมค่ วรกระทา 7. เครื่องประดับราคาแพง เช่น แหวนเพชร นาฬกิ าเรือนทอง หรือสร้อยทองคาเส้นโต ฯลฯ ควรเวน้ เดด็ ขาด การแต่งกายไปงานแตง่ งาน การแต่งกายไปงานแต่งงานเป็นการแสดงถึงการให้ความยินดีกับเจ้าภาพจึงเป็นการแต่งกายในชุดที่ดู สวยงาม และการแตง่ กายไปงานเราควรคานึงถงึ การให้เกียตเิ จา้ ภาพดว้ ยเช่นเจ้าภาพอาจจะกาหนดการแต่งกายมา เราก็ควรปฏิบัติตามเพ่ือเป็นการให้เกียติและเพื่อแสดงความยินดี เช่น แต่งกายในชุดสีขาว สีชมพูหรือเสื้อผ้าสี ออ่ น ดสู วยงาม เปน็ ตน้ การแตง่ กายไปงานอวมงคล งานอวมงคล คือ การทาบุญเลี้ยงพระที่เกี่ยวกับเร่ืองการตาย นิยมทากันอยู่ 2 อย่างคือทาบุญ หน้า เรียกว่าทาบุญ 7 วนั 50 วนั หรอื 100 วนั และทาบญุ อัฐิในวันคลา้ ยวันตายของผู้ล่วงลับ - ถา้ เปน็ งานศพควรเป็นสขี าวหรือสีดา - ถา้ เป็นวันทาบุญอฐั ควรแต่งกายเรยี บรอ้ ย สีเรียบ ไมม่ ลี วดลายหรือฉูดฉาด จนเกนิ ควร เหมาะสมกบั งาน ไมใ่ ส่เครอื่ งประดบั หรหู ราฟมุ่ เฟอื ยจนเกินพอดี มารยาทการแต่งกายท่ีพึงประสงค์ เป็นการแต่งกายที่จะต้องคานึงถึงความสุภาพเรียบร้อย สะอาด ต้ังแต่ ศีรษะจรดปลายเทา้ เม่ือมผี พู้ บเห็นจะร้สู กึ ทนั ทีวา่ ผู้ท่ีแตง่ กายดถี ูกต้องตามกาลเทศะ คือ คนที่ควรได้รับการชมเชย จากสงั คมและผูป้ ฏสิ ัมพนั ธ์ดว้ ย ในมมุ กลบั กนั หากแตง่ กายไมส่ ุภาพเรียบร้อย ก็จะเกิดคาตาหนิ ติเตียน จากผู้ท่ีพบ เหน็ ทาใหเ้ ส่อื มเสยี ทงั้ ตนเอง สถานบันครอบครัว และสถานศกึ ษา

- 65 - ใบความรู้ที่ ๒ เรื่อง การแต่งกายท่ถี ูกต้องตามระเบียบของโรงเรียน ระเบยี บกระทรวงศึกษาธกิ ารว่าด้วยเครอื่ งแบบนักเรยี น นักเรยี นหรอื นกั ศกึ ษาต้องประพฤติตนอยู่ในระเบียบวนิ ัยของโรงเรียนหรอื สถานศกึ ษาท่ีตนสงั กดั อยู่ และ แต่งกายหรือแตง่ เครือ่ งแบบตามระเบียบขอ้ บังคับของโรงเรียน รวมทง้ั ตอ้ งไม่แตง่ กายหรือประพฤตติ นไมเ่ หมาะสม แก่สภาพของนักเรียนหรอื นักศกึ ษาตามท่ีกาหนดในกระทรวง เคร่อื งแบบนกั เรียนระดบั ประถมศกึ ษา นักเรยี นชาย ๑. เส้อื ผา้ สีขาว แบบคอเชิต้ หรือคอปกกลม แขนสน้ั ๒. เคร่ืองหมาย ใช้ช่ืออักษรย่อของสถานศึกษาปักที่อกเส้อื เบื้องขวา บนเน้ือผา้ ดว้ ยด้านหรือไหม โดย สถานศึกษารัฐใชส้ นี ้าเงิน สถานศกึ ษาเอกชนใช้สแี ดง ๓. กางเกง ผา้ สีดา สีนา้ เงิน สกี รมทา่ หรอื สีแดง ขาส้ัน ๔. รองเท้า หนังหรือผ้าใบสีดาหรือสีนา้ ตาล แบบหุ้มส้นปลายเท้า ชนิดผกู หรือมีสายรดั หลังเท้า ๕. ถงุ เท้าสนั้ สีขาวหรือสนี ้าตาล นักเรียนหญงิ ๑. เส้อื ผ้าสขี าว แบบคอเช้ติ คอบัว หรือคอปกกลาสีผกู ดว้ ยฟ้าผกู คอชายสามเหล่ียมเง่ือนกลาสี สดี าหรือสี กรมทา่ แขนสั้น ๒. เคร่อื งหมาย ชอื่ อักษรย่อของสถานศกึ ษาปักที่อกเส้ือเบ้ืองขวา บนเนอ้ื ผ้าดว้ ยด้ายหรอื ไหม โดย สถานศกึ ษารัฐบาลใช้สนี า้ เงนิ สถานศกึ ษาเอกชนใช้สีแดง ๓. กระโปรง ผ้าดา สีนา้ เงิน สีกรมท่าหรอื สแี ดง แบบจบี รูดรอบตวั หรอื ยาวเพยี งใตเ้ ข่า แบบจบี ทบรอบเอว หรือพบั เป็นจบี ข้างละสามจบี ทง้ั ดา้ นหนา้ และด้านหลงั เม่ือสวมแลว้ ชายกระโปรงคลมุ เข่า ๔. รองเทา้ หนงั หรือผา้ ใบสดี า แบบหมุ้ สน้ หุ้มหลายเทา้ ชนิดผูกหรือมสี ายรัดหลงั เทา้ ๕. ถุงเท้าสั้น สขี าว

- 66 - รปู ภาพการแตง่ กายของบคุ คลตา่ ง ๆ

- 67 -

- 68 -

- 69 - ข่าว เร่ือง “จบั หญงิ สาว แต่งกายไมส่ ภุ าพเลน่ น้าสงกรานต์” ตารวจบุรีรมั ยจ์ บั กุมหญงิ สาว 3 คนบริเวณถนนเสดจ็ นิวัฒน์ หน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 1 ตรง ข้ามกับมหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์เน่ืองจากแต่งกายไม่สุภาพและเต้นประกอบเพลงด้วยท่าทางวาบหวิว ขณะที่ นักทอ่ งเทีย่ วและประชาชนจานวนมากร่วมกจิ กรรมสงกรานตท์ ีส่ นามไอโมบายสเตเดียมจนถึงเท่ียงคนื คาช้แี จง ให้นกั เรยี นเขยี นวพิ ากษ์วจิ ารณเ์ กยี่ วกับขา่ ว ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

- 70 - แบบสังเกตพฤติกรรม เรอื่ ง ความมีวนิ ยั คาชแ้ี จง การบันทกึ ให้ทาเคร่อื งหมาย  ลงในช่องทีต่ รงกับพฤติกรรมท่ีเกดิ ขึ้นจริง รายการ เลขท่ี ชอ่ื - สกลุ แต่งกาย แตง่ กาย ปฏิบตั ิตาม สรุปผล ถูกต้องตาม เหมาะสม ข้อตกลง การประเมิน ระเบียบ ตาม ของ ผ่าน ไมผ่ า่ น ของ กาลเทศะ สถานศกึ ษา โรงเรียน เกณฑ์การประเมนิ ผู้ประเมิน ปฏิบตั ิตัง้ แต่ ๒ รายการ ถอื ว่า ผา่ น ) ปฏบิ ัติ ๑ รายการ ถือวา่ ไมผ่ ่าน // ลงช่อื ( /

- 71 - แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยท่ี 2 ชื่อหน่วย ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 เวลา ๒ ชวั่ โมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 เร่อื ง กจิ กรรมนกั เรยี น ๑. ผลการเรียนรู้ มคี วามรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกับกจิ กรรมนักเรียน และความไม่ทนและความละอายต่อการทุจรติ ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนสามารถ 2.1 บอกความสาคญั ของกจิ กรรมนักเรียนได้ 2.2อธบิ ายความหมายของกิจกรรมนักเรียนได้ 2.3ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบียบไม่ทุจริตตอ่ กิจกรรมที่ทา ๒.๔ ระบปุ ระโยชน์ของกจิ กรรมนักเรยี นได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ความรู้ ความสาคัญของกิจกรรมนักเรียนนั้นเป็นการเสริมให้การจัดการเรียนการสอนบรรลุตามจุดมุ่งหมายของ การศึกษา โดยจะช่วยเสริมในด้านการเรียนรู้ทางด้านทัศนคติ ค่านิยม ความสนใจ ความซาบซึ้งและเกิดทักษะ ประสบการณแ์ ละสามารถไปอยู่ในสงั คมอยา่ งเป็นสขุ ถ้าปฏิบัตติ ามกฎระเบยี บ 3.2 ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเ่ี กดิ ) ความสามารถในการคดิ 3.3 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ / คา่ นิยม ๑) มวี นิ ยั ๒) มุ่งมน่ั ในการทางาน ๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 4.1 ข้นั ตอนการเรียนรู้ ๑) ชวั่ โมงท่ี 1 ๑. ครสู นทนาและซกั ถามนักเรียนเก่ียวกับกิจกรรมนกั เรียนวา่ มีความสาคัญอย่างไร ๒. ครอู ธบิ ายความสาคญั ของกจิ กรรมนักเรยี นเปน็ กจิ กรรมเสรมิ ใหก้ ารจดั การเรยี นการสอนบรรลุ ตามจดุ มุ่งหมายของการศึกษา โดยจะชว่ ยเสรมิ ในดา้ นการเรยี นรู้ด้านทัศนคติ คา่ นิยม ความสนใจ ความซาบซึ้ง ความไม่ทนและความละอายตอ่ การทุจริตตอ่ กจิ กรรมน้นั ตลอดจนทักษะในการเคลอ่ื นไหวและการใชอ้ วัยวะ ต่าง ของร่างกาย ๓. ครใู ห้นกั เรยี นทา ใบงานที่1.1 ชอบหรอื ไมช่ อบ เสร็จแลว้ ให้นามาส่งครู ๔. ครสู รุปใบงานท่นี ักเรียนทาว่าส่วนใหญช่ อบหรอื ไม่ชอบเพราะเหตุใด ๒) ชว่ั โมงที่ 2 ๑. ครอู ธบิ ายถงึ ความหมายของกิจกรรมนกั เรยี น ปัจจุบนั กิจกรรมนักเรียนอาจจะแบง่ ออกเปน็ 3 ส่วนใหญ่

- 72 - ๑.๑ กิจกรรมการเรยี นการสอน หมายถึง กิจกรรมท่คี รผู ้สู อนและผู้ท่เี กี่ยวข้องจัดขึ้นเพ่ือส่งเสริม ให้ผ้เู รียนเกิดการเรยี นรูแ้ ละเข้าใจเนอ้ื หาของบทเรยี นวชิ าตา่ ง ให้ดียิ่งขึ้น กิจกรรมลักษณะน้ีอาจจะจัดข้ึน ในหอ้ งเรยี นหรอื นอกหอ้ งเรียนก็ได้ ๑.๒ กิจกรรมนักเรียน หมายถึง กิจกรรมที่จัดข้ึนนอกเวลาเรียนปกติหรือนอกเหนือจาก ตารางสอนวชิ าตา่ ง เพอ่ื สนองความสนใจความสามารถและความถนัดของนักเรียนอันเป็นการส่งเสริมให้ นักเรียนมโี อกาสแสวงหาความรู้ใหแ้ ตกฉานยิง่ ขนึ้ ๑.๓ กิจกรรมอื่น เช่น กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมโฮมรูม ซ่ึงเป็นกิจกรรมที่มีจุดมุ่งหมายเฉพาะ เก่ยี วกบั การแนะแนวหรือการปกครองนักเรยี นซง่ึ โดยปกติครูจะมบี ทบาทในการดาเนินงานเสยี เอง ๒. ครูแบ่งกล่มุ นักเรยี นกลมุ่ ละประมาน 4-6 คน แลว้ ใหน้ ักเรียนแตล่ ะกล่มุ ทาใบงานที่ 1.2 เรอื่ ง ชอบอะไร ๓) ชว่ั โมงที่ 3 ๑. ครูใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอใบงานท่ี 1.2 ๒. ครูสรปุ ส่งิ ท่นี ักเรยี นนาเสนอ กิจกรรมนกั เรียนทุกกจิ กรรมซ่งึ มีประโยชน์ กิจกรรมจะสร้างให้นักเรียนอยู่ร่วมกันในสังคมอย่าง มีความสุขถ้าหากนักเรียนทาตามกฎระเบียบในแต่ละกิจกรรมตั้งไว้ และฝึกให้นักเรียนมีทักษะต่าง ในแต่ละ กิจกรรมที่ปฏิบัติ อีกอย่างท่ีสาคัญถ้านักเรียนอยู่ในสังคมที่กว้างขึ้นถ้านักเรียนไม่ทุจริตและทาตามกฎระเบียบใน สังคมนกั เรียนกจ็ ะอยใู่ นสงั คมอย่างมคี วามสุข ๓. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรุปประโยชน์ของกจิ กรรมนักเรียนทีไ่ ด้ การจัดกิจกรรมนักเรียนนับว่าเป็นงานสาคัญอย่างหน่ึง กิจกรรมนักเรียนเป็นกิจกรรมท่ีทาง โรงเรียนจัดข้ึน เพ่ือเสริมทักษะประสบการณ์ของนักเรียนให้กว้างขวางและสมบูรณ์ ช่วยเสริมในด้านการเรียนรู้ ดา้ นทัศนคติ คา่ นิยม ความสนใจ ตลอดจนให้ดาลงชีวติ อยู่ในสงั คมอย่างมคี วามสุข 4.2 สือ่ การเรียนรู้ / แหล่งการเรียนรู้ 1) ใบงานที่ 1.1 2) ใบงานท่ี 1.๒ ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 5.1 วิธีการประเมิน 1) ตรวจใบงานท่ี 1.1 เร่ืองชอบหรอื ไม่ชอบ 2) ตรวจใบงานที่ 1.2 เร่ืองปฏบิ ัตติ นอย่างไรกิจกรรมจะสาเร็จ ๕.๒ เครอื่ งมือทใ่ี ช้ในการประเมนิ 1) ใบงานที่ 1.1 เรือ่ งชอบหรือไม่ชอบ 2) ใบงานท่ี 1.2 เรื่องปฏบิ ตั ิตนอย่างไรกจิ กรรมจะสาเรจ็ 5.3 เกณฑ์การตดั สิน นกั เรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ 80

- 73 - ๖. บันทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ลงชอื่ ................................................ ครผู สู้ อน (.................................................)

- 74 - ใบงานที่ 1.1 คาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นอธิบายชอบหรอื ไม่ชอบกิจกรรมทก่ี าหนดใหเ้ พราะเหตใุ ด ลาดับท่ี กจิ กรรม ชอบหรอื ไม่ชอบเพราะเหตใุ ด 1 กิจกรรมลูกเสือ 2 กิจกรรมทัศนศึกษา 3 กจิ กรรมสหกรณ์ร้านคา้ ในโรงเรียน 4 กจิ กรรมกฬี าสภี ายในโรงเรยี น 5 กจิ กรรมส่งเสรมิ วฒั นธรรมไทย 6 กิจกรรมศาสนา 7 กิจกรรมใชห้ ้องสมดุ 8 กิจกรรมสง่ เสรมิ วิชาการต่าง ในหลกั สตู ร

- 75 - ใบงานที่ 1.2 ใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลมุ่ เขียนชอบกจิ กรรมอะไรจงอธิบายอยา่ งละเอียด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… .……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ….…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …….………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………….…………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

- 76 - แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยที่ 2 ช่ือหน่วย ความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ ริต ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 4 เวลา 2 ชว่ั โมง แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๖ เรอ่ื ง การเข้าแถว ๑. ผลการเรียนรู้ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกับความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ ริต ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ นกั เรียนสามารถ ๒.๑ บอกความหมายคาว่ามารยาทในสงั คมได้ ๒.๒ ปฏิบัติตนอยา่ งมมี ารยาทในสงั คม ๓. สาระการเรียนรู้ 3.1 ความรู้ มารยาท คือสง่ิ สาคัญประการหนึง่ ท่ีทกุ คนควรมตี ดิ ตวั ไปตลอด เพราะจะทาให้อยูร่ ่วมกับผู้อน่ื ในสังคม อยา่ งมีความสุข 3.2 ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทีเ่ กิด) ความสามารถในการคดิ 3.3 คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ / คา่ นยิ ม มวี นิ ัย ๔. กิจกรรมการเรียนรู้ 4.1 ขัน้ ตอนการเรยี นรู้ ๑) ชั่วโมงที่ 1 ๑. ครูให้นักเรียนดวู ีดีโอ เร่ืองการเขา้ แถวรับบริการ เพ่อื ให้นักเรียนร้ถู ึงมารยาทในการเข้าแถว ๒. ครูอธิบาย คาว่ามารยาทให้นักเรียนฟังต้องทาให้เกิดเป็นนิสัย ตัวอย่างเช่น มารยาททางวาจา มารยาทการรับประทานอาหาร มารยาทในทป่ี ระชมุ มารยาทการเข้าแถว เปน็ ตน้ แตส่ ่งิ ทีน่ ักเรียนจะต้องเรียนรู้คือ การเข้าแถว เพราะการเข้าแถวถือว่าเป็นมารยาทอย่างหน่ึงท่ีนักเรียนจะต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็นนิสัย แลว้ นักเรยี นจะอยู่รว่ มกันในสังคมอย่างมคี วามสุข ๓. นักเรียนและครูร่วมกันสนทนาเก่ียวกับการใช้สถานที่สาธารณะในชีวิตประจาวันของนักเรียน ว่า มีสถานที่ใดบ้างที่นักเรียนจะต้องเข้าไปใช้บริการและควรเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบ เช่น ห้องเรียน ห้องสมุด ห้องนา้ สาธารณะ โรงอาหาร ห้างสรรพสินคา้ เป็นต้น ๒) ชวั่ โมงท่ี 2 ๑. ครูทบทวนบทเรียนช่ัวโมงท่ีผ่านมา และให้ดูคลิปกรณีตัวอย่างของการเข้าแถวรับบริการของ นักเรียนประเทศญี่ปุ่น หรือประเทศไทย แล้วชวนสนทนาร่วมกัน เร่ืองมารยาท รวมถึงประโยชน์ท่ีได้รับจากการ เข้าแถว และยกตวั อยา่ งสถานที่ใดบ้างทคี่ วรเขา้ แถว โดยเปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นทกุ คนมสี ่วนร่วม ๒. ครูใหน้ ักเรียนทาใบงานท่ี 1.1 เม่ือทาใบงานเสรจ็ แลว้ ให้ตัวแทนนักเรยี นเก็บรวบรวมส่งครูตรวจ ๓. ครูสรปุ ความรแู้ ละข้อควรปฏิบัตทิ แ่ี สดงถึงมารยาทท่ดี ีในการเขา้ แถว

- 77 - ๕. ส่ือการเรียนรู้ / แหล่งการเรียนรู้ ๕.๑ คลิปสื่อ https://www.youtube.com/watch?v=CQm0h9-b9p4 ๕.๒ บตั รคา ๕.๓ ใบงานท่ี 1.1 ๖. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๖.๑ วธิ กี ารประเมิน ตรวจใบงานท่ี 1.1 ๖.๒ เครอ่ื งมือทีใ่ ชใ้ นการประเมิน ๑) แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ๒) ใบงานท่ี 1.1 ๖.๓ เกณฑ์การตดั สนิ นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ 80 ๗. บันทกึ หลังการจัดการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ลงชื่อ ................................................ ครผู ู้สอน (.................................................)

- 78 - ใบงานท่ี 1.1 คาชแ้ี จง ให้นกั เรยี นอธบิ ายชอบหรือไม่ชอบเพราะอะไร ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ……………………………….………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………

- 79 - บัตรคา 12 34 5

- 80 - หน่วยท่ี ๓ STRONG / จิตพอเพียงต่อตา้ นการทจุ รติ

- 81 - แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ ๓ ชื่อหน่วย STRONG / จติ พอเพียงต่อตา้ นการทุจรติ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑ เรอ่ื ง การดารงชีวิตตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เวลา ๑ ชว่ั โมง ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกบั STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ต้านการทจุ ริต ๑.๒ ปฏิบัตติ นเป็นผ้ทู ี่ STRONG / จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทจุ ริต ๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ นักเรียนสามารถ ๒.๑ นักเรยี นบอกหลกั ในการเลือกการแตง่ กาย การรับประทานอาหาร การใชจ้ า่ ยตามหลกั ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี งได้ ๒.๒ นักเรียนปฏบิ ตั ติ นในการเลอื กการแต่งกาย การรบั ประทานอาหาร การใช้จา่ ยตามหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพียงได้ ๒.๓ นักเรียนวิเคราะหผ์ ลทไ่ี ด้รับจากการดารงชีวติ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ แนวทางการดาเนินชีวิตบนทางสายกลางตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งประกอบด้วย ๓ ห่วง ๒ เงื่อนไข ได้แก่ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันท่ีดีในตัวเอง เง่ือนไขความรู้ เง่ือนไข คณุ ธรรม จะกอ่ ใหเ้ กิดคุณภาพชีวติ ทด่ี ีอยา่ งมั่นคงและยงั่ ยืน ๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนการ ( สมรรถนะท่ีเกดิ ) ๑) นกั เรยี นมที ักษะการคดิ วิเคราะห์ ๒) นกั เรียนมที ักษะการคิดสร้างสรรค์ ๓) นักเรยี นมีทักษะการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ ๔) นักเรยี นมคี วามสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ในกระบวนการทางานกลมุ่ ๕) นกั เรียนมที ักษะกระบวนการในการทางาน ๓.๓ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ / ค่านิยม ๑) ใฝ่เรยี นรู้ / นักเรียนตง้ั ใจเพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกจิ กรรม ๒) อยู่อยา่ งพอเพียง / นกั เรยี นดาเนนิ ชีวิตอยา่ งพอประมาณ มีเหตุมผี ล รอบคอบ มีคณุ ธรรม ๓) รักความเป็นไทย / นกั เรียนเหน็ คุณคา่ ปฏบิ ัตติ นได้อยา่ งถูกต้อง เหมาะสม ๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ / การจดั ประสบการณ์ ๔.๑ ขัน้ ตอนการเรยี นรู้ / ข้ันตอนการจัดประสบการณ์ ๑) ช่วั โมงท่ี ๑ ๑. นกั เรยี นดภู าพความแตกต่างของบุคคล ดังน้ี ๑.๑ การแต่งกาย ๑.๒ การรับประทานอาหาร ๑.๓ การใชจ้ ่ายเงิน ๒. ครสู มุ่ ถามนักเรียน ประมาณ ๒ - ๓ คน โดยใชค้ าถาม ดงั นี้ ๒.๑ ถา้ เปน็ นักเรียนจะเลอื กปฏบิ ตั ิตามภาพใด

- 82 - ๒.๒ เพราะเหตใุ ด ๓. ครูแจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นร้ใู ห้นักเรยี นทราบ ๔. แบ่งนักเรยี นเปน็ ๓ กลุ่ม กลุ่มละเท่า กนั ร่วมกนั อภิปราย แสดงความคิดเหน็ คิดวิเคราะห์ ตามหวั ขอ้ ต่อไปนี้ ๔.๑ กลุ่มที่ ๑ หลกั การเลือกการแต่งกาย ๔.๒ กล่มุ ที่ ๒ หลักการเลือกการรับประทานอาหาร ๔.๓ กลมุ่ ท่ี ๓ หลักการเลือกการใชจ้ า่ ย ๒) ชัว่ โมงท่ี ๒ ๑. ครูทบทวนความร้จู ากช่ัวโมงท่แี ลว้ ๒.แต่ละกลุ่มสง่ ตวั แทนนาเสนอหน้าชั้นเรยี น ครูอธบิ ายเพม่ิ เติมให้สมบรู ณ์ ๓. นักเรียนทา Mind Mapping สรปุ ความรู้ที่ไดร้ ับจากท้งั ๓ กลุ่ม ลงในสมดุ ๔. นกั เรียนประเมนิ การปฏบิ ัติตนในการเลือกการแตง่ กาย การรับประทานอาหาร การใช้จา่ ย เปน็ รายบคุ คล ๕. นกั เรยี นและครรู ว่ มกันสรุปการดารงชีวิตตามหลกั ความพอเพยี ง ๔.๒ ส่ือการเรยี นรู้ / แหล่งการเรียนรู้ ๑) ภาพการแต่งกาย การรบั ประทานอาหาร การใชจ้ า่ ยเงิน ๒) แบบประเมนิ การปฏบิ ตั ิตนในการดารงชีวติ ตามหลักความพอเพยี ง ๕. การประเมินผลการเรียนรู้ ๕.๑ วิธกี ารประเมนิ ๑) สังเกตพฤติกรรม ๒) ประเมนิ การปฏิบัตติ นในการดารงชีวติ ตามหลกั ความพอเพยี ง ๕.๒ เคร่อื งมอื ท่ใี ชใ้ นการประเมนิ ๑) แบบสังเกตพฤติกรรม ๒) แบบประเมนิ การปฏิบัตติ นในการดารงชวี ิตตามหลักความพอเพยี ง ๕.๓ เกณฑก์ ารตัดสิน การสงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ ๘๐ ถือวา่ ผ่าน ๖. บนั ทกึ หลังการจัดการเรียนรู้ ............................................................................................................. ................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ( ลงชอ่ื ) ครูผู้สอน (.......................................................)

- 83 - ภาพการแตง่ กาย

- 84 - ภาพการแตง่ กาย

- 85 - ภาพการรบั ประทานอาหาร

- 86 - ภาพการรบั ประทานอาหาร

- 87 - ภาพการใช้จ่ายเงนิ

- 88 - ภาพการใช้จ่ายเงนิ

- 89 - ท่ี พฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม ชอ่ื กลมุ่ ท.่ี ..................ชั้น........................ ความร่วมมอื การแสดงความ การตอบคาถาม การยอมรบั ฟงั การมสี ว่ นร่วมใน รวม คิดเห็น ความคิดเห็น การอภิปราย ๒๐ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ คะแนน เกณฑ์การวดั ผล ให้คะแนนระดับคุณภาพของแต่ละกลุ่ม ดังนี้ ดีมาก เทา่ กบั ๔ ประสทิ ธิภาพอยใู่ นเกณฑ์ ๙๐ – ๑๐๐ % ดี เทา่ กับ ๓ ประสิทธิภาพอยใู่ นเกณฑ์ ๗๐ – ๘๙ % ปานกลาง เทา่ กบั ๒ ประสทิ ธภิ าพอยู่ในเกณฑ์ ๕๐ – ๖๙ % ปรบั ปรุง เทา่ กบั ๑ ประสทิ ธภิ าพตา่ กว่าเกณฑ์ ๕๐ % ( ลงช่อื ) ผสู้ ังเกต (.....................................................) .............../................./....................

- 90 - แบบประเมนิ การปฏบิ ตั ติ นในการดารงชีวติ ตามหลักความพอเพียง คาชแ้ี จง ใหก้ าเครอ่ื งหมาย ( / ) ลงในช่องใหต้ รงกับการปฏบิ ตั ขิ องนักเรียน ระดบั ความเหมาะสมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่ รายการประเมนิ ๕๔ ๓ ๒ ๑ ๑ การแตง่ กาย ๒ การรบั ประทานอาหาร ๓ การใช้จ่ายเงิน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ระดับ ๕ หมายถงึ มากทส่ี ดุ ระดบั ๔ หมายถงึ มาก ระดับ ๓ หมายถึง ปานกลาง ระดบั ๒ หมายถึง นอ้ ย ระดบั ๑ หมายถงึ นอ้ ยท่ีสุด ( ลงชอ่ื ) ผปู้ ระเมิน (...................................................) ............../..................../...............

- 91 - แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยที่ ๓ ชื่อหน่วย STRONG / จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทุจรติ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ เวลา ๑ ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๒ เร่อื ง ความโปร่งใส ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ต้านการทจุ รติ ๑.๒ ปฏบิ ัติตนเป็นผู้ที่ STRONG / จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทจุ รติ ๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรยี นสามารถ ๒.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั STRONG / จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทจุ ริต ๒.๒ ปฏิบัตติ นเป็นผทู้ ่ี STRONG / จติ พอเพยี งต่อต้านการทจุ ริต ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ ความโปร่งใส คือ การกระทาการใด ทีส่ ามารถมองเห็นได้ คาดเดาได้ และเข้าใจได้ การมรี ะบบงาน และขนั้ ตอนการทางานที่ชัดเจน ถกู ตอ้ ง อยา่ งตรงไป ตรงมา ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ ( สมรรถนะทเ่ี กิด ) ๑) ความสามารถในการส่ือสาร ๒) ความสามารถในการคดิ ๓) ความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ ๓.๓ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ / คา่ นยิ ม ๑)ใฝ่เรียนรู้ ๒) ซอ่ื สตั ย์สุจรติ ๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ / การจัดประสบการณ์ ๔.๑ ขน้ั ตอนการเรยี นรู้ / ข้ันตอนการจดั ประสบการณ์ ๑) ชว่ั โมงท่ี ๑ ๑. ครูนาเข้สู่บทเรียนโดยให้นักเรียนร่วมกันร้องเพลง ความซ่ือสัตย์ พร้อมกัน และร่วมกันสรุป ความหมายของเพลง ๒. ครูอธิบายเพ่ิมเติมให้นักเรียนทราบถึงพ้ืนฐานของความซ่ือสัตย์ มาจากการกระทาการใด ท่ี สามารถมองเห็นได้ คาดเดาได้ และเข้าใจได้ การมีระบบงาน และข้ันตอนการทางานท่ีชัดเจน ถูกต้อง อย่าง ตรงไป ตรงมา น้ันก็คอื หลกั ของความโปร่งใส ๓. นกั เรียนและครูร่วมกันอภิปรายถึงความหมายของคาว่า “ โปร่งใส ” ๔. ครูและนักเรยี นสรุปความหมาย ความโปรง่ ใส รว่ มกันอีกครงั้ ๕. ให้นกั เรยี นจับค่กู ับเพอื่ นตามความสมัครใจ ๖. ครูนาตัวอยา่ งคาขวญั ตดิ บนกระดาน “โปรง่ ใส ไรค้ อร์รัปชั่น รว่ มสรา้ งสรรคส์ งั คมไทย ” ให้ นักเรยี นอา่ นคาขวญั พร้อม กัน ๗. ครูอธิบายถงึ ความหมายของคาขวัญ และอธิบายวิธีการเขยี นคาขวญั ใหน้ ักเรียนจนเกดิ ความ เขา้ ใจ ๘. ใหน้ ักเรยี นแต่ละคูช่ ่วยกนั แต่งคาขวญั รณรงค์ให้เกิดความโปรง่ ใส

- 92 - ๙. นกั เรยี นนาเสนอคาขวัญที่รว่ มกนั แตง่ หนา้ ช้นั เรยี น ๑๐. นักเรียนร่วมกนั ร้องเพลง ความซอ่ื สตั ย์ เป็นการจบบทเรยี น ๔.๒ สื่อการเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ ๑) เพลงความซื่อสตั ย์ ๒) ตวั อยา่ งคาขวญั “ โปร่งใส ไร้คอรร์ ปั ชัน่ ร่วมสร้างสรรค์สงั คมไทย ” ๕. การประเมินผลการเรียนรู้ ๕.๑ วธิ กี ารประเมิน ๑) สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียน ๒) ตรวจผลงานการเขยี นคาขวญั ๕.๒ เครื่องมอื ทใ่ี ชใ้ นการประเมนิ ๑) แบบสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียน ๒) แบบตรวจผลงานการเขยี นคาขวัญ ๕.๓ เกณฑก์ ารตดั สิน ผา่ นเกณฑ์การประเมิน ร้อยละ ๘๐ ๖. บันทึกหลงั การจัดการเรยี นรู้ ............................................................................................................................................................... ............... .................................................................................................................... .......................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ( ลงช่ือ ) ครผู ู้สอน ( ..................................................... )

- 93 - ใบความรสู้ าหรบั ครู ความโปร่งใส (Transparency) หมายถึง การกระทาการใด ทผี่ ูอ้ น่ื สามารถมองเห็นได้ คาดเดาได้ และเข้าใจได้ การมีระบบงานและข้ันตอนการทางานท่ีชัดเจน (ซึ่งจะดูได้จาก กฎระเบียบ หรือประกาศ) การ เปิดเผยข้อมลู ขา่ วสารทถ่ี ูกตอ้ งอย่างตรงไปตรงมา ความโปรง่ ใสจึงเป็นเคร่ืองมือที่สาคัญในการตรวจสอบความ ถูกตอ้ ง และช่วยป้องกันไม่ใหเ้ กิดการทจุ รติ รวมท้ังนาไปส่กู ารสร้างความไวว้ างใจซ่งึ กนั และกนั เพลงความซอ่ื สตั ย์ ความซ่ือสัตยเ์ ปน็ สมบตั ขิ องคนดี หากวา่ ใครไมม่ ีชาตินีเ้ อาดีไม่ได้ มีความรทู้ ว่ มหัวเอาตัวไม่รอดถมไป คดโกงแลว้ ไซรใ้ ครจะรบั ให้ร่วมการงาน

- 94 - แบบประเมินการเขียนคาขวัญ ท่ี พฤตกิ รรม ถกู ต้องตาม ตรงตาม คิดสรา้ งสรรค์ เสร็จทันเวลาที่ รวม ชื่อ ฉันทลกั ษณ์ ความหมาย กาหนด ๑๖ ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ เกณฑก์ ารวดั ผล ให้คะแนนระดับคณุ ภาพของแต่ละกลมุ่ ดังนี้ ดมี าก เท่ากบั ๔ ประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ ๙๐ – ๑๐๐ % ดี เท่ากบั ๓ ประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ ๗๐ – ๘๙ % ปานกลาง เทา่ กบั ๒ ประสทิ ธิภาพอยู่ในเกณฑ์ ๕๐ – ๖๙ % ปรับปรงุ เท่ากับ ๑ ประสิทธภิ าพตา่ กว่าเกณฑ์ ๕๐ % ( ลงช่ือ ) ผูส้ ังเกต (.....................................................) .............../................./....................

- 95 - ที่ พฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏิบตั กิ จิ กรรม ชื่อ ความสนใจ การแสดงความ การตอบคาถาม การยอมรับฟงั การทางานท่ี หมาย คดิ เหน็ ความคดิ เหน็ ได้รับมอบหมาย เหตุ ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ เกณฑก์ ารวดั ผล ให้คะแนนระดบั คุณภาพของแตล่ ะกลมุ่ ดังนี้ ดมี าก เท่ากบั ๔ ประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ ๙๐ – ๑๐๐ % ดี เท่ากับ ๓ ประสทิ ธิภาพอยใู่ นเกณฑ์ ๗๐ – ๘๙ % ปานกลาง เท่ากับ ๒ ประสทิ ธภิ าพอยู่ในเกณฑ์ ๕๐ – ๖๙ % ปรับปรงุ เทา่ กับ ๑ ประสิทธิภาพต่ากว่าเกณฑ์ ๕๐ % ( ลงชอ่ื ) ผ้สู ังเกต (.....................................................) .............../................./....................

- 96 - แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยที่ ๓ ช่ือหนว่ ย STRONG / จติ พอเพียงต่อต้านการทุจริต ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔ เวลา ๑ ชว่ั โมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๓ เรอื่ ง ความตน่ื รู้ ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ต้านการทุจริต ๑.๒ ปฏิบตั ิตนเปน็ ผู้ที่ STRONG / จติ พอเพียงต่อต้านการทจุ รติ ๑.๓ ตระหนกั และเห็นความสาคัญของการตอ่ ต้านและป้องกันการทจุ ริต ๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๒.๑ นกั เรียนสามารถบอกความหมายของการทจุ รติ ได้ ๒.๒ นักเรยี นสามารถบอกลกั ษณะของบคุ คลท่ีมีความตืน่ ร้ใู นเร่อื งการทจุ รติ ได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ ๑) ความตน่ื รู้ ความต่ืนรู้ หมายถึง การจัดการความเป็นไปได้ใหม่ของชีวิต โดยท่ีมีสติอยู่กับสิ่งท่ีเกิดขึ้น รู้ความ จริงของชวี ติ ที่เป็นสิ่งไมแ่ น่นอน เทา่ ทนั เหตกุ ารณ์ ๓.๒ สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น ๑) ความสามารถในการสอื่ สาร ๒) ความสามารถในการคิด ๓) ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต ๓.๓ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ซอื่ สตั ยส์ ุจรติ ๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ข้ันตอนการเรียนรู้ ๑) ใหน้ กั เรียนชมวีดีทัศน์เรื่อง “แก้คอร์รัปชัน เร่ิมที่ใคร” เป็นเร่ืองเก่ียวกับความหมายของการ ทุจรติ ทกุ รปู แบบ เชน่ การรับสินบน การอุปถัมภ์พวกพอ้ งเพอ่ื ให้เข้าทางาน เปน็ ต้น ๒) ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปเรอื่ งที่ชมวา่ การทุจรติ มหี ลายรูปแบบ เช่น การใช้ไฟหลวงในการ ชาร์จแบตเตอร์ร่ีโทรศพั ท์ เป็นต้น ๓) ครูเล่าข่าวเรื่อง “สั่งเด้ง 12 ตารวจ รับส่วยร้านอะไหล่รถ” แล้วถามนักเรียนว่าใครรู้ข่าว เรือ่ งนบ้ี ้าง และใครไมร่ ู้ขา่ วเรือ่ งน้ีบ้าง ๔) ครสู รุปนกั เรยี นท่ีตดิ ตามและรขู้ า่ วเรือ่ งนี้ แสดงวา่ นกั เรยี นเปน็ ผู้ตืน่ รู้ ๕) ครอู ธิบายความหมายของคาว่าตืน่ รู้ ๖) ครูให้นักเรียนช่วยกันบอกลักษณะของบุคคลที่ต่ืนรู้ ในเร่ืองการทุจริต เช่น ตารวจรับสินบน จากคนขับรถผิดกฎจราจร แล้วมีพลเมืองดีถ่ายวีดีโอแล้วนาไปเผยแพร่ถึงการกระทาที่ไม่เหมาะสม แสดงว่า พลเมอื งดีคนนเ้ี ป็นผตู้ ่ืนรูใ้ นเรอ่ื งการทจุ ริต ๗) ครูให้นักเรียนรวบรวมข่าวท่ีเกี่ยวกับการทุจริตรูปแบบต่าง พร้อมวิเคราะห์แสดงความ คดิ เห็นเก่ียวกบั ข่าวการทจุ รติ

- 97 - ๘) ครูใหน้ ักเรยี นนาเสนอข่าวหน้าชนั้ เรียนแล้วนาไปจดั ป้ายนเิ ทศบริเวณโรงเรยี น ๔.๒ ส่ือการเรียนรู้ / แหล่งเรยี นรู้ ๑) ขา่ วจากหนงั สือพมิ พ์ ๒) วีดีทัศน์ เรอื่ ง “แก้คอรร์ ปั ชนั เรมิ่ ท่ใี คร” ๓) หอ้ งสมดุ ๔) อนิ เตอรเ์ นต็ ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วิธีการประเมนิ ตรวจผลงานการวิเคราะหข์ า่ ว ๕.๒ เครอ่ื งมือท่ใี ชใ้ นการประเมนิ ๑) แบบให้คะแนนการตรวจผลงานการวเิ คราะห์ขา่ ว ๒) แบบสงั เกตพฤตกิ รรม เร่ือง ซ่อื สัตย์ สุจริต ๕.๓ เกณฑก์ ารตัดสิน นกั เรยี นผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ๖. บนั ทกึ หลงั การจัดการเรยี นรู้ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ....................................................................................................................................................................... ....... ลงชอื่ ................................................ ครูผ้สู อน (...........................................................)

- 98 - แบบประเมินการเขียนวิเคราะหข์ ่าว รายการ เลขที่ ชื่อ - สกุล เขยี นไดต้ รง เขียนแยกแยะ เขยี นมีเหตผุ ล การใช้ภาษาได้ การลาดบั สรปุ ผล ประเด็น ประเด็กได้ ประกอบอย่าง เหมาะสม ความคดิ การประเมิน ชดั เจน เหตกุ ารณอ์ ย่าง ๑๐ คะแนน ๒ คะแนน ๒ คะแนน เหมาะสม ๒ คะแนน ตอ่ เนอ่ื ง ๒ คะแนน ๒ คะแนน ๑ ๒ ๑ ๒ ๑ ๒ ๑ ๒ ๑ ๒ ผา่ น ไมผ่ า่ น เกณฑ์การประเมนิ ผ้ปู ระเมนิ นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมินร้อยละ ๘๐ ข้นึ ไป ) ลงชือ่ // ( /


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook