Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนจัดการเรียนรู้ รายวิชาหลักการตลาด หน่วยที่ 5

แผนจัดการเรียนรู้ รายวิชาหลักการตลาด หน่วยที่ 5

Published by นฤมล แต้มเก่ง, 2023-05-10 03:15:20

Description: e-book แผนจัดการเรียนรู้ รายวิชาหลักการตลาด หน่วยที่ 5

Search

Read the Text Version

วิทยาลัยเทคนิคเวียงป่าเป้า Wiang Pa Pao Technical College แผนจัดการเรียนรู้ รายวิชาหลักการตลาด 30200-1002 หน่วยที่ 5 ผลิตภัณฑ์

แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 5 จำนวน 8 ชว่ั โมง สัปดาห์ที่ 6 ชื่อวิชา หลักการตลาด ชอ่ื หนว่ ย ผลิตภัณฑ์ ชื่อเรอื่ ง ผลิตภณั ฑ์ 1. สาระสำคญั ผลิตภณั ฑเ์ ป็นสง่ิ ท่ีธุรกจิ นำออกเสนอขายแกผ่ บู้ ริโภค ประกอบดว้ ยสิ่งทมี่ ตี วั ตนสามารถสัมผสั ได้ ได้แก่ ประโยชนใ์ ช้สอย คุณสมบตั ิ สว่ นประกอบ บรรจภุ ัณฑ์ ตรายีห่ ้อ รูปแบบ สี กลน่ิ และสง่ิ ท่ไี ม่มตี ัวตนสัมผัสไม่ได้ โดยตรง ไดแ้ ก่ แนวความคดิ การให้บรกิ ารการอำนวยความสะดวกตา่ ง ๆ เปน็ สงิ่ ทน่ี กั การตลาดต้องศึกษาและ วางแผน เพ่อื ตอบสนองความตอ้ งการของผู้บรโิ ภคและทำให้ไดร้ บั ความพงึ พอใจสงู สดุ 2. สมรรถนะและเกณฑก์ ารปฏบิ ตั งิ านประจำหนว่ ย 2.1 สมรรถนะประจำหน่วย 1. แสดงความรเู้ กีย่ วกบั ผลิตภัณฑ์ตามหลกั การ 2. วเิ คราะหแ์ นวคิดของสินคาต้ ามหลักการตลาด 2.2 เกณฑก์ ารปฏบิ ัตงิ านประจำหน่วย (ถ้ามี) 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรปู้ ระจำหนว่ ย 3.1 จุดประสงคท์ ่ัวไป 1. บอกความหมายของผลิตภัณฑไ์ ด้ 2. อธิบายองค์ประกอบของผลติ ภัณฑ์ได้ 3. อธบิ ายและแบง่ ประเภทของผลติ ภณั ฑไ์ ด้ 4. อธิบายส่วนประสมของผลติ ภณั ฑไ์ ด้ 5. อธบิ ายสว่ นประกอบของผลติ ภัณฑ์ได้ 6. อธบิ ายประเภทของตราสินค้าได้ 7. อธบิ ายและออกแบบบรรจภุ ัณฑ์ได้ 8. อธบิ ายและกำหนดกลยุทธ์ในวงจรชีวติ ผลติ ภณั ฑ์ได้ 3.2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. นกั เรยี นบอกความหมายของผลิตภัณฑ์ได้ 2. นกั เรียนอธบิ ายองคป์ ระกอบของผลติ ภัณฑ์ได้ 3. นักเรียนอธบิ ายและแบง่ ประเภทของผลติ ภัณฑ์ได้ 4. นกั เรยี นอธบิ ายส่วนประสมของผลิตภัณฑ์ได้ 5. นักเรยี นอธิบายสว่ นประกอบของผลิตภัณฑไ์ ด้ 6. นักเรียนอธบิ ายประเภทของตราสนิ ค้าได้

7. นักเรียนอธบิ ายและออกแบบบรรจภุ ัณฑไ์ ด้ 8. นักเรียนอธิบายและกำหนดกลยุทธใ์ นวงจรชีวติ ผลติ ภณั ฑ์ได้ 4. สาระการเรียนรู้ 1. ความหมายของผลิตภณั ฑ์ (The Meaning of Product) 2. องค์ประกอบของผลิตภัณฑ์ (Product Component) 3. การแบง่ ประเภทของผลิตภัณฑ์ (Product Classification) 4. สว่ นประสมของผลิตภณั ฑ์ (Product Mix) 5. สว่ นประกอบของผลิตภณั ฑ์ (Product Consist) 6.ประเภทของตราสนิ คา้ (Types of Brand) 7. บรรจภุ ณั ฑ์ (Package) 8.วงจรชวี ติ ผลติ ภัณฑ์ (Product Life Cycle=PLC) 5. กิจกรรมการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ (การจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย เชน่ PjBL ,Active Learning , STME Education) ขั้นนำเขา้ สู่บทเรียน 1. ครูอภิปรายให้ผู้เรียนเข้าใจผลิตภัณฑ์ (Product) เป็นสิ่งที่เสนอขายโดยธุรกิจ เพื่อสนองความ ต้องการของผู้บริโภคให้ได้รับความพึงพอใจ ผลิตภัณฑ์ที่เสนอขายอาจมีตัวตนหรือไม่มีตัวตนก็ได้ ซึ่ง ประกอบดว้ ย สินค้า บริการ ความคิด สถานที่ องคก์ ร หรอื บุคคล 2. ผู้เรียนยกตวั อย่างผลิตภณั ฑเ์ พื่อเป็นตัวอย่าง ขนั้ สอน 3. ครูและผู้เรียนใช้เทคนิควิธีสอนแบบบรรยาย (Lecture Method) ซึ่งเป็นวิธีสอนที่ผู้สอนให้ความรู้ ตามเนื้อหาสาระด้วยการเล่าอธิบายโดยที่ผู้เรียนเป็นผู้ฟัง และเปิดโอกาสให้ซักถามปัญหาได้บ้างในตอนท้าย ของการบรรยายเกีย่ วกับความหมายของผลติ ภัณฑ์ (The Meaning of Product) 4. ครูใช้เทคนิควิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) หมายถึง กระบวนการ เรียนรู้ที่จัดให้ผู้เรียนได้ร่วมมือและช่วยเหลือกันในการเรียนรู้โดยแบ่งกลุ่มผู้เรียนที่มีความสามารถต่างกั น ออกเปน็ กลุ่มเล็ก ซ่งึ เปน็ ลักษณะการรวมกลุ่มอยา่ งมโี ครงสร้างท่ีชัดเจน มกี ารทำงานรว่ มกัน มีการแลกเปลี่ยน วทิ ยาลยั เทคนิคเวียงปา่ เปา้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา

ความคิดเห็นมีการช่วยเหลือพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน มีความรับผิดชอบร่วมกันทั้งในส่วนตนและส่วนรวม เพอ่ื ให้ตนเองและสมาชิกทุกคนในกลุ่มประสบความสำเร็จตามเป้าหมายทีก่ ำหนดไว้ ดงั น้ี 4.1 แบง่ ผ้เู รียนเป็นกลุม่ ๆ ละ 5-6 คน 4.2 แต่ละกลุม่ รับผิดชอบดงั นี้ กลมุ่ ท่ี 1 องคป์ ระกอบของผลติ ภัณฑ์ (Product Component) กลมุ่ ที่ 2 การแบง่ ประเภทของผลิตภณั ฑ์ (Product Classification) กลมุ่ ท่ี 3 ส่วนประสมของผลิตภณั ฑ์ (Product Mix) กลมุ่ ที่ 4 สว่ นประกอบของผลิตภณั ฑ์ (Product Consist) กลมุ่ ท่ี 5 ประเภทของตราสนิ คา้ (Types of Brand) กลมุ่ ท่ี 6 บรรจภุ ณั ฑ์ (Package) กลุ่มท่ี 7 วงจรชีวติ ผลติ ภัณฑ์ (Product Life Cycle=PLC) 4.3 นำเสนอสถานการณจ์ ำลอง 4.4 เปดิ โอกาสใหแ้ ลกเปลี่ยนความรูร้ ะหว่างกลุม่ 4.5 ประเมินและเสนอแนะการนำเสนอของกลมุ่ อน่ื 5. ครูและผู้เรียนใช้เทคนิควิธีสอนแบบสาธิต (Demonstration Method) เป็นวิธีสอนที่ครูแสดงให้ ผู้เรยี นดูและให้ความรู้แกผ่ เู้ รยี นโดยใชส้ ่ือการเรียนรู้ที่เป็นรูปธรรม และผู้เรียนได้ประสบการณ์ตรง ซึ่งครูเป็นผู้ สาธิต และให้ผเู้ รยี นฝกึ ทักษะปฏบิ ัติตามเพอ่ื เรยี นรู้องค์ประกอบของผลิตภณั ฑ์ (Product Component) 6. ครูละผู้เรียนใช้เทคนิควิธีสอนแบบใช้โสตทัศนวัสดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวิธสี อนที่นำอปุ กรณโ์ สตทศั นว์ ัสดุมาช่วยพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน โสตทัศน์วัสดุดังกล่าว ได้แก่ Power Point เพ่อื อธิบายการแบง่ ประเภทของผลิตภณั ฑ์ (Product Classification) วทิ ยาลยั เทคนคิ เวียงปา่ เป้า สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา

7. ครูและผู้เรียนใช้เทคนิควิธีสอนแบบสาธิต (Demonstration Method) เป็นวิธีสอนที่ครูแสดงให้ ผู้เรยี นดแู ละให้ความรู้แก่ผ้เู รียนโดยใชส้ ื่อการเรียนรู้ทีเ่ ป็นรปู ธรรม และผู้เรียนได้ประสบการณ์ตรง ซึ่งครูเป็นผู้ สาธติ และใหผ้ ้เู รยี นฝกึ ทกั ษะปฏบิ ตั ิตามเพ่ือเรียนร้สู ่วนประสมของผลติ ภณั ฑ์ (Product Mix) ✓สายผลติ ภณั ฑ์ (Product Line) ✓รายการผลติ ภัณฑ์ (Product Item) 8. ครูและผู้เรียนใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบใช้คำถาม (Questioning Method) เกี่ยวกับส่วนประกอบ ของผลติ ภัณฑ์ (Product Consist) 9. ครูและผู้เรียนใช้เทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบสาธิต (Demonstration Method) ) เกี่ยวกับ ส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ (Product Consist) โดยใช้ Power Point เปน็ สอ่ื ประกอบ วิทยาลัยเทคนคิ เวยี งปา่ เปา้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา

10. ครูและผู้เรียนใช้เทคนิคการสอนแบบการจัดการเรียนรู้แบบอภิปราย (Discussion Method) คือ กระบวนการที่ผู้สอนมุ่งให้ผู้เรียนมีโอกาสสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือระดมความคิดในเรื่อง งานที่ เกี่ยวข้องโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อหาคำตอบ แนวทางหรือแก้ปัญหาร่วมกัน ซึ่งมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการ เรียนรู้ คือ ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมตัดสินใจ ร่วมปฏิบัติงานและชื่นชมผลงานร่วมกันเกี่ยวกับเครื่องหมาย การคา้ มี 4 ประเภท ดังนี้ 11. ครูและผเู้ รียนใช้เทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบสาธติ (Demonstration Method)) โดยใช้ Power Point เป็นสื่อประกอบเกี่ยวกับเครื่องหมายการค้าอาจมีการกำกับด้วยตัวอักษร TM หมายถึงเครื่องหมาย การคา้ ที่มิไดจ้ ดทะเบยี น หรือ ® หมายถึงเครื่องหมายการค้าจดทะเบยี นเป็นสญั ลกั ษณส์ ากล ✓ โลโก้ (Logo) หมายถึง เครื่องหมาย หรือ สัญลักษณ์ ที่ใช้สื่อสารให้ลูกค้าได้รับรู้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง ของตราสินค้าหรือเครื่องหมายตราสินค้า หรือทั้ง 2 อย่างรวมกัน โลโก้เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความแตกต่างและ เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของบริษัท ทำให้สะท้อนถึงบุคลิกภาพของตราสินค้า (Brand Personality) บ่งบอกถึง ความนา่ เชอื่ ถือ ความเชอ่ื มนั่ ในความสำเร็จของบริษทั ✓คำขวัญ (Slogan) หมายถึง ข้อความที่แสดงถึงลักษณะเฉพาะของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นข้อความสั้น ๆ งา่ ยต่อการจดจำ ตวั อยา่ ง คำขวญั -นมสดหนองโพ นมโคแท้ ๆ วทิ ยาลยั เทคนคิ เวียงปา่ เปา้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

- ทิฟฟี่ แผงสีเขยี ว - ธนาคารกสิกรไทย “บรกิ ารทกุ ระดบั ประทบั ใจ” - ชอ่ งเจ็ดสีทีวีเพื่อคณุ - สวนสยาม ทะเลกรุงเทพฯ - ธนาคารกรงุ เทพ “เพือ่ นคู่คดิ มิตรค่บู ้าน” ✓ลิขสิทธิ์ (Copyright) หมายถึง สิทธิแต่ผู้เดียวที่กฎหมายรับรองให้ผู้สร้างสรรค์กระทำการใด ๆ เกี่ยวกับงานที่ตนได้ทำขึ้น ได้แก่ สิทธิทีจ่ ะทำซ้ำ ดัดแปลง หรือนำออกโฆษณา ไม่ว่าในรูปลักษณะอย่างใดหรอื วิธใี ด รวมท้ังอนญุ าตให้ผอู้ ่นื นำงานน้นั ไปทำเชน่ วา่ น้ันด้วย โดยจะแสดงสญั ลกั ษณ์ © งานทีเ่ ก่ยี วกบั ลิขสิทธิ์ ได้แก่ - งานวรรณกรรม เชน่ หนังสอื บทความ โคลง กลอน โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เปน็ ต้น - งานนาฏกรรม เชน่ การเตน้ การรำ การแสดงต่าง ๆ เป็นต้น - งานศิลปกรรม เชน่ จิตรกรรม ประตมิ ากรรม ภาพพิมพ์ เป็นต้น - งานดนตรี เช่น เนือ้ ร้อง ทำนอง เป็นตน้ ✓ปา้ ยฉลาก (Label) หมายถงึ สว่ นหนงึ่ ของผลิตภณั ฑ์ หรือ บรรจภุ ัณฑ์ ซึ่งเป็นข้อความทแี่ สดงข้อมูล ข่าวสาร รายละเอยี ดตา่ ง ๆ ทีเ่ กย่ี วกบั ผลติ ภณั ฑ์ เพ่ือให้ผู้บริโภคไดร้ บั รู้ ปา้ ยฉลากอาจจะพมิ พล์ งบนตัวผลติ ภัณฑ์ หรอื พิมพ์ลงบนกระดาษ แลว้ ตดิ ไว้ท่ีตวั ผลิตภณั ฑห์ รือหบี ห่อ ซง่ึ รวมถงึ คมู่ ือ เอกสารท่ีใช้ประกอบผลติ ภัณฑ์ ป้ายฉลากสามารถแบง่ เปน็ 3 สว่ น คือ 1 ป้ายฉลากแสดงตราสนิ ค้า (Brand Label) 2 ป้ายฉลากแสดงคณุ ภาพของสนิ คา้ (Grade Label) 3 ป้ายฉลากแสดงรายละเอยี ดของสินคา้ (Descriptive Label) ✓บาร์โค้ด (Barcode) หมายถึง สัญลักษณ์รหัสแท่งที่มีเลขหมายประจำตัวของสินค้าเป็นรหัสตัว เลขทเ่ี ปน็ ระบบมาตรฐานสากล เพื่อใช้แทนขอ้ มลู เก่ยี วกบั ประเทศทผ่ี ลติ ผผู้ ลิต ชนดิ และราคาสนิ คา้ วทิ ยาลัยเทคนคิ เวยี งปา่ เป้า สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา

รหัสแท่งของบาร์โคด้ เป็นลกั ษณะแถบเส้นสดี ำ ที่มีความหนาบางแตกต่างกัน วางเรียงในแนวตั้งบนพื้นสีขาวที่ เป็นความห่างของแถบ ความหนาบางของเส้นสดี ำและระยะห่างจะถูกกำกับโดยตัวเลขท่ีอยู่ข้างล่าง รหัสแท่งที่ แสดงขอ้ มูลของสนิ ค้าหรือบารโ์ คด้ ท่ีนิยมใช้แบง่ ออกเปน็ 2 ระบบ คือ 1) ระบบ UPC (Universal Product Code) เป็นบารโ์ ค้ดระบบแรกของโลก เริม่ ทดลองใช้ ในปี พ.ศ. 2513 และปรับปรุงให้สามารถใช้ได้สมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2516 นิยมใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกา และ แคนาดา ซง่ึ มอี ยู่ 4 ชนิด คอื 1) แบบย่อมี 8 หลกั หรือเรียก UPC-E ใช้กบั สนิ คา้ ทมี่ ีข้อมูลน้อย 2) แบบมาตรฐานมี 12 หลกั หรอื เรียก UPC-A เปน็ แบบท่นี ิยมใช้อยทู่ ั่วไป 3) แบบเพ่ิมตัวเลข 2 หลกั หรอื เรียก UPC-A+2 ในกรณที ี่ UPC-A ใช้เก็บขอ้ มลู ไมพ่ อ 4) แบบเพิ่มตวั เลข 5 หลกั หรือเรยี ก UPC-A+5 เพอื่ เพ่มิ ข้อมลู ใหม้ ากขน้ึ 2) ระบบ EAN (European Article Number) เป็นระบบบารโ์ ค้ดท่ีได้พัฒนาข้ึนในแถบยุโรป สามารถ ใช้ได้อย่างสมบูรณ์เมื่อปี พ.ศ. 2520 และใช้แพร่หลายทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยด้วย เป็นระบบที่บรรจุข้อมูล สนิ คา้ ได้มากกวา่ มี 4 ชนิด คอื 1) แบบยอ่ มี 8 หลกั หรือเรยี ก EAN-8 ใช้กับธรุ กิจเล็ก มีข้อมลู ไมม่ าก 2) แบบมาตรฐานมี 13 หลัก หรือเรียก EAN-13 (ประเทศไทย) 3) แบบเพิ่มตัวเลข 2 หลัก หรือ EAN-13+12 เพื่อเพิ่มข้อมูล ถ้า EAN-13 บรรจุข้อมูล ไม่หมด 4) แบบเพิ่มตัวเลข 5 หลัก หรือเรียก EAN-13+5 เพื่อเพิ่มข้อมูลให้มากขึ้น แบบมาตรฐาน มี ตวั เลข 13 หลัก และแบบย่อ มีตวั เลข 8 หลัก ความหมายของตัวเลขในบาร์โคด้ ระบบ EAN – 13 ตัวเลข ความหมาย 3 ตัวแรก รหัสประเทศ (Country Code) 4 ตวั ถดั จากรหสั ประเทศ เปน็ เลขประจำตวั ของนายทะเบยี นของแต่ละประเทศ ซ่งึ EAN เป็นผู้กำหนดให้ รหัสสมาชกิ (Manufacture Code) 5 ตัว ถดั จากรหัสสมาชิก เป็นรหัสของโรงงานที่ผลิต ซึ่งสถาบันสัญลักษณ์รหัสจะเป็นผู้กำหนดรหัสให้ สมาชิกเพอื่ ป้องกันการตัง้ รหสั ซ้ำกนั รหสั ประจำตัวสนิ ค้า (Product Code) เป็นตัวเลขรหัสกำกับสินค้า ซึ่งลูกค้าที่เป็นสมาชิกของสถาบันฯ จะต้องเป็นผู้ กำหนดเองเพอ่ื สะดวกในการจดั เก็บข้อมูลของสินค้าแตล่ ะชนิด วทิ ยาลยั เทคนิคเวยี งปา่ เปา้ สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา

1 ตวั สดุ ท้าย รหัสตรวจสอบการอา่ นถูกตอ้ ง (Check Digit) เป็นตัวเลขตรวจสอบของคอมพิวเตอร์ เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเลขที่อยู่ข้างหน้านั้น ถูกต้องหรือไม่ 12. ครแู ละผู้เรยี นใช้เทคนิคการสอนแบบการจัดการเรียนรแู้ บบอภปิ ราย (Discussion Method) คอื กระบวนการที่ผู้สอนมุ่งให้ผู้เรียนมีโอกาสสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือระดมความคิดในเรื่อง งานที่ เกี่ยวข้องโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อหาคำตอบ แนวทางหรือแก้ปัญหาร่วมกัน ซึ่งมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการ เรียนรู้ คือ ร่วมคดิ รว่ มวางแผน ร่วมตดั สนิ ใจ ร่วมปฏบิ ัติงานและชืน่ ชมผลงานร่วมกันเกี่ยวกบั ประเภทของตรา สินคา้ (Types of Brand) การเลือกใช้ตราสินคา้ มีดังน้ี 1) ตราสินคา้ เดียว (Family Brand) 2) ตราสินคา้ เฉพาะผลิตภัณฑ์ (Individual Brand) 3) ตราสนิ ค้าเดียวแยกกันสำหรับผลิตภณั ฑแ์ ตล่ ะกล่มุ (Separate Family Brand for all Product) 4) ตราสินค้าเฉพาะผลิตภัณฑ์ร่วมกับชื่อกิจการ (The Company Combine with on Individual Brand) 13. ครูและผู้เรียนใช้เทคนิควิธีสอนแบบใช้โสตทัศนวัสดุ (Audio-Visual Material of Instruction Method) เป็นวิธสี อนท่ีนำอปุ กรณ์โสตทัศน์วัสดุมาช่วยพฒั นาคุณภาพการเรียนการสอน โสตทัศน์วัสดุดังกล่าว ไดแ้ ก่ Power Point เพอ่ื ประกอบการอธิบายบรรจภุ ัณฑ์ (Package) 14. ครูและผู้เรียนใช้เทคนิควิธีสอนแบบใช้โสตทัศนวัสดุ (Audio-Visual Material of Instruction Method) เปน็ วิธสี อนทน่ี ำอปุ กรณ์โสตทัศนว์ ัสดุมาช่วยพฒั นาคุณภาพการเรียนการสอน โสตทัศน์วัสดุดังกล่าว ไดแ้ ก่ Power Point เพอ่ื ประกอบการอธิบายวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (Product Life Cycle=PLC) วทิ ยาลยั เทคนคิ เวยี งปา่ เป้า สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา

15.ผเู้ รยี นอา่ นกรณีศึกษา แล้ววเิ คราะหต์ ามสถานการณข์ องตัวอยา่ งท่กี ำหนดให้ 16.ผูเ้ รียนฝกึ ทกั ษะดังตอ่ ไปน้ี 1) หารูปภาพสนิ ค้าคนละ 1 รูป โดยมรี ายละเอยี ดสินค้าประกอบแล้วนำมาติดลงบนกระดาษ 2) ผู้เรียนศกึ ษาเกีย่ วกับองคป์ ระกอบของผลติ ภัณฑ์ 3) ผเู้ รียนพิจารณาถงึ คุณสมบตั ิและลักษณะของผลติ ภณั ฑ์ แล้วให้อธบิ ายถึงองค์ประกอบของ ผลิตภณั ฑ์ โดยเขียนลงบนกระดาษรายงานที่ไดต้ ิดรูปไว้ 17.ผู้เรยี นฝกึ ทักษะดังต่อไปนี้ 1) ผ้เู รียนแบง่ กลุ่ม ๆ ละ 4 – 5 คน ตามความสมัครใจ โดยให้แตล่ ะกล่มุ เลือกหวั หน้ากลุ่ม ๆ ละ 1 คน เพ่ือเป็นผู้ควบคุมและดำเนินกิจกรรม 2) ครูผู้สอนชี้แจงให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มศึกษาเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์และส่วนประกอบของ ผลติ ภณั ฑ์ 3) ผู้เรียนแต่ละกลุ่มร่วมมือกันในการระดมความคิดเพื่อออกแบบบรรจุภัณฑ์โดยมีเงื่อนไข ดังนี้ - ให้วาดรูปบรรจุภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ชั้นใน และมีส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ปรากฏอย่าง ครบถว้ น 4) แตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอผลงานหน้าชนั้ เรียน 5) ผู้เรยี นในช้นั เรียนร่วมกันแสดงความคดิ เห็น 18. ผ้เู รยี นนำตวั อย่างรปู ภาพของผลิตภัณฑ์เพอ่ื การบริโภค (Consumer Products) มาประกอบ 19. ผเู้ รียนทำรายงานเป็นกรณศี กึ ษา ดงั นี้ ✓จัดทำรายงานเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่มก็ได้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสภาพ การเรียนรู้ ✓สำรวจและเลอื กบรษิ ทั ห้างร้าน มาจำนวน 1 แห่ง ✓สำรวจขอ้ มลู ของกิจการเบ้ืองตน้ เกี่ยวกับชือ่ ทต่ี ัง้ สินค้าที่ผลติ หรอื จำหน่าย ฯลฯ ✓หาข้อมูลบริษัทว่ามีส่วนประสมของผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วยสายผลิตภัณฑ์ (Product Line) และรายการผลิตภัณฑ์ (Product Item) อยา่ งไรบ้าง จงระบเุ ป็นขอ้ ๆ พรอ้ มรปู ภาพผลติ ภัณฑป์ ระกอบ ✓ในกิจการของบริษัทนั้นได้มกี ารพิจารณาส่วนประสมของผลิตภัณฑ์อย่างไรบ้าง ให้อธิบาย พร้อมรูปภาพผลติ ภณั ฑ์ ประกอบดว้ ย 1) ความกว้างของผลติ ภณั ฑ์ (Product Width) ว่ามกี ่ีสายผลติ ภณั ฑ์ อะไรบา้ ง 2) ความลึกของผลิตภัณฑ์ (Product Depth) พร้อมยกตวั อย่างประกอบ 3) ความยาวของผลิตภณั ฑ์ (Product Length) 4) ความสอดคล้องของผลติ ภณั ฑ์ (Product Line Consistency) วิทยาลัยเทคนคิ เวียงปา่ เป้า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา

20. ผทู้ ำรายงานเปน็ กรณศี ึกษา (ตอ่ จากข้อ 19) ดงั น้ี ✓จัดทำรายงานเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่มก็ได้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสภาพการ เรยี นรู้ ✓สำรวจและเลอื กบรษิ ทั หา้ งรา้ น มาจำนวน 1 แหง่ (ต้องเปน็ กจิ การเดยี วกบั ใบงานที่ 5.4) ✓สำรวจข้อมูลของกจิ การเบือ้ งต้นเก่ียวกับชอื่ ท่ีตง้ั สนิ ค้าทผี่ ลิตหรอื จำหน่าย ฯลฯ ✓หาขอ้ มูลบริษทั วา่ มสี ว่ นประกอบของผลิตภณั ฑ์ (Product Consist) พร้อมรปู ภาพได้แก่ (1) (Brand) (6). (Slogan) (Copyright) (2). (Brand Name) (7). (Label) (3) (Brand Mark) (8). (Barcode) (4). (Trade Mark) (9). (5). (Logo) 21. ครูเน้นให้ผู้เรียนพิจารณาการพัฒนาองค์การ โดยใช้ความมีเหตุมีผล และความรอบคอบ ระมัดระวงั ซ่ึงจะเปน็ ภมู ิคุ้มกนั ทดี ีในตัวเองได้ ซง่ึ ความมเี หตุผล หมายถึงการตัดสินใจเก่ียวกับระดับของความ พอเพียงต้องเป็นไปอย่างมเี หตผุ ล โดยพิจารณาจากเหตุปจั จยั ท่ีเก่ียวข้องคำนงึ ถงึ ผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการ กระทำนนั้ ๆ อยา่ งรอบคอบ ส่วนการมภี ูมิคมุ้ กนั ทีด่ ใี นตัว หมายถงึ การเตรียมตัวใหพ้ รอ้ มรบั ผลกระทบและการ เปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่างๆที่คาดว่าจะเกิดขึ้นใน อนาคต ขนั้ สรุปและการประยกุ ต์ 22. ผเู้ รียนสรุป และการถามตอบเปน็ รายบุคคล หรือเปน็ กลมุ่ 23. ผ้เู รยี นทำแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ 24. ประเมินผ้เู รียนตามแบบฟอรม์ ต่อไปน้ี ช่ือผ้เู รียน ธรรมชาติของผเู้ รยี น วิธกี ารเรยี นรู้ ความสนใจ สติปัญญา วุฒิภาวะ 1. 2. 3. 4. 6. สอื่ และแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรยี น วชิ าหลักการตลาด ของสำนกั พิมพ์เอมพนั ธ์ 2. รปู ภาพประกอบ 3. กิจกรรมการเรียนการสอน 4. สอ่ื อเิ ล็กทรอนิกส์, PowerPoint 5. แบบประเมินผลการเรยี นรู้ วทิ ยาลยั เทคนิคเวยี งปา่ เปา้ สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา

7. หลกั ฐาน 7.1 หลักฐานความรู้ 1. บันทึกการสอนของผูส้ อน 2. ใบเช็ครายช่อื 3. แผนจดั การเรยี นรู้ 7.2 หลักฐานการปฏิบตั ิงาน 1. การตรวจประเมนิ ผลงาน 8. การวัดและประเมนิ ผล เกณฑ์การใหค้ ะแนน 70 : 30 จติ พิสยั 20 - ความมีวินัยและความปลอดภัย 3 - ความรบั ผิดชอบ 3 - ความสนใจใฝร่ ู้ 3 - ความซอ่ื สัตย์สุจรติ 3 - การตรงตอ่ เวลา 3 - คะแนนจติ พสิ ยั จากครูท่ีปรึกษา 5 คะแนนภาคทฤษฎี 25 คะแนนภาคปฏิบัติ 25 สอบปลายภาค 30 เกณฑก์ ารประเมนิ 80-100 4.0 ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ ดีเยย่ี ม 75-79 3.5 ผลการเรยี นอยใู่ นเกณฑ์ ดมี าก 70-74 3.0 ผลการเรียนอย่ใู นเกณฑ์ ดี 65-79 2.5 ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ ดพี อใช้ 60-64 2.0 ผลการเรยี นอย่ใู นเกณฑ์ พอใช้ 55-59 1.5 ผลการเรยี นอยใู่ นเกณฑ์ อ่อน 50-54 1.0 ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ ออ่ นมาก 0-49 0 ผลการเรยี นอยู่ในเกณฑ์ ขัน้ ตำ่ วิทยาลัยเทคนิคเวียงปา่ เป้า สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา

9. บนั ทึกผลหลังการจัดการเรยี นรู้ หน่วยที่ .............. 9.1 ข้อสรุปหลงั การจัดการเรยี นรู้ .................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................. 9.2 ปัญหาทพ่ี บ .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 9.3 แนวทางแก้ปญั หา .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ................................................. ................................................. (.............................................) (……………………………………) ครผู ู้สอน หัวหนา้ แผนกวิชา ................................................. ................................................. (....................................) (.......................................) หวั หนา้ งานพฒั นาหลกั สตู รฯ รองฝา่ ยวชิ าการ วิทยาลัยเทคนคิ เวยี งปา่ เป้า สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา

วทิ ยาลัยเทคนคิ เวยี งปา่ เปา้ สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา