ISSN 0125-7447ปท ่ี 43 ฉบับท่ี 34 : 31 สิงหาคม 2555 Volume 43 Number 34 : August 31, 2012สาํ นกั ระบาดวทิ ยา กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสขุ / Bureau of Epidemiology, Department of Disease Control, Ministry of Public Health [email protected] การประเมินระบบเฝา้ ระวังโรคหดั จงั หวดั ตาก ปี พ.ศ. 2554 Measles Surveillance Evaluation, Tak, Thailand, 2011 วรรณา วจิ ติ ร และคณะบทคดั ย่อ องค์การอนามัยโลกและประเทศสมาชิก รวมทั้งประเทศไทย มีพันธะสัญญาร่วมกันในการกําจัดโรคหัด โดยมีเป้าหมายท่ีจะกําจัดโรคหัด โดยประเทศไทยมีเป้าหมายท่ีจะกําจัดโรคหัดให้ได้ใน ปี พ.ศ. 2563 สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดตาก ได้มีการจัดประชุมช้ีแจงแนวทางการดําเนินงานโครงการกําจัดโรคหัด ในเดือนสิงหาคม 2554 ให้แก่เจ้าหน้าท่ีท่ีเก่ียวข้องในระดับอําเภอ ดังน้ันสาํ นักงานปอ้ งกนั ควบคมุ โรคท่ี 9 จังหวดั พิษณุโลก ร่วมกับ สาํ นกั งานสาธารณสุขจังหวัดตาก และสํานักระบาดวิทยา ได้ประเมินการเฝ้าระวังโรคหัด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาคุณสมบัติของระบบเฝ้าระวังโรคหัดในเชิงปริมาณ และให้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงระบบเฝ้าระวังโรคหัด เป็นการศึกษาเชิงพรรณนา (Descriptive study) จากการทบทวนเวชระเบียนผู้ป่วยตามรหัส ICD 10 ที่เข้ามารับบริการจากโรงพยาบาลท้ัง 8 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2554 ทั้งหมดจํานวน 465 ราย ผู้ป่วยท่ีเข้าได้ตามนยิ ามผปู้ ว่ ยสงสัยโรคหดั ท้ังหมด 67 ราย แต่ไมม่ ีในรายงาน 506 ท้ังหมด จํานวน 37 ราย ค่าความไว ร้อยละ 44.8 ค่าพยากรณ์บวกร้อยละ 66.7 ความเป็นตัวแทนของระบบเฝ้าระวัง พบอัตราส่วนเพศชายต่อเพศหญิง ในผู้ป่วยรายงาน 506 เท่ากับ 1:1 จากข้อมูลจากเวชระเบียน เท่ากับ 0.7 : 1 ด้านอายุ พบว่า จากรายงาน 506 ค่ามัธยฐานอายุ 7 ปี (พิสัย 2 เดือน – 49 ปี) ข้อมูลจากเวชระเบียนค่ามัธยฐานอายุ 2.5 ปี (พิสัย 1 - 30 ปี) ความถูกต้องของการบันทึกข้อมูลเฝ้าระวัง (Accuracy) โรคหัด จังหวัดตาก มีความถูกต้องของการบันทึกข้อมูลอยู่ในระดับมากกว่า ร้อยละ 90 ด้านความทันเวลา (Timeliness) ของระบบเฝ้าระวัง มีความทันเวลา ร้อยละ86.7 จากผลการประเมินค่าพยากรณ์บวกของระบบเฝ้าระวัง เม่ือพิจารณาตามกลุ่มโรงพยาบาล ส่วนใหญ่อยู่ในระดับพอใช้ถึงควรปรับปรุง ทัง้ นี้พบว่าแพทย์บางโรงพยาบาลมีการใชน้ ยิ ามในการวินจิ ฉยั ทีค่ ่อนขา้ งมีความจาํ เพาะสงู ดังน้ันจงึ ควรใช้นิยามตามการเฝ้าระวังโรคหัด เพอ่ื ใหเ้ กดิ การรายงานและสอบสวนผปู้ ว่ ยสงสัยโรคหดั ทกุ รายคําสําคัญ การประเมิน การเฝ้าระวัง โรคหัด การประเมนิ ระบบเฝา้ ระวังโรคหดั จังหวัดตาก ปี พ.ศ. 2554 529 สรุปการตรวจขา่ วการระบาดของโรคในรอบสปั ดาห์ท่ี 34 ระหว่างวันท่ี 19 - 25 สงิ หาคม 2555 537 ขอ้ มลู รายงานโรคเฝา้ ระวังทางระบาดวิทยาประจาํ สปั ดาห์ที่ 34 ระหว่างวันท่ี 19 - 25 สงิ หาคม 2555 539
วตั ถปุ ระสงคใ์ นการจดั ทํา ความเป็นมารายงานการเฝ้ าระวงั ทางระบาดวิทยาประจําสปั ดาห์ สถานการณ์โรคหัดจังหวัดตาก ตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 - 2554 1. เพื่อใหหนวยงานเจาของขอมูลรายงานเฝาระวังทาง พบว่า มีแนวโน้มลดลง ในปี พ.ศ. 2554 พบอัตราป่วย 7.08 ต่อระบาดวิทยา ไดตรวจสอบและแกไขใหถูกตอง ครบถวน ประชากรแสนคน ยกเว้นปี พ.ศ. 2552 ซ่ึงมีการระบาดของโรคหัดสมบรู ณย ่งิ ขน้ึ อัตราป่วย 44.35 ต่อประชากรแสนคน(1) เม่ือพิจารณารายอําเภอ พบว่า โรงพยาบาล มีความครอบคลุมของรายงานผู้ป่วยโรคหัด 2. เพื่อวิเคราะหและรายงานสถานการณโรคท่ีเปน ร้อยละ 75 (6/8 แห่ง) ปี พ.ศ. 2553 องค์การอนามัยโลกและปจ จบุ ัน ทง้ั ใน และตา งประเทศ ประเทศสมาชิกรวมทั้งประเทศไทย มีพันธะสัญญาร่วมกันในการ กําจัดโรคหัด โดยมีเป้าหมายที่จะกําจัดโรคหัด โดยประเทศไทยมี 3. เพ่ือเปนส่ือกลางในการนําเสนอผลการสอบสวน เป้าหมายที่จะกําจัดโรคหัดให้ได้ในปี พ.ศ. 2563 (2) สํานักงานโรค หรอื งานศึกษาวิจยั ท่สี ําคัญและเปน ปจ จบุ นั สาธารณสุขจังหวัดตากได้มีการจัดประชุมช้ีแจงแนวทางการ ดําเนินงานโครงการกําจัดโรคหัด ในเดือนสิงหาคม 2554 ให้แก่ 4. เพ่ือเผยแพรความรู ตลอดจนแนวทางการดําเนินงาน เจ้าหน้าท่ีท่ีเกี่ยวข้องในระดับอําเภอ ดังนั้นสํานักงานป้องกัน-ทางระบาดวทิ ยาและสาธารณสขุ ควบคุมโรคท่ี 9 จังหวัดพิษณุโลก ร่วมกับ สํานักงานสาธารณสุข จังหวดั ตาก และสํานักระบาดวิทยา ได้ประเมินการเฝ้าระวังโรคหัดคณะทป่ี รึกษา ในโรงพยาบาลจํานวน 8 แห่ง ในวันท่ี 15 - 17 กุมภาพันธ์ 2555 และ 5 - 8 มิถุนายน 2555 ได้แก่ โรงพยาบาลทั่วไป 2 แห่ง นายแพทยสชุ าติ เจตนเสน นายแพทยป ระยรู กุนาศล โรงพยาบาลชุมชน 6 แหง่ นายแพทยธ วัช จายนียโยธนิ นายแพทยป ระเสริฐ ทองเจรญิ วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือศึกษาคุณสมบัติของระบบเฝ้าระวังโรคหัดในเชิง นายแพทยค าํ นวณ อง้ึ ชูศกั ดิ์ นายสตั วแพทยประวิทย ชมุ เกษยี ร ปริมาณ ได้แก่ ความครบถ้วน ค่าพยากรณ์บวก ความเป็นตัวแทน นายองอาจ เจริญสขุ ความถูกต้องของการบันทกึ ขอ้ มูล และความทนั เวลาหวั หนากองบรรณาธกิ าร : นายแพทยภาสกร อคั รเสวี 2. เพ่ือให้ขอ้ เสนอแนะแก่โรงพยาบาลในการปรบั ปรุงระบบ เฝา้ ระวังโรคหดับรรณาธกิ ารประจาํ ฉบบั : บรมิ าศ ศักดิ์ศิรสิ มั พนั ธ วธิ ีการศกึ ษาบรรณาธกิ ารวชิ าการ : แพทยหญงิ ดารินทร อารียโชคชยั ทําการศึกษาคุณสมบัติของระบบเฝ้าระวังโรคหัดในเชิงกองบรรณาธิการ ปรมิ าณ ดงั น้ี 1. แหลง่ ขอ้ มลู อา้ งอิง บรมิ าศ ศกั ดิ์ศิริสมั พนั ธ พงษศ ริ ิ วฒั นาสุรกติ ต สิริลกั ษณ รงั ษวี งศ 1.1. รายงานโรคหัดจากระบบเฝ้าระวังทางระบาดฝา ยขอ มลู วทิ ยา (รายงาน 506) จังหวดั ตาก ปี พ.ศ. 2554 1.2. รายงานโรคหัดจากระบบเฝ้าระวังตามโครงการ สมาน สยุมภรู ุจนิ นั ท ศศธิ นั ว มาแอเคยี น พัชรี ศรหี มอก กําจดั โรคหดั ตามพันธะสัญญานานาชาติ ปี พ.ศ. 2554 น.สพ. ธีรศักดิ์ ชักนาํ สมเจตน ตัง้ เจรญิ ศิลป 1.3. รายงานผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการฝายจัดสง : พนู ทรพั ย เปยมณี เชดิ ชยั ดาราแจง พรยี า คลายพอ measles IgM จังหวดั ตาก ปี พ.ศ. 2554 2. ทบทวนเวชระเบียนผู้ป่วยทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในฝา ยศลิ ป : ประมวล ทมุ พงษ ตามการวินิจฉัยโรค จากผู้มารับบริการท่ีโรงพยาบาลทั้ง 8 แห่งส่ืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส : บรมิ าศ ศักด์ศิ ริ สิ มั พนั ธ ของจังหวัดตาก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2554 ที่มี การวินิจฉยั โรคตามรหัส ICD10TM ได้แก่ (3) ผูเ้ ขียนบทความ วรรณา วิจิตร1 รักดาว เมธากลุ ชาต2ิ สธุ าทพิ ย์ อนิ ทะนนั ท2์ ณัฐกานต์ ฉายศิร1ิ สมชาย แซท่ ่อ1 เรณู มหายศนันท์1 1สํานกั งานปอ้ งกนั ควบคมุ โรคที่ 9 จังหวดั พษิ ณโุ ลก 2สาํ นกั งานสาธารณสุขจังหวดั ตาก Wanna Wijit1 Rakdaw Methakulchart2 Suthathip intanun2 Natthakan Chaysiri1 Somchai Saetho1 Renu Mahayosanan1 1Office of Diseases and Prevention Control Region 9, Phitsanulok Province, Department of Disease Control 2Tak provincial health office, Tak Province530 http://www.boe.moph.go.th/ Weekly Epidemiological Surveillance Report Vol. 43 No. 34 : August 31, 2012
2.1. B05.* Measles ความเปน็ ตัวแทนของระบบเฝา้ ระวัง (Representativeness) 2.2. B06.* Rubella การเปรียบเทียบข้อมูล โดยใช้ตัวแปร เพศ และ อายุ ใน 2.3. B09 Unspecified viral infection กลุ่มผู้ป่วยที่รายงาน 506 กับกลุ่มผู้ป่วยท่ีเข้า ตามนิยามผู้ป่วยcharacterized by skin and mucous membrane lesions สงสัยโรคหดั ทไี่ ดจ้ ากการทบทวนเวชระเบยี น 2.4. B08.3 Erythema infectiosum [fifth disease] ความถกู ตอ้ งของการบนั ทกึ ขอ้ มูลเฝา้ ระวัง (Accuracy) 2.5. B08.2 Exanthema subitum [sixth disease] การประเมินความถูกต้องของการบันทึกข้อมูล โดยการroseola infantum เปรียบเทียบข้อมูลตัวแปรท่ีสําคัญ ได้แก่ เพศ อายุ ท่ีอยู่ วันเร่ิม 2.6. M30.3 Mucocutaneous lymph node ป่วย ทบ่ี นั ทกึ จากรายงาน 506 กบั ข้อมูลในแฟม้ ผ้ปู ว่ ยsyndrome [Kawasaki] ความทันเวลา (Timeliness) 3. กําหนดนิยามผปู้ ว่ ย ดังนี้ คือ ระยะเวลาตั้งแต่ วันที่วินิจฉัยโรคหัด ถึง วันท่ีรายงาน 3.1 ผู้ป่วยสงสัย (Suspected case) หมายถึง ผู้ท่ีมี เข้าระบบเฝา้ ระวงั ระบบใดระบบหน่ึงภายใน 48 ชั่วโมง (4)อาการมีไข้ > 38 องศาเซลเซียส และมีผ่ืนนูนแดงขึ้นขณะยังมีไข้พร้อมท้ังมีอาการไอ ร่วมกับอาการอ่ืนอีกอย่างน้อยหนึ่งอาการ ผลการประเมนิดังต่อไปน้ี จากการทบทวนเวชระเบียนผู้ป่วยตามรหัส ICD 10 ที่เข้า - อาจตรวจพบ Koplik’s spot ในช่วง 1 - 2 วันก่อน มารับบริการ ต้ังแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2554 จาก และหลงั ผืน่ ขึ้น โรงพยาบาลท้ัง 8 แห่ง จํานวนท้ังหมด 465 ราย จํานวนผู้ป่วยท่ี - มนี ้าํ มูก (Coryza) เข้าได้ตามนิยามผู้ป่วยสงสัยโรคหัดท้ังหมด 67 ราย จําแนกตาม - เย่ือบุตาแดง (Conjunctivitis) รหสั ICD 10 B05.2 จํานวน 1 ราย B05.9 จํานวน 41 ราย B08.2 - ปอดอกั เสบ จํานวน 4 ราย B09 จํานวน 21 ราย มีการรายงานในระบบ รง. - หูนา้ํ หนวก 506 จํานวน 45 ราย จําแนกเป็น ผู้ป่วยสงสัย 41 ราย ผู้ป่วย 3.2 ผู้ป่วยเข้าข่าย (Probable case) หมายถึง ผู้ท่ีมี ยืนยัน 4 ราย เมื่อพิจารณากลุ่มผู้ป่วย ตาม ICD 10 ที่มีอาการเข้าอาการตามเกณฑ์ทางคลินิก ร่วมกับมีข้อมูลทางระบาดวิทยา ตามนิยามแต่ไม่มีในรายงาน 506 ทั้งหมด จํานวน 37 ราย พบเชอื่ มโยงกบั ผู้ป่วยท่ยี ืนยนั ผล ผู้ป่วยได้วินิจฉัยโรค รหัส B05.9 ร้อยละ 29.7 (11/37) คิดเป็นค่า 3.3 ผู้ป่วยยืนยัน (Confirmed case) หมายถึง ผู้ที่มี ความไว ร้อยละ 44.8 และจํานวนผู้ป่วยที่รายงานในระบบรายงานอาการตามเกณฑ์ทางคลินิก และ มีเกณฑ์ทางห้องปฏิบัติการอย่าง 506 ทัง้ หมด 45 ราย พบว่าเป็นผู้ป่วยที่เข้าตามนิยามการเฝ้าระวังนอ้ ยหน่งึ ขอ้ ดังน้ี โรค จํานวน 30 ราย คิดเป็นค่าพยากรณ์บวก ร้อยละ 66.7 (ดัง Serology test พบ Measles IgM ให้ผลบวก หรือการ ตารางท่ี 1)เพาะเช้ือไวรัสโรคหัด (Measles viral isolation) จากสารคัดหล่ังทางเดนิ หายใจพบเชือ้ เมื่อพิจารณาจําแนกตามเกณฑ์การแบ่งกลุ่มโรงพยาบาล ตามผลงาน คือ ระดับดี มากกว่าร้อยละ 70 ระดับพอใช้ ระหว่างนิยาม ร้อยละ 50 - 70 และระดับควรปรับปรุง น้อยกว่าร้อยละ 50 (ดัง ความครบถ้วนของระบบเฝ้าระวัง (Sensitivity) ตารางที่ 2) สัดส่วนของจํานวนผู้ป่วยที่ถูกรายงานเข้าระบบรายงาน ความเป็นตัวแทนของระบบเฝ้าระวัง จากการเปรียบเทียบ506 หรอื โครงการกําจัดโรคหัด ต่อจํานวนผู้ป่วยสงสัยทั้งหมดท่ีได้ ข้อมูลท่ีรายงานในระบบ รง. 506 กับรายละเอียดที่ได้จากการจากการทบทวนเวชระเบยี น ทบทวนเวชระเบียนผู้ป่วย โดยใช้ความเป็นตัวแทนเพศชายต่อเพศ หญงิ และอายุ (ตารางที่ 3) ก า ร ป ร ะ เ มิ น ค่ า พ ย า ก ร ณ์ บ ว ก ข อ ง ร ะ บ บ เ ฝ้ า ร ะ วั ง(Predictive Value Positive, PVP) จากตารางที่ 3 พบว่า จากการรายงาน 506 พบ อัตรา- ส่วนเพศชายต่อเพศหญิง ในผู้ป่วยรายงาน 506 เท่ากับ 1:1 จาก ผู้ป่วยที่ถูกรายงานว่าเป็นผู้ป่วยสงสัยโรคหัดจริงตาม ข้อมูลจากเวชระเบียน เท่ากับ 0.7 : 1 เมื่อพิจารณาด้านอายุ พบว่านยิ ามผู้ปว่ ยที่ใช้ในการเฝ้าระวงั จากรายงาน 506 ค่ามัธยฐานอายุ 7 ปี (พิสัย 2 เดือน – 49 ปี) ข้อมูลจากเวชระเบยี น คา่ มัธยฐานอายุ 2.5 ปี (พสิ ยั 1 – 30 ปี) http://www.boe.moph.go.th/ 531รายงานการเฝาระวังทางระบาดวิทยาประจําสัปดาห ปท่ี 43 ฉบับที่ 34 : 31 สิงหาคม 2555
เม่อื พจิ ารณา จํานวนผู้ป่วยสงสัยโรคหัดเปรียบเทียบข้อมูล ความถูกต้องของการบันทึกข้อมูลเฝ้าระวัง จํานวน 30จากเวชระเบียนและรายงาน 506 จําแนกรายเดือนพบการรายงาน ราย พบว่า ตัวแปร ที่มีการบันทึกถูกต้อง ได้แก่ เพศ อายุ เชื้อชาติผู้ป่วยเข้าระบบรายงาน 506 มากที่สุดในเดือนธันวาคม (ดังรูปที่ สําหรับตัวแปรอําเภอ และ จังหวัด บันทึกข้อมูลถูกต้อง ร้อยละ1) และการรายงานผู้ป่วยในรายงาน 506 เปรียบเทียบกับข้อมูล 96.7 วันเริ่มป่วย วนั ท่ีวนิ จิ ฉัย ความถกู ตอ้ ง ร้อยละ 90เวชระเบียนที่ทบทวน พบว่า ทั้งข้อมูลจาการทบทวนเวชระเบียนและข้อมูลจากผู้ป่วยท่ีได้รับการรายงานเข้าสู่ระบบเฝ้าระวัง มี ด้านความทันเวลา ของระบบเฝ้าระวัง ท่ีมีการรายงานต้ังแต่จํานวนผู้ปว่ ยนอกและผปู้ ่วยใน (ดังรปู ที่ 2) ระยะเวลาวันท่ีวินิจฉัยโรคหัด ถึงวันที่รายงานเข้าระบบรายงานเฝ้า ระวงั โรค ภายใน 48 ชวั่ โมง พบวา่ มคี วามทนั เวลา ร้อยละ 86.7ตารางที่ 1 ความไวและค่าพยากรณ์บวกของระบบเฝ้าระวังโรคหัด จงั หวดั ตาก ระหว่างวนั ท่ี 1 มกราคม - 31 ธนั วาคม 2554 การรายงาน อาการเข้าตาม ไมเ่ ข้าตามนยิ าม รวม นิยาม รายงาน 30 15 45 ไม่รายงาน 37 383 420 รวม 67 398 465 Sensitivity 30/30+37 = 44.8 % Predictive value positive 30/30+15 = 66.7 %ตารางที่ 2 ความไวและค่าพยากรณบ์ วกของระบบเฝ้าระวงั โรคหัด จาํ แนกตามจํานวนโรงพยาบาลในจงั หวดั ตากตามผลงาน (n=8) ระบบเฝา้ ระวังโรคหดั จํานวนโรงพยาบาลตามระดบั ผลงาน ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง ความครบถ้วน 404 คา่ พยากรณบ์ วก 341ตารางท่ี 3 ความเป็นตวั แทนอตั ราส่วนเพศชายตอ่ เพศหญงิ และอายเุ ปรยี บเทียบระหว่างข้อมูลผู้ปว่ ยที่รายงาน 506 กับขอ้ มูลจากเวชระเบยี น ตวั แปร รายงาน 506 ขอ้ มลู จากเวช ระเบียน อัตราส่วน เพศ (ชาย : หญิง) 1:1 0.7: 1 คา่ มัธยฐานอายุ ( ปี ) 7 (พสิ ยั 2 เดอื น – 49 ป)ี 2.5 (พิสยั 1- 30 ป)ีสรุปอภปิ รายผลการประเมนิ เปล่ียนเวรกันตลอด และพบผู้ป่วยได้วินิจฉัยโรค รหัส B05.9 ผลจากการประเมินระบบเฝ้าระวังโรคหัด จังหวัดตาก ร้อยละ 30 ท่ีไม่ได้รายงาน 506 ผู้ป่วยจํานวนหน่ึงจะถูกวินิจฉัย ด้วยโรคหัดและโรคปอดอักเสบ แต่จะลงรหัส 506 ได้แก่ รหัส 21พบวา่ คา่ ความครบถ้วนของระบบเฝ้าระวัง ภาพรวม ร้อยละ 44.8 (โรคหดั ทีไ่ มม่ ีภาวะแทรกซอ้ น) และรหัส 31 (โรคปอดอักเสบ) ท้ังนี้แต่เม่ือพิจารณากลุ่มโรงพยาบาลตามผลงาน พบว่า ร้อยละ 50 แต่เมือ่ ทบทวนประวัติการรักษาย้อนหลัง พบวา่ ครงั้ แรกท่ผี ู้ป่วยมาของโรงพยาบาล อยู่ในระดับดี ทั้งนี้เน่ืองจากมีการจัดให้มีเจ้าหน้า รับการรักษา แพทย์การวินิจฉัยโรคหัดและผู้ป่วยมาตรวจเพิ่มเติมเก็บข้อมูลตามตึกทุกวันไม่วันไม่เว้นวันหยุดราชการ สําหรับกลุ่มท่ี ด้วยอาการไอ เหน่ือยหอบ แพทย์ให้การวินิจฉัยโรคปอดอักเสบอยู่ในระดับปรับปรุง พบว่าโรงพยาบาลบางแห่ง ให้เจ้าหน้าที่ ดังนัน้ ผปู้ ่วยจึงไดร้ ับการวินจิ ฉยั ท้งั โรคปอดอกั เสบและโรคหดัพยาบาลเวร ซ่ึงได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ลงบันทึกข้อมูล และมีการ532 http://www.boe.moph.go.th/ Weekly Epidemiological Surveillance Report Vol. 43 No. 34 : August 31, 2012
ด้านการประเมินค่าพยากรณ์บวกของระบบเฝ้าระวัง ใน สามารถเป็นตัวแทนของสถานการณ์ได้ และจากการเปรียบเทียบภาพรวม ร้อยละ 66.7 เมื่อพิจารณาตามกลุ่มโรงพยาบาล ตาม จํานวนผู้ป่วยสงสัยโรคหัดจากเวชระเบียนและรายงาน 506ผลงาน พบว่า มีความแตกต่างกันส่วนใหญ่อยู่ในระดับพอใช้ถึง จําแนกรายเดือนพบว่ามีการรายงานผู้ป่วยเข้าระบบรายงาน 506ปรับปรุง ท้ังนี้พบว่าแพทย์บางโรงพยาบาลมีการใช้นิยามในการ มากสุดในเดือนธันวาคม ทั้งนี้อาจเน่ืองจากทางสํานักงานวินิจฉัยท่ีค่อนข้างมีความจําเพาะสูง และโรงพยาบาลบางแห่งถ้า สาธารณสุขจังหวัดตากได้มีการจัดประชุมชี้แจงแนวทางการกําจัดแพทย์วินิจฉัยสงสัยโรคหัด เวชสถิติจะไม่ใส่ ICD 10 รหัส B05.9 โรคหัดให้แก่ผู้รับผิดชอบงานเดือนสิงหาคม และมีการติดตามการ(Measles) หรือบางรายผู้ป่วยที่มีอาการเข้าได้ตามนิยามจะให้การ ดําเนนิ งานอยา่ งต่อเนอื่ งวินจิ ฉัย Unspecified viral infection (B09) ความถูกต้องของการบันทึกข้อมูลเฝ้าระวัง (Accuracy) ด้านความเป็นตัวแทนพบว่า อัตราส่วนเพศชายต่อเพศ โรคหัด จังหวัดตาก มีความถูกต้องของการบันทึกข้อมูลที่ดี มีหญิง สามารถเป็นตัวแทนได้ของสถานการณ์ได้ แต่ด้านอายุจาก ความถูกต้องในการบันทึกอยู่ในระดับมากกว่า ร้อยละ 90 ด้านรายงาน 506 ค่ามัธยฐานอายุ 7 ปี (พิสัย 2 เดือน – 49 ปี) ข้อมูล ความทันเวลา (Timeliness) ของระบบเฝ้าระวัง พบว่ามีความจากเวชระเบียน ค่ามัธยฐานอายุ 2.5 ปี (พิสัย 1 - 30 ปี) ซ่ึงไม่- ทนั เวลา ร้อยละ 86.7จาํ นวน2520 เวชระเบียน รายงาน50615105 0 ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.รปู ท่ี 1 จาํ นวนผปู้ ว่ ยสงสยั โรคหดั จากเวชระเบยี นและรง.506 จังหวัดตาก จาํ แนกรายเดือน ปี พ.ศ. 2554 จาํ นวน เวชระเบียน รายงาน506 35 32 30 28 13 25 9 20 15 ผู้ปว่ ยใน 10 5 0 ผปู้ ว่ ยนอก รูปที่ 2 จาํ นวนผปู้ ว่ ยสงสยั โรคหดั จําแนกตามประเภทผ้ปู ว่ ย จงั หวดั ตาก ปี พ.ศ. 2554 http://www.boe.moph.go.th/ 533 รายงานการเฝาระวังทางระบาดวิทยาประจาํ สัปดาห ปที่ 43 ฉบับที่ 34 : 31 สิงหาคม 2555
ข้อเสนอแนะ การเตรียมเวชระเบียน ทะเบียนต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับระบบการเฝ้า 1. ผู้ป่วยท่ีมีอาการเข้าได้กับนิยามโรคหัด คือ มาด้วย ระวังโรคหัด และ แพทย์หญิงดารินทร์ อารีย์โชคชัย ฝ่ายพัฒนา มาตรฐานและวิจัยระบาดวิทยาโรคติดต่อกลุ่มภารกิจพัฒนาอาการ ไข้ ไอ ผน่ื (Maculopapular rash) รว่ มกับอาการ ต่อไปนี้ มาตรฐานและวิจัยทางระบาดวิทยา สํานักระบาดวิทยา ที่กรุณาให้อีกอย่างน้อย 1 อาการ ได้แก่ มีน้ํามูก หรือ ตาแดง หรือ ตรวจพบ คําปรึกษาและแกไ้ ขนิพนธ์ต้นฉบับKoplik spot แพทย์อาจไม่ได้วินิจฉัยโรคหัดโดยตรง หรือ เพียงวินิจฉัย R/O measles อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าท่ีพยาบาลท่ีพบ เอกสารอ้างอิงผ้ปู ว่ ยทงั้ แผนกผู้ปว่ ยนอกและผปู้ ่วยใน ควรแจ้งไปยังเจา้ หนา้ ท่งี าน 1. สรุปรายงานการเฝ้าระวังโรค ในเขตตรวจราชการกระทรวงระบาดวิทยา (SRRT) ทันที เพ่ือให้เกิดการรายงานและสอบสวนผู้ป่วยสงสัยโรคหัดทุกราย โดยไม่ต้องรอการวินิจฉัยสุดท้ายจาก สาธารณสุขที่ 17, กลุ่มระบาดวิทยาและข่าวกรอง สํานักงาน-แพทย์ หรือ การลงรหัส ICD10 ซ่ึงจะทําให้การรายงานและ ปอ้ งกนั ควบคุมโรคท่ี 9 จงั หวัดพิษณโุ ลก; 2550-2554.สอบสวนโรคลา่ ช้า หรือ ตกหลน่ ไม่ได้รับการรายงานได้ 2. ปิยนิตย์ ธรรมาภรณ์พิลาศ. โครงการกําจัดโรคหัดในประเทศไทย ตามพันธะสัญญานานาชาติ. ใน: ปิยนิตย์ ธรรมาภรณ์พิลาศ, พร 2. เจา้ หน้าท่รี ะบาดวทิ ยา (SRRT) ของโรงพยาบาลทุกแห่ง ทิพย์ จอมพุก, เลิศฤทธิ์ ลีลาธร, บรรณาธิการ. แนวทางการเฝ้าควรมีการเดิน ward อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง เพ่ือค้นหา ระวังควบคุมโรค การตรวจรักษาและส่งตัวอย่างตรวจทางห้อง-ผู้ป่วยสงสัยโรคหัดที่ตกหล่นไม่ได้รับการรายงาน ทั้งนี้จะสามารถ ปฏิบัติการเพ่ือการกําจัดโรคหัดตามโครงการกําจัดโรคหัดตามค้นหาผู้ป่วยโรคที่มีความสําคัญสูงรายอื่น ๆ เช่น AFP ได้ในคราว พันธะสญั ญานานาชาติ. พมิ พค์ รงั้ ที่ 2. กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพ์เดยี วกัน ชมุ นุมสหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย; 2555. หนา้ 1-6. 3. ดารินทร์ อารีย์โชคชัย และ สมเจตน์ ต้ังเจริญศิลป์. แนวทางการ 3. ผู้ป่วยโรคหัดท่ีมีภาวะแทรกซ้อน เช่น Measles with เฝ้าระวังสอบสวนทางระบาดวิทยาและการรายงานโรคหัด. ใน:pneumonia เม่ือจําหน่ายออกจากโรงพยาบาลแพทย์มักสรุปการ ปิยนิตย์ ธรรมาภรณ์พิลาศ, พรทิพย์ จอมพุก, เลิศฤทธิ์ ลีลาธร,วินิจฉยั แยก primary และ secondary diagnosis เปน็ pneumonia บรรณาธิการ. แนวทางการเฝ้าระวังควบคุมโรค การตรวจรักษาและ measles ตามลําดับ ทําให้การรายงานโรคเข้าระบบเฝ้าระวัง และส่งตัวอย่างตรวจทางห้องปฏิบัติการเพ่ือการกําจัดโรคหัดตามปกติ (รายงาน 506) ผู้ป่วยจะถูกรายงานเป็น measles (รหัส 21) โครงการกําจัดโรคหัดตามพันธะสัญญานานาชาติ. พิมพ์ครั้งที่ 2.เท่านั้น ทั้งที่จริงแล้ว ผู้ป่วยท่ีมีภาวะแทรกซ้อนต้องถูกรายงานเป็น กรุงเทพมหานคร:โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศmeasles with complication (รหสั 22) กรณีน้ี เจ้าหน้าท่ีระบาด ไทย; 2555. หนา้ 13-24.วิทยาควรต้องแก้ไขรหัสในฐานข้อมูลเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาให้ 4. ธนรักษ์ ผลิพัฒน์, บรรณาธิการ. แนวทางการประเมินระบบเฝ้าถูกต้องดว้ ย เพอ่ื ใหท้ ราบความรุนแรงของโรคท่ีแท้จริง ระวังทางสาธารณสุข. พิมพ์คร้ังที่ 3 นนทบุรี: สํานักระบาดวิทยา กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสุข; 2551. 4. ผู้ป่วยท่ีไปรับการรักษายังโรงพยาบาลต่างอําเภอเจ้าหน้าที่ระบาดวิทยาของโรงพยาบาลที่รับรักษาผู้ป่วยสามารถ แนะนาํ การอ้างอิงสําหรับบทความนี้รายงานผู้ป่วยเข้าในระบบรายงาน 506 และโครงการกําจัดโรคหัด วรรณา วิจิตร, รักดาว เมธากุลชาติ, สุธาทิพย์ อินทะนันท์,ได้ทันที แล้วแจ้งทางโทรศัพท์ไปยังสํานักงานสาธารณสุขจังหวัด ณัฐกานต์ ฉายศิริ, สมชาย แซ่ท่อ และ เรณู มหายศนันท์. การเพ่ือให้ประสาน SRRT ในพ้ืนท่ีภูมิลําเนาของผู้ป่วย เพื่อการ ประเมนิ ระบบเฝ้าระวังโรคหัด จังหวัดตาก ปี พ.ศ. 2554. รายงานสอบสวนโรคตอ่ ไป การเฝา้ ระวังทางระบาดวิทยาประจาํ สัปดาห์ 2555; 43: 529 - 34. 5. ระดับจังหวัด ควรมีการจัดประชุมช้ีแจงเกี่ยวกับระบบ Suggested Citation for this Articleการเฝ้าระวังและรายงานโรคแก่แพทย์และพยาบาลจบใหม่ช่วงท่ีมี Wijit W, Methakulchart R, intanun S, Chaysiri N.การปฐมนเิ ทศกอ่ นออกปฏิบตั งิ าน Saetho S, Mahayosanan R. Measles Surveillance Evaluation, Tak, Thailand, 2011. Weekly Epidemiologicalกิตติกรรมประกาศ Surveillance Report 2012; 43: 529 - 34. คณะผู้ประเมินขอขอบพระคุณ นายแพทย์ปัจจุบัน เหมหงษา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตาก ท่ีกรุณาอนุญาตให้ศึกษาระบบเฝ้าระวังในครั้งนี้ และผู้อํานวยการโรงพยาบาล เจ้าหน้าท่ีโรงพยาบาลทกุ แหง่ ในจงั หวดั ตาก ที่ใหค้ วามร่วมมือและสนับสนุน534 http://www.boe.moph.go.th/ Weekly Epidemiological Surveillance Report Vol. 43 No. 34 : August 31, 2012
Search
Read the Text Version
- 1 - 6
Pages: