2

สถติ ิ (Statistics) Statistics Statistik (เยอรมัน,Gottfried Achenwall) รวบรวมข้อเทจ็ จริง: ตวั เลข ยุคแรก: วเิ คราะห์จาํ นวนพลเรือน ทหาร ทรัพย์สนิ (บริหารประเทศ+สงคราม) ยุคต่อมา: เครGืองมือในการจดั สรรข้อเทจ็ จริง ใช้ในงานการศกึ ษา การเศรษฐกจิ และการอุตสาหกรรม

ความหมายของสถติ ิ Statistics ตวั เลขทAแี สดงข้อเทจ็ จริงหรือตวั เลขทAี รวบรวมจากปรากฏการณ์ เช่น จาํ นวนอุบตั เิ หตุ รายได้เฉลAียต่อ ครอบครัว อายุเฉลAีย ระเบยี บวธิ ีทางสถติ ิ ✎การเกบ็ รวบรวมข้อมูล ✎นําเสนอข้อมูล ✎วเิ คราะห์ข้อมูล ✎ การแปลความหมายและสรุปผลข้อมูล

ระเบยี บวธิ ีการทางสถติ ิ การเกบ็ รวบรวมข้อมูล (Collection Data) - ข้อมูลปฐมภมู ิ - ข้อมูลเชงิ คุณภาพ - ข้อมูลทตุ ยิ ภมู ิ - ข้อมูลเชงิ ปริมาณ การนําเสนอข้อมูล (Presenting Data) - ข้อความ - แผนภมู กิ ง - ตาราง - รูปภาพ - กราฟแท่ง การวเิ คราะห์ข้อมูล (Analyzing Data) การแปลความหมายและสรุปผลข้อมูล (Interpretation and conclusion)

ข้อมูล ข่าวสารหรือข้อเทจ็ จริงเก3ียวกับส3งิ ท3เี ราสนใจ ซ3งึ อาจอยู่ในรูปของข้อความหรือตวั เลขท3รี วบรวมได้จากการวัด • แบ่งตามแหล่งข้อมูล • แบ่งตามลักษณะของข้อมูล ข้อมูลปฐมภมู ิ (primary data) ข้อมูลเชงิ คุณภาพ (qualitative data) เป็ นข้อมูลทAเี กบ็ รวบรวมมาจากสAงิ เป็ นข้อมูลเกAียวกับคุณลักษณะของแต่ ทAเี ราต้องการศกึ ษาโดยตรง ละสAิงทAตี ้องการจะศกึ ษา ทAไี ม่สามารถ วัดออกมาเป็ นตวั เลขได้ แต่วัดออกมา ข้อมูลทตุ ยิ ภมู (ิ secondary data) เป็ นคุณลักษณะของสAงิ นันc ๆ เป็ นข้อมูลทAเี กบ็ รวบรวมจากแหล่ง ข้อมูลเชงิ ปริมาณ(quantitative data) ทAมี ีการเกบ็ รวบรวมข้อมูลเหล่านีc ไว้แล้ว เป็ นข้อมูลเกAียวกับคุณลักษณะของคน สAงิ ของทAสี ามารถวัดออกมาเป็ นตวั เลข

สมบตั ขิ องข้อมูลท5ดี ี ความถกู ต้อง ความสอดคล้องกับส3งิ ท3ี (accuracy) ต้องการศกึ ษา (relevance) ความบริบรู ณ์ ความทนั สมัย (completeness) (timeliness)

การเกบ็ รวบรวมข้อมูล § เอกสาร § การสงั เกต § การสมั ภาษณ์ § การตอบแบบสอบถาม § การใช้แบบวดั มาตรฐาน 7

การนําเสนอข้อมูลโดยข้อความ จากการรวบรวมข้อมูล พบว่ากลุ่ม ตวั อย่างมี ตาํ แหน่งเป็ น รองศาสตราจารย์ จาํ นวน @A คน คดิ เป็ น ร้อยละ FG.@I ผู้ช่วยศาสตราจารย์ จาํ นวน A คน คดิ เป็ น ร้อยละ LA.FG ส่วนทNเี หลืออีก I คนคดิ เป็ น ร้อยละ @I.LP มีตาํ แหน่งเป็ นอาจารย์

การนําเสนอข้อมูลโดยใช้ตาราง ตาราง ^_ ตาํ แหน่งของกลุ่มตวั อย่างทbเี ป็ นผู้เชbียวชาญในการ ตรวจสอบความเป็ นไปได้ในกระบวนการตรวจวัดของตวั บ่งชีh (ij คน) ตาํ แหน่ง จาํ นวน ร้อยละ รองศาสตราจารย์ ^l 57.14 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ j 28.57 อาจารย์ 4 14.29 รวม 28 100.00 จากตาราง พบว่า โดยส่วนใหญ่กลุ่มตวั อย่างเกนิ ครAึง มีตาํ แหน่ง เป็ น รองศาสตราจารย์ รองลงมาคือผู้ช่วยศาสตราจารย์และอาจารย์ ตามลาํ ดบั 9

จาํ นวนเปอร์เซน็ ต์ตาํ แหน่งของ จาํ นวนตาํ แหน่งของผู้เช9ียวชาญในการตรวจสอบความ ผู้เช8ียวชาญในการตรวจสอบความเป็ นไป เป็ นไปได้ในกระบวนการตรวจวัดของตวั บ่งชีF ได้ในกระบวนการตรวจวัดของตวั บ่งชีE 18 14% 16 29% 16 14 12 57% 10 8 8 6 4 4 2 รองศาสตราจารย์ 0 ผู้ช่วย อาจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ศาสตราจารย์ อาจารย์ รองศาสตราจารย์

Statistics สถติ บิ รรยาย สถติ อิ ้างองิ (Descriptive Statistics) (Inferential Statistics) ศกึ ษาจากประชากร ศกึ ษาจากกลุ่มตวั อย่าง (จากการสุ่ม) อ้างองิ เฉพาะกลุ่มนันc อ้างองิ ไปยังประชากร (Target Population)

ความสัมพนั ธ์ระหว่างสถติ เิ ชงิ บรรยายกับสถติ อิ ้างองิ ประชากร การได้กลุ่ม ตวั อย่าง ตวั อย่าง Population (sampling) Sample สถติ เิ ชงิ บรรยาย สถติ เิ ชงิ บรรยาย (descriptive statistics) สถติ อิ ้างองิ (descriptive statistics) ค่าพารามเิ ตอร์:parameter (inferential ค่าสถติ :ิ statistics µ , s ,s2, r statistics) ,SD, S2 , r

มาตรการวัด (Measurement Scale)

มาตรการวัด (Measurement Scale) มาตรนามบัญญัติ มาตรจัดอันดับ (Nominal Scale) (Ordinal Scale) ข้อมูลทbถี กู จดั แบ่งออกเป็ น ข้อมูลทbถี กู จดั แบ่งออกเป็ น กลุ่ม ๆ เป็ นพวกเท่านันh เช่น กลุ่ม ๆ เป็ นพวก เรียงลาํ ดบั ได้ เพศ สาขาวชิ า สัญชาติ ศาสนา โดยช่วงห่างของแต่ละช่วงไม่ เท่ากัน เช่น อันดบั ทbสี อบได้ ขนาดเสือh ระดบั การศกึ ษา

มาตรอันตรภาค มาตรอัตราส่วน (Interval Scale) (Ratio Scale) ข้อมูลทbถี กู จดั แบ่งออกเป็ น ข้อมูลทbถี กู จดั แบ่งออกเป็ น กลุ่ม ๆ เป็ นพวกได้ โดยช่วงห่าง กลุ่ม ๆ เป็ นพวกได้ โดยช่วง ของแต่ละช่วงเท่ากัน แต่ไม่มี ห่างของแต่ละช่วงเท่ากัน แต่ ศูนย์แท้ เช่น อุณหภมู ิ มีศูนย์แท้ เช่น พนืh ทbี ปริมาตร ความเร็ว