ถา่ นกอ้ นด้าๆแตเ่ เสนลา้ คา่ จัดทำโดย นำงสำวศศมิ ำภรณ์ ปญั ญำภู เลขท่ี2 นำยมัสวนิ ไชยอำ้ ย เลขท3่ี นำงสำวจิรดำ พนั ธ์ุแกว้ เลขท่ี6 นำงสำวศุภสตุ ำ อินทะรงั ษี เลขที่8 นำงสำวณฐั มน เตชนนั ท์ เลขท่ี9 เสนอ ครู ดำรงค์ คันธะเรศย์
บทคัดย่อ ถ่ำนหนิ ถกู นำมำใช้เปน็ แหล่งพลงั งำนมำกกว่ำ 3000 ปี ประเทศจนี เปน็ ประเทศแรก ๆ ท่ี นำถำ่ นหินมำใช้เปน็ เช้ือเพลิงในกำรถลุงทองแดง ปัจจบุ นั กำรใชป้ ระโยชนจ์ ำกถำ่ นหินส่วนใหญใ่ ช้เปน็ เชอ้ื เพลงิ ในกำรผลิตกระแสไฟฟ้ำกำรถลุงโลหะ กำรผลติ ปนู ซีเมนต์ และอตุ สำหกรรมท่ีใช้เครือ่ งจักรไอ น้ำ กำรผลติ กระแสไฟฟ้ำท่วั โลกใช้พลังงำนจำกถำ่ นหนิ ประมำณรอ้ ยละ 39 ซึ่งประเทศไทยน้ันเคยมี กำรใชถ้ ำ่ นในงำนอุตสำหกรรมหรืองำนต่ำงๆแต่เน่อื งจำกประสบกำรณใ์ นอดตี ของโรงไฟฟำ้ แม่เมำะ ท่ี ทำให้เกดิ มพษิ ทำงอำกำศประชำชนเน่ืองด้วยควำมไมก่ ำ้ วหนำและทนั สมยั ของเทคโนโลยใี นตอนน้ัน และกำรลงทุนติดต้งั เครื่องมืออุปกรณค์ วบคุมมลภำวะในขณะนนั้ อำจยังไมค่ ุ้มค่ำทำงเศรษฐศำสตร์ ประกอบกบั แหล่งถ่ำนหินในประเทศเป็นถ่ำนหินทีค่ ุณภำพไมด่ ีนัก และในปจั จบุ นั ไดม้ คี วำมนิยมใน พลังงำนทดแทนซึ่งประชำชนมองวำ่ เป็นพลงั งำนทสี่ ะอำดกว่ำถ่ำนหนิ อีกดว้ ย ถึงแมภ้ ำยหลังจะไดร้ บั กำรบริหำรจดั กำรเปน็ อย่ำงดี ทั้งดำ้ นเทคโนโลยีทีส่ ะอำดขึ้น แตท่ ำงคณะผจู้ ดั ทำนน้ั ไดเ้ ลง็ เห็นถึง ประโยชนข์ องถ่ำนหนิ จึงไดจ้ ดั ทำโครงงำนนข้ี ้ึน โดยศึกษำ ค้นควำ้ เอกสำร หรือข้อมูลท่ีจำเป็นต่ำงๆ เกย่ี วกับข้อมูลของถ่ำน และกำรเผำถ่ำน และโครงงำนของกลมุ่ ผจู้ ดั ทำนำถำ่ นไมไ้ ผไ่ ปแชไ่ ว้ในตเู้ ย็น เพื่อท่ีดับกลิน่ ในตู้เย็นถ่ำนไม่ไผ่สำมำรถเปน็ เครอ่ื งกรองน้ำธรรมขำติ ช่วยกรองน้ำใหเ้ ปน็ ด่มื ท่ีสะอำดและปลอดภยั เพียงแช่ถำ่ นไม่ไผ่ 3 - 4 ชิ้น ทง้ิ ไวป้ ระมำณ 1 - 2 ขั่วโมง ท่ำนก็จะได้ดม่ื น้ำทส่ี ะอำด ถูกสขุ นำมัย ใชไ้ ดน้ ำนถงึ 4 สัปดำห์ หรอื น้ำ ประมำณ 150 ลิตร เมือ่ ครบกำหนด 4 - 6 สัปดำห์ ถ่ำนยังมปี ระโยชน์อกี มำกมำย เม่ือทำ่ นฝงั ไวใ้ นดิน ช่วยปรับสภำพดนิ ดงึ ออกซิเจนลงไปในดนิ ให้แร่ธำตุ เปน็ ทอ่ี ยู่ของจุลนิ ทรยี ์ และตรึงคำร์บอนไว้บน ผิวโลก ลดภำวะเรือนกระจก ลดภำวะโลกรอ้ น ได้อีกด้วย
กิตติกรรมประกำศ โครงงำนทดลองฉบับนีส้ ำเรจ็ ไดด้ ้วยควำมอนเุ ครำะห์ ของบคุ คลหลำยท่ำนซึง่ ไม่อำจจะนำมำ กลำ่ วไดท้ ั้งหมด ซึ่งบคุ คลสำคญั ท่ำนแรกทค่ี ณะผูจ้ ัดทำใครข่ อกรำบพระคุณ คือ ครู ดำรงค์ คนั ธะเรศย์ ครูผู้สอนทีไ่ ดใ้ ห้ควำมรู้คำแนะนำ ตรวจทำนและแก้ไขข้อบกพร่องต่ำง ๆ ดว้ ยควำมเอำใจ ใส่ทกุ ขัน้ ตอน เพือ่ ใหก้ ำรเขียนโครงงำนฉบับน้ีสมบูรณ์ท่สี ุด คณะผู้จดั ทำใคร่ขอกรำบขอบพระคุณเปน็ อยำ่ งสูงไว้ ณ โอกำสน้ี นอกจำกนี้ขอขอบพระคณุ คณุ ครโู รงเรียนปัวทกุ สำขำวิชำท่ีไดฝ้ กึ สอนไดใ้ ห้คำแนะนำในกำร จัดทำรำยงำนกำรศกึ ษำค้นคว้ำอสิ ระฉบบั นที้ ่ีไม่ได้กลำ่ วนำม ขอขอบคุณพอ่ คุณแมท่ อ่ี ยู่เบื้องหลงั ในควำมสำเรจ็ ท่ีได้ให้ควำมชว่ ยเหลอื สนับสนุนและให้ กำลงั ใจตลอดมำ คณะผู้จัดทำ
สารบัญ หนำ้ ก บทคัดย่อ ข กติ ติกรรมประกำศ บทที่ 1 บทนำ 1 1. ควำมเปน็ มำและควำมสำคญั ของปญั หำ 1 2. วัตถปุ ระสงค์ 1 3. สมมตุ ิฐำน 2 4. ขอบเขตของกำรศึกษำ 2 5. ผลทีค่ ำดวำ่ จะได้รับ บทท่ี 2 เอกสำรท่ีเก่ียวขอ้ ง 3 1. ควำมหมำยและประเภทของถ่ำนหนิ 4 2. กำรใช้ประโยชน์จำกถ่ำนหิน บทที่ 3 วธิ ีดำเนนิ กำรศกึ ษำค้นคว้ำ 5 5 1. ระเบียบวิธีทใ่ี ช้ในกำรศกึ ษำ 6 2. วิธีดำเนินกำรศกึ ษำ 3. เครื่องมือท่ีใช้ในกำรศกึ ษำ 7 บทท่ี 4 ผลกำรดำเนนิ กำรโครงงำน 8 1. หัวขอ้ ในประเมนิ ควำมเปลี่ยนแปลงของกำรทดลอง 2. ผลกำรดำเนินงำน
บทท่ี 5 สรุปผลกำรดำเนนิ งำนแ 9 1. กำรดำเนินงำนจดั ทำโครงงำน 9 2. สรุปผลกำรดำเนินงำน บรรณำนุกรม
บทท่ี 1 บทน้า 1.ท่มี าและความสา้ คัญของปญั หา ในอดตี น้ันมีกำรใช้ถ่นในงำนอุตสำหกรรมหรอื งำนต่ำงๆแต่เน่อื งจำกประสบกำรณใ์ นอดตี ของโรงไฟฟำ้ แม่ เมำะ ที่ทำใหเ้ กิดมพษิ ทำงอำกำศประชำชนเน่ืองดว้ ยควำมไมก่ ำ้ วหนำและทนั สมัยของเทคโนโลยใี นตอนนัน้ และ กำรลงทุนติดตัง้ เคร่ืองมืออุปกรณ์ควบคมุ มลภำวะในขณะนั้นอำจยังไม่คุม้ ค่ำทำงเศรษฐศำสตร์ ประกอบกับแหล่ง ถำ่ นหนิ ในประเทศเป็นถ่ำนหินที่คุณภำพไม่ดนี ัก และในปัจจุบนั ได้มีควำมนิยมในพลงั งำนทดแทนซ่ึงประชำชนมอง วำ่ เปน็ พลงั งำนท่สี ะอำดกวำ่ ถ่ำนหินอกี ดว้ ย ถงึ แมภ้ ำยหลังจะไดร้ บั กำรบรหิ ำรจดั กำรเป็นอย่ำงดี ท้งั ดำ้ นเทคโนโลยี ทสี่ ะอำดข้นึ แต่ทำงคณะผ้จู ดั ทำนั้นได้เลง็ เห็นถึงประโยชน์ของถ่ำนหินจงึ ไดจ้ ัดทำโครงงำนน้ีขนึ้ วัตถุประสงค์ 1.เรำสำมำรถนำถำ่ นมำใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์อยำ่ งไรบ้ำง 2.ประหยดั ค่ำใชจ้ ำ่ ย 3.ใช้ของธรรมชำติ ลดกำรใช้สำรเคมี สมมติฐานของการศกึ ษา 1.ถำ่ นช่วยดดู กล่นิ อันไม่พึงประสงคใ์ นต้เู ยน็ ได้ 2.ถำ่ นสำมำรถกรองน้ำ คอื จำกนำ้ สีขุ่นๆทำใหก้ ลำยเปน็ น้ำสใี สๆได้
ขอบเขตการทา้ งาน 1.เปน็ โครงงำนทศ่ี ึกษำเก่ยี วกับประโยชน์ของถำ่ นก้อนสีดำ ใช้ถ่ำนดับกล่นิ ไมพ่ ึงประสงค์ในต้เู ย็น ทดลองใช้ถ่ำน กรองน้ำ 2. ระยะเวลำ 25 มิถนุ ำยน 2562 – 2 กรกฎำคม 2562 ผลทค่ี าดวา่ จะได้รับ 1.ไดใ้ ช้วสั ดุธรรมชำตใิ ห้เกิดประโยชน์ ลดกำรใช้สำรเคมี 2.ไดป้ ระหยดั ค่ำใชจ้ ำ่ ย 3.ได้ทดลองไดล้ งมอื ทำถ่ำนสำมำรถดบั กลิ น่ ไม่พงึ ประสงคใ์ นตเู้ ยน็ ได้ 4.ได้ทดลองทำเครอ่ื งกรองนำ้ โดยใช้ถ่ำนเปน็ สว่ นประกอบ 5.สำมรถลดภำวะโลกรอ้ นได้
บทที่ 2 เอกสารทีเ่ กีย่ วขอ้ ง ในกำรจัดทำโครงงำนถ่ำนก้อนดำๆแต่เเสนล้ำค่ำน้ี ได้มีกำรทดลองเกี่ยวกับถ่ำนหนิ คณะผ้จู ดั ทำ โครงงำนได้ศึกษำเอกสำรและจำกเว็บไซตต์ ำ่ งๆท่เี ก่ียวข้องดงั ตอ่ ไปนี้ 2.1ควำมหมำยและประเภทของถ่ำนหิน 2.2กำรใช้ประโยชนจ์ ำกถำ่ นหิน 2.1ความหมายและประเภทของถ่านหนิ ความหมายของถา่ นหิน ถำ่ นหนิ คือ หนิ ชนิดหนึ่งทเ่ี กิดจำกกำรตกตะกอนสะสมของซำกพชื ในยคุ ดึกดำบรรพ์เป็นเวลำ ยำวนำนหลำยล้ำนปี จนตะกอนนนั้ ได้เปล่ยี นสภำพไปและมีองค์ประกอบสว่ นใหญ่เป็นธำตุคำร์บอน โดยมธี ำตอุ น่ื ๆท้ังทเ่ี ป็นก๊ำซและของเหลวปนอย่ดู ้วยในสัดสว่ นทน่ี อ้ ยกว่ำและเปน็ แรเ่ ชอ้ื เพลงิ สำมำรถ ตดิ ไฟได้ มสี ีน้ำตำลออ่ นจนถึงสีดำ มีทงั้ ชนดิ ผวิ มันและผวิ ด้ำน น้ำหนกั เบำ ถ่ำนหินประกอบด้วยธำตทุ ่ี สำคัญ 4 อย่ำงไดแ้ ก่ คำร์บอน ไฮโดรเจน ไนโตรเจน และออกซเิ จนจำกนั้น มีธำตุหรอื สำรอ่ืน เชน่ กำมะถนั เจอื ปนเล็กนอ้ ย ถ่ำนหินท่ีมจี ำนวนคำร์บอนสูงและมีธำตอุ ื่น ๆ ตำ่ เมื่อนำมำเผำจะใหค้ วำม ร้อนมำก ถอื ว่ำเปน็ ถำ่ นหินคุณภำพดี ประเภทของถ่านหนิ ประเภทของถำ่ นหินมี 5 ประเภท ดงั นี้ 1. พตี (Peat) มีคาร์บอน 60% 2. ลกิ ไนต์ (Lignite) มคี าร์บอน 55 - 60 % 3. ซับบทิ มู นิ ัส (Sub–bituminous) 4. บทิ มู นิ สั (bituminous) 5. แอนทราไซต์ (Anthracite)
2.2การใชป้ ระโยชนจ์ ากถา่ นหิน 1. ถำ่ นหนิ ถูกนำมำใช้เปน็ แหลง่ พลงั งำนมำกกว่ำ 3000 ปี ประเทศจนี เปน็ ประเทศแรก ๆ ทน่ี ำ ถ่ำนหินมำใชเ้ ปน็ เช้ือเพลิงในกำรถลงุ ทองแดง ปัจจบุ ันกำรใชป้ ระโยชน์จำกถ่ำนหนิ ส่วนใหญใ่ ชเ้ ปน็ เชื้อเพลิงในกำรผลิตกระแสไฟฟ้ำกำรถลงุ โลหะ กำรผลติ ปนู ซเี มนต์ และอุตสำหกรรมทใี่ ช้เครอ่ื งจักรไอ นำ้ กำรผลิตกระแสไฟฟ้ำทัว่ โลกใชพ้ ลงั งำนจำกถำ่ นหนิ ประมำณรอ้ ยละ 39 2. แหลง่ ถ่ำนหินในประเทศไทยมีมำกที่เหมืองแมเ่ มำะ จังหวดั ลำปำง คิดเป็น 97% ของปริมำณ สำรองท่มี อี ยู่ในประเทศไทย รองลงมำคือเหมืองกระบ่ี จงั หวดั กระบี่ ส่วนใหญ่เปน็ ลิกไนต์และซบั บทิ ู มินัส ซง่ึ มีคณุ ภำพตำ่ ให้ปริมำณควำมรอ้ นไมส่ ูงมำกนัก 3. ถำ่ นหนิ ยังนำมำทำเปน็ ถำ่ นกมั มันต์ (Activated carbon) เพอื่ ใชเ้ ป็นสำรดูดซับกล่นิ ในเครอื่ ง กรองน้ำ เครื่องกรองอำกำศ หรอื ในเครือ่ งใช้ต่ำง ๆ ทำคำรบ์ อนไฟเบอร์ซึง่ เป็นวสั ดุที่มคี วำม แข็งแกร่ง แต่นำหนักเบำ สำหรบั ใช้ทำอุปกรณก์ ีฬำ เช่น ดำ้ มไมก้ อล์ฟ ไมแ้ บดมินตนั ไมเ้ ทนนิส 4. นักวิทยำศำสตร์พยำยำมเปลี่ยนถ่ำนหนิ ให้เปน็ แก๊ส และแปรสภำพถำ่ นหนิ ให้เป็นของเหลว เพอื่ เพ่ิมคุณค่ำทำงด้ำนพลังงำนและควำมสะดวกในกำรขนสง่ ดว้ ยระบบท่อส่ง เชอื้ เพลงิ แกส๊ หรือ ของเหลวน้จี ะถูกเปล่ยี นเป็นผลติ ภณั ฑเ์ คมอี ่ืน ๆ ที่มีประโยชน์ รวมท้งั เป็นกำรชว่ ยเสรมิ ปรมิ ำณควำม ต้องกำรใช้เชอ้ื เพลิงธรรมชำติจำกปโิ ตรเลยี มดว้ ย
บทที่ 3 วิธดี า้ เนนิ การศึกษาค้นคว้า ในกำรศึกษำครง้ั น้ี ผู้ศึกษำได้ทำกำรศึกษำประโยชน์ของถำ่ นหนิ ท่สี ำมำรถนำมำใช้ ประโยชน์ในด้ำนต่ำง ๆรวมถงึ สำมำรถนำมำใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจำ โดยมีวิธกี ำรดังน้ี โดยมขี ั้นตอนกำรดำเนนิ ดงั ตอ่ ไปน้ี 1.ระเบยี บวธิ ีทีใ่ ช้ในกำรศึกษำ ในกำรศึกษำใช้รปู แบบกำรทดลองและกำรศึกษำขอ้ มลู จำกหนังสือ สอื่ สิ่งพิมพ์และอินเทอรเ์ น็ต 2. วิธดี ำเนนิ กำรศึกษำ ผูศ้ กึ ษำไดด้ ำเนินกำรตำมข้ันตอนดังนี้ 2.1กำรตง้ั ประเดน็ ปัญหำหรอื สิง่ ที่เรำตอ้ งกำรทีจ่ ะรู้ 2.2กำรเรมิ่ ศกึ ษำ ค้นควำ้ เอกสำร หรอื ข้อมูลท่ีจำเป็นตำ่ งๆ เก่ียวกับข้อมูลของถ่ำน และกำร เผำถ่ำน 2.3กำรรวบรวมข้อมลู ทีไ่ ดท้ ้ังหมดมำสงั เครำะห์ข้อมลู - นำถ่ำนไม้ไผ่ไปแช่ไว้ในตเู้ ยน็ เพื่อทดี่ บั กล่นิ ในต้เู ย็น - นำถ่ำนไม้ไผ่ไปเป็นเครอื่ งกรองนำ้ ธรรมขำติ 2.4กำรเขียนเคำ้ โครง ของโครงงำน 2.5กำรเก็บข้อมูลสำรวจข้อมลู และกำรดำเนินกำรทดลอง
2.6กำรทำโครงงำนออกเป็นรูปแบบเล่ม หรอื รูปแบบงำนนำเสนอแบบ Power Point 2.7กำรนำเสนอหวั ขอ้ โครงงำน และโครงงำนของกลุม่ ผจู้ ัดทำ 3. เคร่ืองมือที่ใชใ้ นกำรศึกษำ 3.1 ถำ่ นหนิ 3.2 ภำชนะสำหรับใชก้ รองนำ้ 3.3 นำ้ จำกแหล่งนำ้ ธรรมชำติ 3.4 เครอ่ื งตรวจค่ำpH 3.5 วสั ดอุ ปุ กรณ์ท่ีใช้ในกำรกรองนำ้
บทที4่ ผลกำรดำเนินกำรโครงงำน 4.1 หัวข้อในประเมินควำมเปลีย่ นแปลงของกำรทดลอง มหี วั ขอ้ ในกำรประเมินดังนี้ 1.ควำมเปล่ยี นแปลงของกลนิ่ ภำยในตู้เยน็ หลังจำกนำถ่ำนไปแช่ไว้ในต้เู ยน็ 2.ควำมสะอำดและค่ำpHของนำ้ ทไี่ ดห้ ลงั จำกกำรกรองโดยใช้ถ่ำนไม้ไผ่ 4.2 ผลกำดำเนนิ งำน ผลกำรดำเนนิ งำน - กลนิ่ เหมน็ คำวและกลิน่ หำรในตู้เย็นหมดไป - สำมำรถด่ืมนำสะอำดท่ีผำ่ นกำรกรองโดยใช้ถำ่ นหิน โดยท่นี ้ำน้นั มีคำ่ pHเปน็ กลำง - ระยะเวลำท่ีใช้ในกำรดำนินงำนตรงตำมระยะเวลำท่ีกำหนดไว้
บทท่ี 5 สรปุ ผลกำรดำเนนิ งำน 5.1กำรดำเนินงำนจัดทำโครงงำน 5.1.1วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงงำน 1 นำถ่ำนหนิ มำใชป้ ระโยชนใ์ นดำ้ นตำ่ งๆได้และเกิดประสิทธภิ ำพสงู สุด 5.1.2 วสั ดุอปุ กรณ์ 1 ถำ่ นหนิ 5.2 สรปุ ผลกำรดำเนินงำน จำกกำรทำกำรทดลองนำถ่ำนหินมำใชใ้ นกำรกรองนำและนำมำใชด้ บั กลิ่น คำวในตู้เย็น พว่ำกลนิ่ คำวน้นั หำยไปและทำให้ได้น้ำสะอำดที่ถกู หลักสขุ อนำมยั
บรรณนำกรม ถำ่ นหนิ . 18 กนั ยำยน 2562 [ ออนไลน์ ] จำก https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%96%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB% E0%B8%B4%E0%B8%99 ประเภทของถำ่ นหนิ . 18 กันยำยน 2562 [ ออนไลน์ ] จำก https://dmf.go.th/public/list/data/index/menu/630/mainmenu/630/ ประโยชนข์ องถำ่ นหนิ 18 กนั ยำยน 2562 [ ออนไลน์ ] จำก http://www.trueplookpanya.com/new/asktrueplookpanya/questiondetail/15087
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: